Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore History of Buddha

History of Buddha

Published by OneLolicon, 2018-08-29 11:42:16

Description: History of Buddha

Search

Read the Text Version

พทุ ธประวตั ิ

คำนำ รำยงำนฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของภำษำไทย ช้นัมธั ยมศึกษำปี ที่ 4 โดยมีจุดประสงค์ เพ่ือกำรศึกษำควำมรู้ท่ีได้จำกเรื่องพุทธเจำ้ ซ่ึงรำยงำนน้ีมีเน้ือหำเกี่ยวกบั ควำมรู้เกี่ยวกบัเรื่องรำวของพระพทุ ธเจำ้ กำรประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพพำนและรวมถึงเหตุกำรณ์ต่ำงๆที่จะนำมำถ่ำยผำ่ นรำยงำนฉบบั น้ีหำกมีขอ้ ผดิ พลำดประกำรใด ขอ อภยั มำ ณท่ีน้ีดว้ ย

สำรบญั หนำ้ 1 เรื่อง 31. ประสูติ 52. ชีวิตวยั เดก็ 73. เสดจ็ ออกผนวช 94. บำเพญ็ ทุกรกิริยำ 115. ตรัสรู้ 136. แสดงปฐมเทศนำ 157. กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ 188. เสดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพำน9. บรรณำนุกรม

ประสูติ 1

ประสูติ 2 พระพทุ ธเจำ้ ทรงมีพระนำมเดิมวำ่ \"สิทธตั ถะ\" หมำยถึง ผทู้ ี่สำเร็จควำมมุ่งหมำยแลว้ หรือผปู้ รำรถนำสิ่งใด ยอ่ มไดส้ ่ิงน้นั ทรงเป็นพระรำชโอรสของพระเจำ้ สุทโธทนะ กษตั ริยผ์ คู้ รองกรุงกบิลพสั ดุ์แควน้ สกั กะ และ \"พระนำงสิริมหำมำยำ\" พระรำชธิดำของกษตั ริยร์ ำชสกลุ โกลิยวงศแ์ ห่งกรุงเทวทหะ แควน้ โกลิยะ ในคืนที่พระพทุ ธเจำ้ เสดจ็ ปฏิสนธิในครรภพ์ ระนำงสิริมหำมำยำ พระนำงทรงพระสุบินนิมิตวำ่ มีชำ้ งเผอื กมีงำสำมคไู่ ดเ้ ขำ้ มำสู่พระครรภ์ ณ ที่บรรทม ก่อนท่ีพระนำงจะมีพระประสูติกำล ท่ีใตต้ น้ สำละ ณสวนลุมพนิ ีวนั เมื่อวนั ศุกร์ ข้ึนสิบหำ้ ค่ำ เดือนวสิ ำขะ ปี จอ 80 ปี ก่อนพทุ ธศกั รำช (ปัจจุบนั สวนลุมพนิ ีวนั อยใู่ นประเทศเนปำล ทนั ทีท่ีประสูติ เจำ้ ชำยสิทธตั ถะทรงดำเนินดว้ ยพระบำท 7กำ้ ว และมีดอกบวั ผดุ ข้ึนมำรองรับพระบำท พร้อมเปล่งพระวำจำวำ่\"เรำเป็นเลิศท่ีสุดในโลก ประเสริฐที่สุดในโลก กำรเกิดคร้ังน้ีเป็นคร้ังสุดทำ้ ยของเรำ\" แต่หลงั จำกเจำ้ ชำยสิทธตั ถะประสูติกำลไดแ้ ลว้ 7 วนัพระนำงสิริมหำมำยำกเ็ สดจ็ สวรรคำลยั เจำ้ ชำยสิทธตั ถะจึงอยใู่ นควำมดูแลของพระนำงประชำบดีโคตมี ซ่ึงเป็นพระกนิษฐำของพระนำงสิริมหำมำยำ ท้งั น้ี พรำหมณ์ ท้งั 8 ไดท้ ำนำยวำ่ เจำ้ ชำยสิทธตั ถะมีลกั ษณะเป็นมหำบุรุษ คือ หำกดำรงตนในฆรำวำสจะไดเ้ ป็นจกั รพรรดิ ถำ้ ออกบวชจะไดเ้ ป็นศำสดำเอกของโลก แต่โกณฑญั ญะพรำหมณ์ผอู้ ำยนุ อ้ ยท่ีสุดในจำนวนน้นั ยนื ยนั หนกั แน่นวำ่ พระรำชกมุ ำรสิทธตั ถะจะเสดจ็ออกบวช และจะไดต้ รัสรู้เป็นพระพทุ ธเจำ้ แน่นอน

ชีวติ วยั เดก็ 3

ชีวิตวยั เด็ก 4 เจำ้ ชำยสิทธตั ถะทรงศึกษำเลำ่ เรียนจนจบศิลปศำสตร์ท้งั 18 ศำสตร์ ในสำนกั ครูวศิ วำมิตร และเนื่องจำกพระบิดำไม่ประสงคใ์ หเ้ จำ้ ชำยสิทธตั ถะเป็นศำสดำเอกของโลก จึงพยำยำมทำใหเ้ จำ้ ชำยสิทธตั ถะพบเห็นแต่ควำมสุข โดยกำรสร้ำงปรำสำท 3 ฤดู ใหอ้ ยปู่ ระทบั และจดั เตรียมควำมพร้อมสำหรับกำรรำชำภิเษกใหเ้ จำ้ ชำยข้ึนครองรำชย์ เมื่อมีพระชนมำยุ 16 พรรษำ ทรงอภิเษกสมรสกบัพระนำงพิมพำ หรือยโสธรำ พระธิดำของพระเจำ้ กรุงเทวทหะซ่ึงเป็นพระญำติฝ่ ำยพระมำรดำ จนเม่ือมีพระชนมำยุ 29พรรษำ พระนำงพิมพำไดใ้ หป้ ระสูติพระรำชโอรส มีพระนำมวำ่ \"รำหุล\" ซ่ึงหมำยถึง \"บ่วง\"

เสดจ็ ออกผนวช 5

เสดจ็ ออกผนวช 6 วนั หน่ึงเจำ้ ชำยสิทธตั ถะทรงเบ่ือควำมจำเจในปรำสำท 3ฤดู จึงชวนสำรถีทรงรถมำ้ ประพำสอุทยำน คร้ังน้นั ได้ทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจบ็ คนตำย และนกั บวช โดยเทวทูต(ทูตสวรรค)์ ที่แปลงกำยมำ พระองคจ์ ึงทรงคิดไดว้ ำ่ น่ีเป็นธรรมดำของโลก ชีวติ ของทุกคนตอ้ งตกอยใู่ นสภำพเช่นน้นั ไม่มีใครสำมำรถหลีกเลี่ยงเกิด แก่ เจบ็ ตำยได้ จึงทรงเห็นวำ่ ควำมสุขทำงโลกเป็นเพียงภำพมำยำเท่ำน้นั และวถิ ีทำงท่ีจะพน้ จำกควำมทุกข์ คือตอ้ งครองเรือนเป็นสมณะ ดงั น้นั พระองคจ์ ึงใคร่จะเสดจ็ออกบรรพชำ ในขณะท่ีมีพระชนม์ 29 พรรษำ ครำน้นั พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ไปพร้อมกบั นำยฉนั ทะ สำรถีซ่ึงเตรียมมำ้ พระที่นงั่ นำมวำ่ กณั ฑกะ มุ่งตรงไปยงั แม่น้ำอโนมำนที ก่อนจะประทบั นง่ั บนกองทรำย ทรงตดั พระเมำลีดว้ ยพระขรรค์ และเปล่ียนชุดผำ้ กำสำวพตั ร์ (ผำ้ ยอ้ มดว้ ยรสฝำดแห่งตน้ ไม)้และใหน้ ำยฉนั ทะ นำเครื่องทรงกลบั พระนคร ก่อนที่พระองคจ์ ะเสดจ็ ออกมหำภิเนษกรมณ์ (กำรเสดจ็ ออกเพอื่ คุณอนั ยงิ่ ใหญ่) ไปโดยเพยี งลำพงั เพือ่ มุ่งพระพกั ตร์ไปยงั แควน้ มคธ

บำเพญ็ ทุกรกิริยำ 7

บำเพญ็ ทุกรกิริยำ 8 หลงั จำกทรงผนวชแลว้ พระองคม์ ุ่งไปท่ีแม่น้ำคยำ แควน้มคธ ไดพ้ ยำยำมเสำะแสวงทำงพน้ ทุกข์ ดว้ ยกำรศึกษำคน้ ควำ้ ทดลองในสำนกั อำฬำรดำบส กำลำมโครตร และอุทกดำบส รำมบุตร แต่เมอ่ืเรียนจบท้งั 2 สำนกั แลว้ ทรงเห็นวำ่ น่ียงั ไม่ใช่ทำงพน้ ทุกข์ จำกน้นั พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ไปที่แม่น้ำเนรัญชรำ ในตำบลอุรุเวลำเสนำนิคม และทรงบำเพญ็ ทุกรกิริยำ ดว้ ยกำรขบฟันดว้ ยฟนั กล้นัหำยใจและอดอำหำร จนร่ำงกำยซูบผอม แต่หลงั จำกทดลองได้ 6 ปีทรงเห็นวำ่ นี่ยงั ไม่ใช่ทำงพน้ ทุกข์ จึงทรงเลิกบำเพญ็ ทกุ รกิริยำ และหนัมำฉนั อำหำรตำมเดิม ดว้ ยพระรำชดำริตำมท่ีทำ้ วสกั กเทวรำชไดเ้ สดจ็ลงมำดีดพิณถวำย 3 วำระ คือดีดพณิ สำยท่ี 1 ขึงไวต้ ึงเกินไปเม่ือดีดกจ็ ะขำด ดีดพณิ วำระท่ี 2 ซ่ึงขึงไวห้ ยอ่ น เสียงจะยดื ยำดขำดควำมไพเรำะและวำระท่ี 3 ดีดพิณสำยสุดทำ้ ยที่ขึงไวพ้ อดี จึงมีเสียงกงั วำนไพเรำะดงั น้นั จึงทรงพจิ ำรณำเห็นวำ่ ทำงสำยกลำงคือไม่ตึงเกินไป และไม่หยอ่ นเกินไป นนั่ คือทำงท่ีจะนำสู่กำรพน้ ทุกข์ หลงั จำกพระองคเ์ ลิกบำเพญ็ ทุกรกิริยำ ทำใหพ้ ระปัญจวคั คีย์ท้งั 5 ไดแ้ ก่ โกณฑญั ญะ วปั ปะ ภทั ทิยำ มหำนำมะ อสั สชิ ท่ีมำคอยรับใชพ้ ระองคด์ ว้ ยควำมคำดหวงั วำ่ เมื่อพระองคค์ น้ พบทำงพน้ ทกุ ข์ จะได้สอนพวกตนใหบ้ รรลุดว้ ย เกิดเส่ือมศรัทธำท่ีพระองคล์ ม้ เลกิ ควำมต้งั ใจ จึงเดินทำงกลบั ไปที่ป่ ำอิสิปตนมฤคทำยวนั ตำบลสำรนำถ เมืองพำรำณสี

ตรัสรู้ 9

ตรัสรู้ 10 ครำน้นั พระองคท์ รงประทบั นง่ั ขดั สมำธิ ใตต้ น้ พระศรีมหำโพธ์ิ ณ อุรุเวลำเสนำนิคม เมืองพำรำณสี หนั พระพกั ตร์ไปทำงทิศตะวนั ออก และต้งั จิตอธิษฐำนดว้ ยควำมแน่วแน่วำ่ ตรำบใดทย่ี งั ไม่บรรลุสมั มำสมั โพธิญำณ กจ็ ะไม่ลุกข้ึนจำกสมำธิบลั ลงั ก์ แมจ้ ะมีหมู่มำรเขำ้ มำขดั ขวำง แต่กพ็ ำ่ ยแพพ้ ระบำรมีของพระองคก์ ลบั ไป จนเวลำผำ่ นไปในที่สุดพระองคท์ รงบรรลุรูปฌำณ คือ ครำน้นั พระองคท์ รงประทบั นงั่ ขดั สมำธิ ใตต้ น้ พระศรีมหำโพธ์ิ ณ อุรุเวลำเสนำนิคม เมืองพำรำณสี หนั พระพกั ตร์ไปทำงทิศตะวนั ออก และต้งั จิตอธิษฐำนดว้ ยควำมแน่วแน่วำ่ ตรำบใดที่ยงั ไม่บรรลุสมั มำสมั โพธิญำณ กจ็ ะไม่ลุกข้ึนจำกสมำธิบลั ลงั ก์ แมจ้ ะมีหมู่มำรเขำ้ มำขดั ขวำง แต่กพ็ ำ่ ยแพพ้ ระบำรมีของพระองคก์ ลบั ไป จนเวลำผำ่ นไปในที่สุดพระองคท์ รงบรรลุรูปฌำน คือ ยำมตน้ หรือปฐมยำม ทรงบรรลุปุพเพนิวำสำนุสติญำณ คือสำมำรถระลึกชำติได้ ยำมสอง ทำงบรรลุจุตูปปำตญำณ (ทิพยจกั ษญุ ำณ) คือ รู้เร่ืองกำรเกิดกำรตำยของสตั วท์ ้งั หลำยวำ่ เป็นไปตำมกรรมทก่ี ำหนดไว้ ยำมสำม ทรงบรรลุอำสวกั ขยญำณ คือ ควำมรู้ท่ีทำให้สิ้นอำสวะ หรือกิเลส ดว้ ยอริยสจั 4 ไดแ้ ก่ ทุกข์ สมุทยั นิโรธ และมรรค และไดต้ รัสรู้ดว้ ยพระองคเ์ องเป็นพระสมั มำสมั พทุ ธเจำ้ และเป็นศำสดำเอกของโลก ซ่ึงวนั ท่ีพระสมั มำสมั พทุ ธเจำ้ ตรัสรู้ ตรงกบั วนั เพญ็ เดือน6 ขณะท่ีมีพระชนม์ 35 พรรษำ

แสดงปฐมเทศนำ 11

แสดงปฐมเทศนำ 12 หลงั จำกพระสมั มำสมั พทุ ธเจำ้ ตรัสรู้แลว้ ทรงพจิ ำรณำธรรมที่พระองคต์ รัสรู้มำเป็นเวลำ 7 สปั ดำห์ และทรงเห็นวำ่ พระธรรมน้นัยำกต่อบุคคลทวั่ ไปที่จะเขำ้ ใจและปฏิบตั ิได้ พระองคจ์ ึงทรงพิจำรณำวำ่ บุคคลในโลกน้ีมีหลำยจำพวกอยำ่ ง บวั 4 เหล่ำ ที่มีท้งั ผทู้ ่ีสอนได้ง่ำย และผทู้ ่ีสอนไดย้ ำก พระองคจ์ ึงทรงระลึกถึงอำฬำรดำบสและอุทกดำบส ผเู้ ป็นพระอำจำรย์ จึงหวงั เสดจ็ ไปโปรด แต่ท้งั สองทำ่ นเสียชีวิตแลว้ พระองคจ์ ึงทรงระลึกถึงปัญจวคั คีย์ ท้งั 5 ท่ีเคยมำเฝ้ ำรับใช้ จึงได้เสดจ็ ไปโปรดปัญจวคั คียท์ ่ีป่ ำอิสิปตนมฤคทำยวนั ธรรมเทศนำกณั ฑแ์ รกท่ีพระองคท์ รงแสดงธรรมคือ \"ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตร\" แปลวำ่ สูตรของกำรหมุนวงลอ้ แห่งพระธรรมให้เป็นไป ซ่ึงถือเป็นกำรแสดงพระธรรมเทศนำคร้ังแรก ในวนั เพญ็ ข้ึน15 ค่ำ เดือน 8 ซ่ึงตรงกบั วนั อำสำฬหบชู ำ ในกำรน้ีพระโกณฑญั ญะไดธ้ รรมจกั ษุ คือดวงตำเห็นธรรมเป็นคนแรก พระพทุ ธองคจ์ ึงทรงเปล่งวำจำวำ่ \"อญั ญำสิ วตโกณฑญั โญ\" แปลวำ่ โกณฑญั ญะไดร้ ู้แลว้ ท่ำนโกณฑญั ญะ จึงไดส้ มญำวำ่อญั ญำโกณฑญั ญะ และไดร้ ับกำรบวชเป็นพระสงฆอ์ งคแ์ รกในพระพทุ ธศำสนำ โดยเรียกกำรบวชท่ีพระพทุ ธเจำ้ บวชใหว้ ำ่\"เอหิภิกขอุ ปุ สมั ปทำ“ หลงั จำกปัญจวคั คียอ์ ุปสมบทท้งั หมดแลว้ พทุ ธองคจ์ ึงทรงเทศนอ์ นตั ตลกั ขณสูตร ปัญจวคั คียจ์ ึงสำเร็จเป็นอรหนั ตใ์ นเวลำต่อมำ

กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ13

กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ 14 ตอ่ มำพระพทุ ธเจำ้ ไดเ้ ทศน์พระธรรมเทศนำโปรดแก่ยสกลุ บุตร รวมท้งั เพือ่ นของยสกลุ บุตร จนไดส้ ำเร็จเป็นพระอรหนั ต์ท้งั หมด รวม 60 รูป พระพทุ ธเจำ้ ทรงมีพระรำชประสงคจ์ ะใหม้ นุษยโ์ ลกพน้ทุกข์ พน้ กิเลส จึงตรัสเรียกสำวกท้งั 60 รูป มำประชุมกนั และตรัสใหพ้ ระสำวก 60 รูป จำริกแยกยำ้ ยกนั เดินทำงไปประกำศศำสนำ 60แห่ง โดยลำพงั ในเส้นทำงที่ไม่ซ้ำกนั เพือ่ ใหส้ ำมำรถเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำไดใ้ นหลำยพ้นื ท่ีอยำ่ งครอบคลุม ส่วนพระองคเ์ องไดเ้ สดจ็ ไปแสดงธรรม ณ ตำบลอุรุเวลำ เสนำนิคม หลงั จำกสำวกไดเ้ ดินทำงไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำในพ้ืนที่ตำ่ งๆ ทำใหม้ ีผเู้ ล่ือมใสพระพทุธศำสนำเป็นจำนวนมำกพระองคจ์ ึงทรงอนุญำตใหส้ ำวกสำมำรถดำเนินกำรบวชได้ โดยใช้วธิ ีกำร \"ติสรณคมนูปสัมปทำ\" คือ กำรปฏิญำณตนเป็นผถู้ ึงพระรัตนตรัย พระพทุ ธศำสนำจึงหยง่ั รำกฝังลึกและแพร่หลำยในดินแดนแห่งน้นั เป็นตน้ มำ

เสดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพาน15

เสดจ็ ดบั ขนั ธป์ รินิพพำน 16 พระสัมมำสมั พทุ ธเจำ้ ไดเ้ สดจ็ โปรดสัตวแ์ ละแสดงพระธรรมเทศนำ ตลอดระยะเวลำ 45 พรรษำ ทรงสดบั วำ่ อีก 3 เดือนขำ้ งหนำ้ จะปรินิพพำน จึงไดท้ รงปลงอำยสุ ังขำร ขณะน้นั พระองค์ไดป้ ระทบั จำพรรษำ ณ เวฬุคำม ใกลเ้ มืองเวลำสี แควน้ วชั ชี โดยก่อนเสดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพำน 1 วนั พระองคไ์ ดเ้ สวยสุกรมทั ทวะท่ีนำยจุนทะทำถวำย แต่เกิดอำพำธลง ทำใหพ้ ระอำนนทโ์ กรธ แต่พระองคต์ รัสวำ่ \"บิณฑบำตท่ีมีอำนิสงส์ที่สุด มี 2 ประกำร คือ เม่ือตถำคต (พทุ ธองค)์ เสวยบิณฑบำตแลว้ ตรัสรู้ และปรินิพพำน\" และมีพระดำรัสวำ่ \"โย โว อำนนท ธมม จ วินโย มยำ เทสิโต ปญญตโต โส โว มมจจเยน สตถำ\" อนั แปลวำ่ \"ดูก่อนอำนนท์ ธรรมและวนิ ยั อนั ท่ีเรำแสดงแลว้ บญั ญตั ิแลว้ แก่เธอท้งั หลำย ธรรมวินยัน้นั จกั เป็นศำสดำของเธอท้งั หลำย เมื่อเรำล่วงลบั ไปแลว้ “ พระพทุ ธเจำ้ ทรงประชวรหนกั แต่ทรงอดกล้นั มุ่งหนำ้ ไปยงั เมืองกสุ ินำรำ ประทบั ณ ป่ ำสำละ เพ่อื เสดจ็ ดบั ขนั ธุป์ รินิพพำนโดยก่อนท่ีจะเสดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพำนน้นั พระองคไ์ ดอ้ ุปสมบทแก่พระสุภทั ทะปริพำชก ซ่ึงถือไดว้ ำ่ \"พระสุภภทั ทะ\" คือสำวกองค์สุดทำ้ ยที่พระพทุ ธองคท์ รงบวชให้ ในท่ำมกลำงคณะสงฆท์ ้งั ที่เป็นพระอรหนั ต์ และปุถุชนจำกแควน้ ต่ำงๆ รวมท้งั เทวดำ ที่มำรวมตวักนั ในวนั น้ี

เสดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพำน 17 ในครำน้นั พระองคท์ รงมีปัจฉิมโอวำทวำ่ \"ดกู ่อนภิกษุท้งั หลำย เรำขอบอกเธอท้งั หลำย สงั ขำรท้งั ปวงมีควำมเส่ือมสลำยไปเป็นธรรมดำ พวกเธอจึงทำประโยชน์ตนเอง และประโยชน์ของผอู้ ื่นใหส้ มบูรณ์ดว้ ยควำมไม่ประมำทเถิด\" (อปปมำเทน สมปำเทต) จำกน้นั ไดเ้ สดจ็ ดบั ขนั ธ์ปรินิพพำน ใตต้ น้ สำละ ณ สำลวโนทยำน ของเหล่ำมลั ลกษตั ริย์ เมืองกสุ ินำรำ แควน้ มลั ละ ในวนั ข้ึน15 ค่ำ เดือน 6 รวมพระชนม์ 80 พรรษำ และวนั น้ีถือเป็นกำรเร่ิมตน้ของพทุ ธศกั รำช

บรรณำนุกรม 181. https://hilight.kapook.com/view/376292. http://www.learntripitaka.com/History/Buddhist.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook