Real Madrid จดั ทำโดย นำยพลภทั ร รัตนชำติ ม.4/11 เลขท่ี 8 อำจำรยท์ ี่ปรึกษำ อ.สริภรณ์ แจ่มใส
คำนำ ฟุตบอลคือกีฬำอนั ดบั หน่ึงของไครหลำยๆคนแน่นนอนวำ่ ฟุตบอลเล่นเป็นทีม ทีมฟตุ บอลทีมน้ีกเ็ ช่นกนั ทีมดงั จำกเมืองหลวงขอลเสปนReal Madrid หน่ึงในทีมที่มีแฟนบอลทว่ั โลกมำกมำยทีมที่เตม็ ไปดว้ ยประหวตั ิอนั ยำวนำนและกวำดแชมป์ มำแลว้ มำกมำยนบั ไม่ท่วนอีกท้งั ยงัอดั แน่นไปดว้ ยผเู้ ล่นระดบั แนวหนำ้ ของโลกซุปตำร์มำกมำยท้งั สไตร์กำรเล่นที่เนน้ เกมส์บุกเลำ้ ใจแฟนบอลผจู้ ดั ทำรำยงำนน้ีเนื่องดว้ ยเป็นเร่ืองที่หนำ้ สนใจ จึงนำหวั ขอ้ น้ีมำจดั ทำรำยงำนรวมถึงเป็นกำรศึกษำประหวตั ิลกู หนงั ที่มีมำยำวนำนนบั ร้อยปีผจู้ ดั ทำหวงั วำ่ รำยงำนน้ีจะเป็นประโยจต่อผอู้ ่ำนทุกๆท่ำน
Real Madrid 3สโมสรฟตุ บอลเรอลั มำดริด (สเปน: Real Madrid Club de Fútbol) เป็นสโมสรฟุตบอลอำชีพท่ีมีช่ือเสียงมำกที่สุดแห่งหน่ึงในประเทศสเปน ต้งั อยทู่ ี่กรุงมำดริดเมืองหลวงของประเทศ ก่อต้งั ข้ึนเมื่อปี ค.ศ. 1902 เล่นในลำลีกำ และเป็นหน่ึงในสโมสรที่ประสบควำมสำเร็จมำกท่ีสุดในวงกำรฟตุ บอลศตวรรษที่ 20 โดยสำมำรถควำ้ แชมป์ ลำลีกำไดท้ ้งั สิ้น 33 สมยั ถว้ ยโกปำเดลเรย์ 17 คร้ัง และยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก 12 สมยั ซ่ึงเป็นสถิติสูงสุดของรำยกำร นอกจำกน้นั เรอลั มำดริดยงั ไดเ้ ป็นสมำชิกของกลุ่มจี-14ซ่ึงเป็นกลุ่มของสโมสรฟตุ บอลช้นั นำของยโุ รปอีกดว้ ย[3]สนำมเหยำ้ ของสโมสรคือสนำมซำนเตียโก เบร์นำเบวอนั มีชื่อเสียงแห่งกรุงมำดริด เรอลั มำดริดเป็นสโมสรท่ีมีหุน้ ส่วน (socios)เป็นเจำ้ ของและเป็นผดู้ ำเนินกำรมำต้งั แต่ปี ค.ศ. 1902 ซ่ึงแตกต่ำงกบั สโมสรส่วนใหญ่ เม่ือวนั ที่ 23 ธนั วำคม ค.ศ. 2000 ฟี ฟ่ ำไดจ้ ดั วำ่เรอลั มำดริดเป็นสโมสรท่ีดีท่ีสุดแห่งศตวรรษท่ี 20[4]รำชนั ชุดขำวน้นั เป็นสโมสรที่ประสบควำมสำเร็จมำกท่ีสุดในประวตั ิศำสตร์รำยกำรแขง่ ขนั ของยฟู ่ ำดว้ ยกำรควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก 12 สมยั และยฟู ่ ำคพั 3 สมยั ซ่ึงมำกกวำ่ สโมสรอ่ืน ๆ ทุกสโมสร [5] มีเพยี งโทรฟี ยโุ รปเดียวท่ีเรอลั มำดริดยงั ไม่เคยได้นน่ั คือ ยฟู ่ ำคพั วนิ เนอร์สคพั ซ่ึงมีสิทธ์ิเล่น 2 คร้ังแต่กพ็ ำ่ ยไปท้งั สองนดั โดยคร้ังแรกแพใ้ หก้ บั เชลซี 2-1 ในปี ค.ศ. 1971 และเสมอ 1-1ในนดั แรกก่อนท่ีจะแพ้ 1-0 ในนดั ที่สองใหก้ บั แอเบอร์ดีนดว้ ยประตูรวม 2-1 ในปี ค.ศ. 1983เรอลั มำดริดยงั เป็นสโมสรที่ใหญ่ท่ีสุดและไดร้ ับควำมนิยมสูงสุดในโลกจำกกรณีศึกษำของมหำวทิ ยำลยั ฮำร์วำร์ดในปี ค.ศ. 2007[6]และยงั เป็นสโมสรที่ทำรำยไดม้ ำกที่สุดในโลกอีกดว้ ย[7] เรอลั มำดริดเคยเดินทำงมำเตะกบั ทีมชำติไทยในวนั ท่ี 10 สิงหำคม พ.ศ.2548 (ค.ศ. 2005) ที่รำชมงั คลำกีฬำสถำน ผลกำรแข่งขนั เรอลั มำดริดชนะไป 2-1 ประตู
ประวตั ขิ องสโมสร Real Madrid 4สโมสรฟตุ บอลมำดริดกลำยเป็นหน่ึงในสมำชิกก่อต้งั รำชสหพนั ธ์ฟตุ บอลสเปนในวนั ที่ 4 มกรำคม ค.ศ. 1909 เมื่อประธำนสโมสร อำดอลโฟ เมเลนเดซ ไดล้ งนำมขอ้ ตกลงตำมรำกฐำนของสเปนเอฟเอคพั หลงั จำกเปล่ียนสถำนที่ฝึกซอ้ มอยหู่ ลำยแห่งในปี ค.ศ. 1912 สโมสรกไ็ ดเ้ ปิ ดใชส้ นำมของตนเองเป็นคร้ังแรกที่กมั โปเดโอโดเนล (Campo deO'Donnell)[10] และในปี ค.ศ. 1920 สโมสรไดเ้ ปล่ียนช่ือเป็น เรอลั มำดริด (Real Madrid) หลงั จำกท่ีพระเจำ้ อลั ฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน ไดพ้ ระรำชทำนตำแหน่ง \"เรอลั \" (ในภำษำสเปนแปลวำ่ ของกษตั ริยห์ รือของหลวง) ใหก้ บัสโมสร[11] ในปี ค.ศ. 1929 ไดม้ ีกำรก่อต้งั ระบบกำรแขง่ ขนั ระหวำ่ งสโมสรในสเปนข้ึนเป็นคร้ังแรก เรอลั มำดริดสำมำรถครองอนั ดบั ท่ี 1 มำตลอดในช่วงนดั แรกของฤดูกำลจนมำถึงนดั สุดทำ้ ยซ่ึงแพใ้ หก้ บั แอทเลติกบิลบำโอ ทำใหส้ โมสรไดแ้ ค่อนั ดบั ท่ี 2และพลำดตำแหน่งแชมป์ ใหก้ บั สโมสรฟตุ บอลบำร์เซโลนำ[12] เรอลั มำดริดสำมำรถไดแ้ ชมป์ ลีกสเปนไดค้ ร้ังแรกในฤดูกำล1931-1932 และในปี ถดั มำพวกเขำกส็ ำมำรถควำ้ แชมป์ ลีกไดอ้ ีกคร้ังเป็นสมยั ท่ีสองติดต่อกนั จึงทำใหส้ โมสรน้ีเป็นทีมแรกในลีกสเปนท่ีควำ้ แชมป์ ติดต่อกนั สองสมยั [13]ในวนั ที่ 14 เมษำยน ค.ศ. 1931 สเปนเปลี่ยนไปใชก้ ำรปกครองระบอบสำธำรณรัฐอีกคร้ัง เมื่อไม่มีกษตั ริยเ์ ป็นผอู้ ุปถมั ภ์ เรอลั มำดริดจึงพน้ จำกตำแหน่งสโมสรหลวงและเปล่ียนกลบั มำใชช้ ่ือสโมสรฟตุ บอลมำดริดตำมเดิม กำรแข่งขนั ฟตุ บอลยงั คงดำเนินต่อไปในช่วงสงครำมโลกคร้ังท่ี 2 และในวนั ท่ี 13 มิถุนำยน ค.ศ. 1943 สโมสรมำดริดสำมำรถเอำชนะสโมสรฟตุ บอลบำร์เซโลนำไปถึง 11-1 ในนดั ท่ีสองของรอบก่อนชิงชนะเลิศ[14] ของกำรแขง่ ขนั โกปำเดลเฆเนรำลิซิโม (โกปำเดลเรยห์ รือ \"ถว้ ยรำงวลั ของกษตั ริย\"์ ถูกเปล่ียนช่ือเป็น \"ถว้ ยรำงวลั ของจอมพล\" เพอื่ เป็นเกียรติแก่นำยพลฟรังโก)[15] อยำ่ งไรกต็ ำม มีกำรช้ีใหเ้ ห็นวำ่ ผเู้ ล่นของบำร์เซโลนำถกู ข่มขจู่ ำกตำรวจ[15] และจำกผอู้ ำนวยกำรฝ่ ำยควำมมนั่ คงของรัฐที่ \"ถกู อำ้ งวำ่ ไดบ้ อกกบั สโมสรวำ่ นกั ฟตุ บอลบำงคน [ของบำร์เซโลนำ] ไดล้ งเล่นกเ็ พรำะควำมใจกวำ้ งของรัฐบำลที่อนุญำตใหพ้ วกเขำยงั อยใู่ นประเทศไดเ้ ท่ำน้นั \"[16] และประธำนสโมสรบำร์เซโลนำ เอนริก ปิ ญเญยโ์ ร กถ็ ูกแฟนบอลมำดริดทำร้ำยร่ำงกำยดว้ ย[17]
ซานเตยี โก เบร์นาเบว เยสเต และประสบความสาเร็จในเวทยี ุโรป (ค.ศ. Real Madrid 5 1945-1978)ซำนเตียโก เบร์นำเบว เยสเต ไดเ้ ขำ้ มำดำรงตำแหน่งประธำนของสโมสรเรอลั มำดริดในปี ค.ศ.1945[18] ภำยใตป้ ระธำนสโมสรเขำไดล้ งทุนสร้ำงสนำมกีฬำซำนเตียโก เบร์นำเบว และสิ่งอำนวยควำมสะดวกกำรฝึกอบรมซิวดดั เดปอร์ตีบำ (มำดริด) ไดร้ ับกำรสร้ำงข้ึนมำใหม่หลงั จำกท่ีสงครำมกลำงเมืองสเปนไดส้ งบลงซ่ึงควำมมีเสียหำยต้งั แต่ปี ค.ศ. 1953 นอกจำกน้นั เขำตดั สินใจไปกบั กลยทุ ธ์ดำ้ นกำรเงินของเขำดว้ ยกำรซ้ือผเู้ ล่นในผเู้ ล่นระดบั โลกจำกต่ำงประเทศที่โดดเด่นที่สุดอยำ่ งอลั เฟรโด ดี สเตฟำโน เขำ้ มำร่วมทีม[19]ในปี ค.ศ. 1955, ไดม้ ีกำรแสดงควำมคิดเห็นที่เสนอโดยนกั ข่ำวกีฬำฝรั่งเศสและบรรณำธิกำรของกำเบรียล ฮำนอต, เบร์นำเบว, เบดริกนำน และ กสุ ซตำฟ เซเบสสร้ำงกำรแข่งขนั กำรจดั นิทรรศกำรของทีมไดร้ ับเชิญจำกทว่ั ยโุ รปวำ่ ในที่สุดกจ็ ะเป็นในสิ่งท่ีวนั น้ีเป็นที่รู้จกั กนั ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก[20]มนั เป็นภำยใตก้ ำรแนะนำของเบร์นำเบวท่ีเรอลั มำดริดจดั ต้งั ตวั เองเป็นกำลงั สำคญั ในวงกำรฟุตบอลสเปนและยโุ รป.สโมสรสมำรถชนะเลิศและควำ้ แชมป์ ได้ 5 สมยั ในช่วงปี 1956 ถึง 1960 ซ่ึงรวมถึงกำรแข่งขนั รอบชิงชนะเลิศที่ชนะ ไอนท์ รัต แฟรงคเ์ ฟิ ร์ต 7-3 ที่แฮมป์ เดนพำร์ก ในปี ค.ศ. 1960.[19]หลงั จำกที่ประสบควำมสำเร็จในกำรควำ้ แชมป์ หำ้ สมยั ติดต่อกนั จริงอยำ่ งถำวรทำใหส้ โมสรไดร้ ับรำงวลั ถว้ ยเดิมและไดร้ ับสิทธิในกำรสวมใส่เกียรติตรำยฟู ่ ำ[21] สโมสรสำมำรถควำ้ แชมป์ รำยกำรน้ีเป็นสมยั ที่หกไดใ้ นปี ค.ศ. 1966 ดว้ ยกำรชนะพำร์ทีซำน เบลกรำเด ไป 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศซ่ึงเป็นคร้ังท่ีสโมสรส่งผเู้ ล่นสญั ชำติสเปนท้งั หมดลงทำกำรแข่งขนั [22] สโมสรกลำยเป็นที่รู้จกั ในช่ือเย-เย ซ่ึงมำจำกเน้ือร้อง เย, เย, เย ของวงเดอะบีเทิลส์ จำกเพลง \"ชี เลิฟส์ ย\"ู หลงั จำกส่ีสมำชิกของทีมท่ีถูกลงเป็นข่ำวของ มำร์กำ ในอลั บ้มั ชุดบีทเทิลส์วกิ รุ่นเย-เย ยงั เป็นเพลงท่ีใชเ้ ปิ ดในกำรแข่งขนั ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 1962 และยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 1964[
กนิ ตาเดลบุยเตร และแชมป์ ยุโรปสมยั ท่ี 7 (1980-2000) Real Madrid 6ในช่วงตน้ ทศวรรษที่ ค.ศ. 1980 สโมสรเรอลั มำดริดไม่สำมำรถควำ้ แชมป์ ลำลีกำไดแ้ ละพวกเขำใชเ้ วลำไม่กี่ปี ที่ ยพุ พ์ ไฮน์เคสจะไดก้ ลบั มำอีกคร้ังเพ่อื ไปแยง่ แชมป์ ลีกดว้ ยกำรผำ่ นควำมช่วยเหลือของนกั เตะใหม่ท่ีช่วยนำพำสโมสรกลบั มำ ฟาบโี อ กาเปลโลประสบควำมสำเร็จอีกคร้ัง.[26] นกั ข่ำวกีฬำชำวสเปนคนหน่ึงท่ีช่ือ คูลีโอ เซซำร์ อีเกลเซียส ไดใ้ หฉ้ ำยำกบั ทีมรุ่นน้ีวำ่ กินตำเดลบุยเตร,ซ่ึงไดม้ ำจำกช่ือเล่นใหก้ บั หน่ึงในนกั เตะของสโมสร, เอมีลีโอ บตู รำกเู อโน. และสมำชิกอีกส่ีคนที่เหลือมี มำนูเอล ซำนชิส, มำร์ติน บซั เกซ, มีเชล และ มีกเู อล พำร์เดซำ.[27] ดว้ ย กินตำเดลบุยเตร (ซ่ึงสมำชิกในกลุ่มเหลือ 4 คนโดยพำร์เดซำไดย้ ำ้ ยไปอยกู่ บั ซำรำโกซำในปี ค.ศ. 1986) และกำรซ้ือผเู้ ล่นท่ีโดดเด่นและเป็นกำลงั หลกั ของสโมสรในเวลำต่อมำ อำทิ ฟรำนซิสโก บูโย ผรู้ ักษำประตูชำวสเปน, มีเกล ปอร์ลนั เชนโดแบก็ ขวำชำวสเปน และกองหนำ้ ชำวเมก็ ซิโก อูโก ซำนเชซ เรอลั มำดริดจึงเป็นหน่ึงทีมท่ีดีที่สุดในสเปนและยโุ รปในช่วงปลำยทศวรรษที่ ค.ศ. 1980 ดว้ ยกำรควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำคพั 2 สมยั , สเปนนิชแชมเปี ยนชิพ 5 สมยั , โกปำเดลเรย์1 สมยั และซูเปร์โกปำเดเอสปำญำ อีก 3 สมยั [27] ภำยหลงั ฉำยำ กินตำเดลบุยเตร ไดห้ ำยไปจำกแฟนบอลเรอลั มำดริด หลงั จำก เอมีลีโอ บูตรำกเู อโน, มำร์ติน บซั เกซ และมีเชลไดย้ ำ้ ยออกไปจำกสโมสรในปี ค.ศ. 1996 ประธำนสโมสรลอเรนโซ ซำนซ์ ไดแ้ ต่งต้งั ใหฟ้ ำบีโอ กำเปลโล อดีตผจู้ ดั กำรทีมเอซี มิลำน เขำ้เป็นผจู้ ดั กำรทีมใหก้ บั สโมสร แมว้ ำ่ เขำดำรงตำแหน่งเพียงแค่หน่ึงฤดูกำล, แต่เขำกส็ ำมำรถนำเรอลั มำดริดควำ้แชมป์ ลีกไดห้ น่ึงสมยั และไดซ้ ้ือผเู้ ล่นตวั เก่งมำกมำย เช่น โรเบร์ตู กำร์ลสู , เพรดรัก มีจำโตวชิ , ดำวอร์ ซือเกอร์และคลำเรนซ์ ซีดอร์ฟ เขำ้ มำเล่นร่วมกบั ผเู้ ล่นเดิมของสโมสรอยำ่ งรำอุล กอนซำเลซ, เฟร์นนั โด เอียร์โร, อีวำนซำโมรำโน และเฟร์นนั โด เรดอนโด เป็นผลทำใหเ้ รอลั มำดริด (ดว้ ยนอกเหนือจำกเฟร์นนั โด โมเรียนเตส ในปีค.ศ. 1997) ในที่สุดสิ้นสุดวนั ที่รอคอยมำ 32 ปี สำหรับถว้ ยโู รเปี ยนคพั สมยั ท่ี 7 ในปี ค.ศ. 1998 ภำยใตก้ ำรคุมทีมของยพุ พ์ ไฮนเ์ คส สโมสรสำมำรถเอำชนะสโมสรฟุตบอลยเู วนตุส ตวั แทนสโมสรจำกประเทศอิตำลี ไป 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศดว้ ยกำรยงิ ประตูชยั ลกู เดียวของเพรดรัก มีจำโตวิช[
โลสกาลกั ตโี กสและประธานคนใหม่ (2000-2009) Real Madrid 7หลงั จำกปี ค.ศ. 1999 ท่ีสโมสรควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก ไดเ้ ป็นสมยั ที่ 8 ของสโมสรดว้ ยกำรชนะบำเลนเซีย ซเี นดนี ซีดานสโมสรร่วมชำติเดียวกนั ได้ 3-0 ในเดือนกรกฎำคม ค.ศ. 2000 สโมสรเรอลั มำดริดไดแ้ ต่งต้งั ประธำนสโมสรคน โรนลั โดใหม่คือ โฟลเรนตีโน เปเรซ และยงั ไดถ้ กู รับเลือกวำ่ เป็นนกั ธุรกิจชำวสเปนที่รวยท่ีสุดในประเทศสเปน ณ เวลำน้นั [29] ก่อนที่เขำจะมำดำรงตำแหน่งประธำนสโมสร ในระหวำ่ งหำเสียงของเขำเขำสญั ญวำ่ จะลบหน้ีของ ราอลุ กอนซาเลซสโมสรและสร้ำงสิ่งทนั สมยั และสิ่งอำนวยควำมสะดวกใหแ้ ก่สโมสร แต่สญั ญำที่สำคญั ที่ขบั เคลื่อนใหเ้ ปเรซไปสู่ชยั ชนะเลือกต้งั ดว้ ยกำรนกั เตะชื่อดงั ชำวโปรตุเกสอยำ่ ง ลอู ิช ฟี กู ซ่ึงเป็นอดีตนกั เตะของสโมสรบำร์เซโลนำ คูป่ รับร่วมเมืองของเรอลั มำดริด.[30] ในปี ถดั มำสโมสรเรอลั มำดริดไดส้ ร้ำงคำ่ ยฝึกอบรมใหม่และใชเ้ งินท่ีพวกเขำสำมำรถมีอยจู่ ำกปี ก่อนท่ีดว้ ยกำรจดั กำรสรรหำดำวผเู้ ล่นที่ นกั ข่ำวสเปนเรียกวำ่ ลอส กำลำตีกอส โดยมีชื่อนกั เตะช่ือดงั ในยคุ น้นั อำทิเช่น ซีเนดีน ซีดำน, โรนลั โด, เดวดิ เบคแคม, ฟำบีโอ กนั นำวำโร, ลูอิช ฟี ก,ู โรเบร์ตู กำร์ลูส และ รำอุล กอนซำเลซ อำจจะมีกำรนกั ขำ่ วบำงส่วนอภิปรำยเมื่อผเู้ ล่นถูกซ้ือโดยเปเรซเล่นลม้ เหลวในกำรสนบั สนุนควำมสำเร็จของสโมสในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2003 หลงั จำกควำ้ แชมป์ ลำลีกำไดอ้ ีกหน่ึงสมยั โฟลเรนตีโน เปเรซ และคณะกรรมกำรดำ้ นฝ่ ำยบริหำรของสโมสรไดป้ ฏิเสธกำรต่อสญั ญำฉบบั ใหม่ของ บีเซนเต เดล โบสเก หลงั จำกท่ีเกิดควำมคดั แยง้ กบั กปั ตนั ทีมของสโมสร เฟร์นนั โด เฮียร์โร ท่ีจะยำ้ ยออกจำกสโมสรและเซ็นสญั ญำกบั ผจู้ ดั กำรทีมชำวโปรตุเกส กำร์รอส เกวรีออซ เขำ้ มำเป็นผจู้ ดั กำรทีมดว้ ยสญั ญำคุมทีม 1 ฤดูกำลซ่ึงเกวรีออซกส็ ำมำรถนำสโมสรควำ้ แชมป์ ซูเปร์โกปำเดเอสปำญำ ไดห้ น่ึงสมยั ก่อนจะหมดสญั ญำกบั สโมสร.ในช่วงฤดูกำล 2005-2006สโมสรไดซ้ ้ือผเู้ ล่นคนใหม่เขำ้ มำเสริมทพั มำกมำย เช่น จูลีโอ บำปติสตำ (20 ลำ้ นยโู ร), โรบินยู (30 ลำ้ นยโู ร)และ เซร์คีโอ รำโมส (30 ลำ้ นยโู ร) โดยในฤดูกำลน้ีสโมสรไดเ้ ปลี่ยนผจู้ ดั กำรทีม 2 คน คนแรกคือ ฟำนเดอร์เริลลกั เซมบูร์กู แลว้ ไดเ้ ปลี่ยนเป็นควน รำโมส โลเปซ กำร์โล ในช่วงปลำยปี ค.ศ. 2005 โดยรำโมสนำสโมสรได้รองชนะเลิศลำลีกำและทำผลงำนไม่ค่อยดีเท่ำท่ีควรจึงไดถ้ กู ยกเลิกสญั ญำไปในกำรคุมสโมสรฤดูกำลหนำ้
ในปี ค.ศ. 2006 สโมสรไดแ้ ต่งต้งั ประธำนสโมสรคนใหม่แทนเปเรซคือ รำมอน กลั เดรอน และสโมสรสำมำรถ Real Madrid 8กลบั มำควำ้ แชมป์ ไดอ้ ีกคร้ังในรำยกำรลำลีกำ ดว้ ยฝีมือกำรคุมทีมของ ฟำบีโอ กำเปลโล ที่ตดั สินใจกลบั มำคุมทีมอีกคร้ัง โดยในฤดูกำลน้ีสโมสรขำยนกั เตะช่ือดงั หลำยคนไปมำกมำยไม่วำ่ จะเป็นเดวดิ เบคแคม, ลอู ิช ฟี ก,ูโรนลั โด และซีเนดีน ซีดำน ท่ีไดข้ อเลิกเล่นฟุตบอลกบั สโมสรแลว้ แขวนสตดั ไป แต่กำเปลโลกส็ ำมำรถซ้ือนกัเตะใหม่เขำ้ มำเสริมแทนตำแหน่งเดิมได้ อำทิ กอนซำโล อีกวำอิน กองหนำ้ ชำวอำร์เจนตินำ, มำร์เซลู วเี อรำกองหลงั ชำวบรำซิล, รืด ฟัน นิสเติลโรย กองหนำ้ ชำวดตั ชจ์ ำกแมนเชสเตอร์ยไู นเตด็ต่อมำในปี ค.ศ. 2007 สโมสรกต็ อ้ งเปลี่ยนผจู้ ดั กำรทีมอีกคร้ังหลงั จำกท่ีกำเปลโลอยกู่ บั สโมสรเพยี งฤดูกำลเดียว อาทิ กอนซาโล อีกวาอินดว้ ยกำรเซ็นสญั ญำกบั แบรนด์ ชูสเตอร์ อดีตผเู้ ล่นช่ือดงั ในช่วงทศวรรษท่ี 1980 ของสโมสร และสโมสร แบรนด์ ชสู เตอร์ฟตุ บอลบำร์เซโลนำ เขำ้ มำเป็นผจู้ ดั กำรทีมแทนกำเปลโล โดยชูสเตอร์ไดซ้ ้ือผเู้ ล่นท่ีมีท้งั ประสบกำรณ์และทกั ษะท่ีดีมำกมำย เช่น เปปี , เวสลีย์ สไนเดอร์, อำร์เยนิ รอบเบิน, แยร์ซี ดูแด็ก เป็นตน้ ชูสเตอร์นำสโมสรไปเล่นใน ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก ไม่คอ่ ยดีนนกั โดยตกรอบสิบหกทีมสุดทำ้ ยดว้ ยกำรปรำชยั ใหแ้ ก่โรม่ำจำกอิตำลี ไป4-2 แต่กลบั ทำผลงำนในลีกไดอ้ ยำ่ งดีดว้ ยกำรนำสโมสรไม่แพใ้ ครมำ 9 นดั ติดในช่วงก่อนเกำ้ นดั สุดทำ้ ยก่อนจบฤดูกำลแลว้ ควำ้ แชมป์ ลำลีกำสมยั ท่ี 30 ของสโมสรไปได้ในช่วงก่อนเปิ ดฤดูกำล 2008-09 ชูสเตอร์สำมำรถนำสโมสรควำ้ แชมป์ ซูเปร์โกปำเดเอสปำญำ ดว้ ยกำรชนะสโมสรฟุตบอลบำเลนเซีย ไป 6-5. แต่แลว้ ชูสเตอร์กถ็ ูกไล่ออกจำกกำรผจู้ ดั กำรทีมโดยไม่ทรำบสำเหตุ. ทำงสโมสรจึงแต่งต้งั ให้ ควนเต รำโมส เป็นผจู้ ดั กำรทีม แต่รำโมสกไ็ ม่สำมำรถนำสโมสรประสบควำมสำเร็จมำกซ่ึงในรำยกำรยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก กป็ รำชยั ใหก้ บั สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู จำกองั กฤษ ไป 5-0 ในรอบสิบหกทีมสุดทำ้ ยและผลงำนในลีกกท็ ำไดแ้ คจ่ บอนั ดบั 2 ซ่ึงกท็ ำใหร้ ำโมสโดนไล่ออกไป
การกลบั มาของเปเรซและมูรีนโย (2009-2013) Real Madrid 9เมื่อวนั ที่ 1 มิถุนำยน ค.ศ. 2009 โฟลเรนตีโน เปเรซ อดีตประธำนคนเก่ำของสโมสรไดก้ ลบั มำรับ คริสเตยี โน โรนลั โดดำรงตำแหน่งประธำนสโมสรอีกคร้ัง[32][33] โดยกำรกลบั มำในคร้ังน้ีเปเรซมีแผนที่จะสร้ำง กำลกั กาก้าตีโกส ซ่ึงเป็นนโยบำยกำรซ้ือนกั เตะที่มีทกั ษะและฝีมือช้นั ยอดเขำ้ มำสู่สโมสรโดยคนแรกที่เขำ้ ซ้ือมำคือ กำกำ้ กองกลำงตวั รุกจำกเอซี มิลำน ดว้ ยค่ำตวั 65 ลำ้ นยโู ร[34] และคริสเตียโน โรนลั โด ปี กริมเส้นจำกแมนเชสเตอร์ยไู นเตด็ ดว้ ยค่ำตวั 80 ลำ้ นยโู ร และไดเ้ ซ็นสญั ญำกบั มำนวยล์ เปเยกรีนี ผู้จดั กำรทืมชำวชิลีเป็นเวลำหน่ึงฤดูกำล ซ่ึงเปเยกรีนีกท็ ำผลงำนไดด้ ีในกำรคุมสโมสรดว้ ยกำรจบอนั ดบั ท่ี 2 ในลำลีกำหลงั จำกสญั ญำกำรคุมทีมของเปเยกรีนีไดห้ มดลง เปเรซกต็ ดั สินใจเซ็นสญั ญำกบั โชเซ มูรีนโย อดีตผจู้ ดั กำรทีมของสโมสรฟุตบอลเชลซีชำวโปรตุเกส ในช่วงเดือนพฤษภำคม ค.ศ. 2010[35][36] ในเดือนเมษำยน ค.ศ. 2011 ไดเ้ กิดส่ิงแปกประหลำดเป็นคร้ังแรกเกิดข้ึนในกำรแข่งขนั เอลกลำซีโก ซ่ึงเกิดข้ึนท้งั หมดถึง 4 รอบ รอบแรกคือในกำรแข่งขนั ลำลีกำซ่ึงเรอลั มำดริดเสมอกบั บำร์เซโลนำไป 1-1, รอบท่ีสองคือในรอบชิงชนะเลิศโกปำเดลเรยซ์ ่ึงเรอลั มำริดแพบ้ ำร์เซโลนำไป 0-1 และในกำรแข่งขนั ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก ฤดูกำล 2010-11 กพ็ บกนั สองรอบในรอบก่อนรอบชิงชนะเลิศ ในวนั ท่ี27 เมษำยน และ 2 พฤษภำคม (รวมผลสองนดั บำร์เซโลนำชนะไป 3-1) แลว้ ในฤดูกำลน้ีสโมสรก็ตอ้ งไดร้ องแชมป์ ลำลีกำ และ คริสเตียโน โรนลั โด กเ็ ป็นดำวซลั โวสูงสุดของสโมสรและลำลีกำในฤดูกำลน้ีดว้ ยกำรยงิ ประตูไป 40 ประตู
Real Madrid 10ในฤดกู ำล 2011-12 เรอลั มำดริดสำมำรถควำ้ แชมป์ ลำลีกำมำไดเ้ ป็นสมยั ที่ 32 ของสโมสรในประวตั ิศำสตร์กำรแข่งขนั ลำลีกำและจบอนั ดบั 1 ของฤดูกำลดว้ ยกำรมีคะแนนท้งั หมด 100 คะแนน จำกท้งั หมด 114 คะแนน ยงิ ประตูคู่แข่งไดม้ ำกถึง 121 ประตู และเสียประตูใหค้ ู่แข่งไป 32 ประตู และผลต่ำงของลกู ไดก้ บั ลกู เสียคือ 89 ประตู พร้อมกบั ชนะคู่แข่งท้งั หมด 32 นดั เสมอ 4 นดั และแพ้ 2 นดั [37] และคริสเตียโน โรนลั โด กลำยเป็นผเู้ ล่นท่ีเร็วท่ีสุดในกำรทำประตูมำกกวำ่ 100 ลูก ในประวตั ิศำสตร์ลีกสเปนยงั เป็นผเู้ ล่นท่ีทำประตูได้ โดยโรนลั โดทำประตู 101 ประตูจำกกำรลงเล่นแค่ 92 โดยทำใหโ้ รนลั โดแซงสถิติของเฟเรนส์ ปุชคชั อดีตนกั ฟุตบอลชำวฮงั กำรีของสโมสรท่ีทำประตทู ่ี 100 จำกกำรลงเล่น 105 นดั แลว้ โรนลั โดยงั เป็นผเู้ ล่นคนแรกของสโมสรที่ทำประตสู ูงสุดในหน่ึงปี (60ประต)ู และโรนลั โดยงั เป็นผเู้ ล่นคนแรกท่ียงิ ประตคู ู่แข่งท้งั 19 สโมสรในลำลีกำเพียงฤดูกำลเดียวอีกดว้ ย[38][39]แต่ในฤดูกำล 2012-13 สโมสรกลบั มีปัญหำมำกมำย โมรีนยมู ีปัญหำกบั นกั เตะอำวโุ สของทีม เช่น อีเกร์ กำซียสั , เซร์คีโอ รำโมส ซ่ึงสร้ำงควำมไม่พอใจอยำ่ งมำกกบั แฟนบอล โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ เม่ือสโมสรไม่ไดแ้ ชมป์ รำยกำรใด ๆเลย โดยในรำยกำรโกปำเดลเรย์ ทีมยงั แพส้ โมสรฟุตบอลอตั เลตีโกมำดริด 1-2 คำสนำมซำนเตียโก เบร์นำเบว ทำให้โมรีนยยู กเลิกสญั ญำกบั สโมสรในท่ีสุด
อนั เชลอตตแี ละลาเดซีมา (2013-2015) Real Madrid 11ในวนั ท่ี 25 มิถุนำยน ค.ศ. 2013 สโมสรไดเ้ ซ็นสญั ญำกบั กำร์โล อนั เชลอตตี ผจู้ ดั กำรทีมท่ี อนั เชลอตตีเคยเป็นตำนำนนกั เตะของเอซี มิลำน และเม่ือคุมทีมกส็ ำมำรถพำทีมควำ้ แชมป์ ยโุ รปไดถ้ ึง แกเร็ธ เบลสองคร้ังมำเป็นผจู้ ดั กำรทีม ในวนั ท่ี 1 กนั ยำยน สโมสรไดเ้ ซ็นสญั ญำกบั แกเร็ธ เบล นกั เตะชำวเวลส์จำกทอตนมั ฮอตสเปอร์สในพรีเมียร์ลีกองั กฤษ ดว้ ยคำ่ ตวั สถิติโลกถึง 100 ลำ้ นยโู รในฤดกู ำลแรกของอนั เชลอตตี ทีมสำมำรถควำ้ แชมป์ โกปำเดลเรย์ ดว้ ยกำรชนะบำร์เซโลนำ2-1 ซ่ึงเบลทำประตูชยั ดว้ ย และยงั สำมำรถควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีกเป็นสมยั ท่ี 10 โดยชนะแอตเลติโกมำดริดในช่วงต่อเวลำไดถ้ ึง 4-1 เป็นกำรลำ้ งแคน้ หลงั จำกท่ีทีมทำไดแ้ ค่อนั ดบั 3 ในลำลีกำ ซ่ึงควำ้ แชมป์ ยโุ รปคร้ังน้ีของทีม มีชื่อเรียกกนั วำ่ ลำเดซีมำ (LaDecima)ในฤดูกำลต่อมำ เรอลั มำดริดทำสถิติชนะติดต่อกนั ถึง 21 นดั (ลำลีกำ 12 นดั , ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีก 6 นดั , โกปำเดลเรย์ 2 นดั และฟุตบอลชิงแชมป์ สโมสรโลก 1 นดั )[40] แต่สุดทำ้ ยแลว้ ทีมจบฤดูกำลดว้ ยมือเปล่ำ ทำใหอ้ นั เชลอตตีถกู ปลดออกจำกตำแหน่ง
Real Madrid 12เบนีเตซ, และซีดาน (2015-ปัจจุบนั )นวนั ท่ี 3 มิถุนำยน ค.ศ. 2015 สโมสรไดแ้ ต่งต้งั รำฟำเอล เบนิเตซ ผทู้ ่ีเคยพำลิเวอร์พลู ควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีกในปี ค.ศ. 2005 เขำ้ มำคุมทีม แต่ปรำกฏวำ่ ทำผลงำนไดย้ ำ่ แยม่ ำก โดยชนะแค่ 11 จำก 18 นดั ในกำรคุมทีมตลอด 7เดือน ทำใหเ้ บนิเตซถกู ปลดออกจำกตำแหน่งในวนั ท่ี 5 มกรำคม ค.ศ. 2016และไดแ้ ต่งต้งั ซีเนอดีน ซีดำน ซ่ึงในชณะน้นั คุมทีมสำรองอยเู่ ขำ้ มำคุมทีมแทน[42] และสำมำรถพำทีมบุกไปชนะบำร์เซโลน่ำ 2-1 ไดถ้ ึงถิ่นกมั นอว์ควำ้ รองแชมป์ ลำลีกำโดยที่มีคะแนนตำมบำร์เซโลน่ำเพียงคะแนนเดียว และสำมำรถควำ้ แชมป์ ยฟู ่ ำแชมเปี ยนส์ลีกไดส้ ำเร็จ หลงั ดวลจุดโทษชนะ แอตเลติโกมำดริด คู่ปรับเก่ำในปี ค.ศ. 2014 ไปได้ 5-3 หลงั ในเวลำ 90 นำทีเสมอกนั1-1 ในรอบชิงชนะเลิศ2016 2017 2018
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: