Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลุ่มชาติพันธุ์จ้วง

กลุ่มชาติพันธุ์จ้วง

Published by Kanyakorn Kantasin, 2018-10-13 00:12:16

Description: #ประวัติกลุ่มชาติพันธุ์จ้วง#เรื่องชาวจ้วงน่ารู้

Search

Read the Text Version

จดั ทำโดยนำงสำว กลั ยำกร กันทะศลิ ป์ รหสั 59181500105

1. ชำวจ้วงเป็นชนกลุม่ นอ้ ยท่ีมีประชำกรมำกทส่ี ุดในประเทศจีน2. ชำวจ้วงมีเขตปกครองตนเองชื่อว่ำเขตปกครองตนเองกว่ำงซจี ้วง (广西壮族自治区) ประวตั ชิ ำวจว้ ง ชำวจ้วงมีควำมเป็นมำค่อนข้ำงชัดเจน นับย้อนไปได้ไม่ต่ำ 5,000 ปี นอกจำกในถ่ินท่ีอยู่จะพบหลักฐำนทำงโบรำณคดีมำกมำย เช่น ภำพเขียนโบรำณท่ีผำลำย กลองสัมฤทธ์ิท่ีเรียกว่ำ กลองมโหระทึก ในปี พ.ศ. 2536 ยังขุดพบซำกมนุษย์ยุคหินเก่ำด้วยท่ีมีอำยุประมำณ50,000 ปี มีโครงกระดูกคล้ำยกับชำวจ้วงในปัจจุบันด้วย ท้ังในบันทึกประวัติศำสตร์จีน ก็มีคนช่ือ ซีโอว และหล้วั เยว่ ถวำยเคร่อื งบรรณำกำรให้รำชวงศ์โจว (เจำ) ตัง้ แต่รำว 3,000 ปกี ่อนแสดงว่ำ จ้วงเป็นกลุ่มชนที่มีรัฐ และกษัตริย์แล้ว ก่อนยุคจ๋ินซีฮ่องเต้ ช่ือคนซีโอว และหล้ัวเยว่คอ่ ยๆหำยไปจำกประวัติศำสตรจ์ นี เพรำะจีนเปล่ียนชอื่ เรียกกลมุ่ คนเหลำ่ นไ้ี ปเร่ือยๆ เมือ่ ถึงสมัยอู่หู บรรพบุรุษของชำวจ้วงถูกเรียกว่ำ \"หล่ี\" สมัยสำมก๊กก็ถูกเรียกว่ำ \"เหลียว\" สมัยรำชวงศ์จนิ้ กเ็ รียกทง้ั หลี่ และเหลียว

3. ชำวจ้วงพูดภำษำตระกลู ไท-กะไดกล่มุ ภำษำไท4. ชำวจ้วงนับเลข 1-10 เหมอื นไทย บำงกลุ่มที่นับเลข 1 ว่ำ เดยี ว5. ชำวจ้วงส่อื สำรกันเองไมร่ ู้เรื่อง6. ชำวจว้ งในชนบทมีลำ่ มประจำหมู่บ้ำน7. ชำวจ้วงในเมืองนยิ มใช้ภำษำจีนถ่นิ ใต้เปน็ ส่อื กลำงในกำรสื่อสำรระหวำ่ งกัน8. ภำษำจ้วงมอี ย่สู องกลมุ่ สำเนยี งคอื สำเนยี งจ้วงเหนือกบั สำเนียงจ้วงใต้9. ภำษำจ้วงเหนอื ไม่ตัวหนงั สือ10. ภำษำจว้ งเหนือเคยใชอ้ กั ษรจนี เขยี นหนังสือ11. ปัจจบุ นั ภำษำจ้วงเหนือใช้อกั ษรโรมันเขยี นหนงั สือ12. ภำษำจ้วงมำตรฐำน (话壮) จัดอยใู่ นกลุ่มสำเนียงภำษำจว้ งเหนือ13. อักษรจว้ งใต้มีอักษรภำพเป็นของตนเอง แต่ไม่เปน็ ที่ยอมรับเพรำะขำดควำมเป็นเอกภำพ การแบง่ กลุม่ ของชาวจ้วง ปัจจบุ ันชำวจ้วงจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ไดส้ องกลุม่ ด้วยกัน คอื กลุม่ จว้ งเหนือ และจ้วงใต้ จว้ งเหนอื อย่ทู ีเหนอื ของเขตปกครองตนเองกวำงสีจ้วง เป็นกลุ่มทใ่ี หญ่ สว่ น จ้วงใต้อยู่ทำงใต้เป็นกลุ่มเล็กกว่ำชำวจ้วงท่ีอยู่บนเขำเรียกว่ำ ชำวจ้วงเส้ือดำ ซึ่ง กระจำยอยู่ในอำเภอน่ำโพ มีประมำณ 6 หม่ืนคน ชำวจ้วงเส้ือดำเห็นว่ำสีดำเป็นสีที่ สวยงำม สีดำจงึ กลำยเป็นสญั ลกั ษณข์ องชนชำติ

ภาษาของชาวจว้ ง ภำษำจ้วงแบ่งเป็นกลุ่มหลักได้สองสำเนียงคือ ภำษำจ้วงเหนือ และจ้วงใต้ ด้วยปัจจัยทำงภูมิศำสตร์และประวัติศำสตร์ ทำให้เสียงและคำศัพท์ของภำษำจ้วงในแต่ละท้องที่ มีควำมแตกตำ่ งกนันอกจำกสำเนียงหลักสองสำเนียงแล้ว ยังมีสำเนียงท้องถิ่นอีก 13 สำเนียง แต่ด้ำนไวยำกรณ์แทบไม่มีควำมแตกต่ำงกัน สำเนียงจ้วงเหนือมีผู้ใช้จำนวนร้อยละ 80 ของประชำกร และหำกเปรียบเทียบคำศพั ทร์ ะหว่ำงจว้ งเหนอื และจ้วงใตก้ จ็ ะพบคำศัพทท์ ีใ่ ช้เหมือนกนั ถงึ ร้อยละ 60 เดิมภำษำจ้วงมีอักษรของตนเองท่ีสร้ำงตำมแบบอักษรฮ่ันท่ีเริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษท่ี 1เรียกว่ำ สือดิบผู้จ่อง แต่ได้มีกำรประดิษฐ์อักษรจ้วงข้ึนใหม่ที่พื้นฐำนมำจำกอักษรละตินในช่วงตอนกลำงทศวรรษท่ี 1950 และต่อมำได้กำหนดให้อักษรดังกล่ำวเป็นอักษรของชนชำติจ้วงตำมกฎหมำย ด้วยเหตทุ ี่มผี ู้ใช้ภำษำจ้วงเหนอื มำกกว่ำจว้ งใต้ จงึ ใชภ้ ำษำจ้วงเหนอื เปน็ ภำษำพ้ืนฐำน และถอื สำเนยี งจ้วงเหนอื ท่อี ำเภออหู่ มิงเปน็ สำเนยี งมำตรฐำนมำใชส้ รำ้ งตวั หนงั สือจ้วง แม้วำ่ ภำษำจว้ งจะจดั อยใู่ นกลมุ่ ภำษำไท-กะได แตไ่ ดร้ ับอทิ ธพิ ลอยำ่ งสูงจำกภำษำจีนถิ่นตะวันตกเฉียงใต้ ชำวจ้วงเองซ่ึงอยู่ต่ำงพื้นท่ีกัน มักใช้ภำษำจีนกลำง หรือจีนกวำงตุ้งเป็นภำษำกลำงเพ่ือสื่อสำรกันระหว่ำงกลุ่ม จำกกำรสำรวจในปี ค.ศ. 1980 พบว่ำชำวจ้วงร้อยละ42 ยงั คงใช้ภำษำจว้ งเป็นภำษำแม่ ขณะเดยี วกันก็มีชำวจ้วงที่ใช้สองภำษำ คอื จนี และจ้วง มีถึงร้อยละ 55 ขณะท่ีกำรศึกษำภำคบังคับของชำวจ้วงในเขตปกครองตนเองกว่ำงซี เป็นแบบสองภำษำ คอื จนี กลำง และจว้ ง โดยมุง่ เน้นกำรอ่ำนออกเขยี นได้ในภำษำจ้วงขัน้ ต้นเทำ่ นัน้

14. ชำวจว้ งภำคใตข้ องเขตปกครองตนเองสว่ นมำกเปน็ เผำ่ ผหู้ นง (濮侬) มีอำชพี รบั จ้ำงทำนำ15. ปัจจุบันชำวจ้วงเผำ่ ผู้หนง (濮侬) ส่วนใหญป่ ระกอบอำชีพรับจำ้ งในเมืองเพรำะไม่มที ่ีดนิ ทำกนิ16. นกั ประวตั ศิ ำสตรจ์ ีนเช่ือวำ่ ชำวจว้ งเผ่ำผ้หู นง (濮侬) สืบเชอ้ื สำยมำจำกเสินหนง (神农)17. ชำวจ้วงเผ่ำผหู้ นง (濮侬) มวี ีรบุรษุ ช่อื วำ่ หนงจอ้ื เกำ๋ (儂智高)18. ผูห้ ญิงชำวจ้วงเผ่ำผู้หนง (濮侬) นยิ มคำดผมด้วยผำ้ ลำยตำรำง การแตง่ กายของชาวจว้ ง กำรแต่งกำยของชำวจ้วงแตกต่ำงกันไปตำมแต่ละพื้นท่ี ชำวจ้วงฝั่งภำคตะวันตกเฉียง เหนอื ของมณฑลกว่ำงซี หญิงสูงอำยุสวมเสอื้ ไมม่ ีปก ผ่ำอกเฉยี งไปทำงซ้ำย ปกั ลวดลำยตำมชำย ขอบของแขนเส้ือ ชำยเสื้อ คอเส้ือ สวมกำงเกงขำกว้ำง มีผ้ำคำดเอวท่ีปักลวดลำยสวยงำม และ นิยมใส่เคร่ืองประดับท่ีทำจำกเงนิ ส่วนชำวจ้วงฝั่งตะวนั ตกเฉียงใตข้ องกว่ำงซี แถบเมืองหลงโจว (龙州 Lónɡzhōu) ผิงเสียง (凭祥 Pní ɡxiánɡ) หญิงสวมเส้ือสีดำไม่มีปก ผ่ำอกเฉียง ลงทำงซ้ำย คลุมด้วยผ้ำผืนสี่เหลี่ยมสีดำ สวมกำงเกงขำยำวและกว้ำง สีดำ ส่วนชำยสวมเสอ้ื คอ จีนเหมือนอย่ำงชำวฮ่ัน ผ้ำที่ใช้ตัดเย็บทอด้วยฝมี ือชำวจ้วงเอง แต่ปัจจุบันมีผ้ำทอด้วยเครื่องจักร แล้ว แต่เดิมชำวจ้วงนิยมหักฟันสองสำมซี่แล้วเสริมด้วยฟันทอง นอกจำกนี้ยังนิยมสักลวดลำย ตำมรำ่ งกำย แต่ปัจจุบนั ไม่ส้นู ยิ มนัก สตรีเผ่ำจ้วงที่รักสวยรักงำมยังชอบสวมใส่เครื่องประดับอันงดงำมอีกด้วย พวกเธอช่ืน ชอบเคร่อื งประดบั เงินเป็นทส่ี ุด เชน่ หวีเงิน ปิน่ เงนิ ขำเดียว ปนิ่ เงนิ สองขำ ต่ำงหูเงนิ กำไลข้อมือ เงิน เป็นต้น เมื่อมีกำรฉลองเทศกำลต่ำงๆ ก็มักจะสวมใส่กำไลคอและกำไลข้อมือหลำยๆ อันอีก ด้วย สิ่งท่ีน่ำสนใจคือ เครื่องประดับบนศีรษะของสตรีเผ่ำจ้วงยังเป็นสัญลักษณ์แสดงถึง สถำนภำพกำรสมรสได้อีกด้วย สตรีท่ีสมรสแล้วจะมัดผมเป็นมวย หรือหวีให้เรียบแล้วพันผม จำกซ้ำยไปขวำ จำกนัน้ ใชผ้ ้ำโพกผมเอำไว้ สตรีทย่ี งั ไม่สมรสจะใชว้ ิธีกำรพนั ผมสลับทศิ ทำงกัน กล่ำวคือ พันจำกขวำไปซำ้ ย จำกน้ันนำผำ้ ทอประดับดอกไมเ้ งนิ หรอื ผำ้ ลำยยกดอกมำโพกผมไว้

19. ผชู้ ำยชำวจ้วงเผำ่ ผูห้ นง (濮侬) รอ้ งเพลงเกย้ี วเก่ง20. เพลงที่ชำวจ้วงเผำ่ ผู้หนง (濮侬) ชอบร้องมีทำนองชื่อวำ่ \"นำงเอ๋ย\" ศิลปและวฒั นธรรมของชาวจ้วง ด้ำนศิลปวัฒนธรรม ชำวจ้วงที่อำศัยอยู่ฝ่ังขวำแม่น้ำได้รับขนำนนำมว่ำ “รมย์” ส่วนที่ อำศัยอยู่ทำงฝั่งซ้ำยได้รับขนำนนำมวำ่ “กลอน” ซึ่งหมำยควำมวำ่ ชำวจ้วงช่ำชองกำรร้องรำทำ เพลง รักชีวิตท่ีสนุกสนำนร่ืนรมย์ ชำวจ้วงมีเทศกำลร้องรำทำเพลงที่จัดเป็นประจำทุกปี เรียก เทศกำลนี้ว่ำ “ตลำดนัดจำเรียง” จัดข้ึนอย่ำงยิ่งใหญ่ในวันที่ 3 เดือน 3 ของทุกปี มีชำวจ้วง จำกทั่วสำรทิศนับพันนับหม่ืนมำร่วมกันขับลำนำรำฟ้อนกัน เน้ือหำของเพลงชำวจ้วงมี หลำกหลำย เช่น เพลงเช้ือเชิญ เพลงวิงวอน เพลงโต้ เพลงยกย่อง เพลงส่ง เพลงลำ เพลงไล่ เพลงรับ เป็นต้น ด้วยเหตุน้ีชำวจ้วงจึงได้รับกำรขนำนนำมว่ำ “เทพแห่งบทเพลง” ในงำนตลำด นัดจำเรียงน้ีชำวจ้วงยังมีกิจกรรมร่ืนเริงและมีอำหำรกำรกินอีกมำกมำย ที่สำคัญและเป็น เอกลักษณ์คือ “ข้ำวเบญจรงค์” คือธัญพืชห้ำสี กำรกินข้ำวเบญจรงค์ก็หมำยถึงกำรอวยพรให้ กำรเพำะปลูกธัญพืชต่ำงๆไดผ้ ลผลิตท่ีดีนัน่ เอง ในงำนเทศกำลนี้ชำวจ้วงท่ียูนนำนจะนำสินค้ำและ ผลิตภัณฑ์ด้ำนหัตถกรรมต่ำงๆมำแลกเปลี่ยนกันด้วย งำนนี้จัดข้ึนในเดือนสำมซึ่งเป็นฤดูกำลเริ่ม เพำะปลูก กำรจัดงำนนี้เพ่ือเตรียมควำมพร้อมสำหรับกำรเพำะปลูกอันแสนเหน็ดเหน่ือยท่ีจะ มำถงึ

ต้งั แต่สมยั ถงั เป็นต้นมำชำวจว้ งกเ็ ริม่ มกี ำรเต้นรำแล้ว ควำมจริงมมี ำกอ่ นหน้ำนนั้ แล้ว แต่ เริ่มมำชัดเจนเอำในสมัยถังน่ีเอง ระบำที่มีชื่อเสียงเช่น ระบำตำข้ำว ในสมัยซ่งประดิษฐ์ระบำขึ้น อีกหลำยระบำ เช่น ระบำเก็บชำ ระบำช้อนกุ้ง ระบำวัว เป็นต้น ท่วงท่ำกำรเต้นระบำของฝ่ำย ชำยมีท่ำทีหนักแน่นทรงพลัง ฝ่ำยหญิงอ่อนช้อยนุ่มนวล ระบำดังกล่ำวสืบทอดมำจนปัจจุบัน ใน สมัยฮั่น ชำวจ้วงได้รับอิทธิพลด้ำนนำฏศิลป์กำรแสดงของชำวฮั่นผสมผสำนกับศิลปะดนตรีและ กำรเต้นรำของตน เกิดมีกำรแสดงอุปรำกรจ้วงและละครหุ่นไม้จ้วงขึ้น อุปรำกรจ้วงยังแบ่งเป็น อปุ รำกรจว้ งเหนือ(北路壮剧 Běi lù Zhuànɡjù) ไดร้ บั ควำมนิยมมำกในกลุ่มชนชำวจ้วง แถบเมืองเถียนหลิน(田林 Tiánlín) ซีหลิน(西林 Xīlní ) ป่ำยเซ่อ(百色 Bǎisè) อุปรำกร จ้วงใต้ (南路壮剧 Nánlù Zhuànɡjù) ได้รับควำมนิยมแถบเมืองเต๋อป่ำว (德保 Débǎo) ชิงซี(青西 Qīnɡxī) เคร่ืองดนตรีของชำวจ้วงมีซอกะโหลกน้ำเต้ำ ซอกระดูกม้ำ ขลุ่ย พณิ สำมสำย ซอเอ้อรห์ ู โหม่ง ฆอ้ ง กลอง เปน็ ตน้21. ชำวจว้ งใต้เรียกดินแดนของชำวจ้วงเหนือวำ่ ไกว๋ (鬼) แปลว่ำนับถือผี เรียกคนประกอบพิธที ำงศำสนำว่ำผหู้ มอ (濮摩)22. ชำวจ้วงเหนือในเขตปกครองตนเองทัง้ หมดเป็นเผำ่ ปู้อี (布依)23. ชำวจ้วงเผ่ำป้อู ี (布依) อยใู่ นจงั หวดั ก้ยุ โจว (貴州) มำกกวำ่ เขตปกครองตนเอง24. ชำวจ้วงเผำ่ ป้อู ี (布依) บริโภคเนื้อหมำเพรำะเช่อื ว่ำเปน็ สัตว์ศกั ด์สิ ิทธ์ิ

25. ชำวจว้ งเผ่ำปู้อี (布依) เชื่อว่ำตนเองสืบเชือ้ สำยมำจำกเงยี ก (ŋɨə)26. ในอดตี ชำวจว้ งเผำ่ ปอู้ ี (布依) ส่วนมำกมชี ื่อเรียกวำ่ \"ฉ่ำ\" ผ้ชู ำยนยิ มสักตำมตัว ผู้หญิงนิยมสกัใบหนำ้27. อำเภอที่มีช่อื นำหน้ำว่ำ กยุ้ (桂) คอื ถิ่นของชำวจ้วงเผ่ำปูอ้ ี (布依)28. ชำวจ้วงในเขตเหวินสำ่ น (文山) ของจังหวัดยูนนำน (云南) สว่ นมำกเป็นเผ่ำถูหล่ำว (土僚)29. ชำวจว้ งเผ่ำถหู ลำ่ ว (土僚) ฟังภำษำไทยออก30. ชำวจว้ งเผำ่ ถูหล่ำว (土僚) มเี ทพเจ้ำแห่งกำรเกษตรคอื ผ้เู ล่ำโต (布洛陀)34. ผู้เลำ่ โต (布洛陀) มีนำมย่อวำ่ แถนลอ (天洛) เป็นประมุขของผีไท้ท้งั ปวง32. ชำวจว้ งเผำ่ ถูหล่ำว (土僚) เชื่อวำ่ ตนเองเกดิ มำจำกขวดท่ถี กู แทงจนแตก33. ชำวจ้วงเผำ่ ถหู ลำ่ ว (土僚) มีถิ่นกำเนิดอยทู่ ำงภำคตะวนั ตกเฉยี งเหนือของเวียดนำม34. ชำวจ้วงเผำ่ ถหู ลำ่ ว (土僚) นบั ถือผไี ท้ เรียกคนประกอบพิธที ำงศำสนำวำ่ ผูฟ้ ้ำ (濮天)35. ผไี ท้ท่ชี ำวจว้ งเผำ่ ถูหล่ำว (土僚) นบั ถอื โปรดขำ้ วเหนียวห้ำสี (五色糯米饭)36. ชำวจว้ งเผ่ำถหู ลำ่ ว (土僚) มี เทศกำลลงทุ่งก่อนฤดูเกบ็ เกยี่ ว เทศกำลตำมข้ำวใหม่หลังสน้ิ ฤดูเกบ็ เก่ยี ว37. อำเภอที่มีชอื่ นำหนำ้ วำ่ เมอื ง (勐) คอื ถิน่ ของชำวจ้วงเผ่ำถหู ลำ่ ว (土僚)38. ผีไท้ของเผำ่ ถหู ล่ำว (土僚) ไมถ่ ูกกับผผี จู้ ว้ ง (濮壮) ซึ่งถือกำเนิดจำกสัตวค์ รงึ่ บกครึง่ น้ำ

ความเชอื่ ของชาวจว้ ง ดา้ นความเช่อื ชาวจว้ งนบั ถือบรรพบุรษุ และบูชาสรรพเทพตามธรรมชาติ เพราะเชื่อวา่ ทกุ สรรพสิง่มเี ทพประจาอยู่ เชน่ เทพนา เทพตน้ ไม้ เทพธรณี เทพภพู าน เทพเตา เทพอาทติ ย์ เปน็ ตน้ หลังจากสมัยถังเป็นต้นมาศาสนาพุทธและเต๋าเริ่มเผยแผ่เข้าสู่ชุมชนชาวจ้วง ในยุคปัจจุบันหมอสอนศาสนาคริสต์เร่ิมเข้าสู่ชุมชนชาวจ้วง และได้สร้างโบสถ์คริสต์ขึน แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมจากชาวจ้วงมากนัก ชาวจ้วงยังคงนับถือศาสนาพทุ ธควบคไู่ ปกับการบูชาบรรพบุรษุ และเทพตา่ งๆ ตามทเ่ี คยนบั ถือมาแต่เดิม 39. เผำ่ ผจู้ ้วง (濮壮) โยกย้ำยมำจำกรัฐสิน้ สภำพในประเทศไทย 40. เผ่ำผู้จ้วง (濮壮) แทนตวั เอง ว่ำ \"ก๋\"ู เรียกคนอื่นว่ำ \"เหมิง่ \" 41. ชำวจ้วงเผำ่ ถหู ล่ำว (土僚) เรยี กเผำ่ ผู้จว้ ง (濮壮) ว่ำผขู้ อม แปลวำ่ มำจำกทิศใต้ 42. รัฐบำลจีนกำหนดใหผ้ ู้ขอมในจังหวัดไกวเ๋ จำ้ (貴州) เปน็ อีกชำติพันธ์ุ 43. ผที เ่ี ผำ่ ผจู้ ว้ ง (濮壮) นบั ถอื โปรดสตั วจ์ ำพวกวัวควำย 44. ชำวจว้ งบนเกำะไหหลำ (海南) เคยนบั ถือลทั ธลิ ำ่ หัวคนตำ่ งถนิ่ 45. ชำวจว้ งบนเกำะไหหลำ (海南) เชอื่ ว่ำตวั เองสืบเชือ้ สำยมำจำกกบ 46. รฐั บำลจีนกำหนดใหช้ ำวจว้ งบนเกำะไหหลำ (海南) เปน็ ชำตพิ ันธ์หุ ลี่ (黎) 47. ชำวจ้วงมปี ระเพณขี ดุ กระดูกคนตำยข้ึนมำทำควำมสะอำด 48. กลองทองแดง (铜鼓) เปน็ สญั ลกั ษณป์ ระจำชำตพิ ันธ์จุ ้วง 49. นักวิชำกำรจนี สมัยใหม่เชอ่ื ว่ำชำวจ้วงสืบเช้อื สำยมำจำกชำวเวี่ยรอ้ ยเผำ่ (百越) 50. ชำวจ้วงเรยี กชนเผ่ำอื่นทพ่ี ดู ภำษำตระกูลเดยี วกันว่ำผเู้ รำ เรยี กชำวไทยวำ่ ผ้ถู ู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook