Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบงานวัดผลโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา

ระเบียบงานวัดผลโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา

Published by t.kruyok004, 2022-05-17 10:18:38

Description: ระเบียบงานวัดผลโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา

Search

Read the Text Version

0

1ระเบียบโรงเรียนน ้ำปลีกศึกษำ ว่ำด้วยกำรวัดและประเมินผลกำรเรียน โรงเรียนน ้ำปลีกศึกษำ พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั นพื นฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ โดยที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามค าสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ ๒๙๓ /๒๕๕๑ เรื่องให้ใช้หลักสูตร แกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงเป็นการสมควรที่จะก าหนดระเบียบ ึโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้สอดคล้องกับคาสั่งดังกล่าว โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา จึงก าหนดระเบียบไว้ ดังนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา” ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ในระเบียบนี้ค าว่า “สถานศึกษา” หมายถึงโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ค าว่า“ผู้เรียน” หมายถึง ผู้ที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ค าว่า “การประเมินผลการเรียน” หมายถึง การวัดความรู้ ความสามารถ ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในหลักสูตร ด้วยเครื่องมือและวิธีการต่างๆแล้วประเมินผลการผ่านเกณฑ์เพื่อใช้ในการตัดสิน การผ่านชั้นปี การผ่านช่วงชั้น การจบการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบ ข้อบังคับ หรือค าสั่งอื่นใด ในส่วนที่โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ก าหนดไว้ หรือซึ่งขัดแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๔ ให้ใช้ระเบียบนี้ควบคู่กับหลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๐ ข้อ ๕ ให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ด าเนินการบริหารหลักสูตรให้เป็นไปตามระเบียบนี้

2หมวดที่ ๑ หลักกำรในกำรประเมินผลกำรเรียน ข้อ ๖ การประเมินผลการเรียนให้เป็นไปตามหลักการต่อไปนี้ ๖.๑ สถานศึกษามีหน้าที่ประเมินผลการเรียน โดยความเห็นชอบคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ในเรื่องเกณฑ์และแนวด าเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการเรียน ๖.๒ ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชา โดยคิดเป็นหน่วยกิต การคิดจ านวนหน่วยกิต ให้ถือปฏิบัติตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ๖.๓ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้สอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ก าหนดในหลักสูตรและจัดให้มีการประเมินการ อ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๖.๔ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียน การสอน ต้องด าเนินการด้วยเทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพอให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียน ื่ได้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งที่ ต้องการวัด ธรรมชาติวิชา และระดับชั้นของผู้เรียน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความเที่ยงตรง ยุติธรรม และเชื่อถอได้ และให้เป็นไปตามหลักการและทฤษฎีการวัดและประเมินผล ื๖.๕ การประเมินผลการเรียนรู้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน พัฒนาการ จัดการเรียนรู้ และตัดสินผลการเรียน ๖.๖ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบผลการเรียนรู้ ๖.๗ ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนระหว่างสถานศกษาและรูปแบบการศึกษาต่าง ๆ ึ๖.๘ ให้สถานศึกษาจัดท าเอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการประเมินผลการเรียนรู้ รายงานผลการเรียน แสดงวุฒิการศึกษาและรับรองผลการเรียนของผู้เรียน หมวดที่ ๒ วิธีกำรประเมินผลกำรเรียน ข้อ ๗ การประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนให้ถือปฏิบัติดังนี้ ๗.๑ แจ้งให้ผู้เรียนทราบตัวชี้วัด วิธีการประเมินผลการเรียน เกณฑ์ขั้นต่ าของการ ผ่านรายวิชา ๗.๒ ตัวชี้วัดรายวิชาจะต้องครอบคลุมพฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรของโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ๗.๓ การประเมินผลก่อนเรียน เพื่อศึกษาความรู้พื้นฐานของผู้เรียน ซึ่งเป็นหน้าที่

3ของครูผู้สอนทุกรายวิชาที่ต้องท าการส ารวจ เพอน าไปเป็นข้อมูลในการจัดกระบวนการเรียน ื่การสอนให้สอดคล้องกับพื้นฐานของนักเรียนแต่ละคน ๗.๔ วัดและประเมินผลระหว่างภาคเรียน เพอศึกษาผลการเรียน การจัดการสอน ื่ซ่อมเสริมและการน าคะแนนจากการวัดและประเมินผลไปรวมกับการวัดผลปลายภาคเรียน โดยวัด และประเมินผลตามตัวชี้วัด วัดและประเมินผลระหว่างภาคเรียน ประกอบด้วย ๗.๔.๑ วัดและประเมินผลระหว่างเรียน เป็นระยะ ๆ โดยให้สถานศกษาเป็นผู้ก าหนดึตัวชี้วัด ๗.๔.๒ วัดและประเมินผลกลางภาคเรียนอย่างน้อย ๑ ครั้ง โดยให้สถานศึกษาเป็นผู้ก าหนดตัวชี้วัด ๗.๔.๓ วัดและประเมินผลปลายภาคเรียน เพื่อตรวจสอบผลการเรียนโดยวัดให้ครอบคลุมตัวชี้วัดที่ส าคัญ ที่สถานศึกษาเป็นผู้ก าหนด ข้อ ๘ การตัดสินผลการเรียนให้น าคะแนนระหว่างเรียน คะแนนกลางภาคเรียน คะแนน ปลายภาคเรียน ตามอัตราส่วนที่กลุ่มสาระการเรียนรู้ก าหนด แล้วน ามาตัดสินให้เป็นระดับผล การเรียน ข้อ ๙ ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชา ดังต่อไปนี้ ช่วงคะแนนร้อยละ ระดับผลการเรียน ความหมายของผลประเมิน ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ ๔.๐ ๓.๕ ๓.๐ ๒.๕ ๒.๐ ๑.๕ ๑.๐ ๐ ดีเยี่ยม ดีมาก ดี ค่อนข้างดี ปานกลาง พอใช้ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า ต่ ากว่าเกณฑ์ ๘๐-๑๐๐ ๗๕-๗๙ ๗๐-๗๔ ๖๕-๖๙ ๖๐-๖๔ ๕๔-๕๙ ๕๐-๕๔ ๐- ๔๙ ข้อ ๑๐ ให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการเรียน ที่มีเงอนไขในแต่ละรายวิชา ดังนี้ ื่มส หมายถึง ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการประเมินผลปลายภาคเรียน ร หมายถึง รอการตัดสินหรือยังตัดสินผลการเรียนไมได้ ่

4ผ หมายถึง ผ่านเกณฑ์การประเมินโดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมดที่จัดกิจกรรมของแต่ละภาคเรียน และผ่านจุดประสงค์ส าคัญของกิจกรรมตามทก าหนด ี่มผ หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินโดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมดที่จัดกิจกรรมของแต่ละภาคเรียน และไม่ผ่านจุดประสงค์ส าคัญของกิจกรรมตามทก าหนด ี่มก หมายถึง เรียนโดยไม่นับหน่วยกิต มีเวลาเรียนครบร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ข้อ ๑๑ ให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาดังนี้ ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติจนเป็นนิสัยและน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันเพื่อประโยชน์ของตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพอให้เป็นที่ยอมรับของสังคม ื่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากาหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนไม่รับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษาก าหนด ข้อ ๑๒ ให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการประเมิน การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ของ สถานศึกษาดังนี้ ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนสามารถจับใจความส าคัญได้ครบถ้วน เขียนวิพากษ์วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นประกอบอย่างมีเหตุผลได้ถูกต้องและสมบูรณ์ใช้ภาษาสุภาพและเรียบเรียงได้สละสลวย ดี หมายถึง ผู้เรียนสามารถจับใจความส าคัญได้ เขียนวิพากษ์วิจารณ์และเขียนสร้างสรรค์ ได้โดยใช้ภาษาสุภาพ ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนสามารถจับใจความส าคัญ และเขียนวิพากษ์วิจารณ์ ได้บ้าง ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนไม่สามารถจับใจความส าคัญ และเขียนวิพากษ์วิจารณ์ ได้ หมวดที่ ๓ กำรตัดสินผลกำรเรียน การตัดสินผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษามการตัดสินในหลายลักษณะคือ การผ่านรายวิชาีก าหนดเป็นภาคเรียน การเลื่อนชั้นปีก าหนดเป็นปีการศึกษาและการจบระดับชั้นก าหนดเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักเกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินผลการเรียน หลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางึการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ มีดังนี้ ข้อ ๑๓ การตัดสินผลการเรียนให้ถือปฏิบัติดังนี้ ๑๓.๑ พิจารณาตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น การอนุญาตให้ผู้เรียนเข้ารับการวัดผลปลาย ภาคเรียน ส าหรับผู้ที่มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้นให้อยู่ใน

5ดุลพินิจของหัวหน้าสถานศกษา ึ๑๓.๒ ผู้เรียนที่มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น และไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการวัดผลปลายภาค ให้ได้ผลการเรียน “มส” ๑๓.๓ ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศกษาก าหนด ึ ๑๓.๓.๑ ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินในตัวชี้วัดแต่ละรายวิชาไม่น้อยกว่าเกณฑ์ขั้นต่ าที่ ก าหนดร้อยละ ๖๐ ๑๓.๓.๒ เกณฑ์การผ่านแต่ละตัวชี้วัด ควรก าหนดให้สอดคล้องและเหมาะสมกับ บริบทของรายวิชา ๑๓.๔ การผ่านวิชาพื้นฐานและเพมเติม ตัวชี้วัดที่ต้องผ่าน ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าเกณฑขั้นต่ าที่ิ่์ก าหนด ของแต่ละรายวิชา ตามที่สถานศึกษาก าหนด ๑๓.๕ ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ ให้ได้ระดับผลการเรียน “๐” ๑๓.๖ ผู้เรียนที่ทุจริตในการสอบหรือทุจริตในงานที่มอบหมายให้ท าในรายวิชาใด ครั้งใดกตาม ให้ได้คะแนน “๐” ในครั้งนั้น ็๑๓.๗ ผู้เรียนที่ไมได้วัดผลปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่ได้รับมอบหมายให้ท า ่ด้วยมีเหตุสุดวิสัยที่ท าให้ประเมินผลการเรียนไมได้ ให้ได้ผลการเรียน “ร” กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการ่เรียน “ร” เพราะไม่ส่งงานนั้น จะต้องได้รับความเห็นชอบ จากหัวหน้าสถานศกษาก่อน ึ๑๓.๘ ผู้เรียนที่ประสงค์จะเรียนวิชาใดโดยไม่ต้องการหน่วยการเรียน ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าสถานศึกษาที่จะอนุญาตให้เข้าเรียนได้ และถ้ามีเวลาเรียนครบร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมดให้ได้ผลการเรียน “มก” ๑๓.๙ ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ๑๓.๑๐ ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศกษาึก าหนดใน การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๓.๑๑ วิชาที่จะนับหน่วยกิตได้ จะต้องได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ ๑ ขึ้นไป ๑๓.๑๒ การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นั้น ให้ระดับการประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี ผ่าน และไม่ผ่าน ๑๓.๑๓ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม กิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด และการให้ผล การเข้าร่วมกิจกรรม ผ่าน ให้ “ผ” และไม่ผ่าน ให้ “มผ” ข้อ ๑๔ การเปลี่ยนระดับผลการเรียน ให้ถือปฏิบัติดังนี้

6๑๔.๑ การเปลี่ยนระดับผลการเรียน “๐” ให้สถานศึกษาจัดสอนซ่อมเสริมในตัวชี้วัดที่ผู้สอนประเมินไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแกตัว และให้สอบแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ทั้งนี้ต้องด าเนินการให้เสร็จ้สิ้นภายในปีการศึกษานั้น กำรสอบแก้ตัวให้ได้ผลกำรเรียนไม่เกิน “๑” ๑๔.๑.๑ ถ้าผู้เรียนไม่ด าเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณา ขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน ๑๔.๑.๒ ถ้าสอบแก้ตัว ๒ ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “๐” อีก ให้ สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินการเกี่ยวกับการแก้ผลการเรียนของผู้เรียนโดยปฏิบัติดังนี้ (๑) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐานให้เรียนซ้ า (๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพมเติมให้เรียนซ้ า หรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจิ่ของสถานศึกษา (๓) ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนวิชาใด ๑๔.๒ การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” มี ๒ กรณีดังนี้ ๑๔.๒.๑ ในกรณที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “ร” เพราะเหตุสุดวิสัยท าให้ ีประเมินผลการเรียนไม่ได้ เช่น เจ็บป่วย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบหรือส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จ เรียบร้อยแล้วหรือแก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ (ตั้งแต่ ๐-๔) ๑๔.๒.๒ ในกรณที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “ร” โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้ว ีเห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบหรือส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือ แก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “๑” ๑๔.๒.๓ การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” ให้ด าเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จ สิ้นภายในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่ด าเนินการแก “ร” ตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้ให้เรียนซ้ า ้รายวิชา ยกเว้นเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศกษาที่จะขยายให้แก้ “ร” ออกไปอีกไม่ ึเกิน ๑ ภาคเรียน แต่เมื่อพ้นก าหนดแล้วให้ปฏิบัติดังนี้ (๑) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซ้ ารายวิชา (๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพมเติมให้เรียนซ้ า หรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจิ่ของสถานศึกษา (๓) ในกรณที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผล ีการเรียนว่าเรียนแทนวิชาใด ๑๔.๓ การเปลี่ยนผลการเรียน “มส” มี ๒ กรณีดังนี้ ๑๔.๓.๑ กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะเวลาเรียนไม่ถงร้อยละ ๘๐แต่มีเวลาึเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเพมเติมโดยใช้ชั่วโมงิ่

7สอนซ่อมเสริม หรือเวลาว่าง หรือวันหยุด หรือมอบหมายให้งานท า จนมีเวลาเรียนจนครบก าหนดไว้ ส าหรับรายวิชานั้นแล้วจึงให้สอบเป็นกรณีพิเศษ ผลการสอบแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “๑” ๑๔.๓.๒ การแก “มส” กรณีนี้ให้กระท าให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่้ด าเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้ให้เรียนซ้ า รายวิชา ยกเว้นเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายให้แก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน แต่เมื่อพ้นก าหนดแล้วให้ปฏิบัติดังนี้ (๑) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ให้เรียนซ้ ารายวิชา (๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพมเติมให้เรียนซ้ า หรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจิ่ของสถานศึกษา (๓) ในกรณที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนีวิชาใด ๑๔.๓.๓ กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเรียนซ้ าในรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพมเติม หรือิ่เปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้ ส าหรับรายวิชาเพิ่มเติมเท่านั้น ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนวิชาใด ๑๔.๓.๕ การเรียนซ้ าในทุกกรณีให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการที่สถานศึกษาแต่งตั้งที่จะก าหนดช่วงเวลาในการเรียนซ้ าให้เหมาะสม และต้องประเมินผลการเรียนตามที่ระเบียบการเรียนซ้ า จะได้คะแนนตามข้อ ๙ ๑๔.๓.๖ ในกรณีภาคเรียนที่ ๒ หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “๐” “ร” “มส” ให้ด าเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปิดการเรียนการ สอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแกไขผลการเรียนของผู้เรียนได้ ทั้งนี้ โดยส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ ้ต้นสังกัด ควรเป็นผู้พิจารณาประสานให้มีการด าเนินการเรียนการสอนภาคฤดูร้อนเพอแก้ไขผล ื่การเรียนของผู้เรียน ๑๔.๔ การเปลี่ยนผลการเรียน “มผ” ในกรณที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” สถานศึกษาต้องีจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนท ากิจกรรมจนครบตามเวลาที่ก าหนดหรือปฏิบัติกิจกรรมเพอพัฒนาื่คุณลักษณะที่ต้องปรับปรุง แก้ไข แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ทั้งนี้ให้ด าเนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ข้อ ๑๕ การอนุมัติการจบหลักสูตร ๑๕.๑ การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑๕.๑.๑ ผู้เรียน เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพมเติมไม่เกิน ๘๑ หน่วยกิต โดย ิ่

8เป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชาเพมเติมตามที่สถานศกษาก าหนด ิ่ึ ๑๕.๑.๒ ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๑๑ หน่วยกิต ๑๕.๑.๓ ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน ใน ระดับผ่านเกณฑ์ประเมิน ๑๕.๑.๔ ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ ผ่านเกณฑ์ประเมิน ๑๕.๑.๕ ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมิน ผ่านเกณฑ์ประเมิน ๑๕.๒ การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑๕.๒.๑ ผู้เรียน เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพมเติมไม่น้อยกว่า ๘๑ หน่วยกิต ิ่โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษาก าหนด ๑๕.๒.๒ ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า ๓๖ หน่วยกิต ๑๕.๒.๓ ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนในระดับผ่าน เกณฑ์ ประเมิน ๑๕.๒.๔ ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่าน เกณฑ์ประเมิน ๑๕.๒.๕ ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ ประเมิน ๑๕.๓ ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้อนุมัติผลการเรียนและการจบหลักสูตร ข้อ ๑๖ การเลื่อนชั้น ผู้เรียนจะได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกภาคเรียนและได้รับการ เลื่อนชั้นเมื่อสิ้นปีการศึกษา โดยมีสมบัติตามเกณฑ์ดังนี้ ๑๖.๑ รายวิชาพื้นฐานได้รับการตัดสินผลการเรียนผ่านทุกรายวิชา ๑๖.๒ รายวิชาเพิ่มเติม ได้รับผลการเรียนผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด ๑๖.๓ ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ ในการอ่าน คิด ์วิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๖.๔ ระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศกษานั้นได้ไม่ต่ ากว่า ๑.๐๐ทั้งนี้รายวิชาใดที่ไม่ผ่านึเกณฑ์การประเมิน สถานศึกษาสามารถซ่อมเสริมผู้เรียนให้ได้รับการแกไขในภาคเรียนถัดไป ้ข้อ ๑๗ การเรียนซ้ า สถานศึกษาจะจัดให้ผู้เรียน เรียนซ้ าใน ๒ กรณี ดังนี้ ๑๗.๑ เรียนซ้ ารายวิชา หากผู้เรียนได้รับการสอนซ่อมเสริมและแก้ตัว ๒ ครั้งแล้ว

9ไม่ผ่านการประเมินให้เรียนซ้ ารายวิชานั้น ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียน ซ้ าในช่วงใดช่วงหนึ่งที่สถานศึกษาเห็นว่าเหมาะสม เช่น พักกลางวัน วันหยุด ชั่วโมงว่างหลังเลิก เรียน ภาคฤดูร้อน เป็นต้น ๑๗.๒ เรียนซ้ าชั้น มี ๒ ลักษณะ คือ ๑๗.๒.๑ ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษานั้นต่ ากว่า ๑.๐๐และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น ๑๗.๒.๒ ผู้เรียนมีผลการเรียน ๐ , ร , มส เกินครึ่งหนึ่งของรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียนในปีการศกษานั้น ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง ๒ ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งตั้งึคณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้ซ้ าชั้น โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน หากพิจารณาแล้วไม่ต้องเรียนซ้ าชั้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการแกไขผลการเรียน ้หมวดที่ ๔ กำรเทียบโอนผลกำรเรียน ข้อ ๑๘ สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากสถานศึกษาได้ใน กรณีต่าง ๆ ได้แก การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การละทิ้ง ่การศึกษาและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศกษาต่อในประเทศ ึนอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น สถาน ประกอบการ สถานบันทางศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การศกษาโดยครอบครัว ึข้อ ๑๙ การเทียบโอนผลการเรียนควรด าเนินการในช่วงกอนเปิดภาคเรียนแรกหรือต้นภาค ่เรียนแรกที่สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นนักเรียน ทั้งนี้นักเรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการ เรียนต้องศึกษาต่อเนื่อง ในสถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศกษาที่รับ ึการเทียบโอนควรก าหนดรายวิชา จ านวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม ข้อ ๒๐ การพิจารณาการเทียบโอน สามารถด าเนินการได้ดังนี้ ๒๐.๑ พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา ซึ่งจะให้ข้อมูลที่แสดงความรู้ความสามารถของนักเรียนในด้านต่าง ๆ ๒๐.๒ พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริง การทดสอบการสัมภาษณ์ เป็นต้น ๒๐.๓ พิจารณาจากความสามารถ และการปฏิบัติจริง

10๒๐.๔ ในกรณีมีเหตุผลจ าเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจ านงขอไปศึกษาบางรายวิชา ในสถานศึกษา/สถานประกอบการอื่น แล้วน ามาเทียบโอนได้โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ บริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา ๒๐.๕ การเทียบโอนผลการเรียนให้ด าเนินการในรูปของคณะกรรมการการเทียบโอนจ านวนไม่น้อยกว่า ๓ คน แต่ไม่ควรเกิน ๕ คน ข้อ ๒๑ การเทียบโอนให้ด าเนินการดังนี้ ๒๑.๑ กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น ให้น ารายวิชาหรือหน่วยกิตทมีี่ตัวชี้วัด / มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง / จุดประสงค์ / เนื้อหาที่สอดคล้องกันไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพิจารณาให้ระดับผลการเรียนให้สอดคล้องกับ หลักสูตรที่รับเทียบโอน ๒๑.๒ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐาน ์(ถ้าม) โดยให้มีการประเมินด้วยเครื่องมือที่หลากหลายและให้ระดับผลการเรียนให้สอดคล้องกับีหลักสูตรที่รับเทียบโอน ๒๑.๓ กรณีการเทียบโอนที่นักเรียนเข้าโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ให้ด าเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องหลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้นการศึกษาส าหรับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทั้งนี้ วิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง หมวดที่ ๕ หน้ำที่ของสถำนศึกษำ ข้อ ๒๒ สถานศึกษามีหน้าที่ด าเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้เป็นไปตามที่หลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มีกรอบการประเมินและข้อก าหนดในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ต้องด าเนินการดังต่อไปนี้ ๒๒.๑ วัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน ได้แก่การประเมินผลการเรียนรู้ และพัฒนาการของผู้เรียนระหว่างเรียน เพื่อหาค าตอบว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและค่านิยมอันพึงประสงค์ จากการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด ที่จะสะท้อนความส าเร็จในการเรียนของผู้เรียน และประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาของผู้สอน เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องน าไปพัฒนาผู้เรียน ให้บรรลุตามผล (ตัวชี้วัด) ปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพและเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ตัดสินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ๒๒.๒ วัดและประเมินผลระดับสถานศึกษาได้แกการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รวมทั้ง่พัฒนาการของผู้เรียนปลายภาค และเมอสิ้นสุดของแต่ละหลักสูตร เพื่อน าผลไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อื่

11ปรับปรุงผู้เรียนให้มีคุณภาพตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้ตลอดหลักสูตรรวมทั้งการน าผลการประเมินไปใช้พิจารณาตัดสินผลการเรียนรายวิชา และตัดสินการจบหลักสูตร ๒๒.๓ ประเมินคุณภาพการศกษากับเขตพื้นที่การศกษาโดยสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนในึึชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ เข้ารับการประเมิน ๒๒.๔ ประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ ได้แก่ การประเมินคุณภาพทางการศึกษาของผู้เรียนทุกคน ในปีสุดท้ายของแต่ละหลักสูตรของระดับชั้น คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะก าหนดให้มีการประเมินในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความจ าเป็น เป็นรายปี ข้อมูลจากการประเมินจะน าไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา และคณภาพการศกษาชาติ ุึ๒๒.๕ ตัดสินผลการเรียนให้ผู้เรียนจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น และจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ๒๒.๕.๑ ตัดสินให้ผู้เรียนที่ส าเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น ตามเกณฑ์การจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ต้น) ๒๒.๕.๒ ตัดสินให้ผู้เรียนที่ส าเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามเกณฑ์การจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ปลาย) ข้อ ๒๓ จัดท าเอกสารหลักฐานทางการศึกษา ๒๓.๑ ให้สถานศึกษาจัดท าเอกสารหลักฐานทางการศกษา เพื่อให้เป็นเอกสารประกอบ ึการด าเนินงานเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และเป็นเอกสารหลักฐานทางศึกษา ดังนี้ ๒๓.๑.๑ เอกสารหลักฐานการศึกษาทกระทรวงศึกษาธิการก าหนด ได้แก่ ี่๑. ระเบียบแสดงผลการเรียน (ปพ. ๑) ๒. หลักฐานแสดงวุฒิทางการศึกษา (ปพ. ๒) ๓. แบบรายงานผู้ส าเร็จการศึกษา (ปพ. ๓) ๒๓.๑.๒ เอกสารหลักฐานการศึกษาที่จัดท าตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการแนะน าได้แก ่๑. แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ปพ. ๔) ๒. เอกสารบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ. ๕) ๓. เอกสารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ. ๖) ๔. ใบรับรองผลการศึกษา (ปพ. ๗) ๕. เอกสารระเบียนสะสม (ปพ. ๘) ๖. สมุดบันทึกผลการเรียนรู้ (ปพ. ๙) ข้อ ๒๔ การเทียบโอนผลการเรียน ให้สถานศึกษาด าเนินการเทียบโอนผลการเรียนดังนี้ ๒๔.๑ ให้ด าเนินการในช่วงกอนเปิดภาคเรียน หรือต้นภาคเรียนแรก ่

12๒๔.๒ ผู้เรียนต้องศกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาที่รับโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน ึ๒๔.๓ การเทียบโอนควรก าหนดรายวิชา/จ านวนหน่วยกิต ที่จะรับเทียบโอนตาม ความเหมาะสม ๒๔.๔ การเทียบโอนให้พิจารณาด าเนินการ ดังนี้ ๒๔.๔.๑ พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ๒๔.๔.๒ พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยทดสอบทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ๒๔.๔.๓ พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริงข้อ ๒๕ การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียน รับทราบความกาวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมิน และจัดท า้เอกสารรายงานให้ผู้ปกครองรับทราบเป็นระยะ ๆ หรืออย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง หมวดที่ ๖ บทเฉพำะกำล ข้อ ๒๖ ในกรณีนักเรียนที่เรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ซึ่งควรจะจบื้ในปีการศกษา ๒๕๕๓ หรือกอนปีการศึกษา ๒๕๕๓ แต่ไม่สามารถจบหลักสูตรได้ ึ่ตามก าหนด ให้ใช้ระเบียบฉบับนี้ ข้อ ๒๗ ให้ใช้ระเบียบนี้กับผู้เรียนที่ใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ (นายสุเมธ หน่อแก้ว) ผู้อ านวยการโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา

13ภำคผนวก

14ประกำศโรงเรียนน ้ำปลีกศึกษำ เรื่อง ให้ใช้ระเบียบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน หลักสูตรโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ึ------------------------------------ โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ได้เริ่มใช้หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และชั้นึมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ในปีการศึกษา ๒๕๕๓ อาศัยอ านาจตามความในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หัวข้อการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ก าหนดให้สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดท าหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน และเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน สถานศึกษาต้องมีผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการวัดและประเมินผลทั้งในระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติตลอดจนการประเมินภายนอกเพอใช้เป็นข้อมูลื่สร้างความมั่นใจเกี่ยวกับคุณภาพของผู้เรียนแก่ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ฉะนั้นเพื่อให้เป็นไปตามความดังกล่าว โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา จึงให้ใช้ระเบียบโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรการขั้นพื้นฐานโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๐ หลักสูตรแกนกลางการศกษาขั้นพนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดังปรากฏึื้แนบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๓ (นายสุมิตร เรืองบุตร) ผู้อ านวยการโรงเรียนน้ าปลีกศึกษา เห็นชอบและอนุมัติ (นายชนินทร์ เตาเงิน) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนน้ าปลีกศึกษา

15


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook