Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.บทบาทนักประชาสัมพันธ์

2.บทบาทนักประชาสัมพันธ์

Published by ajwera, 2016-08-16 04:07:15

Description: 2.บทบาทนักประชาสัมพันธ์

Search

Read the Text Version

คณุ สมบตั ิ หน้าที่ และความรับผดิ ชอบบ ขบงนกั ประอาสัมพนั ธ์ อาจารย์ ดร.วีระ สุภะ [email protected]

แบบทดชสบบก่บนเรียนครั้งที่ 11. การดำเนินกำรประชำสมั พันธม์ กี ่ขี ้นั ตอน อะไรบ้ำง2. การศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลเพอื่ การประชาสมั พนั ธท์ าได้ โดยวิธีใด3. แผนทีด่ ใี นการประชาสมั พนั ธม์ ลี กั ษณะเป็ นอย่าไไร4. การสอื่ สารเพอื่ การประชาสมั พนั ธม์ ีลกั ษณะอย่าไไร5. การประเมนิ ผลในการประชาสมั พนั ธท์ าในข้นั ตอน ใดบา้ ไ

นกั ประอาสัมพนั ธ์(Public Relations Practitioner) คือ ผู้ท่ที ำหน้ำท่เี ป็นตัวประสำนหรือผู้ท่ที ำ หน้ำท่เี ป็นส่อื กลำงหรือผู้ท่อี ยู่กลำงใน กำรเช่ือมโยงข้อมูลข่ำวสำร และสร้ำงควำม เข้ำใจระหว่ำงองค์กรหรือหน่วยงำนกบั ประชำชน

คุณสมบตั ิขบงนกั ประอาสัมพนั ธ์แบ่งเป็น ๓ ด้ำน๑. ด้ำนควำมรู้๒. ด้ำนควำมคดิ๓. ด้ำนทกั ษะ

ด้านความรู้-ควำมร้ใู นระดับปริญญำ นเิ ทศศำสตร์ ประชำสมั พันธ์-รู้เร่ืองสนิ ค้ำ บริกำร ตลอดจนคู่แข่งและสถำนกำรณ์ บ้ำนเมอื ง-มคี วำมรู้ภำษำต่ำงประเทศ อำทิ ภำษำองั กฤษ จนี-รู้เร่ืองเทคโนโลยีเพ่ือกำรศึกษำ-พัฒนำตนเองโดยกำรเรียนร้อู ย่ำงสม่ำเสมอ ไม่ว่ำจะใน ระบบ และนอกระบบ นอกห้องเรียน

ด้านความคดิ-คดิ สร้ำงสรรคท์ ่อี ยู่ในกรอบศลี ธรรม จรรยำ และวฒั นธรรมท่ดี ี-มีวจิ ำรณญำณท่ดี ี ร้จู ักกำละเทศะ-รับผดิ ชอบต่อหน้ำท่กี ำรงำน-มีไหวพริบ ปฏภิ ำณดี ฉลำดหลกั แหลม ว่องไว-ทศั นคติดี มีใจรักงำนประชำสมั พันธ์-รักองค์กำรท่ตี นทำงำนอยู่-อดทนและม่งุ ม่ัน-รสนยิ มท่ดี ี ท้งั กำรแต่งกำย กำรทำงำนอย่ำงมศี ลิ ปะ-ยึดม่ันในจรรยำบรรณวิชำชีพ (จะกล่ำวในบทต่อไป)

ด้านทกั ษะ-ทกั ษะกำรส่อื สำร ฟัง พูด อ่ำน เขยี น-ทกั ษะในกำรบริหำรเวลำ ทำงำนหลำยอย่ำงใน เวลำเดียวกนั-ทกั ษะในกำรวำงแผนงำนประชำสมั พันธ์-ทกั ษะในกำรติดต่อสมั พันธก์ บั ผู้อ่นื-ทกั ษะในกำรทำงำนเป็นทมี

ดช้านความเป็ นนักวิอาอีพประอาสัมพนั ธ์-ควำมสำมำรถทำงประชำสมั พันธ์-มีอำนำจในกำรตัดสนิ ใจในระดบั สงู-ดำเนินกำรประชำสมั พันธเ์ พ่ือองคก์ ำร-ทกั ษะสำคัญ-ตำแหน่งงำนประชำสมั พันธ์-หน้ำท่ตี ่อวงกำรและองค์กำร-ควำมสำมรถทำงด้ำนกำรวิจัย-จรรยำบรรณ หลกั ปฏบิ ตั ิ-พ้ืนฐำนกำรศกึ ษำและฝึกอบรม

-ควำมสำมำรถเฉพำะตัวในกำรทำงำนประชำสมั พันธ์-กำรรับรองสถำนภำพส่วนตัว-งำนมคี วำมสำคญั เหน็ คุณค่ำของงำน-กำรได้รับกำรยอมรับ-โอกำสในกำรปฏบิ ัติงำนประชำสมั พันธ์-มีประสบกำรณท์ ำงำนประชำสมั พันธส์ งู

บทบาท หน้าท่ีและความรับผดิ ชอบบ ขบงนกั ประอาสัมพนั ธ์๑. บทบาททาไดา้ นการจดั การ๒. บทบาททาไดา้ นสอื่ มวลชนสมั พนั ธ-์ ประสานการ สอื่ สาร๓. บทบาททาไดา้ นเทคนคิ การสอื่ สาร๔. บทบาททาไดา้ นสอื่ สารประชาสมั พนั ธ์๕. บทบาททาไดา้ นวิจยั -ประเมนิ ผล๖. บทบาททาไดา้ นการเป็ นตวั แทน-โฆษกขอไอไคก์ ร

สมาคมการประชาสมั พนั ธ์แห่งสหรฐั อเมรกิ า Public Relations Society of America๑. กำรเขยี น (Writing)๒. แก้ไขตัดแต่งบทควำม (Editing)๓. ดำเนินกำรส่อื สำร (Placement)๔. กำรสง่ เสริมเผยแพร่ (Promotion)๕. ปำฐกถำ (Speaking)๖. ผลิตและเผยแพร่ผลงำน (Production)๗. จัดทำรำยกำร (Programming)๘. กำรโฆษณำสถำบนั (Institutional advertising)

อมุ อนสัมพนั ธ์ Community Relationsกำรทำชุมชนสมั พันธ์ กค็ ือ กำรท่อี งคก์ รหรือกจิ กำรสร้ำง ควำมสมั พันธ์ และควำมเข้ำใจท่ดี ีกบั ชุมชนทเ่ี ก่ยี วข้อง รวมท้งั ต้องหำวิธชี ักชวนให้พวกเขำมำเป็นพวกเรำ เพ่ือ เขำจะได้สนบั สนุนเรำ เป็นกำรดำเนนิ งำนในลักษณะกำร “ก่อ” และ “กนั ”

อมุ อนสัมพนั ธ์ Community Relationsวตั ถุประสไคข์ อไการทาชมุ ชนสมั พนั ธ์ เพอื่ สรา้ ไความสมั พนั ธท์ ีด่ ีกบั ประชาชนในชมุ ชน เพอื่ สรา้ ไความนยิ มเชือ่ ถอื จากประชาชนในชมุ ชน เพอื่ เสริมสรา้ ไความสามคั คีระหว่าไอไคก์ รกบั ชมุ ชน เพอื่ รบั ทราบขอ้ คิดเห็น และความตอ้ ไการขอไชมุ ชน เพอื่ ร่วมมอื กบั ชุมชนในการดาเนินกิจกรรมทีเ่ ป็ นประโยชน์ ร่วมกนั เพอื่ แสดไบทบาทการเป็ นพลเมอื ไดีขอไอไคก์ ร

อมุ อนสัมพนั ธ์ Community Relationsวิธีการทาชมุ ชนสมั พนั ธ์ ศกึ ษาลักษณะของชุมชน ศกึ ษาความต้องการของชุมชน เข้าพบผู้นาชุมชน เสนอโครงการต่อชุมชน มีบทบาทในการเสริมสร้ างชุมชน ต้องดาเนินกิจกรรมอย่างต่อเน่ือง

อมุ อนสัมพนั ธ์ Community Relationsขอ้ ควรคานไึ ถไึ ต้องระวังการจดั สรรงบประมาณ หรือการสนองตอบ ความต้องการของกลุ่มชุมชนต่างๆ โดยต้องจดั สรรให้ เท่าเทยี มกนั ทกุ กลุ่ม ต้องมีความจริงใจต่อชุมชน ควรจัดกิจกรรมท่มี ีความสอดคล้องกบั เหตกุ ารณ์ หรือ กิจการขององค์กร

ส่ืบมวลอนสัมพนั ธ์ Media Relationsวิธีการทาไานดา้ นสอื่ มวลชนสมั พนั ธ์ 1. กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั ส่อื มวลชน  นโยบายด้านขา่ วของสื่อมวลชนชนิดตา่ งๆ  หนงั สอื พิมพ์ฉบบั ไหน รายการขา่ วสถานีใดเป็นแบบคณุ ภาพ (Popular) หรือ ปริมาณ (Quality)  รายช่ือ ตาแหนง่ นกั ขา่ ว ผ้บู ริหารหนงั สื่อ  ข้อมลู สว่ นตวั นกั ขา่ ว เชน่ ความสนใจ ทศั นคติตอ่ บางประเด็น  จานวนผ้อู า่ น ผ้ชู ม หรือผ้ฟู ัง (Audience Coverage or Rating)

ส่ืบมวลอนสัมพนั ธ์ Media Relationsวิธีการทาไานดา้ นสอื่ มวลชนสมั พนั ธ์ 2. กำรให้ข่ำวสำรแก่ส่อื มวลชน 3. รูปแบบกำรเผยแพร่ข้อมลู ข่ำวสำรให้ส่อื มวลชน - ข่าวประชาสัมพนั ธ์ (Press Release) - ภาพข่าว (Photo Release หรือ Photo News) - การจดั ทาบทความและสารคดี (Article and Feature)

ส่ืบมวลอนสัมพนั ธ์ Media Relationsวิธีการทาไานดา้ นสือ่ มวลชนสมั พนั ธ์ 3. รูปแบบการเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสารใหส้ ือ่ มวลชน - แฟ้มข้อมูลสาหรับส่ือมวลชน (Press Kit) - การแถลงข่าว (Press Conference) - การจัดให้สมั ภาษณ์ (Press Interview/ Exclusive Interview) - การจัดให้มรี ายการปฐมทศั น์สาหรับส่ือมวลชน (Press Preview)

สื่บมวลอนสัมพนั ธ์ Media Relationsวิธีการทาไานดา้ นสอื่ มวลชนสมั พนั ธ์ 3. รปู แบบกำรเผยแพร่ข้อมูลข่ำวสำรให้ส่อื มวลชน - การจัดให้เย่ยี มชมกจิ การ (Press Visit/ Press Tour) - การจัดอบรมสมั มนา (Seminar) - การตอบคาถามนักข่าว

ส่ืบมวลอนสัมพนั ธ์ Media Relationsวิธีการทาไานดา้ นสอื่ มวลชนสมั พนั ธ์ 4. การสร้างความสัมพนั ธ์กบั ส่ือมวลชน 5. การอานวยความสะดวกให้ส่อื มวลชน 6. การตดั ข่าว (News Clipping)

การประชาสัมพนั ธ์กบั การส่ือสารการตลาดแบบผสมผสาน Public Relations and Integrated Marketing Communication ความสาคัญ การใช้การประชาสมั พนั ธ์เพ่อื สร้างภาพลกั ษณ์ทด่ี ใี ห้กบั สินค้า ข้อมลู ท่จี ะเผยแพร่เพือ่ สร้างคณุ คา่ เพ่ิม (Value Added) สนิ ค้า และ คณุ คา่ ตราสนิ ค้า (Brand Value) สร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งราคากบั คณุ คา่ (Price-Value Relationship)

การประชาสัมพนั ธ์กับการส่ือสารการตลาดแบบผสมผสาน Public Relations and Integrated Marketing Communication ความสาคญั ทาให้ผู้บริโภคมีความภมู ิใจท่จี ะใช้สินค้าดงั กล่าว ทาให้ผู้บริโภคเกดิ ความเช่ือถอื สินค้ามากกว่าการโฆษณา กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ซ่งึ ปกตเิ สียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการโฆษณา การตลาดเชิงสังคม (Social Marketing) มีความสาคัญมากขนึ้ เร่ือยๆ ทา ให้องค์กรต้องพยายามแสดงถงึ ความเป็ นประชากรท่ดี ี (Good Corporate Citizen)

การประชาสัมพนั ธ์กับการส่ือสารการตลาดแบบผสมผสาน Public Relations and Integrated Marketing Communication ความสาคัญ การทาธุรกจิ ต้องตัง้ อยู่บนพนื้ ฐานของความจริงใจและการเอาใจใส่ดูแลสังคม ซ่งึ กจิ กรรมและการดาเนินงานในด้านดงั กล่าวต้องได้รับการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเน่ือง ธุรกจิ ต่างๆ จะต้องหาโอกาสให้สินค้าของตนปรากฏในส่ือต่างๆ เพ่ือให้ ผู้บริโภคได้รู้จักและคุ้นเคย ธุรกจิ จะต้องมีการบริหารข่าวเชงิ ยุทธ์ เพ่ือให้ข่าวสารเร่ืองราวท่ีดีๆ ของ องค์กร ของสนิ ค้า และของผู้บริหารองค์กรได้รับการนาเสนอสู่สาธารณชน

การประชาสัมพนั ธ์กับการส่ือสารการตลาดแบบผสมผสาน Public Relations and Integrated Marketing Communicationการดาเนนิ ไาน 1. ศึกษาและทาความเขา้ ใจแนวความคิด 2. การวาไแผนประชาสมั พนั ธส์ นบั สนุนการตลาด 3. ทาการสอื่ สารตามแผน 4. ประเมินผล

แบบทดสอบหลงั เรยี น ครง้ั ที่ 11. การทีจ่ ะเป็ นนกั ประชาสมั พนั ธท์ ีด่ คี วรมีคุณสมบตั ิ ดา้ นใดบา้ ไ2. อธิบาย บทบาท หนา้ ทีแ่ ละความรบั ผดิ ชอบ ขอไนกั ประชาสมั พนั ธ์ พรอ้ มยกตวั อย่าไประกอบ3. ใหน้ กั ศึกษาทาการประชาสมั พนั ธ์ สาขาวิชา เทคโนโลยกี ารโฆษณาและประชาสมั พนั ธ์ คณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมไคล ตะวนั ออก วิทยาเขต จกั รพไษภูวนาถ ตามข้นั ตอน และขอ้ มูลทีไ่ ดศ้ ึกษามา













จบแล้วครบั [email protected]://www.facebook.com/tum.wera 16 ส.ค. 59


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook