Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

m51

Published by 21387, 2020-10-26 02:14:05

Description: m51

Search

Read the Text Version

ชอล์กสมุนไพรเปลือกไขไ่ ลม่ ดจากใบสาบเสือ นางสาวทิพวรรณ ถุงอนิ ทร์ นางสาวศศวิ ิมล แดนชมภู นางสาวสุทธิชา เขยตุ้ย นางสาวอรวรรณ พรมผาย ครทู ี่ปรึกษา นางชตุ ิมา จนั ทรบปุ ผา นางอรณุ ี ชยั พิชิต โรงเรียนศรีสวัสดวิ์ ทิ ยาคารจงั หวดั น่าน

สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 37 ก คานา กิจกรรมเล่มน้ี ได้จัดทาข้ึนเพ่ือให้นักเรียนรู้จักการทากิจกรรมเพื่อสังคมสาธารณะประโยชน์( IS 3 :Social Service Activity) เปน็ การนาองค์ความรู้จากการศึกษาค้นคว้าและสรุปองค์ความรู้ และการสื่อสาร และนาเสนอไปใชบ้ รกิ ารสงั คม โดยจัดกจิ กรรมการนาองคค์ วามรไู้ ปใชบ้ ริการสังคม ในลักษณะของกิจกรรม / โครงงาน / โครงการ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ โดยในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นการนา ความรู้ไปประยกุ ตส์ รา้ งสรรคป์ ระโยชนต์ ่อโรงเรียนและชุมชน และเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ท่ีได้จาก การลงมือปฏิบัติเพ่ือประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียน มาตรฐานสากล (World – Class Standard School) อีกท้ังยังทาให้นักเรียนรู้จักการทางานเป็นกลุ่ม มีจิต อาสาในการทางานเป็นหมูค่ ณะ เพื่อก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสว่ นรวมอกี ดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา

ข กติ ตกิ รรมประกาศ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมสาธารณะประโยชน์ (IS 3 :Social Service Activity)ในครั้งน้ีสาเร็จลุล่วง ไปได้ดว้ ยความเมตตาช่วยเหลืออยา่ งยง่ิ จากคณุ ครูทป่ี รกึ ษาประจาชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/1 ที่อนุมัติเห็นชอบใน การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเพอื่ สงั คมสาธารณะประโยชน์และให้คาปรึกษาแนะนาในการนาเสนอผลงานออกสู่ชุมชน ตลอดจนชาวบ้านบ้านเชยี งราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอเมือง จังหวัดน่าน ที่ได้นาชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่ไล่มดไป ทดลองใช้ และขอขอบคุณทุกท่านท่ีให้คาแนะนาและข้อคิดเห็นต่างๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมมาโดยตลอด จนกระทั่งการปฏิบัติกิจกรรมสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ความดีในการปฏิบัติกิจกรรมคร้ังนี้คณะผู้จัดทามีความ ซาบซง้ึ ในความกรุณาอนั ดีย่งิ จากทกุ คนทก่ี ลา่ วนามมา ขอขอบพระคุณ ณ โอกาสน้ี

ค ชอื่ เรอ่ื ง ชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไขไ่ ลม่ ด ผศู้ กึ ษาคน้ คว้า นางสาวทิพวรรณถุงอนิ ทร์ นางสาวศศิวิมล แดนชมภู นางสาวสุทธิชา เขยตุ้ย นางสาวอรวรรณ พรมผาย ครทู ีป่ รึกษา นางชตุ ิมา จนั ทรบปุ ผา นางอรณุ ี ชัยพชิ ิต โรงเรียน ศรสี วัสดว์ิ ิทยาคารจังหวัดนา่ น

บทคดั ยอ่ มดเป็นแมลงชนดิ หน่ึงมมี ากมายหลากหลายชนดิ อาทิ มดแดง มดคันไฟ มดดา มดตะนอย เป็นต้น มี ขนาดเล็กอาศัยอยู่ตามท่ีตา่ งๆ แมแ้ ต่ในบ้านของเรา และท่ีสาคัญมักสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คน กลุ่มของ ขา้ พเจ้าจงึ ได้ทดลองการทาชอล์กสมนุ ไพรเปลอื กไขไ่ ลม่ ด จากการรายงานการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS 2) และพบวา่ ชอล์กสมนุ ไพรเปลอื กไขจ่ ากใบสาบเสอื มีประสทิ ธิภาพในการไล่มดได้ดีที่สุด ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้า จงึ จดั ทากิจกรรมเพือ่ สงั คมสาธารณะประโยชน์ ในเรื่อง ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่ไล่มด นาเสนอออกสู่ชุมชน ท้งั นี้มีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ นาสมนุ ไพรทม่ี อี ยู่ตามทอ้ งถ่ินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายใน การซือ้ ชอล์กกาจัดมดทที่ าจากสารเคมีท้งั ยงั มีอนั ตรายต่อรา่ งกายอีกด้วย Title : Siam Weed eggshell chalk Author : MissThipawanTungnguen, MissSasiwimonDanchompoo, MissSuttichaKueytui, MissOrawanPrompai Advisor : Mrs.ChutimaJantarabupa, Mrs.AruneeChaipichit School : Srisawatwittayakarn Nan Province Abstract

We find ants in general but sometimes they bother us. The researchers studied Siam Weed and mixed Siam Weed liquid for making Siam weed eggshell chalk to get rid of ants. The objectives of the study were to study Siam weedfor making Siam weed eggshell chalk. To compare eliminating ants using Siam weed eggshell chalk and general ant removal chalk. To economize and use Siam weed beneficially. The results were: use Siam weed eggshell chalk in the area that has a lot of ants. After 10 minutes, a number of ants deceased. After 25 minutes, there are 5-8 ants left in that area. Use general ant removal chalk in the area that has a lot of ants. After 10 minutes, a number of ants deceased. After 25 minutes, there are 3-5 ants left in that area. In conclusion, Siam weed eggshell chalk is nearly as efficient as general ant removal chalk. The researchers taught how to make Siam weed eggshell chalk and allotted it to Chiangrai villagers and found that 33.33% of the villagers were satisfied with the project. 33.33% accepted that the place of doing activity was suitable. 60% of respondents thought that community participated. 53.33% thought that the activity create the relationship between student researchers and community. 46.66% accepted that materials were enough and suitable and 60% agreed that this activity should be fostered. ง สารบญั เรือ่ ง หนา้

คานา ก กิตติกรรมประกาศ ข บทคดั ย่อ ค ง สารบญั 1 1 ความเป็นมาและความสาคญั 1 ปัญหาทเี่ กดิ ข้นึ ระหวา่ งทาการศกึ ษา 1 2 วัตถุประสงค์ 2 3 สมมติฐานของการศกึ ษา 1 5 7 ขอบเขตของการศึกษาเรยี นรู้ 8 10 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 12 15 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 16 17 เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กีย่ วข้อง 24 25 วิธกี ารดาเนนิ งาน 26 ปฏิทินการปฏิบตั งิ านกจิ กรรมการนาองคค์ วามรู้ไปใชบ้ รกิ ารสงั คม แผนผงั การจัดกจิ กรรม ผลการศกึ ษา สรปุ ผลอภิปราย และข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก รปู ภาพ บนั ทึกการปฏิบัตกิ จิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ รายงานผลการดาเนินงาน แบบประเมนิ ความพึงพอใจกจิ กรรมสร้างสรรคป์ ระโยชน์

ความเป็นมาและความสาคัญ มดเป็นแมลงทม่ี ีขนาดเล็ก อยู่ร่วมกนั เปน็ สังคมมกั สร้างความราคาญและนาความเดือดร้อนให้แก่ผู้คน มักอาศยั ตามท่ตี า่ งๆ โดยเฉพาะบริเวณบา้ น สาหรับวิธีการฆ่ามดบางคนอาจะใช้น้าร้อนเทหลุมของมด แต่บาง คนกอ็ าจจะใชว้ ิธีที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งข้ึน โดยใช้สารเคมีอย่างเช่นสเปรย์หรือชอล์กฆ่ามดซ่ึงมีอันตรายต่อ ส่งิ แวดลอ้ มและรา่ งกายของตัวเราเอง เราจงึ พัฒนาชอลก์ เปลือกไขไ่ ลม่ ด เปน็ ชอล์กสมุนไพรเปลอื กไข่ไล่มดโดยนาเอาสมุนไพรท้องถิ่นอย่าง ใบสาบเสือ โหระพา และตะไครห้ อม จากการพฒั นาทดลองชอลก์ สมนุ ไพรเปลือกไขไ่ ล่มดพบวา่ ชอล์กเปลือกไข่ จากใบสาบเสอื มปี ระสทิ ธิภาพในการกาจัดมดได้มากทสี่ ุด ปญั หาทีเ่ กิดข้นึ ระหวา่ งทาการศึกษา ขาดผูเ้ ชีย่ วชาญในการแนะนาและใหค้ วามรู้ในเร่อื งการทาชอล์กสมุนไพรเปลอื กไขไ่ ล่มด วัตถปุ ระสงค์ 1.เพื่อศกึ ษาประสทิ ธิภาพการไลม่ ดระหว่างชอลก์ ทท่ี าจากสารเคมีและชอลก์ เปลอื กไข่จากใบสาบเสอื 2.เพือ่ ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการซอื้ สารเคมมี ากาจดั มด และนาสมนุ ไพรที่มีอยใู่ นทอ้ งถิ่นมาใช้ใหเ้ กิด ประโยชน์ 3. เพอ่ื ให้คนในชุมชนใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ สมมตฐิ านของการศกึ ษา ถา้ ชอลก์ สมนุ ไพรเปลอื กไข่ไล่มดจากใบสาบเสือสามารถกาจดั มดไดจ้ รงิ ดงั นั้นชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไข่ ไลม่ ดจากใบสาบเสอื จะมปี ระสิทธิภาพเทียบเคยี งกบั ชอล์กไล่มดจากสารเคมี ขอบเขตการการศกึ ษาเรยี นรู้ 1. กลมุ่ เปา้ หมาย ชาวบา้ นบ้านเชยี งราย ตาบลดใู่ ต้ อาเภอเมอื ง จงั หวดั น่าน จานวน 15 ท่าน 2.ระยะเวลาดาเนนิ การ ตุลาคม 2556 – มกราคม 2557

3. สถานท่ีดาเนินการ 130 หมู่ 8 บ้านเชียงราย ตาบลดใู่ ต้ อาเภอเมอื ง จังหวดั น่าน 55000 การเปรียบเทียบการใช้ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่จากใบสาบเสือและการใช้ชอล์กไล่มดจากสารเคมี ชอลก์ ชนดิ ใดมปี ระสทิ ธภิ าพในการไลม่ ดไดด้ กี ว่ากัน โดยศกึ ษาจากการนาชอล์กท้ังสองชนดิ มาขดี บรเิ วณที่มีมด อยรู่ ่วมกนั เป็นกลมุ่ พร้อมท้งั สังเกตและบันทึกผลดังนี้ ตวั แปรตน้ - ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่ไลม่ ดจากใบสาบเสอื - ชอลก์ ไลม่ ดจากสารเคมี ตัวแปรตาม - ความสามารถในการไล่มด ตัวแปรควบคมุ - อตั ราสว่ น - ระยะเวลา - ชนดิ ของมด ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั 1.ไดช้ อล์กไล่มดจากใบสาบเสอื ที่มปี ระสทิ ธภิ าพเทียบเคียงกบั ชอลก์ ไลม่ ดจากสารเคมี 2.ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการซ้ือสารเคมมี ากกาจดั มด และสามารถนาสมุนไพรในทอ้ งถิ่นอยา่ งใบสาบเสือ มาทาเป็นชอล์กไล่มดได้ 3.คนในชุมชนสามารถใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ นิยามศัพทเ์ ฉพาะ มดเป็นสัตว์ในวงศ์ Formicidae อนั ดับ Hymenoptera มีจานวนชนดิ มากกว่า 12,000 ชนิด โดยพบ มากในเขตรอ้ นของโลก เปลือกไข่ สว่ นนอกของฟองไข่ของสตั ว์บางประเภท เช่น ไก่ นก งู มีลักษณะแข็งแต่เปราะ หุ้มส่วนที่ เป็นของเหลวซึง่ จะเจริญเติบโตเป็นตวั ต่อไป โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 2

ใบสาบเสือ เป็นไมล้ ม้ ลุกแตกก่ิงก้านสาขามากมายจนดูเป็นทรงพุ่มลาต้นและกิ่งก้านปกคลุมด้วยขน อ่อนนุ่ม กา้ นและใบเม่อื ขย้ีจะมกี ล่ินแรงคลา้ ยสาบเสอื มลี าตน้ สงู 1 - 2 เมตร ขม้ิน เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 30 - 95 ซม.เหง้าใต้ดินรูปไข่มีแขนงรูปทรงกระบอกแตกออก ดา้ นข้าง 2 ด้านตรงกันขา้ มเนอื้ ในเหง้าสเี หลืองสม้ มกี ลน่ิ เฉพาะ ใบเดย่ี วแทงออกมาเหง้าเรยี งเปน็ วงซ้อนทบั กนั รูปใบหอก กว้าง 12-15 ซม. ยาว 30-40 ซม.ดอกช่อแทงออกจากเหง้า แทรกข้ึนมาระหว่างก้านใบ รูป ทรงกระบอกกลบี ดอกสีเหลืองอ่อน ใบประดับสีเขยี วอ่อนหรือสนี วล บานครั้งละ 3-4 ดอก ผลรูปกลมมี 3 พู ปูนปลาสเตอร์ ทามาจากแร่ยปิ ซัม ซงึ่ มชี ่อื ทางเคมีว่า แคลเซียมซัลเฟตไดไฮเดรต ในโครงผลึกจะมีน้า 2 หนว่ ยตอ่ แคลเซยี มซลั เฟต1 หนว่ ย ดินสอพอง มีองคป์ ระกอบทางเคมเี ป็นแคลเซียมคารบ์ อเนตหรอื โคลนหรือหินโคลนที่อุดมไปด้วยเนื้อ ปูนที่มอี งค์ประกอบทีแ่ ปรผันของแร่เคลย์และอาราโกไนต์ เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ในการศกึ ษาและทดลองเรื่อง ชอล์กสมนุ ไพรเปลือกไข่ไล่มดจากใบสาบเสือ ผศู้ ึกษาได้รวบรวมแนวคิด และหลกั การต่างๆ จากเอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ งดงั ต่อไปน้ี ชานาญ ทองเกียรติกุล (2555) รายงานว่า เปลือกไข่ (Shell) มีส่วนประกอบเกือบท้ังหมดเป็น แคลเซียมคาร์บอเนต(CaCo3) รูเปลือกไข่ด้านในจะติดสนิทอยู่กับเยื่อเปลือกไข่โครงสร้างช้ันในสุด เรียกว่า basal cap ฝังติดอยู่ในเย่ือเปลือกไข่ชั้นนอกสุด โดยช้ันนอกสุดของเปลือกไข่จะมี สารอินทรีย์ ( organic material) ซงึ่ เรยี กว่า cuticle เคลือบท่ผี วิ ของฟองไขท่ ง้ั หมด ประโยชน์ของเปลือกไข่ - เปลอื กไข่อุดมด้วยธาตุเหล็ก นาเปลือกไข่มาล้างให้สะอาดอบยางให้ร้อนแล้วตาให้เป็นผงละเอียด นาไปหุงปนกบั ขา้ วสารเปน็ อาหารทม่ี คี ุณค่าบารุงดมี ากและสารอาหารที่จะไดร้ บั จากเปลือกไขก่ ค็ ือแคลเซียม - ประโยชนใ์ ชส้ อยในด้านเปน็ เคร่ืองมือทาความสะอาดสามารถนาไปใชข้ ัดล้าง อ่างลา้ งหนา้ อ่างอาบนา้ และเครอื่ งใชเ้ ซรามคิ ทงั้ หลาย - ใชแ้ ทนแปรงล่างขวดหรือภาชนะท่ีมีปากแคบ -ใช้เป็นปุย๋ ใหต้ ้นไมไ้ ด้ - เปลอื กไขท่ ่เี ผาแล้วบดละเอียดจะมีสารแคลเซียมไฮดรอกไซต์มีฤทธเิ์ ปน็ เบสสามารถ ไล่มดได้ - เปลอื กไขส่ ดมีแคลเซียมและกามะถนั โดยใช้เปลือกไข่ครอบปลายหลักไม้ปากไว้ใน แปลงเพาะปลูก พืชซ่ึงเปลอื กไข่เมอื่ ถูกแสงแดดจะทาใหก้ ล่ินกามะถนั ระเหยออกมาสามารถไลเ่ พล้ียไฟไดด้ ี โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 3

กลา่ วได้วา่ เปลือกไข่มสี ว่ นประกอบเกือบทง้ั หมดเปน็ แคลเซยี มคาร์บอเนต เม่อื นาเปลือกไขไ่ ปเผาแล้ว บดละเอียดจะมีสารแคลเซียมไฮดรอกไซด์ที่มีฤทธ์ิเป็นเบส และสามารถไล่มดได้นอกจากน้ีเปลือกไข่สดยังมี แคลเซยี มและกามะถัน เมือ่ ถูกแสงแดดจะทาใหก้ ลิน่ กามะถนั ระเหยออกมาสามารถไลเ่ พลี้ยไฟได้ดอี กี ดว้ ย วิทย์ เที่ยงบรู ณธรรม (2548) กล่าววา่ สาบเสอื มีช่อื วทิ ยาศาตร์ว่า Eupatorium odoratum L. วงศ์ Compositaeจัดเปน็ วชั พชื รา้ ยแรงอายหุ ลายปลี าตน้ และกง่ิ ก้านปกคลุมดว้ ยขนอ่อนน่มุ ก้านและใบเม่ือขย้ีจะมี กลน่ิ แรงคล้ายสาบเสอื กา้ นและใบ รสสขุ มุ ฉุนเล็กน้อย ใช้ฆ่าแมลงห้ามเลือดแก้แผลที่แมลงบางชนิดกัดแล้ว เลือดไหลไม่หยุดใชใ้ บสดตาพอกปากแผลหรืออาจใช้ใบสดตากบั ปนู กนิ หมากพอกแผลห้ามเลือดไดห้ รือใช้ใบสด ขยีป้ ดิ ปากแผลเลือดออกเล็กน้อยไดด้ ผี ลทางเภสชั วิทยาน้าต้มสกัดจากใบและต้นมีฤทธ์ิกระตุ้นการบีบตัวของ ลาไส้เลก็ ทีแ่ ยกออกจากตวั ของหนตู ะเภาแต่ลดการบีบตัวของลาไสเ้ ลก็ ที่แยกออกจากตัวของกระต่ายนา้ ต้มสกัด และผลึกสารทสี่ กดั ได้จากตน้ นี้ไมม่ ีผลอย่างเดน่ ชดั ตอ่ มดลกู ท่ีแยกออกจากตวั ของกระตา่ ยหากนาไปฉีดเข้าช่อง ทอ้ งของหนูเล็กพบมคี วามเปน็ พษิ เพยี งเลก็ นอ้ ยสารเคมีทีพ่ บทงั้ ต้นมีนา้ มันระเหย นอกจากน้เี มื่อนามาสกัดด้วย ไอน้าจะไดส้ ารทมี่ ีคุณสมบัตกิ ระตนุ้ การงอกของเมล็ดพชื ได้หลายชนิด และใบมะม่วงที่เป็นเช้ือราดาก็สามารถ กาจดั ไดไ้ ลแ่ มลงพวกปากดดู พวกเพลีย้ จั๊กจ่ันช่อมะมว่ งเพลี้ยไฟในพริกในกุหลาบ สามารถนามาใช้เป็นน้ายาถู พื้นทาให้ใช้ไล่แมลงคลาน เช่นแมลงสาบ มด กาจัดไรฝุ่นตามพื้นบ้าน เช็ดตามตู้โต๊ะ เก้าอี้เฟอร์นิเจอร์แล้ว ป้องกันเชื้อรามาเกาะได้ สรปุ ได้วา่ ใบสาบเสือมีน้ามันหอมระเหยซึ่งมีสารยับย้ังการเจริญเติบโตของเชื้อโรค และยังสามารถ นามาใชเ้ ป็นน้ายาถูพน้ื ไลม่ ด และแมลงคลานได้ จิราพร เพชรรัตน์ (2547) พบว่า สาบเสือมีสารท่ีออกฤทธิ์ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชที่พบใน สาบเสือ ได้แก่ Pinene, Limonene และ Nepthaquinoneซ่งึ พบทั้งในสว่ นของดอกและใบ ใชไ้ ดผ้ ลกับหนอน ชนดิ ต่างๆ เช่น หนอนใยผกั หนอนกระทู้ผกั เพล้ยี ออ่ น ดว้ งเขียว และแมลงตา่ งๆ เช่น มด กล่าวได้วา่ ใบสาบเสือมีสารทีม่ คี ุณสมบตั ิในการควบคมุ แมลงศัตรูพืชได้ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 4

วิธกี ารดาเนินการศึกษา 1. กลมุ่ เปา้ หมาย ได้แก่ 1.1.ชาวบ้านบา้ นเชียงราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอเมอื ง จงั หวดั นา่ น ที่มีอายรุ ะหว่าง 40 - 65 ปี จานวน 15 คน 2. ขอบเขตความคิด โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 5

การศึกษาและทดลองครง้ั น้ี เพือ่ เปรียบเทยี บประสทิ ธิภาพการไลม่ ดของชอลก์ สมุนไพรเปลอื ก ไข่จากใบสาบเสือและชอล์กไล่มดจากสารเคมี โดยทดลองกับมดที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนของ ประชาชนทีอ่ าศยั อยู่ในบ้านเชียงราย ตาบลด่ใู ต้ อาเภอเมือง จงั หวดั นา่ น จานวนทงั้ สน้ิ 15 คน 3. เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ได้แก่ 3.1. กล้องถ่ายรปู 3.2. นาฬกิ าจบั เวลา 3.3 คอมพวิ เตอร์ 3.4 แบบสอบถาม 4. วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู 4.1. คณะผูศ้ ึกษาได้ค้นคว้าเก่ียวกับชอล์กเปลือกไข่ไล่มดและสมุนไพรท่ีสามารถไล่แมลงได้ จากแหลง่ ขอ้ มลู ท่มี ผี ูท้ าการศึกษาไว้กอ่ นแลว้ 4.2. จดั ทาชอลก์ เปลือกไข่ไล่มดจากใบสาบเสือ 4.3. เขา้ ไปสารวจพืน้ ท่ี คอื บา้ นเชียงราย ตาบลด่ใู ต้ อาเภอเมอื ง จงั หวดั นา่ น 4.4. วางแผนเส้นทางการเดินทางจากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่านไปยังบ้าน เชียงราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอเมือง จังหวัดน่าน โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ไปทางทิศใต้เป็น ระยะทาง 3 กิโลเมตร 4.5. แจกแผ่นพับและประชาสัมพนั ธใ์ ห้ชาวบา้ นบา้ นเชียงรายจานวน 15 คน 4.6. ทาการทดลองการใช้ชอลก์ สมุนไพรเปลือกไข่ไล่มดจากใบสาบเสือและชอล์กไล่มดจาก สารเคมี 4.7. สงั เกตผลการใชช้ อล์กสมนุ ไพรเปลอื กไขไ่ ลม่ ดจากใบสาบเสอื และชอลก์ ไล่มดจากสารเคมี และบนั ทกึ ผลการทดลองท่ีได้จากแบบสอบถามจากชาวบ้านจานวน 15 คน 4.8. สมั ภาษณค์ วามพึงพอใจของชาวบ้านทมี่ ีตอ่ การเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมในครั้งน้ีและการ ใช้ชอลก์ เปลอื กไข่ไล่มดจากใบสาบเสือ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 6

5. อปุ กรณแ์ ละวธิ กี ารทดลอง 5.1 วสั ดุ – อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการศกึ ษาและทดลอง - ปูนปลาสเตอร์ - ดนิ สอพอง - พริกปน่ - ขม้นิ - ใบสาบเสอื - เปลือกไข่บดละเอียด - ครกหนิ หรอื เครอื่ งป่นั - มีด เขียง - ชาม - กระชอน - ช้อนโต๊ะ - หลอดชาไข่มกุ - นา้ สะอาด 5.2 วิธีการทดลอง - นาเปลือกไขไ่ ปลา้ งน้าให้สะอาดแลว้ นาไปผ่ึงแดดให้แห้งจากนั้นก็นาเปลอื กไขท่ ี่ แห้งแลว้ มาบดให้ละเอยี ด - คน้ั น้าใบสาบเสอื - นาขม้นิ มาบดแล้วคั้นเอาน้า - ตวงปูนปลาสเตอร์ 10 ช้อนโต๊ะ เปลอื กไข่บดละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ น้าใบสาบเสือ 8 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 3 ช้อนโต๊ะ น้าขม้ิน 2 ช้อนโต๊ะ และดินสอพอง 4 ก้อนใส่ลงไปในชามท่ี เตรยี มไว้ - คนสว่ นผสมท้งั หมดใหเ้ ข้ากัน - นาสว่ นผสมทีเ่ ขา้ กันแล้วใส่ลงไปในหลอดชาไขม่ ุก จากนนั้ นาไปตากแดดให้ปูน ปลาสเตอรแ์ ขง็ ตวั ก็จะไดช้ อลก์ สมุนไพรเปลือกไข่ไลม่ ดจากใบสาบเสือทีส่ ามารถใช้ไลม่ ดได้- 6. การวเิ คราะห์ข้อมลู โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 7

6.1. สรปุ ผลการทดลองการเปรียบเทยี บการใชช้ อลก์ จากใบสาบเสือและชอล์กจากสารเคมี 6.2. ตรวจสอบผลการเข้ารว่ มกิจกรรมของชาวบา้ นจานวน 15 คน จากแบบสอบถาม 6.3. สรุปผลการจดั กจิ กรรมชอล์กสมนุ ไพรเปลอื กไข่ไลม่ ด 6.4 วิเคราะห์เนื้อหารายละเอียดจากการสัมภาษณ์ชาวบ้าน สรุปประเด็นท่ีคล้ายคลึงกัน ออกมาในภาพรวม ปฏทิ นิ การปฏิบัติงานกิจกรรม ชอื่ กิจกรรม ชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไข่ไล่มด ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2556 สัปดาห์ วนั /เดือน/ปี รายละเอียดการปฏิบตั กิ จิ กรรม ผู้รับผิดชอบ ที่ 1 18 ต.ค. 56 - ชี้แจงวตั ถุประสงค์ คณะผจู้ ัดทา 2 - เขียนโครงการ คณะผจู้ ดั ทา 25 ต.ค. 56 - กาหนดขอบขา่ ยและวางแผนการดาเนิน 3 กิจกรรม คณะผจู้ ัดทา 4 1 พ.ย. 56 - นาเสนอแผนพฒั นาต่อครทู ปี่ รกึ ษา คณะผ้จู ัดทา 8 พ.ย. 56 - ประชุมปรบั ปรงุ แผนและเตรียมแบง่ งานใน 5 ความรบั ผิดชอบ นางสาวอรวรรณ พรมผาย 6 15 พ.ย. 56 - เตรียมวัสดุ อปุ กรณท์ ่จี ะใช้ในการปฏบิ ัตกิ รรม คณะผจู้ ัดทา 7 23 พ.ย. 56 - ลงมอื ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 8 29 พ.ย. 56 - สรุปผลการดาเนินงาน นางสาวศศวิ ิมล แดนชมภู 9 6 ธ.ค. 56 - ประชมุ สรปุ ผลการดาเนินงาน นางสาวศศิวมิ ล แดนชมภู 10 13 ธ.ค. 56 - ครทู ป่ี รึกษาตรวจแก้ไขผลงาน 11 21 ธ.ค. 56 - จดั รูปเล่มรายงานฉบบั สมบรู ณ์ คณะผ้จู ดั ทา 12 28 ธ.ค. 56 - จดั ทาแผน่ พับความรู้ นางสาวสทุ ธชิ า เขยต้ยุ 13 4 ม.ค. 57 - เผยแพรผ่ ลงานออกสู่ชุมชน นางสาวทพิ วรรณ ถงุ อนิ ทร์ 14 10 ม.ค. 57 - จดั ป้ายนิเทศแสดงผลงาน 27. ก.พ. 57 - นาเสนอบทสรปุ ต่อโรงเรียนและประเมินผล คณะผจู้ ัดทา โครงการ คณะผู้จดั ทา คณะผู้จัดทา โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 8

แผนผงั การจดั กจิ กรรม ชอ่ื กจิ กรรม ชอล์กสมนุ ไพรเปลือกไขไ่ ลม่ ด ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2556 สปั ดาห์ที่ กิจกรรม ผรู้ ับผิดชอบ นางสาวสทุ ธชิ า เขยต้ยุ 1 กาหนดบทบาทหนา้ ที่ นางสาวอรวรรณ พรมผาย - จัดเตรยี ม นางสาวอรวรรณ พรมผาย นางสาวทิพวรรณ ถงุ อนิ ทร์ - สารวจ นางสาวศศวิ ิมล แดนชมภู - จดั ทา 2 การสารวจสถานท่จี ริง - บา้ นเชยี งราย ต.ด่ใู ต้ อ.เมือง จ.น่าน 3 การประสานงานผเู้ กี่ยวขอ้ ง -คุณพอ่ เวท – คุณแมบ่ วั ผิน พรมผาย -ชาวบา้ นบา้ นเชียงรายจานวน 15 คน 4 เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ - ใบสาบเสอื - ขมิ้น - เปลอื กไข่ - ปนู ปลาสเตอร์ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 9

- หลอดชาไข่มกุ หรอื หลอดกาแฟ คณะผ้จู ัดทา - เครอ่ื งปัน่ หรอื ครกหนิ - พรกิ ปน่ - ดินสอพอง - ชาม 5 การเดนิ ทาง - รถจักรยานยนต์ - เดนิ เท้า 6 – 17 การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมอาสา - ใหค้ วามร้แู กช่ าวบ้านเร่ืองชอล์กสมนุ ไพรเปลือกไข่ ไลม่ ด - ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์ของการปฏบิ ัติกจิ กรรม สปั ดาห์ท่ี กจิ กรรม ผ้รู บั ผดิ ชอบ คณะผจู้ ดั ทา - ใหค้ วามร้แู ก่ชาวบา้ นเร่ืองวสั ดอุ ปุ กรณท์ จี่ ะใชใ้ นการทา คณะผู้จดั ทา ชอลก์ สมนุ ไพรเปลอื กไขไ่ ล่มด - อธิบายข้นั ตอนการทาชอลก์ สมนุ ไพรเปลอื กไข่ไล่มดแก่ ชาวบ้าน - สมมติการทาชอล์กให้ชาวบ้านชม - อธบิ ายประโยชน์ ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของชอลก์ สมุนไพรเปลือกไข่ ไล่มด - แสดงผลงานตัวอยา่ งแกช่ าวบา้ น 18 ประเมนิ ผลและการนาเสนอผลการปฏิบตั งิ าน - การบนั ทึกประสบการณ์ - การนาเสนอ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 10

ผลการศึกษา จากการทีผ่ ศู้ กึ ษาไดท้ าการทดลองเปรยี บเทียบประสิทธิภาพของการใช้ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่จากใบ สาบเสอื และชอลก์ ไลม่ ดจากสารเคมี ผลปรากฏว่าชอล์กทง้ั สองชนดิ มีประสิทธิภาพในการกาจัดมดเทียบเคียง กัน จงึ สรปุ ได้ว่า ชอลก์ สมนุ ไพรเปลอื กไข่ไล่มดจากใบสาบเสือสามารถใช้ในการกาจัดมดแทนการใชช้ อลก์ กาจัด มดจากสารเคมีได้ ตารางบันทึกผลการทดลอง หนา้ 11 โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน)

ชนิดของชอล์ก ผลการทดลอง ชอลก์ สมนุ ไพรเปลือกไข่ไล่มดจาก หลงั จากที่ใช้ชอล์กขีดหรอื โรยบริเวณทม่ี มี ดอยู่เปน็ จานวนมากแล้ว เมอื่ ใบสาบเสอื เวลาผ่านไป 10 นาที พบว่ามมี ดจานวนลดลงเมอื่ เทียบกบั ในตอนแรก ต่อมาทงิ้ ไว้เปน็ ระยะเวลา 25 นาที ปรากฏว่าบรเิ วณนนั้ แทบจะไมม่ มี ด อยู่เลย แต่มีอย่นู อ้ ยมากประมาณ 5 – 8 ตวั ชอลก์ ไลม่ ดจากสารเคมี หลงั จากทใ่ี ชช้ อลก์ ขดี หรือโรยบริเวณทมี่ มี ดอยู่เปน็ จานวนมากแลว้ เมื่อ เวลาผ่านไป 10 นาที พบวา่ มมี ดจานวนลดลงเมอื่ เทยี บกบั ในตอนแรก ตอ่ มาทิง้ ไว้เปน็ ระยะเวลา 25 นาที ปรากฏวา่ บรเิ วณนน้ั แทบจะไมม่ ีมด อยูเ่ ลย แต่มีอยู่น้อยมากประมาณ 3 – 5 ตัว ตารางท่ี 1 ตารางบันทกึ ผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง จากตารางผลการทดลองขา้ งต้น พบว่า ชอลก์ สมนุ ไพรเปลอื กไข่ไล่มดจากใบสาบเสือและชอล์กไล่มด จากสารเคมีมีประสิทธิภาพในการกาจัดมดเทียบเคียงกัน โดยจะเห็นได้จากในนาทีท่ี 25 ของการทดลอง โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 12

บริเวณท่ีมมี ดนนั้ แทบจะไม่มมี ดอยเู่ ลย แตบ่ รเิ วณที่มกี ารใช้ชอล์กจากสารเคมีจะเหลือมดอยู่ในปริมาณที่น้อย กว่าบริเวณที่ใชช้ อล์กสมุนไพรเปลอื กไข่ไลม่ ดจากใบสาบเสือเลก็ นอ้ ย จานวนมดที่เหลอื แผนภูมแิ สดงการเปรียบเทียบผลการทดลอง 35 30 ชอลก์ จากใบสาบเสอื 25 ชอลก์ จากสารเคมี 20 เวลาที่ใชใ้ นการทดลอง 15 15 20 25 (นาที) 10 5 0 10 ภาพท่ี 1 ภาพแผนภูมกิ ารเปรยี บเทยี บผลการทดลองใชช้ อลก์ 1.อภิปรายผลการศกึ ษา จากการศึกษาและทาการทดลองในครงั้ นี้ ผู้ศกึ ษามีความเห็นวา่ การศกึ ษาครงั้ น้ีมที ้ังข้อดแี ละข้อเสยี ใน ส่วนของข้อดีน้ัน คือ สามารถนาเอาการทดลองน้ีไปเผยแพร่ให้กับประชาชนในชุมชนได้ เป็นการประหยัด ค่าใช้จ่ายในครวั เรอื น เพราะมีต้นทนุ ในการทาตา่ สามารถเกบ็ ไว้ใช้เปน็ เวลานานได้ และยงั ปลอดภัยตอ่ รา่ งกาย แก่ผู้ใชม้ ากกว่าชอล์กจากสารเคมี ส่วนข้อเสียนั้นคือ ต้องใช้เวลาในการทดลองค่อนข้างนาน และระว่างการ ทดลองตอ้ งทาการทดลองหลายๆ คร้ัง เพื่อที่จะได้อัตราส่วนที่เหมาะสมและทาให้ชอล์กท่ีได้มีประสิทธิภาพ เทยี บเคียงกบั ชอลก์ จากสารเคมี 2. ผลการพฒั นา การศึกษาการใชส้ มนุ ไพรพ้นื บ้านที่มตี ามท้องถน่ิ อยา่ งใบสาบเสอื มาพัฒนาเปน็ ชอลก์ สมุนไพรเปลือกไข่ ไลม่ ดในคร้ังน้ี ปรากฏว่าจากการศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของใบสาบเสือในการไล่มดน้ันสามารถไล่มดได้จริงและมี ประสทิ ธภิ าพไดเ้ ทียบเคียงกบั ชอลก์ ไลม่ ดจากสารเคมี โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 13

สรปุ ผลอภิปราย และข้อเสนอแนะ สรุปผลดาเนนิ งาน 1. ผลการสารวจจากการใช้ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่จากใบสาบเสือ พบว่าเม่ือใช้ชอล์กขีดหรือโรย บริเวณทีม่ มี ดอยู่เป็นจานวนมาก ทิง้ ไว้เปน็ ระยะเวลา 10 นาที ปรากฏวา่ มดมจี านวนลดลงจนกระท่ังเวลาผ่าน ไป 25 นาที มีมดอยใู่ นบริเวณนัน้ นอ้ ยมาก เมือ่ เปรียบเทยี บกับชอล์กไล่มดจากสารเคมโี ดยทดลองในวิธเี ดียวกัน นี้ 2. ผลการจดั กิจกรรม ได้ดาเนินการในวันท่ี 10 เดอื นมกราคม พ.ศ.2557 ตงั้ แตเ่ วลา 09.00 น. เปน็ ตน้ ไปกจิ กรรมดาเนนิ การประกอบด้วยการให้ความรู้เร่ืองชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่จากใบสาบเสือ และนาชอล์ก สมุนไพรเปลือกไข่ไล่มดจากใบสาบเสือไปให้ชาวบ้านได้ชมและทดลองใช้ ท้ังน้ีกลุ่มของพวกเราได้รับความ ร่วมมอื จากชาวบา้ นบา้ นเชียงรายทั้ง 15 คน เปน็ อยา่ งดียิ่ง 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของชาวบ้าน จากการสัมภาษณ์ชาวบ้านหมู่บ้านเชียงราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอเมือง จังหวัดน่าน จานวน 15 คน ผ่านทางแบบสอบถาม จาแนกเพศชาย 6 คน เพศหญิง 9 คน อายุ ระหวา่ ง 40 – 65 ปี พบว่าทุกคนมีความพึงพอใจกับการจัดกจิ กรรมชอลก์ สมนุ ไพรเปลือกไขไ่ ลม่ ดดังตอ่ ไปน้ี 1.อภปิ รายผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม จากการลงพน้ื ท่ีปฏิบัติกจิ กรรมชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไขไ่ ลม่ ดจากใบสาบเสือ ณ บา้ นเชยี งราย ตาบลดู่ ใต้ อาเภอเมอื ง จังหวัดน่าน นั้น พบวา่ ชาวบ้านบา้ นเชยี งรายจานวน 15 คนมีความเห็นว่า 33.33 % พวกเขา ไดม้ สี ว่ นร่วมในการทากิจกรรม 37.33 % มคี วามเห็นวา่ สถานท่ีในการทากจิ กรรมเหมาะสม 60 % มีความเห็น ว่าได้รับความร่วมมอื จากชุมชน 53.33 % มีความเห็นว่าการทากิจกรรมคร้ังนี้เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างตัว นักเรียนกับชุมชน 46.66 % มีความเห็นว่าอุปกรณ์ที่ทากิจกรรคร้ังนี้ ครบถ้วนและเหมาะสม และ 60 % มี ความเห็นวา่ ควรจะสง่ เสรมิ ให้มกี จิ กรรมน้ีตอ่ ไป 2. ผลการประเมนิ จากการลงพ้ืนที่ปฏิบัติกิจกรรมให้ความรู้เรื่อง ชอล์กสมุนไพรเปลือกไข่ไล่มดจากใบสาบเสือของ กลุ่มเป้าหมาย คือ ชาวบ้านบ้านเชียงราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอเมือง จังหวัดน่าน จานวน 15 คน โดยใช้ แบบสอบถามท่ีสมบรู ณ์จานวน 15คน จาแนกเปน็ ชาย 6 คน และหญงิ 9 คน ซึ่งแบบสอบถามมีท้ังหมด 6 ข้อ แลว้ นามาวิเคราะห์ค่าเฉลีย่ มรี ายละเอียดดงั น้ี สว่ นที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของกล่มุ เป้าหมาย สว่ นท่ี 2 ข้อมลู เกย่ี วกับการเขา้ รว่ มปฏบิ ัตกิ ิจกรรม โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 14

สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของกลุ่มเป้าหมาย ขอ้ มลู ท่วั ไปของกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยเพศและอายุของผู้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมอายุเฉลี่ย 40 – 65ปี เพศ จานวน (คน) รอ้ ยละของเพศ ชาย 6 40 หญิง 9 60 รวม 15 100 ตารางที่ 2 ตางแสดงขอ้ มลู ทวั่ ไปของกลมุ่ เป้าหมาย จากตารางขา้ งตน้ ผู้ศกึ ษาได้สง่ แบบสอบถามไปจานวน 15 ชดุ ได้กลบั มา 15 ชดุ กลุ่มเป้าหมายที่ตอบ คาถามส่วนใหญเ่ ปน็ ผูห้ ญิง คดิ เป็นร้อยละ 60 รองลองมาคอื ผ้ชู ายคิดเป็นร้อยละ 40 โดยมีอายุเฉลี่ย 40 – 65 ปี สว่ นท่ี 2 ขอ้ มลู เกีย่ วกบั การเข้าร่วมปฏิบัตกิ จิ กรรม จะสามารถสรปุ ความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายตอ่ กจิ กรรมดังตอ่ ไปน้ี ลาดบั รายการประเมิน ระดับความพงึ พอใจ 54321 1 การไดม้ สี ่วนรว่ มในทากจิ กรรม 25 20 15 0 0 2 สถานที่ในการทากิจกรรมเหมาะสม 20 28 12 0 0 3 ความร่วมมือของชมุ ชน 45 20 0 2 0 4 การทากจิ กรรมครงั้ นเ้ี ป็นการสานสมั พันธ์ระหวา่ งตัว 40 16 3 4 0 นักเรียนกบั ชมุ ชน โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 15

5 อปุ กรณท์ ่ที ากจิ กรรมน้ี ครบถว้ นและเหมาะสม 15 32 9 2 0 6 ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี จิ กรรมนตี้ ่อไป 45 12 6 2 0 จากตารางแบบสอบถามท่ีใช้ในการสัมภาษณ์ชาวบ้านสามารถคิดเป็นร้อยละเรียงตามช่องคะแนนใน แต่ละขอ้ ทงั้ หมดและอธบิ ายได้ดังนี้ 1. การได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรม คิดเป็น 33.33 %, 33.33 % และ 33.33 % ดังน้ันความพึง พอใจของชาวบา้ นในการไดม้ สี ่วนร่วมในการทากิจกรรมครั้งน้ี อยู่ในระดับ ดีมาก, ดี และปานกลาง อย่างละ เท่าๆ กัน 2. สถานที่ในการทากิจกรรมเหมาะสม คิดเป็น 26.66 %, 46.66 % และ20 % ดังน้ันความพึงพอใจ ของชาวบ้านต่อความเหมาะสมของสถานท่ใี นการทากจิ กรรมคร้ังน้ี อยู่ในระดับ ดี 3. ความร่วมมือของชุมชน คิดเป็น 60 %, 33.33 % และ 6.66 % ดังน้ันความพึงพอใจของชาวบ้าน ตอ่ การให้ความรว่ มมอื ในการทากจิ กรรมคร้งั นี้ อยใู่ นระดบั ดีมาก 4. การทากิจกรรมครงั้ น้เี ปน็ การสานสมั พนั ธร์ ะหว่างตวั นกั เรียนกบั ชุมชนคิดเปน็ 53.33 %, 26.66 %, 6.66 % และ 1.33 % ดงั นนั้ ความพึงพอใจของชาวบา้ นตอ่ การสานสมั พันธ์ระหว่างตัวนักเรียนกับชุมชน อยู่ใน ระดับดมี าก 5. อุปกรณ์ท่ีทากิจกรรมน้ี ครบถ้วนและเหมาะสม คิดเป็น 20 %, 53.33 %, 20 % และ 6.66 % ดงั นน้ั ความพึงพอใจของชาวบา้ นต่อความครบถว้ นและเหมาะสมของอปุ กรณท์ ีท่ ากิจกรรมนี้ อยใู่ นระดบั ดี 6. ควรส่งเสริมให้มีกิจกรรมน้ีต่อไป คิดเป็น 60 %, 20 %, 13.33 % และ 6.66 % ดังนั้นความพึง พอใจของชาวบ้านต่อการสง่ เสริมใหม้ ีกจิ กรรมนีต้ อ่ ไป อยู่ในระดบั ดีมาก ข้อเสนอแนะทีไ่ ด้รับในภาพรวม คือ อยากให้ตอ่ ยอดการทากิจกรรมแบบต่อเนือ่ งไปเรอ่ื ยๆ เพอ่ื ท่จี ะได้ มีการนาเสนอผลิตภณั ฑ์ออกสูช่ ุมชน และจะเป็นผลดีตอ่ เดก็ รวมไปถงึ ชมุ ชน ขอ้ เสนอแนะ หนา้ 16 1. ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการศกึ ษาไปใช้ - ควรพฒั นาชอล์กให้สามารถใชไ้ ลแ่ มลงชนดิ อืน่ ไดด้ ้วย - ชว่ ยสร้างอาชีพและรายไดใ้ ห้แก่ประชาชน 2. ขอ้ เสนอในการทาโครงงานครงั้ ต่อไป - พฒั นาประสทิ ธภิ าพของชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไข่ไล่มดจากใบสาบเสอื ใหเ้ พิ่มขน้ึ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน)

- ควรพฒั นารูปแบบของชอล์กใหเ้ ป็นทน่ี ่าสนใจ บรรณานกุ รม กติ ติพนั ธ์ ตนั ตระรงุ่ โรจน.์ (2543). การพฒั นาตารบั ยาทากนั ยุงจากสมนุ ไพร. รวมบทคัดยอ่ งานวิจยั การแพทย์ แผนไทยและทศิ ทางการวจิ ัยในอนาคต สถาบันการแพทย์แผนไทย กติ ตพิ ันธ์ ตันตระรุ่งโรจน์ และวรรณภา สุวรรณเกิด. (2537). การศึกษาประสทิ ธภิ าพของน้ามันหอมระเหยจาก สมุนไพรในการป้องกนั ยงุ กัด. วารสารโรคติดต่อ ขมนิ้ (ออนไลน์). เข้าถึงไดจ้ าก http://www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/ สบื ค้นเมอื่ 16/11/2013 คณะทางานโครงการหนรู กั ผกั สีเขยี ว. (2541). มหัศจรรยผ์ ักสเี ขยี ว. สถาบนั โภชนาการ มหาวิทยาลัยมหดิ ลและ มลู นิธโิ ตโยต้าประเทศไทย. กรงุ เทพ : พมิ พ์ครงั้ ที่ 2 ชอล์กเปลอื กไข่ไลม่ ด (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.thaiagrinews.com/ สืบค้นเมือ่ 8/11/2013 ดนิ สอพอง (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://th.wikipedia.org/wiki/ดินสอพอง สบื ค้นเม่ือ 16/11/2013 เต็ม สมิตนิ ันทน.์ (2544). ชอ่ื พรรณไม้แหง่ ประเทศไทย. สว่ นพฤกษาศาสตรป์ า่ ไม้ สานกั วชิ าการปา่ ไม้ กรม โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 17

ป่าไม้ เนาวรัตน์ ศุขะพนั ธ,์ ไพโรจน์ เปรมปรดี ,ิ์ ยพุ า รองศรแี ยม้ , สุชาติ อุปถมั ภ์, และสมคิด แกว้ มณี. (2536) ประสทิ ธภิ าพการแสดงฤทธข์ิ องสารสกัดสมุนไพรในการขบั ไล่ยงุ . การประชมุ วิชาการวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแหง่ ประเทศไทย ครง้ั ท่ี 19, หาดใหญ,่ 27 – 29 ตุลาคม : 480 – 1 ใบสาบเสอื ไล่มดได้อยา่ งไร (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก http://sarakased.blogspot.com/ สืบค้นเมอื่ 9/11/2013 ใบสาบเสอื ไลม่ ดได้อยา่ งไร (ออนไลน)์ . เข้าถึงได้จาก http://www.gotoknow.org/posts/ สืบคน้ เม่อื 9/11/2013 เปลือกไข่ (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://thaiehow.blogspot.com/ สบื คน้ เมอ่ื 17/11/2013 เปลอื กไขไ่ ล่มดได้อย่างไร (ออนไลน)์ . เข้าถงึ ได้จาก http://info.matichon.co.th/techno สืบคน้ เมือ่ 8/11/2013 เปลือกไข่ไลม่ ดได้อย่างไร (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ ากhttp://www.kasetporpeang.com/ สบื ค้นเมอ่ื 8/11/2013 มด (ออนไลน)์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/may11/ant.htm สบื คน้ เม่อื 17/11/2013 วทิ ย์ เท่ียงบรู ณธรรม. (2548). พจนานกุ รมสมุนไพรไทย. พมิ พค์ รั้งที่ 6. กรงุ เทพ : รวมสาสน์ ปนู ปลาสเตอร์ (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.material.chula.ac.th/ สืบค้นเมอ่ื 17/11/2013 โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 18

ภาคผนวก โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 19

ภาพการเตรียมน้าขมิ้นและนา้ สาบเสือ ภาพการบดเปลือกไขใ่ หล้ ะเอยี ด ภาพการผสมส่วนผสมทง้ั หมด ภาพการคนส่วนผสมให้ เข้ากัน โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 20

ภาพการอดั ชอลก์ เขา้ ไปในหลอดกาแฟ ภาพชอล์กท่ีเสร็จสมบูรณ์ ภาพการใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั ชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไขไ่ ล่มดจากใบสาบเสอื แก่ชาวบ้าน โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 21

ภาพชาวบา้ นกาลังชมผลงานและศึกษาขอ้ มลู จากแผ่นพบั ความรู้ ภาพชาวบ้านให้ความรว่ มมือในการทากจิ กรรมเปน็ อย่างดี หนา้ 22 โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน)

ภาพอธิบายขน้ั ตอนการทาชอล์กแกช่ าวบ้าน โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 23

ภาพการเดนิ แจกแผ่นพบั ความรูแ้ ก่ชาวบ้านและให้ชอลก์ ไปทดลองใช้ หนา้ 24 โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน)

โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 25

ภาพชาวบา้ นใหก้ ารร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม นาเสนอบทสรปุ ต่อโรงเรยี นและประเมนิ ผลโครงการ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 26

บนั ทึกการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ วัน/เดือน/ปี ช่วงเวลาปฏิบัติ จานวน ลงช่ือ ลงช่ือครทู ี่ ชัว่ โมง รายละเอียดการปฏิบัตกิ จิ กรรม วิทยากร ปรกึ ษา 18 ต.ค. 56 13.00 – 15.00 น. 2 1. ขั้นวางแผน ครชู ตุ ิมา ครอู รุณี 23 พ.ย. 56 13.00 – 14.00 น. ถงึ 10 ม.ค. 1.) ช้แี จงวัตถปุ ระสงค์ 57 2.) เขยี นโครงการ 27 ก.พ. 57 13.00 – 15.00 น. 3.) กาหนดขอบขา่ ยและวาง แผนการดาเนินกจิ กรรม 14 2. ขั้นฝกึ ปฏบิ ตั มิ ีขนั้ ตอนดงั นี้ ครอู รุณี ครูอรณุ ี 1.) นาเสนอแผนพัฒนาตอ่ ครูท่ี ปรกึ ษา 2.) ประชุมปรบั ปรงุ แผนและเตรียม แบง่ งานในความรบั ผิดชอบ 3.) เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ทจ่ี ะใช้ 4.) ลงมอื ทากจิ กรรม 5.) สรปุ ผลการดาเนนิ งาน 6.) ประชมุ สรปุ ผลการดาเนินงาน 7.) ครูทป่ี รกึ ษาตรวจแก้ไขผลงาน 8.) จดั รูปเลม่ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ 9.) จัดทาแผ่นพบั ความรู้ 10.) เผยแพร่ผลงานออกสู่ชมุ ชน 11.) จดั ปา้ ยนเิ ทศเสนอผลงาน 2 3.นาเสนอบทสรุปต่อโรงเรยี นและ ครูนิตยา โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 27

ประเมินผลโครงการ สถิตพร รายงานผลการดาเนินงาน ชอ่ื กิจกรรม ชอล์กสมนุ ไพรเปลือกไข่ไลม่ ดจากใบสาบเสอื โรงเรียนศรสี วสั ด์วิ ทิ ยาคารจงั หวัดนา่ น จากการจดั กจิ กรรมชอลก์ สมุนไพรเปลือกไขไ่ ล่มดจากใบสาบเสอื ณ บ้านเชยี งราย ตาบลดู่ใต้ อาเภอ เมือง จังหวดั น่าน เมอ่ื วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2557 พบว่าชาวบา้ นบ้านเชยี งรายใหก้ ารต้อนรบั และให้ความ รว่ มมอื ในการทากจิ กรรมเปน็ อยา่ งดียงิ่ และในภาพรวมของการทากจิ กรรมครั้งน้ชี าวบา้ นมีความพงึ พอใจอยูใ่ น ระดบั ดี ซง่ึ คานวณจากแบบสอบถามสามารถแสดงแผนภมู ริ ปู วงกลมได้ดงั นี้ โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 28

ความพงึ พอใจของชาวบา้ นตอ่ กจิ กรรมชอลก์ สมุนไพรเปลอื กไข่ ไลม่ ดจากใบสาบเสือ นอ้ ยท่สี ดุ 0% ปานกลาง นอ้ ย ดีมาก 20% 7% 30% ดี 43% แบบประเมินความพึงพอใจในการปฏบิ ัติกิจกรรม เพศ ชาย หญิงอายุ............................... ปี ระดับความพึงพอใจ 5 หมายถึง ดีมาก 2 หมายถึง น้อย 4 หมายถงึ ดี 1 หมายถงึ น้อยท่สี ุด โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 29

3 หมายถึง ปานกลาง โปรดใสเ่ ครื่องหมาย  ลงในชอ่ งทท่ี ่านมีความพงึ พอใจ ลาดับ รายการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ 54321 1 การได้มสี ว่ นรว่ มในทากจิ กรรม 2 สถานทใ่ี นการทากจิ กรรมเหมาะสม 3 ความรว่ มมือของชุมชน 4 การทากจิ กรรมครั้งนเ้ี ป็นการสานสมั พนั ธ์ระหว่างตวั นกั เรียนกบั ชมุ ชน 5 อปุ กรณท์ ่ีทากจิ กรรมน้ี ครบถว้ นและเหมาะสม 6 ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี จิ กรรมนตี้ อ่ ไป ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คณะผู้จัดทาขอขอบพระคณุ ทกุ ทา่ นเป็นอย่างย่ิง ที่ให้ความกรุณาในการปฏิบตั ิกจิ กรรมและตอบแบบสอบถาม โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ิทยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 30

ขอ้ มลู ระดับความสาคญั และความเหน็ แบง่ เปน็ 5 ระดบั ระดบั 5 หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 หมายถงึ ดี ระดับ 3 หมายถงึ ปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง น้อย ระดับ 1 หมายถึง นอ้ ยทสี่ ุด เกณฑ์การแปลความหมายขอ้ มลู ระดบั ความสาคญั และความเห็น ระดบั 5 หมายถึง มีความพงึ พอใจดมี าก ระดับ 4 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจดี ระดบั 3 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจนอ้ ย ระดบั 1 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจนอ้ ยทสี่ ุด โรงเรียนศรีสวสั ด์วิ ทิ ยาคาร จงั หวดั น่าน สพม.37 (แพร่-น่าน) หนา้ 31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook