รวมข้อสอบเก่าวิทย์ 66

;;;;;;;; รวมขอ้ สอบ O-NET ต้ังแตป่ ีการศกึ ษา 2550 – 2565 (16 ป)ี ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 วชิ า วิทยาศาสตร์ by ครูฝนติวเตอร์

สารบัญ หน้า 1 ขอ้ สอบวชิ าวิทยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2550 22 ข้อสอบวชิ าวิทยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2551 43 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปีการศึกษา 2552 66 ข้อสอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ปกี ารศกึ ษา 2553A 75 ขอ้ สอบวิชาวิทยาศาสตร์ปีการศึกษา 2553B 84 ขอ้ สอบวชิ าวิทยาศาสตร์ปีการศกึ ษา 2554 ขอ้ สอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ปีการศกึ ษา 2555 112 ข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2556 133 ข้อสอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ปกี ารศกึ ษา 2557 154 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปีการศึกษา 2558 181 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปกี ารศกึ ษา 2559 207 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปีการศกึ ษา 2560 233 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2561 263 ข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2562 293 ข้อสอบวิชาวทิ ยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2563 323 ขอ้ สอบวชิ าวิทยาศาสตร์ปกี ารศึกษา 2564 353 ข้อสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ปีการศกึ ษา 2565 370

Page 1 of 383

Page 2 of 383

Page 3 of 383

Page 4 of 383

Page 5 of 383

Page 6 of 383

Page 7 of 383

Page 8 of 383

Page 9 of 383

Page 10 of 383

Page 11 of 383

Page 12 of 383

Page 13 of 383

Page 14 of 383

Page 15 of 383

Page 16 of 383

Page 17 of 383

Page 18 of 383

Page 19 of 383

Page 20 of 383

Page 21 of 383

Page 22 of 383

Page 23 of 383

Page 24 of 383

Page 25 of 383

Page 26 of 383

Page 27 of 383

Page 28 of 383

Page 29 of 383

Page 30 of 383

Page 31 of 383

Page 32 of 383

Page 33 of 383

Page 34 of 383

Page 35 of 383

Page 36 of 383

Page 37 of 383

Page 38 of 383

Page 39 of 383

Page 40 of 383

Page 41 of 383

Page 42 of 383

รหัสวิชา 62 สงั คมศึกษา / วิทยาศาสตร หนา 16 วนั พธุ ที่ 3 กมุ ภาพนั ธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. ตอนที่ 2 วทิ ยาศาสตร : จํานวน 37 ขอ (รวม 100 คะแนน) สวนที่ 1 : แบบระบายตัวเลอื ก แตล ะขอ มคี าํ ตอบที่ถกู ตอ งท่ีสดุ เพียงคําตอบเดียว จาํ นวน 32 ขอ : ขอ ละ 2.5 คะแนน 1. การกระทําใดชว ยรักษาพ้นื ท่ปี าใหมคี วามอุดมสมบูรณเพมิ่ ขน้ึ 1. การทาํ ไรเลื่อนลอย 2. การจัดตงั้ อุทยานแหงชาติ 3. การสรา งเขื่อน 4. การขยายเขตอตุ สาหกรรม 2. ตาราง ปริมาณธาตเุ หล็กทน่ี กั เรยี น 4 คนไดรบั นกั เรยี น ปรมิ าณธาตุเหล็ก (มิลลิกรัมตอวัน) คนท่ี 1 10 คนท่ี 2 15 คนท่ี 3 20 คนท่ี 4 16 ถา เด็กในวัยเรียนตอ งไดร ับธาตเุ หล็ก 15 มิลลิกรมั ตอวัน จากตาราง นกั เรยี นคนใดมโี อกาสเปนโรคโลหติ จางมากที่สดุ 1. นกั เรยี นคนท่ี 1 2. นักเรียนคนท่ี 2 3. นกั เรียนคนท่ี 3 4. นักเรียนคนท่ี 4 Page 43 of 383

รหสั วิชา 62 สังคมศกึ ษา / วทิ ยาศาสตร หนา 17 วนั พธุ ที่ 3 กุมภาพนั ธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. 3. ในการทดลองเพาะเมล็ดพืชชนดิ หนึ่งในกระถาง 4 ใบ ทใี่ สด นิ ชนดิ เดยี วกนั และมี ปรมิ าณดินเทา กนั แตน าํ ไปเลยี้ งหรอื วางในที่ซง่ึ มีอณุ หภมู ิตา งกัน นบั จาํ นวนวนั ทีเ่ ริม่ เพาะเมลด็ จนงอกเปนตนกลา มีใบโผลจากดิน ไดผลดงั ตาราง ตาราง จาํ นวนวันทีเ่ พาะเมล็ดจนงอกเปนตน กลาในกระถาง 4 ใบ ที่วางไวใ นบรเิ วณทม่ี อี ุณหภูมติ างกนั กระถางพชื อุณหภูมบิ รเิ วณทว่ี างกระถาง จาํ นวนวนั ท่เี พาะเมล็ด (องศาเซลเซียส) จนงอกเปน ตน กลา (วนั ) ที่ 1 10 ท่ี 2 15 10 ที่ 3 20 9 ที่ 4 25 7 5 อณุ หภมู ใิ ดเหมาะสมตอการงอกของเมลด็ นอยท่ีสุด 1. 10 องศาเซลเซียส 2. 15 องศาเซลเซียส 3. 20 องศาเซลเซียส 4. 25 องศาเซลเซียส Page 44 of 383

รหัสวชิ า 62 สังคมศกึ ษา / วิทยาศาสตร หนา 18 วันพธุ ที่ 3 กมุ ภาพนั ธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. 4. ภาพการเพาะเมลด็ ถ่ัวเขยี วในหลอดทดลอง 2 หลอด ในสภาพตางกันเปนเวลา 5 วัน เรม่ิ เพาะ ตน ถัว่ เขยี ว การทดลองในหลอดที่ 1 เมลด็ ถว่ั เขียว การทดลองในหลอดที่ 2 สาํ ลีชุบนํ้า เพาะแลว 5 วนั เร่มิ เพาะ สาํ ลีแหง สารดดู ความช้นื เมล็ดถว่ั เขยี ว สาํ ลีแหง เพาะแลว 5 วนั จากภาพ เปน การทดลองเพื่อศกึ ษาเร่ืองใด 1. ผลของแสงตอ การงอกของเมลด็ 2. ผลของออกซเิ จนตอการงอกของเมลด็ 3. ผลของความชน้ื ตอ การงอกของเมลด็ 4. ผลของอุณหภมู ิตอ การงอกของเมลด็ Page 45 of 383

รหสั วชิ า 62 สังคมศึกษา / วิทยาศาสตร หนา 19 วนั พธุ ท่ี 3 กมุ ภาพันธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. 5. โรคใดไมถายทอดทางพันธกุ รรม 1. เบาหวาน 2. โรคเลือดใส 3. โรคเหนบ็ ชา 4. โรคกลา มเนือ้ ลบี 6. ตาราง ลกั ษณะลาํ ตัว จาํ นวนขา และบรเิ วณทอ่ี าศัยของสตั ว 4 ชนดิ ชนิดของสตั ว ลักษณะลาํ ตวั จํานวนขา บริเวณทอ่ี าศยั A มีครบี มเี กลด็ ไมมีขา ในน้ํา B ผวิ หนังเปย กชน้ื ไมม ีเกลด็ 4 ขา บนบก C ผวิ หนังแหง มเี กลด็ ปกคลมุ 4 ขา บนบก D มีปก ขนเปน แผง 2 ขา บนบก ถา พบสตั วช นดิ หน่ึงมจี ะงอยปากแข็ง มขี นเปนแผง มเี กล็ดท่ีขาและน้วิ เทา สตั วชนดิ น้ี ควรจดั อยพู วกเดียวกบั สัตวช นิดใดในตาราง 1. A 2. B 3. C 4. D Page 46 of 383

รหสั วิชา 62 สงั คมศึกษา / วทิ ยาศาสตร หนา 20 วนั พุธท่ี 3 กุมภาพนั ธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. 7. ใสว ัตถทุ ่จี มนํ้าได 4 ชนิดลงในภาชนะทม่ี นี ํ้าอยูแลว แยกใสภาชนะละ 1 ชนิด แลว วัด ปรมิ าตรนาํ้ ท่ีเพ่ิมข้ึนจากเดิม ไดผ ลดงั ตาราง ตาราง ปรมิ าตรนาํ้ ในภาชนะท่ีเพิ่มขน้ึ จากเดิมเมอ่ื ใสว ตั ถุทจ่ี มนํ้าได 4 ชนิด ในภาชนะแตละใบ ชนดิ ของวตั ถุ ปริมาตรนา้ํ ในภาชนะที่เพิ่มข้ึนจากเดมิ (ลกู บาศกเซนติเมตร) 1 30 2 42 3 50 4 35 เมือ่ ทดลองดวยวิธีเดยี วกันนกี้ บั วัตถทุ ี่จมน้าํ ไดอีกชนิดหนึ่ง พบวาปริมาตรนํ้าเพมิ่ ข้นึ 44 ลกู บาศกเซนตเิ มตร วัตถุน้นี า จะมีปริมาตรใกลเ คียงกับวัตถุในภาชนะชนดิ ใด ในตารางขางตน 1. ชนดิ ท่ี 1 2. ชนิดที่ 2 3. ชนดิ ท่ี 3 4. ชนดิ ที่ 4 Page 47 of 383

รหัสวชิ า 62 สังคมศกึ ษา / วิทยาศาสตร หนา 21 วันพธุ ที่ 3 กุมภาพันธ 2553 เวลา 09.00 - 10.30 น. 8. ตาราง ผลการรอนดวยตะแกรงและการละลายในน้ําของสาร 4 ชนดิ ชนดิ ของสาร การรอนดวยตะแกรง การละลายในน้ํา A ผาน ละลาย B ไมผาน ละลาย C ผาน ไมละลาย D ไมผา น ไมละลาย ถาสารท้ังสชี่ นดิ ผสมอยูดวยกนั เมอ่ื รอ นดว ยตะแกรงแลวนําสารท่ผี า นตะแกรงไป ละลายนา้ํ สารทไ่ี มละลายนํ้าเหลือเปน ตะกอนอยูคอื สารใด 1. สาร A 2. สาร B 3. สาร C 4. สาร D 9. สารกลมุ ใดมสี ถานะเดียวกนั ทุกชนิด 1. ออกซิเจน ลม นํา้ อัดลม นํา้ ปลา 2. นํ้ามัน นาํ้ ตาล น้ําอัดลม ทองเหลอื ง 3. ปรอท น้ําเชือ่ ม 4. ทองคาํ เปลว ปรอท Page 48 of 383