“...สมควรทจี่ ะปลูกแบบป่ าส ผลหนึ่ง ป่ าสาหรับใช้เป็ นฟื น เป็ นกว้างๆ ใหญ่ๆ การทจี่ ะปล ดงั นี้ ในคาวเิ คราะห์ของกรม จะเป็ นสวนมากกว่าเป็ นป่ าไม ช่วยเพ่ือต้นนา้ ลาธารน้ันป กต็ าม หรือเป็ นสวนไม้ฟื นก ถูกต้อง เพราะทาหน้าทเี่ ป็ นป เป็ นทรัพยากรในด้านสาหรับ ประชาช พระราชดารัสบางตอนเกยี่ วก ณ โรงแรมรินคา จังหวดั เชียงใ
สาหรับใช้ไม้หน่ึงป่ าสาหรับใช้ นอย่างหน่ึงอนั นี้แจกออกไป ลูกต้นไม้สาหรับได้ประโยชน์ มป่ าไม้รู้สึกว่าจะไม่ใช่ป่ าไม้ ม้แต่ว่าในความหมายของการ ป่ าไม้เช่นนีจ้ ะเป็ นสวนผลไม้ กต็ าม นั่นแหละเป็ นป่ าไม้ท่ี ป่ า คือเป็ นต้นไม้และทาหน้าท่ี บเป็ นผลทีม่ าเป็ นประโยชน์แก่ ชนได้...” กบั ป่ า ๓ อย่าง โยชน์ ๔ อย่าง ใหม่ วนั ที่ ๗ มกราคม ๒๕๒๓ ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนลาปาง
แนวคดิ ผสมผสานในการอนุรัก กบั ความต้องการทางเศรษฐกจิ และ บุกรุกทาลายป่ า เพ่ือนาไม้มาใ ประชาชนปลูกป่ า โดยใช้วธิ ีเรียบง่า “ ป่ า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ” ปลกู ป่าอยา่ งท่ี 1 ป่ าพออยู่ เป็นไมท้ ปลกู ป่าอยา่ งท่ี 2 ป่ าพอกนิ ปลกู ไม รายได้ ปลกู เพ่ือกิน ปลกู ป่าอยา่ งท่ี 3 ป่ าพอใช้ ปลกู ไมโ้ เป็นพลงั งาน ประโยชนอ์ ยา่ งท่ี 4 คือการชว่ ยอนรุ กั พอมีป่า 3 อยา่ ง ป่าไมก้ ็จะอดุ มสมบรู ณม์ ดนิ จะดี นา้ จะดี
กษ์และฟื้ นฟูทรัพยากรป่ าไม้ควบคู่ ะสังคม เพื่อป้องกนั ไม่ให้คนเข้าไป ใช้ ประโยชน์ จึงควรส่ งเสริมให้ าย คือ ท่ีสามารถนามาสรา้ งบา้ นได้ ปลกู เพ่ืออยู่ มผ้ ล หรอื ไมก้ ินได้ เพ่ือกินและขายมี โตเรว็ เก็บมาเพ่ือทาถา่ น ทาฟื นปลกู เพ่ือ กษด์ ินและนา้ มีความรม่ เยน็ เราเรยี กวา่ “พอร่มเยน็ ” ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนลาปาง
หลกั การและวธิ ีการปลูกป่ า ประโยชน์ ๔ อย่าง ประกอบด้วยต้น อายุ ลกั ษณะนิสัยและขนาดความส ระดบั ช่วงความสูงและระบบนิเวศไ ๑. ไม้สูง เป็ นกลุ่มต้นไม้เรือนยอดส เช่นตะเคยี น ยางนา เต็ง รัง ฯลฯ ๒. ไม้กลาง เป็ นกล่มุ ต้นไม้ทไ่ี ม่สูงน ผลทเ่ี กบ็ กนิ ได้ เช่น มะม่วง ขนุน ม ๓. ไม้เตยี้ เป็ นกล่มุ ต้นไม้พ่มุ เตยี้ ไม กะเพราผกั หวานบ้าน ติว้ เหรียง ฯล ๔. ไม้เรี่ยดนิ ไม้ในระดบั นีเ้ ป็ นตระ ฯลฯ ๕. ไม้หัวใต้ดนิ ไม้ในระดบั นีเ้ ช่น ข ฯลฯ
า ๕ ระดบั การปลูกป่ า ๓ อย่าง นไม้หลากหลายท้งั ชนิดพนั ธ์ุ ช่วง สูง โดยเราสามารถจดั แบ่งตาม ได้ ๕ ระดบั อนั ได้แก่ สูงสุดและอายุยืนไม้ในระดบั นี้ นัก ไม้ในระดบั นีไ้ ด้แก่บรรดาไม้ มงั คุดกระท้อน ไผ่ สะตอ ฯลฯ ม้ในระดบั นี้ เช่น พริก มะเขือ ลฯ ะกลู ไม้เลือ้ ย เช่น พริกไทย รางจืด ขงิ ข่า มนั มือเสือ บุก กวาวเครือ ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนลาปาง
ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนลาปาง
คลองไสไ้ ก่ 1. ออกแบบพ้ืนที่สำหรับขดุ คลองไสไ้ ก่ โดย ใชป้ ูนขำว (ถำ้ มี)โรยเป็นเสน้ แนวทำงกำรขดุ ใหม้ ีลกั ษณะโคง้ เป็นเหมือนลำคลองหรือ ลำน้ำตำมธรรมชำติ 2. กำหนดจุดหลุมขนมครกในคลองไสไ้ ก่ 3. ใชจ้ อบขดุ ตำมเสน้ แนวท่ีไดก้ ำหนดไว้ ลึก 50 ซม. กวำ้ ง 50 ซม. ควำมลำดชนั ประมำณ 45 องศำ (ขนำดสำมำรถปรับไดต้ ำม เหมำะสมแลว้ แต่บริบทของพ้ืนที่) 4. นำดินท่ีไดจ้ ำกกำรขดุ คลองไสไ้ ก่มำทำ เป็นหวั คนั นำทองคำ หลมุ ขนมครก 1. เลือกพ้ืนท่ีสำหรับหลุมขนมครกบริเวณ คลองไสไ้ ก่ โดยเลือกจุดที่เป็นจุดทำงโคง้ ของคลองไสไ้ ก่ เพ่ือป้องกนั กำรพงั ทลำยของ ริมตล่ิงของช่วงโคง้ คลองไสไ้ ก่ 2. ขดุ เป็นวงกลมขนำดควำมลึกเป็น 2 เท่ำ ของคลองไสไ้ ก่ ทำมุมลำดชนั 45 องศำ 3. ทำตะพกั ในหลุมขนมครกเพื่อป้องกนั กำร พงั ทลำยของริมตลิ่ง 4. ขดุ หลุมสะดือตรงกลำงของหลุมขนมครก เพอ่ื ไวด้ กั ตะกอน กำรขดุ หลุมขนมครกเพื่อเป็นกำรกกั เกบ็ น้ำไวใ้ ชป้ ระโยชนใ์ หไ้ ดม้ ำกท่ีสุด ช่วยใน กำรกระจำยควำมชุ่มช้ืนใหแ้ ก่ดิน และยงั ช่วย ในกำรดกั ตะกอนและเศษวสั ดุ
ฝายชะลอน้า 1. สำรวจพ้ืนที่ทำฝำยชะลอน้ำ (ฝำยแมว้ ) บริเวณท่ีเหมำะสม ในคลองไสไ้ ก่ 2. ใชไ้ ม้ (ไมไ้ ผ)่ ท่ีมีควำมสูงขนำดพอดีกบั ควำมสูงของคลอง ไสไ้ ก่ โดยมีดำ้ นหน่ึงปลำยแหลม ตอกปักลงดินเพื่อยดึ ดินให้ ฝำยมีควำมแขง็ แรง 3. ตอกไมย้ ดึ ดินเป็นกำแพงฝำย โดยมีควำมลึกประมำณ 30-50 ซม. ทำเป็น 2 ช้นั ดำ้ นหนำ้ และดำ้ นหลงั ตวั ฝำย เวน้ ระยะห่ำง พอสมควร (ประมำณ 20 ซม.) 4. ใชล้ ำไมต้ ดั ตำมควำมกวำ้ งของ คลองไสไ้ ก่ โดยวำงขวำงแนวนอน ก้นั ดำ้ นในของหลกั ไมด้ ำ้ นหนำ้ ฝำย และหลงั ฝำย 5. ใชว้ สั ดุเติมลงเป็นหินหรือดิน เหนียวในฝำยเพ่อื กำรชะลอน้ำ แลว้ แต่วตั ถุประสงคท์ ี่ตอ้ งกำร โดย 6. ตกแต่งควำมสวยงำมของฝำย ใหม้ ีควำมสูงเท่ำกบั ขนำดควำมสูง โดยกำรเล่ือยไมใ้ หม้ ีขนำดเท่ำ ๆกนั ของคลองไสไ้ ก่ หวั คนั นาทองคา กำรปรับพ้ืนท่ีแปลงเกษตรเพื่อใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด เพือ่ ใช้ พ้ืนท่ีใหส้ ำมำรถปลูกผกั ปลูกพืช ปลูกไม้ 5 ระดบั ปลูกป่ ำ 3 อยำ่ ง ประโยชน์ 4 อยำ่ ง ทำใหม้ ีพืช ผกั ไวก้ ินและใชป้ ระโยชน์ ไดต้ ลอด “หวั คนั นำทองคำ” ยงั เป็นส่วนหน่ึงของกำรออกแบบ พ้ืนที่ โคก หนอง นำ โมเดล และเป็นกำรนอ้ มนำเอำศำสตร์ พระรำชำ เกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวงรัชกำลท่ี 9 มำปรับใช้ ใหเ้ หมำะสมกบั พ้ืนที่ เพ่ือใหก้ ำรใชพ้ ้ืนที่ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: