Speaking and Presentation Arts หลกั การนาเสนอ อาจารย์ ดร.วรี ะ สุภะ [email protected]
ความหมายของการนาเสนอ การนาเสนอเป็ นกระบวนการส่ือสารในกล่มุคนจานวนหนึ่ง เพื่อโน้มน้าวใจให้ตดั สินใจร่วมกนั ในการปฏิบตั ิตามแนวทางทตี่ กลงกนั ไว้และส่งผลต่อภาพลกั ษณ์ ท้งั ทางบวกหรือลบ
ความแตกต่างระหว่างการนาเสนอ กบั การพูดในทช่ี ุมชนและการประชุมกล่มุ ย่อยการนาเสนอ (Presentation) แตกต่างจากการพดู ในที่ชุมชน (Public Speaking)2 ลกั ษณะ คือ1. จานวนสมาชิกทเี่ ป็ นผู้รับสาร2. เป้าหมายของการนาเสนอ
ความแตกต่างระหว่าง การนาเสนอกบั การพดู ในทช่ี ุมชน และ การประชุมกล่มุ ย่อยความแตกต่าง การนาเสนอ การพูดในทชี่ ุมชน การประชุมกล่มุ ย่อย (Presentation) (Public Speaking) (Group Discussion)กลุ่มผู้ฟัง การสื่อสารในกลุ่ม 100-10,000 คน กล่มุ ทมี่ ุ่งระดมความ คนจานวนหน่ึง คดิ เห็นของสมาชิกใน กลุ่ม
ความแตกต่าง การนาเสนอ การพดู ในทชี่ ุมชน การประชุมกล่มุ ย่อยเทคนิคการพดู (Presentation) (Public Speaking) (Group Discussion) มุ่งโนม้ นา้ วใจให้ ใชก้ ารโนม้ นา้ วใจ การอภิปรายใน ผรู้ ับสารอนุมตั ิ ชกั จูงใหผ้ ฟู้ ังคลอ้ ยตาม ประเดน็ ต่างๆเพื่อหา แนวทางปฏิบตั ิ และสนบั สนุนการ ขอ้ สรุป ตามท่ีเสนอไว้ ดาเนินงาน เพอื่ วตั ถุประสงคร์ ะยะส้ัน ผรู้ ับสารสามารถ ร่วมในการอภิปราย พูดบนเวที ในประเดน็ ท่ีผู้ นาเสนอสรุปได้ มีไมโครโฟนช่วย กระจายเสียง
ความแตกต่าง การนาเสนอ การพูดในทชี่ ุมชน การประชุมกล่มุ ย่อย(Presentation) (Public Speaking) (Group Discussion)เน้ือหา มีการมอบหมายใคร มีการเตรียมการไว้ ไม่มีการมอบหมายใครเป็นผนู้ าเสนอหรือ ลว่ งหนา้ เป็นผนู้ าเสนอหรือผรู้ ับ สารอยา่ งชดั เจนผรู้ ับสารอยา่ งชดั เจน กระบวนการนาเสนอมีหลายข้นั ตอน ตอ้ งคน้ ควา้ มีขอ้ มูลสนบั สนุนและใชอ้ ุปกรณ์ในการนาเสนอ
ความแตกต่าง การนาเสนอ การพดู ในทชี่ ุมชน การประชุมกลุ่มย่อยวตั ถุประสงค์ (Presentation) (Public Speaking) (Group Discussion) นาเสนอแนวคิดท่ี เพื่อความบนั เทิง เพอ่ื แกป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึน จะดาเนินการใน แลว้ อนาคต เพ่อื สร้างความเขา้ ใจ และภาพลกั ษณ์แก่ เพื่อประเมินผลงานใน ผเู้ สนอตอ้ งการการ บุคคล, หน่วยงาน อดีต สนบั สนุนจากผฟู้ ัง เพื่อดาเนินการต่อ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบของการนาเสนอองคป์ ระกอบหลกั ของการนาเสนอมี 3 ส่วน ไดแ้ ก่1. ผนู้ าเสนอ มืออาชีพ จาเป็ นต้องนาเสนอตามลกั ษณะอาชีพทท่ี า ผู้บริหาร บทบาทในการนาเสนอแตกต่างกนั ไปตามระดบั ช้ัน ท้งั ในและนอกองค์กร นักการเมือง/ตวั แทนประชาชน หน่วยงานทไี่ ม่แสวงหาผลกาไร/จัดกจิ กรรมเพ่ือส่วนรวม2. ผชู้ ม-ผฟู้ ัง คือกลุ่มท่ีผนู้ าเสนอคาดหวงั3. ส่ือหรือขอ้ มูล คือการรวบรวมภูมิปัญญา นามาเสนอแก่ผฟู้ ัง โดยผา่ นสื่อ เพอ่ื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีง่ายข้ึน
ประสิทธิภาพของการนาเสนอ ประกอบด้วยทกั ษะ 2 ประการ คือ1. การวางแผนและเตรียมข้อมูล (Planning and Organizing skills)2. ศิลปะการถ่ายทอดเนื้อหา (Delivery and Performance skills)
การวางแผนและเตรียมข้อมูล (Planning and Organizing skills)ประกอบดว้ ยข้นั ตอนสาคญั ดงั น้ี การกาหนดวตั ถุประสงค์ การศึกษา วเิ คราะห์ผ้รู ับสาร การรวบรวมข้อมูลแนวคดิ เพื่อสนับสนุนวตั ถุประสงค์ การเรียบเรียงข้อมูลตามลาดบั และความน่าสนใจ การเลือกใช้โสตทศั นูปกรณ์ การจดั สถานทต่ี ามความต้องการ
ศิลปะการถ่ายทอดเน้ือหา (Delivery and Performance skills)ประกอบดว้ ยความสามารถพิเศษของผนู้ าเสนอ เช่น ความมนั่ ใจในการส่ือสารกบั ผรู้ ับสาร ความเขา้ ใจในการใชว้ จั นภาษาและอวจั นภาษา การถา่ ยทอดอยา่ งมีประสิทธิภาพ การตอบคาถามและขอ้ เสนอแนะจากผรู้ ับสาร การฝึ กซอ้ มการนาเสนอและปรับปรุงแกไ้ ข
ปัจจยั ที่มีผลต่อการนาเสนอท่ีมีประสิทธิภาพ1. เป้าหมายของการนาเสนอ2. กลุ่มเป้าหมายของการนาเสนอ3. การจดั เตรียมสถานที่และอุปกรณ์
เป้าหมายของการนาเสนอ1. นาเสนอเพื่ออะไร • เช่น เพ่ือใหค้ วามรู้, โนม้ นา้ วใจใหซ้ ้ือสินคา้ , เพื่อสร้างการยอมรับในกลุ่ม ลูกคา้ , เพอ่ื แลกเปล่ียนประสบการณ์2. นาเสนอเรื่องอะไร • เรื่องของหน่วยงาน, ผลการดาเนินงาน, โครงการใหม่ ๆ, วธิ ีการดาเนินงาน, การพฒั นาในอนาคต3. นาเสนอใหใ้ ครฟัง • ผบู้ ริหาร, พนกั งาน, ลูกคา้ , นกั การเมือง, ส่ือมวลชน4. มีวิธีบรรลุเป้าหมายอยา่ งไร • แนะนาตวั , อธิบายคุณสมบตั ิของสินคา้ /บริการ, เสนอความคิดเห็น/ขอ้ มูล, เสนอโครงการ
กลุ่มเป้าหมายของการนาเสนอ1. ผฟู้ ังเป็นใคร, การศึกษาระดบั ใด, ทศั นคติต่อการฟัง, เป้าหมายของ การฟัง2. เพือ่ ช่วยกาหนดทิศทาง โครงร่างและเทคนิคการนาเสนอ โดยมีปัจจยั สาคญั ดงั น้ี วฒั นธรรมของกลุ่มผฟู้ ัง บางกลุ่มนิยมใหม้ ีมุขตลก เพอ่ื ไม่จริงจงั และน่าเบ่ือ, นิยมต้งั คาถามขณะนาเสนอ ภาษาในการนาเสนอ พดู ใหช้ า้ ลง, ใชภ้ าษาชดั เจน, หลีกเลี่ยงคากากวม สร้างความเชื่อมน่ั ผนู้ าเสนอตอ้ งสร้างความเชื่อมนั่ ใหก้ บั ผฟู้ ัง โดยการศึกษาหวั ขอ้ ท่ีนาเสนอ, มี ทศั นคติที่ดีต่อหวั ขอ้ ท่ีนาเสนอ
การจัดเตรียมสถานทแี่ ละอปุ กรณ์1. สถานที่ กาหนดขนาดของหอ้ งใหเ้ หมาะกบั จานวนผฟู้ ัง หอ้ งเลก็ สาหรับไม่เป็นทางการ หอ้ งใหญเ่ ป็น ทางการ2. โสตทศั นูปกรณ์ ตรวจสอบไมโครโฟน, ตาแหน่งการวางสื่อต่าง ๆ เพื่อหยบิ ใชส้ ะดวก, ทดสอบอุปกรณ์ ระบบ ไฟฟ้า3. เตรียมท่ีนง่ั ใหเ้ หมาะกบั ลกั ษณะของหอ้ ง, วตั ถุประสงคก์ ารนาเสนอและจานวนผฟู้ ัง เช่น รูปตวั U, แบบ หอ้ งเรียน, แบบโต๊ะกลม4. อุปกรณ์ประกอบการนาเสนอ เช่น บอร์ด กระดาษ แผน่ ใส คอมพวิ เตอร์กราฟฟิ ก
ข้นั ตอนการนาเสนอ1. กาหนดวตั ถุประสงคข์ องการนาเสนอ (Setting objectives)2. การวเิ คราะห์กลุ่มผฟู้ ัง (Analyzing audience)3. เรียบเรียงประเดน็ ที่จะนาเสนอ (Organizing the presentation)4. เขียนเน้ือหาเพอ่ื การนาเสนอ (Developing the script for presentation)5. การเลือกอุปกรณ์ประกอบการนาเสนอ6. การพดู เพ่อื ถ่ายทอดเน้ือหาประกอบการนาเสนอ (Delivery and performance)7. การตอบขอ้ ซกั ถาม (Handling questions)8. การประเมินผล (Evaluation)
กาหนดวตั ถุประสงค์ของการนาเสนอ (Setting objectives) ผเู้ สนอควรเขา้ ใจเป้าหมายของการนาเสนอเป็นอนั ดบั แรก เช่น เพ่ือส่งเสริมความรู้ ความเขา้ ใจ เพอ่ื โนม้ นา้ วใจใหส้ นบั สนุน เพ่อื สรุปผลการดาเนินงาน เพื่อใหผ้ ฟู้ ังร่วมกนั ตดั สินใจในทิศทางที่ไดเ้ สนอไว้ วตั ถุประสงคข์ องการนาเสนอท่ีดี เช่น สรุปใหไ้ ด้ 1-2 ประโยค ส้ัน กระชบั ไดใ้ จความ ปฏิบตั ิและบรรลุไดจ้ ริง
การวเิ คราะห์กลุ่มผู้ฟัง (Analyzing audience) เพอื่ กาหนดวธิ ีการโนม้ นา้ วใจใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของกลุ่มผฟู้ ัง แนวทางการวิเคราะห์กลุ่มผฟู้ ังของ Crouch&Waldron (1998) ศกึ ษาขนาดของผฟู้ ังและองคป์ ระกอบ ผฟู้ ังก่ีคน, อาชีพอะไร, ศาสนาใด, อายเุ ฉลี่ย, เพศ, สถานภาพทางเศรษฐกิจ แนวโนม้ ปฏิกิริยาโตต้ อบของผฟู้ ัง ทศั นคติต่อการฟัง, มาฟังเพอ่ื อะไร ระดบั ความรู้ความเขา้ ใจของผฟู้ ัง มีความรู้ในเร่ืองท่ีนาเสนอเพียงใด, เขา้ ใจในสารที่นาเสนอหรือไม่ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผนู้ าเสนอกบั ผฟู้ ัง เป็ นมิตร, ยอมรับ, ต่อตา้ น
เรียบเรียงประเด็นทจ่ี ะนาเสนอ (Organizing the presentation) การรวมองคป์ ระกอบยอ่ ย ๆ ของขอ้ มูลต่าง ๆ ใหก้ ลมกลืนกนั ได้ ใจความและเรียงลาดบั ตามความเหมาะสม การเรียบเรียงที่ดีสามารถโนม้ นา้ วใจใหผ้ ฟู้ ังคลอ้ ยตามการนาเสนอไดเ้ ร็ว หลกั การนาเสนอท่ีดี เน้ือหาเขา้ ใจง่าย ไม่ซบั ซอ้ น ไม่ควรเกิน 3-5 ประเดน็ เลือกเฉพาะขอ้ มูลท่ีมีความสาคญั เก่ียวขอ้ งกบั วตั ถุประสงคก์ ารนาเสนอ สรุปโครงร่างใหล้ ะเอียด เพอ่ื เป็ น final script มีประโยคเชื่อมระหวา่ งประเดน็
องคป์ ระกอบของการนาเสนอ 7 ส่วน1. หวั ขอ้ /เร่ือง/คาแนะนา สรุปสาระสาคญั ของเรื่องท่ีนาเสนอ2. ประเดน็ หลกั ดึงเรื่องท่ีสาคญั 1-3 ประเดน็3. หวั ขอ้ ยอ่ ยของประเดน็ หลกั สรุปประเดน็ ยอ่ ยสนบั สนุนประเดน็ หลกั4. เน้ือหา อธิบายรายละเอียดของแต่ละหวั ขอ้5. บทสรุป เนน้ ประเดน็ หรือสรุปเหตุผลท่ีตอ้ งการโนม้ นา้ วใจผฟู้ ัง6. เปิ ดโอกาสใหถ้ าม ผฟู้ ังไดแ้ สดงความคิดเห็น วจิ ารณ์7. เชื่อมประเดน็ หวั ขอ้ ยอ่ ยต่าง ๆ ใหผ้ ฟู้ ังเห็นความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ประเดน็ มกั แรกระหวา่ งหวั ขอ้ ยอ่ ยกบั เน้ือหา เช่น สืบเนื่องจาก อยา่ งไรกด็ ี ดงั น้นั ท้งั น้ี จากน้นั ในลาดบั ต่อไป ฯลฯ
เขียนเน้ือหาเพ่อื การนาเสนอ (Developing the script for presentation)แนวทางการเขียนเพอ่ื การนาเสนอ จาแนกได้ 3 ส่วน1. ส่วนนา • กลา่ วตอ้ นรับผฟู้ ัง, • แนะนาสถานท่ี/ผสู้ นบั สนุน • แนะนาประวตั ิผนู้ าเสนอ • สรุปวตั ถุประสงคก์ ารนาเสนอ • สรุประยะเวลาในการนาเสนอ, ช่วงเวลาการพกั การนาเสนอ • สรุปเป้าหมายการนาเสนอและหวั ขอ้ สาคญั , รูปแบบการนาเสนอคร่าว ๆ • ตอบขอ้ ซกั ถามเบ้ืองตน้ (ถา้ มี)
เขียนเน้ือหาเพื่อการนาเสนอ (Developing the script for presentation)2.ส่วนเน้ือหา สรุปประเดน็ หลกั อธิบายแต่ละประเดน็ โดยยกตวั อยา่ ง ดงั แนวทางต่อไปน้ี เรียงลาดบั ตามตวั เลข ตวั ยอ่ การสรุปประเดน็ ตามลกั ษณะปัญหา-แนวทางแกไ้ ข ตามประเดน็ หวั ขอ้ เรียบเรียงเน้ือหาใหช้ ดั เจนมีเหตุผล จากดั ประเดน็ หลกั ท่ีนาเสนอไม่เกิน 7 ประเดน็ ใชป้ ระโยคขนานลกั ษณะเดียวกนั เพ่อื จดจาง่าย หลีกเลี่ยงรายละเอียด เนน้ เฉพาะประเดน็ สาคญั ปรับเน้ือหาใหส้ อดคลอ้ งกบั เวลาท่ีมี เทคนิคเรียงลาดบั เหตุการณ์ เทคนิคจดั หมวดหมู่ เทคนิคเปรียบเทียบและช้ีใหเ้ ห็นขอ้ แตกต่าง
เขียนเน้ือหาเพื่อการนาเสนอ (Developing the script for presentation)3. ส่วนสรุป ความยาวของการสรุปไม่ควรเกิน 10% ของเน้ือหาการนาเสนอ ท้งั หมด เทคนิคการสรุปการนาเสนอของ Leech (1993) ย้าประเดน็ ท่ีสาคญั สรุปและเสนอแนะ เสนอแนวทางการปฏิบตั ิ กระตุน้ ใหผ้ ฟู้ ังเสนอวธิ ีแกป้ ัญหา ทิ้งทา้ ยใหผ้ ฟู้ ังไดค้ ิด สรุปวา่ ผลการดาเนินงานจะมีการนาเสนอต่อไปในอนาคต ผนู้ าเสนอควรสรุปสาระสาคญั และกล่าวขอบคุณผฟู้ ัง ก่อนปิ ดการ ประชุม
การเลือกอปุ กรณ์ประกอบการนาเสนอ เพื่อเป็นเครื่องมือในการโนม้ นา้ ว ชกั จูงใจใหผ้ ฟู้ ังสนใจเน้ือหามากข้ึน ควรเลือกอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกบั เน้ือหา, สถานที่ท่ีนาเสนอ อุปกรณ์ทุกประเภท มีท้งั ขอ้ ดีและขอ้ เสีย
การพดู เพอ่ื ถ่ายทอดเน้ือหาประกอบการนาเสนอ (Delivery and performance) ผนู้ าเสนอจะนาเสนอดว้ ยทกั ษะและศิลปะการพูด โดยใช้ หลกั วจั นและอวจั นภาษา การเตรียมการพูด การวิเคราะห์ผฟู้ ัง การพดู เพอ่ื นาเสนอต่างจากการพดู ทวั่ ไปท่ีจานวนผรู้ ่วมฟัง ผฟู้ ังในการพดู เพอื่ นาเสนอ (ไม่เกิน 100 คน) < การพดู ทว่ั ไป
การตอบขอ้ ซกั ถาม (Handling questions) เพ่ือเปิ ดโอกาสใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคิดเห็นและวจิ ารณ์เน้ือหาที่นาเสนอ และสร้างความเขา้ ใจกบั ผฟู้ ังในประเดน็ ที่ยงั ไม่ชดั เจน ควรตอบอยา่ งมีเหตุผล ใชค้ วามสุขมุ รอบคอบ เป็นมิตร จริงใจกบั ผฟู้ ัง ความคุมการโตแ้ ยง้ (ถา้ มี) ช้ีแจงอยา่ งนุ่มนวล หนกั แน่น ใชส้ นั ติวธิ ี
การประเมินผล (Evaluation)เพ่ือประเมินผลสาเร็จของการนาเสนอ สามารถประเมินได้ 2 ลกั ษณะ1. วดั จากผฟู้ ังวา่ ใหก้ ารสนบั สนุนหรือไม่2. วดั จากการออกแบบสอบถาม • ความรู้และทกั ษะของผนู้ าเสนอ • เน้ือหาการนาเสนอ ครบถว้ นหรือไม่ • สถานที่ เอกสาร เหมาะสมกบั หวั ขอ้ นาเสนอหรือไม่ • บริการอื่น ๆ เรียบร้อยหรือไม่
เกณฑ์การให้คะแนนการสอบทกั ษะการนาเสนองาน การใชส้ ่ือประกอบการนาเสนองาน 10 คะแนน การแต่งกาย / ความพร้อม 5 คะแนน เน้ือหาในการนาเสนอ 10 คะแนน ลีลาในการนาเสนอ 5 คะแนน การใชป้ ฏิภาณ,ไหวพริบ / การตอบปัญหา 5 คะแนน การรักษาเวลา 5 คะแนน
จบแล้วครับ อาจารย์ ดร.วีระ สุภะ [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: