เรอื งราวชวี ิตของ ”มะมมิ ”
คํานาํ หนังสือเล่มนีจะประกอบไปดว้ ยเรองราวของมะมมิ ทีมีชอื เตม็ ว่า นางสาวธตรฐ เลศิ สวุ รรณโรจน์ นสิ ิตคณะครุศาสตร์ ป 2 หรอวา่ ตัวฉนั เอง ผา่ นตวั อกั ษรเหล่านี เกียวกบั มุมมองตา่ งๆ การเดนิ ทางของชีวตของ มะมมิ ว่าตังแตส่ มัยอนุบาลจนค่อยๆ เตบิ โตมาตอนนเี ปนอยา่ งไร เกดิ เรองราวอะไรขนึ บ้าง มาเปนคนแบบทกุ วันนีได้ เพราะใครบา้ งทีมีอิทธิพล กับฉัน ครูคนไหนทีจุดประกายความคิดของฉนั ต้นทนุ ทมี ีอย่แู ล้ว สภาพ ชุมชนทอี ย่ใู นปจจบุ ัน ความรู้และทกั ษะทีมตี ดิ ตวั รวมไปถงึ สงิ ทีจะเกดิ ขนึ ในอนาคต เปาหมายและคาํ ปณิธานของมะมมิ ทงั หมดนจี ะถูกบรรจุ อยใู่ นหนงั สอื เล่มนี เรองราวชวี ตของ “มะมมิ ” ธตรฐ เลิศสุวรรณโรจน์ 8 มิถุนายน 2563
My Life Journey -เรองราวแสนประทับใจในแต่ละช่วงวยั -
My life journey “เรมตังแต่เล็กจนเข้าเรยนอนุบาล 1 เปนคนเงียบๆ ไม่ค่อยคุยกับ ใคร ดูร่าเรงโดยภายนอก แต่จรงๆ ภายในรู้สึกเหงาอยู่บ้าง ไม่มันใจใน ตัวเองสักเท่าไหร่ จะชอบทาํ อะไรคนเดียว เรยนรําไทยตอนช่วงปดเทอม อ.3 หรอแม้กระทังพูดหน้าเสาธงก็ตาม แต่มีเหตุการณ์หนึงทีไม่เคยลืม เลย เปนเหตุการณ์ทีมีหลากความรู้สึกในนัน ทังกลัว ตืนเต้น มีความสุข เหงา หิว จึงจาํ ได้… เรองราวเกิดขึนเมือตอนอนุบาล 3 เปนช่วงทีครอบครัวของฉัน ตัดสินใจย้ายบ้าน จากแฟลตหอพักแพทย์ของโรงพยาบาลจังหวัดไปอยู่ที บ้านเดียวแทน วันหนึง คุณแม่กับน้องชายชวนไปตรวจดูบ้านทีกาํ ลัง สร้างใหม่เนืองจากหัวหน้าช่างนัดไป จาํ ได้ว่าฉันเพิงตืนใหม่ๆ เลยทาํ ให้ ตอนนันสลึมสลือ ฉันจึงบอกปฏิเสธไป จากนันก็เดินไปนอนต่อ แม่กับ น้องเลยออกจากบ้านไป มารู้สึกตัวอีกทีคือวงไปนอนดูการ์ตูน ปกติแล้ว ฉันเปนติดน้องชายมากๆ เล่นด้วยกันตลอด กลายเปนวันนันรู้สึกเหงา มากๆ ดูทีวไปเรอยๆ เรมซึมเพราะคิดถึงแม่กับน้อง แล้วร้องไห้ไปหนึง พักใหญ่ ก่อนจะท้องร้องโครกคราก จึงเดินไปห้องครัว เทนมจากกล่อง ใส่ขวดนมแล้วเอาไปกินหน้าทีว (ตอนนันยังไม่เลิกใช้ขวดนม) สักพักเวลาผ่านไป ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึน ฉันจึงตัดสินใจเดินไป หน้าประตูทังๆ ทีก็ยังกลัวอยู่อย่างนัน เปดมาสรุ ปเปนคุณน้าข้างห้องที นําของฝากมาให้ จึงรับของแล้วกลับไปนังดูทีวเหมือนเดิม หลังจากนัน ไม่นานแม่ก็กลับมา จําได้ว่าวันนันรู้สึกภูมิใจมากทีสามารถอยู่คนเดียว เองได้ สือสารกับคนอืนได้เอง นันเปนจุดเรมต้นของฉันทีค่อนข้างติด บ้านและมันใจในตัวเองมากขึน” - วั ย อ นุ บ า ล -
My life journey “ช่วงป.2 ป.4 และตอนป.6 เปนสามปทีได้มีโอกาสไปค่ายจิตอาสา กับปะปาและทีมงานของปะปา ได้ประสบการณ์ใหม่มาเยอะมาก ได้เรยน รู้ว่าการให้มันดีแค่ไหน การทีเราทําให้เขามีความสุข สร้างรอยยิมให้คน อืนได้รู้สึกดีแค่ไหน อีกทังยังได้ความคิดเรองการวางแผนอีกด้วย จากประสบการณ์ทีมีโอกาสได้ไปค่ายจิตอาสานี ทําให้ช่วงประถม ศึกษา ฉันเปนคนทีชอบช่วยเหลือผู้อืนตลอดเวลา เรยกได้ว่าใจดีสุดๆ ใครขออะไรก็ให้ บรจาคเงิน ของใช้เต็มทีมากๆ โดยปะปาก็ไมได้ขัดอะไร เพราะฉันจะคอยบอกครอบครัวตลอด ช่วงวัยประถมจึงเปนช่วงหนึงทีมี ความสุขมากๆ เลย และทาํ ให้มีความฝนว่าอนาคต ฉันเองก็อยากทําให้ ได้แบบปะปาบ้าง” - วั ย ป ร ะ ถ ม -
My life journey “เหตุการณ์นีเปนเหตุการณ์ทีจะบอกว่าเปนเรองราวทีประทับใจ แบบสุขสันต์ไม่ได้หรอก เพราะเปนเหตุการณ์ทีมีทุกความรู้สึกอยู่ด้วยกัน รวมถึงเรองเพือนด้วย แถมยังมีบ้างทีแอบสร้างความกังวลกันสักพัก ใหญ่ นันคือ การทีเพือนในห้องมีปากเสียงกันครังใหญ่ในห้องช่วงม.3 เทอม 1 เพราะความเข้าใจผิดกันทังสามฝาย (เพือนทีมีเรองกันในห้องมีสามกลุ่ม ย่อยๆ) ทะเลาะกันระดับที คุณครู ประจําชันรับรู้ได้ ครู ในหมวด วทยาศาสตร์ก็รู้กันหมด ถึงขันทีครู ประจําชันเองยังเอาเรองนีไปปรกษา ครู ท่านอืน สุดท้ายปญหาขัดแย้งนีแก้ได้เพราะค่ายก่อนจบม.3 ซึงเปน ค่ายทีฉันและเพือนๆ ประทับใจมาก อาจารย์ทีปรกษาตอนม.3 ตอนนัน ชือว่าครู ประวทย์ เปนครู หมวดวทยาศาสตร์ทีเปนทีรักของห้องมาก ๆ และเปนคนเดียวกับทีฉันบอกว่าเอาเรองนีไปคุยกับครู ท่านอืนเปนครู ที ใจเย็นและพยายามทําความเข้าใจเพือนๆ ทุกคน คอยแก้ปญหาให้ ตลอด ค่ายนันเปนค่ายทีครู เปนคนบอกให้เพือน ๆ ในห้องหันหน้าคุย กันเอง เคลียร์สิงทีไม่โอเคกันทังสามฝาย ผลลัพธ์คือหลังจากนัน พวก เราก็สนิทกันมากขึน หลังจากทะเลาะกัน และยังแบกพรรคพวกกันมา นาน จนถึงปดเทอมม.ต้น ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเรยนม.ปลายต่าง ห้อง ต่างโรงเรยนกัน… ถึงจะไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว แต่เปนหนึงในสิงที ลืมไม่ลงเลย” - วั ย มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ต อ น ต้ น -
My life journey “สิงทีประทับใจช่วงนียังคงเปนเรองเพือนอยู่ ในช่วงม.4 เปนการ เปดประสบการณ์กับการโดนเพือนทิงครังแรกของฉันเลย จรง ๆมีเพือน กลุ่มหนึงทีรู้จักกันตอนม.ต้น แล้วอยู่กลุ่มเดียวกันมาตลอด แต่สไตล์การ เรยนเพือนในกลุ่มกับฉันเองค่อนข้างแตกต่างกัน (ถึงมากทีสุด) เพือน ทังกลุ่มตัดสินใจเดินห่างกับฉัน ไม่คุยด้วยต่าง ๆ แล้วบอกเกลียดฉัน แบบตรงๆ ต่อหน้า ไม่อ้อมค้อมเลย นันเปนจุดเรมต้นให้มองตัวเองเยอะ ขึนมาก รู้สึกว่าคาํ พูดเพือนในวันนัน เปลียนแปลงตัวฉันได้เยอะขึน แล้ว เมือฉันแยกตัวออกมากลายเปนว่า ได้ไปเจอเพือนอีกกลุ่มหนึง ตอนแรก ๆ ขอเข้าอยู่ด้วย ตอนแรกเพือนๆ กลุ่มปจจุบันนียังไม่ค่อยยอมรับตัวฉัน เท่าไหร่ ตอนนันรู้สึกหลงไปหมด แต่โชคดีมากทีสุดท้ายเพือนก็ยอมรับ ฉันมีความสุขมากทีได้มาอยู่กับเพือนกลุ่มนี ความคิด สไตล์การเรยน สไตล์ต่าง ๆ เข้ากันหมดเลย เปนกลุ่มทีช่วยกันเรยนแบบช่วยกันเรยน จรง ๆ แต่ละคนถนัดคนละวชา เปนกลุ่มทีรับฟงฉันเสมอเวลาฉันทีเรอง ไม่สบายใจ เรยกได้ว่าอยากขอบคุณเพือนคนนันทีทําให้ฉันมองตัวเอง มากขึน และขอบคุณเพือนกลุ่มปจจุบันทีเปดรับฉันให้เข้าไปรู้จักและสนิท กันมาจนถึงตอนนี <3” - วั ย มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ต อ น ป ล า ย -
My life journey “ตอนปหนึงฉันจึงได้เข้าชมรมทังของคณะและมหาวทยาลัยเพือหา กิจกรรมทํา เรยนอย่างเดียวมันคงน่าเบือ จึงตัดสินใจเข้าชมรมแรกทีเข้า คือชมรมนาฏศิลปของคณะ ซึงการแสดงแรกทีได้ขึนแสดง คืองานไหว้ครู จาํ ได้ว่าความรู้สึกดีมากๆ ภาพทีเพือนๆ ในห้องประชุมมองมา ภาพที คุณครูทีนังตรงหน้ามองเราอยู่ เปนภาพทีสวยงามมากจรงๆ ขันกว่าของ การแสดงช่วงประถมทีเคยทาํ อีกชมรมคณะทีได้เข้าแล้วมีความสุขมากคือชมรมเต้นของคณะ ได้ทาํ อีกหนึงสิงทีชอบแล้วจรงๆ จากทีเคยคิดอยากทําตังนาน จึงตัดสินใจเข้า ชมรมนี เพือสมัครเข้า ได้มีโอกาสแสดง ครเอทการแสดง เรยงเพลง ตัด เพลง สอนคนอืนให้เต้น มีความสุขมากๆ เลย ส่วนของชมรมมหาวทยาลัยฉันได้เข้าชมรมจิตอาสาของจุฬาฯ เปน ชมรมทีได้พัฒนาทังตนเองและสังคม รู้สึกอยากขอบคุณเตยหอมมากทีพา ไปเข้าชมรมนัน ได้เจอเพือนทีดี น่ารัก คติคล้ายๆ กัน พร้อมทีจะพัฒนาไป ด้วยกันเสมอ แถมยังได้มีโอกาสจัดงานอาสานีตอนป 1 เทอม 2 พร้อมกับ เพือนรุ่นเดียวกันทังหมด เนืองาน 90% ล้วนแล้วเปนงานทีกลุ่มเพือนช่วย กันทาํ ทังนัน เปนครังแรกทีได้มีโอกาสทํางานอย่างเต็มตัว ช่วยในทุกขัน ตอน ตังแต่คิดธีมงาน คิดจุดประสงค์ ลงมือหาอุปกรณ์ สปอนเซอร์ เตรยมงาน จัดงาน รวมถึงไปถึงขันดูแลผู้ร่วมงานและทําความสะอาด เปน งานทีใหญ่และประทับใจทีสุดเท่าทีเคยทาํ มาในช่วงนันเลย ฟดแบคทีได้ กลับมา มันดีมากจรงๆ (อีกอย่างคือ ประทับใจสุดๆ เพราะไอเดียงานในวัน นัน คือความคิดทีฉันเปนคนเรมเสนอคนแรก ;-;)” - วั ย ม ห า วิ ท ย า ลั ย -
My life journey
My Influential People -ผู้ทีมอี ทิ ธพิ ลตอ่ มะมมิ -
My Influential People 1ST “นพ.อภิรักษ์ เลิศสุวรรณ PERSON โรจน์ เปนปะปาของฉันเอง ปา เ ป น ค น ที มี มุ ม ม อ ง ที มั ก จ ะ ค อ ย ม อ ง คนที 1 และเตือนฉันเสมอ ไม่ว่าครังไหน ฉั น เ จ อ เ ร อ ง อ ะ ไ ร ที อ ย า ก รู้ เ พิ ม เ ติ ม ฉันมักคอยเล่า คอยถามปาเสมอ ส่วนมากแล้ว ถ้าเรองไหนฉัน แ ส ด ง ว่ า ฉั น เ ห็ น สิ ง นั น แ ค่ ด้ า น เ ดี ย ว ป า จ ะ ค อ ย เ ตื อ น แ ล ะ เ ล่ า ใ ห้ ฟ ง ถึ ง อีกมุมมองเสมอ เปนคนทีทาํ ให้ กลายเปนฉัน คนทีพยายามมองให้ หลากหลายมากขึน และตัดสินใจ ได้ดีขึนเยอะ รวมถึงเปนคนทีฉัน นั บ ถื อ ใ น เ ร อ ง ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ค น จ ร ง ๆ ปาเปนคนทีมีคติเกียวกับการ เลือกสายอาชีพทีกว้าง ไม่ตามค่า นิยมสังคมเลย บ่มเพาะให้ฉันเปน ฉั น ทุ ก วั น นี ”
My Influential People 2ND “นางนันทา พีระเกียรติขจร PERSON เปนคุณยายของฉันเอง คุณยาย เปนคนทีขยันมากๆ และเปนทีรัก คนที 2 ของคนรอบข้างมากๆ คุณยาย เปนคนทีฉลาดพูด คิดก่อนพูด เสมอ และเอาใจใส่คนรอบข้างดี มาก คุณยายจะคอยสอนเรองการ สังเกต เข้าใจคนรอบข้างตลอด เปนอีกคนทีคอยสอน คอยเตือนให้ ฉันหัดสังเกตคนรอบข้าง ไม่ใช่ แค่มองภายนอก แต่ต้องพยายาม ทําความเข้าใจด้วย ว่าเขาน่าจะ กําลังคิดอะไร ปลอดภัยหรอไม่ ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ เ ร า ช่ ว ย อ ะ ไ ร ห ร อ เ ป ล่ า รู้จักช่วยเหลือผู้อืนด้วย หากเรามี กํา ลั ง ที พ อ จ ะ ช่ ว ย ไ ด้ ”
My Influential People 3RD “นส.จอมขวัญ พรหมสร PERSON ห ร อ เ ต ย ห อ ม เ ป น เ พื อ น ที เ พิ ง ม า รู้ จั ก กั น ต อ น ม า อ ยู่ ม ห า ว ท ย า ลั ย คนที 3 ตอนเข้ามาปหนึง ฉันไม่กล้าทีจะ ออกนอกกรอบตัวเอง ไม่กล้าทีจะ เ ดิ น เ ข้ า ไ ป ส มั ค ร ค่ า ย ห ร อ ช ม ร ม ด้วยตัวเอง ตอนมาใหม่ๆ พยายาม ช ว น เ พื อ น ที เ พิ ง รู้ จั ก เ ห มื อ น จ ะ เ ป น ก ลุ่ ม เ ดี ย ว กั น ใ ห้ ไ ป ค่ า ย อ า ส า ด้วยกันไม่มีใครไปด้วยเลย แอบ ท้อเลย จนมาเจอเตยหอม ชวนกัน ไปชมรมเดียวกับเตยหอมดู ทําให้ ฉั น เ ป ลี ย น ค ว า ม คิ ด ไ ด้ เ ย อ ะ เ ล ย ก ล า ย เ ป น ค น ที ไ ม่ ก ลั ว ที จ ะ ทาํ อยากทาํ อะไรจะทําให้สุดคล้าย จ น ก ล า ย ม า เ ป น เ พื อ น ส นิ ท กั น ต อ น นี ด้วยความทีชอบอะไรเหมือนๆ กั น ”
My Influential People 4TH “นายศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา คนนี PERSON เปนนักแสดงซีรส์ไทยคนหนึง เอาใจใส่แฟน คลับมากถึงแม้งานจะเยอะ แต่กลับเปนคน คนที 4 แบ่งเวลาได้ดี การเรยนไม่ตก ช่วงนันก่อนวัน งานของชมรม Youth day เปนช่วงทีฉันท้อ มากกับการทําค่าย การจัดกิจกรรมต่างๆ รู้สึก ว่าตัวเองทําแล้วทาํ ได้ไม่ดีถึงจะพยายามแล้ว แ ต่ พ อ ไ ด้ ฟ ง ที พี เ ข า พู ด เ ร อ ง ก า ร ทํา จิ ต อ า ส า ตอนเด็ก ตอนทีพีเขาได้ทําค่ายเองครังแรก แล้วแอบท้อ แต่สุดท้ายพีเขาก็พยายามจนทาํ สําเร็จ เหมือนเปนแรงผลักดัน กําลังใจให้ฉันสู้ ต่อ และพยายามทีจะทํา!”
My Influential People 5TH “อูจี เปนนักร้องเกาหลี หนึงใน PERSON สมาชิกวง SEVENTEEN คนนีเปน ค น ที ทํา ใ ห้ ฉั น ก ล้ า ที จ ะ อ อ ก จ า ก คนที 5 Comfort zone ตัวเอง กล้าทีจะ ทาํ ในสิงทีพ่อแม่ไม่อนุญาตในตอน แรก คือการเต้น Cover dance จรงๆ อยากทําตังแต่มัธยม แต่ไม่ กล้า เมือได้เห็นนิสัยการทาํ งานของอู จี ทีพยายามจนถึงทีสุด ตอนแรกพ่อ แม่ไม่สนับสนุน เต้นไม่เปนเลย แต่ ต อ น นี ก ล า ย เ ป น พี ดี แ ต่ ง เ พ ล ง ป ร ะ จาํ วงและเต้นเก่งมาก เปนต้นแบบที ทาํ ให้ฉันเห็นว่า การทีจะลองทําอะไร ทีอยากมันไม่เสียหายหรอก แค่เรา ต้ อ ง เ ต็ ม ที ไ ป กั บ มั น ”
My Great Teacher -คุณครูคนเก่งของมะมมิ -
My Great Teacher ส มั ย ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า คุณครู กานต์สินี (ครู ประจาํ ชันสมัยป.1) “ครู สมัยประถมทีเปรยบเหมือนคุณแม่ของฉันอีกคน “ครู กานต์” เปนครู ประจําชันตอนตอนอยู่ป.1/3 เปนช่วงทีครู ประจําชันต้องสอน ทุกวชา เปนครู ทีไม่ดุว่านักเรยนโดยไม่มีเหตุผลเลยเลย ใช้วธีการพูด คุยตลอด ตังใจสอนในทุกวชา เปนหนึงในต้นแบบครู ทีดี ทีฉันยกย่อง และนับถือในความใจเย็นของครู มากๆ เปนคนทีฉันเอาเปนแบบ อ ย่ า ง ”
My Great Teacher ส มั ย มั ธ ย ม ศึ ก ษ า อาจารย์มานพ ตนุเลิศ “อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ตอนม.4 และเปนอาจารย์ทีสอนพิเศษ วชาคณิตศาสตร์ตังแต่ฉันอยู่ป.6 จนจบม.6 เปนคนทีสร้างแรง บันดาลใจให้นิสิตตัดสินใจเลือกเปนครู ด้วยนิสัยรักในการสอนของ อาจารย์ เข้าใจนักเรยนแต่ละคนว่าแตกต่างกันอย่างไร ใครอ่อนอะไร ใครเก่งอะไร คอยสังเกตท่าทางของนักเรยนเสมอ มีช่วงม.6 เทอม 2 ทีฉันท้อมาก เพราะเรองทีบ้าน เพือน เรองมหาวทยาลัย เปนช่วงแรก ในชีวตทีรู้สึกแย่ทีสุด จากทีทุกอย่างราบรนมาตลอด อาจารย์คอย ซัพพอร์ตเรองวชาคณิตอยู่เสมอ ยินดีทีจะตอบนิสิตเสมอ ถ้าฉันไม่ เข้าใจส่วนไหน นันเปนอีกหนึงเหตุผลทีผลักดันให้นิสิตเข้าใจถึงวชาชีพ ครู และอยากเปนครู ทีดีในอนาคต”
My Great Teacher ส มั ย ม ห า ว ท ย า ลั ย อาจารย์ฤดีรัตน์ ชุษณะโชติ “อาจารย์คนล่าสุดทีเจอในรัวมหาวทยาลัย นันคือ อ.บิม เปน อาจารย์ทีสอนภาษาอังกฤษอยู่คณะครุ ศาสตร์ เปนคนทีสร้างแรง บันดาลใจให้ฉันตังใจเรยนภาษาอังกฤษมากขึนกว่าเดิม ตอนปหนึง ฉันเข้ามหาวทยาลัยมา ฉันมีปญหาว่าตอนอยู่ต่างจังหวัด ฉันคิดว่าฉัน เก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่พอมาอยู่รัวมหาวทยาลัย กลายเปนด้อย กว่าคนอืน พอได้มาเรยนในวชาทีอ.บิมประจําวชา ทําให้ได้เทคนิค ได้ แรงบันดาลใจ กําลังใจทีจะเรยนรู้และศึกษาภาษาอังกฤษต่อไป ด้วย เทคนิคการสอนทีไม่เหมือนครู คนอืน เปนอาจารย์ทีจาํ ชือฉันได้ตังแต่ ช่วงวคแรก-วคสอง บวกกับคําพูดตอนก่อนปดคลาสหลังสอบพูด (ซึง เปนพาร์ททีฉันลําบากใจทีสุดก็ว่าได้) อ.บิมบอกว่า ท่านเห็นความ พยายามทีฉันฝกฝนมาอย่างดี จึงทําได้ดีมากๆ ขนาดนี อยากให้ไม่ทิง ค ว า ม พ ย า ย า ม ต ร ง นี ไ ป ”
My Self-Capital -ต้นทุนของมะมมิ -
My Self-Capital 1 ฉันคือใคร? “ฉันเปนผู้หญิงคนหนึงทีเกิดทีกรุ งเทพฯ แต่มาโตที ราชบุร ครอบครัวของฉันปจจุบันมีทังหมด 5 คน ได้แก่ พ่อ แม่ ฉัน และน้องชายอีก 2 โดยพ่อของฉันเปนแพทย์ทํางาน ต่างจังหวัดเดินทางไป-กลับราชบุรกับนครปฐมทุกวัน ส่วนแม่ ฉันเปนข้าราชการพยาบาลโรงพยาบาลจังหวัดราชบุรเอง น้อง ชาย 2 คน คนกลางอยู่ป 1 คนเล็กสุดอยู่ ป.4”
My Self-Capital 2 ฉันยากจนไหม? ครอบครัวของฉันไม่ได้รวยอะไร แต่ก็พออยู่ทีหอนอกที กรุ งเทพฯได้ โดยไม่ลาํ บากทังฉันและน้องชายคนกลาง ฉัน ส า ม า ร ถ ห า เ อ ง ไ ด้ แ ล้ ว ส่ ว น ห นึ ง จ า ก ก า ร ส อ น พิ เ ศ ษ แ ล ะ ห มุ น เ งิ น ขายของสะสม ซึงยังไม่พอกับการเลียงดูตนเองในกรุ งเทพฯ พ่ อ กั บ แ ม่ จึ ง ค อ ย ซั พ พ อ ร์ ต อ ยู่ เ ส ม อ 3 ชมุ ชนรอบข้างฉัน ถ้าโฟกัสทีบ้าน ด้วยความทีบ้านอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ทาํ ให้แทบจะไม่ได้คุยกับคนข้างบ้านเลย รู้จักแค่ 3 บ้านใน ระแวกเดียวกัน บ้านข้าง ๆ เปนครอบครัวทีสนิทกันพอสมควร เ พ ร า ะ คุ ณ ลุ ง ท่ า น ค อ ย ช่ ว ย ดู แ ล บ้ า น ฉั น ต อ น ที ไ ป ข้ า ง น อ ก ติ ด ต่ อ กันหลายวัน และไม่มีใครช่วยดูแลบ้าน กับอีกสองบ้านเปนครู ที ส อ น พิ เ ศ ษ ฉั น ต อ น เ ด็ ก
My Self-Capital 4 ทําอะไรแลว้ สบายใจ? โดยปกติแล้วชอบฟงเพลง แกะท่าเต้น ท่ารํา ชอบแปล บทความศิลปนเกาหลีทีชอบ เรยกได้ว่าเปนสิงทีทําแล้วมีความ สุขมากๆ สิงทีสบายใจทีสุดคือเวลาอยู่กับครอบครัวครบ 5 คน แล้วทุกคนคุยเล่นกัน ส่วนสิงทีอยู่ด้วยโดยไม่มีเบือคือโทรศัพท์ กับหูฟง เปนคนทีรักในการฟงเพลงมากๆ ขาดเสียงเพลงไม่ได้ เลย ทุกครังเวลาเบือ เสียงเพลงจะช่วยให้ฉันได้อยู่กับตัวเอง มากขึน ความคิดฟุงซ่านมันหายไป แล้วไปโฟกัสทีเพลงและตัว เราแทน
My Self-Capital 5 งานอดเิ รก สําหรับงานอดิเรกทีชอบ ชอบอ่านนิยาย ฟงเพลง เล่น เกมบ้างประปราย ชอบแกะท่าเต้น ทาํ ซับภาษาไทยบนยูทูป สามารถพูดหลักๆ ได้คือภาษาไทยกับอังกฤษ พูดเกาหลีได้ ร ะ ดั บ เ บื อ ง ต้ น พ อ ใ ช้ ชี ว ต ไ ป เ ที ย ว ใ น เ ก า ห ลี ไ ด้ ด้ ว ย ตั ว เ อ ง
My Self-Capital 6 การเรยน? ผ ล ก า ร เ ร ย น ข อ ง ฉั น จ ะ อ ยู่ ร ะ ดั บ ก ล า ง ข อ ง ห้ อ ง เ ส ม อ เ ล ย อย่างตอนช่วงม.ปลาย เพือนในห้องมี 30 คน ฉันจะอยู่ที ประมาณ 12-15 ตลอด ไม่สูงหรอตาํ กว่านี อย่างคะแนน Onet จาํ ไม่ได้ว่าได้เท่าไหร่ แต่ว่าเกินกว่า 60% เมือคิด คะแนนโดยรวมทุกวชาแน่นอน ก็ถือว่าไม่ได้เก่งมากอยู่ดี ฉันเองไม่เคยมีโอกาสได้แข่งขันทักษะวชาการเลย เคย แข่งเพียงรําไทยในช่วงประถมศึกษา มีกิจกรรมใหญ่ๆ คือ ฉัน เคยเปนคณะกรรมการนักเรยนตอนป.6 เปนรองประธาน นักเรยนของระดับชันประถมศึกษา และเคยได้ทุนสําหรับไป แลกเปลียนวัฒนธรรมทีนิวซีแลนด์ระยะสัน 1 เดือนค่ะ
My Local Wisdom -ภมู ปิ ญญาทอ้ งถินของมะมิม-
My Local Wisdom จงั หวัด จังหวัดทีฉันอยู่คือราชบุร เปนจังหวัดทีมี ของฉนั ลักษณะเปนทีราบลุ่มแม่นาํ ติดกับชายแดนพม่า เปนแหล่งเพาะปลูกผักผลไม้มากมาย มีโซนที เปนภูเขาดินค่อนข้างเยอะ สามารถนําไปใช้สร้าง อาคารหรอทําภาชนะได้ สําหรับสถานทีท่องเทียว ในราชบุร ถ้าไม่นับสวนผึงทีเปนอาํ เภอแห่งการ ทาํ รสอร์ทและฟาร์มแกะ ส่วนมากจะเปนพวกถํา อย่างเช่นทีดังๆ คือ ถําเขางู และยังมีเปนพวก ต ล า ด ค น เ ดิ น แ ล ะ ต ล า ด นาํ
My Local Wisdom เชือสาย เชือสายค่อนข้างหลากหลาย ไทยจีน ไทยจีน ใน ไทยกะเหรยง ไททรงดาํ ฯลฯ เพราะเคยเปนหัว จงั หวัด เมืองในสมัยยุคทวารวดีมาก่อน ภาษาทีใช้ทีนีใช้ ราชบุรี ภาษากลางหรอภาษากรุ งเทพเปนหลัก แต่จะมี สําเนียงเหน่อราชบุรปะปนบ้าง และในขณะ เดียวกันโซนอาํ เภอสวนผึงและบ้านคา จะเปนโซน ทีมีกลุ่มไทยกะเหรยงค่อนข้างมาก พวกเขาจะใช้ ภาษากะเหรยงคุยกันในชีวตประจําวัน แต่ใช้ภาษา กลางปกติตอนจัดการเรยนการสอนเพือให้เข้าใจ ตรงกันในกรณีมีคนไทยแท้ไปเรยนด้วย มีความ เข้มแข็งของท้องถินไม่มาก จากทีเคยสัมผัสมา คนกลุ่มน้อยเรมหายไปเรอย ๆ น้อยลงไปเรอยๆ เลย
My Local Wisdom เครอื ง เครองประดับและเครองแต่งกายหนึงทีโดด ประดบั , เด่นและรู้จักกัน นันคือเรองของผ้าทอทีขึนชือของ ราชบุร มีหลากหลายแบบมาก ฉันยอมรับว่าจําไม่ เครอื ง ได้ว่ามีลายอะไรบ้าง แต่รู้ว่าแหล่งทีมีผ้าทอมากจะ อยู่โซนคูบัว ทีนันจะมีชุมชนทีอนุรักษ์การทอผ้า แตง่ กาย โดยใช้กีอยู่อีกทังยังมีหัตถศิลปเยอะมากๆ ใน จังหวัดราชบุร เนืองจากเปนแหล่งทีหาดินได้ง่าย และ จึงนิยมมาทําภาชนะต่างๆ โอ่ง ไห ม้านัง และอีก มากมาย แล้วยังมีจาํ พวก หัวโขน หนังใหญ่อีก หัตถศิลปด้วย
My Local Wisdom ธุรกิจในจังหวัดมีหลากหลายมากๆ หากด้าน ธรุ กจิ อาหารจะเปนพวกผลไม้ ปลานําจืดบ้าง ข้าวบ้าง และ ธุรกิจการท่องเทียวก็เยอะพอตัว แต่จะเปนโซนนอก เมือง ในแต่ละท้องที เช่น เจ็ดเสมียนทีเด่นเรอง อาหาร ตลาดเก่า และยังมีธุรกิจด้านโรงไฟฟาขนาดใหญ่ด้วย ส่วนของอาหารการกินแทบไม่ต่างกับจังหวัด อืนๆ ในภาคตะวันตกเลย เน้นการทาํ อาหารที สมบูรณ์ทัง 5 หมู่ กินกับนําพรกและผักสด และ อาหารทัวไป สามารถหาซือกินได้ง่าย ราคาไม่แพง
My Global Knowledge -ความรู้วชาการสากลของมะมมิ -
My Global Knowledge ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ต่ อ โ ล ก ฉันเองยังเข้าใจได้ไม่หมด พืนฐานหลักทีเข้าใจคือโลกเรามีการ แบ่งเขตตามภูมิประเทศ ภูมิศาสตร์ทีแตกต่างกันตังแต่อดีต อาจมี เปลียนแปลงบ้างเรอยๆ ตามระยะเวลา โดยในแต่ละพืนทีจะมีเชือชาติ ความเปนอยู่ วัฒนธรรมทีแตกต่างกันออกไป เข้าใจว่าการเกิดมาต้อง ตายไปก็จรง แต่เราเกิดมาแล้ว ก็เปนส่วนหนึงของสังคม ของโลกนี เราควรจะทาํ อะไรบ้างทีไม่ให้กระทบกับอยู่มาก่อน เกิดทีหลัง อยู่บน โลกนีพร้อมกับเรา แล้วมาใช้ชีวตด้วยกัน ทาํ อย่างไรทีจะแบ่ง ท รั พ ย า ก ร ที มี อ ยู่ อ ย่ า ง จํา กั ด ม า ต่ อ ย อ ด ส ร้ า ง ส ร ร ค์ เ ป น สิ ง ที เ ร า ไ ว้ ใ ช้ ใ น ก า ร ดํา ร ง ชี ว ต ค ว า ม สุ ข & ค ว า ม ทุ ก ข์ ความทุกข์ คือ ความรู้สึกทีเกิดจากการทีมีสิงใดไปขัดต่อความ ต้องการของบุคคลหนึงๆ ส่วนความสุข คือ การไม่มีทุกข์ ดังนันแล้ว คนเราจะพบความสุขได้ ต้องเปนสิงทีตอบสนองกับความต้องการและ ไม่ขัดกับความต้องการผู้อืน ทังความต้องการจําเปนและนอกเหนือ จากปจจัย 4
My Global Knowledge ทั ก ษ ะ ค ว า ม สุ ข จรงๆ แล้วทักษะความสุขเปนทักษะหนึงทีอยู่ในตัวฉันเองและ ทุกคน อยู่ทีว่าจะเอาทักษะออกมาใช้มากแค่ไหน สาํ หรับฉันแล้ว หลักๆ ทักษะความสุข คือ การให้เวลากับบางสิง การขอบคุณกับบาง อย่าง มุ่งหวังกับเปาหมายของตน พอทนได้แบ่งให้ และอย่าลืมเห็นใจ ผู้ อื น ภ า ษ า & ก า ร สื อ ส า ร ภาษาและการสือสารในตอนนีหลักๆ ฉันจะใช้ภาษาไทยในการ สือสารเปนหลักอยู่แล้ว มีหลายครังใช้อังกฤษกับเพือนชาวต่างชาติ สื อ ส า ร กั น ผ่ า น อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต
My Global Knowledge ก า ร เ ร ย น รู้ ต ล อ ด ชี ว ต การเรยนรู้ตลอดชีวต คือการเรยนรู้เรองอะไรก็ได้ ตามความสนใจ ของเราเอง ซึงสําหรับฉันแล้ว ตอนนีก็กําลังศึกษาเรองการใช้ภาษา เกาหลีและภาษาอังกฤษเพิมเติมอยู่เรอยๆ รวมถึงศึกษาเรองอืนๆ ด้วย ไม่ว่าจะเปนการใช้โปรแกรมวาดรู ป ตัดต่อวดีโอด้วย เมือก่อนใช้ โปรแกรมหนึง แต่ด้วยเวลาเปลียนไป มีโปรแกรมทีดีกว่ามา ก็เลยคอย ศึ ก ษ า อ ยู่ เ พิ ม เ ติ ม อ ยู่ เ ร อ ย ไ ป
My Global Knowledge PERSONALISED LEARNING ส่ ว น ข อ ง ว ช า ที เ ป น ว ช า ก า ร ฉั น เ อ ง เ ข้ า กั บ แ น ว ก า ร ส อ น ข อ ง ร ะ บ บ การศึกษาไทยในระดับหนึง การสอนแบบให้ความรู้มา แล้วเราก็รับ จากผู้สอน แต่ได้แค่ระดับเดียว ฉันยังต้องนําแบบการเรยนของฉันเอง นันคือการทีเอาข้อมูล เนือหาจากทีรับมาจากอาจารย์ มาอ่านแล้วสรุ ป ในแบบของตัวเองอีกครัง โดยจะหาข้อมูลเพิมด้วยจากอินเทอร์เน็ต และหนังสือ บางครังก็ใช้วธีไปพูดคุยแลกเปลียนความคิดกับคุณพ่อ คุณแม่ หรอคนรู้จักอืนๆ เพือฟงและเข้าใจถึงประสบการณ์บางอย่าง จ า ก ห ล า ก ห ล า ย มุ ม ม อ ง อี ก ถ้าเปนพวกภาษา ฉันไม่โอเคกับการเรยนในโรงเรยนเท่าทีควร ทุกวันนีทีพอพูดอังกฤษได้ เรยนเกาหลีได้ เกิดจากการเรยนรู้ผ่านสือ ผ่านการฟง การพูดนอกชันเรยนเปนส่วนใหญ่ (ส่วนใหญ่มากๆ จรงๆ)
My Global Knowledge ว ช า อ า ชี พ การมีทักษะเฉพาะอย่าง หรอการทีมีความสามารถทีจะทํางาน หนึงๆ มีแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ความถนัดในวชาหรออาชีพอะไรบาง อย่าง ซึงฉันเองมันใจในระดับหนึง ว่ามีทักษะการอธิบาย พูดให้ผู้อืน เข้าใจ ถึงจะยังไม่เต็มทีเท่าทีควร แต่มันใจว่าทักษะนีสามารถฝกฝน เ พิ ม เ ติ ม ไ ด้ อี ก เ ย อ ะ สายการเรยน สาํ หรับสายการเรยนของฉัน ฉันเรยนสายวทยาศาสตร์มาตลอด แต่ทุกครังทีเลือกเปนเพราะตอนนันยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร จึง เรยนตามครอบครัวมาตลอด จนมาเข้ามหาวทยาลัย ถึงได้รู้ว่าตัวฉัน เ อ ง ไ ม่ ไ ด้ เ ห ม า ะ กั บ ว ท ย า ศ า ส ต ร์ เ ล ย
My Global Knowledge อ า ชี พ ค รู อาชีพครู เปนอาชีพ เปนงานทีตลาดต้องการเสมอ แน่นอนว่ายุค สมัยเปลียนไปอะไรก็เปลียน แต่เพราะทุกคนต้องการสิงทีเรยกว่าการ เรยนรู้ ตราบใดทียังมีคนเปนพ่อแม่/ผู้ปกครอง ยังไม่มีความสามารถ สอนลูกได้ ครู ยังจาํ เปนอยู่ แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลียนอะไรหลาย อย่าง ให้ทันยุคของผู้เรยนและความก้าวหน้าของวทยาศาสตร์และ เ ท ค โ น โ ล ยี ต่ อ ไ ป สิงทีน่าสนใจมากๆ คือ AI หรอปญญาประดิษฐ์เปนทีมีชือเสียง มากๆ และส่วนตัวคิดว่าดีแล้วทีมีการนํามาใช้ แต่นันก็หมายความว่า พอมีสิงนีแล้ว มีทังผลดีผลเสีย ผลดีคือมีแหล่งทีช่วยงานให้มี ประสิทธิภาพมากขึน แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราไม่ได้สอน ไม่ได้ปลูก ฝงนิสัยการเรยนรู้ให้เด็ก อาจจะทาํ ให้เกิดปญหาได้ การเรยนรู้จึงยัง จาํ เปนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมี AI มาทําหน้าทีแทนมนุษย์แล้วในหลายๆ ด้าน
My Personal Mission Statement -ปณธิ านของชีวตมะมิม-
My Personal Mission Statement สิ ง ที ฉั น ช อ บ แ ล ะ ฉั น รั ก คื อ ก า ร คนในชุมชนราชบุรีเอง จาก ที ฉั น ไ ด้ เ ห็ น ใ ค ร สั ก ค น ป ร ะ ส บ ประสบการณ์รู้ว่าคนในชุมชนทีห่าง ความสําเร็จแบบฉัน ใช้ชีวิตได้ ไกลจากตัวเมืองเขามีอะไรบ้าง อย่างไม่ลําบาก การทีได้เห็นใคร เขาเรียนรู้จากอะไร ทาํ ให้ฉันเห็น สักคนเข้าใจเนือหา ได้รับความรู้ ว่ากลุ่มคนในชุมชนห่างไกลจากตัว เกิดเปนองค์ความรู้ทีเกิดขึนเอง เมืองเปนกลุ่มทีฉันต้องการจะดูแล จากการคิดวิเคราะห์ของเขาเอง และทําความเข้าใจพวกเขา สอนให้ เปนทักษะหนึงทีฉันทาํ ได้ ฉัน รู้จักสิงทีเขาไม่รู้จัก เพือนาํ ไป สามารถอธิบายหรือพูดคาํ ถาม ประยุกต์ใช้กับวิถีชาวบ้านเดิมทีมี เพือนําให้คนๆ หนึงสามารถเข้าใจ อยู่ก่อนแล้ว ให้สามารถพัฒนาเปน ได้จริงในแบบของฉันเอง อาชีพทีได้รายได้ VALUE TARGET OUTCOME การทีฉันได้เห็นภาพการใช้ชีวิตของคนในชุมชนชนบททีดีขึน ไม่เจ็บ ไข้ได้ปวย มีเงินรักษาพยาบาล มีนํามีไฟฟาใช้ ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ หรือได้เรียนรู้ในสิงทีชอบ เพือนาํ ความรู้ไปใช้ประยุกต์กับสิงทีมี ทาํ ให้ คนในชุมชนมีความสุขมากขึน มีรอยยิมเกิดขึนในครอบครัวมากขึน
My Personal Mission Statement PERSONAL STATEMENT “ฉันเปนครู ผู้สอนทีสามารถสอนให้เข้าใจ ทาํ ให้ ค น ใ น ชุ ม ช น ช น บ ท มี ทั ศ น ค ติ ด้ า น ดี กั บ ก า ร เ ร ย น รู้ ใ น สิงทีอยากเรยนรู้ แล้วทาํ ให้ชีวตความเปนอยู่ของ แ ต่ ล ะ ค น ดี ขึ น ไ ด้ แ ล ะ มี ค ว า ม สุ ข กั บ ก า ร ใ ช้ ชี ว ต ”
Personal And Family Wellness -การมองสว่ นตนและครอบครัว-
Personal And Family Wellness ก า ร ใ ช้ ชี ว ต การทีเราจะทําให้เราและคนรอบข้างใกล้ตัว อย่างครอบครัวมี ความสุขได้ ประกอบด้วยกันหลายมิติทังมิติภายในและภายนอก 9 มิติ ได้แก่ ด้านร่างกาย สติปญญา อารมณ์ สังคม จิตวญญาณ นันท นการ การเงิน สิงแวดล้อม และดิจิตัล ฉันจะเล่ามุมมองของฉันที เด่นๆ 2 มิติด้วยกัน มิตอิ ารมณ์ & มติ ดิ จิ ิตลั
Personal And Family Wellness มิ ติ อ า ร ม ณ์ คนเราจะใช้ชีวตได้อย่างมีความสุข ส่วนหนึงเลยทีสําคัญมากๆ คืออารมณ์ของเราเอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในทุกการกระทําหากเรา ควบคุมอารมณ์เราไม่ได้ อาจทาํ ให้มีปญหาได้ และทาํ ให้เกิดความขัด แย้งหรอไม่สบายใจได้ ดังนัน ฉันจึงให้ความสาํ คัญกับอารมณ์มากๆ ฉั น เ อ ง ต้ อ ง ก า ร ที จ ะ ห า ห น ท า ง ที จ ะ ข จั ด ค ว า ม เ ค ร ย ด ที เ ห ม า ะ ส ม ใ น แ บ บ ของฉันเอง และแน่นอนว่าหนทางนันไม่ทําให้คนอืนเดือดร้อน ซึงฉัน เองยังหาไม่ได้เท่าไหร่ ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ในหลายๆ ครัง แต่หากก็ดีขึนกว่าเมือก่อนแล้ว ซึงในมุมมองของคนใกล้ชิดใน ครอบครัว ก็มองเห็นเหมือนกันว่าฉันเปนคนทีคุมตัวเองยังได้ไม่ดี และ อยากให้ฉันควบคุมได้ดีกว่านี เพือไม่ให้เกิดความเครยดสะสม มีความ สุ ข กั บ ชี ว ต มิ ติ ดิ จิ ทั ล ค่อนข้างสาํ คัญมากในยุคทีมีการพัฒนาเทคโนโลยีทีดีขึนอยู่ เรอยๆ ฉันจะติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอยู่เสมอ ทันเหตุการณ์ต่างๆ คอยนาํ เทคโนโลยีเหล่านันมาปรับใช้กับการทาํ งานในอนาคตได้ โดย ไม่กระทบกับสุขภาพและความเปนอยู่เดิมมาก และหลีกเลียงภัยทีเกิด จากการใช้เทคโนโลยีผิด เพือให้ครอบครัวสบายใจได้ว่าเราจะ ป ล อ ด ภั ย
My Life Legacy -การใช้ชีวตของมะมมิ -
My Life Legacy เ มื อ ฉั น 7 0 ป ตอนนันฉันคงเปนครู ทีเกษียณแล้วนังอยู่ทีบ้าน สุขภาพ แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร ไม่มีหนีอะไรเหลือแล้ว สามารถ ใช้ชีวตทีบ้านได้อย่างมีความสุข มีคนในหมู่บ้านเข้ามาเยียม ทักทายอยู่เสมอ บางครังก็มีลูกศิษย์ระแวกเดียวกันมาหา พูดคุย ถึงความเปนไป อาชีพการงานหลังเรยนจบ มีครอบครัวทีน่ารัก คอยสนับสนุนฉันอยู่เสมอ มีภาพของหลานๆ ทีวงไล่จับกับหุ่น ย น ต์ แ ม่ บ้ า น ที ค อ ย จั ด ก า ร เ ร อ ง ง า น บ้ า น บ า ง อ ย่ า ง ข อ ง บ้ า น ฉั น เอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: