Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเภทของ SEO

ประเภทของ SEO

Published by ฐิติมา นาจันทัศ, 2021-09-19 09:25:05

Description: ประเภทของ SEO

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 5 การจัดอันดับเว็บไซต์(SEO) ประเSภEทOของ BY : TITIMA NACHANTHAT

SEO ประกอบด้วย SEO 3ประเภท ON-PAGE SEO 4.1 O n Page คือ กระบวนการปรับแต่งแก้ไข หรือจัดการสิ่งต่างๆบนเว็บไซต์ให้มีคุณสมบัติ ตามที่ google ต้องการเพื่อให้ดึงข้อมูลของ เว็บไซต์ไปจัดเก็บเป็นผลการค้นหาให้มี ประสิทธิภาพที่สุดเป็น SEO ที่มีอำนาจในการจัด มากที่สุดเพราะแทบจะทุกอย่างอยู่บนเว็บไซต์

4.1.1Keyword Research คือ การค้นหาคำหรือวลีที่มีความเกี่ยวข้อง กับธุรกิจ เพื่อที่จะให้มีผู้ค้นหาเจอในหน้าแรกของ google และนำคำหลัก เหล่านี้มาใส่และปรับแต่งเว็บไซต์ซึ่งก็คือการทำ seo 4.1.2 Web Structure คือ โครงสร้างเว็บไซต์โดยพิจารณาว่ามีการจัดโครงสร้างให้ ง่ายต่อการเข้าชมในแต่ละหน้าอย่างไร 4.1.3 W3C Validation ใช้ สำหรับให้เว็บไซต์ต่างๆ สามารถตรวจสอบได้เองว่า เว็บที่พัฒนาถูกต้อง ตามมาตราฐานสากลของ w3c หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ https://Validation.w3.org / 4.1.4 Meta/Title/Tag ชื่อเพจหรือข้อมูลที่แสดงผลตรงด้านบนสุดของเว็บ บราวเซอร์ รายงานแสดงผลตรง headling บน Search Engine ซึ่งจะช่วยให้ผู้ ใช้งานเว็บไซต์เข้าใจได้ทันทีว่าเว็บเพจที่แสดงในหน้าค้นหานั่น คืออะไร เกี่ยวกับ อะไร และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังค้นหาอยู่หรือไม่ รวมทั้งทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะคิด เข้ามาอ่านข้างในต่อหรื่อไม่ จึงควรคิดและวางแผนว่าจะเขียน Meta/Title/Tag อย่างไร ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

4.1.5 image/video/Optimization ในการทำ seo เพื่อให้เว็บไซต์ถูก ค้นหาจากผู้ใช้งานได้โดยง่าย เมื่อคลิกที่รูปภาพหรือวีดิโอจะปรากฏหน้าแรก ทันที เนื่องจากการค้นหาบน google จำนวนมาก 27% มาจากการค้นหา รูปภาพหรือวีดีโอ ซึ่งการใช้รูปภาพหรือวิดีโอมาช่วย ก็คือ การทำ image/video/Optimization โดยกำหนดชื่อ(name) ขนาด(size) นามสกุลของไฟล์ (format) และความละเอียด(Resolution) ที่เหมาะสม 4.1.6 Site Map creation ต่อ การทำลิงก็ภายในที่สามารถเ ได้อย่าง รวดเร็วและเป็นระเบียบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าดูแต่ละหน้าของเว็บไซต์ 4.2 Of-Page SEO คือ การจัดการปัจจัยภายนอกเพื่อให้ น่งผลการค้นหาดีขึ้น เช่น ลิงก์ภายนอกที่เข้ามายังเว็บ Of ที่เรียกว่า Backlink หลายคนเข้าใจว่า Of-Page SEO คือ การทำ Backink เข้ามาเท่านั้น นอกจาก Backink แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย โดย Off-Page SEO มีรายละเอียดดังนี้ 4.2.1 Backlink หรือลิงก็จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ชี้เข้ามายัง ว็บไซต์ Backink เป็นหนึ่ง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการคันหาของ Google แต่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

1) ถ้ามี backlink เข้ามาเป็นจำนวนมากจึงมีผลดี และต้องเป็น backlink ที่มีคุณภาพ ซึ่งก็คือเป็นลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ที่มีความ น่าเชื่อถือ หากเป็นลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ที่เป็น Spam ลิงค์ที่จะมา เป็นเฟรมด้วยทำให้มีผลต่อตำแหน่งผลการค้นหาเป็นอย่างมาก 2) การทำ wed farm คือ คือการเปิดเว็บไซต์หลายๆเว็บไซต์ แล้วทำลิงก์มายังเว็บไซต์เพื่อหวังให้เว็บไซต์มีน้ำหนักขึ้น ในปัจจุบัน นี้เกือบจะไม่มีผลอะไร ถ้าทำจำนวนมากอาจถูกหรือแก้วว่าเป็น Spam drink เค้าเข้าควรจะมาจากเน็ตเวิร์กอื่นหลากๆแห่ง 3) การซื้อ backlink จัดเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะลิงค์ที่เข้ามามักจะ เป็นลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ในกลุ่มเดิมๆที่ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ซื้อ backlink นี้เช่นกัน

4) backlink ของเว็บไซต์หนึ่งจะมีน้ำหนักเป็นอย่างมากหากเป็นลิงค์ที่มา จากเว็บไซต์ประเภทเดียวกันเช่น backlink ของเว็บไซต์ท่องเที่ยว จะมีน้ำ หนักมากๆลิงก์มาเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยว หรืออยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ถ้า เป็นลิงค์จากเว็บไซต์ขายอุปกรณ์เจาะผนังซึ่งมีน้ำหนักน้อย และถ้าหากมี จำนวนมากจะถูกมองว่าเป็นSpamด้วยเช่นกัน 5) backlink ที่มีคุณภาพต้องเป็นลิงค์ธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงเจ้าของเว็บ อื่นเป็นคนทำลิงค์เข้ามาเอง โดยแทรกอยู่ในเนื้อหาที่มีลักษณะเดียวกับเนื้อหา ในเว็บไซด์ที่ลิงค์นั้นชี้มา google จะมองว่า backlink ที่มีคุณภาพ คือ ลิงค์ที่เว็บไซต์หนึ่งแนะนำให้ผู้อื่นได้ไปศึกษาข้อมูลเพิ่ม หรือข้อมูลอ้างอิงจาก เว็บไซต์ตามลิงค์ที่ให้ไป

4.2.2 Social Media เป็นการกล่าวถึงเว็บไซต์ในเครือข่ายสังคม ออนไลน์ต่างๆได้ว่าเป็น backlink ประเภทหนึ่ง 1) Social Bookmarking คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้งานท่อง เว็บไซต์แล้วต้องการทำ bookmark ไว้เพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆที่สนใจ ได้ติดตาม เช่น เว็บไซต์ดังต่อไปนี้ Delicious Reddit Pinterest Stumbleupon และ Digg ตามความเป็นจริงก็เป็น Backlink ประเภทหนึ่ง แต่ google แต่มองในมุมมองที่แตกต่างว่าเป็นเนื้อหาที่ มีการแบ่งปันให้มีคนสนใจ และจะให้น้ำหนักความสำคัญต่างกัน 2) ประสิทธิภาพของผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือ Hosting ต้องเป็นผู้ให้ บริการที่มีเซิร์ฟเวอร์เสถียร โหลดเร็ว ไม่ล่มบ่อย เพราะการที่เว็บไซต์ล่ม บ่อยมีผลต่อการค้นหาด้วย 3) ซอฟต์แวร์ที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องอัพเดทอยู่เสมอ ระบบป้องกัน ไวรัสและการโจมตีจากบรรดาพวกแฮกเกอร์หรือแคร็กเกอร์ ซอฟต์แวร์ ที่ใช้บริการอยู่ไม่มีเว็บไซต์ หรือสคลิปต์ที่เป็น Spam ฝังอยู่ 4) IP ของเว็บไซต์ต้องไม่เป็น IP ที่อยู่ใน Backlist ของเว็บไซต์ ตรวจสอบความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตหากพบว่า IP เป็น IP ที่อยู่ใน Backlist ต้องเปลี่ยนหรือย้ายโดยเร็ว

4.2.3 Technical SEO มีลักษณะคล้ายๆกับ on-page seo ก่อนหน้าเว็บ มาสเตอร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน Search engineserver มองว่าวิธีการต่างๆด้าน เทคนิคที่ทำบนเว็บไซต์ (ที่ไม่เกี่ยวกับการจัดเนื้อหา content) เพื่อให้เว็บไซต์ติดอัน ดับต้นๆเป็นon-page seo ทั้งหมด แต่หลังจากปี 2011 เป็นต้นมาการจัดการและ การปรับปรุงทางเทคนิคเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น ความหมายโดยสรุปคือtechnical seo เป็นวิธีการหรือเทคนิคต่างๆที่ทำในเว็บไซต์ blacklist ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเนื้อหาในเว็บไซต์เพื่อให้ google โครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่ายและจัดเก็บข้อมูลให้ไปเป็นผลการค้นหาบางเทคนิคของ technical seo จะมีใกล้เคียงกับ on-page seoอยู่บ้าง ฉะนั้นถ้าเนื้อหาที่ทำบน เว็บไซต์ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ไม่เกี่ยวข้องกับ keyword จะเป็นส่วนของ technical seo โดย Technical SEO มีรายละเอียดดังนี้ 1) การจัดการ ปรับปรุงแท้ไขเว็บไซต์ให้มีโครงสร้างตามกฎเกณฑ์ของ Schcme ที่ ระบุ รายละเอียดใน wvw.schema.org 2) การจัดการ ปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ให้มีลักษณะของข้อมูลโตรงสร้าง (SIructured Data) มที่ Google ต้องการ 3) การมีสิงก็ที่อ่านง่ายชัดเจน 4) Robot. มีการตั้งค่าที่เหมาะสมให้ Googic Bot เข้าถึงเว็บไซด์ได้ 5) มีโค้ต HTIML หรืค CSS หรือ Javascrp: ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน 6) มีการจัดการโค้ดของเว็บไซด์ให้มีเป็นแบบ Hich Snippe:s ซึ่ง Fich Shippots คือ โต้ด Sena ที่แทรกใน HTMIL เพื่อระ!ให้ Google เข้าจมากขึ้นว่า เนื้อหาส่วนนี้หมายถึงอะไร เช่น คำว่า Avetar ปรากฎอยู่โดด ๆ GOOgLe จะไม่ ทราบว่าหมายถึงหนังเอนิเมชันขคงเจมส์ คาเมรอน หรือว่าเป็นรูปที่ใช้แสดง แทนตัว เราในคอมมนต์หรือตอนที่เขียนเนื้อหาบนเว็บไซค์ต่างๆ การมี Rich Snippets ใน หน้าเว็บไซต์จะช่วย google แยกตรงนี้ได้ดีกว่า

5.ขั้นตอนและกระบวนการทำ seo ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์keyword เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ SEO เพื่อให้ติด อันดับ เพราะว่าค้นหา keyword เป็น วิเคราะห์เป็น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว ให้เวลากับการวิเคราะห์คำค้นหาให้มากไม่ควรทำผ่านๆ การวิเคราะห์ keyword ที่ดีคือ การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ลูกค้าค้นหาอะไร ค้นหาคำนั้นแล้ว เขาต้องการอะไรต่อหรือไม่ สมมุติว่า ถ้าต้องการขายรองเท้า Nike โจทย์คือต้องการคิดอันดับ คำ ว่า\"รองเท้าNike\" ถามว่า ผู้ที่ค้นหาคำว่ารองเท้า Nike ต้องการอะไร ต้องการเพียงแค่ เข้ามาดูสินค้า ไม่ได้มีเจตนาซื้อ คำถามตอบมา แล้วต้องการให้ลูกค้ามาทำสิ่งใดในเว็บไซต์ ให้เค้กมาซื้อเลยหรือไม่ ถ้าใช่ ให้เลือกมาว่า รองเท้า Nike รุ่น ABC กับรองเท้า Nike ลูกค้าจะมีโอกาสซื้อแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งการวิเคราะห์คำคมเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก แบบต้องนำเรื่อง Marketing Funnel มาเป็นส่วนช่วยในการวิเคราะห์ด้วย การคิดคำค้นหานั้น google ได้มีเครื่องมือให้ใช้เรียกว่า google keyword Planner ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับค้นหา keyword เพื่อดูว่าแต่ละเดือนมีคนค้นหาคำ นั้นอยู่ปริมาณเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ google keyword planner จัดแสดงเป็นคำ กลางๆ เช่น 10-100 1,000-10,000 หรือ 10,000-100,000 ขอข้อมูลเป็น แบบนี้ การวิเคราะห์คำค้นหาในระดับหนึ่ง เนื่องจาก google keyword planner เป็นส่วนหนึ่งของ google ads ที่เป็นเครื่องมือการลงโฆษณาของ google ดังนั้น หากต้องการเห็นคำค้นหาจริงๆต้องใช้ google ads ด้วย อาจลองเสียเงินเล็กน้อย เพื่ อให้เห็นข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นหรือใช้เครื่องมืออื่ นก็ได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 2 การวางโครงสร้างเว็บไซต์ การวางโครงสร้างเว็บไซต์ซึ่งจากขั้นตอนแรกได้แยกข้อมูลสำหรับ โครงสร้างเว็บไซต์ไว้แล้ว เว็บไซต์ที่ไว้สำหรับขายสินค้าจริงๆแล้วมี โครงสร้างหลายแบบขึ้นอยู่กับโมเดลการทำธุรกิจบางอย่างอาจจะเน้น โครงสร้างเว็บไซต์หรือบางอย่างอาจเน้นบทความ โครงสร้างเว็บไซต์ขายสินค้า รองเท้าไนกี้ รองเท้า Nike ผู้หญิง รองเท้า Nike ผู้ชาย บทความ เกี่ยวกับเรา รองเท้า Nike Air ผู้หญิง รองเท้าสตั๊ดไนกี้ รองเท้าผ้าใบ Nike ผู้หญิง รองเท้า Nike วิ่งชาย

โครงสร้างเว็บไซต์ คือการนำ keyword หลักที่ต้องการมาวางใน Menu เพื่อให้ google เก็บข้อมูลไปได้เป็นการสร้างทราฟฟิกให้ keyword นั้นๆ อีกด้วย ดังนั้น ต้องคิดให้ดีเสมอ คำค้นหาที่วิเคราะห์มาแล้วแข่งกับราย ใหญ่ๆไม่ได้ ไม่ต้องใส่เข้ามา เพราะโอกาสติดอันดับน้อย เพราะฉะนั้นการวาง โครงสร้างเว็บไซต์ต้องผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ขั้นตอนที่ 3 การสร้างเว็บไซต์ที่ดี การสร้างเว็บไซต์ที่ดีเริ่มมาตั้งแต่การเรียกชื่อ DoMen และการเลือก Hosting เรื่องไม่ดีโอกาสการติดอันดับก็ไม่ง่าย WordPress คือ ระบบ การจัดการเนื้อหาที่คนใช้มากที่สุด ซึ่ง wordpress จะมีส่วนเสริมที่เรียก ว่า Plugin ต่างๆให้ใช้ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำให้ติดอันดับเช่นกัน

ทั้ง Domain Hosting WordPress เป็นส่วนผสมให้เกิดเว็บไซต์ที่ดีได้ หากมี งบประมาณในการจัดทำ

ขั้นตอนที่ 4 การเขียนบทความที่ดี ใกล้เขียนบทความสำหรับ seo คือ การเขียนบทความที่ทำให้คนรู้สึก ชอบบทความเห็นบทความ ขี้อายมีประโยชน์ซึ่งใน wordpress จะมี Plugin ที่เรียกว่า Yoast SEO เข้ามาช่วยทำให้บทความติดอันดับ seo แต่หัวใจล่ะอยู่ที่การเขียนบทความ รองเท้าในกี้ เป็นแบรนด์ที่โด่งดัง โดดเด่นในด้าน ดีไซน์ วันนี้จะมาแนะนำ สังเกตการกำหนดข้อความในไฟล์ HTML 10 อันตับ รองเท้าผ้าใบในกี้วุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับผู้ หรือเว็บไซต์ หญิง 2020 - H1 1. รองเท้า Nike free run flyknit - H2 1)มี Keyword อยู่ที่ H1 ดูดีมีเกรด ผลิตจากสหรัฐอเมริกาทีเดียว ราคาเบา ๆ 2)มี Keyword ที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ H2-H3 เพียงหลักพันเท่านั้น 3)เขียนให้อ่านรู้เรื่อง มีประโยชน์กับคนอ่าน โดยทำจากยางพิเศษ ที่หาได้จากอเมริกาเท่านั้น 2. รองเท้า Nike air force 1 mid - H2

ขั้นตอนที่ 5 การติดตั้งเครื่องมือของ google หากทำ seo ที่ถูกต้อง ควรใช้เครื่องมือ google เหล่านี้ด้วย เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมาก google Search Console คือ เครื่องมือสำหรับดูแลเว็บไซต์ เพื่อทำให้ google รู้จักเราได้ดีขึ้น อีก ทั้งยังสามารถรู้เรื่องคำค้นหาด้วยว่า ตอนนี้อยู่อันดับที่เท่าไหร่แล้ว รวมไปถึงการแก้ไขข้อผิดพลาด (Error) ต่างๆภายในเว็บไซต์ google Analytics คือ เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์เว็บไซต์ ซึ่งทำให้ดู พฤติกรรมของผู้เข้าใช้เว็บไซต์ว่ามีผู้ชมกี่คน เพศไหนบ้าง อายุเท่าไหร่ มาจาก ประเทศไหน อยู่หน้าไหนบ้าง อยู่นานเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้จะได้นำไปพัฒนาต่อย อดการสร้างเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 6 การโพรโมตบทความ การโพรโมตบทความ คือ ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Own Media หรือช่องทาง สื่อสารของตน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถนำเนื้อหาที่ต้องการไปบอกต่อให้คนอ่าน ให้คนเห็นได้ โดยปกติ จะใช้ facebook Page ในการแบ่งปันบทความซึ่ง สามารถทำได้อีกหลายวิธี เช่น facebook ตัวเอง facebook Group ที่ เกี่ยวข้อง LINE Group ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกัน หรือ LIEN@ แต่ไม่ควรทำ เพราะว่าจะถูกบล็อกบ่อยมากทุกครั้งที่แบ่งปัน ตัวเลือกที่ดีที่สุด คือ สร้างชุมชนของตนเองขึ้นมาให้ได้ เพื่อสร้างให้ตนเอง เป็นผู้นำของกลุ่มนั้นๆการแบ่งปันเนื้อหาของตน ผู้คนพร้อมที่จะส่งต่อหรือ แบ่งปันต่อ จะพยายามร่วมกลุ่มกับคนที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน เข้าไปพูดคุยและ มีปฏิสัมพันธ์กัน เพื่อให้สามารถแบ่งปันบทความของตนต่อไปได้

ขั้นตอนที่ 7 การสร้างลิงค์ที่ดี การสร้างลิงค์ทำได้หลายวิธี ซึ่งทำเพื่อ 2 อย่าง คือ ทารฟฟิก(traffic) และความน่าเชื่อถือ (Trust) ของเว็บไซต์ ทราฟฟิก คือ การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งบ่งบอกว่าเว็บไซต์ที่ทำนั้นมี ประโยชน์ จึงมีผู้เข้ามาชมอย่างต่อเนื่อง ทำให้คิวเวอร์หรือคำค้นหานั้นๆติด อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ วิธีการเพิ่มทราฟฟิก ได้แก่ แบ่งปันในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น google Plus facebook facebook Group twitter YouTube หรือจ่าย ค่าโฆษณา facebook Ads Google Ads ความน่าเชื่อถือ คือ มีเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ที่กำลังทำส่ง ลิงค์มาให้ จะทำให้คะแนนของเว็บไซต์ดีขึ้น google จะมองว่า เว็บไซต์มี คุณภาพมากขึ้น เช่น หากทำเว็บไซต์ขายรองเท้า nike ดาวเว็บไซต์ nike ทำ บทความบอกว่า หากต้องการซื้อรองเท้า nike ให้มันซื้อที่เว็บไซต์ของตน คะแนนของเว็บไซต์ได้สูงขึ้น

วิธีการสร้างความน่าเชื่อถือ คือ หาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของ ตน อาจเป็นเว็บบอร์ด แล้วนำบทความไปแบ่งปัน หรือจ่ายค่าโฆษณากับ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องด้วยการขอติดป้ายโฆษณาแล้วชี้กลับมายังร้านก็ได้ ขั้นตอนที่ 8 การวัดผล ตรวจสอบอันดับ การวัดผล คือ การใช้ 2 เครื่องมือ Gcog๒ เข้ามาช่วย นั่นที่อ Google Analytics และ Search Console เพื่อปรับปรุงและ พัฒณาเว็บไซค์ให้เป็นที่ชื่นขอบของคนที่ เข้ามามากขึ้น Gaogle Analyics มีเพื่อพิจารณา 2 สิ่ง คือ 1) Bounce Rate หือ อัตรากรเข้ามาหน้าว็บซต์แล้วออกไป ตรงนี้จะ เป็นตัวชี้วัดว่าเนื้อหาของเว็บไซต์ สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้อื่นต้องการหรือไม่ ซึ่งยิ่งทำให้ Bounce Rate ยิ่งน้อย ยิ่งดี สอดแทรกบพศวามนะนำใน บทความที่เขียน และสำหรับเว็บไซด์ขายของอาจเป็นการทำให้ยอมก Add to Cat วิธีการ พื่อ ทำให้คนที่อยู่ในหน้นั้นลิกไปต่อหน้าอื่นให้ได้ ด้วยการสร้างบทความที่เกี่ยวข้อง หรือ (เพิ่มใส่รถเข็น) ให้ได้

2) Arg, Tme an Page ค่าเฉลี่ย (Average) ของเวลาคนที่อยู่ ในว็บไซด์ ต่ำนี้จะชี้วัดว่ำ เว็บไซด์มีคุณภาพมาก ซึ่งควรทำให้อยู่นานที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างบทความควรอยู่อย่างน้อย 1 นาที โดยสามารถ เพิ่มเวลาคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ให้นานขึ้นได้ด้วยการใส่ภาพหรือวิดีโอ หรือ รีวิวต่าง ๆ ให้ ลูกค้าอยู่ในเรีบไซด์ให้นานขึ้น

6.ประเภทของ keyword การหา keyword เพื่อทำ seo ให้แม่นยำได้นั้น ต้องแบ่งประเภทของ keyword เพื่อ จะได้นำ keyword เหล่านั้นมาวางแผนในขั้นตอนการทำ seo ได้ซึ่งจะมี 3 ประเภทคือ 6.1 Mass keyword คือ คันที่เป็นคำค้นหาหลักของธุรกิจ เป็นคำกว้างๆ ไม่เฉพาะ เจาะจง มีปริมาณการค้นหาสูง คู่แข่งขันมีจำนวนมาก ติดอันดับยากที่สุด บางครั้งอาจยัง ไม่ใช่ keyword ทำเงิน เหมาะสำหรับเป็น keyword ตั้งต้นเพื่อใช้ค้นหาค keyword อื่ นๆ 6.2 Niche keyword คือ คำที่ขยายความ Mass keyword มีความเฉพาะเจาะจง มี ปริมาณค้นหาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ mass keyword หากเว็บเรามีอันดับติดหน้าแรก ที่คำ Niche keyword โอกาสขายของได้มีมากขึ้น 6.3 Longtali Niche keyword คือ คันที่เฉพาะเจาะจง ถ้าขายสินค้า จะเป็นคำที่ แสดงยี่ห้อ ชื่อรุ่น ทำเล ที่ตั้งร้าน หากเป็นการขายบริการ คือ สิ่งที่แสดงความแตกต่าง ของธุรกิจ หรือชี้วัดว่าเพื่อใคร บุคคลที่ค้นหาด้วย Longtali Niche keyword ยาวๆ แสดงบุคคลนั้นต้องการสินค้านั้นจริงๆ

7.Keyword กับการทำ SEO Keyword คือ คำเฉพาะที่ใช้ในการค้นหา แต่ในการทำ SEO หมายถึง ตำหรือวสีที่ ป้อนเข้าไปในช่องค้นหาของ Soarch Engine โดยเฉพาะ Google เพื่อคันหาเว็บไซค์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดำหรือวลีที่ได้ป้อนเข้าไป ตัวย่างเช่น ถ้าต้องการตันหาข้อมูลเกี่ยวกับ \"รองเท้าวิ่ง\" ให้ปฏิบัติดังนี้ 1) เข้า เว็บไซต์ www.google.com 2) ป้อน Keyword ที่ต้องการดันหา ในที่นี้คือ รองเท้าวิ่ง3) ปรากฏเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ\"รองเท้าวิ่ง\"ดังนี้ เว็บไซต์ที่แสดงอันดับต้นๆมี เป็นการทำ seo หลายรูปแบบเช่น 1) ส่วนที่เป็นโฆษณาหรือAdไม่ใช่การทำ seo แต่เป็นการเสียค่าใช้จ่าย ในการโฆษณา เพื่อให้เว็บไซต์อยู่อันดับต้นๆ 2) เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการซื้อขายโดยเฉพาะ อาจปรากฏอยู่อัน ดับต้นๆ ได้ เพราะมีการค้นหาข้อมูลเป็นจำนวนมาก เช่น shopee pinterest และ lazada

3) เว็บไซต์ที่สามารถอยู่ในอันดับต้นๆ ได้ อาจเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการสร้าง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่น google site 4) แพลตฟอร์ม facebook สามารถที่จะทำ seo ให้อยู่อันดับต้นๆของ google ได้ 5 รายชื่อเว็บไซต์ที่ปรากฏเป็นอันดับต้นๆ ในรูปแบบของวิดีโอ(Video) สามารถ ทำให้ปรากฏเป็นอันดับต้นๆได้เช่นกัน 6 รูปภาพ (image) สามารถที่จะทำ seo ให้ปรากฏเป็นอันดับต้นๆได้ 7 แผนที่ (map) สามารถที่จะไม่สามารถที่จะทํา seo ให้อยู่อันดับต้นๆของ google ได้เช่นเดียวกัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook