Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

Description: สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

Search

Read the Text Version

สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอกาแพงแสน จงั หวดั นครปฐม



สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ช น นี พัน ปี ห ล ว ง เ ป็ น ส ม เ ด็จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ ใ น พระบาทสมเด็จพระมหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร (รชั กาลที่ 9) เป็นสมเดจ็ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง ใน พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั (รชั กาลที่ 10) และโดย พระชนมพรรษาจึงนับเป็นพระกลุ เชษฐ์ พระองคป์ ัจจบุ นั ในพระ บรมราชจกั รีวงศ์ (พระบรมวงศท์ ่ีทรงดารงฐานะสงู สดุ โดยพระ อิสริยยศ คือพระบรมวงศท์ ี่ทรงดารงพระอิสริยยศสูงสุด ซ่ึงจะ หมายถึงพระมหากษัตริยเ์ สมอ และ โดยพระชนมายุ คือพระ บรมวงศท์ ่ีมีพระชนมายสุ งู สดุ )

เน่ืองจากสมเดจ็ พระนางเจ้า สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พ ร ะ บ ร ม ร า ช ช น นี พัน ปี หล วง เป็ นผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ ขณะท่ี พระบาทสมเดจ็ พระมหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร พระราชสวามี ครงั้ เสดจ็ ออกผนวช ระหว่าง วนั ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 พระองค์จึงได้รบั การสถาปนาขึ้นเป็ น สมเดจ็ พระ นางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินี นาถ ณ วนั ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ในปี เดียวกันนั้น ถือได้ว่าเป็ น “สมเด็จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ ” พ ร ะ อ ง ค์ ท่ี ส อ ง แ ห่ ง ก รุ ง รตั นโกสินทร์ ถดั จากสมเดจ็ พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ในรชั กาลท่ี 5 (ภายหลงั คือ สมเด็จ พระศรีพชั รินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง)

ในกาลต่อมา พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั พระ เจ้าแผ่นดินรชั กาลท่ี 10 ของไทย สืบราชบลั ลงั ก์ต่อจาก พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รชั กาลที่ 9) ในพระราชพิธี บรมราชาภิเษก ณ วนั ที่ 5 พฤษภาคม 2562 ได้มีพระบรม ราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เฉลิมพระ นามาภิไธย สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ เป็ น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระ บรมราชชนนีพนั ปี หลวง

พระราชประวตั ิ สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง

สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพนั ปี หลวง พระนามเดิม หม่อมราชวงศส์ ิริกิต์ิ กิ ติยากร ทรงเป็ นพระธิดาองค์ที่ ๓ ของหม่อมเจ้านักขตั รมงคล กิติยากร (ภายหลงั ได้รบั พระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็ น พลเอกพระวรวงศเ์ ธอ กรมหมื่นจนั ทบุรีสุรนาถ) กบั หม่อมหลวงบวั กิติยากร (สกลุ เดิม สนิ ทวงศ์) เสดจ็ พระ ราชสมภพเมื่อวนั ศกุ รท์ ่ี 12 สิงหาคม พทุ ธศกั ราช 2475 ที่ บ้านพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพนั ธ์ (หม่อมราชวงศ์ส ท้าน สนิ ทวงศ์) ผู้เป็ นบิ ดาของหม่อมหลวงบัว ณ บ้านเลขท่ี 1808 ถนนพระรามหก ตาบลวงั ใหม่ อาเภอ ป ทุ ม วัน จัง ห วัด พ ร ะ น ค ร โ ด ย พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็จ พระปกเกล้าเจ้าอย่หู วั ได้รบั พระราชทานนามว่า “สิริกิต์ิ” มีความหมายว่า “ผเู้ ป็นศรีแห่งกิติยากร”

การศึกษา พ.ศ. 2479 เม่ือหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิ ทรงมีอายุได้ 4 ชันษา ก็ได้เข้ารับการศึกษาคร้ังแรกในช้ันอนุบาลที่โรงเรียน ราชินี ทว่าในขณะน้ัน แม้เหตุการณ์ด้านการเมืองภายในประเทศ ไทยจะสงบลง แต่สถานการณ์ระหว่างประเทศกไ็ ม่สงบ กล่าวคอื ส ง ค ร า ม ม ห า เ อ เ ชี ย บู ร พ า เ ริ่ ม แ ผ่ ข ย า ย ม า ถึ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศหลายคร้ังจนการคมนาคม ไม่สะดวก พระบิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิย้ายไปเรียนท่ี โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังพระ บิดา ได้เรียนท่ีนั่นต้ังแต่ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 จนถึงช้ัน มัธยมศึกษา หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิได้เริ่มเรียนเปี ยโน ซ่ึง เรียนได้ดีและเร็วเป็ นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาภาษาอังกฤษ และภาษาฝร่ังเศสซึ่งทรงสันทดั เช่นกนั

พ.ศ. 2489 คร้ันเมื่อสงครามโลกคร้ังที่สองสงบลง หม่อมเจ้า นักขัตรมงคลต้องเสด็จไปดารงตาแหน่งอัครราชทูตผู้มีอานาจ เต็มประจาสานักเซนต์เจมส์ ประเทศองั กฤษ ท้ังนีโ้ ดยได้ทรงพา ครอบครัวท้ังหมดไปอยู่ด้วย ในเวลาน้ันหม่อมราชวงศ์หญิง สิริกติ ์ิ มอี ายุได้ 13 ปี เศษ และเรียนจบช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 แล้ว ขณะที่อยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิได้ ศึกษาต่อท้ังวิชาภาษาอังกฤษและฝร่ังเศส และวิชาเปี ยโนกับครู พเิ ศษ หลงั จากน้ันไม่นาน พระบดิ าย้ายไปประเทศเดนมาร์กและ ฝร่ังเศสตามลาดับ ขณะท่ีหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิก็ยังคงเรียน เปี ยโนและต้ังใจจะศึกษาต่อในวิทยาลัยการดนตรีที่มีชื่อเสียง ของกรุงปารีสจนจบ ระหว่างท่ีอยู่ในประเทศฝรั่งเศส หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิ ได้มีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอ ดุลยเดช (ขณะน้ันทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์ แลนด์ หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสกรุง ปารีสเพ่ือทอดพระเนตรโรงงานทารถยนต์ ท้ังนี้เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดการดนตรีเป็ นพิเศษ ขณะท่ีหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิก็สนใจศิลปะเช่นกัน ทาให้เกิด ความสัมพนั ธ์ขึน้

อภเิ ษกสมรส

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระ บรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิ ตร หรือ พระบาทสมเด็จพระ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช เ ป็ น พระมหากษตั ริยไ์ ทย รชั กาลท่ี 9 ทรงประสบอุบตั เิ หตุ ทางรถยนต์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเข้ารับการ รั กษาใน โรงพยาบาลแห่ ง หน่ึงโดยมีหม่ อมหลวงบัวและ หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิต์ิ เข้าเฝ้ าฯ เยี่ยมพระอาการเป็ น ประจา และในช่วงระยะเวลาที่หม่อมราชวงศ์สิริกติ ์อิ ยู่เฝ้ าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวท่ีสวิตเซอร์ แลนด์ น้ัน สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ (พระนามในเวลาน้ัน) ได้ ทรงรับเป็ นธุระจัดการให้หม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิเข้าศึกษาใน โรงเรียน Pensionnat Riante Rive ซึ่งเป็ นโรงเรียนประจา แห่งหนึ่งของโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คร้ันเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากอาการประชวร แล้ว ก็ได้ทรงหม้ันหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิเป็ นการภายในเม่ือ วนั ท่ี 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492

เมื่อวันท่ี 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพธิ ีราชาภิเษกสมรสขึน้ ณ วังสระปทุม โดยมีสมเด็จพระพันวัสสาอยั ยิกาเจ้า เสด็จเป็ น องค์ประธาน ในการนี้สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี 9) ทรงลง พระปรมาภิไธยในทะเบียนสมรสและโปรดให้ หม่ อมราชวงศ์ สิริกิต์ิ กิติยากรพร้ อมท้ังสักขีพยานลงนามในทะเบียนน้ัน หลังจากน้ัน สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าเสด็จออกในพระ ราชพธิ ีถวายนา้ พระพุทธมนต์เทพมนต์แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงรดนา้ พระพุทธมนต์เทพมนต์แด่หม่อมราชวงศ์สิริกติ ์ิ กิ ติยากรในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสตามโบราณราช ประเพณี ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ อ่านประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ กิติยากรขึ้นเป็ น “สมเด็จพระราชินีสิริกิต์ิ” พร้อมท้ังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเคร่ืองขัตติยราชอิสริยาภรณ์อนั มเี กยี รติคุณรุ่งเร่ือง ยงิ่ มหาจกั รีบรมราชวงศ์ ในการนีด้ ้วย

ต่อมา ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันท่ี 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรง พระราชดาริว่า ตามโบราณราชประเพณีเม่ือสมเด็จพระมหา กษัตริยาธิราชเจ้าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก แล้ว ย่อมโปรดให้สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระอัคร มเหสีขึน้ เป็ นสมเด็จพระบรมราชินี ดังน้ัน พระองค์จึงทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิต์ิ ขึน้ เป็ น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระ บรมราชินี หลังจากน้ันท้ังสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยัง สวิตเซอร์ แลนด์เพ่ือทรงรักษาพระองค์และทรงศึกษาต่อ จนกระทั่ง พระองค์มีพระประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้า ฟ้ าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีและเม่ือสมเด็จพระ เจ้าลูกเธอมีพระชันษาได้ 3 เดือน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเดจ็ พระบรมราชินีจงึ เสดจ็ นิวตั ปิ ระเทศไทย

พระราชกรณียกจิ

สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติ พระราชภารกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็ นอยู่ของบุคคลผู้ ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล ได้โดยเสด็จพระ ราชดาเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทั่วทุกหนแห่ง ในแผ่นดนิ ไทยนี้ โ ค ร ง ก า ร ท่ี มี ส า ข า ข ย า ย ก ว้ า ง ข ว า ง ไ ป ท่ั ว ป ร ะ เ ท ศ โครงการหนึ่งก็คือ โครงการส่ งเสริมศิลปาชีพ ซ่ึงใน ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อต้ัง เป็ นรูปมูลนิธิ พระราชทานนามว่า \"มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพเิ ศษในพระ บรมราชินูปถัมภ์\" เม่ือวันท่ี 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 และ เม่ือ พ.ศ. 2528 ได้เปลย่ี นชื่อ เป็ น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ อันเป็ นการ ส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกนั ยังอนุรักษ์และส่งเสริมงาน ศิลปะพนื้ บ้านที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การป้ัน การ ทอ การจกั สานเป็ นต้น

ประวตั วิ นั แม่แหง่ ชาติ แต่เดิมนัน้ ได้มีการกาหนดเอาวนั ท่ี 15 เมษายนของทุกๆ ปี เป็ น วนั แม่แห่งชาติ โดยเป็ นไปตามมติของคณะรฐั มนตรีท่ีได้ ประกาศรบั รองเอาไว้เม่ือวนั ที่ 23 กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช 2493 ซึ่ง ได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่เป็ นส่วนงานของสานัก วฒั นธรรมฝ่ ายหญิง จึงได้มอบหมายให้สภาวฒั นธรรมแห่งชาติ เป็ นผ้จู ดั งานวนั แม่มาตงั้ แต่วนั ที่ 15 เมษายน พุทธศกั ราช 2493 เ ป็ น ต้ น ม า ซ่ึ ง ก า ร จัด ง า น ไ ม่ เ พี ย ง แ ต่ มี ก า ร จัด พิ ธี ท า ง พระพุทธศาสนาเท่านัน้ แต่ยงั จดั ให้มีการประกวดแม่ของชาติ การประกวดคาขวญั วนั แม่ ทงั้ นี้กเ็ พื่อเป็ นเกียรติแก่แม่ และเป็ น การเพิ่มความสาคญั ของงานวนั แม่ให้มีมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ งาน วัน แ ม่ จึ ง เ ป็ น วัน แ ม่ ป ร ะ จ า ปี ข อ ง ช า ติ ต า ม ป ร ะ ก า ศ ข อ ง รฐั บาล ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม แต่โดยทวั่ ไปมกั เรียกกนั ว่า วนั แม่ของชาติ ต่อมา ในปี พุทธศกั ราช 2519 ทางราชการได้ เปล่ียนแปลงวนั แม่ใหม่ โดยให้ถือว่าวนั เสดจ็ พระราชสมภพของ สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินิ นาถ ซึ่งกค็ ือวนั ท่ี 12 สิงหาคม เป็ น วันแม่แห่งชาติ โดยได้เร่ิ มประกาศใช้เป็ นครัง้ แรกในปี พทุ ธศกั ราช 2519 เป็นต้นมา

แหลง่ อา้ งองิ - วกิ ิพเี ดีย สารานุกรมเสรี. สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง. สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 14 กรกฎาคม 2563. จาก ttps://th.wikipedia.org/wiki/สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ_ พระบรมราชินีนาถ_พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง . - BBC NEWS. วนั เฉลิมฯ สมเดจ็ พระพนั ปี หลวง : 12 พระบรมฉายาลกั ษณ์ประวตั ิศาสตร.์ สืบคน้ เม่ือ วนั ที่ 14 กรกฎาคม 2563. จาก https://www.bbc.com/thai/thailand-49293011.