Reading 009

แผนการจดั การเรียนรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการอ่าน กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ/ภาษาอังกฤษ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 Unit: Health Topic: Plants เวลา 3 ชัว่ โมง สอนวนั ท่ี......................เดือน........................................... พ.ศ.2562 นางสาวชดิ ชนก พร้อมชาติ 59010513009 นายณภัทร โชตบิ ุญ 59010513013 นางสาวณฐั กุล ศรีราจันทร์ 59010513015 นางสาวจุฑาทพิ ย์ ใหญล่ ้า 59010513042 นสิ ติ ชั้นปีท่ี 4 สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ

แผนการจดั การเรียนร้เู พื่อพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ/ภาษาองั กฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 Unit: Health Topic: Plants เวลา 3 ช่ัวโมง สอนวนั ท่ี......................เดอื น........................................... พ.ศ.2562 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 อ่านออกเสียงประโยคจากเรอ่ื ง The Olive ได้ (While-Reading Activity 1: Nominate next reader อา้ งองิ จาก https://oupeltglobalblog.com/tag/reading-strategies/) 1.2 อา่ นเร่ือง The Olive แลว้ ตอบคาถามโดยเลือกหวั ข้อเร่อื ง ใจความสาคัญ บอกรายละเอียด สนับสนุนจากเรอื่ งทอ่ี ่านได้ (While-Reading Activity 2: Numbered head together) 1.3 พูดเพือ่ ให้ข้อมลู เกี่ยวกับเรือ่ งท่เี รียนได้ (Post-Reading Activity: What did you learn? จาก กิจกรรม KWL) 2. ตัวชวี้ ัด ต 1.1 ม.5/2 อ่านออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรองและบทละครสน้ั (skit) ถกู ต้องตามหลักการอ่าน (While-Reading Activity 1: Nominate next reader อ้างองิ จาก https://oupeltglobalblog.com/tag/reading-strategies/) ต 1.1 ม.5/4 จบั ใจความสาคญั วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความและแสดงความคดิ เหน็ จากการฟัง และอ่านเร่ืองทเ่ี ปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ (While-Reading Activity 2: Numbered head together) ต 1.2 ม.5/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความ คดิ เห็นเกยี่ วกบั เรื่อง/ประเดน็ /ข่าว/เหตกุ ารณ์ท่ีฟังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม (Post-Reading Activity: What did you learn? จากกจิ กรรม KWL) ต 1.3 ม.5/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เรือ่ ง กิจกรรม ข่าว เหตุการณแ์ ละสถานการณ์ตามความสนใจ (Post-Reading Activity: What did you learn? จากกจิ กรรม KWL) ต 2.1 ม.5/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะสมกับระดบั ของบุคคล โอกาส และ สถานท่ีตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา (Post-Reading Activity: What did you learn? จากกจิ กรรม KWL)

3. เป้าหมายตามกรอบมาตรฐาน CEFR: B1 3.1 Reading - การอ่านโดยรวม (Overall Reading) สามารถเขา้ ใจประเด็นหลัก ขอเท็จจรงิ ตา่ ง ๆ ในเร่ืองความสนใจส่วนตัว หรอื ความสนใจใน วิชาชพี ได้อยา่ งดีพอทีจ่ ะพดู เกยี่ วกบั เรอ่ื งเหลา่ นไ้ี ด้ในภายหลงั 3.2 Speaking Production - การนาเสนอ (Presentations) สามารถนาเสนอเรอื่ งราวส้นั ๆ ทเี่ ตรียมมาลว่ งหน้าในหวั ขอ้ ทคี่ ุน้ เคย เชน่ My country และ ตอบคาถามอยา่ งชัดเจน - การสรุปความ (Summarizing) สามารถสรปุ ใจความหลกั และเชอื่ มโยงเนือ้ หาในบทอ่านสัน้ ๆ 3.3 Written Interaction - การเขยี นโดยรวม (Overall Writing) สามารถเขียนข้อความส้นั ๆ เขา้ ใจง่าย ในหวั ขอ้ ท่ีคุ้นเคย 3.4 Language Quality - ความแม่นยา (Precision) เม่อื อธิบายบางสิง่ บางอย่างสามารถทาให้เขา้ ใจในประเดน็ ท่สี าคัญที่สุดท่ีผ้พู ดู ต้องการจะสอ่ื ความ 4. เน้ือหา 4.1 Vocabulary: Mediterranean, wealth, abundance, prove, guilty, throughout, drought, absorb 4.2 Structure: Passive voice (Simple past tense) Example: Olive trees were planted throughout entire Mediterranean. 5. ส่ือการเรียนรู้ 5.1 Text 1 (Vocabulary) 5.2 Text 2 (Structure: Passive Voice-Simple past tense) 5.3 Text 3 (Passage: The Olive) 5.4 PowerPoint 5.5 เสยี งเจ้าของภาษา 5.6 ปา้ ยตอบคาถาม 5.7 KWL Chart

6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ผสู้ อน ผูเ้ รยี น Pre-Reading 1. ผสู้ อนกล่าวทกั ทายผเู้ รียน 1. ผู้เรยี นกล่าวทกั ทายผู้สอน 2. ผู้สอนใช้กลวธิ ี Predicting ในการนาเข้าสู่ 2. ผเู้ รียนดรู ูปภาพที่ผู้สอนเปดิ ผา่ นโปรแกรม บทเรียนโดยการเปดิ รูปภาพต้นมะกอก ผ่าน PowerPoint จากนน้ั ตอบคาถาม เชน่ โปรแกรม PowerPoint จากนัน้ ถามคาถาม เชน่ - Have you ever seen this plant before? - Yes/No. - Do you know what is it? - It’s a tree. It’s an olive. - Can you guess what we will learn - We will learn about the olive. today? 3. ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นจบั กล่มุ กลุ่มละ 3 คน 3. ผู้เรยี นจับกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน 4. ผ้สู อนแจกกระดาษตาราง KWL ให้ผเู้ รียนแต่ 4. ผ้เู รยี นแตล่ ะกลุม่ รับกระดาษตาราง KWL จาก ละกล่มุ ผู้สอน 5. ผ้สู อนถามคาถามกอ่ นเรียนโดยใช้กลวิธี 5. ผู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ เติมคาตอบลงในชอ่ ง (K) Questioning (before reading) เช่น What do What I know ของตาราง KWL you know about the olive? จากนนั้ ใหผ้ ู้เรียน แตล่ ะกลุ่มเติมคาตอบลงในช่อง (K) What I know ของตาราง KWL 6. ผู้สอนถามคาถามก่อนเรียนโดยใช้กลวธิ ี 6. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุม่ เติมคาตอบลงในช่อง (W) Questioning (before reading) เชน่ What do What I want to know ของตาราง KWL you want to know about the olive? จากนั้นใหผ้ ูเ้ รียนแตล่ ะกลมุ่ เติมคาตอบลงในช่อง (W) What I want to know ของตาราง KWL 7. ผู้สอนเปิด (Text 1) Vocabulary ผา่ น 7. ผู้เรยี นทาความเขา้ ใจคาศัพท์ ความหมายของ โปรแกรม PowerPoint จากน้ันสอนคาศัพท์ คาศพั ท์ และรปู ภาพท่ีส่อื ถงึ คาศพั ท์นนั้ พร้อม พร้อมทง้ั อธิบายความหมายของคาศพั ท์โดยใช้ ออกเสยี งคาศัพท์ตามเจา้ ของภาษาพรอ้ มกัน กลวธิ ีในการอธบิ ายคาศพั ท์ ดังน้ี - Simple definition - Synonyms รวมถึงกลวธิ ี Using Imagery (Memory Strategies) และ Repeating (Cognitive Strategies) จาก Language Learning

Strategies แล้วให้ผู้เรยี นออกเสยี งตามเสยี งของเจา้ ของภาษา ตามท่ไี ด้ยิน 8. ผสู้ อนเปดิ (Text 2) Structure ผ่านโปรแกรม PowerPoint แลว้ อธิบายโครงสร้างการใช้ 8. ผเู้ รียนทาความเข้าใจโครงสร้างการใช้ Passive voice (Simple past tense) ใหผ้ ู้เรียน Passive voice (Simple past tense) แลว้ ตอบ ฟงั พร้อมทัง้ ยกตัวอย่างประกอบให้ผูเ้ รยี นทา คาถามผ้สู อน ความเข้าใจ จากนั้นผู้สอนถามคาถามผเู้ รยี นเพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ 9. ผสู้ อนเปดิ เสยี ง Text 3 เร่ือง The Olive ให้ ผู้เรยี นฟัง โดย 9. ผู้เรยี นฟงั เสียง Text 3 เรือ่ ง The Olive แล้ว - ครง้ั ที่ 1 เปิดเสียง Text 3 ทัง้ หมดใหน้ ักเรียนฟัง อ่านออกเสียงตามทลี ะประโยค - ครงั้ ท่ี 2 เปดิ เสียง Text 3 ทีละประโยค และให้ ผเู้ รียนอา่ นออกเสียงตามทีละประโยค จากนัน้ ผ้สู อนแบง่ ผูเ้ รียนออกเป็น 2 กลมุ่ และให้ ผู้เรียนทงั้ สองกลุ่มอ่านทีละประโยคสลบั กนั หลังจากนั้นผู้สอนถามคาถามเก่ียวกับ Text 3 โดยใช้กลวธิ ี Questioning (while reading) เชน่ What does the second paragraph talk about? Tell me by your own words. 10. ผ้สู อนอธิบาย Text 3 จากนน้ั ถามคาถามโดย ใชก้ ลวธิ ี Questioning (after reading) เชน่ 10. ผเู้ รียนทาความเข้าใจ Text 3 เรือ่ ง The - Why do we have to know about olive? Olive จากนัน้ ตอบคาถามและทาความเขา้ ใจ - What did ancient Greeks use olive กลวิธีการอ่านแบบ Synthesizing และ leaves for? Focusing จากนน้ั ผสู้ อนอธิบายกลวิธีการอา่ นแบบ Synthesizing และ Focusing (Getting the idea quickly) จาก Language Learning Strategies ให้ผู้เรยี นฟัง While-Reading Activity 1: Nominate next reader อ้างองิ จาก

https://oupeltglobalblog.com/tag/reading- strategies/ 1. ผู้สอนอธบิ ายขัน้ ตอนการทากิจกรรม 1. ผเู้ รยี นฟงั ขนั้ ตอนการทากิจกรรม 2. ผสู้ อนให้เวลาผเู้ รียนฝกึ อา่ นอออกเสียง Text 3 2. ผู้เรียนฝกึ อา่ นอออกเสียง Text 3 เปน็ เวลา 5 เป็นเวลา 5 นาที นาที 3. ผู้สอนเลือกผู้เรยี น 1 คน แลว้ ให้ผ้เู รียนลุกข้นึ 3. ผเู้ รยี นท่ีถกู ผู้สอนเลอื กเป็นคนแรกลกุ ข้ึนยืน ยืนและเรม่ิ อา่ นออกเสยี งจากประโยคแรกในย่อ และเรม่ิ อ่านออกเสยี งจากประโยคแรกในย่อ หน้าท่ีหนง่ึ หน้าทห่ี น่งึ 4. ผู้สอนให้ผ้เู รียนคนที่หนึ่งนง่ั ลงหลงั จากท่อี ่าน 4. ผเู้ รยี นคนทหี่ น่งึ น่ังลงหลังจากทอี่ า่ นประโยค ประโยคแรกเสรจ็ แลว้ หลังจากนัน้ ให้ผู้เรียนคนท่ี แรกเสร็จแลว้ หลังจากนั้นเรยี กชื่อเพอื่ นในช้นั หนง่ึ เรยี กช่ือเพื่อนในช้นั เรยี นคนต่อไป (สามารถ เรยี นคนตอ่ ไป (สามารถเรยี กชือ่ ใครก็ได้) แล้วให้ เรยี กชื่อใครกไ็ ด้) แล้วใหผ้ ู้เรียนคนตอ่ ไปอ่าน ผู้เรยี นคนตอ่ ไปอา่ นประโยคท่ีสองต่อ หลงั จาก ประโยคท่ีสองตอ่ หลังจากน้นั คนท่ีสองก็เรียกช่อื นั้นคนท่ีสองกเ็ รยี กชอ่ื เพ่ือนคนทีส่ ามเพื่ออ่าน เพอ่ื นคนท่สี ามเพ่ืออ่านประโยคตอ่ ไป ผู้สอนให้ ประโยคตอ่ ไป ผู้เรียนทาอยา่ งน้ีไปเร่อื ย ๆ ผู้เรียนทาอยา่ งนี้ไปเรอื่ ย ๆ จนกระทั่งทกุ คนใน จนกระทง่ั ทุกคนในห้องเรียนไดอ้ ่านออกเสยี ง หอ้ งเรยี นไดอ้ ่านออกเสยี งประโยคครบทุกคน ประโยคครบทกุ คน 5. ผู้สอนสังเกตและประเมินทักษะการอา่ นออก เสยี งของผู้เรียน While-Reading Activity 2: Numbered head together 1. ผสู้ อนอธบิ ายขั้นตอนการทากิจกรรม 1. ผเู้ รยี นฟงั ขัน้ ตอนการทากจิ กรรม 2. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน 2. ผู้เรยี นแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 5 คน 3. ผสู้ อนแจก Text3 ท่แี บ่งไว้เป็น 5 ส่วน พร้อม 3. ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ รบั Text3 ทแี่ บง่ ไวเ้ ปน็ 5 ทงั้ ปา้ ยตวั เลอื กท่ีใช้ในการตอบคาถามให้แก่ ส่วน พรอ้ มท้ังป้ายตัวเลือกท่ใี ช้ในการตอบคาถาม ผ้เู รียนแต่ละกลุม่ โดยแบ่งให้สมาชิกทกุ คนในกลุม่ จากผู้สอน แล้วแบง่ ให้สมาชิกทกุ คนในกลุม่ 4. ผู้สอนให้ผู้เรยี นแลกเปล่ียนความรู้ความเขา้ ใจ 4. ผเู้ รยี นแลกเปลี่ยนความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เกีย่ วกับเรอื่ งทีอ่ า่ นในกลุม่ ของตนเอง เรือ่ งท่อี ่านในกลุ่มของตนเอง 5. ผสู้ อนเปิดคาถามคาถามบนจอโปรเจกเตอร์ 5. ผู้เรยี นอา่ นคาถามบนจอโปรเจกเตอร์ 6. ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นแตล่ ะกลุ่มปรกึ ษากันเพื่อหา 6. ผเู้ รยี นแต่ละกล่มุ ปรกึ ษากนั เพื่อหาคาตอบท่ี คาตอบ ถูกตอ้ ง 7. ผู้สอนจบั สลากเลอื กหมายเลขที่จะเป็นตัวแทน 7. ตวั แทนผเู้ รยี นหมายเลขท่ีถูกสุ่มในแต่ละกลุ่ม ตอบคาถาม ตอบคาถามโดยชูปา้ ยตวั เลือกคาตอบขึน้ 7. 8. ผสู้ อนให้ตัวแทนผู้เรยี นหมายเลขท่ีถกู ส่มุ ในแต่ 8. ผูเ้ รยี นดผู ู้สอนเฉลยคาตอบและฟังผูส้ อน

ละกลุ่มตอบคาถามโดยชูป้ายตัวเลือกคาตอบขึน้ อธบิ ายกลวิธกี ารหาคาตอบ 9. ผู้สอนตรวจและให้คะแนนผูเ้ รยี นแต่ละกลมุ่ 10. ผสู้ อนเฉลยคาตอบโดยใชโ้ ปรแกรม 1. ผเู้ รียนฟังขน้ั ตอนการทากิจกรรม PowerPoint พร้อมทั้งบอกกลวธิ ใี นการหา 2. ผู้เรียนจับกลมุ่ กลุม่ ละ 3 คน โดยใช้กล่มุ เดิม คาตอบแต่ละขอ้ 3. ผเู้ รยี นตอบคาถามผู้สอนเก่ยี วกับสิ่งทไ่ี ดเ้ รียน หมายเหต:ุ กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนสูงสุดจะเปน็ ผชู้ นะ มาและเติมคาตอบลงในช่อง (L) What I Post-Reading Activity: (Post-Reading learned ของตาราง KWL Activity: What did you learn? จาก 4. ผ้เู รยี นแตล่ ะกลุม่ เตรียมการนาเสนอ กิจกรรม KWL) 5. ผ้เู รยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้นั เรยี น 1. ผสู้ อนอธบิ ายขัน้ ตอนการทากิจกรรม 2. ผู้สอนให้ผ้เู รยี นจบั กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน โดยใช้ กลุ่มเดมิ 3. ผสู้ อนถามคาถามผ้เู รียน What did you learn about the Olive? จากนน้ั ใหผ้ ู้เรียนแต่ ละกลุ่มเตมิ คาตอบลงในช่อง (L) What I learned ของตาราง KWL 4. ผสู้ อนใหเ้ วลาผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มเตรียมการ นาเสนอ 5. ผู้สอนให้ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้า ช้นั เรยี น 6. ผู้สอนสงั เกตและประเมนิ ผลโดยการใช้แบบ ประเมนิ ผลทกั ษะการพดู 7. การวดั ผลประเมนิ ผล

กจิ กรรมทีจ่ ะประเมิน วิธกี ารประเมนิ เครอื่ งมอื ประเมิน 1. While-Listening 1: What’s this? – ตรวจและให้คะแนน แบบประเมนิ ทกั ษะการอา่ น Jumping the Line ออกเสยี ง 2. While-Reading 2: Numbered head ตรวจและใหค้ ะแนน - together 3. Post-Reading: What did you learn? ประเมินทักษะการพูด แบบประเมินทกั ษะการพูด 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. บันทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10.2 ปัญหาและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10.2 ปญั หาและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Text 1 Vocabulary Mediterranean (n.) relating to the Mediterranean Sea or the countries around it Example: Olive oil has long been more than just food to the peoples of the Mediterranean. wealth (n.) the state of being rich Example: It has been a symbol of wealth and power. abundance (n.) an amount that is more than enough Example: In ancient times, the olive tree was the symbol of abundance and glory. prove (v.) to show that something is true Example: The writings of the poet Homer prove that the olive tree has been growing in Greece for over 10,000 years.

guilty (adj.) feeling ashamed because you have done something that you know is wrong Example: I feel so guilty about forgetting her birthday. throughout (prep., adv.) in every part, or during the whole period of time Example: Olive trees were planted throughout the entire Mediterranean basin under Roman rule. drought (n.) a long period when there is little or no rain Example: There are five factors that create the ideal conditions for the olive tree: sun, stone, drought, silence, and solitude. absorb (v.) to take something in Example: It helps our bodies absorb vitamins A, D, and K.

Text 2 Passive Voice – Simple Past Tense Use of Passive Passive voice is used when the focus is on the action. It is not important or not known, however, who or what is performing the action. Passive sentences in the simple past tense have the following structure: Object of was/were past subject of the active participle by the active sentence sentence Forms: Affirmative forms (+) O + was/were + past participle. Example: Olive trees were planted throughout entire Mediterranean. Negative forms (-) O + was/were not + past participle. Example: Olive trees were not first cultivated in the southern part. Question forms (?) Was/Were + O + past participle? Example: Were olive trees planted throughout entire Mediterranean?

Text 3 The olive

(จากหนังสอื New world student’s book ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕)

While-Reading activity 1 Nominate next reader Directions: 1. Practice reading the passage in 5 minutes. 2. Start to read aloud the first sentence by the first student. 3. Read the second sentence by the next student whose name is called from the first student, then the second student call the next student’s name to read the next sentence. **This continues until the end of the text.

While-Reading activity 2 Numbered head together Directions: 1. Get into groups of five. 2. Get the separated passages and answer paper. ** each part of passages for each person in the group 3. Discuss about the passage in your group. 4. Read the questions on the screen. 5. Discuss in your group. 6. Show the answer sign up. ** student with the called number from each group have to show the answer sign. 1 Olive oil has long been more than just food to the peoples of the Mediterranean. It has been used for medicinal purposes, and it has been a symbol of wealth and power. In ancient times, the olive tree was the symbol of abundance and glory. Olive crowns were placed on the heads of the victorious at the Olympic Games, and they received their prize in oil. 2 Olive trees were first cultivated in the eastern part of the Mediterranean, and they spread all over the region. The writings of the poet Homer mention olives and prove that the olive tree has been growing in Greece for over 10,000 years. The olive tree was considered sacred and was valuable. Under ancient Greek law, anyone who was found guilty of uprooting or destroying an olive tree could be sentenced to death.

3 With the expansion of Greek colonies, olive culture reached southern Italy and northern Africa in the eighth century B.C., and then spread into southern France. Olive trees were planted throughout the entire Mediterranean basin under Roman rule. In ancient Greece and Rome, olive oil was a valuable trading commodity. Ships were built for the sole purpose of transporting it from Greece to trading posts around the Mediterranean. 4 Olive trees can endure harsh weather conditions; however, warm, dry summers and rainy winters favor good harvests. According to Italian folk tradition, there are five factors that create the ideal conditions for the olive tree: sun, stone, drought, silence, and solitude. Italy and Spain are now the world's biggest producers of olive oil. Olive oil is very healthy and contributes to a great extent to the healthy diet of the Mediterranean people. Extra virgin olive oil is the most digestible of the edible fats: it helps our bodies absorb vitamins A, D, and K; it contains essential acids that cannot be produced by our own bodies; it slows down the aging process; and it helps bile, liver and intestinal functions. It is also valued for its culinary virtues. No other cooking oil can compare to the flavor bouquet, and color of olive oil.

5 FACTS ABOUT OLIVE TREES -It takes ten years for a tree to grow to maturity and start producing olives. -Trees have a life span of 300 to 400 years, but some can live for 1,000 years. -It takes an average of 5 kilos of olives to produce one liter of oil. QUALITY The highest-quality olive oil is called extra-virgin. According to European Union regulations, olive oil can only be called extra virgin if it meets a series of chemical parameters: one of these parameters is that the acidity level must not exceed 0.8%. Questions: 1. The extract is mainly about _____. (จบั ใจความสาคญั ) (O-net 59 ข้อ 74) 1. The origin and properties of the olive 2. Characteristic of the olive trees in ancient time 3. Ways to plant the olive trees in Mediterranean 4. The routes of the olive oil’s trading in Greece 5. Punishing a culprit who uprooting the olive trees 2. The word it (lines 14) refer to _____. (วเิ คราะหค์ วาม) (O-net 61 ขอ้ 64) 1. Roman rule 2. Trading Ships 3. The olive oil 4. Greek colonies 5. The olive trees

3. All of the following statements are true EXCEPT _____. (รายละเอียดสนบั สนนุ ) (O-net 59 ข้อ 78) 1. The extra-virgin is the highest quality olive oil. 2. The first cultivation of the olive was in Greece. 3. The olive trees symbolize as plenty and power. 4. The olive oil is the most digestible of the proteins. 5. The olive oil can against aging and be used for cooking. 4. The tone of this extract is ____. (ตีความ) (O-net 61 ข้อ 80) 1. Critical 2. Humorous 3. Persuasive 4. Instructive 5. Sympathetic 5. The purpose of this extract is to _____. (ตีความ) (O-net 59 ขอ้ 79) 1. Inform of the olive trees’ facts 2. Offer the ways to slow down aging 3. Persuade people to use olive oil for cooking 4. Give advice how to raise the olive trees in Greece 5. Describe about olive oil commerce in Mediterranean

ขอ้ สอบ O-net ปี 2561 ขอ้ สอบ O-net ปี 2559

Post-Reading activity What did you learn? (KWL) Directions: 1. Get into groups of three. 2. Listen to the question from a teacher. 3. Discuss in your group. 4. Write down the answer on the “(L) What I learned” box of the KWL chart. 5. Present in front of the class K-W-L Chart Topic: ___________________________________________________________ K W L What I know What I want to know What I learned Guideline: Good morning everyone. Today, we will present about “The Olive”. Before we learn, what we know is that ____________________________________________. And we want to know that ____________________________________________. Then after we learned, we know that ____________________________________________.



แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง While-Reading Activity 1: Nominate next reader เลขที่ ชอ่ื -สกลุ เกณฑ์การประเมนิ การออก การแบ่งวรรค การออกเสยี ง รวม เสียง ตอนในการอา่ น เนน้ หนัก-เบา คะแนน (2) (2) (1) (5) ลงชอื่ ...................................................................... ผูป้ ระเมนิ (………………………………………………………………………….) วนั ที่....... เดอื น................................. พ.ศ. ..................... เกณฑ์การประเมนิ 4 – 5 คะแนน ดีมาก 3 คะแนน ปานกลาง 1 – 2 คะแนน พอใช้ 0 คะแนน ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพปานกลางขึ้นไป

เกณฑก์ ารให้คะแนนทักษะการอ่านออกเสยี ง (5 คะแนน) 1) การออกเสียง (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง อา่ นออกเสยี งพยญั ชนะต้นคา และพยัญชนะท้ายคาได้ถูกตอ้ ง 1 คะแนน หมายถึง อ่านออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คา และพยัญชนะท้ายคาได้ถกู ตอ้ งเล็กนอ้ ย 2) การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน (2 คะแนน) 2 คะแนน หมายถึง แบง่ วรรคตอนในการอา่ นออกเสียงได้ถูกต้องทงั้ ประโยค 1 คะแนน หมายถึง แบง่ วรรคตอนในการอ่านออกเสียงไดถ้ กู ต้องบางทใ่ี นประโยค 3) การออกเสยี งเน้นหนัก-เบา (1 คะแนน) 1 คะแนน หมายถงึ อ่านออกเสียงเนน้ หนัก-เบาในคา และกลมุ่ คาไดถ้ ูกตอ้ ง

แบบประเมินทกั ษะการพูด Post-Reading activity: What did you learn? (KWL) เลขที่ เกณฑก์ ารประเมนิ การออกเสียง ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ความคลอ่ งแคล่ว รวม (3) (4) (3) (10) 321 43 2 1 321 ชือ่ – สกลุ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงช่ือ.........................................................ผ้ปู ระเมนิ (................................................................) วันที่..........เดือน...............................พ.ศ. .............

เกณฑ์การให้คะแนนการพดู 1. การออกเสียง (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถงึ ออกเสียงศพั ท์/ประโยคด้วยเสยี งหนกั แนน่ ไดถ้ ูกต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ทาใหส้ อ่ื สาร ไดช้ ัดเจน 2 คะแนน หมายถึง ออกเสยี งศพั ท์/ประโยคดว้ ยเสยี งหนักแนน่ ผิดบางคา แตย่ งั พอสอ่ื สารได้ 1 คะแนน หมายถงึ เสยี งเนน้ หนกั ในคาศัพท์/ประโยคผดิ หลายแหง่ จนส่ือสารไมไ่ ด้ 2. ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา (4 คะแนน) 4 คะแนน หมายถงึ พูดได้ถกู ต้อง ตรงประเดน็ ตามเนือ้ หา 3 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้อง ตรงประเด็นตามเน้ือหาบางสว่ น 2 คะแนน หมายถึง พูดได้ถูกต้องเล็กน้อย ตรงประเด็นตามเนอื้ หาบางส่วน 1 คะแนน หมายถึง พดู ไมถ่ กู ต้อง ไม่ตรงประเดน็ ตามเน้ือหา 3. ความคล่องแคล่ว (3 คะแนน) 3 คะแนน หมายถึง พดู ตอ่ เน่ือง ไม่ติดขดั ทาให้เกดิ การส่อื สาร 2 คะแนน หมายถึง พดู เป็นคา ๆ หยดุ เปน็ ระยะ ๆ พูดตดิ ขดั ทาใหเ้ กดิ การสอื่ สารไม่ตอ่ เนอ่ื ง 1 คะแนน หมายถงึ พดู เป็นคา ๆ หยุดบ่อย พูดติดขัด ทาให้เกดิ การสื่อสารไม่ตอ่ เนอื่ ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 9-10 ดี 6-9 พอใช้ 1-5 ควรปรบั ปรงุ เกณฑ์การผาน ตัง้ แต่ระดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป