หลักการดูแลผู้ป่วย Simple (2566)

Contents Surgical safe check list ………………………………………......….. 1 SSI BUNDLE ………………………………………………………….. 2 Enhanced recovery after surgery: ERAS ………………………..... 3 VTE: venous thromboembolism prophylaxis ……………………… 4 Safe anesthesia ………………………………………………………. 5 Safe OR: env. Instrument, care process ………………………….. 6 Safe OR: safe surgical Instrument and device …………………… 7 HAND HYGIENE ……………………………………………………… 8 CUATI BUNDLE ………………………………………………………. 9 VAP BUNDLE …………………………………………………………. 10 CLABSI BUNDLE …………………………………………………….. 11 Isolation precaution ………………………………………………….. 12 MDRO …………………………………………………………………. 13 Safe from Adverse Drug Events (ADE) High Alert Drug (HAD) ………………………………………………. 14 Safe from preventable Adverse Drug Reaction (ADR) (Adverse Drug reaction) …………………………….………………. 15 Safe from Medication Error (Look-Alike, Sound-Alike) ………….. 16 Medication Reconciliation ……………………………………………. 17 Rational Drug-Use (RDU) ……………………………………………. 18 Safe from Medication Error (Using Medication) ………………….. 19

Contents Blood Transfusion Safety ………………………………………….. 20 Identification …………………………………………………………. 21 ISBAR ………………………………………………………………… 22 LAB วกิ ฤต ................................................................................... 23 การรบั คาสงั่ ทางโทรศพั ท์ .............................................................. 24 คายอ่ ............................................................................................ 25 Preventing Pressure ulcers ………………………………………... 26 Preventing patient falls …………………………………………….. 27 Pain management …………………………………………………... 28 Refer & transfer ……………………………………………………... 29 Catheter, tubing connection and infusion pump ………………… 30 Early Warning Score ……………………………………………….. 31 SEPSIS ………………………………………………………………. 32 ACS …………………………………………………………………… 33 Stroke Fast tract …………………………………………………….. 34 CPR …………………………………………………………………... 35 Postpartum Hemorrhage (PPH) …………………………………... 36 Safe labour at Community Hospitals …………………………….. 37 Birth Asphyxia ……………………………………………………….. 38 Effective triage ………………………………………………………. 39 DRESSING ………………………………………………………...... 40 Waste management ………………………………………………… 41

1 Surgical safe check list PSG-SPM-001 Definition เป็นเครอ่ื งมอื สาหรบั ช่วยตรวจสอบและประเมนิ ความพรอ้ ม โดยการส่อื สารในทมี ให้ เกดิ ความมนั่ ใจในความปลอดภยั แก่ผปู้ ่วยทไ่ี ดร้ บั การผ่าตดั เพอ่ื ลดข้อผดิ พลาดและ เหตุการณ์ไมพ่ งึ ประสงคจ์ ากการผ่าตดั ทป่ี ้องกนั ไดแ้ ละเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการส่อื สาร การทางานเป็นทมี เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ลดขอ้ ผดิ พลาดและเหตุการณ์ไมพ่ งึ ประสงคป่ี ้องกนั ไดจ้ าก 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น กระบวนการผา่ ตดั สง่ เสรมิ การส่อื สารการทางานเป็นทมี ท่คี านงึ ถงึ 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา critical safety steps รว่ มกนั 3. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ 1. ก่อนใหย้ าระงบั ความรสู้ กึ (sign in ) 2. ก่อนลงมดี (time out ) 3. ก่อนผปู้ ่วยออกจากหอ้ งผ่าตดั (sign out )

SSI BUNDLE 2 PSG-SPM-002 Definition คอื การตดิ เชอ้ื ทเ่ี กดิ หลงั การผ่าตดั โดยแบ่งชนดิ ของการตดิ เชอ้ื เป็น Superficial incisional ในกรณที ต่ี ดิ เชอ้ื ของผวิ หนงั และเน้อื เยอ่ื ใตผ้ วิ หนงั ของแผลผ่าตดั ภายใน 30 วนั Deep incisional การตดิ เชอ้ื ชนั้ ทล่ี กึ ลงมาถงึ พงั พดื Organ / space การตดิ เชอ้ื ในอวยั วะหรอื ชอ่ งต่างๆของรา่ งกายบรเิ วณเปิดแผลผ่าตดั ภายใน 30 หรอื 90 วนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ป้องกนั การตดิ เชอ้ื จากการผ่าตดั 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น 2. การเฝ้าระวงั การตดิ เชอ้ื โดย ICWN 3. อบุ ตั กิ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ กระบวนการ CATS2 1. Clipper blade หากจาเป็นตอ้ งโกนขนใหใ้ ช้ clipper blade โกนขนก่อนผา่ ตดั ไมเ่ กนิ 2 ชม. 2. Antibiotic prophylaxis ใหย้ า ATB ก่อนลงมดี ไมเ่ กนิ 1 ชม. ยกเวน้ vancomycin ให้ 2 ชม. 3. Temperature ควบคมุ อุณหภมู ริ า่ งกายหว่างผ่าตดั และหลงั ผ่าตดั ไมใ่ หต้ ่ากว่า 36 o C 4. Sugar control ในผปู้ ่วยเบาหวาน Blood sugar ไมเ่ กนิ 200 mg/dl 5. Skin preparation ใชน้ ้ายาทาลายเชอ้ื 2% CHG in 70 % alcohol หรอื povidone iodine with alcohol > 36 O C ภายใน ภายใน 2 ชม. 1 ชม. BS < 200 mg% 2% CHG in 70% alcohol

3 aEfntehrasnucregderreyc:oEvRerAyS PSG-SPM-003 Definition การส่งเสรมิ การฟ้ืนตวั หลงั ผ่าตดั หมายถงึ การทท่ี มี งานสหสาขานาขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ติ ่างๆ มหี ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ มาทาใหผ้ ปู้ ่วยทม่ี ารบั การผ่าตดั อยใู่ นสภาวะพรอ้ ม เพ่อื ใหไ้ ดร้ บั การดแู ลท่ีเหมาะสมทส่ี ดุ ตาม ศกั ยภาพและทรพั ยากรทม่ี อี ยู่ เรม่ิ ตงั้ แต่ก่อนผา่ ตดั ระหวา่ งผา่ ตดั และหลงั ผ่าตดั โดยใหค้ วามสาคญั ของ การมสี ่วนรว่ มของผปู้ ่วยและญาติ เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั - ลดภาวะแทรกซอ้ นหลงั ผ่าตดั 1. Post-op hospital stay - ลดระยะเวลาอยโู่ รงพยาบาล 2. การกลบั มารกั ษาตวั ใน รพ .ซ้าดว้ ยสาเหตุ - เพมิ่ คณุ ภาพชวี ติ ของผปู้ ่วยหลงั ผ่าตดั - สรา้ งการมสี ่วนรว่ มของทมี ผใู้ หก้ าร เดยี วกนั ภายใน 30 วนั รกั ษา ผปู้ ่วย และญาติ 3. การผ่าตดั ซ้าโดยไมไ่ ดว้ างแผนก่อน ภายใน 30วนั กระบวนการ 2. ระหว่างผา่ ตดั 1. ระยะก่อนผา่ ตดั 2.1) ใหย้ าป้องกนั อาเจยี น หลงั ผา่ ตดั 1.1) ใหค้ วามรแู้ ละคาแนะนาดา้ น LOS, วธิ กี ารผา่ ตดั การใชย้ าระงบั 2.2) ใหส้ ารน้าและเกลอื แร่ ความรสู้ กึ ผลกระทบ ความเสย่ี ง เทา่ ทจ่ี าเป็น การปฏบิ ตั หิ ลงั ผา่ ตดั เชน่ การหายใจ การไอ การลุกจากเตยี งโดยเรว็ 2.3) ป้องกนั hypothermia วธิ กี ารระงบั ปวดหลงั ผา่ ตดั 1.2) ประเมนิ และแกไ้ ขภาวะทพุ 3. หลงั การผา่ ตดั โภชนาการกอ่ นผา่ ตดั โดยใชเ้ คร่อื งมอื เชน่ nutrition triage เป็นตน้ 3.1) ประเมนิ และควบคมุ การปวดอยา่ งเหมาะสม 1.3) งดน้าและอาหาร 3.2) พจิ ารณาใหน้ ้าและอาหารทางปากโดยเรว็ ใหก้ ารรกั ษาอาการคล่นื ไส้ 1.4) ใหย้ าปฏชิ วี นะเพอ่ ป้องกนั อาเจยี น การตดิ เชอ้ื 3.3) กระตนุ้ และชว่ ยใหผ้ ปู้ ่วยลุกจากเตยี งโดยเรว็ 1.5) ประเมนิ ความเสย่ี งของการเกดิ 3.4) ถอดทอ่ ระบายหรอื สายสวนออกเมอ่ื ไมม่ ขี อ้ บง่ ช้ี หรอื ไมม่ คี วามจาเป็น VTE 3.5) ใหค้ าแนะนากอ่ นกลบั บา้ น เกย่ี วกบั อาการสาคญั ของภาวะแทรกซอ้ น ชอ่ งทางการตดิ ต่อสอ่ื สารเพอ่ื รบั ทราบขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ หรอื อาการสาคญั ทค่ี วรกลบั มาพบแพทยก์ อ่ นวนั นดั

VprToEp;hvyelanxoiuss thromboembolism 4 PSG-SPM-004 Definition VTE หมายถงึ ภาวการณ์เกดิ ลมิ่ เลอื ดในหลอดเลอื ดดา ซง่ึ ถา้ อยใู่ นส่วนลกึ ของขาและอยู่บรเิ วณเหนือขอ้ เขา่ ขน้ึ ไปจะมโี อกาสเกดิ การอุดกนั้ ในปอดอยา่ งเฉียบพลนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ป้องกนั การเกดิ ลมิ่ เลอื ดในหลอดเลอื ดดาของขา 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น (DVT)และภาวะลม่ิ เลอื ดอุดกนั้ ในปอด PE ใน 2. ผปู้ ่วย/ ญาติ ผปู้ ่วยศลั ยกรรม 3. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ 1. การประเมนิ ในผปู้ ่วยศลั ยกรรมทกุ ราย ตอ้ งประเมนิ ปัจจยั เสย่ี งต่อการเกดิ VTE ไดแ้ ก่ อายุ เพศ ประวตั ิ ครอบครวั เคยเป็น VTE โรคประจาตวั การไดร้ บั ฮอรโ์ มนต่อเน่อื ง การบาดเจบ็ ของหลอดเลอื ด นอนนาน เกนิ 4 วนั หลงั ผา่ ตดั ฯลฯ 2. การป้องกนั มมี าตรการในผปู้ ่วยทม่ี ปี ัจจยั เสย่ี ง ดงั น้ี foot ankle exercise ,ankle pump , early ambulation หรอื สวม IPCD (ขา้ งทผ่ี า่ ตดั ถา้ ไมม่ ขี อ้ หา้ ม) 3. Pharmacological prophylaxis ในกรณที ต่ี อ้ งใชย้ าป้องกนั VTE เชน่ aspirin , heparin หรอื ยาอ่นื ๆ จาเป็นตอ้ งประเมนิ ภาวะเลอื ดออกผดิ ปกตกิ ่อนเสมอ

5 Safe anesthesia PSG-SPM-005 Definition ความปลอดภยั ในการใหย้ าระงบั ความรสู้ กึ แก่ผปู้ ่วย หมายถงึ การมอี ตั ราการเสยี ชวี ติ และภาวะแทรกซอ้ นท่ี อาจเกย่ี วขอ้ งกบั การใหย้ าระงบั ความรสู้ กึ ในอตั ราต่าและหลกี เลย่ี งภาวะแทรกซอ้ นทอ่ี าจป้องกนั ได้ เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั การระงบั ความรสู้ กึ โดยบุคลากรทม่ี คี วามรคู้ วามสามารถท่ี 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น เหมาะสม มกี ระบวนการการใหย้ าระงบั ความรสู้ กึ ตามมาตรฐานวชิ าชพี ด้วย 2. อุบตั กิ ารณ์ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ทางการแพทยท์ เ่ี หมาพสม เพอ่ื ใหไ้ ดร้ บั การผา่ ตดั โดย ปลอดภยั ลดอตั ราเสยี ชวี ติ และภาวะแทรกซอ้ น กระบวนการ 1. บุคลากรทส่ี ามารถใหก้ ารระงบั ความรสู้ กึ ไดแ้ ก่ ;วสิ ญั ญแี พทย์ วสิ ญั ญพี ยาบาล (เฉพาะ GA) 2. กระบวนการทางาน 2.1) ก่อนทาการระงบั ความรสู้ กึ ; pre-anesthetic evaluation , ASA physical status ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั วธิ กี ารระงบั ความรสู้ กึ และภาวะแทรกซอ้ นทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ได้ บนั ทกึ ในเวชระเบยี น ,anesthetic consent form ตรวจสอบความพรอ้ มของอุปกรณ์ เครอ่ื งมอื และยาทจ่ี าเป็น 2.2) ระหวา่ งการระงบั ความรสู้ กึ ตอ้ งมกี ารเฝ้าระวงั และบนั ทกึ ทเ่ี หมาะสม ประเมนิ ผปู้ ่วยก่อนการเคลอ่ื นยา้ ย 2.3) หลงั การระงบั ความรสู้ กึ ในหอ้ งพกั ฟ้ืน (post – anesthetic care ) จาเป็นตอ้ งมบี ุคลากรทม่ี คี วามรู้ ความสามารถในการดแู ล มกี ารเฝ้าระวงั และบนั ทกึ ทเ่ี หมาะสม มเี ครอ่ื งมอื ทจ่ี าเป็นในระหว่างการ เคล่อื นยา้ ย เฝ้าระวงั ใชเ้ วลาทไ่ี มต่ ่ากวา่ 1 ชม. ก่อนการสง่ ต่อผปู้ ่วย ควรมี post-anesthesia recovery scoring system ท่ี score ถงึ เกณฑก์ ่อนสง่ ต่อ มขี อ้ มลู ทส่ี าคญั เพ่อื สามารถดแู ลไดอ้ ย่างต่อเน่อื ง

cSaarfee pOrRoc:eesnsv. Instrument, 6 PSG-SPM-006 Definition สงิ่ แวดลอ้ มในหอ้ งผา่ ตดั ทเ่ี ป็นผลจากนโยบายและการปฏบิ ตั ทิ ท่ี าใหม้ นั่ ใจว่ามคี วามปลอดภยั ไมเ่ กดิ อนั ตราย ต่อผปู้ ่วยและเจา้ หน้าท่ี เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ผปู้ ่วยและเจา้ หน้าทป่ี ลอดภยั จากสง่ิ แวดลอ้ มใน 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น หอ้ งผ่าตดั ทงั้ ดา้ นกายภาพ เคมแี ละชวี ภาพ 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 3. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ 1.ระบบโครงสรา้ งในหอ้ งผ่าตดั 1.1 แบง่ เขต สะอาด กง่ึ สะอาด เขตปนเป้ือน 1.2 ระบบระบายอากาศ มี การระบายอากาศ 20 ACH 1.3 ระบบไฟฟ้ามี ground มรี ะบบไฟฟ้าสารองฉุกเฉิน พรอ้ มใช้ 1.4 มรี ะบบ pipeline 1.5 อุณหภมู หิ อ้ งท่ี 22-24 o C ความชน้ื สมั พทั ธ์ 50-60 % 1.6 มเี ครอ่ื งดบั เพลงิ ในตาแหน่งทเ่ี หมาะสม 1.7 เตยี งและโคมไฟผ่าตดั ตามมาตรฐาน 1.8 มรี ะบบการตรวจสอบและบารงุ รกั ษาเครอ่ื งมอื อุปกรณ์อย่าง สม่าเสมอ 1.9 ทาความสะอาดพน้ื ผวิ ในหอ้ งผ่าตดั ก่อน ระหว่าง และหลงั ผา่ ตดั ตามมาตรฐาน 1.10 การใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้า เชน่ เครอ่ื งจไ้ี ฟฟ้า ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื ของผผู้ ลติ 1.11 จากดั บคุ ลากรเขา้ ออกในหอ้ งผ่าตดั ขณะผ่าตดั

7 SInasfteruOmRe:nst aafnedsDuergviiccael PSG-SPM-007 Definition การปฏบิ ตั เิ พ่อื ใหเ้ ครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ทางการแพทยป์ ลอดภยั ต่อการนาไปใชก้ บั ผปู้ ่ วย ไดแ้ ก่ เครอ่ื งมอื ใน การผา่ ตดั อุปกรณ์ทส่ี อดใสเ่ ขา้ ไปในรา่ งกาย เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั มรี ะบบการดแู ลเครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ทางการ 1. ขอ้ มลู การบารงุ รกั ษาประจาปี แพทยท์ ุกชนิดใหใ้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งปลอดภยั รวมทงั้ 2. IR กรณที เ่ี กดิ เหตุการณ์ไมพ่ งึ ประสงค์ ไดร้ บั การทาลายเชอ้ื หรอื ทาใหป้ ราศจากเช้อื ดว้ ย 3. ผลการตดิ ตามประสทิ ธภิ าพ การทาความสะอาด กระบวนการทถ่ี ูกตอ้ งตามมาตรฐาน และ sterile กระบวนการ 1.การใชอ้ ุปกรณ์ทท่ี ส่ี ง่ พลงั งาน เพ่อื การผา่ ตดั ทุกชนิด Internal comply การตรวจสอบหบี ห่อ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื คาแนะนาของผผู้ ลติ กอ่ นใชง้ าน 2. การใชอ้ ุปกรณ์ทใ่ี ชร้ งั สี บุคลากรมอี ุปกรณ์ป้องกนั รงั สี Before processing ระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษกบั ผทู้ ต่ี งั้ ครรภ์ Spaulding classification 3. การใชเ้ ครอ่ื งจไ้ี ฟฟ้า ตอ้ งใชด้ ว้ ยความระมดั ระวงั บนั ทกึ After processing ขอ้ มลู ทุกครงั้ ทใ่ี ชง้ าน 4. เลอื กวธิ กี ารทาลายเชอ้ื หรอื ทา sterile ตามหลกั Spaulding การจดั เรยี งและ classification ลาดบั นาไปใช้ 5. ใหค้ วามรบู้ คุ ลากร ในการขจดั สง่ิ ปนเป้ือนบนเคร่อื งมอื ณ จดุ ใชง้ านและบรรจเุ ครอ่ื งมอื อุปกรณ์ผา่ ตดั ทใ่ี ชแ้ ลว้ ใน งาน ภาชนะทม่ี ดิ ชดิ 6. บนั ทกึ และจดั เกบ็ ขอ้ มลู อยา่ งเป็นระบบ เพอ่ื ทวนสอบได้ 7. ตรวจสอบสภาพหบี หอ่ เคร่อื งมอื รวมทงั้ ตวั ชว้ี ดั ทางเคมี ภายนอกและภายใน ก่อนนาเครอ่ื งมอื ผา่ ตดั ไปใช้ รวมทงั้ การจดั เกบ็ โดยใชห้ ลกั FIFO

8 HAND HYGIENE PSG-SPM-008 Definition การปฏบิ ตั เิ พ่อื ลดจานวนเชอ้ื จลุ ชพี ทอ่ี ย่บู นมอื โดยการถูมอื ดว้ ยแอลกอฮอล์ หรอื ลา้ งมอื ดว้ ยสบหู่ รอื สบ่ผู สม น้ายาทาลายเชอ้ื (WHO) เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั บุคลากรทาความสะอาดมอื อยา่ งถูกตอ้ งและเป็นนิสยั 1. แบบสงั เกตการลา้ งมอื ในเจา้ หน้าท่ี เมอ่ื ทาการตรวจหรอื รกั ษาพยาบาลผปู้ ่วย 2. การเฝ้าระวงั การตดิ เชอ้ื โดย ICWN กระบวนการ ฟอกฝ่ามอื และงา่ มน้ิวมอื ฟอกฝ่ามอื และงา่ มน้ิวมอื ฟอกน้วิ และขอ้ น้ิว ดา้ นหน้า ดา้ นหลงั มอื ดา้ นหลงั ฟอกน้ิวหวั แมม่ อื ฟอกปลายน้วิ มอื ฟอกรอบขอ้ มอื ทงั้ ทงั้ 2 ขา้ ง ทงั้ 2 ขา้ ง 2 ขา้ ง ลา้ งมอื ครบทกุ ขนั้ ตอน ขนั้ ตอนละ 5 ครงั้ สลบั กนั ทงั้ 2 ขา้ ง นานอยา่ งน้อย 15-20 วนิ าที

9 CAUTI BUNDLE PSG-SPM-009 Definition CAUTI (catheter associated urinary tract infection ) การตดิ เชอ้ื ทร่ี ะบบทางเดนิ ปัสสาวะในผปู้ ่วยท่มี กี าร คาสายสวนปัสสาวะมาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า 2 วนั โดยในวนั ทเ่ี รมิ่ มอี าการหรอื การตรวจพบทน่ี าไปสู่การวนิ ิจฉยั การตดิ เชอ้ื ผปู้ ่วยยงั คงคาสายสวนอยหู่ รอื ถอดสายสวนออกไปแลว้ ไมเ่ กนิ 1 วนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ป้องกนั การตดิ เชอ้ื จากการคาสายสวนปัสสาวะ 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น 2. การประเมนิ การปฏบิ ตั ติ ามแนวทางท่ี กาหนดโดย ICWN 3. อุบตั กิ ารณ์การเกดิ CAUTI กระบวนการ HARM 1. Hand hygiene ลา้ งมอื ก่อนและหลงั ครบ 6 ขนั้ ตอน 5 ขณะ 2. Avoid unnecessary urinary catheters ขอ้ บง่ ชข้ี องการคาสายสวนปัสสาวะ; มกี ารอุดตนั ของระบบทางเดนิ ปัสสาวะ, I/O, ผ่าตดั บรเิ วณบรเิ วณสว่ นลา่ ง,ผปู้ ่วยถกู จากดั การเคลอ่ื นไหว , มแี ผลบรเิ วณกน้ และ อวยั วะสบื พนั ธุ์ , ผปู้ ่วยระยะสดุ ทา้ ย 3. Review urinary catheters necessity daily สอบถามความจาเป็นการคาสายสวนปัสสาวะ ถอดสายสวน 4. Maintain urinary catheters based on recommended - ลา้ งมอื และสวมถุงมอื ก่อนสมั ผสั สายและเทปัสสาวะ เชด็ บรเิ วณรเู ปิดดว้ ย 70% alcohol - วางถุงปัสสาวะต่ากว่าระดบั กระเพาะปัสสาวะ วางสงู กวา่ พน้ื 6 น้วิ - ดแู ลสายสวนปัสสาวะและถุงรองรบั ใหอ้ ยใู่ นระบบปิด - ยดึ ตรงึ ตาปหน่งบรเิ วณหน้าขาดา้ นในหรอื บรเิ วณทอ้ งน้อยเปลย่ี นตาแหน่งวนั ละ 2 ครงั้ - เกบ็ ตวั อยา่ งปัสสาวะโดยใชเ้ ทคนคิ ปลอดเชอ้ื - ทาความสะอาดบรเิ วณอวยั วะสบื พนั ธดุ์ ว้ ยน้าและสบู่ ซบั ใหแ้ หง้ วนั ละ 2 ครงั้ เชา้ เยน็ และหลงั ขบั ถ่าย

10 VAP BUNDLE PSG-SPM-010 Definition VAP (Ventilator associated pneumonia ) ภาวะปอดอกั เสบจากการตดิ เชอ้ื ในผปู้ ่วยทม่ี กี ารใชเ้ ครอ่ื งช่วย หายใจมาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า 2 วนั โดยในวนั ทเ่ี รมิ่ มอี าการหรอื การตรวจพบทน่ี าไปสกู่ ารวนิ ิจฉัยภาวะน้ี ผปู้ ่วย ยงั คงใชเ้ ครอ่ื งช่วยหายใจอยหู่ รอื ยตุ กิ ารใชไ้ ปแลว้ ไมเ่ กนิ 1 วนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ป้องกนั การเกดิ ปอดอกั เสบทส่ี มั พนั ธ์กบั การ 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น ใชเ้ ครอ่ื งช่วยหายใจ 2. การเฝ้าระวงั การตดิ เชอ้ื โดย ICWN 3. อุบตั กิ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ กระบวนการ WHAPO 1. Wean ประเมนิ ความพรอ้ มในการถอดท่อชว่ ยหายใจของผปู้ ่วยทกุ วนั 2. Hand hygiene ลา้ งมอื ก่อนและหลงั suction ครบ 6 ขนั้ ตอน 3. Aspiration precaution - ยกหวั เตยี งสงู 30-45 O - วดั cuff pressure ทกุ เวร ใหอ้ ยใู่ นชว่ ง 20-30 cm H2O 4. Prevent contamination - เปลย่ี น ven.circuit ทกุ 5 วนั หรอื เมอ่ื เป้ือน - เทน้าใน circuit ทง้ิ โดยลา้ งมอื ก่อนและหลงั เทน้าทกุ ครงั้ - ดดู เสมหะเท่าทจ่ี าเป็น พจิ ารณาใช้ closed suction 5. Oral care แปรงฟันทุก 12 ชม. เคลอื บดว้ ย 0.12 % CHG mouth wash (ไมใ่ ชใ้ นเดก็ อายุ < 2 เดอื น )

11 CLABSI BUNDLE PSG-SPM-011 Definition CLABSI (central line associated bloodstream infection ) การตดิ เชอ้ื ในเลอื ดทไ่ี ดร้ บั การยนื ยนั จาก Lab.ใน ผปู้ ่วยทม่ี กี ารใชส้ ายสวนหลอดเลอื ดดาสว่ นกลางหรอื สายสวนหลอดเลอื ดทส่ี ะดอื (NB) มาแลว้ เป็นเวลาอยา่ ง น้อย 2 วนั โดยในวนั ทเ่ี รมิ่ มอี าการหรอื การตรวจพบทน่ี าไปส่กู ารวนิ ิจฉยั การตดิ เชอ้ื ผู้ป่วยยงั คงคาสายสวนอยู่ หรอื ยตุ กิ ารใชไ้ ปแลว้ ไมเ่ กนิ 1 วนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ป้องกนั การตดิ เชอ้ื จากการคาสายสวนปัสสาวะ 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น 2. การเฝ้าระวงั การตดิ เชอ้ื โดย ICWN 3. อุบตั กิ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ กระบวนการ HaMCOC 1. Hand hygiene ลา้ งมอื ก่อนและหลงั ครบ 6 ขนั้ ตอน 5 ขณะ 2. Maximum barrier precaution - แพทยส์ วมเครอ่ื งป้องกนั ก่อนใส่สายสวน ; gown ,cap , sterile glove , mask - พยาบาล สวม sterile glove , mask - คลุมผา้ ปลอดเชอ้ื บนตวั ผปู้ ่วยตงั้ แต่ศรี ษะจรดเทา้ เปิดเฉพาะบรเิ วณสว่ นทท่ี าหตั ถการ 3. Chlorhexidine skin antiseptic ทาความสะอาดผวิ หนงั โดยใช้ 2% CHG in 70% alcohol เชด็ ผวิ หนงั รอใหแ้ หง้ ก่อนแทง เดก็ อายุ < 2 เดอื น ใหใ้ ช้ povidone iodine แทน 4. Optimal catheter site selection เลอื กตาแหน่งใส่สายสวนทเ่ี หมาะสม พจิ ารณา rt. internal jugular vein และ subclavian vein ก่อน หลกี เลย่ี ง femoral vein 5. Care review of line necessity - การดแู ลสายสวนหลอดเลอื ด ประเมนิ ความจาเป็นของสายสวนทุกวนั - ลา้ งแผลทกุ 2 วนั ถา้ ปิดดว้ ย sterile tegaderm ลา้ งแผลไดท้ ุก 7 วนั - เปลย่ี นสายและตาแหน่งทนั ทที พ่ี บการตดิ เชอ้ื - หลกี เลย่ี งการดดู เลอื ดส่งตรวจหรอื เปิดรอยต่อ โดยไมจ่ าเป็น - ใชห้ ลกั aseptic technique

12 Isolation precaution PSG-SPM-012 Definition การปฏบิ ตั เิ พ่อื ป้องกนั หรอื ยบั ยงั้ การแพรก่ ระจายของเชอ้ื ก่อโรคจากผเู้ ป็นพาหะของโรค ผปู้ ่วย ดว้ ยโรคตดิ เชอ้ื ผมู้ อี าการตดิ เชอ้ื มาสผู่ ปู้ ่วย ญาติ และบุคลากร ในสถานพยาบาล เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ป้องกนั การแพรก่ ระจายเชอ้ื ก่อโรคใน Medical record โรงพยาบาล กระบวนการ กระบวนการ ล้างมอื ครบทกุ ขนั้ ตอน ขนั้ ตอนละ 5ครงั้ สลบั กนั ทงั้ 2 ขา้ ง นานอยา่ งน้อย 15-20 วินาที

13 MDRO PSG-SPM-013 Definition เชอ้ื ดอ้ื ยาหลายขนาน multidrug-resistant organisms(MDRO)คอื เชอ้ื ทด่ี อ้ื ต่อยาตา้ นแบคทเี รยี อยา่ งน้อย 3 กลุม่ ท่ี นามาทดสอบ เชอ้ื ดอ้ื ยาอยา่ งกวา้ งขวาง(extensively drug-resistant) คอื เชอ้ื ทด่ี อ้ื ต่อยาตา้ นแบคทเี รยี หลายขนาน มากจนเหลอื ยาทย่ี งั มฤี ทธติ ์ ่อเชอ้ื นนั้ ไมเ่ กนิ 2 ชนดิ เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั บุคลากรทาการแยกผปู้ ่วยตดิ เชอ้ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 1. แบบสงั เกตการลา้ งมอื ในเจา้ หน้าท่ี 2. การเฝ้าระวงั การตดิ เชอ้ื ICWN ล้างมือครบทกุ ขนั้ ตอน ขนั้ ตอนละ 5ครงั้ สลบั กนั ทงั้ 2 ข้าง นานอย่างน้อย 15-20 วินาที

HSaigfeh fArolemrtADdruvger(sHeADDr)ug Events (ADE) 14 PSG-SPM-014 Definition High Alert Drugs คอื ยาทต่ี อ้ งระมดั ระวงั สงู เพราะอาจกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแก่ผปู้ ่วย อยา่ งมนี ยั สาคญั เป็นยาทม่ี ดี ชั นีการรกั ษา แคบ หรอื มกี ารออกฤทธทิ์ อ่ี นั ตราย เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั 1. ลดความคลาดเคลอ่ื นของยาความเสย่ี งสงู 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น ทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายรุนแรง หากถงึ ตวั ผปู้ ่ วย 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 3. ผปู้ ่วย / ญาติ 2. ลดเหตุการณ์ไมพ่ งึ ประสงค์ จากการใชย้ ากล่มุ 4. อุบตั กิ ารณ์ ความเสย่ี งสงู กระบวนการ HAD 1. ตรวจสอบ ช่อื -สกลุ ผปู้ ่วย ชอ่ื ยา ขนาดยา รปู แบบยาใหถ้ ูกตอ้ งกอ่ นใหย้ าผปู้ ่วย 2. การเตรยี มยาใหป้ ฏบิ ตั ติ ามทร่ี ะบใุ นค่มู อื การบรหิ ารจดั การยาทม่ี คี วามเสย่ี งสงู ใหพ้ ยาบาลทวนสอบใหถ้ กู ตอ้ ง 3. มกี าร Double check ทกุ ขนั้ ตอน 4. บรหิ ารยาตามมาตรฐานของยา HAD ทก่ี าหนด เชน่ การ Titrate ยาตามน้าหนกั ผปู้ ่วย เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลตามทแ่ี พทยต์ อ้ งการ โดยใช้ infusion pump 5. ปัม๊ อกั ษร HAD สแี ดงบรเิ วณทแ่ี พทยส์ งั่ ยา ก่นทาการ scan order ใหเ้ ภสชั กร แนวทางการเฝ้าระวงั ผลการใช้ยาท่ีมีความเสี่ยงสงู 1. นาใบสตก๊ิ เกอร์ HAD จากหอ้ งยาตดิ ทใ่ี บ MAR ของพยาบาล 2. เฝ้าระวงั อาการผปู้ ่วยตามแบบตดิ ตามและลงบนั ทกึ ผลการใชย้ า กรณี drip ยาใหแ้ ขวนป้ายเตอื นทน่ี ้าเกลอื เพอ่ื ใหญ้ าตแิ ละคนไขต้ ดิ ตามอาการขา้ งเคยี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ 3. พยาบาลแจง้ แพทยเ์ จา้ และรายงานเภสชั กรศนู ย์ ADR HAD มี 21 รายการ 1.) Adrenaline inj. 2.) Calcium gluconate inj. 3.) Choral hydrate 4.) Digoxin tab/inj. 5.) Dobutamine inj. 6.) Cordarone inj. 7.) Nitroglycerine inj. 8.) Norepinephrine(Levophed) 9.) Dopamine inj. 10.) Enoxaparin sodium inj.(Clexane) 11.) Insulin(กรณีใหท้ างIV) 12.) 50% glucose และ 10% Magnesium sulfate inj. 13.) Morphine tab/inj. 14.) Pethidine inj. 15.) Potassium chloride inj. 16.) Streptokinase inj. 17.) Wafarin sodium tab. 18.) 3% sodium chloride 19.) Heparin sodium inj. 20.) Fentanyl inj. 21.) Actilyte

15 S(DAardufevgefRrroseemacDptrirouengve(RAneDtaaRcbt)lieoAn)dverse PSG-SPM-015 Definition Adverse Drug Reaction (ADR) คอื การตอบสนองของรา่ งกายต่อยาทไ่ี ดร้ บั ในขนาดยาปกติ เกดิ เป็นอนั ตรายข้นึ โดย ไมต่ งั้ ใจและไมไ่ ดเ้ กดิ จากความคลาดเคล่อื นทางยามคี วามหมายรวมถงึ การแพย้ าและการเกดิ ผลขา้ งเคยี งจากยา Side effect คอื ผลขา้ งเคยี งซง่ึ เป็นผลของยาทท่ี ราบกนั อยแู่ ลว้ และเป็นฤทธทิ ์ างเภสชั วทิ ยาของยานนั้ แต่ไมไ่ ด้ ตงั้ ใจทาใหเ้ กดิ ขน้ึ Drug Allergy คอื อาการแพย้ าทไ่ี มพ่ งึ ประสงคท์ เ่ี กดิ จากปฏกิ ริ ยิ าทางภมู คิ ุม้ กนั ของรา่ งกายต่อทไ่ี ดร้ บั แพ้ยาซา้ คอื เหตุการณ์ทผ่ี ปู้ ่วยแพย้ าซง่ึ เป็นยาตวั เดยี วกบั ทเ่ี คยมปี ระวตั แิ พโ้ ดยมอี าการแสดงทเ่ี หมอื นกนั แพ้ยากล่มุ เดียวกนั คอื เหตุการณ์ทผ่ี ปู้ ่วยเกดิ อาการแพย้ าจากยาทม่ี โี ครงสรา้ งคลา้ ยกบั ยาทม่ี ปี ระวตั แิ พโ้ ดยมี อาการเหมอื นกนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ผปู้ ่วยปลอดภยั จากการแพย้ าซ้า แพย้ ากลมุ่ เดยี วกนั 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น 3. ผปู้ ่วย/ญาติ 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 4. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ กระบวนการ 1.ผปู้ ่ วยนอก พยาบาลซกั ประวตั ิ 1. ผปู้ ่ วย Admit เกิด ADR 1.1) มปี ระวตั แิ พย้ า แจง้ เภสชั กรเพ่อื บนั ทกึ ประวตั ิ ADR ในระบบคอมฯ - พยาบาลรายงานแพทย์ และใหบ้ ตั ร ADR (ถา้ ไมม่ )ี - แจเ้ ภสชั กร ทศ่ี นู ย์ ADR 1.2) แพย้ า (Active) - เภสชั กรขน้ึ ไปประเมนิ บนั ทกึ ประวตั ิ - แจง้ เภสชั กรเพ่อื ประเมนิ แพย้ า - แจง้ เภสชั กรเพอ่ื บนั ทกึ ประวตั ิ ADR ในระบบคอมฯ ในระบบคอมฯ และ Print หน้าปก OPD และ ใหบ้ ตั ร ADR card ใหม่ ส่งใหพ้ ยาบาลบน ward เปลย่ี น - พยาบาลเขยี นช่อื ยาทผ่ี ปู้ ่วยแพ้ 2. ส่งพบแพทย์ ใน Doctor order sheet 2.1) กลบั บา้ น - ปัม๊ ADR สแี ดงและเขยี นช่อื ยาทแ่ี พด้ ว้ ย 2.2) Admit ปากกาสแี ดง ในใบ MAR ทุกใบ พยาบาลแจง้ ทา Admit และออกหน้าปก OPD card ใหม่

16 (SLaofoekf-rAomlikeM,eSdoicuantdio-AnlEikrero) r PSG-SPM-016 Definition ความคลาดเคลื่อนทางยา (Medication Error) คอื เหตุการณ์ใดๆ ทอ่ี าจเป็นสาเหตุหรอื นาไปส่กู ารใช้ยาทไ่ี ม่ เหมาะสมหรอื เป็นอนั ตรายแก่ผปู้ ่วยทส่ี ามารถป้องกนั ได้ ขณะทย่ี านนั้ อยใู่ นความควบคุมดูแลของบคุ ลากรหรอื ผรู้ บั บรกิ าร Look-Alike , Sound-Alike Medication names หมายถงึ ช่อื ยาทส่ี ะกดคลา้ ยกนั หรอื อ่านออกเสยี งแลว้ ฟัง คลา้ ยกนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั เพ่อื ป้องกนั ความคลาดเคลอ่ื นทางยาในกลุ่มยา 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น 3. เภสชั /ผปู้ ่วย/ญาติ ทม่ี ชี อ่ื ยาเขยี นคลา้ ยกนั หรอื ออกเสยี งคลา้ ยกนั 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 4. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ 1. ทบทวนรายช่อื ยาทช่ี อ่ื พอ้ งมองคลา้ ยเป็นประจาทุกปี 2. มเี กณฑย์ าชอ่ื พอ้ งมองคลา้ ย ในการพจิ ารณายาเขา้ ใหม่ 3. ไมใ่ หม้ กี ารสงั่ ยาดว้ ยวาจา ยกเวน้ กรณฉี ุกเฉนิ และผรู้ บั คาสงั่ ตอ้ งจดลงทนั ที และอ่านทวนตวั สะกด ใหผ้ สู้ งั่ ฟังทกุ ครงั้ 4. ใหม้ กี ารอ่านชอ่ื ยาดว้ ยความระมดั ระวงั หรอื มกี ารอ่านซา้ และพจิ ารณาบรรจภุ ณั ฑ์ เม่อื หยบิ ยา และก่อนใหย้ า 5. ตรวจสอบขอ้ บง่ ใชข้ องยาใหส้ อดคลอ้ งกบั การวนิ ิจฉยั และอาการของผปู้ ่วย 6. ช่อื ยาทส่ี ะกดคลา้ ยกนั ควรทาใหเ้ หน็ ความแตกต่างชดั เจน เช่น ใชอ้ กั ษรสงู ต่า ป้ายเตือนระบขุ อ้ ความ LASA จดั เกบ็ โดยไมเ่ รยี งอกั ษร

17 Medication Reconciliation PSG-SPM-017 Definition Medication Reconciliation คอื กระบวนการเพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู รายการยาทผ่ี ปู้ ่วยใชอ้ ยทู่ งั้ หมดในทุกรอยต่อ ทม่ี กี ารส่งต่อผปู้ ่วยไปรบั บรกิ าร เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั - เพอ่ื สรา้ งระบบการประสานรายการยา (Medication 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น Reconciliation) ในงานบรกิ ารผปู้ ่วยใน 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา - เพอ่ื การบรหิ ารยาทผ่ี ปู้ ่วยนาตดิ ตวั มาจากบ้านไดอ้ ยา่ ง 3. ผปู้ ่วย / ญาติ ปลอดภยั และมปี ระสทิ ธภิ าพ 4. อุบตั กิ ารณ์ - เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั ยาทส่ี มควรไดร้ บั อยา่ งต่อเน่ือง เหมาะสม ปลอดภยั กระบวนการ 1. พยาบาล : ซกั ประวตั ผิ ปู้ ่วย สอบถามขอ้ มลู ยาเดมิ ของผปู้ ่วยทม่ี โี รคประจาตวั มยี ารบั ประทานมากกว่า 5 ชนิด ผปู้ ่วยทม่ี แี พทยร์ ว่ มรกั ษาหลายคน วธิ กี ารรบั ประทานยา รวมทงั้ ยามอ้ื สดุ ท้ายทร่ี บั ประทาน บนั ทกึ ขอ้ มลู ลงใน Medication Reconciliation พยาบาลเซน็ ชอ่ื กากบั 2. ใหแ้ พทยพ์ จิ ารณายา สอบถามประวตั ยิ าเดมิ ผปู้ ่วย เปรยี บเทยี บยาเดมิ กบั คาสงั่ และแนวทางการรกั ษา เมอ่ื แรกรบั และตอ้ งยนื ยนั ใหใ้ ชย้ าต่อ หรอื หยดุ ยา หรอื ปรบั เปลย่ี นวธิ กี ารใชย้ า แพทย์เซน็ ช่อื กากบั 3. นาใบ Medication Reconciliation พรอ้ มยาเดมิ ผปู้ ่วย ส่งใหห้ อ้ งยา IPD เภสชั กรตรวจสอบ เภสชั กร เซน็ ช่อื กากบั 4. นาใบ Medication Reconciliation Scan เขา้ ระบบคอมฯ

18 Rational Drug-Use (RDU) PSG-SPM-018 Definition การใชย้ าอยา่ งสมเหตุผล หมายถงึ การใชย้ าโดยมขี อ้ บง่ ช้ี เป็นยาทม่ี คี ณุ ภาพมปี ระสทิ ธผิ ลจรงิ สนบั สนุนดว้ ย หลกั ฐานทเ่ี ชอ่ื ถอื ไดใ้ หป้ ระโยชน์ทางคลนิ กิ เหนือกว่าความเสย่ี งจากการใชย้ าอย่างชดั เจน ไมเ่ ป็นการใชย้ าอยา่ ง ซ้าซอ้ น คานงึ ถงึ ปัญหาเชอ้ื ดอ้ื ยา ใชย้ าในขนาดทพ่ี อเหมาะกบั ผปู้ ่วยในแต่ละกรณี เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั การใชย้ าอยา่ งสมเหตุผล ( Rational Drug-Use) เป็นวฒั นธรรมองคก์ รท่ี มงุ่ สกู่ ารใชย้ าอยา่ งปลอดภยั เกดิ ประโยชน์จรงิ ต่อผปู้ ่วย ด้วยคา่ ใชจ้ า่ ยท่ี ต่าทส่ี ุดต่อบุคคลและสงั คม กระบวนการ 1. มี คกก.PTC เพ่อื บรหิ ารจดั การใหม้ รี ายการ ยาเทา่ ทจ่ี าเป็น สอดคลอ้ งกบั ปัญหาการ เจบ็ ป่วยและไมม่ รี ายการยาซ้าซอ้ น (ตามท่ี ประกาศของ รพ) 2. คดั เลอื กยาทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ตามมาตรฐาน ทก่ี าหนด 3. ตรวจตดิ ตามการใชย้ าทไ่ี มส่ มเหตุผล 4. จดั ทาระบบทช่ี ว่ ยส่งเสรมิ การใชย้ าอย่าง ปลอดภยั เช่น การแสดงคา่ eGFR ภาวการณ์ตงั้ ครรภ์ การใหน้ มบบุตร การแพ้ ยา การแจง้ เตอื นปัญหาการใชย้ า ยาทห่ี า้ มใช้ หรอื ควรปรบั ขนาดยา การใชย้ าซา้ ซอ้ น เกนิ ขนาด ค่า INR หรอื การตรวจพบ ESBL หรอื MDR bacteriaใหป้ รากฏชดั เจนบน OPD card /หน้าจอ computer ทใ่ี ชง้ าน 5. เพม่ิ การใหข้ อ้ มลู การใชย้ า เชน่ ปรบั ปรงุ ฉลากยา จดั ทาฉลากยาเสรมิ ฯลฯ 6. ฝึกอบรมและใหค้ วามรตู้ ่อการใชย้ าอยา่ ง สมเหตุผล

19 (SUasfeinfgroMmedMiceadtiicoant)ion Error PSG-SPM-019 Definition ผปู้ ่วยไดร้ บั ความปลอดภยั ในกระบวนการใชย้ าของสถานพยาบาล เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั เพ่อื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ในการใชย้ าในทกุ ขนั้ ตอน 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น 2. ผปู้ ่วย / ญาติ ไดแ้ ก่ การสงั่ ยา การจดั จา่ ยยา การใหย้ า และการ 3. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 4. อุบตั กิ ารณ์ ตดิ ตามผลการใชย้ า กระบวนการ 1. แพทยส์ งั่ ยาโดยมขี อ้ มลู ยาและขอ้ มลู ผปู้ ่วยครบถว้ น มรี ะบบสารสนเทศเพ่อื ชว่ ยแพทยใ์ นการตดั สนิ ใจสงั่ การ รกั ษา มรี ะบบช่วยตรวจสอบเมอ่ื เกดิ การสงั่ ทผ่ี ดิ พลาด คลาดเคล่อื น 2. เภสชั กรตรวจสอบยาทจ่ี ดั จา่ ยยากบั คาสงั่ ทไ่ี ดร้ บั โดยตรงจากแพทย์ ไมผ่ ่านการคดั ลอก 3. พยาบาลผใู้ หย้ า สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ชุดเดยี วกนั กบั แพทยแ์ ละเภสชั กรใช้ มกี ารตรวจสอบขา้ มระหว่าง วชิ าชพี ก่อนใหย้ าแก่ผปู้ ่วย 4. ฉลากยามขี อ้ มลู ครบถว้ นใหต้ รวจสอบได้ ไดแ้ ก่ ชอ่ื นามสกุลผปู้ ่วย HN ช่อื การคา้ และช่อื สามญั ขนาดยา ความเขม้ ขน้ ปรมิ าณ วธิ ใี ช้ คาเตอื น 5. ตอ้ งมกี ารบนั ทกึ การบรหิ ารยาทกุ รายการ ลงใน Medication Administration Record 6. กาหนดวา่ จะตอ้ งตดิ ตามผลหลงั ใหย้ าแลว้ เพ่อื เฝ้าระวงั ผลขา้ งเคยี งหรอื จากคความคลาดเคล่อื นทางยา

20 Blood Transfusion Safety PSG-SPM-020 Definition การใหเ้ ลอื ดเป็นวธิ รี กั ษาทางการแพทยส์ าหรบั ผปู้ ่วยทส่ี ญู เสยี เลอื ดหรอื มปี รมิ าณเลอื ดไมเ่ พยี งพอต่อความ ตอ้ งการของรา่ งกาย ซง่ึ เป็นภาวะอนั ตรายทต่ี อ้ งไดเ้ ลอื ดทดแทน เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ลดความเสย่ี ง และเพม่ิ ความปลอดภยั ในการรกั ษา 1. ขอ้ มลู ทางเวชระเบยี น 2. ขอ้ มลู จากหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ผปู้ ่วยทจ่ี าเป็นตอ้ งไดร้ บั โลหติ และสว่ นประกอบโลหติ 3. ผปู้ ่วย/ ญาติ 4. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 5. อุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ 1. ขอเลือด 2. ก่อนให้เลือด ตรวจสอบคาสงั่ แพทย์ เจาะ Clot blood 1 tube พรอ้ มใบจอง - ตรวจสอบ ช่อื -นามสกุล HN AN (ลงชอ่ื ผตู้ รวจสอบ 2 คน) เลอื ด ไปหอ้ ง LAB - ตรวจสอบประเภทเลอื ด, Group เลอื ด, 1.1 กรณไี ม่เคยไดร้ บั เลอื ดท่ี รพ.ศุภมติ รมากอ่ น ใหเ้ จาะเลอื ด - ตรวจสอบถุงเลอื ดกบั ใบคลอ้ งเลอื ด เลขทถ่ี ุง ใหต้ รวจตาม หลกั เลข 10 หลกั (ลงชอ่ื ผตู้ รวจสอบ 2 คน) ใส่ Capillary 1 tube ไมอ่ ดุ ดนิ น้ามนั พรอ้ มใบขอรบั เลอื ด - ตรวจสอบประวตั กิ ารเคยรบั เลอื ด, ประวตั อิ าการผดิ ปกติ จากหอ้ ง Lab พรอ้ มกระเป๋ ารบั เลอื ดทห่ี อ้ ง Lab (ถา้ ม)ี อธบิ ายใหผ้ ปู้ ่วยทราบการปฏบิ ตั ติ วั ขณะไดร้ บั 1.2 กรณเี คยไดร้ บั เลอื ดแลว้ ท่ี รพ.ศุภมติ ร ไม่ตอ้ งเจาะเลอื ด เลอื ด ตลอดจนอาการผดิ ปกตภิ ายหลงั ไดร้ บั เลอื ด เชน่ 1.3 นาใบขอรบั เลอื ดจากหอ้ ง Lab พรอ้ มกระเป๋ ารบั เลอื ด มไี ข้ หนาวสนั่ ผน่ื ขน้ึ ตามตวั แน่นหน้าอก ฯลฯ ทห่ี อ้ ง Lab (บนั ทกึ Nurse note) ถา้ มกี ดกรงิ่ ไดท้ นั ที 3. ขณะให้เลือด 4. หากมีอาการแพ้เลือด ปฏิบตั ิดงั นี้ - Record V/S ทุก 10 นาที / 30 นาที / 1 ชม / 2 ชม. 4.1 หยดุ ใหเ้ ลอื ดทนั ที - เฝ้าระวงั อาการผดิ ปกตริ ะหว่างใหเ้ ลอื ด หลงั ใหเ้ ลอื ดจนครบ 4.2 Record V/S 24 ชม. 4.3 รายงานแพทย์ - บนั ทกึ Donor number, Group เลอื ด, ปรมิ าณ, เวลาทใ่ี ห้ 4.4 เจาะเลอื ดผปู้ ่วย ใส่ Clot blood tube พรอ้ มถุง และเวลาทเ่ี ลอื ดหมด ในใบ MAR ลงชอ่ื ผตู้ รวจสอบ 2 คน เลอื ดทเ่ี หลอื ไปหอ้ ง Lab พรอ้ มรายงาน จนท.หอ้ ง - หลงั ใหเ้ ลอื ด Record ทุก 4 ชม. lab

21 Identification PSG-SPM-021 Definition แนวทางการระบตุ วั ผปู้ ่วยใหม้ คี วามแมน่ ยาในการระบุตวั ผปู้ ่วยแต่ละคนไดช้ ดั เจน ทาใหก้ ารดูแลการรกั ษาอยา่ ง ถูกตอ้ ง สาหรบั ทกุ หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผปู้ ่วย ดาเนินการระบุบง่ ชต้ี วั ผปู้ ่วยใน 6 ขนั้ ตอน ดงั น้ี 1) ก่อนใหย้ า 2) ก่อนใหเ้ ลอื ด 3) ก่อนเจาะเลอื ด/เกบ็ สงิ่ สง่ ตรวจ 4) ก่อนรบั เลอื ด/ส่งตรวจ 5) ก่อนทาการรกั ษา/ทาหตั ถการ 6) ก่อนเกบ็ เอกสารเขา้ แฟ้มเวชระเบยี น 7) กรณเี สยี ชวี ติ 8) การบ่งชท้ี ารก 9) กรณรี บั -ยา้ ยระหว่างหน่วยงาน เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ อุบตั กิ ารณ์ในการดแู ลใหก้ าร 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น 2. ญาติ รกั ษาผปู้ ่วยผดิ คน 3. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา 4. อุบตั กิ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ กระบวนการ 1. ชอ่ื จรงิ นามสกุลจรงิ ผปู้ ่วย (เตม็ ) 2. วนั เดอื นปีเกดิ รปู ภาพแสดงตวั ผปู้ ่วย ซง่ึ จะตอ้ งมชี อ่ื นามสกุลของผปู้ ่วยอยใู่ นรปู 3. หลกั ฐานทท่ี างราชการออกให้ เชน่ บตั รประชาชน ใบขบั ข่ี PROCEDURE

22 ISBAR PSG-SPM-022 Definition ประสทิ ธผิ ลการสอ่ื สารโดยใช้ ISBAR หมายถงึ การกาหนดกรอบสนทนา ISBAR (identify-situation-background- awareness-recommendation) ทาใหเ้ พมิ่ ความปลอดภยั ในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู สาคญั ในระหว่างการดแู ลผู้ป่วย เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลการสอ่ื สารในภาวะวกิ ฤต 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น โดยใชก้ รอบการสนทนาระหวา่ งผใู้ หก้ ารดแู ลผปู้ ่วยเกย่ี วกบั 2. เจา้ หน้าทท่ี ท่ี าการรกั ษา ภาวะสขุ ภาพผปู้ ่วย 3. อบุ ตั กิ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ กระบวนการ 1. กาหนดชอ่ งทางการสอ่ื สารเพอ่ื ประสานตดิ ตอ่ แพทยโ์ ดยเฉพาะวกิ ฤต ไมค่ วรรอนานกว่า 5 นาทหี รอื เกณฑใ์ นการตดิ ตอ่ แพทยท์ า่ นอน่ื second call กรณตี ดิ ตอ่ ไมไ่ ด้ 2. กอ่ นรายงานแพทยใ์ หป้ ฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนดงั ต่อไปน้ี - ถามตวั เองวา่ ไดเ้ หน็ และประเมนิ ผปู้ ่วยดว้ ยตนเองหรอื ไม่ - ทบทวนวา่ ไดป้ รกึ ษากบั พยาบาลทม่ี คี วามรมู้ ากกว่า หรอื ไม่ - ทบทวนเวชระเบยี นเพอ่ื พจิ ารณาวา่ ควรรายงานแพทยท์ า่ นใด - รบั รกู้ ารวนิ จิ ฉยั เมอ่ื แรกรบั และวนั ทร่ี บั ไว้ - ถามตวั เองวา่ ไดอ้ า่ น progress note ของแพทย์ พยาบาล แลว้ หรอื ยงั - เตรยี ม เวชระเบยี น , ใบ MAR , V/S , ผล LAB. , X ray 3 ในการรายงานแพทยใ์ หใ้ ช้ ISBAR (I) identification การระบุตวั ผรู้ ายงาน ตาแหน่ง รพ ward ; ระบตุ วั ผปู้ ่วย ชอ่ื สกลุ อายุ เพศ ward หอ้ งไหน (S) Situation สถานการณ์ เหตุผล ความรนุ แรง ทต่ี อ้ งรายงาน (B) Background ขอ้ มลู ทม่ี อี ยู่ เชน่ diagnosis underlying disease ผล Lab. ทผ่ี า่ นมา (A) Assessment ระบุสงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามความคดิ เหน็ ของตนเอง (R) Recommendation ขอ้ เสนอแนะหรอื ความตอ้ งการของพยาบาล เชน่ ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื ขอใหม้ าดผู ปู้ ่วย ขอยา้ ยลง ICU เป็นตน้ 4 บนั ทกึ การเปลย่ี นแปลงสภาวะ ของผปู้ ่วยและการรายงานแพทยใ์ หค้ รบถว้ น

23 LAB วิกฤต PSG-SPM-023 Definition การสอ่ื สารระหวา่ งบคุ ลากรหอ้ ง Lab.และบุคลากรทางการแพทย์ ทร่ี บั ผดิ ชอบดแู ลรกั ษาผปู้ ่วย เมอ่ื ผลการทดสอบ สง่ิ สง่ ตรวจตวั อยา่ งของผปู้ ่วยทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารมคี า่ ผดิ ปกติ หรอื ตรวจพบสงิ่ ทผ่ี ดิ ปกติทบ่ี ง่ ชถ้ี งึ สภาวะวกิ ฤตของ ผปู้ ่วยซ่งึ จาเป็นตอ้ งไดร้ บั การดแู ลรกั ษาโดยดว่ น เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั เพ่อื ใหแ้ พทยผ์ ทู้ าการรกั ษาหรอื บคุ ลากรทางการแพทยท์ ่ีรบั ผดิ ชอบ ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น การดแู ลรกั ษาผปู้ ่วยไดร้ บั ทราบผลการทดสอบของผปู้ ่วยท่เี ป็นค่า วกิ ฤตไดโ้ ดยดว่ น เพ่อื ใหส้ ามารถดแู ลรกั ษาผปู้ ่วยไดท้ นั การณ์ กระบวนการ 1. กาหนดรายการทดสอบทต่ี อ้ งแจง้ คา่ วกิ ฤตและชว่ งค่าวกิ ฤตของ แต่ละการทดสอบ 2. การระบุตวั ผแู้ จง้ ผรู้ บั แจง้ และ วธิ กี ารแจง้ คา่ วกิ ฤต 3. การรายงานผลการทดสอบ ตอ้ ง แจง้ แพทยผ์ ด็ แู ลผปู้ ่วยหรอื แพทย์ ทร่ี บั ผดิ ชอบภายในระยะเวลา 15 นาที 4. มรี ะบบตดิ ตามเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความ มนั่ ใจว่ามกี ารรายงานผลในเวลา ทเ่ี หมาะสมและน่าเชอ่ื ถอื รวมถงึ ระบบตดิ ตามเพอ่ื รบั รวู้ ่าผปู้ ่วย ไดร้ บั การแกป้ ัญหาในเวลาท่ี เหมาะสม ไม่เกิน 15 นาที

24 การรบั คาสงั่ ทางโทรศพั ท์ PSG-SPM-024 Definition การสอ่ื สารโดยใชว้ ธิ พี ดู หรอื ส่อื สารทางโทรศพั ท์ ในการสงั่ การรกั ษาหรอื การรบั รายงานผลการตรวจทาง หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร แทนการสงั่ การรกั ษาลงในใบคาสงั่ การรกั ษาหรอื ใบรายงานผล Lab. ทใ่ี ชก้ นั ตามปกติ เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั ลดการสงั่ การรกั ษาโดยใชค้ าพดู หรอื ทางโทรศพั ท์ ลดอุบตั กิ ารณ์ความคลาดเคลอ่ื นจากการสงั่ การ รกั ษาหรอื การรายงานผลการตรวจโดยการใชค้ าพดู หอื ทางโทรศพั ท์ กระบวนการ 1. หลกี เลย่ี งการรบั คาสงั่ การรกั ษาทางโทรศพั ท์ 2. บนั ทกึ คาสงั่ การรกั ษา( write down )ดว้ ยลายมอื ทอ่ี ่านออก เรยี บรอ้ ยแลว้ ใหอ้ ่านทวนกลบั (read back ) ควรมพี ยาบาลหรอื เจา้ หน้าทพ่ี ยายาลรว่ มรบั รดู้ ว้ ย 3. ลงวนั ท่ี เวลา ทไ่ี ดร้ บั คาสงั่ การรกั ษา คาสงั่ การรกั ษา แลว้ ระบุ” รคส. นพ. หรอื พญ………./ by phone หรอื by verbal ดว้ ยปากกาหมกึ สนี ้าเงนิ ตามดว้ ยช่อื ผรู้ บั คาสงั่ ระบุ ว ด ป และเวลาทร่ี บั คาสงั่ การรกั ษาดว้ ย ปากกาสแี ดง 4. แพทยล์ งช่อื กากบั ภายใน 24 ชม. ตวั อย่าง 14 เมย 66 18 น. Tramol 50 mg. iv push ชา้ ๆ รคส. พญ. ดุจดาว / by phone ฟ้างาม RN 14 เมย 66 18.10 น.

25 คาย่อ PSG-SPM-025 Definition การใชค้ ายอ่ อกั ษรยอ่ สญั ลกั ษณ์ ขนาดและสดั สว่ น หมายถงึ แนวทางทอ่ี งคก์ รกาหนดการใชค้ าย่อ อกั ษรยอ่ สญั ลกั ษณ์ ขนาดละสดั สว่ นทเ่ี กย่ี วกบั การรกั ษา สาหรบั ใหบ้ ุคลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ งนาไปใช้ในการส่อื สารใหเ้ ป็น ทศิ ทางเดยี วกนั เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ลดความผดิ พลาดจากการส่อื สารโดยการใชค้ าย่อ กระบวนการ 1. กาหนดใหใ้ ชค้ ายอ่ สญั ลกั ษณ์ ตามทก่ี าหนด ทม่ี คี วามหมายเดยี วเท่านนั้ - ไมอ่ นุญาตใหใ้ ชค้ ายอ่ ดงั น้ี U ,u , IU, Q.D , QD , q.d., qd ,Q.O.D. , QOD, q.o.d. , qod - Trailing zero ( X.O mg) เลขศนู ยต์ ามหลงั จดุ ทศนิยม หา้ มใช้ - Lack of leading zero (.X mg) การไมเ่ ขยี นเลขศูนยห์ น้าจดุ ทศนิยมเป็นสงิ่ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง - MS , MSO4 , MgSO4 2. แบบฟอรม์ ทจ่ี ดั พมิ พไ์ วล้ ว่ งหน้าจะตอ้ งไมม่ รี ายการทไ่ี มอ่ นุญาตใิ หใ้ ชด้ งั กลา่ ว 3. หา้ มใชค้ ายอ่ ใน informed consent และเอกสารใดๆท่ี รพ ใหก้ บั ผปู้ ่วยและญาติ ตวั อย่าง Right Wrong Xanax 0.5 mg Paracetamol 3 ml. Xanax 5.0 mg Paracetamol 3 cc.

Preventing Pressure ulcers 26 PSG-SPM-026 Definition เป้ าหมาย: การวางมาตรการต่าง ๆ ทพ่ี สิ จู น์แลว้ วา่ ไดผ้ ลดี ผปู้ ่วยไดร้ บั การดแู ล เพ่อื ป้องกนั การเกดิ ในการป้องกนั ผวิ หนงั ไมใ่ หเ้ กดิ แผลกดทบั แผลกดทบั ตามแนวทางทก่ี าหนด แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั Monitoring 1. ขอ้ มลู ในเวชระเบยี น Monitoring (การเฝ้าติดตาม) 2. ญาติ / เจา้ หน้าท่ี บนั ทกึ การประเมนิ ผวิ หนงั และความเสย่ี งต่อการเกดิ แผลกดทบั ภายใน 8 3. อุบตั กิ ารณ์ ชม. หลงั เขา้ รบั การรกั ษา รายงานอุบตั กิ ารณ์ เม่อื พบ pressure sore ระดบั 1 กระบวนการ Pitfall (ข้อควรระวงั ) 1. ตอ้ งดคู วามจาเป็นของผปู้ ่วยในแต่ละรายเป็นหลกั ไมจ่ าเป็นตอ้ งยดึ 1) ประเมนิ การเกดิ แผลกดทบั เรว็ ทส่ี ุด หรอื ภายใน 8 ชม. โดยใชแ้ บบประเมนิ Braden scale ตารางพลกิ ตะแคงตวั เสมอไป เชน่ หมอหา้ มนอนหงาย กต็ ะแคงตวั แค่ ซา้ ย, ขวา 2) ประเมนิ ผวิ หนงั อยา่ งครอบคลมุ ตงั้ แต่ศรี ษะจรดเทา้ 2. ควรใหญ้ าตมิ สี ว่ นรว่ มในการดแู ลระมดั ระวงั รว่ มกบั พยาบาลดว้ ย 3) การประเมนิ ปัจจยั เสย่ี งอ่นื ๆ เชน่ อายุ การทางานของ เสน้ เลอื ด ระดบั น้าตาล น้าหนกั ตวั ภาวะทุพโภชนาการ 4) บนั ทกึ ผลในเวชระเบยี นผปู้ ่วย หรอื ลงใน Nurse’s note 5) การดแู ลผวิ หนงั เพอ่ื ป้องกนั การเกดิ แผลกดทบั 5.1 หลกี เลย่ี งการนอนทบั บรเิ วณป่มุ กระดกู ท่ี ผวิ หนงั มรี อยแดง 5.2 ดูแลผวิ หนงั ใหส้ ะอาดและแหง้ หลกี เลย่ี งการนวด ขดั ถผู วิ หนงั 5.3 ผปู้ ่วยทม่ี ภี าวะควบคุมการขบั ถ่ายไมไ่ ด้ ทาความ สะอาดผวิ หนงั ทนั ที อยา่ ใหเ้ ปียกชน้ื 5.4 ดแู ลสภาพผวิ หนงั ใหช้ ุม่ ชน้ื ไมแ่ หง้ โดยการ ทาโลชนั ่ 6) การเปลย่ี นท่าและการเคล่อื นไหว ควรจดั ท่าพลกิ ตะแคง ตวั ทุก 2 ชม. การจดั ท่านอน 6.1 ท่านอนหงาย ควรจดั ใหศ้ รี ษะสงู ไมเ่ กนิ 30 องศา 6.2 ทา่ นอนตะแคง ควรใหส้ ะโพกเอยี งทามมุ 30 องศา กบั พน้ื เตยี ง การจดั ท่านัง่ ควรนงั่ พงิ พนกั เกา้ อ้ี หรอื พนกั รถเขน็ นงั่ และเทา้ วางบนทพ่ี กั เทา้

27 Preventing patient falls PSG-SPM-027 Definition เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั การป้องกนั การล่นื ตกหกลม้ หมายถงึ การวาง ลดอบุ ตั กิ ารณ์การล่นื ตกหกลม้ และการ 1. Medication record มาตรการต่างๆ ทพ่ี สิ จู น์แลว้ วา่ ไดผ้ ลดี ในการ บาดเจบ็ จากการลน่ื ตกหกลม้ 2. IR ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ่วยล่นื ตก หกลม้ และบาดเจบ็ จาก การล่นื ตกหกลม้ กระบวนการ 1) ประเมนิ ความเสย่ี งต่อการล่นื ตก หกลม้ เม่อื แรกรบั เขา้ ตวั อย่าง รกั ษา (เน้นการลน่ื ตก หกลม้ ทเ่ี กย่ี วกบั ดา้ นร่างกาย) ประเภท 1.1 ใชเ้ คร่อื งงมอื ประเมนิ ความเสย่ี งต่อการล่นื ตก ความเส่ียง หกลม้ ทเ่ี ป็นมาตรฐานในการประเมนิ ผปู้ ่วย เม่อื แรกเขา้ เชน่ Morse Fall Risk Assessment หรอื Hendrich Fall Risk Assessment 1.2 ถา้ อายมุ ากกว่า 65 ปี ใหถ้ ามประวตั เิ กย่ี วกบั การลน่ื ตก หกลม้ ว่าทเ่ี ผ่านมาเคยลน่ื ตก หกลม้ หรอื ไม่ 2) ประเมนิ ปัจจยั และประวตั ทิ ท่ี าใหก้ ารล่นื ตก หกลม้ แลว้ จะเกดิ การบาดเจบ็ ทร่ี ุนแรง 3) ประเมนิ ความเสย่ี งต่างๆดา้ นรา่ งกายทเ่ี กย่ี วกบั การลน่ื ตก หกลม้ และการบาดเจบ็ รนุ แรงจากการลน่ื ตก หกลม้ 3.1 ในผปู้ ่วยทพ่ี บวา่ มคี วามเสย่ี ง ใหท้ มี ร่วมประเมนิ ปัจจยั อ่นื ๆอยา่ งครบถว้ น 3.2 สอ่ื สารและระบุผปู้ ่วยทม่ี คี วามเสย่ี งปานกลาง และสงู ทจ่ี ะเกดิ อนั ตราย ในทกุ เวร 4) ใหค้ วามรผู้ ปู้ ่วยและญาตแิ ละสง่ิ ทจ่ี ะชว่ ยป้องกนั การล่นื หกลม้ 5) บนั ทกึ คะแนนความเสย่ี งในฟอรม์ ปรอททกุ เวร บนั ทกึ ทกุ เวร

Pain management 28 PSG-SPM-028 Definition เป้ าหมาย ความปวด (PAIN) คอื ประสบการณ์ทท่ี าใหเ้ กดิ ความทุกขซ์ ง่ึ ผปู้ ่วยทป่ี วดควรไดร้ บั การจดั การความปวดอยา่ งปลอดภยั และมี เกดิ ร่วมกบั การบาดเจบ็ หรอื สามารถทจ่ี ะทาใหเ้ น้ือเย่อื ของ ประสทิ ธภิ าพ ดว้ ยความเหมาะสมตามบรบิ ททส่ี ถานพยาบาล รา่ งกายบาดเจบ็ โดยมอี งคป์ นะกอบดา้ นความรสู้ กึ อารมณ์ นนั้ ๆ มบี คุ ลากรและทรพั ยากรทส่ี ามารถกระทาได้ ความรคู้ ดิ และสงั คม กระบวนการ แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั 1. การรกั ษาสาเหตุของความปวดเทา่ ทท่ี าได้ Medication record 2. ผปู้ ่วยปวดทกุ รายควรไดร้ บั การประเมนิ ระดบั ความรนุ แรงของความปวดและผลของความ ปวดต่อคุณภาพชวี ติ 3. การรกั ษาความปวดโดยการใชย้ าและไมใ่ ชย้ า ครอบคลุมทงั้ สามมติ ิ เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยสามารถมา ทากจิ กรรมไดแ้ ละรบั ทราบแนวทางของการ ระงบั ปวดทจ่ี ะใชแ้ ละมสี ว่ นรว่ มในการเลอื ก วธิ กี ารรกั ษาความปวด 4. มกี ารประเมนิ ความปวดซา้ หลงั การรกั ษาและ ตดิ ตามเฝ้าระวงั ผลขา้ งเคยี งหรอื ภาวะแทรกซอ้ นและบนั ทกึ ไว้ ใช้ 5. การจดั การความปวดทซ่ี บั ซอ้ นควรมกี าร ปรกึ ษาแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญ

29 Refer & transfer PSG-SPM-029 Definition การส่งต่อผปู้ ่วยภาวะวกิ ฤตระหว่างสถานพยาบาลและภายใน รพ หมายถงึ กระบวนการในการดแู ลรกั ษาพยาบาล ผปู้ ่วยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลแหง่ ใดแห่งหน่งึ ทใ่ี หก้ ารดแู ลรกั ษาขนั้ ตน้ และมคี วามจาเป็นตอ้ งสง่ ต่อไปยงั สถาน พยาบาลทม่ี ศี กั ยภาพสงู กวา่ เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยฉุกเฉินไดร้ บั การดูแลทไ่ี ดม้ าตรฐานและมคี วามปลอดภยั กระบวนการ เรม่ิ ตน้ ตงั้ แต่การประเมนิ ระดบั ความเฉยี บพลนั ของอาการผปู้ ่วย การประสานส่งต่อ ขอ้ มลู ผปู้ ่วยการจดั ทรพั ยากร การเตรยี มผปู้ ่วยและญาติ การดแู ลผปู้ ่วยระหว่างการส่งต่อและการส่งมอบผปู้ ่วยแก่สถานพยาบาลปลายทาง รวมทงั้ การประเมนิ คุณภาพการส่งต่อ เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ลดเหตุการณ์ไมพ่ งึ ประสงค์ (adverse event) ในการสง่ ต่อผปู้ ่วย อุบตั กิ ารณ์ทไ่ี มพ่ งึ ประสงคใ์ นการ refer ผปู้ ่วย และจากการทบทวนเวชระเบยี น กระบวนการ ระยะก่อนส่งต่อผปู้ ่ วย (pre-refer) ใช้หลกั “ACCEPT “ A = Assess ประเมนิ อาการแผนการรกั ษาและความเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ข้นึ C = Control ระบหุ วั หน้าทมี และมอบหมายงานใหส้ มาชกิ C = Communication การส่อื สารกบั สถานพยาบาลตน้ ทางและรบั ส่งต่อ E = Evaluation ประเมนิ ว่าอาการผปู้ ่วยจาเป็นตอ้ งส่งต่อหรอื ไม่ P = Preparation and packaging เตรยี มผปู้ ่วยและญาติ อุปกรณ์ เอกสาร ก่อนเคลอ่ื นยา้ ย T = Transportation การเลอื กการเดนิ ทาง ระยะระหว่างส่งต่อผปู้ ่ วย (During transfer) 1.ใหก้ ารดแู ล ABCDE 2. monitoring 3. กรณใี ส่ tube ใหป้ ระเมนิ oxygenation และ ventilation 4. ประเมนิ อาการผปู้ ่วยและบนั ทกึ ขอ้ มลู ใหค้ รบถว้ น ระยะหลงั ส่งต่อ(post –refer)ใช้หลกั การ “ CLEAR” C = case note L= laboratory //X-ray E = evaluation audit A = audit R = return equipment

aCnadthientfeurs,itounbipnugmcponnection 30 PSG-SPM-030 Definition Misconnection การเช่อื มต่อสายผดิ ชนดิ เชน่ การนาสาย enteral feeding เชอ่ื มต่อกบั สายสวนหลอดเลอื ดดา Disconnection การเลอ่ื นหลดุ ของขอ้ ต่อ เช่นการเล่อื นหลดุ ของขอ้ ต่อระหวา่ ง extension tube และสายสวน หลอดเลอื ด Infusion pump เครอ่ื งควบคุมการไหลของสารน้าซง่ึ มอี ุปกรณ์ทส่ี าคญั หลกั ตวั ปรบั อตั ราการไหล ตวั ควบคุม การหยดและสญั ญาณเตอื นเมอ่ื เกดิ ความผดิ ปกติ เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ลดอุบตั กิ ารณ์การเกดิ ความผดิ พลาดจากการต่อสายผดิ IR misconnection ,Disconnection และความคลาด ชนดิ (misconnection) และการเล่อื นหลุดของขอ้ ต่อ เคลอ่ื นของการใหส้ ารน้าจากการใช้ infusion pump (Disconnection) รวมถงึ ความปลอดภยั จากการใชเ้ ครอ่ื ง ควบคุมการไหลของสารน้า(infusion pump) กระบวนการ 1. เน้นยา้ ผปู้ ่วยและผดู้ แู ลว่าไมค่ วรถอดหรอื ต่อสายอุปกรณ์ต่างๆ ดว้ ยตนเอง ใหข้ อความชว่ ยเหลอื 2.ตรวจสอบสายทกุ เสน้ ตงั้ แต่ตน้ ทางจนถงึ ขอ้ ต่อต่อทจ่ี ะ connect สาย และใหท้ าการตรวจสอบทกุ ขอ้ ต่อทกุ เวร 3. หา้ มใช้ syringe ในการป้อนยาทางปากหรอื ใหอ้ าหารทางสายยาง 4.หลกี เลย่ี งการต่ออุปกรณ์เสรมิ หากจาเป็นตอ้ งใช้ ใหใ้ ชอ้ ุปกรณ์ ทม่ี ขี อ้ ต่อส่วนปลายเป็นแบบเกลยี ว (Luer lock) 5.ใช้ infusion pump ทกุ รายทม่ี กี ารบรหิ ารยาและสารน้าและตรวจ เยย่ี มตามแผนทก่ี าหนด

31 Early Warning Score PSG-SPM-031 Definition เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั การระบุตวั ผปู้ ่วยทม่ี อี าการทรดุ ลงหรอื มอี าการแย่ ลดความเสย่ี งและเพมิ่ ความ เวชระเบยี น ลงอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพรว่ มกบั มแี นวทางการดแู ล ปลอดภยั ในการดแู ลรกั ษา ผปู้ ่วยทรดุ ลงใน รพ อยา่ งเหมาะสมและเป็นระบบ ผปู้ ่วยทรดุ ลงใน รพ.ใหม้ ี ทช่ี ดั เจน ก่อนทอ่ี าการเจบ็ ป่วยจะมคี วามรนุ แรง ประสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ เพมิ่ ขน้ึ SEDATION SCORE : SS 1 = ต่นื รสู้ กึ ตวั ดี 2 = ตน่ื แตง่ ว่ ง ใหค้ วามรว่ มมอื ทาตามทส่ี งั่ ได้ บอกได้ 3 = งว่ งแตย่ งั ทตามคาสงั่ ได้ 4 = หลบั แต่เรยี กปลุกดว้ ยเสยี งดงั แลว้ ต่นื ลมื ตา 5 = หลบั ปลกุ ต่นื ไดช้ า้ ดว้ ยเสยี งดงั 6 = หลบั ลกึ ไมต่ อบสนอง ** ถา้ Sedation Score > 4, RR < 10 ครงั้ /นาท,ี O2 SAT ≤ 92% กระตนุ้ ผปู้ ่วย และให้ O2 Mask 6 LPM รายงานวสิ ญั ญแี พทยท์ นั ที PAIN SCORE : PS PS : 0 = ไมป่ วดเลย PS : 1 = ปวดมากทส่ี ดุ

SEPSIS 32 PSG-SPM-032 Definition ภาวะตดิ เชอ้ื ในกระแสเลอื ด (sepsis)เป็นภาวะวกิ ฤตทางการแพทยซ์ ง่ึ อนั ตรายถงึ ชวี ติ โดยมลี กั ษณะ ของภาวะการอกั เสบทวั่ ร่างกายร่วมกบั มกี ารตดิ เชอ้ื ทท่ี ราบชนดิ หรอื ทน่ี ่าสงสยั วา่ เป็นการตดิ เชอ้ื ร่างกายจะมกี ารตอบสนองต่อการ อกั เสบต่อเชอ้ื จุลชพี ในเลอื ด ปอด ปัสสาวะ ผวิ หนงั หรอื เน้อื เย่อื อ่นื ๆ ภาวะตดิ เชอ้ื ในกระแสโลหติ แบบรุนแรง(severe sepsis)เม่อื เกดิ ภาวะพษิ เหตุตดิ เชอ้ื ทาใหอ้ วยั วะทางานผดิ ปกติ เช่น ภาวะหายใจลม้ เหลว ความผดิ ปกตขิ องการแขง็ ตวั ของเลอื ดหรอื ความผดิ ปกติ ทางโลหติ วทิ ยาอน่ื ๆ การสรา้ งปัสสาวะลดลง หรอื ระดบั ความรสู้ กึ ตวั เปลย่ี นแปลงแต่หากอวยั วะทางานลม้ เหลวนนั้ ไดแ้ ก่ ความดนั โลหติ ต่า หรอื เลอื ดเลย้ี งอวยั วะไมเ่ พยี งพอ จะเรยี กภาวะน้วี า่ ชอ็ คเหตุพษิ ตดิ เชอ้ื (septic shock) เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั 1. ผปู้ ่วยรอดชวี ติ จากภาวะSepsis เวชระเบยี น 2. ผปู้ ่วยมผี ลกระทบจากภาวะชอ็ คและจากการตดิ เชอ้ื น้อยทส่ี ดุ 3. มกี ารใชท้ รพั ยากรน้อยทส่ี ดุ Monitoring 1. อตั ราไดร้ บั การตรวจเพาะเชอ้ื ในเลอื ดกอ่ นไดร้ บั ATB 2. รอ้ ยละของการปฏบิ ตั ติ าม CPG (Deter, Diagnosis, Treatment) 3. อตั ราการเสยชวี ติ 4. อตั ราการเกดิ serve sepsis (ตามเกณฑ์ CPG) 5. อตั ราการไดร้ บั ยาปฏชิ วี นะภายใน 1 ชวั่ โมง หลงั สง่ ตรวจเพาะเชอ้ื 6. อตั ราผปู้ ่วย serve sepsis ไดร้ บั IV Fluid 30 cc/hr. ใน 1 ชวั่ โมงแรก 7. อตั ราการ Early Detect ตามเกณฑ์ SIRs ≥ 2 8. จานวนครงั้ การเกดิ CPR กรณี Observe ท่ี ER 9. จานวนครงั้ การเกดิ CPR กรณี Observe ท่ี WARD

33 ACS PSG-SPM-033 Definition แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั การวนิ ิจฉยั การดแู ลรกั ษา และการสง่ ต่อผปู้ ่วยโรคหวั ใจขาดเลอื ด มปี ระสทิ ธภิ าพ ได้ เวชระเบยี น มาตรฐาน เป็นทย่ี อมรบั และสามารถนาไปปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ มคี วามเหมาะสมกบั ทรพั ยากร ทางการแพทยภ์ าวะเศรษฐกจิ และสงั คมไทย เป้ าหมาย ขณะนี้มี code ACS ท่ี ER ผปู้ ่วยรอดชวี ติ จากภาวะ acute coronary syndrome มากทส่ี ดุ และมภี าวะแทรกซอ้ นจากโรคและการรกั ษาน้อยทส่ี ดุ Door to needle time< 30 นาที , Door to balloon time< 90 นาที Early diagnosis Early revascularization Optimal care

Stroke Fast tract 34 Code stroke alert PSG-SPM-034 Definition การรกั ษาผปู้ ่วยโรคหลอดเลอื ดสมองตบี หรอื อุดตนั ระยะเฉียบพลนั อย่างต่อเน่อื ง เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั - ผปู้ ่วยรอดชวี ติ จากภาวะ acute stroke มากทส่ี ุด ผปู้ ่วยมภี าวะแทรกซอ้ น เวชระเบยี น จากการรกั ษาน้อยทส่ี ดุ - ผปู้ ่วยมคี วามพกิ ารหลงเหลอื จาก acute stroke น้อยทส่ี ุด (rehabilitation program ) Door to needle time < 60 นาที

35 CPR PSG-SPM-035 Definition แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั การนวดหวั ใจ ผายปอดอยา่ งเป็นระบบตามมาตรฐาน เวชระเบยี น CPR survival rate เป้ าหมาย กระบวนการ ผปู้ ่วยรอดชวี ติ จากการทาการปฏบิ ตั กิ ารกชู้ วี ติ มากทส่ี ดุ Early diagnosis early CPR target ผปู้ ่วยทร่ี อดชวี ติ มคี วามพกิ ารน้อยทส่ี ดุ temperature control optimal organ support Code ZERO

Postpartum Hemorrhage (PPH) 36 PSG-SPM-036 Definition เป้ าหมาย การตกเลอื ดภายหลงั คลอด คอื การเสยี เลอื ดตงั้ แต่ 500 มล. - อตั ราการตกเลอื ด ภายใน 2 ชม.แรกหลงั คลอดทางช่องคลอด ภายหลงั คลอดปกติ และมากกว่า 1000 มล กรณผี า่ ตดั คลอด (Blood loss > 500ml) เท่ากบั 0 (ตรภี พ เลศิ บรรณพงษ์,2560) โดยแบง่ เป็น 2 แบบ ตาม - อตั ราการตกเลอื ด ภายใน 24 ชม.หลงั คลอดทงั้ หมด (Blood loss > 1000ml) ระยะเวลาของการเกดิ ตกเลอื ดหลงั คลอด (Early PPH) เท่ากบั 0 1. Primary or Early PPH การตกเลอื ดหลงั คลอดระยะแรก - อตั ราการตกเลอื ด หลงั คลอดระยะหลงั 24 ชม.ถงึ 12 สปั ดาหห์ ลงั คลอด (Late PPH) เท่ากบั 0 ภายใน 24 ชม.แรกหลงั คลอด 2. Secondary or Late PPH การตกเลอื ดหลงั คลอดระยะหลงั 24 ชม.ถงึ 12 สปั ดาหห์ ลงั คลอด กระบวนการ แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั 1.คดั กรอง ซกั ประวตั ิ ประเมนิ ภาวะเสย่ี งเพอ่ื ป้องกนั ตงั้ แต่ ANC กรณพี บความเสย่ี ง 1. IR จะมกี ารสอ่ื สารใหท้ ราบ โดยการตดิ สตก๊ิ เกอรห์ รอื เขยี นทห่ี น้าปกสมดุ ฝากครรภ์ 2. บนั ทกึ ทางการพยาบาล 2. ตรวจประเมนิ ขนาดมดลกู หลงั คลอด ถา้ พบวา่ อยสู่ งู กวา่ ระดบั สะดอื และนมุ่ มขี นาด 3. LR-ใบสรปุ การคลอดและดแู ล 2 ชม.หลงั คลอด, ใหญ่ อาจมกี อ้ นเลอื ดคา้ งอย่ภู ายใน ใหค้ ลงึ มดลกู ใหแ้ ขง็ ตวั เตม็ ท่ี ดนั ไลก่ อ้ น เลอื ดออกใหห้ มด ถา้ พบว่ามเี ลอื ดปนออกมามากผดิ ปกติ ใหค้ านวณปรมิ าณเลอื ด วดั Intensive care การดแู ลผรู้ บั บรกิ ารหลงั คลอดในหอ้ งคลอด Vital signs แลว้ รายงานแพทย์ 4. Ward-Intensive care การเฝ้าระวงั ภาวะตกเลอื ดหลงั คลอด 3. ตรวจดกู ระเพาะปัสสาวะ ถา้ กระเพาะปัสสาวะเตม็ จะคลาไดเ้ ป็นกอ้ นหยุ่นนมุ่ ตอ้ ง ใหม้ ารดาหลงั คลอดปัสสาวะออกหรอื สวนปัสสาวะทง้ิ 4. ตรวจวดั ปรมิ าณเลอื ดทอ่ี อก จานวน โดยการชงั่ น้าหนกั เลอื ด และจากชงั่ น้าหนกั ผา้ อนามยั เพอ่ื หาน้าหนกั เลอื ดทอ่ี อก ลงบนั ทกึ ใบแบบเฝ้าระวงั LR-ใบสรปุ การคลอด และดแู ล 2 ชม.หลงั คลอด, Ward-การเฝ้าระวงั ภาวะตกเลอื ดหลงั คลอด 5. วดั สญั ญาณชพี โดยเฉพาะความดนั โลหติ ถา้ Systolic pressure ต่ากวา่ 100 mmHg และชพี จร มากกว่า 100 ครงั้ /นาที อาจเกดิ ภาวะชอ็ คได้ 6. ตรวจดฝู ีเยบ็ การตกเลอื ด อาจเกดิ จากการฉกี ขาดของแผล เพยี งเลก็ น้อยทไ่ี มไ่ ด้ เยบ็ หรอื เยบ็ ไมห่ มดหรอื การเกดิ Hematoma 7. การใช้ Intensive care ในการดแู ลมารดาหลงั คลอดในหอ้ งคลอด 8. วางแผนการจาหน่ายมารดาหลงั คลอด

37 Safe labour at Community Hospitals PSG-SPM-037 Definition เป้ าหมาย การดแู ลหญงิ ตงั้ ครรภค์ ลอดและทารกใหป้ ลอดภยั อตั ราการเฝ้าระวงั การคลอดไมเ่ พยี งพอ เพอ่ื ป้องกนั การตายของมารดาและทารก และลดภาวะแทรกซอ้ นจากการคลอด โดย การพฒั นาระบบรกิ ารจดั การงานหอ้ งคลอดอย่างเป็นระบบ มปี ระสทิ ธภิ าพ โดยเน้น แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั 4 กระบวนการสาคญั ไดแ้ ก่ 1. การคดั กรองและจาแนกสตรตี งั้ ครรภต์ ามความเสย่ี งอยา่ งเป็นระบบและมี 1. บนั ทกึ ทางการพยาบาล 2. ใบเฝ้าคลอด ประสทิ ธภิ าพเพอ่ื ดแู ลสตรตี งั้ ครรภต์ ามความเสย่ี งไดเ้ หมาะสม 2. การดแู ลรกั ษาสตรตี งั้ ครรภต์ ามมาตรฐานเวชศาสตรเ์ ชงิ ประจกั ษ์ 3. การดแู ลรกั ษาผปู้ ่วยดว้ ยทมี ทด่ี ี 4. การส่งต่อผปู้ ่วยอยา่ งรวดเรว็ และเป็นระบบ ตามขอ้ บง่ ชท้ี างการแพทย์ กระบวนการ 1. ซกั ประวตั ิ คดั กรอง ประเมินสญั ญาณชีพ ประเมินภาวะเสี่ยงเพอื่ ป้องกนั ตงั้ แต่ ANC กรณีพบความเสี่ยงจะมีการสื่อสารให้ทราบ โดยการ ติดสติกเกอร์ หรอื เขียนที่หน้าปกสมดุ ฝากครรภ์ High risk pregnancy ท่ีสาคญั ได้แก่ - อายมุ ารดาต่ากวา่ 16 ปี หรอื เกนิ 40 ปี - มฐี านะไมด่ ี - มารดามโี รคเรอ้ื รงั เช่น เบาหวาน ความดนั โลหติ ซดี - มารดาทเ่ี คยแทง้ บตุ ร หรอื มบี ุตร Prematurity (ทารกเกดิ ก่อนกาหนด) - มารดาทไ่ี มไ่ ดร้ บั การฝากครรภ์ - ทารกในครรภอ์ ยใู่ นทา่ ผดิ ปกติ (Abnormal position or presentation) - มารดาทต่ี ดิ ยา สบู บหุ ร่ี หรอื alcohol -ทารกในครรภไ์ มส่ มบรู ณ์ หรอื Growth retardation (ทารกเจรญิ เตบิ โตลา่ ชา้ ) 2. กาหนดเกณฑก์ ารคดั กรองความเสี่ยงหรือประเภทของสตรีตงั้ ครรภอ์ ย่างชดั เจนภายในห้องคลอด ดงั นี้ 2.1 กลมุ่ วกิ ฤต ทต่ี อ้ งไดร้ บั การดแู ลทนั ที ต่อเน่อื ง/ ส่งต่อ ไดแ้ ก่ ภาวะชอ็ คในสตรตี งั้ ครรภ์ โรคพษิ แหง่ ครรภร์ ะยะชกั เจบ็ ครรภ์ มแี นวโน้ม คลอดกอ่ นกาหนด (อายคุ รรภ์ < 37 wks. เจบ็ ครรภถ์ ่ี มมี กู เลอื ด มนี ้าเดนิ ปากมดลกู เปิดมากกวา่ 3 cm) มารดาทม่ี โี รคประจาตวั ทค่ี วบคมุ ไดไ้ มด่ ี เชน่ โรคหวั ใจ เป็นตน้ รายงานแพทย์ ประสานงานเพอ่ื พจิ ารณาการดแู ลรว่ ม และ/ หรอื ส่งต่อไปยงั โรงพยาบาลทส่ี ามารถดแู ลได้ 2.2 กล่มุ เร่งด่วน (ตงั้ ครรภค์ รบกาหนด) ตอ้ งการการดแู ลอยา่ งเรง่ ด่วน หรอื ตอ้ งการการดแู ลแบบสหสาขา ไดแ้ ก่ โรคพษิ แหง่ ครรภ์ระยะกอ่ น ชกั สายสะดอื ยอ้ ย รกลอกตวั กอ่ นกาหนด ภาวะตกเลอื ดก่อนคลอด ทารกขดออกซเิ จนระดบั รนุ แรง ทารกทา่ ผดิ ปกติ เป็นตน้ รายงานแพทย์ ประสานงานเพอ่ื ผา่ ตดั คลอดทนั ที 2.3 กลมุ่ ปกติ ตอ้ งการการดแู ลขณะคลอดตามมาตรฐานทวั่ ไป และสามารถเปลย่ี นแปลงความเสย่ี งในขณะคลอดได้ ไดแ้ ก่ สตรตี งั้ ครรภค์ วามเสย่ี ง ต่า มารดาทม่ี โี รคประจาตวั ทค่ี วบคมุ ไดด้ ี เช่น เบาหวานขณะตงั้ ครรภ์ ไทรอยด์ เป็นตน้ 3. กาหนดให้มีมาตรฐานการดแู ลหญิงตงั้ ครรภใ์ นห้องคลอด ได้แก่ 3.1 ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ ของหวั ใจทารกในครรภ์ โดยการ NST ทุกราย 3.2 ขณะรอคลอด ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ เของหวั ใจทารกในครรภ์ ทกุ 1-2 ชม. 3.3 ขณะรอคลอด เร่งคลอด ในระยะ Active phase ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ ของหวั ใจทารกในครรภ์ ทุก 15-30 นาที รว่ มกบั การประเมนิ การเปิดของปากมดลกู เพอ่ื รายงานแพทยเ์ ป็นระยะ 3.4 กรณพี บความผดิ ปกติ รายงานแพทยท์ นั ที 3.5 อธบิ ายใหผ้ ปู้ ่วยและญาตริ บั ทราบแนวทางการคลอด ความเสย่ี ง และมสี ่วนรว่ มในการตดั สนิ ใจเพอ่ื คลอด 3.6 เตรยี มอุปกรณ์ เครอ่ื งมอื ในการชว่ ยชวี ติ มารดาและทารกแรกเกดิ 3.7 รบั เดก็ แกเ้ ดก็ ทนั ทภี ายหลงั คลอด โดยทมี แพทยแ์ ละพยาบาลเฉพาะทาง 3.8 มที มี และหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เชน่ F3(ward เดก็ ), X-ray, ER ทพ่ี รอ้ มใหค้ วามชว่ ยเหลอื ส่งต่อหรอื Refer ไดท้ นั ที 3.9 กรณเี ดก็ คลอดปกติ ดแู ลต่อในหอ้ งคลอด 3 ชม.

Birth Asphyxia 38 PSG-SPM-038 Definition เป้ าหมาย ภาวะขาดออกซเิ จนในทารกแรกเกดิ (Birth asphyxia) เป็นภาวะ อตั ราการเกดิ Birth asphyxia < 2.5% ของทารกเกดิ มชี พี เร่งดว่ น ทท่ี ารกไมส่ ามารถเรมิ่ หายใจไดเ้ องอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพหลงั คลอด และอาจเกดิ ความเสยี หายกบั สมองจนเสยี ชวี ติ ได้ โดยการ แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั ประเมนิ ภาวะขาดออกซเิ จนในทารกแรกเกดิ จะประเมนิ จากค่า คะแนน Apgar score ท่ี 1 นาที 5 นาที และ 10 นาที ต่ากว่า 7 1. บนั ทกึ ทางการพยาบาล คะแนน 2. Nursing assessment form in newborn 3. Ballard score (กรณีสงสยั Preterm) กระบวนการ 1. ทวนสอบประวตั กิ ารฝากครรภจ์ ากสมุดฝากครรภ์ ประเมนิ ภาวะเสย่ี งเพอ่ื ป้องกนั ตงั้ แต่ ANC กรณีพบความเสย่ี งจะมกี ารสอ่ื สาร ใหท้ ราบ โดยการตดิ สตกิ เกอร์ หรอื เขยี นทห่ี น้าปกสมุดฝากครรภ์ High risk pregnancy ต่อการเกดิ Birth asphyxia ไดแ้ ก่ - อายุมารดาต่ากวา่ 16 ปี หรอื เกนิ 40 ปี - มเี ศรษฐานะไม่ดี - มารดามโี รคเรอ้ื รงั เช่น เบาหวาน ความดนั โลหติ ซดี - มารดาทเ่ี คยแทง้ บุตร หรอื มบี ตุ ร Prematurity (ทารกเกดิ กอ่ นกาหนด) - มารดาทไ่ี ม่ไดร้ บั การฝากครรภ์ - ทารกในครรภอ์ ย่ใู นทา่ ผดิ ปกติ (Abnormal position or presentation) - มารดาทต่ี ดิ ยา สบู บหุ ร่ี หรอื alcohol - ทารกในครรภไ์ มส่ มบรู ณ์ หรอื Growth retardation (ทารกเจรญิ เตบิ โตลา่ ชา้ ) 2. ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ ของหวั ใจทารกในครรภ์ โดยการ NST ทกุ ราย 3. ขณะรอคลอด ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ เของหวั ใจทารกในครรภ์ ทุก 1-2 ชม. 4. ขณะรอคลอด เรง่ คลอด ในระยะ Active phase ประเมนิ การหดรดั ตวั ของมดลกู และเฝ้าระวงั การเตน้ ของหวั ใจทารกในครรภ์ ทุก 15-30 นาที รว่ มกบั การประเมนิ การเปิดของปากมดลกู เพอ่ื รายงานแพทยเ์ ป็นระยะ 5. กรณพี บความผดิ ปกติ รายงานแพทยท์ นั ที 6. อธบิ ายใหผ้ ปู้ ่วยและญาตริ บั ทราบแนวทางการคลอด ความเสย่ี ง และมสี ว่ นร่วมในการตดั สนิ ใจเพอ่ื คลอด 7. เตรยี มอปุ กรณ์ เคร่อื งมอื ในการชว่ ยชวี ติ ทารกแรกเกดิ 8. รบั เดก็ แกเ้ ดก็ ทนั ทภี ายหลงั คลอด โดยทมี แพทยแ์ ละพยาบาลเฉพาะทาง โดยใชแ้ บบประเมนิ Nursing assessment fore in newborn กรณีพบเดก็ สงสยั Preterm ใชแ้ บบประเมนิ Ballard score 9. มที มี และหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เช่น F3(ward เดก็ ), X-ray, ER ทพ่ี รอ้ มใหค้ วามชว่ ยเหลอื สง่ ต่อหรอื Refer ไดท้ นั ที 10. กรณีเดก็ คลอดปกติ ดแู ลต่อในหอ้ งคลอด 3 ชม.

39 Effective triage PSG-SPM-039 Definition แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั Triage การประเมนิ เพ่อื จาแนกผรู้ บั บรกิ ารและจดั ลาดบั Medication record ใหผ้ ปู้ ่วยฉุกเฉนิ ไดร้ บั การปฏบิ ตั กิ ารฉุกเฉินตามลาดบั ความเรง่ ดว่ นทางการแพทยฉ์ ุกเฉิน เป้ าหมาย เพ่อื ช่วยใหผ้ ปู้ ่วยทม่ี ภี าวะคุกคามชวี ติ ไดร้ บั การรกั ษาอย่างทนั ที เรง่ ด่วนไดร้ บั การดแู ลเป็นอนั ดบั แรกและผปู้ ่วยฉุกเฉินไม่รนุ แรง ไดร้ บั การดแู ลเป็นลาดบั และไดพ้ บแพทยเ์ ฉพาะทางเพอ่ื การ วนิ ิจฉยั ทร่ี วดเรว็ กระบวนการ 1. สีแดง แรกรบั ผปู้ ่วยทม่ี ภี าวะหวั ใจหยุดเตน้ /อตั ราการเตน้ ของหวั ใจน้อยกวา่ 40 หรอื มากกวา่ 150 - ภาวะทางเดนิ หายใจถูกอดุ อนั้ ทแ่ี สดงอาการ /ภาวะหายใจ Air Hunger O2 sat น้อยกวา่ 90% /มภี าวะซกั 2. สีชมพู ผปู้ ่วยทม่ี อี าการเจบ็ หน้าอกเหมอื นมอี ะไรมาทบั /ผปู้ ่วยกล่มุ fast track สง่ ER - ประเมณิ จากมอี าการเสย่ี ง ซมึ ปวดกระสบั กระสา่ ย PS มากกวา่ 7 /ผปู้ ่วยเดก็ อายุน้อยกวา่ 3 เดอื นทม่ี ไี ขส้ งู มากกวา่ 38 องศา ใหส้ ง่ เขา้ ตรวจทE่ี R 3. สีเหลอื ง ผปู้ ่วยทค่ี วามดนั สงู มากกว่า BP 200/120mmHg มอี าการปวดศรี ษะรนุ แรงสง่ เขา้ ER - ผปู้ ่วยบาดเจบ็ ทศ่ี รี ษะทม่ี รี ะดบั ความรสู้ กึ ตวั 10-13 /ภาวะลกู ตาแตก ภาวะสญู เสยี การมองเหน็ ฉบั พลนั ผูป้ ่วยไฟไหมห้ รอื น้ารอ้ น ลวกมากกว่า 25% สง่ เขา้ ER 4. สีเขียว ผปู้ ่วยทมี อี าการเลก็ น้อย แต่ไม่มภี าวะเรง่ ดว่ นทางการแพทย์ กลุ่มทม่ี อี าการปวดแต่ดไู มร่ ุนแรง PS/1-5 สามารถ รอตรวจท่ี OPD ได้ - ผปู้ ่วยความดนั สงู BP180/110mmHg แต่ไม่มอี าการอะไรเลยสามารถรอตรวจท่ี OPD ได้ 5.สีขาว ผปู้ ่วย F/U ขอใบรบั รองแพทยส์ มคั รงาน ขอตรวจสขุ ภาพประจาปี PROCEDURE พยาบาลTriage 1. ประเมนิ ลกั ษณะทางกายภาพเพอ่ื ดคู วามคกุ คามถงึ ชวี ติ อยา่ งรวดเรว็ ภายใน 3-5 วนิ าทตี าม ABCD 2. ประเมนิ หาอาการของโรคตดิ ต่อรา้ ยแรงถา้ พบรบี ใสอ่ ุปกรณ์ป้องกนั ทนั ที 3. ซกั ถามอาการเจบ็ ป่วย/บาดเจบ็ ประเมนิ ร่างกาย V/S ควรซกั ถามจากผปู้ ่วยโดยตรง 4. พยาบาล Triage ใสเ่ คร่อื งหมายสตี ามความรุนแรง 5. สง่ ผปู้ ่วยเขา้ รบั การรกั ษาตามลาดบั ความรนุ แรง 6. ดแู ลใหก้ ารพยาบาลเบอ้ื งตน้ กบั ผปู้ ่วยในพน้ื ทร่ี อตรวจ 7. ตดิ ตามประเมนิ อาการซา้ ก่อน Admit หรอื D/C กลบั บา้ น

40 DRESSING PSG-SPM-040 Definition การเลอื กอุปกรณ์ทาแผลใหเ้ หมาะสมกบั ชนดิ ของแผลและเพอ่ื ความสวยงามและภาพลกั ษณ์ของผปู้ ่ วย เป้ าหมาย แหล่งข้อมลู ตวั ชี้วดั เพอ่ื ใหแ้ ผลมภี าวะทด่ี แี ละเหมาะสมกบั การหาย แผลตดิ เชอ้ื ของแผลและชว่ ยดดู ซมึ สารคดั หลงั่ ป้องกนั ไมใ่ ห้ ผปู้ ่วยกลบั มาทาแผลซ้าจากแผลหลดุ แผลปนเป้ือนเชอ้ื โรค หลกั การเลือกอปุ กรณ์ทา แผล แผลแบง่ เป็น 2 ชนิด 1. แผลSuture 2. แผลถลอก PROCEDURE 1. การเตรยี มอุปกรณ์และจดั ทา่ ผปู้ ่วยใหส้ ะดวกในการทาแผลลา้ งแผล 2. การลา้ งแผลชนดิ แหง้ แผลเยบ็ ใชส้ าลAี lcoholเชด็ รอบแผลวน จากดา้ นในออกดา้ นนอก2-3 cmและใชส้ าลชี ุบน้ายาทใ่ี ชใ้ นการ ลา้ งแผลเชด็ ตรงแผลใหส้ ะอาดปิดก๊อซและพลาสเตอรต์ ามความ เหมาะสมกบั ตาแหน่งนนั้ ๆ 3. การลา้ งแผลชนดิ เปียกทาความสะอาดแผลรอบนอกเหมอื นชนดิ แหง้ เชด็ ทาความ สะอาดแผลดา้ นในดว้ ยสาลชี ุบNSSลา้ งแผลเชด็ จนสะอาดและใชส้ าลชี บุ น้ายาฆา่ เชอ้ื ปิดดว้ ยSofa tulle/SI-Herbปิดก๊อซพนั แผลดว้ ยอุปกรณ์ตามความเหมาะสม

41 Waste management PSG-SPM-041 Definition หมายถงึ สงิ่ ของเหลอื ทง้ิ จากกระบวนการผลติ และอุปโภคซง่ึ เส่อื มสภาพจนใชก้ ารไมไ่ ดห้ รอื ไม่ตอ้ งการใชแ้ ลว้ บางชนดิ เป็นของแขง็ หรอื กากเสยี เป้ าหมาย แหล่งข้อมูลตวั ชี้วดั เพ่อื เป็นการคดั แยกขยะ ณ จดุ เกดิ เหตุไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง รายงานอุบตั กิ ารณ์ กระบวนการ ขยะติดเชื้อ