Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนเค้ก2

แผนการสอนเค้ก2

Published by lady-anny1, 2021-03-11 02:53:46

Description: แผนการสอนเค้ก2

Search

Read the Text Version

วช-ร 04 แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชา ผลิตภณั ฑเ คก 2 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 6 เวลาทงั้ หมด 100 ชวั่ โมง จัดทาํ โดย นางสาวปณ ชดา ไชยมงคล ตําแหนง ครู คศ.2 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 ตําบลชางเคงิ่ อาํ เภอแมแ จม จงั หวดั เชยี งใหม สาํ นกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สาํ นกั งานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คําอธิบายรายวชิ า รายวชิ า ผลิตภัณฑเ คก 2 รหัสวชิ าง33237ชน้ั ม.6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 100 ชัว่ โมง จาํ นวน 5.0 หนวยกิต คําอธิบายรายวิชา วัตถุดิบและคณุ สมบัติของวัตถุดิบที่มีผลตอคุณภาพการตกแตงเคก คุณลักษณะและชนิดของ ส่งิ ที่ใชในการตดแตงเคก เทคนิคการเตรียมวัตถุดิบท่ีจะนํามาใชในการตกแตงหนาเคก วิธีการตกแตงหนาเคก ฝกปฎบิ ตั ิตามเนอื้ หา ผลการเรียนรู 1. อธิบายความสําคัญและประเภทของการแตง หนา เคก ได 2. ไดอธบิ ายความสาํ คญั ของเคร่ืองใชแตละชนิดในการแตง หนาเคก ได 3. วัสดุทจี่ ะนํามาตกแตงเคกและขนมอ่นื ๆ ได 4. ฝก ปฏบิ ตั กิ ารแตง หนา เคกดว ยวธิ ีการตา ง ๆ 5. เก็บรกั ษาเคกทต่ี กแตง เสรจ็ แลว ได มาตรฐานการเรียนรู ง 1.1-ม.6/1,ม.6/3,ม.6/5 ง3.1-ม6/2 ง.4.1-ม.6/4,

ผงั มโนทัศน รายวิชา ผลิตภณั ฑเ คก 2 รหัสวชิ า ง33237 ชน้ั ม.6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 100 ชว่ั โมง จาํ นวน 2.0 หนวยกิต ชอ่ื หนว ยความสาํ คญั และประเภทของ ชอื่ หนว ย อปุ กรณแ ละวสั ดุ การแตง หนาเคก ในการแตง หนา เคก จาํ นวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ชั่วโมง : 20 คะแนน รายวิชาผลิตภัณฑเคก 2 ชั้น ม.6 จาํ นวน 80 ช่วั โมง ชอื่ หนว ย การบรรจภุ ณั ฑเ คก ทตี่ กแตง ชอื่ หนว ย ปฏบิ ตั กิ ารแตง หนาเคก จํานวน 8 ชว่ั โมง : 20 คะแนน จํานวน 56 ชวั่ โมง : 70 คะแนน

ผงั มโนทัศน รายวิชา ผลิตภณั ฑเคก 2 รหัสวิชา ง 33237 ระดับชน้ั ม.6 หนวยการเรียนรทู ่ี 1 เร่อื ง ความสาํ คัญและประเภทของการแตง หนาเคก จํานวน 8 ชวั่ โมง : 20 คะแนน ชอ่ื เรอ่ื ง ความสาํ คญั ของการแตง หนาเคก จาํ นวน 4 ชัว่ โมง : 10 คะแนน หนวยการเรียนรทู ่ี 1 เรอื่ ง ความสําคญั และประเภท ของการแตงหนาเคก จาํ นวน 8 ช่ัวโมง ชอื่ เรื่อง ประเภทของการแตง หนา เคก จํานวน 4 ชวั่ โมง : 10 คะแนน

แผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูท ี่ 1 เรือ่ ง ความสาํ คญั และประเภทของการแตงหนา เคก แผนจดั การเรยี นรูที่ 1 เรือ่ ง ความสาํ คัญของการแตงหนาเคก รายวิชา ผลติ ภัณฑเ คก 2 รหสั วิชา ………………….ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 ปการศึกษา 2563 น้ําหนักเวลาเรยี น 2.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 4 ชว่ั โมง/สัปดาห เวลาที่ใชใ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาํ คัญ (ความเขาใจที่คงทน) การแตง หนาเคก นนั้ ถอื วาเปนศาสตรแ ขนงหนงึ่ เลยทเี ดยี ว เพราะการแตง หนา เคก นั้นตองอาศัยทง้ั ประสบการณ ความรู ความคิดสรางสรรค คน ควาหาสง่ิ ใหมๆ มาประยกุ ตใชและตกแตง หนา เคก ไดอ ยาง สวยงาม การที่จะเปนผมู ฝี อมือ และผเู ชย่ี วชาญทางศลิ ปะแขนงน้จี ําเปน ทจี่ ะตองใชค วามอดทนเปนอยาง สูง เพราะตอ งอาศยั เวลา ความรูและท่ีสาํ คญั คือตองมีใจรักในสงิ่ ที่ทาํ อยูด ว ย ถาขาดความรักในสิง่ ทีท่ าํ ตรงหนาตอใหมคี วามสามารถเพียงใด ผลทอ่ี อกมายอมเทยี บกบั สง่ิ ทที่ าํ ออกมาดว ยใจไมไดเลย มีชางทาํ ขนม เปน จาํ นวนมากที่ทําขนมเคกไดอรอย แตยังไมค อยประสบความสําเรจ็ ในการแตง หนาเคก อาจจะเปน เพราะ ขาดความรู ประสบการณท่มี สี วนจําเปนในการแตง หนาเคก การที่จะเปนผทู ีเ่ ชย่ี วชาญในการตกแตง หนา เคก นนั้ จาํ เปนท่ีจะตองมีความรพู นื้ ฐานซงึ่ จะชว ยใหผทู ําประสบความสําเร็จในศลิ ปะแขนงนี้ 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชี้วดั ชน้ั ป/ผลการเรยี นรู/ เปาหมายการเรยี นรู ผลการเรยี นรู อธิบายความสําคัญและประเภทของการแตง หนา เคก ได 3. สาระการเรียนรู 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge - ความสําคัญของการแตงหนาเคก - ประเภทของการแตงหนา เคก 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - 3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค : Attitude - ใฝเ รียนรู - มงุ มัน่ ในการทํางาน 4. สมรรถนะสาํ คัญของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด

5. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม 6. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค 1. ใฝเ รยี นรู 2. มุง มนั่ ในการทาํ งาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบงานที่ 1 เร่ือง เขียนสรปุ ความสําคัญของการแตงหนา เคก - ใบงานที่ 2 เรื่อง เขยี นผงั ประเภทของการแตงหนา เคก 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ขัน้ นําเขาสบู ทเรียน/ข้นั ตั้งคําถาม ( 1 ช่ัวโมง ) 1. ทําความเขาใจและช้แี จงสาระการเรียนรูใหนกั เรยี นทราบในหนว ยการเรียนรูเรือ่ งความสาํ คญั และ ประเภทของการแตงหนาเคก นกั เรยี นจะตองเรียนรเู กย่ี วกับเคร่ืองมอื เครอ่ื งใชแ ละวัสดุทีส่ ามารถ นาํ มาแตงหนาเคก 2. ทําแบบทดสอบกอนเรยี น 10 ขอ ทําการตรวจและแจงใหผเู รยี นทราบคะแนน ขน้ั สอน ชั่วโมงที่ (1- 4) 1. ใหน ร.ดูรปู เคก แบบตางๆท่ีไดตกแตง สวยงาม 10 รปู 2. ให นร.แบง กลมุ คิด ประโยชนของการแตง หนา เคก ใหไดม ากทสี่ ุด สง ตัวแทนนําเสนอ เวลา 30 นาที 3. ครใู ห นร.ศึกษาใบความรเู รื่องความสําคัญของการแตงหนา เคก และรว มกันสรปุ ประโยชนและ ความสําคัญของการแตง หนาเคก 3. ใหน กั เรียนทําใบงานเรือ่ ง สรปุ ความสาํ คัญของการแตงหนา เคก ชั่วโมงที่ ( 5-8 ) ข้ันสรปุ และประเมนิ ผล ( 1 ช่วั โมง ) 1. นกั เรยี นรวบรวมงานสงครูและ ทาํ แบบทดสอบหลังเรยี น 9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหลงเรียนรู รายการส่อื จํานวน สภาพการใชส อื่ 1. แบบทดสอบกอ นเรียน 1 ชุด ข้ันตรวจสอบความรูเดิม 2. ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง วัสดุทน่ี าํ มาใชต กแตงหนา 1 ชดุ ขนั้ สรางความสนใจ เคกและขนมอ่ืน

3. แบบฝกทักษะ 1 เรอื่ ง เครือ่ งมือเครื่องใชและ 1 ชุด ข้ันขยายความรู วัสดทุ ส่ี ามารถนาํ มาแตงหนาเคก 10. การวัดผลและประเมินผล เปา หมาย หลกั ฐานการเรียนรู ประเดน็ / การเรียนรู ชนิ้ งาน/ภาระงาน แบบทดสอบกอนเรียน วธิ วี ัด เครือ่ งมือวัดฯ เกณฑก ารให 1.ผูเรียนบอก ความสําคญั ของ ใบกิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง คะแนน เคร่อื งมือเครื่องใชใน วสั ดทุ ่นี าํ มาใชตก การแตงหนา เคก แตงหนา เคกและขนม นักเรียนทํา แบบทดสอบกอนเรียน คะแนนเต็ม 10 2.ผูเรยี นบอก อ่นื ประเภทของวัสดุที่ แบบฝก ทักษะ เร่ือง แบบทดสอบกอน เรื่อง เคร่ืองมือเคร่ืองใช คะแนน นาํ มาใชตกแตงหนา เครื่องมือเครื่องใชแ ละ เคกและขนมอ่ืนๆได วัสดุทีส่ ามารถนํามา เรียน และวัสดทุ ่ีสามารถนํามา แตงหนา เคก แตง หนาเคก แบบทดสอบหลังเรียน นกั เรยี นทําใบ ใบกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง วัสดุ นกั เรียนทําใบ กจิ กรรมเสร็จตาม ท่ีนํามาใชต กแตง หนา เคก กจิ กรรมเสรจ็ ตาม เวลาทก่ี าํ หนดและ และขนมอืน่ เวลาท่ีกาํ หนดและ ถูกตอง ถกู ตอง นกั เรียนแตละ แบบฝก ทกั ษะ เรื่อง นักเรยี นแตล ะกลมุ กลมุ ศกึ ษาชุดฝก เครอื่ งมือเครือ่ งใชและ ศึกษาชดุ ฝกทกั ษะ ทักษะแลว ทําตาม วัสดทุ ีส่ ามารถนาํ มา แลวทาํ ตามคําสง่ั คําส่ัง ใหเ สรจ็ แตง หนาเคก ใหเสร็จภายในเวลา ภายในเวลาท่ี ทก่ี ําหนด กําหนด นกั เรยี นทํา แบบทดสอบกอ นเรยี น เกณฑผ าน 5 แบบบทดสอบ เรื่อง เคร่ืองมือเคร่ืองใช คะแนนข้นึ ไป หลังเรียน และวสั ดุท่ีสามารถนํามา แตง หนาเคก

11. จุดเนนของโรงเรียน การบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ รงเรยี น ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ผูเรียน 1. ความพอประมาณ พอดีดานเทคโนโลยี พอดีดานจิตใจ 2. ความมีเหตุผล รจู กั ใชเ ทคโนโลยมี าผลติ ส่อื ท่เี หมาะสม มจี ติ สาํ นกึ ท่ดี ี เอ้อื อาทร ประนีประนอม 3. มภี มู คิ มุ กนั ในตัวท่ีดี และสอดคลอ งเนื้อหาเปน ประโยชนตอ นึกถงึ ประโยชนส วนรวม/กลมุ 4. เงอื่ นไขความรู ผูเรยี นและพัฒนาจากภมู ปิ ญ ญาของผูเรยี น ไมหยดุ น่งิ ที่หาหนทางในชวี ิต หลดุ พนจาก 5. เง่ือนไขคณุ ธรรม - ยึดถือการประกอบอาชีพดว ยความ ความทกุ ขยาก (การคนหาคําตอบเพอ่ื ให ถกู ตอง สุจรติ แมจะตกอยใู นภาวะขาด หลุดพน จากความไมร)ู แคลน ในการดาํ รงชีวติ - ปฏบิ ตั ติ นในแนวทางทด่ี ี ลด เลกิ ส่ิงยั่ว ภมู ปิ ญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ กเิ ลสใหห มดส้นิ ไป ไมกอความชวั่ ให เปน ระมดั ระวัง สรา งสรรค เครื่องทําลายตวั เอง ทําลายผอู ื่น พยายาม เพิม่ พูนรักษาความดี ที่มอี ยใู หงอกงาม ภมู ิธรรม : ซ่ือสัตย สุจรติ ขยนั อดทน สมบรู ณย ง่ิ ขึน้ ตรงตอเวลา เสยี สละและ ภมู ิปญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ แบง ปน ระมัดระวงั ความรอบรู เรื่อง เรอ่ื ง เครอื่ งมือ ภูมธิ รรม : ซ่อื สัตย สุจริต ขยนั อดทน เครื่องใชแ ละวัสดุทีส่ ามารถนํามาแตงหนา เคก กรณีทเี่ กิดงาน ปริมาณที่เกยี่ วของ การ ตรงตอ เวลาและแบงปน คาํ นวณสตู รทตี่ องใช สามารถนาํ ความรู เหลา น้ันมาพจิ ารณาใหเชือ่ มโยงกนั สามารถ ความรอบรู เรอื่ ง เร่ือง เคร่อื งมอื ประยกุ ตใชในชีวิตประจําวนั เคร่อื งใชแ ละวัสดุท่ีสามารถนํามาแตงหนา เคกท่ีเก่ียวของรอบดาน ความรอบคอบท่ีจะ นําความรเู หลา น้ันมาพจิ ารณาใหเชอื่ มโยง กนั เพ่อื ประกอบการวางแผน การ ดาํ เนนิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรใู หก ับ ผเู รยี น มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ ซื่อสตั ยส จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ซือ่ สตั ยส จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใชส ติปญญาในการดาํ เนนิ ชวี ติ ใชส ติปญญาในการดําเนนิ ชวี ติ ลงชื่อ..................................................ผูสอน ( นางสาวปณชดา ไชยมงคล ตําแหนง ครู คศ.1



ผงั มโนทัศน รายวิชา ผลิตภณั ฑเคก 2 รหัสวิชา ง 33237 ระดับช้ัน ม.6 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรือ่ ง อปุ กรณและวัสด่ีใชในการแตงหนาเคก จาํ นวน 12 ชวั่ โมง : 20 คะแนน ชอ่ื เรอ่ื ง อปุ กรณทใ ชในการแตง หนา เคก จํานวน 4 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หนว ยการเรยี นรูท ี่ 2 เรอ่ื ง ความสําคัญและประเภท ของการแตงหนาเคก จํานวน 8 ชั่วโมง ชอ่ื เรือ่ ง วสั ดุทใี่ ชใ นการแตง หนา เคก จํานวน 4 ชว่ั โมง : 10 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ่ี 2 เร่ือง อุปกรณแ ละวสั ดุทใี่ ชในการแตง หนา เคก แผนจัดการเรียนรูท่ี 3 เรื่อง เครอ่ื งมือเครอ่ื งใชใ นการแตง หนา เคก รายวชิ า ผลิตภณั ฑเ คก 2 รหสั วิชา ………………….ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศึกษา 2563 น้ําหนักเวลาเรียน 2.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชว่ั โมง/สัปดาห เวลาท่ีใชใ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคัญ (ความเขาใจทีค่ งทน) เคร่อื งมอื เครอื่ งใชม บี ทบาทสาํ คญั เปน อยางย่ิง อุปกรณใ นการชง่ั และตวงน้ันมีความสําคัญในเร่อื งของ การควบคุมปริมาณการใชสว นผสมตางๆ ใหเปน ไปตามสูตรการผลิต ทําใหป รมิ าณทใี่ ชอยูใ นสดั สว นของสูตร สมดลุ อันมผี ลตอคุณภาพสุดทา ยของผลติ ภณั ฑขนมอบใหเปนทีย่ อมรับของผบู ริโภค สวนอุปกรณท ี่ใชในการ วดั จะมีความสําคญั ในการชวยควบคมุ ปจ จัยการผลิตใหเปนไปในสภาวะที่เหมาะสม เชน การใชเทอรโมมเิ ตอร ในการวดั อุณหภูมิเพื่อควบคุมอณุ หภมู ใิ นชว งการผสม การหมกั และการอบ เปน ตน ดังนั้นการใชอุปกรณใ น การชง่ั ตวง และวัดอยา งถกู ตองเหมาะสมก็จะชว ยใหไ ดผลิตภัณฑท ี่ดมี ีคุณภาพตามมา 2. มาตรฐานการเรียนรู/ ตัวชี้วดั ชนั้ ป/ ผลการเรียนร/ู เปาหมายการเรยี นรู ผลการเรยี นรู 1.ผเู รยี นบอกความสําคัญของเครอื่ งมอื เครื่องใชใ นการแตง หนาเคก 3. สาระการเรียนรู 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge - ความสาํ คัญของเครื่องมือเคร่ืองใชในการแตงหนา เคก 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - การเลือกใชว สั ดุอปุ กรณอยางเหมาะสม 3.3 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค : Attitude - ใฝเ รียนรู - มุง มน่ั ในการทํางาน 4. สมรรถนะสาํ คญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ

- ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค 1. ใฝเ รยี นรู 2. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง วัสดทุ ีน่ าํ มาใชตกแตงหนาเคกและขนมอืน่ - แบบฝกทักษะที่ 1 เรื่อง เคร่ืองมอื เครอ่ื งใชแ ละวสั ดทุ สี่ ามารถนาํ มาแตงหนาเคก 8. กิจกรรมการเรียนรู ขนั้ นําเขา สบู ทเรียน/ข้นั ตั้งคาํ ถาม ( 1 ช่ัวโมง ) 4. ทาํ ความเขาใจและชี้แจงสาระการเรยี นรใู หนกั เรียนทราบในหนวยการเรยี นรูเรื่องเครื่องมือ เครอ่ื งใชและวสั ดทุ ีส่ ามารถนํามาแตงหนา เคก นักเรียนจะตองเรียนรเู ก่ียวกับเครื่องมือเครอื่ งใช และวัสดทุ ีส่ ามารถนํามาแตงหนา เคก 5. ทาํ แบบทดสอบกอนเรยี น 10 ขอ ทําการตรวจและแจงใหผ ูเรียนทราบคะแนน ขัน้ สอน ( 2 ชว่ั โมง ) 4. แบงกลุม นักเรียน กลมุ ละ 5 คน ครแู จกชุดฝก ทักษะ เรอื่ ง เครือ่ งมือเครื่องใชในการแตงหนาเคก และวสั ดุท่นี าํ มาใชตกแตง หนาเคกใหน ักเรยี นไดศึกษาตามชุดฝก ทักษะ 5. นักเรียนทําใบกิจกรรมตามชุดฝก ทกั ษะสง ภายในเวลาที่กําหนด 30 นาที ออกมานาํ เสนอผล การเรียนรูที่ไดจ ากการทําชุดฝกทกั ษะ 6. สรปุ คาํ ตอบจากผเู รยี น ครผู ูสอนอธิบายเพมิ่ เติม ข้ันสรปุ และประเมินผล ( 1 ชัว่ โมง ) 2. นักเรยี นรวบรวมงานสง ครแู ละ ทําแบบทดสอบหลังเรยี น 9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหลง เรยี นรู รายการสอื่ จาํ นวน สภาพการใชส อื่ 1. แบบทดสอบกอ นเรยี น 1 ชดุ ขน้ั ตรวจสอบความรเู ดิม 2. ใบกจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื ง วัสดุที่นาํ มาใชตกแตงหนา 1 ชดุ ขัน้ สรา งความสนใจ เคกและขนมอ่ืน 3. แบบฝก ทกั ษะ 1 เรอ่ื ง เครือ่ งมือเครื่องใชและ 1 ชุด ข้นั ขยายความรู วสั ดทุ ่สี ามารถนํามาแตงหนาเคก

10. การวัดผลและประเมนิ ผล เปาหมาย หลักฐานการเรียนรู ประเด็น/ การเรียนรู ช้ินงาน/ภาระงาน แบบทดสอบกอ นเรียน วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วัดฯ เกณฑก ารให 1.ผเู รยี นบอก ความสาํ คัญของ ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง คะแนน เครือ่ งมือเครื่องใชใน วสั ดทุ นี่ ํามาใชต ก การแตง หนา เคก แตง หนาเคกและขนม นักเรยี นทํา แบบทดสอบกอ นเรียน คะแนนเต็ม 10 2.ผเู รียนบอก อน่ื ประเภทของวสั ดุที่ แบบฝกทักษะ เรื่อง แบบทดสอบกอน เร่อื ง เคร่ืองมือเครื่องใช คะแนน นาํ มาใชต กแตงหนา เครื่องมือเครอ่ื งใชและ เคกและขนมอื่นๆได วสั ดุที่สามารถนํามา เรยี น และวสั ดุทส่ี ามารถนํามา แตง หนา เคก แตงหนาเคก แบบทดสอบหลังเรยี น นักเรียนทําใบ ใบกจิ กรรมที่ 1 เรือ่ ง วัสดุ นักเรียนทาํ ใบ กิจกรรมเสร็จตาม ทน่ี ํามาใชตกแตง หนาเคก กิจกรรมเสร็จตาม เวลาทกี่ ําหนดและ และขนมอืน่ เวลาท่ีกาํ หนดและ ถกู ตอง ถูกตอง นกั เรียนแตล ะ แบบฝกทกั ษะ เร่ือง นกั เรียนแตล ะกลุม กลมุ ศกึ ษาชดุ ฝก เครอ่ื งมือเครอื่ งใชและ ศึกษาชุดฝก ทกั ษะ ทกั ษะแลว ทาํ ตาม วัสดทุ ่ีสามารถนาํ มา แลว ทาํ ตามคําส่งั คําสงั่ ใหเ สรจ็ แตงหนา เคก ใหเ สร็จภายในเวลา ภายในเวลาที่ ท่กี าํ หนด กําหนด นกั เรยี นทํา แบบทดสอบกอ นเรยี น เกณฑผ า น 5 แบบบทดสอบ เรื่อง เคร่ืองมือเครื่องใช คะแนนข้ึนไป หลงั เรียน และวัสดุที่สามารถนํามา แตงหนา เคก

11. จุดเนน ของโรงเรยี น การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตรโรงเรียน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ผเู รยี น 6. ความพอประมาณ พอดดี า นเทคโนโลยี พอดดี า นจิตใจ 7. ความมเี หตุผล รูจ ักใชเทคโนโลยมี าผลิตสือ่ ทเ่ี หมาะสม มจี ติ สาํ นึกท่ีดี เอ้อื อาทร ประนีประนอม 8. มภี มู คิ มุ กนั ในตวั ท่ดี ี และสอดคลอ งเนื้อหาเปน ประโยชนต อ นกึ ถึงประโยชนสว นรวม/กลมุ 9. เงื่อนไขความรู ผเู รยี นและพัฒนาจากภมู ปิ ญ ญาของผเู รียน ไมหยดุ นิ่งทีห่ าหนทางในชีวิต หลดุ พนจาก 10. เงอื่ นไขคณุ ธรรม - ยดึ ถือการประกอบอาชีพดวยความ ความทุกขย าก (การคน หาคาํ ตอบเพื่อให ถูกตอง สจุ รติ แมจ ะตกอยใู นภาวะขาด หลุดพน จากความไมร )ู แคลน ในการดํารงชีวติ - ปฏบิ ตั ติ นในแนวทางทีด่ ี ลด เลกิ สิ่งย่ัว ภูมปิ ญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ กิเลสใหห มดส้ินไป ไมกอความชั่วให เปน ระมัดระวัง สรา งสรรค เครื่องทําลายตัวเอง ทําลายผูอ่ืน พยายาม เพมิ่ พนู รักษาความดี ทีม่ ีอยใู หงอกงาม ภูมธิ รรม : ซือ่ สัตย สุจริต ขยนั อดทน สมบรู ณยง่ิ ขึน้ ตรงตอเวลา เสยี สละและ ภูมปิ ญ ญา : มคี วามรู รอบคอบ และ แบงปน ระมดั ระวงั ความรอบรู เรอ่ื ง เรือ่ ง เครอื่ งมอื ภูมธิ รรม : ซือ่ สัตย สุจริต ขยันอดทน เคร่อื งใชแ ละวัสดทุ ีส่ ามารถนํามาแตง หนา เคก กรณีทเี่ กิดงาน ปรมิ าณท่เี กยี่ วขอ ง การ ตรงตอ เวลาและแบงปน คํานวณสตู รที่ตองใช สามารถนาํ ความรู เหลา นั้นมาพิจารณาใหเ ช่ือมโยงกัน สามารถ ความรอบรู เรอื่ ง เร่ือง เครือ่ งมือ ประยุกตใ ชใ นชวี ิตประจาํ วัน เครื่องใชและวัสดุทส่ี ามารถนํามาแตงหนา เคก ท่เี กย่ี วขอ งรอบดา น ความรอบคอบท่ีจะ นําความรูเหลา นนั้ มาพิจารณาใหเช่ือมโยง กัน เพื่อประกอบการวางแผน การ ดาํ เนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรใู หกบั ผเู รยี น มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ มคี วามตระหนักใน คณุ ธรรม มีความ ซือ่ สัตยส ุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ซ่อื สัตยส จุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ใชสตปิ ญญาในการดาํ เนินชวี ิต ใชสตปิ ญ ญาในการดาํ เนินชีวติ ลงชอ่ื ..................................................ผูส อน ( นางสาวปณ ชดา ไชยมงคล ตําแหนง ครู คศ.2

ใบกจิ กรรมที่ 1เรื่อง วสั ดุทนี่ ํามาแต่งหน้าเค้ก ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 6 ช่ือ…………………………นามสกุล………………………….……….…………เลขท่ี

คําชี้แจง 1. นักเรียนสรุปองค์ความรู้เกีย่ วกบั วสั ดุทน่ี ํามาตกแต่งเค้กตามใบกจิ กรรม ( 30 นาที ) 2. นักเรียนรวมกลุ่มสรุปองค์ความรู้ของแต่ละคนแล้ว ส่งตัวแทนนําเสนอหน้าช้ันเรียน ( 30 นาที ) ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….

ความรูพนื้ ฐานในการแตง หนา เคก การแตง หนา เคกน้นั ถอื วาเปน ศาสตรแ ขนงหนึ่งเลยทเี ดยี ว เพราะการแตง หนา เคก น้ันตองอาศยั ทั้ง ประสบการณ ความรู ความคิดสรา งสรรค คนควา หาส่ิงใหมๆมาประยกุ ตใชแ ละตกแตง หนา เคกไดอ ยาง สวยงาม การที่จะเปน ผูม ีฝอมอื และผเู ช่ยี วชาญทางศลิ ปะแขนงนจ้ี ําเปนที่จะตอ งใชค วามอดทนเปน อยา ง สงู เพราะตองอาศยั เวลา ความรูและที่สาํ คัญคือตองมีใจรกั ในสิง่ ท่ีทาํ อยูดว ย ถา ขาดความรกั ในสง่ิ ท่ที ํา ตรงหนา ตอใหมีความสามารถเพียงใด ผลทีอ่ อกมายอมเทยี บกับส่งิ ที่ทําออกมาดวยใจไมไดเลย มชี างทาํ ขนม เปน จาํ นวนมากที่ทําขนมเคกไดอ รอย แตย ังไมคอยประสบความสําเรจ็ ในการแตง หนาเคก อาจจะเปน เพราะ ขาดความรู ประสบการณทมี่ สี วนจําเปน ในการแตงหนา เคก การทจ่ี ะเปน ผูที่เชยี่ วชาญในการตกแตงหนา เคกนั้นจาํ เปนที่จะตองมีความรูพนื้ ฐานซึ่งจะชวยใหผ ูทําประสบความสาํ เร็จในศิลปะแขนงน้ี ความรูเบอื้ งตนเกีย่ วกับการแตง หนา เคก คุณควรจะมีความรใู นเรื่องการผสมสบี าง อาจจะไมตอง เชี่ยวชาญ มากนัก แตพอรูเ รื่องของแมสีบา งก็ดี เพราะหนาเคกทส่ี วยงามเกิดจากการผสมสีท่ลี งตัว และสมจริง • ควรมีความรูเกีย่ วกบั ครีมแตงหนา เคก การเตรยี มพรอมกอ นตกแตง การผสมสวนผสมทถ่ี กู ตอง • ความรใู นการใชเคร่ืองมือใหถ ูกตอ งกับการใชง านและความตองการ • ความรูในการดูแลรกั ษาความ สะอาด และการจดั เกบ็ เพ่ือสะดวกในการหยิบออกมาใชงาน • ควรเปน ผมู ีความคดิ สรางสรรค สรรหาส่งิ แปลกๆใหมๆอยูสม่ําเสมอ • มคี วามขยนั อดทน หมน่ั ฝกฝนเพ่ือใหม ีความชํานาญและเพอ่ื ความกาวหนาตอไปในอนาคต • มีใจรกั ในสิง่ ท่ีทํา วสั ดุประเภทตา งๆทใ่ี ชในการแตงหนา เคก หมายถงึ วัสดทุ ่ปี ระดษิ ฐขน้ึ มาเพือ่ ตกแตงเคก สว นใหญจ ะเปน วัสดุทส่ี ามารถรบั ประทานได ในปจ จุบัน นิยมใชวัสดุมาตกแตงหนาเคกเพอื่ จดุ ประสงคใหเคกสวยงามและมีรปู แบบทห่ี ลากหลายมากขน้ึ และวสั ดทุ ี่ นํามาใชต กแตง หนาเคกมหี ลายประเภทไดแก แยม ช็อกโกแลต มารซ ิแพน และไอซ่งิ วิธีการแตง หนา เคก โดยใชว สั ดุประเภทตา งๆ การแตง หนาเคกดว ยแยม การนําแยมมาแตง หนา เคก อาจทาํ ไดเ ปน 2 วธิ คี ือ 1. นาํ แยมมาปาดหนาเคก สามารถใชไดท้งั แยมที่มีเน้ือผลไม และไมม ีเน้ือผลไม การปาดหนา เคก ดวย แยม เหมาะสําหรบั ผูท ไ่ี มน ิยมรับประทานเคกกบั ครีม วัสดุท่จี ะใชในการแตงหนาเคกดว ยแยมไดแ ก- ผลไม แชอ่มิ เชน เชอรี่ ลกู เกด กลว ยตากและผลไมอ่นื ๆเปน ตนหรอื อาจใชผ ลไมสดก็ไดแตจ ะไมส ามารถเก็บไดน าน เหมือนผลไมแหง- กอนท่จี ะนําแยมมาปาดหนา เคก ควรนาํ แยมมากรองดวยกระชอนกอนเพ่ือสะดวกในการ ปาด

2. การนําแยมมาใชทาํ ใหเกิดลวดลายตางๆ เชน การวาดการตูน หรอื การวาดเปน รปู ตางๆ การตกแตง เคก แบบน้นี ยิ มทจ่ี ะมอบใหกบั เด็ก หรือวัยรนุ มากกวาวยั อืน่ ๆ โดยมขี ั้นตอนการแตง หนาเคกดงั นี-้ ตักแยมใส นํามากรองแบง ใสถวยผสมสตี างๆตามชอบ- วาดลวดลายบนหนา เคกท่ีปาดดวยครมี - ใชครีมเดินเสนตามลวย ลายที่วาดไวเ พ่ือปองกนั ไมใหแยมแตล ะสีไหลมารวมกัน- เทแยมใสกรวยกระดาษ นําไปหยอดตามชองตางๆที่ กําหนด การแตงหนา เคก ดว ยชอ็ กโกแลต การใชช อ็ กโกแลตสาํ เรจ็ รูป ซ่งึ มีทง้ั ช็อกโกแลตสี นํ้าตาล ชอ็ กโกแลตนม ชอ็ กโกแลตสีดํา (สว นใหญไมนิยมนํามาราดบนหนาเคก เน่อื งจากมีรสขม มากกวาช็อกโกแลตชนิดอนื่ ) 1. ช็อกโกแลต สามารถนาํ มาทําเปน ตวั ตุกตา หรอื ทําเปนดอกไม เพื่อใชในการตกแตงเคกไดอยา งสวยงาม 2. ช็อกโกแลตครีมสําหรบั ปาดหนา เคก สามารถเตรียมขึ้นไดจากการนาํ ช็อตโกแลตตุน สาํ เร็จรูปมาผสม กับครมี เนยสด ที่ใชสาํ หรบั ปาดหนา เคก อตั ราสว นแลวแตค วามตองการความเขมขน ของสวี า ตองการ เทาไรจากน้ันสามารถนาํ ไปปาดหนา เคก ไดเลย 3. ชอ็ กโกแลตขูดเปน แทง โดยการนาํ ชอ็ ตโกแลตแทงทย่ี ังไมไ ดต ุนมาขูดดว ยมีดใหมลี กั ษณะเปนแทง มวน กลม คลา ยมว นบุหร่ี หรอื ขูดเปน เกลด็ ๆ แลว นําไปตกแตง หนาเคก 4. วธิ กี ารราดหนาเคกดว ยช็อกโกแลต– ปาดหนาเคกดวยครีมใหเรยี บ นาํ ไปแชใหเ ยน็ จัด นาํ มาวางบนตระ แกรง- นาํ ช็อกโกแลตทต่ี นุ แลวราดดา นบนเคกในปรมิ าณท่ีมากพอ- ในขณะท่ีราดหนาเคกเขยาตระแกรงเบาๆ จนช็อกโกแลตไหลทัว่ หนาเคก- เมือ่ ช็อกโกแลตเร่มิ อยตู ัว ใชส ปาตูลารแ ซะดานลา งเคกใหหลดุ ออกจากตระแก รง 5. การหลอ ชอ็ กโกแลตเปน รูปตางๆ– ใบไม เลอื กใบไมที่มีลายเสนคมชดั เชน ใบกุหลาบ ใชพ ูกนั จุมชอ ตโก แลตตนุ ทาใหท ่ัวใบไมโ ดยทาดานท่ีเปน ลายใบใหชัดเจน ปลอยจนชอ็ กโกแลตแหงสนิท จึงดึงใบไมอ อกจาก ช็อกโกแลต แลวนําไปแตงหนาเคก- พิมพตา งๆ เตรียมพมิ พไดโ ดยการลางใหส ะอาดแลว เชด็ ใหแ หง เท ชอ็ กโกแลตตนุ จนเต็มพิมพ นําไปแชต ูเยน็ จนช็อกโกแลตแหง เริม่ ลอนออกจากพิมพ จึงแกะออกจากพิมพ นาํ ไปแชต ูเ ย็นเก็บไว การแตง หนาเคก ดว ยมารซิแพน “ มารซิแพน “ มีลกั ษณะคลายถวั่ กวน แตสีจะขาวกวา ทําจากเมลด็ อัลมอนด และนํา้ ตาลผสม กนั สัดสวนของอลั มอนดแ ละนํ้าตาลจะเปลี่ยนแปลงไปตามความตองการของผผู ลิตมารซ ิแพน บางชนดิ มี แอปปริคอต ลกู พีชบดบางสวนจะเตมิ ไข ทงั้ น้ีขึ้นอยูกบั จดุ ประสงคข องผผู ลิต การใชสี สที ใ่ี ชในการผสมมารซ ิแพน มีทงั้ ชนิดน้ําและสนี ้ํามัน แตท ่ีเหมาะสาํ หรับผสมมารซ ิแพนควรเปนสนี ้ํามัน การ ผสมสเี ราอาจแบงมารซ แิ พนออกมาใหเ พยี งพอกบั ความตองการแลว หยดสีลงไปนวดใหเ ขากนั ถา ตดิ มอื อาจใช แปง ขา วโพดชว ยไดเ ล็กนอย การปน มารซิแพนแตละครั้งควรนวดใหเ ขาเปนเน้ือเดียวกันปนแลว เนยี นเรยี บ สะดวกในการระบายสี ถาเนือ้ ผิวไมเรียบ สจี ะกระจายไปตามผิวท่แี ตง

การแตงหนา เคกดวยไอซ่งิ เทคนิคและวิธีการเตรียมไอซิ่ง 1. รอ นนาํ้ ตาลไอซงิ่ ท่จี ะใชใ นตํารับกอนลงมอื ผสมตามวิธีการในตาํ รับ การรอนเพื่อชว ยแยกนํา้ ตาลใหแ ตกตัว เปน ผงละเอียด ชว ยปองกนั การอุดตนั ที่หวั บีบ 2. ไอซิ่ง ที่ผสมเสร็จแลวควรจะมีความหนืดพอเหมาะท่ีจะใชต กแตง คอื เมื่อแตงแลว ลวดลายท่ีตกแตง จะ ทรงรปู ไดคมชัดทีส่ ุด หากยังไมไดท ี่ใหปรบั เสยี ใหม โดยการเตมิ นาํ้ ตาลหรอื นาํ้ เพมิ่ 3. การผสมสีแตล ะสคี วรผสมครัง้ เดียวใหพ อใชตลอด ในการแตง เคกแตล ะชน้ิ สีไมควรใหเ ขม มาก เพราะเมอื่ ไอซ่ิงแหงแลว สีจะเขม ขึ้น 4. ครมี ทย่ี งั เหลอื อยูในชามผสมควรใชผ าขาวบางชบุ นา้ํ บดิ หมาดๆ คลมุ ปากชามไวเพือ่ ปองกันไมใหผิวหนา แหง 5. การบรรจุครมี ลงในกรวยสาํ หรับแตง ใหบรรจุใหเต็มถึงปลายกรวยอยาใหมโี พรงอากาศแทรกอยูภายใน และเมื่อพบั ปดปากกรวยแลว ควรบีบครมี ใหด ันออกจากชองตรงปลายหวั บีบเลก็ นอย เพื่อเปน การดัน ฟองอากาศจากกรวย เมื่อแตงลวดลาย เสนจะสมาํ่ เสมอไมขาดเปนชวงๆ เทคนิคและวิธกี ารเตรยี มเคก 1. ตองรอใหเคกเยน็ สนิทโดยวางเคกบนตระแกรงลวด เพือ่ มใิ หม ไี อระเหยออกมา จนทาํ ใหไอซ่งิ หรือหนา ท่ี เคลอื บออนตัวจนเสียการทรงตัว 2. ปด ผิวหนาตลอดถงึ ขางๆของแปรงปด เคก เพ่ือใหช้ินสว นเลก็ ๆ ทห่ี ลดุ รว งจากเคกหลุดออกใหหมด จะไดไม หลดุ เขาไปปะปนในสวนไอซงิ่ ขณะท่ีเคลือบ3. ทาไอซ่ิงเคลือบช้นิ เคกใหท ั่วทั้งดา นบนและดา นขา งแตเพียงเบาๆ รอไว 2-3 นาที เพ่ือใหผิวที่เคลอื บแหง จึงทาชั้นท่ี 2 ทับ ชน้ั น้เี ม่อื ทาแลวตองปาดดว ยสแปทูลาใหผิวหนา เรียบสม่ําเสมอทุกดานโดยรอบ ไอซิง่ ท่ใี ชเคลือบช้ินเคก ควรใชไ อซงิ่ ท่ีออนตัว หรอื ไมแตกหลุดในขณะท่ตี ัดแบง เคก 4. พกั ไว 30 นาที เพื่อใหผวิ ไอซิ่ง ท่ปี าดไวแหงกอ นท่ีจะลงมอื แตงลวดลายตอไป เทคนคิ และวธิ ีการแตงหนา เคก 1. ใชไมป ลายแหลมวาดเคา โครงของลวยลายทจ่ี ะแตง บนเคกท่ปี าดหนาเรยี บรอยแลว 2. บีบลวดลายท่คี วรอยดู านลางกอน แลวจงึ บีบลวดลายที่ควรอยขู างบน เชนควรบบี กงิ่ กานกอนบีบใบไมและ ดอกไม ผูแ ตง ตองพจิ ารณาลวดลายท่จี ะแตงใหถ่ีถว นกอ นการลงมอื แตง วา ควรทาํ ลวดลายตรงสวนใดกอ นและ หลัง

3. กรวยบตั เตอรตรมี ไอซ่ิง เมื่อใชแ ตงตอเนื่องไดส ักระยะหน่ึง ความรอนจากมือจะทําใหครีมออนตัวลง ควร หยุดพักประมาณ 5-6 นาที โดยนํากรวยแชใ นตเู ย็น วสั ดทุ ีใ่ ชใ นการแตง หนา เคก อุปกรณตา งๆท่จี าํ เปนในการแตงหนา เคก 1. เครือ่ งตีไข ใชสาํ หรบั ตีครีมใหข ้ึนฟู มีอุปกรณส ําหรบั ตคี รมี คือ หัวตรี ูปใบไม มหี ลายขนาด ใหญ เล็ก ตามความจาํ เปน ในการใชงาน 2. แทนหมนุ เคก ใชส าํ หรับเปน ฐานรองเคกขณะปาดและแตง หนา สามารถหมุนไปมาได การหมุนทาํ ให ปาดครมี บนเคก ไดลักษณะกลมตามตอ งการ 3. กระดาษแขง็ หรือกระดาษลกู ไม ใชส ําหรบั รองเคกเพื่อความสวยงามและปองกนั การซึมของเคก 4. สผี สมอาหาร ใชส ําหรบั ผสมครมี แตง หนาเคกเพื่อใหเ กดิ ความสวยงามและเพม่ิ จุดเดน 5. อา งผสมหรอื ชามผสม ใชสําหรบั สวนผสมทเี่ ตรียมไวและใชใสส ว นผสมท่เี สรจ็ แลว ควรเลอื กซ้ือภาชนะที่ มกี เรียบกลมไมมีมมุ เพราะสะดวกในการคน หรอื ตสี วนผสมท้งั หมดใหเ ขากนั ไดอยางท่ัวถงึ ไมติดตามซอกอา ง 6. ผาสะอาดหรือผา กนั เปอน เตรยี มไวส ําหรับเช็ดมือหรืออปุ กรณเพอื่ กนั เส้ือผาเลอะครมี เวลาแตงหนาเคก 7. สปาตูลา และพายยาง สาํ หรับใชปาดหนา เคก มีลักษณะคลา ยมดี นยิ มทําดว ยสเตนเลส พายยางใชส ํารับ ตักและคนครีมเพื่อไลฟองอากาศออกใหครีมเนยี น 8. กรรไกร ใชต ดั กระดาษกรวยและอนื่ ๆ นิยมใชกรรไกรทีม่ น่ี ํ้าหนักเบา 9. รม ใชเ ปนฐานรองรับครมี ทบี่ บี ออกจากกรวยที่มหี ัวบีบ เวลาทําตองหมนุ รมดว ย 10. หวแี ตง หนาเคก เปน โลหะแผน เรยี บ ดานของโลหะจะตดั เปน ฟนปลา หรอื ลวดลายตางๆทตี่ องการ เปน อุปกรณช ว ยในการแตงหนาเคก กรณที ่ปี าดเคกหนา ไมเรยี บ หวีจะชวยกลบเกลอื่ นได 11. แปรงขนออน มลี ักษณะคลา ยแปรงทาสี ใชส าํ หรบั ปดหรือทาํ ความสะอาดกอนเคกกอนแตงหนา เคก 12. มดี ตดั เคก ดา นคมของมีดจะมีหยักคลา ยฟนเลื่อยใบของมดี จะยาวและแคบ ใชต ัดเคกโดยเลอื่ ยไปเลื่อย มา โดยไมตองออกแรงกดมากนัก ใชต กแตงผวิ หนาของเคก 13. หัวบีบเคก เปนอปุ กรณสาํ หรับแตง หนา เคกเวลาใสถงุ บีบหรอื กรวย เพื่อใหครีมออกมาเปนลวดลาย สาํ หรบั แตง หนา - เบอร 15,1,2,4 มลี กั ษณะเปน รกู ลมเลก็ นิยมบบี ลายเสนตา งๆ - เบอร 7,10,12 มลี กั ษณะเปน รูกลมขนาดใหญ ใชบ ีบลายของดอกไม ตัวสัตว - เบอร 14,17 มลี กั ษณะเปน รปู ดาว ใชบ บี เปนลายขอบบน - เบอร 29,30,32 มีลักษณะเปน รปู ดาวขนาดใหญ ใชบบี ลายขอบลา ง - เบอร 47 มีลกั ษณะแบน ดานหน่งึ เรียบ ดา นหนึ่งมีฟนหยัก ใชบีบลายสานตระกรา - เบอร 67 มลี ักษณะแบนแหลมเปน สามเหลยี่ ม ตรงกลางหยักใชบีบลายใบไม

- เบอร 73 มีลกั ษณะโคงเปนรปู ครึ่งวงกลม ใชบ ีบดอกเบญจมาศ - เบอร 102 ,104 มีลักษณะแบนปลายดา นหนึ่งจะเรยี วเลก็ ลง ใชบ บี ดอกกหุ ลาบ , ดอกแพรจีน , ดอกคารเ นช่นั - เบอร 131 มีลกั ษณะเปน รูปดาว แตมแี กนยน่ื มาตรงกลาง ใชบีบดอกไมส าํ เร็จ วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ นการแตงหนา เคกนั้น มีหลายประเภทคือ 1. เนยเทยี ม 2. เนยสด 3. เนยขาว 4. นาํ้ ตาล 5. ไข 6. นม 7. เกลอื 8. ครมี ออฟทารทาร 9. นํา้ หอมกลิ่นตา งๆ 10. สี ชนดิ ของครีมทใ่ี ชใรการทาํ ขนมเคก และเบเกอรี่ เมอื่ นกึ ถึงเคก แลว สง่ิ ท่มี ักจะมาคูกันกับเคกเสมอก็คือ \"ครีมเคก \" นน่ั เองงง.. ไมวา จะเปนครมี ที่ปาดอยบู นหนา เคก หรือวาครมี ทซ่ี อนอยูในช้ันเลเยอรข องเคกชนิดตางๆ ซ่ึงครมี เคกนนั้ ก็มอี ยูมากมายหลายชนดิ ขน้ึ อยูก ับการ ดไี ซนรสชาติใหเขา กบั เน้ือเคกนัน่ เอง

ครมี เคก ชนดิ ตา งๆ มดี งั นี้ 1. Fresh cream/ Whipping Cream ครมี สด คอื ครีมที่ทาํ มาจากนมวัว มีไขมนั อยปู ระมาณ 32% ขนึ้ ไปจงึ สามารถตใี หข้นึ ฟูได มีความขน พอจะตี เปนครีมท่ีอยตู วั พอจะใชปาดหนาเคก ได และตองเก็บในท่ีเย็นเทา นัน้ ครีมสดมีรสชาตหิ อมมัน ไมเล่ียน นิยมใช เปนท้ังครีมแตง หนาเคกและผลติ ภัณฑไ สข นมอบ 2. Custard cream ครีมคสั ตารดเน้ือนุม ไมห วานมาก นิยมใชใ นการทําเปน ไสข นมอบหรอื ใชแ ตง หนาขนม วิธกี ารทาํ คัสตารด ครีม ก็คอื เอานมใสหมอตัง้ ไฟดวยไฟกลาง แลว ใสนํา้ ตาลกบั กลิน่ วนลิ าลงไป ตม จนน้าํ ตาลละลาย แลว นาํ มาเทใส ชามไขแ ดง ตใี หเ ขากนั อยางเร็ว แลวก็คอ ยๆใสน มท่ตี มไว ใสแปง แลวก็นําไปตั้งไฟตมอกี ครัง้ คนไปเร่ือยๆจะ เน้ือขนเหนียว Matcha custard cream and creme mousseline with halved strawberries 3. Mousseline cream ครีมมูสลิน หรอื อาจจะเรยี กวา บตั เตอรครีมเยอรมัน (German buttercream) คือลกู ผสมระหวา งคสั ตารด ครีมและบัตเตอรครีม แตเนื้อครีมจะเบากวา สามารถเก็บไวน อกตเู ยน็ ไดน านเหมาะกบั การขนสง ที่ตองเดินทาง ใชเวลา นยิ มใชสําหรับเปน ครมี สอดไสขนมอบ

4. Chiboust cream ชิบสู ครีม เปน ครมี ที่มอี งคประกอบของ คสั ตารด ครีมและอิตาเล่ียนเมอแรงในสดั สวนทีเ่ ทากัน โดยครีมนี้ จะตองใชท นั ทีเมื่อตีเสรจ็ Fresh mango chiboust 5. Butter cream บัตเตอรครีมหรือครมี เนย เปนครมี ยอดนยิ มในการนํามาแตง หนาเคกและเบเกอร่ตี างๆ เน้อื บัตเตอรค รีมทดี่ ี จะตอ งเนยี น มคี วามทรงตัว ไมแขง็ หรือเหลวจนเกนิ ไป เวลาปาดหนาเคก จะไดเ รียบเนยี นสวยงาม ซึง่ จุดสาํ คัญ ของการทําบตั เตอรครีมก็คือการตีครีม ถาตีฟูเกินไป ครีมที่ไดจ ะเหลว หาตีนอ ยเกินไป สว นผสมยังไมเขากันดี อาจจะทาํ ใหเ กิดการแยกชั้นระหวางของแข็งและของเหลว โดยควรจะตีเนยดว ยความเร็วปานกลางใหข นึ้ ฟูดี กอนแลวจึงเติมสวนผสมอืน่ ๆตามไป

6. French Butter cream (creamed butter with creamed egg yolks and sugar syrup) บตั เตอรครีมแบบฝรงั่ เศส วธิ ีทําคอื นําน้ําตาลและนาํ้ ใสห มอตัง้ ไฟปานกลาง ตไี ขแดงทง้ิ ไว เมอ่ื นํา้ เช่ือมเดือด แลวใหเทลงในชามไขที่ตีไว แลวกต็ ีสว นผสมใหมอ กี คร้ัง ใสเนยสดลงไป แลว ก็ตีดวยความเรว็ สงู จนสวนผสมเขา กันดี 7. Italian Butter cream (creamed butter with Italian meringue) บัตเตอรค รีมแบบอิตาเล่ียน เน้อื ครีมจะไมหนกั และไมหวานจนเกนิ ไป สามารถนําไปแตงหนาเคกไดท ุกชนิด โดยวิธีทาํ คือตง้ั ไฟทําน้ําเชอื่ มกอ น ระวังอยาใหน ํา้ เชื่อมเดือดจนขนเหนยี ว แคต มใหนํา้ ตาลละลาย แลว นาํ นาํ้ เชอื่ มรอ นๆนไี้ ปเทใสไขขาวทต่ี ไี ว แลว ก็ตสี วนผสมท้ังหมดอกี ครง้ั จนขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง

8. Ganache กานาช มสี วนประกอบหลกั คือครมี และสว นประกอบท่ีให texture ลักษณะขนๆ คือมาจากเนยโกโก กานาช เรยี กไดวาเปน พื้นฐานในการทําขนม สามารถเอาไปใชงานตอ ไปอยางหลากหลาย เชน มูส (Mousse) ทาร ตชอคโกแลต เปนตน 9. Cheese cream ครมี ชีสเปนผลิตภัณฑท่ีไดม าจากการแปรรูปนํ้านมชนดิ หนึง่ อยใู นกลุม ของเนยแขง็ ทม่ี เี น้ือนมุ และไมผ า น กระบวนการบม มรี สชาติทก่ี ลมกลอมเหมาะสาํ หรบั ทุกเพศทุกวยั และมีกระบวนการผลติ ที่ไมซ ับซอน ครีมชสี มักถูกใชเปน สวนผสมหลักของขนมสดุ ฮิตอยา งขนมตระกลู ชีสเคก 10. Marzipan filling

มารซิแพน (Marzipan) คือ อุปกรณตกแตง หนาเคก หรือเบเกอรี่ที่ทาํ มาจากน้ําตาลทรายขาว (ตมกบั น้าํ ใน อุณหภูมิ 105 องศาเซลเซยี ส), ถัว่ อัลมอนดบดละเอยี ดจนเปน ผง และ ไขขาวผสมรวมกันกอ นนาํ มาปนเปน ชิ้นงาน ดวยคุณสมบัตมิ ีความออนนุม รบั ประทานงา ย จงึ สามารถนํามาปน ทําเปนดอกไม ตกุ ตา หรอื หอ ประดับรอบเนื้อเคกได ในปจ จบุ ันสามารถหาซ้ือมารซ ิแพนชนดิ สําเร็จรปู ไดใ นรูปแบบตางๆไดอยา งงา ยดาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook