การออกแบบนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา กรอบแนวคิดในการพัฒนาที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างปัญหา แนวคิด หลักการและทฤษฎีที่ใช้ วิธีการพัฒนา และผลส าเร็จที่พึงประสงค์ จากผลการวิเคราะห์ผู้เรียนจากครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จึงน ามาพัฒนาแนวคิด ๑L๓R เพื่อใช้พัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะ การเรียนรู้ ผ่านแนวคิด ๑L๓R ซึ่งประกอบด้วย โดย ๑L๓R ขับเคลื่อนโดยใช้หลัก อิทธิบาท ๔ อันประกอบไปด้วย ๑. ฉันทะ การมีใจรัก ศรัทธาและเชื่อมั่นต่อสิ่งที่ท า ๒. วิริยะ ความเพียร ความมุ่งมั่นทุ่มเท หมายถึงความเพียรพยายามอย่างสูง ที่จะท าตามฉันทะหรือศรัทธาของตัวเอง L = Listening = การฟัง R = Read = การอ่าน R = Review = การทบทวน R = Remember = การจ า
๓. จิตตะ ใจที่จดจ่อและรับผิดชอบ เมื่อมีใจที่จดจ่อแล้วก็จะเกิดความรอบคอบ ๔. วิมังสา สิ่งที่ท าอันเกิดจากการมีใจรัก (ฉันทะ) แล้วท าด้วยความมุ่งมั่น (วิริยะ) อย่างใจจดใจจ่อและรับผิดชอบ (จิตตะ) โดยใช้วิจารณญาณอย่างรอบรู้และรอบคอบ จะต้องมีกระบวนการสุดท้ายคือ การทบทวนตัวเอง จากแนวคิดน ามาพัฒนา เป็นบทเรียนส าเร็จรูป บทเรียนส าเร็จรูปเป็นสื่อส าหรับเรียนด้วยตนเอง อาจใช้ส าหรับศึกษาเป็นรายบุคคล รายกลุ่ม ซึ่งอาจจะพบว่ามีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามลักษณะของการน าไปใช้ เช่น บทเรียนส าเร็จรูป แบบเรียนส าเร็จรูป บทเรียนโปรแกรม โปรแกรมการสอน แบบเรียนด้วยตนเอง เป็นต้น ถึงแม้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน แต่ลักษณะโดยทั่วไปของบทเรียนส าเร็จรูปมีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้วิธีหนึ่ง ความหมาย บทเรียนส าเร็จรูป หมายถึง บทเรียนที่ผู้สอนจัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ในแต่ละสาระการเรียนรู้ที่ก าหนดไว้ในแต่ละบทเรียน โดยเริ่มจากเนื้อหาสาระที่ง่าย ๆ ไปสู่เนื้อหาที่ยากขึ้นไปตามล าดับ เป็นบทเรียนที่สร้างขึ้นโดยก าหนดวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ และสื่อการเรียนการสอนไว้ล่วงหน้า ผู้เรียนสามารถศึกษา ค้นคว้า และประเมินผลการเรียนด้วยตนเองตามขั้นตอนที่ก าหนดไว้ จุดมงหมายของบทเรียนส าเร็จรูป ุ่1. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ โดยครูคอยให้ค าแนะน าช่วยเหลือเมื่อผู้เรียนมีปัญหา 2. เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ไปตามล าดับขั้น จากง่ายไปหายาก 3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประเมินตนเอง และทราบถึงพัฒนาการในการเรียนรู้ของตนเอง 4. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ เมื่อประสบความส าเร็จในการเรียนรู้
หลักการเรียนรู้ด้วยบทเรียนส าเร็จรูป 1. ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม หรือมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม 2. ผู้เรียนได้ประเมินตนเอง และรู้ค าตอบได้ทันที 3. มีการเสริมแรงให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจเมื่อสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง และมีความพยายามที่จะแก้ไขส่วนที่บกพร่อง 4. ผู้เรียนได้เรียนรู้ไปที่ละล าดับ จากง่ายไปยากตามศักยภาพและความสามารถของ แต่ละคน ค านิยามศัพท์ ๑. นักเรียน หมายถึง นักเรียนโรงเรียนน้ าปลีกศึกษาทุกระดับชั้น ที่ก าลังเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา จังหวัดอ านาจเจริญ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ๒. บทเรียนส าเร็จรูป หมายถึง บทเรียนที่ผู้สอนจัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ในแต่ละสาระการเรียนรู้ที่ก าหนดไว้ในแต่ละบทเรียน โดยเริ่มจากเนื้อหาสาระที่ง่าย ๆ ไปสู่เนื้อหาที่ยากขึ้นไปตามล าดับ เป็นบทเรียนที่สร้างขึ้นโดยก าหนดวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ และสื่อการเรียนการสอนไว้ล่วงหน้า ผู้เรียนสามารถศึกษา ค้นคว้า และประเมินผลการเรียนด้วยตนเองตามขั้นตอนที่ก าหนดไว้ ทั้งนี้ให้รวมถึง บทเรียนส าเร็จรูป แบบเรียนส าเร็จรูป ชุดการเรียนการสอน บทเรียนโปรแกรม โปรแกรมการสอน แบบเรียนด้วยตนเอง ที่ครูโรงเรียนน้ าปลีกศึกษาได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้จัดการเรียนรู้ กิดานันท์ มลิทอง (2531 : 85) กล่าวว่า ชุดการเรียนการสอนประกอบด้วย ๑. คู่มือส าหรับผู้สอนในการใช้ชุดการสอน และส าหรับผู้เรียนในการใช้ชุดการเรียน ๒. ค าสั่ง เพื่อก าหนดแนวทางในการสอนหรือการเรียน ๓. เนื้อหาบทเรียนจัดอยู่ในรูปของสไลด์ เทปบันทึกเสียง หนังสือบทเรียน ฯลฯ
๔. กิจกรรมการเรียน เป็นการี่ให้ผู้เรียนท ารายงาน กิจกรรมที่ก าหนดให้หรือค้นคว้าต่อจากการเรียนไปแล้ว เพื่อให้รู้กว้างมากขึ้น ๕. แบบทดสอบ เป็นแบบทดสอบเกี่ยวกับบทเรียนนั้น เพื่อการประเมิน จากแนวคิดที่นักการศึกษากล่าวไว้ ครูผู้สอนได้สังเคราะห์องค์ประกอบของชุดการเรียน การสอนไว้ดังนี้ ๑. คู่มือครูผู้สอนหรือชุดการสอน ประกอบด้วย ๑.๑ ค าแนะน าส าหรับครู ๑.๒ แผนการสอน ๑.๓ แบบทดสอบ ๑.๔ เฉลยแบบทดสอบ ๑.๕ เฉลยใบงาน ๑.๖ แบบประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๒. คู่มือนักเรียนหรือชุดการเรียน ประกอบด้วย ๒.๑ ค าชี้แจงส าหรับนักเรียน ๒.๒ ใบกิจกรรม ๒.๓ ใบงาน ๒.๔ แบบทดสอบ ขั้นตอนการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอน ในการสร้างและพัฒนาชุดการเรียนการสอนได้มีนักการศึกษาหลายท่านได้ก าหนดขั้นตอน ไว้ดังนี้ วิชัย วงษ์ใหญ่ (2530 : 189-193) ได้เสนอขั้นตอนการผลิตชุดการเรียน คือ1. จะต้องศึกษาเนื้อหาสาระของวิชาที่จะน ามาสร้างชุดการเรียนอย่างละเอียดว่าจะมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้อะไรบ้างกับผู้เรียน น ามาวิเคราะห์ แล้วแบ่งเป็นหน่วยการเรียนการสอนในแต่ละหน่วยจะต้องมีหัวเรื่องรวมอยู่ อีกทั้งจะต้องศึกษาพิจารณาให้ละเอียดชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ าซ้อนในหน่วยอื่น
ๆ อันจะสร้างความสับสนให้กับผู้เรียนได้ การแบ่งหน่วยการเรียนการสอนของแต่ละวิชานั้นควรเรียงล าดับขั้นตอนของเนื้อหาสาระอะไรเป็นสิ่งจ าเป็นที่ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ก่อน2. เมื่อศึกษาเนื้อหาสาระแต่ละหน่วยการเรียนการสอนแล้ว ต้องพิจารณาตัดสินใจอีกครั้งหนึ่งว่า จะท าชุดการเรียนแบบใด โดยค านึงถึงข้อก าหนดว่าผู้เรียนคือใคร จะให้อะไรแก่ผู้เรียน จะให้ท ากิจกรรมอย่างไร และจะท าได้ดีอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะเป็นเกณฑ์ในการก าหนดการเรียน 3. ก าหนดหน่วยการเรียนการสอนโดยประมาณเนื้อหาสาระที่เราก าหนดขึ้น จะต้องสอดคล้องกับหน่วยและหัวเรื่องโดยค านึงถึงว่าเป็นหน่วยที่น่าสนุก น่าเรียนรู้ ให้ความชื่นบานแก่ผู้เรียน หาสื่อ การเรียนได้ง่าย พยายามศึกษาวิเคราะห์ให้ละเอียดอีกครั้งว่าหน่วยการเรียนการสอนนั้นมีหลักการ หรือความคิดรวบยอดอย่างไร และมีหัวข้อเรื่องย่อย ๆ อะไรอีกบ้างที่จะต้องศึกษา พยายามดึงเอาแก่นของหลักการเรียนรู้ออกมา 4. ก าหนดความคิดรวบยอด ความคิดรวบยอดที่เราก าหนดขึ้นมาจะต้องสอดคล้องกับหน่วยและหัวเรื่อง โดยสรุปแนวคิด สาระและหลักเกณฑ์ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนให้สอดคล้องกัน เพราะความคิดรวบยอดนั้นเป็นเรื่องของความเข้าใจ อันเกิดจากประสาทสัมผัสกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตีความหมายออกมาเป็นพฤติกรรมทางสมองแล้วน าสิ่งใหม่ไปเชื่อมโยงเข้าด้วยกันกับประสบการณ์เดิม เกิดเป็นความคิดรวบยอดได้ 5. จุดประสงค์การเรียน การก าหนดจุดประสงค์การเรียนจะต้องให้สอดคล้องกับความคิด รวบยอด โดยก าหนดจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ซึ่งหมายถึงความสามารถของผู้เรียนที่แสดงออกมาให้เห็นได้ในภายหลังจากการเรียนการสอนบทเรียนแต่ละเรื่องจบไปแล้ว โดยผู้สอนสามารถวัดได้ จุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรมนี้ ถ้าผู้สอนระบุ หรือก าหนดให้ชัดเจนมากเท่าใด ก็มีทางประสบผลส าเร็จ ในการสอนมากเท่านั้น ดังนั้นจึงควรใช้เวลาในการตรวจสอบจุดประสงค์การเรียนแต่ละข้อให้ถูกต้อง และครอบคลุมเนื้อหาสาระการเรียนรู้ 6. การวิเคราะห์งาน คือ การน าจุดประสงค์การเรียนรู้แต่ละข้อมาท าการวิเคราะห์งาน เพื่อหากิจกรรมการเรียนการสอน แล้วจัดล าดับกิจกรรมการ
เรียนการสอนให้เหมาะสม ถกต้อง สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ก าหนดไว้แต่ละูข้อ 7. เรียงล าดับกิจกรรมการเรียน ภายหลังจากที่เราน าจุดประสงค์การเรียนแต่ละข้อมาวิเคราะห์งาน และเรียงล าดับกิจกรรมของแต่ละข้อเพื่อให้เกิดการประสานกลมกลืนของการเรียนการสอน จะต้องน ากิจกรรมการเรียนของแต่ละข้อที่ท าการวิเคราะห์งาน และเรียงล าดับกิจกรรมไว้แล้วมาหลอมรวมเป็นกิจกรรมการเรียนขั้นที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ าซ้อนในการเรียนโดยค านึงถึงพฤติกรรมพื้นฐานของผู้เรียน วิธีด าเนินการให้มีการเรียนการสอนขึ้น ตลอดจนติดตามผล และประเมินผลพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออกมาเมื่อมีการเรียนการสอนแล้ว 8. สื่อการสอน คือวัสดุอุปกรณ์และกิจกรรมการเรียนที่ครูและนักเรียนจะต้องท า เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรู้ซึ่งครูจะต้องจัดท าขึ้นและจัดหาไว้เรียบร้อย ถ้าสื่อการเรียนเป็นของใหญ่โต หรือมีคุณค่าที่จะต้องจัดเตรียมมาก่อน จะต้องเขียนบอกไว้ชัดเจนในคู่มือที่เกี่ยวกับการใช้ชุดการเรียนว่าไปจัดหา ณ ที่ใด เช่น เครื่องฉายสไลด์ เครื่องบันทึกเสียง และพวกสิ่งที่เก็บไว้ไม่ทนทาน เพราะเกิดการเน่าเสีย เช่น ใบไม้ พืช สัตว์ เป็นต้น 9. การประเมิน คือการตรวจสอบดูว่าหลังการเรียนการสอนแล้ว ผู้เรียนได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามที่จุดประสงค์การเรียนก าหนดไว้หรือไม่ จะวัดได้โดยวิธีใดก็ได้ แต่ต้องวัดพฤติกรรม ที่คาดหวังเป็นส าคัญ พยายามออกแบบวัดผลให้ผู้เรียนวัดกันเองและตรวจค าตอบได้เอง 10. การทดลองชุดการเรียนเพื่อหาประสิทธิภาพ การหาประสิทธิภาพชุดการเรียนเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม ควรน าไปทดลองกลุ่มเล็ก ๆ ดูก่อน เพื่อตรวจสอบหาข้อบกพร่องและการแก้ไขปรับปรุงอย่างดี แล้วจึงน าไปทดลองกับเด็กทั้งชั้น หรือกลุ่มใหญ่ โดยก าหนดขั้นตอนไว้ ดังนี้ 10.1 ชุดการเรียนนี้ต้องการความรู้ดั้งเดิมของผู้เรียนหรือไม่ 10.2 การน าเข้าสู่บทเรียนของชุดการเรียนนี้เหมาะสมหรือไม่ 10.3 การประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนมีความสับสนวุ่นวายกับผู้เรียนหรือไม่
10.4 การสรุปผลการเรียนการสอนเพื่อเป็นแนวทางไปสู่ความคิดรวบยอด หรือหลักการส าคัญของการเรียนรู้ในหน่วยนั้น ๆ ดีหรือไม่ 10.5 การประเมินผลหลังการเรียน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนั้นให้ความเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหนกับผู้เรียน ชม ภูมิภาค (2524 : 103-104) ได้ก าหนดขั้นตอนไว้ ขั้นตอน คือ 111. วิเคราะห์และก าหนดความต้องการ 2. ก าหนดเป้าหมายและจุดประสงค์ 3. ออกแบบองค์ประกอบของระบบ 4. วิเคราะห์แหล่งวิทยาการที่ต้องการ แหล่งวิทยาการที่มีอยู่และจ ากัด 5. ปฏิบัติเพื่อขจัดหรือปรับปรุงข้อจ ากัด 6. เลือกหรือพัฒนาวัสดุการสอน 7. ออกแบบการประเมินผลการกระท าของนักเรียน 8. ทดลองใช้แบบประเมินเพื่อปรับปรุงและน าไปใช้ 9. ปรับปรุงและแก้ไขทุกส่วนที่บกพร่อง และหาประสิทธิภาพ 10. ประเมินเพื่อสรุป 11. สร้างเป็นชุดเพื่อติดตั้ง เพื่อใช้ คณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ (2538 อ้างถึงใน บ ารุง ใหญ่สูงเนิน 2536 : 40) ได้เสนอขั้นตอนในการสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมครูตามโครงสร้างปรับปรุงประสิทธิภาพการสอนของครูประถมศึกษาไว้ ดังนี้ 1. ก าหนดวัตถุประสงค์ 2. ก าหนดเนื้อหา 3. ก าหนดระยะเวลา 4. ก าหนดกิจกรรม 5. ก าหนดกระบวนการ 6. ก าหนดสื่อหลักและสื่อเสริม 7. ก าหนดการประเมินผล
จากขั้นตอนในการพัฒนาชุดการเรียนการสอนที่นักการศึกษาได้กล่าวมาแล้วนั้น ผู้รายงานได้ท าการสังเคราะห์เป็นขั้นตอนในการพัฒนาชุดการสอนโดยใช้ ดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ การวิเคราะห์เนื้อหา 1ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนการสอน ขั้นตอนที่ 3 การผลิตและจัดหาสื่อการสอน ขั้นตอนที่ 4 การทดสอบประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอน เมื่อสร้างชุดการเรียนการสอนเสร็จ จ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องน าไปทดสอบหาประสิทธิภาพ เพื่อเป็นหลักประกันว่าชุดการเรียนการสอนนั้นมีประสิทธิภาพในการเรียนการสอน โดยผู้สร้างต้องก าหนดเกณฑ์ขึ้น ชัยยงค์ พรหมวงศ์ และคณะ (2521 อ้างถึงใน สุระ สนั่นเสียง : 21-23) ได้ก าหนดเกณฑ์ โดยยึดหลักการที่ว่า การเรียนรู้เป็นกระบวนการเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์การเรียน ดังนั้นการก าหนดเกณฑ์ต้องค านึงถึงกระบวนการและผลลัพธ์ โดยก าหนดตัวเลขเป็นร้อยละของคะแนนเฉลี่ยมีค่าเป็น 21/E E1 E ตัวแรก หมายถึง ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนการสอนจากชุดการเรียนการสอน คิดจากคะแนนเฉลี่ยร้อยละจากการท าแบบฝึกหัดระหว่างเรียน โดยมีการค านวณค่าสถิติดังต่อไปนี้ สูตรที่ 1 1 E = 100 A N Xเมื่อ1 E หมายถึง ประสิทธิภาพของกระบวนการ หมายถึง คะแนนรวมของแบบฝึกหัดหรืองานที่ท า X หมายถึง คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดทุกแบบฝึกหัด AN หมายถึง จ านวนผู้เรียน
2 Eตัวหลัง หมายถึง ประสิทธิภาพของผลลัพธ์จากชุดการเรียนการสอนคิดจากคะแนนเฉลี่ย ร้อยละจากคะแนนที่นักเรียนท าได้จากการสอบหลังเรียน สูตรที่ 2 2 E = 100 B N Fเมื่อ แทน ประสิทธิภาพของชุดการเรียนการสอนที่ได้จากคะแนน2 Eเฉลี่ยการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน Fแทน คะแนนรวมของนักเรียนที่ท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนถูก แทน จ านวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด N แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ Bที่มา : ชุดการสอนโดยใช้กลวิธีอภิปัญญา หน่วยการเรียนรู้ที่ เรื่อง คลื่นกล 1 รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม รหัสวิชา ว 32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ จาก5เว็บไซต์ Physicsnampreek เอกสารอ้างอิงURL: http://gg.gg/NP-PHYSICSNAMPREEK
เอกสารให้ความรู้ในการพัฒนาบทเรียนส าเร็จรูป และจดท าข้อสอบอิงมาตรฐาน ัเอกสารการพัฒนาบทเรียนส าเร็จรูป และจัดท าข้อสอบอิงมาตรฐาน URL:https://pubhtml5.com/bookcase/qhouตวอย่าง บทเรียนส าเร็จรปออนไลนโดยใช้กลวิธีอภปัญญา หน่วยการัู์ิเรียนรู้ท เรื่อง คลื่นกล รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเตม รหสวิชา ว ี่1 ิั32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชุดการเรียนรู้ออนไลน์โดยใช้กลวิธีอภิปัญญา หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง คลื่นกล รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม รหัสวิชา ว 32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ สามารถเข้าชมผลงานผ่าน URL:http://gg.gg/SCIPHY-M5กลุ่มงานวิชาการได้ท าการวิเคราะห์ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-Net ของโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ปีการศึกษา 59-62URL:http://gg.gg/NP-O-NET59-61คู่มือการตรวจสอบผลการเรียนปัจจุบันผ่านระบบออนไลน์ ของนักเรียนโรงเรียนน้ าปลีกศึกษาURL:https://online.pubhtml5.com/ylqa/txqd/ที่มา : ขั้นตอนการสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา URL : http://online.pubhtml5.com/ylqa/aypx/
ขั้นตอนการสร้างและหาประสิทธิภาพของ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา คลิกเข้าประกาศส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติการใช้ข้อสอบแบบเขียนตอบในการวัดประเมินคุณภาพผู้เรียนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Learning Achievement Test) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Learning Achievement Test) เป็นเครื่องมือส าคัญที่ใช้ส าหรับรวบรวม ข้อมูลหรือคะแนน เพื่อน าข้อมูลหรือคะแนนที่ได้จาก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์มาประเมินหาประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของบทเรียนที่สร้างขึ้น ขั้นตอนการสร้างและหาประสิทธิภาพของ แบบทดสอบวดผลสัมฤทธิ์ทางการัเรียน 1. ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ของตน คลิกเข้าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานคลิกเข้าตัวชี้วัดต้องรู้ ควรรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้คลิกเข้าหลักตัวชี้วัดหลักสูตรแกนกลางไฟล์เวิร์ดคลิกเข้าหลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศึกษาคลิกเข้าอ่านการจัดท าข้อสอบโอเน็ต2. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด กับจุดประสงค์การเรียนรู้ในเรื่องที่ต้องการสร้างใดบ้าง? แบบทดสอบ >>> ดูจากแผนการจัดการเรียนรู้ >>> ประเมินแผนฯ คลิกเข้าแผนจัดการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุกระดับชั้น ทุกส านักพิมพ์ ########
จัดท าโครงสร้างข้อสอบตามแบบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษาคลิกเข้าดาวน์โหลดแบบฟอร์มโครงสร้างข้อสอบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา(Test Blueprint)คลิกเข้าดาวน์โหลดบัตรข้อสอบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา3. ตัวอย่างการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 35 ข้อ ต้องการจริงจ านวน 20 ข้อ โดยให้ครอบคลุม เนื้อหาและจุดประสงค์ 4. น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นเสนอผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เพื่อตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะ 5. ผู้เชี่ยวชาญประเมินความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยวิธีของ โรวิเนลลี่ (Rovinelli) และ แฮมเบลตัน (R.K. Hambletan) ซึ่งมีเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ • ให้คะแนน +1 เมื่อแน่ใจวาข้อสอบนนวดหาจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ่ั้ั• ให้คะแนน 0 เมื่อแน่ใจวาข้อสอบนนวดตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ่ั้ั• ให้คะแนน -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนนวดหาจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ั้ั(สมนึก ภัททิยธนี, 2537)
6. น าคะแนนที่ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นมาหาค่า IOC ของข้อสอบรายข้อ ดังนี้ คัดเลือกข้อสอบที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป ท าการทดสอบหาความเชื่อมั่น คลิกเข้าดูคลิปอธิบายการเรียนรู้การจัดท าข้อสอบอิงมาตรฐานคลิกเข้าห้องการเรียนรู้การจัดท าข้อสอบอิงมาตรฐานโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา
7. น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปหาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบกับนักเรียนที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มตัวอย่าง 8. น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้รับการแก้ไขแล้วไปทดลองกับนักเรียนที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มตัวอย่าง น าผลการทดลองมาหาคุณภาพของข้อสอบ หาค่าความยาก (P) และค่าอ านาจจ าแนก (B) แล้วเลือกข้อสอบที่มีค่าความยากระหว่าง .20 ถึง .80 หาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับอีกครั้ง ค่าอ านาจจ าแนก คือ ประสิทธิภาพในการจ าแนกผู้ตอบเป็นกลุ่มสูงกับ • กลุ่มต่ า เขียนแทนด้วย สัญลักษณ์ “ r ” มีค่าตั้งแต่ ( 0 - 1.00 ) • r ที่เหมาะสม r > 0.20
คลิกเข้าอ่านข้อมูลโปรแกรมวิเคราะห์ข้อสอบหากต้องการโปรแกรมให้ติดต่อ [email protected] 9. จัดพิมพ์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผ่านการ ตรวจสอบคุณภาพเป็นฉบบสมบูรณ์ เพื่อใช้จริง ัจัดท าโดย นายเถลิงศักดิ์ เถาว์โท E-mail : [email protected]
ภาคผนวก
ชี้แจง การจัดการเรียนการสอน ในช่วงปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ระหว่างวันที่ 1-13 มิถุนายน 2564………………………………………………………………………………………1. คุณครูทุกท่านต้องจดท าเอกสารความรู้ เช่น ชุดการเรียนรู้ส าเร็จรูป ใบังาน ใบความรู้ ฯลฯ ในทุกรายวิชาที่ท่านสอน เพื่อส่งให้ถึงผู้เรียนทางช่องทางออนไลน หรือ ช่องทางที่สามารถท าได้ ์( ) Facebook ( ) Line ( ) Google Hangout ( ) Zoom ( ) Google Classroom ( ) ติดต่อโดยตรง (ส่งใบงานถึงบ้าน) ตัวอย่างชุดการเรียนรู้อย่างง่าย Click2. ติดตามการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านช่องทางที่ได้จดเตรียมไว้ตามคู่มือัโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา Click3. จัดทารายงานผลการการเรียนการสอน ในช่วงปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษเนื่องด้วยสถานการณ์การแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ่รายงานต่อผู้บรหาร ิตัวอย่าง รูปแบบรายงานผลการการเรียนการสอน ในช่วงปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019Click** ดาวน์โหลดฉบับแก้ไขได้ รูปแบบรายงานผลการการเรียนการสอน ในช่วงปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019ัClick*** ดาวน์โหลดเอกสารทั้งหมด CLICK***
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: