กฬี ามวยไทย THAI BOXING
คคาำนนาำ รายงานฉบับนีเ้ ปน็ สว่ นหน่ึงของวิชา คอมพวิ เตอร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่3/6 โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ที่ได้ จากเรอื่ ง มวยไทย ซง่ึ รายงานนี้มีเนอ้ื หาเกย่ี วกบั ความรู้ จาก มวยไทย
สารบัญ หนา้ 4-10 เนอ้ื หา ประวตั ิความเป็นมาของมวยไทย 11-12 13-18 การจดั การแขง่ ขันมวยไทย สรุปของมวยไทย
ประวัตความเปน้ มาของมวยไทย มวยไทยเป็นมรดกทางวฒั นธรรมของคนไทยทส่ี บื ทอดกนั มานาน เปน็ ทง้ั การต่อสปู้ อ้ งกันตัวและกฬี า ไม่ปรากฏ หลักฐานแน่ชัดวา่ เกิดข้ึนครง้ั แรกในสมัยใด แต่ถอื ว่ามวยไทย เปน็ ศิลปะการต่อสู้ของไทยเชน่ เดยี วกบั กงั ฟขู องจนี ยูโดและ คาราเตข้ องญ่ีปนุ่ และเทควันโดของเกาหลี การชกมวยไทยหนา้ พลับพลาท่ีประทับพระบาทสมเด็จพระ จลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว ในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าอุรุพงศ์รชั สมโภช พ.ศ. ๒๔๕๒
เหตุการณ์ทางประวัตศิ าสตรท์ ่เี ก่ียวข้องกับมวยไทย ได้แก่๑) สมยั อยธุ ยา สมเดจ็ พระสรรเพชญ์ท่ี ๘ หรอื พระเจ้าเสือ โปรด การชกมวยมากจนทรงปลอมพระองค์มาชกมวยกบั ชาวบ้าน และชนะ คูต่ ่อสถู้ ึง ๓ คน ดงั ที่สานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ระบุ ไวใ้ นหนงั สอื ศลิ ปะมวยไทยวา่ พระเจา้ เสอื ไดป้ ลอมแปลงพระองคเ์ ปน็ สามญั ชน มาชกมวยกบั นกั มวยฝมี อื ดีของเมอื งวิเศษไชยชาญ และ สามารถชกชนะนกั มวยเอกถึง ๓ คน ไดแ้ ก่ นายกลาง หมัดตาย นาย ใหญ่ หมัดเหลก็ และนายเล็ก หมดั หนกั โดยท้งั ๓ คน ไดร้ ับความพา่ ย แพ้อย่างบอบชา้ จากฝมี อื การชกมวยไทยของพระองค์ เม่ือ พระมหากษัตรยิ โ์ ปรดการชกมวยไทยเช่นนี้ ทาให้มีการฝึกมวยไทยกัน อยา่ งแพรห่ ลายในราชสานกั และขยายไปส่บู า้ นและวัด โดยเฉพาะวัด ถอื เป็นแหลง่ ประสทิ ธิป์ ระสาทวิชามวยไทยเป็นอยา่ งดี เพราะขุนศึก เม่ือมอี ายมุ ากมักบวชเปน็ พระ และสอนวชิ าการตอ่ สู้ให้แกล่ กู ศษิ ยท์ ี่ดี หรอื มคี วามกตัญญรู คู้ ณุ โดยเฉพาะนักมวยเด่นในยคุ หลังๆ กเ็ กิดจาก การฝึกฝนกบั พระสงฆ์ในวดั แทบท้งั สน้ิ ด้วยเหตนุ ก้ี ารฝึกมวยไทยจงึ แพร่หลาย และขยายวงกว้างไปสู่สามญั ชนมากยิง่ ข้นึ การชกมวยไทย หน้าพลับพลาทีป่ ระทับพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ใน งานพระศพ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช พ.ศ. ๒๔๕๒
๒) นักมวยทม่ี ฝี มี ือดีมีโอกาสเขา้ รบั ราชการใหก้ ้าวหนา้ ได้ โดยเ2ฉ6พาะการเปน็ ทหารในสว่ นราชการที่เรยี กวา่ ทนายเลอื ก ซงึ่ เปน็ กรมท่ีดแู ลนกั มวย ทม่ี หี น้าที่พิทักษร์ กั ษาความ ปลอดภยั ให้แกพ่ ระมหากษัตริย์ ๓) เมื่อครั้งทน่ี ายขนมต้มถกู จบั เปน็ เชลย และถกู กวาดต้อนไป อยทู่ ก่ี รงุ อังวะ ประเทศพม่า เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๑๐ พม่าได้จดั ให้มี การฉลองชัยชนะ ในการทาสงครามกบั ไทย และสุกพ้ี ระนายก องได้คัดเลอื กนายขนมตม้ ใหข้ นึ้ ชกกบั นักมวยพมา่ นายขนม ตม้ สามารถชกชนะนกั มวยพม่าไดถ้ ึง ๑๐ คน ดงั ท่ี รังสฤษฎ์ิ บญุ ชลอ กล่าวไวว้ า่ \"พม่าแพแ้ กน่ ายขนมต้มหมดทกุ คนจน ถงึ กับพระเจ้ากรงุ อังวะตรัสชมเชยว่า คนไทยถงึ แมจ้ ะไมม่ ี อาวุธในมอื มเี พียงมือเปลา่ ๒ ข้าง กย็ ังมพี ิษสงรอบตวั \" แสดง ให้เห็นว่านกั มวยไทยมีฝีมอื เปน็ ทเี่ ลือ่ งลือ การชกมวยไทย หนา้ พลับพลาทป่ี ระทับพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้า เจา้ อยู่หวั ในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าอรุ ุ พงศร์ ัชสมโภช พ.ศ. ๒๔๕๒
๔) ในสมัยทสี่ มเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชทรงเป็นเจ้าเมืองตาก ไดม้ ี ทหารเอกคใู่ จที่มคี วามสามารถด้านมวยไทยมาก และอยใู่ นชั้นแนว หนา้ ของทนายเลอื ก ชอ่ื ว่า นายทองดี ฟันขาว หรอื จ้อย ชาวเมืองพิชยั ซึ่งต่อมาได้เป็น พระยาพิชยั ดาบหกั เจ้าเมอื งพิชัย สนามมวยราชดาเนนิ สนามมวยราชดาเนิน การพัฒนามวยไทยเปน็ การกฬี าต่อสูป้ ้องกันตวั หลงั จากสมัยรัชกาลท่ี ๖ มวยไทยไดพ้ ัฒนามากขนึ้ โดยมีการชกมวย แบบสวมนวมชก และนับคะแนนแพช้ นะ มีการกาหนดยก นักมวย แตง่ กายตามมุม คือ มุมแดง และมุมน้าเงนิ เช่นเดียวกับการชกมวย สากล มคี ่ายมวยเกิดขนึ้ หลายค่าย และมนี กั มวยหลายคนทมี่ ีชือ่ เสยี ง คหบดผี ้มู ีชื่อเสยี งคนหน่ึงชอ่ื เจ้าเชตุ ได้ตง้ั สนามมวยในท่ดี นิ ของ ตนเอง เพื่อนารายไดจ้ ากการชกมวยไปบารงุ กิจการทหาร ต่อมาเกิด สงครามโลกครัง้ ท่ี ๒ การแข่งขันชกมวยจงึ หยุดไป หลงั สงครามโลก ครั้งท่ี ๒ สน้ิ สุดลง การแข่งขนั ชกมวยไทยได้เฟื่องฟขู ึ้นอีก เพราะ ประชาชนสนใจ
เมอื่ วนั ที่ ๒๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ไดม้ กี ารจดั ตง้ั สนามมวยราช ดาเนินข้นึ และจัดการแข่งขันชกมวยอาชพี เป็นจานวนมาก มีนักมวยที่ มชี อ่ื เสียงหลายคน เชน่ สขุ ปราสาทหนิ พิมาย ผล พระประแดง สมาน ดลิ กวลิ าศ ประสิทธ์ิ ชมศรเี มฆ เป็งสูน เทียมกาแหง สรุ ยิ า ลกู ทงุ่ การ ชกมวยในระยะน้ัน มีลักษณะพเิ ศษอกี อย่างหน่ึงคอื มีการชกมวยข้าม รุ่นกันได้ ป้ายประชาสัมพนั ธก์ ารจดั แขง่ ขันชกมวย ปา้ ยประชาสัมพนั ธ์การจดั แขง่ ขนั ชกมวย ปา้ ยประชาสัมพนั ธก์ ารจดั แขง่ ขนั ชกมวย
วันที่ ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ สนามมวยลุมพินไี ดเ้ ปดิ ขนึ้ อกี แหง่ หนง่ึ นักมวยสว่ นใหญจ่ งึ ได้ใชท้ ัง้ เวทีราชดาเนนิ และเวทีลมุ พินใี นการแขง่ ขนั ชกมวย โดยทั้งสองสนามน้ถี อื ว่า เป็นสนามมวยมาตรฐานของประเทศ ไทย มีการจัดแบ่งประเภทนักมวยเปน็ รนุ่ ต่างๆ ตามนา้ หนกั ตัวทกี่ าหนด ขน้ึ เกดิ กติกามวยไทยอาชพี ฉบบั พ.ศ. ๒๔๙๘ ซงึ่ แก้ไขปรบั ปรุงจาก ฉบบั พ.ศ. ๒๔๘๐ ของกรมพลศกึ ษา และในวันเสาร์ที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้มีการถา่ ยทอดการชกมวยไทยจากสนามมวยราช ดาเนินเปน็ ครั้งแรก หลังจากนัน้ ได้มชี าวตา่ งชาติเดนิ ทางมาฝกึ มวยไทย และมีการจดั แขง่ ขันชกมวยกบั นักมวยไทยอยเู่ สมอๆ วทิ ยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลยั ราชภฎั หมู่บา้ นจอมบงึ จ.ราชบุรี เปิดสอน สาขามวยไทยในระดับปริญญาตรถี ึงระดับปรญิ ญาเอก
ตอ่ มากฬี ามวยไทยมกี ารพัฒนาจนกอ่ ต้ังเปน็ สมาคมมวยไทยสมคั รเลน่ แหง่ ประเทศไทย ซึ่ง กาหนดใหก้ ารชกมวยไทยตอ้ งมีเครอื่ งปอ้ งกนั อนั ตราย เพือ่ ให้นักมวยมคี วามปลอดภยั มาก ยิ่งขนึ้ ทาใหช้ าวต่างชาตเิ ดนิ ทางเข้ามาแข่งขนั มากข้ึนในแต่ละปี และมีการถ่ายทอดการชก มวยทางโทรทัศนม์ ากข้นึ ด้วย ทาให้ธุรกิจมวยขยายตวั ออกไปกว้างขวาง ในต่างจังหวดั มี เวทมี วยเกิดขึ้นหลายแหง่ เปดิ โอกาสให้นักมวยทมี่ ฝี ีมอื จากตา่ งจงั หวัด เดนิ ทางเข้ามาชก มวยในกรงุ เทพฯ มากย่ิงขึน้ อย่างไรกต็ าม การชกมวยไทยในปัจจบุ ันส่วนใหญม่ งุ่ เพ่ือผลแพช้ นะและมผี ลประโยชนท์ าง ธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทาให้ศลิ ปะและแกน่ แทข้ องมวยไทย นับวนั จะเลอื นหายไป ถึงแมจ้ ะ มีหลกั สตู รการเรียนกนั ในบางสถาบันการศกึ ษากต็ าม เปน็ ทีน่ า่ ยนิ ดีทป่ี จั จบุ ันมกี ารเรียน การสอนมวยไทยในระดบั บัณฑิตศกึ ษา คอื วทิ ยาลัยมวยไทยศกึ ษาและการแพทยแ์ ผนไทย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ ้านจอมบึง จงั หวัดราชบุรี เริม่ เปิดสอนหลกั สตู รประกาศนยี บตั ร บัณฑิต สาขามวยไทย ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ หลกั สูตรศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต สาขามวยไทย ศึกษา ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ และต่อมาพัฒนาเป็นหลักสตู รในระดบั ปรญิ ญาเอกช่อื ว่า หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบณั ฑติ สาขามวยไทยศึกษา (ปจั จุบันมกี ารสอนในระดบั ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยยกเลกิ หลักสูตรประกาศนยี บตั รบณั ฑติ ) มวยไทยจงึ เริ่ม พัฒนาเขา้ สวู่ ิชาการเรียนการสอน เพื่อการอนรุ กั ษ์ และแสวงหาคณุ คา่ ทางภมู ิปัญญาไทย มากข้นึ ในสงั คมไทยปจั จบุ นั โดยมคี ณาจารยป์ ระจาหลักสตู ร เชน่ ดร. ศกั ดช์ิ ัย ทพั สุวรรณ นายกสมาคมสภามวยไทยสมคั รเล่นโลก ดร. แสวง วิทยพทิ กั ษ์ กรรมการเทคนิคผู้ตดั สนิ มวยไทยจากสนามมวยราชดาเนิน รองศาสตราจารย์ ดร. สมพร แสงชัย เจ้าตารบั ครมู วย พระยาพชิ ัยดาบหกั รวมไปถึง รองศาสตราจารยช์ ยั สวัสด์ิ เทยี นวบิ ูลย์ ครมู วยสยามยทุ ธ์ นอกจากนี้ยงั มี รองศาสตราจารย์ ดร. เสรี พงศ์พิศ ผู้เชี่ยวชาญดา้ นภมู ปิ ญั ญาไทย มา ชว่ ยกันสรา้ งสรรคจ์ รรโลง ให้องค์ความร้ขู องบรรพบรุ ุษทม่ี ีมานานนบั สองพนั ปอี ยยู่ ง่ั ยนื ตลอดไปช่ัวลูกชว่ั หลาน
การจดั การแข่งขนั มวยไทย 1. สมยั สวนกุหลาบ สมัยนปี้ ระชาชนนยิ มการชกมวย และชมการแขง่ ขนั ชกมวยกนั เปน็ จานวนมาก การชกมวยไทยในสมยั นี้ยงั มกี ารคาดเชอื ก (นกั มวย สมยั เก่าใช้ดา้ ยดบิ เสน้ โตขนาดดินสอดาชบุ แปง้ ให้แขง็ พนั มือต้งั แต่สันมอื ตลอดถึง ขอ้ ศอก และพันรดั เป็นปมทางด้านหลังของข้อนิ้วมือหรอื สันหมดั เป็นรูปกน้ หอย ที่ เรยี กกันว่า\"คาดเชอื ก\") การชกไดก้ าหนดจานวนยกไวแ้ นน่ อนแล้วมกี รรมการช้ขี าด ผตู้ ัดสินสว่ นมากนัง่ อยขู่ ้างเวทแี ละให้อาณัติสัญญาณนกั มวยหยดุ ชกดว้ ยเสียงหรอื นกหวดี 2. สมัยท่าชา้ ง ในสมัยนี้เป็นสมัยหัวเลี้ยวหัวตอ่ จากการคาดเชอื กมา เป็นสวมนวม (พ.ศ. 2462) สมยั นี้ไดด้ าเนินการจดั การแขง่ ขนั มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรใน ทส่ี ุดสนามก็เลิกไป กรรมการ ผชู้ ี้ขาดทม่ี ชี อ่ื เสยี งในสมัยนก้ี ็คือ นายทมิ อตเิ ปรมานนท์ และนายนิยม ทอง(พ.ศ. 2462) สมัยน้ไี ด้ดาเนินการจัดการแขง่ ขนั มา เป็นระยะเวลานานพอสมควรในที่สุด สนามกเ็ ลกิ ไป กรรมการผู้ชขี้ าดท่มี ีชอ่ื เสยี งในสมัยนี้ก็คอื นายทิม อตเิ ปรมานนท์ และนายนิยม ทองชิตร์ 3. สมยั สวนสนุก การจัดการแข่งขนั ในสมยั นน้ี ายสนามดาเนนิ งานได้ดี และยนื ยาวอยหู่ ลายปี นกั มวยท่มี ชี อ่ื เสียง เชน่ สมาน ดลิ ก-วิลาศ และสมพงศ์ เวชชสิทธ์ิ สมยั นีม้ ีการ แขง่ ขนั ทง้ั มวยไทยและมวยสากล กรรมการผตู้ ดั สนิ ที่มีชอื่ เสียง ไดแ้ ก่ หลวงพิพัฒน์ พลกาย นายสนุ ทร ทวสี ทิ ธ์ิ (ครกู ิมเส็ง) และ นายนิยม ทองชิตร์
4. สมัยหลักเมอื งและสวนเจา้ เชษฐ์ การแข่งขันชกมวยในสมัยนเ้ี ขม้ แขง็ ยิง่ ขึ้น เพราะทางราชการทหารเขา้ มารว่ มมือชว่ ยเหลือและมีผลเปน็ รายได้บารงุ กองทพั จานวนมาก นกั มวยทีม่ ีชอื่ ในยุคน้ีได้แก่ สขุ ปราสาทหนิ พมิ าย ผล พระประแดง เพกิ สงิ หพลั ลภ ประเสรฐิ ส.ส. ถวัลย์ วงศ์เทเวศน์ และทองใบ ยนตรกิจ การแขง่ ขัน สมัยนีด้ าเนินมาหลายปจี นถงึ สมัยสงครามโลกคร้ังที่สองจงึ ได้เลกิ ไป กรรมการผู้ ตดั สนิ ในสมัยน้ไี ดแ้ ก่ นายสังเวียน หริ ญั เลขา นายเจอื จกั ษรุ ักษ์ และนายวงศ์ หริ ญั เลขา 5. สมัยปัจจบุ นั ไดท้ าการแข่งขัน ณ เวทรี าชดาเนินและเวทลี ุมพีนีเปน็ ประจา และยงั มเี วทมี วยท่เี ปิดการแขง่ ขนั ถาวรและช่วั คราวท้งั ในกรุงเทพฯและต่างจังหวดั อีกมากมาย ปจั จุบันมี พระราชบัญญัตกิ ีฬามวย พ.ศ.2542 มีสานักงานคณะกรรมการกีฬา มวย สานักงานกฬี าอาชพี ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทไ่ี ด้จัดต้งั ขน้ึ ตาม พ.ร.บ. นี้ ใหม้ หี น้าทสี่ ่งเสรมิ คุม้ ครอง สนบั สนนุ และควบคมุ กิจการมวยในประเทศไทยให้ เปน็ ไปตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายทไ่ี ด้จดั ต้งั ข้ึนตาม พ.ร.บ.น้ี ให้มีหนา้ ที่ส่งเสริม คุ้มครอง สนับสนุน และควบคมุ กจิ การมวยในประเทศไทยให้เป็นไปตาม บทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมายซง่ึ นับว่าเปน็ กฎหมายฉบบั แรกของวงการมวยเมอื งไทย
ตงั้ แต่อดีตจนถึงปจั จุบนั มวยไทยไดม้ บี ทบาทในการ ช่วยเหลอื ชาติบ้านเมอื งมามากมาย ท้ังยังปรากฏอกี ว่า พระมหากษตั รยิ ์หรือขนุ นางทเ่ี ช่ียวชาญการต่อสูป้ ลอมตน เข้ารว่ มแข่งขันเพ่ือทดสอบฝีมือท่เี ปน็ ทีป่ รากฏได้แก่ พระเจา้ เสอื (ขุนหลวงสรศกั ด์ิ) พระเจ้าตากสินมหาราช พระยาพชิ ัย ดาบหัก ครูดอก แขวงเมอื งวเิ ศษไชยชาญ จนเมอื่ ไทยเสยี กรงุ แก่พมา่ ปรากฏชอ่ื นายขนมต้ม ครูมวยชาวอยธุ ยา ซงึ่ ถกู กวาดตอ้ นเปน็ เชลยศกึ ไดช้ กมวยกับชาวพม่า ชนะหลายครง้ั เป็นที่ปรากฏถงึ ความเก่งกาจเหีย้ มหาญของวิชามวยไทย ใน สมยั อยธุ ยาตอนปลายไดม้ กี ารจัดตงั้ กรมทนายเลอื กและกรม ตารวจหลวงขนึ้ มหี น้าทีใ่ นการให้การคุ้มครองกษัตรยิ แ์ ละ ราชวงศไ์ ด้มกี ารฝึกหดั วิชาการตอ่ สู้ทัง้ มวยไทยและมวยปล้า ตามแบบอยา่ งแขกเปอร์เซยี (อหิ รา่ น) จงึ มคี รมู วยไทยและ นกั มวยที่มฝี มี ือเข้ารบั ราชการจานวนมากและไดแ้ สดง
มือในการต่อสู้ในราชสานักและหนา้ พระท่นี ัง่ ในงานเทศกาล ตา่ งๆ สืบต่อกนั มาเป็นประจา และ “เปน็ ทน่ี ่าสงั เกตว่า กองทัพกูช้ าติของพระเจา้ ตาก ลว้ นประกอบดว้ ยนักมวยและ มคือรใูมนวกยาทร่มีตีชอ่ ื่อสเใู้ สนียรงาใชนสยาุคนนกั นั้ แจลาะนหวนนา้ มพารกะทถนี่ ึงัง่กใับนไงดาม้ นีกเทารศจกดั าตลง้ั ตเา่ ปง็นๆหสนบื ว่ ตย่อรกบันพมิเศาษเป3น็ ปกรอะงจคาือแกลอะงท“เนปาน็ ยทเน่ีลือ่าสกังกเกอตงพว่าระกองทพั กอูช้ าจตาขิ รอยง์พแรละะเกจอ้างตแาก้วลจว้นิ นดปารซะ่ึงกไดอป้บฏดบิ้วยัตนิภกัามรกวจิยทแ่ีสลาะคัญรมู ทวที่ยาท่ี มใีชห่อื ค้ เสนยี ไทงใยนสยน้ิ คุ คนวัน้ าจมาหนววานดมกาลกวั ตถอ่ ึงทกบัพไพดมม้ า่ ีกใานรกจัดารตรง้ั บเปทน็่บี หา้ นน่วยาง รบแกพว้ิเศรษาช3บกุรอี จงนคอือากจอเรงียทกนไาดย้วเ่าลมอื กวยกไอทงยพกรู้ชะาอตา”ิ จารย์ และกอง แก้วจนิ ดาซ่งึ ไดป้ ฏบิ ตั ภิ ารกิจทสี่ าคญั ทีท่ าให้คนไทยสิน้ ความ หวาดกลวั ต่อทพั พมา่ ในการรบทีบ่ า้ นนางแกว้ ราชบรุ ี จนอาจ เรยี กได้ว่า มวยไทยก้ชู าต”ิ
ระหว่างมวยเลย่ี ะผะ (กงั ฟ)ู ชาวจนี โพ้นทะเล ช่อื นายจีฉ่ า่ ง กับ นายยงั หาญทะเล ศษิ ย์เอกของกรมหลวงชมุ พรเขตรอดุ มศกั ด์ิ มี ท่าจรดมวยแบบมวยโคราช ซง่ึ เน้นการยดื ตวั ตั้งตระหง่านพรอ้ มที่ จะรุกและรับโดยเนน้ การใชเ้ ทา้ และหมดั เหวย่ี ง และตอ่ มาไดเ้ ป็น แบบอยา่ งในการฝกึ หดั มวยไทยในสถาบันพลศึกษาสว่ นใหญ่ สมัยรัชกาลที่ 7 ในยุคแรกการแข่งขันมวยไทยใชก้ ารพันมอื ดว้ ย เชือก จนกระทงั่ นายแพ เล้ยี งประเสรฐิ นักมวยจากทา่ เสา จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ ต่อยนายเจยี ร์ นักมวยเขมร ด้วยหมดั เหวี่ยงควายถึงแก่ ความตาย จงึ เปลี่ยนมาสวมนวมแทน “ต่อมาเริม่ มกี ารการหนดก ติกาในการชก และมีเวทมี าตรฐานข้นึ แหง่ แรกคอื เวทมี วยลมุ พินี และเวทมี วยราชดาเนนิ จดั แข่งขนั มวยไทยมาจนปัจจุบนั ”
“ต่อมา พ.ศ. 2554 กระทรวงวฒั นธรรม ไดม้ ีมตใิ หก้ าหนดเอาวันที่ 6 กุมภาพันธข์ องทุกปี ตง้ั แต่ปี พ.ศ. 2555 เป็น “วนั มวยไทย” โดยถอื เอา วันขึน้ ครองราชย์ของพระเจา้ เสือ” แตม่ ีผศู้ ึกษาประวตั ศิ าสตรม์ วยไทยให้ ความเห็นวา่ มวยไทยมีกาเนิดมาก่อนยุคสมยั พระเจา้ เสอื นานมาก และ หากจะยกใหค้ นทม่ี ฝี มี ือในวิชามวยไทยและเปน็ ทย่ี อมรบั กันโดยท่วั ไป ทง้ั ในแงเ่ กยี รตปิ ระวัติและความสามารถ ควรยกยอ่ งพระยาพชิ ัยดาบหกั (นายทองดี ฟันขาว) มากท่สี ดุ เพราะมีประวตั คิ วามเป็นมาชดั เจนใน การศึกษาวิชามวยไทยสาหรับนายขนมต้ม ซง่ึ เปน็ ครูมวยกรุงเก่าและถูก กวาดตอ้ นไปเป็นเชลยกอ่ นเสียกรงุ ครั้งที่ 2 ก็ถอื ว่าได้ใช้วชิ ามวยไทย แสดงให้ชาวตา่ งชาติเห็นได้นา่ ยกย่อง แตป่ ระวตั ิความเป็นมาของท่าน ไมช่ ัดเจน แต่หากเห็นว่าควรยกยอ่ งพระมหากษัตรยิ ์มากกว่าสามญั ชนก็ นา่ จะพจิ ารณาสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ซ่ึงพระองค์ท่านมี ชวี ประวัติชดั เจนในความสามารถในวิชามวยและการตอ่ สู้หลายแขนง ท้งั มพี ระมหากรุณาธคิ ุณท่ีทรงกอบก้เู อกราชของชาตไิ ทย ด้วยการ รวบรวม ครมู วย นักมวย ท่ีมีฝมี ือจานวนมากเปน็ หลกั ในกองกาลังกอบกู้ อิสรภาพ
ตารามวยไทยโบราณทเ่ี กา่ แก่ทสี่ ุดถูกเขียนขน้ึ ในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกลา้ เจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี 3 ระหวา่ งพุทธศกั ราช 2367-2394 ยคุ รัตนโกสนิ ทร์ ซง่ึ บรรยาย“หลักเบื้องต้นของมวยไทยคือ ทุ่ม-ทบั -จบั -หัก” (หอสมดุ แห่งชาติ หมวด ตาราภาพเลขที่ 10/ก มัดที่ 3 ตูท้ ี่ 117) ตารามวยไทยเลม่ แรก โดย 3 พ่ีนอ้ งครมู วย ได้แก่ นายชบุ พค่ี นโต นายชิต คน กลางและนายสวุ รรณ์ คนน้องแห่งสกุลนิราสะวัต มี 103 หน้า ราคาเล่มละ 1 บาท 25 สตางค์พมิ พ์ครัง้ แรก 1,500 ฉบบั พมิ พท์ ่ีโรงพิมพอ์ ักษรนติ ิ บางขุน พรหม พระนคร เมอื่ วันที่ 24 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2471 สารบาญประกอบด้วย เรือ่ ง วธิ ีคมุ หลัก-วธิ กี า้ วเทา้ รุกประชิด-ระยะต่อยและเตะ- กตกิ าสงั เขป-การฝกึ หัดเพอ่ื ข้ึนเวที-การให้น้าหนักมวย-แม่ไมช้ กและปิดเชิงมือ ทัง้ หมด-การกา้ ว ฟนั ปลา-ท่าคละสบื เท้าชก และถอดเทา้ รบั -วธิ ีกระโดดชกและ หลบ-การแยกขาชกประจบ-หลักแม่ไม้เชิงเทา้ -หลักแมไ่ ม้ถีบและจับ-หลักแมไ่ ม้ หลบเตะ-ทา่ เทพนม-ข้นึ ไม้พรหม เปน็ ทีน่ า่ สังเกตเน้ือหาสาระ และภาพลลี าการ ชกต่อย สว่ นใหญ่จะเปน็ คาบรรยายภาพประกอบมีค่อนขา้ งนอ้ ย เปน็ ภาพขาว ดาที่จดั ในหอ้ งถ่ายทาเฉพาะ ไมบ่ อกชอ่ื ทา่ ของแมไ่ ม้ บอกแตท่ า่ คละอันหมายถงึ ลีลา หมัด ศอก เตะ และเขา่ คละกนั ไป แตก่ ลบั โฆษณาภาค 2 ทจ่ี ะจดั พิมพ์ใน โอกาสหนา้ พรรณนาจะมีรปู ประกอบทา่ ครเู ด็ดๆ ได้แก่ ทา่ ลกู ไมม้ วย เช่น หนไู ต่ ราว-หนมุ านถวายแหวน-ฤๅษมี ุดสระ-ลิงชิงลูกไม้ และอนื่ ๆ ตารามวยไทยเล่มนเ้ี ป็นภาคแรก มภี าพประกอบตลอดเล่ม นับเปน็ ตารามวย ไทยเล่มแรกๆ ท่มี ีการตีพิมพใ์ นประเทศสยาม ตารานีเ้ รยี บเรียงจากตารามวย ไทยแบบโบราณของไทย ผู้เขียนได้ร่วมกับนายชติ นิวาสวัต ผู้เปน็ ครมู วย พรอ้ ม ทั้งนักมวยเอกสมยั น้ันคือนายสุวรรณ นิวาสวตั เป็นผู้ช่วยดดั แปลง แก้ไข เนื้อหา ของหนงั สอื ไลล่ าดบั ต้งั แต่ หลักการฝึกขัน้ พื้นฐาน เช่น วธิ ีคมุ หลัก การต่อย เตะ จนถงึ หลกั แมไ่ ม้ต่างๆ ในวิชามวยไทยก็ไดบ้ รรจอุ ยู่อยา่ งครบครนั ในตาราเล่มน้ี
ความสาคญั คุณค่าและคณุ ประโยชนข์ องมวยไทยกีฬาทุกชนิดมี คุณประโยชนต์ ่อรา่ งกาย แตศ่ ิลปะมวยไทยมคี ณุ ค่าสูงสาหรับผูเ้ รยี น หลายประการ คอื 1. ร่างกายมสี มรรถภาพที่ดี สมส่วน มภี มู ิต้านทานสงู 2. มีจิตใจเขม้ แข็ง มคี วามรอบคอบมานะอดทน 3. สามารถปอ้ งกนั ตวั ในชีวติ ประจาวนั และเป็นประโยชนต์ อ่ สังคม 4. มคี วามเชือ่ มนั่ ตอ่ ตนเอง มีระเบยี บวนิ ยั กลา้ หาญ 5. ดารงไว้ซง่ึ ศิลปะการต่อส้ปู ระจาชาตไิ ทยให้ยง่ั ยืนแพรห่ ลายตลอดไป 6. มไี หวพริบ เชาวน์ปญั ญาแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้ 7. มคี วามเปน็ สภุ าพบรุ ุษไมก่ ล้ากระทาในสง่ิ ท่สี ังคมไม่ยอมรบั 8. ใชส้ ร้างงานประกอบอาชีพได กีฬามวยนก้ี บั ความม่นั คงและความก้าวหนา้ ของประเทศชาติก็สัมพันธ์ กันอย่างใกลช้ ิด เพราะว่ามวยนก้ี ็เปน็ ทางป้องกันตัว เปน็ กีฬาที่มาจาก การปอ้ งกนั ตัวของนกั รบไทยมาแตโ่ บราณ มาสมยั นี้เราจะต้องปอ้ งกัน ตวั ดว้ ยการใชก้ ารตอ่ สู้สว่ นหนง่ึ และด้วยวธิ ีท่จี ะพัฒนาประเทศอีกส่วน หนง่ึ นกั มวยทราบดวี า่ ถ้าตอ่ สูเ้ ฉพาะดว้ ยกาลังก็คงแพแ้ น่ ตอ้ งมีวิชาการ ตอ้ งมวี ธิ กี าร และต้องมีสติท่มี น่ั คง ที่วชิ าการทีจ่ ะบกุ และวชิ าการทจี่ ะ หลบ ฉะน้นั การทีม่ กี ารตอ่ สู้มวยเพื่อป้องกันตวั
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: