หวั ใจขาดเลือด หรอื หวั ใจขาดเลือดเฉยี บพลัน คอื ภาวะทีห่ วั ใจขาดเลอื ดและออกซเิ จนที่ไปหลอ่ เลี้ยงหวั ใจเนอ่ื งจากหลอดเลอื ดหวั ใจถูกปดิ กั้นจากคราบพลัค (Plaque) จนทาใหก้ ลา้ มเน้ือท่หี วั ใจเสอื่ มสภาพและตายลง โดยโรคนแ้ี บง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ ◊ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิดพบความผิดปกติของคล่ืนไฟฟ้าหัวใจมีลักษณะ ST Segment (ST Segment Elevation Myocardial Infarction - STEMI) เกิดจากการอุดตัน ของหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลัน จนทาให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หากไม่ได้รับการ รักษาโดยเรว็ จะทาให้กลา้ มเนือ้ หัวใจตายเฉยี บพลนั แบบรนุ แรงได้ ◊ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิดไม่พบ ST Segment Elevation (Non-ST Segment Elevation Myocardial Infarction - NSTEMI) เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจแบบ เฉียบพลัน ซึ่งหากมีอาการติดต่อกันนานกว่า 30 นาที จะทาให้เกิดภาวะกล้ามเน้ือหัวใจตาย เฉียบพลันได้ แต่ถ้าอาการไม่รุนแรง อาจเกิดเพียงภาวะเจ็บหน้าอกชนิดไม่คงท่ี (Unstable Angina) เทา่ นนั้ อาการหัวใจขาดเลือด อาการท่ีมักพบได้ในผ้ปู ว่ ยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันไดแ้ ก่ ◊ รู้สึกแน่นและเจ็บหน้าอก ผู้ป่วยจะมีอาการแน่น รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ หรือมีแรงดันจานวนมากท่ี บริเวณกลางอกหรือที่อกข้างซ้าย โดยอาการอาจจะเกิดข้ึนไม่ก่ีนาทีแล้วก็หาย แต่จากนั้นก็อาจจะ กลับมาเป็นอีก นอกจากน้ีผู้ป่วยยังอาจรู้สึกเหมือนแสบร้อนกลางอก หรืออาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย อาการเจ็บหน้าอกมักจะเกิดข้ึนรุนแรง บางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยคล้ายกับอาหารไม่ย่อย ขณะท่ีผู้ปว่ ยทเ่ี ปน็ เบาหวานอาจไมม่ ีอาการเจ็บหนา้ อกใด ๆ ไดเ้ ช่นกนั ◊ รู้สึกอึดอัดที่หน้าอกหรือลิ้นป่ี นอกจากรู้สึกแน่นท่ีหน้าอกแล้ว ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าอาการแน่นแล่นไป ตามส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายท่อนบนด้านซ้าย ได้แก่ บริเวณกราม คอ หลังหน้าท้อง และแขน แต่บาง รายก็อาจมีอาการจุกเสียดแน่นทง้ั 2 ซกี ของร่างกายส่วนบนได้ ◊ หายใจถี่ ๆ ผู้ปว่ ยบางรายอาจมอี าการหายใจสัน้ ท่ีเกดิ ขนึ้ จากความรู้สึกของตนเอง หรืออาจเกิดขน้ึ ขณะที่รู้สกึ เจ็บและแนน่ หน้าอก โดยอาการน้ีอาจเกิดขึน้ จากหวั ใจขาดเลือดเฉยี บพลนั
นอกจากน้ี ยงั อาจมีอาการอนื่ ๆ ร่วมด้วย ซึง่ มสี าเหตเุ นื่องจากอาการแนน่ หนา้ อกและหายใจได้ ลาบาก ดงั นี้ ◊ วงิ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ◊ เหงอ่ื ออกขณะท่รี ่างกายเย็น ◊ รู้สึกวิตกกงั วลมากผดิ ปกติ ◊ ไอ หรอื หายใจมเี สยี ง ◊ มอี าการเหน่ือยมากผดิ ปกติโดยไม่มสี าเหตุ สาเหตุของหัวใจขาดเลือด โรคนเี้ กิดขน้ึ ได้จากหลายสาเหตุ ซึง่ ทาใหเ้ ลือดทจ่ี ะไหลเวยี นไปยังหัวใจถูกขัดขวาง และเม่ือหัวใจไม่ได้ รับเลือดและออกซิเจนไปเล้ียงอย่างเหมาะสม กล้ามเนื้อหัวใจก็จะเส่ือมสภาพและเร่ิมตาย หากไม่ได้ รับการรักษาจนความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง หัวใจก็จะหยุดเต้นและ เสยี ชวี ติ ในท่ีสุด โดยสาเหตทุ ท่ี าใหเ้ ลอื ดไม่สามารถไปหลอ่ เล้ียงหวั ใจได้อย่างเพียงพอ ไดแ้ ก่ ◊ โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease) เป็นสาเหตุหลักที่ทาให้เกิดหัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน โดยคราบพลัคท่ีเกิดข้ึนภายในหลอดเลือด ทาให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เม่ือสะสม มาก ๆ เขา้ ก็จะอุดตนั ท่หี ลอดเลือดหัวใจโคโรนารี และทาให้เกดิ ภาวะหัวใจขาดเลือด ◊ ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดตัวอย่างรุนแรง (Coronary Artery Spasm) เป็นสาเหตุท่ีพบได้ไม่บ่อย นัก เกดิ ขึ้นจากการที่หลอดเลือดหัวใจโคโรนารีเกิดการหดตัวอย่างรุนแรงจนทาให้การไหลเวียนเลือด ไปยังหัวใจถูกตัดขาด ท้ังนี้ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะดังกล่าว แต่ก็พบว่ามีความเก่ียวข้องกับ การใช้ยาเสพติด ความเครียด หรืออาการเจ็บปวด การอยู่ในสถานที่ท่ีมีอากาศเย็นมาก และการสูบ บุหรี่ ◊ ภาวะขาดออกซิเจนในเลือด (Hypoxia) เป็นสาเหตุท่ีพบได้ไม่บ่อยนัก โดยเมื่อระดับออกซิเจนใน เลือดลดลงเนื่องจากได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป ก็จะทาให้หัวใจไม่ได้รับเลือดที่มี ออกซิเจนอยา่ งเต็มที่ กลา้ มเนือ้ หัวใจก็จะเสยี หาย และเกิดโรคหวั ใจขาดเลอื ดเฉียบพลันในท่ีสุด นอกจากน้ีโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันก็ยังอาจเกิดขึ้นได้หากผู้ป่วยมีความเส่ียงสุขภาพ โดยความ เสย่ี งน้ันแบง่ ออกได้เปน็ ความเสยี่ งคงท่ี ความเส่ียงท่ีเปลย่ี นแปลงได้ และความเส่ยี งอ่ืน ๆ ปัจจยั เส่ยี งท่ีไมส่ ามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ◊ อายุ ยง่ิ อายมุ ากขึน้ ก็ยงิ่ เส่ียงตอ่ โรคหวั ใจขาดเลือดเฉยี บพลนั ◊ เพศ ผู้ชายเปน็ เพศท่ีมีความเส่ียงตอ่ โรคนมี้ ากกวา่ แต่ก็สามารถเกิดในผหู้ ญงิ ไดด้ ว้ ยเชน่ กัน ◊ พนั ธกุ รรม หากมีประวตั คิ นในครอบครัวเคยเป็นโรคหัวใจ ก็จะยง่ิ เสยี่ งต่อโรคหวั ใจขาดเลือด เฉียบพลนั มากขน้ึ ปจั จยั เสี่ยงทเ่ี ปลี่ยนแปลงได้ พฤติกรรมการใช้ชวี ติ และการรับประทานอาหารอาจส่งผลให้เกิดความ เส่ียงโรคหัวใจขาดเลือดได้มากข้ึน แต่ความเส่ียงก็สามารถลดลงได้หากปรับเปล่ียนพฤติกรรม ความ เสยี่ งเหล่านีไ้ ดแ้ ก่ ◊ การสบู บหุ ร่ี ผู้ทีส่ ูบบหุ รเี่ ปน็ ประจาจะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมาก ขึน้ การเลิกสบู บุหรจี่ ะช่วยให้ความเส่ยี งลดลง
◊ ภาวะคอเลสเตอรอลสูง หากมรี ะดบั คอเลสเตอรอลชนิดท่ีไม่ดสี ูง กจ็ ะเสย่ี งต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็ง และทาใหห้ ลอดเลอื ดหัวใจอดุ ตันได้ ◊ ความดันโลหิตสูง ทาให้หัวใจยิ่งทางานหนักข้ึนเม่ือเกิดโรคความดันโลหิตสูง และทาให้กล้ามเนื้อ หัวใจทางานผิดปกติจนเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจวาย และโรคหัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน การรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย และการรักษาอย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยความดันโลหิต สูงจะทาใหค้ วามเสี่ยงลดลงได้ ◊ การไม่ออกกาลังกาย จะเพ่ิมความเสี่ยงให้กับโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยเฉพาะ โรคหลอดเลือดหัวใจท่ีเป็นสาเหตุของหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แต่ถ้าหากออกกาลังกายอย่าง สม่าเสมอในปริมาณท่เี หมาะสมก็จะช่วยลดความเส่ยี งตา่ ง ๆ ได้ ◊ โรคอ้วนและภาวะน้าหนักเกิน จะทาให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันในร่างกายมากผิดปกติ จน ก่อให้เกดิ ความเส่ียงโรคหัวใจ การควบคมุ น้าหนักจะช่วยให้ความเส่ียงลดลงได้ ◊ โรคเบาหวาน หากผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับน้าตาลในเลือดไม่ดี จะทาให้เสี่ยงต่อการเป็นหัวใจ และความเส่ียงจะย่ิงมากขนึ้ หากผปู้ ว่ ยมีโรคอ้วน สามารถลดความเสี่ยงได้หากควบคุมระดับน้าตาลให้ อยใู่ นเกณฑ์ท่ีเหมาะสม ◊ ความเสี่ยงอื่น ๆ เป็นความเส่ียงท่ีอาจเกิดข้ึนได้ และสามารถส่งผลให้เป็นโรคหัวใจวาย แต่ถ้าหาก หลกี เลีย่ งกส็ ามารถขจัดความเสีย่ งเหลา่ น้อี อกไปได้ ◊ ความเครียด สามารถก่อใหเ้ กดิ ความเสี่ยงโรคหวั ใจ เนอ่ื งจากความเครียดสามารถนามาสู่พฤติกรรมที่ เปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพ เช่น การรบั ประทานอาหารทไี่ มม่ ปี ระโยชน์ หรือการใชส้ ารเสพตดิ ต่าง ๆ ◊ การด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ แม้จะมีการแนะนาว่าการด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณท่ี เหมาะสมช่วยบารุงหัวใจได้ แต่หากดื่มมากไปก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ อีกท้ังยังไม่ แนะนาให้ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้ที่ดื่มอยู่แล้วด่ืมเพ่ือบารุงหัวใจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อ สุขภาพได้ ◊ อาหาร ถอื เปน็ ส่ิงที่เกี่ยวข้องกับโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะอาหารสามารถส่งผลต่อปัจจัย เส่ียงอื่น ๆ เช่น ระดับคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ดังน้ันจึงควร รับประทานอาหารใหถ้ ูกสขุ ลักษณะและมีสารอาหารครบถ้วนในปริมาณท่ีพอเหมาะ การวินจิ ฉยั หวั ใจขาดเลือดเฉียบพลัน ◊ ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดสามารถสังเกตอาการหัวใจได้เบ้ืองต้น หากมีอาการแน่น หรือเจ็บหน้าอก และ หายใจลาบาก โดยเฉพาะคนที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหาก ปลอ่ ยไว้อาจทาใหอ้ าการย่ิงรุนแรงขนึ้ และเสียชวี ติ ได้ ◊ โดยเมอื่ ไปพบแพทย์ แพทยจ์ ะทาการซกั ประวตั ิถงึ อาการ และการรักษาต่าง ๆ ที่จาเป็นในการวินิจฉัย และอาจมีการถามถึงประวตั ิครอบครัววา่ มีใครเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือไม่ จากน้ันแพทย์ จะทาการส่ังตรวจเพ่ิมเตมิ ด้วยวธิ ดี ังตอ่ ไปน้ี ◊ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: ECG) เป็นการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือด เฉยี บพลนั ท่ีสาคัญที่สุด ในการตรวจจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที โดยแพทย์จะติดแผ่นประจุไฟฟ้าไว้ท่ี แขน ขา และหน้าอก จากน้ันจะวัดคล่ืนไฟฟ้า อัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจว่ามีความผิดปกติ หรอื ไม่ ซึ่งวิธีการตรวจนี้จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และระบุประเภทของ โรคนไ้ี ด้ชัดเจนยิง่ ขนึ้ เพื่อแพทยจ์ ะไดท้ าการรกั ษาต่อไป
◊ การตรวจเลือด เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่ช่วยระบุโรคหัวใจขาดเลือดได้ เพราะเม่ือเกิดภาวะ หัวใจขาดเลือด ก็จะทาให้มีโปรตีนส่ิงแปลกปลอมจากเซลล์กล้ามเน้ือหัวใจท่ีตายร่ัวไหลลงไปใน กระแสเลือดมากกว่าปกติ ย่ิงมีโปรตีนเจือปนในเลือดมากเท่าใดก็บ่งบอกว่าเป็นโรคหัวใจขาด เลอื ดเฉียบพลัน เชน่ ◊ การตรวจหาคาร์ดิแอค โทรโปนนิ (Cardiac Troponin) เป็นการตรวจหาโปรตนี ในเซลล์ทช่ี ่วย ระบภุ าวะกลา้ มเน้ือหัวใจตายเน่อื งจากหัวใจขาดเลือดเฉียบพลนั ได้ ◊ การตรวจหาครีเอตินไคเนส-เอ็มบี (CK-MB) การตรวจเพ่ือหาเอ็นไซม์ในเลือด ซึ่งจะร่ัวลงมาใน เลอื ดเมื่อเกดิ ภาวะกลา้ มเน้ือหัวใจตาย ◊ การใส่สายสวนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography) เป็นการตรวจดูความผิดปกติ ของหัวใจขาดเลือดด้วยการฉีดสารทึบสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ จากน้ันแพทย์จะทาการ เอกซเรย์เพื่อดูว่ามีส่วนใดของหลอดเลือดอุดตันหรือตีบบ้างหรือไม่ หากพบความผิดปกติ แพทย์ จะรักษาด้วยสอดสายสวนเพื่อเปดิ ทางให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากข้นึ ◊ การตรวจหัวใจด้วยคล่ืนเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram) การตรวจหาความ ผิดปกติของหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ส่งคล่ืนเสียงเข้าไปกระทบหัวใจ ออกมาเปน็ ภาพใหเ้ ห็น ซง่ึ จะช่วยใหแ้ พทย์เห็นความเสยี หายของหวั ใจที่เกิดจากการขาดเลือดได้ การรกั ษาหัวใจขาดเลือด ◊ หัวใจขาดเลือดเป็นภาวะที่เกิดข้ึนอย่างเฉียบพลันท่ีต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะยิ่ง รกั ษาเรว็ เท่าไหร่ ก็จะสามารถยบั ยั้งความเสยี หายของกล้ามเน้อื หัวใจ และช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไป ได้ดียิ่งข้ึน โดยการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหัวใจขาดเลือดที่พบ ทั้งน้ีในเบ้ืองต้นเมื่อเกิด อาการ ควรโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งหน่วยแพทย์อาจทาการรักษาด้วย วธิ เี บอ้ื งตน้ ดงั น้ี ◊ ใหย้ าแอสไพรินเพื่อป้องกันการแขง็ ตัวของเลือด ◊ ใหย้ าไนโตรไกลเซรนิ (Nitroglycerin) เพ่ือลดการทางานของหวั ใจ และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ขึน้ ◊ ใหอ้ อกซิเจน ◊ รักษาอาการแน่นหรอื เจบ็ หนา้ อก ◊ เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจแล้ว แพทย์จะใช้วิธีในการรักษาที่ แตกต่างกันไป ในระหว่างการรักษาผู้ป่วยจะต้องดูแลสุขภาพและปรับเปล่ียนพฤติกรรมการใช้ ชีวิตอย่างสม่าเสมอและทาตามคาแนะนาแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น เลิกสูบบุหรี่ ควบคุมระดับ คอเลสเตอรอลในเลือด ความดันโลหิตสูง และระดับน้าตาลในเลือด ออกกาลังกาย ควบคุม น้าหนักให้อยู่ในเกณฑ์ท่ีเหมาะสม รวมท้ังผู้ป่วยต้องลดความเครียด เพราะความเครียดจะย่ิงทา ให้อาการรนุ แรงยิ่งข้นึ ◊ แม้ว่าการปรับเปล่ียนพฤติกรรมการใช้ชีวิตจะช่วยให้อาการโดยรวมดีข้ึน แต่ผู้ป่วยก็จาเป็นต้อง ได้รบั การรักษาทางการแพทย์เป็นหลกั ท่แี พทย์นยิ มใช้ ได้แก่
การใช้ยา แพทย์จะพิจารณาการใช้ยาชนิดใดชนิดหน่ึง หรืออาจใช้ยาหลายตัวร่วมกันเพื่อรักษา อาการ ยาทมี่ กั ใช้ได้แก่ ◊ ยาแอสไพริน เป็นยาที่แพทย์และหน่วยแพทย์ฉุกเฉินนิยมใช้เพ่ือรักษาอาการหัวใจขาดเลือด เฉยี บพลนั ในเบอื้ งตน้ กลไกในการทางานของยาชนิดน้ีจะช่วยลดล่ิมเลือดและทาให้เลือดสามารถ ไหลเวยี นภายในหลอดเลอื ดทแ่ี คบได้ ◊ ยาละลายล่ิมเลือด (Thrombolytics) คือยาที่มีคุณสมบัติในการละลายล่ิมเลือด ซ่ึงปิดก้ัน ระบบไหลเวียนโลหิต ท้ังนี้หากผู้ป่วยได้รับยาชนิดนี้ภายในระยะเวลาไม่นานต้ังแต่เร่ิมเกิดอาการ จะชว่ ยเพ่ิมโอกาสรอดชีวติ และลดความเสยี หายของหวั ใจได้ ◊ ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet) คือยาท่ีใช้ในการป้องกันการเกิดล่ิมเลือด และป้องกันไม่ให้ ลิ่มใหญข่ ึน้ กวา่ เดมิ ทาให้ผ้ปู ่วยมอี าการที่ดีขนึ้ จากการท่ีระบบไหลเวยี นโลหิตสามารถไหลเวียนไป เล้ียงหัวใจไดม้ ากข้นึ ◊ ยาระงับอาการปวด สาหรับผู้ป่วยท่ีมีอาการแน่นหรือเจ็บที่หน้าอก การใช้ยาน้ีจะช่วยลดอาการ ปวดลงได้ แตจ่ ะต้องใชภ้ ายใตค้ าแนะนาของแพทย์เท่านั้น เน่ืองจากยาท่ีใช้ค่อนข้างแรง หรือเป็น ยาแก้ปวดชนิดสารเสพติด ไดแ้ ก่ มอรฟ์ ีน เป็นต้น ◊ ยาไนโตรไกลเซริน (Nitroglycerin) ยาดังกล่าวจะใช้ในผู้ป่วยท่ีมีอาการเจ็บหน้าจากโรคหลอด เลอื ดหวั ตีบ โดยยาจะเขา้ ไปทาให้หลอดเลือดทีต่ บี ขยายตัวมากข้ึน สง่ ผลดตี อ่ การไหลเวียนโลหติ ◊ ยาปิดกั้นการทางานของเบต้า (Beta Blockers) ในผู้ป่วยหัวใจขาดเลือด จะต้องมีการใช้ยานี้เพ่ือ ผ่อนคลายกล้ามเน้ือหัวใจ ลดความเร็วของอัตราการเต้นหัวใจ ลดความดันโลหิต ซ่ึงจะทาให้หัวใจ ทางานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพมากข้นึ ◊ ยาเอซีอีอินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitors) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยส่วน ใหญ่ โดยยาจะเข้าไปลดระดบั ความดนั โลหติ และใหก้ ลา้ มเนื้อหัวใจทางานไดด้ ีข้นึ การผ่าตัด บางกรณีแพทย์อาจแนะนาให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเพ่ือช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนไป ยังหัวใจไดอ้ ย่างเพยี งพอมากข้นึ โดยแพทยม์ กั นิยมใช้วธิ ีดังตอ่ ไปน้ี ◊ การขยายหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยบอลลูนและการถ่างด้วยขดลวด (Coronary Angioplasty and Stenting) เป็นการผ่าตัดท่ีจะนาอุปกรณ์คล้ายท่ีมีลักษณะคล้ายบอลลูนใส่เข้าไปท่ีหลอดเลือด หัวใจเพื่อขยายหลอดเลือดบริเวณท่ีอุดตันหรือตีบ แพทย์จะนาท่อเล็ก ๆ สอดเข้าไปในหลอดเลือด หัวใจ โดยเริ่มจากที่บริเวณขา หรือขาหนีบ เพ่ือถ่างหลอดเลือดไว้ วิธีการผ่าตัดน้ีสามารถช่วยฟื้นฟู ระบบไหลเวียนเลอื ดให้สามารถไปหลอ่ เลี้ยงหวั ใจได้อย่างเพียงพอ ◊ การผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Bypass Surgery) ในบางกรณีผู้ป่วย อาจต้องได้รับการผ่าตัดเพ่ือบายพาสหลอดเลือดหัวใจอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์จะนาหลอดเลือดดาท่ี บริเวณขามาเช่ือมต่อกับหลอดเลือดหัวใจ เพ่ือเบ่ียงทางไหลเวียนของเลือดข้ามส่วนที่ตีบหรืออุดตัน ซึ่งเม่อื ผ่าตัดแล้วระบบไหลเวียนเลือดจะค่อย ๆ กลับมาใกล้เคียง ทาให้หัวใจกลับมาทางานได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพมากข้ึน
ภาวะแทรกซ้อนของหวั ใจขาดเลอื ด ◊ ผปู้ ว่ ยโรคหัวใจขาดเลือดส่วนใหญ่สามารถพบกับภาวะแทรกซ้อนได้ ไม่ว่าอาการนั้นจะรุนแรงหรือไม่ ซ่ึงภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้มีตั้งแต่อาการไม่รุนแรง จนถึงอันตรายและอาจทาให้เสียชีวิตได้ ที่พบใน ผ้ปู ว่ ยมดี งั ตอ่ ไปนี้ ◊ หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) เป็นผลมาจากการท่ีกล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย หรือถูกทาลาย เน่ืองจากมีเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ซึ่งความเสียหายน้ีจะส่งผลให้กระแสไฟฟ้าท่ีกระตุ้นการเต้น ของหัวใจทางานผิดปกติตามไปด้วย ซึ่งอาการของภาวะแทรกซ้อนน้ีคือ ใจส่ัน เจ็บหน้าอก วิงเวียน ศีรษะ อ่อนเพลีย และหายใจลาบาก แต่ถ้าหากรุนแรงก็อาจทาให้กระแสไฟฟ้านั้นไม่สามารถส่งไปยัง สว่ นต่าง ๆ ของหัวใจได้ จนเป็นเหตุใหเ้ ลือดไม่สามารถสบู ฉีดได้ดีเทา่ ท่ีควร ◊ นอกจากนี้ หากการเต้นของหัวใจห้องล่างผิดปกติ (Ventricular Arrhythmia) ยังอาจนามาสู่ภาวะ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Cardiac Arrest) และทาให้เสียชีวิตได้ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังเกิดภาวะ หัวใจขาดเลือดเฉยี บพลัน ◊ หัวใจวาย (Heart Failure) เม่ือหัวใจขาดเลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ กล้ามเน้ือ หัวใจบางส่วนจะเริ่มตาย และไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ โดยภาวะนี้ อาจเกิดข้ึนเพียงชั่วคราวหรือเรื้อรัง ข้ึนอยู่กับความรวดเร็วในการรักษาและฟื้นฟูความเสียหายของ กล้ามเน้ือหัวใจ ◊ ภาวะความดนั โลหติ ต่าท่มี สี าเหตจุ ากหัวใจ (Cardiogenic Shock) อาการคลา้ ยกบั ภาวะหัวใจวาย แต่เป็นอาการที่มีความรุนแรงมากกว่า เพราะจะเกิดข้ึนเมื่อกล้ามเน้ือหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ การรักษาเบื้องต้นแพทย์อาจใช้ยาเพ่ือเพ่ิมความดันโลหิตและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ใน ระยะยาวจะต้องผ่าตัดเพื่อทาการติดต้ังอุปกรณ์ช่วยในการสูบฉีดเลือด เพ่ือให้เลือดสามารถไปเลี้ยง อวยั วะอื่น ๆ ไดอ้ ย่างเพียงพอ ◊ ผนังกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด (Heart Rupture) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีความรุนแรงมาก แต่มักพบ ได้ไม่บ่อยนัก เกิดข้ึนเม่ือกล้ามเน้ือหัวใจส่วนต่าง ๆ เช่น ผนังกล้ามเน้ือหัวใจหรือล้ินหัวใจเกิดการปริ แตก ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นภายใน 1-5 วันหลังจากเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด และหากไม่ได้รับการรักษา อยา่ งเรง่ ด่วน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตไดภ้ ายใน 5 วนั การป้องกันหวั ใจขาดเลือด ◊ สง่ิ สาคัญท่ีจะช่วยใหห้ า่ งไกลจากโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ดีท่ีสุดก็คือการดูแลรักษาระบบหัวใจ และหลอดเลือดให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะจะช่วยให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดย หลัก ๆ มวี ิธดี งั น้ี ◊ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยห่างไกลความเสี่ยงของโรคท่ี เก่ียวระบบหัวใจได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือภาวะคอเลสเตอรอลสูง โดยอาหารที่ควร รบั ประทานได้แก่ อาหารที่มีไขมันดี ผัก ผลไม้ท่ีมีไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน ที่ไม่ดี อาหารท่ีมีรสเค็มจดั หรอื อาหารแปรรปู ต่าง ๆ เป็นต้น ◊ เลิกสูบบุหร่ี ท้ังระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมท้ังปอด จะทางานได้ดีข้ึน ควรปรึกษาแพทย์หากไม่ สามารถเลกิ ได้ดว้ ยตนเอง
◊ ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ นอกจากการรับประทานอาหารท่ีดีแล้ว การควบคุม ความเครียดและการดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ช่วยลดความดันโลหิตอันเป็น สาเหตุใหญ่ของโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ◊ ควบคุมน้าหนัก ยิ่งมีน้าหนักมาก ก็ยิ่งเส่ียงต่อโรคหัวใจชนิดต่าง ๆ เพราะเมื่อร่างกายมีไขมันสะสม เยอะก็จะทาให้เส่ียงตอ่ การเป็นโรคหลอดเลอื ดหวั ใจตีบได้ ◊ นอกจากน้ี หากสมาชิกในครอบครัวเคยป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ก็ควรท่ีจะวางแผน รับมือหากสมาชิกคนอ่ืนเกิดอาการด้วย ควรจดรายละเอียดยาที่ใช้ ยาที่แพ้ และเตรียมหมายเลข โทรศัพท์ของหน่วยแพทย์ฉุกเฉินไว้ในที่ท่ีสามารถเห็นได้สะดวก รวมถึงผู้ป่วยควรพกข้อมูลติดต่อของ คนใกล้ชิดที่สามารถติดต่อได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน คนในครอบครัวควรช่วยกันดูความผิดปกติ เพราะยงิ่ พบเร็วกจ็ ะทาให้รกั ษาได้อย่างทันทว่ งทมี ากขึ้น และสามารถเพมิ่ อัตราการรอดชวี ติ ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: