Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 7_รูปแบบและวิธีการนำเสนองาน

บทที่ 7_รูปแบบและวิธีการนำเสนองาน

Published by ajwera, 2018-10-31 04:47:49

Description: บทที่ 7_รูปแบบและวิธีการนำเสนองาน

Search

Read the Text Version

Speaking and Presentation Arts รูปแบบและวธิ กี ารนาเสนอ อาจารย์ ดร.วรี ะ สุภะ [email protected]

ความสาคญั ของการนาเสนอ การนาเสนองานส่วนใหญ่ เป็ นการนาเสนอแผนงานทีป่ ระกอบด้วยการโน้มน้าวจิตใจ เพราะเป็ นการทาให้คนเชื่อว่าข้อมูลทเ่ี รามีน้ัน เกยี่ วข้องหรือเป็ นประโยชน์ต่อผู้รับสาร

หลกั การนาเสนอแผนงานการนาเสนอควรเน้นที่ ผลลพั ธ์ทางกลยทุ ธ์และประโยชน์ของแผนน้นั ข้นั ตอนที่สาคญั ในการดาเนินตามแผน ทรัพยากรท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ เหตุผลท่ีทาใหเ้ ชื่อวา่ แผนจะประสบผลสาเร็จ

รูปแบบในการนาเสนองาน1. การนาเสนองานเพือ่ เสนอความคิด2. การนาเสนองานเพอ่ื ขายสินคา้ หรือบริการ3. การนาเสนองานเพื่อการอธิบายขอ้ มูลองคก์ ร

การนาเสนองานเพ่ือเสนอความคดิสามารถแบ่งได้เป็ น 2 ลกั ษณะ ดงั นี้1. การนาเสนอความคิดใหม่2. การนาเสนอความคิดเพ่อื ใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง

การนาเสนอความคดิ ใหม่ ตอ้ งรีบทาใหผ้ ฟู้ ังตระหนกั ถึงประโยชนท์ ่ี เกิดจากความคิดท่ีเรานาเสนอ พร้อมมี ตวั อยา่ งประกอบ เป็นการโนม้ นา้ วใจอยา่ งชดั เจน ผนู้ าเสนอตอ้ งสนใจตอบคาถามของผฟู้ ัง

การนาเสนอความคดิ ใหม่ ควรนาเสนอเมื่อผฟู้ ังมีเวลามากพอ ผนู้ าเสนอตอ้ งมีศิลปะการพดู อยา่ งสูง ตอ้ งไม่โจมตีความคิดเดิมวา่ บกพร่อง

การนาเสนอความคดิ เพ่ือให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงอาจเกิดในโอกาสที่ตอ้ งการการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในองคก์ รเพ่ือ... ตอ้ งการใหเ้ กิดความกา้ วหนา้ และการขยายตวั ของ องคก์ ร ตอ้ งการแข่งขนั กบั คู่แขง่ ทางธุรกิจ ปรับปรุงผงั องคก์ ร เพื่อใหผ้ ลผลิตเพิ่มข้ึน

การนาเสนอความคดิ เพ่ือให้เกดิ การเปลยี่ นแปลง ใชเ้ ทคโนโลยใี หม่ ๆ ทาใหส้ ินคา้ เป็นอนั ดบั 1 ในตลาด ใชห้ ลกั การใหม่ เพอ่ื เพ่ิมความไดเ้ ปรียบทางการแข่งขนั ลดขนาดองคก์ รและตน้ ทุน เนื่องจากความเปล่ียนแปลง ในตลาด

การนาเสนอความคดิ เพื่อให้เกดิ การเปลยี่ นแปลง ตอ้ งเนน้ ใหเ้ ห็นโอกาสและความสาเร็จที่ผา่ นมา วา่ เกิด ไดเ้ พราะมีการเปล่ียนแปลง อธิบายวา่ การเปลี่ยนแปลงท่ีนาเสนอ นาไปสู่ ความสาเร็จไดอ้ ยา่ งไร ควรพดู ใหน้ านพอที่ผฟู้ ังเขา้ ใจ และยอมสนบั สนุน

การนาเสนอความคดิ เพ่ือให้เกดิ การเปลยี่ นแปลง ควรเตรียมการนาเสนอเป็นชุด ๆ  ชุดแรก ช้ีใหเ้ ห็นถึงปัจจุบนั และความจาเป็นที่ตอ้ ง เปลี่ยนแปลง  ชุดต่อไป อธิบายหลกั การเปล่ียนแปลงที่นาเสนอและหา เสียงสนบั สนุน ไม่ควรยดั เยยี ดใหผ้ ฟู้ ังยอมรับ โดยการพดู เกินจริง ตอ้ งวเิ คราะห์ผฟู้ ังวา่ มีความเห็น มุมมองต่อเร่ืองที่ นาเสนออยา่ งไร จะช่วยใหผ้ ฟู้ ังยอมรับไดง้ ่ายข้ึน

การนาเสนองานเพ่ือขายสินค้าหรือบริการ ผทู้ ่ีทางานขายไดต้ อ้ งสามารถยอมรับคาปฏิเสธ จากลูกคา้ ได้ อาศยั การพดู ท่ีมุ่งไปท่ีความตอ้ งการของผซู้ ้ือ การเสนอขายท่ีไดผ้ ลมกั เกิดจากการพดู คุยกบั ผู้ ซ้ือจนสินคา้ น้นั กลายเป็นสิ่งท่ีลูกคา้ ตอ้ งการ

การนาเสนองานเพ่ือขายสินค้าหรือบริการ เป็นวธิ ีการนาเสนอที่ตอ้ งตอบคาถามมากมาย เพอ่ื ให้ ความกระจ่างกบั ลูกคา้ ผนู้ าเสนอตอ้ งทราบขอ้ มูลของสินคา้ อยา่ งละเอียด ตอ้ งศึกษารายละเอียด ขอ้ ดี-ขอ้ ดอ้ ยของคู่แข่ง เพอ่ื เปรียบเทียบใหล้ ูกคา้ ทราบ ไม่ใชว้ ธิ ีโจมตี ทบั ถมคู่แข่ง เพราะลูกคา้ อาจเห็นใจ คู่แข่งได้

การนาเสนองานเพื่ออธิบายข้อมูลขององค์กร เป็นการนาเสนองานท่ีพบไดบ้ ่อยที่สุด เพ่อื อธิบายขอ้ มูลขององคก์ รใหบ้ ุคคลต่าง ๆ เน้ือหามกั เกี่ยวกบั นโยบาย วธิ ีการดาเนินงาน การ พฒั นาองคก์ ร การวางแผนงาน เป้าหมายใน อนาคตขององคก์ ร

การนาเสนองานเพ่ืออธิบายข้อมูลขององค์กร สามารถแบ่งการนาเสนอชนิดน้ีไดเ้ ป็น 3 ลกั ษณะ 1. การรายงานสถานะขององคก์ ร 2. การสาธิตผลงานหรือผลผลิตขององคก์ ร 3. แผนงานและกลยทุ ธข์ ององคก์ ร

การรายงานสถานะขององค์กร ผู้นาเสนอต้องแจ้งถงึ สถานะโดยรวมขององค์กร เช่น  มีความคืบหนา้ ตามที่วางแผนหรือไม่  การทางานเป็นไปตามที่กาหนดไวห้ รือไม่  มีปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขหรือไม่  ควรมีการเปล่ียนแปลงอะไรหรือไม่

การสาธิตผลงานหรือผลติ ผลขององค์กร เป็นการนาเสนอท่ีมีพลงั ดึงความสนใจจากผฟู้ ังได้ อยา่ งดี ผนู้ าเสนอสามารถอธิบายคุณสมบตั ิไปพร้อม ๆ กบั การสาธิต เป็นการยนื ยนั ในขอ้ มูลที่พดู โดยไม่ จาเป็นตอ้ งหาเหตุผลมาโนม้ นา้ วใจอีก

การสาธิตผลงานหรือผลติ ผลขององค์กร ผเู้ สนอตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองที่จะสาธิต อธิบายใหเ้ ป็นข้นั เป็นตอนที่ชดั เจน ควรแจกเอกสารประกอบ เพ่ือใหผ้ ฟู้ ังเขา้ ใจได้ มากข้ึน การสาธิตอาจส้นั หรือยาวได้ โดยไม่มีผลทาให้ การนาเสนอมีขอ้ บกพร่อง

แผนงานและกลยุทธ์ขององค์กร เป็นการนาเสนอที่ยากท่ีสุด ตอ้ งโนม้ นา้ วใจใหผ้ ฟู้ ังยอมรับในแผนน้นั ๆ

แผนงานและกลยุทธ์ขององค์กร ผนู้ าเสนอตอ้ งเตรียมขอ้ มูลใหพ้ ร้อม และเขา้ ใจอยา่ ง ละเอียดวา่ แผนงานที่เสนอน้นั  พฒั นามาอยา่ งไร  มีสภาพแวดลอ้ มแบบไหน  มีปัจจยั ใดที่ช่วยเสริมใหแ้ ผนน้ีประสบความสาเร็จ แสดงใหผ้ ฟู้ ังเห็นวา่ สิ่งท่ีนาเสนอน้นั ผา่ นการคิดอยา่ ง รอบคอบ มีแนวทางปฏิบตั ิและแนวทางแกป้ ัญหา ซ่ึงตอ้ ง ประสบความสาเร็จอยา่ งแน่นอน

ปัจจยั ในการนาเสนองานรูปแบบต่าง ๆ1. จานวนผนู้ าเสนองาน2. จานวนผฟู้ ัง3. ระดบั ความเป็นทางการที่เหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์4. ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผพู้ ดู และผฟู้ ัง

จานวนผู้ทน่ี าเสนองาน การนาเสนอคนเดียว  เป็นรูปแบบที่ใชม้ ากที่สุด  ผพู้ ดู สามารถควบคุมสถานการณ์ไดง้ ่าย  สามารถเรียบเรียงขอ้ มูล ลาดบั การพดู ใหม่ไดท้ นั ที ที่เห็นปฏิกิริยาของผฟู้ ัง

จานวนผู้ทน่ี าเสนองาน การนาเสนอทม่ี ผี ู้พดู 2 คน  ร่วมกนั เตรียมการและแบ่งเน้ือหากนั พดู อยา่ ง รอบคอบ เช่น  ใครจะเร่ิมก่อน  ใครพดู ส่วนไหน  การส่งต่อใหผ้ พู้ ดู คนถดั ไปจะทาอยา่ งไร  ใครจะดาเนินการถาม-ตอบ

จานวนผู้ทน่ี าเสนองาน การนาเสนอทมี่ ีผู้พดู 2 คน  การนาเสนอจะเสียความยดื หยนุ่ ไป ผพู้ ดู ไม่สามารถขา้ มลาดบั ประเดน็ ท่ีเตรียมไว้  ผพู้ ดู ควรเขา้ ใจสญั ญาณมือของอีกฝ่ าย เพอ่ื ช่วยเสริมซ่ึงกนั และ กนั  สามารถควบคุมความเครียดได้ หากมีการเตรียมตวั ที่ดี  สามารถช่วยกนั ตอบคาถามของกนั และกนั ได้ ช่วยลดแรงกดดนั ท่ีผพู้ ดู คนเดียวตอ้ งตอบคาถามใหไ้ ดท้ ุกขอ้

จานวนผู้ฟัง การนาเสนองานต่อผู้ฟังกล่มุ ใหญ่  โดยทวั่ ไปมีผฟู้ ัง >35 คนข้ึนไป  การนาเสนอเป็นแบบทางการ  ผนู้ าเสนอยนื พดู ท่ีแท่นบรรยาย

จานวนผู้ฟัง การนาเสนองานต่อผู้ฟังกล่มุ ใหญ่  ใชไ้ มโครโฟนประกอบ  บางคนอาจใชโ้ นต้ ยอ่  ยงิ่ ขนาดผฟู้ ังใหญ่เท่าไร ยงิ่ ตอ้ งใชส้ ่ือเป็นอุปกรณ์ ประกอบ เพ่อื ช่วยใหผ้ ฟู้ ังเขา้ ใจข้ึน

จานวนผู้ฟัง การนาเสนองานต่อกล่มุ ผู้ฟังกล่มุ เลก็  มีผฟู้ ังต้งั แต่ 1-35 คน  ถา้ ผพู้ ดู สามารถพดู กบั ผฟู้ ังโดยไม่ตอ้ งใชเ้ สียงดงั ความเป็น ทางการจะลดลง  การพดู ไม่จาเป็นตอ้ งเป็นทางการ  ผพู้ ดู อาจนง่ั หรือยนื ได้  มีการถามตอบแทรกระหวา่ งการนาเสนองานตลอดเวลาได้

จานวนผู้ฟัง การนาเสนองานแบบตัวต่อตัว  เป็นทางการหรือไม่กไ็ ด้ ข้ึนอยกู่ บั ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งผพู้ ดู และผฟู้ ัง และความละเอียดอ่อนของ เร่ืองท่ีนาเสนอ

ระดบั ความเป็ นทางการในการนาเสนองาน การนาเสนองานทเี่ ป็ นทางการ  เป็นเหมือนการแสดง ผนู้ าเสนอยนื หนา้ ผฟู้ ัง  ความสามารถในการส่ือสารเป็นสิ่งสาคญั ตอ้ งพดู ชดั เจน มี พลงั  วางโครงสร้างการนาเสนอ และใชส้ ่ือประกอบเพื่อช่วยเสริม ใหก้ ารนาเสนอมีประสิทธิภาพที่สุด  ช่วงถาม-ตอบ จะอยชู่ ่วงทา้ ยของการนาเสนองาน

ระดบั ความเป็ นทางการในการนาเสนองาน การนาเสนองานทไี่ ม่เป็ นทางการ  เหมือนการพดู คุย  จุดมุ่งหมายอยทู่ ี่การแบ่งปันความคิดระหวา่ งกนั  ผพู้ ดู ไม่แสดงพลงั ในการพดู อยา่ งเด่นชดั อาจนงั่ /ยนื ได้  อาจใชแ้ ผน่ ใส คอมพิวเตอร์ประกอบ

ความสัมพนั ธ์กบั ผู้ฟัง ถ้าเป็ นคนใน  คือผฟู้ ังที่ผนู้ าเสนองานรู้จกั และร่วมงานดว้ ย  บรรยากาศเป็นทางการนอ้ ย ถึงแมก้ ารจดั งานจะมี พิธีการมาก

ความสัมพนั ธ์กบั ผู้ฟัง ถ้าเป็ นคนนอก  คือผฟู้ ังท่ีผนู้ าเสนองานไม่รู้จกั และไม่เคยร่วมงานดว้ ย  ควรใชก้ ารนาเสนองานแบบเป็นทางการ เพ่อื สร้างความ ประทบั ใจแก่ผฟู้ ังในทนั ที  หากสภาพแวดลอ้ มไม่เป็นทางการ ผนู้ าเสนอควรทาตวั สบาย ๆ ขณะท่ีการพดู ตอ้ งคงไวซ้ ่ึงความเป็นทางการ

การนาเสนองานจากต่างสถานที่ การประชุมทางโทรศัพท์  ไม่เป็นทางการมากนกั  จานวนผรู้ ่วมประชุมจากสถานที่ต่าง ๆ มีไมม่ าก การประชุมทางวดิ โี อ  มกั จดั โดยมีคนอยา่ งนอ้ ย 15 คน  ผรู้ ่วมประชุมนง่ั รวมกนั ในหอ้ งประชุมใหญ่  ผรู้ ่วมประชุมจากที่ต่าง ๆ เห็นสีหนา้ ท่าทาง ปฏิกิริยา ตอบสนองทนั ที

สรุป ความสาคญั ของการนาเสนองาน ผนู้ าเสนองานตอ้ งเขา้ ใจระเบียบ แบบแผนและความเป็น ทางการในแต่ละสถานการณ์ เพื่อจดั รูปแบบและ องคป์ ระกอบของการนาเสนองานใหม้ ีประสิทธิภาพ ความแตกต่างของการนาเสนองานข้ึนอยกู่ บั จานวนผพู้ ูด จานวนผฟู้ ัง เทคโนโลยที ี่ใช้ และความสมั พนั ธ์กบั ผพู้ ดู การนาเสนองานจากหลายสถานท่ีเป็นท่ีแพร่หลายมากข้ึน การมีผเู้ ขา้ ร่วมจากหลายสถานที่ช่วยใหก้ ารนาเสนอมีความ เป็ นทางการมากข้ึน

สอบการนาเสนองาน กลุ่ม 4 คนการกาหนดวตั ถุประสงค์การศึกษา วเิ คราะห์ผู้รับสารการรวบรวมข้อมูลแนวคดิ เพื่อสนับสนุนวตั ถุประสงค์การเรียบเรียงข้อมูลตามลาดบั และความน่าสนใจ ผู้รับผดิ ชอบการเลือกใช้โสตทศั นูปกรณ์

แนวทางการเขียนเพือ่ การนาเสนอ1. ส่วนนา • กล่าวตอ้ นรับผฟู้ ัง, • แนะนาสถานท่ี/ผสู้ นบั สนุน • แนะนาประวตั ิผนู้ าเสนอ

แนวทางการเขียนเพ่อื การนาเสนอ1. ส่วนนา(ต่อ) • สรุปวตั ถุประสงคก์ ารนาเสนอ • สรุประยะเวลาในการนาเสนอ, ช่วงเวลาการพกั การ นาเสนอ • สรุปเป้าหมายการนาเสนอและหวั ขอ้ สาคญั , รูปแบบ การนาเสนอคร่าว ๆ • ตอบขอ้ ซกั ถามเบ้ืองตน้ (ถา้ มี)

2. ส่วนเน้ือหา สรุปประเดน็ หลกั อธิบายแต่ละประเดน็ โดย ยกตวั อยา่ ง ดงั แนวทางต่อไปน้ี  เรียงลาดบั ตามตวั เลข ตวั ยอ่  การสรุปประเดน็  ตามลกั ษณะปัญหา-แนวทางแกไ้ ข  ตามประเดน็ หวั ขอ้

2. ส่วนเน้ือหา สรุปประเดน็ หลกั อธิบายแต่ละประเดน็ โดย ยกตวั อยา่ ง ดงั แนวทางต่อไปน้ี(ต่อ)  เรียบเรียงเน้ือหาใหช้ ดั เจนมีเหตุผล  จากดั ประเดน็ หลกั ท่ีนาเสนอไม่เกิน 7 ประเดน็

2. ส่วนเน้ือหา สรุปประเดน็ หลกั อธิบายแต่ละประเดน็ โดยยกตวั อยา่ ง ดงั แนวทาง ต่อไปน้ี(ต่อ)  ใชป้ ระโยคขนานลกั ษณะเดียวกนั เพอ่ื จดจาง่าย  หลีกเล่ียงรายละเอียด เนน้ เฉพาะประเดน็ สาคญั  ปรับเน้ือหาใหส้ อดคลอ้ งกบั เวลาท่ีมี  เทคนิคเรียงลาดบั เหตุการณ์  เทคนิคจดั หมวดหมู่  เทคนิคเปรียบเทียบและช้ีใหเ้ ห็นขอ้ แตกต่าง

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการสอบทกั ษะการนาเสนองาน การใชส้ ื่อประกอบการนาเสนองาน 10 คะแนน การแต่งกาย / ความพร้อม 5 คะแนน เน้ือหาในการนาเสนอ 10 คะแนน ลีลาในการนาเสนอ 5 คะแนน การใชป้ ฏิภาณ,ไหวพริบ / การตอบปัญหา 5 คะแนน การรักษาเวลา 5 คะแนน

จบแล้วครับ อาจารย์ ดร.วีระ สุภะ [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook