วิชายุทโธปกรณ์สาย วศ.

๙๗ ๒-๑๑.๒.๒ หยบิ ย่ามหนา้ กากออกจากลัง ๒-๑๑.๒.๓ เปิดย่ามหน้ากากและหยิบหน้ากากป้องกันออก ถอดหุ่นรูปหน้ากากหรือ กระดาษอัดหุ่นรูปหนา้ ออก ๒-๑๑.๒.๔ ตรวจสภาพหน้ากากปอ้ งกนั ๒-๑๑.๒.๕ เกบ็ หนา้ กากปอ้ งกนั ไว้ในย่ามหนา้ กาก และปดิ ฝายา่ มหน้ากาก ๒-๑๒ การถอดและประกอบดุม ๒-๑๒.๑ การถอด ถอดดุมท่ีชำรุดออกจากหน้ากากป้องกันโดยยกครอบจมูกและฝาช่องกระพุ้งแก้ม ให้หลุดออกจากดุม แล้วจับส่วนฐานของดุมแต่ละเม็ด และดึงผ่านรูท่ีฝาช่องกระพุ้งแก้ม ดึงดุมไปทางด้าน กระพงุ้ แก้มเสมอ ห้ามดึงดมุ ออกจากรใู นทางตรงขา้ ม เพราะว่าฐานดมุ ใหญ่กว่าหัวดมุ ๒-๑๒.๒ การประกอบ ๒-๑๒.๒.๑ เปลี่ยนดุมอันสั้นในรูใกล้ท่ีสุดกับขอบนอกของหน้ากากป้องกัน ใช้น้ิวมือหมุน ส่วนฐานของดมุ ดันให้หัวดุมผา่ นเข้ารเู พอ่ื ใหฐ้ านดมุ อย่ใู นกระพุ้งแกม้ และหวั ดมุ ยืน่ โผล่ออกมา ๒-๑๒.๒.๒ เปล่ียนดุมอนั ยาวในรูใกลท้ ่สี ดุ กับเคร่อื งสง่ เสยี งล้ินทางออก (ใชว้ ิธีการในขอ้ ๒-๑๒.๒.๑ ข้างบน) ๒-๑๓.๒.๓ กลัดดุมฝาชอ่ งกระพงุ้ แก้มและกลัดดุมครอบจมูก ๒-๑๓ การถอดและประกอบหมดุ ยึด ๒-๑๓.๑ การถอดถา้ ยงั มสี ว่ นท่ีชำรดุ ของหมุดยึดตดิ อยู่ระหวา่ งหหู มุดยึด ใหต้ ดั แกนยึดที่ชำรุดและดงึ ออก ๒-๑๓.๒ การประกอบ ๒-๑๓.๒.๑ ใชน้ ้ำทำใหห้ มุดยึดขึ้น ๒-๑๓.๒.๒ เร่ิมต้นจากหูหมุดยึดอันบนหรืออันล่างก็ได้ สอดปลายหมุดยึดในรูของหุ หมุดยึด จบั ส่วนท่ียนื่ ออกมาแลว้ ดึงให้ตุ่มของหูหมดุ ยดึ ผา่ นรูหหู มดุ ยึดแล้วสอดปลายหมดุ ยดึ ผ่านอกี รูหนง่ึ และ ดึงตุม่ หมุดยึดให้ผา่ นรใู หอ้ ยู่ในตำแหนง่ ถกู ตอ้ ง ๒-๑๓.๒.๓ ตดั ปลายหมดุ ท่ยี ดึ ท่ียาวเกนิ ออกท้ิงไป ๒-๑๔ การถอดและประกอบเครอ่ื งส่งเสียงลน้ิ ทางออก ๒-๑๔.๑ การถอด

๙๘ ๒-๑๔.๑.๑ ดึงหัวต่อท่อดื่มน้ำและท่อยางออกจากเปาะท่ีเก็บและร่องในครอบเคร่ืองส่ง เสียง-ล้นิ ทางออก ๒-๑๔.๑.๒ จับแถบยางท่ีอยู่ส่วนล่างของครอบเคร่ืองส่งเสียง-ลิ้นทางออกและยกข้ึนให้ สว่ นล่างของครอบเปดิ เหน็ ลิน้ ทางออก ๒-๑๔.๑.๓ ดึงด้านข้างของครอบให้หลุดพ้นออกจากหมุดยึด จนกระท่ังครอบหลุดออก จากหมุดยึด ๒-๑๔.๑.๔ ดงึ ส่วนบนของครอบออกใหห้ ลดุ ออกจากเรือนเคร่ืองส่งเสยี ง-ลิน้ ทางออก ๒-๑๔.๑.๕ ถอดครอบเคร่ืองส่งเสียง-ล้ินทางออกโดยจับท่อยางใกล้ ๆ กับหัวต่อท่อด่ืม น้ำ และดึงหัวตอ่ ฝาครอบกระตกิ นำ้ พรอ้ มทอ่ ยางลอดออกจากรูของครอบเคร่ืองสง่ เสียง-ลิน้ ทางออก ๒-๑๔.๒ การประกอบ ๒-๑๔.๒.๑ จ่มุ ท่อของหัวต่อทอ่ ด่ืมนำ้ ลงในนำ้ เพ่ือทำใหเ้ ปียกชนื้ ๒-๑๔.๒.๒ สอดปลายท่อยางดื่มน้ำผ่านรูในร่องท่ีอยู่ด้านบนของครอบเครื่องส่งเสียง- ลิ้นทางออก ๒-๑๔.๒.๓ ต่อทอ่ ยางเข้ากับหวั ตอ่ ท่อดื่มนำ้ ๒-๑๔.๒.๔ ประกอบครอบเครื่องส่งเสียง-ล้ินทางออก ให้เข้าท่ีและใส่รูด้านข้างของ ครอบลงบนหมดุ ยดึ ๒-๑๔.๒.๕ สอดหวั ตอ่ ทอ่ ดม่ื นำ้ เก็บไวใ้ นกระเปาะท่เี กบ็ และกดทอ่ ยางเกบ็ ไวใ้ นชอ่ ง ๒-๑๕ การถอดและประกอบหว่ งเลอื่ น ๒-๑๕.๑ การถอด ๒-๑๕.๑.๑ งา้ งปลายงอของหว่ งเลื่อนด้วยไขควงหรือเคร่ืองมือท่ีคลา้ ยคลึงกันให้เหยยี ดตรง ๒-๑๕.๑.๒ ดึงห่วงเลอ่ื นทีช่ ำรดุ ออกและทิง้ ไปเสีย ๒-๑๕.๒ การประกอบ

๙๙ ๒-๑๕.๒.๑ ดันปลายห่วงเล่ือนท่ีเหยียดตรงผ่านรูในหูยึดของหน้ากาก จนกระท่ังปลาย โผลอ่ อกมา (ขอยึดของห่วงเล่อื นท่จี า่ ยมาแทนให้จะอยู่ในสภาพปลายงอเขา้ รปู เรียบรอ้ ยแล้ว) ๒-๑๕.๒.๒ งอปลายห่วงเลือ่ นให้เกี่ยวกับหยู ดึ และเข้าอยใู่ นทเ่ี รยี บรอ้ ย หมายเหตุ ถ้าหูยึดชำรุดอย่าใสห่ ว่ งเลื่อน ใหส้ ่งคืนหนา้ กากปอ้ งกัน ๒-๑๖ การถอดและประกอบชุดสายรดั ศรี ษะ ๒-๑๖.๑ การถอด ถอดสายศีรษะโดยเล่อื นสายรัดให้หลุดออกจากห่วงเล่ือน ๒-๑๖.๒ การประกอบ ๒-๑๖.๒.๑ ใส่สายรัดศีรษะแต่ละเส้นเข้ากับห่วงเล่ือน ตรวจดูให้สายรัดหน้าผากอยู่ ดา้ นบนของหน้ากากป้องกนั เสมอ สังเกตดูได้ว่าสายรดั หน้าผากมีสายยึดสายรัดหน้าผากซึ่งยึดสายรดั หน้าผาก ๒ สายให้ติดกัน สายยึดสายรัดหน้าผากนี้อาจจัดให้อยู่ได้ทั้งข้างบนหรือข้างล่างของสายรัดหน้าผาก เวลา ประกอบชุดสายรัดศีรษะเขา้ กบั ตวั หน้ากากป้องกนั ๒-๑๖.๒.๒ ร้อยปลายสายรัดศีรษะแต่ละสายผ่านห่วงเล่ือน โดยสอดโลหะหุ้มปลาย ทะแยงเป็นมุม (โลหะหุ้มปลายกว้างกว่าช่องห่วงเล่ือน) สอดปลายรัดแต่ละสายผ่านห่วงเล่ือนจากข้างใต้ห่วง เล่ือน โดยเริ่มร้อยที่ช่องท่ีอยู่ใกล้ท่ีสุดกับตัวหน้ากากป้องกัน แล้วร้อยผ่านสายรัดไปทางด้านบนของคานห่วง เลอ่ื นและผา่ นชอ่ งอีกช่องหนึ่ง ๒-๑๖.๒.๓ ดงึ ปลายสายรดั ศีรษะผา่ นห่วงเลอ่ื นให้ยาวประมาณ ๑ นวิ้ ๒-๑๖.๒.๔ ตรวจสอบชดุ สายรดั ศรี ษะโดยการดงึ ทีแ่ ผน่ ยึดสายรัดศรี ษะเพื่อ ดูว่าสายรัดศรี ษะทกุ ๆ สายมคี วามตึงเท่า ๆ กัน ตอนท่ี ๓ การซ่อมบำรงุ สนับสนุนโดยตรงและสนับสนนุ ทั่วไป

๑๐๐ ๒-๑๗ การซ่อมบำรงุ สนับสนนุ โดยตรง เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง รับผิดชอบการซ่อมย่ามหน้ากาก เช่นการเปลี่ยนเครื่องโลหะ ประกอบและสายรัดต่าง ๆ นอกจากน้ียังปฏิบัติการซ่อมบำรุงตามข้ันการซ่อมบำรุงท่ีต่ำกว่า และให้การ สนบั สนุนโดยใกล้ชิด ๒-๑๘ การซอ่ มบำรุงสนับสนนุ ทั่วไป เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงสนับสนุนทั่วไปปฏิบัติการซ่อมบำรุงตามขั้นการซ่อมบำรุงท่ีต่ำกว่าท้ังหมด และ รบั ผดิ ชอบการซอ่ มบำรงุ ในขอบเขตทไ่ี ดร้ ับอนุมตั ใิ ห้ทำการซอ่ มบำรงุ การขนสง่ การเกบ็ รักษา และการทำลายเพ่ือปอ้ งกนั ขา้ ศกึ นำไปใช้ ตอนที่ ๑ การขนสง่ และการเก็บรกั ษา ๓-๑ การขนสง่ ๓-๑.๑ ยุทธภัณฑ์ใหม่ ยุทธภัณฑใ์ หม่บรรจุหบี ห่อเพอื่ การขนสง่ ดงั ไดก้ ลา่ วแลว้ ในข้อ ๒-๑๐.๑ ๓-๑.๒ ยุทธภณั ฑท์ ่ใี ช้แล้ว ยุทธภัณฑ์ใชแ้ ล้วบรรจหุ บี ห่อเพ่ือการขนส่งดังไดก้ ลา่ วแลว้ ในขอ้ ๓-๒ การเก็บรักษา ๓-๒.๑ การเก็บรักษา โดยหน่วยใช้ ถ้าหน้ากากป้องกันถูกส่งมาในลังไม้อัดอาจใช้ลังไม้อัดน้ีเป็นท่ี เก็บรกั ษาช่ัวคราวของหน่วย โดยเปิดฝาลังออกและต้ังหีบทางด้านข้างแต่ละลังแบ่ง ออกเป็นช่อง ๆ และมี เคร่ืองหมายรหัสสำหรับแต่ละบุคคลแสดงไว้ในแต่ละช่องเมื่อหน่วยเปล่ียนท่ีตั้งแต่ละบุคคลอาจนำหน้ากาก ปอ้ งกันตดิ ตวั ไปหรืออาจเคลื่อนยา้ ยหน้ากากป้องกนั ไปในลงั ที่เกบ็ น้ี ผบู้ งั คับบัญชาเป็นผูต้ ัดสินใจวา่ ควรจะเคล่อื นยา้ ยหนา้ กากป้องกนั ดว้ ยวิธีใด ๓-๒.๒ การเก็บรักษาเป็นส่วนบุคคล เก็บหน้ากากป้องกันไว้ในย่ามหน้ากากในท่ีแห้งและเย็น อย่า ให้มีน้ำหนักมากดหรือบีบ ถ้าทำได้ควรแขวนย่ามหน้ากากไว้ด้วยสายรัดบ่าหรือด้วยห่วงรูปตัวดี เมื่อแขวนย่าม หนา้ กากดว้ ยห่วงรปู ตวั ดี ให้เกบ็ สายรดั บ่าม้วนไว้ในกระเปา๋ ดา้ นบนของย่ามหน้ากาก และสายรดั เอวม้วนเก็บไว้ ในกระเป๋าดา้ นลา่ ง ตอนที่ ๒ การทำลายเพื่อป้องกันขา้ ศึกนำไปใช้

๑๐๑ ๓-๓ ท่ัวไป ห้ามไม่ให้ทำลายหน้ากากป้องกันท่ีจ่ายให้เป็นส่วนบุคคล แต่ในสถานการณ์ท่ีหน้ากากป้องกันจำนวน มากท่ีหน่วยเก็บรักษาไว้ใกล้จะตกถึงมือข้าศึก ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบอาจส่ังให้ทำลายหน้ากากป้องกัน เหลา่ น้นั การทำลายหนา้ กากป้องกันท้ังหมดให้ใช้วธิ ีเดียวกนั ๓-๔ การทำลายเพื่อป้องกนั ขา้ ศกึ นำไปใช้ ๓-๔.๑ วธิ ีการทางกล ใช้เครอ่ื งมอื ใด ทีส่ ามารถจะทำได้ (เช่น ค้อน อีเตอ้ ขวาน หรือมีด) ทำลายส่วนประกอบท่ีเป็นโลหะและพลาสติก ใช้ของมีคมมากรีดส่วนประกอบท่ีเป็นยางและย่าม หนา้ กากใหข้ าด ๓-๔.๒ การเผา ใช้นำ้ มนั แกสโซลนี ราดหนา้ กากปอ้ งกนั และย่ามหน้ากากแล้วจุดไฟเผา ๓-๔.๓ ในสถานการณ์ทางยุทธวิธคี วรทำลายเครอื่ งกรองอากาศ ( เป้ือนพิษ และไม่เป้ือนพิษ ) โดย ฝังดินลกึ อย่างน้อย ๖ น้ิว

๑๐๒

๑๐๓

๑๐๔

๑๐๕

๑๐๖

๑๐๗

๑๐๘ เคร่อื งดับเพลิง บทนำ ๑. กล่าวทว่ั ไป อัคคีภัย เป็นภัยพิบัติทีท่ ำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยส์ ินและชวี ิตของมนุษย์มาเป็นจำนวน ไม่น้อย อัคคีภัยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยไม้หรือวัตถุทั่วไปที่สามารถติดไฟได้ เมื่อเกิดไฟ ไหม้ขึ้นเพลิงจะลุกลามแผ่ขยายอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถดับเพลิงได้ทัน บางคร้ังเร็วเกินกว่าท่ีจะขนย้าย ทรัพยส์ ินหรือพาบุคคลให้รอดชีวติ ออกมาได้ อาคารหรือสำนักงานต่าง ๆ ที่ก่อสร้างด้วยวัสดุติดไฟง่าย ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและดับเพลิง จัดเตรียมไว้ เมื่อเกิดเพลิงข้ึนจากการเกิดขึ้นเองหรือจากการประมาทเลินเล่อก็ตาม ย่อมทำให้เกิดความ เสียหายและการสูญเสยี อย่างมหาศาลข้ึนได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเปน็ ต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกบั การ ปอ้ งกันอัคคีภัย ตลอดจนวธิ ีการกำจัดเพลิงขั้นต้นเพ่ือมิให้ลุกลามแผ่ขยายออกไปได้ นอกจากน้ียังจำเป็นต้อง ทราบถึงประเภทของเพลิง และศึกษาเก่ียวกับลักษณะและวิธีการใช้เคร่ืองดับเพลิงแต่ละชนิด เพื่อกำจัดต้น เพลิงไดอ้ ย่างถูกต้องและรวดเร็ว ๒. ธรรมชาติของเพลิง เพลิง คือ การเกิดการเผาไหม้เช้ือเพลิง เป็นปฏิกิริยาทางเคมีจากการรวมตัวของเชื้อเพลิง ความรอ้ น และอากาศ ๒.๑ เชื้อเพลงิ คอื สารท่สี ามารถตดิ ไฟและลุกไหมไ้ ด้ มี ๓ ประเภทคอื ๒.๑.๑ เช้อื เพลงิ แขง็ ได้แก่ ไม้ ถ่านไม้ ถ่านหนิ และกำมะถัน เป็นต้น

๑๐๙ ๒.๑.๒ เชื้อเพลิงเหลว ไดแ้ ก่ น้ำมันชนดิ ต่าง ๆ และแอลกอฮอล์ เปน็ ต้น ๒.๑.๓ ก๊าซ ไดแ้ ก่ ออกซิเจน ไฮโดรเจน และแอลพีจี (ก๊าซหงุ ต้ม) เป็นต้น ๒.๒ ความร้อน เป็นตัวเพ่มิ อณุ หภมู ิให้แก่เชอื้ เพลงิ ตา่ ง ๆ ทำให้มอี ุณหภมู สิ ูงข้ึนจากอณุ หภมู ิ ปกติจนถึงอุณหภูมิจุดติดไฟของสารท่ีเป็นเชื้อเพลิงนั้น ๆ เป็นผลทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมี และทาง กายภาพ จนเกดิ การลกุ ไหมข้ น้ึ ได้ ๒.๓ อากาศ ส่วนผสมของอากาศตามปกติ มีออกซิเจน ๒๑ เปอร์เซนต์ และไนโตรเจน ๗๙ เปอรเ์ ซ็นต์ อตั ราส่วนของออกซิเจนน้ีเป็นอตั ราส่วนท่ชี ่วยในการลกุ ไหม้ แต่ถ้าส่วนผสมของออกซเิ จนลดลง ต่ำกว่า ๑๖ เปอร์เซนต์ ไฟก็จะไหม้ช้าลงหรือมอดดับ ส่วนไนโตรเจนซึ่งเป็นส่วนผสมในอากาศเป็นตัวพาความ ร้อนจากส่วน ล่างขึ้นสู่ส่วนบน ในกรณีที่มีไอระเหยน้ำมันอยู่ในอากาศซ่ึงจะลุกไฟได้น้ัน จะต้องมีปริมาณไอ ระเหยของนำ้ มนั อยใู่ นอากาศระหว่าง ๑.๔ - ๗.๖ เปอร์เซนตข์ องอากาศ ๓. สาเหตกุ ารเกดิ อคั คภี ัย อคั คภี ัย เมื่อเกดิ ข้ึนแลว้ ส่วนมากมักจะไมส่ ามารถดบั เพลิงไดท้ นั ทั้งนเี้ พราะสิง่ ก่อสร้างต่าง ๆ เปน็ สว่ นมากมกั จะก่อสร้างด้วยวสั ดทุ ่สี ามารถตดิ ไฟได้ รวมท้งั ไมม่ ีอุปกรณใ์ นการปอ้ งกนั เพลงิ และดับเพลงิ จัดเตรยี มไว้ สาเหตทุ ี่ทำใหเ้ กิดอัคคภี ัยแบง่ ออกได้ ๓ ประเภท ดังน้ี ๓.๑ ความประมาทเลนิ เลอ่ และขาดการปฏบิ ตั ิตามระเบียบการรกั ษาความปลอดภัย คอื ๓.๑.๑ การท้ิงกน้ บหุ ร่ีหรือเขีย่ บหุ รีล่ งบนส่ิงที่เปน็ เชอ้ื เพลงิ ๓.๑.๒ เปดิ เครอ่ื งอุปกรณ์ไฟฟา้ ทิ้งไว้ ๓.๑.๓ จุดไฟสบู บหุ รี่ หรอื นำเช้อื เพลิงเขา้ ไปในบรเิ วณทมี่ ีไอระเหยของนำ้ มนั เชือ้ เพลงิ ๓.๑.๔ กองวัสดเุ ชอื้ เพลงิ ไว้ใกล้แหล่งตน้ เพลงิ ๓.๒ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าหรอื เครื่องมือเคร่ืองใช้ชำรดุ คือ ๓.๒.๑ สายไฟฟ้าชำรุด เปน็ เหตุใหเ้ กิดไฟฟ้าลัดวงจรในเคร่อื งอปุ กรณ์ไฟฟ้าและอาคาร บ้านเรอื นหรือสง่ิ กอ่ สร้างต่าง ๆ ๓.๒.๒ ความร้อนในเคร่ืองอปุ กรณ์ไฟฟา้ เพิ่มสูงขนึ้ จนเกนิ ไป ๓.๒.๓ ทอ่ นำ้ มัน กา๊ ซ เกิดการชำรุดหรือมีรอยรัว่

๑๑๐ ๓.๓ ธรรมชาติ คือ ๓.๓.๑ เกิดฟ้าผา่ ๓.๓.๒ เกิดความรอ้ นสะสมในวตั ถตุ า่ ง ๆ เกิดจากการเสียดสจี นทำให้เกิดการลกุ ไหม้ขนึ้ ได้เอง ๔. การดบั เพลงิ การดับเพลิง คือ การกำจดั เช้ือเพลงิ ความร้อน และอากาศ อย่างใดอย่างหนึ่งให้หมดไป หรอื ทำใหห้ มดพร้อมกนั ไปในเวลาเดยี วกัน วธิ กี ารดับเพลงิ มีอยู่ ๓ วิธี ดงั นี้ ๔.๑ การกำจัดเชอื้ เพลิงให้หมดไป หรอื การลดเชือ้ เพลงิ ให้น้อยลง เช่น ปดิ กอ๊ กนำ้ มันที่ ร่วั ไหล ทำลายอาคารบ้านเรือน หรอื สิ่งก่อสรา้ งบางส่วน เพอ่ื เป็นการป้องกันมิใหเ้ กิดเพลงิ ลุกลามต่อไปได้ ๔.๒ การทำให้อุณหภูมิของเพลิงลดต่ำลง โดยการใช้นำ้ หรือวัตถุเคมีถ่ายความรอ้ นจากส่ิงท่ี กำลังไหม้ไฟให้อุณหภมู ติ ำ่ ลงกว่าจุดตดิ ไฟของเชื้อเพลงิ ต่าง ๆ ๔.๓ การลดปรมิ าณของออกซเิ จนในบรเิ วณเพลิงไหม้ให้นอ้ ยลง โดยการคลุมดว้ ยผา้ ห่มหนา ๆ หรอื สารเคมี เพื่อทำให้ปริมาณของอากาศทีจ่ ะผสมกบั ไอระเหยของน้ำมนั หรือเชือ้ เพลงิ ให้นอ้ ยลง เพลงิ จะไม่ ลกุ ไหม้ต่อไป ๕. การดับเพลิงต้องอาศัยปัจจัยหลัก ๓ ประการ ๕.๑ คุณภาพของคน ๕.๒ คณุ ภาพของเครื่องมือ ๕.๓ คณุ ภาพของสารเคมี ๖. ประเภทของเพลิง เพลิงไหม้ โดยทั่วไปแลว้ แบ่งได้เปน็ ๔ ประเภท ดังน้ี ๖.๑ เพลิงประเภท A (Class A Fires) ไดแ้ ก่ เพลงิ ทีเ่ กิดจากเชือ้ เพลงิ ธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ ผา้ ยาง พลาสตกิ หนงั สัตว์ เปน็ ตน้ การลกุ ไหมข้ องเพลงิ ประเภทนจ้ี ะมไี อคายออกมาจากผวิ ของเชื้อเพลิง และมีการลุกไหม้ในเน้ือของเชื้อเพลิงน้ัน

๑๑๑ สญั ลักษณ์แสดงเป็นรูปตัว A อย่ใู นสามเหลี่ยมสีเขยี ว ๖.๒ เพลงิ ประเภท B (Class B Fires) ไดแ้ ก่ เพลิงที่เกดิ จากเช้ือเพลิงเหลวและไขขน้ ต่าง ๆ เชน่ น้ำมันแกสโซลีน ก๊าซหุงต้ม นำ้ มนั ชนดิ ตา่ ง ๆ ยางมะตอย เปน็ ตน้ การลกุ ไหม้ของเพลิงประเภทนี้ ถงึ แมว้ ่าจะเกดิ จากเชือ้ เพลิงที่เปน็ ของแข็ง เชน่ ไขต่าง ๆ ยางมะตอย ฯลฯ ก็จะต้องหลอมเหลวและคายไอ ออกมาเสยี ก่อน เม่ือไอมีอุณหภมู สิ ูงกว่าจดุ วาบไฟขึ้นไปจึงจะเกดิ การลุกไหมข้ นึ้ ได้ สัญลกั ษณ์แสดงเปน็ รปู ตัว B อยูใ่ นสเ่ี หลีย่ มสแี ดง ๖.๓ เพลิงประเภท C (Class C Fires) ได้แก่ เพลิงทเ่ี กิดจากอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ต่าง ๆ ซ่ึง กระแส ไฟฟา้ ยงั คงไหลอยู่ เช่น เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าประจำบา้ น เป็นตน้ การหลุกไหม้ ของเพลิงประเภท นีเ้ กดิ จากความร้อนอันเน่ืองจากการเกดิ ประกายไฟฟา้ กระแสไฟฟ้าลัดวงจร การใชไ้ ฟฟ้าเกินกำลัง อปุ กรณ์ไฟฟา้ ใช้งานมานาน รวมทั้งอปุ กรณ์ไฟฟา้ ตา่ ง ๆ เช่น สายไฟ บลั ลาสต์ และฟิวส์ ฯลฯ ซง่ึ ไม่ได้ มาตรฐานตาม มอก. กำหนด สญั ลกั ษณแ์ สดงเปน็ รปู ตัว C อยู่ในวงกลมสีฟ้า

๑๑๒ ๖.๔ เพลงิ ประเภท D (Class D Fires) ไดแ้ ก่ เพลงิ ท่ีเกิดจากโลหะบางชนดิ วัตถุเคมี และวตั ถุระเบิด เชน่ แมกนีเซยี ม ฟอสฟอรัสขาว โซเดียม โปรตสั เซยี ม พลุ ประทดั เป็นตน้ เพลงิ ประเภทนี้ จะให้ความร้อนสูง มาก เปลวไฟสวา่ งจ้า เป็นอันตรายตอ่ นัยน์ตา สัญลักษณแ์ สดงเป็นรปู ตวั D อยู่ในรปู ดาวห้าแฉก ชนดิ ของเครื่องดบั เพลิง วธิ ีใช้ และ การปรนนิบตั บิ ำรงุ ๑. กลา่ วทัว่ ไป เครื่องดับเพลิง มีอยู่มากมายหลายชนิด ตามมาตรฐานของแต่ละบริษัทผู้ผลิต ซึ่งวิธีใช้และ การปรนนิบัติบำรุงก็ย่อมจะมีความแตกต่างกันไป แต่การเลือกนำมาใช้ในการดับเพลิงให้เหมาะสมกับเพลิง ประเภท ต่าง ๆ นั้นย่อมเป็นไปตามระบบมาตรฐานเดียวกันผู้ใช้เคร่ืองดับเพลิง จึงจำเป็นจะต้องศึกษาถึง วิธีการใช้และการปรนนิบัติบำรุง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ดับเพลิงขั้นต้น ซ่ึงเป็นการตัดต้น เพลิงท่ีเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และป้องกันมิให้เพลิงลุกลามแผ่ขยายออกไป นอกจากน้ียังเป็นการ รกั ษาเครอ่ื งดับเพลิงใหอ้ ยู่ในสภาพใชก้ ารไดต้ ลอดเวลา ๒. ชนิดของเครอ่ื งดบั เพลิง เครือ่ งดบั เพลงิ ที่มีใชอ้ ยู่ในกองทพั บก ปัจจุบนั มี ๓ ชนดิ คือ ๒.๑ เครอ่ื งดบั เพลิงชนดิ ผงเคมีแห้ง มี ๒ ขนาด คือ ๒.๑.๑ เครอ่ื งดบั เพลิงชนดิ ผงเคมแี หง้ ขนาด ๕ - ๑๐ ปอนด์ ๒.๑.๒ เคร่อื งดับเพลงิ ชนดิ ผงเคมีแหง้ ขนาด ๑๓ - ๑๕ ปอนด์ ๒.๒ เครอ่ื งดบั เพลิงชนดิ เหลวระเหย มี ๓ ขนาด คือ ๒.๒.๑ เคร่ืองดับเพลิงชนิดเหลวระเหย ขนาด ๓ ปอนด์ ๒.๒.๒ เครอ่ื งดบั เพลิงชนิดเหลวระเหย ขนาด ๕ - ๑๐ ปอนด์ ๒.๒.๓ เครอ่ื งดับเพลิงชนดิ เหลวระเหย ขนาด ๑๕ ปอนด์

๑๑๓ ๒.๓ เคร่อื งดับเพลงิ ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ มี ๒ ขนาด คือ ๒.๓.๑ เคร่อื งดับเพลงิ ชนดิ คาร์บอนไดออกไซด์ ขนาด ๑๕ ปอนด์ ๒.๓.๒ เครอ่ื งดบั เพลิงชนดิ คารบ์ อนไดออกไซด์ ขนาด ๕๐ กก. ๓. วธิ กี ารใช้และการปรนนิบัติบำรุงเครื่องดับเพลิง ๓.๑ เคร่ืองดบั เพลิงชนิดผงเคมแี หง้ ใช้ดับเพลิงประเภท A , B และ C ข้อดี สารเคมชี นดิ น้จี ะเป็นผงสีขาวปกคลุมวสั ดทุ เี่ กดิ เพลงิ ทำให้อบั อากาศ ไฟดบั รวดเรว็ ข้อเสยี สารเคมีชนดิ นีจ้ ะเปน็ ผงสีขาว ทำให้เกาะตดิ วัสดุ และมคี ราบสกปรก วิธกี ารใช้ เม่ือยกเคร่ืองดบั เพลิงออกจากที่ติดต้งั แลว้ ๑. ดึง ดึงสลักนริ ภัยออก ๒. ปลด ปลดสายหวั ฉีดออกจากท่ียดึ ๓. กด กดหรอื บีบ ชุด เปดิ - ปิด ๔. ดับ ดับเพลงิ โดยจบั ปลายสายหัวฉดี ชไี้ ปทีฐ่ านเพลิง ส่ายซา้ ย-ขวา และจากใกล้ไปไกล การปรนนบิ ัติบำรงุ ๑. ตรวจสภาพทั่วไปตามกำหนดเวลาทุกเดือน และควรคว่ำเครื่องดับเพลิง ลงในแนวด่งิ แลว้ เขยา่ ทำ ๒ - ๓ ครั้ง เพ่ือไม่ให้ผงเคมีจบั ตัวเปน็ กอ้ น ๒. ตรวจสอบความดันภายใน โดยการตรวจดูเขม็ ของมาตรวัดความดัน เข็ม จะตอ้ งชอ้ี ยู่ในชอ่ งแถบสีเขยี ว ซ่ึงเป็นช่วงความดันประมาณ ๑๙๕ ปอนด์/ตารางนิ้ว ถือว่าใช้การได้ ถ้าเขม็ ชี้ต่ำ กว่าที่กำหนดให้ส่งซ่อมทันที และถ้าหากเข็มของมาตรวัดความดัน เกินท่ีกำหนด ให้คว่ำเคร่ืองดับเพลิง และ เกบ็ เครือ่ งดับเพลิงไวใ้ นท่ีไม่ถกู แสงแดด หรอื ในท่อี ากาศเย็น หากความดันยังไมล่ ดลงให้สง่ ซอ่ มทนั ที ๓.๒ เครื่องดับเพลิงชนิดเหลวระเหย ใช้ดับเพลิงประเภท A , B และ C ข้อดี ทำให้อุณหภูมลิ ดลงเรว็ ปกคลมุ ไฟ ทำให้อับอากาศ ไฟดับรวดเรว็ ไม่มคี ราบ สกปรกตดิ กับวสั ดุ และสามารถใชไ้ ดห้ ลายครงั้ เหมาะสมอย่างยงิ่ สำหรบั การดับเพลิงกับเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ และเคร่ืองอิเลคโทรนคิ ส์ต่าง ๆ ข้อเสีย นำ้ ยาเคมีบางชนดิ อาจส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม

๑๑๔ วิธกี ารใช้ เมือ่ ยกเครื่องดับเพลงิ ออกจากที่ตดิ ต้งั แลว้ ๑. ดงึ ดึงสลักนิรภยั ออก ๒. ปลด ปลดสายหวั ฉีดออกจากทยี่ ดึ ๓. กด กดหรือบบี ชุดเปิด-ปิด ๔. ดบั ดับเพลิงโดยจับปลายสายหัวฉดี ชไี้ ปท่ีฐานเพลงิ ส่ายซ้าย ขวาและ จากใกล้ไปไกล การปรนนบิ ตั ิบำรุง ๑. ตรวจสภาพทั่วไปตามกำหนดเวลาทกุ เดอื น ๒. ตรวจสอบความดันภายใน โดยการตรวจดูเข็มของมาตรวัดความดันเข็ม จะต้องชี้อยู่ในช่องแถบสีเขียว ซึ่งเป็นช่วงความดับ ๑๒๕ ปอนด์/ตารางนิ้ว ถือว่าใช้การได้ ถ้าเข็มชี้ต่ำกว่าท่ี กำหนดให้ส่งซ่อมทันที และถ้าหากเขม็ ของมาตรวัดความดันเกินกว่าที่กำหนด ให้เกบ็ เคร่ืองดับเพลิงไว้ในท่ีไม่ ถกู แสงแดดหรือในที่มีอากาศเย็น หากความดนั ยงั ไมล่ ดลงให้ส่งซอ่ มทนั ที ๓.๓ เคร่ืองดับเพลงิ ชนดิ คารบ์ อนไดออกไซด์ ใชด้ ับเพลงิ ประเภท A , B และ C ข้อดี ใช้ได้รวดเร็ว และสามารถทำการคลุมเพลิงดับได้ผลเร็วท่ีสุดไม่ว่าจะอยู่ ใน อุณหภูมิใด ไม่เปรอะเปื้อนวัสดุ ไม่เป็นส่ือไฟฟ้า เหมาะสมการดับเพลิงท่ีเกิดกับน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก และ เพลิงท่ีเกดิ ข้ึนจาก อปุ กรณ์ไฟฟ้าทย่ี ังมกี ระแสไฟฟ้าไหลอยู่ ข้อเสีย ใช้ดับเพลิงบริเวณที่มีลมพัดไม่ค่อยได้ผล ต้องระมัดระวังความหนาวเย็น จาก อากาศ เนอื่ งจากก๊าซจะเขา้ ไปแทนที่อากาศโดยรอบหมด หากอยใู่ นทอ่ี ับแลว้ จะไมม่ ีอากาศหายใจ วธิ กี ารใช้ เครื่องดบั เพลงิ ชนดิ คาร์บอนไดออกไซด์ ขนาด ๑๕ ปอนด์ เม่ือยกเคร่ือง ดบั เพลิงออกจากท่ีติดต้งั ๑. ดงึ ดงึ สลักนริ ภยั ออก ๒. ปลด ปลดสายฉีดออกจากท่ียึด ๓. กด กดหรือบีบ ชดุ เปดิ -ปิด ๔. ดบั ดับเพลิง โดยจบั ปลายสายหัวฉดี ชไี้ ปที่ฐานเพลิง ส่ายซ้ายขวา และ จากใกล้ไปไกล

๑๑๕ วธิ ีการใช้ เครอ่ื งดับเพลงิ ชนิดคารบ์ อนไดออกไซด์ ขนาด ๕๐ กก. ๑. เขน็ ออกจากท่ีตงั้ ๒. ปล่อยกา๊ ซออกจากลิ้นบังคบั หนั ปากกรวยหัวสูบรูปแตรชีไ้ ปทฐ่ี านของ เพลิง ผใู้ ชต้ ้องพยายามเข้าใกล้จดุ ท่ีเกดิ เพลงิ เท่าทสี่ ามารถฉีดกราดจากดา้ นหนึง่ ไปยงั อีกด้านหนง่ึ ตัดข้าม ผวิ หนา้ ของน้ำมันเชื้อเพลิง หรอื เชอื้ เพลงิ เหลวอยา่ งชา้ ๆ จนเพลงิ ดบั การปรนนบิ ตั บิ ำรงุ เคร่ืองดับเพลิงชนดิ คารบ์ อนไดออกไซด์ ขนาด ๑๕ ปอนด์ ๑. ตรวจสภาพทัว่ ไปตามกำหนดเวลาทุกเดือน ๒. ตรวจสภาพการบรรจุโดยการชงั่ น้ำหนกั ทุก ๑ เดือน ถ้าน้ำหนกั ของ เคร่อื งดบั เพลิงลดลงต่ำกวา่ ๑ ใน ๑๐ ของนำ้ หนักบรรจเุ ดิมต้องส่งซ่อมทันที ๓. ไม่ควรวางไว้ในทมี่ ีแสงแดดสอ่ งถงึ หรือใกล้ความรอ้ น เพราะจะทำให้ ก๊าซขยายตวั และรั่วซึมออกมาได้ ๔. ระวังมใิ ห้ภาชนะบรรจุตกกระทบซ่ึงจะเป็นสาเหตุให้เกดิ การแตกระเบิดได้ การปรนนบิ ตั บิ ำรุง เคร่ืองดบั เพลิงชนิดคารบ์ อนไดออกไซด์ ขนาด ๕๐ กก. ๑. ตรวจสภาพทว่ั ไปตามกำหนดเวลาทุกเดอื น ๒. ไม่ควรวางไว้ในทท่ี ม่ี ีแสงแดดส่องถึง หรือใกล้ความร้อน เพราะจะทำให้ ก๊าซขยายตัว และร่วั ซึมออกมาได้ ๓. ต้องระวงั มิใหภ้ าชนะทบ่ี รรจุตกกระทบ ซึ่งเปน็ สาเหตุให้เกดิ การแตก ระเบดิ ได้ ๔. หม่ันตรวจตราโดยการชัง่ น้ำหนักเครื่องดบั เพลงิ ดู อย่างนอ้ ย ๖ เดือน ตอ่ ครั้ง ถา้ น้ำหนกั ลดน้อยลง ๑ ใน ๑๐ ของนำ้ หนกั เดิมให้สง่ ซ่อมทันที ๕. หมัน่ ตรวจตราส่วนภายในของปากกรวยรูปแตรมิใหอ้ ุดตัน วิธกี ารตรวจสอบ ๑. การตรวจสอบน้ำหนักก๊าซ ควรชั่งน้ำหนักถังบรรจุก๊าซแต่ละถัง เมื่อหัก น้ำหนักทอ่ เปลา่ ออกแล้วตอ้ งมีเน้อื ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถังละไมน่ ้อยกวา่ ๒๕ กก. ๒. การทดลองลากเข็นชุดดับเพลิง จะต้องมีความมั่นคง แข็งแรง และ คล่องตวั

๑๑๖ ๔. สารใช้ดบั เพลงิ ประเภท D เพลิงประเภท D เพลิงประเภทนี้ไม่สามารถควบคุมการทำปฏิกิริยาระหว่างเช้ือเพลิงกับ ออกซิเจนได้ด้วยการใช้เคร่ืองดับเพลิงบางชนิด เช่น เครื่องดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์เพราะจะทำให้ เกิดปฏิกิริยาลุกรนุ แรงย่ิงข้ึน ดงั นน้ั จงึ ต้องดับเพลงิ ดว้ ยสารดังต่อไปน้ี ๔.๑ ทรายแห้ง ใช้กลบผิวที่ลุกไหม้ก่อนที่ทรายจะหลอมตัวลงจะดูดความร้อนเข้าไปทำให้ ความร้อนจากการลุกไหมล้ ดลง นอกจากนี้ทรายยังเปน็ ตัวปิดก้ันออกซิเจนในอากาศมใิ ห้ช่วยในการลกุ ไหมไ้ ดอ้ ีก ดว้ ย ๔.๒ ผงแกรไฟต์ วธิ ีการใชเ้ ชน่ เดยี วกับทรายแหง้ ๔.๓ ผงเกลือแกง (โซเดียมคลอไรด์) ไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะที่เป็นต้นกำเนิดเพลิงแล้วยัง ชว่ ยปิดกัน้ ออกซิเจนในอากาศไม่ให้เข้าไปชว่ ยในการลกุ ไหม้อีกด้วย ๔.๔ ก๊าซเฉื่อย เช่น ฮีเลียม อาร์กอนและไนโตรเจนเป็นต้น ก๊าซเฉื่อยเหล่าน้ีจะไม่ทำ ปฏกิ ริ ิยากับโลหะที่เป็นตน้ กำเนิดเพลงิ และจะควบคุมมิใหอ้ อกซเิ จนในอากาศเขา้ ไปช่วยในการลุกไหม้ การติดตัง้ และการสง่ กำลงั บำรงุ ๑. กล่าวท่วั ไป การติดต้ังเคร่ืองดับเพลิงชนิดต่างๆ จะต้องกระทำให้ถูกต้อง และเหมาะสมตามคำแนะนำ มี ปา้ ยคำแนะนำเก่ียวกับวิธีใช้และความเหมาะสมในการใช้ดับเพลงิ ประเภทใด ติดไว้ประจำเคร่อื งดับเพลิงนั้น ๆ มีป้ายแสดงการตรวจการปรนนิบัติบำรุงติดไว้ และต้องหมั่นตรวจสภาพตามตารางที่แสดงในป้าย ตาม กำหนดเวลาและระวังรักษาใหม้ สี ภาพการใชง้ านได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพตลอดเวลา ๒. การติดตัง้ เคร่ืองดับเพลิงประจำอาคาร ต้องติดตั้งโดยให้ส่วนบนสุดของเคร่ืองดับเพลิงอยู่สูงจากพ้ืน ไม่เกนิ ๕ ฟตุ และควรติดตั้งไว้ใกล้กบั ประตูหรือบรเิ วณท่ีสะดวกแกก่ ารหยบิ ใช้งาน อย่าแขวนหรือตดิ ตั้งไวใ้ นท่ี ที่รอ้ นจัด หรือเย็นจัดและใหพ้ ้นจากมือเด็ก การติดตั้งเครื่องดับเพลิงไว้ในยานพาหนะ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำการติดตั้งท่ีมีอยู่ประจำ เครื่องดบั เพลิงน้ัน ๆ

๑๑๗ ๓. การสง่ กำลงั บำรงุ ๓.๑ ความรับผิดชอบ เคร่ืองดับเพลิงท่ีใช้ในกองทัพบกเป็นสิ่งอุปกรณ์ท่ีอยู่ในความ รับผิดชอบของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๓.๒ การส่งกำลงั บำรงุ ๓.๒.๑ การสง่ กำลัง ปฏิบตั ิตามระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ประเภท ๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ และการจำหนา่ ยใหป้ ฏิบตั ิตามระเบยี บ ทบ.ว่าดว้ ยการจำหนา่ ยสงิ่ อุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๓๙ ๓.๒.๒ การแจกจ่าย - แจกจ่ายตามอัตราอาคารตามคำส่ัง ทบ. (เฉพาะ)ที่ ๓๖/๓๑ ลง ๑๐ ก.พ. ๓๑ ส่วนเคร่ืองดับเพลิงประจำยานพาหนะ วศ.ทบ. ไม่ได้แจกจ่ายข้ันต้นแต่หน่วยจะต้องรายงาน สถานภาพ จำนวน ชนดิ ขนาด ให้ วศ.ทบ. ทราบ เพ่ือเป็นขอ้ มูลในการประมาณการซอ่ มบำรุงและจ่ายทดแทน - เกณฑ์การใช้สำหรับหน่วยทำการฝึกปฏิบัติเม่ือเกิดอัคคีภัย ตาม ระเบยี บ ทบ. วา่ ด้วยการป้องกนั อคั คีภยั และการปฏิบตั เิ มอื่ เกดิ อัคคภี ยั ฉบบั ที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๓๘ ๓.๒.๓ การซ่อมบำรุง วศ.ทบ. รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงเครื่องดับเพลิงให้กับหน่วย ใช้ของกองทัพบก กรณีท่ีหน่วยมีความประสงค์จะส่งซ่อมเคร่ืองดับเพลิงที่จัดหาเองหรือได้รับบริจาคหน่วย จะตอ้ งปฏบิ ตั ิตามคำสง่ั ทบ. ท่ี ๖๕๓/๒๕๒๗ ลง ๔ ก.ย. ๒๗ เร่ือง การควบคุมยทุ โธปกรณท์ ี่หน่วยต่าง ๆ ใน ทบ. จัดหาหรือได้มาหรือจากการได้รับมอบหรือบริจาค โดยรายงาน ทบ. (ผ่าน วศ.ทบ.) ขอข้ึนบัญชีคุม เสียก่อน เมอ่ื ไดร้ บั อนมุ ัติใหข้ ึ้นยอดบัญชคี ุมแลว้ หนว่ ยจึงจะส่งซ่อมได้ ข้อพิจารณาในการส่งซ่อม ๑. เมื่อใชด้ บั เพลงิ ไปแลว้ ๒. หากพบสภาพภายนอกเครือ่ งดบั เพลงิ ดงั น้ี - สขี องตวั เครื่องดบั เพลิงลอกและเป็นสนมิ มาก - เครื่องหมายบนเครอ่ื งดบั เพลงิ ลบเลือนอา่ นไมไ่ ด้ - สภาพสายฉดี ฉีกขาดแตกรา้ ว หรอื ชำรดุ - เข็มของมาตรวดั ความดันลดลงตำ่ กวา่ ชอ่ งแถบสเี ขยี ว - หรอื มนี ำ้ หนกั ต่ำกว่าเกณฑต์ ามทก่ี ำหนดในข้อการปรนนบิ ัตบิ ำรงุ

๑๑๘ กรรมวิธใี นการส่งซ่อม ๑. ทำใบส่งซอ่ ม โดยใหร้ ะบุหมายเลขเครื่องดบั เพลงิ ดว้ ย (ถ้ามี) ๒. เมื่อ วศ.ทบ. ตรวจสภาพแล้วถ้าสามารถซ่อมได้จะดำเนินการซ่อมให้ เม่ือซ่อมแล้วเสร็จจะแจ้งให้หน่วยทราบ ถ้าตรวจสภาพแล้วชำรุดมาก ค่าซ่อมเกิน ๖๕ % ของราคา สป. จะแจ้งให้หน่วยดำเนินการขอจำหน่ายตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๓๙ และ ขอรับ สป.ที่ซ่อมแล้วเสร็จกลับไปพร้อมกับ สป.ที่ซ่อมไม่คุ้มค่าเพ่ือดำเนินการขออนุมัติจำหน่าย เม่ือได้รับ อนุมัติให้จำหน่ายแล้วจึงส่งคืนซาก สป.ให้ตำบลรวบรวมสิ่งอุปกรณ์จำหน่ายหรือซากส่ิงอุปกรณ์ ในพื้นท่ี รบั ผดิ ชอบตามระเบียบ ฯ ขอ้ ๓๔. ๓. เม่ือหน่วยได้รับอนุมัติให้จำหน่ายแล้ว ให้หน่วยแจ้ง วศ.ทบ. ทราบ เพือ่ ตัดยอดออกจากบัญชีคมุ และเบิกทดแทนไดต้ อ่ ไป ๓.๓ การรายงานสถานภาพเคร่ืองดับเพลิง ให้หน่วยใชร้ ายงานในการรายงานสถานภาพ สป. สาย วศ.ทุกรอบ ๓ เดือน โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ. ๔๐๐ - ๐๑๖ จำนวน ๓ ชุด ส่งรายงานตามสายการ บังคบั บญั ชา จำนวน ๒ ชุด หน่วยรายงานเก็บไว้ ๑ ชุด

๑๑๙ ตวั อย่าง ตารางการตรวจเคร่ืองดบั เพลิงชนิดผงเคมแี ห้ง หน่วย ..................................................... รายการทท่ี ำการตรวจ วดป. สลักนริ ภยั สายฉดี ตัวถัง มาตรวดั ควำ่ ถัง ผูต้ รวจ ทต่ี รวจ พรอ้ มทีย่ ดึ หวั ฉดี แรงดนั             หมายเหตุ - การลงรายการในตารางการตรวจเครื่องดบั เพลงิ ให้ปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำการใชแ้ ละการปรนนิบัติ บำรุง เคร่อื งดับเพลิงในความรับผดิ ชอบ วศ.ทบ. (หมายเลข ๓ - ๑ - ๔๘) ลง ๑๖ ธ.ค.๔๘ - ผู้ตรวจเป็นเจา้ หนา้ ทที่ ี่ไดร้ ับการแต่งต้งั จาก ผบ.หน่วย น้นั ๆ - / = มี , เรียบรอ้ ย - X = ไม่มี , ไมเ่ รยี บรอ้ ย

๑๒๐ ตวั อยา่ ง ตารางการตรวจเครื่องดับเพลิงชนดิ เหลวระเหย หน่วย ..................................................... รายการทท่ี ำการตรวจ วดป. สลักนิรภัย สายฉีด ตวั ถัง มาตรวัด ชง่ั นำ้ หนกั ผตู้ รวจ ที่ตรวจ พรอ้ มที่ยึด หวั ฉดี แรงดนั             หมายเหตุ - การลงรายการในตารางการตรวจเครือ่ งดบั เพลิงให้ปฏบิ ัติตามคำแนะนำการใช้และการปรนนบิ ัติ บำรุง เครอ่ื งดับเพลิงในความรบั ผิดชอบ วศ.ทบ. (หมายเลข ๓ - ๑ - ๔๘) ลง ๑๖ ธ.ค.๔๘ - ผตู้ รวจเปน็ เจา้ หนา้ ที่ท่ีไดร้ บั การแต่งตงั้ จาก ผบ.หนว่ ย น้นั ๆ - / = มี , เรยี บรอ้ ย - X = ไมม่ ี , ไม่เรียบรอ้ ย

๑๒๑ ตวั อยา่ ง ตารางการตรวจเครื่องดับเพลิงชนดิ คารบ์ อนไดออกไซด์ หนว่ ย ..................................................... รายการทท่ี ำการตรวจ วดป. สลักนิรภยั สายฉดี ตวั ถงั ช่ังน้ำหนกั ผู้ตรวจ ทต่ี รวจ พรอ้ มทย่ี ึด หวั ฉดี             หมายเหตุ - การลงรายการในตารางการตรวจเคร่ืองดบั เพลิงให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการใชแ้ ละการปรนนบิ ตั ิ บำรุง เครอ่ื งดับเพลงิ ในความรบั ผิดชอบ วศ.ทบ. (หมายเลข ๓ - ๑ - ๔๘) ลง ๑๖ ธ.ค.๔๘ - ผู้ตรวจเปน็ เจา้ หนา้ ท่ที ีไ่ ด้รับการแต่งต้งั จาก ผบ.หนว่ ย นั้น ๆ - / = มี , เรียบรอ้ ย - X = ไมม่ ี , ไมเ่ รยี บรอ้ ย

๑๒๒ เครอ่ื งทำลายล้างพษิ ขับเคล่ือนด้วยเครือ่ งยนต์ แบบ เอ็ม ๑๒ เอ ๑ ๑. ลักษณะ เคร่ืองทำลายล้างพิษแบบ เอบีซี-เอ็ม ๑๒ เอ ๑ ประกอบด้วยองค์ประกอบ ๓ ส่วน คือ ส่วนเคร่อื ง สูบน้ำ ส่วนถังน้ำพร้อมชุดที่อาบน้ำกำลังพล และส่วนเครื่องทำน้ำร้อนแบบ เอ็ม ๒ เครื่องทำลายล้างพิษนี้ ออกแบบสำหรับใช้ในสนาม สามารถวางกับพ้ืนหรือติดต้ังบน รยบ. ขนาด 2 1 ตัน เพื่อใช้เป็นเครื่อง 2 ทำลายลา้ งพษิ เคล่อื นท่ี นอกจากน้ันยังสามารถท่ีจะขนสง่ ทางอากาศด้วย ฮ. หรือ บ. ลำเลียง ๒. ขีดความสามารถ ใชส้ ำหรบั พ่นละอองสารทำลายลา้ งพิษท่ีเปน็ ของเหลว เช่น STB หรอื HTH ผสมเปียก น้ำดา่ ง และ น้ำสบู่ นอกจากน้ียังอาจใช้สำหรับดับเพลิงโดยการฉีดน้ำหรือโฟม ใช้ล้างยานพาหนะ ใช้สูบน้ำหรือน้ำยา และใชอ้ าบนำ้ กำลงั พลในสนาม ๓. ขอ้ มูลจำเพาะ ๓.๑ ส่วนถังนำ้ ความจขุ องถัง ๑๘๙๒ ลิตร ใส่นำ้ ได้ ๑๖๙๒ ลิตร ใส่สาร STB ผสมเปยี กได้ ๑๒๐๐ ลิตร ( ใช้นำ้ ๘๕๒ ลติ ร สาร STB แหง้ ๕๙๐ กโิ ลกรมั และสารปอ้ งกนั การแขง็ ตวั ๕.๗ กิโลกรมั ) นำ้ หนักของ STB ผสมเปยี ก ๑๒๐๐ ลติ ร ๑๔๔๐ กิโลกรัม กว้าง ๑.๑๔ เมตร ยาว ๒.๐๘ เมตร สูง ๑.๓๐ เมตร หนัก ๔๕๒.๗ กิโลกรัม ๓.๒ สว่ นเครอ่ื งสูบน้ำ สบู น้ำได้ ๑๘๙ ลติ รตอ่ นาที ความดันน้ำ ๖๐-๑๒๐ ปอนดต์ อ่ ตารางนิ้ว ถงั ลอ่ เคร่ืองสูบ-ใส่สบู่จุ ๓๘ ลิตร

๑๒๓ ๗๖ ลิตร ๘๒ เซนตเิ มตร ถงั เชื้อเพลิงของเครื่องยนตจ์ ุ ๑.๔๒ เมตร กว้าง ๑.๓๐ เมตร ยาว ๕๐๙ กิโลกรมั สงู หนัก ๒๒๗๑ ลติ รต่อชวั่ โมง ๓.๓ ส่วนเคร่ืองทำนำ้ ร้อนแบบ เอ็ม ๒ ๒๔ โวลท์ ทำน้ำรอ้ นไดใ้ นอัตรา ๓ เชน็ ติเมตร ใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรง กวา้ ง ๑.๓๕ เมตร ยาว ๑.๑๐ เมตร สูง ๒๖๑ กิโลกรัม หนัก ๓.๔ ทอี่ าบน้ำกำลงั พล ๒๔ นาย อาบนำ้ กำลงั พลไดพ้ ร้อมกันมากทีส่ ุดคราวละ ๓.๕ การทำงาน ๖๐-๑๓๐ ปอนด์ตอ่ ตารางนิ้ว ความดนั ปฏิบตั กิ าร ๑๐ นาที สบู น้ำเข้าถังใชเ้ วลา ๑ นาที ใสส่ ารปอ้ งกนั การแขง็ ตัวลงในถงั ใช้เวลา ๓๕ นาที ใสส่ าร STB ลงในถังใช้เวลา ๒ นาที ผสมสารปอ้ งกันการแข็งตวั กับนำ้ ใช้เวลา ๑๕ นาที ผสมสาร STB กับนำ้ ใช้เวลา ทำลายล้างพิษพื้นท่ผี วิ เรียบได้ประมาณ ๑.๓๐๐ ตารางเมตร

๑๒๔ อตั ราการพน่ สารทำลายล้างพิษ ใช้หวั ฉดี อันเดยี ว ๙๕ ลิตรต่อนาที ใช้หัวฉดี สองอนั ๑๙๐ ลติ รตอ่ นาที ๔. ส่วนเคร่ืองสบู น้ำ ส่วนเคร่ืองสบู นำ้ ท้งั หมดตดิ ตง้ั อยบู่ นฐานสกี ประกอบด้วยสว่ นต่าง ๆ ท่ีสำคัญดงั นี้ ๔.๑ เครื่องยนต์แกสโซลีน ๔ สูบ ๒๐ แรงม้า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี ขนาด ๒๔ โวลท์ติด เครื่องยนต์ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องสูบน้ำและเคร่ืองกำเนิดกระแสไฟฟ้าสำหรับจ่ายกระแสไฟให้ส่วนเครื่อง ทำนำ้ ร้อน ๔.๒ ถังเชอ้ื เพลงิ บรรจุน้ำมันแกสโซลนี สำหรับเคร่อื งยนตไ์ ด้ประมาณ ๗๖ ลิตร ๔.๓ เครื่องสูบน้ำ ทำหน้าที่สูบน้ำจากส่วนถังน้ำหรือจากแหล่งน้ำ สูบสารทำลายล้างพิษจากส่วนถัง นำ้ สบู สบหู่ รอื โฟมจากถงั ลอ่ เครอ่ื งสูบ-ใสส่ บู่ และปล่อยออกทางสายยาง ๔.๔ ถังล่อเคร่ืองสูบ-ใส่สบู่ ใช้สำหรับบรรจุน้ำเพ่ือล่อเคร่ืองสูบน้ำเม่ือเร่ิมเดินเครื่องหรือบรรจุสบู่ เหลวหรือน้ำยาทำใหเ้ กิดโฟม ๔.๕ ท่อต่อต่าง ๆ อยู่ด้านหลังของส่วนเครื่องสูบน้ำ ประกอบด้วยท่อน้ำออก (ท่อเล็ก) ๒ ท่อ และทอ่ น้ำเขา้ (ท่อใหญ)่ ๑ ท่อ สำหรับเปน็ ท่นี ำสายยางและทอ่ สูบนำ้ มากตอ่ ๔.๖ สายฉีด ๒ เส้น เป็นสายยางม้วนเก็บอยู่ท่ลี ้อม้วนสาย แบ่งออกเป็นสายฉีดเส้นบน และสายฉีด เส้นล่าง ทำหน้าที่เป็นสายฉีดน้ำ น้ำสบู่ โฟม หรือสารทำลายล้างพิษ และสามารถต่อเข้ากับชุดที่อาบน้ำ กำลังพลเพ่ือหำหนา้ ทจ่ี ่ายน้ำให้ ๔.๗ แผงเคร่ืองควบคมุ อยดู่ ้านหน้าของส่วนเคร่ืองสูบน้ำประกอบด้วยเคร่อื งวัดต่าง ๆ เคร่ืองควบคุม การทำงานของเครื่องยนต์ ลิ้นปิด-เปิดต่าง ๆ เพ่ือควบคุมการจ่ายน้ำ และเต้าสำหรับนำสายไฟฟ้าจากส่วน เครื่องทำน้ำรอ้ นมาเสียบ ๔.๘ แผ่นปิด มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด ๕ แผ่น สำหรับปิดด้านข้างของส่วนเคร่ืองสูบน้ำ ๔ แผ่น เม่ือ เวลาจะใช้งานจึงเปิดออกเพอ่ื ให้เห็นเคร่อื งยนต์และเครื่องสูบนำ้ และแผ่นปิดดา้ นบน ๑ แผ่น ๔.๙ ท่อตอ่ ท่อไอเสยี เปน็ ทอ่ โลหะ ๒ ทอ่ สำหรับตอ่ กับท่อไอเสียของเครอื่ งยนต์ ๔.๑๐ ช่องใส่เครื่องมือ อยู่ที่ด้านข้างของส่วนเครื่องสูบน้ำระหว่างล้อม้วนสายทั้งสองใช้เป็นที่เก็บ เครื่องมือและชนิ้ ส่วนประกอบต่าง ๆ ๔.๑๑ ผ้าใบคลมุ เครอื่ ง สำหรบั ปดิ คลุมกนั ไม่ใหเ้ ปรอะเปื้อนขณะไมใ่ ช้งาน

๑๒๕ ๕. ส่วนถังนำ้ ส่วนถงั น้ำทัง้ หมดตดิ ตั้งอยบู่ นฐานสกี ประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ดงั นี้ ๕.๑ ถังเก็บน้ำ ทำด้วยเหล็กไม่เป็นสนิม มีความจุ ๑๘๙๒ ลิตร แต่ใช้ใส่น้ำได้มากท่ีสุด ๑๖๙๒ ลิตร และใส่สารทำลายลา้ งพิษที่เปน็ ของเหลวได้ ๑๒๐๐ ลติ ร ปริมาตรท่ีเหลือเวน้ ไว้สำหรับการขยายตัวเน่ืองจาก เกดิ ฟอง ๕.๒ กรวยผสมสาร เป็นกรวยขนาดใหญ่ทำด้วยเหล็กไม่เป็นสนิม ใส่อยู่ใสช่องด้านบนของถังเก็บน้ำ ย่ืนลงไปในถัง ตัวกรวยมีท่อสำหรับผสมสารติดอยู่ด้านข้าง สำหรับใช้ผสมสารที่ใส่ลงในกรวยให้เข้ากับน้ำใน ถงั ด้วยวิธีการฉีด ๕.๓ ลิ้นระบายน้ำ ติดตั้งอยู่ที่ด้านข้างของถังเก็บน้ำ มีมือหมุนสำหรับปิดและเปิดลิ้นเพ่ือระบาย ของเหลวออกจากถัง ๕.๔ ลิ้นท่อสูบน้ำ เก็บอยู่ที่ด้านข้างของถังเก็บน้ำใกล้กับล้ินระบายน้ำ ใช้สำหรับต่อเข้ากับปลายท่อ สูบน้ำเม่ือเวลาต้องการจะสูบน้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติเข้าถังเก็บน้ำ เพ่ือป้องกันไม่ให้เศษผงไหลตามน้ำ เขา้ ไปในถัง ๕.๕ ท่อสูบน้ำ เป็นท่อยางขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๖ เซนติเมตร และยาว ประมาณ ๘ เมตรเศษ ดา้ นปลายท้งั สองของท่อเป็นหวั ตอ่ ปลดเร็ว เมื่อไมใ่ ช้งานเกบ็ อยู่ทีด่ ้านบนของถังเก็บ นำ้ ๕.๖ สายผสมสาร เป็นสายยางยาวประมาณ ๘ เมตรเศษ มีเส้นผ่าศูนย์กลางด้านในประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ปลายด้านหน่ึงเป็นหัวต่อปลดเร็ว ส่วนอกี ดา้ นหนึ่งเป็นเกลียวเมอื่ ไม่ใชง้ านเกบ็ อยู่ท่ีเดียวกับท่อสูบ น้ำ ๕.๗ ชดุ ท่ีอาบน้ำกำลังพล ประกอบดว้ ยทอ่ เหลก็ รวม ๑๘ ชน้ิ ซ่ึงเมื่อประกอบเข้าดว้ ยกันโดยอาศัย ข้อต่อปลอดเร็วแล้วจะเป็นที่อาบน้ำแบบฝักบัวสำหรับอาบน้ำให้กำลังพลในสนามได้พร้อมกันมากที่สุดไม่เกิน คราวละ ๒๔ นาย เมือ่ ไมใ่ ช้งานจะถอดเป็นช้นิ ๆ เกบ็ ไว้ท่ดี า้ นขา้ งของถัง ๖. ส่วนเครื่องทำนำ้ รอ้ นแบบ เอ็ม ๒ สว่ นเครือ่ งทำนำ้ รอ้ นทงั้ หมดติดต้งั อยบู่ นฐานสกี ประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ทส่ี ำคญั ดังนี้ ๖.๑ องค์ประกอบหม้อต้มน้ำ น้ำไหลเข้าสู่หมอ้ ต้มน้ำทางด้านล่างและออกทางด้านบน น้ำในหม้อถูก ต้มให้ร้อนโดยเปลวไฟจากองค์ประกอบห้องสันดาป องค์ประกอบหม้อต้มน้ำติดต้ังอยู่ภายในส่วนเครื่องทำน้ำ ร้อน

๑๒๖ ๖.๒ องค์ประกอบหอ้ งสันดาป ติดตง้ั อย่ตู ิดกับหม้อต้มน้ำ มอเตอร์ตัวหนงึ่ จะเป่าอากาศเขา้ ไปผสมกับ ไอของน้ำมันเชื้อเพลิงซ่ึงถูกเป่าเข้าไปในห้องสันดาปโดยมอเตอร์อีกตัวหนึ่ง แล้วจึงจุดให้ลุกไหม้ด้วยระบบ ไฟฟา้ ๖.๓ แผงเคร่ืองควบคุม อยู่ด้านข้างของส่วนเคร่ืองทำน้ำร้อน ประกอบด้วยหน้าปัดเครื่องวัด ความดันของน้ำมันเช้ือเพลิง หน้าปัดเครื่องวัดความดันของน้ำ หน้าปัดเครื่องวัดอุณหภูมิน้ำที่ต้ังอุณหภูมิน้ำ และสวิทซจ์ ดุ เชอื้ เพลงิ ๖.๔ องค์ประกอบสายเชื้อเพลิง ประกอบด้วยท่อเช้ือเพลิงไหลเข้า ท่อเชื้อเพลิงไหลออก และสาย กระแสไฟลงดิน ทั้งหมดน้ีต่อกับฝาปิดถังเช้ือเพลิงสำหรับใช้กับถังเช้ือเพลิงขนาด ๒๐ ลิตร เมื่อเวลาไม่ใช้ งานประกอบสายเชื้อเพลิงจะถูกเก็บไว้ในช่องเก็บของท่ีด้านบนของเคร่ืองทำน้ำร้อน เวลาจะใช้เคร่ืองทำน้ำ ร้อนจะต้องนำปลายท่อเชื้อเพลิงไหลเข้าและท่อเช้ือเพลิงไหลออก ซ่ึงเป็นหัวต่อปลดเร็วไปต่อเข้ากับช่อง เชื้อเพลิงเขา้ และชอ่ งเชอื้ เพลิงออกทดี่ า้ นหนา้ ตอนล่างของเครื่องทำนำ้ ร้อน ๖.๕ สายไฟ ขดอยูใ่ นชอ่ งเก็บของที่ด้านบนของเครอ่ื งทำน้ำรอ้ น ปลายด้านหน่ึงตอ่ เขา้ กับเครื่องทำน้ำ ร้อนแล้ว ปลายอีกด้านหนึ่งสำหรับนำไปต่อเข้ากับเต้าเสียบท่ีแผงเครื่องควบคุมของส่วนเคร่ืองสูบน้ำเพื่อให้ กระแสไฟฟ้าเข้าสเู่ ครือ่ งทำนำ้ ร้อน ๖.๖ สายยาง ใช้เป็นท่อทางเดินของนำ้ จากเคร่ืองทำน้ำร้อนไปยังส่วนเครอื่ งสูบน้ำเม่ือไมใ่ ชง้ านขดอยู่ ในช่องเก็บของท่ีด้านบนของเครื่องทำน้ำร้อน ปลายด้านหน่ึงเป็นหัวต่อปลดเร็วสำหรับต่อกับท่อทางออกของ น้ำท่ีอยู่ดา้ นบนของเครื่องทำน้ำร้อนในช่องเก็บของ ส่วนอีกด้านหน่ึงเป็นเกลียวสำหรับต่อกับท่อน้ำท่ีด้านหลัง ของส่วนเครื่องสบู นำ้ ๖.๗ ท่อทางเข้าของน้ำ เป็นข้อต่อปลดเรว็ อยู่ข้างเคร่ืองทำน้ำร้อนด้านล่าง ฝ่ังตรงข้ามกับแผงเคร่ือง ควบคุม เม่ือนำสายผสมสาร (ข้อ ๕.๖) มาต่อระหวา่ งท่อทางเขา้ ของนำ้ กับท่อน้ำออกที่ด้านหลังของ ส่วน เคร่อื งสูบนำ้ จะทำใหน้ ้ำไหลเขา้ สู่เคร่อื งทำนำ้ ร้อน ๖.๘ ปล่อง ไอเสีย เป็นกล่องส่ีเหล่ียมอยู่ในช่องเก็บของที่ด้านบนของเคร่ืองทำน้ำร้อน สำหรับเป็น ทางออกของไอเสยี จากห้องสันดาป ๖.๙ ชอ่ งเก็บของ อยู่ด้านบนของเคร่ืองทำน้ำรอ้ น มีฝาปิด-เปิด ได้ใช้เปน็ ท่เี กบ็ สายเชอ้ื เพลิง สายไฟ และสายยาง นอกจากนั้นยังมีท่อทางออกของน้ำและปล่องท่อไอเสีย ขณะใช้เครื่องทำน้ำร้อนจะต้องเปิดฝา ช่องเก็บของท้งิ ไว้ ๗. หน้าทกี่ ารทำงานของเครอ่ื งควบคุมและเครื่องวดั ตา่ ง ๆ เคร่ืองควบคุมและเคร่ืองวัดต่าง ๆ ของส่วนเคร่ืองสูบน้ำและส่วนเครื่องทำน้ำร้อนมีลักษณะและหน้าท่ี การทำงานดงั ต่อไปนี้

๑๒๗ ๗.๑ ลิ้นหมายเลข ๑ อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคุมของเคร่ืองสูบน้ำ ทำหน้าที่บังคับเส้นทางเดินของ ของเหลวท่อี อกจากเครื่องสบู น้ำ ๗.๒ ลนิ้ หมายเลข ๒ อยทู่ ี่แผงเคร่ืองควบคุมของเครื่องสูบน้ำ ทำหนา้ ท่ีควบคุมการไหลของของเหลว ไปยังสายฉีดเส้นทาง ๗.๓ ลิน้ หมายเลข ๓ อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคมุ ของเครื่องสูบน้ำ ทำหน้าท่ีควบคุมการไหลของของเหลว ไปยงั สายฉดี เสน้ บน ๗.๔ ล้นิ หมายเลข ๔ อยู่ที่แผงเครื่องควบคุมของเครื่องสูบน้ำ ทำหน้าท่ีควบคุมการไหลของของเหลว จากถังลอ่ เครื่องสบู -ใส่บไู่ ปสเู่ ครอื่ งสบู น้ำ ๗.๕ ลิ้นระบายของเครื่องสูบน้ำ อยู่ที่แผงเครื่องควบคุมของเครื่องสูบน้ำ ทำหน้าท่ีควบคุมการ ระบายของเหลวทง้ิ ไปจากเครื่องสบู นำ้ ล้นิ นจ้ี ะต้องเปดิ ทิ้งไวต้ ลอดเวลาขณะไม่ใช้เครื่องทำลายลา้ งพิษ ๗.๖ คันเร่ง อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคุมของเครื่องสูบน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมความเร็วของเครื่องยนต์ เป็น แบบดึง-ดนั เร่งเครอ่ื งโดยการดนั เข้า และเบาเคร่ืองโดยการดึงออก หมุนมือ หมนุ เพ่ือปรับความเรว็ เล็กนอ้ ย ตามตอ้ งการ ใช้ปมุ่ ล็อคเพ่ือบังคับคันเร่งให้อยใู่ นตำแหนง่ ที่ตงั้ ไว้ ดึงคนั เร่งออกจนสดุ เพ่อื ดับเครอ่ื งยนต์ ๗.๗ ปุ่มติดเครื่องยนต์ อยู่ท่ีแผงเครื่องควบคุมของเคร่ืองสูบน้ำ ปรับได้ ๓ ตำแหน่ง คือ ดับเครื่อง (STOP) เดินเคร่ือง (RUN) และติดเคร่ือง (START) ทำหน้าท่ีจ่ายหรือตัดพลังงานไฟฟ้าเพ่ือการ ตดิ เครือ่ งหรือดับเคร่อื งยนต์ ๗.๘ ลิ้นเปิด-ปิดเชื้อเพลิง อยู่ที่แผงเครื่องควบคุมของเครื่องสูบน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของ น้ำมันเช้อื เพลงิ จากถังเช้อื เพลงิ ไปสเู่ ครื่องยนต์ ๗.๙ ปุม่ ชว่ ยติดเคร่อื งยนต์ อยู่ที่แผงเครอื่ งควบคมุ ของเคร่อื งสบู นำ้ อยู่เหนือปุ่มติดเครอื่ งยนต์ตาม ปกติเมื่อความดันของน้ำมันหลอ่ ล่นื ในเครื่องยนตต์ ำ่ กว่า ๒๐ ปอนดต์ ่อตารางนิ้ว กระแสไฟจาก แม็กนโิ ตจะถูก ตัดโดยอตั โนมัติ ยังผลใหเ้ คร่ืองยนตด์ ับ เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดการชำรุด ดังน้ันทุกครั้งที่จะติดเครอ่ื งยนต์ได้จึง จำเป็นต้องกดปุ่มนี้ไว้ในขณะปิดปุ่มติดเครื่องยนต์ เพื่อให้แม็กนิโตจ่ายกระแสไฟ และกดไว้จนกว่าเข็มท่ีหน้า ปิดเครื่องวัดความดันของน้ำมันหล่อล่ืนจะขึ้นสูงกว่า ๒๐ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จึงจะเลิกกดได้ มิฉะน้ันแล้ว เครือ่ งยนต์จะไม่ตดิ ๗.๑๐ ไฟสัญญาณ อยู่ที่แผงเครื่องควบคุมของเครือ่ งสูบน้ำ เม่ือติดแสดงว่าแบตเตอรี่ได้รับการประจุ ไฟขณะเคร่อื งยนตท์ ำงาน ๗.๑๑ หน้าปัดเครื่องวดั แรงดูด อยู่ทแี่ ผงเคร่อื งควบคมุ ของเครื่องสบู น้ำ แสดงแรงดดู ของเคร่อื งสบู น้ำ ขณะกำลังสูบในหน่วยน้วิ ของปรอทใสห้วง ๐ - ๓๐

๑๒๘ ๗.๑๒ หน้าปัดเครอ่ื งวดั ความดัน อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคุมของเครื่องสูบน้ำ แสดงแรงดันของของเหลว ทีไ่ หลออกจากเคร่อื งสบู นำ้ ในหนว่ ยปอนด์ตอ่ ตารางน้ิวในห้วง ๐ - ๓๐๐ ๗.๑๓ หน้าปัดเครื่องวัดรอบและเครอ่ื งนับชั่วโมงการทำงาน อยู่ที่แผงเคร่ืองควบคุมของเครื่อง สูบ น้ำ เคร่ืองวัดรอบแสดงความเร็วทเ่ี ครอ่ื งยนตท์ ำงานใน รอบตอ่ นาที สว่ นเครอ่ื งนับชว่ั โมงการทำงานแสดง เวลาที่เคร่อื งยนตไ์ ด้ทำงานไปแลว้ เป็นช่วั โมง ๗.๑๔ หน้าปัดเคร่ืองวัดความดีนของน้ำมันหล่อลื่น อยู่ท่ีแผงเครื่องควบคุมของเครื่องสูบน้ำ แสดง ความดันของนำ้ มนั หลอ่ ลนื่ ขณะเครือ่ งยนต์ทำงาน ๗.๑๕ เต้าเสียบสายไฟของเคร่ืองทำน้ำร้อนและสวิทช์ปิด-เปิด อยู่ท่ีแผงเครื่องควบคุมของเครื่องสูบ น้ำ เต้าเสียบใช้เป็นท่ีเสียบสายไฟจากเครื่องทำน้ำร้อน เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้โดยมีสวิทช็ปิด-เปิดควบคุม การจ่ายกระแสไฟ ๗.๑๖ หน้าปัดเคร่ืองวัดปริมาณน้ำมันเช้ือเพลิงและปุ่มกด อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคุมของเครื่องสูบน้ำ เมอ่ื กดปมุ่ กดเขม็ ท่หี น้าปัดจะแสดงปริมาณนำ้ มันเช้ือเพลงิ ทมี่ อี ยู่ในถงั ๗.๑๗ ลิ้นระบายน้ำ อยู่ที่ด้านขา้ งของถังเกบ็ น้ำ ทำหน้าท่ีระบายของเหลวออกจากถังมีลักษณะเป็น ท่องอแบบข้อศอก ทป่ี ลายเปน็ ข้อต่อปลดเรว็ สำหรบั นำท่อสบู นำ้ ( ขอ้ ๕.๕ ) มาตอ่ เขา้ ได้ ๗.๑๘ ที่วัดระดับของเหลว เป็นมาตราในห้วง ๑๐๐ – ๔๔๗ แกลลอน ( ๓๘๘ – ๑๖๙๒ ลิตร ) ติดอย่ดู ้านในของกรวยผสมสาร ( ขอ้ ๕.๒ ) เพอื่ แสดงปรมิ าตรของเหลวทม่ี ีอยใู่ นถังน้ำ ๗.๑๙ สวิทช์จุดเช้ือเพลิง อยู่ที่แผงเคร่ืองควบคุมของเคร่ืองทำน้ำร้อน เม่ืออยู่ในตำแหน่ง PURGEON น้ำมันเชื้อเพลิงจะไหลเวียนระหว่างเคร่ืองทำน้ำร้อนและถังเช้ือเพลิงขนาด ๒๐ ลิตร เม่ืออยู่ใน ตำแหน่ง HEATHER ON น้ำมนั เชือ้ เพลิงจะไหลเขา้ สูห่ ้องสันดาป และจดุ ติดเปน็ เปลวไฟเพ่ือต้มน้ำ ๗.๒๐ ท่ีตั้งอุณหภูมิน้ำ อยู่ที่แผงเครื่องควบคุมของเคร่ืองทำน้ำร้อน มีลักษณะเป็นมือหมุน บิดใน ทิศทางตามเข็มนาฬกิ าจะเพิ่มอุณหภูมนิ ำ้ และบิดในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกาจะลดอุณหภูมินำ้ ๓.๒๑ หน้าปัดเครือ่ งวัดความดันของน้ำ อยู่ทแี่ ผงเครอ่ื งควบคุมของเครื่องทำน้ำร้อน แสดงความดัน ของน้ำท่ีไหลเวียนในหม้อต้มน้ำ ซ่ึงตามปกติจะอยู่ในห้วง ๖๐ – ๑๕๕ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าความดันเพ่ิม สูงกว่า ๒๐๐ ปอนด์ต่อตารางน้ิว ล้ินระบายความดันท่ีหม้อต้มน้ำจะเปิดออก และระบายความดันส่วนเกิน ออกไป ๗.๒๒ หน้าปัดเคร่ืองวัดความดันของน้ำมันเช้ือเพลิง อยู่ท่ีแผงเคร่ืองควบคุมของเครื่องทำน้ำร้อน แสดงความดันของน้ำมนั เช้ือเพลิงทีไ่ หลไปสหู่ ัวฉดี ( เพ่อื พ่นเปน็ ฝอยสำหรับจุดให้ลุกไหม้ ) เนือ่ งจากเครือ่ งทำ น้ำร้อนแบบ เอ็ม ๒ สามารถใช้น้ำมันเช้ือเพลิงได้หลายแบบ จึงกำหนดความดันไว้ต่างกันดังน้ี แกสโซลีน ๗๕ ปอนด์ตอ่ ตารางนวิ้ และนำ้ มันโซล่า ๖๐ ปอนดต์ อ่ ตารางนวิ้

๑๒๙ ๗.๒๓ หน้าปัดเครื่องวัดอุณหภูมิน้ำ อยู่ท่ีแผงเครื่องควบคุมของเครื่องทำน้ำร้อน แสดงอุณหภูมิของ นำ้ ในหม้อตม้ น้ำ ๘. การปรนนบิ ัตบิ ำรงุ กอ่ นการใช้งาน ส่วนเครือ่ งสูบนำ้ ๘.๑ ถอดแผ่นปิดท้ัง ๕ แผ่นออก ตรวจการหลวมคลอน การขาดหาย และการชำรุด ของส่วนประกอบต่าง ๆ ไขหรือขันให้แน่นถ้าจำเป็น ตรวจดูอย่าให้สายไฟหรือสิ่งอื่นใดกีดขวางการทำงาน ของชนิ้ ส่วนที่เคลอื่ นท่ไี ด้ ๘.๒ ตรวจระดับสารละลายในแบตเตอร่ี เติมน้ำกล่ันถ้าจำเป็น ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ถ้า สกปรก ๘.๓ ตรวจความตึงของสายพาน (หย่อน 3 นิ้วตามเกณฑ์) พร้อมท้ังร่องรอยการชำรุด หรือสึก 8 กร่อน จดั ปรบั หรือเปลย่ี นใหม่ถา้ จำเปน็ ๘.๔ ตรวจความสะอาดของท่กี รองน้ำมันใต้ถงั เช้ือเพลงิ ลา้ งทำความสะอาดถา้ จำเป็นเปิดลน้ิ เปิด- ปิดเชื้อเพลงิ ตรวจดนู ำ้ มนั แกสโซลีนในถงั ว่ามีพอหรือไม่ ตรวจหาการร่วั ของน้ำมนั เช้ือเพลิง ๘.๕ ตรวจดรู ะดับน้ำมันหล่อล่ืน เตมิ ถา้ มรี ะดับต่ำกว่าเกณฑ์ ๘.๖ ตรวจดูการทำงานของลิ้นต่าง ๆ ( ข้อ ๗ ) ว่าเปิด-ปิดได้คลอ่ ง เสร็จแล้วปิดล้นิ ทุกล้ินรวมท้งั ลิ้น ระบายของเครื่องสูบนำ้ ด้วย อัดไขข้นหรือหยอดนำ้ มันหล่อลื่นยงั จุดที่กำหนด (ดู คท.๓-๔๒๓๐-๒๐๙-๑๒) ๘.๗ ตรวจในถงั ล่อเคร่ืองสูบ-ใส่สบู่ อย่าให้มีเศษผงหรือส่ิงสกปรก ล้างทำความสะอาดถ้าจำเป็นปิด ลิ้นหมายเลข ๔ ถา้ ยังไม่ปิด เติมน้ำให้เต็มถัง ตรวจหารอยรวั่ ๘.๘ ถ้าจะใช้สายฉีด ตรวจดูว่าองค์ประกอบหัวฉีดต่อเข้ากับสายฉีดเรียบร้อยดี คันโยกของ องค์ประกอบหัวฉดี ทำงานได้โดยไม่ติดขดั ตรวจดูสายฉีดวา่ ไม่มรี อยฉีกขาดอนั จะเป็นเหตุให้นำ้ รวั่ ตรวจดูสาย ฉีดว่าไมม่ รี อยฉกี ขาดอนั จะเป็นเหตุใหน้ ำ้ รั่ว ตรวจดูว่ามปี ระเก็นยางอยทู่ ่หี ัวต่อปลายสาย ถา้ ไมม่ ตี ้องหามาใส่ สว่ นเคร่ืองทำนำ้ รอ้ น ๘.๙ ถอดแผ่นปิดด้านข้างออก ตรวจดูการหลวมคลอนหรือขาดหายของชิ้นส่วน ไขหรือขันให้แน่น ถา้ จำเป็น ตรวจดูอย่าให้สายไฟหรือส่ิงอน่ื ใดกีดขวางการทำงานของลน้ิ ส่วนท่เี คลื่อนท่ีได้ ตรวจดกู ารชำรุดของ หมอ้ ต้มน้ำ หมายเหตุ อย่าใส่แผน่ ปิดด้านข้างจนกว่าจะไดต้ รวจดกู ารไหลเวยี นของนำ้ และน้ำมันเช้อื เพลงิ จนแนใ่ จ แลว้ ว่าไมร่ วั่ ในขณะทีส่ วทิ ชจ์ ดุ เช้ือเพลงิ อยใู่ นตำแหนง่ PURGE ON

๑๓๐ ๘.๑๐ ตรวจดูว่ามอเตอร์ เครื่องสูบน้ำ และแม็กนิโต หมุนได้อย่างอิสระพร้อม ๆ กัน ตรวจดูว่าพัด ลมไมถ่ ูกปิดก้นั และสามารถทำงานได้เป็นปกติ ๘.๑๑ ตรวจดูว่าเคร่ืองควบคุมและเคร่ืองวัดต่าง ๆ อยู่ในสภาพดี กดสวิทช์จุดเชื้อเพลิงให้อยู่ใน ตำแหน่ง PURGE ON ตรวจดูว่าเข็มที่หน้าปัดต่าง ๆ ทำงานได้และช้ีที่ตำแหน่งท่ีถูกต้อง เข็มวัดความดัน ของน้ำอยู่ ณ ตำแหนง่ ๖๐ ถึง ๑๒๐ ปอนด์ตอ่ ตารางนิ้ว เข็มวัดความดันของน้ำมันเช้ือเพลิงขณะที่เคร่อื ง ทำน้ำร้อนเร่ิมทำงานอยู่ ณ ตำแหน่ง ๖๐ ถึง ๗๕ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (ขึ้นอยู่กบั ชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิง) และในระหว่างการตม้ น้ำอาจเพ่มิ ขึ้นหรือลดลงจากน้ี เขม็ วัดอุณหภูมนิ ำ้ ช้ี ณ ตำแหน่ง ๔๐ ํ ฟ. ถึง ๑๙๐ ํ ฟ. ๘.๑๒ ตรวจหาการชำรดุ หรอื รอยรัว่ ท่ีทอ่ น้ำ ตรวจดูว่าที่หัวตอ่ ปลดเร็วมีปะเกน็ ยางอยู่ครบ ๘.๑๓ ตรวจสายไฟหาร่องรอยการเส่ือมสภาพเส้นลวดของสายไฟโผล่ให้เห็น หรือการหักงอของ สายไฟก่อนจะต่อสายไฟเข้ากับเต้าเสียบสายไฟที่ส่วนเคร่ืองสูบน้ำ โยกสวิทช์ปิด-เปิดของเต้าเสียบให้อยู่ใน ตำแหนง่ ปิด ส่วนถังน้ำ ๘.๑๔ ตรวจดูกรวยผสมสารเพ่ือหารอ่ ยรอยการชำรดุ หรือการอุดตัน และตรวจดูตะแกรงว่าใช้ การ ได้ ๘.๑๕ ตรวจหาการชำรดุ ของลนิ้ ระบายน้ำ การเป็นสนมิ หรอื การอุดตัน ๘.๑๖ ตรวจดูว่าล้ินทอ่ สบู น้ำทำงานได้เป็นปกติ ๙. การปรนนิบตั ิบำรงุ ระหว่างการใช้งาน สว่ นเครื่องสบู นำ้ ๙.๑ ตรวจดูเคร่อื งวัดตา่ ง ๆ ว่าทำงานได้และชีท้ ี่ตำแหนง่ ทีถ่ ูกต้อง ๙.๑.๑ เข็มของเคร่ืองวัดแรงดูดชี้ ณ ตำแหน่ง ๐ ถงึ ๓๐ นิ้วของปรอท ๙.๑.๒ เขม็ ของเคร่ืองวัดความดนั ชี้ ณ ตำแหนง่ ๖๐ ถึง ๑๒๐ ปอนดต์ ่อตารางน้ิว ๙.๑.๓ เขม็ ของเคร่ืองวัดความดนั ของน้ำมันหลอ่ ลื่นช้ี ณ ตำแหน่งท่สี งู กว่า ๒๐ ปอนดต์ ่อ ตารางนวิ้ ๙.๑.๔ เขม็ ของเครื่องวดั ปริมาณน้ำมันเชอื้ เพลิงชี้ ณ ตำแหนง่ ท่ีสูงกว่า ๐ ๙.๑.๕ เขม็ ของเคร่ืองวัดรอบชี้ ณ ตำแหน่ง ๓๘๕๐ รอบตอ่ นาทหี รอื ต่ำกกว่านนั้

๑๓๑ คำเตือน อย่าเดนิ เคร่ืองสบู น้ำนานกว่า ๒ นาที ขณะที่ความดนั ของของเหลวเป็น ๐ ถ้าต้องใชเ้ วลาแก้ไขนานกวา่ นั้นให้ดับเครื่องยนตก์ ่อน ๙.๒ ตรวจดกู ารรว่ั ของน้ำมันเชือ้ เพลิงบริเวณถังเชื้อเพลิง ท่อทางเดนิ ของนำ้ มนั เช้ือเพลงิ และท่ี เครอ่ื งผสมเชอ้ื เพลงิ (คาบเู รเตอร์) ๙.๓ ตรวจหาการรวั่ ของน้ำมันหล่อลื่น ตรวจดวู า่ เครอ่ื งยนตท์ ำงานอย่างราบรืน่ ท่ีรอบตำ่ (เมื่อเบา เครอ่ื ง) เสียงของไอเสยี ควรชดั เจนและเป็นจงั หวะสม่ำเสมอ ไม่ควรมีควนั ออกมามากจากท่อไอเสีย และ เครือ่ งยนต์เร่งและเบาได้อยา่ งราบเรยี บตามจังหวะการปรับคนั เรง่ ๙.๔ ตรวจหาการรวั่ ของเคร่ืองสบู น้ำ เสยี งและการส่นั สะเทือนผิดปกติ ๙.๕ ตรวจหาการรว่ั ทท่ี ่อและลิน้ ต่าง ๆ ๙.๖ ตรวจดูว่าถังลอ่ เครื่องสูบ-ใสส่ บู่มขี องเหลวอยู่ภายในขณะท่ีลน้ิ หมายเลข ๔ อยู่ในตำแหนง่ เปดิ ปิดลิ้นหมายเลข ๔ หลังจากทล่ี ่อเคร่ืองสบู น้ำจนสามารถสบู ของเหลวได้แลว้ ๙.๗ ตรวจดูว่าไมม่ กี ารรวั่ เม่ือคันโยกขององค์ประกอบหวั ฉดี อยู่ในตำแหนง่ ปิดขณะทใี่ นสายฉดี มี ความดนั ๙.๘ ตรวจดวู า่ หวั ฉีดทำงานไดด้ ีและไม่มั่วมากเกินไป ๙.๙ ตรวจหาการรั่วทที่ ่อ สาย และหวั ต่อต่าง ๆ ส่วนเครอื่ งทำนำ้ ร้อน ๙.๑๐ ตรวจดวู า่ เครอื่ งสบู นำ้ และพัดลมทำงานเปน็ ปกตดิ ี ๙.๑๑ ตรวจหาการรว่ั ทเ่ี คร่อื งสูบนำ้ เคร่ืองกรอง ท่อ ลิน้ และข้อตอ่ ต่าง ๆ ขณะทีส่ วทิ ช์จดุ เช้ือเพลงิ อยทู่ ่ตี ำแหนง่ PURGE ON ดับเคร่อื งเพ่ือแก้ไขเมือ่ ตรวจพบการร่ัว ๙.๑๒ ตรวจดูวา่ เครอื่ งทำงานได้และชที้ ีต่ ำแหนง่ ที่ถูกต้อง ( ดขู ้อ ๘.๑๑ ) ๙.๑๓ ตรวจดูการรวั่ ของท่อน้ำและหัวตอ่ ต่าง ๆ ๙.๑๔ ก่อนจะจดุ ไฟตม้ นำ้ (กดสวิทชจ์ ุดเช้ือเพลงิ ไปที่ตำแหน่ง HEATER ON) ตรวจดูว่าในหมอ้ นำ้ มี นำ้ เตม็ และไหลเวยี น

๑๓๒ ถงั นำ้ ๙.๑๕ ตรวจดูวา่ กรวยผสมไมอ่ ดุ ตนั และทำงานเป็นปกตดิ ี ๙.๑๖ ตรวจหาการร่ัวและการต่อท่อไม่แนน่ หนา ๑๐. การปรนนบิ ัตบิ ำรุงภายหลังการใช้งาน ๑๐.๑ หลอ่ ลื่นลิ้นตา่ ง ๆ เปิดฝาปิดท่อต่าง ๆ เพื่อตรวจดกู ารตกตะกอนหรือการจับแข็งของสาร ทำลายล้างพิษ ทำความสะอาดถ้าจำเปน็ และปิดฝาทอ่ ต่าง ๆ ๑๐.๒ ชำระล้างสารทำลายล้างพษิ ให้หมดไปจากสว่ นเคร่ืองสูบน้ำและส่วนถงั นำ้ ท้ังภายในและ ภายนอก ตรวจหารอยสึกกร่อนหรือการอุดตัน ๑๐.๓ ปิดลิ้นหมายเลข ๑, ๒, ๓ และเปิดลิ้นระบายของเครอ่ื งสูบน้ำ ๑๐.๔ ตรวจหาเศษผงและตะกอนในถังล่อเคร่ืองสบู -ใส่สบู่ ทำความสะอาดถ้าจำเปน็ แล้วจึงปิดล้ิน หมายเลข ๔ ๑๐.๕ อดั ไขขน้ ๑๐.๖ ตรวจนับเครอื่ งมือ ทำความสะอาดและเก็บใหเ้ รียบร้อย ๑๐.๗ ประกอบแผ่นปิดทุกแผ่นเข้าที่เดมิ และคลมุ ส่วนเคร่ืองสูบน้ำด้วยผ้าใบคลุมเครื่อง ๑๑. การตดิ และดบั เครอื่ งยนต์ (ส่วนเครื่องสูบนำ้ ) ๑๑.๑ การล่อเคร่ืองสูบนำ้ และติดเครอื่ งยนต์ ๑๑.๑.๑ ปฏิบัตติ ามการปรนนบิ ัติบำรงุ ก่อนการใชง้ าน (ดูข้อ ๘) ๑๑.๑.๒ ปดิ ลิน้ ทุกล้นิ ๑๑.๑.๓ ต่อท่อและสายต่าง ๆ ตามต้องการ ๑๑.๑.๔ เปดิ ล้ินหมายเลข ๔ เพ่ือใหน้ ้ำจากถงั ล่อเคร่ืองสูบ-ใส่สบไู่ หลเขา้ สู่เครื่องสูบนำ้ ตอ่ ไป จึงเปดิ ลน้ิ ระบายของเครอ่ื งสูบน้ำระบายลมท่ีค้างอย่ใู นเครอ่ื งสบู นำ้ ออก รอจนมีนำ้ ไหลออกมาแลว้ จงึ ปดิ เปดิ ลิ้นอื่น ๆ ของสว่ นเครื่องสูบนำ้ ทจ่ี ำเปน็ สำหรบั การใช้งานในคร้งั นั้น ๑๑.๑.๕ เปดิ ลิน้ เปดิ -ปิดเชอื้ เพลิง ( หมุนทวนเขม็ นาฬกิ า ) จนสดุ ๑๑.๑.๖ ดึงคนั เรง่ ออกมาคร่ึงหน่ึง

๑๓๓ ๑๑.๑.๗ กดปุม่ ชว่ ยติดเครื่องยนต์ไว้ แล้วจึงบดิ ปุม่ ตดิ เคร่ืองยนต์ไปทางขวาท่ีตำแหนง่ “ตดิ เคร่อื ง” (RUN) เมื่อเครื่องยนต์ตดิ แลว้ จงึ ปล่อยมือจากปุ่มตดิ เครื่องยนต์แต่ยังคงกดปุ่มชว่ ยติดเครอ่ื งยนต์อยู่ ระหว่างเขม็ ท่ีหนา้ ปัดเครื่องวัดความดนั ของน้ำมนั หล่อลน่ื จะข้นึ สงู อย่างน้อย ๒๐ ปอนด์ตอ่ ตารางน้ิวจึงจะเลิก กดได้ ๑๑.๑.๘ ปรบั คนั เรง่ (หมุนตามเขม็ นาฬิกา) จนเครอ่ื งยนตท์ ำงานที่ ๓๘๕๐ รอบตอ่ นาที (ดู ทห่ี น้าปัดเครื่องวดั รอบ) ๑๑.๑.๙ ปิดลิ้นหมายเลข ๔ เม่อื ความดันทหี่ น้าปัดเครอ่ื งวดั ความดนั ข้นึ ระหว่าง ๖๐ ถงึ ๑๒๐ ปอนด์ตอ่ ตารางน้ิว (อย่าปิด ลนิ้ หมายเลข ๔ ถ้าใส่สบู่หรือโฟมดบั เพลิงในถังลอ่ เคร่อื งสบู -ใส่บู)่ ๑๑.๑.๑๐ ปฏิบัตติ ามการปรนนบิ ัติบำรุงระหวา่ งการใช้งาน (ขอ้ ๙) ๑๑.๒ การดับเคร่ืองยนต์ ๑๑.๒.๑ เบาเครอื่ ง (หมุนคันเรง่ ทวนเขม็ นาฬิกา) ๑๑.๒.๒ ปดิ ป่มุ ติดเครื่องยนต์ไปทีต่ ำแหนง่ “ดับเคร่ือง” (STOP) ๑๑.๒.๓ ปิดลน้ิ เปดิ -ปดิ เชื้อเพลิง (หมุนตามเข็มนาฬิกา) จนสดุ ๑๑.๒.๔ ปดิ ลิ้นทุกลิน้ ๑๑.๒.๕ ถอดท่อต่าง ๆ ท่ตี อ่ ไว้ ๑๑.๒.๖ ปฏิบตั ติ ามการปรนนบิ ัตบิ ำรุงภายหลงั การใชง้ าน (ดขู ้อ ๑๐) ๑๒. สูบนำ้ จากแหลง่ น้ำธรรมชาตเิ ข้าถังเก็บน้ำ ( รปู ท่ี ๑๐ ) หมายเหตุ อย่าใหส้ ว่ นเครื่องสูบนำ้ สูงกว่าแหลง่ นำ้ เกิน ๔.๕ เมตร และเลือกแหลง่ น้ำทใี่ สสะอาด เทา่ นัน้ ๑๒.๑ ตอ่ ท่อสูบนำ้ เข้ากบั ส่วนเคร่อื งสูบน้ำ ๑๒.๒ ต่อล้ินทอ่ สบู น้ำเขา้ กับปลายอีกดา้ นหนึ่งของท่อสบู น้ำ ๑๒.๓ จ่มุ ล้ินท่อสบู นำ้ ลงในแหลง่ นำ้ (ควรมีกระป๋อง ถัง หรอื เข่ง รองเพ่ือป้องกนั ไม่ใหโ้ คลนและ วัชพชื เข้าไปอุดลนิ้ ท่อสบู นำ้ ) ๑๒.๔ ตอ่ สายผสมสารเขา้ กบั ท่อน้ำออกท่อบนท่ดี ้านหลังของส่วนเคร่ืองสูบนำ้ ๑๒.๕ ต่อปลายอีกด้านหนึ่งของสายผสมสารเข้ากับท่อกวนสารท่ีถังเก็บน้ำแล้วเปิดล้ินหมายเลข ๑ ทสี่ ่วนเครื่องสบู น้ำ

๑๓๔ ๑๒.๖ ตดิ เครอ่ื งสูบน้ำ (ดูขอ้ ๑๑.๑) ๑๒.๗ เม่ือสบู นำ้ เข้าถังได้ในปริมาณทตี่ ้องการแลว้ จงึ ดบั เครื่องสบู น้ำ (ดขู ้อ ๑๑.๒) ถอดล้ินท่อ สบู นำ้ ทอ่ สบู น้ำ และสายผสมสาร เกบ็ เข้าทใี่ ห้เรียบร้อย ๑๓. สูบน้ำจากแหลง่ นำ้ ธรรมชาติเพอ่ื ใช้ฉดี นำ้ หรอื อาบน้ำกำลงั พลโดยไมต่ ้องสูบนำ้ เข้าถังเก็บนำ้ กอ่ น (รปู ที่ ๑๑ ) ๑๓.๑ ปฏิบตั ิตามข้อ ๑๒.๑ ถงึ ๑๒.๓ และองค์ประกอบหวั ฉีดเขา้ กบั สายฉีด ๑๓.๒ เปดิ ล้ินหมายเลข ๑ และ ๒ หรือ ๓ ตามต้องการ ๑๓.๓ ตดิ เคร่ืองสูบน้ำ (ดขู ้อ ๘.๑) ๑๓.๔ ฉีดน้ำและปรับหัวฉีดให้ฉีดเป็นฝอยหรือเป็นลำตามต้องการ หรือต่อสายฉีดเข้ากับที่อาบน้ำ กำลงั พล (ดขู ้อ ๑๖ ) หมายเหตุ ความดันทหี่ น้าปัดเครอื่ งวดั ความดันขณะฉีดนำ้ ควรอย่ใู นระดับ ๑๐๕ ปอนดต์ ่อตารางนว้ิ ๑๔. ทำนำ้ ในถงั เกบ็ น้ำให้ร้อน (รูปที่ ๑๒) ต่อสว่ นเครอื่ งสบู น้ำเขา้ กับสว่ นเครอ่ื งทำนำ้ รอ้ นแบบ เอม็ ๒ ๑๔.๑ ตอ่ สบู นำ้ เข้ากบั ทอ่ น้ำท่ีสวนเครอื่ งสูบนำ้ และข้อต่อของลิน้ ระบายที่ส่วนถงั น้ำ ๑๔.๒ ต่อสายผสมสารเข้ากับท่อน้ำออกท่อล่างที่ส่วนเคร่ืองสูบน้ำและท่อทางเข้าของน้ำท่ีส่วนเครื่อง ทำนำ้ ร้อน ๑๔.๓ เปิดฝาช่องเก็บของที่ด้านบนของส่วนเครื่องทำนำ้ รอ้ นคา้ งไว้ จะพบวา่ มสี ายยาง สายเชื้อเพลิง และสายไฟขดอยู่ ต่อปลายสายยางดา้ นหน่ึงเข้ากับท่อทางออกของน้ำร้อนทใี่ นชอ่ งเก็บของ และต่อปลายสาย ยางอีกดา้ นหนึ่งเข้ากบั ทอ่ คนสารท่สี ่วนถังน้ำ ๑๔.๔ ตรวจดูให้สวิทช์จุดเช้ือเพลิงของเครื่องทำน้ำร้อนอยู่ในตำแหน่ง PURGE ON แล้วจึงนำสาย เชื้อเพลิงจากช่องเก็บของมาต่อเข้ากับท่อเช้ือเพลิงไหลเข้าและท่อเช้ือเพลิงไหลออก ที่ด้านหน้าตอนล่างของ ส่วนเครอ่ื งทำนำ้ รอ้ น ๑๔.๕ นำปลายอีกด้านหน่ึงของสายเชื้อเพลิงต่อเข้ากับถังเช้ือเพลิงขนาด ๒๐ ลิตร หรือภาชนะบรรจุ เช้ือเพลิงแบบอื่น ๑๔.๖ นำสายไฟจากช่องเก็บของไปต่อเข้ากับเต้าเสียบสายไฟท่ีส่วนเครื่องสูบน้ำ ตรวจดูให้สวิทช์ที่ เต้าเสยี บในตำแหน่ง “ปิด” (OFF) และอย่าให้สายไฟพาดบนปล่องไอเสยี ของเคร่ืองทำนำ้ ร้อน

๑๓๕ ๑๔.๗ ตรวจดใู ห้ลิ้นหมายเลข ๒ และ ๓ อยูใ่ นตำแหน่งปิด ๑๔.๘ เปิดลิน้ ระบายนำ้ ที่สว่ นถังเก็บนำ้ ๑๔.๙ ตรวจสอบความถูกต้องในการปฏบิ ตั กิ บั รูปที่ ๑๒ เดินเครอ่ื งทำน้ำร้อนแบบ เอ็ม ๑๒ คำเตอื น - อยา่ เข้าใกล้หรือจบั ปล่องไอเสียของเครือ่ งทำนำ้ ร้อนขณะใชง้ าน เพราะรอ้ นมาก - ขณะใช้เครือ่ งทำนำ้ รอ้ นตอ้ งมเี จา้ หน้าที่ควบคมุ อยู่ตลอดเวลา ๑๔.๑๐ ติดเครื่องสูบนำ้ (ดขู อ้ ๑๑.๑) ๑๔.๑๑ ขณะท่ีสวิทช์จุดเชื้อเพลิงของเคร่ืองทำน้ำร้อนอยู่ในตำแหน่ง PURGE ON โยกสวิทช์ปิด-เปิด กระแสไฟฟา้ ท่ขี า้ งเต้าเสียบสายไฟทแ่ี ผงควบคุมของเคร่ืองสูบนำ้ ไปที่ตำแหนง่ “เปิด” (ON) ๑๔.๑๒ รอ ๒ นาที แล้วจึงโยกสวิทช์จุดเช้ือเพลิงไปท่ีตำแหน่ง HEATER ON จากน้ันให้รีบปรับที่ตั้ง อณุ หภูมิน้ำ เพ่ือใหค้ วามดนั ของน้ำมันเชื้อเพลงิ ซ่ึงแสดงอยู่ ณ หน้าปัดเคร่ืองวัดความดันของน้ำมันเชอ้ื เพลิง อยใู่ นตำแหนง่ ท่ีเหมาะสมกบั ชนิดของนำ้ มนั ท่ีใช้ ดังทีแ่ สดงไว้ในตารางข้างลา่ งนี้ ชนดิ ของน้ำมนั เชื้อเพลงิ ความดนั ทเี่ หมาะสม น้ำมนั แกสโซลีนธรรมดา ๗๕ ปอนด์ / ตารางนว้ิ นำ้ มนั สำหรบั เครอ่ื งยนตก์ ังหัน เกรด เจพี ๔ หรือ ๕ ๗๕ ปอนด์ / ตารางนว้ิ นำ้ มนั กา๊ ด ๗๐ ปอนด์ / ตารางนิว้ น้ำมนั โซลา่ ๖๐ ปอนด์ / ตารางนิว้ ถา้ เครื่องทำความรอ้ นยังไม่ติดภายใน ๑๐ วนิ าที ใหโ้ ยกสวทิ ช์จุดเชอื้ เพลงิ กลบั ไปทต่ี ำแหนง่ PURGE ON แลว้ ตัดกระแสไฟฟ้าโดยโยกสวิทชป์ ิด-เปดิ ที่เตา้ เสียบไปที่ตำแหนง่ “ปิด” ถอดสายไฟออกจากเตจา้ เสียบ และอย่าพยายามตดิ เครื่องทำนำ้ รอ้ นอีก แจ้งข้อขัดขอ้ งใหเ้ จ้าหนา้ ท่ซี ่อมบำรงุ ทราบ ๑๔.๑๓ เม่อื เครื่องทำน้ำรอ้ นตดิ แล้ว รอประมาณ ๕ นาที แล้วจงึ ค่อย ๆ ปรับที่ตง้ั อุณหภูมิน้ำเพื่อให้ ไดน้ ้ำรอ้ นในอุณหภมู ทิ ต่ี ้องการ อย่าใหอ้ ุณหภูมิน้ำร้อนกวา่ ๒๐๐ ํ ฟ. เพราะเคร่ืองจะดับเองโดยอตั โนมัติ

๑๓๖ ดับเครอ่ื งทำนำ้ ร้อนแบบ เอ็ม ๒ ๑๔.๑๔ โยกสวิทชจ์ ดุ เชอ้ื เพลิงไปทีต่ ำแหนง่ PURGE ON เมื่อการเผาไหมส้ ้ินสุดลง รอตอ่ ไปอกี ๒ นาที ๑๔.๑๕ ปล่อยใหน้ ้ำไหลเวียนเข้าออกเคร่อื งทำนำ้ ร้อนอย่างน้อย ๓ นาที หรือจนกวา่ เข็มทห่ี นา้ ปัด เคร่ืองวดั อุณหภูมนิ ำ้ จะชี้ที่ ๑๐๐ ํ (อณุ หภูมขิ องน้ำในหม้อตม้ น้ำ) ๑๔.๑๖ โยกสวิทชเ์ ต้าเสียบไปทตี่ ำแหนง่ “ปิด” (OFF) เพอื่ ตัดกระแสไฟ แล้วจึงถอดสายไฟออกจาก เต้าเสียบและเก็บให้เรียบรอ้ ย ๑๔.๑๗ ถอดและเก็บสายเชื้อเพลงิ ให้เรยี บร้อย ๑๔.๑๘ ดับเครือ่ งสบู น้ำ (ดูข้อ ๑๑.๒) คำเตือน - รอใหป้ ลอ่ งไอเสยี เย็นกอ่ น จงึ นำสายตา่ ง ๆ ไปเกบ็ ในชอ่ งเก็บของ - กอ่ นจะถอดสายผสมสารออก รอให้น้ำในหม้อต้มนำ้ มีอุณหภมู ิ ๑๐๐ ํ ฟ. หรือต่ำกวา่ น้ัน มิฉะนั้นอาจถูกน้ำร้อนลวก ๑๔.๑๙ ถอดสายผสมสารออกจากท่อทางเขา้ ของน้ำ ที่อยดู่ า้ นล่างของส่วนเครื่องทำน้ำร้อน ปล่อยน้ำ ที่คา้ งอย่ใู นหม้อต้มนำ้ ใหไ้ หลออกจนหมดแลว้ จึงปดิ ฝาท่อทางเข้าของน้ำ ๑๔.๒๐ ถอดสายยางออกจากท่อกวนสารท่สี ่วนถงั เก็บน้ำ ยก เก็บไว้ในช่องเก็บของท่ีสว่ นเคร่ืองทำนำ้ รอ้ น ๑๕. สูบน้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติและทำน้ำให้ร้อน (รปู ท่ี ๑๓) สูบนำ้ จากแหลง่ นำ้ ตามธรรมชาติ ๑๕.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อ ๑๒.๑ ถงึ ๑๒.๓ ๑๕.๒ ปฏิบตั ติ ามข้อ ๑๔.๒ ๑๕.๓ เปดิ ฝาชอ่ งเก็บของ ทด่ี ้านบนของส่วนเครื่องทำน้ำรอ้ น ค้างไว้ ๑๕.๔ ตอ่ ปลายสายยางด้านหน่งึ เข้ากับท่อทางออกของน้ำร้อนท่ใี นชอ่ งเกบ็ ของ และตอ่ ปลายสาย ยางอกี ด้านหน่งึ เขา้ กบั ท่อนำ้ ออกท่อบนท่ีส่วนเคร่ืองสบู น้ำ ๑๕.๕ ปฏิบตั ิตามข้อ ๑๔.๔ ถงึ ๑๔.๖ ๑๕.๖ ตรวจสอบความถูกต้องในการปฏบิ ตั กิ ับรูปที่ ๑๓

๑๓๗ ๑๕.๗ ติดเครือ่ งสบู นำ้ (ดขู ้อ ๑๑.๑) เดินเครือ่ งทำนำ้ ร้อนแบบ เอ็ม ๒ ๑๕.๘ ปฏิบตั ติ ามข้อ ๑๔.๑๑ ถึง ๑๔.๑๓ ๑๕.๙ นำ้ ร้อนที่ทำไดน้ ้ีอาจใชส้ ำหรบั การอาบนำ้ กำลงั พลหรือการฉีดชำระลา้ งในการทำลายลา้ งพิษ ทง้ั น้ีโดยเปิดล้ินหมายเลข ๒ หรือ ๓ เพ่ือปลอ่ ยนำ้ ออกทางสายฉีดเส้นล่าง หรือเสน้ บนท่สี ่วนเครอ่ื งสูบน้ำ ดับเคร่อื งทำน้ำร้อนแบบ เอ็ม ๒ ๑๕.๑๐ ปฏบิ ตั ิตามข้อ ๑๔.๑๔ ถึง ๑๔.๑๙ ๑๕.๑๑ ถอดสายยางออกจากท่อนำ้ ออกท่อบนที่ส่วนเครื่องสบู นำ้ แลว้ ขดเก็บไวใ้ นช่องเกบ็ ของทส่ี ว่ น เครอ่ื งทำน้ำร้อน ๑๕.๑๒ ปิดฝาช่องเก็บของ ๑๖. จดั ตั้งที่อาบน้ำกำลงั พล ( รูปท่ี ๑๔, ๑๕ และ ๑๖ ) น้ำท่ีใช้สำหรับอาบกำลังพลอาจมาจากถังเก็บน้ำหรือสูบจากแหล่งน้ำตมธรรมชาติโดยตรง ถ้าต้องการ จะใหก้ ำลังพลอาบนำ้ อนุ่ ให้ใชเ้ ครื่องทำน้ำร้อนแบบ เอ็ม ๒ ( ดูวธิ ีทำนำ้ รอ้ นขอ้ ๑๔ หรือ ๑๕ ) ๑๖.๑ นำชุดท่ีอาบนำ้ กำลงั พลออกจากทเ่ี กบ็ ขา้ งส่วนถังเกบ็ นำ้ วางไว้บนพ้นื ๑๖.๒ นำท่อน้ำ ( มีรูเจาะเป็นคู่ ๆ สำหรับให้น้ำไหล ) จำนวน ๖ ท่อ ( รูปท่ี ๑๔ หมายเลข ๖ ถึง ๑๑ ) มาวางเรยี งกนั ๑๖.๓ นำทอ่ นบนของเสาคำ้ ตน้ สดุ ท้าย (หมายเลข ๑๒) มาตอ่ เข้ากับท่อนำ้ ท่อนสดุ ท้าย (หมายเลข ๑๑) ๑๖.๔ ต่อท่อน้ำหมายเลข ๑๐ เข้ากับปลายหมายเลข ๑๑ แล้วจึงต่อท่อน้ำหมายเลข ๙ เข้ากับ ปลายหมายเลข ๑๐ ๑๖.๕ นำท่อนบนของเสาค้ำต้นกลาง (หมายเลข ๑๖) มาต่อเข้ากบั ปลายท่อน้ำหมายเลข ๙ ๑๖.๖ ต่อท่อน้ำหมายเลข ๘ เข้ากับท่อนบนของเสาค้ำต้นกลาง (หมายเลข ๑๖) แล้วจึงต่อท่อน้ำ หมายเลข ๗ เข้ากบั ปลายหมายเลข ๘ และต่อท่อน้ำหมายเลข ๖ เขา้ กับปลายหมายเลข ๗ ๑๖.๗ นำทอ่ นบนของเสาคำ้ ต้นแรก (หมายเลข ๒๐) มาตอ่ เขา้ กบั ปลายท่อน้ำหมายเลข ๗ ๑๖.๘ ขันเกลียวขาตั้งหมายเลข ๑๔, ๑๘ และ ๒๒ เข้ากับเกลียวของขาต้ังหมายเลข ๑๕, ๑๙ และ ๒๑

๑๓๘ ๑๖.๙ นำขาตัง้ ที่ประกอบกันเข้าเรยี บร้อยแล้วไปต่อเข้ากับเสาค้ำท่อนล่างทั้ง๓ต้น (หมายเลข ๑๓,๑๗ และ ๒๑) ๑๖.๑๐ ต่อเสาค้ำท่อนล่างเข้ากับเสาค้ำท่อนบนท้ัง ๓ ต้น (หมายเลข ๑๓ กับ ๑๒, ๑๗ กับ ๑๖ และ๒๑ กบั ๒๐ ๑๖.๑๑ ยกชดุ ทอ่ี าบนำ้ กำลังพลตงั้ ข้ึน หมนุ ขาตง้ั (หมายเลข ๑๔, ๑๕, ๑๘, ๑๙, ๒๒ และ ๒๓) ๙๐ องศา เพื่อให้ชดุ ท่อี าบน้ำกำลังพลตั้งอยู่บนพืน้ ได้เอง ๑๖.๑๒ นำสายฉีดเสน้ ใดก็ได้จากล้อม้วนสายที่สว่ นเคร่ืองสูบน้ำมาต่อเข้ากับชดุ อาบน้ำกำลังพล ตรวจดู ทอ่ นำ้ ทกุ ท่อให้รนู ำ้ ไหลหนั ลงสู่พื้น ๑๖.๑๓ ถ้าต้องการให้กำลังพลอาบน้ำเย็น ปฏิบัติตามข้อ ๑๙ หรือ ๒๑ (รูปที่ ๙ หรือ ๑๑) ถ้า ตอ้ งการใหก้ ำลงั พลอาบน้ำอนุ่ ปฏิบตั ิตามข้อ ๒๒ หรอื ๒๓ (รปู ที่ ๑๕ หรอื ๑๖) ๑๗. เติม ผสม คนให้เข้ากัน และพน่ สารทำลายลา้ งพษิ STB ๖ รูปที่ ๑๗ และ ๑๘) กล่าวทั่วไป ในการผสมสารทำลายล้างพษิ STB ผสมเปยี กแตล่ ะครงั้ สามารถผสมไดใ้ นปริมาณ ไม่ เกิน ๑๒๐๐ ลติ ร (๓๑๗ แกลลอน) โดยมสี ว่ นผสมดังนี้ นำ้ ๘๕๒ ลติ ร (๒๒๕ แกลลอน) สาร STB แหง้ ๕๔๐ กโิ ลกรัม (๑๓๐๐ ปอนด)์ หรอื ขนาดบรรจุถังละ ๕๐ ปอนด์ จำนวน ๒๖ ถัง สารป้องกนั การแข็งตัวขนาดบรรจถุ ังละ ๑๒.๕ ปอนด์ ๑ ถัง (หรืออาจเติมสารป้องกันการ แข็งตัวในอัตรา ๑ ปอนด์ต่อ STB ๑๐๐ ปอนด์) และสารลดฟอง ๑.๕ ปอนด์ ถ้าต้องการจะผสมสาร ทำลายลา้ งพิษ STB ผสมเปยี กในปรมิ าณน้อยกวา่ ๑๒๐๐ ลติ ร ให้ลดสว่ นผสมตา่ ง ๆ ลงตามอัตราสว่ น ต่อทอ่ และสายตา่ ง ๆ ๑๗.๑ หลังจากเติมน้ำลงในถังตามต้องการแล้ว (ดูข้อ หรือ ) ต่อท่อสูบน้ำเข้ากับท่อน้ำเข้าที่ส่วน เคร่ืองสบู น้ำ และข้อตอ่ ของล้ินระบายนำ้ ที่ส่วนถังนำ้ ๑๗.๒ ต่อสายผสมสารเข้ากบั ท่อนำ้ ออกทอ่ บนท่ีส่วนเคร่อื งสบู นำ้ และทอ่ ผสมสารท่ีกรวยผสมสาร(รูป ท่ี ๑๗) ๑๗.๓ ติดเคร่อื งสบู น้ำ (ดูข้อ ๑๑.๑) และเปดิ ลน้ิ หมายเลข ๑ ไว้ เตมิ สารป้องกันการแข็งตัวและสารลดฟอง หมายเหตุ ถา้ สารปอ้ งกนั การแขง็ ตัวจับกนั เปน็ ก่อน ตอ้ งบใ้ี ห้เปน็ ผงละเอียด ก่อนที่จะผสมลงในนำ้ ๑๗.๔ ใส่สารปอ้ งกนั การแขง็ ตัวและสารลดฟองลงในกรวยผสมสาร

๑๓๙ ๑๗.๕ ปล่อยให้น้ำทีผสมสารท้ังสองลงไปแล้วไหลเวียนอย่างน้อย ๓ นาที เพ่ือให้สารป้องกันการ แขง็ ตัวละลายหมด เตมิ สารทำลายลา้ งพษิ STB และผสมใหเ้ ขา้ กบั น้ำ หมายเหตุ เปิดถัง STB เตรยี มไว้กอ่ น คำเตอื น เจา้ หนา้ ทจ่ี ะต้องสวมใส่ชดุ เครือ่ งแต่งกายป้องกนั และหน้ากากป้องกันขณะปฏิบัตงิ าน ๑๗.๖ บี้ STB ท่ีจับตัวกันเป็นก่อนให้แหลกเสียก่อน เพื่อป้องกันไมใ่ ห้ท่อเกินการอุดตัน และเพื่อให้ ละลายน้ำได้ดี ๑๗.๗ เท STB จากถังลงในกรวยผสมสาร ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องกันจนกว่า STB จะหมด อย่าให้ STB ในกรวยผสมสารหมดก่อนจะเติมถังใหม่ ต้องมี STB อยู่ในกรวยผสมสารเสมอ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการ ผสม คำเตอื น เมอื่ ผสม STB สารป้องกนั การแข็งตัว สารลดฟอง และน้ำจนเข้ากันดแี ล้ว จะมลี ักษณะเป็น อนุภาคแขวนลอย ซึ่งจะตกตะกอนนอนก้นถ้าไม่คนให้เขา้ กันอยูต่ ลอดเวลา คนสารทำลายล้างพษิ ใหเ้ ขา้ กัน ๑๗.๘ ขณะท่ีเครื่องสูบน้ำยังทำงานอยู่ ปิดลิ้นหมายเลข ๑ ตรวจดูว่าล้ินปิดสนิทหรือไม่โดยการดู ระดับสารทำลายล้างพิษในส่วนถังน้ำ ถ้าล้ินปิดสนิทแลว้ ระดับสารทำลายล้างพษิ ในถังจะเพ่ิมข้ึน ซ่ึงจะดูได้ท่ี ทวี่ ัดระดบั ของเหลวในกรวยผสมสาร ๑๗.๙ ถอดสายผสมสารออกจากท่อผสมสารท่กี รวยผสมสาร แลว้ นำไปต่อที่ท่อกวนสารทดี่ ้านบนของ ส่วนถงั นำ้ (รปู ที่ ๑๘) ๑๗.๑๐ เปิดล้ินหมายเลข และคนสารทำลายล้างพิษให้เข้ากันนานอย่างน้อย ๑๕ นาที ก่อนจะนำไป ใช้ โดยปรับความเร็วของเครอื่ งสูบน้ำที่ ๓๘๕๐ รอบตอ่ นาที ตรวจดคู วามดนั ท่ีหนา้ ปัดเคร่ืองวดั ความดัน ใหไ้ ด้ประมาณ ๑๐๕ ปอนด์ตอ่ นารางน้วิ คนสารทำลายลา้ งพิษไปเร่ือย ๆ จนกวา่ จะใช้ พ่นสารทำลายล้างพิษ ๑๗.๑๑ เปิดลิน้ หมายเลข ๒ หรอื ๓ หรอื ทั้งสองลิน้ ตามตอ้ งการถ้าจะใชส้ ายฉีดพร้อมกนั ทั้ง ๒ สาย ๑๗.๑๒ ลากสายฉีดออกจากล้อม้วนสาย โยกคันโยกขององค์ประกอบหัวฉีดไปข้างหน้า (ทวนเข็ม นาฬิกา) ปรับหัวฉีดให้พ่นเปน็ ฝอยตามต้องการ ความดนั ที่หน้าปัดเครื่องวัดความดนั ขณะพน่ สารทำลายลา้ ง พิษควรอยู่ในระดับประมาณ ๑๐๕ ปอนด์ตอ่ ตารางน้วิ

๑๔๐ ๑๗.๑๓ พ่นยุทโธปกรณ์ ๑๗.๑๓.๑ พน่ จากดา้ นบนลงล่าง ใหค้ วามสนใจกบั บรเิ วณท่มี ดี ินหรอื ส่งิ สกปรกติดอยู่ ๑๗.๑๓.๒ พ่นบริเวณท่ีต้องจบั อยู่เสมอ เชน่ มอื จับประตู พวงมาลยั เบาะนง่ั คันโยกและ เครื่องมือ ๑๗.๑๔ พน่ พืน้ ท่ี หมายเหตุ การทำลายลา้ งพิษพื้นท่ีโดยการพ่นสารทำลายล้างพิษเปน็ การส้นิ เปลอื งวสั ดุ แรงงาน และเวลามาก ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แลว้ ควรใชว้ ิธีทำลายล้างพิษวิธอี น่ื ๑๗.๑๔.๑ พน่ ละออง ใส่พ้ืนอยา่ งสมำ่ เสมอ โดยพน่ เป็นบรเิ วณกว้างประมาณ ๒ เมตร ๑๗.๑๔.๒ อัตราการใช้ ชนดิ ของผิวพนื้ พ้ืนทค่ี รอบคลมุ ได้ พนื้ ที่ครอบคลมุ ได้ ถนนคอนกรตี (เรยี บ) ต่อสาร ๑ แกลลอน ตอ่ สารทง้ั ถัง ๓.๗๕ ตร.เมตร ๙๙๓ ตร.เมตร ถนนลาดยางหรอื โรยกรวด ๑.๘ ตร.เมตร ๔๙๗ ตร.เมตร สนามหญ้า ๑.๒ ตร.เมตร ๓๓๙ ตร.เมตร ทุ่งหญ้าหรอื มพี ุ่มไม้ ๐.๘๔ ตร.เมตร ๒๒๖ ตร.เมตร ๑๗.๑๕ ภายหลงั การพน่ สารทำลายล้างพษิ ดงั เคร่ืองสบู นำ้ ( ข้อ ๑๑.๒ ) และปฏบิ ตั ติ าม วิธีปรนนิบัติบำรงุ ภายหลงั การใช้งาน (ข้อ ๑๐) ๑๘. เตมิ และพ่นสารทำลายล้างพิษอนื่ โซเดยี ม ไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) คำเตอื น เจา้ หนา้ ท่ีจะต้องสวมใส่ชดุ เคร่อื งแต่งกายป้องกนั แบบอากาศผา่ นไม่ได้ และหนา้ กาก ปอ้ งกันขณะปฏบิ ัติงาน ๑๘.๑ เตมิ นำ้ ใสถ่ ัง ๓๕๐ แกลลอน (ดขู ้อ ๑๒ หรอื ๑๔) ๑๘.๒ ต้มนำ้ ให้ร้อน ๑๕๐ ํ - ๑๗๐ ํ ฟ. (ดูขอ้ ๑๖) แล้วถอดเคร่อื งต้มน้ำออก

๑๔๑ ๑๘.๓ เตมิ โซเดยี ม ไฮดรอกไซด์ ๑๗๕ ปอนด์ (๐.๕ ปอนด์ต่อนำ้ ๑ แกลลอน) ลงในนำ้ รอ้ น (ปฏิบตั ติ ามจอ้ ๑๗.๑, ๑๗.๒, ๑๗.๓ และ ๑๗.๗) ซงึ่ จะใชเ้ วลาประมาณ ๓๕-๔๐ นาที ๑๘.๔ ถ้ายังไมใ่ ชท้ ันทีที่ผสมเสรจ็ จะตอ้ งคนให้เข้ากันอยา่ งน้อย ๕ นาที กอ่ นนำไปใช้ (ปฏิบัตติ ามข้อ ๑๗.๘ – ๑๗.๑๒) ๑๘.๕ ดบั เครอื่ งสูบน้ำ (ดูข้อ ๑๑.๒) และปฏิบตั ิตามวธิ ีปรนนบิ ตั บิ ำรุงภายหลงั การใชง้ าน (ดูขอ้ ๑๐) โซเดียม คาร์บอเนต (โซดาแกซ) ๑๘.๖ ปฏบิ ตั ิเหมอื นข้อ ๑๘.๑ – ๑๘.๕ ผิดกนั แตใ่ ช้น้ำ ๔๐๐ แกลลอน ทำให้ร้อน ๗๕ ํ ฟ. ใช้ โซเดยี ม คาร์บอเนต ๑๐๐ ปอนด์ (๐.๒๕ ปอนดต์ ่อนำ้ ๑ แกลลอน) และคนใหเ้ ขา้ กนั อยา่ งน้อย ๓ นาทีก่อนนำไปใช้ แคลเซียม ไฮโปคลอไรท์ (HTH) ๑๘.๗ ปฏิบตั เิ หมือนข้อ ๑๘.๑ – ๑๘.๕ ผดิ กนั แตเ่ ดมิ โซเดยี มคารบ์ อเนตลงไปด้วย ๒๕๐ ปอนด์ และคนใหเ้ ข้ากนั อย่างน้อย ๓ นาที กอ่ นนำไปใช้ ๑๙ เตมิ สบู่เหลวและพ่นนำ้ สบู่ร้อน (รปู ท่ี ๑๙ และ ๒๐) ๑๙.๑ เติมน้ำใส่ถงั ๔๔๗ แกลลอน (ดขู อ้ ๑๒ หรือ ๑๔) ๑๙.๒ ตม้ นำ้ ใหร้ อ้ นประมาณ ๙๐ ํ ฟ. (ดูข้อ ๑๖) แล้วถอดเครื่องต้มออก ต่อท่อและสายสำหรับการ ฉดี น้ำ (ดขู ้อ ๑๓.๑ – ๑๓.๒) ๑๙.๓ เตมิ สบเู่ หลว ๐.๖ ลติ ร ลงในถังลอ่ เคร่ืองสบู – ใส่สบู่ แลว้ เตมิ น้ำให้เตม็ ๑๙.๔ เปิดลิน้ หมายเลข ๑ และล้นิ หมายเลข ๒ หรือ ๓ หรอื ทัง้ สองลน้ิ ถา้ ต้องการจะใช้สายฉีดพรอ้ ม กนั ทเี ดยี ว ๒ เส้น ๑๙.๕ ติดเคร่ืองสูบนำ้ (ดูข้อ ๑๑.๑) เมื่อเคร่ืองตดิ แล้วจงึ เปิดล้ินหมายเลข ๔ เลก็ นอ้ ย เพ่ือเติมสบู่ ลงไปในนำ้ ที่ฉีด ๑๙.๖ ฉีดนำ้ สบรู่ อ้ น (ดูร้อน ๑๖.๑๒) ๑๙.๗ เมือ่ เสรจ็ ดับเครื่องสูบนำ้ (ดูข้อ ๑๑.๒)

๑๔๒ ๒๐. เตมิ โฟมและฉดี โฟมดับเพลงิ ๒๐.๑ เติมนำ้ ใสถ่ งั ๔๔๗ แกลลอน (ดูขอ้ ๑๒ หรือ ๑๔) ๒๐.๒ ตอ่ ท่อและสายสำหรบั การฉดี นำ้ (ดูข้อ ๑๓.๑-๑๓.๒) ๒๐.๓ เตมิ โฟมเขม้ ข้นใหเ้ ต็มถังต่อเคร่ืองสบู -ใสส่ บู่ (๓๘ ลติ ร หรือ ๑๐ แกลลอน) ๒๐.๔ นำหัวฉดี ไฟจากชอ่ งใสเ่ คร่ืองมือมาตอ่ กบั สายฉีดเสน้ บนหรือเส้นลา่ งตามต้องการ ๒๐.๕ เปิดลอน้ หมายเลข ๑ และลิ้นหมายเลข ๒ หรอื ๓ ๒๐.๖ เปิดลิน้ หมายเลข ๔ ครึ่งหน่ึง ๒๐.๗ เปดิ ลน้ิ ระบายน้ำของส่วนถงั น้ำโดยหมนุ มือหมนุ ทวนเข็มนาฬกิ า ๕ รอบ ๒๐.๘ ติดเครอื่ งสูบนำ้ (ดูข้อ ๑๑.๑) ๒๐.๙ โยกคนั โยกท่หี วั ฉดี โฟมเพ่ือพ่น โฟมที่พ่นออกมาควรมีลกั ษณะข้นพอสมควรและเปน็ ฟองปรับ ส่วนผสมให้ไดท้ โี่ ดยการปดิ หรือเปดิ ลิ้นระบายน้ำของสว่ นถงั ทลี ะ 1 รอบ 4 ๒๐.๑๐ พ่นโฟมท่ฐี านของเพลิงกอ่ น แล้วจงึ พน่ ให้โฟมปกคลุมท่วั บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ๒๐.๑๑ เมอ่ื เสรจ็ กบั เครื่องสูบน้ำ (ดูขอ้ ๑๑.๒) และปฏิบัตติ ามวิธปี รนนิบตั ิบำรงุ ภายหลังการ ใช้งาน (ดูขอ้ ๑๐) เครื่องทำควนั ABC M๓ A๓ เครอ่ื งทำควันแบบ ABC M3A3 น้ีสามารถปฏิบัตกิ ารบนพ้ืนดินหรอื ติดตงั้ บนยานพาหนะ สามารถยก เคล่ือนที่ได้คนสองคน กองร้อยเครื่องทำควันตามที่ได้จัดไว้จะมีเคร่ืองทำควัน M3A3 ๔๘ เคร่ือง หนึ่ง กองร้อยเคร่ืองทำควันสามารถทำกลุ่มควันกำบังได้เป็นระยะกว้างด้านหน้า ๑ – ๘ กม. และความยาวหลาย กิโลเมตร นน.ไมร่ วมชดุ บรกิ าร = ๗๓ กก. นน.รวมชุดบรกิ าร = ๙๒ กก. ความสิ้นเปลอื งนำ้ มนั เชือ้ เพลิง = ๑๒ ลิตร/ชว่ั โมง ๑๒ ลติ ร/ชว่ั โมง (ตามปกติ ๑๖๐ แกลลอน/ชัว่ โมง) ความจถุ งั เช้ือเพลงิ = ๑๔ ลิตร

๑๔๓ ก. องค์ประกอบ เคร่ืองทำควันแบบ M3A3 ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๖ ส่วน คือ สว่ นเคร่ืองยนต,์ สว่ นนำ้ มันเชอ้ื เพลงิ , สว่ นติดเครอ่ื ง, ส่วนชนิ้ ส่วนนำ้ มันหมอก และส่วนเคร่อื งฐาน ๑. สว่ นเคร่ืองยนต์ ส่วนประกอบหลักของส่วนเคร่ืองยนต์น้ันคือ หัวเคร่ืองยนต์ ท่อเครื่องยนต์, เรือนปิด ทอ่ เครอื่ งยนต,์ เปลอื กคลุมเครือ่ งดา้ นนอก, ฝาปิดเครอื่ งดา้ นหนา้ และชุดแผงกันไอ ก) ชดุ หัวเคร่ืองยนต์ประกอบด้วยหัวเคร่ืองยนต์และข้อต่อเกลียว, ล้ินเครื่องยนต์และ หวั นอ๊ ต ๑) ในส่วนเครื่องยนต์น้ันมีลิ้นเครื่องยนต์เพียงส่วนเดียวท่ีเคลื่อนไหว ลิ้น เครื่องยนต์น้ีลักษณะเป็นแผ่น กลมแบนคล้ายดอกไม้ มีกลีบอยู่ ๑๖ กลีบ ซึ่งกลีบเหล่านั้นจะปิดตรงกับรู ช่องอางอากาศข้าวของหัวเครื่องยนต์ ๑๖ รู และจะกระพือปิดเปิดในขณะท่ีทำงาน ลิ้นเคร่ืองยนต์ทำด้วย แผ่นโลหะสปรงิ และประกอบติดแน่นกับหวั เครือ่ งยนต์ด้วย แผ่นบงั คบั ลิ้นแหวนรองแผ่นบังคับและสลักเกลียว ปล่อย ๒) หัวฉีด เป็นตัวฉีดน้ำมันผสมกับอากาศเข้าไปในห้องของตัวเครื่องยนต์ ประกอบด้วยท่อพ่นอากาศ, นมหนูหัวฉีด และตัวเรือนหัวฉีดท่ีมีรูฉีดน้ำมัน ๓ รู ท่ออ่อนอากาศจะได้รับ อากาศที่มีแรงดนั จากปัมพ์อากาศเพ่ือทำใหเ้ กดิ ส่วนผสมระหวา่ งน้ำมันกับอากาศสำหรับในการจุดระเบดิ ขั้นต้น หลงั จากนน้ั อากาศจะถกู ดดู เข้าไปโดยปฏกิ ริ ิยาในห้องเผาไหม้ ข) ท่อเครอ่ื งยนต์รูปร่างลักษณะคล้ายกับแตรทรอมโบน ซงึ่ ทำหน้าท่ีเป็นห้องเผาไหม้ และเปน็ ทอ่ คลายแกสทีเ่ กิดจากการเผาไหม้ ค) เรือนปดิ ทอ่ เครื่องยนต์ เปลือกคลุมเครอ่ื งดา้ นนอก ฝาปดิ เครอื่ งดา้ นหน้าและชุดแผ่น กนั ไอทำหน้าท่ปี ดิ คลุมปอ้ งกนั ทอ่ เครื่องยนต์ และเปน็ หอ้ งเกบ็ ไอกับตลอดจนเปน็ ที่ปล่อยไอดว้ ย ง) หน้าทก่ี ารทำงานของสว่ นเครอื่ งยนต์ การติดเคร่ืองทำควันนี้เร่ิมติดด้วย คีมชักแมกนิโต-อากาศอัดจากการชัก และ ผลักดันแมกนิโต – อากาศอัดนี้ ปัมพ์อากาศจะทำให้ส่วนผสมของน้ำมันอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ ขณะเดียวกันแมกนิโตจะทำให้เกิดประกายไฟข้ึนที่หัวเทียนในห้องเผาไหม้ด้วยก็จะทำให้เกิดการจุดระเบิดใน หอ้ งเผาไหม้ขึ้น แรงดันท่ีเกิดจากการจุดระเบิดจะทำให้แผ่นล้ินปิดและเม่ือแกสท่ีเกิดจากการจุด ระเบิดขยายตัวเคล่ือนที่ห่างจากแผ่นลิ้นออกไปทางท่อคลายแกส ทำให้แรงดันตรงแผ่นลิ้นลดลงเป็นเหตุให้ อากาศภายนอกไหลผ่านเข้าไปในห้องเผาไหม้อากาศที่ผ่านเข้าไปในห้องเผาไหม้จะถูกน้ำมันออกทางปลาย หัวฉีดผสมกับอากาศ ส่วนผสมน้ำมันกับอากาศที่เข้าไปแทนท่ีใหม่น้ีจะจุดระเบิดตัวเองด้วยความร้อนจากการ

๑๔๔ จุดระเบิดคร้ังก่อนภายในห้องเผาไหม้ จังหวะรอบของการจุดระเบิดจะเกิดข้ึนประมาณ ๖๐ ครั้ง / วินาที ดงั น้ันสว่ นเคร่ืองยนตจ์ ะทำให้เกดิ ขัน้ ตอนดังต่อไปนี้ ๑) ทำให้เกิดแรงดูดท่ีทำให้ลิ้นเปิดและส่วนผสมน้ำมันกับอากาศไหลเข้าไปใน หอ้ งเผาไหม้ ๒) ทำใหเ้ กดิ ความร้อนทจ่ี ะทำใหน้ ้ำมันหมอกคลายเปน็ ไอ ๓) ทำให้เกดิ แรงดันเพอื่ ขับมอเตอรล์ มสำหรับดดู น้ำมันหมอก ๔) ทำใหเ้ กิดแรงผลกั ใหไ้ อน้ำมันหมอกออกสูบ่ รรยากาศ ๒. สว่ นนำ้ มนั เช้อื เพลิง ก) ส่วนน้ำมันเช้ือเพลิงประกอบด้วยถังน้ำมันเช้ือเพลิงและชุดห้องลูกลอย ที่ขาจับ ห้องลูกลอยทำเป็นแบบห่วงแผนและทำหน้าท่ีเป็นตัวกันความร้อนกับสามารถปรับระดับห้องลูกลอยได้เพ่ือให้ ไดร้ ะดับนำ้ มนั ให้สมั พนั ธก์ ับหวั เคร่อื งยนต์ ข) หน้าท่ีการงาน การไหลของน้ำมันจะไหลแรงดึงดูดของโลกหรือด้วยน้ำหนักของ ตัวมันเองจากถังน้ำมนั เช้ือเพลิงซึ่งอยู่ตอนบนโดยไหลผ่านลนิ้ ปิดเปดิ ท่อนำ้ มนั ผ่านกรองน้ำมันเชื้อเพลงิ และท่อ น้ำมันเข้าสู่ห้องลูกลอย ลูกลอยในห้องลูกลอยจะทำหน้าท่ีรักษาระดับน้ำมันให้พอเหมาะกับนมหนูในหัวฉีด ตามปกตแิ ลว้ ระดบั น้ำมันในห้องลูกลอยจะต่ำกว่าศูนย์กลางของนมหนูในหวั ฉดี ๓.๒ – ๖.๔ มม. ( 1 - 1 “) 84 ๓. สว่ นตดิ เครอื่ งยนต์ ก) ส่วนตดิ เคร่ืองยนต์ประกอบดว้ ยระบบจุดระเบิดและระบบอดั อากาศเบ้ืองตน้ ๑) ส่วนประกอบสำคัญของระบบจุดระเบิด ได้แก่ แมกนิโต, หัวเทียนขนาด ๑๔ มม. และสายหวั เทียน ๒) ระบบอัดอากาศเบื้องต้น ประกอบด้วยปัมพอ์ ากาศ, เรือนปัมพอ์ ากาศและ สายอากากาศอัด ข) หน้าที่การทำงานของส่วนติดเคร่ืองยนต์,ระบบจุดระเบิดจะทำให้เกิดประกายไฟ ทางไฟฟา้ ข้นึ ซึ่งจำเป็นสำหรบั การเร่ิมติดเครอ่ื งของเครือ่ งยนตฟ์ ลั สเ์ จต ระบบอดั อากาศเบ้ืองต้นทำ ให้เกิดแรงพ่นของอากาศตอนแรกเข้าสู่ห้องเผาไหม้ซ่ึงจะเป็นเหตุให้น้ำมนั พ่นออกจากหัวฉีดผสมกับอากาศเข้า ไปดว้ ย

๑๔๕ ๔. สว่ นปมั พ์ ก) สว่ นปัมพ์ประกอบด้วยมอเตอรล์ มและปัมพ์น้ำมันหมอก ๑) มอเตอร์ลมแผ่นล้ินเล่ือนและลูกสูบคล้ายกับเคร่ืองจักรไอน้ำ ซึ่งจะทำงาน ด้วยแรง .๔๒ - .๖๓ กก. / ซม. ด้วยแรงดนั ทไ่ี ด้รับจากหอ้ งเผาไหม้ ๒) ปัมพน์ ำ้ มนั หมอกประกอบด้วยลูกสบู ทมี่ ีแกนต่อตดิ กบั ลูกสูบของมอเตอร์ลม ข) หนา้ ทกี่ ารทำงานของสว่ นปมั พ์ แรงดันของแกสท่ีเกิดจากการเผาไหม้จะถูกส่งไปทางท่อความดันเข้าไปยังมอเตอร์ ลม ดันท่อล้ินและลูกสูบสลับกันทำให้ลูกสูบในมอเตอร์ลมเคลื่อนที่ขณะที่ลูกสูบลมเคลื่อนที่ก็จะทำให้ลูกสูบ ในปัมพน์ ้ำมันหมอกเคล่ือนท่ีด้วยปฏิกิริยาท่ีลูกสูบในปัมพ์น้ำมันหมอกเคลื่อนท่ีจะทำให้เกิดแรงดูดน้ำมันหมอก จากถังน้ำมันหมอกและดันน้ำมันหมอกนั้นเข้าไปในท่อน้ำมันหมอกผ่านล้ินควบคุมน้ำมันหมอกเข้าไปในท่อ เครอื่ งยนต์ซง่ึ จะเกิดเป็นไอเมอื่ รวมตัวกับแกสทเ่ี ผาไหม้ ๕. สว่ นนำ้ มันหมอก ก) ส่วนน้ำมันหมอกปรกอบด้วยสายดูดน้ำมันหมอก, สายปล่อยน้ำมันกลับ, ท่อ ทางเดนิ นำ้ มันหมอก, ท่อความดนั และล้นิ ควบคมุ นำ้ มันหมอก ๑) สายดูดน้ำมนั หมอกเป็นสายอ่อนเวลาใช้จะใส่ลงไปในถังน้ำมันหมอกเพื่อดูด นำ้ มนั หมอกเขา้ ปัมพ์ ๒) ล้นิ ควบคุมนำ้ มันหมอกติดต้ังอยตู่ รงตอนตัวเครื่อง ใช้สำหรับควบคุมการไห ของนำ้ มนั หมอกไปยงั ท่อเคร่ืองยนต์ ๓) ทอ่ ปล่อยนำ้ มนั กลับ เป็นท่อทางเดินน้ำมันท่ีเกิดจากที่ควบคุมโดยใช้ในการ หลอ่ ล่นื มอเตอรล์ ม และไหลกลับลงถังน้ำมันหมอก ๔) ท่อความดันจะได้รบั แกสท่ีมีความดันจากห้องเผาไหม้ เพื่อส่งไปยังมอเตอร์ ลม ๕) หน้าท่ีการทำงานของสว่ นน้ำมันหมอกนี้ ทำหน้าท่ีเป็นทางเดินน้ำมันหมอก และควบคมุ การไหลของนำ้ มันหมอกทเี่ ขา้ ไปในห้องเผาไหม้

๑๔๖ ๖. ส่วนโครงฐาน ก) ส่วนโครงฐานประกอบด้วยทอ่ โลหะกลวง เชือ่ มติดกันเปน็ โครงและกลอ่ ง ๑) โครงฐานท่ีเป็นท่อโลหะกลวงน้ีจะมีด้ามถือสำหรับใช้ยกเคลื่อนท่ีอยู่ ๔ ด้าน ซ่งึ สามารถยกเคล่อื นทไี่ ดด้ ้วยคนสองคน ๒) กลอ่ งเครอ่ื งมือใชบ้ รรจชุ ิน้ ส่วนซอ่ มตามทอ่ี นุมัติและเครื่องมือ ข) สว่ นโครงฐานน้ีเป็นสว่ นที่ใชร้ องรับหรือติดต้งั สว่ นอื่น ๆ หา้ สว่ นตามทกี่ ลา่ ว มาแล้ว ข. การทำใหเ้ กดิ ควนั นำ้ มันหมอกจะถกู ฉีดเขา้ ไปในท่อคลายแกสของเคร่ืองยนต์พัลสเ์ จตแกสทเี่ กดิ จากการ เผาไหม้จะทำให้น้ำมันหมอกกลายเป็นไอและขับไอนั้นออกสู่บรรยากาศเมื่อไอน้ำมันหมอกกระทบกับความเย็น ภายนอกจะควบแนน่ กลายเป็นควันขาวทีเ่ ป็นละอองเล็ก ๆ (ละอองหนงึ่ ประมาณ ๑ ไมครอน) เช่นเดียวกับการเกิดหมอกโดยท่ัวไปก็เกิดจากละอองเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจายและสะท้อนแสง ทำใหเ้ กดิ เป็นควันขาวข้นึ ค. เคร่ืองควบคมุ และเคร่อื งฉีด ๑. ล้ินระบายความดัน (ปัมพ์น้ำมันหมอก) ติดต้ังอยู่ทางด้านหลังของมอเตอร์ลม ใช้ สำหรบั เปิดและปดิ การทำงานของมอเตอร์ลม ๒. ลิ้นควบคุมน้ำมันหมอกติดตั้งอยู่บนท่อน้ำมันหมอกอยู่เหนือห้องลูกลอยตอนหน้าของ เครื่องใช้ควบคมุ การไหลของนำ้ มันหมอกและความหนาแนน่ ของควนั ๓. ล้นิ ปดิ เปิดท่อน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งใตถ้ ังน้ำมนั เชื้อเพลิงใช้สำหรับเปิดหรือปิดการไหลของ น้ำมันเชือ้ เพลงิ ลงไปยังห้องลกู ลอย ๔. ปุ่มช่วยเร่งน้ำมัน ติดต้ังอยู่ตอนบนของห้องลูกลอย โดยการกดและปล่อยปุ่มนี้สลับกัน จะทำให้จำนวนน้ำมันน้ีไหลไปยงั หวั เคร่อื งยนตเ์ พิม่ ข้นึ ๕. เข็มลิ้นปรับน้ำมันติดต้ังอยู่ใต้ห้องลูกลอย ใช้สำหรับควบคุมการไหลของน้ำมันไปยัง เครอ่ื งยนต์และควบคมุ อตั ราเร่งของเครือ่ งยนต์ดว้ ย