โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง เครอ่ื งจ่ายแอลกอฮอล์อัตโนมัติ ( Automatic Alcohol Dispenser ) จัดทำโดย 1. นำยเดชำวตั แก้วโก เลขที่ 6 2. นำงสำวชนม์นิภำ วังสำร เลขที่ 14 3. นำงสำวณัฐกฤตำ พันธุ์เหม เลขท่ี 16 4. นำงสำวมณฑกำนต์ กนั ธรุ ะ เลขท่ี 23 5. นำงสำวหฤทชญำ แสงเข่ือนแกว้ เลขท่ี 29 6. นำงสำวธนธรณ์ ทฆี ำวงค์ เลขท่ี 34 เสนอ นำยดำรงค์ คันธะเรศย์ รำยงำนโครงงำนคอมพวิ เตอร์เลม่ นี้เปน็ ส่วนหน่ึงของรำยวิชำ I30201 : IS1 กำรศึกษำคน้ คว้ำและกำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ (Independent Study) โรงเรียนปวั ภำคเรียนที่ 1 ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 5/1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 สำนกั งำนเขตพืน้ ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำ เขต 37
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เครอ่ื งจา่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ ( Automatic Alcohol Dispenser ) จดั ทำโดย 1. นำยเดชำวัต แกว้ โก เลขที่ 6 2. นำงสำวชนมน์ ภิ ำ วงั สำร เลขที่ 14 3. นำงสำวณัฐกฤตำ พนั ธุ์เหม เลขท่ี 16 4. นำงสำวมณฑกำนต์ กนั ธรุ ะ เลขท่ี 23 5. นำงสำวหฤทชญำ แสงเข่ือนแก้ว เลขท่ี 29 6. นำงสำวธนธรณ์ ทีฆำวงค์ เลขที่ 34 เสนอ นำยดำรงค์ คนั ธะเรศย์ รำยงำนโครงงำนคอมพวิ เตอร์เลม่ นเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของรำยวชิ ำ I30201 : IS1 กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ และกำรสรำ้ งองค์ควำมรู้ (Independent Study) โรงเรยี นปวั ภำคเรยี นท่ี 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 5/1 ปกี ำรศกึ ษำ 2564 สำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ เขต 37
ก คานา โครงงำนเล่มน้เี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของวิชำ I30201 : IS1 กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงองค์ ควำมรู้ (Independent Study) สำหรับนกั ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 5 จดั ทำขึน้ เพื่อทำควำมสะอำด และปอ้ งกันแบคทีเรยี ซึง่ เปน็ ต้นกำเนดิ ของโรคตำ่ ง ๆ โดยไรก้ ำรสัมผัส ให้กบั นกั เรยี นและบคุ ลำกร ภำยในโรงเรยี นปัว โดยรำยงำนโครงงำนเล่มนี้จะมเี นื้อหำเก่ียวกบั กำรจัดทำโครงงำน ซ่ึงจะมีบอกใน เรือ่ งของท่ีมำและควำมสำคญั ในกำรทำโครงงำนน้ี เอกำรทีเ่ กยี่ วข้อง ขั้นตอนกำรดำเนินงำน ผลกำร ดำเนนิ งำนของโครงงำน ดงั นนั้ ผจู้ ัดทำจึงได้ทำจงึ ไดส้ ร้ำงเครื่องจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ขิ ึ้นมำเพ่อื ใช้ในกำร แกป้ ัญหำในกำรใช้ขวดกดเจลแบบเก่ำและเป็นลดกำรตดิ ตอ่ โรคทำงกำรสมั ผัส ผจู้ ดั ทำหวงั เปน็ อย่ำงย่ิงวำ่ โครงงำนเล่มนีจ้ ะสำมำรถช่วยเพิ่มควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ แก่ผู้อ่ำน หรือนักเรียน นกั ศึกษำ ที่กำลังหำข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หำกมีข้อแนะนำหรอื ขอ้ ผดิ พลำดประกำรใด ผูจ้ ัดทำ ขอน้อมรับไวแ้ ละขออภัยมำ ณ ทนี่ ้ดี ้วย คณะผจู้ ดั ทำ
ข หัวข้อของโครงงาน : เครอ่ื งจำ่ ยแอลกอฮอลอ์ ัตโนมตั ิ ( Automatic Alcohol Dispenser ) ประเภทของโครงงาน : โครงงำนคอมพวิ เตอร์ ผูเ้ สนอโครงงาน : นำยเดชำวตั แก้วโก และคณะ ครทู ปี่ รกึ ษาโครงงาน : นำยภคพล วฒั นะ และ นำยดำรงค์ คันธะเรศย์ ปกี ารศึกษา : 2564 บทคดั ยอ่ กำรทำโครงงำนนม้ี วี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อ 1) สร้ำงและประสิทธิภำพชุดกดขวดเจลล้ำงมอื อัตโนมตั ิ และ 2) หำควำมพงึ พอใจของผู้ใช้ชุดกดขวดเจลล้ำงมืออัตโนมตั ิโดยมกี ลมุ่ เปำ้ หมำย ได้แก่ นักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5/1 โรงเรียนปัว จำนวน 36 คน และนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 5/2 โรงเรยี นปัว จำนวน 40 คน เคร่อื งมือท่ใี ช้ในกำรวเิ ครำะห์ผล คือ 1) แบบทดสอบหำประสิทธกิ ำรทำงำนของ เคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์อตั โนมัติ 2) แบบประเมนิ หำควำมพงึ พอใจของผใู้ ช้เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์ อัตโนมตั ิ สถติ ทิ ่ีใชใ้ นวเิ ครำะห์ผล คือ คำ่ เฉลยี่ และคำ่ เบี่ยงเบนมำตรฐำน จำกกำรทำแบบสอบถำม พบวำ่ 1) กำรทดสอบหำประสทิ ธิภำพกำรทำงำนของเคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ สำมำรถจำ่ ยเจล แอลกอฮอล์ใหท้ ำงำนออกใชง้ ำนได้ดีทุกครง้ั และของเคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิสำมำรถจ่ำยเจล ใชง้ ำนไดจ้ นหมดขวด มคี ำ่ เฉลีย่ เท่ำกบั 85 ครงั้ 2) กำรหำควำมพงึ พอใจของผูใ้ ช้ของเคร่ืองจ่ำย แอลกอฮอล์อตั โนมัติพบวำ่ ประสิทธภิ ำพกำรทำงำนของของเคร่อื งจ่ำยแอลกอฮอล์อตั โนมัติสรปุ ภำพ โดยรวมอยู่ใน ระดบั มำก ค่ำเฉลี่ย 4.52
ค กิตติกรรมประกาศ โครงงำนเรอื่ งน้ีประกอบดว้ ยกำรดำเนินงำนหลำยข้นั ตอน นับตัง้ แต่กำรศกึ ษำหำข้อมูล กำรทดลอง กำรวิเครำะหผ์ ลกำรทดลอง กำรจัดทำโครงงำนเป็นรปู เลม่ จนกระทั่งโครงงำนนีส้ ำเรจ็ ลุลว่ งไปได้ด้วยดี ตลอดระยะเวลำดงั กลำ่ วคณะผู้จดั ทำโครงงำนได้รบั ควำมชว่ ยเหลือและคำแนะนำ ในดำ้ นตำ่ งๆ ตลอดจนได้รบั กำลังใจจำกบุคคลหลำยท่ำน คณะผูจ้ ัดทำตระหนักและซำบซึ้งในควำม กรุณำจำกทุกๆท่ำนเป็นอย่ำงย่ิง ณ โอกำสน้ี ขอขอบคุณทุกๆ ทำ่ น ดงั นี้ กรำบขอบพระคุณ คณุ ครูภคพล วฒั นะ ผใู้ ห้คำแนะนำและไดเ้ มตตำใหค้ วำมช่วยในทุกๆ ด้ำน ตลอดจนเอ้ือเฟอ้ื ห้องปฏิบัตกิ ำรและเคร่ืองมือต่ำงๆในกำรทำโครงงำนน้ีจนประสบควำมสำเร็จ กรำบขอบพระคุณ คณุ ครูดำรงค์ คันธะเรศย์ ที่ให้ควำมอนเุ ครำะห์ และใหค้ วำมชว่ ยเหลอื ใน ด้ำนต่ำงๆ ทีค่ อยดูแลเอำใจใส่และใหค้ ำปรึกษำอย่ำงดี ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ท่ีไดใ้ ห้ควำมชว่ ยเหลอื ในกำรทำโครงงำน ท้ำยทส่ี ดุ ขอกรำบขอบพระคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ผู้เป็นที่รัก ผู้ให้กำลังใจและให้โอกำส กำรศึกษำอนั มคี ่ำย่ิง คณะผ้จู ดั ทำ
สารบญั ง คำนำ หน้า บทคัดย่อ กิตติกรรมประกำศ ก สำรบญั ข สำรบัญตำรำง ค สำรบัญภำพ ง บทที่ 1 บทนำ ฉ ช ทีม่ ำและควำมสำคัญ วตั ถปุ ระสงค์ 1 ขอบเขตของโครงงำน 2 ปัญหำ 2 สมมตฐิ ำน 2 นิยำมศพั ท์เฉพำะ 3 ผลทีค่ ำดวำ่ จะได้รบั 3 บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจยั ท่เี กี่ยวข้อง 3 โควิด 19 วธิ ีกำรป้องกนั โควดิ 19 4 ประเภทของแอลกอฮอล์ 7 กำรฆำ่ เชอื้ ของเจลแอลกอฮอล์ 9 โปรแกรมท่ีใชเ้ ขียนโค้ด 12 ระบบกำรทำงำนของเครอ่ื งจ่ำยอตั โนมัติ 15 บทที่ 3 อุปกรณแ์ ละวธิ ีกำรดำเนนิ งำน 16 ประชำกรและกลุม่ ตัวอย่ำง ขน้ั ตอนกำรสร้ำงเครื่องจำ่ ยเจลอตั โนมตั ิ 21 กำรวเิ ครำะหผ์ ลและสถิตทิ ี่ใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ผล 22 23
สารบัญ(ตอ่ ) จ บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำน หน้า บทที่ 5 สรปุ ผลกำรดำเนินงำน 26 29 สรุปผลกำรดำเนนิ งำน 29 ประโยชน์ที่ไดร้ บั 29 ปญั หำและอุปสรรค 29 ข้อเสนอแนะ 30 บรรณำนุกรม 31 ภำคผนวก
สารบญั ตาราง ฉ ตารางท่ี หน้า 26 ตำรำงที่ 4.1 ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถำม 27 ตำรำงที่ 4.2 ประสิทธภิ ำพของเครอ่ื งจ่ำยแอลกอฮอล์อตั โนมัติ 27 ตำรำงที่ 4.3 ระดบั ควำมพึงพอใจ
สารบญั ภาพ ช ภาพที่ หน้า ภำพท่ี 1 Coronaviruses 4 ภำพท่ี 2 เมทำนอล 10 ภำพที่ 3 เอทำนอล 11 ภำพที่ 4 ไอโซโพรพำนอล 11 ภำพท่ี 5 บวิ ทำนอล 12 ภำพที่ 6 Arduino 15 ภำพท่ี 7 kidbright IDE 16 ภำพที่ 8 เครือ่ งจกั รอตั โนมตั ิ 17 ภำพท่ี 9 Proximity Sensors 18 ภำพที่ 10 เซนเซอรต์ รวจจบั วัตถุ 19 ภำพที่ 11 เซนเซอร์วดั ควำมดัน (Pressure sensors) 20 ภำพท่ี 12 วัสดุ อุปกรณ์ ในกำรทำโครงงำน 32 ภำพท่ี 13 ทดลองระบบเซน็ เซอร์ 33 ภำพท่ี 14 คณะผ้จู ดั ทำโครงงำน 34 ภำพท่ี 15 ลกั ษณะภำยในตวั เครอ่ื งหลงั ประกอบเสรจ็ 35
บทที่ 1 บทนา 1.1 ทมี่ าและความสาคญั โรคโควิด-19 (COVID-19, ยอ่ จำก Coronavirus disease 2019) เปน็ โรคตดิ เชื้อทำงเดิน หำยใจทเ่ี กิดจำกไวรัสโคโรนำท่กี ลำยพันธุ์ในธรรมชำตเิ ปน็ สำย พันธ์ใุ หม่ ซึง่ มชี ื่อทำงกำรว่ำ SARS- CoV-2 ทำให้เกิด ไข้ ไอ และอำจมปี อดอักเสบเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ่ (CoVs) เปน็ ไวรัสชนิดอำร์เอ็นเอสำย เดยี่ ว (single stranded RNA virus) ใน Family Coronaviridae มีรำยงำนกำรพบเชือ้ มำต้ังแตช่ ว่ ง ปี ค.ศ. 1965 โดยสำมำรถติดเช้ือไดท้ ั้งในคนและสตั ว์ เชน่ หนู ไก่ วัว ควำย สนุ ขั แมว กระต่ำย และ สกุ ร ประกอบด้วยชนิดย่อยหลำยชนิดและทำใหม้ ีอำกำรแสดงในระบบต่ำงๆ เช่น ระบบทำงเดิน หำยใจ (รวมถึงโรคทำงเดนิ หำยใจเฉยี บพลันรุนแรง หรือซำร์ส; SARSCoV) ระบบทำงเดินอำหำร ระบบประสำท หรือระบบอ่นื ๆ ซ่ึงกำรแพร่ของเช้ือไวรสั น้ีมีกำรระบำดใหญไ่ ปทว่ั ส่งผลกระทบแก่ หลำยประเทศท่ัวโลก ทำใหส้ ถำนกำรณ์ในสงั คมไทยไมส่ ำมำรถหลีกเลยี่ งปญั หำเรือ่ งเชอ้ื โรคไดเ้ ลย เรำ ยงั ตอ้ งออกไปสัมผสั มลภำวะ เชื้อแบคทีเรยี ทำให้ตดิ เชื้อโรคและมีโอกำสที่จะล้มป่วยได้ซ่ึงมีควำม เปน็ ไปได้สูงทีจ่ ะเกดิ ขึ้น เพรำะในชีวติ ประจำวันของเรำส่วนมำกจะใชม้ ือในกำรดำรงชีวิตประจำวนั ของเรำส่วนใหญ่ เช่น รบั ประทำนอำหำร, สัมผัส กับผอู้ นื่ ฯลฯ ซง่ึ ทำให้ผทู้ สี่ ัมผัสใกลช้ ดิ กบั ผตู้ ิดเช้อื หรือ อำจจะสัมผัสกับเชื้อที่ออกมำกับสง่ิ คัดหล่งั จำกระบบหำยใจของผ้ปู ว่ ย (น้ำลำย เสมหะ น้ำมูก) แลว้ อำจจะนำเข้ำสู่ ร่ำงกำยทำงปำก จมูก ตำ (อวัยวะทมี่ เี ยื่อเมือกบ)ุ โดยได้อยู่ในชมุ ชนท่ีมผี ู้ป่วยอยู่ ด้วย โดยไม่ระมดั ระวังเพียงพอ ตำมคำแนะนำจำกหน่วยงำนสำธำรณสุขในพนื้ ท่วี ธิ ีปอ้ งกนั กำรแพร่ระบำดของโรคโควดิ -19 ล้ำงมอื บ่อยๆ ดว้ ยสบู่และ หรือเจลลำ้ งมือทม่ี ีส่วนผสมหลักเปน็ แอลกอฮอล์รกั ษำระยะห่ำงที่ ปลอดภัยจำกผู้ท่ีไอหรือจำมไมส่ มั ผสั ตำ จมูก หรอื ปำกปิดจมกู และปำก ด้วยข้อพับด้ำนในขอ้ ศอกหรือ กระดำษชำระเม่ือไอหรือจำมเก็บตัวอยูบ่ ำ้ น โดยกำรล้ำงมือ ด้วยนำ้ และสบู่ ใหท้ ั่ว และนำนพอ (ประมำณ 20 วินำที) และเช็ดมือให้ แหง้ –กำรลำ้ งมือด้วยน้ำและสบู่จะกำจัดครำบสกปรก และฆำ่ เชอื้ ไวรสั ไม่จำเป็น ต้องใช้สบูท่ ่ผี สมสำรฆ่ำเชอื้ –ถำ้ ไม่มีน้ำและสบู่ จงึ ใช้แอลกอฮอล์(60-70 % ซึง่ มัก อยูใ่ นรปู เจล หรือสเปรย์) ทำทัว่ มือท่ีไม่เปยี กเพ่ือฆ่ำเชื้อโรค
2 คณะผู้จัดทำเล็งเหน็ ถึงปัญหำของขวดกดเจลธรรมดำที่ใชใ้ นท่วั ไปทม่ี ักเปน็ กำรกดเจลเองซงึ่ ยังมีกำรสมั ผสั อยู่ทำใหส้ ่งิ สกปรกนน้ั ไปติดอยทู่ ต่ี วั ป๊ัมดว้ ยเหตุนี้คณะผจู้ ัดทำเลยคดิ เคร่อื งจ่ำยเจล แอลกอฮอล์อัตโนมัติเพื่อให้อำนวยควำมสะดวกในกำรใช้ กำรสรำ้ งเครือ่ งจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมัติ ขึน้ เพ่ือใชง้ ำนได้จรงิ เพื่อควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนที่ หลีกเลย่ี งไม่ไดเ้ พรำะกำรทำงำนเซอรว์ ิสพบ เจอผู้คนหลำกหลำยและจับซ้อมสิ่งของต่ำงๆทีห่ ลีกเลย่ี งไม่ได้ 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื สรำ้ งและหำประสิทธิภำพของเคร่ืองกดแอลกอฮอล์แบบอตั โนมัติ 1.2.2 เพอ่ื ป้องกันกำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) จำกกำร สัมผัสขวดเจลแอลกอฮล์ 1.2.3 เพื่อหำควำมพึงพอใจของผู้ใชท้ ่ีมตี ่อกำรใช้เครอ่ื งกดเจลอตั โนมัติ 1.3 ขอบเขตของโครงาน ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง ประชำกรทใี่ ชใ้ นกำรศึกษำครั้งนี้ คือ นักเรยี นโรงเรียนปวั ทุกระดับชั้น สำนักงำนเขต พ้ืนที่กำรศกึ ษำมัธยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 กลมุ่ ตัวอย่ำงทดลอง ทใี่ ช้ในกำรศกึ ษำ หำประสทิ ธิภำพของ Automatic Alcohol Dispenser (เครอ่ื งจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ) คือ นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5/1 โรง เรียนปวั จำนวน 36 คน กลมุ่ ตัวอยำ่ งจริง ท่ีใชใ้ นกำรศึกษำ หำประสิทธภิ ำพของ Automatic Hand Sanitizer Machine (เครือ่ งจำ่ ยแอลกอฮอล์อตั โนมตั )ิ คือ นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ 5/2 โรง เรียนปัว จำนวน 40 คน 1.4 ปญั หา นักเรียนโรงเรยี นปัวไม่เห็นถงึ ควำมสำคญั ต่อกำรใช้เจลแอลกอฮอล์ในกำรลำ้ งมือ
3 1.5 สมมตฐิ าน กำรใชเ้ จลแอลกอฮอล์ในกำรล้ำงมือจะช่วยใหน้ ักเรียนโรงเรียนปวั มีควำมเส่ียงตอ่ กำรตดิ เชอื้ ไวรสั โควดิ -19 น้อยลง รวมถึงปอ้ งกันเช้ือไวรสั อื่นๆ 1.6 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ ประสทิ ธภิ ำพ หมำยถึง ควำมคงทน ควำมแขง็ แรงของผลิตภัณฑ์ อัตรำกำรฉีด ควำมแม่นยำ้ ในกำรตรวจจบั ของเซ็นเซอร์ และ ควำมเร็วของกำรตอบสนองของเคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์ วดั ผลโดย แบบประเมินควำมพงึ พอใจของผใู้ ชง้ ำนจรงิ 1.7 ผลทีค่ าดวา่ จะได้รบั 1.7.1 สำมำรถเป็นครื่องจำ่ ยแอลกอฮอลท์ ีใ่ หค้ วำมสะดวกสบำยแก่ผู้ใชไ้ ด้ 1.7.2 สำมำรถลดกำรแพร่กระจำ่ ยของเชื้อไวรสั โคโรนำ่ (COVID-19) จำกกำรสัมผัสขวดเจล แอลกอฮอล์ได้
บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ยี วขอ้ ง ในกำรศึกษำครง้ั นไี้ ด้ศึกษำเอกสำรทีเ่ กี่ยวข้องกบั โครงงำนและกำรสรุปได้ ดังน้ี 2.1 โควดิ 19 2.2 วิธกี ำรปอ้ งกนั โควิด 19 2.3 ประเภทของแอลกอฮอล์ 2.4 กำรฆ่ำเชื้อของเจลแอลกอฮอล์ 2.5 โปรแกรมท่ใี ชเ้ ขยี นโค้ด 2.6 ระบบกำรทำงำนของเคร่ืองจำ่ ยอัตโนมตั ิ 2.1 โควิด 19 2.1.1 ไวรัสโคโรน่าคืออะไร ไวรสั โคโรนำเปน็ ไวรสั ในวงศ์ใหญ่ที่เปน็ สำเหตขุ องโรคทัง้ ในสัตว์และคน ในคนนนั้ ไวรัสโคโร นำหลำยสำยพนั ธ์ุทำให้เกิดโรคระบบทำงเดนิ หำยใจตง้ั แต่โรคหวัดธรรมดำจนถงึ โรคทม่ี ีอำกำรรุนแรง เชน่ โรคทำงเดนิ หำยใจตะวันออกกลำง (MERS) และโรคระบบทำงเดินหำยใจเฉียบพลันร้ำยแรง (SARS) ไวรัสโคโรนำทค่ี ้นพบลำ่ สดุ ทำให้เกดิ โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโควิด 19 ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) ภำพท่ี 1 Coronaviruses ( ทมี่ ำ : who world health organization )
5 2.1.2 โรคโควิด 19 คอื อะไร โรคโควิด 19 คือโรคตดิ ต่อซึ่งเกิดจำกไวรสั โคโรนำชนดิ ทม่ี ีกำรคน้ พบลำ่ สดุ ไวรสั และโรคอบุ ตั ิ ใหม่น้ไี มเ่ ปน็ ท่รี ู้จกั เลยกอ่ นทจ่ี ะมกี ำรระบำดในเมืองอู่ฮนั่ ประเทศจนี ในเดือนธันวำคมปี 2019 ขณะน้ี โรคโควดิ 19 มกี ำรระบำดใหญ่ไปท่ัว สง่ ผลกระทบแก่หลำยประเทศท่ัวโลก (World Health Organization , 2564:ออนไลน์) 2.1.3 ตน้ กาเนิดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ตน้ ตอของไวรัสน่ำจะมำจำกกำรทีไ่ วรัสจำกสัตวต์ ัวกลำงระบำดมำสคู่ น ผูป้ ว่ ยรำยแรกเท่ำที่ ทรำบกนั เริม่ มีอำกำรตงั้ แต่วันท่ี 1 ธันวำคม และไม่มีควำมเชือ่ มโยงกบั ตลำดต้องสงสยั ในเมอื งอฮู่ ่นั ประเทศจีน แต่ผู้ปว่ ยหลำยรำยอำจมมี ำต้ังแตช่ ่วงกลำงเดอื นพฤศจิกำยนหรือก่อนหนำ้ น้ัน มีกำรเก็บตัวอย่ำงจำกสง่ิ แวดลอ้ มในตลำดไปสง่ ตรวจและพบเชือ้ ไวรสั และพบมำกทส่ี ุดในบริเวณทีค่ ำ้ สตั วป์ ำ่ และสัตวเ์ ล้ยี งในฟำร์มและตลำดอำจเป็นต้นกำเนิดของไวรัสหรอื อำจมีบทบำทในกำรขยำยวง ของกำรระบำดในระยะเรม่ิ แรก ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.4 เช้อื โควิด-19 สายพันธุ์ทีม่ ีการระบาดแพรห่ ลายในประเทศไทย สำยพันธุ์องั กฤษ (B.1.1.7) พบครง้ั แรกที่เมืองเคนต์ ขององั กฤษ เมื่อวนั ที่ 20 กันยำยน 2563 และเขำ้ มำระบำดในประเทศไทยเมือ่ ปลำยเดือนมีนำคม 2564 ซงึ่ จำกข้อมูลในหอ้ งทดลองพบว่ำ สำย พันธนุ์ มี้ ีกำรแพรก่ ระจำยได้งำ่ ยขึน้ กว่ำสำยพันธ์ุอืน่ ๆประมำณ 40-70% นอกจำกน้ียังพบว่ำมคี วำม รนุ แรงมำกขึน้ ทำใหม้ ีอัตรำกำรเจ็บป่วยและเสยี ชวี ิตสูงขนึ้ ถึง 30% สำยพันธแ์ุ อฟรกิ ำใต้ (501Y.V2 หรอื B.1.351) พบคร้งั แรกในอ่ำวเนลสนั แมนเดลำ เมืองอีส เทิรน์ เคป ของแอฟริกำใต้ เมื่อเดือนตุลำคม 2563 ซ่งึ ในประเทศไทยตรวจพบบริเวณคลัสเตอร์ท่ตี ำก ใบ จ.นรำธิวำส ในชว่ งพฤษภำคม 2564 ไวรสั สำยพนั ธนุ์ ี้มีกำรกลำยพันธใ์ุ นตำแหน่งสำคัญ จึงทำให้ เชื้อไวรสั มีควำมสำมำรถในกำรหลบหลีกภูมคิ มุ้ กนั ของร่ำงกำยทีส่ ร้ำงขนึ้ มำได้ นนั่ หมำยควำมวำ่ ผูท้ ี่ เคยติดเช้ือแล้ว หรือได้รับวคั ซีนแลว้ แมจ้ ะมีภมู ิคุ้มกนั กอ็ ำจจะยังสำมำรถติดเชื้อโควดิ -19 สำยพนั ธุ์ แอฟริกำใต้ซ้ำได้อีก นอกจำกน้ียงั มีคณุ สมบัติจับตวั เซลล์ได้ดขี น้ึ จึงทำใหต้ ดิ เชื้องำ่ ยข้นึ ด้วย สำยพนั ธอ์ุ ินเดยี (B.1.617.1 และ B.1.617.2) พบคร้ังแรกในประเทศอนิ เดยี ก่อนจะมีกำร กระจำยไปในหลำยสิบประเทศ โดยในประเทศไทยพบที่คลัสเตอรแ์ คมป์คนงำนหลักสี่ ไวรัสสำยพันธ์ุ นีไ้ ดร้ บั กำรยกระดับเป็นไวรัสกลำยพนั ธทุ์ นี่ ่ำกังวลใจ (VOC) ในตน้ เดอื นพฤษภำคม 2564 เน่ืองจำก มี กำรแพรร่ ะบำดไดร้ วดเรว็ กว่ำสำยพันธุอ์ ังกฤษถึง 60% (ภำควิชำจลุ ชีววิทยำ คณะแพทยศำสตร์ศิริ รำชพยำบำล มหำวทิ ยำลัยมหดิ ล ,2564 :ออนไลน์)
6 2.1.5 โควดิ -19 สายพนั ธเุ์ ดลตา้ เบตา้ อลั ฟ่า คอื อะไร หำกใครตดิ ตำมข่ำวเก่ยี วกบั กำรแพร่ระบำดของเชอื้ โควิด-19 ในระยะน้ีกม็ ักจะได้ยินคำว่ำ เชอื้ โควิดสำยพันธเ์ุ ดลตำ้ สำยพนั ธอ์ุ ัลฟำ่ สำยพนั ธุ์เบตำ้ ฯลฯ ซึ่งหลำยคนก็สงสัยวำ่ มนั แตกตำ่ งจำก สำยพนั ธุท์ ่เี รำกลำ่ วมำแลว้ ข้ำงต้นอยำ่ งไร? แท้จริงๆแล้วมนั ก็คือสำยพนั ธุเ์ ดยี วกันน่ันเอง แต่ทำง องค์กำรอนำมัยโลก (WHO) มกี ำรเปลี่ยนช่ือในกำรเรียกสำยพันธโ์ุ ควิด-19 จำกชอื่ ประเทศท่พี บเช้ือ ครัง้ แรกเป็นระบบตวั อักษรภำษำกรีกแทน เช่น อลั ฟ่ำ เบตำ้ แกมมำ และเดลตำ้ เพ่อื ลดกำรตตี รำ ประเทศนั้นๆ วำ่ เปน็ ตน้ ตอกำรระบำดของเช้อื โรคโควิด-19 โดยมีกำรบญั ญตั ิชื่อเรียกสำยพนั ธุ์โควดิ ใหม่ ดงั น้ี สำยพนั ธอุ์ ัลฟำ่ (Alpha) ใชเ้ รียกแทนสำยพนั ธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) สำยพนั ธุเ์ ดลตำ้ (Delta) ใช้เรยี กแทนสำยพนั ธ์ุอินเดยี (B.1.617.2) สำยพนั ธ์เุ บตำ (Beta) ใชเ้ รยี กแทนสำยพันธแ์ุ อฟริกำใต้ (B.1.351) สำยพนั ธ์ุแกมมำ (Gamma) ใช้เรยี กแทนสำยพนั ธ์ุบรำซลิ (P.1) 2.1.6 อาการของโรคโควดิ 19 คอื อะไร อำกำรท่วั ไปของโรคโควดิ 19 พพี่ บมำกท่ีสุดคือ ไข้ ไอ ลิน้ ไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิน่ และ อ่อนเพลยี อำกำรท่ีพบนอ้ ยกวำ่ แต่อำจมีผลต่อผู้ป่วยบำงรำยคอื ปวดเมื่อย ปวดหัว คัดจมกู น้ำมูก ไหล เจบ็ คอ ทอ้ งเสีย ตำแดง หรือผืน่ ตำมผวิ หนงั หรอื สีผวิ เปลย่ี นตำมนวิ้ มือนวิ้ เท้ำ อำกำรเหล่ำน้ี มกั จะไมร่ ุนแรงนักและค่อยๆ เริม่ ทีละนอ้ ย บำงรำยติดเชื้อแต่มอี ำกำรไมร่ นุ แรง ผปู้ ว่ ยส่วนมำก (80%) หำยป่วยได้โดยไมต่ ้องเข้ำรักษำในโรงพยำบำล ประมำณ 1 ใน 5 ของผู้ ตดิ เชอ้ื โควดิ 19 มีอำกำรหนักและหำยใจลำบำก ผู้สงู อำยุและมีโรคประจำตัวเช่น ควำมดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบำหวำน หรอื มะเรง็ มแี นวโน้มทจ่ี ะมีอำกำรป่วยรุนแรงกว่ำ อย่ำงไรก็ตำมทุกคนสำมำรถ ติดโรคโควิด 19 ได้และอำจป่วยรนุ แรง ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.7 การแพรเ่ ชอ้ื โรคโควิด 19 กำรแพรเ่ ช้ือโรคโควิด19นี้โดยหลักแลว้ แพรจ่ ำกคนสู่คนผ่ำนทำงฝอยละอองจำกจมูกหรือปำก ซ่ึงขบั ออกมำเม่ือผ้ปู ว่ ยไอหรอื จำม เรำรบั เชอื้ ไดจ้ ำกกำรหำยใจเอำฝอยละอองเข้ำไปจำกผปู้ ่วยหรอื จำกกำรเอำมือไปจบั พน้ื ผิวทีม่ ีฝอยละอองเหลำ่ น้นั แล้วมำจับตำมใบหน้ำระยะเวลำนับจำกกำรตดิ เชื้อ และกำรแสดงอำกำร (ระยะฟักตวั ) มีตั้งแต่ 1-14 วันและมีคำ่ เฉลี่ยอยู่ท่ี 5-6 วนั เกนิ 97% ของผ้ปู ว่ ย เริม่ มีอำกำรภำยใน 14 วันกำรเพิม่ จำนวนของไวรสั เกิดข้นึ ในระบบทำงเดินหำยใจสว่ นบนและในปอด มงี ำนวจิ ัยในชว่ งแรกระบวุ ่ำกำรเพิ่มจำนวนของไวรัสไดใ้ นระบบทำงเดนิ อำหำรแต่กำรติดต่อโดยระบบ
7 ทำงเดินอำหำรยังไมเ่ ปน็ ทีย่ นื ยัน ช่วงพคี ของกำรแพร่เชอื้ น่ำจะเกดิ ขึน้ ในช่วงแรกทีแ่ สดงอำกำรและ ลดลงหลังจำกนน้ั กำรแพร่เช้ือก่อนแสดงอำกำรอำจเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่ำงไรกต็ ำมหำกไมม่ ีอำกำรไอ (กลไก หลกั ในกำรขบั ไวรสั ออกมำ) อำจจำกดั กำรแพรเ่ ชื้อในช่วงนน้ั ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.1.8 เราควรทาอย่างไรหากมีอาการของโรคโควดิ 19 และควรจะไปพบแพทยเ์ ม่ือใด หำกมอี ำกำรไม่รนุ แรงเช่นไอเล็กนอ้ ยหรอื ไขต้ ่ำๆ โดยท่ัวไปแล้วไม่จำเปน็ ต้องพบแพทย์ อยู่ บำ้ น กักตวั เอง และติดตำมดูอำกำร ปฏิบัตติ ำมข้อแนะนำของทำงกำรในกำรแยกตัวเองจำกผูอ้ น่ื แต่ อยำ่ งไรกต็ ำมหำกคุณเปน็ ผปู้ ว่ ยโรคโควิด 19 (ยนื ยนั โดยกำรตรวจ) ทำ่ นควรปฏิบตั ติ ำมมำตรกำร ของภำครัฐ อย่ำงไรก็ตำม หำกทำ่ นอยูใ่ นพื้นทท่ี ่ีมีกำรระบำดของมำลำเรยี หรือไขเ้ ลอื ดออก ทำ่ นตอ้ ง เฝำ้ ระวังอำกำรไขแ้ ละไปพบแพทย์ เม่ือไปสถำนพยำบำล ควรสวมหน้ำกำกและเวน้ ระยะอยำ่ งน้อย 1 เมตรจำกผอู้ น่ื และไมเ่ อำมือไปจบั พื้นผิวต่ำงๆ หำกเป็นเด็กปว่ ย ให้ดูแลเดก็ ใหท้ ำตำมคำแนะนำนด้ี ้วย ไปพบแพทย์ทันทีหำกมีอำกำรหำยใจลำบำกและ/หรอื เจบ็ หน้ำอก หำกเปน็ ไปได้ โทรไปก่อนลว่ งหนำ้ เพ่อื ทำงสถำนพยำบำลจะได้ใหค้ ำแนะนำ ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ ) 2.2 วิธีการป้องกันโควดิ -19 1) ล้ำงมือบ่อยๆ โดยใช้สบแู่ ละนำ้ หรอื เจลล้ำงมือที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์ 2) รักษำระยะห่ำงท่ปี ลอดภัยจำกผทู้ ่ไี อหรอื จำม 3) สวมหน้ำกำกอนำมัยเม่ือเวน้ ระยะห่ำงไม่ได้ 4) ไมส่ ัมผัสตำ จมกู หรอื ปำก 5) ปิดจมูกและปำกด้วยข้อพบั ด้ำนในข้อศอกหรือกระดำษชำระเม่ือไอหรือจำม 6) เกบ็ ตัวอย่บู ำ้ นเมื่อรู้สึกไมส่ บำย 7) หำกมไี ข้ ไอ และหำยใจลำบำกโปรดไปพบแพทย์ ( World Health Organization , 2564:ออนไลน์ )
8 2.2.1 ยึดหลกั D-M-H-T-T ปอ้ งกันโควิด-19 แม้ว่ำขณะนีป้ ระเทศไทยจะมีกำรทยอยฉดี วัคซนี ป้องกนั โรคแลว้ ก็ตำม หำกประมำท กำรด์ ตก กย็ ังมีโอกำสทจ่ี ะตดิ เชื้อได้ แตค่ วำมรนุ แรงของโรคจะลดลง จึงขอควำมร่วมมือประชำชนทุกคน “กำร์ดอยำ่ ตก” โดยขอให้ทุกคนให้ควำมสำคัญในมำตรกำรป้องกนั ตนเองอยำ่ งเครง่ ครัดและทำอยำ่ ง ตอ่ เนือ่ ง โดยกำรสวมหน้ำกำก - ล้ำงมอื บ่อย ๆ - เวน้ ระยะหำ่ ง และหลีกเลีย่ งกำรเขำ้ ไปในสถำนท่ี ชุมชนหรือท่ีที่มีคนอยูร่ วมกันจำนวนมำก รวมถึงสถำนทเี่ สี่ยงตำ่ งๆ เพ่ือป้องกนั กำรรับเช้ือและแพร่ เชอื้ ให้กบั คนในครอบครัว และลดกำรแพร่ระบำดของโรคในชมุ ชนด้วย โดยทุกคนสำมำรถให้ควำมสำคัญในกำรป้องกนั ตนเองอย่ำงเครง่ ครดั ตำมหลกั D-M-H-T-T ของกรม ควบคมุ โรค กระทรวงสำธำรณสุข เพื่อเปน็ กำรป้องกนั โควิด-19 และลดโอกำสกำรนำเชื้อกลบั มำตดิ ส่คู นในครอบครวั ทเ่ี รำรัก มำตรกำร D-M-H-T-T ป้องกันโควิด-19 D : Social Distancing เวน้ ระยะหำ่ ง 1-2 เมตร เล่ียงกำรอยู่ในท่ีแออดั M : Mask Wearing สวมหนำ้ กำกผ้ำหรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำ H : Hand Washing ลำ้ งมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรอื เจลแอลกอฮอล์ T : Testing กำรตรวจวัดอณุ หภมู แิ ละตรวจหำเชอื้ โควิด 19 ในกรณที ี่มอี ำกำรเข้ำ ข่ำย T : Thai Cha Na สแกนไทยชนะกอ่ นเขำ้ -ออกสถำนทีส่ ำธำรณะทุกคร้งั เพ่ือให้มี ข้อมลู ในกำรประสำนงำนไดง้ ่ำยข้ึน อ้ำงอิงข้อมลู : กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข ( โรงพยำบำลบำงปะกอก 3 , 2564:ออนไลน์ ) 2.2.2 8 วธิ ปี ้องกันการติดเชื้อไวรสั โควิด-19 เบ้ืองตน้ เพ่ือป้องกันกำรตดิ เชือ้ เรำสำมำรถเริม่ ต้นดแู ลตวั เองได้ดังตอ่ ไปนี้ 1) ใส่หน้ำกำกอนำมัยและล้ำงมอื บ่อยๆดว้ ยสบู่อย่ำงน้อย30วินำที หำกไมส่ ะดวก ควรใช้แอลกอฮอลเ์ จลหรือสเปรย์ 2) พกั ผ่อนใหเ้ พียงพออย่ำงน้อย8-9ช.ม.ต่อวันและเขำ้ นอนกอ่ น4ทมุ่ เพ่ือเสรมิ ภมู ิ ต้ำนทำน 3) ทำนอำหำรปรุงสกุ สะอำด และใช้ชอ้ นกลำงทกุ คร้ัง 4) ทำนอำหำรทอ่ี ดุ มไปดว้ ยสำรต้ำนอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้หลำกสี รวมถงึ อำหำร เสริม อำทิ ถงั่ เช่ำ เหด็ หลนิ จือ วติ ำมิน C และ E เป็นต้น 5) เล่ียงกำรเดนิ ทำงไปในพ้ืนที่เส่ียง, แออดั และมีคนจำนวนมำก 6) ออกกำลังกำยสม่ำเสมอ
9 7) ลดควำมเครียด เพรำะควำมเครียดทำให้กำรทำงำนของภมู ิคุ้มกนั (NK Cell Activity) ลดลง 8.ปรกึ ษำแพทยผ์ ชู้ ำนำญกำร เพอ่ื ตรวจกำรทำงำนของระบบภมู ิคุ้มกัน (NK Cell Activity) วำ่ อยู่ในระดบั ปกติหรอื ไมห่ ำกพบว่ำมีอำกำรทำงระบบหำยใจ เช่น ไอ น้ำมูก หอบ เหนอ่ื ย และมีไข้ ควรรบี ตดิ ต่อขอเขำ้ รบั กำรตรวจเพ่ือรบั กำรรักษำตำมขน้ั ตอนต่อไป ขอบคุณข้อมูล จำก BDMS Wellness Clinic (BDMS Wellness Clinic , 2564: ออนไลน)์ 2.3 ประเภทของแอลกอฮอล์ ในขณะทีห่ ลำยๆคนกำลงั เปน็ กงั วลกับกำรระบำดของเชื้อCovid-19 แน่นอนวำ่ กำรป้องกัน ตัวเองนั้นสำคัญท่สี ดุ ไมว่ ่ำจะเป็นกำรใชห้ นำ้ กำกอนำมยั ที่ถูกต้อง กำรล้ำงมือด้วยสบู่ และกำรพกเจล แอลกอฮอล์ล้ำงมือวันนีเ้ รำจะพำไปรจู้ ักประเภทของแอลกอฮอลป์ ระเภทไหนนะทน่ี ำไปเป็นผสมของ เจลลำ้ งมือ ประเภทไหนทผ่ี สมในน้ำมัน ประเภทไหนเป็นน้ำยำลำ้ งแผล 2.3.1 ประเภทของแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์แบง่ ออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ 1) เมทำนอล (Methanol) หรอื เอทิลแอลกอฮอล์ 2) เอทำนอล (Ethanol) 3) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) 4) บวิ ทำนอล (Butanol) 1) เมทำนอล (Methanol) เมทำนอล (Methanol) หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอลท์ ่ีมจี ดุ เดือดและจดุ วำบไฟตำ่ ท่ีสุดระเหยง่ำยท่ีสุดดังนนั้ จงึ เปน็ อนั ตรำยมำก มีขอ้ ห้ำมไมใ่ ห้นำแอลกอฮอล์ชนดิ น้ีไปผสมกับผลิตภัณฑอ์ ำหำรเครอื่ งด่ืม หรือ ผลิตภัณฑท์ สี่ มั ผสั กบั ผูบ้ รโิ ภคโดยตรงเชน่ สเปรย์ฉีดผมเปน็ ตน้ ดังนนั้ เรำจงึ พบเมทำนอลได้ใน ห้องปฏบิ ตั กิ ำร ซึ่งอำจใช้เปน็ สำรทำละลำย หรือ สำรหล่อเย็น เปน็ ตน้ (อำจำรยแ์ พทย์หญงิ ธญั จิรำ จริ นันทกำญจน , ม.ป.ป. : ออนไลน์)
10 ภำพท่ี 2 เมทำนอล ( ที่มำ : wikipedia ) 2) เอทำนอล (Ethanol) เอทำนอล (Ethanol) ผลติ จำก กำรแปรรปู พืชผลทำงเกษตรประเภทแปง้ และ น้ำตำล เช่น มันสำปะหลงั , ออ้ ย, กำกน้ำตำล และข้ำวโพด เป็นต้น โดยผำ่ นกระบวนกำร ยอ่ ยแป้งเป็นนำ้ ตำล (สำหรับวัตถดุ บิ ประเภทแป้ง) กระบวนกำรหมักเพื่อเปลยี่ นนำ้ ตำลเป็น แอลกอฮอล์ และกระบวนกำรกลั่น รวมถึงกระบวนกำรแยกน้ำออก เอทำนอลน้ีมีจุดเดือนสงู กวำ่ เมทำนอล มอี นั ตรำยต่อร่ำงกำยน้อย ทำให้สำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ไดห้ ลำกหลำย เชน่ เอทำนอลเข้มข้นรอ้ ยละ 70 มีฤทธิใ์ นกำรทำลำยเชอ้ื แบคทเี รีย เช้ือวัณโรค เช้ือรำและเชื้อ ไวรสั แตไ่ มส่ ำมำรถทำลำยสปอรข์ องเชอ้ื แบคทเี รียได้ ,ใช้เป็นตวั ทำละลำยท้ังทำงดำ้ น อุตสำหกรรมและทำงเภสัชกรรม เชน่ เปน็ ตัวทำละลำยในยำแกไ้ อ ,เอทำนอลเข้มขน้ รอ้ ยละ 70 มีฤทธใ์ิ นกำรทำลำยเชอื้ แบคทีเรยี เช้ือวณั โรค เชื้อรำและเชื้อไวรัส แตไ่ ม่สำมำรถ ทำลำยสปอร์ของเชอ้ื แบคทีเรียได้ ,นำไปผสมกบั น้ำมันเชอ้ื เพลงิ เพื่อแกป้ ญั หำ วิกฤตกำรณ์ นำ้ มันรำคำแพง โดยใชเ้ อทำนอลท่มี ีควำมบริสทุ ธิ์ต้งั แต่ 95% โดยปรมิ ำตรไปผสมกับนำ้ มนั ถำ้ ผสมกับนำ้ มันเบนซนิ จะเรียกวำ่ แกส๊ โซฮอล์ โดยผสมในอัตรำสว่ น 10% บำงครัง้ จึง เรียกวำ่ น้ำมัน E-10 เนือ่ งจำกเอทำนอลมีสมบตั ชิ ่วยเพิม่ ปริมำณออกซิเจนในน้ำมัน จึงทำให้ กำรเผำไหมส้ มบูรณย์ ่งิ ข้นึ และเป็นกำรลดมลพิษในอำกำศ
11 ภำพท่ี 3 เอทำนอล ( ทม่ี ำ : blockdit ) 3) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) ไอโซโพรพำนอล (Iso-Propanol – IPA) ใชเ้ ปน็ ยำล้ำงแผล หรอื สำรละลำยสำร ทำควำมสะอำดในห้องปฏิบัติกำร (chemihouse.com , 2564 : ออนไลน)์ ภำพท่ี 4 ไอโซโพรพำนอล ( ท่มี ำ : wikiwand ) 4) บวิ ทำนอล (Butanol) ใชเ้ ปน็ พลังงำนชีวภำพ เป็นสำรไม่มีสี ไวไฟ ละลำยน้ำไดเ้ ล็กนอ้ ย มกี ลนิ่ เฉพำะตวั คลำ้ ยกล่นิ ของกลว้ ย แต่มีกล่ินแอลกอฮอลท์ ่ีชัดเจน บิวทำนอลชีวภำพสำมำรถทำให้เกดิ กำร ระคำยเคืองเมือ่ สัมผัสโดยตรงทำงดวงตำและผิวหนงั บวิ ทำนอลชีวภำพสำมำรถละลำยเข้ำ กับตัวทำละลำยอนิ ทรีย์อ่นื ๆได้ดี แต่มคี วำมสำมำรถละลำยนำ้ ไดค้ ่อนขำ้ งต่ำ (material selection , 2558 : ออนไลน์)
12 ภำพที่ 5 บวิ ทำนอล ( ท่มี ำ : hmong.in.th ) 2.4 การฆ่าเชือ้ ของเจลแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ เป็นสำรชนดิ หนึ่งท่ีมีคุณสมบตั เิ ปน็ สำรต้ำนเชื้อจุลนิ ทรีย์ (antimicrobial agent) โดยสำมำรถฆำ่ หรือหยุดยงั้ กำรเจริญเติบโตของเชอ้ื ไดแ้ อลกอฮอลม์ สี ำมำรถกำจัดเช้ือจลุ ินทรีย์ได้ หลำกหลำย และไม่จำเพำะเจำะจงใช้กำจัดเชอ้ื จุลนิ ทรยี ์บนพื้นผิวสิ่งของต่ำงๆที่ไม่มีชวี ติ เพ่อื ยบั ย้ังกำร แพร่กระจำยของเชือ้ โรค ไวรัส หรือจลุ ินทรียต์ ่ำงๆได้ 2.4.1 แอลกอฮอล์ กับการเป็น disinfectant กลไก:ขบั น้ำออกจำกเซลลร์ บกวนเยอ่ื หุ้มเซลล์โดยละลำยไขมนั ทอ่ี ยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ และทำให้ โปรตนี ตกตะกอน ขอ้ ดี: ใชง้ ่ำย รำคำถูก ข้อเสยี : ระคำยเคอื งผวิ หนัง ระเหยเร็ว จดุ เดือดตำ่ ติดไฟง่ำย ทำให้โลหะเป็นสนิม เลนส์มวั พลำสตกิ แขง็ หรอื พองตวั แอลกอฮอล์สำมำรถทำลำยเช้ือแบคทีเรยี ทงั้ แกรมบวกและลบรวมทง้ั เชอื้ วณั โรคเชือ้ รำและ ไวรัสบำงชนดิ โดยเฉพำะเช้อื ท่ีมโี ครงสร้ำงไขมันหุ้มอยูเ่ นือ่ งจำกแอลกอฮอล์จะออกฤทธ์ิละลำยไขมนั ทำให้เยือ่ หุ้มเซลล์เปลีย่ นสภำพ (protein denaturant) แต่ไมม่ ีผลต่อสปอร์สำรกล่มุ น้สี ำมำรถใช้ได้ท้งั เป็น disinfectant และantisepticไมม่ ีฤทธ์กิ ัดกรอ่ นแต่สำมำรถตดิ ไฟไดด้ ี ระเหยไดง้ ่ำยทำใหต้ ดิ บน พนื้ ผิวและออกฤทธิเ์ ป็นระยะเวลำนำนไม่ได้เมอื่ ละลำยกบั น้ำจะสำมำรถแพร่ ผำ่ นเยื่อหุ้มเซลล์ได้ดขี ้ึน จึงทำให้โปรตนี เสียสภำพและยงั ทำให้เยื่อห้มุ เซลลแ์ ตกและเข้ำไปรบกวนระบบmetabolismไดด้ ว้ ย
13 แตถ่ ำ้ เปน็ แอลกอฮอลบ์ รสิ ทุ ธ์ิจะทำให้โปรตีนด้ำนนอกของเย่อื หมุ้ เซลล์เสยี สภำพได้อย่ำงเดยี วเทำ่ น้นั เมอื่ เข้มขน้ ของแอลกอฮอลน์ ้อยลงกำรออกฤทธิก์ จ็ ะลดลงควำมเข้มขน้ ปกติทนี่ ยิ มใช้กนั จะอย่ใู นช่วง 60−90%(ถ้ำควำมเข้มขน้ มำกกว่ำน้ีจะไม่สำมำรถเขำ้ เซลลไ์ ด้) เชน่ แอลกอฮอล์ผสมควำมเข้มข้นสงู ของ 80% ethanol รว่ มกบั 5% isopropanol จะสำมำรถยับยงั้ ไวรสั ท่ีมีเยื่อหุ้มเปน็ ลปิ ดิ ไดด้ ้วย (HIV ไวรัสตบั อกั เสบ B และ C) ส่วนกำร disinfect บนพืน้ ผิวเปยี กจะต้องใชค้ วำมเข้มข้นมำกขน้ึ นอกจำกนนั้ ประสิทธิภำพของแอลกอฮอลจ์ ะเพม่ิ ขึ้นได้อกี เม่ือผสม wetting agent เชน่ dodecanoate (coconut soap) เชน่ ของผสม 29.4% ethanol กับ dodecanoate จะออกฤทธ์ิได้ ดี กบั ท้งั แบคทีเรีย เช้ือรำ และไวรัส แอลกอฮอล์ขนำดเล็กอย่ำง ethanol และ isopropanol ใช้เปน็ disinfectant อย่ำง แพรห่ ลำย แต่ methanol ไม่ใช้เป็น disinfectant เพรำะมีพิษอยำ่ งยง่ิ ต่อคน ถ้ำไดร้ ับเกิน 10 mL ไป เมอื่ ย่อยเปน็ formic แล้วจะมีผลทำลำยประสำทตำจนตำบอดถำวรได้ และถำ้ ไดร้ บั เกิน 30 mL อำจ ถึงตำยได้ (องคก์ ำรสุรำ กรมสรรพำมิต,2561: ออนไลน)์ 2.4.2 คุณสมบตั ใิ นการทาลายเช้อื ของแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทั้ง2ชนิดเปน็ ของเหลวไม่มีสีระเหยได้ท่ีอุณหภูมิหอ้ ง ไม่มฤี ทธติ์ กคำ้ งแอลกอฮอล์ มฤี ทธิใ์ นกำรทำลำยเชือ้ แบคทีเรียเชอื้ วัณโรคเชือ้ รำและเช้อื ไวรัสแตไ่ ม่สำมำรถทำลำยสปอรข์ องเชือ้ แบคทีเรยี ได้ แอลกอฮอล์จัดเปน็ เพียงน้ำยำทำลำยเชื้อระดับกลำงประสิทธิภำพในกำรทำลำยเช้ือของ แอลกอฮอลจ์ ะลดลงมำก หำกมีควำมเข้มขน้ ต่ำลงแอลกอฮอล์จะมีประสิทธิภำพในกำรทำลำยเช้ือได้ดี เมอ่ื มีควำมเข้มข้นประมำณ 70-90% โดยปริมำตร ควำมเขม้ ข้นที่เหมำะสมของ ethyl alcohol ซง่ึ สำมำรถทำลำยเชื้อของแอลกอฮอล์ ทงั้ 2 ชนดิ แตกตำ่ งกัน ถ้ำเป็น Ethyl Alcohol จะทำลำยเชอ้ื ไวรสั ไดด้ ีกว่ำ สว่ น Isopropyl alcohol ไม่สำมำรถทำลำย Hydrophilic virus ซึ่งไดแ้ ก่ echovirus และ coxsackie virus ได้ แอลกอฮอล์มีฤทธ์ิกดั กร่อนโลหะ หำกต้องใช้กบั โลหะควรเติม 0.2% โซเดยี มไนโตรลงใน แอลกอฮอล์ แอลกอฮอลต์ ิดไฟงำ่ ย จงึ ควรเกบ็ ในภำชนะปิดมิดชดิ และเกบ็ ภำชนะนั้นไว้ในท่ีเยน็ อำกำศถ่ำยเทได้สะดวก เมื่อต้องแชเ่ ครื่องมือใหเ้ ครื่องมอื สัมผสั แอลกอฮอล์ให้นำน ขนึ้ จะตอ้ งแชเ่ ครื่องมือลง แอลกอฮอล์จะทำให้สำรทีย่ ดึ เลนสก์ บั อปุ กรณ์ละลำยแอลกอฮอลท์ ำให้อุปกรณท์ ีม่ ีเลนสไ์ ดเ้ พรำะ แอลกอฮอล์จะทำใหส้ ำรที่ยดึ เลนส์กบั อปุ กรณ์ละลำย แอลกอฮอล์ทำให้อุปกรณท์ ีท่ ำด้วยยำงหรือ พลำสตกิ บวมและแข็ง แอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้งแตก แอลกอฮอลร์ ะเหยได้งำ่ ยฤทธใ์ิ นกำรทำลำยเชอ้ื จะลดนอ้ ยลง หำกควำมเข้มขน้ ต่ำลงในกำรใชแ้ ละเก็บรักษำแอลกอฮอล์จึงจะต้องระมดั ระวัง แอลกอฮอล์จะเสอ่ื ม
14 ประสทิ ธิภำพเม่ือผสมกบั อินทรยี ์ ดงั น้นั ตอ้ งลำ้ งทำควำมสะอำดเคร่ืองให้หมดจดก่อนเชด็ ให้แหง้ ก่อน ทำลำยเช้อื ดว้ ยแอลกอฮอล์ ( Vibhavadi Hospital, 2563 : ออนไลน์) 2.4.3 ประเภทของแอลกอฮอล์สาหรบั ฆ่าเช้ือ แอลกอฮอล์สำหรับฆำ่ เช้ือมอี ยู2่ ชนิดคอื เอทิลแอลกอฮอลแ์ ละไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ท้ังสอง ชนิดเปน็ ของเหลวใส ไม่มสี รี ะเหยได้ง่ำยที่อณุ หภูมิหอ้ ง มีคุณสมบัติทำลำยเชื้อแบคทเี รีย เชอื้ วัณโรค เชอ้ื รำและเช้ือไวรัส แต่ไมส่ ำมำรถทำลำยสปอร์ของเช้อื แบคทีเรยี ได้ และประสทิ ธิภำพในกำรทำลำย เชือ้ จะลดลงอย่ำงชดั เจน เม่ือควำมเข้มขน้ ของแอลกอฮอล์ตำ่ กวำ่ 50%แอลกอฮอล์จะฆำ่ เชือ้ ต่ำงๆ โดยกำรแพร่ผำ่ นเยอ้ื หุ้มเซลล์ ของเช้ือโรค ทำให้โปรตนี เสียสภำพ และทำให้เย่ือหุม้ เซลลข์ องเชื้อโรคแตก 2.4.4 ใช้แอลกอฮอล์เขม้ ข้นเท่าไหรถ่ งึ จะฆา่ ไวรัส COVID-19 ได้ สำหรบั เชอ้ื ไวรัสควำมเขม้ ข้นของแอลกอฮอลท์ ี่เหมำะสมคอื ควำมเข้มขน้ ระหว่ำง60%-80% โดยปรมิ ำตรเอทิลแอลกอฮอล์ จะสำมำรถทำลำยเชื้อไวรัสแบบทม่ี ชี น้ั ไขมันหุ้ม เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสเรมิ รวมถงึ ไวรสั โควดิ -19 และยังสำมำรถทำลำยเชื้อไวรสั แบบท่ีไมม่ ีชัน้ ไขมนั หุ้มได้ดว้ ย เช่น เช้อื ไวรัสตับอักเสบบี แต่จะไมท่ ำลำยเช้ือไวรสั ตับอักเสบเอและโปลิโอไวรสั ส่วนไอโซโพรพิลแอลกอฮอรจ์ ะ ทำลำยได้เฉพำะเชือ้ ไวรสั ทม่ี ีชน้ั ไขมนั หุม้ เทำ่ น้ัน 2.4.5 แอลกอฮอล์เข้มขน้ มาก ไมไ่ ดด้ เี สมอไป จำกข้อมลู ขำ้ งต้นอำจทำให้หลำยคนเข้ำใจว่ำยิง่ แอลกอฮอล์เขม้ ขน้ เท่ำไหร่ ประสิทธภิ ำพใน กำรฆ่ำเชอื้ ย่อมดีข้นึ เทำ่ นั้นเช่นแอลกอฮอล์95%ย่อมดีกว่ำแอลกอฮอล์70%ซ่งึ เป็นควำมเขำ้ ใจที่อำจ ไมส่ ำมำรถใชไ้ ดใ้ นทกุ กรณเี พรำะในแอลกอฮอล9์ 5%มีปรมิ ำณแอลกอฮอล์ทสี่ ูงมำกจงึ ระเหยได้ไวมำก เช่นกนั ทำใหป้ ระสทิ ธิภำพในกำรดดู ซึมผ่ำนเยื่อหมุ้ เซลลข์ องเช้ือโรคไมเ่ พยี งพอ ทำไดแ้ ค่ทำให้โปรตนี จบั ตวั เป็นกอ้ น และทำใหแ้ อลกอฮอลไ์ มส่ ำมำรถซึมผำ่ นเขำ้ ไปทำลำยเซลลไ์ ด้ดังนั้นเชอ้ื โรคจะไมต่ ำย เม่ือสภำพแวดล้อมกลบั มำอยู่ในจุดทีเ่ หมำะสมแกก่ ำรเจริญเตบิ โตเซลลเ์ ช้อื โรคกจ็ ะกลบั มำเตบิ โตอกี คร้ังนอกจำกน้ีควำมเข้มขน้ สูงของแอลกอฮอลย์ งั ส่งผลใหผ้ วิ แห้ง และเกิดกำรระคำยเคอื งได้ สำหรับแอลกอฮอล์เจลหรอื สเปรยท์ ใ่ี ชก้ นั นัน้ ควำมเข้มขน้ ของแอลกอออล์อยทู่ ่ี 70%-90% โดยปริมำตรนอกจำกแอลกอฮอล์แลว้ กำรกินอำหำรปรงุ สุกร้อน กำรใชช้ อ้ นกลำง กำรใสห่ น้ำกำก และกำรลำ้ งมือก็สำมำรถชว่ ยกำจัดเชื้อโรคต่ำงๆรวมถงึ เช้ือไวรัสโคโรน่ำได้เช่นกันและหำกรสู้ กึ วำ่ ไม่
15 สบำยควรรีบไปพบแพทย์รวมถึงกักตวั เอง14วนั หำกเพิง่ กลับจำกประเทศท่ีมีอัตรำเสยี่ งกำรตดิ เชื้อสงู (Silkspan,2563:ออนไลน)์ 2.5 โปรแกรมทใี่ ช้เขียนโคด้ 2.5.1 Arduino IDE ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นกำรพัฒนำงำนสำหรบั บอรด์ Arduino น่ันคือโปรแกรมทีเ่ รยี กวำ่ Arduino IDE ในกำรเขียนโปรแกรมและคอมไพล์ลงบอร์ด IDE ย่อมำจำก (Integrated Development Environment) คือ ส่วนเสรมิ ของ ระบบกำรพฒั นำหรือตัวช่วยตำ่ งๆที่จะ คอยชว่ ยเหลอื Developer หรือช่วยเหลอื คนท่ีพฒั นำ Application เพื่อเสรมิ ให้ เกิดควำม รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ตรวจสอบระบบท่ีจัดทำไดท้ ำให้กำรพัฒนำงำนต่ำงๆเรว็ มำกข้ึน ภำพท่ี 6 Arduino ( ทม่ี ำ : lamax ) 2.5.2 kidbright IDE คือโปรแกรมสร้ำงชดุ คำสัง่ เพื่อนำไปใชท้ ำงำนบนบอร์ด kidbright ดว้ ย ชดุ คำสงั่ แบบ block-structured programming คือจะใช้กำรลำกกลอ่ งข้อควำมหรอื บล็อกคำสงั่ มำวำงต่อกนั (Drag and Drop) จำกนั้นโปรแกรมจะทำงำนแปลงภำษำ ทีเ่ รยี กวำ่ กำร compile เพ่ือใหไ้ ด้เปน็ โค้ดกำรทำงำนทใ่ี ช้กับโปรเซสเซอร์ ESP32 ทอี่ ยูบ่ นบอรด์
16 ภำพที่ 7 kidbright IDE ( ท่ีมำ : nectec ) 2.6 ระบบการทางานของเครือ่ งจ่ายอัตโนมัติ 2.6.1 เคร่อื งจา่ ยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ เครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ (Automatic Hand Sanitizer Machine)ถอื เปน็ เครื่องที่ ไดร้ ับควำมนยิ มมำอย่ำงยำวนำน และแพรห่ ลำยมำกข้ึน เพรำะวำ่ เครอ่ื งจำ่ ยสบเู่ หลวอัตโนมัตนิ ้ัน ชว่ ยอำนวยควำมสะดวกสำหรับกำรล้ำงมือได้เป็นอยำ่ งมำกมีลักษณะกำรทำงำนด้วยกำรจบั เซน็ เซอร์ หำกท่ำนนึกไม่ออกว่ำเครื่องแอลกอฮอลอ์ ัตโนมตั ิมกี ำรทำงำนเป็นอย่ำงไร ก็ขอใหล้ องนึก ถึงภำพของก๊อกน้ำอัตโนมัตแิ บบที่ตำมห้ำงดัง ๆ เขำใช้กันน่ันเอง เครื่องจ่ำยสบเู่ หลวอตั โนมตั ิกจ็ ะ มีหลกั กำรทำงำนเพื่อใหส้ บู่ไหลลงสู่มอื ของเรำโดยไม่ต้องกดเหมอื นก๊อกน้ำอตั โนมัติเลยคะ่ นอกจำกใส่สบเู่ หลวไดแ้ ลว้ ยังสำมำรถใสแ่ ชมพู ครมี นวดผม โลช่ัน เจลลำ้ งมือ เจลแอลกอฮอล์ ได้ อีกเชน่ กนั (PSA SUPPLY , 2563 :ออนไลน)์ 2.6.2 ระบบการทางานอตั โนมัติ ระบบอตั โนมตั ิ คือ ระบบท่ีทำงำนผ่ำนกำรควบคุมจำกคอมพมิ เตอร์อำจจะเปน็ อุปกรณ์ อิเลก็ ทรอนิกสท์ ่ีสำมำรถเริ่มทำงำนไดด้ ว้ ยตัวเองตำมโปรแกรมทีม่ นุษยเ์ ป็นผู้ควบคุมไว้ เชน่ ระบบ รดน้ำอตั โนมัติ ระบบตอบรบั โทรศพั ท์อัตโนมตั ิ ระบบอัตโนมัตเิ ขำ้ มำมีบทบำทมำกข้นึ ในปัจจบุ ัน ท้งั ในดำ้ นวิศวกรรม อุตสำหกรรมและรวมไปถึงกำรดำเนินชวี ิตประจำวนั ของมนุษย์ ระบบ อัตโนมัตถิ ูกคิดค้นมำเพือ่ ใหส้ ำมำรถลดกำรใช้ทรพั ยำกรที่ไม่จำเปน็ และตอบสนองควำมตอ้ งกำร ของมนุษย์
17 ประเภทของเคร่ืองจักรอัตโนมตั ิมี 2 ประเภท 1) เครอ่ื งจกั รกงึ่ อัตโนมตั ิคือเครือ่ งท่นี ำคอมพิวเตอร์มำควบคมุ หรือทำงำนในบำงขน้ั ตอน เพอ่ื ให้เรำสำมำรถควบคมุ งำนบำงประเภทได้เช่นงำนที่มีควำมเสย่ี งสูง งำนท่ีต้องใช้ควำมแม่นยำ ฯลฯ ขน้ั ตอนทเี่ หลือจะยังคงเป็นผลงำนของคน 2) เครอื่ งจกั รอตั โนมัติ คือ เครื่องจกั รท่นี ำคอมพวิ เตอร์มำควบคุมหรอื ทำงำนในทุก ข้ันตอน คนงำนมีควำมรบั ผิดชอบในกำรดูแลรักษำเครอ่ื งเท่ำนนั้ เคร่อื งจักรอัตโนมัติ เหมำะ สำหรบั งำนทีต่ ้องกำรกำรควบคุมเตม็ รูปแบบ ไม่ว่ำจะเปน็ คุณภำพหรือควำมสะอำด นอกจำกนยี้ งั ใชใ้ นงำนทีค่ นงำนไมส่ ำมำรถทำงำนได้ เช่น งำนที่ตอ้ งอยใู่ นอณุ หภมู ิสงู ( บรษิ ัทไทยอินเตอรแ์ มท , 2561 :ออนไลน์ ) ภำพที่ 8 เครอื่ งจกั รอตั โนมัติ ( ท่มี ำ : thaipost ) 2.6.3 ระบบการทางานอตั โนมตั ิของเซนเซอร์ เซนเซอร์ คือ อุปกรณ์ วงจร หรือ ระบบ ทำหน้ำท่ีตรวจวดั กำรเปล่ยี นแปลงคุณสมบัติ หรอื ลักษณะของสิง่ ต่ำงๆ โดยรอบวตั ถเุ ปำ้ หมำย เช่น กำรเปลย่ี นแปลงตำแหน่ง รปู ร่ำง ควำมยำว ควำม สงู และกำรกระจดั แล้วนำข้อมูล (Big Data) ท่ีได้จำกกำรตรวจวัดเข้ำสกู่ ระบวนกำรแจกแจง และ วเิ ครำะห์พฤติกรรมของกำรเปลยี่ นแปลงนอกจำกน้ยี ังมสี ว่ นช่วยในกำรทำนำยและป้องกันเหตุกำรณ์ ในอนำคต
18 ประเภทของเซนเซอร์ในสำยกำรผลดิ Proximity Sensors เซนเซอรต์ รวจจับ เซนเซอรต์ รวจจบั เซนเซอรต์ รวจจบั วัตถุ โดยปรำศจำกกำรสัมผัส ทำใหท้ รำบถึง ตำแหนง่ ของวตั ถหุ รือสำมำรถระบุได้วำ่ มีวตั ถใุ ดผ่ำนเข้ำมำในตำแหน่งทีก่ ำหนดไวห้ รือไม่ สว่ นใหญจ่ ะใชก้ ับงำนตรวจจับ ตำแหนง่ ระดบั ขนำด และรูปร่ำง สำมำรถแยกกำรตรวจจับ วัตถทุ เี่ ป็นโลหะ (Inductive) กับอโลหะ (Capactive) โดยกำรตรวจจับควำมหนำแนน่ ได้ ภำพที่ 9 Proximity Sensors ( ท่มี ำ : sick.com ) Vision Sensors / Machine Vision Systems เซนเซอร์ตรวจจับดว้ ยภำพ เซนเซอรท์ ่ใี ช้กำรถำ่ ยภำพวตั ถชุ นิ้ งำน แลว้ นำภำพท่ี ไดม้ ำวเิ ครำะห์ว่ำตรงกับ สเปค ขนำด สี รูปทรง หรอื ตำแหน่งทเ่ี รำตอ้ งกำรหรือไม่ โดย คุณสมบตั ิของเซนเซอรช์ นิดนี้สำมำรถทำงำนได้ถูกต้องแมน่ ยำ รวดเร็ว และประหยัดเวลำ เหมำะกบั งำนตรวจสอบควำมผดิ ปกตขิ องช้นิ งำนในกำรผลิต เชน่ ตรวจจับควำมถกู ต้องของ ฉลำก กำรเจำะรชู ้ินนงำน ตรวจสอบแผงวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ กำรปอ้ นช้ินงำน ตรวจสอบ รปู ทรงน็อต โลหะ km เปน็ ต้น Photoelectric Sensor เซนเซอรจ์ บั วัตถุ โดยใช้แสง เซนเซอรต์ รวจจบั วัตถุ ใชล้ ำแสงในกำรตรวจจบั วตั ถุท้ังแบบท่ีมองเห็นและแบบ โปรง่ ใสโดยทไ่ี ม่ต้องมีกำรสัมผัส มจี ุดเดน่ ในด้ำนควำมเร็วในกำรตรวจจับ ระยะกำรตรวจจบั ไกล และที่สำคัญไมว่ ำ่ วัตถใุ ดๆ กจ็ ะสำมำรถตรวจจบั ได้
19 ภำพท่ี 10 เซนเซอร์ตรวจจบั วัตถุ ( ท่ีมำ : mall.factomart ) Photomicro Sensors Photoelectric Sensor ขนำดเลก็ ที่มีแอมพลฟิ ำยเออร์ในตวั มลี กั ษณะเช่นเดยี วกบั โฟโตอิเล็กทริคเซนเซอร์ ทัว่ ไปทม่ี ีแอมพลิฟำยเออร์ในตวั ใชใ้ นแอพพลิเคชนั่ เพือ่ ตรวจจับวัตถุทีผ่ ่ำนหรอื ใน แอพพลเิ คช่นั กำหนดตำแหนง่ Displacement / Measurement Sensors เซนเซอรว์ ดั ระยะเซนเซอรว์ ดั ระยะทำ.และขนำดของชิน้ งำน แบบไมส่ ัมผัสกบั วัตถุ สำมำรถบอกค่ำเป็นอนำล็อค และเชือ่ มต่อกบั คอมพิวเตอร์หรือ PLC ได้ เหมำะสำหรับกำรใช้ งำนกำรตรวจสอบช้นิ งำนขนำดเลก็ วดั ควำมหนำบำง วดั กำรแอ่นตัว Code Readers / OCR เซนเซอรอ์ ำ่ นโค้ด เซนเซอร์ที่ใช้ในกำรอ่ำนบำรโ์ ค้ดต่ำงๆ หรือตรวจสอบข้อควำม ตวั เลข ตวั อักษรบน ชิน้ งำน แลว้ ทำกำรส่งผลลพั ธ์กำรตรวจสอบออกมำ เพ่ือนำไปใชง้ ำนรว่ มกับอปุ กรณ์ หรอื เครอื่ งจักรอ่นื ๆ อย่ำง Rejecter หรือส่งเปน็ ข้อควำมที่อ่ำนได้ไปใหซ้ อฟแวร์ หรอื ระบบ ควบคมุ ตำ่ งๆ Rotary Encoders เซนเซอร์เอ็นโค้ดเดอร์แบบหมุน เซนเซอรท์ ี่แปลงสัญญำณทำงไฟฟำ้ (electric signal) มำเป็นค่ำทำงกำรหมนุ (rotation movement) สำมำรถใช้ระยะ ควำมเร็ว ทิศทำง ตำแหน่งหรือมุมของกำรหมุน เชน่ ฐำนและข้อต่อของแขนกลทใ่ี ชใ้ นโรงงำนทตี่ ้องใชค้ ำ่ กำรหมนุ ท่ีแม่นยำ
20 Ultrasonic Sensors เซนเซอร์ อัลตรำ้ โซนคิ เซนเซอร์ที่ใช้คลื่นอลั ตร้ำโซนคิ ใช้เพอื่ ตรวจจับวตั ถุโปรง่ ใส เช่น ฟลิ ม์ ใส ขวดแก้ว ขวดพลำสตกิ และกระจกแผ่น โดยลักษณะกำรใชง้ ำนเหมือน Photoelectric Sensor Pressure Sensors / Flow Sensors เซนเซอร์วัดควำมดนั เซนเซอร์ตรวจจบั กำรไหล ช่วยตรวจจบั ควำมดนั ของของเหลว และกำ๊ ซ และ เซนเซอร์ตรวจจบั กำรไหล (Flow sensor) จะชว่ ยตรวจจับอตั รำกำรไหลของ ของเหลว (สำนกั งำนใหญแ่ ละศูนย์โลจสิ ตกิ ส์ , 2564 :ออนไลน์) ภำพท่ี 11 เซนเซอรว์ ดั ควำมดัน (Pressure sensors) (ทีม่ ำ : planet.co.th )
บทที่ 3 อุปกรณ์และวธิ ีการดาเนินงาน ในกำรสรำ้ งเคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์คร้งั นี้มงุ่ หวังเพ่ือให้ทุกคนในโรงเรียนปวั มเี คร่ืองจ่ำย เจลแอลกอฮอล์ท่ีอตั โนมัติ ปรำศจำกกำรสัมผัสเพ่ือหลีดเลย่ี งกำรสัมผสั ในสถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของ เชือ้ ไวรัสโคโรน่ำ (COVID-19) 3.1 ประชำกรและกลุ่มตวั อย่ำง 3.2 ขน้ั ตอนกำรสรำ้ งเคร่ืองจ่ำยเจลอตั โนมตั ิ 3.3 กำรวิเครำะหผ์ ลและสถิติท่ใี ช้ในกำรวิเครำะห์ผล 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง 3.1.1 ประชำกรท่ีใช้ในกำรศึกษำครง้ั นี้ คือ นกั เรยี นโรงเรยี นปวั ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษำ ปีท่ ่ี 5 สำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 3.1.2 กลมุ่ ตวั อย่ำงทดลอง ท่ีใช้ในกำรศึกษำ หำประสิทธิภำพของ Automatic Alcohol Dispenser (เครอ่ื งจ่ำยแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ) คือ นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5/1 โรงเรยี นปัว จำนวน 36 คน 3.1.3 กลุ่มตวั อย่ำงจริง ท่ีใชใ้ นกำรศึกษำ หำประสิทธภิ ำพของ Automatic Hand Sanitizer Machine (เครื่องจำ่ ยแอลกอฮอล์อัตโนมัติ) คือ นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 5/2 โรงเรยี นปวั จำนวน 40 คน อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการดาเนินงาน - อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ - อปุ กรณ์ไฟฟ้ำ เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการดาเนินงาน 1) เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นกำรศึกษำประกอบด้วย 1.1) หนงั สอื วงจรไฟฟ้ำ
22 2) เคร่อื งมือท่ีใช้ในกำรสร้ำงเครื่องจำ่ ยเจลอัตโนมัติ 2.1) เซนเซอร์ตรวจจบั วัตถุ 2.2) ปมั้ นำ้ 2.3) สำยไฟ 2.4) โพรโทบอรด์ 2.5) กลอ่ งกันน้ำ 2.6) ขำตัง้ 2.7) ตวั ต้ำนทำน 2.8) สำยน้ำเกลอื 2.9) ขวดใส่เจลแอลกอฮอล์ 3.2 ข้ันตอนการสร้างเครือ่ งกดเจลแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ กำรสรำ้ งเคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ สำหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 ในคร้ังน้ี ผจู้ ัดทำไดส้ ร้ำงเครื่องจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมัติ ซง่ึ จดั อย่ใู นกรอบ 4 ขั้นตอนหลัก ดงั น้ี 3.2.1 การวเิ คราะห์เนอ้ื หา (Analysis) 3.2.1.1 สรำ้ งแผนภูมิระดมสมอง (Brainstorm Chart) เปน็ กำรรวบรวมหัวเรอ่ื งที่ จะทำลงไปในเครื่องกดเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ สำหรบั นักเเรียนและบุคลำกร ในโรงเรยี นปวั และทกุ คนสำมำรถแสดงควำมเห็นสำหรับกดเจลแอลกอฮอลอ์ ตั โนมตั ได้ 3.2.2 การออกแบบ การสรา้ งกดเจลแอลกอฮอล์อตั โนมัติ ออกแบบจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัตใิ ห้เหมำะสมกบั กำรใชง้ ำน เพอื่ นควำม สะดวกสบำยของนักเรยี นและบุคลำกรของโรงเรียนปวั และ ออกแบบรปู ร่ำงให้น่ำสนใจเพือ่ กระตุ้นให้ ทุกคนอยำกมำใชง้ ำนจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ เพื่อปอ้ งกนั กำรแพร่ระบำดของเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ่ (COVID-19) และเช้อื โรคตำ่ งๆ 3.2.3 การทาเครอ่ื งกดเจลแอลกอฮอล์อัตโนมตั ิ 3.2.3.1 เขียนโปรแกรมให้ระบบเซ็นเซอร์สำมำรถทำงำนตรวจจับวัตถไุ ด้ 3.2.3.2 เตรียมกลอ่ งกนั น้ำ 1 กลอ่ ง 3.2.3.3 เจำะกลอ่ งกันน้ำดำ้ นล่ำง เพอื่ ใหส้ ำยนำ้ เกลือที่เชือ่ มอยู่กบั ขวดแอลกอฮอล์ สำมำรถลอดออกมำได้สำหรับปล่อยเจลแอลกอฮอลอ์ อกมำ และเพื่อใหม้ ีช่องสำหรับตัว เซน็ เซอรส์ ำมำรถออกมำทำงำนตรวจจบั อุณหภูมิได้
23 3.2.3.4 ตอ่ แผงวงจรให้ระบบสำมำรถทำงำนได้ 3.2.3.5 ทดสอบกลไกในกำรทำงำนของระบบเซ็นเซอร์ 3.2.3.6 ประกอบอปุ กรณ์ตำ่ งๆ เขำ้ ด้วยกนั (ภำยในกล้องกนั น้ำ) 3.3 การวเิ คราะหผ์ ลและสถิติทใี่ ชใ้ นการวเิ คราะหผ์ ล ผ้จู ัดทำไดด้ ำเนนิ กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู จำกแบบสอบถำม ดังต่อไปน้ี 1) แบบสอบถำม ผ้จู ัดทำไดน้ ำแบบสอบถำมท่ีมคี วำมสมบรู ณ์ครบถ้วน ไปวเิ ครำะห์ และ แปรผล ดังน้ี 1.1) ข้อมูลเบ้ืองต้นของผู้ตอบแบบสอบถำม วิเครำะห์ดว้ ยกำรหำคำ่ ควำมถี่ รอ้ ยละ คำ่ เฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน 1.2) ขอ้ มูลกำรทดสอบควำมแม่นยำในกำรจ่ำยเจลแอลกอฮอลโ์ ดยเครื่องจำ่ ยเจล แอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ คำ่ เฉลย่ี ร้อยละ 80-100 หมำยถงึ มปี ระสทิ ธภิ ำพสงู คำ่ เฉลี่ย รอ้ ยละ 50-79 หมำยถงึ มีประสิทธภิ ำพต่ำ คำ่ เฉลย่ี รอ้ ยละ 0 - 49 หมำยถึง ไมม่ ปี ระสิทธิภำพ 1.3) ขอ้ มลู จำกกำรประเมนิ ควำมคิดเหน็ แบบมำตรกำรประมำณค่ำ 5 ระดบั วิเครำะห์ โดยกำรหำค่ำเฉลย่ี และส่วนเบยี่ งเบนมำตรฐำนโดยมีเกณฑก์ ำรตัดสนิ ระดบั กำรประเมนิ แปรผลคำ่ เฉลยี่ สว่ นท่เี ปน็ มำตรฐำนประมำณค่ำ 5 ระดบั ตำมแนวควำมคิดของลิเคริ ท์ (Likert) คำ่ เฉลย่ี 4.51 – 5.00 หมำยถึง ควำมพึงพอใจในระดบั มำกที่สดุ คำ่ เฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมำยถึง ควำมพึงพอใจในระดบั มำก คำ่ เฉลยี่ 2.51 – 3.50 หมำยถงึ ควำมพึงพอใจในระดบั ปำนกลำง คำ่ เฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมำยถงึ ควำมพึงพอใจในระดบั น้อย ค่ำเฉล่ีย 1.00 – 1.50 หมำยถึง ควำมพงึ พอใจในระดับน้อยที่สุด การเก็บรวบรวมข้อมูล คณะผู้จดั ทำได้ดำเนินกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในวันท่ี 1 กันยำยน 2564 จำกผูใ้ ชง้ ำน เครอ่ื งกดเจลแอลกอฮอล์ 36 คน และได้รบั กำรตอบกลบั 36 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 สถิตทิ ่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู สถิติที่ใชใ้ นกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลคอื คำ่ ร้อยละ และคำ่ เฉล่ีย
24 สถิติพื้นฐานทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 1) คำ่ รอ้ ยละ โดยใชส้ ตู รดงั นี้ สตู ร เมื่อ P แทน รอ้ ยละ F แทน ควำมถี่ที่ตอ้ งกำรแปลงใหเ้ ป็นรอ้ ยละ N แทน จำนวนควำมถที่ ัง้ หมด 2) คำ่ เฉลยี่ เลขคณิต (Mean) โดยใชส้ ตู รดังน้ี สตู ร เม่อื X คอื คำ่ เฉลย่ี Xi คอื ผลรวมของคะแนนทั้งหมด n คือ จำนวนนักเรยี น 3) กำรหำค่ำสว่ นเบ่ียงเบนมำตรฐำน สตู ร
25 โดยเกณฑ์ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำนมีดังนี้ = 0 ผู้ประเมนิ มีควำมเหน็ สอดคลอ้ งกัน 0 < 1 ผู้ประเมินมีควำมเห็นค่อนขำ้ งเหมอื นกัน > 1 ผู้ประเมนิ มีควำมคดิ เหน็ แตกตำ่ งกัน
บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน ผลการดาเนนิ งาน กำรดำเนนิ งำนโครงงำนสร้ำงเครื่องจ่ำยเจลแอลกอฮอล์ สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 5 โรงเรยี นปวั มวี ตั ถุประสงค์ 1) เพื่อลดกำรแพร่ระบำดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ่ (COVID-19) 2) เพื่อตอบสนองควำมสะดวกสบำยในกำรลำ้ งมือดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ 3) เพ่ือลดกำรสัมผัสกบั วัตถุที่อำจมกี ำรสะสมของเชื้อโรคอยมู่ ำก หลังจำกท่ผี ู้ใช้งำนเคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์แล้ว ได้แจกแบบสอบถำม เพือ่ หำควำม พึงพอใจของผูใ้ ชง้ ำน สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 5/1 และ 5/2 ไดผ้ ลดังนี้ ตารางที่ 4.1 ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม กล่มุ ตัวอยำ่ ง จำนวน รอ้ ยละ 1. เพศ 15 43.42 ชำย 21 56.58 หญิง 25 84.21 2. ควำมสนใจของผใู้ ช้งำน 8 9.21 มำก 3 6.58 ปำนกลำง นอ้ ย จำกตำรำงข้ำงต้นพบวำ่ กลมุ่ ผู้ให้ข้อมูลซึ่งเปน็ นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/1 และ 5/2 เป็น นกั เรยี นชำยจำนวน 33 คน คดิ เป็นร้อยละ 43.42 เป็นนักเรียนหญงิ 43 คดิ เปน็ ร้อยละ 56.58 ซง่ึ
27 กลุ่มผู้ใหข้ ้อมูลกลมุ่ นเี้ ป็นผทู้ ่มี ีควำมสนใจในกำรป้องกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคไวรัสโคโรนำ (COVID- 19) ในจำนวนผ้ใู หข้ ้อมลู ทง้ั หมด 76 คน ตารางท่ี 4.2 ประสิทธิภาพของเครือ่ งจา่ ยแอลกอฮอลอ์ ัตโนมัติ รำยกำร จำนวนครั้งทท่ี ดสอบ จำนวนครั้งทจี่ ำ่ ยได้ ควำมแม่นยำ 1. ควำมแม่นยำในกำรจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์ (ครัง้ ) (ครั้ง) รอ้ ยละ 20 17 85 เฉลี่ยรวม 20 17 85 จำกตำรำงข้ำงต้น พบวำ่ ควำมแม่นยำในกำรจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์ มีควำมแม่นย้ำ รอ้ ยละ 85 จงึ สำมำรถสรุปได้ว่ำ เคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ มีประสิทธภิ ำพสงู ตารางท่ี 4.3 ระดับความพึงพอใจ รำยกำร SD ระดบั 1.ควำมสวยงำมของเครื่องจำ่ ยเจลแอลกอฮอลอ์ ตั โนมตั ิ 4.40 0.74 มำก 2.ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้เคร่ืองจ่ำยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ 4.55 0.76 มำกที่สุด 3.สอดคล้องกับควำมต้องกำรในกำรใชง้ ำน 4.45 0.75 มำก 4. มีประโยชนแ์ ละมีควำมจำเปน็ ต่อสถำนกำรณ์ในปัจจบุ นั 4.68 0.79 มำกทสี่ ดุ 5.ประสทิ ธขิ องเคร่ืองจำ่ ยเจลแอลกอฮอล์อตั โนมตั ิ 4.53 0.76 มำกทส่ี ดุ เฉลี่ยรวม 4.52 0.76 มำกท่ีสุด
28 จำกตำรำงข้ำงต้น พบว่ำ โดยรวมแล้วกลุ่มตัวอยำ่ งมีควำมพงึ พอใจตอ่ เคร่อื งจ่ำยเจล แอลกอฮอล์ อยูใ่ นระดบั มำกท่ีสดุ โดยทผี่ ู้ใชง้ ำนมีควำมพึงพอใจในประโยชน์และมีควำมจำเปน็ ตอ่ สถำนกำรณ์ในปัจจบุ ัน ในระดับ มำกท่สี ุด ( = 4.68) ควำมสะดวกสบำยในกำรใช้เครื่องจำ่ ยเจล แอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ ( = 4.55) และประเด็นที่มีคำ่ เฉล่ยี ต่ำท่สี ดุ คือ ควำมสวยงำมของเคร่ืองจำ่ ยเจล แอลกอฮอลอ์ ตั โนมัติ (= 4.40)
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน 5.1 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน จำกผลกำรวดั ควำมแมน่ ยำและระดับควำมพึงพอใจและในกำรใช้เครือ่ งจ่ำยเเอลกอฮอลล์ อัตโนมัติ พบว่ำเครอื่ งกดเจลเเอลกอฮอลล์อตั โนมัติมปี ระสิทธภิ ำพสงู และกลุ่มเปำ้ หมำยดงั กล่ำวมี ควำมพึงพอใจต่อเครื่องกดเจลเเอลกอฮอลลอ์ ัตโนมตั ิอยใู่ นระดับมำกทส่ี ุด จึงสรุปได้วำ่ เครอื่ งจ่ำย เเอลกอฮอลล์อัตโนมตั ิเหมำะทจี่ ะนำมำใชก้ ับสถำนทตี่ ่ำงๆ เพื่อชว่ ยลดกำรแพรร่ ะบำดของเชื้อไวรัส โคโรน่ำ (COVID-19) รวมไปถึงลดกำรสัมผัสกบั วตั ถุท่อี ำจมีกำรสะสมของเชื้อโรคอย่มู ำก อีกทั้งยัง ตอบสนองต่อควำมสะดวกสบำยในกำรล้ำงมือของผู้คน 5.2 ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั 5.2.1 โรงเรียนปวั มีเคร่ืองจ่ำยแอลกอฮอล์แบบอัตโนมัติ 5.2.2 ทำใหไ้ ด้รับควำมรเู้ กย่ี วกบั ระบบเซน็ เซอร์ 5.2.3 มีเคร่ืองกดเจลเเอลกอฮอลท์ ี่มคี วำมสำมำรถในกำรใชง้ ำนทสี่ ะดวก 5.2.4 ลดกำรเเพร่ระบำดของเช้ือไวรสั โคโรนำ่ (COVID-19) จำกกำรสัมผสั ขวดเจล แอลกอฮอล์ 5.3 ปัญหาและอปุ สรรค 5.3.1 กำรต่อวงจรมีควำมซับซ้อนจงึ จะต้องขอควำมชว่ ยเหลอื จำกผ้มู ีควำมเช่ียวชำญในดำ้ น กำรต่อวงจรจริงๆเพ่ือควำมปลอดภยั เเละควำมสำมำรถในกำรใช้งำน 5.4 ข้อเสนอแนะ 5.4.1 ควรออกแบบให้เคร่ืองจำ่ ยของเหลวอัตโนมัติมขี นำดเลก็ สะดวกในกำรติดตง้ ัเคลื่อนที่ งำ่ ยต่อกำรซอ่ มบำรงุ และอำจปรบั ให้มกี ำรแจ้งเตือนระดับของเหลวผ่ำนทำงออนไลน์ 5.4.2 ควรออกแบบเครื่องจ่ำยแอลกอฮอลอ์ ัตโนมตั ใิ หม้ ีรูปแบบท่สี วยงำม และเป็นทีน่ ่ำสนใจ 5.4.3 เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์สำมำรถบอกปรมิ ำตรของเจลแอลกอฮอลไ์ ด้ 5.4.4 ควรเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์อย่ำงเหมำะสม ให้เหมำะกบั รูปทรง หรอื ขนำดของช้ินส่วนต่ำงๆ 5.4.5 สำมำรถใชพ้ ลังงำนแสงอำทิตย์แทนกำรใช้แบตเตอร่ี
30 บรรณานุกรม กรมควบคุมโรค. (2564). วิธกี ำรปอ้ งกนโควิด – 19. สืบค้นจำก dddddddhttps://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=17859&deptcode=brc มหำลัยมหดิ ลคณะแพทยศำสตรศ์ ริ ิรำชพยำบำล. (2564). วธิ ีป้องกันโควิด -19. สืบคน้ จำก dddddddhttps://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/preventioncovid/ องค์กำรสรุ ำกรมสรรพสำมติ . (2563). แอลกอฮอล์เพ่อื กำรสำธำรณสขุ . สืบค้นจำก dddddddhttps://www.liquor.or.th/aic/detail/ Cosmeticlab. (2563). แอลกอฮอล์ กับกำรเป็น disinfectant. สบื คน้ จำก dddddddhttps://web.facebook.com/107861117285271 initial. (2563). เคร่ืองจำ่ ยแอลกอฮอล์. สบื ค้นจำก dddddddhttps://www.initial.com/th/hand-hygiene/hand-sanitisers/ Lamax. (2563). Arduino. สบื ค้นจำก dddddddhttps://www.lamax.co.th/content/4818/ SAMYAN. (2564). แอลกอฮอล์. สืบคน้ จำก dddddddhttps://www.samyan-mitrtown.com/2021 Silkspan. (2563). การใชแ้ อลกอฮอลฆ์ า่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ (COVID-19). สืบคน้ จำก dddddddhttps://www.silkspan.com World Health Organization. (2563). ไวรัสโคโรนา่ . สบื คน้ จำก dddddddhttps://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019 World Health Organization. (2563). วิธีปอ้ งกนั โควิด -19 . สืบค้นจำก dddddddhttps://www.who.int/news-room/q-a-detail/coronavirus-disease-covid-19- dddddddhow-is-it-transmitted
31 ภาคผนวก
32 ภำพที่ 12 วัสดุ อปุ กรณ์ ในกำรทำโครงงำน
33 ภำพท่ี 13 ทดลองระบบเซ็นเซอร์
34 ภำพท่ี 14 คณะผจู้ ดั ทำโครงงำน
35 ภำพท่ี 15 ลกั ษณะภำยในตวั เคร่อื งหลงั ประกอบเสร็จ
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: