กระบวนการสร้าง นวัตกรรม อา้ งองิ จากหนงั สอื “สบิ รูปแบบการสรา้ งนวตกรรม หลกั การสรา้ งพฒั นาการทย่ี ง่ิ ใหญ่” โดยลารร์ ่ี คลี ย่ี ์ แปลโดย จตุ พิ งศ์ ภสู ุมาศ, สุวสิ า แซ่อ้งึ
Contents Innovation How to Create Innovation Pattern of innovation Thinking Process Let do it เอกสารอา้ งองิ : สิบรูปแบบการสรา้ งนวตั กรรม: หลกั การสรา้ งพัฒนาการท่ียิ่งใหญ่, ลาร์รี่ คีล่ยี ์
เปา้ หมายการสร้างนวตั กรรม สรา้ งนวัตกรรมอย่างเปน็ ระบบ เปลี่ยนจากสง่ิ ทีเ่ พ้อฝนั สคู่ วามเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ หนทางไปสู่จดุ มงุ่ หมาย
จดุ เปลีย่ นท่ีสาคญั ความสามารถในการเปลยี่ นแปลง ปรบั ตัว และพัฒนา การสรา้ งนวตั กรรม มีความจาเป็นตอ่ การดารงอยู่ขององค์กร Multifactorial Process Output
การสร้างนวตั กรรม คือ การสร้าง ข้อเสนอใหมๆ่ ท่มี คี วามยัง่ ยืน
การสร้างนวัตกรรม คือ การสร้าง ขอ้ เสนอใหม่ๆ ทีม่ ีความยั่งยืน การสรา้ งนวัตกรรม ไมใ่ ชก่ ารประดษิ ฐ์ ยังมสี ่วนประกอบสาคัญอืน่ ๆ นวัตกรรมมคี วามยัง่ ยืนด้วยตวั เอง และสรา้ งคา่ ตอบแทนเงนิ ท่ีลงทนุ ท่ี ใชพ้ ฒั นามนั เองได้ นวัตกรรม มพี ืน้ ฐานการพัฒนามาจากสิ่งทม่ี อี ยกู่ อ่ น ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งเปน็ สิง่ ทเ่ี กิดใหม่ นวัตกรรม เหนือกวา่ ผลิตภณั ฑ์ หมายรวมถึงวถิ ที างใหมๆ่ ในการดาเนนิ ธรุ กิจ การสร้างรายได้ ระบบการใชง้ านรูปแบบใหม่ การใหบ้ รกิ าร ปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งองคก์ ร กับลูกคา้
การสร้างนวตั กรรม จาเป็นต้องระบุปญั หาที่สาคัญ และจดั การปญั หาเหล่าน้ันอย่างเปน็ ระบบ เพ่อื ส่งมอบแนวทางแก้ปัญหาท่เี รียบงา่ ย
การสร้างนวตั กรรม จาเป็นต้องระบุปญั หาทสี่ าคัญ และจัดการปญั หาเหลา่ น้ันอย่างเปน็ ระบบ เพ่ือส่งมอบแนวทางแก้ปัญหาที่เรียบงา่ ย ควรศกึ ษาวัตถปุ ระสงค&์ เปา้ หมายท่ตี อ้ งการนานวัตกรรมไปใชใ้ ห้ชัดเจนกอ่ น จัดการปัญหาทีย่ ุง่ ยากทส่ี ดุ ก่อน แล้วคอ่ ยๆมาจัดการเรอื่ งง่ายๆตอ่ ไป ไมย่ อมรบั ผลลพั ธ์ท่ีไม่สมบรู ณ์ คอ่ ยๆทาไปเรอ่ื ยๆ และผลลพั ธ์ทดี่ ที ่ีสดุ จะ เกิดขึน้ เอง งานไมจ่ บแค่การสรา้ ง ควรนาเขา้ ตลาด เพอื่ สง่ ผลประโยชน์ตอ่ สังคม ยงิ่ ทาให้ นวัตกรรมมีความยัง่ ยนื พยายามเปลี่ยนความซบั ซอ้ นใหเ้ รียบงา่ ยเสมอ
10 รปู แบบของการสร้างนวตั กรรม Profit Network Structure Process Model Product Product performance System Service Channel Brand Customer Engagement
1. โมเดลการสรา้ งกาไร/ การสร้างมลู ค่า (Value model): ทำอย่ำงไรเพ่ือใหอ้ งคก์ รสำมำรถอย่ไู ด้ หรอื สร้ำงมูลค่ำให้กับสงั คมได้ Profit มกั ใชร้ ่วมกับกลยทุ ธต์ ่ำงๆ เพอ่ื สร้ำงนวตั กรรมให้ตรงวตั ถปุ ระสงค์ Model 2. การสรา้ งเครือขา่ ย: วธิ ีกำรท่จี ะสรำ้ งสงิ่ ท่มี ีมลู ค่ำ (value)ร่วมกับผู้อื่น/องคก์ รภำยในและ Network ภำยนอก ช่วยสรำ้ งควำมเขม้ แข็งใหก้ บั องคก์ ร กระจำยควำมเสีย่ ง พฒั นำศักยภำพเครอื ข่ำย 3. การจัดการโครงสร้าง: จดั กำรม่งุ เน้นเรอ่ื งจัดกำรทรัพยำกรท่ีมีอย่ใู นองคก์ รเพ่อื ให้เกดิ มลู คำ่ Structure ไม่ว่ำจะเป็นเครอ่ื งจกั ร คนในองค์กร หรอื ทรัพยส์ ินทำงปญั ญำ เกดิ ระบบบริหำรจัดกำรท่สี ุดยอด 4. การพัฒนากระบวนการ : Process กอ่ เกิดกำรเปลย่ี นแปลง ดึงควำมสำมำรถในกำรผลิตท่ีเป็นเอกลักษณ์ มีประสิทธภิ ำพใน กำรทำงำน สำมำรถปรบั ตวั ไดร้ วดเรว็ เกิดกำไรสงู ใน ตลำด.. LEAN Production, Process Standardization, Periodic analytic
5. การพัฒนาประสทิ ธิภาพของผลติ ภัณฑ์: มุง่ ไปทค่ี ณุ คา่ คุณลักษณะ และคุณภาพ Product อาจหมายถงึ การสรา้ งสนิ ค้าใหมท่ ตี่ อบโจทยม์ ากขน้ึ การขยาย ไลนก์ ารผลิต หรือพฒั นาสินค้าเดมิ ให้ดีขน้ึ performance ตัวอย่ำงเช่น กำรพัฒนำให้เรียบง่ำย ง่ำยต่อกำรใช้งำน กำรออกแบบท่ี เป็นมติ รต่อส่งิ แวดลอ้ ม ปรบั /เปลย่ี นตำมควำมต้องกำรได้ ตอบสนองต่อควำม ต้องกำรไดท้ กุ กลมุ่ 6. ระบบของผลติ ภณั ฑ์: Product การสรา้ งส่วนผสมทสี่ มบูรณแ์ บบระหว่างสนิ คา้ และบริการ ซง่ึ ก่อใหเ้ กดิ ระบบทีม่ ีความเขม้ แขง็ และมีโอกาสเตบิ โตได้ในอนาคต System มหี ลำยรูปแบบกำรพฒั นำ เช่นใชง้ ำนรว่ มกนั ระหวำ่ งสินคำ้ แบง่ กำร ทำงำนของสนิ คำ้ ออกเปน็ สว่ นๆ ประกอบสินค้ำหลำยชน้ิ เป็นชนิ้ เดียว หรอื วธิ ี อื่นๆท่สี ำมำรถสร้ำงมลู ค่ำจำกกำรผสมผสำนสนิ ค้ำทแี่ ตกตำ่ ง
10 รปู แบบของการสร้างนวตั กรรม Profit Network Structure Process Model Product Product performance System Service Channel Brand Customer Engagement
7. การใหบ้ ริการ: นวตั กรรมการให้บรกิ ารท่ีดีจะชว่ ยเสรมิ ประโยชนจ์ าการใช้สนิ ค้า Service ยกระดบั ประสิทธิภาพ เพ่ิมมลู คา่ และทาใหส้ ินคา้ ดูโดดเด่นมากข้นึ ครอบคลมุ ถึงกำรส่งเสริมกำรใชง้ ำน กำรบำรุงรกั ษำ กำรสนับสนนุ กำรให้ขอ้ มูล และควำมรู้ กำรรบั ประกัน Channel 8. ช่องทางการขายสินค้าและบรกิ าร: พฒั นำชอ่ งทำงทงั้ หมดที่เกยี่ วขอ้ ง: หนำ้ รำ้ นและออนไลน์ 9. แบรนด:์ Brand วธิ ที ีจ่ ะสร้ำงภำพลกั ษณ์ของสนิ คำ้ และธรุ กจิ กำรสรำ้ งแบรนด์ น้นั รวมถึง กำรขยำยบรกิ ำรใหม่ๆ เพมิ่ ผลติ ภณั ฑ์ภำยใตแ้ บรนด์ท่ีมอี ยู่ 10. การสรา้ งความผูกพนั ธ์กบั ลูกคา้ : กำรทำควำมเขำ้ ใจควำมปรำรถนำทอี่ ย่ใู นใจลึกๆของลกู คำ้ หรือผใู้ ช้ Customer สนิ ค้ำ และใชข้ อ้ มลู เชงิ ลึกพฒั นำควำมสัมพันธ์ ผ่ำนชอ่ งทำงกำรส่อื สำรท่ี หลำกหลำย Engagement
10 รปู แบบของการสร้างนวตั กรรม Profit Network Structure Process Model Product Product performance System Service Channel Brand Customer Engagement
แนวคิดสาคัญ สาหรับการนารูปแบบการสร้างนวัตกรรมมาใช้ 1. อยา่ มองภาพกวา้ งเกินไป มงุ่ เนน้ ไปท่ีโครงสร้างบางสว่ นขององคก์ รเทา่ นนั้ 2. ตง้ั ระดับมาตรฐานของสงิ่ ท่ีจะเรียกว่านวตั กรรมใหส้ ูงเขา้ ไว้ วเิ คราะหอ์ ย่างละเอยี ดว่ากาลงั ทาอะไร อยู่ในโลกของความเป็นจริง ต้งั มาตรฐานให้สงู นวัตกรรมไม่จาเปน็ ต้องเปน็ สิง่ ทเ่ี กดิ ขึ้นมาใหม่อยา่ งสิ้นเชิง
10 รปู แบบของการสร้างนวตั กรรม Profit Network Structure Process Model Product Product performance System Service Channel Brand Customer Engagement
10 :รูปแบบนวัตกรรม เช่อื มโยงการทางาน Profit Network Structure Process Product Product Service Channel Brand Customer Model System performance Engagement นวัตกรรมทีย่ ่งิ ใหญน่ น้ั เกดิ จากการพัฒนาทม่ี ากกวา่ ผลติ ภัณฑ์ สรำ้ งควำมสำเรจ็ ทีย่ งั่ ยืน ผสมผสานรปู แบบนวัตกรรมเพื่อสร้างนวตั กรรมทแ่ี ขง็ แรงกวา่ กำรพฒั นำทเ่ี กดิ กำรกำรผสมผสำนหลำยรูปแบบบนนวัตกรรม
หลักการสร้างการพัฒนาการท่ยี ง่ิ ใหญ่ จับตามองจดุ เปล่ยี น: ค้นพบปัจจัยสาคัญทที่ าใหเ้ กดิ นวตั กรรม สังเกตสญั ญาณเตือนจากปจั จัยภายในและปจั จยั ภายนอก ระวงั ช่องโหว่ เปิดเผยจุดบอด วเิ คราะหน์ วัตกรรม มีวินัยในการจัดการปัญหา ทาไมมันถงึ ไม่สาเรจ็ ? มสี ่วนใดบา้ งที่สามารถใชง้ านได้บา้ ง? คร้งั หนา้ เราจะแก้ไขมันอยา่ งไร? วธิ ีที่ทาให้เกดิ ความสาเรจ็ ในอดีต มผี ลต่อวธิ กี ารในอนาคตด้วย
หลกั การสรา้ งการพัฒนาการทย่ี ง่ิ ใหญ่ เรยี นร้จู ากอดตี ทผี่ า่ นมา: คิดทบทวนโครงการพฒั นานวตั กรรมท่ผี า่ นมาเมือ่ เร็วๆน้ี แลว้ มองหา ว่ามจี ุดไหนท่ีอาจเพม่ิ เติมนวตั กรรมรูปแบบอ่นื ๆลงไปไดอ้ ีก? การพฒั นานวตั กรรมท่คี ณุ เคยทาจนประสบความสาเร็จแลว้ มีแบบ แผนการพัฒนาอย่างไร? และแผนการพฒั นานวัตกรรมที่ล้มเหลวมี หนา้ ตาเป็นอย่างไร การพฒั นานวตั กรรมรูปแบบใดบ้างทค่ี ุณมกั นามาใชใ้ นองคก์ ร? และ จะเป็นอย่างไรหากคุณจะใชร้ ูปแบบอน่ื ๆใหก้ ับองค์กรเพม่ิ เติม? การสร้างนวตั กรรมหลากหลายรปู แบบในการผลติ สนิ คา้ หรอื บริการมัก สง่ ผลใหเ้ กดิ ความสาเรจ็ มากกวา่
หลักการสร้างการพัฒนาการที่ย่งิ ใหญ่ ทา้ ทายต่อธรรมเนยี มปฏิบตั เิ ดิมๆ มักถูกครอบงาไปด้วยความเช่อื เกา่ ๆ เกีย่ วกบั การผลิตสนิ คา้ และ บริการ มวั ยุ่งอยูก่ ับพฤติกรรมเดิมๆของตนเอง แลว้ มองขา้ มความต้องการท่ี แทจ้ ริงของลูกคา้ ไป ทกั ษะสาคญั คอื ความสามารถในการคน้ พบและปรบั ปรงุ ความเชื่อ เกา่ เหล่าน้นั อย่างเป็นระบบ วเิ คราะหน์ วัตกรรม SWOT ชว่ ยใหเ้ ห็นภาพรวม แสดงศักยภาพ ขอบเขตธรุ กิจ ช่อง ทางการสรา้ งนวัตกรรม
เปลยี่ นมุมมององคก์ รของคุณ อะไรคือสิ่งทกี่ าลงั จะเปลี่ยนแปลง? ช่องวา่ งอยู่ท่ีใด? จะทา้ ทายต่อสภาพการณท์ ี่เป็นอยู่? เรยี นรู้อะไรจากคนอื่น? แลว้ ชอ่ งวา่ งของเราอยูท่ ีใ่ ด?
การเปล่ยี นแปลงที่มผี ลกระทบตอ่ การพฒั นานวัตกรรม พจิ ารณาทศิ ทางการเปลย่ี นแปลง เรยี นรู้จากผู้ท่ีมองเหน็ สญั ญาณ การเปลี่ยนแปลงดังกลา่ ว และปรับตัวตามทิศทางนนั้ การพฒั นาองค์ความรู้ การคิดค้นส่งิ ใหม่ๆ
กระบวนการ “SECI” :หลักสาคญั ในการสรา้ งองคค์ วามร้ใู นองคก์ ร หลอมรวมความรทู้ ่ีชดั แจง้ กับความรู้ท่ฝี ังลึก และยกระดบั ขน้ึ 1. การแลกเปลี่ยนเรียนรรู้ ะหวา่ งกนั (Socialization) 2. การสกดั ความรูอ้ อกจากตวั ตน (Externalization) 3. การผนวกความรู้ (Combination) 4. การผนึกความรูใ้ นตัวตน (Internalization)
กระบวนการ “SECI”
กระบวนการ “SECI”
Knowledge Management
กาหนดทิศทาง: สามแนวทางยกระดับนวตั กรรม แพลตฟอรม์ (รปู แบบ/แนวทาง) Profit Network Structure Process Product Product Service Channel Brand Customer Model System performance Engagement โมเดลธุรกจิ ประสบการณ์การใชง้ านของลูกคา้
Profit ตัวอย่างกลวิธีแห่งนวัตกรรม 1 Model Process โฆษณาสนนั สนนุ Network Structure การขายโดยวธิ ปี ระมลู การกาหนดราคารวม พันธมติ ร สรา้ งมาตรฐานอุปกรณ์ ระดมกาลังแก้ปญั หา การเปน็ ผนู้ าดา้ นตน้ ทนุ กระบวนการผลติ ท่ียดื หยุ่น การเงิน ประสานงานรว่ มกัน ตัง้ ศนู ยอ์ านวยความ ทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา กาหนดราคาแบบยืดหย่นุ กระบวนการผลติ แบบลนี การรับชาระลว่ งหนา้ เกื้อกูลกัน สะดวก ปรบั ใหเ้ ข้ากับทอ้ งถน่ิ สร้างภาวะสินค้าขาดตลาด ระบบขนสง่ ระบบพรเี ม่ียม การรวมตวั รว่ มงานกบั มหาวทิ ยาลัย การผลติ สนิ ค้าตามความ สรา้ งฐานผู้ใช้ ขายลิขสทิ ธ์ิ แขง่ ขันอย่างสรา้ งสรรค์ กระจายอานาจในองค์กร ต้องการ ระบบสมาชกิ ประมาณการลว่ งหน้า จ่ายตามจานวนการใช้งาน แฟรนไชส์ ระบบจงู ใจ ใช้ระบบอตั โนมตั ิ ยอ่ ยหน่วยสนิ คา้ ท่ีขาย ประสทิ ธภิ าพของ ควบรวม/เขา้ ซอื้ กจิ การ บรู ณาการเทคโนโลยี กระบวนการผลติ นวตั กรรมแบบเปดิ จัดการองค์ความรู้ วางมาตรฐานกระบวนการ การควบคุมแนวดงิ่ ออกแบบโครงสร้างองคก์ ร ผลติ ใช้ผ้รู บั จา้ งภายนอก
ตวั อยา่ งกลวธิ ีแห่งนวัตกรรม 2 Product Product System performance เพ่มิ ฟงั ก์ชันการใช้งาน องคป์ ระกอบที่สมบูรณ์ การอนรุ กั ษ์ ส่วนต่อขยาย/ส่วนเสริม ปรับเปล่ียนความต้องการ ง่ายตอ่ การใชง้ าน บรู ณาการสนิ ค้า ฟังกช์ ่ันนา่ สนใจ การแบ่งระบบยอ่ ย ใส่ใจส่ิงแวดล้อม ขายสินค้าเป็นชดุ รวมฟเี จอรเ์ ข้าด้วยกนั โฟกสั แพลตฟอร์มของผลิตภณั ฑ์ และบรกิ าร เรยี บง่ายอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ระบบความปลอดภยั มีสไตล์ สรา้ งผลติ ภัณฑท์ เี่ หนอื กว่า
Service ตัวอย่างกลวิธแี หง่ นวัตกรรม 3 การเพ่ิมมลู คา่ Customer Engagement Channel Brand ผู้ดูแลลกู คา้ อิสระและสิทธิพิเศษ การรบั ประกนั สัญญาเช่าหรือเงนิ กู้ บริบทเฉพาะ ขยายแบรนดส์ นิ ค้า ชมุ ชนและการเป็นส่วน โปรแกรมสร้างความภกั ดี การขายสินคา้ ต่อเน่อื ง หนึ่งของชมุ ชน ทาใหห้ ลากหลาย ยกระดับแบรนด์ ในแบรนดใ์ ห้กบั ลกู คา้ ศนู ย์สรา้ งประสบการณ์ การรวบรวมและคัดสรร การบรกิ ารสว่ นบุคคล ร้านเรอื ธง การรบั รอง การบรกิ ารตนเออง ขายตรง ประสบการณ์แสนสะดวก การบรกิ ารพิเศษ ขายสนิ คา้ ทางออ้ ม รวมแบรนดก์ ับองค์กรอื่น ประสบการณ์ท่เี หลือเชื่อ การบรกิ ารเสรมิ การตลาดเครอื ขา่ ย การจัดการประสบการณ์ ชอ่ งทางการจาหน่ายที่ ตแี บรนด์ลงบนชิ้นสว่ น ประสบการณท์ ่ีเรียบงา่ ย สินคา้ อยา่ งสมบูรณ์ ไมใ่ ช่ช่องทางเดิม ความชานาญการ ลองก่อนซ้อื ผลติ สนิ ค้าตามความ สนิ คา้ ตราห้าง เอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องการ ความโปร่งใส สถานภาพและการยอมรบั ยึดมนั่ ในหลกั การ ความแปลกใหม่และ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัว เครอื ข่ายผู้ใชง้ าน/ระบบสนบั สนนุ
จงเขา้ ใจให้ลกึ ซง้ึ ยอ้ นกลับไปคดิ วา่ อะไรคอื สิง่ ทล่ี ูกค้าตอ้ งการ อะไรคอื ส่ิงทเ่ี ข้าไม่ ชอบในสงิ่ ทเี่ ปน็ อยู่ และคดิ วา่ จะทาอยา่ งไรใหอ้ งคก์ รของคุณ สามารถเข้าไปเปลี่ยนวิถชี วี ิตของพวกเขาได้ ลงมอื กระทา ธุรกิจทุกประเภทตอ้ งอาศัยการดาเนินงานอย่างเปน็ ระบบ สงิ่ ทน่ี วตั กรรมตอ้ งก่ีคอื จินตนาการ การพฒั นา และความสามารถ ใหม่ๆที่ยั่งยืน
ส่งิ ที่ควรถาม และสง่ิ ทีค่ วรโฟกสั 1. ย้อนกลับไปคดิ ใหม่ (Rethink) 2. จนิ ตนาการเสยี ใหม่ (Reimagine) 3. เปลย่ี นกรอบเสียใหม่ (Reframe) 4. คามั่นสญั ญา (Engage) 5. ตอ่ ยอด (Extend) 6. ขยายมันออกไป (Expand)
ทามนั ต่อไป: ทกุ คนยอ่ มมีความกลวั ในส่งิ ทีไ่ มค่ ้นุ เคย และนค่ี อื การลยุ ทานวตั กรรมตอ่ ไป “มนษุ ย์คอื ผทู้ ีพ่ ยายามค้นหารปู แบบ สงิ่ มีชีวติ ซ่ึงมี เรื่องราวเลา่ ขานตอ่ ๆกนั นพ้ี ยายามท่จี ะทาความเขา้ ใจ ธรรมชาตขิ องโลกใบน”ี้ มนุษยอ์ ยรู่ อด หน้าทขี่ องคณุ ตอนนี้คือ “ต้องเปน็ ตวั เรง่ การเปล่ียนแปลงน”ี้
“ขอ้ อา้ งทคี่ นส่วนใหญ่ใชเ้ พื่อไม่พฒั นานวตั กรรม” เรามุง่ เนน้ กบั การดาเนินงานภายในองคก์ รมากเกินไป เรามองทกุ อยา่ งผ่าน องค์กรของเราไดเ้ สมอ เรารูจ้ กั ธุรกจิ นี้ดีกวา่ ใคร เรารู้วา่ ปัญหาสาคัญคืออะไร รวมถงึ คาตอบด้วย วฒั นธรรมขององคก์ รเรานยิ มหลีกเลี่ยงความเส่ียง และต่อต้านความคดิ ที่ แตกตา่ ง เราไมร่ ู้วา่ จะสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ และทาใหม้ นั คงอยู่ต่อไปอย่างไร เรา ทาได้เพยี งการวเิ คราะห์และประเมนิ ผลเทา่ น้ัน เราพบว่าการนาแนวคดิ ที่ได้มาพัฒนาจนสามารถใช้ในตลาดได้จริงๆเป็น เรอ่ื งยาก การเปลย่ี นแปลงนน้ั งา่ ยต่อบริษทั เล็กๆ หรือบริษัทเกิดใหมม่ ากกวา่
สร้างสมดุลให้อยใู่ นระดบั พอดี INNOVATION REQUIRES ความคดิ สร้างสรรค์ระเบยี บวินัย ปฏบิ ัตินยิ มความทะเยอทะยาน บรหิ ารจากบนลงลา่ งบริหารจากลา่ งข้ึนบน การวเิ คราะห์ การสังเคราะห์
การวิเคราะห์ :การแกป้ ญั หาโดยการแยกองค์ประกอบ ของปัญหานน้ั ๆออกมาทดสอบทลี ะส่วน การสงั เคราะห์: การแกป้ ญั หาโดยการสรา้ งทางเลอื ก ใหมจ่ ากการนาสิ่งตา่ งๆมาประกอบเข้าดว้ ยกัน
การคดิ แบบวเิ คราะห์ การคิดแบบสังเคราะห์ สงั เกตการเปล่ยี นแปลง สงั เกตการทางาน ความสัมพันธ์ ปรบั ปรงุ พัฒนาให้ดีขึน้
แก่นแท้ของการคิดเชงิ ระบบ (Systematic Thinking) 1. มองเห็นความสมั พันธ์กนั และกนั ไม่ใชม่ อง เหตผุ ลเปน็ เส้นตรงตอ่ ๆ กันไปเทา่ นั้น 2. มองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลง ไม่ใชม่ องสงิ่ ต่างๆทเี่ กดิ ข้ึนเท่าน้นั
Search