Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบบรรจุภัณฑ์

Published by bigbat009, 2019-08-13 00:04:13

Description: การออกแบบบรรจุภัณฑ์

Search

Read the Text Version

1 การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ (Packaging Design) ความหมายของการบรรจุภณั ฑ์ (Packaging) การบรรจภุ ณั ฑ์เป็นสว่ นหนงึ่ ของกระบวนการทางการตลาด โดยเฉพาะปัจจบุ นั ท่ีการผลิตสินค้า หรือบริการได้เน้นหรือให้ความสาคญั กบั ผ้บู ริโภค (Consumer Oriented) และจะได้เหน็ วา่ การบรรจภุ ณั ฑ์ มีบทบาทมากขนึ ้ เพราะลาพงั ตวั สนิ ค้าเองไมม่ นี วตั กรรม (Innovation) หรือการพฒั นาอะไรใหมอ่ กี แล้ว ฉีก แนวไมอ่ อกเพราะได้มีการวิจยั พฒั นากนั มานานจนถงึ ขนั้ สดุ ยอดแล้ว จงึ ต้องมาเน้นกนั ท่ีบรรจภุ ณั ฑ์กบั การ บรรจหุ ีบหอ่ (Packaging) บรรจภุ ณั ฑ์กบั หีบห่อ (Package) ถือว่าเป็นคาคาเดียวกนั ทงั้ นสี ้ ดุ แล้วแตผ่ ้ใู ด ประสงค์หรือชอบท่ีจะใช้คาใด ความหมายของการบรรจภุ ณั ฑ์หรือการบรรจหุ ีบหอ่ (Packaging) ได้มีผ้ใู ห้คาจากดั ความไว้ มากมายพอสรุปได้ดงั นี ้ 1. Packaging หมายถงึ งานเทคนิคท่ีต้องอาศยั ความชานาญ ประสบการณ์และความคดิ สร้างสรรค์ ในอนั ท่ีจะออกแบบและผลติ หีบหอ่ ให้มคี วามเหมาะสมกบั สินค้าท่ีผลิตขนึ ้ มา ให้ความค้มุ ครอง สินค้า หอ่ ห้มุ สนิ ค้าตลอดจนประโยชน์ใช้สอย อาทิเชน่ ความสะดวกสบายในการหอบหวิ ้ พกพาหรือการใช้ เป็ นต้ น 2. Packaging หมายถงึ กลมุ่ ของกิจกรรมในการวางแผนเกี่ยวกบั การออกแบบ การผลติ ภาชนะ บรรจหุ รือส่งิ ห้มุ หอ่ สนิ ค้าบรรจภุ ณั ฑ์ ซง่ึ เป็นส่งิ ท่ีมคี วามเกี่ยวพนั อยา่ งใกล้ชิดกบั ฉลาก (Label) และตรา ยี่ห้อ (Brand name) 3. Packaging หมายถงึ ผลรวมของศาสตร์ (Science) ศลิ ป์ (Art) และเทคโนโลยีของการ ออกแบบ การผลติ บรรจภุ ณั ฑ์สาหรับสนิ ค้า เพอื่ การขนสง่ และการขายโดยเสยี คา่ ใช้จ่ายท่ีเหมาะสม 4. Packaging หมายถงึ การใช้เทคโนโลยีและเศรษฐศาสตร์เพ่ือหาวิธีการรักษาสภาพเดิมของ สินค้าจนกวา่ จะถงึ มอื ผ้บู ริโภคคนสดุ ท้าย เพอ่ื ให้ยอดขายมากท่ีสดุ และต้นทนุ ตา่ สดุ 5. Packaging หมายถงึ กิจกรรมทงั้ หมดที่เกี่ยวข้องกบั การออกแบบและผลิตรูปร่างหน้าตาของ ภาชนะบรรจุ สงิ่ หอ่ ห้มุ ตวั ผลิตภณั ฑ์หรือบรรจภุ ณั ฑ์ 6. Packaging เป็นทงั้ ศลิ ปะและวิทยาศาสตร์ ซง่ึ ถกู มองในหลายแง่โดยบคุ คลฝ่ ายตา่ ง ๆ ใน กระบวนการผลติ สินค้า กลา่ วคือ ฝ่ ายเทคนิคจะคดิ ถงึ ปฏกิ ิริยาระหว่างภาชนะบรรจกุ บั ผลิตภณั ฑ์และ สงิ่ แวดล้อม ฝ่ ายผลติ จะพิจารณาต้นทนุ และประสทิ ธิภาพของระบบการบรรจุ ฝ่ ายจดั ซอื ้ จะคานงึ ถงึ ต้นทนุ ของวสั ดทุ างการบรรจุ และฝ่ ายขายจะเน้นถงึ รูปแบบและสสี นั ท่ีสะดดุ ตา ซง่ึ จะช่วยในการโฆษณา ผลติ ภณั ฑ์ ด้วยเหตนุ ี ้ Packaging ท่ีมีประสทิ ธิภาพและเหมาะสมจะเกิดขนึ ้ ได้จากการประนีประนอมของ

2 ทกุ ฝ่ ายที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้ได้ภาชนะบรรจซุ งึ่ มนี า้ หนกั เบาและราคาต้นทนุ ตา่ แตใ่ นขณะเดยี วกนั มรี ูปแบบ สวยงาม และให้ความค้มุ ครองอยา่ งเพียงพอแก่ผลติ ภณั ฑ์ภายในได้ 7. Packaging หมายถงึ กิจกรรมตา่ ง ๆ ที่เกิดขนึ ้ ตลอดในขบวนการทางตลาดท่ีเกี่ยวเนื่องกบั การ ออกแบบสร้างสรรค์ภาชนะบรรจหุ รือหีบห่อให้กบั ผลิตภณั ฑ์ 8. Packaging หมายถงึ การนาเอาวสั ดุ เชน่ กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ไม้ ประกอบเป็น ภาชนะห้มุ ห่อสนิ ค้า เพ่ือประโยชน์ในการใช้สอยมีความแขง็ แรง สวยงาม ได้สดั สว่ นที่ถกู ต้อง สร้าง ภาพพจน์ท่ีดี มภี าษาในการตดิ ตอ่ สื่อสาร และทาให้เกิดผลความพงึ พอใจจากผ้ซู อื ้ สินค้า สว่ นความหมายของ “ หีบหอ่ ” “ บรรจภุ ณั ฑ์ ” หรือ “ ภาชนะบรรจุ ” (Package) มผี ้ใู ห้คาจากดั ความไว้มากมายเชน่ กนั ซง่ึ พอสรุปได้ดงั นี ้ 1. Package หมายถงึ สง่ิ ห่อห้มุ หรือบรรจภุ ณั ฑ์ รวมทงั้ ภาชนะท่ีใช้เพอ่ื การขนสง่ ผลติ ภณั ฑ์จาก แหลง่ ผ้ผู ลติ ไปยงั แหลง่ ผ้บู ริโภค หรือแหลง่ ใช้ประโยชน์ หรือวตั ถปุ ระสงค์เบอื ้ งต้นในการป้ องกนั หรือรักษา ผลิตภณั ฑ์ ให้คงสภาพตลอดจนคณุ ภาพใกล้เคียงกนั กบั เมื่อแรกผลติ ให้มากท่ีสดุ 2. Package หมายถงึ ส่ิงท่ีทาหน้าที่รองรับหรือห้มุ ผลิตภณั ฑ์ เพื่อทาหน้าท่ีป้ องกนั ผลิตภณั ฑ์จาก ความเสียหายตา่ ง ๆ ชว่ ยอานวยความสะดวกตา่ ง ๆ ในการขนสง่ และการเกบ็ รักษา ช่วยกระต้นุ การซอื ้ ตลอดจนแจ้งรายละเอียดของผลติ ภณั ฑ์ นอกจากนีย้ งั มีคาอีก 2 คา ท่เี ก่ียวข้องกบั การบรรจุภณั ฑ์ และบรรจุภณั ฑ์ คือ 1. การบรรจภุ ณั ฑ์ (Packing) หมายถงึ วิธีการบรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ โดยการหอ่ ห้มุ หรือใสล่ งในบรรจุ ภณั ฑ์ปิด หรือสิ่งอนื่ ๆ ท่ีปลอดภยั 2. ต้ขู นสง่ สนิ ค้า (Container) หมายถงึ ต้ขู นาดใหญ่ท่ีใช้ขนสง่ สนิ ค้า ซงึ่ มีขนาดและรูปแบบ แตกตา่ งกนั ตามวิธีการขนสง่ ( ทางเรือหรือทางอากาศ ) โดยทว่ั ไปจะมขี นาดมาตรฐานเป็นสากล คาว่า “ Container ” นีอ้ าจใช้ในความหมายที่ใสข่ องเพ่อื การขนสง่ และจดั จาหนา่ ย ในปัจจบุ นั บรรจภุ ณั ฑ์หรือการบรรจหุ ีบหอ่ หมายถงึ ศาสตร์และศลิ ป์ ที่ใช้ในการบรรจสุ นิ ค้าโดยใช้เทคโนโลยีท่ี ทนั สมยั และเป็นมติ รกบั ส่ิงแวดล้อม เพื่อการค้มุ ครองปกป้ องสนิ ค้าจากผ้ผู ลติ จนถงึ มอื ลกู ค้าอยา่ งปลอดภยั ด้วยต้นทนุ การผลิตท่ีเหมาะสม จากความหมายพอสรุปได้วา่ บรรจภุ ณั ฑ์นนั้ หมายถงึ เร่ืองของ วิทยาศาสตร์ และเร่ืองของศิลปะที่ ใช้เพอ่ื การบรรจสุ นิ ค้าโดยใช้เทคโนโลยีท่ที นั สมยั และทาให้เกิดความเสียหายกบั สง่ิ แวดล้อม และบรรจุ ภณั ฑ์นนั้ จะต้องปกป้ องตวั สินค้าให้อยใู่ นสภาพที่ดจี ากแหลง่ ผลติ จนถงึ มอื ลกู ค้าโดยไมใ่ ห้ได้รับความ เสียหาย ทงั้ นีบ้ รรจภุ ณั ฑ์นนั้ ๆ จะต้องมีต้นทนุ ของการผลติ ท่ีไมส่ งู จนเกินไป

3 ความสาคญั ของการบรรจุภณั ฑ์ ประเทศของเรามีสินค้ามีผลติ ผลทางด้านการเกษตรกรรม และการประมงมากมาย เชน่ ผกั สด ผลไม้สด และสนิ ค้าที่เป็นอาหารจากทะเล สง่ิ ที่กลา่ วมานีจ้ ะได้รับความเสยี หายมากเน่ืองจากสภาวะของ อากาศการบรรจหุ ีบหอ่ และการขนสง่ ที่เหมาะสมมีสว่ นท่ีจะชว่ ยลดความเสยี หายเหลา่ นนั้ ลงได้ซง่ึ เป็นการ ชว่ ยให้ผลผลิตท่ีกลา่ วถงึ มอื ผ้บู ริโภคในสภาพที่ดี และจะทาให้ขายได้ในราคาท่ีสงู อีกด้วย นอกจากนีแ้ ล้วผลิตภณั ฑ์อื่น ๆ รวมทงั้ ผลติ ภณั ฑ์จากอาหารแปรรูปถ้าการบรรจภุ ณั ฑ์และการขนสง่ ท่ี เหมาะสมมีสว่ นท่ีจะชว่ ยลดความเสียหายและสามารถ จาหนา่ ยได้ในราคาทส่ี งู เชน่ กนั จะเห็นได้วา่ การบรรจภุ ณั ฑ์นนั้ มีความสาคญั เป็นอยา่ งยิ่งตอ่ ผลผลิต ทงั้ หลายซง่ึ สามารถสรุปเป็น รายละเอยี ดเป็นข้อ ๆ ได้ ดงั นี ้ 1. รักษาคณุ ภาพ และปกป้ องตวั สินค้า เร่ิมตงั้ แตก่ ารขนสง่ การเก็บให้ ผลผลติ หรือผลติ ภณั ฑ์ เหลา่ นนั้ มใิ ห้เสยี หายจากการปนเปือ้ นจากฝ่ นุ ละออง แมลง คน ความชืน้ ความร้อน แสงแดด และการ ปลอมปน เป็นต้น 2. ให้ความสะดวกในเรื่องการขนสง่ การจดั เกบ็ มีความรวดเร็วในการ ขนสง่ เพราะสามารถรวม หน่วยของผลติ ภณั ฑ์เหลา่ นนั้ เป็นหน่วยเดยี วได้ เช่น ผลไม้หลายผลนาลงบรรจใุ นลงั เดียว หรือเคร่ืองดม่ื ท่ี เป็นของเหลวสามารถบรรจลุ งในกระป๋ องหรือขวดได้ เป็นต้น 3. สง่ เสริมทางด้านการตลาด บรรจภุ ณั ฑ์เพือ่ การจดั จาหน่ายเป็นส่งิ แรกท่ีผ้บู ริโภคเห็น ดงั นนั้ บรรจุ ภณั ฑ์จะต้องจะทาหน้าท่ีบอกกลา่ วสง่ิ ตา่ งๆของตวั ผลติ ภณั ฑ์โดยการบอกข้อมลู ที่จาเป็นทงั้ หมดของตัว สินค้า และนอกจากนนั้ จะต้องมีรูปลกั ษณ์ที่สวยงามสะดดุ ตาเชิญชวนให้เกิดการตดั สนิ ใจซอื ้ ซง่ึ การทา หน้าที่ดงั กลา่ วของ บรรจภุ ณั ฑ์ นนั้ เป็นเสมอื นพนกั งานขายท่ีไร้เสยี ง (Silent Salesman) ลกั ษณะของบรรจุภณั ฑ์ โดยสรุปแล้วความสาคญั ของบรรจภุ ณั ฑ์จะมาจากสาเหตุ 4 ประการ อนั ประกอบไปด้วย 1. การรองรับรวบรวม 2. การปกป้ องค้มุ ครอง 3. ความสะดวกสบายในการใช้สอยและการผลติ 4. การส่อื ประชาสมั พนั ธ์ให้กบั ตวั ผลติ ภณั ฑ์ สิ่งที่กลา่ วมาทงั้ 4 ประการนนั้ เป็นลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีจาเป็นประกอบเข้า ด้วยกนั จงึ จะเป็นบรรจภุ ณั ฑ์ที่ดี ดงั นนั้ ภาชนะบรรจตุ า่ งๆที่เพม่ิ องค์ประกอบดงั กลา่ วครบก็จะกลายเป็น บรรจภุ ณั ฑ์ได้เหมือนกนั

4 ประโยชน์ของบรรจุภณั ฑ์ 1. การป้ องกนั (Protection) เชน่ กนั นา้ กนั ความชืน้ กนั แสง กนั แก๊ส เมอื่ อณุ หภมู สิ งู หรือต่า ด้าน ทานมิให้ผลติ ภณั ฑ์แปรสภาพไมแ่ ตไ่ มฉ่ ีกขาดงา่ ย ปกป้ องให้สินค้าอยใู่ นสภาพใหมส่ ดอยใู่ นสภาวะ แวดล้อมของตลาดได้ในวงจรยาว โดยไมแ่ ปรสภาพขนานแท้และดงั้ เดมิ 2. การจดั จาหนา่ ยและการกระจาย (Distribution) เหมาะสมตอ่ พฤตกิ รรมการซอื ้ ขายเออื ้ อานวย การแยกขาย สง่ ตอ่ การตงั้ โชว์ การกระจาย การสง่ เสริมจงู ใจในตวั ทนตอ่ การขนย้าย ขนสง่ และการ คลงั สินค้า ด้วยต้นทนุ สมเหตสุ มผล ไมเ่ กิดรอยขดู ขีด / ชารุด ตงั้ แตจ่ ดุ ผลติ และบรรจจุ นถงึ มือผ้ซู อื ้ / ผ้ใู ช้ / ผ้บู ริโภค ทนทานตอ่ การเกบ็ ไว้นานได้ 3. การสง่ เสริมการจาหนา่ ย (Promotion) เพ่ือยดึ พนื ้ ท่ีแสดงจดุ เดน่ โชว์ตวั เองได้อยา่ งสะดดุ ตา สามารถระบแุ จ้งเงื่อนไข แจ้งข้อมลู เกี่ยวกบั การเสนอผลประโยชน์เพิ่มเติมเพอ่ื จงู ใจผ้บู ริโภค เม่อื ต้องการ จดั รายการเพอื่ เสริมพลงั การแขง่ ขนั ก็สามารถเปล่ยี นแปลงและจดั ทาได้สะดวก ควบคมุ ได้และประหยดั 4. การบรรจภุ ณั ฑ์กลมกลืนกบั สินค้า และกรรมวิธีการบรรจุ (Packaging) เหมาะสมทงั้ ในแง่การ ออกแบบ และเพือ่ ให้มีโครงสร้างเข้ากบั ขบวนการบรรจุ และเออื ้ อานวยความสะดวกในการหิว้ – ถือกลบั บ้าน ตลอดจนการใช้ได้กบั เคร่ืองมือการบรรจทุ ่ีมอี ยแู่ ล้ว หรือจดั หามาได้ ด้วยอตั ราความเร็วในการผลิตที่ ต้องการ ต้นทนุ การบรรจภุ ณั ฑ์ตา่ หรือสมเหตสุ มผล สง่ เสริมจรรยาบรรณและรับผิดชอบตอ่ สงั คม ไม่ กอ่ ให้เกิดมลพษิ และอย่ใู นทานองคลองธรรมถกู ต้องตามกฎหมายและพระราชบญั ญตั ิตา่ ง ๆ 5. เพ่มิ ยอดขาย เน่ืองจากในตลาดมีสินค้าและคแู่ ขง่ เพมิ่ ขนึ ้ ตลอดเวลา หากบรรจภุ ณั ฑ์ของสนิ ค้า ใดได้รับการออกแบบเป็นอยา่ งดี จะสามารถดงึ ดดู ตา ดงึ ดดู ใจผ้บู ริโภคและกอ่ ให้เกิดการซอื ้ ในท่ีสดุ รวมทงั้ การลดต้นทนุ การผลิต ข้อพจิ ารณาในการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีดีนนั้ จะต้องสามารถผลิตและนาไปบรรจไุ ด้ด้วยวิธีการที่สะดวก ประหยดั และรวดเร็ว การ เลอื กบรรจภุ ณั ฑ์มีข้อพิจารณาดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. ลักษณะของสนิ ค้า คณุ สมบตั ิทางกายภาพ ประกอบด้วย ขนาด รูปทรง ปริมาตร สว่ นประกอบหรือสว่ นผสม ของแขง็ ของเหลว ผ้อู อกแบบต้องทราบความเหนียวข้นในกรณีที่เป็นของเหลว และต้องรู้นา้ หนกั / ปริมาตรหรือ ความหนาแนน่ สาหรับสินค้าที่เป็นของแห้งประเภทของสินค้าคณุ สมบตั ทิ างเคมี คอื สาเหตทุ ี่ทาให้สนิ ค้า เนา่ เสยี หรือเสอื่ มคณุ ภาพจนไมเ่ ป็นท่ียอมรับได้ และปฏกิ ิริยาอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขนึ ้ คณุ สมบตั พิ เิ ศษอน่ื ๆ เชน่ กลนิ่ การแยกตวั เป็นต้นสินค้าที่จาหนา่ ยมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร มีคณุ สมบตั ิทางฟิสิกส์หรือทางเคมี อย่างไร เพื่อจะได้เลอื กวสั ดใุ นการทาบรรจภุ ณั ฑ์ที่ป้ องกนั รักษาได้ดี

5 2. ตลาดเป้ าหมาย ต้องศกึ ษาความต้องการของลกู ค้าเป้ าหมาย เพ่ือจะได้เลอื กบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีตรงกบั ความต้องการของ ตลาดหรือกลมุ่ ลกู ค้าการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ ์์ให้สนองกบั ความต้องการของกลมุ่ เป้ าหมาย จาต้อง วิเคราะห์จดุ ยืนของสนิ ค้าและบรรจภุ ณั ฑ์เทียบกบั คแู่ ขง่ ขนั ท่ีมกี ลมุ่ เป้ าหมายเดยี วกนั เช่น ข้อมลู ของ ปริมาณสินค้าที่จะบรรจุ ขนาด จานวนบรรจภุ ณั ฑ์ตอ่ หนว่ ยขนสง่ อาณาเขตของตลาด 3. วธิ ีการจดั จาหน่าย การจาหนา่ ยโดยตรงจากผ้ผู ลติ ไปสผู่ ้บู ริโภคเลย ย่อมต้องการบรรจภุ ณั ฑ์ลกั ษณะหนง่ึ แตห่ าก จาหนา่ ยผา่ นคนกลาง เป็นคนกลางประเภทใด มวี ิธีการซอื ้ ของเข้าร้านอยา่ งไร วางขายสนิ ค้าอยา่ งไร เพราะพฤติกรรมของร้านค้ายอ่ มมีอิทธิพลตอ่ โอกาสขายของผลติ ภณั ฑ์นนั้ ๆ รวมทงั้ พิจารณาถงึ ผลิตภณั ฑ์ ของคแู่ ขง่ ขนั ท่ีจาหนา่ ยในแหลง่ เดยี วกนั ด้วย 4. การขนส่ง มีหลายวิธีและใช้พาหนะตา่ งกนั รวมทงั้ ระยะทางในการขนสง่ ความทนทานและความแขง็ แรงของ บรรจภุ ณั ฑ์ การคานงึ ถงึ วิธีท่ีจะใช้ในการขนสง่ กเ็ พอ่ื พจิ ารณาเปรียบเทียบให้เกิดผลเสยี น้อยท่ีสดุ รวมถงึ ความประหยดั และปัจจยั เรื่องสภาพดินฟ้ าอากาศด้วย ในปัจจบุ นั นิยมการขนสง่ ด้วยระบบต้บู รรทกุ สาเร็จรูป 5. การเกบ็ รักษา (Storage) การเลือกบรรจภุ ณั ฑ์จะต้องพจิ ารณาถงึ วิธีการเก็บรักษา สภาพของสถานท่ีเกบ็ รักษา รวมทงั้ วิธีการเคลื่อนย้ายในสถานที่เก็บรักษาด้วย 6. ลกั ษณะการนาไปใช้งาน ต้องนาไปใช้งานได้สะดวกเพอ่ื ประหยดั เวลา แรงงานและคา่ ใช้จ่าย 7. ต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ เป็นปัจจยั ท่ีจะต้องคานงึ ถงึ เป็นอย่างมาก และจะต้องคานงึ ถงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ยอดขายหรือความ สญู เสยี คา่ ใช้จ่ายอน่ื ๆ ด้วย บรรจภุ ณั ฑ์ดอี าจต้องจ่ายสงู แตด่ งึ ดดู ความสนใจของผ้ซู อื ้ ยอ่ มเป็นสิ่งชดเชยที่ ควรเลือกปฏบิ ตั ิ รวมถงึ ผลการชดเชยในกระบวนการผลติ การบรรจทุ ่ีสะดวก รวดเร็ว เสียหายน้อย ทาให้ ประหยดั และลดต้นทนุ การผลิตได้ 8. ปัญหาด้านกฎหมาย บทบญั ญตั ดิ ้านกฎหมายเก่ียวกบั บรรจภุ ณั ฑ์ที่ปรากฏชดั เจนคือ 8.1 กฎระเบยี บและข้อบงั คบั เก่ียวกบั ฉลากการออกแบบกราฟฟิกของผลิตภณั ฑ์ต้องเป็นไปตาม ข้อบงั คบั นอกจากนีย้ งั ต้องศกึ ษาการใช้สญั ลกั ษณ์เกี่ยวกบั สงิ่ แวดล้อม เป็นต้น 8.2 กฎระเบยี บและข้อบงั คบั เกี่ยวกบั มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ 9. ผลกระทบต่อสังคม

6 ปัญหาท่ียงั มไิ ด้รับการแก้ไขอยา่ งจริงจงั คอื ผลกระทบตอ่ นิเวศน์วิทยา (Ecology) เก่ียวกบั การ ทาลายซากของบรรจภุ ณั ฑ์ มลู เหตทุ ี่ต้องมีการพฒั นาบรรจุ ขนั้ ตอนการออกแบบ การตงั้ จดุ มงุ่ หมาย ในการตงั้ จดุ มงุ่ หมายในการออกแบบกราฟฟิกของบรรจภุ ณั ฑ์ มสี งิ่ จาเป็นท่ี ต้องรู้หรือศกึ ษาข้อมลู คือ ตาแหน่ง (Positioning) ของบรรจภุ ณั ฑ์ของคแู่ ขง่ ท่ีมอี ย่ใู นตลาด ในกรณีที่บรรจุ ภณั ฑ์มีอย่ใู นตลาดแล้ว ย่อมทาให้ตงั้ จดุ มงุ่ หมายในการออกแบบได้ง่ายนอกจากตาแหน่งของสนิ ค้า สง่ิ ที่ จาต้องค้นหาออกมา คอื จดุ ขายหรือ USP (Unique Selling Point) ของสินค้า ท่ีจะโฆษณาบนบรรจภุ ณั ฑ์ ทงั้ สองสิ่งนีเ้ป็นองค์ประกอบสาคญั ในการตงั้ จดุ มงุ่ หมายของการออกแบบกราฟฟิกบนบรรจภุ ณั ฑ์ การวางแผน ปัจจยั ตา่ ง ๆ ท่ีได้จากการวิเคราะห์รวบรวมข้อมลู ขนั้ ต้นเพ่ือเตรียมร่างจดุ มงุ่ หมายและขอบเขตการ ออกแบบพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ ก่อนที่จะปรับปรุงพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ อาจวางแผนได้ 2 วิธี คอื 1. ปรับปรุงพฒั นาให้ฉีกแนวแตกตา่ งจากคแู่ ขง่ ขนั 2. ปรับปรุงพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ให้สามารถแขง่ ขนั กบั คแู่ ขง่ ขนั โดยตรงได้ด้วยบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีดกี วา่ หรือ ด้วยคา่ ใช้จา่ ยที่ถกู กวา่ การตงั้ เป้ าหมายและวางแผนการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ดงั กลา่ ว ยอ่ มต้องศกึ ษา สถานภาพบรรจภุ ณั ฑ์ของคแู่ ขง่ พร้อมกบั ลว่ งรู้ถงึ นโยบายของบริษัทตวั เองและกลยทุ ธ์การตลาดท่ีจะแขง่ กบั คแู่ ขง่ ขนั การวางแผนพฒั นาบรรจุภณั ฑ์ สามารถใช้การวเิ คราะห์แบบ 5W + 2H ดงั นี้ WHY = ์่ทาไม WHO = ใคร WHERE = ท่ีไหน WHAT = อะไร WHEN = เมือ่ ไร HOW = อย่างไร HOW MUCH = คา่ ใช้จ่ายท่ีจะใช้ในการพฒั นา • WHY ทาไม เหตกุ ารณ์หรือปัจจยั อะไรทาให้ต้องออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ใหม่ ทาไมต้องพฒั นา กราฟฟิกของบรรจภุ ณั ฑ์ ทาไมไมแ่ ก้ไขปรับปรุงพฒั นาอย่างอ่ืน ๆ แทน • WHO ใคร ผ้รู ับผิดชอบในการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์นี ้บคุ คล หรือแผนกที่เก่ียวข้องมีใครบ้าง

7 • WHERE ที่ไหน สถานที่ท่ีจะวางจาหนา่ ยสนิ ค้าอย่ทู ไี่ หน ขอบเขตพนื ้ ที่ที่จะวางขายสินค้าบรรจุ ภณั ฑ์ที่ออกแบบครอบคลมุ พนื ้ ที่มากน้อยแคไ่ หน • WHAT อะไร จดุ มงุ่ หมายการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์คอื อะไร ข้อจากดั ในการออกแบบมีอะไรบ้าง จดุ ขายของสินค้าคอื อะไร การใช้งานของบรรจภุ ณั ฑ์คอื อะไร • WHEN เมอ่ื ไร ควรจะเริ่มงานการพฒั นาเม่อื ไร เมอื่ ไรจะพฒั นาเสร็จ วางตลาดเมื่อไร • HOW อย่างไร จะใช้เทคโนโลยีแบบใด อย่างไร จะจดั หาเทคโนโลยีใหมใ่ ช้วดั ความสนใจของ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีออกแบบ • HOW MUCH คา่ ใช้จ่ายท่ีจะใช้ในการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์มงี บประมาณเทา่ ไร คาตอบท่ีจะได้รับจากคาถาม 5W + 2H นี ้จะนาไปสกู่ ารวางแผนพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ได้ เคร่ืองหมายรับรองมาตรฐาน อย. หมายถงึ เคร่ืองหมาย อย. สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา สถานท่ตี ดิ ต่อ 88/24 หมทู่ ่ี 4 ต.ตลาดขวญั อ.เมือง จ.นนทบรุ ี 11000 โทร. 0 2590 700 ฮาลาล หมายถงึ เครื่องหมายรับรองฮาลาล สานกั งานคณะกรรมการกลางอิสลามแหง่ ประเทศไทย อนญุ าตให้ใช้เครื่องหมายรับรองแสดงบนฉลากผลิตภณั ฑ์ การโฆษณาผลิตภณั ฑ์ หรือกิจการใด โดยมีสญั ลกั ษณ์เรียกว่า “ฮาลาล” สถานท่ตี ดิ ต่อ 28/2 หมทู่ ี่ 12 ถ.มิตรไมตรี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530 โทร. 0 2989 7360 มผช. หมายถงึ เคร่ืองหมายมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน สานกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม สถานท่ตี ดิ ต่อ ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2202 3300 – 04 มกอช. หมายถงึ มาตรฐานสนิ ค้าเกษตรและอาหารแหง่ ชาติ สานกั งานมาตรฐานสนิ ค้าเกษตรและ อาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

8 สถานท่ตี ดิ ต่อ สานกั รบั รองมาตรฐานและระบบคณุ ภาพ สานกั งานมาตรฐานสนิ ค้าเกษตรและ อาหารแหง่ ชาติ (สานกั งานชวั่ คราว) อาคารเล้ง เป้ ง หงวน 1 แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0 2618 8868, 0 2618 8869 มอก. หมายถงึ เครื่องหมายมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม สานกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ อตุ สาหกรรม สถานท่ตี ดิ ต่อ ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2202 3300 – 04 สมส. หมายถงึ เครื่องหมายสินค้ามาตรฐานสหกรณ์ สานกั พฒั นาธรุ กิจสหกรณ์ กรมสง่ เสริมสหกรณ์ สถานท่ตี ดิ ต่อ สานกั พฒั นาธรุ กิจสหกรณ์ (กลมุ่ วิจยั และพฒั นาสนิ ค้าและบริการ) 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวดั สามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. 0 2628 5536 เคร่ืองหมาย อย. ความหมายของเลขสารบบอาหารในเคร่ืองหมาย อย. เลข สารบบอาหาร คอื เลขประจาตวั ผลติ ภณั ฑ์อาหาร จะเป็นตวั เลข 13 หลกั แสดงอย่ภู ายใน กรอบเครื่องหมาย อย. ถกู นามาใช้แทนตวั อกั ษรและตวั เลขซง่ึ อยใู่ นกรอบเคร่ืองหมาย อย. แบบเดิม ซงึ่ เลขสารบบอาหารนีจ้ ะระบขุ ้อมลู สาคญั เก่ียวกบั สถานท่ี และข้อมลู ผลติ ภณั ฑ์อาหารครบถ้วนมากกวา่ ใน อดีต ชว่ ยให้เจ้าหน้าทต่ี ิดตามตรวจสอบง่ายขนึ ้ โดยสว่ นใหญ่เลขสารบบอาหารจะปรากฏอย่บู นฉลากของ อาหารควบคมุ เฉพาะ / อาหารกลมุ่ ที่กาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐาน และ อาหารกลมุ่ ที่ต้องมฉี ลาก แต่ ก็จะ มอี าหารบางชนิดที่อย่ใู นกลมุ่ ดงั กลา่ ว อาทิ เกลอื บริโภค ฯลฯ และอาหารกลมุ่ ที่มีระดบั ความเสย่ี งตา่ มาก ได้แก่ อาหารอื่นท่ีอย่นู อกเหนือจากกลมุ่ ข้างต้นเชน่ นา้ ตาลทราย เคร่ืองเทศฯลฯ ที่ฉลากไมต่ ้องแสดงเลข สารบบอาหาร เพยี งแคผ่ ้ผู ลิตปฏบิ ตั ิสว่ นอน่ื ให้ถกู ต้องตามที่กฎหมายกาหนดเทา่ นนั้ สาหรบั รายละเอยี ด ของเลขสารบบอาหาร 13 หลกั นี ้จะแบง่ ออกเป็น 5 กลมุ่ ดงั นี ้

9 ความหมายของเลขสารบบอาหารในเคร่ืองหมาย อย. เลข สารบบอาหาร คือ เลขประจาตวั ผลิตภณั ฑ์อาหาร จะเป็นตวั เลข 13 หลกั แสดงอย่ภู ายใน กรอบเคร่ืองหมาย อย. ถกู นามาใช้แทนตวั อกั ษรและตวั เลขซง่ึ อย่ใู นกรอบเครื่องหมาย อย. แบบเดมิ ซง่ึ เลขสารบบอาหารนีจ้ ะระบขุ ้อมลู สาคญั เก่ียวกบั สถานท่ี และข้อมลู ผลิตภณั ฑ์อาหารครบถ้วนมากกว่าใน อดีต ชว่ ยให้เจ้าหน้าที่ตดิ ตามตรวจสอบงา่ ยขนึ ้ โดยสว่ นใหญ่เลขสารบบอาหารจะปรากฏอย่บู นฉลากของ อาหารควบคมุ เฉพาะ / อาหารกลมุ่ ท่ีกาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐาน และ อาหารกลมุ่ ที่ต้องมฉี ลาก แต่ กจ็ ะ มอี าหารบางชนิดที่อย่ใู นกลมุ่ ดงั กลา่ ว อาทิ เกลือบริโภค ฯลฯ และอาหารกลมุ่ ที่มีระดบั ความเสย่ี งต่ามาก ได้แก่ อาหารอื่นที่อยนู่ อกเหนือจากกลมุ่ ข้างต้นเชน่ นา้ ตาลทราย เครื่องเทศฯลฯ ที่ฉลากไมต่ ้องแสดงเลข สารบบอาหาร เพยี งแคผ่ ้ผู ลิตปฏิบตั ิสว่ นอน่ื ให้ถกู ต้องตามท่ีกฎหมายกาหนดเท่านนั้ สาหรบั รายละเอยี ด ของเลขสารบบอาหาร 13 หลกั นี ้จะแบง่ ออกเป็น 5 กลมุ่ ดงั นี ้ กลุ่มท่ี 1 ประกอบด้วยเลข สองหลกั หมายถงึ จงั หวดั ที่ตงั้ ของสถานท่ีผลติ อาหารหรือนาเข้า อาหาร โดยใช้ตวั เลขแทนอกั ษรยอ่ ของจงั หวดั เชน่ 12 หมายถงึ จงั หวดั นนทบรุ ี (ตวั เลขท่ีใช้แทนช่ือจงั หวดั ตามเอกสารแนบท้าย) กลุ่มท่ี 2 ประกอบด้วยเลข หนง่ึ หลกั หมายถงึ สถานะของสถานทีผ่ ลิตอาหารหรือนาเข้าอาหาร และหน่วยงานท่ีเป็นผ้อู นญุ าต ดงั นี ้ หมายเลข 1 หมายถงึ สถานที่ผลติ อาหารทีส่ านกั งานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผ้อู นญุ าต หมายเลข 3 หมายถงึ สถานที่นาเข้าอาหารท่ีสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผ้อู นญุ าต หมายเลข 2 หมายถงึ สถานท่ีผลติ อาหารท่ี จงั หวดั เป็นผ้อู นญุ าต หมายเลข 4 หมายถงึ สถานทนี่ าเข้าอาหารที่ จงั หวดั เป็นผ้อู นญุ าต กลุ่มท่ี 3 ประกอบด้วยเลข ห้าหลกั หมายถงึ เลขสถานทีผ่ ลติ อาหารหรือเลขสถานที่นาเข้าอาหาร ที่ได้รับอนญุ าต และปี พ.ศ.ที่อนญุ าต โดยตวั เลขสามหลกั แรก คอื เลขสถานท่ีผลติ หรือนาเข้าอาหาร แล้วแตก่ รณี สว่ นตวั เลขสองหลกั สดุ ท้าย คอื ตวั เลขสองหลกั สดุ ท้ายของปี พ.ศ. ท่ีได้รับอนญุ าต เช่น 00244 แทน เลขสถานที่ผลติ หรือนาเข้าอาหาร ซง่ึ ได้รับอนญุ าตเลขท่ี 2 และอนญุ าตในปี พ.ศ. 2544 กลุ่มท่ี 4 ประกอบด้วยเลข หนงึ่ หลกั หมายถงึ หนว่ ยงานที่ออกเลขสารบบอาหาร ดงั นี ้

10 1 หมายถงึ อาหารทไี่ ด้รบั เลขสารบบจากสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา 2 หมายถงึ อาหารที่ได้รบั เลขสารบบจากจงั หวดั กลุ่มท่ี 5 ประกอบด้วยเลข สีห่ ลกั หมายถงึ ลาดบั ท่ีของอาหารที่ผลติ หรือนาเข้า ของสถานท่ีแต่ ละแหง่ แยกตามหนว่ ยงานท่ีเป็นผ้อู นญุ าต เชน่ 0002 แทนลาดบั ที่ 2 หรือ 0099 แทนลาดบั ท่ี 99 เป็นต้น นอกจากนีก้ ารแสดงเลขสารบบ อาหารในเครื่องหมาย อย. ยงั กาหนดให้ใช้ตวั เลขที่มีสตี ดั กบั สพี นื ้ ของกรอบ มีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 2 มิลลิเมตร และสขี องกรอบตดั กบั สีพนื ้ ของฉลาก ทงั้ นีผ้ ้บู ริโภคบางทา่ นอาจ พบผลิตภณั ฑ์อาหารบางยี่ห้อแสดงเครื่องหมาย อย. แบบเดมิ ที่มตี วั อกั ษรและตวั เลขปรากฎอยู่ แทนที่จะ เป็นเลขสารบบอาหารอย่ใู นเคร่ืองหมาย อย. เน่ืองจากอาหารบางประเภท มีอายกุ ารเก็บรักษานานฉลาก เก่าจงึ ยงั คงเหลืออยู่ ดงั นนั้ สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยาจงึ ผอ่ นผนั ให้อาหารท่วี างจาหนา่ ยอยู่ ก่อนวนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2546 สามารถใช้ฉลากเดิมจาหนา่ ยตอ่ ไปได้ตามอายกุ ารบริโภคของอาหารนนั้ หรือในระยะเวลาที่อาหารนนั้ ๆ ยงั มีคณุ ภาพและมาตรฐานปลอดภยั ตอ่ การบริโภค แตอ่ าหารที่ผลิตหรือ นาเข้าหลงั จากวนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2546 ฉลากจะต้องแสดงเลขสารบบอาหารเทา่ นนั้ จากข้อมลู ท่ีกลา่ ว ข้างต้น จะเห็นว่ากฎหมายให้ความสาคญั ตอ่ การให้ผ้ผู ลติ แสดง ข้อมลู ซงึ่ ผ้บู ริโภคควรต้องทราบระบบุ นฉลากผลติ ภณั ฑ์อาหาร เพอ่ื เป็นข้อมลู ประกอบการตดั สนิ ใจเลอื กซอื ้ ผลติ ภณั ฑ์อาหารท่ีปลอดภยั ค้มุ คา่ และสมประโยชน์ท่ีสดุ ดงั นนั้ ผ้บู ริโภคทกุ คนจงึ ควรให้ความใสใ่ จตอ่ การอา่ นและใช้ประโยชน์จากข้อมลู ท่ีระบบุ นฉลาก สาหรับผ้บู ริโภคที่เคยพจิ ารณา เลือกซอื ้ ผลิตภณั ฑ์ อาหารโดยพจิ ารณาเฉพาะเคร่ืองหมาย อย. ก็ควรหนั มาใสใ่ จอา่ นข้อมลู อื่นบนฉลากประกอบการตดั สินใจ ซอื ้ ด้วย เพราะจะทาให้มนั่ ใจในผลิตภณั ฑ์อาหารนนั้ มากขนึ ้ สาหรับผ้บู ริโภคที่พบเหน็ ผลติ ภณั ฑ์อาหาร แสดงฉลากไมถ่ กู ต้อง สามารถแจ้งข้อมลู มาได้ท่ีหมายเลขโทรศพั ท์ 0 2590 7354-5 หรือ สายดว่ นผ้บู ริโภค กบั อย.หมายเลขโทรศพั ท์ 1556 ฮาลาล (Halal) ปัจจบุ นั อาหารฮาลาล (Halal Food)เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากสงั คมไทย มิใช่ เพียงแตช่ าวไทยมสุ ลมิ ที่จาเป็นต้องบริโภคอาหารฮาลาลเท่านนั้ แตผ่ ้ปู ระกอบการซงึ่ ต้องการผลติ อาหารฮา ลาลจาหนา่ ยแกผ่ ้บู ริโภคมสุ ลิมในประเทศ และผลติ เพอ่ื การสง่ ออกในตลาดโลกมสุ ลมิ กจ็ าเป็นต้องให้ ความสนใจอย่างจริงจงั และดาเนินกระบวนการผลติ อาหารฮาลาลให้ถกู ต้องตามบญั ญตั ศิ าสนาอิสลาม และระเบียบคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยวา่ ด้วยการรับรองฮาลาล พ.ศ. 2544 และฉบับท่ี

11 2 พ.ศ. 2545 โดยผา่ นการตรวจสอบและรับรองจากคณะกรรมการกลางอสิ ลามแห่งประเทศไทยหรือ คณะกรรมการอสิ ลามประจาจงั หวดั แล้วแตก่ รณี และหากผ้ขู อรับรองฮาลาลประสงค์จะใช้ \"เครื่องหมาย รับรองฮาลาล\" จะต้องรับอนญุ าตให้ใช้เครื่องหมายดงั กลา่ วจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ ไทยกอ่ น (ข้อ 7, ข้อ 8 แห่งระเบยี บฯ) ประกอบกบั ประเทศไทยเป็นแหลง่ ผลติ อาหารที่สาคญั ของโลก ตลาดโลกมสุ ลิมมีประชากรผ้บู ริโภคประมาณ 2,000 ล้านคน ดงั นนั้ อาหารฮาลาลจงึ เป็นช่องทาง การตลาด (Market Channel) ท่ีสาคญั ซง่ึ ประเทศไทยควรจะต้องเจาะตลาดอาหารฮาลาลเพื่อเพม่ิ สว่ น แบง่ การตลาด (Market Segmentation)ให้มากขนึ ้ รัฐบาลปัจจบุ นั จงึ มีนโยบายสง่ เสริมอตุ สาหกรรมอาหาร ฮาลาลเพือ่ การสง่ ออกและได้แปลงนโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ิอยา่ งจริงจงั ทงั้ ในด้านการพฒั นาวตั ถดุ บิ การ สง่ เสริมผ้ปู ระกอบการ การแสวงหาตลาดและการพฒั นากลไกการรับรองมาตรฐานฮาลาลให้เป็นท่ี น่าเช่ือถือยอมรับของผ้บู ริโภคทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ โดยอานาจหน้าที่ในการตรวจรับรองและ อนญุ าตให้ใช้ เครื่องหมายรับรองฮาลาลเป็นอานาจหน้าที่ขององค์กรศาสนาอสิ ลามเท่านนั้ คือคณะกรรมการ กลางอิสลามแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการอิสลามประจาจงั หวดั อาหารฮาลาลจงึ เป็นเร่ืองของความ ร่วมมอื และผลประโยชน์ร่วมกนั ของ 3 ฝ่ ายคอื มุสลมิ ผู้บริโภค ผ้ปู ระกอบการและประเทศชาติ กลา่ วคือ 1) มสุ ลิมได้บริโภคอาหารฮาลาลที่เช่ือได้ว่าถกู ต้องตามบญั ญตั ศิ าสนาอิสลาม มีคณุ คา่ อาหาร ถกู สขุ อนามยั ปลอดภยั จากสิ่งต้องห้ามทางศาสนาอิสลาม (ฮารอม) และสง่ิ ปนเปือ้ นตา่ งๆ 2) ผ้ปู ระกอบการได้รับผลประโยชน์ทางธรุ กิจโดยตระหนกั ถงึ การผลิตอาหารฮาลาลท่ีถกู ต้องตาม บญั ญตั ิศาสนาอิสลามและปฏิบตั ิตามระเบียบคณะกรรมการกลางอิสลามแหง่ ประเทศไทยวา่ ด้วยการ รับรองฮาลาลอย่างเคร่งครัด ตลอดจนบริหารคณุ ภาพอาหารตามมาตรฐานฮาลาล 3) ประเทศชาตไิ ด้รับผลประโยชน์ในการพฒั นาเศรษฐกิจโดยรัฐบาลให้การสง่ เสริมสนบั สนนุ การ พฒั นาอตุ สาหกรรมฮาลาลอย่างครบวงจรทงั้ ในด้านการพฒั นาวตั ถดุ บิ ปัจจยั การผลติ ของผ้ปู ระกอบการ การตลาดและการปรับปรุงกลไกการรับรอง \"มาตรฐานอาหารฮาลาล\" ขององค์กรศาสนาอสิ ลาม เพื่อ สง่ ออกอาหารฮาลาลสตู่ ลาดโลก หน่วยงานท่รี ับผิดชอบ ในประเทศไทยการขออนญุ าตใช้เคร่ืองหมายฮาลาลและหนงั สอื รับรองการผลิตอาหารฮาลาล

ผ้ผู ลติ จะต้องตดิ ตอ่ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบคือ 12 (สกอท)” “สานกั งานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กระบวนการรับรองและขอใช้เคร่ืองหมาย ขนั้ ท่ี 1 เตรียมการ  ผ้ปู ระกอบการย่ืนความจานงขอรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล  ที่ปรึกษาโครงการตรวจประเมินและให้คาปรึกษาแนะ  จดั อบรมผ้บู ริหารและเจ้าหน้าท่ีของสถานประกอบการ  ผ้ปู ระกอบการจดั ทาระบบเอกสารและกระบวนการผลติ ตามมาตรฐานอาหารฮาลาล  ผ้ปู ระกอบการเตรียมเอกสารตามที่สถาบนั ฯ กาหนด  ท่ีปรึกษาจดั ทารายงานสรุปการปรึกษาโครงการฯ ขนั้ ท่ี 2 ย่ืนคาขอและพจิ ารณาคาขอ 1) ผ้ปู ระกอบการย่ืนคาขอรับการตรวจรับรองตอ่ สานกั งานคณะกรรมการกลางอิสลามแหง่ ประเทศไทย (สกอท) หรือสานกั งานคณะกรรมการอสิ ลามประจาจงั หวดั (สกอจ) แล้วแตก่ รณี เอกสารเพ่อื ขอรับรองฮาลาล บคุ คลธรรมดา(มีแรงม้ารวม 5-20 แรงม้า และ/หรือมีคนงาน 7-20 คน ยกเว้นโรงงานท่ีมีมลภาวะ)  สาเนาบตั รประชาชน  สาเนาทะเบยี นบ้าน  คาขอรับเลขสถานท่ีผลติ อาหารท่ีไมเ่ ข้าขา่ ยโรงงาน  คาขอขนึ ้ ทะเบยี นตารับอาหาร (อ.17)  ใบสาคญั การขนึ ้ ทะเบยี นตารับอาหาร (อ.18)  หนงั สอื สาคญั แสดงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (คม.1)  คาขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร สบ. 3 หรือ สาเนาการใช้ฉลากอาหาร แบบ ฉ.1  แบบจดทะเบยี นอาหาร (สบ.๕)  หนงั สอื แสดงรายละเอียดวิธีการผลิต , ขนั้ ตอน , วตั ถดุ บิ , สว่ นผสม  ผลิตภณั ฑ์ตวั อยา่ งเพื่อประกอบการพิจารณาเบอื ้ งต้น  แผนที่ตงั้ โรงงาน

13 นิติบคุ คล  ใบสาคญั แสดงการจดทะเบียนห้างห้นุ สว่ นบริษัท  หนงั สอื รับรองจากสานกั งานทะเบียนห้นุ สว่ นบริษัท (อายไุ มเ่ กิน 6 เดือน)  ใบอนญุ าตตงั้ โรงงานแบบ รง.2 หรือ รง.4 (ขนึ ้ อยกู่ บั ขนาดของโรงงาน)  ใบอนญุ าตผลติ อาหาร (อ.2)  คาขอขนึ ้ ทะเบยี นตารับอาหาร (อ.17)  ใบสาคญั การขนึ ้ ทะเบียนตารับอาหาร (อ.18)  หนงั สือสาคญั แสดงการจดทะเบยี นเคร่ืองหมายการค้า (คม.1)  คาขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร สบ. 3 หรือ สาเนาการใช้ฉลากอาหาร แบบ ฉ.1  แบบจดทะเบยี นอาหาร (สบ.๕)  หนงั สอื แสดงรายละเอยี ดวิธีการผลติ , ขนั้ ตอน , วตั ถดุ ิบ , สว่ นผสม  ผลิตภณั ฑ์ตวั อยา่ งเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาเบอื ้ งต้น  แผนที่ตงั้ โรงงาน 2) เจ้าหน้าทตี่ รวจความถกู ต้องของเอกสารที่ประกอบคาขอแล้วนาเสนอสถาบนั มาตรฐานอาหารฮาลาล หรือคณะกรรมการอสิ ลามประจาจงั หวดั 3) เจ้าหน้าทวี่ ิเคราะห์ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ 4) จา่ ยคา่ ธรรมเนียม 5) นดั หมายการตรวจสอบสถานประกอบการ ขนั้ ท่ี 3 การตรวจสอบสถานประกอบการ 1. คณะผ้ตู รวจสอบ ไปตรวจโรงงาน/สถานประกอบการ ตามท่ีนดั หมาย 2. ประชมุ ชีแ้ จงร่วมกนั ระหว่าง คณะผ้ตู รวจสอบของฝ่ าย กิจการฮาลาล กบั ฝ่ ายสถานประกอบการ กอ่ นดาเนนิ การ ตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยมีขนั้ ตอนดงั นี ้ o แนะนาตวั เพื่อทาความรู้จกั กนั o หวั หน้าคณะผ้ตู รวจสอบชีแ้ จง หลกั การ ระเบยี บฯ เหตผุ ล และความจาเป็นในการตรวจ พิจารณา กอ่ นให้การรับรอง ฮาลาล

14 o ฝ่ ายสถานประกอบการบรรยายสรุป เก่ียวกบั กระบวนการผลิต วตั ถดุ บิ สว่ นผสม หรือสาร ปรุงแตง่ การบรรจุ การเก็บรักษา การขนสง่ ฯลฯ ให้คณะผ้ตู รวจสอบทราบ อนง่ึ คณะผู้ ตรวจสอบ ประกอบ ด้วย หวั หน้าคณะผ้ทู รงคณุ วฒุ ดิ ้านศาสนาอิสลาม ผ้ทู รงคณุ วฒุ ดฺ ้าน วิทยาศาสตร์ และผ้มู ปี ระสบการณ์ด้าน การผลติ สว่ นฝ่ ายประกอบการ จะต้อง ประกอบด้วย ผ้จู ดั การโรงงาน ผ้บู ริหาร ผ้จู ดั การฝ่ ายผลิต ผ้จู ดั การฝ่ ายจดั ซือ้ เป็นสาคญั หากจะมีผ้จู ดั การฝ่ ายอน่ื ร่วมประชมุ ชีแ้ จงด้วยกไ็ ด้ 3. ฝ่ ายสถานประกอบการ นาคณะผ้ตู รวจสอบพจิ ารณา กระบวนการ ผลติ วตั ถดุ ิบ สถานที่ผลิต การ บรรจุ การเก็บรักษา สถานท่ีจาหนา่ ย ฯลฯ ตามท่ีบรรยายสรุป 4. คณะผ้ตู รวจสอบให้คาแนะนาแกผ่ ้ยู ื่นคาขอ เม่ือเห็นว่า ผ้ปู ระกอบการ ดาเนินการไมถ่ กู ต้อง หรือมี ข้อบกพร่อง เพ่ือจะได้ ดาเนินการให้ถกู ต้องตอ่ ไป 5. คณะผ้ตู รวจสอบรายงานผลให้คณะกรรมการฝ่ ายกิจการฮาลาลพิจารณา ขนั้ ที่ 4 พิจารณาผลการตรวจสอบและให้หนงั สอื รับรอง 1. คณะกรรมการฝ่ ายกิจการฮาลาลรายงานผลการพิจารณา ให้คณะกรรมการกลางอสิ ลามแหง่ ประเทศไทย หรือ คณะกรรมการอสิ ลามประจาจงั หวดั พิจารณาอนญุ าต 2. เรียกเอกสารหรือผลวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เพม่ิ เติมในกรณีที่จาเป็น 3. คณะกรรมการฝ่ ายกิจการฮาลาลแจ้งผลพจิ ารณาของคณะกรรมการกลางอสิ ลามแหง่ ประเทศไทย หรือ คณะกรรมการ อสิ ลามประจาจงั หวดั ให้ผ้ขู อรับรองฮาลาลทราบ 4. ในกรณีที่คณะกรรมการฯให้การรับรอง เม่อื ผ้ขู อรับรอง ฮาลาล ทาสญั ญายอมรับ ปฏบิ ตั ิตาม เงื่อนไข การรับรอง และการชาระคา่ ธรรมเนียมแล้ว คณะกรรมการกลาง อสิ ลามแห่งประเทศไทย หรือ คณะกรรมการอิสลาม ประจาจงั หวดั จงึ ออกหนงั สือรับรองฮาลาล ให้แกผ่ ้ขู อ โดยมอี ายกุ าร รับรองไมเ่ กินหนงึ่ ปี 5. ผ้ขู อซง่ึ ได้หนงั สือรับรองฮาลาลแล้ว และมีความประสงค์ ขอใช้เครื่องหมายรับรองฮาลาล คณะกรรมการกลาง อสิ ลามแหง่ ประเทศไทยจะ ออกหนงั สือสาคญั ให้ใช้ เครื่องหมายรับรองฮา ลาลแกผ่ ้ขู อ เม่อื ผ้ขู อชาระ คา่ ธรรมเนียม แล้ว ขนั้ ท่ี 5 การติดตามและประเมินผล 1. ดาเนินการติดตามและกากบั ดแู ลสถานประกอบการ ซง่ึ ได้รับรองฮาลาล และหรือให้ใช้เคร่ือง หมายรับรองฮาลาล ให้ปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาและระเบยี บอยา่ งเคร่งครัด โดยใช้กลไกการ ตรวจสอบ ดงั นี ้

15 o ให้มี ผ้ตู รวจการอาหารฮาลาล เพือ่ ตรวจสอบสนิ ค้าอาหาร ฮาลาลในตลาด o ศกึ ษาวิเคราะห์ข้อมลู จากรายงาน การปฏบิ ตั ิงานของ ทีปรึกษาสถานประกอบการ 2. ฝ่ ายกิจการฮาลาลตรวจสอบผลติ ภณั ฑ์ กระบวนการผลติ สถานประกอบการ และการให้บริการ ท่ี ได้รับ อนญุ าตแล้ว โดยไมม่ กี ารนดั หมายลว่ งหน้า เป็นระยะตามความเหมาะสม 3. ฝ่ ายกิจการฮาลาลรายงานผลการตรวจสอบ ให้คณะกรรมการกลางอิสลามแหง่ ประเทศไทย หรือ คณะกรรมการอิสลามประจาจงั หวดั ทราบหรือพจิ ารณา สตั ว์ พชื และอาหารท่ีห้ามนามาบริโภค (ฮารอม) สัตว์ท่หี ้ามนามาบริโภค 1) สกุ ร สนุ ขั หมปู ่ า ลงิ แมว 2) สตั ว์ที่กินเนือ้ เป็นอาหารและมีกรงเลบ็ เชน่ สงิ โต เสือ หมี 3) สตั ว์มพี ษิ หรือสตั ว์นาโชค เชน่ หนู ตะขาบ แมงป่ อง 4) สตั ว์มพี ิษและเป็นอนั ตราย เช่น งู 5) สตั ว์น่ารังเกียจ เช่น หนอน แมลงวนั 6) สตั ว์ท่ีไมอ่ นญุ าตให้ฆา่ เช่น มด ผงึ ้ นกหวั ขวาน 7) สตั ว์ที่มีลกั ษณะเช่นเดียวกบั ลา เช่น ลอ่ 8) สตั ว์ท่ีตายเอง 9) สตั ว์ที่ถกู รัดคอตาย ถกู ตหี รือขว้างจนตาย ตกจากที่สงู ลงมาตาย ถกู ขวิดตาย ถกู สตั ว์อน่ื กดั กินจน ตาย 10) สตั ว์ท่ีถกู เชือดเพือ่ บชู ายญั 11) สตั ว์ท่ีถกู เชือดโดยกลา่ วนามอน่ื นอกจากอลั ลอฮฺ พชื ท่หี ้ามนามาบริโภค

16 พชื มีพิษและมีอนั ตราย อาหารหรือเคร่ืองด่มื ท่มี ีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์หรือมีส่งิ เป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพ มาตรฐานอาหารฮาลาล เป็นระบบเชิงบรู ณาการ (Integrated Standard System)โดยมี องค์ประกอบสาคญั คือ กระบวนการผลติ ตงั้ แตเ่ ร่ิมต้นถงึ สนิ ้ สดุ ตลอด \"สายโซ่การผลติ \" จะต้อง \"ฮาลาล\" คอื ถกู ต้องตามบญั ญตั ศิ าสนาอสิ ลาม ปราศจากสิ่ง \"ฮารอม\" คือส่ิงที่ต้องห้ามตามบญั ญตั ิศาสนาอสิ ลาม อาทิ วตั ถดุ บิ สว่ นประกอบ สารปรุงแตง่ สารพษิ ส่งิ ปนเปือ้ นตา่ งๆ เป็นต้น ทงั้ นีเ้พอื่ ให้ได้ผลิตภณั ฑ์อาหาร ท่ีดี ถกู สขุ อนามยั มคี ณุ คา่ อาหาร เป็นประโยชน์ตอ่ สขุ ภาพ (ตอยยบิ ) ซงึ่ ระบบการจดั การความปลอดภยั ในการผลติ อาหารทงั้ ระบบ GMP, HACCP และระบบการบริหารคุณภาพ (ISO) จงึ เป็นเรื่องสอดคล้อง กบั หลกั การมาตรฐานอาหารฮาลาล จะแตกตา่ งกนั ในหลกั การสาคญั คือ มาตรฐานอาหารฮาลาลจะต้อง ยดึ ถือความถกู ต้องและคณุ คา่ ตามบญั ญตั ศิ าสนาอิสลาม สว่ นมาตรฐานสากลยดึ ถือคณุ คา่ อาหารโดยมิ จาเป็นต้องถกู ต้องตามหลกั การศาสนาอสิ ลาม มาตรฐานอาหารฮาลาล มาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารท่วั ไป 1. ผ้กู าหนดมาตรฐาน 1. ผ้กู าหนดมาตรฐาน 1.1 อลั ลอฮฺ (ซ.บ.) พระผ้เู ป็นเจ้า 1.1 องค์กรระหว่างประเทศ 1.2ศาสดามฮุ มั มดั (ซ.ล.) 1.2 องค์กรเอกชน 2. หลกั การสาคญั 2. หลกั การสาคญั 2.1 ฮาลาล (อนมุ ตั ิ) ตามบญั ญตั ิศาสนาอิสลาม 2.1 มาตรฐานตามที่องค์กรกาหนด 2.2 ปราศจากสิง่ ฮารอม (ส่งิ ต้องห้าม) 2.2 การประกนั คณุ ภาพ (Q.A.) 2.3 ตอยยิบ (ด)ี ตามบญั ญตั ิศาสนาอิสลาม - ความสะอาด - ความสะอาด - ความปลอดภยั - ความปลอดภยั จากสารพษิ และสิ่งปนเปือ้ น - คณุ คา่ ทางโภชนาการ - คณุ คา่ ทางโภชนาการ - รักษาส่ิงแวดล้อม

17 3. การบริหารมาตรฐาน การบริหารมาตรฐาน 3.1องค์กรศาสนาอสิ ลามเป็นผ้รู ับผิดชอบตาม 3.1 หนว่ ยงานภาครัฐ หรือองค์กรเอกชนที่มีหน้าที่ บญั ญตั ศิ าสนา รับผิดชอบ อิสลาม 3.2 เจ้าหน้าที่ตรวจรับรองไมจ่ าเป็นต้องเป็นมสุ ลิม 3.2 เจ้าหน้าท่ีตรวจรับรองมาตรฐานต้องเป็น มีความรู้ความสามารถในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ มสุ ลมิ ที่ดีและมคี วาม รู้ความสามารถในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี 4. ระบบมาตรฐาน 4. ระบบมาตรฐาน 4.1 เป็นระบบมาตรฐานท่ีแยกยอ่ ย หลายลกั ษณะ 4.1 เป็นระบบเฉพาะมาตรฐานฮาลาล ซงึ่ เช่น มาตรฐานโรง ครอบคลมุ ทงั้ ความถกู งาน มาตรฐานการบริหารการผลิต เป็นต้น ต้อง (ฮาลาล) และท่ีดี (ตอยยิบ) ตามบญั ญตั ิ 4.2 ช่ือระบบมาตรฐานมีหลากหลาย เช่น มอก. ศาสนาอิสลาม GMP, ISO, HACCP 4.2 ช่ือระบบมาตรฐาน คือ ฮาลาล (Halal) 5. ปัจจยั การผลิต 5. ปัจจยั การผลติ 5.1 เป็นไปตามมาตรฐานอตุ สาหกรรมโดยไม่ 5.1 วตั ถดุ บิ สว่ นผสมและสารปรุงแตง่ มีท่ีมาซง่ึ คานงึ วา่ ฮาลาลหรือไม่ พิสจู น์ได้วา่ \"ฮาลาล\" 5.2 การล้างวตั ถดุ บิ หรืออปุ กรณ์ที่ใช้ผลติ มงุ่ เน้น ปราศจากสง่ิ \"ฮารอม\" ความสะอาดเป็ น 5.2 กระบวนการผลติ จะต้อง \"ฮาลาล\" ทกุ ขนั้ ตอน สาคญั 5.3 สถานที่ผลิตจะต้องสะอาดปลอดภยั จากสิ่ง ปนเปือ้ น มีระบบ ป้ องกนั สตั ว์ทกุ ชนิด และไมป่ ะปนกบั การผลติ สงิ่ ท่ี ไมฮ่ าลาล 5.4 เครื่องจกั ร เคร่ืองมือและอปุ กรณ์การผลิต จะต้องสะอาด และไม่

18 ได้ร่วมกบั การผลิตส่งิ ที่ไมฮ่ าลาล 5.5 การเก็บรักษา การขนสง่ และวางจาหน่าย จะต้องแยกสดั สว่ น เฉพาะอาหารฮาลาล ไมป่ ะปนกบั ส่ิงท่ีไมฮ่ ะลาล เพ่ือป้ องกนั 6. พนกั งาน การสบั สนและเข้าใจผิดของผ้บู ริโภค 6.1 พนกั งานท่ีผลิตอาหารฮาลาล ไมจ่ าเป็นต้อง 5.6 การล้างวตั ถดุ บิ หรืออปุ กรณ์ที่ใช้ผลิตอาหารที่ เป็นมสุ ลมิ ไมฮ่ าลาลมากอ่ น 6.2 พนกั งานเชือดสตั ว์ ไมจ่ าเป็นต้องเป็นมสุ ลิม จะต้องล้างให้สะอาดตามบญั ญตั ศิ าสนาอิสลาม 6. พนกั งาน 6.1 พนกั งานท่ีผลิตอาหารฮาลาลควรเป็นมสุ ลมิ หากมใิ ช่มสุ ลมิ จะ ต้องไมเ่ กี่ยวข้องกบั ส่ิงท่ีไมฮ่ าลาลในขณะผลติ อาหารฮาลาล เชน่ เนือ้ สกุ ร เลอื ด แอลกอฮอล์ หรือสนุ ขั 6.2 พนกั งานเชือดสตั ว์ ต้องเป็นมสุ ลิมมี สขุ ภาพจิตสมบรู ณ์ ไมเ่ ป็น โรคท่ีสงั คมรังเกียจและมคี วามรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกบั การเชือดสตั ว์ ตามบญั ญตั ิศาสนาอิสลาม Barcode คืออะไร รหสั แถบ (Bar code) คือ แถบเส้นดายาวพมิ พ์เรียงเป็นแถบบนตวั ภาชนะสาหรับบรรจสุ นิ ค้าที่ วางขายกนั ตามร้านค้าหรือซเู ปอร์มาร์เก็ททว่ั ไป สงิ่ ซงึ่ แถบดาเหลา่ นีเ้หมายถงึ นนั้ มกั จะเป็น \"ข้อความ\" ท่ีใช้ บง่ บอกตวั สินค้านนั้ ๆ เช่นวา่ ยาสฟี ัน เป็นต้น การใช้รหสั แถบบวกกบั เครื่องอา่ นรหสั แถบนีท้ าให้เกิดความ

19 สะดวกรวดเร็ว และความแมน่ ยาในการทางานได้มาก ตวั อยา่ งในซเู ปอร์มาร์เก็ท รหสั แถบท่ีติดอย่บู นตวั สนิ ค้า จะทาให้การคดิ เงินทาได้อย่างรวดเร็วและแมน่ ยา คอื เมอื่ พนกั งานเพียงแตใ่ ช้ตวั อา่ นรหสั แถบรูดผา่ น รหสั แถบ ก็จะทราบวา่ สนิ ค้าชนิดนนั้ เป็นสินค้าอะไร เมือ่ บวกกบั การโปรแกรมราคาสินค้าเข้ากบั เครื่อง คิดเงินบางประเภท ความผิดพลาดในการกดราคาสนิ ค้ากจ็ ะไมเ่ กิดขนึ ้ และในกรณีนีไ้ มม่ คี วามจาเป็นท่ี จะต้องติดราคาสนิ ค้าลงบนสนิ ค้าทกุ ตวั ทาให้สะดวกตอ่ การเปลีย่ นแปลงราคาสนิ ค้าในอีกทางหนง่ึ อีกตวั อยา่ งของการใช้รหสั แถบได้แก่ ศนู ย์แยกจดหมายหรือสง่ิ ของพสั ดภุ ณั ฑ์ ในปัจจบุ นั การ แยกแยะจดหมายอตั โนมตั โิ ดยการให้เคร่ืองอา่ นท่ีอย่บู นซองจดหมายหรือพสั ดภุ ณั ฑ์นนั้ ยงั ทาไมไ่ ด้ถงึ 100 เปอร์เซน็ ต์ และอีกประการหนง่ึ ความรวดเร็วกย็ งั ไมไ่ ด้ระดบั ท่ีน่าพอใจ ระบบแยกจดหมายจงึ ใช้รหสั แถบ เป็นส่ือกลาง โดยกอ่ นทจ่ี ะมกี ารสง่ เข้าระบบแยก เราจะทาการตีรหสั แทนท่ีอยปู่ ลายทางลงบนตวั จดหมาย ก่อน จากนนั้ สว่ นตา่ ง ๆ ในระบบแยกจดหมายกจ็ ะอาศยั การอา่ นรหสั ซง่ึ สามารถทาได้อยา่ งงา่ ยดาย และ แมน่ ยาในการแยกแยะจดหมายตอ่ ไป ที่มา : ดร.สวุ ิทชยั ค้มุ ปีติ วารสารคอมพวิ เตอร์ สมาคมคอมพิวเตอร์แหง่ ประเทศไทย ปีท่ี 15 ฉบบั ที่ 75/2531 บาร์โค้ดคอื อะไร บาร์โค้ด (Barcode) เป็นรหสั แทง่ ประกอบด้วยเส้นมดื (มกั จะเป็นสดี า) และเส้นสวา่ ง(มกั เป็นสี ขาว) วางเรียงกนั เป็นแนวด่ิง เป็นรหสั แทนตวั เลขและตวั อกั ษร ใช้เพื่ออานวยความสะดวกให้เคร่ือง คอมพิวเตอร์สามารถอา่ นรหสั ข้อมลู ได้งา่ ยขนึ ้ โดยใช้เคร่ืองอา่ นบาร์โค้ด (Barcode Scanner) ซงึ่ จะทางาน

20 ได้รวดเร็ว และช่วยลดความผิดพลาดในการคยี ์ข้อมลู ได้มาก บาร์โค้ดเริ่มกาเนิดขนึ ้ เม่อื ค.ศ. 1950 โดย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จดั ตงั้ คณะกรรมการเฉพาะกิจทางด้านพาณชิ ย์ขนึ ้ สาหรับค้นคว้ารหสั มาตรฐาน และสญั ลกั ษณ์ที่สามารถช่วยกิจการด้านอตุ สาหกรรม และสามารถจดั พิมพ์ระบบบาร์โค้ดระบบ UPC- Uniform ขนึ ้ ได้ในปี 1973 ตอ่ มาในปี 1975 กลมุ่ ประเทศยโุ รปจดั ตงั้ คณะกรรมการด้านวิชาการเพอ่ื สร้าง ระบบบาร์โค้ดเรียกวา่ EAN-European Article Numbering สมาคม EAN เติบโตครอบคลมุ ยโุ รปและ ประเทศอนื่ ๆ (ยกเว้นอเมริกาเหนือ) และระบบบาร์โค้ด EAN เร่ิมเข้ามาในประเทศไทยเมือ่ ปี 1987 โดยหลกั การแล้ว บาร์โค้ดจะถกู อา่ นด้วยเคร่ืองสแกนเนอร์ บนั ทกึ ข้อมลู เข้าไปเกบ็ ในคอมพวิ เตอร์ โดยตรง โดยไมต่ ้องกดป่ มุ ท่ีแท่นพมิ พ์ ทาให้มีความสะดวก รวดเร็วในการทางาน รวมถงึ อา่ นข้อมลู ได้อยา่ ง ถกู ต้องแมน่ ยา เชื่อถือได้ และจะเหน็ ได้ชดั เจนวา่ ปัจจบุ นั ระบบบาร์โค้ดเข้าไปมีบทบาทในทกุ สว่ นของ อตุ สาหกรรม การค้าขาย และการบริการ ที่ต้องใช้การบริหารจดั การข้อมลู จากฐานข้อมลู ในคอมพวิ เตอร์ และปัจจบุ นั มกี ระประยกุ ต์การใช้งานบาร์โค้ดเข้ากบั การใช้งานของ Mobile Computer ซงึ่ สามารถพกพา ได้สะดวก เพ่ือทาการจดั เก็บ แสดงผล ตรวจสอบ และประมวลในด้านอนื่ ๆ ได้ด้วย บาร์โค้ด 2 มิติ บาร์โค้ด 2 มิตเิ ป็นเทคโนโลยีท่ีพฒั นาเพิ่มเติมจากบาร์โค้ด 1 มิติ โดยออกแบบให้บรรจขุ ้อมลู ได้ทงั้ ในแนวตงั้ และแนวนอน ทาให้สามารถบรรจขุ ้อมลู มากได้ประมาณ 4,000 ตวั อกั ษร หรือประมาณ 200 เทา่ ของบาร์โค้ด 1 มิตใิ นพืน้ ท่ีเทา่ กนั หรือเลก็ กวา่ ข้อมลู ที่บรรจสุ ามารถใช้ภาษาอืน่ นอกจากภาษาองั กฤษได้ เช่น ภาษาญ่ีป่ นุ จีน หรือ เกาหลี เป็นต้น และบาร์โค้ด 2 มติ ิสามารถถอดรหสั ได้แม้ภาพบาร์โค้ดบางสว่ นมี การเสยี หาย อปุ กรณ์ที่ใช้อา่ นและถอดรหสั บาร์โค้ด 2 มิติมตี งั้ แตเ่ ครื่องอา่ นแบบซีซดี ี หรือเคร่ืองอา่ นแบบ เลเซอร์เหมอื นกบั บาร์โค้ด 1 มติ ิจนถงึ โทรศพั ท์มอื ถือแบบมกี ล้องถา่ ยรูปในตวั ซงึ่ ติดตงั้ โปรแกรมถอดรหสั ไว้

21 ลกั ษณะของบาร์โค้ด 2 มติ มิ ีอย่มู ากมายตามชนิดของบาร์โค้ด เช่น วงกลม สเี่ หลยี่ มจตรุ ัส หรือ สีเ่ หล่ยี มผืนผ้าคล้ายกนั กบั บาร์โค้ด 1 มิติ บาร์โค้ด 2 มติ ิ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท  บาร์โค้ด 2 มิติ แบบสแต๊ก (Stacked Barcode) บาร์โค้ดแบบสแต๊กมีลกั ษณะคล้ายกบั การนาบาร์โค้ด 1 มิติมาวางซ้อนกนั หลายแนว มกี ารทางานโดยอา่ น ภาพบาร์โค้ดแล้วปรับความกว้างของบาร์โค้ดกอ่ นทาการถอดรหสั ซงึ่ การปรับความกว้างนีท้ าให้สามารถ ถอดรหสั จากที่เสียหายบางสว่ นได้ โดยสว่ นท่ีเสยี หายนนั้ ต้องไมเ่ สียหายเกินขีดจากดั หนงึ่ ที่กาหนดไว้ การ อา่ นบาร์ดค้ดแบบสแต๊กสามารถอา่ นได้ทศิ ทางเดียว เช่น อา่ นจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย และการอา่ น จากด้านบนลงลา่ งหรือจากด้านลา่ งขนึ ้ ด้านบน ตวั อย่างบาร์โค้ดแบบสแต๊ก คอื บาร์โค้ดแบบ PDF417 (Portable Data File)  บาร์โค้ด 2 มิติ แบบเมตริกซ์ (Matrix Codes) บาร์โค้ดแบบเมตริกซ์มีลกั ษณะหลากหลายและมคี วามเป็นสองมิตมิ ากกว่าบาร์โค้ดแบบสแต๊กท่ี เหมอื นนาบาร์โค้ด 1 มิติไปซ้อนกนั ลกั ษณะเดน่ ของบาร์โค้ดแบบเมตริกซ์คอื มีรูปแบบค้นหา (Finder Pattern) ทาหน้าที่เป็นตวั อ้างองิ ตาแหนง่ ในการอา่ นและถอดรหสั ข้อมลู ชว่ ยให้อา่ นข้อมลู ได้รวดเร็วและ สามารถอา่ นบาร์โค้ดได้แม้บาร์โค้ดเอยี ง หมนุ หรือกลบั หวั ตวั อย่างของบาร์โค้ดแบบแมตริกซ์ คือ บาร์โค้ด แบบ MaxiCode , บาร์โค้ดแบบ Data Matrix ,บาร์โค้ดแบบ QR Code ข้อดขี องการใช้บาร์โค้ด  ช่วยเพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการทางาน : บาร์โค้ดจะช่วยให้การทางานรวดเร็วขนึ ้ และมคี วาม เที่ยงตรง แมน่ ยามากในการจดั เกบ็ ข้อมลู ตา่ งๆ ตวั อยา่ งเชน่ ในบางขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงานทตี่ ้องการความ รวดเร็ว มกี ารตดิ ตามงานท่ีแมน่ ยา ใช้เวลาเพียงเลก็ น้อยในการตดิ ตามสถานะของวตั ถดุ ิบ สนิ ค้า หรือสว่ น อน่ื ๆ ในสายการปฏบิ ตั งิ านท่ีจาเป็นต้องระมดั ระวงั ทกุ ขนั้ ตอนในการดาเนินการ จะช่วยลดระยะเวลาในการ แก้ไขปัญหาท่ีไมค่ าดคดิ ที่จะเกิดในกระบวนการทางานได้มากขนึ ้  ประหยดั เวลา : โดยปกตคิ ณุ อาจต้องการพนกั งาน 20 คนในการเช็คสต๊อกกลางปีในชว่ งวนั หยดุ สดุ สปั ดาห์ แตส่ าหรับระบบบาร์โค้ดคณุ ต้องการเพียงพนกั งาน 3 คนและใช้เวลาเพยี ง 6 ชว่ั โมงในการเชค็ ส

22 ต๊อกให้เรียบร้อย ในการดาเนินงานในแตล่ ะวนั ถ้ามกี ารขนสง่ สินค้า 20 กลอ่ ง จากเดิมที่คณุ ต้องใช้เวลา ประมาณ 5 นาทีในการจดรหสั สินค้า และเลขซเี รียล แตค่ ณุ จะใช้เวลาเพยี ง 15-30 วินาทีเทา่ นนั้ ในการ สแกนบาร์โค้ด นอกจากจะประหยดั เวลา ประหยดั ทรัพยากรบคุ คลแล้ว ระบบบาร์โค้ดยงั ชว่ ยเพม่ิ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทางานเป็นอยา่ งมาก  ลดข้อผดิ พลาด : ข้อผิดพลาดที่เกิดในการจดั การข้อมลู บางครัง้ อาจจะนาไปสปู่ ัญหาใหญ่ๆ ได้ รวมถงึ ทา ให้เสยี เวลา เสียคา่ ใช้จ่ายโดยเปลา่ ประโยชน์และยงั ทาให้ลกู ค้าเกิดความไมพ่ อใจด้วย ข้อผิดพลาดสว่ น ใหญ่เกิดจากพนกั งานใสข่ ้อมลู ผิดพลาด แตถ่ ้าใช้บาร์โค้ดในการจดั เกบ็ ข้อมลู ความเท่ียงตรง แมน่ ยาที่ มากกวา่ จะชว่ ยลดข้อผิดพลาดในการทางานได้เป็นอยา่ งมาก  ลดค่าใช้จ่าย เม่อื บาร์โค้ดมีการใช้งานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ประหยดั เวลามากขนึ ้ ลดอตั ราการจ้างงาน คณุ ก็จะประหยดั เวลาในการทางาน และประหยดั คา่ ใช้จา่ ยในโครงการตา่ งๆ การทางานของบาร์ โค้ ด เคร่ืองอา่ นบาร์โค้ด จะทางานโดยแยกความกว้างระหวา่ งพืน้ ท่ีมืดและพนื ้ ท่ีสวา่ งออกมาเป็นรหสั ตวั เลข เมอ่ื แสงจากเคร่ืองอา่ นบาร์โค้ดมากระทบบาร์โค้ดในลกั ษณะวางพาดขวาง แสงสะท้อนท่ีออกจาก เส้นมดื จะน้อยกว่าแสงที่สะท้อนออกจากพนื ้ ท่สี วา่ ง เคร่ืองอา่ นบาร์โค้ดจะแปลงแสงสะท้อนนีเ้ป็นรหสั ไปยงั เคร่ืองคอมพิวเตอร์หรือเคร่ืองมอื จดั เกบ็ ข้อมลู แบบพกพา มบี าร์โค้ดบางแบบท่ีมกี ารตรวจสอบความถกู ต้อง ของบาร์โค้ด โดยมกี ารคานวนเลขตรวจสอบ (Check digit Calculation) และแสดงคา่ นนั้ ๆ มาท้ายของ ข้อมลู ท่ีอา่ นได้ เชน่ บาร์โค้ดในแบบ UPC/EAN และการอา่ นบาร์โค้ดจะแสดงผลทงั้ การอา่ นปกติและผล ของการเปรียบเทียบของการตรวจสอบบาร์โค้ด และเมือ่ พบข้อผิดพลาดของข้อมลู ในตวั บาร์โค้ด เครื่องอา่ น บาร์โค้ด หรือโปรแกรมท่ีใช้พิมพ์บาร์โค้ดจะแสดงข้อผิดพลาดดงั กลา่ วออกมา เพื่อทาการแก้ไข และให้ทา การอา่ นบาร์โค้ดหรือพมิ พ์บาร์โค้ดใหมอ่ กี ครัง้ บาร์โค้ดในแตล่ ะแบบมรี ูปแบบของลกั ษณะแทง่ บาร์โค้ดที่ แตง่ ตา่ งกนั ไป ไมว่ า่ จะเป็นขนาดของแทง่ บาร์โค้ด ลกั ษณะการจดั วางตวั อกั ษร/ตวั เลข วิธีการบนั ทกึ ข้อมลู การตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ด และอนื่ ๆ แตโ่ ดยทวั่ ไปแล้วผ้ใู ช้งานมกั จะสนใจคณุ สมบตั ิการใช้ งานมากกวา่ ข้อมลู ทางด้านเทคนิคของบาร์โค้ดนนั้ ๆ บาร์โค้ดแบบตวั เลข

23 EAN-13(European Article Numbering international retail product code) เป็นแบบบาร์โค้ดที่ ได้รับการยอมรับมากท่ีสดุ ในโลก โดยบาร์โค้ดประเภทนีจ้ ะมีลกั ษณะเฉพาะของชดุ ตวั เลขจานวน 13 หลกั ซงึ่ มีความหมายดงั นี ้ 3 หลกั แรก คือ รหสั ของประเทศท่ีกาหนดขนึ ้ มาเพือ่ ให้ผ้ผู ลติ ได้ทาการลงทะเบยี นได้ทาการผลิต จากประเทศไหน 4 หลกั ถดั มา คอื รหสั โรงงานท่ีผลติ 5 หลกั ถดั มา คอื รหสั ของสินค้า และ ตวั เลขในหลกั สดุ ท้าย จะเป็นตวั เลขตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ด (Check digit) แม้วา่ บาร์โค้ดแบบ EAN-13 จะได้รับการยอมรับไปทวั่ โลก แตใ่ นสหรฐั อเมริกาและแคนนาที่เป็นต้นกาเนิด บาร์โค้ดแบบ UPC-A ยงั คงมีการใช้บาร์โค้ดแบบเดมิ จนวนั ท่ี 1 มกราคม ค.ศ. 2005 หนว่ ยงาน Uniform Code Council ได้ประกาศให้ใช้บาร์โค้ดแบบ EAN-13 ไปพร้อมๆ กบั UPC-A ท่ีใช้อยเู่ ดิม การออก ประกาศในครัง้ นีท้ าให้ผ้ผู ลติ ท่ีต้องการสง่ ออกสนิ ค้าไปยงั สหรัฐอเมริกาและแคนาดาต้องใช้บาร์โค้ดทงั้ 2 แบบบนผลิตภณั ฑ์ การคานวณตวั เลขตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ดแบบ EAN-13 (Check digit Calculation)  นาตวั เลขในตาแหนง่ คู่ (หลกั ท่ี 2,4,6,8,10,12 )มารวมกนั แล้วคณู ด้วย 3  นาตวั เลขในตาแหนง่ คี่ (หลกั ที่ 1,3,5,7,9,11 )มารวมกนั  นาผลลพั ท์จากข้อ 1 และ 2 มารวมกนั  นาผลลพั ท์ทไ่ี ด้จากข้อ 3 ทาการ MOD ด้วย 10 จะได้เป็นตวั เลข (Check digit ) ที่จะต้องแสดงใน หลกั ท่ี 13 EAN-8 เป็นบาร์โค้ดแบบ EAN ท่ีเหมาะสมหรับผลิตภณั ฑ์ขนาดเลก็ ใช้หลกั การคล้ายกนั กบั บาร์โค้ดแบบ EAN-13 แตจ่ านวนหลกั น้อยกวา่ คอื จะมตี วั เลช 2 หรือ 3 หลกั แทนรหสั ประเทศ 4 หรือ 5 หลกั เป็นข้อมลู สินค้า และอกี 1 หลกั สาหรับตวั เลขตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ด (Check Digit) แต่ สามารถขยายจานวนหลกั ออกไปได้อกี 2 หรือ 5 หลกั ในลกั ษณะของ Extension Barcode (UPC-A+2 , UPC-A+5 ) ซง่ึ เป็นคนละลกั ษณะกบั การใช้บาร์โค้ดแบบ UPC-E ท่ีจะต้องพมิ พ์ออกมาในรูปแบบเตม็ เหมือน UPC-A แตท่ าการตดั 0 (ศนุ ย์) ออก ข้อมลู ตวั เลขในสญั ลกั ษณ์บาร์โค้ดแบบ EAN-8 จะบง่ ชีถ้ งึ

24 ผ้ผู ลติ และผลติ ภณั ฑ์ และเมือ่ มกี ารใช้ EAN-8 มากขนึ ้ ในหลายประเทศ จานวนของตวั เลขทนี่ ามาใช้ซง่ึ มี จานวนจากดั ทาให้ไมเ่ พยี งพอกบั ผ้ใู ช้จงึ หนั มาใช้บาร์โค้ดแบบ EAN-13 แทน UPC-A (Universal Product Code) พบมากในธรุ กิจค้าปลีกของประเทศสหรัฐอเมริกา และ แคน นาดา รหสั บาร์โค้ดท่ีใช้เป็นแบบ 12 หลกั หลกั ท่ี 1 เป็นหลกั ที่ระบปุ ระเภทสนิ ค้า และตวั ที่ 12 เป็นหลกั ท่ี แสดงตวั เลขท่ีใช้ตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ด รหสั บาร์โค้ดแบบ UPC มหี น่วยงาน Uniform Council [UCC] ที่ตงั้ อยรู่ ัฐ OHIO ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผ้ดู แู ลในการจดทะเบียนบาร์โค้ด UPC-E เป็นบาร์โค้ดแบบ UPC ที่เหมาะสาหรับผลิตภณั ฑ์ขนาดเลก็ ถกู พฒั นามาจากบาร์โค้ด แบบ UPC-A โดยตดั จะเลข 0 (ศนู ย์) ออกทงั้ หมด บาร์โค้ด UPC-E สามารถพิมพ์ออกมาได้ขนาดเลก็ มาก ไว้ใช้สาหรับป้ านขนาดเลก็ ที่ติดบนตวั สินค้า Interleaved 2 of 5 เป็นรหสั บาร์โค้ดท่ีใช้ในระบบรับ-สง่ สินค้า รหสั บาร์โค้ดแบบนีเ้หมาะสาหรับ พิมพ์ลงบนกระดาษลกู ฟกู มกั ใช้ในโกดงั จดั เกบ็ สินค้า และอตุ สาหกรรมตา่ งๆ บาร์โค้ดท่ใี ช้ตวั เลขและตวั อักษร Code 39 เป็นบาร์โค้ดที่ใช้กนั อย่างแพร่หลาย ใช้ในงานอตุ สาหกรรมและหนว่ ยงานของรัฐ และ องค์กรเอกชน นอกจากบาร์โค้ดแบบ Code 39 นีเ้รายงั รู้จกั บาร์โค้ดแบบนีใ้ นช่ือ 3 Of 9 , USD-3 บาร์โค้ด แบบนีเ้ป็นรหสั ท่ีไมก่ าหนดจานวนหลกั ขนึ ้ อย่กู บั ความสามารถของเครื่องอา่ นบาร์โค้ด และไมจ่ าเป็นต้องมี ตวั เลขในการตรวจสอบความถกู ต้องของบาร์โค้ด สามารถแสดงได้ทงั้ ตวั เลขและตวั อกั ษร รวมถงึ อกั ขระ

25 พิเศษ (ASCII) มกี ารเพมิ่ เคร่ืองหมาย “*” ที่หลกั แรก และหลกั สดุ ท้ายเพ่อื บอกตาแหนง่ เริ่มต้นและตาแหน่ง สนิ ้ สดุ นิยมใช้ในการทางานเกี่ยวกบั รหสั ทตี่ ้องระบเุ ป็นตวั อกั ษร Code 128 เป็นบาร์โค้ดท่ีมสี ามารถกาหนดความยาวได้หลายหลายขนาด ขนึ ้ อยกู่ บั จานวนและ ชนิดของอกั ษร บาร์โค้ดเป็นท่ีนิยมในการใช้งานและเป็นท่ียอมรับทวั่ โลก มกี ารใช้บาร์โค้ดแบบนีม้ ากกวา่ บาร์โค้ดแบบ Code 39 แม้ว่าจะบาร์โค้ดประเภทนีจ้ ะใช้ได้ทงั้ ตวั เลขและตวั อกั ษร แตไ่ มส่ ามารถแสดง อกั ขระพิเศษได้ โดยจะเข้ารหสั ระหว่าง ASCII (0-127) บาร์โค้ด 2 มติ ิ PDF417 (Portable Data File) เป็นบาร์โค้ด 2 มิตแิ บบสแต๊ก ซง่ึ พฒั นาขนึ ้ ในปี ค.ศ. 1992 โดย บริษัท Symbol Technologies ประเทศสหรัฐอเมริกา บาร์โค้ดแบบ PDF417 สอดคล้องกบั มาตรฐาน ISO/IEC 15438 และ AIM USS-PDF417 ลกั ษณะบาร์โค้ดเป็นรูปสีเ่ หลย่ี มผืนผ้า มีสว่ นแทนรหสั ข้อมลู หรือ ท่ีเรียกวา่ โมดลู ข้อมลู (Data Module) เป็นแถบสดี าและสขี าวเรียงตวั กนั หลายๆ แถวทางแนวตงั้ และ แนวนอน ซง่ึ ประกอบด้วย 3 ถงึ 90 แถว และ 1 ถงึ 30 คอลมั น์ สามารถบรรจถข้อมลู ได้มากสดุ ถงึ 2,710 ตวั เลข 1,850 ตวั อกั ษร 1,018 ไบนารี คาว่า PDF ย่อมาจาก Portable Data File และประกอบไปด้วย 4 แถบ และ 4 ชอ่ งว่างใน 17 โมดลู จงึ ทาให้ได้หมายเลข 417 เครื่องอา่ นบาร์โค้ดจะสามารถอา่ นได้ในทิศทาง เดียว เช่น อา่ นจากทางซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้าย และอา่ นจากบนลงลา่ ง หรือ ลา่ งขนึ ้ บน เป็นต้น โดย สว่ นใหญ่บาร์โค้ดแบบ PDF 417 จะนาไปใช้กบั งานที่ต้องการความละเอียด และถกู ต้องเป็นพเิ ศษ Data Matrix บาร์โค้ด 2 มติ แิ บบนี ้ ถกู พฒั นาดโดยบริษัท RVSI Acuity Cimatrix ประเทศ สหรัฐอเมริกา เมือ่ ปี ค.ศ. 1989 สอดคล้องกบั มาตรฐาน ISO/IEC 16022 และ ANSI/AIM BC11-ISS-Data Matrix ลกั ษณะบาร์โค้ดมีทงั้ รูปส่เี หล่ยี มจตรุ ัสและสีเ่ หลยี่ มผืนผ้า สาหรับบาร์โค้ดรูปส่เี หลี่ยมจตรุ ัสมโี มดลู ข้อมลู ระหว่าง 10 x 10 ถงึ 144 x 144 โมดลู และรูปสี่เหล่ยี มผืนผ้ามี 8 x 18 ถงึ 16 x 48 โมดลู Data Matrix สามารถบรรจขุ ้อมลู ได้มากท่ีสดุ 3,116 ตวั เลข หรือ 2.355 ตวั อกั ษร แตส่ าหรับข้อมลู ประเภทอื่น

26 ได้แกข่ ้อมลู เลขฐานสองบรรจไุ ด้ 1,556 ไบต์ (1 ไบต์เท่ากบั เลขฐานสอง 8 หลกั ) และตวั อกั ษรภาษาญี่ป่ นุ บรรจไุ ด้ 778 ตวั อกั ษร รูปแบบค้นหาของบาร์โค้ดแบบ Data Matrix อย่ทู ่ีตาแหนง่ ของด้านซ้ายและ ด้านลา่ งของบาร์โค้ด บาร์โค้ด Data Matrix สว่ นใหญ่ใช้ในงานท่ีมพี นื ้ ที่จากดั และต้องการบาร์โค้ดขนาด เลก็ ขนั้ ตอนการวางแผนออกแบบบรรจุภณั ฑ์ พร้อมด้วยข้อจากดั ตา่ งๆรายละเอยี ดการ การวางแผนเร่ิมต้นด้วยจดุ ประสงค์ของการพฒั นา วางแผนต้องประกอบด้วยองค์ประกอบตอ่ ไปนี ้ ขนั้ ตอนที่ 1 : การวางแผน 1.1 กาหนดเวลา 1.2 ผลงานที่จะได้รับในแตล่ ะขนั้ ทางาน 1.3 รายละเอยี ดของตราสนิ ค้า (Branding) 1.4 ผ้รู ับผิดชอบในแตล่ ะขนั้ ตอน ขนั้ ตอนที่ 2 : การรวบรวมข้อมลู 2.1 ข้อมลู การตลาด 2.2 สถานะการแขง่ ขนั จดุ แขง็ จดุ ออ่ น โอกาส ข้อจากดั (SWOT: Strength, Weakness, Opportunity , Treat) 2.3 ข้อมลู จากจดุ ขาย 2.4 ความต้องการของกลมุ่ เป้ าหมาย / พฤตกิ รรมผ้บู ริโภค 2.5 เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางด้านวสั ดบุ รรจภุ ณั ฑ์ ระบบบรรจภุ ณั ฑ์และเครื่องจกั ร ขนั้ ตอนที่ 3 : การออกแบบร่าง 3.1 พฒั นาความคิดริเริ่มตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

27 3.2 ร่างต้นแบบ ประมาณ 3-5 แบบ 3.3 ทาต้นแบบ ประมาณ 2-3 แบบ ขนั้ ตอนท่ี 4 : การประชมุ วิเคราะห์ปรับต้นแบบ 4.1 วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเทคนิค 4.2 วิเคราะห์การสนองความต้องการของกลมุ่ เป้ าหมาย 4.3 เลือกต้นแบบท่ียอมรับได้ ขนั้ ตอนท่ี 5 : การทาแบบเหมือนร่าง 5.1 เลือกวสั ดทุ ี่จะทาแบบ 5.2 ออกแบบกราฟฟิกเหมอื นจริง พร้อมตราสนิ ค้าและสญั ลกั ษณ์ทางการค้า 5.3 ขนึ ้ แบบ ขนั้ ตอนท่ี 6 : การบริหารการออกแบบ เร่ิมจากการติดตอ่ โรงงานผ้ผู ลติ วสั ดบุ รรจภุ ณั ฑ์จนถงึ การควบคมุ งานผลิตให้ได้ตามแบบท่ีต้องการ พร้อมทงั้ จดั เตรียมรายละเอียดการสง่ั ซอื ้ (Specification) เพือ่ ให้บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีออกแบบสามารถผลิตได้ ตามต้องการ ขนั้ ตอนสดุ ท้ายเป็นการตดิ ตามผลของบรรจภุ ณั ฑ์ที่ออกแบบไปแล้ววา่ สามารถสนองตาม จดุ มงุ่ หมายของการออกแบบและบรรลถุ ึงวตั ถปุ ระสงค์ขององค์กรเพียงใด ประเภทของบรรจุภณั ฑ์ ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์สามารถแบง่ ได้หลายวิธีตามหลกั เกณฑ์ตา่ ง ๆ ดงั นี ้ 1. แบง่ ตามวิธีการบรรจแุ ละวิธีการขนถ่าย 2. แบง่ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการใช้ 3. แบง่ ตามความคงรูป 4. แบง่ ตามวสั ดบุ รรจภุ ณั ฑ์ท่ีใช้ 1. ประเภทบรรจุภณั ฑ์แบ่งตามวธิ ีบรรจุและวธิ ีการขนถ่าย สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท 1.1 บรรจภุ ณั ฑ์เฉพาะหนว่ ย (Individual Package) คือ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีสมั ผสั อยกู่ บั ผลิตภณั ฑ์ชนั้ แรก เป็นส่งิ ที่บรรจผุ ลิตภณั ฑ์เอาไว้เฉพาะหนว่ ย โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ขนั้ แรกคือ เพ่มิ คณุ คา่ ในเชิงพาณิชย์ (To Increase Commercial Value) เชน่ การกาหนดให้มลี กั ษณะพเิ ศษเฉพาะหรือทาให้มรี ูปร่างท่ีเหมาะ

28 แกก่ ารจบั ถือ และอานวยความสะดวกตอ่ การใช้ผลติ ภณั ฑ์ภายใน พร้อมทงั้ ทาหน้าที่ให้ความปกป้ องแก่ ผลติ ภณั ฑ์โดยตรงอกี ด้วย 1.2. บรรจภุ ณั ฑ์ชนั้ ใน (Inner Package) คอื บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีอย่ถู ดั ออกมาเป็นชนั้ ท่ีสอง มีหน้าท่ี รวบรวมบรรจภุ ณั ฑ์ขนั้ แรกเข้าไว้ด้วยกนั เป็นชดุ ในการจาหนา่ ยรวมตงั้ แต่ 2 – 24 ชิน้ ขนึ ้ ไป โดยมี วตั ถปุ ระสงค์ขนั้ แรก คอื การป้ องกนั รักษาผลติ ภณั ฑ์จากนา้ ความชืน้ ความร้อน แสง แรงกระทบกระเทือน และอกนวยความสะดวกแกก่ ารขายปลีกยอ่ ย เป็นต้น ตวั อยา่ งของบรรจภุ ณั ฑ์ประเภทนี ้ ได้แก่ กลอ่ ง กระดาษแขง็ ท่ีบรรจเุ ครื่องดื่มจานวน ฝ 1 โหล , สบู่ 1 โหล เป็นต้น 1.3. บรรจภุ ณั ฑ์ชนั้ นอกสดุ (Out Package) คอื บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีเป็นหนว่ ยรวมขนาดใหญ่ที่ใช้ในการ ขนสง่ โดยปกติแล้วผ้ซู อื ้ จะไมไ่ ด้เห็นบรรจภุ ณั ฑ์ประเภทนีม้ ากนกั เน่ืองจากทาหน้าที่ป้ องกนั ผลิตภณั ฑ์ใน ระหว่างการขนสง่ เทา่ นนั้ ลกั ษณะของบรรจภุ ณั ฑ์ประเภทนี ้ ได้แก่ หบี ไม้ ลงั กลอ่ งกระดาษขนาดใหญ่ที่ บรรจสุ นิ ค้าไว้ภายใน ภายนอกจะบอกเพยี งข้อมลู ท่ีจาเป็นตอ่ การขนสง่ เท่านนั้ เช่น รหสั สนิ ค้า (Code) เลขท่ี (Number) ตราสนิ ค้า สถานท่ีสง่ เป็นต้น 2. การแบ่งประเภทบรรจุภณั ฑ์ตามวตั ถุประสงค์ของการใช้ บรรจภุ ณั ฑ์เพื่อการขายปลีก (Consumer Package) เป็นบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีผ้บู ริโภคซอื ้ ไปใช้ไป อาจมี ชนั้ เดยี วหรือหลายชนั้ กไ็ ด้ ซง่ึ อาจเป็น Primary Package หรือ Secondary Package กไ็ ด้ บรรจภุ ณั ฑ์เพ่ือการขนสง่ (Shopping หรือ Transportation Package) เป็นบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีใช้รองรับ หรือห่อห้มุ บรรจภุ ณั ฑ์ขนั้ ทตุ ยิ ภมู ิ ทาหน้าท่ีรวบรวมเอาบรรจภุ ณั ฑ์ขายปลีกเข้าด้วยกนั ให้เป็นหนว่ ยใหญ่ เพือ่ ความปลอดภยั และความสะดวกในการเกบ็ รักษา และการขนสง่ เช่น กลอ่ งกระดาษลกู ฟกู ท่ีใช้บรรจยุ า สฟี ัน กลอ่ งละ 3 โหล 3. การแบ่งบรรจุภณั ฑ์ตามความคงรูป 3.1. บรรจภุ ณั ฑ์ประเภทรูปทรงแขง็ ตวั (Rigid Forms) ได้แก่ เคร่ืองแก้ว (Glass Ware) เซรามิคส์ (Ceramic) พลาสตกิ จาพวก Thermosetting ขวดพลาสติก สว่ นมากเป็นพลาสตกิ ฉีด เครื่องปัน้ ดนิ เผา ไม้ และโลหะ มคี ณุ สมบตั ิแขง็ แกร่งทนทานเออื ้ อานวยตอ่ การใช้งาน และป้ องกนั ผลติ ภณั ฑ์จากสภาพแวดล้อม ภายนอกได้ดี 3.2. บรรจภุ ณั ฑ์ประเภทรูปทรงกงึ่ แขง็ ตวั (Semirigid Forms) ได้แก่ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีทาจากพลาสตกิ ออ่ น กระดาษแขง็ และอลมู เิ นียมบาง คณุ สมบตั ิทงั้ ด้านราคา นา้ หนกั และการป้ องกนั ผลติ ภณั ฑ์จะอยใู่ น ระดบั ปานกลาง

29 3.3. บรรจภุ ณั ฑ์ประเภทรูปทรงยืดหย่นุ (Flexible Forms) ได้แก่ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีทาจากวสั ดอุ อ่ นตวั มีลกั ษณะเป็นแผน่ บาง ได้รับความนิยมสงู มากเนื่องจากมรี าคาถกู ( หากใช้ในปริมาณมากและระยะ เวลานาน ) นา้ หนกั น้อย มรี ูปแบบและโครงสร้างมากมาย 4. แบ่งตามวัสดุบรรจุภณั ฑ์ท่ใี ช้ การจดั แบง่ และเรียกช่ือบรรจภุ ณั ฑ์ในทรรศนะของผ้อู อกแบบ ผ้ผู ลิต หรือนกั การตลาด จะแตกตา่ ง กนั ออกไป บรรจภุ ณั ฑ์แตล่ ะประเภทกต็ งั้ อย่ภู ายใต้วตั ถปุ ระสงค์หลกั ใหญ่ (Objective Of Package) ท่ี คล้ายกนั คอื เพือ่ ป้ องกนั ผลติ ภณั ฑ์ (To Protect Products) เพื่อจาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ (To Distribute Products) เพอื่ โฆษณาประชาสมั พนั ธ์ผลติ ภณั ฑ์ (To Promote Products) รายละเอียดบนฉลากอาหารควรจะมีอะไรบ้าง รายละเอยี ดบนฉลากอาหาร ให้แสดงข้อความเป็นภาษาไทยอย่ใู นสภาพเรียบร้อย สามารถอา่ นได้ชดั เจน โดยสีตวั อกั ษรต้องตดั กบั พนื ้ ของฉลาก ให้แสดงรายละเอยี ดดงั นี ้

30 1. แสดงชื่อเฉพาะของอาหาร ช่ือสามญั หรือชื่อท่ีใช้เรียกอาหารตามปกติ กรณีใช้ช่ือทางการค้า ต้องแสดงประเภทหรือชนิดของอาหารกากบั ชื่ออาหารด้วย 2. แสดงช่ือและที่ตงั้ ของผ้ผู ลิตหรือผ้แู บง่ บรรจุ กรณีเป็นอาหารนาเข้าให้แจ้งชื่อประเทศผ้ผู ลติ ด้วย 3. แสดงเลขทะเบียนตารับอาหาร หรือเลขท่ีอนญุ าตให้ใช้ฉลากอาหาร(ถ้ามี) เพ่อื แสดงให้ผ้บู ริโภค ทราบวา่ อาหารนีผ้ า่ นการได้รับอนญุ าตจากผ้อู นญุ าต เชน่ สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา 4. แสดงปริมาณสทุ ธิเป็นระบบเมตริก ของแขง็ ให้แจ้งเป็นนา้ หนกั สทุ ธิ ของเหลวแจ้งเป็นปริมาตร สทุ ธิ ลกั ษณะเป็นกง่ึ แข็งกงึ่ เหลวให้แจ้งเป็นนา้ หนกั สทุ ธิ หรือปริมาตรสทุ ธิกไ็ ด้ กรณีแยกเนือ้ กบั นา้ ได้ต้อง แจ้ง \" นา้ หนกั เนือ้ \" ด้วย 5. แสดงสว่ นประกอบสาคญั คดิ เป็นร้อยละของนา้ หนกั กรณีเป็นเมด็ หรือแคปซลู ให้แจ้งปริมาณตอ่ หน่วย 6. แสดง วนั เดือนปี ที่ผลิตอาหาร หรือวนั เดือนปี ท่ีหมดอายขุ องอาหาร หรือควรบริโภคก่อน ข้อความนีอ้ าจแสดงไว้ด้านหน้าหรือด้านบน กรณีแจ้งไว้ด้านลา่ งของภาชนะบรรจุ ให้แจ้งไว้สว่ นหน้าฉลาก วา่ ให้ดู เดอื นปี ท่ีผลติ หรือวนั หมดอายุ หรือควรบริโภคก่อนได้ที่ใด 7. ถ้ามีการแตง่ สีต้องมขี ้อความวา่ \"เจือสีธรรมชาติ\" หรือ \"เจือสสี งั เคราะห์\" 8. ถ้ามีการแตง่ กลน่ิ รสต้องมีข้อความวา่ \"แตง่ กลิ่นธรรมชาติ\" \"แตง่ กลิ่นเลยี นธรรมชาติ\" \" แตง่ กลิน่ สงั เคราะห์\" \" แตง่ รสธรรมชาติ\" หรือ \"แตง่ รสเลยี นธรรมชาติ\" 9. ถ้ามกี ารใช้วตั ถเุ จือปนอาหารโดยเฉพาะวตั ถกุ นั เสยี ต้องมขี ้อความวา่ \"ใช้วตั ถกุ นั เสยี \" 10. แจ้งวิธีปรุงเพ่อื รับประทาน (ถ้ามี) 11. แจ้งคาแนะนาในการเก็บรักษา (ถ้ามี) 12. แจ้งคาเตือน(ถ้ามี) กรณีเป็นฉลากอาหารทีผ่ ลติ เพื่อสง่ ออกไปยงั ตา่ งประเทศ จะแสดงข้อความเป็นภาษาใดก็ได้ แต่ อย่างน้อยต้องมีข้อความดงั นี ้

31 1. ช่ืออาหารในทางการค้า 2. เลขทะเบียนตารับอาหาร สาหรับอาหารที่ต้องขนึ ้ ทะเบยี นตารับอาหารหรือเลขท่ีอนุญาตใช้ ฉลากอาหาร สาหรับอาหารที่ต้องยืน่ ขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร 3. ปริมาณสทุ ธิ 4. แสดงข้อความ \" ผลิตในประเทศไทย \" ข้อควรรู้...เก่ียวกบั ฉลากอาหาร “อาหาร” ตามพระราชบญั ญตั อิ าหาร พ.ศ.2522 หมายถงึ ของกิน หรือเครื่องคา้ จนุ ชีวิต ได้แก่ วตั ถดุ ิบทกุ ชนิดที่คนกิน ดื่ม อม หรือนาเข้าสรู่ ่างกาย ไมว่ า่ ด้วยวิธีใดหรือในรูปลกั ษณะใด แตท่ งั้ นีไ้ มร่ วมถงึ ยา วตั ถอุ อกฤทธ์ิตอ่ จิตและประสาทหรือยาเสพตดิ ให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยการนนั้ แล้วแตก่ รณี อาหาร ยงั หมายความรวมถงึ วตั ถทุ ี่มงุ่ หมายสาหรับใช้หรือใช้เป็นสว่ นผสมในการผลติ อาหาร วตั ถเุ จือปนอาหาร สี เคร่ืองปรุงแตง่ กลนิ่ รสด้วย ปัจจบุ นั ยงั มผี ้บู ริโภคจานวนไมน่ ้อยที่ซอื ้ อาหารโดยละเลยไมไ่ ด้ให้ความสนใจที่ จะอา่ นข้อความในฉลากอาหารกอ่ นที่จะตดั สนิ ใจซอื ้ ฉลากอาหารเป็นสง่ิ ท่ีจะชว่ ยในการตดั สินใจเลอื กซอื ้ อาหาร เน่ืองจากรายละเอียดบนฉลากจะบอกถงึ ชนิดหรือประเภทของอาหาร สว่ นประกอบ ปริมาณสทุ ธิ

32 และวนั เดือนปีท่ีผลติ หมดอายุ หรือควรบริโภคกอ่ น ซง่ึ สง่ ผลให้ผ้บู ริโภคได้มีโอกาสเลือกซอื ้ อาหารท่ีมี คณุ คา่ สมราคาและได้รับประโยชน์สงู สดุ จากอาหารนนั้ ฉลากอาหาร หมายถงึ รูป รอยประดิษฐ์ เคร่ืองหมาย หรือข้อความใด ๆ ที่แสดงรายละเอียด เก่ียวกบั อาหารท่ตี ิดไว้ที่ภาชนะบรรจอุ าหาร หรือหีบห่อของภาชนะท่ีบรรจอุ าหาร ตามกฎหมาย กาหนดประเภทของอาหารท่ตี ้องแสดงฉลากไว้ 3 ประเภท 1. อาหารควบคุมเฉพาะ หมายความวา่ อาหารท่ีรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ให้เป็น อาหารที่อย่ใู นความควบคมุ เกี่ยวกบั คณุ ภาพและมาตรฐาน ปัจจบุ นั มี 39 ชนิด อาหารประเภทนีต้ ้องมี คณุ ภาพและมาตรฐานตามท่ีกาหนด โรงงานผลิตและผ้นู าเข้าเพ่อื จาหนา่ ยซง่ึ อาหาร ต้องขอ ใบอนญุ าต ผลติ อาหาร หรือใบอนญุ าตนาหรือสง่ั อาหารเข้ามาในราชอาณาจกั รพร้อมทงั้ ขอขนึ ้ ทะเบยี นตารับอาหาร ด้วย เมื่อได้รับอนญุ าตจากสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว จงึ จะผลติ และนาเข้าเพอ่ื จาหนา่ ย ได้ สาหรับผ้ผู ลติ ทีไ่ มไ่ ด้เป็นโรงงานไมต่ ้องขออนญุ าตผลติ อาหารและขอขนึ ้ ทะเบยี น ตารับอาหาร แตต่ ้อง ผลิตอาหารควบคมุ เฉพาะนนั้ ให้มีคณุ ภาพมาตรฐานตามที่กาหนด และต้องขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร เมื่อ ได้รับใบสาคญั การอนญุ าตใช้ฉลากอาหารแล้วจงึ จะผลติ เพือ่ จาหนา่ ยได้ อาหารควบคุมเฉพาะ มี 39 ชนิด ได้แก่ 1. นา้ แร่ 2. สผี สมอาหาร 3. นา้ มนั และไขมนั 4. นา้ มนั ถว่ั ลิสง 5. นา้ มนั ปาล์ม 6. นา้ มนั มะพร้าว 7. นมโค 8. เนย 9. อาหารสาหรับผ้ทู ี่ต้องการควบคมุ นา้ หนกั 10. เนยแขง็ 11. กี 12. ไอศกรีม 13. นมปรุงแตง่ 14. ผลติ ภณั ฑ์ของนม

33 15. นมเปรีย้ ว 16. นา้ มนั เนย 17. ครีม 18. นมดดั แปลงสาหรับทารกและนมดดั แปลงสตู รตอ่ เนื่องสาหรับทารกและเดก็ เลก็ 19. เนยเทียม 20. วตั ถปุ รุงแตง่ รสอาหาร 21. อาหารกงึ่ สาเร็จรูป 22. ซอสบางชนิด 23. นา้ ส้มสายชู 24. นา้ ปลา 25. วตั ถเุ จือปนอาหาร 26. แยม เยลล่ี และมาร์มาเลดในภาชนะที่ปิดสนิท 27. ชา 28. นา้ บริโภคในภาชนะบรรจทุ ่ีปิดสนิท 29. เคร่ืองดมื่ ในภาชนะบรรจทุ ี่ปิดสนิท 30. เคร่ืองด่ืมเกลือแร่ 31. นา้ นมถวั่ เหลอื งในภาชนะบรรจทุ ี่ปิดสนิท 32. กาแฟ 33. นา้ แขง็ 34. อาหารทารกและอาหารสตู รตอ่ เน่ืองสาหรับทารกและเดก็ เลก็ 35. อาหารเสริมสาหรับทารกและเดก็ เลก็ 36. อาหารในภาชนะบรรจทุ ่ีปิดสนิท 37. รอยลั เยลลี่ และผลติ ภณั ฑ์รอยลั เยลล่ี 38. โซเดยี มซยั คลาเมตและอาหารที่มโี ซเดยี ม ซยั คลาเมต (เฉพาะสง่ ออก) 39. นา้ ผงึ ้ * หมายถงึ ว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ วา่ ด้วยเรื่องอาหารดงั กลา่ ว ไมใ่ ช้บงั คบั กบั อาหารท่ีผลติ เพื่อจาหนา่ ยโดยสถานที่ผลติ ทีไ่ มเ่ ข้าลกั ษณะที่เป็นโรงงาน

34 2. อาหารกาหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน อาหารประเภทนีม้ กี ารกาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐาน ดงั นนั้ โรงงานผ้ผู ลติ และผ้นู าเข้า จะต้องขอใบอนญุ าตผลติ อาหารหรือขอใบอนญุ าตนาหรือสงั่ อาหารเข้า มาในราชอาณาจกั รแล้วแตก่ รณี และขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร แตไ่ มต่ ้องขออนญุ าตขนึ ้ ทะเบียนตารับ อาหาร นอกจากนีต้ ้องผลิตอาหารดงั กลา่ วให้มคี ณุ ภาพหรือมาตรฐานตามที่ประกาศ กระทรวงสาธารณสขุ กาหนดวา่ ด้วยเรื่องอาหารประเภทนนั้ ๆ สาหรับผ้ผู ลติ ท่ีไมไ่ ด้เป็นโรงงานกต็ ้องผลติ อาหารให้มีคณุ ภาพหรือ มาตรฐานตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดเช่นเดยี วกนั และต้องขออนญุ าตใช้ฉลากอาหารด้วย อาหารกาหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน แบ่งได้เป็ น 2 ประเภทคอื 2.1 อาหารกาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐานที่ต้องขออนญุ าตใช้ฉลากอาหารมีทงั้ หมด 5 ชนิด ได้แก่ นา้ ท่ีเหลือจากการผลติ โมโนโซเดยี มกลตู าเมท ชอ็ กโกแลต ไขเ่ ย่ียวม้า ผลติ ภณั ฑ์ปรุงรสที่ได้จากการยอ่ ยโปรตีนของถวั่ เหลอื ง ข้าวเสริมวิตามิน 2.2 อาหารกาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐานที่ยกเว้นให้ไมต่ ้องขออนญุ าตใช้ฉลากอาหารมี 1 ชนิด ได้แก่ เกลือบริโภค 2.3 อาหารท่ีนาหรือสงั่ เข้ามาในราชอาณาจกั ร กรณีไมใ่ ชอ่ าหารควบคมุ เฉพาะ อาหารท่ีกาหนด คณุ ภาพหรือมาตรฐาน ผ้นู าเข้าจะต้องขออนญุ าตนาเข้าอาหาร และต้องแจ้งรายการอาหารท่ี ขอ อนญุ าตนาเข้าร่วมทงั้ ต้องขออนญุ าตใช้ฉลากอาหารท่ีนาเข้าด้วย 3. อาหารท่รี ัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็ นอาหารท่ีต้องมีฉลาก สามารถแบง่ ได้เป็น 4 ประเภท คอื 3.1 อาหารที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นอาหารที่ต้องมีฉลาก ผ้ผู ลิต และผ้นู า เข้าจะต้องย่ืนขออนญุ าตใช้ฉลากอาหาร มีทงั้ หมด 12 ชนิด ได้แก่ 1) แป้ งข้าวกล้อง 2) นา้ เกลอื ปรุงรส 3) ซอสในภาชนะบรรจทุ ่ีปิดสนิท 4) ขนมปัง 5) อาหารที่มีวตั ถปุ ระสงค์พเิ ศษ อาหารท่ีใช้สาหรับผ้ปู ่ วยเฉพาะโรค หรือผ้มู ีสภาพผิดปกตทิ างร่างกาย อาหารที่ใช้สาหรับบคุ คลผ้มู วี ตั ถปุ ระสงค์ในการบริโภคอาหารเป็นพเิ ศษ เช่น ผ้สู งู อายุ สตรีมคี รรภ์

35 6) หมากฝรั่งและลกู อม 7) ว้นุ สาเร็จรูป และขนมเยลล่ี 8) อาหารฉายรังสี 9) อาหารที่มวี ตั ถกุ นั ชืน้ รวมอย่ใู นภาชนะบรรจุ 10) ผลิตภณั ฑ์กระเทียม 11) วตั ถแุ ตง่ กลน่ิ รส 12) อาหารท่ีมีสว่ นผสมของวา่ นหางจระเข้ 3.2 อาหารท่ีต้องมีฉลากแตไ่ มต่ ้องย่ืนขออนญุ าตผ้ผู ลิตหรือนาเข้าปฏิบตั ิได้เลย มี 3 ชนิด ได้แก่ 1) ผลติ ภณั ฑ์จากเนือ้ สตั ว์ ได้แก่ ลกู ชิน้ ไส้กรอก แหนม หมยู อ กนุ เชียง และผลิตภณั ฑ์ ลกั ษณะทานองเดยี วกนั ที่บรรจใุ นภาชนะพร้อมจ่าย 2) อาหารสาเร็จรูปท่ีพร้อมบริโภค 3) อาหารพร้อมปรุง 3.3 อาหารนาหรือสง่ั เข้ามาในราชอาณาจกั รท่จี ะต้องแจ้งรายละเอียดของอาหาร (จดแจ้ง) ได้แก่ พชื ผกั และผลไม้ท่ีอย่ใู นสภาพสด รวมทงั้ แช่เยน็ หรือแช่แขง็ 3.4 อาหารอนื่ ที่นาหรือสงั่ เข้ามาในราชอาณาจกั ร นอกเหนือจากข้อ 3.1 - 3.3 จะต้อง ยื่นขออนญุ าตใช้ ฉลากอาหาร รายละเอียดบนฉลากอาหาร ต้องแสดงข้อความภาษาไทยอย่ใู นสภาพเรียบร้อย อา่ นได้ชดั เจน และสตี ดั กบั พนื ้ ฉลากดงั นี ้ ช่ือเฉพาะของอาหาร ช่ือสามญั หรือช่ือที่ใช้เรียกอาหารตามปกติ กรณีใช้ช่ือทางการค้าจะต้องแจ้งประเภท หรือชนิดของอาหารกากบั ช่ืออาหารด้วยชื่อและท่ีตงั้ ของผ้ผู ลติ หรือผ้แู บง่ บรรจุ กรณีเป็นอาหารนาเข้าฯ ให้ แจ้งประเทศผ้ผู ลิตด้วย เลขทะเบียนตารับอาหาร หรือเลขที่อนญุ าตให้ใช้ฉลากอาหาร (ถ้ามี) เพือ่ แสดงให้ผ้บู ริโภค ทราบ ว่าอาหารนผี ้ ่านการได้รับอนญุ าตจากผ้อู นญุ าต เชน่ สานกั งานคณะกรรมการอาหาร และยา หรือจงั หวดั ท่ี ผ้ผู ลิตตงั้ ภมู สิ าเนาอยู่ กรณีท่ีสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา มอบอานาจให้ ปริมาณสทุ ธิเป็นระบบเมตริก ของแขง็ แจ้งเป็ นนา้ หนกั สทุ ธิ ของเหลวแจ้งเป็นปริมาตรสทุ ธิ ลกั ษณะเป็นกง่ึ แขง็ กงึ่ เหลวแจ้งเป็นนา้ หนกั สทุ ธิ หรือปริมาตรสทุ ธิกไ็ ด้ กรณีแยกเนือ้ กบั นา้ ได้ต้องแจ้ง \"นา้ หนกั เนือ้ \"ด้วย สว่ นประกอบสาคญั คดิ เป็นร้อยละของนา้ หนกั กรณีเป็นเมด็ หรือแคปซูลให้แจ้ง ปริมาณตอ่ หนว่ ย วนั เดือน ปี ท่ีผลิตอาหาร หรือวนั เดอื น ปี ท่ีหมดอายขุ องอาหาร หรือควรบริโภคกอ่ นแล้ว แตป่ ระเภทของ อาหาร ข้อความนีอ้ าจแสดงไว้ด้านหน้าหรือด้านบน กรณีแจ้งไว้ด้านลา่ งของ ภาชนะบรรจุ ให้แจ้งไว้สว่ น

36 หน้าฉลากวา่ ดู เดือน ปี ท่ีผลติ หรือหมดอายุ หรือควรบริโภคก่อนท่ีใด ถ้ามีการแตง่ สีต้องมขี ้อความวา่ \"เจือ สีธรรมชาติ\" หรือ \"เจือสีสงั เคราะห์\" แล้วแตก่ รณี ถ้ามีการแตง่ กลิ่นรสต้องมขี ้อความวา่ \"แตง่ กลน่ิ ธรรมชาติ\" \"แตง่ กลนิ่ เลยี นธรรมชาติ\" \"แตง่ กล่ินสงั เคราะห์\" \"แตง่ รสธรรมชาติ\" หรือ \"แตง่ รสเลียนธรรมชาติ\" แล้วแต่ กรณี ถ้ามีการใช้วตั ถเุ จือปนอาหารโดยเฉพาะวตั ถกุ นั เสียต้องมีข้อความวา่ \"ใช้วตั ถกุ นั เสีย\" แจ้งวิธีปรุง เพอ่ื รับประทาน (ถ้ามี) แจ้งคาแนะนาในการเกบ็ รักษา (ถ้ามี) แจ้งคาเตือน (ถ้ามี) ข้อความท่ตี ้องแสดงส่วนหน้าของฉลาก ชื่ออาหาร ปริมาณสทุ ธิ วนั เดือนปีที่ผลติ หรือเดอื นปีท่ีผลติ วนั เดือนปีทีห่ มดอายุ หรือควรบริโภคกอ่ น ฉลากอาหารที่มขี ้อความ รูป รูปภาพ รอยประดิษฐ์ เครื่องหมายหรือเครื่องหมายการค้า ไมว่ ่าจะ เป็นภาษาใดที่ปรากฏในฉลาก ต้องไมเ่ ป็นเทจ็ หรือหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไมส่ มควร หรือไมท่ า ให้เข้าใจผิดใน สาระสาคญั ไมแ่ สดงถงึ ช่ืออาหาร สว่ นประกอบอาหาร อตั ราสว่ นของอาหาร ปริมาณของอาหาร หรือแสดงถงึ สรรพคณุ ของอาหารอนั เป็นเทจ็ หรือเกิดหลอกลวงให้เกิดความหลงเช่ือ นอกจากจะไมท่ าให้ผ้บู ริโภคเข้าใจผิดในสาระสาคญั ดงั ที่กลา่ วข้างต้นแล้ว ฉลากอาหารต้อง ไมท่ า ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือขดั กบั วฒั นธรรมอนั ดีงามของไทย หรือสอ่ ไปทางทาลายคณุ คา่ ของ ภาษาไทยอีก ด้วย เลขทะเบียนตารับอาหาร อาหารควบคมุ เฉพาะทผ่ี ้ผู ลิตเข้าขา่ ยเป็นโรงงานที่ได้รับอนญุ าตผลิตอาหาร หรือผ้นู าเข้ามาใน ประเทศท่ีได้รับใบอนญุ าตนาหรือสงั่ อาหารเข้ามาในราชอาณาจกั ร จะต้องได้รับอนญุ าตให้ขนึ ้ ทะเบียน ตารับอาหาร และผ้ผู ลิตหรือผ้นู าเข้า ต้องแสดงเลขทะเบยี นตารับอาหารนีไ้ ว้บนฉลากอาหารนนั้ ดงั นี ้ รูปแบบของการแสดงเลขทะเบยี นตารับอาหาร เช่น สีและขนาดตวั อกั ษรต้องเป็นไปตามแบบที่กาหนด ในกรอบสี่เหล่ียม ตวั อกั ษรตวั แรกจะเป็น “ผ” หรือ “ส” อกั ษร “ผ” หมายถงึ ผลติ ภายในประเทศ อกั ษร “ส” หมายถงึ นาสงั่ เข้ามาในราชอาณาจกั ร อกั ษรตามตวั “ผ” หรือ “ส” จะมี 1-2 ตวั เป็นอกั ษรยอ่ แสดงประเภทของอาหารควบคมุ เฉพาะ เชน่

37 “ผต” หมายถงึ อาหารควบคมุ เฉพาะประเภทช็อกโกแลตซงึ่ ผลิตในประเทศ “สท” หมายถงึ อาหารควบคมุ เฉพาะประเภทชาและนาเข้ามาจากตา่ งประเทศ ตวั เลขหลงั ตวั อกั ษร แสดงลาดบั ทไ่ี ด้รับเลขทะเบียนตารับอาหารในปีพทุ ธศกั ราชที่ระบไุ ว้ หลงั เคร่ืองหมาย ......../.... เชน่ ผช.8/2538 หมายถงึ อาหารควบคมุ เฉพาะประเภทนา้ ส้มสายชซู งึ่ ผลิตในประเทศ ได้รับเลข ทะเบยี นตารับอาหารในปีพทุ ธศกั ราช 2538 ลาดบั ท่ี 8 เลขท่อี นุญาตให้ใช้ฉลากอาหาร อาหารที่ต้องย่ืนขออนญุ าตให้ใช้ฉลาก เมอ่ื ได้รับอนญุ าตแล้ว ผ้ผู ลิตหรือผ้นู าเข้าจะต้องแสดงเลขท่ี อนญุ าตให้ใช้ฉลากอาหารบนฉลาก ดงั นี ้ รูปแบบของการแสดงเลขที่อนญุ าตฉลากอาหาร เชน่ เลขท่ีอนญุ าตฉลากอาหาร ต้องอย่ใู นกรอบ ตดั กบั สพี นื ้ ของฉลาก ขนาดตวั อกั ษรจะต้องมขี นาดที่เหมาะสมกบั พนื ้ ท่ีของฉลาก แตต่ ้องไมเ่ ลก็ กว่า 2 มลิ ลเิ มตร การใช้ตวั อกั ษรแสดงประเภทของอาหารและแหลง่ ผลติ เป็นลกั ษณะเดยี วกบั การแสดงเลข ทะเบยี นตารับอาหาร แตเ่ พมิ่ อกั ษร “ฉ” ไว้ข้างหน้า 1 ตวั เชน่ ฉผช. 25/2529 หมายถงึ อาหารประเภทซอส ผลิตในประเทศได้รับอนญุ าตฉลากอาหาร ในปีพทุ ธศกั ราช 2529 เป็นลาดบั ที่ 25 อนั ดบั ประเภทอาหาร เลขทะเบียน เลขอนุญาตให้ใช้ ตารับ ฉลากอาหาร 23. นา้ ปลา อาหาร ผลติ นาเข้า 24. นา้ ผงึ ้ ผลติ นาเข้า 25. นา้ มนั เนย ผนป. สนป. ฉผนป. - 26. นา้ มนั ถวั่ ลสิ ง ผฮ. สฮ. -- 27. นา้ มนั ปาล์ม ผนม. สนม. ฉผนม. - 28. นา้ มนั มะพร้าว ผมส. สมส. ฉผมส. - 29. นา้ มนั และไขมนั ผมป. สมป. ฉผมป. - 30. นา้ แร่ ผมพ. สมพ. ฉผ - 31. นา้ ส้มสายชู ผม. สม. มพ. - 32. เนย ผนร. สนร. ฉผม. - 33. เนยแขง็ ผช. สช. ฉผนร. - ผนน. สนน. ฉผช. - ผนข. สนข. ฉผนน. -

38 34. เนยเทียม ผม. สมก. ฉผนข. - 35. เนือ้ สตั ว์ ไขแ่ ละผลิตภณั ฑ์ - - ฉผมก. ฉสน. 36. แป้ งข้าวกล้อง -- - ฉสปภ. 37. แป้ งและผลิตภณั ฑ์จากแป้ ง -- ฉผปภ. ฉสปภ. 38. ผลิตภณั ฑ์กระเทียม -- - ฉสกท. 39. ผลิตภณั ฑ์ของนม ผนผ. สนผ. ฉผกท. - 40. แยม เยลลี่ และมาร์มาเลด ผยย. สยย. ฉผนผ. - 41. รอยลั เยลลแี่ ละผลติ ภณั ฑ์รอยลั เยลล่ี ผรย. สรย. ฉผยย. - 42. วตั ถเุ จือปนอาหาร ผจ. สจ. ฉผรย. - 43. วตั ถแุ ตง่ กลนิ่ รส -- ฉผจ. ฉสว. 44. วตั ถทุ ่ีใช้ปรุงแตง่ รสอาหาร ผปต. สปต. ฉผว. - 45. ว้นุ สาเร็จรูปและขนมเยลล่ี -- ฉผปต. ฉสวล. 46. สีผสมอาหาร ผส. สส. ฉผวล. - 47. หมากฝรั่งและลกู อม -- ฉผส. ฉสก. 48. อาหารกงึ่ สาเร็จรูป ผกส. สกส. ฉผล. - 49. อาหารขบเคยี ้ ว และขนมต่าง ๆ- - ฉผกส. ฉสขค. 50. อาหารสาหรับผ้ทู ี่ต้องการควบคมุ นา้ หนกั ผคน. สคน. ฉผขค. - 51. อาหารฉายรังสี -- ฉผคน. ฉสอร. 52. อาหารทว่ั ไป -- ฉผอร. ฉสทป. 53. อาหารในภาชนะบรรจทุ ี่ปิดสนิท ผก. สก. ฉผทป. - 54. อาหารมวี ตั ถปุ ระสงค์พิเศษ -- ฉผก. ฉสษ. 55. อาหารเสริมสาหรับทารกและเดก็ เลก็ ผสด. สด. ฉผษ. - 56. ไอศกรีม ผอ. สอ. ฉผสด. - 57. ผลิตภณั ฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถวั่ เหลอื ง - - ฉผอ. ฉสซ. 58. อาหารท่ีมีวตั ถทุ ี่ใช้เพื่อรักษาคณุ ภาพหรือมาตรฐาน - - ฉผซ. ฉสวซ. ของ ฉผวซ. 59. อาหารรวมอยใู่ นภาชนะบรรจุ *- - 60. พชื ผกั ผลไม้ ถวั่ และผลติ ภณั ฑ์ ผทร. สทร. - ฉสผ. ฉผทร. - อาหารทารกและอาหารสตู รตอ่ เนื่องสาหรับทารกและ เดก็ เลก็

39 หมายเหตุ : * สาหรับอาหารท่ีมวี ตั ถทุ ่ีใช้เพอื่ รักษาคณุ ภาพหรือมาตรฐานของอาหารรวมอยใู่ นภาชนะ บรรจุ ให้ใช้อกั ษรยอ่ ของประเภทอาหาร ตามประเภทของอาหารทมี่ ี วตั ถทุ ่ีใช้เพอื่ รักษาคณุ ภาพหรือ มาตรฐานของอาหารรวมอยู่ การแสดงรายละเอียดบนฉลากอาหาร 1. ช่ืออาหาร 2. การแสดงข้อความและรูปภาพที่ฉลาก 3. ข้อความและคาเตอื นในฉลาก 4. การแสดงวนั เดอื นปีที่ ผลติ /หมดอาย/ุ ควรบริโภคกอ่ น 1. ช่อื อาหาร - ต้องไมท่ าให้เข้าใจผิดในสาระสาคญั ไมเ่ ป็นเท็จ ไมเ่ ป็นการหลอกลวงทาให้เกิดความหลงเชือ่ ทา ให้เข้าใจผิดหรือขดั กบั วฒั นธรรมอนั ดงี ามของไทย หรือสอ่ ไปในทางทาลายคณุ คา่ ทางภาษาไทย มี ข้อความตอ่ เน่ืองกนั ไปในแนวนอนขนาดตวั อกั ษรใกล้เคยี งกนั อา่ นได้ชดั เจน และใช้ชื่ออยา่ งใดอย่างหนงึ่ ดงั นี ้ ก.ชื่อเฉพาะของอาหาร ชื่อสามญั ช่ือที่แสดงประเภทหรือชนิดของอาหาร หรือชื่อท่ีใช้เรียกอาหาร ตามปกติ เช่น มนั ฝรั่งทอดกรอบ, นา้ หวานเข้มข้นกล่นิ สละ ข.ชื่อทางการค้า การใช้ช่ือนีจ้ ะต้องมีข้อความแสดงประเภทหรือชนิดของอาหารที่กากบั ชื่อด้วย เช่น บบู ู (กาแฟแท้), บ๊ิกดบ๊ิ (ไอศกรีมนม) - ช่ืออาหารภาษาตา่ งประเทศและช่ืออาหารภาษาไทย ต้องมีความหมายสอดคล้องกนั เชน่ ลกู เกดสเี หลือง Golden raisin - ช่ืออาหารต้องเป็นไปตามท่ีประกาศฯกาหนด เชน่ การแสดงช่ืออาหารของเคร่ืองดื่มที่มี หรือที่ทาจากผลไม้ พชื หรือผกั ,เคร่ืองดื่มที่ทาจากกลิน่ หรือรสผลไม้, เคร่ืองด่ืมชนิดเข้มข้น, เคร่ืองดืม่ ชนิด แห้ง, นมเปรีย้ ว, นมโค, ว้นุ สาเร็จรูปและขนมเยลลี่กาหนดให้แสดงชื่อของวตั ถทุ ่ีเป็นตวั ทาให้น่มุ และ ยืดหย่นุ เป็นว้นุ เป็นคากากบั ชื่อ

40 1.1 การนาสตู รส่วนประกอบมาเป็ นส่วนของช่ืออาหาร หมายเหตุ : ต้องแสดงปริมาณสว่ นประกอบท่ีใช้ เป็นร้อยละของนา้ หนกั บนฉลาก ทกุ กรณี 1.2 การแสดงข้อความเก่ียวกับการแบ่งคุณลกั ษณะเช่น รสชาติ เนือ้ สมั ผัส(texture) รวมถงึ ปริมาณ และกรรมวธิ กี ารผลติ หรือ ระดบั (เกรด) ของผลติ ภณั ฑ์ เป็ นส่วนของช่อื อาหาร อนญุ าตการแสดงข้อความดงั กลา่ วได้ เชน่ Extra , Premium , Finest , Best , สตู รพิเศษ เป็นต้น โดยบริษัทต้องมขี ้อมลู เกี่ยวกบั การจดั แบง่ คณุ ลกั ษณะหรือระดบั (เกรด) ของผลิตภณั ฑ์ หมายเหตุ : ผลิตภณั ฑ์ท่ีมขี ้อมลู การจดั แบง่ คณุ ลกั ษณะหรือระดบั (เกรด)จากหนว่ ยงานราชการ หรือ หน่วยงานที่เป็นสากล ไว้เฉพาะ เช่น สานกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อตุ สาหกรรม ,CODEX เป็นต้น การแสดงข้อความดงั กลา่ วจะต้องปฏิบตั ติ ามเง่ือนไข ที่หนว่ ยงานดงั กลา่ วกาหนดไว้ 1.3 การแสดงข้อความ “ธรรมชาตแิ ท้ 100%” เป็ นส่วนของช่อื อาหาร กรณีผลติ ภณั ฑ์นนั้ เป็น ผลติ ภณั ฑ์ตามธรรมชาติ ไมผ่ ่านกระบวนการผลติ ท่ีทาให้คณุ สมบตั ผิ ลิตภณั ฑ์ตา่ งไปจากเดมิ อนญุ าตให้ แสดงข้อความดงั กลา่ วได้ เช่น นา้ แร่ธรรมชาตแิ ท้ 100% 1.4 การแสดงข้อความ “ธรรมชาต”ิ เป็ นส่วนของช่อื อาหาร กรณีเป็นอาหารท่ีเป็นผลติ ผล ตามธรรมชาตทิ ี่ยงั ไมไ่ ด้แปรรูป เชน่ พชื ผกั ผลไม้ และ เนือ้ สตั ว์ เป็นต้น หรือ มกี ระบวนการแปรรูปเฉพาะทางกายภาพ เช่น นา้ มนั มะกอกธรรมชาติ 1.5 การแสดงข้อความ “แท้ 100%” เป็ นส่วนของช่อื อาหาร กรณีเป็นผลติ ภณั ฑ์ชนิดนนั้ เพียง อย่างเดียว 100% โดยไมม่ ีการเตมิ ส่ิงอ่ืนใดลงไป อนญุ าตให้แสดงข้อความดงั กลา่ วได้เช่น นา้ แตงโมแท้ 100% , นมแพะแท้ 100% , นมโคแท้ 100% 1.6 การแสดงข้อความ “แท้” เป็ นส่วนของช่อื อาหาร อนุญาตในกรณี นา้ ปลาแท้ 1.6.1 อาหารที่มปี ระกาศกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดไว้เป็นการเฉพาะ เช่น กาแฟแท้ , 1.6.2 กรณีผลิตภณั ฑ์ชนิดนนั้ มีเพยี งอย่างเดยี ว 100%และไมม่ กี ารเตมิ ส่งิ อ่นื ใดลงไป 1.7 การแสดงข้อความ “สด” เป็ นส่วนของช่อื อาหาร อนุญาตในกรณี 1.7.1 อาหารที่เป็นผลติ ผลตามธรรมชาติท่ียงั ไมไ่ ด้แปรรูป เชน่ พชื ผกั ผลไม้ และ เนือ้ สตั ว์ เป็นต้น

41 1.7.2 อาหารที่มรี ะยะเวลาในการจาหนา่ ยไม่เกิน 3 วนั นบั จากวนั ที่ผลติ เชน่ ขนมปัง 1.7.3 นมที่ผ่านกรรมวิธีฆา่ เชือ้ ท่ีอณุ หภมู ิไมเ่ กิน 80 องศาเซลเซยี ส 2. การแสดงข้อความและรูปภาพท่ฉี ลาก 2.1 อนญุ าตการแสดงเคร่ืองหมายฮาลาล จากสานกั งานคณะกรรมการกลางอิสลามแหง่ ประเทศ ไทยเคร่ืองหมายมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม (มอก.) รางวลั ตา่ งๆท่ีได้รับจากหนว่ ยงานของราชการ เท่านนั ้ 2.2 ไมอ่ นญุ าตให้แสดงเครื่องหมายเชลล์ชวนชมิ แม้ช้อยนางรา หรือรางวลั ตา่ งๆท่ีมใิ ชห่ นว่ ยงาน ราชการจดั ขนึ ้ 2.3 อนญุ าตข้อความแสดงวา่ สถานท่ีผลิตผา่ นเกณฑ์การตรวจประเมิน ตามประกาศกระทรวง สาธารณสขุ เกี่ยวกบั หลกั เกณฑ์วิธีการท่ีดีในการผลิตอาหาร (GMP)ให้แสดงข้อความดงั นี ้ “ผ่านการตรวจประเมนิ สถานท่ีผลิตตามหลกั เกณฑ์วิธีการท่ีดีในการผลติ อาหาร (GMP)” หรือ “ผ่านการตรวจประเมินสถานทีผ่ ลิตตาม GMP กฎหมาย” หรือ “ผ่านการตรวจ GMP กฎหมาย” การแสดงวา่ สถานที่ผลติ ผา่ นเกณฑ์การตรวจประเมินและได้รับการรับรองระบบประกนั คณุ ภาพด้านอาหาร นอกเหนือจากข้างต้นให้เป็นไปตาม ประกาศสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา เร่ืองหลกั เกณฑ์การ แสดงข้อความบนฉลากอาหารเก่ียวกบั การได้รับการตรวจประเมินสถานท่ีผลติ ลงวนั ท่ี 30 เมษายน 2550 กาหนด 2.4 ตารางการแสดงรูปภาพสว่ นประกอบบนฉลากผลติ ภณั ฑ์ กรณี เง่อื นไขการแสดง หมายเหตุ 1. ใสส่ ว่ นประกอบนนั้ ต้องแสดงปริมาณสว่ นประกอบนนั้ ในสว่ นของการแสดงสว่ นประกอบ สาคญั บนฉลากด้วย ยกเว้น กรณีอาหารนนั้ มสี ว่ นประกอบที่สาคญั เพียงอย่างเดียว ซงึ่ ได้รับการยกเว้น ไมต่ ้องแสดงปริมาณสว่ นประกอบ 2. ใสเ่ ฉพาะวตั ถแุ ตง่ กลนิ่ รส หากรูปภาพนนั้ ทาให้เข้าใจผิดในสาระสาคญั ต้องแสดงข้อความ กากบั รูปภาพว่า “ภาพ…..ส่อื ถงึ กล่ินรสเทา่ นนั้ ” ด้วยตวั อกั ษรอา่ นได้ชดั เจน ฉลากอาหารท่ีมีขนาดเลก็ แสดงข้อความกากบั รูปภาพไว้ที่ฉลากภาชนะบรรจรุ วมท่ีจาหน่ายโดยตรงตอ่ ผ้บู ริโภคได้ 3. ไมม่ ีวตั ถนุ นั้ ในผลิตภณั ฑ์ แตเ่ ป็นการแนะนาให้ผ้บู ริโภคเติม ต้องแสดงข้อความท่สี อ่ื ถงึ การ แนะนา เช่น “อาจเตมิ ผลไม้เพอ่ื เพม่ิ รสชาติ” 3.ข้อความและคาเตอื นในฉลากอาหาร ท่ีประกาศกระทรวงสาธารณสขุ และสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยากาหนดให้แสดงท่ีฉลาก เชน่ ประเภทอาหาร ข้อความ / คาเตอื น หมายเหตุ

42 -อาหารที่มีใบแปะก๊วยและสารสกดั จากใบแปะก๊วย - เดก็ และสตรีมคี รรภ์ ไมค่ วร รับประทาน - อาจมผี ลให้เลือดแขง็ ตวั ช้า ประกาศฯ 255 (2545) -อาหารที่มีสว่ นผสมของวา่ นหางจระเข้ - “เดก็ ไมค่ วรรับประทาน” - “ไมใ่ ช่อาหารทางการแพทย์” - “หยดุ บริโภคเมอ่ื มีอาการผิดปกติ” [ด้วยตวั อกั ษรสีแดง ขนาดไมต่ า่ กว่า 2 มม. เหน็ ชดั เจนในกรอบสีเ่ หลี่ยมสขี องกรอบตดั กบั สขี องพนื ้ ฉลาก] ประกาศฯ 245 (2544) -อาหารท่ีมีวตั ถทุ ี่ใช้เพือ่ รักษาคณุ ภาพหรือมาตรฐานของอาหาร รวมอย่ใู นภาชนะบรรจุ - “มี …. “ (ความท่ีเว้นไว้ให้ระบลุ กั ษณะของภาชนะบรรจแุ ละชนิดของวตั ถทุ ี่ใช้เพ่อื รักษา คณุ ภาพหรือมาตรฐานของอาหาร เช่น ซองวตั ถกุ นั ชืน้ เป็นต้น) [ด้วยตวั อกั ษรสีแดง ขนาดไมต่ า่ กว่า 3 มม. บนพนื ้ สีขาว] ประกาศฯ 244 (2544) - สรุ า - “คาเตอื น : - ห้ามจาหนา่ ยสรุ าแก่เดก็ อายตุ า่ กวา่ 18 ปี - การด่มื สรุ าทาให้ความสามารถในการขบั ข่ีลดลง - เดก็ อายตุ ่ากวา่ 18 ไมค่ วรด่ืม ”[ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า 5มม.อยุ่ ในกรอบที่แยกสว่ นจากข้อความอน่ื สีของกรอบและข้อความตดั กบั สีพนื ้ ของฉลากจนอา่ นได้ชดั เจน] ประกาศฯ 275 (2546) - เคร่ืองดม่ื ท่ีผสมแคฟเฟอีน - “ห้ามดมื่ เกินวนั ละ 2 ขวด เพราะหวั ใจจะสน่ั นอนไม่ หลบั เดก็ และสตรีมีครรภ์ไมค่ วรดมื่ ผ้ปู ่ วยปรึกษาแพทย์กอ่ น” [ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ สีแดง ขนาดความสงู ไม่ น้อยกวา่ 2 มม. ในกรอบสเี่ หลย่ี มพนื ้ ขาว สขี องกรอบตดั กบั สีของพนื ้ ฉลาก] มีสารแคฟเฟอีนเป็นสว่ นผสม ได้ในปริมาณ ไมเ่ กิน 50 มิลลกิ รัมตอ่ หนว่ ยบรรจุ ประเภทอาหาร ข้อความ / คาเตอื น หมายเหตุ - เครื่องดื่มท่ีใช้วตั ถแุ ตง่ กล่นิ รสท่ีมีกาเฟอนี ตามธรรมชาติ - “มกี าเฟอนี ” [ด้วยตวั อกั ษร ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า2 มิลลิเมตร ท่ีอา่ นได้ชดั เจน อยใู่ นบริเวณเดียวกบั ชื่ออาหารหรือเครื่องหมาย การค้า] ประกาศฯ 290 (2548) - นา้ แร่ - “มฟี ลอู อไรด์” (สาหรบั นา้ แร่ธรรมชาตทิ ี่มีปริมาณฟลอู อไรด์ > 1 มก./1 ล.)และ เพม่ิ - “ผลิตภณั ฑ์นีไ้ มเ่ หมาะสาหรับทารกและเดก็ ท่ีอายตุ ่ากวา่ 7 ปี ” (สาหรับนา้ แร่ธรรมชาติท่ี มีปริมาณฟลอู อไรด์ > 2 มก./1 ล.)[ด้วยตวั อกั ษรขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า 2 มม. ในกรอบส่ีเหลยี่ มสแี ดง พนื ้ ขาว]ประกาศฯ 199 (2543) - นา้ แขง็ - “นา้ แขง็ ใช้รับประทานได้” หรือ

43 - “นา้ แขง็ ใช้รับประทานไมไ่ ด้” แล้วแตก่ รณี [ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ สีนา้ เงินหรือแดง ขนาด ความสงู ไมน่ ้อยกว่า 5 มม.] ประกาศฯ 78 (2527) - เคร่ืองดืม่ เกลอื แร่ - “เดก็ และทารกไมค่ วรรบั ประทาน” - “เฉพาะผ้สู ญู เสียเหง่ือจากการออกกาลงั กาย ไมค่ วรรับประทานเกินวนั ละ …. หนว่ ย” (ความที่เว้นไว้ให้ระบจุ านวนหนว่ ยท่ีควรบริโภค จานวนดงั กลา่ วเมื่อรวมกนั แล้วจะต้องไมเ่ กินวนั ละ 1 ลติ ร) [ด้วยตวั อกั ษรขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า 2 มม. เห็นได้ชดั เจนในกรอบสเ่ี หลี่ยม สีแดง พนื ้ ขาว] ประกาศฯ 195 (2543) - นา้ มนั และไขมนั (ที่มีวตั ถปุ ระสงค์ที่จะนามาใช้ เพ่อื ประโยชน์อยา่ งอืน่ นอกจากใช้ รับประทานหรือใช้ปรุงแตง่ ในอาหาร) - “ห้ามใช้รับประทาน” [ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ สีแดงขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า 1 ซม. ใน กรอบสเ่ี หลย่ี มพนื ้ สขี าว สีของกรอบตดั กบั สพี นื ้ ของฉลาก) ให้แสดงรหสั ครัง้ ท่ีผลติ ด้วย - นา้ ปลาใช้เกลอื โพแทสเซียมคลอไรด์ - “ใช้โพแทสเซียมคลอไรด์ไมเ่ หมาะสมสาหรับ ผ้ปู ่ วยโรคไต“ ด้วยอกั ษรสีแดง ขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 2 มม. ประกาศฯ 203 (2543) ประเภทอาหาร ข้อความ / คาเตอื น หมายเหตุ - นมโค ชนิดดงั นี ้ นมผงชนิดพร่องมนั เนย นมผงชนิดขาดมนั เนย นมข้นไมห่ วานชนิดพร่องมนั เนย นมข้นไมห่ วานชนิดขาดมนั เนย นมข้นคืนรูปไมห่ วานชนดิ พร่องมนั เนย นมข้นคืนรูปไมห่ วานชนดิ ขาดมนั เนย นมแปลงไขมนั ชนิดเตม็ ไขมนั นมแปลงไขมนั ชนิดพร่องไขมนั นมผงแปลงไขมนั ชนิดเตม็ ไขมนั นมผงแปลงไขมนั ชนิดพร่องไขมนั นมข้นแปลงไขมนั ไมห่ วานชนิดเตม็ ไขมนั นมข้นแปลงไขมนั ไมห่ วานชนิดพร่องไขมนั - “อยา่ ใช้เลยี ้ งทารก” [ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ สีแดง ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกวา่ 5 มม. ใน กรอบสี่เหล่ยี มพนื ้ ขาว สขี องกรอบตดั กบั สีพนื ้ ของฉลาก] ประกาศฯ 265 (2545) - นมโค ชนิดดงั นี ้

44 นมข้นหวานชนิดเตม็ มนั เนย นมข้นหวานชนิดพร่องมนั เนย นมข้นหวานชนิดขาดมนั เนย นมข้นคืนรูปหวานชนิดเตม็ มนั เนย นมข้นคืนรูปหวานชนิดพร่องมนั เนย นมข้นคนื รูปหวานชนิดขาดมนั เนย นมข้นแปลงไขมนั หวานชนิดเตม็ ไขมนั นมข้นแปลงไขมนั หวานชนิด พร่องไขมนั - “อย่าใช้เลยี ้ งทารกอายตุ า่ กวา่ 1 ปี ” [ด้วยตวั อกั ษรเส้นทบึ สแี ดง ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกวา่ 5 มม. ในกรอบสเ่ี หลยี่ มพนื ้ ขาว สีของกรอบตดั กบั สี พนื ้ ของฉลาก] ประกาศฯ 265 (2545) ประเภทอาหาร ข้อความ / คาเตือน หมายเหตุ - อาหารสาหรับผ้ทู ่ีต้องการควบคมุ นา้ หนกั ประกาศฯ 121 (2532) 1) อาหารท่ีผ้ตู ้องการควบคมุ นา้ หนกั ใช้กินแทนอาหารท่ีใช้กินตามปกติใน 1 มอื ้ หรือมากกว่า 1 มอื ้ หรือแทนอาหารทงั้ วนั - “กินอาหารนีโ้ ดยไมไ่ ด้อยภู่ ายใต้การดแู ลของแพทย์ผ้เู ชี่ยวชาญ ด้านโภชนบาบดั อาจเกิดอนั ตราย”[ด้วยอกั ษรเส้นทบึ สแี ดง ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า5มม.] - “ใช้สาหรับผ้ใู หญ่เท่านนั้ ”- “ควรกินวนั ละไมต่ า่ กวา่ 800 กิโลแคลอร่ี (3344 กิโลจลู )” 2) อาหารลดพลงั งานและอาหารพลงั งานตา่ - “ห้ามกินแทนอาหารมอื ้ ใด มอื ้ หนงึ่ ” [ด้วยอกั ษรเส้นทบึ สีแดง ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า 5 มม.] - “กินอาหารนีโ้ ดยมไิ ด้อยภู่ ายใต้การดแู ลของแพทย์ผ้เู ชี่ยวชาญด้านโภชนบาบดั อาจเกิด อนั ตราย”[ด้วยอกั ษรเส้นทบึ สีแดง ขนาดความสงู ไมน่ ้อยกว่า5 มม.] - “ใช้สาหรับผ้ใู หญ่เทา่ นนั้ ” - ข้าวเติมวิตามนิ - “ไมค่ วรล้างนา้ เพื่อไมใ่ ห้วิตามินสญู หาย” - “เกบ็ ในท่ีแห้งและไมถ่ กู แสงแดด” ประกาศฯ 150 (2536) - แป้ งข้าวกล้อง - “อยา่ ใช้เลยี ้ งทารกแทนนมแม”่ [ด้วยตวั อกั ษรสแี ดง ขนาดไมเ่ ลก็ กว่า 5 มม. และต้องมีสตี ดั กบั สพี นื ้ ฉลากไว้ใต้คาวา่ “แป้ งข้าวกล้อง”] ประกาศฯ 44 (2523) - เกลอื บริโภค - “ควรเกบ็ ในที่ร่มและแห้ง” ประกาศฯ 153 (2537) - ว้นุ สาเร็จรูป - “เดก็ ควรบริโภคแตน่ ้อย” [ด้วยอกั ษรสีแดง ขนาด 5 มม. ใน กรอบพนื ้ สีขาว] ประกาศฯ 100 (2529) - กาแฟพร้อมบริโภคชนิดเหลวชาปรุงสาเร็จพร้อมบริโภคชนิดเหลว - “มี กาเฟอีน…..มิลลกิ รัมตอ่ 100 มิลลิลติ ร“ ความท่ีเว้นไว้ให้แสดงปริมาณกาเฟอีน[ด้วยอกั ษรสีเข้มเส้นทบึ

45 ความสงู ไมน่ ้อยกวา่ 2 มม. อา่ นได้ชดั เจน อย่ใู นกรอบพนื ้ สขี าวบริเวณเดยี วกบั ชื่ออาหารหรือเครื่องหมาย การค้า] ประกาศฯ 276 (2546) ประกาศฯ 277 (2546) ประเภทอาหาร ข้อความ / คาเตอื น หมายเหตุ - ผลติ ภณั ฑ์เสริมอาหารทกุ ชนิด - “เดก็ และสตรีมคี รรภ์ไมค่ วรรับประทาน”[ข้อความ “คา เตอื น” ขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 1.5 มม. ในกรอบส่ีเหลยี่ ม สีกรอบตดั กบั สีพนื ้ ฉลาก] - “ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสดั สว่ นท่ีเหมาะสมเป็นประจา” [ด้วยสแี ละขนาดของตวั อกั ษรเห็นได้ชดั เจน] - “ไมม่ ีผลในการป้ องกนั หรือรักษาโรค”[ด้วยตวั อกั ษรหนาทบึ เหน็ ได้ชดั เจนโดยแสดงอยู่ ในกรอบ และสีของตวั อกั ษรตดั กบั สีพนื ้ ของกรอบ] ประกาศฯ 293 (2548)ประกาศฯ 309 (2550) ผลิตภณั ฑ์เสริมอาหารบางชนิด ต้องแสดงข้อความคาเตือนเพิม่ เตมิ ตาม ตารางการแสดงคาเตือน แนบท้ายประกาศสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา เร่ือง คาชีแ้ จงประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบบั ที่ 293) พ.ศ.2548 เรื่อง ผลติ ภณั ฑ์เสริมอาหาร และประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบบั ที่ 294) พ.ศ. 2548 เร่ือง รอยลั เยลลีและผลติ ภณั ฑ์รอยลั เยลลี 4. การแสดง วนั เดอื นปี ท่ผี ลติ / หมดอายุ/ ควรบริโภคก่อน ตารางการแสดง วนั เดอื นปีท่ีผลติ / หมดอาย/ุ ควรบริโภคก่อน ของผลิตภณั ฑ์อาหาร กรณี ช่อื อาหาร เง่อื นไขการแสดง 1.ผลติ ภณั ฑ์มกี ารใส่ สว่ นประกอบนนั้ - อนญุ าตให้แสดงสว่ นประกอบนนั้ เป็น - มีปริมาณสว่ นประกอบ สว่ นของช่ืออาหาร นนั้ ตงั้ แต1่ 0%*รวมถงึ เชน่ ข้าวเกรียบ ใสก่ ้งุ 10% อนญุ าตชื่อ อาหารบางประเภทที่ไม่ “ข้าวเกรียบก้งุ ” สามารถใสม่ ากจนถงึ ขนมปัง ใสล่ กู เกด 10% อนญุ าตช่ือ 10%ได้ เช่น โสม “ขนมปังลกู เกด” ช็อกโกแลต กาแฟ เนย *ลกู อม ใสก่ าแฟ น้อยกวา่ 10% มะนาว มะขาม อนญุ าตช่ือ “ลกู อมกาแฟ” -อนญุ าตให้แสดง“...รส...”(ความท่ีเว้น - มีปริมาณสว่ นประกอบ ไว้ให้ระบสุ ว่ นประกอบที่ใช้) นนั้ น้อยกว่า10% เป็นสว่ นของช่ืออาหาร เช่น โจ๊กกงึ่ สาเร็จรูป ใสก่ ้งุ น้อยกวา่ 10%ให้ใช้ช่ือ

46 “โจ๊กกงึ่ สาเร็จรูปรสก้งุ -อนญุ าตให้แสดง“...ผสม...”(ความท่ี - มสี ว่ นประกอบนนั้ อยู่ เว้นไว้ให้ระบสุ ว่ นประกอบที่ใช้) จริง เป็นสว่ นของชื่ออาหาร เชน่ กาแฟ สาเร็จรูปผสมคาราเมล , ว้นุ สาเร็จรูปคาราจีแนนผสมผงบกุ 2.ผลติ ภณั ฑ์ไมม่ ี -อนญุ าตให้แสดง“...กลน่ิ …”(ความท่ี -ใสเ่ ฉพาะวตั ถแุ ตง่ กล่ิน สว่ นประกอบนนั้ แตอ่ าจใสว่ ตั ถแุ ตง่ เว้นไว้ให้ระบชุ ื่อวตั ถแุ ตง่ กลิ่นรสที่ใช้) รส กลน่ิ รสตา่ งๆ เป็นสว่ นของชื่ออาหาร เช่น ลกู อม ใสก่ ลิ่นสตรอเบอร์รี ให้ใช้ช่ือ “ลกู อมกล่นิ สตรอเบอร์รี”, หมากฝรั่ง ใสก่ ลิ่นมินต์ ให้ใช้ชื่อ “หมาก ฝรั่งกล่ินมนิ ต์” EU ออกระเบียบฉลากสนิ ค้าอาหารฉบับใหม่ เมอ่ื วนั ที่ 22 พฤศจิกายน 2554 สหภาพยโุ รป (EU) ได้ออกระเบยี บ Regulation (EC) No. 1169/2011 ว่าด้วยการให้ข้อมลู เกี่ยวกบั อาหารแกผ่ ้บู ริโภค บงั คบั ใช้กบั ผ้ปู ระกอบธรุ กิจอาหารในทกุ ขนั้ ตอนตลอดหว่ งโซก่ ารผลิต มีผลบงั คบั ใช้ตงั้ แตว่ นั ท่ี 13 ธนั วาคม 2554 สรุปสาระสาคญั ได้ ดงั นี ้ 1. ข้อมลู เกี่ยวกบั อาหารจะต้องไมท่ าให้ผ้บู ริโภคเข้าใจผิดในลกั ษณะของอาหาร คณุ สมบตั ิ สว่ นประกอบ ปริมาณ ประเทศแหลง่ กาเนิด และวิธีการผลิต 2. สนิ ค้า Prepacked foods จะต้องติดฉลากระบขุ ้อมลู ด้านโภชนาการ ประกอบด้วย ปริมาณ พลงั งาน ไขมนั ทงั้ หมด ไขมนั อมิ่ ตวั คาร์โบไฮเดรต โปรตีน นา้ ตาล และเกลอื เป็นต้น รวมทงั้ ข้อมลู ที่บงั คบั ใช้กบั ฉลากอาหารทกุ ชนิด โดยจะต้องตดิ ฉลากบนสินค้าในจดุ ที่ผ้บู ริโภคสามารถมองเห็นได้ชดั เจน และ แสดงเป็นปริมาณ 100 กรัม หรือ 100 มลิ ลิลติ รตอ่ หนง่ึ หน่วยบริโภค 3. ฉลากสนิ ค้าอาหารที่ระบขุ ้อมลู ด้านโภชนาการจะต้องแสดงข้อมลู ในรูปแบบตาราง หรือแนวตรง 4. ขนาดตวั อกั ษรบนฉลากอาหารจะต้องมขี นาดไมน่ ้อยกว่า 1.2 มลิ ลิเมตร หรือ 0.9 มลิ ลิเมตร หากพนื ้ ที่แสดงข้อมลู บนภาชนะบรรจอุ าหารมีขนาดน้อยกวา่ 80 ตารางเซนตเิ มตร ทงั้ นี ้ ภาชนะบรรจุ

47 อาหารที่มีขนาดน้อยกวา่ 25 ตารางเซนติเมตร ไมต่ ้องแสดงข้อมลู โภชนาการ และภาชนะบรรจอุ าหารท่ีมี ขนาดน้อยกวา่ 10 ตารางเซนตเิ มตร ไมต่ ้องแสดงทงั้ ข้อมลู โภชนาการและรายการสว่ นผสมอาหาร 5. กาหนดให้ระบขุ ้อมลู แหลง่ กาเนิดสนิ ค้าบนฉลากสนิ ค้าเนือ้ หมู เนือ้ แกะ เนือ้ แพะ และเนือ้ สตั ว์ ปีก (เพม่ิ เตมิ จากระเบียบเดมิ ได้แก่ เนือ้ ววั สดและผลติ ภณั ฑ์จากเนอื ้ ววั ผกั และผลไม้ เนอื ้ ปลา นา้ ผงึ ้ นา้ มนั มะกอก) 6. ฉลากสนิ ค้าอาหารทกุ ชนิด จะต้องแสดงชื่อของอาหาร สารท่ีทาให้เกิดโรคภมู แิ พ้ ปริมาณสทุ ธิ และวนั ที่หมดอายุ โดยจะต้องพมิ พ์ตวั อกั ษรที่เน้นให้เหน็ ชื่อสว่ นผสมท่ีทาให้เกิดโรคภมู ิแพ้อย่างชดั เจน 7. สินค้าอาหารที่มีสว่ นผสมหรือเครื่องปรุงท่ีประกอบด้วยสารปรุงแตง่ เลียนแบบธรรมชาติ (imitation food) จะต้องระบรุ ายการสว่ นผสมหรือเคร่ืองปรุงที่ใช้ในการปรุงแตง่ อาหารลงบนฉลากสนิ ค้า เพ่ือให้ผ้บู ริโภคสามารถจาแนกออกได้งา่ ย 8. สินค้าอาหารที่มสี ว่ นผสมของนา้ มนั พืชจะต้องระบรุ ายการนา้ มนั พชื ท่ีใช้ทงั้ หมดลงบนฉลาก สนิ ค้า โดยจดั เป็นกลมุ่ ของ “vegetable oils” และแยกเป็นรายชื่อนา้ มนั พชื แตล่ ะชนิด พร้อมทงั้ สดั สว่ นท่ีใช้ 9. ประเทศสมาชิก EU จะต้องนากฎระเบียบดงั กลา่ วไปบงั คบั ใช้ภายในวนั ที่ 13 ธนั วาคม 2557 สาหรับข้อกาหนด Nutrition Declaration จะนามาบงั คบั ใช้ตงั้ แตว่ นั ท่ี 13 ธนั วาคม 2559 ท่ีมา : กลมุ่ งานมาตรการ TBT สานกั มาตรการทางการค้า กรมการค้าตา่ งประเทศ http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2011:304:0018:0063:EN:PDF การออกแบบฉลากหรือกราฟฟิ กบนบรรจภุ ณั ฑ์ ฉลากท่ีดีต้องสง่ เสริมช่ือสนิ ค้า ให้เป็นท่ีจดจาได้งา่ ย เรียกงา่ ยต้องดงึ ดดู ใจผ้บู ริโภค และให้ ความรู้สกึ ทีด่ ตี อ่ ผ้บู ริโภค ในการออกแบบฉลากต้องแสดงให้เหน็ ความแตกตา่ ง ระหว่างสนิ ค้าประเภท เดยี วกนั ต้องหาจดุ เดน่ ของตนเองและนามาใช้เป็นสอื่ ในการโฆษณา ความสาคัญของการออกแบบกราฟฟิ กบนบรรจุภณั ฑ์ 1. เพ่อื แสดงตวั ผลติ ภณั ฑ์ ในท้องตลาด

48 2. เพอื่ สร้างมลู คา่ เพ่ิมให้แก่ผลิตภณั ฑ์ 3. ทาให้ผ้บู ริโภคทราบถงึ ชนิดของผลิตภณั ฑ์ ท่ีอยภู่ ายใน 4. แสดงให้เห็นถงึ คณุ ประโยชน์และวิธีใช้ ผลิตภณั ฑ์ เพื่อกระต้นุ ให้ผ้บู ริโภคตดั สนิ ใจเลือกซอื ้ โดย การออกแบบ ซง่ึ อาศยั ตวั อกั ษร และภาพ เป็นสอื่ โฆษณาสรรพคณุ ของผลติ ภณั ฑ์ เพ่ือให้เห็นความ แตกตา่ ง ไปจากคแู่ ขง่ ขนั ทงั้ ด้านคณุ ภาพปริมาณ ราคา พร้อมทงั้ มีข้อมลู วิธีการใช้ สว่ นประกอบ ของ ผลติ ภณั ฑ์อาหาร ข้อแนะนาและข้อมลู รายละเอียด เก่ียวกบั ประโยชน์ ของผลติ ภณั ฑ์ 5. สามารถแสดงลกั ษณะเฉพาะของผลิตภณั ฑ์ และผ้ผู ลติ สินค้า การออกแบบกราฟฟิกมีบทบาท และหน้าที่ แสดงถงึ บคุ ลกิ พเิ ศษ ท่ีเป็นลกั ษณะเฉพาะของตน Brand image ของผลติ ภณั ฑ์และผ้ผู ลติ ให้ เกิดความเดน่ ชดั กวา่ คแู่ ขง่ 6. รักษาเอกลกั ษณ์ของผลิตภณั ฑ์ ในชดุ หรือในเครือของผ้ผู ลติ เดยี วกนั กรณี ผ้ผู ลติ ผลิตสนิ ค้า ให้ ผ้บู ริโภค เลือกซอื ้ หลายชนิด หลายขนาด หลายรส หลายกล่นิ ควรออกแบบกราฟฟิกให้มีลกั ษณะคล้ายกนั ทงั้ หมด โดยกาหนดตาแหนง่ องค์ประกอบตา่ งๆไว้ในตาแหนง่ เดียวกนั ใช้แบบอกั ษรชดุ เดยี วกัน ลวดลาย หรือเทคนิคในการตกแตง่ ที่ให้ความรู้สกึ เป็นอนั หนงึ่ อนั เดียวกนั จะแตกตา่ งกนั กต็ รงช่ือของผลติ ภณั ฑ์ ภาพ และ สขี องผลิตภณั ฑ์ เพ่อื ให้เกิดความแตกตา่ งของสินค้าชนิดเดยี วกนั เพ่ือให้ผ้บู ริโภคเลอื กซือ้ ได้ถกู ต้อง 7. เพอื่ ความโดดเดน่ เม่ือวางจาหนา่ ยสนิ ค้า ควรออกแบบกราฟฟิก ให้ลวดลายบนกลอ่ งหนงึ่ สมั พนั ธ์กบั ลวดลาย อกี กลอ่ งหนงึ่ ที่วางเคียงข้างกนั ตราสินค้า มคี วามสาคญั อย่างยิ่ง ในสภาวะเศรษฐกิจ ท่ีมีการแขง่ ขนั สงู ความอย่รู อดของผ้ผู ลติ อยทู่ ่ีการจาหน่ายสินค้าซง่ึ เกิดจากการตดั สนิ ใจของผ้บู ริโภค จงึ ต้องหาวิธี ที่จะทาให้ผ้บู ริโภคใช้และบอกตอ่ กนั เพือ่ ให้หนั มาใช้สนิ ค้า หรือบริโภคสนิ ค้าตวั นนั้ ผ้ผู ลติ สินค้า ท่ีมคี ณุ ภาพ จงึ ต้องสร้างตราสินค้า ของตน เพอ่ื หลกี เล่ียง และป้ องกนั ให้ตนพ้นจากสนิ ค้า ท่ีด้อยคณุ ภาพ ความสาคญั ของตราสนิ ค้าที่มตี อ่ ผ้ผู ลติ หรือผ้จู าหนา่ ย 8. การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ กบั การโฆษณา ให้สามารถใช้กบั งานโฆษณาได้สะดวก จดจางา่ ย รวดเร็วจากผลการวิจยั พบว่า งานกราฟฟิก ทม่ี ลี กั ษณะตรงไปตรงมาใช้ภาพชดั เจน มีองค์ประกอบในการ ออกแบบไมส่ บั สนผ้บู ริโภคมกั จดจาได้ง่ายกวา่ แนวคดิ ในการออกแบบฉลาก กราฟฟิ กบนบรรจุภณั ฑ์ 1. ตราสินค้า Brand คอื การออกแบบช่ือตราสนิ ค้าของผลติ ภณั ฑ์ จะแสดงด้วยตวั อกั ษร และหรือ สญั ลกั ษณ์ ของภาพที่เป็นเอกลกั ษณ์ของผ้ผู ลิต มีลกั ษณะโดดเดน่ ชดั เจน เหมาะสม จดจาง่าย 2. ผลิตภณั ฑ์ Product คือ การนาเสนอข้อมลู ให้ผ้บู ริโภคทราบว่าผลติ ภณั ฑ์ที่บรรจอุ ย่ภู ายใน คอื อะไรควรเน้นข้อดีที่พเิ ศษของผลติ ภณั ฑ์ ที่แตกตา่ งจากตราสนิ ค้าชนิดอ่ืน

49 3. เป้ าหมาย Target หมายถงึ กลมุ่ คนที่ซอื ้ ผลิตภณั ฑ์คือใคร พิจารณาจากเพศ วยั การศกึ ษา การทางานแบง่ ได้ สองลกั ษณะ คือการออกแบบโครงสร้างและการออกแบบกราฟฟิก จะต้องคิดพร้อมๆกนั แตใ่ นทางปฏบิ ตั ิ ต้องออกแบบโครงสร้างกอ่ นอีกรูปแบบหนงึ่ ของการออกแบบกราฟฟิก บน บรรจภุ ณั ฑ์ คอื ฉลากหน้าที่หนง่ึ ของฉลาก คอื ทาหน้าที่เป็นจดุ ขายสินค้า การออกแบบฉลากมีหลกั เกณฑ์ดงั นี้ 1. น่าสนใจ มีความดงึ ดดู ความสนใจ 2. ต้องผลิตให้มรี าคาถกู 3. มคี ณุ ภาพในการพมิ พ์ที่ดี 4. ต้องมีการพฒั นาหรือเปล่ยี นแปลงรูปแบบของฉลาก สาหรับผลติ ภณั ฑ์ แตล่ ะชนิด ตลอดเวลา เอกสารอ้างองิ ยรรยง สนิ ธ์งุ าม. ธกส.วารสาร/วิชาการปริทศั น์ ปีท่ี 13 ฉบบั ที่ 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2548 วธิ ีการทาฉลากสนิ ค้าท่ดี ี เป็นที่แน่นอนสาคญั ที่มกั จะมงุ่ มนั่ ท่ีจะสร้างการออกแบบท่ีนา่ สนใจและมีประสทิ ธิภาพสาหรับการ พมิ พ์ฉลากจะได้รับลกู ค้ามากที่สดุ ในบทความนีผ้ มจะสอนคณุ เทคนิคท่ีสาคญั ไมก่ ี่เพ่อื ให้ฉลากผลติ ภณั ฑ์ ของคณุ ดดู แี ละบรรลเุ ป้ าหมายของคณุ ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพออกแบบ แสดงออก โลโก้ ขนั้ ตอนแรกและที่ สาคญั อาจจะเป็นในการพมิ พ์ฉลากคือการออกแบบป้ ายชื่อหรือโลโก้ของคณุ ทงั้ หมดฉลากผลติ ภณั ฑ์ ต้องโลโก้ ไมว่ ่าจะเป็นโลโก้ของ บริษัท หรือแม้กระทงั่ โลโก้พเิ ศษสาหรับผลิตภณั ฑ์ทกุ ชนดิ ของป้ ายช่ือ เหลา่ นีเ้ป็นส่งิ ท่ีสาคญั เพื่อสร้างเอกลกั ษณ์ของรายการ ป้ ายเป็นที่ซง่ึ คนสว่ นใหญ่จะรู้จกั สนิ ค้าของคณุ มนั จะแสดงชนิดของคณุ ภาพคณุ คา่ และประโยชน์ของผลิตภณั ฑ์ของคณุ มนั เป็นพืน้ เป็นรูปแบบที่มีขนาดเลก็ ของ การจดั การแบรนด์ ซง่ึ จะตรวจสอบว่าคนทจ่ี ะซอื ้ สนิ ค้าของคณุ หรือไม่

50 ดงั นนั้ ที่ถกู กลา่ ววา่ คณุ จะต้องมโี ลโก้ที่แสดงออกมากท่ีสามารถถา่ ยทอดแนวความคดิ ทงั้ หมดที่ บวกอย่ใู นผลติ ภณั ฑ์ของคณุ คนต้องตระหนกั ถงึ วิธีการที่ดีของผลติ ภณั ฑ์ของคณุ ราคาไมแ่ พงและเป็น ประโยชน์โดยการอา่ นฉลาก คณุ สามารถใช้สญั ลกั ษณ์แบบจาลองหรือคาท่ีนา่ จดจาแม้กระทงั่ การทาเช่นนี ้ เพียงให้แน่ใจวา่ คณุ กาลงั ถ่ายทอดความจริงเก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑ์ของคณุ ในข้อความของคณุ เกรงวา่ คณุ จะ ได้รับฟ้ องสาหรับการโฆษณาที่ผิด คานงึ ถงึ บรรจภุ ณั ฑ์ของคณุ นอกเหนือจากการใช้โลโก้ที่แสดงออก นอกจากนีค้ ณุ ยงั จะต้องคานงึ ถงึ บรรจภุ ณั ฑ์ของผลิตภณั ฑ์ของคณุ ในการออกแบบป้ ายชื่อของคณุ คณุ don t ต้องการท่ีจะพมิ พ์ป้ ายขนาดใหญ่บนผลติ ภณั ฑ์ขนาดเลก็ หรือป้ ายขนาดเลก็ ที่เก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑ์ ขนาดใหญ่ คณุ อาจต้องการที่จะเข้าบญั ชีรูปร่างของบรรจภุ ณั ฑ์ของผลิตภณั ฑ์ของคณุ เพอ่ื ท่ีคณุ จะรู้วา่ สิ่งที่ รูปร่างป้ ายผนกึ ของคณุ ควรจะอย่ใู นนีเ้ช่นกนั ทาต้นนีใ้ นการพิมพ์ฉลากของคณุ เพื่อให้คณุ ได้รับรางวลั การ ทางาน T เป็นปัญหา ใช้สติกเกอร์อีกปลายที่ดีสาหรับการพมิ พ์ฉลากท่ีดีที่จะเพียงแคใ่ ช้สตกิ เกอร์ นีจ้ ะเป็นจริงโดยเฉพาะ อยา่ งยิ่งถ้าคณุ เป็นธรุ กิจขนาดเลก็ และ don t มีสายการผลติ ยงั สาหรับบรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ของคณุ การใช้สตกิ เกอร์ท่ีมีป้ ายชื่อของคณุ ควรจะเป็นวิธีที่ง่ายและราคาถกู เพ่ือเพิ่มในโลโก้หรือช่ือผลิตภณั ฑ์ของคณุ คณุ เพียง แคต่ ้องมสี ตกิ เกอร์ที่พมิ พ์ด้วยแนวคิดการออกแบบของคณุ แล้วคณุ เองก็สามารถตดิ ป้ ายท่ีกาหนดเอง เป็น ผลิตภณั ฑ์ท่ีลองใช้วสั ดทุ ่ีทนตอ่ ไปเพอ่ื ปรับปรุงคณุ ภาพทางกายภาพฉลากของคณุ คณุ สามารถลองพิมพ์ ฉลากด้วยวสั ดทุ ่ียากมากและทนตอ่ การป้ องกนั ป้ ายชื่อของคณุ จากความชืน้ และสิง่ สกปรก นีจ้ ะมปี ระโยชน์ มากโดยเฉพาะถ้าสนิ ค้าของคณุ จะเผชิญกบั ความหนาวเยน็ เชน่ ในต้เู ยน็ โดยการเพิ่มการป้ องกนั นีส้ าหรับ ป้ ายชื่อสีควรลดโอกาสของการเสื่อมสภาพของพวกเขา นีช้ ว่ ยเพิ่มอายกุ ารใช้งานของป้ ายช่ือทส่ี ามารถหวงั วา่ ตราบใดที่สนิ ค้าของคณุ อายกุ ารใช้งานเช่นกนั พมิ พ์สเี ตม็ ท้ายท่ีสดุ ไมม่ ีป้ ายชื่อท่ีดไี มไ่ ด้โดยไมม่ ีสี ที่จะ ทาให้ป้ ายชื่อของคณุ เสริมพเิ ศษเสมอพิมพ์พวกเขาท่ีมีสีเตม็ พร้อมกบั ภาพของพวกเขา นีจ้ ะทาให้ป้ ายช่ือที่ ช่ืนชอบ aesthetically หวงั วา่ ผ้นู าท่ีคณุ ต้องการดงึ ดดู ลกู ค้ามากขนึ ้ ดงั นนั้ ผ้ทู ่ีเป็นเคลด็ ลบั งา่ ยๆในการทาฉลากผลติ ภณั ฑ์ที่ดีมี ใช้สิ่งเหลา่ นไี ้ ปยงั หวั ใจและป้ ายชื่อ ผลิตภณั ฑ์ในอนาคตของคณุ จะกลายเป็นท่ีทาสวยดแี ละมีประสทิ ธิภาพ การออกแบบฉลาก ฉลาก เป็นหนงึ่ ในบรรจภุ ณั ฑ์เช่นกนั ความสาคญั ของ ฉลาก คือ 1.แสดงตวั ผลิตภณั ฑ์ 2.บง่ บอกถงึ ความแตกตา่ ง ระหวา่ งสินค้าประเภทเดยี วกนั 3.สร้างมลู คา่ เพมิ่ ให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ 4.ทาให้ผ้บู ริโภคทราบถงึ ชนิดของผลติ ภณั ฑ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook