รายงาน ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ: Digital Intelligence Quotient) เสนอ อาจารย์ สุธดิ า ปรีชานนท์ โดย นางสาว วรรณรกั ษา เปาเลง้ รายงานนเี้ ป็นสว่ นหน่ึงของการเรยี นรายวชิ านวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ีอการส่ือสารการศึกษา
คานา รายงานฉบับน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่อี การสื่อสารการศึกษา (PC62506) โดยมีจุดประสงค์เพื่อหาทักษะความฉลาด ทางดิจิทัล (Digital Intelligence Quotient : DQ) คือ กลุ่มของความสามารถ ทางสงั คม อารมณ์ และการรบั รู้ ที่จะทาใหค้ นคนหนง่ึ สามารถเผชิญกับความท้า ทายบนเส้นทางของชีวติ ในยคุ ดิจิทลั และสามารถปรบั ตวั ให้เข้ากับชีวิตดิจิทัลได้ ความฉลาดทางดจิ ิทัลครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ ทัศนคติและค่านิยมที่จาเป็น ต่อการใช้ชีวิตในฐานะสมาชกิ ของโลกออนไลน์ กลา่ วอกี นัยหน่ึงคือ ทักษะการใช้ สอ่ื และการเข้าสังคมในโลกออนไลน์ ผจู้ ดั ทา นางสาว วรรณรักษา เปาเล้ง
สารบัญ ทักษะในการรกั ษาอัตลักษณท์ ่ีดีของตนเอง (Digital Citizen Identity) 2 ทักษะการคิดวเิ คราะหม์ วี ิจารณญาณท่ีดี (Critical Thinking) 3 ทักษะในการรกั ษาความปลอดภัยของตนเอง ในโลกไซเบอร์ ทักษะในการรกั ษาขอ้ มลู สว่ นตัว (Privacy Management) 4 ทกั ษะในการจดั สรรเวลาหน้าจอ (Screen Time Management) 5 ทกั ษะในการบริหารจัดการข้อมูลทผี่ ู้ใชง้ าน มีการทง้ิ ไว้บนโลกออนไลน์ ทักษะในการรกั ษาความปลอดภัยของตนเองในโลกออนไลน์ 6 ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างมีจริยธรรม (Digital Empathy) 7 8 9
1 กอ่ นจะทราบถึงทกั ษะด้านดิจิทัล ขอให้คานิยามความหมายของประโยคท่วี ่า \"ความเป็นพลเมืองดิจิทลั \" ทที่ ุก ประเทศทว่ั โลกคาดหวังให้เกิดขึ้นในประชากรของตน คือ \"พลเมืองผู้ใช้งานส่ือดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ อยา่ งเขา้ ใจบรรทัดฐาน ของการปฏบิ ัติตวั ให้เหมาะสม และมีความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ การส่ือสารในยคุ ดิจิทลั เป็นการสื่อสารท่ีไร้พรมแดนจาเป็นต้องมีความฉลาดทางดิจิทัล (DQ: Digital Intelligence) \"ความฉลาดทางดิจทิ ลั (Digital Intelligence Quotient : DQ) คอื กลมุ่ ของความสามารถทางสงั คม อารมณ์ และการรบั รู้ ที่จะทาใหค้ นคนหนึง่ สามารถเผชิญกบั ความทา้ ทายบนเส้นทางของชีวิตในยคุ ดิจทิ ัล และสามารถ ปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กับชีวติ ดจิ ิทัลได้ ความฉลาดทางดิจิทัลครอบคลุมทัง้ ความรู้ ทักษะ ทัศนคติและค่านิยมท่ีจาเป็น ตอ่ การใช้ชีวิตในฐานะสมาชกิ ของโลกออนไลน์ กล่าวอีกนัยหน่ึงคือ ทักษะการใช้ส่ือและการเข้าสังคมในโลก ออนไลน์
2 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดขี องตนเอง (Digital Citizen Identity) สามารถสร้างและบริหารจัดการอตั ลักษณท์ ีด่ ขี องตนเองไวไ้ ด้อย่างดีท้ังในโลกออนไลน์และโลก ความจริง อตั ลักษณท์ ด่ี คี อื การที่ผู้ใช้ส่อื ดิจิทลั สร้างภาพลักษณใ์ นโลกออนไลนข์ องตนเองในแง่ บวก ทงั้ ความคิด ความรู้สึก และการกระทา โดยมวี ิจารณญาณในการรบั ส่งข่าวสารและแสดง ความคดิ เห็น มคี วามเห็นอก เห็นใจผรู้ ว่ มใชง้ านในสงั คมออนไลน์ และรจู้ กั รับผดิ ชอบต่อการ กระทา ไม่กระทาการท่ีผิดกฎหมาย และจริยธรรมในโลกออนไลน์ เช่น การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ การ กลนั่ แกล้งหรือการใชว้ าจาทส่ี ร้างความ เกลียดชังผ้อู น่ื ทางสอ่ื ออนไลน์
3 2. ทักษะการคดิ วิเคราะห์มีวิจารณญาณทดี่ ี (Critical Thinking) สามารถในการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างข้อมูลท่ีถูกต้องและข้อมูลท่ีผิด ข้อมูลท่ีมีเน้ือหาเป็น ประโยชน์ และขอ้ มูลทเ่ี ข้าขา่ ยอนั ตราย ขอ้ มลู ตดิ ตอ่ ทางออนไลน์ท่ีน่าตั้งข้อสงสัยและน่าเชื่อถือได้ เมื่อใช้อนิ เทอร์เน็ต จะรวู้ า่ เนอื้ หาอะไร เปน็ สาระ มปี ระโยชน์ รู้เทา่ ทนั ส่ือและสารสนเทศ สามารถ วิเคราะห์และประเมิน ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลท่ีหลากหลายได้ เข้าใจรูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ในโลกไซเบอร์ เช่น ข่าวปลอม เวบ็ ปลอม ภาพตดั ตอ่ เปน็ ตน้ การคิดวิเคราะหม์ ีวิจารณญาณที่ดมี อี งค์ประกอบดงั น้ี 1. ความรู้ สามารถ อธิบายและจดจาขอ้ มลู ได้ 2. ความเข้าใจ สามารถ จัดระเบียบและเลือกข้อเท็จจรงิ และความคิดออกมาใช้ได้ 3. การประยกุ ต์ สามารถนา ข้อเท็จจริงและกฎขอ้ บงั คบั นา มาสรา้ งความคิดใหมๆ่ ได้ 4. การวเิ คราะห์ สามารถแยก ความคิดและเรอ่ื งต่างๆออกมา เป็นขอ้ ยอ่ ยๆ ได้ 5. การสงั เคราะห์ สามารถ นาความคดิ ยอ่ ยๆ มารวม เป็นแนวคดิ ใหญ่ๆ ได้ 6. การประเมิน สามารถพัฒนา ความคิดเห็น และจัดลาดับ ความสาคญั ได้
4 3. ทักษะในการรกั ษาความปลอดภัยของตนเอง ในโลกไซเบอร์ (Cybersecurity Management) สามารถป้องกันข้อมูลดว้ ยการสร้างระบบความปลอดภยั ทเี่ ขม้ แข็ง และปอ้ งกนั การโจรกรรมข้อมูล หรือการโจมตีออนไลนไ์ ด้ มีทักษะในการรักษาความปลอดภยั ของตนเองในโลกออนไลน์ การรักษา ความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์คือ การปกป้องอุปกรณ์ดิจิทัลข้อมูลท่ีจัดเก็บและข้อมูล ส่วนตัว ไม่ให้เสียหาย สูญหาย หรือถูกโจรกรรมจากผู้ไม่หวังดีในโลกไซเบอร์ การรักษาความ ปลอดภัยทาง ดิจทิ ัลมีความสาคัญดังนี้ 1. เพอ่ื รกั ษาความเป็นส่วนตวั และความลบั หากไมไ่ ดร้ กั ษาความปลอดภยั ใหก้ ับ อุปกรณด์ จิ ิทลั ข้อมลู ส่วนตัวและข้อมูลทเี่ ป็นความลบั อาจจะรวั่ ไหลหรอื ถูกโจรกรรมได้ 2. เพื่อป้องกันการขโมยอัตลักษณ์ การขโมยอัตลักษณ์เร่ิมมีจานวนท่ีมากข้ึนในยุคข้อมูล ข่าวสาร เน่ืองจากมีการทาธุรกรรมทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ผู้คนเริ่มทาการชาระค่าสินค้าผ่าน สื่ออินเทอร์เน็ต และทาธุรกรรมกับธนาคารทางออนไลน์ หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่ เพยี งพอ มิจฉาชีพอาจจะลว้ งข้อมลู เกี่ยวกบั บตั รเครดติ และข้อมูลสว่ นตัวของผูใ้ ช้งานไปสวมรอย ทาธรุ กรรมได้ เช่น ไปซ้ือสินคา้ กยู้ ืมเงนิ หรอื สวมรอยรับผลประโยชนแ์ ละสวสั ดิการ 3. เพือ่ ปอ้ งกนั การโจรกรรมขอ้ มูล เนือ่ งจากข้อมลู ต่างๆ มักเกบ็ รกั ษาในรปู ของดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร ภาพถ่าย หรือคลิปวีดิโอ ข้อมูลเหล่าน้ีอาจจะถูกโจรกรรมเพื่อนาไปขายต่อ แบล็คเมล์ หรอื เรยี กคา่ ไถ่ 4. เพื่อปอ้ งกันความเสยี หายของข้อมูลและอุปกรณ์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์อาจส่งผลเสียต่อข้อมูล และ อุปกรณ์ดิจิทัลได้ ผู้ไม่หวังดีบางรายอาจมุ่งหวังให้เกิดอันตรายต่อข้อมูลและอุปกรณ์ท่ีเก็บ รกั ษามากกวา่ ทีจ่ ะ โจรกรรมขอ้ มลู นนั้ ภยั คุกคามอยา่ งไวรัสคอมพิวเตอร์ โทรจัน และมัลแวร์สร้าง ความเสียหายรา้ ยแรงใหก้ บั คอมพิวเตอรห์ รอื ระบบปฏบิ ัตกิ ารได้
5 4. ทกั ษะในการรกั ษาขอ้ มลู ส่วนตวั (Privacy Management) มีดุลพินิจในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนตัว รู้จักปกป้องข้อมูลความส่วนตัวในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ การแชรข์ อ้ มลู ออนไลนเ์ พื่อป้องกันความเปน็ ส่วนตวั ทงั้ ของตนเองและผอู้ ่ืน รู้เท่าทันภัย คุกคามทาง อินเทอรเ์ นต็ เชน่ มลั แวร์ ไวรัสคอมพวิ เตอร์ และกลลวงทางไซเบอร์ 1. ไมค่ วรตั้งรหสั ผ่านของบัญชใี ช้งานที่ง่ายเกิน 2. ต้งั รหัสผ่านหนา้ จอสมารท์ โฟนอยู่เสมอ 3. แชร์ข้อมูลส่วนตัวในสื่อโซเชียลมีเดียอย่างระมัดระวัง Comment STEP 2 Share STEP 2 Like STEP 1 4. ใส่ใจกับการตงั้ ค่าความเป็นส่วนตัว ระมัดระวังในการเปิดเผยชื่อและ ที่ตั้งของเรา และปฏิเสธ แอปทีพ่ ยายามจะเขา้ ถึงข้อมลู ส่วนตัวของเรา 5. อยา่ ใช้ไวไฟสาธารณะเมื่อต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ออนไลน์ชอปป้ิง หรือธุรกรรมธนาคาร หรอื การลงทะเบียนในสอื่ สังคมออนไลน์ 6. รเู้ ท่าทันภัยคกุ คามทางอินเทอร์เนต็ !
6 5. ทักษะในการจดั สรรเวลาหน้าจอ (Screen Time Management) สามารถในการบริหารเวลาท่ีใช้อุปกรณ์ยุคดิจิทัล รวมไปถึงการควบคุมเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่าง โลกออนไลน์ และโลกภายนอก ตระหนกั ถึงอันตรายจากการใช้เวลาหน้าจอนานเกินไป การทางาน หลายอย่างในเวลาเดียวกัน และผลเสียของการเสพติดสื่อดิจิทัล สานักวิจัยสยามเทคโนโลยี อนิ เทอร์เน็ตโพลล์ระบวุ า่ วัยรุน่ ไทยเกือบ 40 % อยากใชเ้ วลาหน้าจอ มากกวา่ ออกกาลงั กาย และ ผลการสารวจจาก We are social พบวา่ ในแตล่ ะวนั คนไทยใช้เวลา หนา้ จอ ดังน้ี 4 ช.ม. 14 นาที โทรศพั ท์มอื ถอื 2 ช.ม. 48 นาที เขา้ สงั คมออนไลน์ 8 ช.ม. 49 นาที คอมพวิ เตอรห์ รอื แทบ็ เลต็ 2 ช.ม. 26 นาที ดโู ทรทศั น์
7 6. ทกั ษะในการบริหารจดั การข้อมูลที่ผู้ใชง้ าน มกี ารทิ้งไวบ้ นโลกออนไลน์ (Digital Footprints) สามารถเขา้ ใจธรรมชาติของการใช้ชวี ิตในโลกดิจิทลั วา่ จะหลงเหลอื ร่อยรอยขอ้ มลู ท้งิ ไว้เสมอ รวม ไปถึง เข้าใจผลลพั ธ์ท่อี าจเกดิ ขน้ึ เพอื่ การดแู ลส่งิ เหลา่ นีอ้ ยา่ งมคี วามรับผดิ ชอบ รอยเท้าดิจิทัล (Digital Footprints) คืออะไร รอยเท้าดจิ ทิ ัลคือ คาทใ่ี ช้เรียกรอ่ งรอยการกระทาต่างๆ ท่ผี ู้ใชง้ าน ทิ้งรอยเอาไว้ในโลกออนไลน์ โซเชยี ล มเี ดีย เวบ็ ไซต์หรอื โปรแกรมสนทนา เช่นเดยี วกบั รอยเท้า ของคนเดินทาง ขอ้ มูลดจิ ทิ ัล เช่น การลงทะเบียน อเี มล การโพสตข์ ้อความหรอื รปู ภาพ เม่อื ถกู สง่ เข้าโลกไซเบอร์แล้วจะทง้ิ ร่อยรอยข้อมลู ส่วนตวั ของ ผู้ใชง้ านไว้ให้ผอู้ ื่นตดิ ตามได้เสมอ แม้ผู้ใช้งาน จะลบไปแล้ว ดังนนั้ หากเป็นการกระทาที่ผดิ กฎหมาย หรือศลี ธรรม กอ็ าจมีผลกระทบต่อชอ่ื เสียง และภาพลกั ษณข์ องผูก้ ระทา กล่าวงา่ ยๆ รอยเทา้ ดิจทิ ลั คอื ทกุ ส่ิงทุกอย่างในโลกอินเทอร์เนต็ ที่ บอกเรอ่ื งของเรา เชน่ ขอ้ มูลส่วนตัวท่ีแชร์ ไว้ในบญั ชีส่ือสงั คม รปู ภาพ/ภาพถ่าย ออนไลน์ (Profile) ขอ้ มลู อน่ื ๆ ท่ีเรา โพสต์ไวใ้ นบลอ็ ก หรือเว็บไซต์
8 7) ทักษะในการรักษาความปลอดภยั ของตนเองในโลกออนไลน์ (Cybersecurity Management) - ความสามารถในการป้องกันข้อมูลด้วยการสร้างระบบความปลอดภัยท่ีเข้มแข็งและป้องกัน การโจรกรรมข้อมูลไม่ให้เกิดข้ึนได้ ถ้าต้องทาธุรกรรมกับธนาคารหรือซ้ือสินค้าออนไลน์ เช่น ซ้ือ เส้ือผ้า ชุดเดรส เป็นต้น ควรเปล่ียนรหัสบ่อยๆ และควรหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ และหากสงสัยว่าข้อมูลถูกนาไปใช้หรือสูญหาย ควรรีบแจ้งความและแจ้งหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ทันที - หมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็ก หากเด็กมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น ซึมเศร้า หวาดระแวง วิตก กังวล ควรถามหาสาเหตุ และเป็นผู้รบั ฟงั ท่ีดี ใหค้ าแนะนาท่ีเหมาะสม - ทาใหล้ กู รวู้ ่า พ่อแมพ่ ร้อมท่ีจะรบั ฟงั และช่วยเหลือ หากเด็กมีปัญหาถูกกลั่นแกล้งออนไลน์ ควร แจ้งใหผ้ ้ใู หญร่ บั รู้ และเด็กควรปดิ กนั้ การส่อื สารจากผทู้ กี่ ล่นั แกลง้ ทันที - หากถกู กล่ันแกลง้ ออนไลน์ ไม่ควรตอบโต้ แต่อาจแคปข้อความเกบ็ ไว้ เพ่ือใช้เป็นหลักฐานในการ ดาเนนิ การทางกฏหมาย - Cyberbullying คือปญั หาท่มี าพร้อมกับการใช้โซเชียล มีเดีย อย่างแพร่หลาย เม่ืออินเทอร์เน็ต กลายเปน็ เครือ่ งมือให้เกิดการคกุ คามกลัน่ แกล้งกนั ได้งา่ ยขึน้ ท้ังจากคนรจู้ ักหรือจากคนแปลกหน้า โดยการกลั่นแกล้งออนไลน์มีหลายรูปแบบ เช่น ใช้ข้อความว่าร้าย ดูหม่ิน ใช้ถ้อยคาหยาบคาย การคุกคามทางเพศ การหลอกลวง การแบล็กเมล์ การสร้างกลุ่มในโซเชียล มีเดีย เพื่อโจมตี ไป จนถงึ การแอบอา้ งตวั ตน ผปู้ กครองสามารถสอนใหเ้ ด็กรับมอื กับการกล่ันแกลง้ ออนไลนไ์ ด้โดยงา่ ย
9 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอยา่ งมีจริยธรรม (Digital Empathy) มีความเห็นอกเหน็ ใจ และสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีกับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ แม้จะเป็นการสื่อสารท่ี ไม่ไดเ้ ห็นหนา้ กนั มปี ฏิสมั พันธ์อันดีต่อคนรอบขา้ ง ไมว่ ่าพอ่ แม่ ครู เพื่อนท้ังในโลกออนไลน์และใน ชีวติ จริง ไมด่ ว่ นตัดสินผูอ้ น่ื จากข้อมูลออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียว และจะเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ท่ี ต้องการความช่วยเหลอื คิดกอ่ นจะโพสต์ลงสังคมออนไลน์ (Think Before You Post) ใคร่ครวญ กอ่ นทจ่ี ะโพสตร์ ปู หรือข้อความลงในสือ่ ออนไลน์ ไมโ่ พสต์ขณะกาลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ส่ือสารกับ ผู้อ่ืนด้วยเจตนาดี ไม่ใชว้ าจาท่ีสรา้ งความเกลียดชังทางออนไลน์ ไม่นาล้วงข้อมูลส่วนตัว ของผู้อ่ืน ไมก่ ลนั่ แกลง้ ผู้อื่นผ่านสอ่ื ดิจทิ ลั โดยอาจตงั้ ความถามกับตัวเองก่อนโพสต์วา่ I – is it illegal? เรอ่ื งทจี่ ะโพสตผ์ ิด กฎหมายหรอื ไม่ N – is it necessary? เรื่องท่จี ะโพสต์มสี าระ หรอื ความจาเปน็ หรือไม่ K – is it kind? เรอ่ื งที่จะโพสต์ มเี จตนาดีหรอื H – is it hurtful? เรื่องทจ่ี ะโพสต์ทา ใครเดอื ดรอ้ นหรือไม่ T – is it true ? เร่อื งทีจ่ ะโพสตเ์ ปน็ เรื่องจรงิ หรือไม
บรรณานุกรม วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง. (2561) บทความเรื่อง “พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship)” โดย Phichitra Phetparee| เผยแพร่บนเว็บไซต์ สสส. (วันที่ 27 มีนาคม 2562) เอกสารวิชาการออนไลนเ์ ร่ือง “คู่มอื พลเมอื งดิจิทลั ” อ้างองิ จาก https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/1355- goto-citizens21st พมิ พค์ ร้ังท่ี 3 ดร.สรานนท์ อินทนนท์. (2563) จัดพิมพ์และเผยแพร่ : มูลนิธิส่งเสริมส่ือเด็กและ เยาวชน (สสย.) 6/5 ซอยอารีย์ 5 พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-617-1919 อา้ งองิ จาก http://cclickthailand.com/wpcontent/uploads/2020/04/dq_FINAL.pdf
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: