7.4 การวดั การกระจายสมั พทั ธ์ (Relative Variation) ในกรณีที่ต้องการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลต่างกลุ่ม (ต่างชุด) ถ้า ข้อมูลแต่ละชุดเป็นคะแนน ที่มีหน่วยวัดหน่วยเดียวกัน คะแนนเต็มเท่ากัน ขนาด เท่ากัน และค่าแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางเท่ากันก็สามารถนําค่าการกระจายมา เปรียบเทียบกันไดเ้ ลย ตัวอย่างเช่น คะแนนสอบวิชาสถิติเพื่อการวิจัยของนักศึกษา 2 ห้อง ซึ่งมีจำนวน นักศึกษาเท่ากัน สอบด้วยข้อสอบชุดเดียวกัน มีคะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ดงั น้ี หอ้ ง คา่ เฉลยี่ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1 60 10 2 60 12 กรณีน้สี ามารถบอกไดว้ า่ คะแนนสอบวชิ าสถติ เิ พอ่ื การวิจัยของนักศึกษาห้อง 2 มี การกระจายมากกว่าหอ้ ง 1 แต่ถ้าเป็นกรณีที่ข้อมูลแต่ละชุด เป็นคะแนนที่มีหน่วยวัดต่างกันหรือมีคะแนน เต็มไม่เท่ากันหรือขนาดไม่เท่ากัน หรือค่าแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางไม่เท่ากัน จะไม่ สามารถนําค่าการกระจายมาเปรียบเทียบกันได้ทันที แต่ต้องคํานวณหาค่า สมั ประสทิ ธิก์ ารกระจาย (Coefficient of Dispersion) ของคะแนนแต่ละชุดแล้วจึง นําค่าสัมประสิทธิ์การกระจายนั้นมาเปรียบเทียบกัน ตัวอย่างเช่น คะแนนสอบวิชา ภาษาไทยกับคณิตศาสตร์ของนกั ศึกษาห้องหน่งึ มคี ่าดังน้ี วชิ า คะแนนเต็ม คา่ เฉลย่ี ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ภาษาไทย 100 60 10 คณิตศาสตร์ 150 90 12 กรณีนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าคะแนนสอบวิชาใดมีการกระจายมากกว่ากัน แม้ว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนวิชาคณิตศาสตร์จะมคี ่ามากกว่าก็ตาม กรณีนี้จะต้อง หาค่าสมั ประสิทธ์ิการกระจายเพื่อนาํ มาเปรียบเทยี บกนั การหาค่าสัมประสิทธิ์การกระจายมีหลายชนิด แล้วแต่ชนิดของสถิติที่ใช้วัดการ กระจายดงั ต่อไปน้ี
7.4.1 สมั ประสิทธขิ์ องพิสยั (Coefficient of Range : C.R.) จะใช้สัมประสิทธิ์ของพิสัย (Coefficient of Range : C.R.) เพื่อเปรียบเทียบการ กระจายของข้อมูลกรณีที่วัดการกระจายดว้ ยพสิ ยั โดยใชส้ ูตรดังนี้ C.R. = ������������������������−������������������������ ������������������������+������������������������ ตวั อย่าง 7.13 นักศกึ ษาปริญญาตรี 2 กลุ่ม มอี ายุดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 30 34 38 28 35 27 42 35 37 39 กลมุ่ ที่ 2 28 35 24 33 44 26 33 37 40 29 จงเปรยี บเทยี บการกระจายของอายุของนักศกึ ษา 2 กลุม่ น้ี เม่อื วัดคา่ การกระจายด้วยพิสัย วธิ ที ำ จากสูตร C.R. = ������������������������−������������������������ ������������������������+������������������������ C.R.1 = 42−27 = 15 = 0.217 42+27 69 C.R.2 = 44−24 = 20 = 0.294 44+24 68 ∴ C.R.1 < C.R.2 ดังนัน้ อายขุ องนกั ศกึ ษาปริญญาโทกลุม่ ท่ี 1 มกี ารกระจายนอ้ ยกวา่ กลุ่มที่ 2 ตอบ สถติ ิเพ่ือการวิจัยเบื้องต้น 2
7.4.2 สมั ประสทิ ธ์ขิ องสว่ นเบ่ยี งเบนควอรไ์ ทล์ (Coefficient of Quartile Deviation: C.Q.) จะใช้สัมประสิทธ์ิของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ (Coefficient of Quartile Deviation: C.Q.) เพื่อเปรียบเทียบการกระจายของข้อมลู กรณีที่วัดการกระจายด้วยส่วน เบ่ยี งเบนควอรไ์ ทล์ โดยใช้สูตรดังนี้ C.Q. = ������3−������1 ������3+������1 ตัวอยา่ ง 7.14 จงเปรยี บเทยี บการกระจายของข้อมูล 2 ชุดต่อไปน้ี ขอ้ มูลชดุ ที่ 1 มธั ยฐาน ������3 ������1 ขอ้ มูลชุดที่ 2 25 40 15 30 50 10 วิธีทำ จากสูตร C.Q. = ������3−������1 = 25 = 0.45 = 0.67 ������3+������1 55 ตอบ C.Q.1 = 40−15 = 40 40+15 60 C.Q.2 = 50−10 50+10 ∴ C.Q.1 < C.Q.2 ดังน้ัน ขอ้ มลู ชดุ ที่ 1 มีการกระจายน้อยกวา่ ข้อมูลชุดท่ี 2 สถิตเิ พ่อื การวจิ ัยเบอื้ งตน้ 3
7.4.3 สัมประสทิ ธิข์ องสว่ นเบี่ยงเบนเฉลี่ย (Coefficient of Average Deviation: C.A.) จะใช้สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (Coefficient of Average Deviation: C.A.) เพื่อเปรียบเทียบ การกระจายของข้อมูลกรณีท่ีวัดการกระจายด้วยส่วนเบี่ยงเบน เฉลยี่ โดยใช้สตู รดังนี้ C.A. = ������.������. หรอื ������.������. ������ ������̅ ตวั อย่าง 7.15 นําวตั ถุ 2 ชนิดไปชั่งบนเครือ่ งช่งั 5 อัน ได้ผลดังตาราง จงหาสัมประสิทธ์ิ ส่วนเบีย่ งเบนเฉลี่ยของวัตถุทั้งสองชนดิ น้ำหนกั (กรัม) ������̅ ������. ������. วตั ถุชนิดท่ี 1 6 7 9 8 12 8.4 1.68 วัตถุชนดิ ที่ 2 50 52 49 55 44 50 2.80 วิธีทำ จากสตู ร ������. ������. = ������.������. ������̅ ������.������.1 = 1.68 = 0.2 ������. ������.1 = ������̅1 8.4 ������. ������.2 = ������.������.2 = 2.80 = 0.056 ������̅2 50 ∴ ������. ������.1 > ������. ������.2 ดังนั้น นำ้ หนักวัตถุชนิดที่ 1 มีการกระจายมากกว่า นำ้ หนกั วตั ถชุ นดิ ท่ี 2 ตอบ สถิตเิ พ่อื การวิจยั เบ้ืองต้น 4
7.4.4 สมั ประสทิ ธขิ์ องความแปรผัน (Coefficient of Variation: C.V.) จะใช้สัมประสิทธิ์ของความแปรผัน (Coefficient of Variation: C.V.) เพ่ือ เปรียบเทียบ การกระจายของข้อมูลกรณีท่ีวัดการกระจายด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้สตู รดังนี้ C.V. = ������ หรอื ������ ������ ������̅ ตวั อย่าง 7.16 จงเปรยี บเทยี บการกระจายของข้อมลู คะแนนสอบ 3 วชิ า ของนกั ศึกษา กลุ่มหนึง่ ซง่ึ มคี า่ ดังน้ี วิชา คะแนนเต็ม ������̅ s ภาษาไทย 100 60 10 คณิตศาสตร์ 150 90 12 วทิ ยาศาสตร์ 200 110 16 วธิ ีทำ จากสตู ร ������. ������. = ������ ������̅ ������1 = 10 = 0.17 ������. ������.1 = ������̅1 60 ������. ������.2 = ������2 = 12 = 0.13 ������̅2 90 ������. ������.3 = ������3 = 16 = 0.15 ������̅3 110 ∴ ������. ������.2 < ������. ������.3 < ������. ������.1 ดงั นัน้ คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ มีการกระจายน้อยกวา่ วิชาวทิ ยาศาสตร์ คะแนนสอบวิชาวิทยาศาสตร์ มีการกระจายน้อยกว่า วชิ าภาษาไทย ตอบ สถิตเิ พ่ือการวจิ ยั เบือ้ งต้น 5
7.5 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการแจกแจงความถ่ี ค่ากลาง และการกระจาย จากข้อมูลที่มีการแจกแจงความถี่ ถ้านําข้อมูลเหล่านี้มาเขียนให้เป็นเส้นโค้งของ ความถี่ จะไดเ้ ส้นโคง้ ของความถ่ี 3 ลกั ษณะดังน้ี 1. เส้นโค้งปกติ หรือเส้นโค้งรูประฆังคว่ำ (Normal Curve or Bell-Shaped Curve) 2. เสน้ โคง้ เบข้ วา หรอื เส้นโคง้ เบท้ างบวก (Positively Curve) 3. เสน้ โค้งเบซ้ า้ ย หรือเสน้ โค้งเบท้ างลบ (Negatively Curve) ลกั ษณะของโคง้ เป็นดังน้ี เส้นโค้งของความถข่ี องขอ้ มูลมีความสมั พนั ธก์ บั ค่ากลางของขอ้ มูล ดงั นี้ 1. โคง้ ปกติ จะพบวา่ คา่ เฉล่ียเลขคณิต = มธั ยฐาน = ฐานนิยม 2. เส้นโคง้ เบ้ขวา จะพบวา่ ฐานนยิ ม < มัธยฐาน < คา่ เฉลีย่ เลขคณิต 3. เส้นโค้งเบซ้ า้ ย จะพบวา่ ค่าเฉลย่ี เลขคณิต < มัธยฐาน < ฐานนิยม เส้นโค้งของความถี่ที่พบเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางด้านประชากร เกษตร สังคม เศรษฐกิจ หรือวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่มักเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นหรือเป็นไปตาม ธรรมชาติ และจะมีเส้นโค้งความถี่เป็นรูปเส้นโค้งปกติ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับความสูง นำ้ หนัก ราคา ผลผลติ ทางการเกษตร มกั มรี ปู เป็นเส้นโคง้ ปกติ สถติ เิ พ่ือการวิจัยเบ้อื งตน้ 6
ลักษณะของเสน้ โค้งปกติ เส้นโค้งปกติมีความโด่งมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการกระจายของข้อมูล ถ้าข้อมูลมี การกระจายมากเส้นโค้งปกติจะโด่งน้อย หรือค่อนข้างแบน แต่ถ้าข้อมูลมีการกระจาย นอ้ ย เสน้ โค้งปกติจะโดง่ มากหรือคอ่ นขา้ งสูง ดงั รูป ลกั ษณะของเสน้ โคง้ ปกติกบั การกระจายของข้อมูล ลักษณะของเส้นโค้งปกติ บทสรุป • ������1 = ������2 • ������1 > ������2 • ขอ้ มลู ชุดที่ 1 กระจายมากกว่าชดุ 2 • ������1 < ������2 • ������1 = ������2 • ข้อมลู ชดุ ท่ี 1 กระจายมากกวา่ ชุด 2 เพราะ ������1 > ������2 ������1 ������2 • ������1 < ������2 • ������1 < ������2 • ยังสรปุ ไมไ่ ด้ จนกวา่ จะทราบ ������ และ ������ ของข้อมลู ทัง้ สองชดุ สถิติเพ่อื การวจิ ยั เบือ้ งตน้ 7
แบบฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ่ี 7.2 จุดประสงค์ 1. นกั ศกึ ษาสามารถวดั การกระจายสมั พัทธข์ องข้อมลู ได้ ถา้ คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตรแ์ ละวิชาสถิตขิ องนกั ศึกษาเปน็ ดังตาราง จงหาสมั ประสทิ ธข์ิ องการแปรผนั ระหว่างคะแนนวิชาสถิติ และคะแนนวชิ าคณติ ศาสตร์ คะแนนวชิ าสถติ ิ 65421 คะแนนวชิ าคณิตศาสตร์ 9 6 5 3 2 วิธีทำ บรษิ ัทผลติ หลอดไฟฟา้ แห่งหนง่ึ ผลิตหลอดไฟออกจำหน่าย 2 ชนิด ชนิดแรกอายกุ ารใช้งานเฉลยี่ 1,495 ชั่วโมง สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน 280 ช่ัวโมง ชนดิ ท่สี อง อายกุ ารใชง้ านเฉล่ยี 1,875 ช่วั โมง สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 310 ชั่วโมง จงพจิ ารณาว่าหลอดไฟชนิดใดมีการกระจายมากกวา่ กันและหลอดไฟใดคุณภาพดกี วา่ กัน วิธที ำ สถติ ิเพ่ือการวิจยั เบ้อื งตน้ 8
ถ้าท่านเปน็ นาย ก. จะต้องตดั สนิ ใจเลอื กซ้ือห้นุ บริษทั ใดบรษิ ัทหนง่ึ จากทม่ี ใี หเ้ ลอื ก 3 บรษิ ทั ทม่ี อี ตั รา เงินปันผลดงั ตอ่ ไปน้ี ทา่ นจะตดั สนิ ใจเลอื กลงทนุ ซอ้ื ห้นุ ของบริษัทใด บรษิ ัท A เงินปันผลเฉลีย่ 15.6 ต่อปี และค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 3.7 บรษิ ัท B เงนิ ปนั ผลเฉลี่ย 13.7 ตอ่ ปี และค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.5 บรษิ ัท C เงนิ ปนั ผลเฉลยี่ 18.9 ต่อปี และคา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 5.8 วิธที ำ จงพจิ ารณาว่าข้อความต่อไปนถ้ี ูกหรือผดิ ถา้ ถูกใสเ่ คร่อื งหมายหนา้ ขอ้ ความ ถา้ ผิด ใสเ่ คร่ืองหมาย หน้าข้อความ ..................1) พสิ ัยของข้อมูลใด ๆ จะตอ้ งมีคา่ เป็นบวกเสมอ ..................2) สัมประสิทธิ์ของพสิ ยั ของข้อมูลอาจเป็นจำนวนลบได้ ..................3) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและความแปรปรวนของข้อมุลชุดเดียวกันต้องมคี า่ ต่างกัน ..................4) คา่ เบ่ียงเบนเฉลีย่ และค่าเบย่ี งเบนมาตรฐานของขอ้ มลู ชุดเดยี วกนั อาจมคี า่ เทา่ กนั ได้ ..................5) ถ้าในข้อมูลชุดหนึ่ง มีค่าของข้อมูลทุกตัวเท่ากัน พิสัย ค่าเบี่ยงเบนควอรไ์ ทล์ ค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ย ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน จะเท่ากนั หมด ..................6) ถ้าขอ้ มลู ชุดท่ี 1 มีคา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐานมากกว่าขอ้ มลู ชุดที่ 2 แสดงวา่ ขอ้ มลู ชดุ ท่ี 1 มกี ารกระจายมากกว่าข้อมลู ชดุ ที่ 2 ..................7) ถ้าข้อมูลชุดที่ 1 มีคา่ เบี่ยงเบนเฉลี่ยน้อยกว่าขอ้ มลู ชุดที่ 2 แสดงว่าขอ้ มูลชดุ ที่ 1 มีการกระจาย นอ้ ยกว่าขอ้ มลู ชุดที่ 2 ..................8) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสมั ประสิทธิ์ของค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมุลชุดเดียวกันจะไม่เท่ากนั ..................9) ค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ย และสมั ประสิทธิ์ของค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมุลชุดเดียวกันจะไม่เท่ากัน ..................10) สมั ประสิทธขิ์ องความแปรผันของขอ้ มลู ชดุ หน่ึง จะมคี ่ามากกวา่ สัมประสิทธข์ิ องคา่ เบีย่ งเบนเฉลีย่ ของข้อมูลชดุ นน้ั เสมอ สถิติเพอื่ การวจิ ยั เบอ้ื งตน้ 9
..................11) ความแปรปรวนของขอ้ มูลชุดหน่งึ จะมากกว่าหรือเทา่ กบั คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานของข้อมลุ ชดุ นั้น ..................12) ถ้าความแปรปรวนของข้อมูลชุดหนึ่งมีค่า 0 แสดงวา่ ค่าของข้อมูลทุกค่าจะเท่ากันหมด ..................13) ข้อมูล 2 ชุดมีค่าเฉลี่ยเลขคณติ ต่างกัน จะต้องมีค่าเบย่ี งเบนมาตรฐานต่างกนั ดว้ ย ..................14) ข้อมูล 2 ชุดมีค่าเฉลี่ยเลขคณติ ต่างกัน จะต้องมีค่าเบี่ยงเบนเฉลยี่ ต่างกันด้วย ..................15) ข้อมูล 2 ชุดมีค่าเฉลี่ยเลขคณติ ต่างกัน จะต้องมีพิสยั ต่างกันด้วย ..................16) ข้อมูล 2 ชุดมีค่าเฉลี่ยเลขคณติ เทา่ กนั การแจกแจงของขอ้ มลู จะต้องเหมือนกัน ..................17) ถ้าพิสัยของข้อมูลเท่ากับ 0 คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ยจะต้องเท่ากัน 0 ด้วย ..................18) ข้อมูล 2 ชุดมีค่าเฉลี่ยเลขคณติ เท่ากัน เส้นโค้งความถจี่ ะต้องโด่งเท่ากัน ..................19) สัมประสิทธิ์ของพสิ ัยของข้อมูลชุดหนึ่งเท่ากับ 1 คา่ เฉลี่ยเลขคณติ จะต้องมากกว่า 0 ..................20) กำหนดเส้นโค้งความถี่ดังรูป ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐานของขอ้ มลู ชุด 1 มากกว่าขอ้ มลู ชดุ 2 ..................21) จากขอ้ 20 คา่ เบย่ี งเบนเฉลย่ี ของขอ้ ชุด 1 น้อยกว่าขอ้ มลู ชดุ 2 ..................22) ถา้ ค่ามากทส่ี ุดของขอ้ มลู มคี า่ เทา่ กบั ค่าเฉลย่ี เลขคณติ คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานจะเทา่ กบั 0 ..................23) ถา้ ค่าต่าทส่ี ดุ ของขอ้ มลู มคี า่ เท่ากบั ค่าเฉลย่ี เลขคณิต คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานจะเทา่ กบั 0 ..................24) ถา้ สมั ประสทิ ธขิ์ องสว่ นเบย่ี งเบนควอรไ์ ทลเ์ ทา่ กบั 0 แลว้ คา่ ทกุ ค่าจะเทา่ กนั หมด ..................25) ถา้ สมั ประสทิ ธขิ์ องพสิ ยั ของขอ้ มลู มคี า่ 0 แลว้ ค่าทกุ คา่ จะเทา่ กนั หมด สถติ ิเพ่อื การวิจัยเบื้องตน้ 10
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: