แผนพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) โดย นางสาวปัณชดา ไชยมงคล ตาแหน่ง ครู คศ.1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยีโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชยี งใหม่ สงั กัดสานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก คานา ตามท่ี ก.ค.ศ.ได้กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพครู (ว22/2560) เม่ือวันท่ี 5 กรกฎาคม2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตามแบบ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด พรอ้ มทั้งจัด ทาแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตามแบบท่สี ว่ นราชการกาหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง ฉะน้ัน ก่อนจะเลือกหลักสูตรคูปอง ครูจะต้องประเมินตนเอง จัดทาแผนพฒั นาตนเอง เพ่ือใหผ้ ู้บริหารอนมุ ัติหลักสูตร ตาม ID Plan สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้ดาเนินการโครงการพัฒนาครูแบบครบวงจร ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการปฏิรูประบบการพัฒนาครู เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) มีนโยบายพัฒนาครูเพื่อเชื่อมโยงกับวิทยฐานะ โดยจัดสรรงบประมาณให้ข้าราชการครู คนละ 10,000 บาทต่อไป สาหรับการอบรมพัฒนาตนเองในหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรองและ สพฐ.คัดเลือกหลักสูตรการพัฒนา สาหรับปีงบประมาณ 2561 น้ี กาหนดการเริม่ ให้ครูแสดงความตอ้ งการพัฒนาตนเองในหลักสูตรที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาตนเอง (ID Plan) ในระหว่างวันท่ี 25 เมษายน – 2 พฤษภาคม2561 และเริ่มเข้ารับการอบรมตั้งแต่วันท่ี 30 มิถุนายน – 16 กันยายน 2561 ซ่ึงในระหว่างนี้ จะมีแนวปฏิบัติของครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา และหน่วยพัฒนาตามแนวทางท่ี สพฐ.ได้จัดประชุมชี้แจงเมื่อวนั ที่ 10 เมษายน 2561 ทผ่ี ่านมา ดังนั้นครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual DevelopmentPlanning : IDP) เพ่ือเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าท่ีที่มีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการพัฒนาที่ต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่มี ีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏิบัตงิ าน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครมู อื อาชพี ท่มี มี าตรฐานในการปฏิบัตงิ านอยา่ งแท้จริงสามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาสู่ความเปน็ วชิ าชีพตอ่ ไป ลงช่อื ผ้รู ายงาน (นางสาวปัณชดา ไชยมงคล) ตาแหนง่ ครู คศ.1 31 พฤษภาคม 2561
สารบัญ ขเรือ่ งส่วนที่ 1 ขอ้ มูลผู้จัดทาแผนพัฒนาตนเอง หน้า 1 1. งานในหนา้ ทท่ี ี่รบั ผดิ ชอบ 2. งานทีไ่ ดร้ บั หมอบหมาย 1 3. ผลงานที่เกิดจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ในตาแหนง่ ปจั จุบนั 2 2 3.1 ผลที่เกดิ จากการจดั การเรียนรู้ 2 3.2 ผลทีเ่ กิดจากการพัฒนาวิชาการ 2 3.3 ผลที่เกดิ กับผเู้ รียน 3 3.4 ผลท่เี กิดกับสถานศึกษา 3 3.5 ผลท่ีเกดิ กับชุมชน 3สว่ นที่ 2 ผลการประเมนิ ตนเอง 14ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. 14ตอนที่ 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศกึ ษาตามจุดเน้นของ สพฐ. 15ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันครุ ุพฒั นา 16สว่ นที่ 3 แผนการพฒั นาตนเอง 17 1. อันดับความสาคัญ / สมรรถนะท่ีจะพัฒนา 17 2. วิธีการ /รูปแบบการพัฒนา 17 3. ระยะเวลาในการพัฒนา 17 4. การขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงาน 18 5. ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ บั 18 6. ความเหน็ ของผ้บู ังคับบัญชา 19 7. ประวัตกิ ารเขา้ รับการพัฒนา (ในรอบ 2 ปี ทผ่ี ่านมา) 20ส่วนที่ 4 ความตอ้ งการในการพัฒนา (กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี) 21 1. หลกั สูตรใดท่ที า่ นต้องการพัฒนา 21 2. เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเขา้ รบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี 22 3. ท่านคาดหวังสงิ่ ใดจากการเขา้ รบั การพัฒนาในหลกั สูตรนี้ 22 4. ทา่ นจะนาความรู้จากหลกั สตู รไปพฒั นาการสอนของทา่ นอยา่ งไร 22
ค
1 แผนการพัฒนาตนเองสาหรบั ครู ( Individual Development Plan : ID Plan )ส่วนที่ 1 ข้อมูลสว่ นบุคคลชื่อ นางสาวปัณชดา ช่อื สกุล ไชยมงคล วิทยฐานะ -ตาแหนง่ ครู คศ.1 วชิ าโท -วฒุ ิการศึกษา ศึกษาศาสตร์บัณฑิตปรญิ ญาตรี สาขาวิชาเอก คหกรรมศาสตร์ปรญิ ญาโท สาขาวชิ าเอก ประถมศึกษาเขา้ รบั ราชการวันที่ 20 เดือน เมษายน พ.ศ. 2553ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 สังกัด สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษอายุราชการจนถึงปัจจุบัน 8 ปี 2 เดือนเงนิ เดือน อนั ดับ คศ. - อตั ราเงนิ เดือน 24,290.- บาทอายกุ ารทางาน 8 ปี 2 เดือนสถานที่ทางาน สังกัด สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษโรงเรยี น ราชประชานุเคราะห์ 31สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการทอี่ ยู่ที่สามารถติดต่อได้ เลขที่ 99 หมู่ 10 ถนน - ตาบล ช่างเคง่ิอาเภอ แม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ โทรศพั ทม์ ือถอื 098-155359211. งานในหนา้ ท่ที รี่ บั ผดิ ชอบ การงานอาชพี และเทคโนโลยี 1.1. กลมุ่ สาระการเรียนร้ทู ส่ี อน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ ภาคเรยี นที่ 1 รหสั วิชา ระดับชน้ั จานวนชัว่ โมง จานวนชัว่ โมงท่ี รายวชิ า / สปั ดาห์ /ภาคเรยี น1. ขนมไทย ง 22280 มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-3 4 802. เทคโนโลยีขนมอบ 1 ง............... มธั ยมศึกษาปีที่ 4 5 1003. งานบริการอาหารและเคร่อื งด่ืม ง 32263 มัธยมศึกษาปที ่ี 5 4 804. เบเกอร่ี ง.............. มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 4 80กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น มัธยมศึกษาตอนตน้ 2 404. กิจกรรมชุมนมุ /ลดเวลาเรียน – เพ่ิมเวลารู้
5. กิจกรรมลูกเสอื / เนตรนารี มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 2 26. กิจกรรมบู รณ าการสวนพ ฤกษ ศาสตร์ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/3 2 40 40 โรงเรยี น 23 รวมช่ัวโมงทงั้ ส้นิ 4601.2 สรปุ ผลงานในหนา้ ท่ีทีร่ ับผดิ ชอบ - ช่วั โมงสอนตามตารางสอน 23 ชวั่ โมง / ปกี ารศึกษา - ช่ัวโมงสนับสนนุ การจดั การเรียนรู้ - ชัว่ โมง - ชั่วโมงการมสี ่วนรว่ มในชุมชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (PLC) 5 ชว่ั โมง - ชวั่ โมงงานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น 10 ชว่ั โมง - ช่วั โมงการอบรมพัฒนาตามคปู อง 32 ชัว่ โมง2. งานทีไ่ ด้รับมอบหมายเป็นงานพิเศษ ดังนี้ (เชน่ ) 2.1 ครทู ่ปี รกึ ษาชน้ั ศกึ ษาศกึ ษาปีที่ 5/32.2 หัวหน้ากลมุ่ สง่ เสริมงานวิชาการ2.3 หวั หน้างานทวศิ กึ ษา2.4 หัวหนา้ เวรประจาวัน2.5 เวรพัฒนาวันเสาร์2.6 งานโภชนาการ3. ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีในตาแหน่งปัจจบุ นั (ยอ้ นหลังไมเ่ กนิ 5 ปี)3.1 ผลทเ่ี กดิ จากการจดั การเรยี นรู้ 3.1.1 ร่วมกับคณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์หลักสูตร จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ และนาแผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใชใ้ นการจดั ประสบการณ์ใหก้ บั นักเรียน3.1.2 ครูมีการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญโดยใช้ส่ือทห่ี ลากหลาย เนน้ กระบวนการคิด3.1.3 มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง โดยใชเ้ ครื่องมืออย่างหลากหลายและนา ผลไปใช้ในการพัฒนาผเู้ รยี นได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยร่วมกับคณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย วเิ คราะห์หลักสตู ร จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ และนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ลงมือปฏิบัติจริง มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย โดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึก โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ ทักษะกระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทั้งน้ีเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนท้ัง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ
3สติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งน้ีเพ่ือให้นักเรียนมีพัฒนาการท่ีดี มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตลอดจนมีการบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการสอนอยา่ งสมา่ เสมอ ทั้งนีเ้ พ่อื จะไดช้ ว่ ยแกไ้ ขขอ้ บกพร่องใหก้ ับนกั เรยี นท่ีมปี ญั หา 3.2 ผลที่เกดิ จากการพฒั นาวชิ าการ 3.2.1 มีการจดั หา พฒั นา ประยุกต์ใช้ส่ือนวัตกรรมในการจัดการเรยี นรู้ สามารถนาไปใชไ้ ด้ผลดี 3.2.2 การใชค้ วามคิดเชิงระบบในการพัฒนางานอย่างครบวงจร และมปี ระสิทธภิ าพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 3.2.3 การนาความรดู้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาระบบการจดั การเรียนรู้ได้ 3.2.4 การส่งเสริมการคดิ ทเ่ี นน้ ผลคุณภาพท่ีตวั ผ้เู รียน 3.2.5 การนาวธิ ีการวจิ ัยและพฒั นามาแก้ปัญหา พรอ้ มท้งั พัฒนางานอย่างครบวงจร ผลท่ีเกิดจากการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาการ ส่งผลให้ตนเองได้รับการปรับวุฒิการศึกษาให้สูงขึ้น โดยพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมความมีวินัยในตนเอง ซ่ึงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตลอดจนได้รว่ มพัฒนาบุคลากรในโรงเรียน มกี ารจัดประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารเพื่อขยายผลจากการเข้าร่วมการอบรมเพ่ือเพิ่มพูนความรู้ในงานตา่ งๆ ท่ีทางเขตพื้นที่จัดข้ึนและหน่วยงานต่างๆ โรงเรียนมีการเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึนโดยบุคลากรในโรงเรียน และโรงเรียนเปน็ ที่ยอมรับของบุคคลท่วั ไปและหนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้อง โดยมีการเผยแพร่ผลงานทางด้านวิชาการ นอกจากน้ันโรงเรยี นยงั สนับสนนุ และสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ ลากรได้พฒั นาส่อื และนวัตกรรม 3.3 ผลที่เกดิ กบั ผู้เรียน 3.3.1 นักเรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และมคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามสถานศึกษากาหนด 3.3.2 นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นผ่านเกณฑ์กาหนดของโรงเรยี น 3.3.3 นกั เรยี นได้รับการพฒั นาทนั ต่อความก้าวหนา้ ทางวิชาการและการเปลีย่ นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คม การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการ ปฏิบัติจริง เพ่ือให้นักเรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมท่ีดีงาม ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มีความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร และการมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซ่ึงเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถนาความรู้ความเข้าใจและทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันเป็นการเพ่ิมพูนสมรรถนะตนเองให้มากข้ึนและส่งผลให้การใช้ชีวิตภายหน้าบนพนื้ ฐานคุณธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจพอเพยี ง ตลอดจนการอย่รู ่วมกันในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข 3.4 ผลทเี่ กดิ กบั สถานศึกษา 3.4.1 สถานศึกษาได้รับการสนับสนุนจากผปู้ กครอง ชมุ นมุ หน่วยงาน องคก์ รต่าง ๆ 3.4.2 มบี รรยากาศท้ังในและนอกหอ้ งเรยี นทีเ่ อ้ือต่อการเรียนรู้ของครูและผเู้ รยี น 3.4.3 เปน็ แหล่งเรียนรขู้ องสถานศึกษาหรือหนว่ ยงานต่างๆ 3.4.4 การนิเทศตดิ ตามผลการปฏิบตั ิงานของครูทาให้การปฏิบัตงิ านมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตามเวลาที่กาหนด 3.4.5 มรี ะบบการทางานเปน็ ทมี มากขน้ึ 3.4.6 มแี นวปฏบิ ตั ดิ า้ นเอกสาร หลกั ฐานทางการศึกษาท่ีถกู ต้อง 3.4.7 การพัฒนางานมรี ะบบถกู ตอ้ งและครบวงจร
4 จากการท่ีสถานศึกษามีการวางแผนปฏิบัติราชการในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดาเนินงานเพ่ือพัฒนาสถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการปฏิบัตกิ ิจกรรม ทาให้ผลการดาเนนิ งานเปน็ ที่ยอมรบั ของผูป้ กครอง ชุมชน ทอ้ งถน่ิ 3.5 ผลท่ีเกิดกับชมุ ชน 3.5.1 ครู ผบู้ รหิ าร และผูป้ กครอง มีการประชมุ ทกุ ภาคเรยี น 3.5.2 ครู และผบู้ ริหารรว่ มกจิ กรรมสาคัญในชุมชนอย่างสม่าเสมอ 3.5.3 โรงเรียนให้บรกิ ารแหลง่ เรยี นรู้แก่ชมุ ชนในดา้ นตา่ ง ๆ รวมท้งั สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้ชมุ ชนมคี วามเขม้ แขง็ 3.5.4 ชมุ ชนให้ความร่วมมอื และสนบั สนนุ กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนดว้ ยดี สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่างๆตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์การทอดผ้าป่า ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ กิจกรรมวันสาคัญ ได้แก่ กิจกรรมวันแม่ กิจกรรมสง่ เสริมภูมิปัญญาท้องถนิ่ จนทาให้เกิดความร่วมมือ ความเข้าใจที่ดีต่อกนั เกิดความรักและความภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อช้ีแจงนโยบายของโรงเรียนและเพื่อหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียนทั้งพัฒนาอาคารสถานท่ีและพฒั นาทางวิชาการใหเ้ ปน็ ไปในทางทิศทางเดียวกนั
รายละเอียดการพฒั นาตนเอง อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา วิธกี าร /ความสาคญั รปู แบบการพัฒนา สมรรถนะหลัก1 การม่งุ ผลสมั ฤทธ์ิ - จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทีเ่ น้นผเู้ รียน 1.1 ความสามารถในการ เป็นสาคญั วางแผน การ ปฏิบตั ิงาน - จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทเี่ น้นให้ 1.2 ความสามารถในการ ผู้เรียนได้ปฏิบตั ิจริง - จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชส้ ่อื / ปฏบิ ัตงิ าน 1.3 ผลการปฏบิ ตั ิงาน นวัตกรรมท่ีน่าสนใจทั้งทางเทคโนโลยีและ แหล่งเรียนรู้2 การบรกิ ารท่ีดี ได้ให้บริการทางวชิ าการแกค่ รูและ บคุ ลากรทางการศึกษาทงั้ ในโรงเรยี น และนอกโรงเรยี นเพื่อเปน็ การเผยแพ ผลงานวิชาการ3 การพฒั นาตนเอง 3.1 ความสามารถในการ - เข้ารับการอบรม สัมมนาที่ วิเคราะห์ตนเอง หนว่ ยงานต้นสงั กัดหน่วยงานอืน่ ๆ 3.2 ความสามารถในการ จดั ขน้ึ
ระยะเวลาในการ การขอรบั การ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั พฒั นา สนบั สนุนจาก หน่วยงานเรมิ่ ตน้ สน้ิ สุด16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น - ผู้เรยี นใหส้ นใจ ตัง้ ใจ มคี วาม2561 2562 กระตือรือรน้ ทีจ่ ะเรียนรู้ มีผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี นทีด่ ขี ้นึ มีทกั ษะในการ ปฏบิ ัติกิจกรรมตามศักยภาพของแต่ละ บุคคล ตลอดปี ตลอดปี เกิดผลดีตอ่ เพ่ือนร่วมงานในโรงเรียนน การศกึ ษา การศึกษา โรงเรยี น และต่างโรงเรยี น เพื่อนามาพัฒนาการพร่ เรยี นการสอนตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเป็นผู้มีคณุ ภาพ ไดร้ บั การพัฒนาการศกึ ษา การศึกษา ไปในทิศทางท่ดี ขี นึ้ ส่งผลและเกิด ประโยชน์ต่อผู้เรยี นโรงเรียน 4
อันดับ สมรรถนะท่จี ะพัฒนา วธิ กี าร /ความสาคญั รปู แบบการพัฒนา ใช้ภาษาไทยเพื่อการ - ศกึ ษาดูงานโรงเรียนตน้ แบบ ส่ือสาร บุคลากรตน้ แบบเพ่ือนามาพัฒนา ตนเอง 3.3 ความสามารถในการ - แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั บคุ ลากรใน ใชภ้ าษาองั กฤษเพื่อ โรงเรยี น การแสวงหาความรู้ - ศกึ ษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการ จากตารา วารสาร 3.4 ความสามารถในการ - สบื คน้ ความรทู้ างอนิ เตอรเ์ น็ต ติดตามความ เคล่อื นไหวทาง วชิ าการและวชิ าชพี 3.5 ความสามารถในการ ประมวลความรู้และ การนาความรู้ไปใช้
ระยะเวลาในการ การขอรับการ ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั พฒั นา สนบั สนนุ จาก หนว่ ยงานเร่ิมต้น สนิ้ สุด
อนั ดบั สมรรถนะที่จะพัฒนา วิธีการ /ความสาคัญ รปู แบบการพฒั นา4 การทางานเป็นทีม 4.1 ความสามารถในการ - รว่ มกิจกรรมทเี่ น้นการทางานเปน็ วางแผนเพือ่ การ ทมี ปฏิบตั งิ านเป็นทมี - ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของเพ่ือน 4.2 ความสามารถในการ ร่วมงาน โดยรู้จกั การเป็นผใู้ ห้และ ปฏิบตั งิ านร่วมกัน ผู้รบั ทดี่ ี - มีความสามคั คีในหมู่คณะ5 สมรรถนะประจาสายงาน การจัดการเรียนรู้ - เขา้ รบั การอบรม สัมมนา ศึกษาดู 5.1 ความสามารถในการ งาน ศกึ ษาเอกสารเกี่ยวกบั หลักสตู ร สร้างและพฒั นา การออกแบบการเรียนรู้ การเขียน หลกั สูตร แผนการจัดประสบการณ์ การวัดผล ประเมินผลเพ่ือพฒั นาตนเอง 5.2 ความสามารถใน เน้อื หาสาระท่สี อน 5.3 ความสามารถในการ - เข้ารับการอบรมเก่ียวกับการผลิตส จดั กระบวนการเรยี นรู้ การใชส้ ่ือประเภท ICT ทีห่ น่วยงานจ ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ ขนึ้ ทกุ ๆ ครั้ง สาคญั
ระยะเวลาในการ การขอรับการ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ ับ พฒั นา สนบั สนนุ จาก หนว่ ยงานเรม่ิ ต้น สิน้ สดุตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน เกิดความสามัคคีในหมคู่ ณะ ส่งผลให้การศกึ ษา การศึกษา การดาเนนิ งานต่าง ๆ บรรลผุ ลสาเร็จ ตลอดจนการมีความสขุ ในการ ปฏบิ ตั ิงาน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถในการจัด 5 การศึกษา การศึกษา กจิ กรรมการเรียนรู้ โดยมีความรเู้ รอื่ ง การเขยี นแผนการจดั ประสบการณ์สือ่ การวดั ผลประเมินผล ตลอดจนการจัด ผลติ สอื่ การใช้สื่อ ประเภท ICT ส่งผล ต่อการจดั กิจกรรมใหก้ บั ผู้เรียนอย่าง สงู สดุ
อนั ดบั สมรรถนะท่ีจะพัฒนา วธิ กี าร /ความสาคญั รูปแบบการพฒั นา 5.4 ความสามารถในการ ใช้และพัฒนา นวตั กรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ เพือ่ จัดการเรียนรู้ 5.5 ความสามารถในการ วดั และประเมนิ ผลการ เรยี นรู้6 การพฒั นาผ้เู รียน 6.1 การปลกู ฝงั คุณธรรม - จดั กิจกรรมส่งเสริม ปลูกฝัง จริยธรรมแกผ่ ู้เรียน คณุ ธรรม จริยธรรมทีด่ ีงามให้กับ 6.2 การส่งเสรมิ กจิ กรรม ผเู้ รียนอยูเ่ สมอโดยการอบรมหน้าเสา ธง กจิ กรรมโฮมรมู กจิ กรรมสุด ความคิด วิเคราะห์ ผู้เรยี น 6.3 การส่งเสรมิ ทักษะและ สปั ดาห์การเลา่ นทิ านสง่ เสริม กระบวนการ คณุ ธรรม - สง่ เสริมผเู้ รยี นตามความถนัด ความ ส่ามารถแต่ละบุคคล
ระยะเวลาในการ การขอรบั การ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ พฒั นา สนบั สนนุ จาก หน่วยงาน เรมิ่ ต้น สิ้นสุด ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและ การศกึ ษา การศกึ ษา คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ มที ักษะชวี ติา เปน็ ที่ยอมรบั ของสงั คม 6ม
อนั ดับ สมรรถนะท่ีจะพัฒนา วธิ ีการ /ความสาคญั รปู แบบการพฒั นา7 การบ ริห ารจัดการช้ั น - จัดบรรยากาศในช้ันเรยี นให้เอื้อต่อ เรียน การเรยี นรู้ - จัดมุมประสบการณ์ต่าง ๆเพ่อื ให้ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ - จดั ป้ายนิเทศเพ่ือเปน็ ขอ้ มูล ขา่ วสา สาหรับการเรยี นรู้ - จัดทาเอกสารงานธุรการในชน้ั เรียน ใหเ้ ป็นปัจจุบัน - จดั ระบบการดแู ลชว่ ยเหลือผ้เู รยี น และนาข้อมูลไปใชใ้ นการพฒั นา ผ้เู รียน8 การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัยในชน้ั เรยี น - เข้ารับการอบรม พัฒนาการจดั 8.1 ความสามารถในการ วิเคราะห์ กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดทาส่อื การ เรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพของครแู ละ 8.2 ความสามารถในการ ผ้เู รยี น สงั เคราะห์ - ศึกษาเอกสาร ตาราในการจัดทา
ระยะเวลาในการ การขอรับการ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ พัฒนา สนับสนนุ จาก เร่ิมต้น สิน้ สดุ หนว่ ยงาน ตลอดปี ตลอดปี หอ้ งเรียนมบี รรยากาศที่เอื้อต่อการ การศกึ ษา การศกึ ษา โรงเรียน เรยี นรู้ ผเู้ รยี นมคี วามสขุ ในการเรียนรู้ ครูมีข้อมลู ต่าง ๆ อยา่ งเป็นปัจจบุ ันที่ สามารถเป็นแบบอย่างได้ารน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน - ครูมีความรคู้ วามสามารถในการเขยี น 7 การศกึ ษา การศกึ ษา ผลงานทางวชิ าการและวิจัยในชน้ั เรียนะ แบบงา่ ยได้ - ผู้เรียนได้รับการแก้ปัญหาที่ถกู วิธีโดย ครทู าการวจิ ัยในช้ันเรยี น
อนั ดับ สมรรถนะท่ีจะพัฒนา วิธกี าร /ความสาคญั รปู แบบการพัฒนา 8.3 ความสามารถในการ เอกสารทางวิชาการ เขียนเอกสารทาง - ศึกษาผลงานตวั อย่างในการทา วิชาการ ผลงานทางวิชาการ 8.4 ความสามารถในการ - ดาเนินการวจิ ัยในช้นั เรยี นเพื่อ วจิ ยั แก้ปญั หาตลอดจนพัฒนาผ้เู รียน9 การสร้างความรว่ มมือกับ ชมุ ชน 9.1 ความสามารถในการ - ดาเนนิ การประชุมผปู้ กครอง / นาชุมชนมามสี ว่ นร่วม ในกิจกรรมของ กรรมการสถานศึกษาเพ่อื ชแี้ จง สถานศึกษา นโยบาย แนวทางการจดั กจิ กรรมของ 9.2 ความสามารถในการ สถานศึกษา เขา้ รว่ มกิจกรรมของ - ขอความร่วมมือจากชมุ ชนบาง ชมุ ชน โอกาส - เขา้ รว่ มกิจกรรมของชุมชนทุก ๆ ครง้ั ทง้ั งานประเพณีและกจิ กรรมที่ เปน็ ประโยชน์
ระยะเวลาในการ การขอรับการ พัฒนา สนบั สนุนจาก ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ หนว่ ยงานเรม่ิ ต้น สิ้นสดุ - ครูมกี ารทาวิจยั ในชั้นเรียนอยา่ ง ต่อเน่ือง ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน - ชุมชนใหค้ วามร่วมมอื ในกจิ กรรมตา่ ง การศึกษา การศึกษา ๆ ท่สี ถานศึกษาจัดขน้ึ อยา่ งเต็มใจ - ชมุ ชนมีความพึงพอใจในกจิ กรรมท่ีง ผ้เู รยี น และสถานศึกษาจัดขนึ้ 8
อนั ดับ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา วธิ กี าร /ความสาคญั รปู แบบการพัฒนา10 วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 10.1 การมีวนิ ยั - เข้ารับการอบรมพฒั นาด้าน 10.2 การประพฤตปิ ฏิบตั ิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี - ประพฤติปฏิบตั ิตนในการดารงชีวติ 10.3 การดารงชวี ิตอยา่ ง เหมาะสม 10.4 ความรกั และศรัทธา โดยยึดหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ในวชิ าชีพ - ประพฤตปิ ฏิบัติตนในวชิ าชีพโดยรกั 10.5 ความรบั ผิดชอบใน และศรทั ธาในวิชาชีพของตนเอง โดย วิชาชพี มวี นิ ยั ในตนเอง
ระยะเวลาในการ การขอรบั การ ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ บั พฒั นา สนับสนนุ จาก หน่วยงานเริ่มต้น สิ้นสดุ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม มี การศึกษา การศกึ ษา วินยั มคี วามรบั ผิดชอบ มี ความกา้ วหนา้ ในวิชาชีพท่สี งู ย่ิงๆขน้ึตงกย 9
ตารางสรุปแผนพัฒนาตนเองที่ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วิธีการ / รปู แบบการพัฒนา1 การจดั การเรยี นรู้ - เขา้ รบั การอบรม สมั มนา ศึกษาดงู าน ศึกษา เอกสารเกย่ี วกับหลักสตู รการออกแบบการเรยี นรู้ การเขียนแผนการจัดประสบการณ์ การวดั ผล ประเมินผลเพ่ือพฒั นาตนเอง - เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการผลติ สอื่ การใชส้ อื่ ประเภท ICT ท่หี นว่ ยงานจัดขึ้นทกุ ๆ คร้ัง2 การพัฒนาผเู้ รียน - จัดกิจกรรมสง่ เสริม ปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมที่ด งามใหก้ ับผูเ้ รยี นอยเู่ สมอโดยการอบรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมสดุ สัปดาหก์ ารเล่านิทาน ส่งเสริมคณุ ธรรม - ส่งเสรมิ ผ้เู รยี นตามความถนัด ความสามารถ3 การบ ริห ารจัดการชั้น - จดั บรรยากาศในชัน้ เรยี นให้เอ้ือต่อการเรียนรู้เรียน - จัดมุมประสบการณต์ า่ ง ๆ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นร - จัดปา้ ยนิเทศเพ่อื เป็นขอ้ มลู ข่าวสารสาหรบั การเรยี นรู้
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับ เร่ิมต้น สน้ิ สดุ ตลอดปี ตลอดปี งบประมาณ ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั การศกึ ษา การศึกษา สนับสนุนจากดี ตลอดปี ตลอดปี หนว่ ยงาน การศึกษา การศึกษา โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยมคี วามร้เู ร่ือง การเขียนแผนการจัดประสบการณ์ การ วัดผลประเมนิ ผล ตลอดจนการผลติ สอ่ื การใช้สือ่ ประเภท ICT สง่ ผลตอ่ การ จัดกิจกรรมให้กับผู้เรยี นอย่างสงู สดุ โรงเรยี น ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ มีทักษะชีวติ เป็นทยี่ อมรับของสงั คม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน หอ้ งเรียนมบี รรยากาศที่เอื้อต่อการรู้ การศึกษา การศกึ ษา เรยี นรู้ ผูเ้ รยี นมคี วามสุขในการเรยี นรู้ ครมู ขี ้อมูลตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ ปัจจบุ ันที่ 10
ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วธิ กี าร / รูปแบบการพฒั นา4 การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ - จดั ทาเอกสารงานธรุ การในชน้ั เรียนให้เปน็ ปจั จบุ ัน - จดั ระบบการดแู ลช่วยเหลือผูเ้ รยี นและนาข้อมลู ไป ใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียน - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ใหผ้ เู้ รยี นได้ปฏิบตั ิจรงิ - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้ส่อื นวตั กรรมที่ นา่ สนใจทงั้ ทางเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้5 การพัฒนาตนเอง - เข้ารับการอบรม สมั มนาทีห่ น่วยงานตน้ สงั กดั หน่วยงานอน่ื ๆจดั ขนึ้ - ศกึ ษาดงู านโรงเรยี นต้นแบบ บุคลากรตน้ แบบเพื่อ นามาพฒั นาตนเอง -แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ับบุคลากรในโรงเรยี น -ศกึ ษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจากตารา วารสา - สบื คน้ ความรู้ทางอนิ เตอรเ์ น็ต6 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ - เข้ารบั การอบรม พฒั นาการจัดกจิ กรรมการเรยี นร
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับ เร่มิ ต้น งบประมาณ ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั สิน้ สุด สนับสนุนจาก หน่วยงานน สามารถเปน็ แบบอย่างได้ป 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรยี น - ผเู้ รยี นใหส้ นใจ ตงั้ ใจ มคี วามง 2561 2562 กระตือรอื ร้นทีจ่ ะเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นทดี่ ขี ้ึน มีทกั ษะในการ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามศักยภาพของแตล่ ะ การศึกษา การศึกษา บุคคลอ ตนเองเป็นผู้มีคุณภาพ ได้รบั การพฒั นา ไปในทิศทางทดี่ ขี น้ึ ส่งผลและเกดิ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี นโรงเรียนาร - ครมู คี วามรู้ความสามารถในการรู้ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา วิธีการ / รปู แบบการพัฒนาและการวิจยั ในชั้นเรียน จัดทาส่อื การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาคุณภาพของครูและ ผูเ้ รียน - ศกึ ษาเอกสาร ตาราในการจัดทาเอกสารทาง วิชาการ - ศึกษาผลงานตัวอย่างในการทาผลงานทางวชิ าการ - ดาเนินการวจิ ัยในช้นั เรียนเพอ่ื แกป้ ญั หาตลอดจน พัฒนาผู้เรียน7 การทางานเป็นทมี - รว่ มกจิ กรรมท่เี น้นการทางานเปน็ ทมี - ยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของเพอ่ื นรว่ มงาน โดยรจู้ กั การเป็นผูใ้ หแ้ ละผูร้ ับที่ดี - มคี วามสามคั คีในหมู่คณะ8 วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม - เขา้ รับการอบรมพัฒนาดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี อย่างน้อยปีละ 1 คร้งั - ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นในการดารงชีวิตโดยยดึ หลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง - ประพฤติปฏิบัตติ นในวิชาชพี โดยรักและศรทั ธาใน
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับ ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ เริ่มต้น สิ้นสุด งบประมาณ การศกึ ษา การศกึ ษา สนับสนนุ จาก เขยี นผลงานทางวชิ าการและวจิ ัยใน หนว่ ยงาน ชัน้ เรียนแบบงา่ ยได้ร - ผูเ้ รียนได้รับการแกป้ ัญหาท่ีถูกวิธี โดยครทู าการวิจยั ในช้นั เรียน - ครูมกี ารทาวจิ ัยในช้นั เรียนอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง 11 ตลอดปี ตลอดปี เกดิ ความสามัคคีในหม่คู ณะ สง่ ผลให้ก การศึกษา การศกึ ษา โรงเรยี น การดาเนนิ งานต่างๆบรรลุผลสาเรจ็ ตลอดจนการมีความสขุ ในการ ตลอดปี ตลอดปี ปฏิบัติงาน การศกึ ษา การศึกษา โรงเรียน ตนเองเป็นผ้ทู ่ีมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มี วินยั มีความรบั ผดิ ชอบ มี ความกา้ วหน้าในวชิ าชีพท่สี ูงย่ิงๆขึ้น
ที่ สมรรถนะที่จะพฒั นา วธิ กี าร / รปู แบบการพัฒนา วชิ าชพี ของตนเอง โดยมวี นิ ัยในตนเอง9 การบริการทด่ี ี ได้ใหบ้ ริการทางวชิ าการแก่ครูและบคุ ลากรทางการ ศึกษาท้ังในโรงเรียนและนอกโรงเรียนเพอื่ เป็นการ เผยแพร่ผลงานวชิ าการ10 การสร้างความร่วมมือกับ - ดาเนินการประชมุ ผ้ปู กครอง /กรรมการชุมชน สถานศกึ ษาเพ่ือช้ีแจงนโยบาย แนวทางการจัด กจิ กรรมของสถานศึกษา - ขอความรว่ มมือจากชมุ ชนบางโอกาส - เขา้ รว่ มกิจกรรมของชุมชนทุกๆครงั้ ทัง้ งานประเพณ และกจิ กรรมทเี่ ปน็ ประโยชน์ลงช่ือ ( นางสาวปณั ชดา ไชยมงคล ) ผู้จัดทาแผนพฒั นาตนเอง
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรบั ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ บัเรม่ิ ต้น ส้นิ สุด งบประมาณ สนบั สนนุ จาก หน่วยงาน ตลอดปี ตลอดปี เกดิ ผลดีต่อเพอื่ นร่วมงานในโรงเรียน การศึกษา การศึกษา โรงเรยี น และต่างโรงเรียน เพื่อนามาพัฒนาการ ตลอดปี ตลอดปี การศกึ ษา การศึกษา โรงเรยี น เรยี นการสอนณี - ชมุ ชนใหค้ วามร่วมมอื ในกจิ กรรม ตา่ งๆที่สถานศกึ ษาจัดขึน้ อยา่ งเตม็ ใจ - ชมุ ชนมคี วามพึงพอใจในกิจกรรมที่ ผเู้ รยี น และสถานศึกษาจัดข้นึ 12ความเหน็ ของผ้บู ังคบั บัญชา ลงช่ือ ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
14ส่วนที่ 2 ผลการประเมนิ ตนเองตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา (ก.ค.ศ.) ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงานในหน้าที่ รายการพจิ ารณา ระดบั ความรู้1. เนอื้ หา ในรายวิชา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทีส่ อน มาก ปานกลาง น้อย 2. วิธีสอน ถ่ายทอดความรู้เชิงเนื้อหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ ความรู้พืน้ ฐาน การปรบั พ้ืนฐาน และอุปสรรคการเรยี นร้ขู องผู้เรียน3. หลกั การสอน และกระบวนการเรยี นรู้ 4. หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมิน และแนวทางการเรียนรู้ในแต่ ละเนอ้ื หา5. พื้นฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยาสังคม นโยบาย การศึกษา จดุ มุ่งหมายการจดั การศึกษาต้ังแต่ระดบั ชาติจนถงึ ระดบั หลกั สตู ร6. การจดั การศึกษาแบบรวม และการตอบสนองตอ่ ความหลากหลายของผู้เรยี น 7. ทฤษฎีการเรียนรู้ และจิตวิทยาการเรยี นรู้ 8. การใชเ้ ทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพอ่ื การเรยี นรู้ 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นท่ี 2 ทักษะการปฏิบัติงาน ระดบั ความรู้ รายการพิจารณา ทาได้ดี ทาได้ปานกลาง ไมค่ อ่ ยทา 1. การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร 2. การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 3. การจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ 4. กลยทุ ธ์ในการจัดการเรียนรู้ 5. การสรา้ งและการพัฒนาสอื่ นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษาและแหลง่ เรียนรู้ 6. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
15ดา้ นที่ 3 ความเป็นครู รายการพิจารณา ระดบั ความรู้1. ยึดมั่น ผูกพนั ศรัทธาในวชิ าชีพ และทุ่มเทเพื่อการเรียนรขู้ องผเู้ รียน สูงมาก ปานกลาง ปรับปรุง 2. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ผู้เรียน ทั้งกาย วาจา และจิตใจ ดารงตนให้เป็นที่เคารพ ศรัทธา และน่าเช่ือถือทั้งใน และนอกสถานศึกษา3. ปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณวชิ าชีพครู 4. มีวนิ ัยและการรักษาวินัย 5. เป็นบุคคลแห่งการเรยี นรู้ ปรบั ปรุง และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง ให้มคี วามรู้ ความชานาญในวิชาชพี เพม่ิ ข้ึน6. ปฏบิ ัตติ นโดยนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ 7. มีทศั นคตทิ ี่ดีต่อบา้ นเมือง ตอนท่ี 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายการศักยภาพผ้เู รยี นตามจดุ เน้น ระดับความรู้1. ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง สูงมาก ปานกลาง ปรับปรงุ2. ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคลอ่ ง 3. ด้านการคิดข้นั พ้ืนฐาน 4. ด้านการคิดขัน้ สูง5. ดา้ นการส่ือสารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวัย 6. ด้านการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 7. ดา้ นการใช้เทคโนโลยเี พ่อื การเรยี นรู้8. ด้านการแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเอง 9. ด้านใฝเ่ รยี นรู้ 10. ดา้ นใฝ่ดี 11. ด้านทกั ษะชีวิต 12. ดา้ นอยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่ันในการศกึ ษาและการทางาน
16ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถาบันครุ ุพัฒนา รายการศกั ยภาพผูเ้ รยี นตามจดุ เนน้ ระดบั ความรู้1. การสอนในศตวรรษที่ 21 สงู มาก ปานกลาง ปรับปรุง2. การแก้ปัญหาผเู้ รียน 3. จิตวทิ ยาการแนะแนว/จติ วิทยาการจัดการเรียนรู้ 4. การจดั การชั้นเรยี น 5. การวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู างวชิ าชีพ 6. การพฒั นาหลักสตู ร 7. สะเต็มศึกษา(STEM Education) 8. การใช้สือ่ และเทคโนโลยีในการจดั การเรยี น 9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 10. การออกแบบการเรียนรู้ สรปุ ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. อยู่ในระดับดี มีการพัฒนาหลักสูตร ออกแบบการจัดการเรียนรู้ ยึดมั่น ผูกพัน ศรัทธาในวิชาชีพ และทุ่มเทเพ่ือการเรียนรู้ของผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ผู้เรียน ท้ังกาย วาจา และจิตใจ ดารงตนให้เป็นที่เคารพ ศรัทธา และน่าเช่ือถือทั้งใน และนอกสถานศึกษา เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความชานาญในวิชาชีพเพิ่มขนึ้ และปฏิบตั ิตนโดยนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ ตอนท่ี 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. อยู่ในระดับปานกลาง และในส่วนทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ คือ ดา้ นการคดิ ขน้ั สงู และดา้ นการใช้ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสตู รของสถาบนั คุรพุ ัฒนา อยใู่ นระดบั ปานกลาง จึงควรเขา้ รับการอบรมเพอ่ื พัฒนาความรคู้ วามสามารถ และนามาปรบั ใชใ้ นการจัดการเรียนร้ใู ห้กบั นักเรียนต่อไป
17สว่ นที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง1. อันดบั ความสาคัญ / สมรรถนะท่ีจะพัฒนา ใหใ้ ส่หมายเลขเรยี งตามลาดบั ความสาคัญของสมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา ( 1 ) การสอนในศตวรรษท่ี 21 ( 7 ) การแกป้ ัญหาผู้เรยี น ( 2 ) จติ วิทยาการแนะแนว/จติ วทิ ยาการจดั การเรียนรู้ ( 3 ) การจัดการชนั้ เรียน ( 4 ) การวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู างวชิ าชีพ ( 8 ) การพฒั นาหลกั สตู ร ( 6 ) สะเต็มศึกษา (STEM Education) ( 5 ) การใช้สอื่ และเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ ( 9 ) การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ( 10 ) การออกแบบการเรยี นรู้2. วิธีการ /รูปแบบการพัฒนา วิธีการท่ี 1 ภาควิชาการ ซึ่งจะเป็นการศึกษาหาความรู้ในเน้ือหาที่จะได้ใช้ในห้องเรียนจริงๆ โดยยึดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานเป็นหลัก เป็นความรู้ใหม่ท่ีเกิดจากการประยุกต์ความรู้เชิงวิชาการสู่การปฏิบัติจริงในห้องเรียน ประเด็นในการพัฒนาครอบคลุมทั้งเรื่อง หลักสูตร การเรียนการสอน สื่อ การวัดผล และการวิจัย เช่ือมโยงยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี และเปา้ หมายผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 หรือแผนการศึกษา พ.ศ. 2560-2579 วิธีการท่ี 2 ภาคปฏิบัตกิ าร จะเน้นให้ได้รับการสร้างความเข้าใจแบบเข้ม การเรียนรู้ท่ีเกิดจากการคิดวิเคราะห์สงั เคราะห์ คิดขนั้ สูง ด้วยการทบทวนความรู้ (Review) การสะท้อนคิด (Reflection) และการถอดบทเรียน (AAR) ดว้ ยกิจกรรมการสร้างปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างครทู ีเ่ ข้ารับการพัฒนาและกับคณะวิทยากร เป็นกล่มุ ย่อย มวี ทิ ยากรประจากลมุ่ ทุกกลุ่ม ซ่ึงจะดูแลผู้เข้ารบั การพัฒนาให้ได้ฝึกทักษะการออกแบบเส้นทางคณุ ภาพผู้เรียนสอดคล้องกับหลกั สูตร/เป้าหมายศตวรรษท่ี 21 ได้ออกแบบเสน้ ทางกระบวนการเรียนรู้อย่างไรก่อนสรา้ งนวัตกรรม และแสดงถึงมีวิธีการวัดผล/สะท้อนผลหลงั จากนาไปใชก้ ับผูเ้ รยี นเพือ่ ยอ้ นกลับนามาปรบั ปรุงกระบวนการจดั การเรียนรู้ทีส่ อดคล้องกบั ผ้เู รียนต่อไป วิธีการที่ 3 ภาคนิทรรศการ จะเป็นการศึกษาจากกรณีตัวอย่างการปฏิบัติ/ส่ือ-นวัตกรรมท่ีดี ท่ีผ่านการบูรณาการทฤษฎีและการปฏิบัติสู่การพัฒนานักเรียนจริง มีการสาธิตแนวปฏิบัติ/ส่ือ-นวัตกรรมท่ีดี และฝึกนาส่ือ/วิธีปฏิบัติ/นวัตกรรมตัวอย่าง ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ ถอดบทเรียน เพื่อประกอบการเขียนเค้าโครงการพัฒนากระบวนการ/ส่ือ/นวตั กรรมนั้นๆ ท่จี ะแสดงให้เห็นว่าจะมผี ลสาเร็จอย่างย่ังยืน วิธีการท่ี 4 การสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ – ได้ร่วมสร้างการเรียนรู้ในระหว่างการฝึกอบรมด้วยการเรียนรู้จากคู่พัฒนา (Buddy) การแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Share and Learn) ในกลุ่มย่อย การสะท้อนคิด (Reflection)การถอดบทเรยี น (AAR) และการ Coaching & Mentoring จาก Mentor/Expert เพ่ือให้
18สามารถสร้างสรรค์ สรปุ องค์ความรู้ที่ผสมผสานระหว่างองค์ความรู้จากทฤษฎี และองค์ความรู้จากประสบการณ์สู่การปฏิบัติในช้ันเรียนได้ โดยทางานร่วมกับคณะวิทยากรหลังการอบรมผ่านระบบออนไลน์ ด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรวู้ ิชาชีพ (PLC) อย่างตอ่ เน่อื ง3. ระยะเวลาในการพัฒนา เริ่มต้น 16 พฤษภาคม 2561 สิน้ สดุ 31 มนี าคม 25624. การขอรับการสนบั สนุนจากหน่วยงาน 4.1 ขอรับการสนบั สนุนด้านงบประมาณจากโครงการพัฒนาครูแบบครบวงจร 10,000 บาท5. ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั 5.1 ผลลัพธ์ท่ีคาดหวงั ด้านความรู้ : เกิดการเรียนรู้ นาผลการพัฒนาสู่การเปลี่ยนแปลงผู้เรียน และนาประสบการณ์เข้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่เพ่ือนร่วมวิชาชีพ จนเกิดองค์ความรู้ท่ีได้จากการเข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ทักษะ : มีความสามารถบูรณาการความรู้สู่การปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพสรา้ งนวัตกรรมจากการปฏิบัติท่สี ง่ ผลต่อคุณภาพของผเู้ รียน และสรา้ งนวัตกรรมท่ีไดจ้ ากการเข้าร่วมในชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี และพฒั นานวตั กรรมให้เปน็ ต้นแบบการเรียนรู้แก่เพ่ือนรว่ มวิชาชีพ ความเป็นครู : เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างวฒั นธรรมทางการเรยี นร้ใู นสถานศกึ ษา และเป็นผ้นู าการเปลี่ยนแปลงตอ่ วงการวิชาชพี 5.2 ผลการนาไปใช้ในการพัฒนางาน คือการนาความรู้และทักษะที่ได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงในห้องเรียนของตนเอง ดงั นี้ 5.2.1 นาเสนอแผนการจัดกิจกรรมแบบคู่พฒั นา (Buddy) 1 แผน จัดใหเ้ พือ่ นครู หรือหวั หน้าฝ่ายวิชาการ หรือรองผู้อานวยการโรงเรียน ให้ข้อเสนอแนะ (Comment) แล้วนาไปปรับปรุงแผนการจัดกิจกรรมใหม่จากน้ันจึงรายงานผ่านไลน์กลุ่มของหน่วยพัฒนา (นิติบุคคล) หจก.เพื่อครู เพื่อให้วิทยากรหลัก/วิทยากรพ่ีเล้ียง ให้การCoaching 5.2.2 นาแผนการจดั กจิ กรรมทปี่ รับใหม่แล้ว ไปสอนจริงในหอ้ งเรยี น โดยมเี พื่อนครู หรือหัวหน้าฝา่ ยวิชาการ หรือรองผู้อานวยการโรงเรียน ไปเย่ยี มช้ันเรียน ถ่ายภาพ หรือคลิปการสอน ท่เี ห็นภาพการเยี่ยมช้ันเรียน ภาพการจัดกิจกรรมตามข้ันตอนในแผนการจัดกิจกรรม และภาพผลงานการเรียนรู้ของผู้เรียน จากน้ันนามาถอดบทเรียนรว่ มกับผูเ้ ยี่ยมช้ันเรียน สง่ ข้อมูลผา่ นระบบออนไลน์ (Line/ Facebook) 5.3 การสรา้ งชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ PLC Online เครอื ข่ายระดับชาติ หลังจากเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรท่ีสถาบันคุรุพัฒนาอนุมัติแล้ว จะเข้าร่วมปฏิบัติการกิจกรรมการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เครือข่ายระดับชาติ ซึ่งจะได้ปฏิบัติกิจกรรมสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับสมาชิกจากทั่วประเทศ กลุ่มละ 8 – 10 คน/คร้ัง ในระยะเวลาละ 3 เดือน ตามขั้นตอนกิจกรรม PLC 7 ข้ัน ภายใต้การกากับดูแล
19ตลอดการปฏิบัติกิจกรรมและเติมเต็มความรู้ทางวิชาการไปพร้อมกันของ Mentor & Expert เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมในชุมชนวิชาชีพของ ก.ค.ศ. ซึ่งสมาชิกสามารถนับเป็นชั่วโมงการปฏิบัติงานโดยมีร่องรอยหลักฐานการปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือให้หน่วยพัฒนาครู (นิติบุคคล) หจก.เพื่อครู รับรองช่ัวโมง PLC เพื่อใช้เป็นร่องรอยในการบันทึกในระบบบนั ทึก (Logbook) ของ ก.ค.ศ. ได้ในอนาคต ลงช่อื ( นางสาวปวริศา ก๋าวงค์วิน ) ตาแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ผจู้ ดั ทาแผนพัฒนาตนเอง6. ความเหน็ ของผู้บงั คบั บญั ชา ลงชอ่ื ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชปรานเุ คราะห์ 31
20
7. ประวัติการเข้ารบั การพัฒนา (ในรอบ 5 ปี ทผ่ี า่ นมา)ที่ เรือ่ ง หนว่ ยงาน จานวน หมายเหตุ ชัว่ โมงปีการศึกษา 25591 การอบรมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการจัก กลุ่มเครอื ขา่ ยสง่ เสรมิ 24กจิ กรรมสะเต็มศึกษาและลดเวลาเรียน ประสิทธภิ าพ การจดั การศึกษาเพม่ิ เวลารู้ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ภาคเหนือ2 อบรมเชญิ ปฏิบัตกิ าร โครงการจัดการเรยี น กลุ่มเครอื ขา่ ยส่งเสรมิ 24การสอน เพ่ือพัฒนาผเู้ รยี นพิการเรยี นรวม ประสิทธภิ าพ การจดั การศึกษาในโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ภาคเหนือ3 อบรมโครงการนักธรุ กิจน้อยมีคณุ ธรรม สพฐ. 56นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รนุ่ ท่ี 44 อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ การคัดกรองเด็กพเิ ศษ โรงเรยี นราชประชนุเคราะห์ 31 24เรยี นรวมและสอนเสรมิ วชิ าการปกี ารศกึ ษา 2560 สานักบรหิ ารงานการศึกษา 24 1 ประชุมเชิงปฏบิ ัติการ การจดั การศกึ ษา พิเศษ 24 ระบบทวิศึกษา – ทวภิ าคีสาหรบั เดก็ พิการ และเดก็ ด้อยโอกาส รร.ศึกษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ 2 การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารการจดั ทาหลักสตู รงานอาชพี ภายใต้กรอบโครงการนักธรุ กิจน้อยมคี ุณธรรมนาส่เู ศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์สาหรบั โรงเรยี นในสงั กดั สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ3 อบรมโครงการพัฒนาอาชวี ศึกษาระบบทวิ วทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษา 8ภาคี ปกี ารศึกษา 2560 เชียงใหม่4 อบรมปฏบิ ัติการหลักสตู รการจัดการเรยี น สถาบนั พัฒนาบุคลากรโดย 26 การสอนอัจฉรยิ ะ 4.0 ศตวรรษท่ี 21 ระดับ บริษทั ไอเวิลด์ จากดั ตน้ 26 ชม.
ส่วนท่ี 4 ความต้องการในการพฒั นา (กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี)1. หลกั สูตรใดทีท่ า่ นตอ้ งการพัฒนา รายละเอยี ดลาดบั ที่ รหสั หลกั สตู ร การอบรมเชิงปฏิบตั ิการ เทคนคิ การสอนและการสรา้ งสอื่ การสอน กลุ่มสาระ 1. 612031061-003 การเรียนรู้ภาษาไทย สาหรบั ครูระดับประถมศึกษา สะเต็มศกึ ษากับการจดั การเรยี นรู้ในหอ้ งเรียนระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 2. 613181095-0012. เพราะเหตุใดทา่ นจึงตอ้ งการเขา้ รบั การพฒั นาในหลักสตู รนี้ กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, แผนการศกึ ษาชาติ, นโยบายศธ. และนโยบาย สพฐ. ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ข้อ ข้อ 2.4 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง ข้อ 2.5สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนมที กั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ข้อ 1.2 ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ข้อ 1.3การเรียนรู้ผา่ นกจิ กรรมการปฏบิ ตั จิ รงิ (Active Learning) ข้อ 1.4 การพฒั นาครูท้ังระบบที่เชอื่ มโยงกับการเล่อื นวิทยฐานะ ยุทธศาสตรท์ ี่ 4 ขอ้ 2. การลดความเหลอื่ มล้าทางการศกึ ษา ขอ้ 2.2 สง่ เสรมิ สนับสนุนการใชเ้ ทคโนโลยใี นการจัดการศึกษาให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ีอย่างท่ัวถึง ข้อ 2.7 สนับสนุนการผลิต จัดหา และใช้ส่ือการเรียนการสอน เทคโนโลยีนวตั กรรม3. ทา่ นคาดหวงั ส่งิ ใดจากการเข้ารบั การพฒั นาในหลกั สูตรน้ี 3.1 ได้รับการพัฒนาเรื่องเทคนิคการสอนและการสร้างส่ือการสอนเพ่ือนามาปรับใช้สาหรับการเรียนการสอนในรายวชิ าทข่ี า้ พเจ้าได้รบั ผิดชอบสอนนกั เรยี นทุกระดับชน้ั 3.2 นาระบบสะเต็มศึกษา มาใช้ในการจดั การเรยี นการสอน และบรู ณาการใช้ไดใ้ นทกุ ระดบั ช้นั 3.3 ผู้เข้ารับการพัฒนาจะได้จัดทาแผนพัฒนาตนเอง, สร้างกรอบแนวคิดการพัฒนาผู้เรียน, ฝึกเขียนเค้าโครงและออกแบบขั้นตอนการพัฒนาผลงานทางวชิ าการ, โดยการสร้างความเข้าใจในหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ (ว20/21/22) การถอดบทเรียนความสาเร็จจากตัวอย่างผลงานที่ผ่านการประเมินครูเชี่ยวชาญ ภายใต้การแนะนา (Coaching) จากวิทยากร ครูเชี่ยวชาญ และเข้าชุมชนแหงการเรียนรู้ทางวิชาชีพแลกเปลี่ยน แบ่งปัน (ออนไลน์) ตลอดปี เพ่ือยกระดับมาตรฐานวิทยฐานะในกลมุ่ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี4. ท่านจะนาความรจู้ ากหลักสูตรไปพฒั นาการสอนของท่านอยา่ งไร นาความรู้และทักษะท่ีได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงในห้องเรียนของตนเอง โดยเสนอผลปฏบิ ัตติ ามแผนการจัดกิจกรรมใหส้ อดคล้องกบั วัยของนกั เรียน
บนั ทึกขอ้ ความสว่ นราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ที่ วนั ท่ี 31 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561เร่ือง การรายงานแผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan : ID Plan)เรยี น ผูอ้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ตามทโ่ี รงเรียนไดม้ อบหมายให้คณะครทู ุกคนจัดทาแผนพัฒนาตนเอง ( Id plan ) เพ่อื ใหเ้ กิดการวางแผนในการปฏบิ ตั ิงานให้เกดิ ประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ลเกดิ ผลดีแกต่ นเองและราชการ และเปน็ ไปตามนโยบายขอกระทรวงศึกษาธกิ ารคอื การพัฒนาครทู ้ังระบบตามคปู อง ดังน้ัน ข้าพเจ้า นางสาวปัณชดา ไชยมงคล ได้จัดทาแผนพัฒนาตนเองรายบุคคลประจาปีการศึกษา 2561เรยี บรอ้ ยแลว้ รายละเอยี ดดงั แนบ ลงช่ือ ( นางสาวปณั ชดา ไชยมงคล ) ตาแหนง่ ครู คศ.1ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ลงชอื่ ( นางสาวปัณชดา ไชยมงคล ) ตาแหนง่ ครู คศ.1ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ ลงชื่อ ( นายวิเศษ ฟองตา ) รองผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ความคิดเห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน ลงชื่อ ( นางวิลาวัลย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: