Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่1

หน่วยที่1

Published by tewin230719, 2018-08-30 03:54:42

Description: หน่วยที่1

Keywords: บทที่1

Search

Read the Text Version

เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์

หนว่ ยท1ี่เครือข่ายคอมพวิ เตอร์เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (computer network) เป็นการเช่ือมต่อคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์ต่อพ่วงเข้าดว้ ยกนัเพอ่ื ให้สามารถใช้ข้อมูลทรพั ยากรรว่ มกันได้ เช่น สามารถใชเ้ ครอื่ งพิมพร์ ว่ มกนั สามารถใชฮ้ ารด์ ดสิ กร์ ่วมกันแบ่งปันการใช้อปุ กรณ์อ่นื ๆ ท่ีมีราคาแพงหรอื ไม่สามารถจัดหาใหท้ ุกคนได้ แมก้ ระท่งั สามารถใชโ้ ปรแกรมร่วมกันได้เปน็ การลดตน้ ทุนขององคก์ รเครือขา่ ยคอมพิวเตอรส์ ามารถแบ่งออกเปน็ ประเภทตามพ้ืนท่ีที่ครอบคลุมการใช้งานของเครือข่าย 1. เครือข่ายสว่ นบุคคล หรอื แพน (Personal Area Network : PAN) เปน็ เครือข่ายท่ใี ชส้ ่วนบุคคล เชน่ การเชอื่ มต่อคอมพิวเตอร์กับโทรศพั ทม์ ือถือ การเชื่อมตอ่ พีดเี อกับเครื่องคอมพวิ เตอร์ซ่งึ การเช่ือมต่อ แบบนีจ้ ะอย่ใู นระยะใกล้ และมกี ารเชอื่ มตอ่ แบบไร้สาย 2. เครือข่ายเฉพาะท่ี หรือแลน (Local Area Network: LAN) เป็นเครือขา่ ยท่ีใชใ้ นการเชื่อมโยง คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ตา่ งๆ ท่อี ยู่ในพน้ื ท่เี ดยี วกันหรอื ใกลเ้ คยี งกัน เชน่ ภายในบา้ น ภายใน สานักงาน และภายในอาคาร สาหรบั การใชง้ านภายในบ้านนน้ั อาจเรียกเครือขา่ ยประเภทน้วี ่า เครอื ข่ายทีพ่ ักอาศัย (home network) ซ่ึงอาจใช้การเชอ่ื มต่อแบบใชส้ ายหรือไร้สาย 3. เครือขา่ ยนครหลวง หรือแมน (Metropolitan Area Network : MAN) เปน็ เครือขา่ ยที่ใช้เชื่อมโยง แลนที่อยหู่ า่ งไกลออกไป เชน่ การเชอื่ มต่อเครือขา่ ยระหว่างสานักงานท่ีอาจอยู่คนละอาคารและมี ระยะทางไกลกนั การเชือ่ มต่อเครือข่ายชนดิ นี้อาจใชส้ ายไฟเบอร์ออพติก หรือบางครงั้ อาจใช้

ไมโครเวฟเช่ือมต่อ เครือขา่ ยแบบน้ีใช้ในสถานศึกษามชี ื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งวา่ เครือข่ายแคมปสั (Campus Area Network: CAN) 4. เครอื ข่ายวงกวา้ ง หรอื แวน (Wide Area Network: WAN) เปน็ เครอื ข่ายท่ีใช้ในการเชือ่ มโยงกบั เครอื ข่ายอืน่ ท่ีอยู่ไกลกันมาก เชน่ เครอื ขา่ ยระหวา่ งจงั หวดั หรอื ระหวา่ งภาครวมไปถึงเครือขาย ระหว่างประเทศรูปร่างเครอื ขา่ ยการเชือ่ มต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์รบั สง่ ข้อมลู ทป่ี ระกอบกนั เปน็ เครือข่ายทม่ี กี ารเชือ่ มโยงถงึ กนั ในรูปแบบต่างๆ ตามลกั ษณะทางกายภาพทีเ่ รียกว่ารปู รา่ งเครือขา่ ย (network topology) โดยทัว่ ไปรูปร่างเครือขา่ ยสามารถแบง่ ออกตามลักษณะของการเชอื่ มตอ่ ได้ 4 รูปแบบ 1. เครือข่ายแบบบัส (bus topology) เปน็ รปู แบบท่ีมโี ครงสรา้ งไมย่ ุ่งยาก สถานีทกุ สถานีในเครอื ข่ายจะ เช่อื มตอ่ เขา้ กับสายสื่อสารหลักเพียงสายเดียวทีเ่ รยี กว่า บสั (bus) การจดั ส่งข้อมลู ลงบนบัสจงึ ไปถงึ ทุกสถานีได้ ซึง่ การจดั ส่งวิธีน้ีตอ้ งกาหนดวิธกี ารทจี่ ะไม่ใหท้ ุกสถานีสง่ ข้อมลู พร้อมกนั เพราะจะทาให้ เกดิ การชนกัน (collison) ของข้อมลู โดยวธิ กี ารทใี่ ช้อาจเป็นการแบ่งช่วงเวลาหรือให้แต่ละสถานใี ช้ คลนื่ ความถีใ่ นการส่งสญั ญาณที่แตกต่างกนั อย่างไรก็ตามเครือข่ายแบบบัส ไม่ไดร้ ับความนิยมใน ปจั จุบนั เน่อื งจากความเสียหาย 2. เครือข่ายแบบวงแหวน (ring topology) เปน็ การเชอื่ มแต่ละสถานเี ขา้ ด้วยกนั แบบวงแหวน สัญญาณ ข้อมูลจะสง่ อยู่ในวงแหวนไปในทศิ ทางเดยี วกันจนถึงผรู้ ับ หากข้อมลู ท่สี ง่ เปน็ ของสถานใี ด สถานนี ้นั ก็

รบั ไว้ ถ้าไม่ใชก่ ็ส่งต่อไป ซง่ึ ระบบเครือข่ายแบบวงแหวนน้ี สามารถรองรับจานวนสถานไี ด้เป็นจานวน มาก ข้อดอ้ ยของเครือข่ายแบบวงแหวน คือ สถานจี ะต้องรอจนถึงรอบของตนเอง ก่อนที่จะสามารถ สง่ ขอ้ มลู ได้ รูปร่างเครือข่ายแบบวงแหวน 3. เครือขา่ ยแบบดาว (star topology) เป็นการเชอื่ มตอ่ สถานีในเครือขา่ ย โดยทกุ สถานีจะต่อเขา้ กับ หนว่ ยสลับสายกลาง เช่น ฮบั (hub) หรอื สวติ ซ์ (switch) ซง่ึ ทาหน้าท่เี ปน็ ศนู ย์กลางของการเชื่อมต่อ ระหวา่ งสถานีต่างๆ ท่ีตอ้ งการตดิ ต่อกัน ของดีของการเช่ือมต่อแบบดาว คอื ถ้าสถานีใดเสีย หรอื สาย เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งฮับ/สวติ ซก์ บั สถานใี ดชารดุ กจ็ ะไม่กระทบกบั การเช่อื มตอ่ ของสถานีอน่ื ดงั น้นั การ เชื่อมตอ่ แบบนี้จึงเป็นทีน่ ยิ มใชก้ ันในปัจจุบัน รูปรา่ งเครือข่ายแบบดาว 4. เครอื ข่ายแบบแมช (mesh topology) เป็นรปู แบบของการเช่อื มต่อทมี่ คี วามนยิ มมากและมี ประสิทธภิ าพสงู เน่ืองจากถ้ามีเส้นทางของการเชื่อมต่อคใู่ ดคู่หนึง่ ขาดจากกัน การตดิ ต่อสือ่ สาร ระหว่างคู่น้ันยงั สามารถตดิ ต่อได้โดยอปุ กรณ์จดั เสน้ ทาง (router) จะทาการเช่ือมต่อเส้นทางใหม่ไปยงั จดุ หมายปลายทางอตั โนมตั ิ การเชอ่ื มตอ่ แบบน้ีมักนยิ มสร้างบนเครอื ข่ายแบบไรส้ าย รปู ร่างเครอื ขา่ ย แบบแมช อปุ กรณก์ ารสือ่ สารอปุ กรณ์การสือ่ สาร (communication devices) ทาหน้าที่รบั และสง่ ข้อมลู จากอปุ กรณ์ส่งและรบั ข้อมูล โดยมีการสง่ ผา่ นทางสื่อกลางดังกล่าวมาแลว้ สญั ญาณทีส่ ่งออกไปอาจอยู่ในรูปแบบดิจิทลั หรือแบบแอนะล็อกข้ึนอย่กู ับอุปกรณท์ ่ีใช้ในการติดต่อสอ่ื กลางท่ีใชใ้ นการเช่อื มตอ่ 1. โมเด็ม (modem) เป็นอุปกรณ์ที่แปลงสัญญาณดจิ ทิ ลั เปน็ สัญญาณแอนะล็อก และแปลงสัญญาณแอ นะลอ็ กเปน็ ดจิ ิทัลเพ่อื ให้ขอ้ มูลสง่ ผ่านทางสายโทรศพั ท์ได้

2. การด์ แลน (LAN card) เป็นอุปกรณท์ ่เี ช่ือมระหว่างคอมพวิ เตอร์กับสายตวั นาสญั ญาณทาให้ คอมพิวเตอร์สามารถรับและส่งขอ้ มลู กับระบบเครือขา่ ยได้ ในอดีตเป็นอปุ กรณ์เสรมิ ทใี่ ชต้ ่อเพ่ิมเข้ากบั เมนบอร์ดของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ แตใ่ นปัจจบุ ันมกั จะถกู ประกอบรวมไปในเมนบอร์ด เนื่องจากความ ต้องการเชือ่ มต่อเข้ากบั เครอื ข่ายกลายเปน็ ความจาเป็นพื้นฐานของผู้ใชค้ อมพิวเตอร์ไปแล้วนั่นเอง ตัวอย่างการ์ดแลนชนิดต่างๆ3. ฮบั (hub) เปน็ ฯอปุ กรณ์ท่ีรวมสญั ญาณท่ีมาจากอปุ กรณ์รับสง่ หรอื เคร่ืองคอมพิวเตอรห์ ลายๆ เครอื่ ง เขา้ ดว้ ยกนั ข้อมลู ทร่ี บั สง่ ผ่านฮับจากเคร่อื งหน่ึงจะกระจายไปยงั ทุกสถานีที่ต่ออย่บู นฮับนัน้ ดังน้นั ทุก สถานีจะรับสญั ญาณข้อมลู ท่ีกระจายมาไดท้ งั้ หมด แต่จะเลอื กคัดลอกเฉพาะข้อมูลท่สี ่งมาถึงตน เท่านัน้ ตวั อย่างการเช่อื ต่อคอมพิวเตอรด์ ้วยฮับ4. สวิตช์ (switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณทีม่ าจากอปุ กรณ์รบั สง่ หรอื คอมพวิ เตอรห์ ลายเครอ่ื ง เชน่ เดยี วกับฮบั แต่มีข้อแตกต่างจากฮับ กลา่ วคอื การรับส่งข้อมลู จากอปุ กรณ์ตวั หน่ึง จะไม่กระจาย ไปยงั ทุกจุดเหมือนฮับ ทั้งน้เี พราะสวติ ช์จะรบั กลุ่มข้อมลู มาตรวจสอบกอ่ นวา่ เปน็ ของคอมพวิ เตอร์หรือ อุปกรณ์ใด แล้วนาข้อมลู นน้ั ส่งต่อไปยงั คอมพวิ เตอรห์ รืออปุ กรณ์เปา้ หมายให้อย่างอตั โนมัติ สวติ ช์จะ ลดปัญหาการชนกนั ของข้อมูลเพราไม่ตอ้ งกระจายขอ้ มลู ไปทกุ สถานีที่เชือ่ มต่ออยกู่ ับสวิตช์ และยงั มี ขอ้ ดใี นเร่ืองการปอ้ งกนั การดักรับข้อมลู ที่กระจายไปในเครือข่าย ตวั อย่างการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ ดว้ ยสวิตช์5. อปุ กรณจ์ ัดเส้นทาง (router) เปน็ อุปกรณ์ทใ่ี ช้งานในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายเครือข่ายเข้าดว้ ยกัน หรอื เชอ่ื มโยงอปุ กรณห์ ลายอย่างเขา้ ด้วยกนั ดังนั้นจึงมเี สน้ ทางการเข้าออกของข้อมลู ได้หลายเสน้ ทาง อปุ กรณ์ปลายทาง อุปกรณ์จัดเสน้ ทางจะหาเสน้ ทางท่ีเหมาะสมให้ เพ่ือนาส่งข้อมลู ผา่ นเครอื ขา่ ยต่าง ไปยังอปุ กรณ์ปลายทางตามที่ระบุไว้ ตัวอย่างการเชือ่ มต่อคอมพิวเตอร์ดว้ ยอุปกรณจ์ ดั เส้นทาง6. จุดเช่อื มตอ่ แบบไร้สาย (wireless access point) ทาหนา้ ท่ีคลา้ ยกบั ฮับของเครือขา่ ยแบบใชส้ ายเพื่อ ใช้สาหรบั ตดิ ตอ่ ส่อื สารระหวา่ งอปุ กรณแ์ บบไรส้ าย ซึง่ ข้อมลู จะถกู ส่งผา่ นทางคลื่นวิทยุ

การสือ่ สารข้อมูลและเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ก่อให้เกดิ ประโยชน์ ดังนี้ 1. ความสะดวกในการแบ่งปนั ข้อมูล ปจั จุบันมขี ้อมลู จานวนมากสามารถถกู ส่งผา่ นเครือข่ายการสือ่ สาร ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพและรวดเรว็ เชน่ การสง่ ขอ้ มลู ผา่ นเครือขา่ ยโทรศัพท์ระบบ ดเี อสแอล ( Digital Subscriber Line DSL ) ถา้ ส่งด้วยอัตราเร็ว 2 Mbps หรอื ประมาณ 256 kB/s จะส่งข้อมูล จานวน 200หน้าได้ในเวลาน้อยกวา่ 10 วนิ าที 2. ความถกู ตอ้ งของข้อมูล การรบั ส่งข้อมลู ระหวา่ งคอมพวิ เตอรผ์ า่ นเครอื ขา่ ยการสอื่ สารเป็นการสง่ แบบ ดิจิทัล ซึ่งระบบการสื่อสารจะมีการตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู ทีส่ ่ง และแก้ไขข้อมูลท่ีผิดพลาด ใหถ้ กู ต้องไดโ้ ดยอตั โนมัติ ดังนัน้ การสื่อสารข้อมลู จึงมีความเช่อื ถือสูง 3. ความเรว็ ในการรบั สง่ ข้อมูล การใชค้ อมพิวเตอร์ในการส่งข้อมลู หรอื ค้นควา้ ข้อมลู จากฐานข้อมลู ขนาดใหญท่ าไดร้ วดเร็ว เนื่องจากสญั ญาณทางไฟฟา้ เดินทางด้วยความเร็วใกล้เคียงความเร็วแสง เช่น การดูภาพยนตร์ หรอื รายการโทรทศั นผ์ ่านอนิ เทอร์เนต็ การตรวจสอบหรือการจองทนี่ ่งั ของสายการ บนิ สามารถทาได้ทนั ที 4. การประหยัดค่าใชจ้ ่ายในการสือ่ สารข้อมลู การรบั และสง่ ข้อมูลผา่ นเครือข่ายการสือ่ สารสามารถทา ได้ในราคาถูกกวา่ การส่ือสารแบบอน่ื เช่น การใชง้ านโทรศัพทโ์ ดยผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตหรอื ทเี่ รียกวา่ วอยซโ์ อเวอร์ไอพี ( Voice over IP : VoIP ) จะมีคา่ ใชจ้ ่ายตา่ กวา่ การใช้งานโทรศัพท์โดยผา่ นระบบ โทรศพั ท์พื้นฐาน หรือการใช้อีเมลส่งข้องมูลหรือเอกสารในรูปแบบอเี ลก็ ทรอนิกส์จะมีค่าใชจ้ า่ ยต่ากวา่ และรวดเร็วกวา่ การส่งเอกสารแบบวธิ ีอน่ื 5. ความสะดวกในการแบ่งปนั ทรพั ยากร ในองค์กรสามารถใชอ้ ปุ กรณ์สารสนเทศรว่ มกนั ได้โดยไมต่ ้อง เสียคา่ ใช้จา่ ยตดิ ตงั้ อุปกรณ์ให้กบั ทุกเครือ่ ง เช่น เคร่ืองพิมพ์ นอกจากน้ยี ังสามารถให้โปรแกรมและ ขอ้ มูลร่วมกันได้ โดยจัดเกบ็ โปรแกรมและข้อมูลเหลา่ นน้ั ไว้ท่ีแหลง่ เก็บข้อมลู ทเ่ี ป็นศนู ย์กลาง เช่น เครือ่ งบริการไฟล์ ( file server ) เปน็ ตน้ 6. ความสะดวกในการประสารงาน ในองค์กรที่มีหน่วยงานย่อยหลายแห่งท่ีอยู่หา่ งไกลกนั สามารถ ทางานประสานกนั ผา่ นระบบอินเทอรเ์ นต็ เชน่ การประชุมทางไกล และการแก้ไขเอกสารรว่ มกันผ่าน ระบบเครือขา่ ย

7. ขยายบริการองค์กร เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ทาให้องค์กรสามารถกระจายทาการไปตามจุดตา่ งๆ ที่ ตอ้ งการใหบ้ รกิ าร เชน่ ธนาคารทีม่ ีสาขาทวั่ ประเทศ สามารถถอนเงนิ ได้จากตเู้ อทีเอ็ม หรอื ฝากเงินได้ ตามตเู้ อทีเอ็ม เป็นต้น 8. การสร้างบริการรปู แบบใหม่บนเครอื ข่าย การให้บริการต่างๆ ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทาให้ผ้ใู ช้ สามารถเข้าใช้บริการไดท้ กุ ท่ีทกุ เวลา เชน่ การซื้อสนิ ค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นบรกิ ารแบบหน่งึ ของพาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิคส์ ( e–commerce ) และการรบั ชาระสนิ คา้ คา่ สาธารณูปโภคผา่ นจดุ รบั ชาระแบบออนไลน์ ท่ีเรยี กวา่ เคาน์เตอรเ์ ซอรว์ ิส ( counter service )การสื่อสารข้อมลู การสอ่ื สารข้อมูล หมายถึง การแลกเปลย่ี นข้อมูล/ข่าวสารโดยผ่านทางสื่อกลางในการสื่อสารซงึ่อาจเปน็ ส่อื กลางประเภทที่มสี ายหรือไร้สายก็ได้ องคป์ ระกอบพืน้ ฐานของระบบส่ือสารข้อมลู ประกอบด้วย1.ข้อมลู /ข่าวสาร (data/message) คอื ข้อมลู หรือสารสนเทศต่างๆ ทต่ี อ้ งการส่งไปยงั ผู้รับโดยข้อมูล/ข่าวสารอาจประกอบด้วยขอ้ ความ ตวั เลข รูปภาพ เสียง วดี ทิ ัศน์ หรอื สือ่ ประสม2.ผสู้ ง่ (sender) คือ คนหรืออุปกรณ์ทีใ่ ชส้ าหรับส่งข้อมลู /ข่าวสาร ซงึ่ อาจเปน็ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์กลอ้ งวดี ทิ ัศน์ เปน็ ตน้3.ผู้รบั (receiver) คอื คนหรืออปุ กรณ์ ที่ใชส้ าหรับรบั ข้อมูล/ข่าวสารทที่ างผู้สง่ ข้อมลู สง่ ใหซ้ ่ึงอาจเป็นเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์ เปน็ ต้น4.สื่อกลางในการสง่ ข้อมลู (transmission media) คือ ส่งิ ท่ีทาหนา้ ที่รบั ส่งข้อมูล/ขา่ วสารไปยังจุดหมายปลายทาง โดยสอ่ื กลางในการส่งข้อมลู จะมีทั้งแบบมสี าย เช่น สายเคเบิล สายยทู พี ี สายไฟเบอร์ออพติก และสอ่ื กลางในการส่งข้อมลู แบบไร้สาย เชน่ คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ และดาวเทียม5.โพรโทคอล (protocol) คอื กฎเกณฑ์ ระเบยี บ หรือข้อปฏิบตั ิตา่ งๆ ที่กาหนดขน้ึ มาเพ่ือเป็นฯข้อตกลงในการสือ่ สารขอ้ มูลระหวา่ งผรู้ บั และผสู้ ง่สอื่ กลางในการส่อื สารขอ้ มลู

การสือ่ สารทุกชนิดตอ้ งอาศัยสอื่ กลางในการส่งผา่ นข้อมูลเพ่อื นาขอ้ มูลไปยังจดุ หมายปลายทาง เชน่ การคยุโทรศัพท์อาศัยสายโทรศพั ทเ์ ป็นสือ่ กลางในการสง่ สัญญาณคล่นื เสียงไปยังผรู้ บั เปน็ ต้น สาหรับการตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหวา่ งคอมพิวเตอรอ์ าจใช้สายเช่ือมต่อผา่ นอุปกรณเ์ ชือ่ มตอ่ หรืออาจใช้อปุ กรณเ์ ชื่อมต่อแบบไร้สายเปน็ สื่อกลางในการเชื่อมตอ่ ก็ได้ สือ่ กลางในการส่อื สารมีความสาคัญเพราะเป็นปัจจัยหนงึ่ ที่กาหนดประสทิ ธภิ าพในการสอื่ สาร เชน่ ความเรว็ ในการสง่ ข้อมูล ปริมาณของข้อมูลที่สามารถนาไปได้ในหน่งึ หนว่ ยเวลา รวมถึงคณุ ภาพของการสง่ ขอ้ มลู เราจะกลา่ วถึงสื่อกลางในการส่ือสารทัง้ ในแบบใช้สายและแบบไร้สายดังนี้ 1. สายค่บู ิดเกลียว (twisted pair cable) สายนาสัญญาณแบบนแ้ี ตล่ ะคู่สายที่เปน็ สายทองแดงจะถกู พนั บิดเป็นเกลียวเพื่อลบการรบกวนของคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ จากคู่สายขา้ งเคียงภายในสายเดียวกันหรอื จากภายนอก ทาให้สามารถส่งข้อมลู ด้วยความเร็วสงู สายคู่บดิ เกลียวสามารถใช้สง่ ข้อมลู จานวนมาก เปน็ ระยะทางไกลไดห้ ลายกิโลเมตร เน่อื งจากราคาไมแ่ พงมาก ใชส้ ่งข้อมูลได้ดี นา้ หนักเบา ง่ายต่อ การติดตงั้ จงึ นยิ มใช้งานอยา่ งกวา้ งขวาง ตัวอยา่ งสายคบู่ ดิ เกลยี ว 2. สายโคแอกซ์ (coaxial cable) เป็นสายนาสญั ญาณที่เรารจู้ กั กันดี โดยใช้เป็นสายนาสญั ญาณทีต่ ่อจาก เสาอากาศเคร่ืองรับโทรทัศน์หรืสายเคเบลิ ทีวี ตวั สายประกอบดว้ ยลวดทองแดงท่เี ปน็ แกนหลกั หนึ่ง เสน้ หุ้มด้วยฉนวนเพอ่ื ป้องกนั กระแสไฟฟา้ รั่ว จากนน้ั จะหุ้มดว้ ยตัวนาซึ่งทาจากลวดทองแดงทักเป็น รา่ งแหเพื่อปอ้ งกันการรบกวนของคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอนื่ ๆ ก่อนจะหุ้มชนั้ นอกสดุ ด้วยฉนวนพลาสติก และนิยมใช้เป็นสายนาสญั ญาณแอนะล็อกเพอื่ เชอื่ มต่ออปุ กรณภ์ าพและ เสียง (audio-video devices) ตา่ งๆ ภายในบ้านและสานกั งาน ตัวอยา่ งสายโคแอกซ์ 3. สายไฟเบอรอ์ อพติก (fiber-optic cable) ประกอบดว้ ยกลุ่มของเส้นใยทาจากแกว้ หรือพลาสติกท่มี ี ขนาดเล็กประมาณเสน้ ผม แต่ละเส้นจะมแี กนกลาง (core) ท่ถี ูกห่อหมุ้ ด้วยวัสดุใยแกว้ อกี ชนดิ หน่ึงซง่ึ เรียกว่า แคล็ดดิง(cladding) และหุ้มอีกช้ันด้วยฉนวนเพื่อป้องกันการกระแทกและฉีกขาด ตัวอย่าง สายไฟเบอรอ์ อพติก

ความหมายของเครือข่าย เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ คือกลมุ่ ของคอมพวิ เตอรจ์ านวนตัง้ แต่สองเครื่องข้นึ ไป และอปุ กรณ์ตา่ งๆที่ถูกนามาเชื่อมต่อกัน เพ่ือให้ผูใ้ ช้ในเครอื ข่ายสามารถติดตอ่ สื่อสาร แลกเปลยี่ นข้อมูล และใชอ้ ปุ กรณ์ตา่ งๆ ในเครือข่ายร่วมกันได้ เครอื ขา่ ยนัน้ มีหลายขนาด ต้งั แต่ขนาดเลก็ ท่เี ชอ่ื มต่อกันดว้ ยคอมพิวเตอรเ์ พียงสองสามเคร่ืองเพือ่ ใชง้ านในบา้ น หรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชอื่ มต่อกนั ท่ัวโลก เรียกว่าเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ตระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ( Computer Network ) หมายถึง การเชอ่ื มต่อคอมพวิ เตอรต์ ้ังแต่ 2 เครือ่ งข้นึ ไปเขา้ ดว้ ยกันดว้ ยสายเคเบลิ หรอื ส่อื อืน่ ๆ ทาให้คอมพิวเตอรส์ ามารถรบั ส่งขอ้ มูลแก่กนั และกันได้

เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) คอื การเช่ือมโยงคอมพวิ เตอร์ตงั้ แตส่ องเครื่องขน้ึ ไปเขา้ ดว้ ยกัน ผ่านชอ่ งทางการส่อื สาร (Communication channel) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์คอมพวิ เตอร์ท้ังสองเคร่อื งสามารถตดิ ต่อสอ่ื สารและทางาน ร่วมกนั ได้การทค่ี อมพวิ เตอร์ท่ีอยู่ในเครือข่ายสามารถทางานรว่ มกนั ได้จะต้อง สร้างมาตรฐานของสัญญาณที่มชี ือ่ เรยี กว่า โปรโตคอล (Protocol) ความสาคญั ของเครอื ข่าย 1. ทาให้เกิด การทางาน รว่ มกันเป็นกลมุ่ และสามารถ ทางานพรอ้ มกนั 2. ใหส้ ามารถใช้ข้อมูลตา่ งๆ ร่วมกัน ซึง่ ทาให้องคก์ ารไดร้ บั ประโยชนม์ ากขนึ้ 3. ทาให้สามารถ ใช้ทรัพยากร ไดค้ มุ้ คา่ เชน่ ใช้เคร่อื ง ประมวลผลร่วมกัน แบ่งกนั ใช้ แฟ้มข้อมลู ใช้ เครื่องพิมพแ์ ละอุปกรณท์ ี่ มีราคาแพง ร่วมกัน

4. ทาให้ลดต้นทุน เพราะการลงทนุ สามารถลงทนุ ให้เหมาะสม กบั หนว่ ยงานได้5. สามารถขยายอาณาเขตในการสอ่ื สารข้อมลู ได้ ครอบคลุมกวา้ งไกลยิ่งข้ึนจากเครือข่ายขนาดเล็ก ท่ีเช่ือมตอ่ กันด้วยคอมพวิ เตอร์ เพยี งสองสามเครื่อง ภายในหน่วยงานหรือบรษิ ทั เล็กๆไปจนถึงเครือขา่ ยทเี่ ช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ นบั ลา้ นๆเคร่ืองท่ัวโลก ครอบคลมุ ไปเกอื บทุกประเทศท่รี ู้จักกนั ดี คือเครือข่าย อนิ เทอร์เน็ตซง่ึ เปน็ เครือข่ายทใ่ี หญ่ที่สดุ ในโลก 6. ชว่ ยลดความซา้ ซ้อนและ สามารถกาหนดมาตรฐาน การรักษาความปลอดภยั ใหก้ ับแฟม้ ข้อมูล ตา่ งๆ ได้สะดวก

ส่วนประกอบของระบบสอ้ื สารขอ้ มูลองคป์ ระกอบขน้ั พ้นื ฐานของระบบส่ือสารโทรคมนาคม สามารถจาแนกออกเปน็ ส่วนประกอบได้ดังต่อไปน้ี ผสู้ ง่ ข่าวสารหรอื แหล่งกาเนิดขา่ วสาร (Source) อาจจะเปน็ สัญญาณต่าง ๆ เช่น สญั ญาณภาพขอ้ มลู และเสียงเป็นตน้ ในการตดิ ตอ่ สอื่ สารสมยั กอ่ นอาจจะใชแ้ สงไฟ ควันไฟ หรอื ทา่ ทางต่าง ๆ ก็นบั ว่าเป็นแหลง่ กาเนิดข่าวสาร จดั อยใู่ นหมวดหมูน่ ้เี ชน่ กนั ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของขา่ วสาร (Destination) ซง่ึ จะรับรจู้ ากส่งิ ทผ่ี ู้ส่งข่าวสารหรือแหลง่ กาเนดิ ขา่ วสารสง่ ผ่านมาให้ ตราบใดที่ การติดต่อสือ่ สารบรรลวุ ตั ถุประสงค์ ผรู้ ับสารหรอื จดุ หมายปลายทางของข่าวสารกจ็ ะได้รับข่าวสารน้ัน ๆ ถ้าผูร้ ับสารหรือจุดหมายปลายทางไม่ไดร้ ับข่าวสาร กแ็ สดงว่าการสื่อสารน้นั ไมป่ ระสบความสาเรจ็ กลา่ วคือไม่มีการสอ่ื สารเกิดข้นึ นั่นเอง1. ผู้สง่ (Sender) เป็นอุปกรณท์ ่ีใช้ในการส่งขา่ วสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมลู มีหน้าท่ีเตรียมสร้างข้อมลู เช่น ผูพ้ ดู โทรทศั น์ กล้องวิดีโอ เปน็ ตน้ 2. ผรู้ ับ (Receiver) เป็นปลายทางการสื่อสาร มหี นา้ ท่ีรับขอ้ มลู ที่ส่งมาให้ เชน่ ผฟู้ ัง เคร่อื งรบั โทรทัศน์เครื่องพิมพ์ เปน็ ต้น 3. สื่อกลาง (Medium) หรอื ตัวกลาง เป็นเสน้ ทางการสอื่ สารเพ่ือนาข้อมลู จากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง ส่ือสง่ ข้อมลู อาจเปน็ สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชยี ล สายใยแกว้ นาแสง หรือคลน่ื ทสี่ ่งผ่านทางอากาศ เชน่เลเซอร์ คลน่ื ไมโครเวฟ คลน่ื วิทยภุ าคพื้นดนิ หรือคล่นื วิทยุผา่ นดาวเทียม 4. ขอ้ มูลข่าวสาร (Message) คือสัญญาณอิเล็กทรอนิกสท์ ส่ี ง่ ผา่ นไปในระบบสื่อสาร ซง่ึ อาจถูกเรียกวา่สารสนเทศ (Information) โดยแบ่งเป็น 5รูปแบบ ดงั นี้ 4.1 ขอ้ ความ (Text) ใช้แทนตัวอกั ขระตา่ ง ๆ ซึ่งจะแทนดว้ ยรหสั ตา่ ง ๆ เช่น รหัสแอสกี เป็นต้น

4.2 ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งตัวเลขไม่ไดถ้ ูกแทนดว้ ยรหสั แอสกีแต่จะถูกแปลงเป็นเลขฐานสองโดยตรง 4.3 รูปภาพ (Images) ขอ้ มูลของรูปภาพจะแทนดว้ ยจดุ สเี รยี งกันไปตามขนาดของรปู ภาพ 4.4 เสียง (Audio) ขอ้ มูลเสียงจะแตกตา่ งจากข้อความ ตัวเลข และรปู ภาพเพราะข้อมลู เสยี งจะเป็นสญั ญาณต่อเนือ่ งกนั ไป 4.5 วดิ ีโอ (Video) ใชแ้ สดงภาพเคล่ือนไหว ซึง่ เกิดจากการรวมกันของรูปภาพหลาย ๆ รปู 5. โปรโตคอล (Protocol) คอื วธิ กี ารหรอื กฎระเบยี บทีใ่ ชใ้ นการสื่อสารข้อมูลเพื่อใหผ้ ู้รบั และผู้สง่สามารถเข้าใจกันหรือคุยกนั รเู้ รอื่ ง โดยทั้งสองฝั่งท้งั ผ้รู ับและผ้สู ง่ ได้ตกลงกนั ไว้ก่อนล่วงหนา้ แลว้ ในคอมพิวเตอรโ์ ปรโตคอลอยใู่ นส่วนของซอฟต์แวรท์ ีม่ หี น้าท่ีทาให้การดาเนนิ งาน ในการสือ่ สารข้อมลู เป็นไปตามโปรแกรมท่กี าหนดไว้ ตวั อย่างเชน่ X.25, SDLC, HDLC, และ TCP/IP เปน็ ตน้ ชอ่ งสัญญาณ (Channel) ในทน่ี อ้ี าจ จะหมายถึงสื่อกลางหรือตวั กลางท่ีขา่ วสารเดินทางผ่าน อาจจะเปน็ อากาศ สายนาสญั ญาณต่าง ๆ หรือแม้กระทงั่ ของเหลว เชน่ นา้ นา้ มัน เป็นตน้ เปรียบเสมือนเป็นสะพานที่จะใหข้ ่าวสารขา้ มจากฝ่งั หนึ่งไปยังอกี ฝ่ังหน่ึง การเขา้ รหัส (Encoding) เป็นการชว่ ยให้ผูส้ ง่ ข่าวสารและผรู้ ับข่าวสารมคี วามเข้าใจตรงกันในการสื่อความหมาย จงึ มีความจาเป็นต้องแปลงความหมายน้ี การเข้ารหัสจึงหมายถงึ การแปลงข่าวสารใหอ้ ยใู่ นรปูพลังงานท่ีพรอ้ มจะส่งไปใน สื่อกลาง ทางผสู้ ง่ มีความเขา้ ใจตอ้ งตรงกันระหวา่ งผสู้ ่งและผรู้ บั หรอื มีรหัสเดยี วกันการสื่อสารจึงเกิดขึน้ ได้ การถอดรหัส (Decoding) หมายถึงการทผี่ ู้รบั ข่าวสารแปลงพลงั งานจากสือ่ กลางให้กลบั ไปอยู่ในรปูขา่ ว สารท่ีส่งมาจากผู้สง่ ข่าวสาร โดยมคี วามเข้าในหรือรหัสตรงกนั สัญญาณรบกวน (Noise) เป็นสิง่ ท่ีมีอยู่ในธรรมชาติ มักจะลดทอนหรือรบกวนระบบ อาจจะเกิดขน้ึได้ทง้ั ทางด้านผสู้ ง่ ข่าวสาร ผรู้ บั ข่าวสาร และช่องสญั ญาณ แตใ่ นการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐานมกั จะสมมติให้ทางด้านผู้สง่ ขา่ วสารและผ้รู บั ข่าว สารไม่มีความผดิ พลาด ตาแหนง่ ที่ใช้วเิ คราะหม์ ักจะเปน็ ทต่ี ัวกลางหรือชอ่ งสัญญาณเมอ่ื ไรทรี่ วมสญั ญาณรบกวนด้านผ้สู ่งข่าวสารและดา้ นผู้รับข่าวสาร ในทางปฎบิ ัตมิ ักจะใช้วงจรกรอง (Filter)กรองสัญญาณแต่ตน้ ทาง เพื่อให้การส่อื สารมีคุณภาพดยี ิง่ ขึ้นแล้วคอ่ ยดาเนนิ การ เชน่ การเขา้ รหัสแหลง่ ขอ้ มูลเป็นต้นเครือข่ายการสือ่ สารข้อมูล หมายถงึ การรับส่งข้อมูลหรือสารสนเทศจากทห่ี นึ่งไปยงั อกี ท่ีหนึ่ง โดยอาศัยระบบการส่งข้อมลู ทาง

คลืน่ ไฟฟ้าหรือแสง อุปกรณท์ ี่ประกอบเป็นระบบการสื่อสารขอ้ มูลโดยท่ัวไปเรียกว่า เครือข่ายการสื่อสารข้อมลู(Data Communication Networks)องค์ประกอบพน้ื ฐาน- หนว่ ยส่งขอ้ มลู (Sending Unit)- ช่องทางการสง่ ขอ้ มูล (Transmisstion Channel)- หน่วยรบั ข้อมลู (Receiving Unit)เทคโนโลยีการสอื่ สารความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ตามพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2542 ไดใ้ ห้ความหมายของคาตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกบั เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดังน้ี เทคโนโลยี หมายถึงวิทยาการทเี่ กย่ี วกบั ศิลปะในการนาเอาวิทยาศาสตร์ประยกุ ต์มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในทางปฏบิ ัติและอตุ สาหกรรม สารสนเทศ หมายถงึ ข่าวสาร การแสดงหรือช้แี จงข่าวสารข้อมลู ตา่ ง ๆ ขอ้ มูล หมายถงึ ขอ้ เทจ็ จริง หรือสิง่ ท่ยี อมรับว่าเปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ

การส่ือสาร หมายถึง การนาส่ือหรือขอ้ ความของฝา่ ยหนึ่งสง่ ให้อีกฝ่ายหนงึ่ ประกอบดว้ ยผู้สง่ขา่ วสารหรอื แหลง่ กาเนิดขา่ วสาร ช่องทางการสง่ ขอ้ มูล ซง่ึ เปน็ สือ่ กลางหรอื ตวั กลางอาจเปน็ สายสัญญาณ และหนว่ ยรบัขอ้ มลู หรือผ้รู บั สารจากความหมายดังกลา่ ว สามารถกล่าวขยายอธบิ ายเพ่ิมเติมได้ คือ เทคโนโลยี (Technology) มีความหมายมาจากคา 2 คา คือเทคนคิ (Technique) ซง่ึหมายถงึ วิธกี ารท่มี ีการพฒั นาและสามารถนาไปใชไ้ ด้ และคาวา่ ลอจิก (Logic) ซึ่งหมายถงึ วิธกี ารปฏบิ ตั ิทีม่ ีการจดั ลาดบั อย่างมรี ปู แบบและข้ันตอนเพ่ือทจ่ี ะทาให้เกดิ ประสิทธภิ าพในเรื่องความเร็ว (Speed) ความนา่ เชอื่ ถือ (Reliably) และความถูกต้อง ซ่ึงคุณสมบตั ิทก่ี ล่าวถงึ น้ีมอี ยู่อยา่ งครบถว้ นในเครอื่ งคอมพิวเตอร์ อยา่ งไรก็ตาม ความหมายของคาวา่ เทคโนโลยี ไม่ได้หมายถงึ แตเ่ พยี งคอมพิวเตอร์เท่านัน้ เพราะเทคโนโลยที เ่ี ราพบเหน็ ยังมีอีกหลายอยา่ ง เชน่ เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร และ โทรคมนาคมเทคโนโลยีเครอื ข่าย เทคโนโลยสี าหรบั การผลิต การจัดการในงานธรุ กิจและงานอตุ สาหกรรม เป็นต้น เทคโนโลยี ในความหมายของคาว่าเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารก็คือ เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ซึ่งเปน็ เคร่ืองมือที่ช่วยประมวลผลข้อมูลใหไ้ ด้มาซง่ึ สารสนเทศ โดยระบบคอมพวิ เตอร์ประกอบด้วยองคป์ ระกอบหลกั ที่สาคัญคือ ฮารด์ แวร์ หรอื ตัวเครื่องและอปุ กรณร์ อบข้าง ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรม และผู้ทางานทต่ี ้องการทางานอยา่ งสมั พันธ์กนั การสอื่ สาร (Communication) แตเ่ ดิมมักไดย้ นิ แตค่ าวา่ IT หรือ InformationTechnology เทา่ นัน้ตอ่ มาได้นาตวั C หรอื Communication เขา้ มาร่วมดว้ ย เน่อื งจากเทคโนโลยกี ารสอื่ สารไดพ้ ฒั นาอย่างมาก และ สามารถทจ่ี ะนาส่ือสารในเทคโนโลยไี ด้

การส่อื สารครอบคลุมประเดน็ ในเร่ืององค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ ผสู้ ง่ สาร ชอ่ งทางการส่ือสาร และผ้รู บั สาร และมีระบบการสอื่ สาร 2 ประเภท คอื ประเภทมีสาย และประเภทไมม่ สี ายหรือไรส้ าย เทคโนโลยีการสอื่ สาร ไดแ้ ก่ อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะบริการเวลิ ดไ์ วดเ์ ว็บ (World Wide Web) หรือ (web) จงึ กล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง \"วทิ ยาการตา่ งๆ ทใี่ ช้ในการสอ่ื สารขอ้ มูลขา่ วสารของฝ่ายหน่งึ ส่งใหอ้ ีกฝา่ ยหนงึ่ \" กลา่ วคอื เทคโนโลยสี ารสนเทศ เป็นเทคโนโลยที ี่เกยี่ วข้อง กับการจดั การสารสนเทศ ทอ่ี าศยั เทคโนโลยีดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสอ่ื สารโทรคมนาคมเปน็ หลัก ตง้ั แตก่ ารรวบรวม การจัดเก็บขอ้ มูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การส่อื สารข้อมลู ฯลฯ เพอ่ื ใหไ้ ด้สารสนเทศไว้ใชง้ านไดอ้ ย่างทันเหตกุ ารณ์กอ่ ให้เกดิ ประสิทธิภาพท้งั ในดา้ นการผลิต การบริการ การบริหารและ การดาเนนิ งานตา่ ง ๆ รวมทัง้ เพื่อการศึกษา และการเรียนรู้ ซงึ่ จะส่งผลต่อความไดเ้ ปรยี บทางด้านเศรษฐกิจ การคา้ และการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต และคุณภาพของประชาชนในสงั คม ปัจจุบนั เทคโนโลยีถกู นามาใชใ้ นทุกวงการ เช่น นามาใช้ในวงการแพทย์ เรียกว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Technology) นามาใช้ทาง การเกษตร เรยี กวา่ เทคโนโลยที างการเกษตร(AgriculturalTechnology) นามาใช้ทางการอตุ สาหกรรม เรียกวา่ เทคโนโลยที างอุตสาหกรรม (Industrial Technology)

นามาใช้ทางการสื่อสาร เรียกว่า เทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร (Communication Technology) และนามาใช้ในวงการอืน่ ๆ อีกมากมาย รวมทง้ั นามาใชใ้ นวงการศึกษา ทเี่ รยี กว่า เทคโนโลยที างการศึกษา (EducationalTechnology)เทคโนโลยกี ารสื่อสาร หมายถงึ เทคโนโลยีในการส่ือสารยุคใหม่ 4 กลุ่ม ไดแ้ ก่ 1. เทคโนโลยกี ารแพร่ภาพและเสียง (Broadcast and Motion Picture Technology) 2. เทคโนโลยกี ารพมิ พ์ (Print and Publishing Technology) 3. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ (Computer Technology) 4. เทคโนโลยสี ่ือสารโทรคมนาคม (Telecommunication Technology) บทบาทของเทคโนโลยกี ารสื่อสารในปัจจุบัน เชน่ คอมพิวเตอร์ ดาวเทยี มเพ่ือการสื่อสาร โครงข่ายโทรศัพท์ อุปกรณ์ ภาพและเสยี ง มีผลกระทบต่อ \"สือ่ แบบดั้งเดิม\" (TraditionalMedia) ซง่ึ ไดแ้ ก่หนังสอื พิมพ์ นิตยสาร วทิ ยุกระจายเสยี ง วทิ ยุโทรทัศน์ ทาให้ เกดิ สงิ่ ท่ีเรยี กว่า \" การปฏิวัติแหง่ ระบบตวั เลข\" (DigitalRevolution) ทาใหข้ ้อมูลข่าวสารไมว่ า่ จะอยูใ่ นรูปลกั ษณ์ใด เชน่ ขอ้ ความเสียงภาพเคลอ่ื นไหวรปู ภาพ หรอืงานกราฟิก ได้รบั การปรับเปล่ียนใหเ้ ปน็ ภาษาอีกชนดิ หน่งึ เป็นรูปแบบเดยี วกนั ทั้งหมด คือสามารถอ่านและสง่ ผ่านได้อยา่ งรวดเรว็ ดว้ ยเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ แล้วยงั สามารถนาเสนอในลักษณะใดกไ็ ด้ตามความต้องการใช้งาน ของผใู้ ชง้ าน ความเปล่ียนแปลงน้ถี กู เรยี กขานว่า \"การทาให้เป็นระบบตวั เลข\" หรือ\"ดจิ ไิ ทเซชัน่ \" (Digitization) ด้วย ระบบที่มีการทาใหเ้ ปน็ ระบบตัวเลข เป็นปัจจัยสาคญั ประการหนึ่งทีท่ าให้เกดิ \"สอื่ ใหม่\" (New Media) ขนึ้ เปน็สื่อทีม่ ีลกั ษณะเก่ยี วข้องกับระบบตัวเลข เครอื่ งคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ หรือ \"อินเตอร์ แอคทีฟ\" (Interactive) เทคโนโลยกี ารสื่อสาร (Communication Technology) คอื เทคโนโลยดี ิจิตัล (DigitalTechnology)ประเภทหนง่ึ ซง่ึ ได้พฒั นาตวั เพ่ือเอือ้ ตอ่ การจัดการ “การสื่อสาร(Communication)” หรอื “การขนสง่ขา่ วสาร

(Transfer of Information)” เทคโนโลยีการสือ่ สาร ไม่ว่าจะเป็นทางดา้ นภาพ (Image) เสยี ง(Voice) หรอื ทางด้านข้อมูล (Data) ไดร้ บั การพฒั นาจนมนุษย์ สามารถเชื่อมโยงติดต่อกันไดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็ว และเปน็ เครือข่ายท่ีติดต่อสื่อสารกันได้ท่ัวโลก เปน็ ยคุ ของสารสนเทศ (Information Age) และเปน็สังคมสาร- สนเทศ(Information Society) ท่นี ับวันจะมอี ัตราการเตบิ โตขนึ้ ทุกท่ที ั้งในดา้ นขนาดและปริมาณขา่ วสารทไี่ หลเวียนอยใู่ นสังคม (ธวชั ชยั พานิชยกรณ์, 2539)ประโยชนข์ องเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ เครอื ข่ายที่ทางานรวมกันเป็นกลุ่มงาน เรียกวา่ Workgroup เมอ่ื เชือ่ มโยงหลาย ๆ กลุ่มงานเข้าดว้ ยกนั จะเป็นเครือข่ายขององค์กร จะเป็นเครอื ขา่ ยขนาดใหญ่ สามารถประยุกตใ์ ช้งานไดอ้ ยา่ งกว้างขวางโดยเครอื ข่ายคอมพิวเตอรจ์ ะเกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ด้วยกันและสือ่ สารถึงกันได้ เชน่ 1. การใชฐ้ านข้อมลู ร่วมกนั เครอื ขา่ ยที่ใหบ้ รกิ ารเก็บขา่ วสาร ตวั เลขหรอื ข้อมูลใชง้ านจะใช้ฐานขอ้ มูลเดยี วกันได้ เช่น ราคาสินคา้ บญั ชีสนิ คา้ ฯลฯ 2. การแบ่งปนั ทรพั ยากรในเครอื ข่าย อุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ เชน่ การพิมพ์เอกสารจะใช้เครื่องพิมพเ์ คร่ืองเดียวกบั คอมพวิ เตอรเ์ ครอื ขา่ ยหลายเครื่องก็ได้ เปน็ ต้น 3. การตดิ ต่อสื่อสารระหวา่ งกนั บนเครอื ข่าย เมื่อมกี ารเชอ่ื มโยงสถานงี านเข้าดว้ ยกันก็จะสามารถโอนย้ายขอ้ มลู ระหว่างกันได้ การดาเนินการต่าง ๆ ควรเป็นไปตามกฎเกณฑท์ ่ีฝ่ายบรหิ ารเครอื ข่ายขององคก์ รไดก้ าหนดไว้ 4. สานกั งานอัตโนมตั ิ แนวคดิ คือตอ้ งการลดการใช้กระดาษ หันมาใชร้ ะบบการทางานดว้ ยคอมพวิ เตอร์ทแ่ี ลกเปลย่ี นข้อมูลระหว่างกันได้ทันที โดยการใช้สญั ญาณอิเลคทรอนิกส์แทน จะทาใหก้ ารทางานคลอ่ งตัวและรวดเรว็ การใช้งานเครือข่ายยังมีการประยุกต์ได้หลายอยา่ งต้ังแต่ การโอนยา้ ยแฟ้มข้อมลู ระหวา่ งกัน การทางานเปน็ กลุ่ม การใชท้ รัพยากรร่วมกนั การนดั หมายการส่งงาน แมแ้ ตใ่ นห้องเรียนก็ใชเ้ ครอื ข่ายเพ่ือการเรยี นการสอน ใชเ้ ป็นแหล่งเรียนรใู้ ห้เรยี กค้นข้อมูลเป็นต้นการสอื่ สาร (Communication) หมายถงึ การตดิ ต่อระหวา่ งมนษุ ยโ์ ดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพื่อนาเสนอหรอืแลกเปลย่ี นขา่ วสาร ข้อมลู ความตอ้ งการ ความร้สู กึ นึกคิด ตลอดจนความคิดเหน็ ใหร้ ับรู้เร่ืองราวรว่ มกันและ

เกดิ การตอบสนองระหวา่ งผู้ส่งสารกับผรู้ บั สาร โดยอาศยั สื่อกลางในการตดิ ต่อสื่อสารสอ่ื สารข้อมูล (Data Communication) หมายถึง การส่งหรอื แลกเปล่ียนข้อมลู และสารสนเทศ จากจุดหน่ึงไปยงั อีกจุดหนึง่ โดยผา่ นช่องทางการสื่อสาร (Communication Channel) แตข่ ้อมูลท่ีส่งถงึ กนั นั้นจะเปน็เพยี งข้อมลู (Data) เท่านัน้ ไม่รวมเสียงพูด (Voice)โทรคมนาคม (Telecommunication) หมายถึง การติดตอ่ สื่อสารระหวา่ งกันในระยะทางไกล ๆ โดยอาศยั ช่องทางการสื่อสารเหมือนกบั การส่ือสารข้อมลู แตส่ ามารถสง่ ได้ท้ังข้อมลู (Data) และเสยี งพูด(Voice)แนวโนม้ ของการส่อื สารโทรคมนาคม (Telecommunication Trends)เนอื่ งจาก ความเจรญิ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยกี ารส่ือสาร ทาใหม้ นุษยใ์ นปจั จุบันสามารถติดต่อสอ่ื สารถึงกันได้แมว้ ่าจะอยหู่ ่างไกลกัน แค่ไหนก็ตาม จงึ ก่อใหเ้ กิดการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยนี ้กี ับธรุ กจิ เพ่ือสร้างทางเลือกการตัดสนิ ใจและอานวยความสะดวกในการดาเนนิ ธรุ กิจมากยิ่ง ขึน้ ดงั นัน้ ผูอ้ ่านจงึ ควรทราบแนวโน้มทเี่ กิดขึน้ กบัการสื่อสารโทรคมนาคม โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ แนวโน้มดา้ นอตุ สาหกรรมการสือ่ สาร แนวโนม้ ด้านเทคโนโลยีการสือ่ สารและแนวโน้มดา้ นแอปพลิเคชั่นธุรกจิ

1. แนวโนม้ ดา้ นอตุ สาหกรรมการส่ือสาร (Industry Trends)เม่ือ ไม่กปี่ ีทีผ่ า่ นมา ได้เกิดการเปลีย่ นแปลงในอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมในหลายๆประเทศ โดยได้เปลี่ยนจากการควบคมุ ดแู ลของรัฐเพยี งเดยี ว มาเป็นการแข่งขนั การใหบ้ รกิ ารระหว่างบริษทั ผู้ให้บรกิ ารหลายๆ รายซ่งึ ผใู้ หบ้ ริการเหลา่ น้ีได้เตรียมทางเลือกไวห้ ลาย ๆ ทางเพ่ือให้องคก์ ร บริษทั เอกชน และผู้บริโภคท่ัวไปไดเ้ ลือกใชบ้ ริการทางการสื่อสารต้ังแตโ่ ทรศัพทภ์ ายใน ประเทศไปจนถึงการสือสารผ่านดาวเทยี ม เคเบิลทีวีโทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี และการใช้อินเตอรเ์ น็ตการเตบิ โตอยา่ งรวดเร็วของอินเตอร์และ WWW (World Wide Web) ได้ ก่อให้เกิดผลิตภณั ฑ์ บริการและผู้ให้บริการทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคมมากมาย เพ่ือสนองตอบตอ่ การเติบโตดังกลา่ วบริษัทเอกชนหรือองค์กรต่างๆ จึงได้เพ่มิ ปริมาณการใช้งานอนิ เตอรเ์ น็ต และเวบ็ ไซตเ์ พื่อการพาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์ (E-commerce)และการทางานร่วมกัน (Collaboration) มากขน้ึ ดังน้นั การพบปะสนทนาเพื่อนาเสนอบริการและฮารด์ แวรค์ อมพิวเตอร์ ์แกบ่ รษิ ทั ท่ตี ้องการใช้การสื่อสารโทรคมนาคมนี้จึงเพ่ิมขึน้ ตามไปดว้ ย2.แนวโน้มด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร (Technology Trends)เนือ่ งจาก การเกดิ ข้นึ ของเทคโนโลยีเครอื ข่ายอนิ เตอร์เน็ต สง่ ผลใหเ้ กิดแรงผลักด้นในการพัฒนาเทคโนโลยใี หม่ๆ เพือ่ สนบั สนุนการดาเนินธรุ กจิ และอตุ สาหกรรมมากย่ิงขึ้น เช่น เว็บบราวเซอร์เครื่องมือในการเขียนภาษาHTML เพ่ือสร้างเวบ็ เพจ ซอฟแวร์เพื่อการจดั การเครือข่าย ไฟร์วอลล์ เป็นตน้ เทคโนโลยเี หล่าน้ีได้ถกู นามาใช้ในแอปพลิเคช่ันบนเครือข่ายโดยเฉพาะอย่างยิง่ แอปพลเิ คชัน่ สาหรบั E-commerce และการทางานร่วมกันเพ่อื การเติบโตขององค์กรโดยแนวโน้มการพฒั นาเทคโนโลยเี หลา่ น ไี้ ดม้ งุ่ ไปสกู่ ารสร้างเครือข่ายไคลเอ็นท/์เซริ ์ฟเวอร์บนพนื้ ฐานของ สถาปัตยกรรมระบบเปดิ (Open System)

ระบบเปดิ (Open System) คอื ระบบสารสนเทศที่ใชฮ้ าร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคช่ัน และเครอื ข่ายที่เป็นมาตรฐานท่ีใชก้ นั อยทู่ ่วั โลกเพ่ือใหผ้ ใู้ ช้งานสามารถ เช่อื มต่อและเขา้ ถึงสารสนเทศได้ง่าย ดว้ ยระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ของพวกเขาเอง โดยระบบเปดิ นีจ้ ะต้องมีความสามารถในการเชือ่ มต่อทีด่ ี กล่าวคือเปน็ความสามารถของระบบที่ประกอบไปดว้ ยคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ มาเช่ือมตอ่ กันเปน็ เครอื ขา่ ย เพ่ือให้เข้าถึงและใช้งานสารสนเทศและอปุ กรณต์ ่าง ๆ ไดง้ ่ายระบบเปิดบางระบบนั้นอาจจะมคี วามสามารถในการทางานร่วมกนั บนเครอื ข่าย ไดน้ นั้ คอื ผู้ใชง้ านสามารถสรา้ งแอปพลเิ คช่นั ท่แี ตกตา่ งกนั หลาย ๆ แอปพลิเคช่นัให้สาเร็จโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วรแ์ ละฐานข้อมูลท่ีแตกต่างกนั บนเครือข่ายท่ีตา่ งกันได้ บอ่ ยคร้ังทม่ี ีการนาซอฟตแ์ วรท์ ่ีเรียกว่า “มิดเดลิ แวร์ (Middle)” มาใชเ้ พอ่ื ช่วยใหร้ ะบบทีแ่ ตกตา่ งกนั สามารถทางานรว่ มกนั ไดแ้ นว โน้มการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการสอื่ สารท่สี าคัญอีกสิ่งหนงึ่ ก็คอื การเปลย่ี นแปลงการใช้สอื่ กลางในการส่งข้อมลู ทเี่ ปน็ สายทองแดง และระบบการส่ือสารด้วยไมโครเวฟบนพ้นื ดินมาเป็นการใช้เคเบลิใยแกว้ นาแสง เซล ลลู ารด์ าวเทียมส่ือสารและเทคโนโลยสี อื่ สารไร้สายแบบอืน่ ๆ โดยการใชเ้ คเบลิ ใยแกว้ นาแสงจะทาใหส้ ่งข้อมลู จานวนมหาศาลได้ดว้ ยความเร็วแสง ไม่มีปัญหาเร่ืองสญั ญาณรบกวน และใช้พน้ื ที่ในการติดตงั้ น้อยกว่าสายสญั ญาณแบบอื่น การใช้ดาวเทยี มสื่อสารทาใหส้ ามารถส่งขอ้ มูลภาพและเสยี งท่ีมปี รมิ าณมหาศาล ข้ามซกี โลกได้อยา่ งรวดเร็ว การใชเ้ ซลลูลารห์ รือเครือข่ายไรส้ ายอื่น ๆ จะอานวยความสะดวกต่อการใชอ้ ปุ กรณ์พกพาแบบต่าง ๆ ใหส้ ามารถส่ือสารกับเครือข่ายท่ัวโลกได้3.แนวโนม้ ดา้ นแอปพลเิ คช่ันธุรกิจ (Business Application Trends)การเปล่ียนแปลงในอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยีการสอ่ื สารดงั กล่าว กอ่ ให้เกดิ การเปล่ยี นแปลงทสี่ าคัญในแวด

วงธรุ กิจทใี่ ชก้ ารติดต่อสอื่ สาร โดยส่วนใหญ่จะเก่ียวขอ้ งกับผ้จู าหนา่ ยฮาร์ดแวร์การใหบ้ ริการอินเตอรเ์ นต็ และระบบเปดิ นอกจากนีจ้ ากการเติบโตอยา่ งรวดเร็วของอนิ เตอร์เน็ต WWW อินทราเน็ตและเอก็ ซ์ทราเน็ต ทาให้มีแอปพลิเคชัน่ ท่ีทาให้สามารถทางานรว่ มกันระหว่าง 2 บรษิ ทั หรอื มากกว่ารวม ทง้ั แอปพลิเคช่ันท่ภี ายในองค์กรเพื่อสนบั สนนุ การปฏบิ ัตงิ านการจัดการและการวางแผนกลยุทธ์ ดังน้นั เครอื ข่ายโทรคมนาคม จึงมีบทบาทและมีความสาคัญต่อการดาเนินธุรกิจเป็นอย่างมากการ มีเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ภายในองค์กรจะเปน็ ประโยชนต์ ่อองค์กรอย่างมาก ไมว่ า่ จะเปน็ การช่วยลดตน้ ทนุ ลดเวลาในการติดต่อสอื่ สาร การใช้งานทรพั ยากรร่วมกัน(Share Resources) การทางานร่วมกันเปน็ ทมี และสนบั สนุน E-commerce เป็นต้น ส่งผลให้การตดั สนิ ใจมีความสาคญั และซบั ซ้อนมากย่ิงขึน้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่ต้องมีการแขง่ ขันกันท้งั ภายในและภายนอกเมื่อเหน็ แนวโนม้ และความสาคัญในการใช้การสื่อสารโทรคมนาคมแล้ว จงึ มีความจาเปน็ ทจ่ี ะต้องศึกษาถงึองค์ประกอบรปู แบบของการติดต่อสื่อสารและ เครือขา่ ยคอมพิวเตอร เ์ พอื่ ให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ต่อการดาเนินธรุ กจิ

จดั ทาโดย นายเทวินทร์ ชน่ื ชม ปวส. 2คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ห้อง 1 เลขท่ี 18


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook