หนังสืออานประกอบการเรยี น กลมุ สาระการเรียนรภู าษาไทย หนวยการเรยี นรูที่ ๑๑ รตู ํานานสบื สานวฒั นธรรมประวัตบิ า นนา้ํ ปลีก ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ ๓ เร่อื ง ประวัตบิ า นนา้ํ ปลีก นายสนุ ทร ศรีเดช ตําแหนง ครู วทิ ยฐานะชํานาญการ โรงเรยี นนาํ้ ปลีกศกึ ษา สํานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาอํานาจเจรญิ สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
คํารับรองของผบู งั คับบัญชา ขาพเจานายสุมิตร เรืองบุตร ตําแหนงผูอํานวยการโรงเรียนน้ําปลีกศึกษา ขอรับรองวาหนังสืออานประกอบการเรียน เรื่อง ประวัติบานน้ําปลีก เปน ผลงานท่ีนายสุนทร ศรีเดช ตําแหนงครู วิทยฐานะชํานาญการ โรงเรียนนํ้า ปลีกศกึ ษา จัดทําขนึ้ จริง ลงชอ่ื (นายสุมติ ร เรืองบตุ ร) ผูอํานวยการโรงเรยี นนํ้าปลกี ศกึ ษา ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐
คํานาํ ถาเราไมรูอดีตความเปนมาเปนขอมูลพ้ืนฐานก็คงจะเปนการยากที่จะ กําหนดปจจุบันและอนาคตได หลังจากเขารับการอบรมจัดทําหนังสือ หลักสูตรทองถิ่น ท่ีชิตสกนธรีสอรทแลวก็ไดพยายามสอบถาม สืบคนเรื่องราว ขอมูล ประวัติความเปนมาในแงมุมตางๆ ของบานนํ้าปลีกถ่ินกําเนิดไวโดย สอบถามจากผูรู ผูอาวุโสในชุมชน ซ่ึงตางก็ใหความกรุณาเปนอยางดี คอยให คําแนะนําและ เปนกําลังใจดวยตระหนักถึงคุณคาอันจะเกิดกับลูกหลาน อนุชนรุนหลัง ไดอาน ไดศึกษาแลวจะเกิดความรักความผูกพันภาคภูมิใจใน ถ่ินกําเนิดและบรรพบุรุษของตนเอง ตามวัตถุประสงคของหลักสูตรที่ใหแตละ ทองถ่ินจัดทําหลักสูตรทองถ่ินของตนเองอยางเหมาะสม ซ่ึงตองใชความ อดทน พยายามสูงใชเวลาในการสอบถาม สัมภาษณ สืบคน รวบรวม ตีความ ตรวจสอบ ยาวนานพอสมควร เพ่ือจะนํามาเขียนเรียบเรียง เน่ืองจาก สวนใหญจะเปนขอมูลแบบ “มุขปาฐะ” บอกเลาแบบปากตอปากสืบตอกัน มา ซึ่งก็มีความคลาดเคลื่อนขัดแยงกันใน บางเร่ืองบางสวน จึงไดสอบถาม ตรวจสอบจากหลายๆ ทาน แลวนํามาเทียบเคียงคอยๆ เรียบเรียงข้ึน ตามลําดับอยางชาๆ เน่ืองจากมีจารึกอยูเพียงแหงเดียว คือ เสมาหลักบาน ตอ งอา นศกึ ษาพฒั นาการ ทางประวตั ศิ าสตรว ฒั นธรรมของหลายจงั หวัด เพื่อ เทียบเคียงระยะเวลาลําดบั เหตกุ ารณ
หากมีขอผิดพลาดใดๆ ปรากฏอยูก็ขอนอมรับไวเพ่ือนํามาปรับปรุงใน คราวตอไป หากมีคุณประโยชนและความดีอยูในผลงานนี้ก็ขออุทิศแต บูรพาจารยบุพการี และผูมีสวนในการใหคําแนะนํา สัมภาษณ สอบถาม สบื คนเรือ่ งราว ทกุ ๆ ทานท้งั ทย่ี งั มชี ีวิตอยแู ละผทู ล่ี ว งลับไปแลว ขอคารวะผมู ี อปุ การคณุ ทุกทานไว ณ โอกาสนีด้ ว ยความจริงใจ (นายสนุ ทร ศรีเดช) ตาํ แหนง ครู วทิ ยฐานะชาํ นาญการ โรงเรียนนาํ้ ปลกี ศกึ ษา ๗ มถิ นุ ายน ๒๕๕๐
นายสนุ ทร ศรีเดช ผูสืบคน รวบรวม เรยี บเรยี ง เกิด เมอ่ื วนั ที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๓ บดิ า-มารดา นายเฉลิม–นางดารา ศรีเดช การศึกษา - ระดับประถมศกึ ษา (ป.๑–ป.๗) จากโรงเรียนชุมชนบานน้ําปลีก (พ.ศ.๒๕๐๙–๒๕๑๕) - ระดับมัธยมศึกษา (ม.ศ.๑–ม.ศ.๕) จากโรงเรียนอํานาจเจริญ (พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๒๐) - ระดับอนุปริญญา ป.กศ.สูง (ไทย-ประวัติ) จากวิทยาลัยครู อุบลราชธานี (พ.ศ. ๒๕๒๑-๒๕๒๒) - ระดับปริญญาตรี ค.บ.เกียรตินิยมอันดับ ๒ (ไทย-ประวัติ) จาก วทิ ยาลยั ครอู บุ ลราชธานี (พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๒๔) รับราชการ - บรรจแุ ตงตง้ั ตําแหนง อาจารย ๑ ระดบั ๓ โรงเรยี นนาหวาวทิ ยาคม อําเภอพนา จังหวัดอุบลราชธานี (ปจจุบันโรงเรียนปทุมราช วงศา อําเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอํานาจเจริญ) ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๒๕
ปจ จุบนั - ดํารงตําแหนง ครู อันดับ ค.ศ. ๒ ชํานาญการ โรงเรียนนํ้าปลีก ศกึ ษา สํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๒๙
คําอนโุ มทนา อุษาอาคเนย เปน ที่รวมชาติพันธุตา งๆ ไวในดินแดนท่ีสมบูรณแตละชาติ พันธุแมแตกตางดวยภาษาและวัฒนธรรมแตก็สามารถอยูรวมกันไดอยางดี มี รองรอยของการตอสูนอยมาก เมื่อเทียบกับที่อื่นในโลกถือเปนดินแดนท่ีสงบ สุขสมช่ือ “แผนดินธรรมแผนดินทอง” ภาคอีสานของไทยก็เปนสวนหน่ึง ของวัฒนธรรมหลากหลายสาขาวัฒนธรรม คือ การสรางสมสิ่งท่ีดีส่ิง สรางสรรคเหลาน้ัน แลวก็ปฏิบัติสืบทอดกันมา บางอยางก็ยังถือปฏิบัติกัน อยางเขมแข็ง แตบางอยางก็มี ความเปล่ียนแปลงไปตามกระแสของ วัฒนธรรมใหม โดยเฉพาะอยางยิ่งโลกทางตะวันตก หรือท่ีเราเรียกวา “อิทธิพลของโลกาภิวัตน” แตบรรพบุรุษของเราชาวอีสานมักเปนคนชอบ จารึกบันทึกส่ิงตางๆ โดยมักจารึกไวที่หลักศิลา, ใบเสมา, ใบลาน ฯลฯ และ สวนมากมกั จะเกบ็ ไวตามวัด เรือ่ งราวและวรรณกรรมตางๆ จึงไดถายทอดสืบ มามากมาย เรามีอัตลักษณ คือ ภาษาทั้งภาษาเขียน เปนอักษรขอม, อักษร ธรรม และอักษรไทยนอ ย และภาษาพูดท่สี บื ทอดกนั มาอยางเดนชัด ทั้งจารีต ประเพณีท่ีเราเรียกวา “ฮีตสิบสองคองสิบสี่” ส่ิงเหลานี้เปนท่ีภาคภูมิใจใน วัฒนธรรมอันงดงามท่ีควรสืบสาน เปนมรดกเปนสมบัติอันลํ้าคา เปนส่ิงท่ีทํา ใหเรามี ความสงบสุขดว ยคณุ ธรรมตลอดมา หมูบานนํ้าปลีก เปนชุมชนท่ีเติบโตอยางรวดเร็ว แตก็มีแบบแผนมี เอกลักษณเปนของตัวเอง ที่เห็นอยางชัดเจน คือ สําเนียงภาษาพูด เปนเรื่อง แปลกทีไ่ มเหมอื นหมูบานไหนในเขตใกลเ คยี งสาํ เนียง “เญ่ินๆ” แตมีเสนหถา จะสันนิษฐานนาจะเปนไปไดสองทาง คอื
๑. เปนชุมชนท่ีต้ังมากอนใครในละแวกน้ีมีสําเนียงเปนเอกลักษณ ชุมชนอ่ืนๆ ยายมาทีหลังสําเนียงจึงแตกตาง แตชุมชนน้ําปลีกไมเคยแยกกัน ไมเ คย แตกออกไปสรางรกรากทีใ่ หม จงึ ไมม หี มบู านไหนมสี าํ เนียงเหมอื น ๒. แตเดิมท่ีน่ีมีชุมชนดั้งเดิมอยูกอนแลว มีสําเนียงภาษาของหมูบาน ทั้งหลายเหลา น้ีเหมือนกันอยกู อนแลว แลวมีชุมชนใหมยายมาจากท่ีอื่นมาต้ัง ท่ีน่ีจึงมีสําเนียงท่ีแตกตางจากถิ่นเดิม หมูบานนํ้าปลีกจึงมีสําเนียงการพูดไม เหมือนหมูบานใด อาตมาภาพไดเคยไปดูคําจารึกที่ใบเสมากลางบาน เคยถามโยม พอครูวิชยั ดอกไมวา “บ.ส. ๒๒๔๘” คืออะไร ทานตอบวา ยอ มาจาก “บาน สรา ง เมอ่ื พ.ศ. ๒๒๔๘” เลยตกใจวา หมูบ านนาํ้ ปลกี น้ีสรา งกอนเมอื งอุบลฯ หรือแมแตกรุงรัตนโกสินทรอีกหรือนี่ คําสันนิษฐานขอท่ี ๑ จึงนาเปนไปได แตก ็เก็บ ความสงสัยปนอยากรู วาทําไมถึงมีใบเสมาท่ีหนองบัวหรือที่วัดโนน สม โฮง การจารึกใบเสมาหมายถึงชุมชนนั้นตองมีความเปนปกแผนมีขอบเขต ชดั เจน มคี วามเจริญรุงเรอื งมาก เปนท่ีนา ศึกษาถึงความเปนมา เคยถามวามี การบนั ทึกเรอ่ื งราวจากบรรพบรุ ุษบา งไหม ไดรบั คําบอกเลา วา ยังไมมชี ัดเจน จนกระท่ังวันหน่ึง ไดพบกับชมรมผูสูงอายุท่ีวัดอาตมาไดปรารภกับ โยมพอแทงและโยมพอครูจรัญวา “หมูบานนํ้าปลีกเปนหมูบานที่สมบูรณ แบบ ทั้งดานประเพณีวัฒนธรรม มีเอกลักษณเปนของตัวเองที่เดนชัด มี รองรอยของประวัติศาสตรยาวนานที่นาศึกษา ขอมูล (มรดก) ใหลูกหลานได ไหม ชวยกันคนควาเรียบเรียงทําเปนบันทึกเร่ืองราวของประวัติหมูบานเพื่อ ลูกหลานจะไดศึกษา ทําเปนแบบเรียนใหศึกษาในโรงเรียนเลยยิ่งดี ลูกหลาน จะไดภ าคภูมใิ จในประวัตคิ วามเปนมา ภาคภูมิใจการสืบสานพัฒนาของบรรพ บุรษุ และน่นั จะเปน การสบื สานวฒั นธรรมประเพณีอยางเขมแข็งตอไป” ซึ่งก็
ไดร ับความเห็นชอบของผอู าวโุ สเหลา น้นั วา กาํ ลังมีการทํากันอยู อาจจะคลาด ไป คลาดมาบาง แตอาตมาก็ใหกําลังใจวาใหเร่ิมทําเสียเถอะทําไวเพ่ือพัฒนา ตอไป เพราะตอ ไปจะย่งิ ลาํ บาก จนวันนี้ในมือของอาตมาภาพในขณะนี้ ไดเห็นส่ิงถือวาทรงคุณคาเห็น ถึงความพยายามและต้ังใจจริงของคุณโยมอาจารยสุนทร ศรีเดช ทานไดทํา หนาท่ีลูกหลานท่ีดีของบรรพบุรุษในการมอบมูล คือ มรดกอันมีคาย่ิงใหแก อนุชน คนรุนหลังไดศึกษา ขอใหจงดําเนินการตอๆ ไป ขออนุโมทนาใน ศรัทธา ปสาทะ ขอคุณโยมอาจารยสุนทร ศรีเดช และผูมีสวนรวมในการทํา หนังสือเลมน้ีทุกทาน และขอแสดงความยินดีแกชาวชุมชนนํ้าปลีกทุกทาน ดว ยความจริงใจ ขออนุโมทนา พระครูบริหารคณาทร วัดปา นาดอกไม ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๐
คาํ นยิ ม นายสุนทร ศรีเดช ตําแหนงครู อันดับ คศ.๒ ชํานาญการ โรงเรียน น้ําปลีกศึกษา เปนผูมีความขยันหมั่นเพียร มีความวิริยะอุตสาหะ มีความคิด ริเร่ิมสรางสรรคในการพัฒนาการเรียนการสอนพัฒนาตนเองอยางตอเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูง เปนที่เคารพรักของนักเรียน เปนท่ีรักและศรัทธาของ คนในชุมชนเปนผูประพฤติปฏิบัติตน ครองตน ครองคน ครองงานไดอยาง เหมาะสมเปนตนแบบแกบุคคลอ่ืนในโรงเรียนและชุมชนไดเปนอยางดี ไดรับ เลือกเปนครูดีเดน ครูดีในดวงใจท้ังของโรงเรียนและสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาอํานาจเจริญ โลเกียรติยศครูดีเดนสาขาผูสอน “เพชรแผนดิน” ของ ฯพณฯ ดร.นิพนธ ศศิธร เปนผูประพันธเนื้อรอง เพลงมารชนํ้าปลีก ศึกษา เพื่อเผยแพรเกียรติคุณ ของโรงเรียน เปนผูคิดออกแบบตราสัญลักษณ ของโรงเรียน และมีผลงาน อีกมากมาย ไดใชความรูความสามารถเพียร พยายามอยางสูงย่ิงในการสืบคน สอบถาม รวบรวมขอมูลมาเรียบเรียง ประวัติความเปนมาของบานน้ําปลีก ซ่ึงถือวาเปนผูริเริ่มสรางนวัตกรรมและ องคความรูใหมๆ มาสูลูกหลาน และผูที่สนใจในทองถิ่นของตน ผลงานน้ี จัดทําไดอยางครบถว นสมบรู ณอ ยา งไมเ คยปรากฏมากอน
ขอแสดงความชื่นชมกบั ผลงานช้ินน้ีเปนอยางยิ่งในการทุมเทเสียสละเวลา ใน การเรียบเรียง ขอใหนําไปเผยแพรเรื่องราวในผลงานน้ีไปยังลูกหลาน และ ชาวน้ําปลีกที่สนใจ และตอสาธารณชน ขอใหมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ แข็งแรงและสรา งสรรคผ ลงานรบั ใชช ุมชนตอๆ ไป (นายสุมติ ร เรืองบุตร) ผอู าํ นวยการโรงเรียนน้ําปลกี ศึกษา ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐
คํานิยม เน้ือหาท่ีปรากฏในหนังสือเลมนี้ แสดงใหเห็นวาผูเขียนไดคนควาศึกษา หาความรูความเขาใจในเรื่องที่ปรากฏอยางกวางขวางลึกซ้ึง ทั้งจากเอกสาร ในยุคตางๆ จากหลักศลิ าจารึกในหมูบาน ปราชญชาวบาน ผูเฒาผูแกมาบอก เลาจากบุคคลในยุคตางๆ และจากประสบการณของผูเขียนเอง คุณสุนทร ศรีเดช เปนบุคคลแรกท่ีคิดริเริ่มการรวบรวมเร่ืองราวบานนํ้าปลีกและนํามา รวมไวในเลมน้ี เพื่อเปนประโยชนแกผูสนใจศึกษา สืบทอดความเปนไป เปน มาของคนบา นนํา้ ปลกี นบั เปน การกระทําที่นา ชมเชย การรวบรวมเอกสาร การเรียบเรียงคําบอกเลาจากผูเฒาผูแก ปราชญ ชาวบาน และการตีความหมายบนหลักศิลาจารึกในประวัติศาสตร นอกจาก ตองใช ความอุตสาหะอยางสูง คุณสุนทร ศรีเดช ยังไดใชความละเอียด รอบคอบอยางยิ่ง ในการกล่ันกรองเรื่องราวมาปะติดปะตอกัน จนทําให สามารถรวบรวมจนเปนเอกสารท่ีแลวเสร็จจึงมีความสมบูรณเปนพิเศษ นับเปนความละเอียดรอบคอบของผูเขียนและแสดงถึงความตั้งใจอยากจะให เกิดประโยชนทีส่ ุดแกผ ศู ึกษาและผูอา น
ผมรูสึกช่ืนชม คุณสุนทร ศรีเดช ซ่ึงเปนอาจารยโรงเรียนนํ้าปลีกศึกษา จบการศึกษาดานภาษาไทย ไดนําความรูท่ีตนมีอยู มาใชในทางท่ีเกิด ประโยชนย่ิงตอสังคม และเชื่อวาเอกสารเลมน้ีจะมีคุณคาสําหรับวงการ วิชาการและวงการประวตั ิศาสตรทอ งถ่ินไทย (นายสชุ าติ ธารารมย) รองผอู ํานวยการโรงเรียนน้ําปลีกศึกษา ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐
คาํ นยิ ม ความภาคภูมิใจในตนเองของคนเรานั้นยอมจะเกิดข้ึนไดในหลาย เร่ืองราวที่ผานเขามาในชีวิตของคนเรา เชนเดียวกันกับความภาคภูมิใจของ คนชนเผา “อีสาน” ท่ีภาคภูมิใจในสายเลือดของบรรพบุรุษท่ีไดสืบทอดวิถี ชีวิต ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ประเพณีท่ีดีงามมาจากเหลาบรรพบุรุษที่ได สรางบานแปลงเมืองหลอหลอมส่ิงที่ดีงามไวเปนมรดกใหตกทอด เปนสมบัติ อันล้าํ คา มาสูล กู หลานในรุนหลังตอ มาไวใหไดชื่นชมดวยความภาคภมู ใิ จ หนังสือประวัติบานน้ําปลีกท่ีทานอาจารยสุนทร ศรีเดช ไดเรียบเรียง ขน้ึ เลม นน้ี ับไดว าเปนเอกสารท่ที รงคณุ คา ทางประวัติศาสตรที่นาภาคภูมิใจ ท่ี ไดกลา วถงึ การกอ ตั้งบานเมอื งของบรรพบรุ ษุ ของชนเผา บานน้ําปลกี รุนแรกๆ จนกระท่ังตอมาไดพัฒนาเจริญรุงเรืองกาวหนามาเปนหมูบานน้ําปลีกใน ปจจุบัน จนไดรับ การยกฐานะเปน “เทศบาลตําบลน้ําปลีก” จวบ จนกระทง่ั วันนี้ ขอขอบคุณทานอาจารยสุนทร ศรีเดช เปนอยางมากท่ีไดมีความ อุตสาหะ วิริยะ เพียรพยายามสืบคนขอมูลทางประวัติศาสตรถึงการกําเนิด กอตั้งบานนํ้าปลีกจากแหลงขอมูลตางๆ จนสําเร็จเปนเอกสารท่ีสมบูรณที่สุด ฉบับหน่ึง เพ่ือเปนเอกสารอางอิง ไวใหชาวนํ้าปลีกทุกทาน ตลอดจนผูสนใจ ใครร ปู ระวัติศาสตร ความเปน มาของบานน้ําปลกี จากอดตี จนถึงปจ จบุ ันได
ศึกษาอยางละเอียดทุกแง ทุกมุมหวังวาคงจะเปนประโยชนตอชุมชนนํ้าปลีก และผอู า นทุกทานตอ ไป (นายไพศาล พรหมภา) รองผูอํานวยการโรงเรียนนํ้าปลกี ศกึ ษา ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐
คาํ นยิ ม คุณครูสุนทร ศรีเดช ครูโรงเรียนน้ําปลีกศึกษา เปนผูมีความ ขยันหม่ันเพียร วิริยะ อุตสาหะ มีความคิดริเริ่มสรางสรรคที่ดี ชอบสนทนา สอบถามหาความรู ของทองถ่ินจากผูรูอาวุโสในชุมชนอยูเสมอ เปนผู ประพฤติปฏิบัติตนไดอยางเหมาะสม เปนแบบอยางท่ีดีแกบุคคลอื่นและ ชุมชนไดเปนอยางดี นานมาแลวไดเคยสนทนาและปรารภไววาอยากให คุณครูสุนทร ไดรวบรวม เรียบเรียงประวัติบานน้ําปลีกใหลูกหลานชาวน้ํา ปลีกไดอา น ไดศ กึ ษาถึงประวัติความเปนมาของบรรพบุรุษ เพื่อสรางความรัก และภาคภูมิใจในทองถิ่นของตนเอง อันจะเปนรากฐานและเปนพลังผลักดัน ในการท่ีจะพฒั นาทองถิ่นและบานเมืองใหเจริญกาวหนาตอไป ซ่ึงการทํางาน น้ีตองสอบถาม สืบคน คนควา ตีความ รวบรวมกวาจะนํามาเรียบเรียงน้ันก็ ตองใชเ วลานานมาก ตองทํางานตอเน่ืองอยางอดทนดวยความพากเพียรเปน อยางย่ิง กวาจะเสร็จสมบูรณข้ึนมาได ผลงานชิ้นน้ีนับไดวาเปน “นวัตกรรม” ชิ้นแรกที่มีความสมบูรณย่ิง อยางไมเคยปรากฏมากอนให ทองถิน่ น้ี
รูสึกชื่นชมกับผลงานช้ินน้ีที่แทบจะเรียกไดวามีความสมบูรณเกือบทุกแง ทุก มุม ตองขอบคุณคุณครูสุนทร ศรีเดช ท่ีทุมเท เสียสละในการทํางานชิ้นนี้ เพือ่ ถ่ินกําเนิด ดว ยความพยายามอยางสงู มา ณ โอกาสนีด้ วยความจริงใจ (นายจิตติ รันตพิทกั ษส ุข) นายกเทศมนตรตี าํ บลน้าํ ปลีก ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐
สารบัญ หนา ๑ เร่อื ง ๖ ๑. คาํ ศัพทน ยิ าม ๑๐ ๒. นามอนั เปนชือ่ ๑๕ ๓. เหลาน้คี ือหลกั ฐานรอ งรอย ๒๘ ๔. ยอนเกร็ดเล็กเกร็ดนอ ยสปู จ จบุ ัน ๓๒ ๕. หมูบา นเตบิ โตพัฒนา ๓๕ ๖. เสมาหลกั บาน ๓๗ ๗. บุญบาน บุญกมุ ขาวใหญ ๔๑ ๘. เฒาในบา นผูน ําชุมชน ๔๖ ๙. ภาคภมู ิใจชนชาวนํา้ ปลีก ๕๙ ๑๐. น้ําปลกี ในวนั นี้ ภาคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: