Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ป้าน้อย อาหารพื้นบ้าน

ป้าน้อย อาหารพื้นบ้าน

Published by Phonnapha7777, 2019-12-05 02:37:34

Description: ป้าน้อย อาหารพื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ช่ือ : นางพมิ พกาญจน์ สุดประพนั ธ์ อายุ : 68 ปี ท่อี ยู่ : 145 หมู่ท่ี 1 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบรุ ี อาชพี : ตัดเย็บเส้ือผ้า

ภูมปิ ัญญาด้านศลิ ปกรรม สาขาการแสดง(ราเหยย่ ) เพลงเหย่ย เป็นการแสดงพื้นบ้านนิยมร้องและเล่นมาแต่โบราณเดิมมีช่ือ เรียกกันหลายอย่างแตกต่างกันออกไปตามท้องถ่ิน เพลงเหย่ยมีการฟ้ืนฟูวัฒนธรรม การละเล่นพื้นบ้านขึ้นมาที่เรียกว่า เหย่ย เป็นเพราะว่าคาร้องทุกวรรคลงท้ายด้วยเสียง เดยี วกนั คือ เอย หรือ เหย่ย ซ่งึ เป็นเสียงที่เพ้ียนมาจากคาว่า \"เอย” เพลงเหย่ย\" หรือ \"ราเหยย่ \" มลี ักษณะการเล่น เริม่ จากการประโคมกลองอย่างกึกก้องเพื่อให้ผ้เู ล่นและผู้ดู เกดิ ความรสู้ ึกสนุกสนาน วิธกี ารเล่นไมจ่ ากัดจานวน ผู้เลน่ ย่งิ มากย่ิงสนกุ สนาน โดยแบ่ง ผู้เล่นออกเป็นฝ่ายชาย กับหญงิ แตล่ ะฝ่ายจะมีผรู้ ้องประกอบด้วยพอ่ เพลง แม่เพลง ลูกคู่ และผู้รา เม่ือเริ่มเล่นฝ่ายชายจะเป็นผู้เร่ิมชวนฝ่ายหญิงให้เล่นเพลงเหย่ยกัน ฝ่ายหญิง รบั คาชวนก็จะมายนื ลอ้ มเปน็ วงกบั ฝ่ายชาย แมเ่ พลงจะรอ้ งโต้ตอบกับพอ่ เพลงโดยมีลูกคู่ รบั ท้งั สองฝา่ ย เนื้อร้องส่วนใหญจ่ ะเปน็ ทานองหยอกล้อ เกี้ยวพาราสี เคร่ืองดนตรีท่ใี ชใ้ น การแสดงราเหย่ย ประกอบด้วย กลองยาว รามะนา ฉิ่ง ฉาบใหญ่ ฉาบเล็ก กรับ และ โหมง่

การแตง่ กายของผเู้ ล่นเพลงเหยย่ การแต่งกายของผเู้ ลน่ เพลงเหยย่ ชาย นงุ่ โจงกระเบนต่างสกี นั สวมเสอื้ คอ กลมแขนสัน้ มผี ้าขาวม้าคาดพงุ และสไบพาดไหลโ่ ดยให้ชายสไบทงั้ สองขา้ งอยดู่ ้านหลงั สว่ นผู้หญิง จะนุ่งโจงกระเบนผา้ พิมพ์ลายตา่ งสีสนั สวมเสอ้ื คอกลมแขนยาว ห่มสไบทับ เส้ือ สวมใส่เคร่อื งประดับ สร้อยคอ ตา่ งหู สรอ้ ยขอ้ มอื และทดั ดอกไม้สสี ด สว่ นใหญก่ าร แตง่ กายของผู้เลน่ ชายและหญิงจะใชผ้ า้ สสี ด เพือ่ ความสดใส สวยงาม

ภมู ปิ ัญญาดา้ นโภชนาการ ( อาหารพ้นื บ้าน ) 1. แกงหนามยอก แกงหนามยอก มคี วามสาคัญ คุณคา่ ทางสังคมและทางจิตใจทม่ี ใี นวถิ กี าร ดาเนนิ ชีวติ ของชมุ ชนนั้นๆ แกงหนามยอก จงึ เปน็ อาหารพ้ืนบา้ นของชาวลาดหญ้า ที่ นยิ มทากินกันในครอบครวั เนื่องจากส่วนประกอบทใี่ ช้ทานั้นหางา่ ย ซ่งึ ชาวบา้ นปลกู กนิ กนั เองในครวั เรอื น และเปน็ อาหารที่มปี ระโยชนต์ ่อสุขภาพ สว่ นประกอบของอาหาร 1. มะเขอื 2. ตะไคร้ 3. หอมแดง 4. พรกิ แหง้ 5. กะปิ 6. ใบแมงลกั วธิ ีการประกอบอาหาร 1. ล้างผกั ใหส้ ะอาด 2. นามะเขือ ตะไคร้ หอมแดง กะปิ นามาตารวมกันจนละเอยี ด แลว้ ตัก ใสห่ มอ้ ใส่นา้ พอประมาณ แลว้ ตัง้ ไฟจนสกุ 3. ปรุงรสชาตใิ หอ้ รอ่ ยตามตอ้ งการ แล้วใส่ใบแมงลักลงไป แลว้ ยกลง จากเตา

2. น้าพรกิ กะปิมอญ เมนูกะปิมอญน้ันได้รับการถ่ายทอดสูตรลับจากปู่ย่าตายายมาสู่รุน่ ลูกหลาน รุ่นต่อรุ่น ชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะทาเมนูน้ีเป็นเกือบทุกบ้าน และในท้องถ่ินเองก็ได้รับ ความนยิ มเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล งานอมงคล ขึน้ บ้านใหม่ งานเอาเสาลง- หลมุ แทบทกุ งานจะต้องมเี มนูน้าพรกิ กะปิมอญ วิธีการประกอบอาหาร 1. นาเคร่ืองปรุงทกุ ชนิดมาลา้ งให้สะอาด 2. นากะปิมาโขลกใหเ้ ป็นสีนวล ใส่กุ้งตารวมกนั จนละเอยี ด 3. จากนน้ั ใส่หัวหอม หัวกระเทยี มลงโขลกไมต่ อ้ งละเอยี ดนัก 4. ผักชีฝรง่ั นามาห่ันละเอียด ใสล่ งโขลกรวมไปด้วย 5. นาพรกิ ขีห้ นูใส่ลงโขลก ใสม่ ะเขือเทศ มะเขอื แก่ (เอาเฉพาะเมด็ ) 6. ตกั น้าพริกขึน้ ใส่ชาม ปรุงรสดว้ ยมะนาว เติมน้าสกุ เลก็ นอ้ ย ให้ รสเปร้ยี วนา ใครชอบหวานกใ็ ส่นา้ ตาลปีบลงตามชอบ 7. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับเคร่ืองเคยี งซึ่งมที ้ังผกั ดิบและผกั ต้มสุก เคล็ด ลับความอรอ่ ย คอื ต้องโขลกกะปิให้ไดท้ ่ี ใสห่ วั หอมให้มากกวา่ กระเทยี มและควรจะให้มี รสเปรีย้ วนาข้อควรระวังนา้ ปลาเด็ดขาด กะปคิ วรใส่ให้พอเหมาะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook