ตารางจดั การเรยี นกา ภาคเรียนที่ ๒ ป วนั ๐๘.๐๐- ๐๘.๒๐- ๑ ๒ ๑ เวลา ๐๘.๒๐ ๐๘.๔๐ ๐๘.๔๐-๐๙.๓๐ ๐๙.๓๐-๑๐.๒๐ จันทร์ ภำษำไทยพ้นื ฐำน ศิลปะ ท๒๒๑๐๒ ศ๒๒๑๐๒ ครบู รรจบ ครูยทุ ธนำวี ภำษำไทยพ้ืนฐำน วทิ ยำศำสตร์ อังคาร ท๒๒๑๐๒ พ้ืนฐำน ครบู รรจบ ว๒๒๑๐๒ ิกจกรรมหน้าเสาธง ครูภัทริยำ กิจกรรมโฮมรูม ภำษำไทยเพิ่มเตมิ ประวัติศำสตร์ พุธ ท๒๒๒๐๒ ส๒๒๑๐๔ ครบู รรจบ ครมู ณรี ตั น์ พฤหสั บดี ภำษำองั กฤษ สขุ ศกึ ษำ ศกุ ร์ พน้ื ฐำน พลศึกษำ อ๒๒๑๐๒ พ๒๒๑๐๒ ครูกฤตพร ครูสุดสำคร สังคมศกึ ษำ คณิตศำสตร์ ส๒๒๑๐๓ พื้นฐำน ครมู ณรี ตั น์ ค๒๒๑๐๒ ครกู ัญญำวีร์ หมายเหตุ ๑. วชิ ำหนำ้ ทพ่ี ลเมอื งเปน็ รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ จัดกำรเรียนกำรสอนโดยบรู ณำกำรลงสกู่ จิ
37 ารสอน ห้อง ม. ๒/๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๑๓.๕๐-๑๔.๔๐ ๑๔.๔๐-๑๕.๓๐ ๑๐.๒๐-๑๑.๑๐ ๑๑.๑๐-๑๒.๐๐ ๑๓.๐๐-๑๓.๕๐ แนะแนว/ กิจกรรม ศลิ ปะ สงั คมศึกษำ ภำษำอังกฤษ โฮมรมู ลดเวลำเรยี นเพิ่ม ศ๒๒๑๐๒ ส๒๒๑๐๓ พน้ื ฐำน ครยู ุทธนำวี ครูมณีรัตน์ อ๒๒๑๐๒ งำนเกษตร เวลำรู้ ครูกฤตพร ง๒๒๑๐๒ วิทยำศำสตร์ ภำษำอังกฤษ ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ ัพก ัรบประทานอาหาร ครูวรรณี ชมุ นมุ วชิ ำกำร พ้ืนฐำน พ้นื ฐำน งำนเกษตร ว๒๒๑๐๒ อ๒๒๑๐๒ ง๒๒๑๐๒ ครภู ทั รยิ ำ ครูกฤตพร ครูวรรณี คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ คณติ ศำสตร์ วชิ ำ IS๓ กิจกรรม ง๒๒๒๐๒ ง๒๒๒๐๒ พน้ื ฐำน ครูสมุ ำลี ลกู เสือ ครจู ำรวุ ัลย์ ครจู ำรุวัลย์ ค๒๒๑๐๒ เนตรนำรี กิจกรรม สังคมศกึ ษำ คณิตศำสตร์ ครกู ญั ญำวีร์ ลดเวลำเรยี นเพ่ิม กจิ กรรม ส๒๒๑๐๓ พ้นื ฐำน ภำษำไทยพ้นื ฐำน ลดเวลำเรยี นเพม่ิ ครมู ณีรตั น์ ค๒๒๑๐๒ เวลำรู้ ท๒๒๑๐๒ เวลำรู้ สุขศึกษำ ครกู ญั ญำวีร์ ครูบรรจบ ภำษำไทยเพ่มิ เติม พลศึกษำ ท๒๒๒๐๒ จริยธรรม พ๒๒๑๐๒ วิทยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ ครูบรรจบ ครสู ุดสำคร พื้นฐำน เพ่ิมเติม ว๒๒๑๐๒ อ๒๒๒๐๒ ครูภัทรยิ ำ ครูกฤตพร จกรรมหนำ้ เสำธงและกจิ กรรมลกู เสือเนตรนำรี
ตารางจัดการเรยี นกา ภาคเรียนท่ี ๒ ป วัน ๐๘.๐๐- ๐๘.๒๐- ๑ ๒ ๑ เวลา ๐๘.๒๐ ๐๘.๔๐ ๐๙.๓๐-๑๐.๒๐ ภ ๐๘.๔๐-๐๙.๓๐ จนั ทร์ ิกจกรรมห ้นาเสาธง สขุ ศกึ ษำ ิกจกรรมโฮมรูม คณติ ศำสตร์ พลศึกษำ องั คาร เพ่ิมเตมิ พ๒๓๑๐๒ ค๒๓๒๐๒ ครูสดุ สำคร พุธ วทิ ยำศำสตร์ ครกู ัญญำวีร์ พนื้ ฐำน พฤหสั บดี ว๒๓๑๐๒ วิทยำศำสตร์ ครภู กั ดนิ นั ท์ ศกุ ร์ พ้นื ฐำน คณิตศำสตร์ ว๒๓๑๐๒ พ้นื ฐำน ค๒๓๑๐๒ ครูภักดนิ ันท์ ครมู งคล คอมพิวเตอร์ ภำษำอังกฤษ ง๒๓๒๐๒ เพ่ิมเติม ครูจำรวุ ัลย์ อ๒๓๒๐๒ ครสู มหมำย ภำษำไทยพ้ืนฐำน ท๒๓๑๐๒ คณติ ศำสตร์ ครูสนุ ทร พน้ื ฐำน ค๒๓๑๐๒ ครูมงคล คณติ ศำสตร์ พื้นฐำน ค๒๓๑๐๒ ครูมงคล หมายเหตุ ๑. วชิ ำหน้ำทพี่ ลเมอื งเปน็ รำยวิชำเพม่ิ เติมจดั กำรเรียนกำรสอนโดยบรู ณำกำรลงสูก่ ิจ
38 ารสอน หอ้ ง ม. ๓/๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๑๐.๒๐-๑๑.๑๐ ๑๓.๐๐-๑๓.๕๐ ๑๔.๔๐-๑๕.๓๐ ภำษำไทยพนื้ ฐำน ๑๑.๑๐-๑๒.๐๐ ๑๓.๕๐-๑๔.๔๐ สงั คมศึกษำ แนะแนว/ กิจกรรม ท๒๓๑๐๒ ภำษำองั กฤษ ส๒๓๑๐๓ โฮมรูม ลดเวลำเรยี นเพิ่ม ครสู ุนทร พน้ื ฐำน ครเู สงี่ยม อ๒๓๑๐๒ ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ ัพก ัรบประทานอาหาร เวลำรู้ คณิตศำสตร์ ภำษำไทยพนื้ ฐำน เพ่มิ เตมิ ครสู มหมำย ท๒๓๑๐๒ ชุมนุมวชิ ำกำร ค๒๓๒๐๒ ครสู ุนทร ภำษำอังกฤษ ครกู ัญญำวีร์ พื้นฐำน งำนช่ำง งำนช่ำง กิจกรรม ประวัตศิ ำสตร์ อ๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ ลูกเสอื ครไู กรสร ครูไกรสร เนตรนำรี ส๒๓๑๐๔ ครูสมหมำย ครูเสงีย่ ม สงั คมศึกษำ กิจกรรม กิจกรรม สุขศกึ ษำ ส๒๓๑๐๓ ลดเวลำเรยี นเพ่มิ ลดเวลำเรียนเพิ่ม คอมพิวเตอร์ พลศกึ ษำ ครเู สง่ียม ง๒๓๒๐๒ พ๒๓๑๐๒ เวลำรู้ เวลำรู้ ครูจำรุวัลย์ ครูสดุ สำคร ศิลปะ ศ๒๓๑๐๒ ศลิ ปะ จริยธรรม วทิ ยำศำสตร์ ภำษำอังกฤษ ครูยทุ ธนำวี ศ๒๓๑๐๒ พืน้ ฐำน พื้นฐำน ครยู ุทธนำวี ว๒๓๑๐๒ อ๒๓๑๐๒ ครภู ักดนิ นั ท์ ครูสมหมำย สงั คมศึกษำ ส๒๓๑๐๓ ครเู สง่ยี ม จกรรมหน้ำเสำธงและกจิ กรรมลูกเสอื เนตรนำรี
ตารางจัดการเรยี นกา ภาคเรียนที่ ๒ ป วัน ๐๘.๐๐- ๐๘.๒๐- ๑ ๒ ๑ เวลา ๐๘.๒๐ ๐๘.๔๐ ๐๘.๔๐-๐๙.๓๐ ๐๙.๓๐-๑๐.๒๐ จันทร์ ิกจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม วิทยำศำสตร์ วิทยำศำสตร์ องั คาร พน้ื ฐำน พน้ื ฐำน ว๒๓๑๐๒ ว๒๓๑๐๒ พธุ ครภู กั ดินันท์ ครภู ักดนิ นั ท์ พฤหสั บดี วิทยำศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ ศกุ ร์ เพ่ิมเติม เพมิ่ เตมิ ว๒๓๒๐๒ ว๒๓๒๐๒ ครภู ญิ ญดำ ครภู ิญญดำ คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ ง๒๓๒๐๒ ง๒๓๒๐๒ ครจู ำรุวลั ย์ ครจู ำรวุ ลั ย์ ศิลปะ ศลิ ปะ ศ๒๓๑๐๒ ศ๒๓๑๐๒ ครูยุทธนำวี ครยู ุทธนำวี ภำษำไทยพ้นื ฐำน สังคมศึกษำ ท๒๓๑๐๒ ส๒๓๑๐๓ ครสู นุ ทร ครเู สงย่ี ม หมายเหตุ ๑. วชิ ำหนำ้ ที่พลเมอื งเปน็ รำยวิชำเพ่ิมเติมจัดกำรเรยี นกำรสอนโดยบรู ณำกำรลงสูก่
39 ารสอน ห้อง ม. ๓/๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๑๑.๑๐-๑๒.๐๐ ๑๓.๐๐-๑๓.๕๐ ๑๓.๕๐-๑๔.๔๐ ๑๔.๔๐-๑๕.๓๐ ๑๐.๒๐-๑๑.๑๐ ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ ัพก ัรบประทานอาหาร ภำษำอังกฤษ สังคมศกึ ษำ แนะแนว/ กิจกรรม สขุ ศึกษำ ส๒๓๑๐๓ พื้นฐำน โฮมรูม ลดเวลำเรยี นเพิ่ม พลศกึ ษำ ครูเสงยี่ ม อ๒๓๑๐๒ พ๒๓๑๐๒ ครสู มหมำย ภำษำไทยพ้นื ฐำน เวลำรู้ ครสู ุดสำคร งำนชำ่ ง คณติ ศำสตร์ ท๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ พนื้ ฐำน ครสู นุ ทร ชมุ นมุ วชิ ำกำร งำนชำ่ ง ครูไกรสร ค๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ ครูกญั ญำวรี ์ กิจกรรม กิจกรรม ครไู กรสร ภำษำอังกฤษ ลดเวลำเรียนเพมิ่ ลกู เสือ เพ่มิ เติม เนตรนำรี คณติ ศำสตร์ ประวัตศิ ำสตร์ อ๒๓๒๐๒ เวลำรู้ พ้ืนฐำน ส๒๓๑๐๔ ครสู มหมำย กจิ กรรม ค๒๓๑๐๒ ครเู สงย่ี ม ภำษำไทยพ้ืนฐำน คณิตศำสตร์ ลดเวลำเรยี นเพิ่ม ท๒๓๑๐๒ พืน้ ฐำน ครูกัญญำวรี ์ สงั คมศึกษำ ครูสุนทร ค๒๓๑๐๒ เวลำรู้ ส๒๓๑๐๓ ภำษำอังกฤษ ครเู สงยี่ ม วทิ ยำศำสตร์ ครูกญั ญำวีร์ จริยธรรม พ้ืนฐำน พื้นฐำน อ๒๓๑๐๒ สุขศกึ ษำ ว๒๓๑๐๒ พลศึกษำ ครสู มหมำย พ๒๓๑๐๒ ครูภกั ดินันท์ ครสู ดุ สำคร ภำษำองั กฤษ พน้ื ฐำน อ๒๓๑๐๒ ครสู มหมำย กิจกรรมหนำ้ เสำธงและกจิ กรรมลกู เสือเนตรนำรี
ตารางจัดการเรยี นกา ภาคเรยี นท่ี ๒ ป วัน ๐๘.๐๐- ๐๘.๒๐- ๑ ๒ ๑ เวลา ๐๘.๒๐ ๐๘.๔๐ ๐๘.๔๐-๐๙.๓๐ ๐๙.๓๐-๑๐.๒๐ จันทร์ ภำษำอังกฤษ คณติ ศำสตร์ องั คาร พน้ื ฐำน พ้ืนฐำน อ๒๓๑๐๒ ค๒๓๑๐๒ พุธ ครูขวัญใจ ครูสมหมำย พฤหัสบดี คอมพวิ เตอร์ ภำษำไทยพ้นื ฐำน ง๒๓๒๐๒ ศุกร์ ท๒๓๑๐๒ ครจู ำรุวัลย์ ครสู ุนทร ิกจกรรมหน้าเสาธง ประวตั ิศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ กิจกรรมโฮม ูรม ส๒๓๑๐๔ พนื้ ฐำน ครูเสงย่ี ม ว๒๓๑๐๒ คณติ ศำสตร์ ครภู ักดนิ ันท์ พืน้ ฐำน ภำษำไทยเพ่ิมเตมิ ค๒๓๑๐๒ ครูขวัญใจ ท๒๓๒๐๒ ครูสุนทร สงั คมศกึ ษำ ส๒๓๑๐๓ ภำษำองั กฤษ ครเู สงีย่ ม พนื้ ฐำน อ๒๓๑๐๒ ครูสมหมำย หมายเหตุ ๑. วชิ ำหนำ้ ทีพ่ ลเมอื งเป็นรำยวิชำเพม่ิ เตมิ จดั กำรเรียนกำรสอนโดยบูรณำกำรลงสกู่ ิจก
40 ารสอน หอ้ ง ม. ๓/๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ๓ ๔๕๖ ๗ ๘ ๑๐.๒๐-๑๑.๑๐ ๑๑.๑๐-๑๒.๐๐ ๑๓.๐๐-๑๓.๕๐ ๑๓.๕๐-๑๔.๔๐ ๑๔.๔๐-๑๕.๓๐ สังคมศกึ ษำ ภำษำไทยพนื้ ฐำน สุขศึกษำ แนะแนว/ กิจกรรม ส๒๓๑๐๓ ท๒๓๑๐๒ พลศกึ ษำ โฮมรูม ลดเวลำเรียนเพิ่ม ครเู สงีย่ ม ครสู นุ ทร พ๒๓๑๐๒ ครสู ุดสำคร เวลำรู้ คอมพวิ เตอร์ สงั คมศึกษำ ภำษำองั กฤษ ง๒๓๒๐๒ ส๒๓๑๐๓ ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ ัพก ัรบประทานอาหาร พ้นื ฐำน ชมุ นุมวชิ ำกำร ครูจำรวุ ลั ย์ ครเู สงยี่ ม อ๒๓๑๐๒ ครูสมหมำย วิทยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ ภำษำไทยเพ่มิ เติม สขุ ศกึ ษำ กิจกรรม พน้ื ฐำน เพ่ิมเตมิ ท๒๓๒๐๒ พลศกึ ษำ ลูกเสอื ว๒๓๑๐๒ อ๒๓๒๐๒ ครูสนุ ทร พ๒๓๑๐๒ เนตรนำรี ครสู มหมำย ครูสดุ สำคร ครภู ักดินันท์ ศิลปะ ศิลปะ วทิ ยำศำสตร์ กจิ กรรม กิจกรรม ศ๒๓๑๐๒ ศ๒๓๑๐๒ พ้นื ฐำน ลดเวลำเรยี นเพิม่ ลดเวลำเรยี นเพิ่ม ครยู ุทธนำวี ครูยทุ ธนำวี ว๒๓๑๐๒ เวลำรู้ เวลำรู้ ครภู ักดินันท์ คณติ ศำสตร์ ภำษำไทยพนื้ ฐำน งำนช่ำง งำนชำ่ ง พืน้ ฐำน ท๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ ง๒๓๑๐๒ จริยธรรม ค๒๓๑๐๒ ครสู ุนทร ครูไกรสร ครูไกรสร ครูขวัญใจ กรรมหน้ำเสำธงและกิจกรรมลูกเสอื เนตรนำรี
๔๑ ๒.จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทั้งในช่วั โมงลดเวลาเรียน และชั่วโมงเพ่ิมเวลารู้ตามแนวการจดั การเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning) โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำมีกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ท้ังในชั่วโมงลดเวลำเรียน และชั่วโมงเพ่ิมเวลำรู้ตำมแนว กำรจัดกำรเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) สอดคล้อง ๗ หลักกำรสำคัญคือ ๑.เช่ือมโยงมำตรฐำนกำรเรียนรู้/ ตัวช้ีวัดหลักสูตร ๒.ครอบคลุมกิจกรรม ๔H ๓.ให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุข ๔.สนุกกับกำรคิดข้ันสูง ๕.มุ่งงำน เป็นกลมุ่ ๖.ใช้แหลง่ เรียนรเู้ พ่อื พฒั นำผู้เรยี น ๗.ประเมนิ ผลตำมสภำพจริงเนน้ P&A ดังนี้ ๒.๑ เชอ่ื มโยงมาตรฐานการเรียน/ตัวช้ีวดั ตามหลกั สูตร มจี ำนวนกิจกรรมทีเ่ ชอ่ื มโยงมำตรฐำนกำรเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ตำมหลกั สตู ร ๑ กจิ กรรม ประกอบด้วย กิจกรรม ศลิ ปส์ รำ้ งสรรค์ วิธดี าเนินการ รูปแบบและขนั้ ตอนการจัดกิจกรรมศลิ ป์สร้างสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้โดยการสังเกตของ Albert Bandura Albert Bandura นักจติ วิทยำชำวอเมริกัน ผ้พู ฒั นำทฤษฎีกำรเรยี นรโู้ ดยกำรสงั เกต ซึ่งมี ๔ ข้ันตอน ดังต่อไปน้ี ๑. ข้ันให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีขั้นตอนน้ี กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดขึ้น เป็นข้ันตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เปน็ ส่ิงดงึ ดดู ให้ผเู้ รยี นสนใจ ๒. ขั้นจำ ( Retention Phase ) เม่อื ผูเ้ รยี นสนใจพฤติกรรมของตัวแบบ จะบนั ทึกสิง่ ท่ีสงั เกตได้ไวใ้ นระบบ ควำมจำของตนเอง ซ่งึ มักจะจดจำไว้เปน็ จินตภำพเกี่ยวกบั ขั้นตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นข้ันตอนที่ผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซึ่งจะ ส่งผลใหม้ ีกำรตรวจสอบกำรเรียนรทู้ ่ีได้จดจำไว้ ๔. ขั้นจูงใจ ( Motivation Phase ) ขน้ั ตอนนี้เป็นข้นั แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤตกิ รรมตำมตัวแบบ ผลการดาเนนิ การ ๑. จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรรว่ มกิจกรรมของนักเรยี น นกั เรียนมคี วำมสุขและยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๒.ช่วยใหน้ กั เรียนมพี ฒั นำกำรทำงดำ้ นควำมคิด สตปิ ญั ญำ ควำมสำมำรถ รวมทั้งสขุ ภำพกำย สุขภำพจิต เกดิ ควำมเพลดิ เพลนิ ส่งเสริมสมำธิที่ดี และเม่ือผลงำนสำเร็จทำใหน้ ักเรยี น เกิดควำมภำคภมู ใิ จ ๓.ชว่ ยสง่ เสริมและฝึกนกั เรียนใหร้ ู้จกั คุณคำ่ ของเศษวสั ดธุ รรมชำตสิ ำมำรถนำมำใหเ้ กดิ ประโยชน์สร้ำง สนุ ทรียะให้กบั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ช่วยสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนใช้เวลำว่ำงให้เกดิ ประโยชน์ท่ีต่อเนื่องจำกกำรเรยี น ๕.เพมิ่ รำยไดใ้ ห้แก่ตนเอง เมื่อนักเรียนสร้ำงสรรค์ผลงำนจนเกิดควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหนำ่ ย ใหแ้ ก่ ผทู้ ีส่ นใจ และทำเป็นอำชีพได้ ปญั หาและอุปสรรค
๔๒ นักเรยี นสว่ นน้อยทยี่ งั ไมม่ ีควำมรับผิดชอบงำนต่อกลมุ่ หยอกล้อกันในขณะท่เี พื่อนทำงำน จุดเด่น จำกกำรจัดกจิ กรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้กำรภำพปะติดจำกวสั ดุธรรมชำติ มีควำมสุข เนื่องจำก สำมำรถเลอื กเรยี นได้ตำมควำมสนใจ และภมู ิใจในผลงำนของตนเอง จะเหน็ ได้วำ่ นกั เรยี นทเ่ี ขำ้ ร่วมกจิ กรรมเปน็ ระยะเวลำหลำยสัปดำหต์ อ่ เน่อื งกันจะพบว่ำนักเรยี นมสี มำธใิ น กำรทำกิจกรรมมำกยิ่งขึ้น มีควำมสุขตลอดจนมคี วำมคดิ ริเร่มิ สรำ้ งสรรคท์ ่จี ะสรรสร้ำงงำนใหม่ๆของตนเองข้ึน อย่ำงต่อเนื่อง จดุ ควรพฒั นา ผลงำนทนี่ กั เรียนท่เี ข้ำรว่ มกจิ กรรมสร้ำงสรรค์ขึน้ ยงั ไม่สมบรู ณต์ ้องใช้เวลำในกำรฝกึ ฝนเพ่ิมมำกขน้ึ เพ่ือใหเ้ กดิ ควำมชำนำญ ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพฒั นา สนบั สนุนในเร่ืองของงบประมำณเพ่ือใหเ้ พิม่ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นกำรทำคร้ังตอ่ ไป
๔๓ ตารางวเิ คราะห์ตัวชี้วัดทีต่ ้องการให้เกดิ กบั ผเู้ รยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑,๒,๓ รหัส ตัวช้ีวัด/ผลการ ผ้เู รยี นรอู้ ะไร ผเู้ รยี นทาอะไร ผลการเรียนรรู้ ะดับเรือ่ ง ผลการเรียนรรู้ ะดบั เรื่องผล ตวั ช้วี ัด การเรยี นรรู้ ะดับหนว่ ย เรียนรู้ (สาระการเรียนรู้) ความเขา้ ใจฝั่งแน่น ศ ๑.๑ ม. ๑/๒ เรอ่ื งที่มีคณุ คา่ เรอ่ื งท่ี (Enduringunderstanding) และน่ารู้ จาเป็นตอ้ งรู้ นกั เรยี นมีควำมเข้ำใจเรื่อง ทศั นธำตุ และทาได้ ร ะ บุ แ ล ะ บ ร ร ย ำ ย ควำมเปน็ เอกภำพ นำเสนอผลงำนให้ บรรยำย หลักกำรออกแบบงำน ควำมกลมกลืน ครแู ละเพ่ือน ๆ หลักกำร ทัศนศิลป์ โดยเน้น ควำมสมดุล ออกแบบงำน ควำม เป็ น เอกภ ำพ ฟัง โดยครูสนทนำ ทัศนศลิ ป์ โดย ค ว ำ ม ก ล ม ก ลื น แ ล ะ ซกั ถำมเสริม เน้นควำมเป็น ควำมสมดุล เกีย่ วกบั ลกั ษณะ ควำมกลมกลืน ควำมกลมกลนื ท่ีใช้ ได้ ในผลงำน ศ ๑.๑ ม. วำดภำพดว้ ยเทคนคิ ที่ เทคนิคในกำรวำด วำดเส้นส่ือ กำรใช้เทคนิค นักเรยี นมีควำมเข้ำใจเรอ่ื ง ๒/๓ หลำกหลำยในกำรสื่อ ภำพสอื่ ทศั นธำตุ ควำมหมำยและ ควำมหมำย ควำมหมำยและ หรือกลวธิ กี ำร ศ ๑.๑ ม. เร่ืองรำวตำ่ งๆ นกั เรียนสำมำรถสรำ้ งสรรค์ ๓/๔ เร่ืองรำวตำ่ ง ๆ ได้ สร้ำงสรรค์ งำนทศั นศิลปโ์ ดยใชห้ ลักกำร ออกแบบได้ ผลงำนดว้ ยวสั ดุ สำเรจ็ รปู โดย กำรสร้ำงสรรค์ ให้เกดิ ลำยเสน้ มที ักษะในกำรสร้ำง กำรสร้ำงงำน สำมำรถสรำ้ งสรรค์ ทกั ษะในกำร งำนทศั นศลิ ป์อย่ำง ทศั นศลิ ปท์ ้ังไทย นอ้ ย ๓ ประเภท และสำกล งำนทศั นศิลปไ์ ทย สรำ้ งงำน ประเภทต่ำง ๆ ได้ ทศั นศิลป์
๔๔ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชี้วดั ทต่ี ้องการใหเ้ กิดกบั ผ้เู รียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑,๒,๓ รหสั ตัวชวี้ ดั Revised Bloom’s Taxonomy รูปแบบ/วิธกี ารสอน ศ ๑.๑ ม.๑/๒ K P A กจิ กรรมภำพปะติด ศ ๑.๑ ม.๒/๓ ความรู้ (K) เจตคติ วธิ ีกำรสอนแบบใชก้ ระบวนกำร ความเขา้ ใจ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การประเมิน คดิ สร้างสรรค์ (At) เรยี นรโู้ ดยกำรสงั เกตของ ระบุและ Albert Bandura บรรยำย (U) (Ap) (An) คา่ (C) เหน็ คุณคำ่ และ ๑.ข้นั ให้ควำมสนใจ ควำมหมำยของ ประโยชน์ของ ( Attention Phase ) ควำมกลมกลืน (E) ควำมกลมกลนื ๒.ขั้นจำ ( Retention Phase ) ในลกั ษณะต่ำง ในงำน ๓.ข้นั ปฏบิ ตั ิ ๆ ได้ สร้ำงสรรค์ ทศั นศิลป์ (Reproduction Phase ) ๔.ขน้ั จูงใจ ( Motivation บรรยำยกำรวำด ควำม บอกและ Phase) เสน้ ดว้ ยเทคนคิ ตระหนกั ถึง กิจกรรมภำพปะติด ท่ีหลำกหลำยใน กลมกลืนใน ควำมสำคัญใน วิธกี ำรสอนแบบใชก้ ระบวนกำร กำรสอื่ กำรวำดเสน้ เรียนรโู้ ดยกำรสังเกตของ ควำมหมำยและ ลักษณะตำ่ ง ๆ ด้วยเทคนิคท่ี Albert Bandura เรอื่ งรำวตำม หลำกหลำยใน ๑.ขน้ั ให้ควำมสนใจ จินตนำกำรได้ กับผลงำน กำรสือ่ ( Attention Phase ) ควำมหมำยและ ๒.ข้ันจำ ( Retention Phase ) ทัศนศิลปไ์ ด้ เรอื่ งรำวตำม ๓.ขั้นปฏิบัติ จินตนำกำรได้ (Reproduction Phase ) สร้ำงสรรคก์ ำร ๔.ขน้ั จูง( Motivation Phase) วำดเสน้ ด้วย เทคนคิ ที่ หลำกหลำยใน กำรส่อื ควำมหมำย และเร่อื งรำว ตำม จินตนำกำรได้ ศ ๑.๑ ม.๓/๔ อธิบำยเกยี่ วกบั มีทกั ษะใน ตระหนักถงึ กจิ กรรมภำพปะติด ทกั ษะในกำร กำร ควำมสำคญั สรำ้ งสรรค์งำน สรำ้ งสรรค์ ในกำร วิธกี ำรสอนแบบใชก้ ระบวนกำร ทศั นศิลป์ไทยได้ งำน สรำ้ งสรรค์ เรยี นรโู้ ดยกำรสังเกตของ ทัศนศิลป์ งำนทศั นศลิ ป์ Albert Bandura ไทย ไทย ๑.ขนั้ ให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ๒.ขัน้ จำ ( Retention Phase ) ๓.ขั้นปฏิบตั ิ (Reproduction Phase ) ๔.ข้ันจูง( Motivation Phase) ๒.๒ การจดั กิจกรรมใหบ้ รรลุเป้าหมาย ๔H มจี ำนวนกิจกรรมท่บี รรลเุ ปำ้ หมำย ๔H ๖ กิจกรรม
๔๕ ประกอบดว้ ย ศิลปส์ รำ้ งสรรค์ ไขเ่ ค็มสมนุ ไพร กระปุกออมสินด้วยวธิ ีเปเปอรม์ ำเช่ เมล็ดพรรณหรรษำ โมบำย หรรษำ กิจกรรม OTOP หมบู่ ้ำน กิจกรรม ศลิ ปส์ ร้างสรรค์ วิธดี าเนินการ รูปแบบและขั้นตอนการจดั กิจกรรมศลิ ป์สร้างสรรค์ โดยใช้กระบวนการเรยี นร้โู ดยการสังเกตของ Albert Bandura Albert Bandura นกั จิตวิทยำชำวอเมรกิ ัน ผู้พัฒนำทฤษฎีกำรเรียนรู้โดยกำรสงั เกต ซ่ึงมี ๔ ขน้ั ตอน ดงั ต่อไปนี้ ๑. ข้ันให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีข้ันตอนนี้ กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดข้ึน เป็นขั้นตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เปน็ สง่ิ ดงึ ดูดใหผ้ ้เู รยี นสนใจ ๒. ขนั้ จำ ( Retention Phase ) เมื่อผู้เรยี นสนใจพฤติกรรมของตวั แบบ จะบนั ทึกสง่ิ ทส่ี ังเกตไดไ้ ว้ในระบบ ควำมจำของตนเอง ซ่ึงมักจะจดจำไวเ้ ป็นจนิ ตภำพเกี่ยวกบั ข้นั ตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซ่ึงจะ ส่งผลให้มีกำรตรวจสอบกำรเรยี นรู้ท่ีไดจ้ ดจำไว้ ๔. ขน้ั จงู ใจ ( Motivation Phase ) ขนั้ ตอนนี้เป็นข้นั แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤตกิ รรมตำมตวั แบบ ผลการดาเนินการ ๑. จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรร่วมกิจกรรมของนักเรียน นกั เรยี นมีควำมสุขและยิ้มแย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ๒.ช่วยใหน้ กั เรยี นมีพัฒนำกำรทำงดำ้ นควำมคดิ สตปิ ัญญำ ควำมสำมำรถ รวมทั้งสุขภำพกำย สุขภำพจติ เกดิ ควำมเพลิดเพลิน สง่ เสริมสมำธทิ ด่ี ี และเม่ือผลงำนสำเร็จทำใหน้ กั เรียน เกิดควำมภำคภูมิใจ ๓.ช่วยส่งเสรมิ และฝึกนกั เรยี นใหร้ จู้ ักคุณคำ่ ของเศษวสั ดุธรรมชำตสิ ำมำรถนำมำใหเ้ กิดประโยชน์สร้ำง สนุ ทรียะให้กับอำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ช่วยสง่ เสริมให้นักเรียนใช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชนท์ ี่ต่อเนื่องจำกกำรเรียน ๕.เพิ่มรำยได้ให้แกต่ นเอง เม่ือนักเรียนสร้ำงสรรค์ผลงำนจนเกิดควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหน่ำย ให้แก่ ผทู้ ี่สนใจ และทำเป็นอำชพี ได้ ปัญหาและอุปสรรค นกั เรยี นสว่ นน้อยทยี่ งั ไมม่ ีควำมรับผิดชอบงำนต่อกลุ่ม หยอกล้อกันในขณะที่เพ่ือนทำงำน จดุ เดน่ จำกกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้กำรภำพปะติดจำกวัสดุธรรมชำติ มีควำมสุข เน่ืองจำก สำมำรถเลือกเรยี นไดต้ ำมควำมสนใจ และภมู ิใจในผลงำนของตนเอง
๔๖ จะเห็นได้วำ่ นักเรียนท่ีเข้ำร่วมกิจกรรมเป็นระยะเวลำหลำยสัปดำห์ต่อเน่ืองกันจะพบว่ำนักเรียนมีสมำธิใน กำรทำกิจกรรมมำกย่ิงข้ึน มีควำมสุขตลอดจนมีควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ท่ีจะสรรสร้ำงงำนใหม่ๆของตนเองขึ้น อยำ่ งตอ่ เน่ือง จุดควรพัฒนา ผลงำนทนี่ ักเรียนท่ีเขำ้ รว่ มกิจกรรมสร้ำงสรรคข์ ึ้น ยังไม่สมบูรณต์ อ้ งใช้เวลำในกำรฝกึ ฝนเพมิ่ มำกขนึ้ เพือ่ ใหเ้ กดิ ควำมชำนำญ ข้อเสนอแนะเพอื่ การพัฒนา สนับสนุนในเรอ่ื งของงบประมำณเพื่อใหเ้ พม่ิ วสั ดุอุปกรณใ์ นกำรทำครั้งต่อไป กิจกรรมไขเ่ คม็ สมนุ ไพร วธิ ีดาเนินการ ชวั่ โมงท่ี ๑-๓ ๑. สมำชิกทเี่ ขำ้ รว่ มกิจกรรมไข่สมนุ ไพร แบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมกลุ่ม ๒. ครูแจกใบควำมรู้ และอธิบำยควำมหมำย ควำมสำคัญ ท่ีมำของไข่สมุนไพร ๓. กำรคน้ หำสมุนไพรเพ่ือนำมำทำไข่เค็มสมนุ ไพร ชวั่ โมงท่ี ๔-๖ ๑. ครูนำไข่เปด็ มำใหน้ กั เรยี นสงั เกต และอธิบำยวธิ ีกำรคดั เลอื กไข่ ๒. สมำชกิ รวมกลมุ่ ร่วมกันคดั เลอื กไข่ และล้ำงทำควำมสะอำดไข่ ชว่ั โมงท่ี ๗-๙ ๑. กำรตม้ นำ้ เกลอื เพือ่ ใช้ในกำรทำไข่เคม็ ๒. กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตรใ์ นกำรตม้ นำ้ เกลอื และสมุนไพรตำมทีส่ นใจ ๓. สมำชิกแสดงควำมคิดเห็นเกยี่ วกับกำรต้มน้ำนำ้ เกลอื และสมุนไพรตำมท่ีสนใจ ช่ัวโมงที่ ๑๐-๑๒ ๑. กำรทำไขส่ มุนไพร ๒. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมทำไขส่ มนุ ไพร ช่วั โมงท่ี ๑๓-๑๕ ๑. นกั เรียนจดั ทำบรรจุภัณฑ์ทีเ่ ปน็ มติ รต่อส่งิ แวดลอ้ ม ๒. กำหนดระยะเวลำกำรรับประทำนไขเ่ ค็ม ๓. นักเรยี นช่วยกันนำไขเ่ คม็ ไปจำหน่ำย ๔. นกั เรียนแสดงควำมคิดเห็นเก่ยี วกับกำรกำหนดรำคำขำย นกั เรียน ชว่ ยกนั ทำบญั ชรี ำยรับ- รำยจำ่ ย ช่วั โมงท่ี ๑๖-๑๘ ๑. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มนำเสนอผลกำรทำไขเ่ ค็มสมุนไพร ๒. สรุปและอภปิ รำยผลกำรทำกจิ กรรมไขเ่ ค็มสมนุ ไพร
๔๗ ผลการดาเนนิ งาน นักเรียนสำมำรถทำไขเ่ คม็ สมุนไพรไดแ้ ละมีผลกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรไู้ ด้ รอ้ ยละ ๙๐ ปญั หาและอปุ สรรค วัสดอุ ปุ กรณใ์ นกำรทำกจิ กรรมไมเ่ พยี งพอต่อจำนวนนักเรียน จุดเดน่ สำมำรถนำไปต่อเป็นทักษะทำงดำ้ นอำชีพใหก้ ับนักเรียนได้ จุดควรพฒั นา กำรนำสมุนไพรท่ีหลำกหลำยมำปรบั ปรงุ สตู รในกำรทำไขเ่ ค็มมำกข้ึน ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา สนับสนุนในเรือ่ งของงบประมำณเพื่อให้เพม่ิ วัสดุอุปกรณใ์ นกำรทำครั้งต่อไป กิจกรรมกระปกุ ออมสินด้วยวธิ ีเปเปอรม์ าเช่ วิธดี าเนินการ ๑. ใหน้ กั เรียนจัดกลมุ่ ตำมควำมพอใจ กลมุ่ ละ ๘ คน เพ่ือชว่ ยกันทำกิจกรรมดงั นี้ กิจกรรมท่ี ๑ กำรจดั กำรที่ดี - หำกนักเรียนมีกระดำษเหลอื ใชจ้ ำนวนมำก นกั เรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำประดษิ ฐ์ หรือทำเปน็ อะไรได้บ้ำง กิจกรรมท่ี ๒ กำรทำ PAPER MACHE - ให้นักเรยี นเขยี นขนั้ ตอนกำรทำกระปุกออมสนิ ดว้ ยวธิ ี PAPER MACHE ผลการดาเนินการ ๑. นกั เรยี นได้ผลงำนจำกกำรนำกระดำษเหลือใช้ มำทำ PAPER MACHE ๒. นกั เรยี นได้แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ำรทำ PAPER MACHE แบบตำ่ งๆ ปัญหาและอุปสรรค ๑. อุปกรณ์บำงชนดิ ขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมีนอ้ ย ๓. ควำมรับผดิ ชอบของนักเรียน จุดเดน่ ผลงำนท่ไี ดห้ ลำกหลำยรปู แบบและมีสสี ันทสี่ วยงำม จุดควรพัฒนา เพมิ่ ควำมน่ำสนใจในผลงำนให้มำกข้นึ ข้อเสนอแนะเพ่ือการพฒั นา หำตลำดใหส้ ำมำรถจำหนำ่ ยผลงำนใหเ้ กดิ รำยได้กับนักเรยี น
๔๘ กิจกรรมเมลด็ พันธ์ุหรรษา วิธีดาเนินการ ๑.แบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุม่ เท่ำๆกนั ๒.จัดหำวัสดุอปุ กรณท์ ่ีมีในท้องถนิ่ ๓.เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ในกำรจัดกจิ กรรม ๔.นกั เรยี นปฏิบัติพวงกญุ แจจำกเมลด็ พนั ธุ์ ๕.นำเสนอผลงำน ผลการดาเนินงาน ๑.นกั เรียนไดใ้ ชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ ๒.นักเรียนรู้จักกำรทำงำนเป็นทีม ๓.นกั เรียนรู้จักนำส่ิงของเหลือใชน้ ำกลับมำใชใ้ หมใ่ ห้เกดิ ประโยชน์ ๔.นักเรยี นสำมำรถนำไปเป็นของทรี่ ะลึกได้ จดุ เดน่ ๑.ไดช้ ้นิ งำนที่เปน็ ผลงำนของตนเอง ๒.ไดน้ ำวสั ดใุ นท้องถิ่นท่มี นี ำมำใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ ๓.นักเรยี นไดน้ ำผลงำนไปใช้ให้เกิดประโยชน์จำกงำนฝีมือของตนเอง จดุ ควรพฒั นา ๑.นักเรียนยังไม่รูจ้ กั เมลด็ พนั ธ์ุพืชท่ีหลำกหลำย ๒.ควรใหค้ วำมรู้เก่ียวกับกำรนำสงิ่ ของเหลือใช้นำกลับมำใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการพฒั นา ๑.ครูผู้สอนควรมีเวลำในกำรจัดกจิ กรรมมำกกว่ำน้ี ๒.วัสดุ อุปกรณ์ ควรหลำกหลำยและเพียงพอ ๓.จำนวนครูผสู้ อนกิจกรรมมีจำนวนน้อย กิจกรรม OTOP หมู่บ้าน วิธดี าเนนิ การ ช่ัวโมงที่ ๑ – ๓ ๑. แบง่ กลุ่มตำมหมู่บำ้ น กลมุ่ ละ ๑๐ คน เพ่ือช่วยกันทำกิจกรรมดงั น้ี กิจกรรมที่ ๑ กำรเลอื กผลิตภัณฑ์ - ในท้องถ่ินของนักเรียนมีวัสดุธรรมชำติอะไรมำกที่สุด และนักเรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำทำเป็น ผลิตภัณฑอ์ ะไรได้ ช่วั โมงที่ ๔ – ๖ กิจกรรมที่ ๒ กำรออกแบบผลิตภณั ฑ์
๔๙ - ให้นักเรียนภำยในกลุ่มวำดภำพผลิตภณั ฑต์ ำมหัวข้อท่ีกลุ่มตกลงกัน ตำมแนวคิดของตนเอง โดยระบำยสีให้สวยงำม ชว่ั โมงท่ี ๗ – ๙ กจิ กรรมท่ี ๓ กำรขัน้ ตอนกำรผลิต - ให้นกั เรยี นภำยในกลมุ่ ออกแบบกำรทจ่ี ะผลิตออกมำเป็นขัน้ ตอนโดยกำหนดเป็นข้อๆ พร้อมทงั้ บอกวสั ดอุ ุปกรณ์ ในกำรผลติ ช่วั โมงที่ ๑๐ – ๑๘ กิจกรรมท่ี ๔ กำรสร้ำงผลิตภณั ฑ์ - ให้นกั เรยี นสร้ำงผลติ ภณั ฑต์ ำมหัวข้อทกี่ ลุ่มตกลงกันตำมข้นั ตอนที่กำหนดกอ่ นหน้ำนี้ ใหเ้ สร็จ สมบรู ณ์ โดยครูกำกับติดตำมชิ้นงำน ช่ัวโมงที่ ๑๙-๒๐ กิจกรรมท่ี ๕ กำรนำเสนอผลติ ภณั ฑ์ - ให้นักเรยี นภำยในกลมุ่ นำเสนอผลติ ภัณฑ์ท่ีกล่มุ ของตนผลิต และประมำณกำรรำคำขำย พร้อม บอกตน้ ทุน และกำลงั กำรผลิตต่อวันท่ีสำมำรถทำได้หำกทำเป็นธุรกจิ และใหน้ กั เรยี นเลอื กผลติ ภัณฑ์ทีน่ กั เรียนคิด ว่ำดีท่สี ุดเพื่อนำไปขยำยผลในกำรผลติ ในโรงเรยี นเพ่ือสร้ำงอำชพี ให้แก่นักเรียนต่อไป ผลการดาเนนิ การ ๑. นกั เรยี นไดผ้ ลติ ภณั ฑท์ ีท่ ำจำกวสั ดใุ นท้องถน่ิ ของตน ๒. นักเรยี นได้ฝกึ กำรออกแบบผลิตภัณฑ์ ๓. สำมำรถนำไปต่อยอดเป็นธรุ กิจไดต้ อ่ ไป ปญั หาและอปุ สรรค ๑. อุปกรณ์บำงชนิดขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมนี ้อย ๓. ควำมรับผดิ ชอบของนักเรียน จุดเดน่ - ผลติ ภัณฑม์ ีควำมหลำกหลำยตำมวสั ดทุ ี่มีในชุมชนน้ันๆ - ฝกึ ทกั ษะอำชพี ให้แก่นักเรียน จดุ ควรพฒั นา - กำรพัฒนำผลิตภณั ฑ์ให้มีคุณภำพมำกย่งิ ขน้ึ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการพฒั นา - หำตลำดให้สำมำรถจำหน่ำยผลงำนให้เกดิ รำยได้กับนักเรียน กิจกรรมโมบายหรรษา
๕๐ วิธดี าเนนิ การ ๑. สมำชกิ ที่เข้ำรว่ มกิจกรรมโมบำยหรรษำ แบง่ กลุม่ เพอ่ื ทำกิจกรรมกลุ่ม ๒. สบื ค้นควำมร้แู ละรวบรวมขอ้ มูลที่จะนำมำประดิษฐ์ ออกแบบชิ้นงำน ๓. นักเรยี นลงมือปฏบิ ัตชิ ้นิ งำน ๔. ครตู รวจสอบควำมกำ้ วหน้ำของชน้ิ งำน นักเรยี นรำยงำนควำมกำ้ วหน้ำ ๕. นักเรยี นนำเสนอผลงำน ๖.ครวู ดั และประเมินผลชิ้นงำน ผลการดาเนินการ นกั เรยี นในระดับชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี ม.๑-๓ สำมำรถทำโมบำยหรรษำได้และมีผลกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมลด เวลำเรยี นเพิ่มเวลำรู้ได้ ร้อยละ ๘๕ ปัญหาและอปุ สรรค วัสดอุ ุปกรณใ์ นกำรจดั ทำมไี ม่เพยี งพอต่อจำนวนนกั เรียนในแต่ละกล่มุ เชน่ กำว, กรรไกร เปน็ ตน้ จดุ เดน่ สำมำรถนำไปต่อยอดเป็นทักษะทำงด้ำนอำชีพให้กบั นักเรียนได้ จดุ ควรพฒั นา ปรับปรงุ ในเรอื่ งของรูปแบบของโมบำยและตกุ๊ ตำผ้ำใหเ้ ข้ำกบั กำรอนรุ กั ษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ โดยเลือก จำกทีม่ ใี นท้องถิ่นท่ีตนอำศัยอยู่ เช่น กะลำมะพร้ำว ใบตำล เปน็ ตน้ ข้อเสนอแนะเพอื่ การพัฒนา สนบั สนนุ ในเร่ืองของอุปกรณ์และวัสดุทใ่ี ช้ในกำรเพ่มิ มูลค่ำให้กับผลติ ภัณฑ์ท่นี ักเรยี นทำ เชน่ กำร ออกแบบสต๊ิกเกอร์ตดิ เป็นของโรงเรยี น
๕๑ ๒.๓ การจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่หี ลากหลายเพื่อให้ผูเ้ รียนเรียนรู้อยา่ งมคี วามสขุ มีจำนวนกิจกรรมเรยี นรูท้ ห่ี ลำกหลำยเพื่อให้ผูเ้ รยี นเรียนรู้อย่ำงมคี วำมสุข ๒ กิจกรรม ประกอบด้วย กจิ กรรมกระปุกออมสินดว้ ยวิธีเปเปอรม์ ำเช่ กิจกรรม ศิลป์สรำ้ งสรรค์ กจิ กรรมกระปกุ ออมสินด้วยวธิ ีเปเปอรม์ าเช่ วธิ ีดาเนินการ ๑. ให้นกั เรียนจดั กล่มุ ตำมควำมพอใจ กล่มุ ละ ๘ คน เพื่อช่วยกันทำกจิ กรรมดังน้ี กิจกรรมที่ ๑ กำรจดั กำรท่ดี ี - หำกนกั เรยี นมกี ระดำษเหลอื ใช้จำนวนมำก นกั เรียนคดิ วำ่ สำมำรถนำมำประดิษฐ์ หรือทำเป็นอะไรได้บำ้ ง กจิ กรรมท่ี ๒ กำรทำ PAPER MACHE - ให้นักเรยี นเขียนข้นั ตอนกำรทำกระปุกออมสนิ ดว้ ยวธิ ี PAPER MACHE ผลการดาเนนิ การ ๑. นกั เรยี นไดผ้ ลงำนจำกกำรนำกระดำษเหลอื ใช้ มำทำ PAPER MACHE ๒. นักเรยี นได้แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ำรทำ PAPER MACHE แบบต่ำงๆ ปญั หาและอุปสรรค ๑. อปุ กรณบ์ ำงชนิดขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมนี อ้ ย ๓. ควำมรบั ผิดชอบของนักเรียน จุดเดน่ ผลงำนทไ่ี ด้หลำกหลำยรูปแบบและมสี สี ันทส่ี วยงำม จุดควรพฒั นา เพม่ิ ควำมน่ำสนใจในผลงำนใหม้ ำกข้ึน ข้อเสนอแนะเพอื่ การพฒั นา หำตลำดให้สำมำรถจำหน่ำยผลงำนให้เกิดรำยได้กบั นักเรยี น กจิ กรรม ศลิ ป์สรา้ งสรรค์ วิธีดาเนนิ การ
๕๒ รูปแบบและข้ันตอนการจดั กิจกรรมศลิ ป์สร้างสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการเรียนรู้โดยการสังเกตของ Albert Bandura Albert Bandura นักจิตวิทยำชำวอเมริกนั ผู้พฒั นำทฤษฎีกำรเรยี นรูโ้ ดยกำรสงั เกต ซึ่งมี ๔ ข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี ๑. ข้ันให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีขั้นตอนน้ี กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดขึ้น เป็นขั้นตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เป็นส่ิงดงึ ดดู ให้ผเู้ รยี นสนใจ ๒. ขั้นจำ ( Retention Phase ) เมือ่ ผเู้ รียนสนใจพฤติกรรมของตัวแบบ จะบันทึกส่ิงที่สังเกตไดไ้ วใ้ นระบบ ควำมจำของตนเอง ซ่งึ มักจะจดจำไว้เป็นจินตภำพเก่ยี วกบั ขัน้ ตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ขั้นปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นข้ันตอนที่ผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซ่ึงจะ ส่งผลให้มกี ำรตรวจสอบกำรเรยี นร้ทู ่ไี ดจ้ ดจำไว้ ๔. ขัน้ จงู ใจ ( Motivation Phase ) ขั้นตอนนี้เปน็ ขนั้ แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ผลการดาเนนิ การ ๑. จำกกำรสงั เกตพฤติกรรมกำรร่วมกิจกรรมของนักเรยี น นักเรียนมีควำมสุขและยิม้ แย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเปน็ ร้อยละ ๑๐๐ ๒.ชว่ ยใหน้ ักเรยี นมพี ฒั นำกำรทำงดำ้ นควำมคดิ สติปัญญำ ควำมสำมำรถ รวมท้ังสขุ ภำพกำย สุขภำพจิต เกิดควำมเพลิดเพลนิ ส่งเสรมิ สมำธิทีด่ ี และเมื่อผลงำนสำเร็จทำให้นักเรียน เกิดควำมภำคภูมิใจ ๓.ช่วยส่งเสรมิ และฝกึ นกั เรยี นใหร้ ้จู กั คณุ ค่ำของเศษวัสดุธรรมชำติสำมำรถนำมำให้เกิดประโยชนส์ รำ้ ง สนุ ทรียะให้กบั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ช่วยสง่ เสริมใหน้ กั เรียนใช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชนท์ ี่ต่อเน่ืองจำกกำรเรยี น ๕.เพม่ิ รำยไดใ้ ห้แกต่ นเอง เมื่อนักเรียนสร้ำงสรรค์ผลงำนจนเกดิ ควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหนำ่ ย ให้แก่ ผทู้ ่สี นใจ และทำเปน็ อำชีพได้ ปญั หาและอปุ สรรค นักเรยี นสว่ นน้อยทยี่ ังไม่มีควำมรับผิดชอบงำนต่อกลมุ่ หยอกลอ้ กนั ในขณะท่ีเพื่อนทำงำน จุดเดน่ จำกกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้กำรภำพปะติดจำกวัสดุธรรมชำติ มีควำมสุข เน่ืองจำก สำมำรถเลือกเรียนได้ตำมควำมสนใจ และภูมิใจในผลงำนของตนเอง จะเห็นได้วำ่ นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมเป็นระยะเวลำหลำยสัปดำห์ต่อเนื่องกันจะพบว่ำนักเรยี นมีสมำธิใน กำรทำกิจกรรมมำกยิ่งข้ึน มีควำมสุขตลอดจนมีควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ท่ีจะสรรสร้ำงงำนใหม่ๆของตนเองขึ้น อย่ำงต่อเน่ือง จดุ ควรพฒั นา
๕๓ ผลงำนทนี่ ักเรียนทเ่ี ขำ้ ร่วมกจิ กรรมสรำ้ งสรรค์ขึน้ ยังไม่สมบรู ณ์ตอ้ งใชเ้ วลำในกำรฝกึ ฝนเพ่มิ มำกขึ้น เพอื่ ใหเ้ กดิ ควำมชำนำญ ข้อเสนอแนะเพอื่ การพัฒนา สนับสนนุ ในเร่ืองของงบประมำณเพื่อให้เพิ่มวสั ดอุ ปุ กรณ์ในกำรทำครั้งต่อไป ๒.๔ การจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ให้ผ้เู รยี นได้เกดิ กระบวนการคิดข้นั สงู มีจำนวนกจิ กรรมเรียนรทู้ ี่ให้ผเู้ รยี นได้เกิดกระบวนกำรคดิ ขั้นสงู ท่ีหลำกหลำยเพ่ือให้ผเู้ รียนเรยี นร้อู ยำ่ งมี ควำมสุข ๓ กิจกรรม ประกอบดว้ ย กิจกรรมไข่เคม็ สมนุ ไพร กิจกรรม OTOP หมู่บ้ำน และกจิ กรรม ศิลปส์ รำ้ งสรรค์ กิจกรรมไข่เค็มสมนุ ไพร วธิ ีดาเนินการ ชว่ั โมงท่ี ๑-๓ ๑. สมำชิกท่ีเขำ้ ร่วมกิจกรรมไข่สมนุ ไพร แบ่งกลุ่มเพื่อทำกจิ กรรมกล่มุ ๒. ครูแจกใบควำมรู้ และอธิบำยควำมหมำย ควำมสำคญั ท่ีมำของไขส่ มุนไพร ๓. กำรค้นหำสมุนไพรเพื่อนำมำทำไข่เค็มสมุนไพร ชว่ั โมงท่ี ๔-๖ ๑. ครูนำไขเ่ ป็ดมำใหน้ ักเรยี นสงั เกต และอธิบำยวิธีกำรคดั เลอื กไข่ ๒. สมำชิกรวมกล่มุ รว่ มกันคดั เลอื กไข่ และล้ำงทำควำมสะอำดไข่ ชั่วโมงท่ี ๗-๙ ๑. กำรตม้ น้ำเกลอื เพ่ือใชใ้ นกำรทำไข่เค็ม ๒. กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตรใ์ นกำรตม้ น้ำเกลือและสมุนไพรตำมท่สี นใจ ๓. สมำชิกแสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกับกำรต้มน้ำน้ำเกลอื และสมนุ ไพรตำมทีส่ นใจ ชัว่ โมงท่ี ๑๐-๑๒ ๑. กำรทำไข่สมนุ ไพร ๒. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มทำไข่สมนุ ไพร ชว่ั โมงท่ี ๑๓-๑๕ ๑. นักเรยี นจัดทำบรรจภุ ัณฑ์ท่ีเป็นมิตรต่อส่งิ แวดล้อม ๒. กำหนดระยะเวลำกำรรบั ประทำนไข่เค็ม ๓. นักเรยี นชว่ ยกนั นำไข่เคม็ ไปจำหน่ำย ๔. นกั เรียนแสดงควำมคดิ เหน็ เกี่ยวกับกำรกำหนดรำคำขำย นกั เรียน ชว่ ยกนั ทำบญั ชีรำยรับ- รำยจำ่ ย ชั่วโมงที่ ๑๖-๑๘ ๑. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมนำเสนอผลกำรทำไขเ่ ค็มสมุนไพร ๒. สรปุ และอภิปรำยผลกำรทำกิจกรรมไข่เคม็ สมนุ ไพร
๕๔ ผลการดาเนินงาน นกั เรยี นสำมำรถทำไขเ่ ค็มสมุนไพรได้และมผี ลกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมลดเวลำเรยี นเพ่ิมเวลำรู้ได้ รอ้ ยละ ๙๐ ปญั หาและอุปสรรค วสั ดอุ ุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรมไมเ่ พียงพอต่อจำนวนนักเรียน จดุ เด่น สำมำรถนำไปตอ่ เป็นทกั ษะทำงด้ำนอำชีพให้กบั นักเรยี นได้ จดุ ควรพัฒนา กำรนำสมุนไพรทหี่ ลำกหลำยมำปรบั ปรงุ สูตรในกำรทำไขเ่ ค็มมำกขนึ้ ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การพัฒนา สนบั สนุนในเร่ืองของงบประมำณเพื่อใหเ้ พม่ิ วัสดุอุปกรณใ์ นกำรทำคร้ังต่อไป กิจกรรม OTOP หมู่บา้ น วธิ ีดาเนินการ ชว่ั โมงท่ี ๑ – ๓ ๑. แบง่ กลุ่มตำมหมู่บำ้ น กลุ่มละ ๑๐ คน เพื่อชว่ ยกนั ทำกิจกรรมดังนี้ กิจกรรมท่ี ๑ กำรเลือกผลิตภัณฑ์ - ในท้องถิ่นของนักเรียนมีวัสดุธรรมชำติอะไรมำกท่ีสุด และนักเรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำทำเป็น ผลติ ภณั ฑอ์ ะไรได้ ชว่ั โมงท่ี ๔ – ๖ กิจกรรมที่ ๒ กำรออกแบบผลิตภัณฑ์ - ให้นักเรยี นภำยในกลมุ่ วำดภำพผลติ ภณั ฑ์ตำมหวั ข้อที่กลุ่มตกลงกนั ตำมแนวคิดของตนเอง โดยระบำยสใี ห้สวยงำม ช่ัวโมงที่ ๗ – ๙ กจิ กรรมท่ี ๓ กำรข้ันตอนกำรผลิต - ให้นกั เรยี นภำยในกลมุ่ ออกแบบกำรท่จี ะผลติ ออกมำเป็นขน้ั ตอนโดยกำหนดเป็นข้อๆ พร้อมทง้ั บอกวสั ดุอปุ กรณ์ ในกำรผลติ ชั่วโมงที่ ๑๐ – ๑๘ กจิ กรรมที่ ๔ กำรสร้ำงผลติ ภัณฑ์ - ให้นักเรียนสรำ้ งผลติ ภัณฑต์ ำมหวั ขอ้ ที่กลมุ่ ตกลงกันตำมขั้นตอนท่ีกำหนดก่อนหนำ้ นี้ ใหเ้ สร็จ สมบูรณ์ โดยครูกำกบั ติดตำมชน้ิ งำน ชั่วโมงท่ี ๑๙-๒๐ กิจกรรมท่ี ๕ กำรนำเสนอผลิตภณั ฑ์
๕๕ - ให้นักเรยี นภำยในกลุม่ นำเสนอผลติ ภณั ฑท์ ี่กลุม่ ของตนผลิต และประมำณกำรรำคำขำย พร้อม บอกต้นทุน และกำลงั กำรผลิตตอ่ วนั ท่สี ำมำรถทำได้หำกทำเป็นธุรกจิ และให้นักเรยี นเลือกผลิตภัณฑ์ท่ีนกั เรียนคิด ว่ำดที ีส่ ดุ เพื่อนำไปขยำยผลในกำรผลิตในโรงเรยี นเพ่ือสรำ้ งอำชีพให้แกน่ กั เรียนตอ่ ไป ผลการดาเนนิ การ ๑. นกั เรียนไดผ้ ลิตภณั ฑท์ ่ีทำจำกวัสดุในท้องถน่ิ ของตน ๒. นักเรยี นได้ฝึกกำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ๓. สำมำรถนำไปตอ่ ยอดเปน็ ธุรกจิ ได้ตอ่ ไป ปัญหาและอุปสรรค ๑. อุปกรณบ์ ำงชนิดขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมนี อ้ ย ๓. ควำมรบั ผิดชอบของนักเรียน จดุ เด่น - ผลิตภัณฑม์ คี วำมหลำกหลำยตำมวัสดุทีม่ ีในชมุ ชนนนั้ ๆ - ฝึกทกั ษะอำชีพใหแ้ ก่นักเรียน จดุ ควรพฒั นา - กำรพฒั นำผลติ ภัณฑใ์ ห้มคี ุณภำพมำกยิง่ ขึ้น ข้อเสนอแนะเพือ่ การพฒั นา - หำตลำดให้สำมำรถจำหน่ำยผลงำนใหเ้ กดิ รำยได้กับนักเรยี น กิจกรรม ศิลปส์ ร้างสรรค์ วธิ ดี าเนินการ รปู แบบและขัน้ ตอนการจดั กิจกรรมศิลป์สรา้ งสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้โดยการสงั เกตของ Albert Bandura Albert Bandura นักจิตวิทยำชำวอเมริกนั ผพู้ ฒั นำทฤษฎีกำรเรยี นรู้โดยกำรสงั เกต ซึ่งมี ๔ ขนั้ ตอน ดงั ต่อไปนี้ ๑. ขั้นให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีข้ันตอนน้ี กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดขึ้น เป็นขั้นตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีชื่อเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เป็นส่ิงดึงดดู ใหผ้ เู้ รยี นสนใจ ๒. ข้นั จำ ( Retention Phase ) เมอื่ ผูเ้ รียนสนใจพฤตกิ รรมของตวั แบบ จะบันทึกส่งิ ที่สงั เกตไดไ้ ว้ในระบบ ควำมจำของตนเอง ซง่ึ มกั จะจดจำไวเ้ ป็นจินตภำพเก่ียวกับขัน้ ตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซึ่งจะ สง่ ผลใหม้ กี ำรตรวจสอบกำรเรยี นรทู้ ีไ่ ด้จดจำไว้ ๔. ข้นั จงู ใจ ( Motivation Phase ) ข้ันตอนน้ีเป็นขน้ั แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤตกิ รรมตำมตัวแบบ
๕๖ ผลการดาเนินการ ๑. จำกกำรสงั เกตพฤติกรรมกำรรว่ มกิจกรรมของนักเรยี น นักเรยี นมีควำมสุขและยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ๒.ชว่ ยให้นักเรยี นมีพฒั นำกำรทำงด้ำนควำมคดิ สติปญั ญำ ควำมสำมำรถ รวมท้ังสขุ ภำพกำย สุขภำพจติ เกิดควำมเพลดิ เพลนิ สง่ เสรมิ สมำธทิ ี่ดี และเม่ือผลงำนสำเร็จทำให้นกั เรยี น เกิดควำมภำคภมู ิใจ ๓.ช่วยส่งเสรมิ และฝกึ นักเรียนให้รู้จักคณุ ค่ำของเศษวัสดุธรรมชำติสำมำรถนำมำให้เกิดประโยชนส์ ร้ำง สุนทรยี ะใหก้ ับอำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ชว่ ยส่งเสริมให้นกั เรียนใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ท่ตี ่อเนื่องจำกกำรเรียน ๕.เพม่ิ รำยได้ให้แกต่ นเอง เม่ือนักเรยี นสร้ำงสรรค์ผลงำนจนเกิดควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหนำ่ ย ใหแ้ ก่ ผู้ทีส่ นใจ และทำเป็นอำชีพได้ ปญั หาและอุปสรรค นักเรยี นสว่ นน้อยท่ียงั ไม่มีควำมรับผดิ ชอบงำนต่อกลมุ่ หยอกล้อกนั ในขณะที่เพ่ือนทำงำน จดุ เดน่ จำกกำรจัดกจิ กรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรกู้ ำรภำพปะติดจำกวสั ดธุ รรมชำติ มีควำมสุข เนือ่ งจำก สำมำรถเลอื กเรียนได้ตำมควำมสนใจ และภมู ใิ จในผลงำนของตนเอง จะเหน็ ได้วำ่ นกั เรยี นทเ่ี ข้ำรว่ มกจิ กรรมเปน็ ระยะเวลำหลำยสปั ดำหต์ ่อเนื่องกนั จะพบว่ำนักเรียนมีสมำธิใน กำรทำกจิ กรรมมำกยง่ิ ขึ้น มีควำมสขุ ตลอดจนมีควำมคิดริเรมิ่ สรำ้ งสรรคท์ ีจ่ ะสรรสร้ำงงำนใหมๆ่ ของตนเองข้นึ อย่ำงต่อเน่อื ง จุดควรพัฒนา ผลงำนที่นักเรียนท่ีเขำ้ รว่ มกิจกรรมสร้ำงสรรคข์ ้ึน ยงั ไมส่ มบรู ณต์ อ้ งใชเ้ วลำในกำรฝึกฝนเพม่ิ มำกขึ้น เพอื่ ใหเ้ กดิ ควำมชำนำญ ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การพัฒนา สนับสนุนในเร่ืองของงบประมำณเพ่ือให้เพ่มิ วัสดุอุปกรณ์ในกำรทำครั้งตอ่ ไป ๒.๕ จัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ใี่ หผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั เป็นทีม มีจำนวนกจิ กรรมเรยี นรู้ที่มุง่ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั เป็นทมี ๒ กจิ กรรม ประกอบด้วย กิจกรรม OTOP หมบู่ ้ำน และกิจกรรม ศลิ ปส์ ร้ำงสรรค์ กจิ กรรม OTOP หมู่บา้ น วิธดี าเนนิ การ ชว่ั โมงที่ ๑ – ๓ ๑. แบง่ กลมุ่ ตำมหมบู่ ำ้ น กล่มุ ละ ๑๐ คน เพ่ือชว่ ยกันทำกิจกรรมดังนี้ กจิ กรรมที่ ๑ กำรเลอื กผลติ ภัณฑ์ - ในท้องถิ่นของนักเรียนมีวัสดุธรรมชำติอะไรมำกที่สุด และนักเรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำทำเป็น ผลติ ภัณฑ์อะไรได้ ชวั่ โมงท่ี ๔ – ๖
๕๗ กจิ กรรมท่ี ๒ กำรออกแบบผลติ ภัณฑ์ - ใหน้ ักเรยี นภำยในกลมุ่ วำดภำพผลิตภัณฑต์ ำมหัวข้อที่กลุ่มตกลงกนั ตำมแนวคดิ ของตนเอง โดยระบำยสีใหส้ วยงำม ชั่วโมงท่ี ๗ – ๙ กิจกรรมที่ ๓ กำรขน้ั ตอนกำรผลิต - ใหน้ กั เรยี นภำยในกล่มุ ออกแบบกำรท่จี ะผลติ ออกมำเป็นขัน้ ตอนโดยกำหนดเป็นข้อๆ พรอ้ มทงั้ บอกวสั ดอุ ุปกรณ์ ในกำรผลิต ช่วั โมงที่ ๑๐ – ๑๘ กิจกรรมที่ ๔ กำรสร้ำงผลติ ภณั ฑ์ - ให้นักเรยี นสร้ำงผลิตภัณฑต์ ำมหัวขอ้ ทก่ี ล่มุ ตกลงกันตำมขน้ั ตอนที่กำหนดก่อนหนำ้ นี้ ให้เสร็จ สมบรู ณ์ โดยครูกำกับตดิ ตำมชน้ิ งำน ชั่วโมงท่ี ๑๙-๒๐ กจิ กรรมที่ ๕ กำรนำเสนอผลติ ภณั ฑ์ - ใหน้ กั เรยี นภำยในกลุ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่กลมุ่ ของตนผลติ และประมำณกำรรำคำขำย พร้อม บอกต้นทนุ และกำลังกำรผลิตตอ่ วนั ทสี่ ำมำรถทำไดห้ ำกทำเป็นธุรกิจ และให้นกั เรียนเลอื กผลติ ภัณฑ์ท่ีนักเรยี นคิด ว่ำดที ่ีสุดเพอ่ื นำไปขยำยผลในกำรผลติ ในโรงเรยี นเพ่ือสรำ้ งอำชพี ใหแ้ ก่นกั เรียนต่อไป ผลการดาเนนิ การ ๑. นักเรยี นได้ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำจำกวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ ของตน ๒. นักเรียนได้ฝึกกำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ๓. สำมำรถนำไปตอ่ ยอดเปน็ ธุรกจิ ได้ต่อไป ปญั หาและอปุ สรรค ๑. อุปกรณบ์ ำงชนดิ ขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมีนอ้ ย ๓. ควำมรบั ผดิ ชอบของนักเรียน จุดเดน่ - ผลติ ภัณฑ์มีควำมหลำกหลำยตำมวัสดทุ ่มี ใี นชมุ ชนนน้ั ๆ - ฝึกทกั ษะอำชีพให้แกน่ ักเรียน จุดควรพฒั นา - กำรพฒั นำผลติ ภณั ฑใ์ ห้มคี ุณภำพมำกย่ิงข้นึ ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา - หำตลำดให้สำมำรถจำหน่ำยผลงำนใหเ้ กดิ รำยได้กับนักเรียน กิจกรรม ศิลปส์ ร้างสรรค์ วิธีดาเนนิ การ
๕๘ รูปแบบและขัน้ ตอนการจดั กิจกรรมศลิ ปส์ ร้างสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้โดยการสังเกตของ Albert Bandura Albert Bandura นกั จิตวิทยำชำวอเมรกิ ัน ผูพ้ ฒั นำทฤษฎีกำรเรยี นรู้โดยกำรสังเกต ซ่ึงมี ๔ ขัน้ ตอน ดังตอ่ ไปน้ี ๑. ขั้นให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีขั้นตอนน้ี กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดขึ้น เป็นข้ันตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เปน็ สิ่งดึงดดู ให้ผเู้ รยี นสนใจ ๒. ขัน้ จำ ( Retention Phase ) เมอื่ ผเู้ รียนสนใจพฤติกรรมของตัวแบบ จะบันทึกส่ิงท่สี งั เกตได้ไว้ในระบบ ควำมจำของตนเอง ซึง่ มักจะจดจำไว้เป็นจินตภำพเกี่ยวกบั ข้ันตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นข้ันตอนท่ีผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซ่ึงจะ สง่ ผลให้มีกำรตรวจสอบกำรเรยี นรูท้ ่ไี ดจ้ ดจำไว้ ๔. ข้ันจงู ใจ ( Motivation Phase ) ขัน้ ตอนน้ีเปน็ ขนั้ แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ผลการดาเนินการ ๑. จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรร่วมกิจกรรมของนักเรยี น นักเรยี นมคี วำมสขุ และย้ิมแย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๒.ชว่ ยให้นักเรยี นมพี ัฒนำกำรทำงด้ำนควำมคดิ สติปัญญำ ควำมสำมำรถ รวมทั้งสขุ ภำพกำย สขุ ภำพจติ เกดิ ควำมเพลดิ เพลิน ส่งเสรมิ สมำธิท่ีดี และเมื่อผลงำนสำเร็จทำใหน้ กั เรียน เกิดควำมภำคภมู ิใจ ๓.ชว่ ยส่งเสริมและฝึกนักเรียนใหร้ ูจ้ ักคุณค่ำของเศษวัสดธุ รรมชำติสำมำรถนำมำให้เกิดประโยชน์สร้ำง สนุ ทรยี ะใหก้ บั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ชว่ ยส่งเสรมิ ให้นกั เรียนใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ทีต่ ่อเนื่องจำกกำรเรียน ๕.เพ่มิ รำยไดใ้ ห้แก่ตนเอง เม่ือนกั เรยี นสรำ้ งสรรค์ผลงำนจนเกดิ ควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหน่ำย ใหแ้ ก่ ผูท้ สี่ นใจ และทำเป็นอำชีพได้ ปัญหาและอปุ สรรค นกั เรียนสว่ นนอ้ ยทีย่ ังไม่มีควำมรบั ผดิ ชอบงำนต่อกล่มุ หยอกล้อกนั ในขณะท่ีเพื่อนทำงำน จดุ เดน่ จำกกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพม่ิ เวลำรูก้ ำรภำพปะติดจำกวสั ดธุ รรมชำติ มคี วำมสขุ เนื่องจำก สำมำรถเลือกเรยี นได้ตำมควำมสนใจ และภมู ใิ จในผลงำนของตนเอง จะเหน็ ไดว้ ่ำนกั เรยี นท่เี ขำ้ ร่วมกิจกรรมเปน็ ระยะเวลำหลำยสัปดำห์ตอ่ เน่ืองกันจะพบว่ำนักเรยี นมีสมำธิใน กำรทำกจิ กรรมมำกยิ่งขน้ึ มีควำมสขุ ตลอดจนมีควำมคดิ ริเริ่มสรำ้ งสรรคท์ ่จี ะสรรสร้ำงงำนใหมๆ่ ของตนเองขน้ึ อย่ำงต่อเน่ือง จุดควรพัฒนา
๕๙ ผลงำนทน่ี ักเรยี นท่เี ข้ำรว่ มกจิ กรรมสรำ้ งสรรค์ขน้ึ ยงั ไมส่ มบูรณต์ ้องใช้เวลำในกำรฝกึ ฝนเพิ่มมำกข้ึน เพื่อให้เกดิ ควำมชำนำญ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การพฒั นา สนบั สนนุ ในเรอื่ งของงบประมำณเพ่ือให้เพิ่มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นกำรทำครั้งตอ่ ไป ๒.๖ การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญา สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพือ่ พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ มีจำนวนกิจกรรมเรยี นรทู้ ่ีใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ภูมิปญั ญำ ส่งิ แวดลอ้ ม และเทคโนโลยสี ำรสนเทศ เพ่ือพฒั นำ คุณภำพกำรเรียนรู้ ๓ กจิ กรรม ประกอบด้วย กิจกรรมโมบำยหรรษำ กิจกรรมเมลด็ พันธ์หรรษำ กิจกรรมศลิ ป์สร้ำงสรรค์ กจิ กรรมโมบายหรรษา วธิ ดี าเนนิ การ ๑. สมำชิกทเ่ี ข้ำรว่ มกจิ กรรมโมบำยหรรษำ แบ่งกลุ่มเพอ่ื ทำกจิ กรรมกลุ่ม ๒. สืบคน้ ควำมรูแ้ ละรวบรวมขอ้ มูลทจี่ ะนำมำประดิษฐ์ ออกแบบชนิ้ งำน ๓. นักเรยี นลงมือปฏบิ ตั ชิ ้นิ งำน ๔. ครูตรวจสอบควำมกำ้ วหน้ำของช้ินงำน นักเรยี นรำยงำนควำมก้ำวหนำ้ ๕. นักเรียนนำเสนอผลงำน ๖.ครูวัดและประเมนิ ผลชน้ิ งำน ผลการดาเนนิ การ นักเรียนในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี ม.๑-๓ สำมำรถทำโมบำยหรรษำไดแ้ ละมผี ลกำรเข้ำร่วมกิจกรรมลด เวลำเรียนเพม่ิ เวลำรูไ้ ด้ รอ้ ยละ ๘๕ ปญั หาและอุปสรรค วัสดุอปุ กรณ์ในกำรจัดทำมไี มเ่ พยี งพอต่อจำนวนนักเรยี นในแต่ละกลุ่ม เชน่ กำว, กรรไกร เปน็ ต้น จุดเด่น สำมำรถนำไปตอ่ ยอดเป็นทักษะทำงด้ำนอำชพี ให้กบั นกั เรียนได้ จดุ ควรพฒั นา ปรับปรุงในเรือ่ งของรูปแบบของโมบำยและตุก๊ ตำผ้ำใหเ้ ขำ้ กบั กำรอนรุ ักษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติ โดยเลอื ก จำกท่มี ีในทอ้ งถิน่ ท่ีตนอำศยั อยู่ เช่น กะลำมะพร้ำว ใบตำล เป็นตน้ ข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นา สนับสนุนในเร่อื งของอปุ กรณ์และวสั ดุทใี่ ชใ้ นกำรเพิม่ มูลคำ่ ใหก้ ับผลิตภณั ฑ์ทีน่ ักเรยี นทำ เช่น กำร ออกแบบสตก๊ิ เกอร์ตดิ เปน็ ของโรงเรยี น
๖๐ กิจกรรมเมลด็ พันธ์ุหรรษา วิธีดาเนินการ ๑.แบง่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ เทำ่ ๆกัน ๒.จัดหำวัสดุอปุ กรณท์ ่ีมีในท้องถนิ่ ๓.เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ในกำรจัดกจิ กรรม ๔.นกั เรยี นปฏบิ ตั ิพวงกญุ แจจำกเมล็ดพนั ธุ์ ๕.นำเสนอผลงำน ผลการดาเนินงาน ๑.นกั เรียนไดใ้ ชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ ๒.นักเรียนรู้จกั กำรทำงำนเป็นทีม ๓.นกั เรยี นรู้จักนำส่ิงของเหลือใชน้ ำกลับมำใชใ้ หมใ่ ห้เกดิ ประโยชน์ ๔.นักเรยี นสำมำรถนำไปเป็นของทีร่ ะลึกได้ จุดเดน่ ๑.ไดช้ ้นิ งำนที่เปน็ ผลงำนของตนเอง ๒.ไดน้ ำวัสดใุ นท้องถิ่นท่มี นี ำมำใช้ให้เกิดประโยชน์ ๓.นักเรยี นได้นำผลงำนไปใช้ให้เกิดประโยชน์จำกงำนฝีมือของตนเอง จุดควรพฒั นา ๑.นักเรียนยังไมร่ ู้จักเมลด็ พนั ธ์ุพืชที่หลำกหลำย ๒.ควรใหค้ วำมรู้เกย่ี วกบั กำรนำสงิ่ ของเหลือใช้นำกลบั มำใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ข้อเสนอแนะเพือ่ การพัฒนา ๑.ครูผู้สอนควรมีเวลำในกำรจัดกจิ กรรมมำกกว่ำน้ี ๒.วัสดุ อุปกรณ์ ควรหลำกหลำยและเพียงพอ ๓.จำนวนครูผูส้ อนกจิ กรรมมีจำนวนน้อย กจิ กรรม OTOP หมู่บ้าน วธิ ีดาเนินการ ช่ัวโมงที่ ๑ – ๓ ๑. แบง่ กลุ่มตำมหมู่บำ้ น กลมุ่ ละ ๑๐ คน เพ่ือชว่ ยกนั ทำกิจกรรมดงั น้ี กิจกรรมที่ ๑ กำรเลอื กผลิตภัณฑ์ - ในท้องถ่ินของนักเรียนมีวัสดุธรรมชำติอะไรมำกที่สุด และนักเรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำทำเป็น ผลิตภณั ฑอ์ ะไรได้ ช่วั โมงที่ ๔ – ๖ กิจกรรมที่ ๒ กำรออกแบบผลิตภณั ฑ์
๖๑ - ใหน้ กั เรียนภำยในกล่มุ วำดภำพผลิตภัณฑ์ตำมหวั ข้อท่ีกลุ่มตกลงกนั ตำมแนวคดิ ของตนเอง โดยระบำยสใี ห้สวยงำม ชว่ั โมงที่ ๗ – ๙ กจิ กรรมท่ี ๓ กำรข้ันตอนกำรผลิต - ให้นกั เรียนภำยในกลุ่มออกแบบกำรท่ีจะผลิตออกมำเป็นข้นั ตอนโดยกำหนดเป็นข้อๆ พรอ้ มทงั้ บอกวัสดุอปุ กรณ์ ในกำรผลิต ช่ัวโมงท่ี ๑๐ – ๑๘ กิจกรรมที่ ๔ กำรสร้ำงผลิตภณั ฑ์ - ใหน้ กั เรยี นสรำ้ งผลิตภณั ฑ์ตำมหวั ขอ้ ท่ีกลมุ่ ตกลงกนั ตำมขนั้ ตอนที่กำหนดกอ่ นหนำ้ นี้ ใหเ้ สร็จ สมบรู ณ์ โดยครูกำกับติดตำมช้นิ งำน ชวั่ โมงท่ี ๑๙-๒๐ กิจกรรมที่ ๕ กำรนำเสนอผลิตภัณฑ์ - ให้นกั เรียนภำยในกลุ่มนำเสนอผลติ ภณั ฑท์ ่ีกลุ่มของตนผลิต และประมำณกำรรำคำขำย พรอ้ ม บอกต้นทนุ และกำลังกำรผลิตตอ่ วนั ทส่ี ำมำรถทำได้หำกทำเปน็ ธรุ กิจ และให้นกั เรยี นเลอื กผลิตภณั ฑ์ที่นกั เรียนคิด ว่ำดที ีส่ ุดเพื่อนำไปขยำยผลในกำรผลติ ในโรงเรยี นเพ่ือสร้ำงอำชพี ใหแ้ กน่ กั เรยี นตอ่ ไป ผลการดาเนนิ การ ๑. นักเรยี นไดผ้ ลติ ภณั ฑ์ที่ทำจำกวสั ดใุ นท้องถิ่นของตน ๒. นักเรียนไดฝ้ ึกกำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ๓. สำมำรถนำไปตอ่ ยอดเป็นธรุ กิจไดต้ ่อไป ปัญหาและอุปสรรค ๑. อุปกรณ์บำงชนิดขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมนี ้อย ๓. ควำมรับผดิ ชอบของนักเรียน จุดเดน่ - ผลิตภัณฑ์มีควำมหลำกหลำยตำมวสั ดทุ ี่มใี นชุมชนนน้ั ๆ - ฝกึ ทกั ษะอำชีพใหแ้ กน่ ักเรียน จดุ ควรพฒั นา - กำรพฒั นำผลิตภณั ฑ์ให้มคี ุณภำพมำกยง่ิ ขน้ึ ข้อเสนอแนะเพ่อื การพัฒนา - หำตลำดให้สำมำรถจำหน่ำยผลงำนใหเ้ กดิ รำยไดก้ ับนักเรยี น
๖๒ ๒.๗ การประเมินผลตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ดว้ ย Performance Assessment และ Attribute Assessment (P&A) มจี ำนวนกจิ กรรมเรียนรทู้ ่ีประเมนิ ผลตำมสภำพจริง (Authentic Assessment) ดว้ ย Performance Assessment และ Attribute Assessment (P&A) ๖ กิจกรรม ประกอบดว้ ย ศลิ ป์สรำ้ งสรรค์ ไขเ่ ค็มสมุนไพร กระปกุ ออมสินด้วยวิธเี ปเปอร์มำเช่ เมลด็ พรรณหรรษำ โมบำย หรรษำ กจิ กรรม OTOP หม่บู ำ้ น กิจกรรม ศิลปส์ รา้ งสรรค์ วธิ ีดาเนินการ รูปแบบและข้นั ตอนการจดั กิจกรรมศิลป์สร้างสรรค์ โดยใช้กระบวนการเรยี นรโู้ ดยการสงั เกตของ Albert Bandura Albert Bandura นกั จิตวิทยำชำวอเมรกิ ัน ผู้พฒั นำทฤษฎีกำรเรยี นรโู้ ดยกำรสงั เกต ซ่ึงมี ๔ ขน้ั ตอน ดังตอ่ ไปนี้ ๑. ขั้นให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีขั้นตอนนี้ กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดข้ึน เป็นขั้นตอน ท่ี ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เปน็ ส่งิ ดึงดูดใหผ้ เู้ รยี นสนใจ ๒. ขั้นจำ ( Retention Phase ) เมอ่ื ผเู้ รียนสนใจพฤติกรรมของตวั แบบ จะบนั ทึกสิ่งท่ีสังเกตได้ไวใ้ นระบบ ควำมจำของตนเอง ซ่งึ มกั จะจดจำไว้เป็นจนิ ตภำพเกยี่ วกับขัน้ ตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นข้ันตอนท่ีผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซึ่งจะ สง่ ผลให้มกี ำรตรวจสอบกำรเรียนรทู้ ไ่ี ดจ้ ดจำไว้ ๔. ขน้ั จงู ใจ ( Motivation Phase ) ขั้นตอนน้ีเป็นขัน้ แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤตกิ รรมตำมตัวแบบ ผลการดาเนนิ การ ๑. จำกกำรสงั เกตพฤติกรรมกำรร่วมกิจกรรมของนักเรียน นกั เรียนมีควำมสุขและยม้ิ แย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ๒.ช่วยให้นักเรยี นมีพัฒนำกำรทำงดำ้ นควำมคิด สติปญั ญำ ควำมสำมำรถ รวมท้ังสขุ ภำพกำย สุขภำพจิต เกดิ ควำมเพลดิ เพลิน ส่งเสรมิ สมำธทิ ่ีดี และเมื่อผลงำนสำเร็จทำให้นักเรียน เกิดควำมภำคภูมิใจ ๓.ชว่ ยสง่ เสรมิ และฝกึ นกั เรียนให้รู้จักคณุ ค่ำของเศษวัสดธุ รรมชำติสำมำรถนำมำใหเ้ กิดประโยชนส์ ร้ำง สุนทรียะใหก้ บั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ชว่ ยสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนใช้เวลำวำ่ งให้เกดิ ประโยชนท์ ตี่ ่อเนื่องจำกกำรเรยี น ๕.เพิ่มรำยไดใ้ ห้แก่ตนเอง เม่ือนักเรียนสรำ้ งสรรค์ผลงำนจนเกดิ ควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหน่ำย ใหแ้ ก่ ผู้ท่สี นใจ และทำเป็นอำชีพได้ ปัญหาและอปุ สรรค นกั เรยี นส่วนน้อยทย่ี งั ไมม่ ีควำมรบั ผดิ ชอบงำนต่อกลุ่ม หยอกล้อกนั ในขณะที่เพ่ือนทำงำน จดุ เด่น
๖๓ จำกกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้กำรภำพปะติดจำกวัสดุธรรมชำติ มีควำมสุข เน่ืองจำก สำมำรถเลอื กเรียนไดต้ ำมควำมสนใจ และภูมใิ จในผลงำนของตนเอง จะเห็นได้วำ่ นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมเป็นระยะเวลำหลำยสัปดำห์ต่อเน่ืองกันจะพบว่ำนักเรียนมีสมำธิใน กำรทำกิจกรรมมำกยิ่งข้ึน มีควำมสุขตลอดจนมีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ท่ีจะสรรสร้ำงงำนใหม่ๆของตนเองข้ึน อยำ่ งต่อเนื่อง จดุ ควรพัฒนา ผลงำนทนี่ กั เรยี นทีเ่ ข้ำรว่ มกจิ กรรมสรำ้ งสรรคข์ ึ้น ยังไมส่ มบูรณต์ อ้ งใช้เวลำในกำรฝกึ ฝนเพิม่ มำกข้นึ เพื่อใหเ้ กิดควำมชำนำญ ข้อเสนอแนะเพ่อื การพัฒนา สนบั สนุนในเรอ่ื งของงบประมำณเพื่อใหเ้ พิ่มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นกำรทำครั้งต่อไป กจิ กรรมไข่เค็มสมนุ ไพร วธิ ีดาเนนิ การ ชวั่ โมงที่ ๑-๓ ๑. สมำชกิ ทีเ่ ข้ำรว่ มกจิ กรรมไขส่ มุนไพร แบ่งกลุ่มเพ่ือทำกิจกรรมกลุ่ม ๒. ครแู จกใบควำมรู้ และอธบิ ำยควำมหมำย ควำมสำคญั ท่ีมำของไขส่ มุนไพร ๓. กำรค้นหำสมนุ ไพรเพื่อนำมำทำไขเ่ ค็มสมนุ ไพร ชวั่ โมงท่ี ๔-๖ ๑. ครนู ำไขเ่ ป็ดมำให้นักเรยี นสงั เกต และอธิบำยวิธกี ำรคัดเลอื กไข่ ๒. สมำชิกรวมกล่มุ ร่วมกันคดั เลือกไข่ และลำ้ งทำควำมสะอำดไข่ ชั่วโมงที่ ๗-๙ ๑. กำรตม้ น้ำเกลือ เพือ่ ใช้ในกำรทำไข่เคม็ ๒. กระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ในกำรต้มน้ำเกลือและสมุนไพรตำมทสี่ นใจ ๓. สมำชกิ แสดงควำมคดิ เห็นเกี่ยวกบั กำรต้มนำ้ น้ำเกลอื และสมุนไพรตำมทีส่ นใจ ชวั่ โมงท่ี ๑๐-๑๒ ๑. กำรทำไข่สมุนไพร ๒. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมทำไขส่ มุนไพร ชั่วโมงท่ี ๑๓-๑๕ ๑. นักเรียนจัดทำบรรจภุ ัณฑ์ท่ีเป็นมิตรต่อสง่ิ แวดลอ้ ม ๒. กำหนดระยะเวลำกำรรบั ประทำนไข่เค็ม ๓. นกั เรยี นชว่ ยกนั นำไข่เค็มไปจำหน่ำย ๔. นกั เรียนแสดงควำมคิดเหน็ เกี่ยวกบั กำรกำหนดรำคำขำย นกั เรียน ชว่ ยกันทำบญั ชรี ำยรบั - รำยจ่ำย
๖๔ ชว่ั โมงท่ี ๑๖-๑๘ ๑. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมนำเสนอผลกำรทำไขเ่ ค็มสมุนไพร ๒. สรปุ และอภปิ รำยผลกำรทำกิจกรรมไข่เค็มสมนุ ไพร ผลการดาเนนิ งาน นักเรียนสำมำรถทำไขเ่ ค็มสมุนไพรไดแ้ ละมีผลกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมลดเวลำเรยี นเพ่ิมเวลำรไู้ ด้ รอ้ ยละ ๙๐ ปญั หาและอุปสรรค วัสดุอุปกรณ์ในกำรทำกจิ กรรมไม่เพยี งพอต่อจำนวนนกั เรียน จดุ เดน่ สำมำรถนำไปต่อเป็นทักษะทำงด้ำนอำชีพให้กับนักเรียนได้ จุดควรพฒั นา กำรนำสมุนไพรที่หลำกหลำยมำปรับปรงุ สูตรในกำรทำไข่เคม็ มำกขึ้น ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การพัฒนา สนับสนนุ ในเรื่องของงบประมำณเพื่อให้เพิม่ วัสดุอปุ กรณ์ในกำรทำคร้ังตอ่ ไป กจิ กรรมกระปกุ ออมสนิ ด้วยวิธีเปเปอรม์ าเช่ วิธดี าเนนิ การ ๑. ใหน้ กั เรียนจัดกลุ่มตำมควำมพอใจ กลมุ่ ละ ๘ คน เพื่อชว่ ยกันทำกจิ กรรมดังนี้ กจิ กรรมที่ ๑ กำรจัดกำรทด่ี ี - หำกนักเรียนมีกระดำษเหลือใชจ้ ำนวนมำก นักเรียนคิดวำ่ สำมำรถนำมำประดิษฐ์ หรือทำเป็นอะไรไดบ้ ้ำง กจิ กรรมที่ ๒ กำรทำ PAPER MACHE - ให้นักเรยี นเขียนข้ันตอนกำรทำกระปุกออมสินด้วยวิธี PAPER MACHE ผลการดาเนินการ ๑. นักเรยี นไดผ้ ลงำนจำกกำรนำกระดำษเหลอื ใช้ มำทำ PAPER MACHE ๒. นักเรยี นไดแ้ ลกเปลีย่ นเรียนรกู้ ำรทำ PAPER MACHE แบบต่ำงๆ ปญั หาและอุปสรรค ๑. อุปกรณบ์ ำงชนดิ ขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมีน้อย ๓. ควำมรับผิดชอบของนักเรียน จุดเด่น ผลงำนที่ไดห้ ลำกหลำยรูปแบบและมีสสี ันท่ีสวยงำม จดุ ควรพฒั นา เพม่ิ ควำมน่ำสนใจในผลงำนใหม้ ำกข้นึ
๖๕ ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพฒั นา หำตลำดให้สำมำรถจำหนำ่ ยผลงำนใหเ้ กดิ รำยได้กับนักเรียน กิจกรรมเมล็ดพนั ธ์ุหรรษา วธิ ีดาเนินการ ๑.แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม เทำ่ ๆกนั ๒.จดั หำวัสดอุ ุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่น ๓.เตรยี มวัสดุอุปกรณ์ในกำรจัดกิจกรรม ๔.นักเรียนปฏบิ ัติพวงกุญแจจำกเมลด็ พันธ์ุ ๕.นำเสนอผลงำน ผลการดาเนินงาน ๑.นักเรียนไดใ้ ช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชน์ ๒.นกั เรยี นรจู้ ักกำรทำงำนเป็นทีม ๓.นักเรียนรู้จกั นำสิง่ ของเหลอื ใชน้ ำกลับมำใช้ใหมใ่ ห้เกิดประโยชน์ ๔.นกั เรียนสำมำรถนำไปเปน็ ของท่รี ะลกึ ได้ จดุ เดน่ ๑.ไดช้ น้ิ งำนท่ีเปน็ ผลงำนของตนเอง ๒.ไดน้ ำวสั ดใุ นท้องถนิ่ ทม่ี ีนำมำใช้ให้เกิดประโยชน์ ๓.นักเรยี นไดน้ ำผลงำนไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์จำกงำนฝีมือของตนเอง จุดควรพฒั นา ๑.นกั เรยี นยังไมร่ ู้จกั เมลด็ พันธ์ุพชื ที่หลำกหลำย ๒.ควรใหค้ วำมรู้เกย่ี วกับกำรนำสงิ่ ของเหลือใชน้ ำกลับมำใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ข้อเสนอแนะเพือ่ การพฒั นา ๑.ครูผู้สอนควรมีเวลำในกำรจัดกจิ กรรมมำกกวำ่ นี้ ๒.วสั ดุ อปุ กรณ์ ควรหลำกหลำยและเพียงพอ ๓.จำนวนครูผู้สอนกจิ กรรมมีจำนวนนอ้ ย กิจกรรม OTOP หมู่บ้าน วิธีดาเนนิ การ ชว่ั โมงท่ี ๑ – ๓ ๑. แบ่งกลมุ่ ตำมหมูบ่ ำ้ น กล่มุ ละ ๑๐ คน เพ่ือชว่ ยกันทำกิจกรรมดงั นี้ กิจกรรมที่ ๑ กำรเลอื กผลิตภัณฑ์ - ในท้องถิ่นของนักเรียนมีวัสดุธรรมชำติอะไรมำกท่ีสุด และนักเรียนคิดว่ำสำมำรถนำมำทำเป็น ผลิตภัณฑอ์ ะไรได้
๖๖ ช่วั โมงท่ี ๔ – ๖ กจิ กรรมท่ี ๒ กำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ - ให้นักเรยี นภำยในกล่มุ วำดภำพผลติ ภัณฑต์ ำมหวั ข้อท่ีกลุ่มตกลงกัน ตำมแนวคิดของตนเอง โดยระบำยสใี ห้สวยงำม ชั่วโมงท่ี ๗ – ๙ กจิ กรรมที่ ๓ กำรขนั้ ตอนกำรผลิต - ให้นักเรียนภำยในกลมุ่ ออกแบบกำรทจี่ ะผลติ ออกมำเป็นข้นั ตอนโดยกำหนดเปน็ ข้อๆ พร้อมทัง้ บอกวัสดอุ ปุ กรณ์ ในกำรผลติ ช่ัวโมงที่ ๑๐ – ๑๘ กจิ กรรมท่ี ๔ กำรสรำ้ งผลติ ภัณฑ์ - ใหน้ ักเรยี นสร้ำงผลิตภัณฑต์ ำมหวั ข้อทก่ี ลุม่ ตกลงกนั ตำมขัน้ ตอนที่กำหนดกอ่ นหนำ้ นี้ ใหเ้ สรจ็ สมบรู ณ์ โดยครกู ำกับตดิ ตำมชิน้ งำน ชั่วโมงท่ี ๑๙-๒๐ กจิ กรรมที่ ๕ กำรนำเสนอผลติ ภัณฑ์ - ให้นักเรยี นภำยในกลุ่มนำเสนอผลิตภัณฑท์ ่ีกลุ่มของตนผลติ และประมำณกำรรำคำขำย พรอ้ ม บอกตน้ ทนุ และกำลงั กำรผลิตต่อวนั ท่ีสำมำรถทำได้หำกทำเปน็ ธุรกิจ และใหน้ ักเรยี นเลอื กผลติ ภัณฑ์ทน่ี กั เรียนคิด วำ่ ดีที่สุดเพื่อนำไปขยำยผลในกำรผลติ ในโรงเรยี นเพ่ือสรำ้ งอำชพี ให้แก่นักเรยี นตอ่ ไป ผลการดาเนินการ ๑. นักเรยี นได้ผลิตภณั ฑท์ ที่ ำจำกวสั ดใุ นท้องถ่นิ ของตน ๒. นกั เรยี นไดฝ้ กึ กำรออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ๓. สำมำรถนำไปต่อยอดเปน็ ธรุ กจิ ไดต้ ่อไป ปัญหาและอปุ สรรค ๑. อุปกรณบ์ ำงชนิดขำดแคลน ๒. ระยะเวลำในกำรทำมีน้อย ๓. ควำมรบั ผดิ ชอบของนักเรียน จดุ เดน่ - ผลติ ภณั ฑ์มีควำมหลำกหลำยตำมวสั ดุท่ีมใี นชมุ ชนน้นั ๆ - ฝกึ ทกั ษะอำชีพให้แก่นักเรียน จดุ ควรพฒั นา - กำรพัฒนำผลติ ภัณฑใ์ ห้มคี ุณภำพมำกยงิ่ ข้นึ ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การพัฒนา - หำตลำดใหส้ ำมำรถจำหน่ำยผลงำนให้เกดิ รำยได้กับนักเรยี น กจิ กรรมโมบายหรรษา วธิ ีดาเนินการ
๖๗ ๑. สมำชิกที่เขำ้ ร่วมกจิ กรรมโมบำยหรรษำ แบง่ กลมุ่ เพือ่ ทำกิจกรรมกลุ่ม ๒. สืบค้นควำมร้แู ละรวบรวมขอ้ มูลที่จะนำมำประดิษฐ์ ออกแบบชิ้นงำน ๓. นักเรยี นลงมือปฏิบัตชิ ิน้ งำน ๔. ครตู รวจสอบควำมก้ำวหน้ำของชน้ิ งำน นักเรียนรำยงำนควำมกำ้ วหน้ำ ๕. นกั เรียนนำเสนอผลงำน ๖.ครูวดั และประเมินผลช้ินงำน ผลการดาเนนิ การ นักเรยี นในระดับช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ม.๑-๓ สำมำรถทำโมบำยหรรษำไดแ้ ละมีผลกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมลด เวลำเรยี นเพมิ่ เวลำร้ไู ด้ รอ้ ยละ ๘๕ ปัญหาและอุปสรรค วสั ดุอปุ กรณใ์ นกำรจัดทำมไี ม่เพยี งพอต่อจำนวนนกั เรียนในแต่ละกลมุ่ เช่น กำว, กรรไกร เปน็ ตน้ จุดเด่น สำมำรถนำไปต่อยอดเป็นทักษะทำงด้ำนอำชีพให้กบั นกั เรียนได้ จดุ ควรพฒั นา ปรับปรุงในเรื่องของรูปแบบของโมบำยและตกุ๊ ตำผำ้ ให้เข้ำกับกำรอนรุ กั ษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ โดยเลือก จำกทมี่ ีในท้องถ่ินที่ตนอำศัยอยู่ เช่น กะลำมะพร้ำว ใบตำล เปน็ ตน้ ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การพัฒนา สนับสนนุ ในเรอื่ งของอุปกรณ์และวัสดุทใ่ี ช้ในกำรเพิม่ มูลค่ำใหก้ บั ผลิตภัณฑ์ทีน่ ักเรยี นทำ เชน่ กำร ออกแบบสตกิ๊ เกอร์ตดิ เปน็ ของโรงเรียน
๖๘ ) สาหรับการจัดกจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้ วิธีดาเนนิ การ ๑. คณะครูที่สอนกิจกรรมลดเวลำเรยี นเพมิ่ เวลำรูร้ ว่ มกนั ประชมุ วำงแผนกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพมิ่ เวลำรู้ ๒. คณะครูดำเนินกำรจดั กจิ กรรมตำมแผนท่ีไดว้ ำงไว้ ๓. หลังจำกจัดกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนทุกสัปดำห์ คณะครูร่วมกนั อภิปรำย สรุปถงึ กำรสอนในแต่ละ สัปดำหเ์ พื่อให้ทรำบถึงปัญหำของกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน และร่วมกันหำแนวทำงกำรแก้ไขเพ่อื ทจี่ ะนำไป พัฒนำกำรสอนในสปั ดำห์ต่อไป ผลการดาเนนิ การ คณะครูสำมำรถจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ได้ดี มีประสิทธิภำพมำกขึ้น เนื่องจำกได้มีกำร ปรกึ ษำหำรือ วิเครำะห์ รวมถึงวธิ ีกำรแก้ไขปัญหำที่เกิดข้ึน ในกำรสอนกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ทุกสัปดำห์ ทำให้เกดิ ประสิทธิภำพและประสิทธิผลในกำรทำงำนมำกยิง่ ขนึ้ ปัญหาและอปุ สรรค์ เนอ่ื งจำกครูบำงท่ำนมภี ำระงำนอ่ืนๆจงึ เปน็ ปัญหำในกำรพบปะพดู คุยกนั จุดเดน่ กำรทบทวนหลังกำรปฏิบัติ (AAR) ทำให้เรียนรู้ว่ำในกำรทำงำนต่ำงๆ ไม่ควรช่ืนชมควำมสำเร็จแต่เพียง ด้ำนเดยี ว ตอ้ งยอมรับปญั หำทเี่ กิดขึ้นดว้ ย นอกจำกน้กี ำรทบกวนหลงั ปฏิบตั ิ (AAR)ยังเปน็ กำรพูดคุยถงึ ปัญหำในแต่ ละสัปดำหแ์ ละหำแนวทำงแกไ้ ข พัฒนำให้กิจกรรมต่ำงๆดขี ้ึน จดุ ควรพฒั นา - ข้อเสนอแนะเพือ่ การพฒั นา -
๖๙ บทท่ี ๓ สรปุ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการดาเนินการ ๑.ผลสาเร็จโดยภาพรวมจากการดาเนนิ การของโรงเรยี นตามนโยบายลดเวลาเรยี นเพ่มิ เวลารู้ : Active Learning ผลสำเรจ็ โดยภำพรวมจำกกำรดำเนนิ กำรของโรงเรียนตำมนโยบำยลดเวลำเรยี นเพ่ิมเวลำรู้ : Active Learning สำมำรถสะท้อนภำพควำมสำเร็จของสถำนศกึ ษำ ผู้บริหำรโรงเรยี น ครู นักเรยี น ชุมชุน ผ้ปู กครอง องค์กรภำยนอก ดังนี้ ผบู้ ริหารโรงเรียน ผู้บริหำรสำมำรถขับเคล่ือนนโยบำยลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ บริหำรจัดกำรเวลำเรียน และจัดกิจกรรม ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ท้งั ด้ำนวิชำกำร ด้ำนปฏิบัติ นอกจำกน้ยี งั ไดอ้ ำนวยควำมสะดวก ปรับปรุงและพัฒนำปจั จัยตำ่ งๆ ให้มีควำมพร้อมในกำรให้นักเรียนทำกิจกรรม ประสำนงำนและแสวงหำควำมร่วมมือจำกชุมชน แหล่งเรียนรู้นอก สถำนศึกษำและภูมิปัญญำต่ำงๆร่วมในกำรบริหำรจัดกำรของกิจกรรม นอกจำกน้ียังนิเทศ กำกับติดตำมอย่ำงเป็น ระบบและต่อเนอ่ื งเพ่ือใหส้ ง่ ผลต่อคุณภำพผเู้ รียน ครู คณะครูได้จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนตำมโครงกำรลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้เป็นไปตำมแผนที่วำงไว้โดย ไดว้ เิ ครำะห์ผเู้ รียนเปน็ รำยบคุ ลและได้จัดกิจกรรมตำมควำมถนดั และควำมสนใจของนักเรยี น อกี ทง้ั ยังจัดทำส่อื กำร สอน แหล่งเรียนรู้ต่ำงๆเพื่อให้นักเรียนเข้ำใจมำกย่ิงขึ้นโดยครูจัดกิจกรรมที่สร้ำงแรงจูงใจแก่นักเรียนให้นักเรียนมี ควำมกระตือรือร้นในกำรเรียนรู้ จัดกำรเรยี นกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรและจัด กิจกรรมท่ีมีควำมหลำกหลำย ส่งผลให้นักเรียนได้รับควำมรู้ท่ีนอกเหนือจำกในห้องเรียน นอกจำกนี้กิจกรรมลด เวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ ยังช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะกำรทำงำนเป็นกลุ่ม กำรช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน กำรรบั ผิดชอบรว่ มกนั อีกด้วย นักเรยี น กิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ท้ัง ๖ กิจกรรม ส่งผลให้นักเรียนได้รับควำมรู้นอกห้องเรียนโดยแต่ละ กิจกรรมได้จัดกำรเรียนกำรสอนตำมควำมถนัดและควำมสนใจซ่ึงส่งผลให้นักเรียนกระตือรือร้นในกำรทำกิจกรรม และตอบสนองต่อกิจกรรมกำรเรียนรู้ กิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้น้ันยังพัฒนำทักษะในด้ำนอ่ืนๆอีกด้วยเช่น ทักษะกำรสร้ำงอำชีพ สร้ำงรำยได้เสริมระหว่ำงเรียน ทักษะกำรทำงำนเป็นกลุ่ม กำรช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน กำรรับผิดชอบร่วมกันอีกด้วย นอกจำกน้ีกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ยังเป็นกิจกรรมท่ีเป็นควำมรู้ที่สำมำรถ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ ทกั ษะวชิ าการ นักเรียนได้พัฒนำทักษะวิชำกำร โดยนักเรียนได้เข้ำร่วมกำรแข่งขันมหกรรมควำมสำมำรถทำง ศิลปหัตถกรรม วิชำกำร และเทคโนโลยีของนักเรียน ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ สังกัดเขตพื้นที่กำรศึกษำ
๗๐ มัธยมศึกษำ เขต ๒๙ กลุ่มที่ ๖ จังหวัดอำนำจเจริญ กำรแข่งขันสร้ำงสรรค์ภำพด้วยกำรปะติด ม.๑-ม.๓ ได้รับ รำงวัล เหรียญทอง อนั ดับที่ ๕ ตำมโครงกำรส่งเสรมิ ควำมถนัดของแตล่ ะบุคคล ทักษะอาชพี นกั เรียนได้พัฒนำทักษะอำชีพจำกกจิ กรรมลดเวลำเรียนเพมิ่ เวลำรู้ กิจกรรมไข่เค็มสมนุ ไพร กิจกรรม OTOPหมู่บ้ำน กิจกรรมโมบำยหรรษำ กจิ กรรมเมลด็ พนั ธุ์หรรษำ และกระปกุ ออมสนิ ดว้ ยวิธีเปเปอร์มำเช่ กจิ กรรมทั้ง ๕ กจิ กรรมน้ีสำมำรถสร้ำงอำชีพสรำ้ งรำยได้ให้แกน่ ักเรียนได้ ชมุ ชน ชมุ ชนุ ไดม้ กี ำรสง่ เสริม สนับสนุนให้นกั เรยี นไดป้ ฏบิ ัติกจิ กรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้อีกทัง้ อำนวยควำม สะดวกในดำ้ นแหล่งเรียนรู้ ในกจิ กรรมลดเวลำเรยี นเพ่ิมเวลำรู้ในพ้ืนท่ีชุมชน ผปู้ กครอง องค์กรภายนอก ผู้ปกครอง องค์กรภำยนอก ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรยี นได้ปฏิบัตกิ จิ กรรมลดเวลำเรยี นเพม่ิ เวลำรู้ นอกจำกนี้ยงั ให้ควำมรว่ มมือกับโรงเรียนในกำรดำเนนิ กจิ กรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรอู้ ีกด้วย การอภปิ รายผล กิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ คือกำรกำรปรับลดเวลำเรียนของนักเรียนเช่น กำรบรรยำย กำรสำธิต กำรศึกษำใบควำมรู้ให้น้อยลง เพิ่มเวลำรู้คือกำรเพ่ิมเวลำและโอกำสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง มีประสบกำรณ์ ตรง มีกำรเรียนรู้เป็นทีมและเรียนรู้ด้วยตนเองออย่ำงมีควำมสุข จำกกิจกรรมท่ีสร้ำงสรรค์และหลำกหลำยมำกขึ้น โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำได้จัดกำรเรียนกำรสอนกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ตำมนโยบำยในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ น้ัน โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำได้จัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้ท้ังหมด ๖ กิจกรรมโดยแบ่งเป็นภำคเรียนละ ๓ กจิ กรรมโดยจะแบ่งนักเรียนออกเป็น ๓ ระดับคอื ระดับช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ ๑ ๒ และ ๓ หมนุ เวียนทำกิจกรรมทง้ั ๓ กิจกรรมจนครบทั้งสองภำคเรียน ซ่ึงจำกกำรที่นักเรียนได้เข้ำร่วมกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้น้ัน นักเรียนให้ ควำมร่วมมือในกำรทำกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ได้เป็นอย่ำงดี นักเรียนมีควำมสนใจในกำรร่วมกิจกรรมไม่ ว่ำจะเป็นกิจกรรมไข่เค็มสมุนไพร กิจกรรมศิลป์สร้ำงสรรค์ กิจกรรมOTOPหมู่บ้ำน กิจกรรมเมล็ดพันธ์ุหรรษำ กิจกรรมโมบำยหรรษำ และกิจกรรมกระปุกออมสินด้วยวิธีเปเปอร์มำเช่ โดยกิจกรรมทั้งหมดเป็นกิจกรรมท่ีบูรณำ กำรกิจกรรมทัง้ ๘ กลุ่มสำระ นำมำสู่กำรปฏิบตั ิเพือ่ พัฒนำ ๔H ซ่ึงประกอบไปด้วย ด้ำนพัฒนำสมอง (Head) ด้ำน พัฒนำจิตใจ (Heart) ด้ำนพัฒนำทักษะกำรปฏิบัติ (Hand) ด้ำนพัฒนำสุขภำพ (Health) จึงทำให้นักเรียนได้รับ ควำมรู้ท่ีนอกเหนือจำกในห้องเรียน นอกจำกน้ีกิจกรรมท้ังสำมน้ียังช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะกำรทำงำนเป็น กลมุ่ กำรช่วยเหลอื ซง่ึ กันและกนั กำรรับผดิ ชอบร่วมกันอีกดว้ ย โดยภำพรวมกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้โรงเรียนน้ำปลีกศึกษำใน ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ บรรลุผลตำม เป้ำหมำยและหลักกำรจัดกิจกรรมในระดับท่ีดี โดยคุณครูที่รับผิดชอบในกิจกรรมลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้มีกำร ประชุมประเมินผลหลังกำรจัดกิจกรรมAAR ของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลมำพิจำรณำ วำงแผนอย่ำงรอบด้ำนใน แตล่ ะสัปดำห์ ซ่ึงทำให้กำรจัดกำรเรยี นรู้เป็นไปดว้ ยดีในแต่ละสัปดำห์
๗๑ ขอ้ เสนอแนะ - กจิ กรรมทีจ่ ดั ให้นักเรียนควรมีควำมหลำยหลำยมำกข้นึ - เน้นกำรใช้แหลง่ เรียนรูภ้ ำยในโรงเรยี นและนอกโรงเรยี นมำกขนึ้ บทที่ ๔ ต่อเนื่องและการ แนวทางพฒั นาอย่าง สถานศกึ ษา นาไปประยุกตใ์ ชข้ อง ๑.การพัฒนาต่อยอด กิจกรรมลดเวลา เรียนเพิ่มเวลารู้ จากปี การศกึ ษา ๒๕๖๑
๗๒ หมำยเหตุ กิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่มิ เวลำรูห้ มุนเวยี นทุกกจิ กรรม ทกุ ๆ ๖ สัปดำหท์ ้ัง ๒ ภำคเรยี น ๒.ผลจากกิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ Active Learning ของโรงเรียนน้าปลกี ศึกษา สง่ ผลให้มีวธิ ปี ฏิบตั ิ เปน็ เลศิ และประสบควำมสำเร็จเปน็ แบบอย่ำงได้ กจิ กรรม ศลิ ป์สร้างสรรค์ วิธีดาเนินการ รูปแบบและข้ันตอนการจดั กิจกรรมศิลป์สรา้ งสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นร้โู ดยการสังเกตของ Albert Bandura Albert Bandura นักจิตวิทยำชำวอเมรกิ ัน ผู้พัฒนำทฤษฎีกำรเรยี นรโู้ ดยกำรสงั เกต ซ่ึงมี ๔ ขน้ั ตอน ดังตอ่ ไปนี้ ๑. ข้ันให้ควำมสนใจ ( Attention Phase ) ถ้ำไม่มีข้ันตอนน้ี กำรเรียนรู้อำจจะไม่เกิดขึ้น เป็นขั้นตอน ที่ ผู้เรียนให้ควำมสนใจต่อตัวแบบ ( Modeling ) ควำมสำมำรถ ควำมมีช่ือเสียง และคุณลักษณะเด่นของตัวแบบจะ เป็นสิง่ ดงึ ดดู ใหผ้ ู้เรียนสนใจ ๒. ขั้นจำ ( Retention Phase ) เมอื่ ผ้เู รยี นสนใจพฤติกรรมของตวั แบบ จะบันทึกสงิ่ ท่ีสังเกตได้ไวใ้ นระบบ ควำมจำของตนเอง ซงึ่ มักจะจดจำไวเ้ ปน็ จนิ ตภำพเกย่ี วกบั ข้ันตอนกำรแสดงพฤติกรรม ๓. ข้ันปฏิบัติ ( Reproduction Phase ) เป็นข้ันตอนที่ผู้เรียนลองแสดงพฤติกรรมตำมตัวแบบ ซ่ึงจะ สง่ ผลใหม้ กี ำรตรวจสอบกำรเรียนรทู้ ่ไี ดจ้ ดจำไว้ ๔. ขั้นจูงใจ ( Motivation Phase ) ขนั้ ตอนนี้เปน็ ข้นั แสดงผลของกำรกระทำ( Consequence ) จำกกำร แสดงพฤติกรรมตำมตวั แบบ ผลการดาเนนิ การ ๑. จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรรว่ มกิจกรรมของนักเรียน นักเรยี นมคี วำมสขุ และย้มิ แย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ๒.ช่วยใหน้ กั เรียนมีพัฒนำกำรทำงดำ้ นควำมคิด สติปญั ญำ ควำมสำมำรถ รวมทั้งสขุ ภำพกำย สขุ ภำพจิต เกดิ ควำมเพลิดเพลิน สง่ เสรมิ สมำธทิ ่ีดี และเม่ือผลงำนสำเร็จทำให้นกั เรยี น เกิดควำมภำคภูมิใจ ๓.ชว่ ยส่งเสริมและฝึกนักเรียนใหร้ ูจ้ กั คุณค่ำของเศษวสั ดธุ รรมชำตสิ ำมำรถนำมำให้เกดิ ประโยชน์สรำ้ ง สนุ ทรียะให้กบั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๔.ช่วยส่งเสริมใหน้ ักเรียนใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชนท์ ี่ต่อเน่ืองจำกกำรเรยี น ๕.เพิ่มรำยได้ให้แก่ตนเอง เม่ือนักเรียนสรำ้ งสรรค์ผลงำนจนเกดิ ควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหน่ำย ใหแ้ ก่ ผูท้ ่ีสนใจ และทำเป็นอำชพี ได้
๗๓ ปญั หาและอปุ สรรค นักเรยี นส่วนน้อยท่ียงั ไมม่ ีควำมรบั ผิดชอบงำนต่อกลมุ่ หยอกล้อกนั ในขณะท่เี พื่อนทำงำน จดุ เด่น จำกกำรจัดกิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้กำรภำพปะติดจำกวัสดุธรรมชำติ มีควำมสุข เน่ืองจำก สำมำรถเลือกเรยี นได้ตำมควำมสนใจ และภูมใิ จในผลงำนของตนเอง จะเห็นได้วำ่ นักเรียนที่เข้ำร่วมกิจกรรมเป็นระยะเวลำหลำยสัปดำห์ต่อเน่ืองกันจะพบว่ำนักเรียนมีสมำธิใน กำรทำกิจกรรมมำกย่ิงข้ึน มีควำมสุขตลอดจนมีควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ที่จะสรรสร้ำงงำนใหม่ๆของตนเองข้ึน อย่ำงต่อเนอ่ื ง จุดควรพฒั นา ผลงำนท่ีนกั เรียนทีเ่ ขำ้ ร่วมกิจกรรมสรำ้ งสรรค์ขนึ้ ยงั ไม่สมบูรณ์ตอ้ งใชเ้ วลำในกำรฝกึ ฝนเพ่มิ มำกข้นึ เพือ่ ใหเ้ กดิ ควำมชำนำญ ข้อเสนอแนะเพอ่ื การพัฒนา สนับสนุนในเรอื่ งของงบประมำณเพื่อใหเ้ พม่ิ วสั ดอุ ุปกรณ์ในกำรทำคร้ังตอ่ ไป โดยมีกิจกรรมท่ีเปน็ วิธปี ฏิบัตเิ ปน็ เลศิ และประสบควำมสำเร็จท่ีเด่นๆ ดังน้ี กิจกรรมท่ี ๑. ช่ือกิจกรรม ศิลปส์ รา้ งสรรค์ ๑. เพอ่ื ให้นักเรียนสำมำรถนำวัสดธุ รรมชำติมำสร้ำงสรรค์ผลงำนภำพปะติดจำกเศษวสั ดุธรรมชำติได้ ๒. เพอ่ื สรำ้ งควำมตระหนักใหเ้ หน็ คุณค่ำเศษวสั ดุ และวัสดุธรรมชำติมำสรำ้ งสรรคง์ ำนภำพปะติด รูปแบบของการจดั กิจกรรม ๑.วธิ ีการจัดกจิ กรรม ขน้ั ที่ ๑ ขัน้ ใหค้ วามสนใจ ( Attention Phase) ครูนำเสนอรูปภำพและผลงำนตวั อย่ำงใหน้ กั เรยี นไดด้ ู เพือ่ ใหเ้ กดิ ควำมสนใจและกระตือรือรน้ ทอี่ ยำกจะ สรำ้ งชนิ้ งำนของตนเอง โดยกำรสืบค้นภำพและวิดโี อจำกอินเตอรเ์ น็ต ขั้นที่ ๒ ขั้นจา ( Retention Phase) อธิบำยวิธีกำรสรำ้ งภำพปะตดิ ด้วยเศษวัสดุธรรมชำติ พร้อมกับสำธิตวิธีกำรทำตำมข้นั ตอน และแสดงให้ดู เป็นตัวอย่ำงไปพร้อมๆกับผเู้ รยี น ขนั้ ท่ี ๓ ขน้ั ปฏิบตั ิ ( Reproduction Phase ) ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ สร้ำงภำพปะตดิ จำกวสั ดุธรรมชำติในหัวข้อวถิ ีไทย ,เศรษฐกิจพอเพยี ง โดยปะตดิ ลงในกระดำษแขง็ สีขำว และให้ออกแบบภำพลงในกรอบ ตกแตง่ เพ่ิมเติมใหส้ วยงำม ขน้ั ท่ี ๔ ขนั้ จูงใจ ( Motivation Phase ) ครใู หน้ ักเรยี นนำเสนอผลงำนท่ีกลุ่มทำสำเรจ็ เรียบร้อยแลว้ และเปดิ โอกำสให้นักเรยี นนำเสนอชิ้นงำนท่ี ตนเองสนใจอยำกทำในครั้งต่อไป
๗๔ แผนภาพแสดงความเชือ่ มโยง ๗ หลักการสาคัญ ผลทเ่ี กิดกับผ้เู รียน ๑. มนี กั เรียนทุกคนสนใจเขำ้ ร่วมกิจกรรม โดยคิดเปน็ ร้อยละ ๑๐๐ ๒. จำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรรว่ มกิจกรรมของนักเรียน นักเรียนมีควำมสุขและยม้ิ แย้มแจม่ ใสทุกคน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๓.ชว่ ยใหน้ กั เรียนมพี ฒั นำกำรทำงด้ำนควำมคดิ สติปัญญำ ควำมสำมำรถ รวมท้ังสขุ ภำพกำย สขุ ภำพจิต เกิดควำมเพลดิ เพลนิ ส่งเสริมสมำธิท่ีดี และเม่ือผลงำนสำเร็จทำใหน้ กั เรยี น เกิดควำมภำคภูมใิ จ
๗๕ ๔.ช่วยสง่ เสริมและฝกึ นักเรยี นให้รู้จกั คณุ ค่ำของเศษวัสดธุ รรมชำติสำมำรถนำมำให้เกิดประโยชนส์ ร้ำง สนุ ทรียะให้กบั อำรมณ์ และจิตใจได้ ๕.ช่วยส่งเสริมใหน้ กั เรียนใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ท่ตี ่อเนื่องจำกกำรเรยี น ๖.เพ่มิ รำยไดใ้ ห้แก่ตนเอง เม่ือนกั เรียนสรำ้ งสรรค์ผลงำนจนเกดิ ควำมชำนำญ สำมำรถนำออกจำหน่ำย ใหแ้ ก่ ผู้ท่สี นใจ และทำเป็นอำชีพได้
๗๖ ภาคผนวก
๗๗ กจิ กรรมศลิ ป์สรา้ งสรรค์ กิจกรรม OTOP หมบู่ า้ น
๗๘ กิจกรรมกระปกุ ออมสนิ ด้วยวธิ เี ปเปอรม์ าเช่
๗๙ กิจกรรมเมลด็ พันธหุ์ รรษา
๘๐ กิจกรรมไข่เคม็ สมุนไพร กจิ กรรมโมบายหรรษา
๘๑
๘๒
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106