แบบสำรวจแนวทำงกำรพัฒนำเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียน ระดับภำค คำชแ้ี จง หลงั จำกท่ีท่ำนไดพ้ ฒั นำกำรดำเนนิ งำนของสถำนศึกษำนำร่องฯตำมโครงกำร TFE (Team For Education) กบั สำนกั งำนศึกษำธิกำรจังหวดั มำแล้วทำ่ นมีแนวทำงในกำรดำเนนิ งำนต่อไปอยำ่ งไร แนวทำงกำรพฒั นำกำรดำเนินงำนของสถำนศกึ ษำนำรอ่ งฯ โครงกำร T F E (Team For Education) โรงเรยี นน้ำปลกี ศกึ ษำ จังหวัดอำนำจเจรญิ ............................................................................................................................. ................. 1. ดำ้ นบริบทสถำนศกึ ษำ 1.1 เป้าประสงค์ (GOAL) โรงเรียนกาหนดเปา้ หมายทช่ี ัดเจนในการดาเนนิ งาน พันธกจิ เป้ำประสงค์ ๑. จัดกระบวนการบริหารและการจัด ๑. จัดระบบบริหารเพ่ือพฒั นาโรงเรียนทัง้ ระบบ การศึกษาทั้งระบบให้เอื้อต่อการพัฒนา ๒. โรงเรยี นมีการวางแผนพัฒนางานวิชาการทเี่ น้นคุณภาพ คณุ ภาพการศึกษา ของผู้เรียนรอบด้านทุกกล่มุ เป้าหมาย และดาเนนิ การ เปน็ รปู ธรรม ๓. โรงเรียนวางแผนบริหารและการจัดการข้อมูล สารสนเทศอย่างเป็นระบบ ๔. วางแผนและดาเนนิ การพัฒนาครแู ละบคุ ลากรให้มีความ เช่ียวชาญทางวิชาชีพมีและใช้แผน(ID Plan) ในการพัฒนา ตนเองตามทีต่ นเองสอดคล้องกบั ต้องการพฒั นาของตนเอง ๕. โรงเรียนวางแผนการกากับ ติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการบริหารและจัดการศึกษา ๖. โรงเรียนมีการพัฒนาและแก้ปัญหาโดยใช้หลัก PLC สู่ การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา ๗ . โ ร ง เ รี ย น ว า ง แ ผ น พั ฒ น า อ า ค า ร ส ถ า น ที่ แ ล ะ สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมให้เอ้ือต่อการจัดการ เรยี นรู้ใหน้ ่าดู น่าอยู่ นา่ เรียน ๘. โรงเรียนมีเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่โดดเด่น เป็นที่ ยอมรับเชือ่ มั่น ศรทั ธาของชมุ ชน และหน่วยงานต้นสงั กดั ๒. บริหารจดั การแบบมีสว่ นร่วมเอ้ือ ๙. โรงเรียนสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและระดม ตอ่ การพฒั นาคุณภาพของผเู้ รียน ทรพั ยากรเพ่ือส่งเสริมการจัดการศึกษา ๑๐. ครู บคุ ลากร นกั เรียน ผูป้ กครอง ชมุ ชนทอ้ งถ่นิ และ หนว่ ยงานราชการสถานประกอบการอ่นื เข้ามามสี ว่ นร่วม การพฒั นาการจัดการศกึ ษา
พนั ธกิจ เป้ำประสงค์ ๓. จัดกิจกรรมสง่ เสริมระบบดูแล ๑๑. โรงเรียนมีและใช้ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนเพื่อพฒั นา ชว่ ยนกั เรยี นใหม้ ีความเข้มแข็ง คุณภาพของผู้เรยี นอยา่ งรอบด้าน ๔. จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม ๑๒. พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมนักเรียนให้มีคุณลักษณะและ จริยธรรมผู้เรียนให้มีคุณลกั ษณะ คา่ นยิ มทด่ี ีงามตามแนวทางทสี่ ถานศกึ ษากาหนด ที่พงึ ประสงค์ ๑๓. ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย จนสามารถอยูร่ ่วมกนั บนความแตกตา่ งได้อยา่ งมคี วามสุข ๑๔. ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม ตามที่ โรงเรยี นกาหนด ๕. ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ ๑๕. มีการจดั กระบวนการเรียนรทู้ ่ีเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียน ทุก ทีเ่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ คนเข้ามามสี ่วนรว่ ม ๑๖. สถานศึกษาพฒั นาหลกั สูตรและจัดกระบวนการเรียนรู้ ท่ี เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญโดยยดึ โยงกบั บรบิ ทของชุมชนและ ท้องถน่ิ ๑๗. โรงเรียนมีการจัดระบบการตรวจสอบและประเมินความรู้ ความเข้าใจของผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบและมีประสิทธิภาพ ๑๘. ครจู ัดกระบวนการเรยี นรู้อิงมาตรฐานการศึกษา ตามแนวทางการพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ ๑๙.ครใู ชแ้ หล่งเรียนรู้ และภมู ิปญั ญาท้องถิ่น เพอ่ื พฒั นา คณุ ภาพผูเ้ รยี นอยา่ งคุ้มค่า ๒๐. ครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชร้ ปู แบบการสอน Active Learning และ Stem Education ตลอดท้งั รูปแบบอืน่ ๆ สู่ การพฒั นาคุณภาพของผู้เรียน ๒๑. ครใู ชว้ ิธกี ารวดั และประเมนิ ผลผูเ้ รียนอย่างหลากหลาย วิธกี ารตามหลักทฤษฎีของ Bloom ครอบคลมุ ท้ัง ความรู้ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (KPA) จุดเน้นและสมรรถนะ ทีส่ าคัญตามที่หลักสตู รกาหนด ๒๒. ครมู ีการวัดและประเมินความกา้ วหนา้ ด้านการเรียนของ ผ้เู รียนรายบคุ คลเปน็ ชนั้ ปี
พันธกจิ เป้ำประสงค์ ๕. ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ ๑๕. มีการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เปดิ โอกาสให้นักเรียน ทุก ทเี่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคญั คนเขา้ มามสี ่วนรว่ ม ๑๖. สถานศึกษาพฒั นาหลกั สูตรและจัดกระบวนการเรียนรู้ ที่ เน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญโดยยึดโยงกบั บรบิ ทของชุมชนและ ท้องถ่ิน ๑๗. โรงเรียนมกี ารจัดระบบการตรวจสอบและประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจของผเู้ รียนอยา่ งเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ๑๘. ครจู ัดกระบวนการเรียนรู้อิงมาตรฐานการศึกษา ตามแนวทางการพัฒนาห้องเรียนคณุ ภาพ ๑๙.ครใู ชแ้ หลง่ เรยี นรู้ และภมู ิปัญญาท้องถ่ิน เพือ่ พัฒนา คณุ ภาพผเู้ รยี นอยา่ งคุ้มค่า ๒๐. ครูจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชร้ ูปแบบการสอน Active Learning และ Stem Education ตลอดทง้ั รูปแบบอื่นๆ สู่ การพัฒนาคณุ ภาพของผ้เู รียน ๒๑. ครูใช้วิธกี ารวดั และประเมนิ ผลผูเ้ รียนอยา่ งหลากหลาย วธิ กี ารตามหลกั ทฤษฎขี อง Bloom ครอบคลมุ ท้ัง ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (KPA) จดุ เนน้ และสมรรถนะ ท่ีสาคัญตามทหี่ ลกั สตู รกาหนด ๒๒. ครมู กี ารวดั และประเมนิ ความกา้ วหนา้ ดา้ นการเรียนของ ผู้เรียนรายบุคคลเปน็ ชนั้ ปี ๒๓. โรงเรียนมแี ผนและใช้แผนการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนสูก่ ารพฒั นาคุณภาพของผเู้ รียน ๖. จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ กระบวนการ ๒๔. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการยึดโยงบริบท เรยี นร้แู บบบูรณาการเช่อื มโยงบริบท และท้องถ่ินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ สวน และวถิ ชี มุ ชนสปู่ ระชาคมอาเซียน พฤกษศาสตร์ ส่กู ารพัฒนาคุณภาพของผเู้ รียน ๒๕. ครจู ดั กิจกรรมและการเรียนรสู้ ู่ประชาคมอาเซียน ๗. จัดกระบวนการเรยี นรูพ้ ัฒนา ๒๖. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการของการเรียนตามท่ี ผลสัมฤทธทิ์ างวชิ าการของผเู้ รียน สถานศึกษากาหนด ๒๗. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและ ทกั ษะ ๓R และ 8C ทจี่ าเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ๒๘. ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สารและ ICT เพอ่ื การเรียนร้อู ยา่ งหลากหลาย
พนั ธกจิ เปำ้ ประสงค์ ๗. จดั กระบวนการเรียนรพู้ ฒั นา ๒๙. ผ้เู รียนมีความสามารถในการ คิดวเิ คราะห์ ผลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการของผูเ้ รยี น(ต่อ) คิดวจิ ารณญาณ อภิปราย แลกเปลย่ี นความคิดเห็นและ แก้ปัญหา คดิ สร้างสรรค์ อย่างเป็นระบบ ตดั สินใจ แกป้ ญั หา สรุปองคค์ วามรู้ และนาเสนอไดอ้ ย่างมีเหตุผล ๓๐. ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน เขียน การส่ือสาร และ การคิดคานวณตามเกณฑ์ของแตล่ ะระดับช้นั ตลอดท้ังแสวงหา ความรดู้ ้วยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองตอ่ เนอ่ื ง ๓๑. ผู้เรียนมีความสามารถตามจุดเน้นและสมรรถนะ ท่ีสาคญั ตามทห่ี ลักสูตรกาหนด ๓๒. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามความถนัดและสามารถ ของตนเองเต็มตามศกั ยภาพ ๓๓. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและพัฒนาการจาก ผล การทดสอบท้งั ระดบั โรงเรียนและระดบั ชาติ ๓๔. ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนตามหลักสูตร สถานศกึ ษา ๓๕. นักเรียนมีความพร้อมในการศึกษาต่อ การฝึกงานหรือ การทางาน ๘. จัดระบบประกันคุณภาพภายใน ๓๖. โรงเรียนใช้ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเพื่อ สถานศึกษาทมี่ ีประสิทธิภาพใหเ้ กิด ยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ประสทิ ธิผลต่อการพฒั นาคุณภาพ การศึกษา ๓๗. โรงเรยี นจดั ระบบการควบคุมภายใน ๙. จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถ ๓๘. โรงเรยี นมแี ละใชแ้ ผนพัฒนาความสามารถพเิ ศษ พิเศษของผเู้ รียน ของผ้เู รียนให้สามารถเรียนรตู้ ามความถนัดและความสามารถ เตม็ ศักยภาพของผ้เู รยี นแต่ละบคุ คล ๓๙. ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมและพัฒนาตามความถนัดและ ความสามารถเตม็ ตามศกั ยภาพของแต่ละบคุ คล
ด้ำนท่ี 2 เปำ้ หมำยดำ้ นกระบวนกำร (PROCESS) จัดกำรเรยี นรู้ 1. จดั บรรยำกำศหอ้ งสมดุ เหมอื นบำ้ น มีหนังสือสื่อใหม่เพยี งพอ วิธดี ำเนนิ กำร 1.1 จดั บรรยากาศทว่ั ไปดี เชน่ สะอาด โล่ง โปร่ง สบาย สีสนั สดใส แสงสว่างเพยี งพอ ต้นไมร้ ่มรื่น 1.2 การจัดพนื้ ทีท่ าให้น่าสนใจ ไม่มีมุมอับ เฟอร์นิเจอร์สบาย ป้ายบอกทางชัดเจน มีป้ายนิเทศให้ความรู้ 1.3 การจัดส่วนส่วนการวางหนังสอื เช่น จัดวางหนงั สืออยา่ งเหมาะสม เข้าถึงง่าย ใชส้ ะดวก 1.4 จดั หาหนังสอื สอ่ื เรยี นรูใ้ นรปู ของส่ิงพิมพ์ ทีม่ ีเนื้อหาท่ีดี มคี ุณภาพ ไมเ่ ปน็ พิษเป็นภัยตอ่ สังคม 1.5 มีโครงการรักการอา่ น เพื่อสนบั สนุนใหน้ กั เรยี นใฝร่ ูใ้ ฝ่เรยี นและศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง 2. ปรบั ปรงุ สื่อกำรเรียนรู้ในห้องปฏบิ ตั ิกำรตำ่ ง ๆ อย่ำงคมุ้ ค่ำ วธิ ีดำเนินกำร 2.1 จดั ใหม้ หี อ้ งปฏบิ ตั ิการทางวชิ าการทเี่ หมาะสม ให้ผู้เรยี นไดแ้ สดงออกตามศักยภาพและความ ถนดั ได้รบั ประสบการณ์ตรงในการเรยี นร้จู ากจากการใชห้ ้องปฏิบตั กิ าร 2.2 ปรบั ปรงุ ห้องปฏิบตั ิการทางวิชาการ ใหเ้ ปน็ หอ้ งศึกษาค้นควา้ สาหรบั ผู้เรยี น ทันสมัย มีความ สวยงาม มอี ากาศถ่ายเทได้สะดวก อีกท้ังสะดวกและเหมาะสมในการจดั กิจกรรมตา่ งๆของโรงเรียน และ สามารถใช้ ห้องปฏิบตั กิ ารทางวิชาการให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสุด
3. ใช้ศูนย์กำรเรยี นรงู้ ำนอำชีพครบวงจร นกั เรียนมีรำยได้ระหว่ำงเรยี น วิธดี ำเนินกำร 3.1 จัดห้องปฏบิ ัติการงานอาชีพของโรงเรียน เปน็ ศูนย์เรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ใช้เกบ็ อุปกรณท์ ่ี จาเป็น และ สามารถเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ในการเรียนได้อย่างเหมาะสม เปน็ สถานที่ให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรู้กระบวนการ ทางด้านการ งานอาชีพฯและมหี ้องใช้งานอยา่ งเปน็ ระเบยี บ 3.2 มีสอื่ และส่ิงอานวยความสะดวกเพยี งพอต่อความต้องการและพรอ้ มใช้งาน 3.3 ใชเ้ ปน็ สถานทีป่ ฏบิ ัติงาน รวบรวมผลงาน และผลผลติ และนาผลงานของนกั เรียนสามารถนาไป จาหนา่ ยได้ เชน่ การทาขนมจาหน่ายในโรงเรียน ฯลฯ ทาให้มีรายได้ในระหวา่ งเรยี น และสามารถนาไป ประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตได้ 4. เป็นศูนยก์ ีฬำชุมชนแบบครบวงจรมีสนำมกีฬำ วธิ ดี ำเนินกำร 4.1 จดั ให้มสี นามกีฬา เพอื่ ให้นกั เรยี นมสี ถานท่ีออกกาลังกายอย่างเพียงพอกับความต้องการ และ ชุมชนใช้ เป็นลานกีฬาเอนกประสงค์ของชุมชนเพื่อให้เยาวชน และประชาชนได้มีสถานท่ีในการ ออกกาลังกาย อีกท้ังร่วมกับองค์กรเอกชนสนับสนุนการแข่งขันกีฬาและเล่นกีฬา กลางแจ้ง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของนักเรียน ของประชาชน สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แขง็ แรง รวมท้ังได้ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ช่วยลดปัญหายาเสพตดิ ได้อีกทางหน่ึง เช่น โครงการแข่งขันฟุตบอล น้าปลีกศึกษา- มิตรอานาจเจริญ คัพ ครั้งท่ี 1 อ้างอิง http://gg.gg/NP-MT-CUP62 5. มีสุขำนักเรยี นสะอำด เพียงพอ ปลอดภยั ถกู สุขอนำมัย วิธีดำเนนิ กำร 5.1 พฒั นา ปรบั ปรุง หอ้ งนา้ โรงเรียนให้ไดม้ าตรฐาน สะอาด เพยี งพอ ปลอดภยั 5.2 ปลกู ฝังใหน้ กั เรียนมีพฤติกรรมการใช้ห้องน้าใหถ้ ูกสขุ ลักษณะ 5.3 เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงอนั ตรายการใชห้ ้องน้าสกปรก 5.4 ปลูกฝงั การมจี ติ สานึก การมีสว่ นรว่ มในการพัฒนาโรงเรียนให้นา่ อยู่ ดว้ ยการมีจิตสาธารณะ 6. ใชแ้ หล่งเรยี นรู้ ภูมปิ ัญญำท้องถ่นิ ส่ือเทคโนโลยที ันสมยั ในกำรเรียนรู้ วธิ ีดำเนนิ กำร 6.1 เชิญปราชญ์ชาวบา้ น ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ มาเปน็ วิทยากรและร่วมการจัดการเรยี นรู้ในโรงเรียน 6.2 นานักเรียนไปยังแหล่งเรียนรูแ้ ละสถานประกอบการของภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ให้ผูเ้ รียนได้เรียนรู้ จากของ จริง ทาให้เกดิ ประสบการณ์ตรง เกดิ ความสนกุ สนานมเี จตคติท่ีดีต่อชมุ ชน และกระบวนการเรียนรู้ เหน็ คุณค่า ของแหลง่ เรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ เกิดความรักท้องถิน่ และเกิดความรใู้ นการอนรุ กั ษส์ ิง่ ท่ีมคี ณุ ค่าใน ท้องถ่ิน 6.3 ปลูกฝงั ให้ผเู้ รียนมที ้ังความรู้ คุณธรรมจรยิ ธรรม คา่ นิยมที่พึงประสงคแ์ ละสามารถดาเนินชวี ติ อย่ใู น สังคม ได้โดยปกตสิ ขุ 6.4 พัฒนาศักยภาพ ความสามารถของ ผู้เรยี นอยา่ งเต็มท่ี เพื่อให้มีนิสัยใฝร่ ู้ ใฝ่เรียน แสวงหา ความรู้ได้ ด้วยตนเอง การนาแหล่งเรียนรูใ้ น ชมุ ชน ทอ้ งถ่นิ ตลอดจนวิทยากรทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ มาใช้ ประโยชน์
2. ดำ้ นผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำ วิธีดำเนนิ กำร 1 ผอู้ านวยการโรงเรยี นเปน็ ผู้เรม่ิ และเป็นผนู้ าทางวชิ าการอยา่ งมีคุณภาพ และพัฒนาคุณภาพ ผเู้ รยี น มุง่ มัน่ ในการพฒั นาตนเอง พัฒนาครู และผู้เรยี น ให้ได้พัฒนาไปตามศกั ยภาพอย่างมีคุณภาพ ทางาน ด้วย จิตใจทีแ่ นว่ แน่ มนั่ คงมีอุดมคติและไมย่ อ่ ทอ้ ต่ออุปสรรคและปัญหานานปั การท่จี ะตอ้ งเผชญิ และต้องหา ทางแก้ไขให้สาเรจ็ สร้างสรรค์ศรัทธาจากชมุ ชนและองค์กร เปน็ นักพูดท่มี ศี ิลป์ มีศิลปะในการเจรจาตอ่ รอง ตลอดจน เปน็ นกั ฟังท่ดี ี ท่ีพร้อมท่ีจะรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้คนรอบข้าง อีกท้ังยังเป็นการสร้างขวญั และ กาลงั ใจแกผ่ รู้ ่วมงาน รบั ฟงั ปัญหา ขอ้ คับข้องใจ ผบู้ รหิ ารที่สามารถแสดงบทบาทต่าง ๆ ดังกลา่ วมาแล้ว และ บทบาทอื่น ๆ ตามสถานการณใ์ หเ้ หมาะสม 2 เปน็ ท่ียอมรบั ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ชมุ ชนและบคุ คลทว่ั ไป เชน่ ได้รับรางวัลบุคลากรดีเด่น เน่ืองในวันครูแห่งชาติ พุทธศักราช 2562 ประเภทผู้บริหาร สถานศึกษา จากสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 และรายงาน สถานศึกษาที่ผ่านการประเมินของศูนย์พัฒนาวิชาชีพครู และบุคลากรทางการศึกษา จงั หวดั อานาจเจริญ อา้ งองิ http://gg.gg/NP-62-2 3. ด้ำนครูและบุคลำกร ได้จัดทำคู่มือปฏิบัติงำนวิชำกำร ปฏิทินวิชำกำร หลักสูตรสถำนศึกษำ และร่วมกับคณะครูจัดทำแผน ยกระดับผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี นโรงเรยี นนำปลีกอย่ำงเป็นระบบ หลักสตู รโรงเรยี นนำปลกี ศึกษำ URL : http://pubhtml5.com/bookcase/gswo คมู่ ือกำรบรหิ ำรงำนวิชำกำรโรงเรยี นนำปลกี ศึกษำ โครงกำรพฒั นำยกระดับผลสัมฤทธ์ิทำงวิชำกำรของผเู้ รียน ในการกาหนดแนวคิดในการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ในครั้งน้ี โรงเรียนน้าปลีกศึกษาได้ กาหนด Model ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยต้ังเกณฑ์โรงเรียนจะต้องมีผลการทดสอบ Ordinary National Education Test (O-net) เพ่ิมข้ึนร้อยละ 5 ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยกาหนดแนวทางการดาเนินงาน ดงั นี้
ระบบกำรยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นของโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำ Qr-code กาหนดแนวการดาเนินงานเป็น 15 ข้นั ตอน ดังนี้ กำรดำเนินงำนระบบกำรยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทำงกำรเรียนของโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำ 1. จัดทา/ปรับโครงการยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหค้ รอบคลุมทุกกิจกรรมท่ีกาหนด ลง้ิ ก์ เอกสารการดาเนนิ งาน http://gg.gg/Achievement-62 2. เม่ือครวู างแผนการสอนตามมาตรฐาน และตวั ชว้ี ัดแลว้ ใหโ้ รงเรยี นตรวจสอบการวิเคราะห์ หลกั สตู รให้ตรงตามตัวช้วี ัด Test-Blueprint ลิง้ ก์เอกสารการดาเนินงาน http://pubhtml5.com/bookcase/gswo 3. วางแผนการสอนชั้น ม. 3 และ ม.6 ให้จบ และครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภายในวนั ท่ี 20 มกราคม พ.ศ. 2563 ศึกษาข้อมูลผลสัมฤทธิ์O-Net ทก่ี ลุม่ งานวิชาการได้ทาการ วิเคราะห์ ปีการศกึ ษา 59-62 ล้งิ กเ์ อกสารการดาเนินงาน http://gg.gg/NP-O-NET59-61 4. สบื ค้นสือ่ และ แบบทดสอบ เพื่อจดั ทาบัญชีรายช่ือคลังส่อื และแบบทดสอบ O-Net จาก Google และYoutube ล้ิงกเ์ อกสารการดาเนินงาน http://gg.gg/Onet-test-48-61 5. เขา้ พัฒนาความรู้การจดั ทาข้อสอบอิงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละจดั ทาข้อสอบอิงมาตรฐาน การเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรียนปกติและสอนเสรมิ เติมเตม็ ตามแนวข้อสอบของ สทศ. ใน หอ้ งเรยี น หรอื กาหนดกจิ กรรม วนั เวลาใหช้ ดั เจน ลิง้ กเ์ อกสารการดาเนนิ งาน http://gg.gg/TrainingOnet-NP 6. ครูผู้รบั ผดิ ชอบในโรงเรยี นทุกคนรว่ มกันสร้างข้อสอบตามแนวขอ้ สอบของ สทศ. ข้อสอบ องิ มาตรฐานการเรยี นรู้ แล้วแลกเปลีย่ นขอ้ สอบผา่ นเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ล้งิ กเ์ อกสารการดาเนนิ งาน http://gg.gg/Standardized-exam-62 7. นาแนวข้อสอบ O-NET ไปใชแ้ ทรกในการเรียนการสอนปกติ และในการสอนเสริมเตมิ เต็ม ในชัน้ เรยี นให้นกั เรยี นคุ้นเคยและมีประสบการณ์การทาขอ้ สอบ (รูปแบบขอ้ สอบ/ กระดาษคาตอบ/การระบายคาตอบฯ) ล้ิงก์เอกสารการดาเนนิ งาน http://gg.gg/Exam-Bank-NP
กำรดำเนินงำนระบบกำรยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนของโรงเรียนนำ้ ปลกี ศึกษำ Qr-code 8. ผู้บริหารกาหนดปฏทิ นิ การนเิ ทศภายในโรงเรียนเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นให้ ชัดเจน (กาหนดวนั ท่ี กจิ กรรมทตี่ อ้ งทา) ลง้ิ กเ์ อกสารการดาเนนิ งาน http://gg.gg/calendar-KRUYOK 9. ผ้บู ริหารติดตามการนาข้อสอบ O-NET ไปใช้ในสถานศึกษา การนาขอ้ สอบ O-NET ไปใช้ ในชัน้ เรียน ตดิ ตามผลการทางานของครผู รู้ บั ผิดชอบทุกระยะอยา่ งใกล้ชิดเพื่อให้ดาเนินงาน บรรลุตามแผนงาน หรอื แกไ้ ขปัญหาตา่ งๆ ได้ทนั เวลา ล้งิ กเ์ อกสารการดาเนินงาน http://pubhtml5.com/bookcase/ohcp 10. จัดกจิ กรรมสอนเสริมเติมเต็ม ใหต้ ่อเนือ่ งก่อนถงึ วันสอบจรงิ (O-NET สอบ เดือน 1-2 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2563 และ 29 กุมภาพันธ์-1 มนี าคม พ.ศ.2563 ล้งิ ก์เอกสารการดาเนนิ งาน http://online.pubhtml5.com/ylqa/dysr/ 11. จัดสอบเสมือนจรงิ โดยใชข้ ้อสอบ กระดาษคาตอบ การคุมสอบ เวลาสอบเสมือนจริง ทกุ ประการ โดยใชข้ ้อสอบในคลังขอ้ สอบ ซงึ่ จัดทาขน้ึ ตามแนวขอ้ สอบของ สทศ. บันทึกผล การสอบ ตรวจคาตอบ และวเิ คราะห์ผลการทดสอบเพ่ือปรับปรุงแก้ไขนกั เรยี นก่อนวันสอบ จริง ล้งิ ก์เอกสารการดาเนินงาน http://gg.gg/O-Net62-1 12. จดั กิจกรรมเสรมิ แรงทางบวก (จัดอาหารวา่ งนา้ หวาน ขนมช่วงพักสอบ) สร้าง บรรยากาศผอ่ นคลาย ทาสมาธกิ อ่ นเวลาสอบ 13. ประชาสัมพันธ์ความสาคัญของการสอบ O-NET ทกุ สัปดาห์ ลิ้งกโ์ หลดเอกสาร http://gg.gg/NP-develop62 14. ประกาศ/ปา้ ย นบั เวลาถอยหลัง Count Down ทุกวัน ลง้ิ กเ์ อกสารการดาเนินงาน http://gg.gg/np-count-down 15. โรงเรียนให้รางวัลนักเรยี นทีม่ คี ะแนนสอบสงู /มคี วามก้าวหนา้ สงู โดยกาหนดหนักเรียนท่ี มผี ลการทดสอบสูงกวา่ 50% จะไดท้ ุนการศึกษาวชิ าละ 300 บาท ในทกุ รายวิชา ล้งิ ก์ เอกสารการดาเนินงาน http://gg.gg/Encouragement-NP
ระบบกำรยกระดับผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรียนของโรงเรียนน้ำปลกี ศกึ ษำ FLOW CHART Nampleeksuksa Education Active Technique : http://gg.gg/Achievement-62
1. ชอ่ื โครงกำร โครงกำรพัฒนำยกระดับผลสัมฤทธิท์ ำงวิชำกำรของผ้เู รยี น 2. ผลกำรดำเนินโครงกำร ได้ทาการจดั การอบรมให้กบั ครูโรงเรียนน้าปลกี ศกึ ษาให้สามารถทา ขอ้ สอบองิ มาตรฐาน และมีการจัดการประเมินโดยการสอบหลงั การอบรมโดยครูทกุ คนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามเอกสารในเวบ็ ไซต์การพัฒนาระบบงานวดั ผลนา้ ปลีก ศกึ ษา ลงิ้ ค์ https://goo.gl/dSBKnn หรอื เขา้ ผ่าน Qr-code 3. ปญั หำและอปุ สรรค ครแู ละบุคลากรทกุ คนนาเครอื่ งมือการวัดและประเมนิ ผลไปใช้ด้วยวิธีการที่หลากหลายไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ ตอ้ งใชเ้ วลาซ่ึง ช่วงเวลาในการจดั ทาเคร่ืองมือน้อย 4. ข้อเสนอแนะ การใชก้ ารประเมินดว้ ยวิธีการที่หลากหลายได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ต้องใชเ้ วลาซง่ึ ชว่ งเวลาในการจดั ทา เคร่ืองมือน้อย จึงตอ้ งแจ้งครูใหเ้ ร็วขึน้ ในปีการศึกษาถดั ไป โครงกำรพฒั นำเครอ่ื งมอื กำรวดั และประเมินผลทีห่ ลำกหลำยและเหมำะสมกบั ผเู้ รยี น ช่อื โครงกำร โครงการพฒั นาเคร่ืองมือการวัดและประเมินผลทห่ี ลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรยี น ผลกำรดำเนินโครงกำร ครูและบุคลากรทุกคนนาเครอื่ งมือการวัดและประเมินผลไปใชด้ ว้ ยวิธกี ารท่ี หลากหลายไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และตอนนโ้ี รงเรยี นมคี ลงั ข้อสอบกลางภาคและปลาย ภาคเรียนที่ 1,2 ในทุกรายวิชา และข้อสอบปลายภาค ในภาคเรียนท่ี 1 ในทกุ รายวชิ า ครู ทุกคนสร้างเครื่องมอื การวดั และประเมินผลท่หี ลากหลายครอบคลุมทุกด้านท้ัง k p a c ทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ และมคี ลงั ข้อสอบทไ่ี ด้มาตรฐาน ฉบับออนไลนไ์ ด้ตามลิง้ ค์ https://goo.gl/PzFfcl 5. 6. ปัญหำและอปุ สรรค ครูบางทา่ นยังขาดความเขา้ ใจเร่ืองการวดั และประเมินผลการศกึ ษาองิ มาตรฐาน ขาดอปุ กรณใ์ นการจัดการเรยี นการสอนบางรายการ 7. ขอ้ เสนอแนะ จดั กิจกรรมเพื่อส่งเสริมความตระหนักและความสาคญั ในการทดสอบระดับชาตใิ นเรื่อง เรือ่ งการ วดั และประเมินผลการศึกษาอิงมาตรฐาน ตอ้ งเร่งสารวจอปุ กรณ์ในการจัดการเรยี นการสอนบางรายการท่ีครตู ้องการใชก้ ่อนเปดิ ภาคเรยี น โครงกำรพฒั นำยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนและพัฒนำผลกำรทดสอบระดับชำติ 1. ชื่อโครงกำร โครงการพฒั นายกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนและพฒั นาผลการทดสอบระดบั ชาติ 2. ผลกำรดำเนนิ โครงกำร
จัดทาแบบวิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติข้ันพื้นฐาน ปีการศึกษา 2559 เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาโรงเรียนดว้ ยความมงุ่ หวังทจ่ี ะสร้างความเปน็ เลิศทางดา้ นวิชาการให้กบั ผเู้ รยี น ใหม้ ี ความรู้และทักษะท่ีจาเป็นตามหลักสูตร โดยเฉพาะการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบ ระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน ในทุกกลุ่มสาระให้เป็นไปตามเกณฑ์ โรงเรียนน้าปลีกศึกษาจึงเห็นความสาคัญ และ จาเป็นต้องดาเนินการในการยกระดับผู้เรียนให้มีความรู้และทักษะที่จาเป็นตามหลักสูตร จึงได้เร่งดาเนินการ ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น และผลการทดสอบระดบั ชาตขิ น้ั พนื้ ฐาน (O-NET) ปกี ารศึกษา 2559 อีกท้ัง ทาการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการวัดประเมินผลภายในโรงเรียนว่ามีความสอดคล้อง กับผลการทดสอบระดับชาติหรือไม่ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ให้เป็นไปตามเปา้ หมายที่โรงเรยี นกาหนดต่อไป เขา้ อ่านแบบวเิ คราะห์ผลสมั ฤทธ์ิทางการ เรียนและผลการทดสอบระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน ปีการศึกษา 2559 ฉบับออนไลน์ได้ตาม ลง้ิ ค์ http://gg.gg/NP-O-NET59-61 3. 4. ปญั หำและอุปสรรค นักเรยี นให้ความตระหนกั ในการสอบโอเน็ตน้อย โดยเฉพาะมัธยมศกึ ษาปที ่ี6 5. ขอ้ เสนอแนะ จดั กิจกรรมเพ่อื สง่ เสริมความตระหนักและความสาคัญในการทดสอบระดับชาติ
โครงกำรวจิ ัยและพัฒนำเพ่ือกำรยกระดับคณุ ภำพกำรศกึ ษำในสถำนศึกษำท้งั ระบบ 1. ชอ่ื โครงกำร โครงการวจิ ัยและพัฒนาเพ่อื การยกระดบั คุณภาพการศึกษาในสถานศกึ ษาทัง้ ระบบ 2. ผลกำรดำเนินโครงกำร ได้จดั ทาเอกสารความรู้เก่ยี วกับการวจิ ัยในช้ันเรียนท่ถี กู หลักวิชาการ ซ่งึ จาเป็นสาหรบั ผู้เริ่มตน้ ในการ จดั ทาวจิ ัยในชัน้ เรยี น และได้จดั ทาเป็นเอกสารแบบออนไลน์เพื่อความสะดวก และง่ายในการเขา้ ถงึ ข้อมูล 1. รูปแบบในการจัดทาวจิ ยั ทถี่ ูกหลักวิชาการ ตามลงิ้ ค์ https://goo.gl/Q9QvYm 2. ตัวอย่างวิจัยในช้นั เรยี นที่ถูกต้อง ตามลง้ิ ค์ https://goo.gl/NDbcRX 3. แนะนาการใช้โปรแกรมวเิ คราะห์ข้อสอบ ตามลงิ้ ค์ https://goo.gl/GMbFYV รูปแบบในกำรจดั ทำวิจยั ทีถ่ ูก ตัวอย่ำงวิจัยในชนั้ เรยี นทถ่ี ูกตอ้ ง แนะนำกำรใช้โปรแกรมวเิ ครำะห์ หลกั วิชำกำร ข้อสอบ 3. 4. ปัญหำและอปุ สรรค ครมู ภี าระงานมาก และขาดความรูด้ า้ นสถติ ิ 5. ข้อเสนอแนะ จดั กจิ กรรมเพือ่ ส่งเสริมความตระหนกั และความสาคญั ในการทาวจิ ยั และให้ความรู้เพิ่มเตมิ ในเร่ือง สถิติ ในการวิจัยเบ้ืองต้น สนองยุทธศำสตร์ สพฐ.ที่ 4 การผลติ กาลงั คนและงานวจิ ยั ที่สอดคล้องกบั ความต้องการของการพัฒนา ประเทศ
รำยช่ือผู้มีวจิ ัยในช้นั เรยี นท่ผี ่ำนกำรประเมนิ ปีกำรศึกษำ 2562 ของศูนยพ์ ัฒนำวชิ ำชีพครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำจังหวดั อำนำจเจรญิ สำนักงำน สกสค.จังหวัดอำนำจเจริญ ท่ี ชอ่ื -สกุล โรงเรยี น หมำยเหตุ 1 นางกฤตพร จนั ทรแ์ ดง โรงเรยี นน้าปลีกศกึ ษา 2 นางขวญั ใจ จนั ทนะชาติ โรงเรียนน้าปลกี ศกึ ษา 3 นางมณรี ัตน์ สุทธการ โรงเรยี นน้าปลีกศกึ ษา 4 นางวรรณี บญุ สุภากลุ โรงเรยี นน้าปลกี ศึกษา 5 นางสมหมาย ส่อยสแี สง โรงเรียนน้าปลกี ศึกษา 6 นางสาวจารวุ ัลย์ ประพิณ โรงเรียนนา้ ปลกี ศึกษา 7 นางสาวโฉมสุดา บญุ โสม โรงเรียนน้าปลีกศกึ ษา 8 นางสาวภกั ดนิ ันท์ สมรกั ษ์ โรงเรยี นน้าปลีกศึกษา 9 นางสาวภทั ริยา โพธิ์ศรีคณุ โรงเรียนนา้ ปลกี ศกึ ษา 10 นางสาวภิญญดา วงศป์ ัดสา โรงเรียนน้าปลีกศึกษา 11 นายบดี ทะนอก โรงเรยี นนา้ ปลีกศึกษา ๔.๓ อ่นื ๆ เขา้ รบั ชมวีดีทศั น์โรงเรียนน้าปลีกศกึ ษา โรงเรียนคุณภาพประจาตาบลระดับมธั ยมศึกษา ลงิ้ ค์ http://gg.gg/1Quality-School 4. ด้ำนผู้เรียน ดำ้ นท่ี 3 เป้ำหมำยด้ำนกระบวนกำร (PROCESS) ปลกู ฝงั นิสยั นักเรยี น 1. ฝกึ ควำมมีวินยั วธิ ีดำเนินกำร 1.1 จดั ทาข้อตกลงในการปฏิบัติตนภายในหอ้ งเรยี น 1.2 ครเู ปน็ แบบอยา่ งให้กับนักเรยี น มขี ้อตกลงในการปฏบิ ัติอยา่ งไร มีความสมา่ เสมอในการ ปฏิบัตติ ่อ นักเรียนทกุ คนโดยเทา่ เทียมกัน มกี ารปพู ้ืนฐานการปฏิบัตใิ นแนวทางทีเ่ หมาะสมกบั วัย 1.3 ปรบั เปลยี่ นเทคนิค ในการจัดการเรื่องวินัยให้เหมาะสมกบั สถานการณใ์ นแตล่ ะวัย 1.4 ให้นกั เรียนรู้แผนงานในแตล่ ะวนั แต่ละสัปดาห์ เพื่อนักเรียนจะได้มคี วามรสู้ ึกมนั่ คงเพราะได้รู้ ว่าเขา ตอ้ งทากจิ กรรมอะไรบา้ งในวันนัน้ สัปดาห์น้ัน ชว่ ยให้ไดเ้ ตรยี มตวั เตรียมใจ ในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ จะได้ ควบคมุ ตนเองในการเข้าไปรว่ มมอื ทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามแผนงานที่กาหนด หรอื ตามข้อตกลงท่กี าหนด
1.5 เม่อื เกดิ มีพฤติกรรมอะไรท่ีครคู ิดว่าจะเปน็ อันตรายต่อบคุ คลอื่น จะเข้าไปจัดการทนั ที หยุดพฤติกรรม นน้ั เมอื่ เด็กสงบแล้วจงึ พดู ดว้ ย สอบถามสาเหตุ และชว่ ยกันคิดหาแนวทางในการแก้ปัญหานัน้ ๆ 1.6 จัดส่ิงแวดล้อมท่ีดี สภาพแวดล้อมภายในห้องท่ีอบอุ่นเตม็ ไปด้วยความรัก ความเขา้ ใจ ความช่วยเหลือ เกอ้ื กูลกนั เม่ือเดก็ มีพฤติกรรมท่ีต้องการแกไ้ ข จะใช้กล่มุ ย่อยเพ่ือนในห้องเป็นส่อื ช่วยในการ รกั ษาวินยั ใน ห้องเรยี น เด็กจะดแู ลตวั เอง ใหท้ ุกคนเขา้ มาอยูใ่ นกรอบท่ีตกลงกันไว้ บางเร่ืองเด็กชว่ ยกันเอง ดแู ลกนั เอง 2. กำรฝึกควำมเคำรพ วิธีดำเนินกำร 2.1 โรงเรยี นจัดกิจกรรมเสรมิ สร้างคุณธรรม จริยธรรม ใหม้ วี ัฒนธรรม ยิ้ม ไหว้ ทักทาย นักเรียนทกุ คน ไดร้ ับการพัฒนาและปลูกฝังใหเ้ ปน็ ผู้มีคณุ ธรรม ท้งั ด้านพฤตกิ รรม จติ ใจ และสติปัญญา 2.2 การปฏิบัติจริงตามคุณธรรมจริยธรรมตามหลักศาสนา ท้ังด้านกาย วาจา และ ใจ โดยยึด หลัก คุณธรรมตามหลักการของแต่ละศาสนาเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ และ ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการ พัฒนาให้เป็นคนดี มีศีลธรรม จริยธรรมและคุณธรรม ปฏิบัติตนในสิ่งท่ีดีงาม รู้จักกระทาความดตี ่อตนเองและ ผู้อ่ืน มีความรู้จักรับผิดชอบช่ัวดี รู้จักความถูกต้อง อดทน ควบคุมจิตใจ และ การกระทาในขอบเขตอัน เหมาะสม 16.3 จดั กจิ กรรมใหผ้ ู้เรยี นทุกคนได้รบั การพัฒนาทัง้ ด้านร่างกาย จติ ใจ สติปญั ญา และ สมอง ผ่านกิจกรรม การสอนและการฝึกปฏิบัติจริงให้เกดิ การเรยี นรูท้ ั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรยี น ผา่ นกิจกรรมทโี่ รงเรยี นจดั ข้นึ 3. ฝึกควำมอดทน วธิ ดี ำเนินกำร 3.1 โรงเรยี นมนี โยบายใหค้ รูนาไปใช้เปน็ กจิ กรรมหนึง่ ในการจัดการเรยี นการสอน โดยใหน้ กั เรยี น นงั่ สมาธิ สงบกาย สงบใจ สงบวาจา 3.2. ครนู าคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สอดแทรกในกระบวนการเรียนการสอน ปลูกฝังให้นักเรียน การรอคอย 3.3 ฝึกนสิ ยั ใหม้ ีความอดทนทางจติ ใจ อบรมช้ีแจงและปลกู ฝังคุณธรรมท่ีช่วยให้เกิดความอดทน มีความ พยายามทาท่ลี ะน้อยแต่สม่าเสมอและเพม่ิ ขึ้นตามลาดบั ทาทันทีไมผ่ ดั วนั ประกนั พรงุ่ ทางานดว้ ยความ เอาใจ ใส่ ทุม่ เททางานนัน้ ใหส้ าเรจ็ โดยการตรวจผลงานทนี่ ักเรียนทา 5. ด้ำนชมุ ชน 4. ฝกึ นิสัยผำ่ นกจิ กรรมชีวติ 6 มิติจำกกำรมีส่วนรว่ มของ “บวร” วิธดี ำเนินกำร โรงเรยี นไดส้ รา้ งภูมิคุ้มกนั ในการดารงชวี ิตของนักเรยี น โดยใหเ้ รียนรู้ทง้ั ในหลกั สูตรและนอก หลกั สตู ร สอดแทรกทั้งในและนอกห้องเรยี น ประกอบด้วยการพัฒนาคนอย่างย่ังยนื 6 มิติ ไดแ้ ก่ 1. คณุ ธรรม จริยธรรม และศลี ธรรม ปฏิบตั ิตามหลักศาสนาที่นับถือศาสนาพุทธ ฝกึ นักเรียนให้มี จิตใจสงบ นงั่ สมาธิ สวดมนตไ์ หว้พระ กราบไหว้พ่อแม่ ใฝท่ าดี มเี ป้าหมายในชวี ติ 2. การดารงชีวิต ฝึกให้นักเรยี นตระหนกั ในหนา้ ที่ มวี นิ ัย และความรบั ผดิ ชอบ 3. วชิ าการ ฝกึ นกั เรยี นให้มีความฉลาด รอบรูเ้ ทา่ ทันการเปลีย่ นแปลง เชน่ ทบทวนตาราเรยี น ศึกษาหา ความร้เู พิ่มเตมิ
4. สงั คม ฝึกนักเรยี นให้รจู้ ักสร้างมิตรภาพทีถ่ ูกต้องเหมาะสม รจู้ กั มารยาทและกาลเทศะ บาเพ็ญ ตนให้ เปน็ ประโยชน์ต่อชมุ ชนและสังคม 5. อาชีพ ฝึกนักเรียนใหเ้ รียนรูอ้ าชพี พื้นฐานท่ีสจุ รติ รจู้ กั ออมเงิน เรียนรู้อาชพี ในครอบครวั ชุมชน เพื่อทีจ่ ะสามารถพ่งึ พาตนเองได้ 6 นันทนาการ ฝกึ นักเรียนใหร้ ู้จักใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ ทางานสร้างสรรคต์ ามความชอบ หรอื ความ สนใจ 5. ปลูกฝงั จติ สำนกึ อนรุ ักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม วิธีดำเนนิ กำร 5.1 จัดกิจกรรมการปลกู ตน้ ไม้ในวนั สาคัญต่าง ๆ พร้อมทง้ั อบรมให้ความรเู้ ก่ียวกับส่ิงแวดลอ้ มโดย เน้นให้ นกั เรียน ไดร้ จู้ กั ธรรมชาตทิ ี่อยรู่ อบตัวมนุษย์อยา่ งแท้จรงิ โดยยึดหลกั ศาสนา โดยสอนให้คนมีชวี ติ ความ เปน็ อยอู่ ย่างเรยี บงา่ ย ไม่ทาลายชวี ติ อื่น ๆ ท่ีอย่ใู นธรรมชาติดว้ ยกัน ใช้ประโยชนจ์ าก 5.2 สร้างจติ สานึกแหง่ การอนุรักษส์ ่งิ แวดลอ้ มและปลกู ฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ความมจี ิต สาธารณะ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคมและส่งิ แวดล้อม โดยสอดแทรกในกิจวัตรประจาวันของสถานศกึ ษา 5.3 การรณรงคใ์ หน้ ักเรียนประหยดั พลงั งานไฟฟ้า 5.4 จดั ทาธนาคารขยะในโรงเรียน การแยกขยะ นอกจากจะมีรายได้จากการจาหน่ายขยะเหล่านน้ั ยงั จะมี ส่วนชว่ ยใหเ้ กิดการแปรรูป ผลิตภัณฑเ์ พื่อนากลบั มาใชใ้ หม่ 6. สร้ำงแรงจงู ใจใหน้ ักเรียนทำควำมดีทกุ วนั (กำย วำจำ ใจ) วธิ ีดำเนนิ กำร 6.1 มกี ิจกรรม ยกย่องชมเชยหน้าเสาธง นกั เรยี นท่ีทาความดีเก็บของได้แลว้ คืน นักเรียนที่ทา ชือ่ เสียง ใหก้ บั โรงเรยี น นกั เรียนท่ีเข้าร่วมแขง่ ขันวิชาการและไดร้ ับการคัดเลือก ประกวดโครงงานโครงการและไดร้ ับ การคัดเลือก นักกฬี า-กรฑี าที่ไดร้ ับรางวลั จะไดร้ บั ขวญั และกาลงั ใจโดยได้รับการ ประกาศเกียรติคณุ หนา้ เสา ธงและประชาสัมพนั ธใ์ ห้ชุมชนและหนว่ ยตา่ ง ๆ ได้รับทราบ 6.2 จัดกิจกรรม “ค่ายคุณธรรม” โดยการนานกั เรยี นไปเข้าคา่ ยทีว่ ดั
ร่องรอยหลกั ฐำน เรือ่ ง URL QR-CODE ข้อมูลผลสมั ฤทธ์ิ O-Net ทกี่ ลุ่มงาน http://gg.gg/NP-O-NET59-61 วชิ าการได้ทาการวิเคราะห์ ปกี ารศกึ ษา 59-62 รายงานผลการประเมินตนเองของ https://pubhtml5.com/bookcase/wewe สถานศึกษา SAR62 ขั้นตอนการสรา้ งและหาประสิทธภิ าพ http://online.pubhtml5.com/ylqa/aypx/ ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี นโรงเรียนนา้ ปลีกศึกษา จดั ทาแผนยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการ http://pubhtml5.com/bookcase/zpzu เรยี น ผลงำนดีเดน่ ปกี ำรศกึ ษำ 2562 ได้รบั คดั เลอื กใหน้ าเสนอรปู แบบหรอื แนว ได้รับเกียรติบตั รไดป้ ฏิบัติการสอนดว้ ยความมุ่ง ไดร้ บั เกยี รตบิ ัตรโรงเรียนทป่ี ระสบความสาเร็จใน ทางการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ภายใต้โครงการ TFE ในพืน้ ท่ดี าเนินงานของสานกั ศกึ ษาธกิ าร มนั ตง้ั ใจทุม่ เทเสียสละจนมีผลการทดสอบระดับชาติ การจดั การศกึ ษา เป็นกลมุ่ เปา้ หมายในการถอด ภาค ๑๔ ขั้นพ้นื ฐาน O-Net สงู เป็นอนั ดับ 3 ของโรงเรียน บทเรยี น การยกระดับผลการทดสอบระดบั ชาติข้ัน ขนาดเลก็ จากสานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา พ้ืนฐานจากสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา มัธยมศึกษาเขต ๒๙ มธั ยมศึกษาเขต ๒๙
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: