Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทความวิจัยสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร CA

บทความวิจัยสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร CA

Published by 35natthakarn, 2020-12-17 14:18:11

Description: บทความวิจัยสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร CA

Search

Read the Text Version

บทความวจิ ัยวธิ ีสอนภาษา เพือการศึกษา CA การใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารเพือเพิมพูนความสามารถในการฟง-พูด ภาษาองั กฤษและความร้ดู า้ นไวยากรณ์ของนักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี USING COMMUNICATIVE LANGUAGE TEACHING ACTIVITIES TO ENHANCE ENGLISH LISTENING-SPEAKING ABILITIES AND GRAMMATICAL KNOWLEDGE AMONG UNDERGRADUATE STUDENTS เกรียงศกั ด์ิ ฐานะกอง และนิธดิ า อดิภัทรนันท Kriangsak Thanakong1*and Nitida Adipattaranan2 1,2คณะศึกษาศาสตร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม 1,2Faculty of Education, Chiang Mai University, Chiang Mai 50200, Thailand

บทคัดย่อ การวจิ ัยครังนีมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พือศึกษาความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษของนกั ศึกษา หลังได้รับการสอนโดยใช้กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร และเพือเปรียบเทยี บความรู้ ด้านไวยากรณ์ของนักศึกษาก่อนและหลังไดร้ ับการสอนโดยใช้กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการ สือสาร กลมุ่ เปาหมายทีใชใ้ นการวจิ ยั ครังนคี อื นกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรีมหาวทิ ยาลัยพะเยา ที ลงทะเบียนเรียนวชิ าภาษาอังกฤษพัฒนา (001112) ปการศึกษา2557จาํ นวน 36 คน เครืองมือ ทใี ช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการสอนโดยใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารจํานวน 7แผน แบบประเมินความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษ และแบบความร้ดู ้านไวยากรณ์ ซึงวัดความสามารถของนักศึกษาทังก่อนและหลังการเรียนโดยใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพือ การสือสาร วิเคราะหข์ ้อมูลเพือหาคา่ เฉลยี ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน และคา่ ร้อยละ ผลวจิ ัยพบว่า 1. หลังการเรยี นโดยใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร นกั ศึกษามีความ สามารถใน การฟง-พูดภาษาองั กฤษผ่านเกณฑท์ กี าํ หนดไว้ อยใู่ นระดบั ดี 2. หลังการเรียนโดยใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร นกั ศึกษามีความร้ทู างดา้ น ไวยากรณเ์ พิมขนึ คาํ สําคญั : กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร ความสามารถในการฟง-พูด ภาษาองั กฤษ ความรดู้ ้านไวยากรณ์

บทนํา โลกปจจุบนั คือโลกแหง่ ข้อมลู ข่าวสารมนษุ ย์มีการติดตอ่ สือสารและแลกเปลียน ข้อมูลทังทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมอยูเ่ สมอซึงมนุษย์ใชภ้ าษาเปน เครืองมอื ในการตดิ ต่อสือสารและแลกเปลยี นข้อมูลการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศจึงมี ความสําคญั มากในโลกปจจุบันนอกจากภาษาจะเปนเครอื งมอื ในการตดิ ต่อสือสารดงั กลา่ วข้างต้น ภาษายังช่วยให้มนุษย์ตระหนกั ถงึ ความหลากหลายทางวฒั นธรรม รวม ถงึ ช่วยสร้างความรว่ มมอื ระหว่างกลุ่มคนต่างๆ หรือประเทศตา่ งๆ ได้ทงั นภี าษาทีใช้ กันมากทสี ุด คือ ภาษาอังกฤษ ซึงสอดคล้องกับViriyachitra, et al. (2012,p.10) กล่าวว่า ภาษาองั กฤษกลายเปนภาษากลางของโลกหรือกลายเปนภาษาสากลจะเห็น ไดว้ า่ ภาษาอังกฤษมีอิทธิพลต่อการเมอื ง การค้า การศึกษา และการพัฒนาของ เทคโนโลยี ดังนนั ผูค้ นจงึ หันมาเรียนหรือใชภ้ าษาอังกฤษเพือจะสือสารกับคนทัวโลก และสือสารกนั เองภายในประเทศ ซึงจะเห็นไดว้ ่าประชาคมอาเซยี นใช้ภาษาอังกฤษ เปนภาษาทางการดว้ ยเช่นกนั

การสอนภาษาอังกฤษในปจจบุ ัน เน้นใหผ้ ู้เรยี นใช้ภาษาอังกฤษได้ในชวี ติ จรงิ ดงั นัน ทักษะฟง-พูดถือเปนหนึงในทักษะทีมีความสําคัญ Byrne (1976, p.8) กล่าววา่ การฟง-พูดเปนการสือสารของบคุ คลตังแต่สองบุคคลขนึ ไป ซงึ ตา่ งมีจุดประสงคท์ จี ะสือความหมายของตนเอง และผฟู้ งจะตอ้ งตคี วามสิงทผี ู้ พูดต้องการสือความหมาย ทกั ษะการฟง เปนทกั ษะดา้ นการรับสาร (Receptive Skill) ส่วนทักษะการพูดเปนทกั ษะทางดา้ นการส่งสาร (Productive Skill) Rivers (1986, p.159) กล่าวว่าการฟง-พูด เปนกระบวนการสือสารทีประกอบ ด้วยขอ้ มูลในรูปของเสียงไปสู่ผฟู้ ง จากนนั ผฟู้ งจะแปลงสัญญาณผา่ นชอ่ งทาง รบั สัญญาณ เปนตัวสารเพือให้เกิดความเขา้ ใจ

ในสภาพปจจบุ ัน ปญหาความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษของ นกั ศึกษาระดับปริญญาตรคี อื มีการพูดติดขดั ไม่สามารถพูดโตต้ อบไดอ้ ยา่ ง เปนธรรมชาติสาเหตุมาจากผเู้ รยี นขาดความรดู้ ้านไวยากรณแ์ ละมีคําศัพท์ จํานวนจาํ กัด จงึ พูดไม่ถกู ต้องตามหลักไวยากรณแ์ ละไม่สามารถเลอื กใชค้ าํ ศัพทท์ เี หมาะสมในการสือสารอันเปนผลมาจากกลวิธีในการเรียนและ ลกั ษณะนิสัยในการใช้ภาษาของผ้เู รียน อกี ทงั ยงั ขาดทักษะในการใช้ภาษา อังกฤษเพือการสือสารสาเหตอุ ีกประการหนงึ คอื กิจกรรมการเรียนการสอนที ใชไ้ มไ่ ด้สนบั สนุนความสามารถในการฟง-พูดของผเู้ รียนเท่าทีควร (Plailek, 2011; Kitisripanya, 2006; Pongpanich, 2011)

กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร เปนกิจกรรมทีจดั ขึนตามทฤษฏกี ารสอน ภาษาเพือการสือสารซึงมหี ลักการเรียนรู้ทสี ามารถแบ่งได้ 3 ขอ้ คอื 1) ในด้านของการสือสาร กจิ กรรมทีเกยี วข้องกบั การสือสารจริงจะส่งเสรมิ การ เรียนรขู้ องผ็ูเรยี น 2) ในส่วนของงานทมี อบหมาย กล่าวไดว้ ่า กจิ กรรมการใช้ภาษาทมี ีการฝกปฏบิ ัติ หรือทํางานอยา่ งมคี วามหมายจะส่งเสริมการเรียนรู้ 3) ด้านองคป์ ระกอบของความหมาย เมอื ภาษามีความหมาย เกยี วขอ้ งกับผูเ้ รยี น ภาษาจะส่งเสริมกระบวนการการเรียนรู้(Richards & Rodgers, 2003, p.161) ทังนีกิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารมาจากแนวคดิ หลายๆ แนวคดิ ผสมผสาน กนั เชน่ แนวคดิ เรืองความสามารถทจี ะเขา้ ใจภาษาของ Chomsky (as cited in Swain & Canale, 1980, p.3) ทีเชือวา่ หากคนเรามคี วามสามารถทีจะเขา้ ใจใน ตัวภาษา (Competence) กจ็ ะสามารถนาํ มาประยกุ ตใ์ ช้หรอื แสดงออกได้

ด้านองคป์ ระกอบของความสามารถในการสือสาร Canale (as cited in Richards & Schmidt, 1986,pp.6-14) กลา่ วถงึ องคป์ ระกอบของความ สามารถในการสือสารว่า มอี ยดู่ ้วยกนั 4 ส่วนใหญ่ๆ คือ ความสามารถดา้ นกฎ เกณฑไ์ วยากรณข์ องภาษา (GrammaticalCompetence) ความสามารถดา้ น ภาษาศาสตร์ทางด้านสังคม(Sociolinguistic Competence) ความสามารถดา้ น การสัมพันธข์ ้อความ (Discourse Competence) และความสามารถด้านกลวธิ ี ในการสือสาร (Strategic Competence) จะเห็นได้ว่าแนวการสอนภาษาเพือ การสือสารมจี ดุ มุ่งหมายเพือส่งเสริมความสามารถทงั สีด้านไวยากรณก์ จ็ ดั อยู่ใน องค์ประกอบดังกล่าวขา้ งตน้ และความสามารถดา้ นการฟง-พูดยังเปนการ แสดงออกขององค์ประกอบทังสี

สําหรับกจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร Littlewood (1988, p.20) ได้ แบ่งกจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสารออกเปน 2 ประเภท คือ กจิ กรรมการ ใช้ภาษาเพือการสือสารตามวตั ถปุ ระสงค์(FunctionalCommunication Activities) และกจิ กรรมการใชภ้ าษาเพือการปฏสิ ัมพันธ์ในสังคม (Social InteractionActivities)ทังนี กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารจะปรากฏอยู่ ในขนั ตอนการสอนตามแนวการสอนภาษาเพือการสือสาร ที Scott (as cited in Aksaranugraha, 1987, pp.6-8) ได้เสนอไว้โดยผสู้ อนจะแนะนําการทํา กิจกรรมและผู้เรียนได้ท ากจิ กรรมอย่างอิสระ ดงั มรี ายละเอียดของขันตอนการ สอนนี 1. ขนั บอกวตั ถปุ ระสงค์ (Setting Objectives) เปนขันตอนทีผู้สอนตงั จดุ ประสงค์การเรยี น และบอกใหผ้ เู้ รียนรถู้ ึงสิงทีตนกาํ ลังจะเรียน

2. ขันนาํ เสนอเนอื หา (Presentation) ผูส้ อนจะเกรนิ เขา้ เรืองโดยการใชร้ ปู ภาพหรอื เล่า ให้ผู้เรยี นฟงหลงั จากนนั จึงนําเสนอและอธบิ ายเนือหาทางภาษา อันเปนประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน สําหรับการนําไปใช้ในการสือสารโดยผู้เรียนจะไดเ้ รยี นรู้ทําความเขา้ ใจเกยี วกับความหมาย และวิธีการใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์ตา่ งๆรวมถึงการเรยี นรกู้ ฎเกณฑ์ทางด้าน ภาษาJournal of Education Naresuan University Vol.19 No.4 October – December 2017 |55 3. ขนั การฝก (Practice) ในขันนผี ู้เรียนจะฝกใช้ภาษาทเี พิงเรียนรู้ใหมโ่ ดยเนน้ ให้ผู้ เรยี นจดจาํ รูปแบบของภาษาอีกทงั ยังเน้นความถูกต้องและความเขา้ ใจเกยี วกบั ความหมาย รวมถึงวธิ กี ารใชร้ ปู แบบของภาษานันๆด้วย 4. ขนั การนาํ ไปใช้ (Transfer) ผสู้ อนจะอธิบายการทํากิจกรรมการใชภ้ าษาเพือการ สือสารทงั กจิ กรรมการแสดงบทบาทสมมติ กจิ กรรมสถานการณ์จําลอง และกจิ กรรมชอ่ ง ว่างของข้อมูลอยา่ งละเอียดให้แกผ่ เู้ รียนผู้เรียนจะเปนผู้ทาํ กจิ กรรมเองในขณะทีผูส้ อนคอย ชว่ ยเหลอื เมอื ผ้เู รยี นตอ้ งการ

งานวจิ ัยทสี นบั สนนุ การใช้การสอนภาษาเพือการสือสารเพิมพูนความสามารถ ในการฟง-พูดและความรู้ดา้ นไวยากรณ์ไดแ้ ก่ Ma (2009) ไดศ้ ึกษาการใช้ กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสารเพือพัฒนาความสามารถดา้ นการฟงของผู้ เรียนระดบั วิทยาลยั โดยเริมกระตุน้ ความรู้พืนฐานเขา้ กบั ทักษะตา่ งๆรวมถงึ การ ฟง-พูด โดยการใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร ผลการวจิ ัยพบวา่ การ สอนเช่นนีมปี ระสิทธภิ าพ ชว่ ยให้ผ้เู รยี นมีพัฒนาการทางดา้ นการฟง-พูดได้ สําหรบั Hiên (2011) ศึกษาการใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารตอ่ การ สอนไวยากรณข์ องผเู้ รียนระดับวิทยาลัย โดยศึกษาพัฒนาการของผูเ้ รียนและ การใช้กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร ผ้วู ิจยั ชีให้เหน็ วา่ ไวยากรณ์สําคัญ ตอ่ การเรียนรู้ เราไมส่ ามารถเข้าใจภาษาไดอ้ ยา่ งถ่องแทห้ ากขาดไวยากรณ์

วตั ถุประสงคข์ องงานวจิ ยั 1. เพือศึกษาความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษของผูเ้ รียนหลงั การใชก้ จิ กรรมการสอนภาษา เพือการสือสาร 2. เพือเปรียบเทยี บความร้ดู ้านไวยากรณข์ องผ้เู รยี นกอ่ นและหลงั การใช้กจิ กรรมการสอนภาษาเพือ การสือสาร ขอบเขตของงานวจิ ัย 1. กลมุ่ เปาหมาย กลุ่มเปาหมาย ไดแ้ ก่ นกั ศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลยั พะเยา ทลี งทะเบียนเรียนวชิ าภาษาอังกฤษ พัฒนา ปการศึกษา 2527 จํานวน 36 คน 2. ตวั แปรทศี ึกษา ไดแ้ ก่ 1) ตัวแปรต้น การสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการ สือสาร และ 2) ตวั แปรตาม ความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษ 3. ขอบเขตเนอื หา เนือหาทใี ชใ้ นงานวิจัยปรับมาจากในหนงั สือ Four Corners Level 3 สําหรบั วิชา ภาษาอังกฤษพัฒนา ของมหาวิทยาลยั พะเยา เปนเนือหาทีเน้นทักสีทักษะทางภาษา คือ ฟง พูด อ่าน และ เขียนจํานวน 3 เรอื ง ประกอบดว้ ย Music, My behavior, Personalities, และ Fashion Trends และ เนือหาอนื ๆอีก 4 เรือง คอื Friend’s Suggestion, Occupations, และ Tourist Attractions in Phayao

นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 1. กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร หมายถึง การจัดการเรียนรแู้ นวการสอนภาษาเพือ การสือสาร อนั ประกอบดว้ ยกิจกรรมช่องว่างของข้อมลู ตามขันตอนการสอนซึงประ ประกอบ ดว้ ย 4 ขันตอน ไดแ้ ก่ 1) ขันบอกวตั ถุประสงค์ 2) ขันนําเสนอเนือหา 3) ขันการฝกผเู้ รยี น 4) ขนั การนาํ ไปใช้ 2. ความสามารถในการฟง-พูด หมายถึงความสามารถในการโตต้ อบสือสารด้วยภาษาที เหมาะสม 3. ความรู้ด้านไวยากรณ์ หมายถึงความรู้ด้านการใชโ้ ครงสร้างภาษาอังกฤษทถี กู ตอ้ งใน บรบิ ททีกําหนดใหโ้ ดยพิจารณาคะแนนจากการทําแบบทดสอบวัดความรู้ด้านไวยากรณ์ 4. นักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี หมายถงึ นกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลยั พะเยา ที ลงทะเบยี นเรยี นวิชาภาษาอังกฤษพัฒนา ปการศึกษา 2527 จํานวน 36 คน

วธิ ดี ําเนนิ การวจิ ยั 1. เครอื งมอื ทใี ช้ในการวจิ ัย ได้แก่ 1.1 เครืองมือทใี ช้ในการทดลอง 1.2 เครอื งมอื ทใี ชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู 1.2.1 แบบประเมนิ ความสามารถในการฟง-พูดภาษาอังกฤษเปนเครอื งมือในการวดั ความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษของผเู้ รยี นในขณะทาํ กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร 1.2.2 แบบวัดความรูด้ ้านไวยากรณภ์ าษาองั กฤษเปนแบบทดสอบปรนยั 2.ขันตอนดําเนนิ การทดลอง การทดลองเพือเปรียบเทียบความสามารถในการฟง-พูด และความรู้ ดา้ นไวยากรณ์โดยใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการมขี นั ตอน 2.1 วัดความรดู้ ้านไวยากรณก์ อ่ นการทดลองดว้ ยแบบทดสอบความรดู้ ้านไวยากรณ์แบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จํานวน 35 ขอ้ 2.2 ดาํ เนนิ การทดลองตามแผนการสอน 2.3 วัดความรู้ด้านไวยากรณห์ ลงั การทดลองโดยใช้แบบทดสอบชุดเดมิ 3. การวิเคราะห์ขอ้ มลู ผวู้ จิ ัยไดด้ าํ เนนิ การวิเคราะห์ข้อมูลตามลําดับขันตอน ดังนี 3.1 หาค่าเฉลีย และส่วนเบยี งเบนมาตรฐานของคะแนนความสามารถในการฟง-พูดภาษาอังกฤษ หลงั การจบการเรยี นรแู้ ต่ละแผนการสอน 3.2หาคา่ เฉลยี และส่วนเบียงเบนมาตรฐานจากการทําแบบวดั ความรดู้ า้ นไวยากรณ์ก่อนและหลังการทดลอง

สรปุ ผลการวจิ ยั ตอนที 1 ผลการศึกษาความสามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษของผู้เรียนโดย การใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร จากตาราง1แสดงใหเ้ หน็ วา่ ค่าเฉลียของคะแนนความสามารถในการฟง-พูด ภาษาอังกฤษของผู้เรียนโดยมคี า่ เฉลียรวมเท่ากบั 42.38ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน เทา่ กบั 3.38 ค่าร้อยละเท่ากับ70.63 และมีระดบั คุณภาพอย่ใู นระดบั ดี ผา่ น เกณฑท์ ีกําหนดไว้ (รอ้ ยละ 60) และเมือพิจารณาแตล่ ะแผนปรากฏวา่ ในแผนที 1 ถงึ 3 อยใู่ นระดบั ดีพอใช้ แผนที 4, 5 และ 7 อย่ใู นระดับดี และแผนที 6 อยู่ ในระดบั ดีมากอภปิ รายผล

1. หลงั การเรียนโดยการใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารผเู้ รียนมคี วาม สามารถในการฟง-พูดภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ทีกาํ หนดไว้ ประการแรก กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสารเปนกิจกรรมทีชว่ ยใหผ้ ู้ เรียนได้ใช้ภาษาในบริบททคี ล้ายกับชวี ิตจริง กิจกรรมหลักในงานวจิ ัยนีประกอบ ด้วยกิจกรรมชอ่ งวา่ งของข้อมลู กจิ กรรมการแสดงบทบาทสมมตุ ิ และกิจกรรม สถานการณจ์ าํ ลองทงั สามกิจกรรมส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนไดใ้ ช้ภาษาทีคลา้ ยกับ บรบิ ทชีวติ จรงิ โดยการให้ผเู้ รยี นใชภ้ าษาเพือแลกเปลยี นข้อมูลหรือใชภ้ าษาเพือ หาข้อมูลทตี นเองขาดจากคสู่ นทนาและเมือผู้เรยี นสวมบทบาทเปนบคุ คลอนื หรอื สมมตวิ า่ ตนเองกําลงั อยใู่ นสถานการณน์ นั ทาํ ให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ใชภ้ าษาเพือ การสือสารซงึ คล้ายกบั ชวี ิตจรงิ มากทีสุด

ประการทสี อง กจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสารส่งเสริมความรูด้ ้านภาษา ให้กับผู้เรยี นอนั เปนประโยชน์ต่อความสามารถในการฟง-พูดภาษาอังกฤษ ทงั นีใน ด้านองค์ประกอบของความหมายในภาษานนั เมอื ภาษามคี วามเกยี วขอ้ งกับผู้เรียน ภาษาจะส่งเสรมิ กระบวนการการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน ได(้ Richards&Rodgers,2003, p.161) ในการเรียนการสอนของทุกแผน ประการทีสาม กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นมคี วาม สามารถในการฟง-พูดภาษาองั กฤษเพิมขนึ โดยการได้ฝกการใชภ้ าษาจากงานทีได้ รับมอบหมาย สอดคล้องกบั Richards and Rodgers(2003, p.161) ทกี ล่าววา่ ในส่วนของงานทมี อบหมาย จะกล่าวไดว้ ่า กจิ กรรมการใช้ภาษาทมี ีการฝกปฏิบตั ิ หรอื ทํางานอยา่ งมคี วามหมายจะส่งเสรมิ การเรยี นรู้ ในงานวิจยั ครงั นี ผู้เรียนได้ รับมอบหมายงานโดยตอ้ งใชภ้ าษาผ่านชินงานหรอื ภาระงานเหลา่ นนั ทังในรปู แบบ การอา่ น การเขยี น รวมถงึ การฟง-พูดอกี ดว้ ย

ประการสุดท้าย คือ การใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารชว่ ยให้ ผู้เรยี นแลกเปลยี นขอ้ มลู ทีไมร่ ู้มากอ่ น โดยเปดโอกาสให้ผเู้ รียนพูดไดอ้ ย่าง อิสระ กิจกรรมทมี ีการทํางานเปนกล่มุ ทาํ ให้มีการสือสารแลกเปลยี นความคดิ เหน็ กนั ผูเ้ รียนรู้สึกวางใจ ยอมรับซงึ กนั และกัน ทําใหผ้ ้เู รียนไม่รู้สึกเกรง็ ไม่ ต้องฝนทีจะแลกเปลยี นขอ้ มลู กลา้ ทจี ะถามทังผวู้ ิจัยและเพือนในสิงทตี นเอง ไมเ่ ขา้ ใจ และกล้าแสดงออกมากขนึ ดังนันเนอื งจากผู้เรียนมีส่วนร่วมใน การทํากิจกรรมกบั เพือนอย่างสนกุ เกดิ การแลกเปลียนข้อมลู ทไี ม่รมู้ ากอ่ น กบั ผู้วจิ ัยและผู้เรียนด้วยกนั เอง จึงชว่ ยให้ทกั ษะการฟง-พูดของผูเ้ รียนดขี นึ

2.หลงั การเรียนโดยการใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารผเู้ รียนความรูท้ า งด้าไวยากรณเ์ พิมขึน ทังนอี าจเนอื งมาจาก ประการแรก ในแต่ละแผนการสอนผูเ้ รียนไดร้ บั ความร้ดู ้านไวยากรณแ์ ละ ฝกฝนการใชไ้ วยากรณ์ผ่านกจิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสาร อันปรากฏอยู่ ในขนั ตอนการสอนภาษาเพือการสือสารทงั สีขันตอน คือขนั บอกวตั ถปุ ระสงค์ ขนั นําเสนอเนือหา ขนั ฝก และขันการนาํ ไปใช้ ประการทสี อง เมอื ผู้เรียนทํากจิ กรรมด้วยกัน ทําใหผ้ ู้เรยี นมีปฏิสัมพันธแ์ ละ ช่วยกันทําความเขา้ ใจไวยากรณท์ เี พือนไมเ่ ขา้ ใจ ซึงการใช้กิจกรรมการสอนภาษา เพือการสือสารมีแนวคิดใหผ้ เู้ รียนสือสาร แสดงความคิดเหน็ ของตนได้ ดงั นัน การให้ผู้เรยี นทาํ งานเปนกลุ่มหรือเปนคู่ จงึ เปนการจดั กิจกรรมทเี หมาะสมกบั เปา หมายของการเรียนรู้ ในการวิจัยครงั นี ผู้วจิ ัยเหน็ ว่า เมอื ผู้เรยี นทาํ งานเปนกลมุ่ ผู้ เรยี นจะมีปฏิสัมพันธก์ ัน มกี ารเจรจาแลกเปลยี นความคิดเหน็ กัน ทาํ ใหผ้ เู้ รียนกลา้ ทจี ะซกั ถามกัน

สรุปได้วา่ การใชก้ จิ กรรมการสอนภาษาเพือการสือสารชว่ ยเพิมพูนความรู้ ดา้ นไวยากรณข์ องผเู้ รียนได้ โดยกิจกรรมทีอยใู่ นขันตอนการสอนภาษาเพือการ สือสารช่วยใหผ้ ้เู รยี นได้เรยี นรฝู้ กและใช้ไวยากรณ์อนั ก่อใหเ้ กดิ ความรูด้ า้ น ไวยากรณไ์ ดอ้ กี ทังยงั มีการใหข้ ้อมูลย้อนกลบั เปนการชมเพือใหผ้ เู้ รียนรสู้ ึกภูมิใจ กับการแสดงของตนเอง และมีการแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดอย่างระมดั ระวัง ซงึ ทาํ ให้ผู้ เรยี นรไู้ วยากรณ์ทีตนใช้ผิดและตระหนักถงึ การใช้ในครงั ต่อไป นอกจากนีเมอื ผู้ เรยี นทาํ กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารรว่ มกนั ผ้เู รยี นจะมีการเจรจาหรอื ปฏิสัมพันธก์ นั เกดิ ความผูกพันและร้สู ึกดตี อ่ กนั จึงกล้าทจี ะถามกนั เมือตนไม่ เข้าใจ ผู้เรยี นช่วยอธิบายไวยากรณใ์ หก้ นั ซงึ ช่วยใหค้ วามรู้ด้านไวยากรณข์ องผู้ เรียนเพิมขนึ

ข้อเสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะด้านการเรียนการสอน 1.1ควรแจกเนือหาหรอื เอกสารการสอนก่อนทีจะมีการเรยี นการสอนเพือใหผ้ ู้ เรยี นได้ทําความเขา้ ใจกอ่ นกล่าวคือผู้เรยี นสามารถอา่ นและเตรียมตัวมาก่อนได้ เช่นการเตรยี มคําศัพทท์ อี ย่ใู นบทเรยี นหรอื คําศัพท์ทีจาํ เปนต่อการทํากจิ กรรมมา ก่อนทงั นยี งั จะช่วยลดเวลาในขนั นําเสนอเนือหาซึงจะเปนประโยชน์ตอ่ การใช้ เวลากับการฝกและการนําไปใชไ้ ด้อีกดว้ ย 1.2ควรทบทวนความร้เู ดมิ ทเี รียนไปเพือใหผ้ ู้เรยี นได้เชอื มโยงความรเู้ ดมิ กบั ความร้ใู หม่ได้ถอื เปนการกระตุน้ ให้ผู้เรียนรสู้ ึกว่าตนเองสามรถเรียนรู้สิงใหมๆ่ ได้ และจะส่งผลให้ผู้เรยี นมคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรียนเพิมมากขึน

1.3 ในการทํางานเปนกลุ่ม ผสู้ อนควรกระตุน้ ให้ผู้เรยี นเหน็ ถงึ ความสําคญั ของ การทาํ งานเปนกลุ่มทําให้ผเู้ รียนเกดิ ความรับผิดชอบต่องานทีได้รบั มอบหมายให้ ผู้เรยี นมีความรูส้ ึกทีดีรว่ มกนั และมีความเคารพซึงกนั และกนั ภายในกล่มุ 1.4ผูส้ อนควรบริหารเวลาให้เหมาะสมทงั นแี ผนแตล่ ะแผนมคี วามยากง่ายไม่ เหมือนกนั บางแผนอาจตอ้ งให้ใช้เวลาในขนั นําเสนอมากบางแผนอาจต้องการให้ ผูเ้ รียนใชเ้ วลากับการฝกหรือนาํ ไปใช้มากอยา่ งไรกต็ ามไม่ควรปล่อยเวลาให้สูญ เปล่าหรอื ใช้เวลาในขันทีผู้เรียนรแู้ ละเขา้ ใจแล้วมากเกนิ ไป 1.5ผู้สอนควรเปนผู้ชว่ ยเหลอื และผรู้ ว่ มทํากจิ กรรมเช่นในขณะทผี เู้ รยี นฝกหรอื ทําแบบฝกหัดผสู้ อนควรเดินไปรอบๆหอ้ งเพือใหค้ าํ ปรึกษาชว่ ยเหลือทุกคนอย่าง ทัวถึง อกี ทงั ผ้สู อนควร คอยให้กําลงั ใจ และชมเชยเมือผูเ้ รยี นประสบผลสําเรจ็ ในการทํากิจกรรม

1.6 ผู้สอนควรนาํ เสนอเนือหาดา้ นไวยากรณ์ทังในรปู แบบนิรนัยและอุปนัย เนืองจากผู้เรียนมีความแตกต่างกัน ขึนอยู่กบั ผเู้ รียนจะรบั รเู้ นือหาด้านไวยากรณ์ ผ่านการนาํ เสนอรปู ไหน 2. ข้อเสนอแนะในการทาํ วิจยั ครงั ต่อไป 2.1 ควรมีการศึกษาและวิจยั ตัวแปรอืนๆเพิมเตมิ นอกเหนอื จากความสามารถ ด้านการฟง-พูดและความรู้ดา้ นไวยากรณ์ เช่น ความสามารถด้านการอา่ นความรู้ ด้านคาํ ศัพท์ และความสามารถในการคดิ วิเคราะห์เปนตน้ 2.2 ควรมกี ารศึกษาและวิจัยการใช้กิจกรรมการสอนภาษาเพือการสือสารใน กลุม่ ตวั อย่างอนื ๆด้วย เช่นพนกั งานโรงแรม เลขานกุ าร และผูป้ ระกอบการดา้ น การทอ่ งเทยี ว เปนต้น

Thank you นางสาวณัฐกานต์ เรืองกิจโกมล 304 นายก้าว รกั ษา 310


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook