Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบสำรวจข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลต่อความจำเป็นในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระดับภาค

แบบสำรวจข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลต่อความจำเป็นในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระดับภาค

Published by t.kruyok004, 2020-06-17 11:01:14

Description: แบบสำรวจข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลต่อความจำเป็นในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระดับภาค
คำชี้แจง สถานศึกษาทำการวิเคราะห์ (S W O R T) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความจำเป็นในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามโครงการ T F E (Team For Education)
โรงเรียนน้ำปลีกศึกษา จังหวัดอำนาจเจริญ

Search

Read the Text Version

แบบสำรวจข้อมูลปจั จัยที่สง่ ผลต่อควำมจำเป็นในกำรยกระดับผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรยี น ระดับภำค คำชแ้ี จง สถำนศึกษำทำกำรวเิ ครำะห์ (S W O R T) ปจั จัยทีส่ ่งผลตอ่ ควำมจำเป็นในกำรยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น ตำมโครงกำร T F E (Team For Education) โรงเรยี นน้ำปลกี ศกึ ษำ จังหวัดอำนำจเจริญ ............................................................................................................................. ................. 1. ปจั จัยด้ำนบรบิ ทสถำนศกึ ษำ 1) จดุ แข็ง โรงเรียนนำ้ ปลีกศึกษำ ซึง่ มคี วำมพร้อมโดยเปน็ โรงเรียนคุณภำพประจ้ำต้ำบล ระดบั มัธยมศึกษำ ทงั นี โรงเรียนตังอยู่ใจกลำงชุมชนน้ำปลีก ท่ีมีประชำกรในต้ำบลประมำณ 5,000 คน โดยมีควำมร่วมมือทังจำก เทศบำลต้ำบลน้ำปลีก และ องค์กำรบริหำรส่วนต้ำบลนำ้ ปลกี และ ยังได้รับควำมช่วยเหลือจำก มูลนิธิ ไฉ่ ฟ้ำ ว่องกุศลกิจ ท่ีให้งบประมำณในกำรจัดสร้ำงโรงอำหำร โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำมีกำรคมนำคมที่สะดวก โดยมี ทำงหลวงจังหวัดหมำยเลข 2210 ผ่ำนหน้ำโรงเรียน โดยเป็นทำงหลวงจังหวัดท่ีเชื่อมระหว่ำงอ้ำเภอหัว ตะพำน กับถนนหลวงเส้น 202 ซ่ึงเชื่องระหว่ำงจังหวัดอ้ำนำจเจริญ กับจังหวัดยโสธร อีกทังโรงเรียนมีระบบ อินเตอร์เน็ตควำมเร็วสูง ซึ่งได้รับกำรสนับสนุนงบประมำณจำกส้ำนักงำนเขตพืนที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 29 มีกลยุทธ์ที่มีควำมเหมำะสมเพียงพอ สำมำรถน้ำไป ปฏิบัติจริงได้และมีประสิทธิภำพ โดยมีกำรใช้กลยุทธ์ พัฒนำผลกำรทดสอบทำงกำร ศึกษำระดับชำติขันพืนฐำน (O-NET) ของนักเรียน 1) กำรสร้ำงควำม ตระหนกั (Awareness Building) 2) กำรส่งเสริม กำรมีส่วนร่วม (Promoting Participation) 3) กำรใช้นวัตกรรม ทำงกำรเรยี นรู้(Learning Innovation) 4) กำรนเิ ทศแบบชีแนะ (Coaching Supervision) และ 5) กำรก้ำกับ ติดตำม (Followup Monitoring) 2) จุดออ่ น โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำเป็นโรงเรียนมัธยมขนำดเล็กท่ีอยูนอกเมืองจะมีกำรแขงขัน ทำงดำนวิชำกำร และมีควำมกระตือรือรน ควำมเอำใจใส ในกำรเรียนนอย สงผลใหคะแนน O-NET ต้่ำ เมื่อเทียบกับโรงเรียน ขนำดกลำงและโรงเรียนขนำดใหญในเมืองท่ีมีกำรแขงขันทำงดำนวิชำกำรสงู ตัวปอน (นักเรียน) ของโรงเรียน สวนใหญเกือบรอยละ 90 จะมีนักเรียนท่ีมีควำมตังใจ กระตือรือรน และใหควำมส้ำคัญกับกำรสอบ O-NET มำก จึงสงผลให ผลกำรสอบ O-NET ในโรงเรียนนันสูงจน เปนที่นำพอใจของคณะครูในโรงเรียน ซึ่งต้อง ปรบั แก้และสร้ำงแนวทำงกระตนุ้ นกั เรยี นใหม้ คี วำมตระหนักมำกขนึ 3) โอกำส โรงเรยี นนำ้ ปลกี ศึกษำไดเ้ ข้ำร่วมโครงกำรโรงเรียนคุณภำพประจ้ำต้ำบลระดบั มัธยมศกึ ษำ เพ่อื สร้ำงให้ เป็นโรงเรียนท่ีดีมีคุณภำพจึงต้องมีควำมเข้มแข็ง มีบุคลำกรท่ีมีควำมรู้ควำมสำมำรถ ตลอดจนกำรมี ส่วนร่วม ของผู้ปกครองและชุมชน เป็นปัจจัยท่ีน้ำสู่โรงเรียนที่ดีท้ำให้นักเรียนมีคุณภำพ และพร้อมพัฒนำอย่ำงต่อเน่ือง ในอนำคต

4) อปุ สรรค โรงเรยี นนำ้ ปลกี ศึกษำมภี ำระงำนโครงกำรพิเศษของโรงเรยี นตำมนโยบำย จ้ำนวนมำก เชน่ โรงเรียน คุณภำพประจำ้ ต้ำบลระดบั มัธยมศกึ ษำ โรงเรียนวิถพี ธุ โรงเรยี นปลอดขยะ โรงเรียนสีขำว และโครงกำรอนื่ ๆ ไมว่ ำ่ จะ โครงกำรทที่ ้ำรว่ มกบั ชมุ ชนซึ่งเป็นงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำยเพิ่มเติมจำกงำนกำรสอนท้ำให้ครมู ีเวลำใน กำรเตรียมกำรสอนน้อยลงไม่สำมำรถสอนได้เตม็ ท่ี จึงสง่ ผลให้คะแนน O-NET ของนกั เรยี นในโรงเรียนดงั กล่ำว ต่้ำลงไปด้วย ปัญหำด้ำนวัดและประเมินผล พบว่ำใช้วิธีกำรวัดและประเมินผลไม่หลำกหลำย บุคลำกรครูที่ จัดกำรเรียนรู้ ไม่ได้วิเครำะห์มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชีวัดมีผลท้ำให้กำรวัดและประเมินผลไม่สอดคล้องตำม มำตรฐำน และตัวชีวัด บุคลำกรมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ียวกับกำรวัดและประเมินผลไม่ทันต่อยุคกำร เปลี่ยนแปลง ผู้บริหำรและหัวหน้ำงำนที่ ได้รับมอบหมำยขำดกำรส่งเสริมและติดตำมกำรวัดและประเมินผล ของครู โดยมีแนวทำงแก้ไขปัญหำ ครูควรวัดผล นักเรียนด้วยวิธีกำรท่ีหลำกหลำย เช่น กำรท้ำโครงกำร แฟ้ม สะสมงำน สง่ เสรมิ สนับสนนุ บุคลำกรครูจัดกรเรียนรูแ้ ละ กำรวัดนกั เรียนตำมตวั ชีวัดและเนือหำ ควรให้ควำมรู้ แก่ครูในด้ำนกำรวัดและประเมินผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ผู้บริหำร และหัวหน้ำงำนที่ได้รับมอบหมำย ตระหนัก เอำใจใส่ ตดิ ตำมกำรวดั และประเมินผลของครู 2. ปัจจยั ด้ำนผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำ 1) จุดแขง็ มีผู้บริหำรที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมที่จะพัฒนำโรงเรียนอย่ำงต่อเนื่อง ปฏิบัติงำนแบบมีส่วนร่วมระหว่ำง ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูผู้สอน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขันพืนฐำน โดยใช้กระบวนกำร/วงจรคุณภำพ (PDCA) ในกำรปฏิบัติงำน มีแนวทำงบริหำรท่ีชัดเจนโดยยืนยันได้จำกแผนปฏิบัติกำรที่มีควำมสอดคล้องกับ ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี ยุทธศำสตร์กระทรวงศึกษำธิกำร ยุทธศำสตร์ส้ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน พืนฐำน กลยุทธ์ส้ำนักงำนเขตพืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 29 อีกทังเป็นผู้น้ำทำงวิชำกำร กำรจัด บรรยำกำศโรงเรียน และกำรจัดนิเทศภำยในของผู้บริหำรท้ำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำร เรียนดีขึน ดังนัน ผ้บู รหิ ำรควรมพี ฤตกิ รรมควำมเปน็ ผู้นำ้ ทำงกำรศึกษำท่ีมุ่งสง่ เสริม ช่วยเหลือ สนบั สนุนด้ำน ผลสัมฤทธ์ิทำงกำร เรยี นมคี วำมคำดหวังในตวั นักเรยี นสูง มกี ำรนิเทศภำยในอย่ำงเปน็ ระบบและมีกำรใหค้ ำ้ ปรึกษำ 2) จุดออ่ น ผู้บริหำรโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำ จะเกษียณในปีกำรศึกษำ 2563 ท้ำให้กำรบริหำรงำนอำจต้องขำด ชว่ งและรอผ้บู รหิ ำรคนต่อไปก้ำหนดนโยบำย และทิศทำงกำรทำ้ งำน อกี ทังผบู้ ริหำรต้องทำ้ งำนตำมนโยบำยต้น สงั กดั ทีม่ ีปริมำณมำก โรงเรยี นมงี ำนอน่ื ๆ เช่น งำนพสั ดุ งำนกำรเงิน งำนธรุ กำร รวมถึงงำนโครงกำรพเิ ศษของ โรงเรียน โครงกำรที่ท้ำร่วมกับชุมชนซ่ึงเป็นงำนที่ได้รับมอบหมำยเพ่ิมเติมจำกงำนกำรสอนท้ำให้ครูมีเวลำใน กำรเตรยี มกำรสอนนอ้ ยลงไม่สำมำรถสอนไดเ้ ตม็ ท่ี จึงส่งผลใหค้ ะแนน O-NET ของนกั เรยี นในโรงเรียนดังกล่ำว ต่้ำลงไปดว้ ย 3) โอกำส โรงเรยี นมกี ลยทุ ธก์ ำรส่งเสริมกำรมี สว่ นร่วม (Promoting Participation) ท่ีประกอบ ด้วย

1) สง่ เสริมให้ผูป้ กครองนักเรียนเอำใจใส่ดแู ล และชว่ ยเหลอื กำรเรยี นของบุตรหลำน 2) ผู้บริหำร และ บคุ ลำกร ร่วมมอื กนั ดแู ลเอำใจใส่นกั เรียน เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรียน 3) กล่มุ สถำนศึกษำร่วมมอื กัน ในกำรยกระดับผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น 4) ส่งเสริมสนบั สนนุ กำร ทำ้ งำนรว่ มกนั ระหวำ่ งเครอื ขำ่ ยตำ่ งๆ 4) อุปสรรค ผู้บริหำรต้องทำ้ งำนตำมนโยบำยตน้ สงั กดั ที่มีปรมิ ำณมำก โรงเรียนหลำยแห่งครูมีงำนอ่นื ๆ เช่น งำนพสั ดุ งำนกำรเงิน งำนธรุ กำร รวมถึงงำนโครงกำรพิเศษของโรงเรียนไม่ว่ำจะเป็นโครงกำรอำหำรกลำงวนั โครงกำรท่ี ทำ้ ร่วมกบั ชมุ ชนซงึ่ เปน็ งำนทไี่ ด้รับมอบหมำยเพ่ิมเตมิ จำกงำนกำรสอนท้ำใหค้ รูมเี วลำในกำรเตรียมกำรสอน นอ้ ยลงไมส่ ำมำรถสอนได้เต็มท่ี จึงส่งผลให้คะแนน O-NET ของนักเรยี นในโรงเรียนดงั กลำ่ วต่้ำลงไปดว้ ย 3. ปจั จัยดำ้ นครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 1) จุดแขง็ โรงเรียนน้ำปลกี ศึกษำ มีบุคลำกรที่มีควำมรูค้ วำมสำมำรถและเป็นครูในชมุ ชนเปน็ ส่วนใหญ่ ตลอดจน กำรมี ส่วนร่วมของผู้ปกครองและชมุ ชน เป็นปัจจยั ท่นี ำ้ สู่โรงเรยี นท่ีดที ้ำใหน้ ักเรยี นมีคณุ ภำพ คุณภำพผเู้ รียน สังเกตได้ จำกผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของนกั เรียน โดยผำ่ นกระบวนกำรจดั กำรทำงดำ้ นวชิ ำกำร กำรเรียนรู้ และกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ท่ผี บู้ ริหำรและครูผสู้ อนก้ำหนดขึน คุณครทู ีส่ อนครบชนั และตรงตำมวิชำเอก และมีวฒุ ิสงู กว่ำปริญญำตรี คิดเป็นร้อยละ 42.86 ซ่งึ มีควำมสำมำรถในกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรเู ปน็ อย่ำงดี ส่งผลตอ่ กำรเรยี นรู้ของผเู้ รียน โดยในระดับมธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ผลกำรทดสอบระดบั ชำตขิ ันพืนฐำนของโรงเรยี นน้ำปลีก ศึกษำ ในปกี ำรศึกษำ 2560 สูงเป็นอันดับ 2 ในจงั หวัด รองจำกโรงเรยี นอำ้ นำจเจริญ และมองในภำพ โรงเรยี นขนำดเล็ก โรงเรยี นนำ้ ปลีกศึกษำ มผี ลกำรทดสอบเป็นอนั ดับ 1 ในสงั กัดสำ้ นักงำนเขตพนื ทกี่ ำรศึกษำ มธั ยมศึกษำ เขต 29 2) จุดออ่ น นกั เรียนเกิดควำมรู้เกดิ ทกั ษะในกำรเรยี นมำกขนึ แตย่ ังไม่เต็มทีด่ ว้ ยพบวำ่ ยงั มีครูทใ่ี ช้วิธีกำรสอนแบบ บรรยำยม่งุ เนน้ ใหเ้ ด็กท่องจำ้ จดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นครเู ป็นส้ำคญั มำกกวำ่ กำรเน้นผเู้ รยี นเป็น สำ้ คญั ในรำยวิชำท่ีต่ำงกนั ครกู ็จะมีเทคนิคกำรสอนท่ีแตกต่ำงกนั ออกไป แต่ที่เปน็ ปญั หำท้ำใหผ้ ลสัมฤทธ์ขิ อง นักเรียนไมด่ ีขนึ หรอื คะแนนสอบ O-NET ต่้ำ อำจจะเนื่องมำจำกควำมพร้อมของนักเรยี น ควำมพรอ้ มของ โรงเรยี นทำงด้ำนส่อื อปุ กรณ์ ควำมเพยี งพอทำงด้ำนบุคลำกรโดยเฉพำะโรงเรียนท่ีเปน็ โรงเรยี นขนำดเลก็ อยู่ นอกเมืองจะประสบปัญหำดังกล่ำวมำกกว่ำโรงเรียนขนำดใหญ่ทีอ่ ยใู่ นเมือง 3) โอกำส กำรยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของนักเรียนโรงเรียนนำ้ ปลีกศึกษำเป็นโอกำสท่ีทำ้ ใหค้ รูได้พัฒนำ แผนงำนกำรยกระดับผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน คือ ศึกษำ วิเครำะห์ พัฒนำ ใช้งำนหลักสูตร และประเมิน หลักสูตร ด้ำเนินกำร จัดท้ำข้อมูลสำรสนเทศ สื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ทำงกำรศึกษำ ด้ำเนินกำรจัดหำ และส่งเสริมกำรใช้ส่ือ เทคโนโลยีทำงกำรศึกษำอย่ำงท่ัวถึง ส่งเสริม สนับสนุน กำรจัดกำรเรียนรู้ที่ใช้เทคนิค และวิธีกำรสอนที่ใช้ กระบวนกำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ แก้ปัญหำและกำรน้ำไปใช้ในชีวิตประจ้ำวัน สร้ำง ขอบข่ำยในงำนที่ได้รับกำร นิเทศให้เป็นแนวทำงเดียวกัน จัดท้ำปฏิทิน ติดตำม ตรวจสอบกำรนิเทศอย่ำง

ต่อเน่ือง หำแนวทำงวิธีกำรแบ่งเบำ ภำระหน้ำท่ีครูที่ไม่ใช้กำรจัดกำรเรียนรู้ ส่งเสริม สนับสนุนครูให้ได้รับกำร พัฒนำตนเองดำ้ นกำรจดั กำรเรียนรู้ 4) อปุ สรรค ผู้บริหำรโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำ จะเกษียณในปีกำรศึกษำ 2563 ท้ำให้กำรบริหำรงำนอำจต้องขำดช่วง และรอผูบ้ รหิ ำรคนต่อไปกำ้ หนดนโยบำย และทศิ ทำงกำรท้ำงำน อีกทงั ปัญหำดำ้ นสื่อและเทคโนโลยกี ำรศึกษำ พบว่ำขำดส่ือด้ำนเทคโนโลยีท่ีทันสมัยและชำ้ รุด ส่ือและเทคโนโลยี ไม่เพียงพอกับจ้ำนวนนกั เรียน บุคลำกรครู ไม่มีควำมช้ำนำญในกำรใช้สื่อ บำงประเภทท่ีเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (IT) บุคลำกรครูยังไม่เห็นควำมส้ำคัญของ กำรใช้ส่ือกำรเรียนรู้ ไม่มีกำรจัดท้ำทะเบียนสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีกำร จัดกำรเรียนรู้ โดยมีแนวทำงแก้ไข จดั สรรงบประมำณ จัดหำส่ือ อุปกรณ์เทคโนโลยใี ห้ครบชนั เรียน ส่งเสริมบคุ ลำกร ครไู ดร้ ับกำรอบรมจดั ท้ำและ ใช้สื่อให้ครบทุกคนและต่อเน่ือง กระตุ้นกำรใช้สื่อกำรจัดกำรเรียนรู้ที่มีอยู่อย่ำงคุ้มค่ำ มี กำรมอบหมำยให้ ผู้รับผิดชอบ จัดท้ำทะเบียนสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทำงกำรจัดกำรเรยี นรขู้ อง ทุกสำระกำร เรียนรู้ และ ทุกชันเรียน ปัญหำด้ำนกำรเรียนรู้ พบว่ำครูจัดกำรเรียนรู้ตำมหนังสือเรียน ไม่เน้นกำรทักษะกำรเรียนรู้นอก ห้องเรียน หรือทักษะท่ีจะต้องน้ำไปใชใ้ นชวี ิตประจ้ำวัน บุคลำกรครูยังใชเ้ ทคนคิ และวิธีกำรสอนท่ีทันต่อยุคทมี่ ี กำรเปลยี่ นแปลง 4. ปจั จยั ด้ำนผ้เู รยี น 1) จุดแขง็ นักเรียนส่วนใหญม่ ีควำมรู้พนื ฐำนเดิมที่ดี มีเจตคตติ ่อวชิ ำเรียน มคี วำมรับผดิ ชอบค่อนข้ำงดี อีกทงั ตวั แปรทม่ี ีอทิ ธพิ ล ทำงอ้อม ได้แก่ บรรยำกำศในชันเรียน มโนภำพแหง่ ตน ควำมเอำใจใสข่ องผู้ปกครอง ครู ส่งผลต่อนกั เรยี น ซึ่งประกอบดว้ ย เจตคติตอ่ วชิ ำวิทยำศำสตร์ แรงจงู ใจใฝส่ ัมฤทธิ์ และกำรท้ำกำรบำ้ นของ นกั เรียน คอ่ นขำ้ งเปน็ ทีน่ ่ำพอใจ 2) จุดออ่ น 1. นักเรียนขำดทักษะกำรคิดวิเครำะห์ เน่ืองจำกแบบทดสอบ O-NET จะเน้นกำรคิดวิเครำะห์หำค้ำตอบ มำกกว่ำกำรจดจ้ำ ค้ำถำมประเภทควำมจ้ำมีน้อยมำก เพรำะฉะนัน เมื่อนักเรียนขำดทักษะกำรคิดวิเครำะห์ แล้วก็ท้ำให้ไม่สำมำรถตอบค้ำถำมได้ถูกต้อง 2. นักเรียนตีโจทย์ปัญหำไม่แตก ไม่ว่ำจะเป็นวิชำคณิตศำสตร์ ภำษำไทย วิทยำศำสตร์ ก็ตำม ถ้ำนักเรยี นตีโจทยป์ ัญหำไม่แตกแลว้ กย็ ำกทจ่ี ะทำ้ ให้ตอบคำ้ ถำมได้ตรงประเดน็ 3. ผู้ออกข้อสอบไม่ได้สอน ผู้สอนไม่ได้ออกข้อสอบ เม่ือผอู้ อกข้อสอบไม่ไดส้ อน คนสอนแตไ่ ม่ได้ออกข้อสอบ จึงท้ำใหก้ ำรนำ้ เนอื หำท่นี ำ้ มำออกข้อสอบ O-NET กับควำมรขู้ องนักเรียนไมส่ ัมพันธก์ นั เอำอะไรมำวัดควำมรู้ ของนักเรยี นก็ไม่รู้ ไมต่ รงประเดน็ ขำดควำมเท่ยี งตรงเชงิ เนือหำ 3) โอกำส ชมุ ชนให้ควำมรว่ มมือแก้ปัญหำปญั หำด้ำนกำรสื่อสำร ทนี่ กั เรียนขำดกำรกระตือรือร้นกำรเรียนรู้ ขำด เรยี นบ่อย ผู้ปกครองชมุ ชนยังเหน็ ควำมส้ำคญั ของกำรศึกษำ มกี ำรประชำสัมพนั ธ์ใหผ้ ปู้ กครองเขำ้ ใจ กำร ดำ้ เนนิ งำนโรงเรียน กำรศึกษำข้อมลู นักเรียนรำยบุคคล โดยมีแนวทำงแกไ้ ขปญั หำ กระต้นุ นกั เรยี นในกำร

สื่อสำรด้ำนภำษำ จดั กจิ กรรมทีเ่ นน้ ใหผ้ ู้เรียนไดป้ ฏบิ ัติจริงอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ สร้ำงควำมตระหนักให้แก่ผู้ปกครอง ผนู้ ำ้ ชมุ น ประชุมผูป้ กครองและผู้มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง เพื่อประชำสัมพนั ธเ์ กดิ ควำมเข้ำใจ มีกำรจดั ท้ำข้อมูล นกั เรียน รำยบุคคล 4) อุปสรรค ทำงดำนวิชำกำรนักเรียนมีควำมกระตือรือรน ควำมเอำใจใส ในกำรเรียนนอย สงผลใหคะแนน O- NET ต่ำ้ เม่ือเทยี บกับโรงเรยี นขนำดกลำงและโรงเรยี นขนำดใหญในเมืองทม่ี กี ำรแขงขนั ทำงดำนวชิ ำกำรสูงต้อง แก้ปัญหำปัญหำด้ำนกำรสื่อสำร นักเรียนขำดกำรกระตือรือร้นกำรเรียนรู้ ขำด เรียนบ่อย ผู้ปกครอง ชุมชนยัง เห็นควำมส้ำคัญของกำรศึกษำน้อย ขำดกำรประชำสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองเข้ำใจ กำรด้ำเนินงำนโรงเรียน ขำด กำรศึกษำข้อมูลนักเรียนรำยบุคคล โดยมีแนวทำงแก้ไขปัญหำ กระตุ้นนักเรียนในกำร ส่ือสำรด้ำนภำษำ จัด กิจกรรมที่เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงอย่ำงสร้ำงสรรค์ สร้ำงควำมตระหนักให้แก่ผู้ปกครอง ผู้น้ำ ชุมน ประชุม ผปู้ กครองและผู้มสี ่วนเก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ประชำสมั พันธ์เกิดควำมเข้ำใจ