Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore khaoyai

khaoyai

Published by natjaree06, 2017-07-18 05:07:33

Description: khaoyai

Search

Read the Text Version

เขาใหญ่ : อทุ ยานแหง่ การเรียน โดย

เขาใหญ่ : อุทยานแห่งการเรียน โดย เชิดชูเกียรติ กวาวสน่ันอทุ ยานแหง่ ชาติ (National Park) หมายถึง พนื ้ ทท่ี ม่ี ขี นาดใหญ่ มีความงดงามทางธรรมชาติ มีขนาดตงั้ แต่ 10 ตารางกิโลเมตรขนึ ้ ไป มีทรัพยากรธรรมชาติทมี่ คี ณุ คา่ เป็ นแหลง่ ท่ีมคี วามหลากหลายของสงิ่ มีชีวิตทงั้ พชื และสตั ว์ เหมาะสาหรับการศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้หรือมคี ณุ คา่ ทางด้านประวตั ิศาสตร์ ศิลปะ วฒั นธรรม อทุ ยานแหง่ ชาติแหง่ แรกของประเทศไทย ได้แก่ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ ซงึ่ ได้รับการประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเมอื่ วนั ท่ี 18 กนั ยายน พ.ศ. 2505อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ : อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียนและอทุ ยานแห่งชาติท่สี าคญั ของโลก อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ มพี นื ้ ที่ 2,168 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,355,396.96 ไร่ ครอบคลมุ พนื ้ ที่ 4 จงั หวดั คอื ปราจีนบรุ ีนครราชสมี า นครนายก และสระบรุ ี เป็ นป่ าผนื ใหญ่ ประกอบด้วย เทอื กเขาสลบั ซบั ซ้อนหลายลกู เป็ นแหลง่ กาเนดิ ต้นนา้ ลาธารหลายสาย เช่น แมน่ า้ ปราจีน แมน่ า้ นครนายก แมน่ า้ ลาตะคอง แมน่ า้ ลาพระเพลงิ มีความหลากหลายของพนั ธ์พุ ชื พนั ธ์สุ ตั ว์ป่ าเป็ นอยา่ งมาก มธี รรมชาตทิ ่ีสวยงาม ประกอบด้วย ป่ าไม้หลายชนดิ ทงุ่ หญ้า มนี า้ ตกประมาณ 30 แหง่ เป็ นอทุ ยานแหง่ ชาตทิ ม่ี ีการพฒั นาสง่ิ อานวยความสะดวก เหมาะสาหรับการทอ่ งเทีย่ วทสี่ มบรู ณ์ท่ีสดุ ประกอบด้วยทพี่ กั แรม ศนู ย์บริการนกั ทอ่ งเทยี่ วสาธารณปู โภคเพยี บพร้อม จนได้รับสมญานามวา่ เป็ น “อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซยี น” และเป็ นทีย่ อมรับกนั โดยทวั่ ไปวา่ เป็ น อุทยานแห่งชาตทิ ่สี าคญั ของโลกลกั ษณะทว่ั ไปของอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ เป็ นเทือกเขาสลบั ซบั ซ้อน มีระดบั ความสงู แตกตา่ งกนั ตงั้ แตร่ ะดบั ความสงู ใกล้ระดบั นา้ ทะเลตามแนวเขตอทุ ยานด้านทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ จนถงึ ระดบั ความสงู 1,351เมตร จากระดบั นา้ ทะเล ในบริเวณตอนกลางของพืน้ ท่ี ทางด้านทศิ ตะวนั ออก ภมู ิประเทศมีลกั ษณะเป็ นท่ลี าดตา่ สว่ นทางทศิ เหนอื ความลาดชนั น้อย จนถึง

ปานกลาง ทศิ ทางความลาดชนั สว่ นใหญ่มงุ่ สถู่ นนมติ รภาพ ในขณะทที่ างทิศใต้และทศิ ตะวนั ตกมีลกั ษณะเป็ นภเู ขาสงู ชนั โดดเดน่ขนึ ้ มาจากท่รี าบ ซงึ่ ใช้ประโยชน์เพือ่ การเกษตรนอกเขตอทุ ยานฯ ทางทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือมีลกั ษณะคล้ายเป็ นกาแพงภเู ขาตามแนวเขตอทุ ยาน ฯ จึงเรียกวา่ เขากาแพง และเป็ นสว่ นหนง่ึ ของเทอื กเขาพนมดงรัก โดยมยี อดเขาท่สี าคญั อยู่ 6 ยอดด้วยกนั คือเขาแหลม (1,326 เมตร) บริเวณทิศเหนือ เขาร่ม (1,351 เมตร) และเขาเขยี ว (1,292 เมตร) บริเวณตอนกลางเขากาแพง (875เมตร) บริเวณทศิ ตะวนั ออกตะวนั ออกเฉียงเหนอื และเขาสามยอด (1,142 เมตร) กบั เขาฟ้ าผา่ (1,078 เมตร) บริเวณทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือของอทุ ยาน ฯอาณาจักรแห่งชวี ติ ในพนื ้ ที่ 2,168 ตารางกิโลเมตร ของอทุ ยานแหง่ ชาติเขาใหญ่ เป็ นแหลง่ ทพ่ี ชื พนั ธ์ไุ ม่ ตา่ กวา่ 2,000-2,500 ชนิด สตั ว์เลยี ้ งลกู ด้วยนมมากกวา่ 60 ชนดิ และนกตา่ งๆ ไมน่ ้อยกวา่ 294 ชนิด ด้วยเหตนุ ี ้เขาใหญ่จงึ ได้รับการจดั ให้เป็ นหนงึ่ ใน 11 แหง่ ของโลกท่เี ป็ น \"Vavilov Center\" คือเป็ นพนื ้ ท่ีท่ีอดุ มไปด้วยทรัพยากรพชื และสตั ว์ป่ าอนั ลา้ คา่ ซง่ึ เป็ นแหลง่ วตั ถดุ ิบสาหรับผลติ ยารักษาโรคและผลติ สายพนั ธกุ รรมใหม่ ๆ ในด้านเกษตรกรรม พนื ้ ท่ปี ่ าสว่ นใหญ่เป็ นป่ าดบิ ทคี่ อ่ นสมบรู ณ์ มสี ภาพป่ าดิบเขา ป่ าดบิ แล้งป่ าเบญจพรรณ มีป่ าทงุ่ หญ้าและป่ าเตง็ รังเพยี งเลก็ น้อย เราสามารถพบเห็นสภาพของป่ าประเภทตา่ งๆ ได้จากบริเวณ ดงั ตอ่ ไปนี ้ ผนื ป่ าในเขตของอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ เป็ นแหลง่ ต้นนา้ ลาธารทสี่ าคญั หลายสาย เป็ นต้นธารของแมน่ า้ นครนายก แมน่ า้ปราจีนบรุ ี ทไี่ หลไปรวมกนั เป็ นแมน่ า้ บางปะกง เป็ นต้นนา้ ลาตะคองทีเ่ ลยี ้ งคนนครราชสมี าทงั้ จงั หวดั และเป็ นต้นนา้ ของแมน่ า้ มลูที่สายธารจากเขาใหญ่ ไหลเลาะเลยี บขนึ ้ ทางทศิ เหนอื และออกสแู่ มน่ า้ โขงในท่สี ดุ ผืนป่ าเขาใหญ่จึงมคี วามสาคญั อยา่ งท่ีสดุ ตอ่ทกุ ชีวติ ท่ีจาเป็ นต้องใช้นา้ เป็ นปัจจยั สาหรับการหลอ่ เลยี ้ งชีวติ เพราะป่ าเขาใหญ่ทีค่ ณุ สมั ผสั อยนู่ คี ้ ือแหลง่ ผลติ นา้ จืดทสี่ าคญั ท่สี ดุของพืน้ ที่ภาคกลางและภาคอสี านตอนลา่ ง ป่ าเขาใหญ่ จงึ เป็ นแหลง่ ต้นธารแหง่ ชีวติ ของสรรพชวี ิต ทงั้ ทีอ่ ยใู่ นป่ าและผ้คู นที่อาศยั อยโู่ ดยรอบและกว้างไกลออกไป ซง่ึ ได้ใช้ประโยชน์จากสายนา้ ตา่ ง ๆ ตอ่ เน่อื งมาตงั้ แตส่ มยั โบราณและยงั คงต้องใช้เร่ือยไปในอนาคตอยา่ งไมส่ นิ ้ สดุพชื พนั ธ์ุ จากการสารวจสภาพพนื ้ ท่โี ดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถา่ ยดาวเทยี ม ตลอดจนการสารวจในท้องที่จริงพืชพรรณทข่ี นึ ้อยใู่ นพนื ้ ที่อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ สามารถแบง่ ออกเป็ น 5 ประเภทใหญ่ ๆ และมพี นั ธ์พุ ืชอยถู่ งึ 2,000 - 2,500 ชนดิ คือ 1. ป่ าเบญจพรรณ ป่ าชนดิ นขี ้ นึ ้ อยใู่ นระดบั ความสงู 400-600 เมตรจากระดบั นา้ ทะเล ปรากฏอยทู่ างทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนอืของอทุ ยาน ฯ คือในเขตจงั หวดั สระบรุ ี ไม้ทสี่ าคญั คอื มะคา่ โมงแดง ตะแบกใหญ่ ป่ าชนดิ นไี ้ ด้รับการบกุ รุกมาก และควรจะต้องมีระบบจดั การควบคมุ ทด่ี ี 2. ป่ าดิบแล้ง ขนึ ้ อยใู่ นพนื ้ ท่ีคอ่ นข้างราบทางทศิ ตะวนั ออก ในเขตจงั หวดั นครราชสมี า และปราจีนบรุ ี มกั อยสู่ งู จากระดบั นา้ ทะเลประมาณ 100-400 เมตร ไม้ที่สาคญั ได้แก่ มะคา่ โมง ยางนา พะยอม ตะเคียนแดง กระเบากลกั และตาเสอื 3. ป่ าดบิ ชืน้ มกั พบกระจดั กระจายตงั้ แตค่ วามสงู 400-1,000 เมตรจากระดบั นา้ ทะเล ป่ าชนดิ นพี ้ บมากทางด้านตะวนั ออกของอทุ ยานฯ ป่ าจะมี 3 ระดบั ชนั้ และไม้เลอื ้ ยมากมาย สว่ นไม้พนื ้ ลา่ งหนาแนน่ มาก ไม้ที่สาคญั คอื ไม้ตระกลู ยางตา่ งๆ เช่น ยางนายางเสยี น สว่ นไม้ชนั้ รอง คอื พวกไม้กอ่ อนั ประกอบด้วย ก่อนา้ และกอ่ เดอื ย 4. ป่ าดิบเขา ป่ าชนดิ นีเ้กดิ ขนึ ้ ในทส่ี งู ๆ หรือบนภเู ขาสงู ตงั้ แต่ 1,000 เมตรจากระดบั นา้ ทะเล ไม้สว่ นมากเป็ นพวกgymnosperm ได้แก่ พญาไม้ ขนุ ไม้ และสนสามพนั ปี นอกจากนมี ้ ไี ม้พวกตระกลู ก่อ คอื Lithocarpus sp. และ Quercus sp.ขนึ ้ อยู่ พวกไม้ชนั้ ทีส่ อง ได้แก่ เป้ ง สะเดาช้าง และขมิน้ เป็ นต้น 5. ป่ าหญ้า ป่ ารุ่น หรือป่ าเหลา่ ป่ าพวกนเี ้กิดจากการกระทาของมนษุ ย์ เชน่ การทาไร่เลอ่ื นลอย และการตดั ถนนในพนื ้ ท่ีอทุ ยาน ฯ พนั ธ์พุ ืชท่ีพบมากในทงุ่ หญ้า คือ หญ้าคา พง เลา และแขมหลวง นอกจากนยี ้ งั พบไม้เนอื ้ ออ่ นขนึ ้ อยู่ คอื พวกปอหู และปอฟาน ในพนื ้ ทซ่ี ง่ึ ไมม่ ไี ฟรบกวน พรรณไม้ป่ าจะบกุ รุกเข้าไปในทงุ่ หญ้าอย่างเหน็ ได้ชดั

สตั ว์ป่ า ปัจจยั แหง่ ความหลากหลาย ในระบบนเิ วศ สตั ว์ป่ า คือองค์ประกอบและเป็ นปัจจยั ทสี่ าคญั ทสี่ ดุ ท่ที าให้เกดิ ความเปลย่ี นแปลงของพฒั นาการท่ไี มส่ นิ ้ สดุ เพราะวา่ กิจวตั รประจาวนั ของสตั ว์ป่ าทงั้ หลาย ไมว่ า่ จะเป็ น การกิน เดิน ถา่ ย นอนล้วนแล้วแตเ่ ก่ียวข้องกบั การควบคมุ และกระจายพนั ธ์พุ ชื และปริมาณสตั ว์ป่ า ให้เกิดความสมดลุ ของระบบนเิ วศทงั้ สนิ ้ ตงั้ แตส่ ตั ว์เลก็ เลก็ เชน่ ไส้เดือน หรือ แมลงตวั เลก็ ใต้พนื ้ ดิน จนกระทงั่ ถงึ ช้าง สตั ว์ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ของป่ า หรือแม้แต่ นก ที่เหินบินอยบู่ นท้องฟ้ าอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ เป็ นหนงึ่ ในจานวนพนื ้ ทเ่ี พยี งไมก่ ี่แหง่ ของประเทศที่มีสตั ว์ป่ าชกุ ชม เพราะประกอบด้วยถิ่นท่อี ยู่ และแหลง่อาหารทีเ่ หมาะสมกบั สตั ว์ป่ าเกือบทกุ ชนดิ การสารวจเบอื ้ งต้นพบวา่ มีสตั ว์เลยี ้ งลกู ด้วยนมหลายประเภท ได้แก่ สตั ว์กินเนอื ้ 16ชนิด ช้าง 1 ชนิด สตั ว์กีบ 7 ชนดิ สตั ว์กินแมลง 3 ชนิด สตั ว์จาพวกลงิ 5 ชนดิ กระตา่ ย 1 ชนิด สตั ว์จาพวกใช้ฟันแทะ 6 ชนิด และพวกค้างคาวไมน่ ้อยกวา่ 25 ชนดิ สว่ นสตั ว์จาพวกนกมีไมน่ ้อยกวา่ 293 ชนิด สตั ว์เลอื ้ ยคลานและสตั ว์คร่ึงบกคร่ึงนา้ ประมาณ 70ชนิดร้อยป่ ายงั คงไพร ชีวติ คนไทยย่งั ยนื ประเทศไทยยงั นบั วา่ โชคดี ทย่ี งั มีพนื ้ ทป่ี ่ าไม้ท่ีได้รับการค้มุ ครองรักษาไว้ในลกั ษณะของ อทุ ยานแหง่ ชาติ วนอทุ ยานเขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ป่ า ป่ าสงวนแหง่ ชาติ สวนรุกขชาติ สวนพฤกษศาสตร์ เ ขตสงวนชวี มณฑล รวมทงั้ ป่ าชมุ ชนอยทู่ ว่ั แผน่ ดินถงั้ หลายร้อยป่ า การทีเ่ ราสามารถมีพนื ้ ทป่ี ่ าไม้อยหู่ ลายร้อยป่ านบั วา่ สาคญั แตส่ งิ่ ท่ีสาคญั ยง่ิ กวา่ นนั่ คือ การท่ีเราจะร่วมกนั อนรุ ักษ์พนื ้ ทปี่ ่ าไม้เหลา่ นนั้ ใ ห้คงอยใู่ นสภาพเดิมนนั้ อยา่ งยงั่ ยืนตลอดไป โดยปราศจากการบกุ รุกทาลายทจี่ ะทาให้พนื ้ ท่ปี ่ าไม้ลดน้อยลงและชว่ ยกนั เพ่ิมพนื ้ ทปี่ ่ าไม้ โดยการปลกู ป่ าไม้ถาวรเพื่อทาให้ประเทศไทยของเราเขยี วขจีไปด้วยป่ าไม้เพิ่มเป็ นหลาย ร้อยป่ าใหญ่เพราะผนื ป่ าทีม่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์นนั้ เป็ นแหลง่ รวมของความหลากหลายทางชีวภาพ ของสรรพชีวิตทจ่ี ะเกือ้ กลู เออื ้ อาทร แบง่ ปันสกู่ ารดารงชวี ิตของหมชู่ นอยา่ งยง่ั ยืน เราต้องมงุ่ มนั่ ทจี่ ะอนรุ ักษ์รักษาและสร้างพนื ้ ที่สเี ขยี ว เพอื่ โลกสเี ขยี ว เพ่ือลดโลกร้อน เพื่อชีวิตท่ดี ีของมวลชน ป่ าไม้แหลง่ รวมความหลากหลายทางชีวภาพในเมืองไทย ประกอบไปด้วยผนื ป่ าน้อยใหญ่หลากหลายรูปแบบ ที่กระจายอยทู่ ว่ั ประเทศยงั คงยนื หยดั เพอ่ื พร้อมทจ่ี ะเออื ้ อานวยประโยชน์ให้เกิดแกม่ วลชน ดงั เชน่ ผนื ป่ าเขาใหญ่ทเี่ ป็ นต้นแบบของการอนรุ ักษ์ในรูปแบบอทุ ยานแหง่ ชาติและเป็ นแหลง่ เรียนรู้ด้านพนั ธ์พุ ชื และสตั ว์ป่ าท่สี าคญั ยิ่งบนผนื แผน่ ดนิ ไทย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook