Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนธีรณีวิทยา ว30162(ภาค2ปี2563)

หน่วยการเรียนธีรณีวิทยา ว30162(ภาค2ปี2563)

Published by jutatip.190206, 2021-01-06 10:11:37

Description: หน่วยการเรียนธีรณีวิทยา ว30162(ภาค2ปี2563)

Search

Read the Text Version

คาอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ว 30162 ช่อื วิชา ธรณีวทิ ยาพืน้ ฐาน รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์สืบค้น โครสร้างของโลก การเปล่ียนแปลงของเปลือกโลก ปรากกฎการณ์ทางธรณีวิทยา การเคลอ่ื นท่ีของอากาศ ลมพายุ การพยากรณอ์ ากาศ กระแสน้า การเคล่อื นที่ของกระแสน้าในมหาสมุทร และการใช้ ประโยชนใ์ นทางสรา้ งสรรคร์ วมท้ังผลกระทบตอ่ สิ่งมชี ีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การ สืบค้นข้อมูล อภิปรายและการทดลองเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิดความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มี ความสามารถในการตดั สินใจ นา้ ความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจ้าวัน มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม ที่เหมาะสม โดยจัดประสบการณ์หรอื สถานการณในชีวิตประจ้าวันทใี่ กล้ตวั ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า และสร้างองค์ความรู้( Research and knowledge formation ) ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงานสื่อสารและน้าเสนอ (Communication and presentation ) อยา่ งเป็นลา้ ดบั ขน้ั ตอนเพ่อื พฒั นาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ น้า ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคดิ ทกั ษะ/กระบวนการทไ่ี ด้ ไปใชใ้ นการเรียนรูต้ ่าง ๆ เห็นคณุ คา่ และเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ วทิ ยาศาสตร์ สามารถท้างานอยา่ งเป็นระเบยี บ มีความรอบคอบ มีวิจารณญาณ และมีความเช่อื มัน่ ในตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การวัดผลประเมินผล โดยใช้วิธีท่ีหลากหลาย ตามสภาพจรงิ ให้สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาทักษะ ท่ีตอ้ งการวดั และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตวั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายการแบง่ ช้นั และสมบัตขิ องโครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอยา่ งข้อมลู ทสี่ นับสนุน 2. อธบิ ายหลักฐานทางธรณวี ทิ ยาทสี่ นับสนนุ การเคลอ่ื นท่ขี องแผน่ ธรณี 3. ระบุสาเหตแุ ละอธิบายรูปแบบแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณีทส่ี ัมพนั ธ์กบั การเคล่อื นทข่ี อง แผน่ ธรณีพรอ้ มยกตวั อย่าง หลกั ฐานทางธรณวี ิทยาทพี่ บ 4. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ รวมท้งั สบื คน้ ขอ้ มลู พนื้ ที่เส่ียงภยั ออกแบบและ นา้ เสนอแนวทางการ เฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัย 5. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกดิ ภูเขาไฟระเบิด รวมทัง้ สบื คน้ ข้อมลู พน้ื ทีเ่ สยี่ งภยั ออกแบบและ นา้ เสนอแนวทางการ เฝ้าระวังและการปฏิบัติตนใหป้ ลอดภัย 6. อธิบายปัจจยั ส้าคญั ท่มี ีผลต่อการไดร้ ับพลังงาน จากดวงอาทติ ย์แตกตา่ งกนั ในแต่ละบริเวณของโลก 7. อธิบายปัจจยั ส้าคญั ท่มี ีผลตอ่ การไดร้ ับพลังงาน จากดวงอาทติ ยแ์ ตกตา่ งกนั ในแต่ละบริเวณของโลก 8. อธิบายการหมนุ เวียนของอากาศ ที่เปน็ ผลมาจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ 9. อธิบายทศิ ทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ท่ีเปน็ ผลมาจากการหมุนรอบตวั เองของโลก 10. อธบิ ายการหมุนเวียนของอากาศตามเขต ละติจดู และผลท่มี ตี อ่ ภมู ิอากาศ 11. อธิบายปัจจัยทีท่ า้ ใหเ้ กิดการหมนุ เวยี นของนา้ ผิวหนา้ ในมหาสมทุ รและรูปแบบการหมุนเวียน ของน้าผิวหนา้ ใน มหาสมุทร 12. อธบิ ายผลของการหมุนเวยี นของอากาศ และน้าผวิ หน้าในมหาสมุทรท่ีมีต่อลักษณะ ภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมชี ีวติ และ สิง่ แวดลอ้ ม 13. อธบิ ายปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ การเปล่ียนแปลง ภูมอิ ากาศของโลก พร้อมทง้ั น้าเสนอแนวปฏิบัติ เพ่อื ลดกจิ กรรมของมนุษย์ ที่ส่งผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศโลก 14. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศ ท่สี า้ คัญจากแผนท่ีอากาศ และนา้ ข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการ ด้าเนนิ ชีวิต ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ

โครงสรา้ งรายวชิ า ธรณีวทิ ยาพนื้ ฐาน รหัสวชิ า ว30162 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวนหน่วยกิต 1.0 หนว่ ย คะแนนระหว่างเรยี น 70 คะแนน คะแนนปลายภาคเรยี น 30 คะแนน ลาดับ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้ เวลาเรียน คะแนน 1 1. อธบิ ายการแบ่งชั้นและ การศึกษาโครงสรา้ งโลกใช้ขอ้ มลู หลายด้าน เช่น 4 10 2 6 สมบัตขิ องโครงสรา้ งโลก องค์ประกอบทางเคมีของหนิ และแร่องคป์ ระกอบ ทาง 2 6 พร้อมยกตัวอยา่ งขอ้ มูลท่ี เคมีของอุกกาบาต ข้อมลู คลื่นไหวสะเทือน ท่ีเคลื่อนที่ สนบั สนุน ผา่ นโลก จึงสามารถแบ่งชน้ั โครงสร้าง โลกได้ ๒ แบบ คอื โครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบ ทางเคมแี บ่งได้เปน็ ๓ ชนั้ ได้แก่ เปลอื กโลก เน้อื โลก และแกน่ โลก และ โครงสรา้ งโลกตาม สมบัตเิ ชงิ กล แบ่งไดเ้ ปน็ ๕ ชัน้ ได้แก่ ธรณภี าค ฐานธรณีภาค มชั ฌิมภาค แก่นโลก ชน้ั นอก และแกน่ โลกชั้นใน 2 2. อธบิ ายหลักฐานทาง แผ่นธรณีต่าง ๆ เปน็ ส่วนประกอบของธรณภี าค การ ธรณีวทิ ยาที่สนบั สนนุ การ เปลยี่ นแปลงขนาดและตา้ แหนง่ ต้ังแตอ่ ดีต จนถึง เคล่อื นท่ขี องแผน่ ธรณี ปัจจุบัน การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณดี ังกล่าว อธิบายได้ ตามทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ซง่ึ มี รากฐานมาจาก- ทฤษฎที วปี เลอื่ นและทฤษฎี การแผข่ ยายพน้ื สมุทร โดยมีหลักฐานท่ีสนบั สนุน ได้แกร่ ูปร่างของขอบทวปี ท่ี สามารถเชอ่ื มตอ่ กนั ได้ ความคล้ายคลงึ กนั ของกลุ่มหิน และแนวเทอื กเขา ซากดึกด้าบรรพ์รอ่ งรอยการ เคลอ่ื นที่ของ ตะกอนธารน้าแขง็ ภาวะแมเ่ หลก็ โลก บรรพกาล อายุหินของพนื้ มหาสมุทร รวมทัง้ การ คน้ พบสนั เขากลางสมทุ ร 3 3. ระบสุ าเหตุและอธบิ าย การพาความรอ้ นของแมกมาภายในโลก ท้าให้ เกิด รปู แบบแนวรอยต่อ ของ การเคล่ือนที่ของแผน่ ธรณตี ามทฤษฎีธรณี แปร แผ่นธรณีทส่ี ัมพันธก์ ับการ สณั ฐาน ซง่ึ นักวิทยาศาสตร์ได้สา้ รวจพบ หลักฐานทาง เคล่อื นท่ีของ แผน่ ธรณี ธรณวี ิทยา ได้แก่ ธรณีสณั ฐาน และธรณีโครงสร้าง ท่ี พรอ้ มยกตวั อย่างหลักฐาน บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของ แผน่ ธรณเี ช่น ร่องลกึ กน้ สมุทร ทางธรณีวทิ ยาที่พบ หมเู่ กาะภูเขาไฟ รูปโคง้ แนวภูเขาไฟ แนวเทอื กเขา หุบเขาทรุด และสนั เขากลางสมทุ ร รอยเลอ่ื น นอกจากน้ี ยังพบการเกดิ ธรณีพบิ ัตภิ ยั ที่บริเวณแนว รอย ตอ่ ของแผน่ ธรณีเชน่ แผ่นดินไหว ภเู ขาไฟระเบดิ สนื ามิซึ่งหลักฐานดงั กลา่ วสัมพันธก์ ับรูปแบบการ เคลอื่ นทขี่ องแผน่ ธรณนี ักวิทยาศาสตร์ จึงสรปุ ได้ว่า แนวรอยต่อของแผ่นธรณมี ี๓ รปู แบบ ไดแ้ ก่แนวแผน่ ธรณแี ยกตัว แนวแผ่นธรณี เคลอ่ื นท่ีเขา้ หากัน แนว แผ่นธรณีเคล่อื นท่ผี า่ นกนั

ลาดับ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น คะแนน 8 4 4. อธบิ ายสาเหตุ ภเู ขาไฟระเบิด เกิดจากการแทรกดันของแมกมา 4 6 2 กระบวนการเกิดภเู ขาไฟ ขึ้นมาตามส่วนเปราะบาง หรือรอยแตกบนเปลอื กโลก 4 8 ระเบดิ รวมทงั้ สบื ค้นขอ้ มลู มักพบหนาแน่นบรเิ วณรอยต่อระหวา่ งแผ่นธรณี ท้าให้ 2 5 พน้ื ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบ บรเิ วณดังกลา่ วเปน็ พื้นท่ีเสย่ี งภัย ผลจาก การระเบิด และ น้าเสนอแนวทางการ ของภูเขาไฟมที ้ังประโยชนแ์ ละโทษ จงึ ตอ้ งศึกษา เฝา้ ระวังและการปฏิบัติตน แนวทางในการเฝ้าระวงั และ การปฏบิ ตั ติ นให้ ให้ปลอดภัย ปลอดภัย 5 5. อธิบายสาเหตุ แผน่ ดนิ ไหวเกดิ จากการปลดปล่อยพลงั งานท่ี สะสมไว้ กระบวนการเกิด ขนาด ของเปลือกโลกในรปู ของคล่ืนไหว สะเทือน และ ความรุนแรง และผล แผน่ ดนิ ไหวมขี นาดและความรุนแรง แตกต่างกนั มัก จากแผน่ ดินไหว รวมทั้ง เกดิ ขึ้นบรเิ วณรอยตอ่ ของแผน่ ธรณีและพื้นท่ีภายใต้ สืบค้นข้อมลู พน้ื ทเี่ ส่ยี งภัย อิทธิพลของการเคลอ่ื นของ แผน่ ธรณที า้ ใหบ้ ริเวณ ออกแบบและ น้าเสนอ ดงั กล่าวเปน็ พ้นื ท่ีเสี่ยงภัย แผ่นดินไหว ซงึ่ สง่ ผลให้ แนวทางการเฝา้ ระวังและ ส่งิ กอ่ สร้างเสยี หาย เกดิ อันตรายตอ่ ชีวติ และทรัพยส์ นิ การปฏิบัตติ น ให้ปลอดภัย จงึ ต้องศกึ ษา แนวทางในการเฝ้าระวัง และการปฏบิ ัติ ตนใหป้ ลอดภยั 6 6. อธิบายสาเหตุ สึนามิคอื คลื่นน้าท่ีเกดิ จากการแทนท่มี วลน้า ใน กระบวนการเกดิ และผล ปริมาณมหาศาล ส่วนมากจะเกิดในทะเลหรือ จากสึนามิ รวมทั้งสบื คน้ มหาสมทุ ร โดยคลน่ื มีลักษณะเฉพาะ คือ ความยาว คล่ืนมากและเคลื่อนทดี่ ้วยความเร็วสงู เมือ่ อย่กู ลาง ขอ้ มลู พื้นท่ีเส่ียงภัย ออกแบบ และนา้ เสนอแนว มหาสมทุ รจะมคี วามสงู คล่ืนน้อย และอาจเพ่มิ ความ สูงข้นึ อยา่ งรวดเร็ว เมอื่ คลืน่ เคลือ่ นท่ีผ่านบรเิ วณนา้ ทางการเฝ้าระวงั และการ ต้ืน จงึ ทา้ ใหพ้ ้นื ทบ่ี รเิ วณ ชายฝัง่ บางบรเิ วณเปน็ พ้ืนที่ ปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภัย เสยี่ งภัยสึนามิ ก่อใหเ้ กิดอันตรายแก่มนุษยแ์ ละ สิ่งกอ่ สร้าง ในบริเวณชายหาดนนั้ จงึ ต้องศกึ ษา แนวทาง ในการเฝ้าระวัง และการปฏิบตั ิตนให้ ปลอดภยั 7 7. อธบิ ายปัจจัยสา้ คัญท่ีมี พ้ืนผวิ โลกแต่ละบริเวณได้รบั พลงั งานจาก ดวงอาทิตย์ ผลตอ่ การได้รบั พลงั งาน ในปริมาณท่ีแตกตา่ งกัน เน่อื งจาก ปจั จัยส้าคญั หลาย จากดวงอาทติ ยแ์ ตกตา่ งกัน ประการ เช่น สณั ฐานและ การเอยี งของแกนโลก ในแตล่ ะบริเวณของโลก ลักษณะของพน้ื ผิว ละอองลอย และเมฆ ทา้ ใหแ้ ตล่ ะ บริเวณบนโลก มอี ุณหภมู ิไม่เท่ากัน ส่งผลให้มคี วามกด อากาศ แตกตา่ งกนั และเกิดการถ่ายโอนพลงั งาน ระหวา่ งกนั

ลาดบั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น คะแนน 8 8 8. อธบิ ายการหมุนเวียน การหมุนเวียนของอากาศเกดิ ขึ้นจากความ กดอากาศ 4 2 5 ของอากาศ ที่เป็น ผลมา ที่แตกตา่ งกันระหว่างสองบริเวณ โดยอากาศเคลื่อนที่ 2 6 จากความแตกตา่ งของ จากบริเวณทีม่ คี วามกด อากาศสงู ไปยงั บริเวณทีม่ ี ความกดอากาศ ความกดอากาศต้่า ซ่งึ จะเห็นได้ชดั เจน ในการเคล่ือนที่ 2 5 ของอากาศ ในแนวราบ และเมื่อพจิ ารณาการเคล่อื นท่ี ของ อากาศในแนวดงิ่ จะพบวา่ อากาศเหนือบรเิ วณ ความกดอากาศต่้าจะมกี ารยกตวั ข้นึ ขณะที่ อากาศ เหนือบรเิ วณความกดอากาศสูง จะจมตัวลง โดยการ เคลอ่ื นที่ของอากาศท้ังในแนวราบและ แนวด่งิ น้ที ้าให้ เกิดเป็นการหมนุ เวียนของอากาศ 9 9. อธิบายทิศทางการ การหมนุ รอบตัวเองของโลกทา้ ให้เกดิ แรงคอรอิ อลสิ เคลื่อนท่ีของอากาศ ที่เป็น สง่ ผลให้ทิศทางการเคลอื่ นทขี่ องอากาศเบนไป โดย ผลมาจากการหมุนรอบ อากาศทเ่ี คล่ือนทใี่ นบริเวณซกี โลกเหนอื จะเบนไป ตัวเองของโลก ทางขวาจากทิศทางเดิมสว่ นบริเวณซีกโลก ใต้จะเบน ไปทางซ้ายจากทิศทางเดิม 10 10. อธบิ ายการหมนุ เวียน โลกมคี วามกดอากาศแตกตา่ งกันในแต่ละบริเวณ ของอากาศตามเขต รวมท้ังอทิ ธิพลจากการหมุนรอบตัวเองของโลก ทา้ ให้ ละตจิ ูด และผลท่มี ตี อ่ ภมู ิ อากาศในแตล่ ะซีกโลกเกิดการหมุนเวยี น ของอากาศ อากา ตามเขตละติจูด แบ่งออกเปน็ ๓ แถบ โดยแตล่ ะแถบมี ภมู อิ ากาศแตกตา่ งกนั ได้แก่ การหมนุ เวยี น แถบขวั้ โลกมีภมู อิ ากาศแบบ หนาวเย็น การหมุนเวียนแถบ ละติจูดกลาง มีภมู ิอากาศแบบอบอุ่น และ การ หมนุ เวยี นของอากาศ• นอกจากน้ีบริเวณรอยต่อของ การหมุนเวียน อากาศแต่ละแถบละตจิ ดู จะมีลักษณะ ลมฟ้า อากาศ ทีแ่ ตกต่างกนั เช่น บรเิ วณใกล้ศนู ย์สตู ร มปี รมิ าณ หยาดนา้ ฟ้าเฉลยี่ สูงกว่าบรเิ วณอ่ืน บรเิ วณ ละตจิ ูด ๓๐ องศา มีอากาศแหง้ แล้ง สว่ นบรเิ วณ ละติจูด ๖๐ องศา อากาศมีควา 11 11. อธิบายปจั จยั ท่ที ้าให้ การหมุนเวียนของกระแสน้าผวิ หน้าในมหาสมุทร เกิดการหมนุ เวยี นของน้า ได้รบั อทิ ธพิ ลจากการหมนุ เวยี นของอากาศ ในแตล่ ะ ผิวหน้าในมหาสมุทรและ แถบละตจิ ูดเป็นปัจจยั หลกั ท้าให้บริเวณ ซกี โลกเหนอื รูปแบบการหมนุ เวียน ของ มกี ารหมุนเวียนของกระแสนา้ ผิวหน้า ในทศิ ทางตาม นา้ ผิวหนา้ ในมหาสมุทร เข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกาใน ซกี โลกใต้ซึง่ กระแสน้าผิวหน้าในมหาสมทุ ร มที งั้ กระแสนา้ อุน่ และ กระแสน้าเย็น

ลาดบั ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น คะแนน 8 12 12. อธิบายผลของการ การหมนุ เวียนอากาศและนา้ ในมหาสมทุ ร ส่งผลตอ่ 4 9 4 หมุนเวียนของอากาศ และ ภมู อิ ากาศ ลมฟา้ อากาศ สง่ิ มีชวี ิต และส่ิงแวดล้อม 10 นา้ ผวิ หนา้ ในมหาสมุทรทีม่ ี เชน่ กระแสน้าอุ่นกลั ฟ์สตรมี ท่ที า้ ให้บางประเทศใน 4 ต่อลักษณะ ภูมิอากาศ ลม ทวปี ยโุ รปไมห่ นาวเย็นเกินไป และเมือ่ การหมนุ เวียน ฟ้าอากาศ สง่ิ มชี ีวติ และ อากาศและนา้ ในมหาสมุทรแปรปรวน ทา้ ให้เกิดผล สิง่ แวดล้อม กระทบต่อ สภาพลมฟ้าอากาศ เช่น ปรากฏการณ์ เอลนีโญ และลานญี า ซงึ่ เกดิ จากความแปรปรวน ของ ลมคา้ และส่งผลต่อประเทศท่อี ยูบ่ รเิ วณ มหาสมทุ ร แปซฟิ กิ 13 13. อธิบายปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ โลกได้รบั พลังงานจากดวงอาทติ ย์โดยปริมาณ การเปลยี่ นแปลง พลังงานเฉลยี่ ที่โลกไดร้ ับเท่ากบั พลังงานเฉลีย่ ท่โี ลก ภูมอิ ากาศของโลก พรอ้ ม ปลดปลอ่ ยกลบั สู่อวกาศ ทา้ ใหเ้ กิดสมดลุ พลงั งานของ ท้ังน้าเสนอแนวปฏิบัติ เพอ่ื โลก ส่งผลให้อุณหภูมเิ ฉลี่ยของโลก ในแต่ละปีคอ่ นข้าง ลดกจิ กรรมของมนุษยท์ ี่ คงที่และมลี ักษณะภมู ิอากาศ ทีไ่ ม่เปลี่ยนแปลง หาก สมดลุ พลังงานของโลกเกดิ การเปลีย่ นแปลงไปจะทา้ ส่งผลตอ่ การ เปลีย่ นแปลง ใหอ้ ณุ หภูมเิ ฉลีย่ ของ โลกและภูมิอากาศเกิดการ ภูมิอากาศโลก เปล่ียนแปลงได้ เนอ่ื งจากปัจจยั หลายประการทงั้ ปัจจัยที่เกิดข้ึน ตามธรรมชาตแิ ละการกระทา้ ของ มนษุ ยเ์ ชน่ แกส๊ เรอื นกระจก ลกั ษณะผิวโลก และ ละอองลองลอย มนษุ ยม์ สี ว่ นชว่ ยในการชะลอการ เปลยี่ นแปลง ภมู อิ ากาศโลกไดโ้ ดยการลดกิจกรรมที่ ทา้ ให้เกิด การเปล่ียนแปลงสมดลุ พลังงาน เชน่ ลดการ ปลดปล่อยแกส๊ เรือนกระจกและละอองลอย 14 14. แปลความหมาย แผนทอ่ี ากาศผวิ พน้ื แสดงข้อมลู การตรวจอากาศ ใน สัญลกั ษณล์ มฟา้ อากาศ ที่ รปู แบบสญั ลกั ษณห์ รือตวั เลข เชน่ บรเิ วณ ความกด ส้าคัญจากแผนท่ีอากาศ อากาศสูง หย่อมความกดอากาศตา้่ พายุหมนุ เขตร้อน และน้าข้อมลู สารสนเทศ รอ่ งความกดอากาศต้า่ การแปลความหมายสัญลกั ษณ์ ต่าง ๆ มาวางแผนการ ลมฟา้ อากาศ ทา้ ใหท้ ราบลกั ษณะลมฟา้ อากาศ ณ ดา้ เนินชีวิต ใหส้ อดคลอ้ ง บรเิ วณหนึง่ กับสภาพลมฟ้าอากาศ การแปลความหมายสญั ลักษณ์ท่ีปรากฏบนแผนที่ อากาศ ร่วมกบั ข้อมลู สารสนเทศตา่ ง ๆ เชน่ โปรแกรม ประยกุ ตเ์ กีย่ วกบั การพยากรณ์อากาศ เรดาร์ตรวจ อากาศ ภาพถา่ ยดาวเทียม สามารถ น้ามาวางแผนการ ด้าเนนิ ชีวติ ให้สอดคลอ้ งกับ สภาพลมฟา้ อากาศ เชน่ การเลอื กช่วงเวลา ในการเพาะปลกู ใหส้ อดคลอ้ งกบั ฤดูกาล การเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน รวม 14 ตวั ชีว้ ัด 40 ช่วั โมง 100 คะแนน

อัตราส่วนการวัดผลและประเมนิ ผล รายตัวชว้ี ัด น้าหนกั การประเมนิ ลาดบั ตัวชวี้ ัด ระหว่างภาคเรียน กลาง ปลายภาค เรยี น รปู แบบ คะแนน รวม ภาค 2 1 1. อธบิ ายการแบ่งชั้นและสมบตั ขิ องโครงสร้างโลก 1 - 6 2 2 พร้อมยกตวั อย่างข้อมลู ทส่ี นับสนุน 23 2 32 2 41 1 2 2. อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาท่สี นบั สนุน การ 1 - 2 2 3 เคลอื่ นท่ขี องแผน่ ธรณี 21 2 31 3 4- 3 3. ระบสุ าเหตุและอธิบายรปู แบบแนวรอยต่อ ของ 1 - 2 2 แผน่ ธรณีท่ีสัมพันธก์ บั การเคลื่อนท่ีของ แผ่นธรณี 2 1 พรอ้ มยกตวั อยา่ งหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีพบ 31 4- 4 4. อธิบายสาเหตกุ ระบวนการเกดิ ภูเขาไฟระเบิด 1 - 4 1 รวมทง้ั สบื ค้นขอ้ มูลพ้ืนที่เสยี่ งภัย ออกแบบและ 2 2 3 - นา้ เสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบตั ิตนให้ 4 2 ปลอดภัย 5 5. อธบิ ายสาเหตุกระบวนการเกดิ ขนาดและ ความ 1 - 3 1 รุนแรง และผลจากแผน่ ดนิ ไหว รวมทง้ั สบื ค้น 22 ขอ้ มลู พืน้ ทเี่ สย่ี งภัย ออกแบบและ นา้ เสนอ 31 แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตน ให้ 4- ปลอดภยั 6 6. อธบิ ายสาเหตกุ ระบวนการเกดิ และผลจากสนึ ามิ 1 - 5 1 รวมทง้ั สืบค้นขอ้ มูลพืน้ ทีเ่ สย่ี งภัย ออกแบบ และ 2 2 นา้ เสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ัติตนให้ 3 2 ปลอดภัย 41 7 7. อธิบายปจั จัยสา้ คัญทม่ี ีผลตอ่ การได้รับพลงั งาน 1 - 3 1 จากดวงอาทิตยแ์ ตกตา่ งกันในแตล่ ะบริเวณของโลก 2 2 3- 41 8 8. อธบิ ายการหมนุ เวยี นของอากาศ ท่เี ปน็ ผลมา 1 - 5 - จากความแตกตา่ งของความกดอากาศ 22 32 41

น้าหนกั การประเมนิ ลาดับ ตัวชวี้ ัด ระหวา่ งภาคเรียน กลาง ปลายภาค 9 9. อธิบายทิศทางการเคลือ่ นที่ของอากาศ ที่เป็น รปู แบบ คะแนน รวม ภาค เรยี น 1-3 - 2 ผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก 22 3- 41 10 10. อธบิ ายการหมนุ เวียนของอากาศตามเขต 1-4- 2 ละติจดู และผลทีม่ ตี ่อภมู อิ ากา 22 32 4- 11 11. อธิบายปัจจัยทีท่ ้าใหเ้ กิดการหมุนเวียนของน้า 1 - 3 - 2 ผวิ หนา้ ในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวียน 22 ของน้าผวิ หน้าในมหาสมทุ ร 3- 41 12 12. อธิบายผลของการหมนุ เวยี นของอากาศ และ 1 - 6 - 2 น้าผิวหนา้ ในมหาสมทุ รที่มีต่อลกั ษณะ ภมู อิ ากาศ 2 2 ลมฟา้ อากาศ สิ่งมีชวี ติ และ ส่งิ แวดลอ้ ม 32 42 13 13. อธิบายปจั จัยท่ีมีผลตอ่ การเปลีย่ นแปลง 1-6- 3 ภูมอิ ากาศของโลก พรอ้ มท้ังนา้ เสนอแนวปฏิบตั ิ 2 2 เพอ่ื ลดกิจกรรมของมนษุ ยท์ ส่ี ่งผลตอ่ การ 32 เปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศโลก 42 14 14. แปลความหมายสัญลักษณล์ มฟา้ อากาศ ท่ี 1-8- 2 ส้าคญั จากแผนท่อี ากาศ และนา้ ข้อมลู สารสนเทศ 2 3 ตา่ ง ๆ มาวางแผนการดา้ เนนิ ชวี ติ ใหส้ อดคลอ้ งกบั 3 2 สภาพลมฟา้ อากาศ 43 รวม 14 ตัวชว้ี ดั 40 60 10 30 ชัว่ โมง คะแนน คะแนน คะแนน ระหวา่ งเรยี น ปลายภาค 70 คะแนน 30คะแนน แผนการวดั ผลประเมนิ ผล กอ่ นกลางภาค ตัวช้วี ดั ข้อที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 สอบกลางภาค ตัวช้ีวดั ขอ้ ท่ี 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 หลงั กลางภาค ตวั ช้วี ัดขอ้ ที่ 8, 9, 10, 11, 12, 13 และ 14 สอบปลายภาค 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 , 13 และ 14


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook