การแสดงเบอื้ งตน้ Basic Acting อาจารย์ ดร. วีระ สุภะ [email protected]
ประวตั ศิ ลิ ปะการแสดงเบอื้ งตน้ - ความหมายของศลิ ปะการแสดง - ประวตั ลิ ะครยุคกรกี - แนวละครตา่ งๆ - ประโยชนข์ องการศกึ ษา
ความหมายของศลิ ปะการแสดง ศลิ ปะการแสดง (performing arts) คอื การแสดงออกซงึ่ อารมณ์ ความรูส้ กึ และเรอื่ งราวตา่ งๆประกอบดว้ ยดนตรี นาฏศลิ ป์ และการแสดงประเภทตา่ งๆสาหรบั ความหมายของศลิ ปะการแสดงอรสิ โตเตลิ (Aristotle) นกั ปราชญช์ าวกรกี ให้ความหมายไวว้ า่ \"ศลิ ปะการแสดง คอื การเลยี นแบบธรรมชาต\"ิ และลโี อ ตอลสตอย ใหค้ วามหมายไวว้ า่\"ศลิ ปะการแสดง เป็ นการสอื่ สารอย่างหนึ่งระหวา่ งมนุษย ์ ดว้ ยการใชค้ าพูดถา่ ยทอดความคดิ และศลิ ปะของการแสดงออกทางอารมณค์ วามรูส้ กึ \"
ความหมายของศลิ ปะการแสดง รองศาสตราจารย ์ สดใส พนั ธุมโกมล ผูก้ อ่ ตงั้ ภาควชิ าศลิ ปการละคร คณะอกั ษรศาสตร ์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ระบุว่า ศลิ ปะการแสดง คอื ศลิ ปะทเี่ กดิ ขนึ ้ จากการนาภาพจากประสบการณแ์ ละจนิ ตนาการของมนุษยม์ าผูกเป็ นเรอื่ ง และจดั เสนอในรู ปแบบของการแสดง โดยมีผูแ้ สดงเป็ นผูส้ ือ่ความหมายและเรอื่ งราวตอ่ ผูช้ ม
แนวละครยุคสมัยกรีก- Tragedy โศกนาฎกรรม- Comedy สุขนาฏกรรม- Satyr Play ละครเซเทอร์
สุขนาฏกรรม (Comedy)ละครแนวสุขหรือสุขนาฏกรรม (Comedy) ละครแนวนีจ้ ะเน้นให้ความขบขันแก่คนดู แต่แฝงไปด้วยแง่คดิ คตสิ อนใจแอบแฝงอย่ใู นบทประพันธ์ ซ่งึ ละครแนวสุขนาฏกรรม จะมุ่งเน้นการสร้างลักษณะตวัละคร บทพดู สถานการณ์ การกระทา ให้เกดิ ความขบขันขึน้ มา หรือจะสร้างขนึ้ จาก “ความไม่น่าจะเป็ น”หรือความไม่ถูกต้องตามเหตุผล ตรงกันข้ามกับส่ิงท่ีตัวละครคาดหวังไว้
สุขนาฏกรรม (Comedy)ปัจจัยสาคัญของละครแนวสุขนาฏกรรมตะวันตก คือ สถานการณ์ (Situation) ตวัละคร (Character) และความคดิ (Idea)แต่ละเร่ืองจะเน้นปัจจยั ใดปัจจยั หน่ึงเป็ นสาคัญ (มัทนี รัตนิน,2546)
สุขนาฏกรรม (Comedy)ในประเทศตะวนั ตก หลังจากสมยั กรีกโบราณสุขนาฏกรรมแบ่งเป็ นประเภทต่างๆ ดังนี้1. Comedy of Situation2. Comedy of Character3. Comedy of Ideas4. Comedy of manner5. Social comedy6. Romantic Comedy7. Farce
Comedy of Situation จะแสดงให้เหน็ ตัวละครในสถานการณ์ท่แี ปลกกว่าธรรมดาในละครประเภทนี้ ตัวละครและแนวความคิดไม่สาคัญมากนักแต่สถานการณ์สาคัญมากกว่า ความขบขันอยู่ท่ีเหตุการณ์ท่ีไม่คาดหมาย เช่น คนกลุ่มหน่ึงเตรียมตัวจะไปงานเต้นราแฟนซีใส่หน้ ากาก แต่ ต่ างคนพยายามปิ ดบังใบหน้ าไม่ ให้ คนอ่ืนรู้จุดประสงค์ของต้น (ความต้องการนัน้ เอง) ด้วยวธิ ีการหลับหลีกต่างๆ และกรีดกันกับคนอ่ืนๆ ปรากฏว่าทุกคนปรากฏตัวพร้ อมในงานนัน้ พร้ อมกัน ความขบขันนั้นเกิดจากการค้นพบความจริง การเปิ ดหน้ากากซ่อนตัว และการเปิ ดเผยความจริงในทสี่ ุด จบลงด้วยทกุ คนคนื ดกี ัน
Comedy of Characterความขบขันอยู่ท่ีลักษณะของตัวละครเอกท่ีมีความผิดปกติ พฤติกรรมเบ่ียงเบน หรือบุคลิกลักษณะในเชิงลบ อุปนิสัยท่ีไม่พ่ึงปรารถนา เช่น เศรษฐีขีเ้ หนียว สาวแก่แต่งตัวจัดชอบจับหนุ่มผู้ชาย คนหน้าไหว้หลังหลอกสาวมากจริตชอบเสแสร้ งยกยอปอปั้น เป็ นต้ นเช่ นละครเร่ืองตุ๊กตาแก้ว (The Glass Menagerieby Tennessee Williams) ตัวละครแม่ของลอร่าชอบขีบ้ ่นกับลูกสาวเร่ืองหาคู่ครอง
The Glass Menageriby Tennessee Williams
Comedy of Ideas- ละครท่แี สดงความคดิ เก่ียวกับสังคม หรือทัศนคติ เก่ียวกับชีวิต- แสดงความคิดเก่ียวกบั การเปล่ียนฐานะของคน ในสังคมด้วยการพดู ภาษาให้ถกู ต้องเป็ นผู้ดี แต่ ได้เฉพาะเปลือกนอกเพยี งช่ัวคราว ไม่สามารถ พัฒนาจติ ใจได้บทละครตัวอย่าง เช่น แรงเงา
comedy of manner- ละครท่แี สดงการเสียดสีชนชัน้ สูงในประเทศองั กฤษ ใน ศตวรรษท่ี 17 เป็ นสุขนาฏกรรมท่แี สดงให้เหน็ ถงึ ไหว พริบของตวั ละคร ความซบั ซ้อนของอารมณ์ขัน- ข้อเสียของบุคคลถกู เสียดสีและนาเสนอให้เหน็ การ กระทาท่นี ่าหวั เราะเยาะ- สุขนาฏกรรมขององั กฤษนีไ้ ด้รับอทิ ธิพลจากฝร่ังเศส โดย Moliere ได้ดดั แปลงมาจากสุขนาฏกรรมสมยั ใหม่ของ Menander ชาวกรีก
Social Comedyคือ ละคร Comedy of idea เก่ียวข้องกับค่านิยมในสังคม แต่เป็ นเร่ืองราวของคนท่ัวไปไม่ใช่เฉพาะของคนช้ันสูงเท่านั้น ถ้าผู้แต่งบทละครมีจุดประสงค์จะแก้ไขพัฒนาสังคม อาจเรียกได้ว่า“Corrective Comedy” หรือละครชวนหวัประเภทแก้ไขสังคม (มัทนี รัตนิน,2546)
Romantic Comedy- ละครท่ผี นวกความรักและความสนุกสนานไว้ด้วยกัน- ละครแนวนีเ้ ร่ิมขนึ้ ในประเทศสเปน และประสบความสาเร็จในประเทศ ฝร่ังเศส โดยนักเขียนบทละคร ช่ือ Victor Hugo และ Alexander Dumas Pear- โครงเร่ืองและตวั ละครไม่ซับซ้อน เน้นเสือ้ ผ้าและฉากท่ีสวยงาม ภาษา และบทพูด บทเพลงไพเราะ ต่อมาพฒั นาเป็ น Melodrama หรือท่ี คนไทยเรียกว่าละครนา้ เน่า- ในประเทศอังกฤษ William Shakespeare เขยี นละครแนวนี้ ลักษณะของตัวละครมกี ารแสดงออกเกนิ จริง (Hyperbole) มีการใช้ ความรุนแรงบางครัง้
Farce (ฟาร์ส/ตลกโปกฮา)- ละครประเภทท่แี สดงความขบขันและโครงเร่ืองซับซ้อน- ฟาร์สจะเน้น Stereotypes และ Slapsticks(ตลกค่าเฟ)- เหตกุ ารณ์ในเร่ืองมักเป็ นเหตุการณ์บังเอญิ เหลือเช่ือ เน้นการ กระทาท่ใี ช้อุปกรณ์ประกอบการแสดง (props) เช่น เอาไม้ตหี วั เอาขนมเค้กโปะหน้า ผลักตกนา้ หรือ “ตลกเจบ็ ตวั ”- ตัวละครมีลักษณะเกินธรรมชาติ เพ่อื เรียกเสียงหวั เราะ- จุดประสงค์ของฟาร์สคอื ความบันเทงิ ท่เี กิดจากการกระทา ภายนอกท่เี หน็ ได้ง่าย หรือเพ่อื สะท้อน เสียดสีสังคมให้ดบู ้าไร้สติ
Farce (ฟาร์ส/ตลกโปกฮา)- ในอดตี ฟาร์สมีรากเหง้ามากจากละครเซเทอร์ (Satyr Play) ของกรีก เป็ นละครท่ใี ช้เพ่ือการเฉลมิ ฉลองพิธีกรรม ทางศาสนา•Bedroom Farce- ต่อมาในศตวรรษท่ี 18 และ 19 ในอังกฤษและ สหรัฐอเมริกานามาเป็ นส่วนหน่ึงของความบนั เทงิ ช่วงเยน็ ต่อมากลายเป็ นละครเชิงพาณิชย์ในศตวรรษท่ี 20- ลักษณะของฟาร์ส ประเภทนี้ คอื เสนอการกระทาใน ห้องนอน เสนอการเข้าใจผิด การทาเสือ้ ผ้าหลุด และการ กระทาเก่ยี วกับเซ็กส์เพ่อื ให้คนดเู ข้าใจผิด
Tragicomedy- ละครประเภทหน่ึงในสมัย Renaissance (คริสต์ศตวรรษท่ี 16 ในยุโรปท่โี ครงเร่ืองผสมผสานระหว่างความสุขและความ เศร้าไวด้วยกัน ในละครสมัยใหม่ละครแนวนีเ้ หมือนสุขนาฏกรรม ในด้านท่วี ่า หวั เราะกับความโง่เขลาของพฤตกิ รรมมนุษย์ เหมือน โศกนาฏกรรมในด้านตวั ละครทนทกุ ข์ทรมานกับผลของการ กระทาท่ไี ร้สาระตดิ กับสังคม- ตัวอย่าง อีดปิ ุสจอมราชนั ย์ (Oedipus the King by Sophocles)- โรมโิ อ แอน จเู ลียต
Commedia dell’ arte (คอมเมเดยี เดอลารเ์ ต)ประเภทสุขนาฏกรรมท่ีกาเนิดขนึ้ ในประเทศอติ าลีในคริสต์ศตวรรษท่ี 16 ละครเกดิ จากการแสดงสดจากสถานการณ์หรือเหตุการณ์ โดยนักแสดงเป็ นตวั ละครตายตัว (Stock Character) ซ่งึ จะประกฎซา้ กันในละครหลายเร่ือง และผู้ชายจะเล่นเป็ นตัวผู้หญิงทงั้ หมด
Commedia dell’ arte (คอมเมเดยี เดอลาร์เต)
COMMEDIA DELL’ ARTE (คอมเมเดยี เดอลาร์เต)
Opera (โอเปรา)- ละครเพลงท่เี กิดขนึ้ ในราชสานักอติ าลีสมัย Renaissance- ละครท่เี น้นการร้องเพลง การเต้นรา ฉากท่สี วยงามตระการ ตา เป็ นการแสดงท่ไี ด้รับการนิยมในสังคมชัน้ สูงจนถงึ ปัจจุบัน
ประโยชน์ของการศกึ ษาการแสดง1. ทาให้เข้าใจมนุษย์ ชีวติ จิตใจ ปฏกิ ิริยาต่อสภาพแวดล้อม ปัญหา เฉพาะหน้าธรรมชาติ กฎเกณฑ์ทางสังคม2. ส่งเสริมความรู้ ความคดิ อ่าน ของผู้เรียน เพราะการอ่านบทประพันธ์ท่ี นามาแสดงช่วยให้เข้าใจประวตั ศิ าสตร์ ปรัชญา สังคม ภาษาวรรณคดี3. ส่งเสริมให้เป็ นคนช่างสังเกต มคี วามคดิ สร้างสรรค์ฝึ กฝนความไวของ สตปิ ัญญา เพ่มิ พนู ความสนใจและความเข้าใจปัญหารอบด้าน4. ทาให้รู้จกั การมี มนุษยสัมพนั ธ์ ความรับผิดชอบ และการทางานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ และรักศิลปะการแสดง5. ทาให้มีใจกว้าง มีเหตุผล รับคาวิพากษ์วจิ ารณ์ คาแนะนา เพ่อื ปรับปรุง
จบแลว้ ครบัอาจารย ์ ดร. วรี ะ สภุ ะ [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: