Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วันอาสาฬหบูชา

วันอาสาฬหบูชา

Description: วันอาสาฬหบูชา

Search

Read the Text Version

วันอาสาฬหบูชา ส่ือสร้างสรรคใ์ หค้ นไทยรักการอา่ น หอ้ งสมุดประชาชนอาํ เภอท่าบ่อ กศน.อาํ เภอท่าบ่อ สํานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย

วันอาสาฬหบูชา (Buddhism Days : Asarnha Bucha Day) วันอาสาฬหบูชา (บาลี : อาสาฬหปูชา, อกั ษรโรมัน : Asalha Puja, องั กฤษ : Asarnha Bucha) เป็นวันสําคญั ทางพระพุทธศาสนา และวันหยุดราชการในประเทศไทย โดยคาํ ว่า อาสาฬหบูชา ย่อมาจากคาํ ว่า \"อาสาฬหปูรณมีบูชา\" ซึ่งหมายถงึ \"การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ\" อนั เปน็ เดือนท่ี 4 ตามปฏทิ ินของประเทศอนิ เดยี ตรงกับวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏทิ ิน จันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนมิถนุ ายนหรือเดือนกรกฎาคม แตถ่ า้ ในปใี ดมีเดือน 8 สองหน กใ็ หเ้ ล่อื นไปทําในวันเพ็ญเดือน 8 หลงั แทน

วันอาสาฬหบูชา เหตกุ ารณ์สําคญั ท่ีเกิดในวันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา ได้รับการยกย่องเป็นวันสําคญั ทางพระพุทธ ศาสนา เน่ืองจากเหตุการณ์สําคญั ท่ีเกดิ ขึน้ เม่ือ 45 ปี ก่อน พุทธศักราช ในวันขึน้ 15 คา เดือน 8 คอื วันอาสาฬหปุรณมีดิถี หรือวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ ณ ป่าอสิ ิปตนมฤคทายวัน เมือง พาราณสี แคว้นกาสี อนั เปน็ วันท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม เทศนาเป็นคร้ังแรก (ปฐมเทศนา) คอื ธัมมจักกปั ปวัตตนสตู ร แก่ ปญั จวัคคยี ์ท้ัง 5

วันอาสาฬหบูชา เหตกุ ารณ์สําคญั ท่ีเกิดในวันอาสาฬหบูชา การแสดงธรรมในคร้ังน้ัน ทําใหพ้ ราหมณ์โกณฑัญญะ 1 ใน 5 ปญั จวัคคยี ์ เกดิ ความเล่อื มใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้า จนได้ดวงตาเหน็ ธรรม หรือบรรลเุ ป็นพระอริยบุคคลระดับ โสดาบัน ท่านจึงขออปุ สมบทในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ด้วยวิธีเอหภิ ิกขุอปุ สัมปทา พระอญั ญาโกณฑัญญะ จึงกลายเปน็ พระสงฆ์องคแ์ รก ในโลก และด้วยเหตุท่ีท่านได้บรรลธุ รรมเปน็ พระอริยบุคคล (อนุพุทธะ) เป็นคนแรก จึงทําใหใ้ นวันน้ันมีพระรัตนตรัยครบองค์ สามบริบูรณ์เป็นคร้ังแรกในโลก คอื มีท้ังพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยเหตุน้ี จึงทําใหว้ ันน้ีถูกเรียกว่า \"วันพระธรรม\" หรือวันพระธรรมจักร อนั ได้แก่ วันท่ีลอ้ แหง่ พระธรรมของ พระพุทธเจ้าได้หมุนไปเปน็ คร้ังแรก และ \"วันพระสงฆ์\" คอื วันท่ีมีพระสงฆ์เกดิ ขึน้ เป็นคร้ังแรก อกี ด้วย

วันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชาในประเทศไทย วันอาสาฬหบูชา ได้รับการ กําหนดใหเ้ ปน็ วันสําคญั ทางพระ พุทธศาสนาของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2501 โดยคณะสังฆมนตรี (หรือ มหาเถรสมาคม) ในสมัยน้ัน ได้มีมตใิ หเ้ พิ่มวันอาสาฬหบูชาเปน็ วันสําคญั ทางพุทธศาสนา (ใน ประเทศไทย) ตามคาํ แนะนําของ พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี) โดย คณะสังฆมนตรีได้ออกเป็นประกาศสํานักสังฆนายก กําหนดให้ วันอาสาฬหบูชาเปน็ วันสําคญั ทางพุทธศาสนา พร้อมท้ังกาํ หนด พิธีอาสาฬหบูชาขึน้ เม่ือวันท่ี 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2501

วันอาสาฬหบูชา หลงั จากปี พ.ศ. 2501 ซึ่งเปน็ ปแี รกท่ีเร่ิมมีการรณรงคใ์ ห้ มีการประกอบพิธีอาสาฬหบูชา พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ร่วมใจ กันประกอบพิธีน้ีกนั อย่างกว้างขวาง และแพร่หลายไปทุกจังหวัด จนกลายเปน็ พิธีสําคญั ของพุทธศาสนิกชนไทยนับต้งั แตน่ ้ันมา ดังน้ันในวันท่ี 6 มิถนุ ายน พ.ศ. 2505 คณะรัฐมนตรี นําโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในสมัยน้ัน จึงได้ ลงมตใิ หป้ ระกาศกาํ หนดเพ่ิมใหว้ ันอาสาฬหบูชา หรือวันขึน้ 15 คา เดือน 8 (สําหรับปไี ม่มีอธิกมาส) และวันขึน้ 15 คา เดือน 8 หลงั (ในปมี ีอธิกมาส) เป็นวันหยุดราชการประจําปอี กี 1 วัน เพ่ือ เปน็ การใหค้ วามสําคญั กับวันอาสาฬหบูชา และเพ่ืออาํ นวยความ สะดวกแกพ่ ุทธศาสนิกชนท่ีจะไปประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธ ศาสนาด้วย

วันอาสาฬหบูชา หลกั ธรรมสําคญั วันอาสาฬหบูชา 1. ส่ิงท่ีไม่ควรเสพ 2 อย่าง ส่วนแรกท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงในธัมมจักกัปปวัตตนสตู ร คอื กามสขุ ัลลกิ านุโยค และอตั ตกิลมถานุโยค กลา่ วคอื ทรง แสดงส่ิงท่ีไม่ควรเสพสองอย่าง อนั ได้แก่ การปฏบิ ัติตนย่อหย่อน สบายกายเกนิ ไป (กามสขุ ัลลกิ านุโยค) และการปฏิบัตติ นจน ทรมานกายเกนิ ไป (อตั ตกิลมถานุโยค) การท่ีพระพุทธเจ้าตรัสปฏิเสธแนวทางสองอย่างดังกลา่ ว เพ่ือแสดงใหร้ ู้ว่า พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาท่ีสอนใหพ้ ้นจาก ทุกข์ด้วยการแก้ปญั หานอกกาย คอื หนีความทุกข์ด้วยการมัวแต่ แสวงหาความสขุ (หนีความทุกข์อย่างไม่ย่ังยืน เพราะต้องแสวง หามาปรนเปรอตณั หาไม่สิ้นสดุ ) หรือหาทางพ้นทุกข์ด้วยการกระ ทําตนใหล้ าํ บาก (ส้หู รืออยู่กบั ความทุกข์อย่างโง่เขลา ขาดปญั ญา ทําตนใหล้ าํ บากโดยใช่เหต)ุ เพ่ือท่ีจะทรงขับเน้นหลกั การท่ี พระพุทธองคจ์ ะทรงแสดงต่อไปว่า มีความแตกตา่ งโดยสิ้นเชิง จากแนวคดิ พ้นทุกข์เดิมๆ ซึ่งเป็นการประกาศแนวทางพ้นทุกข์ ใหม่แก่โลก อนั ได้แก่ การแก้ทุกข์ท่ีตวั ต้นเหตุ (แก้ท่ีภายในใจของ เราเอง) ซึ่งก็คอื มัชฌิมาปฏิปทา น่ันเอง

วันอาสาฬหบูชา หลกั ธรรมสําคญั วันอาสาฬหบูชา 2. มัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง) มัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง) เป็นข้อปฏบิ ัตทิ ่ีเป็นกลางๆ ถูกต้องและเหมาะสมท่ีจะใหบ้ รรลถุ ึงจุดหมายได้ มิใช่การดําเนิน ชีวิตท่ีเอยี งสดุ 2 อย่าง หรืออย่างหนึง่ อย่างใด คอื 1) การหมกมุ่นในความสขุ ทางกาย คอื การมัวเมาในรูป รส กลนิ่ เสียง รวมความเรียกว่า เปน็ การหลงเพลดิ เพลนิ หมกมุ่น ในกามสขุ เรียกว่า กามสขุ ัลลกิ านุโยค 2) การสร้างความลาํ บากแก่ตน คอื การดําเนินชีวิตอย่าง เล่อื นลอย เช่น บําเพ็ญตบะ การทรมานตน คอยพึง่ อาํ นาจ ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ เป็นตน้ ซึ่งการดําเนินชีวิตแบบท่ีกอ่ ความทุกข์ ใหต้ นเหน่ือยแรงกาย แรงสมอง แรงความคดิ เรียกว่า อตั ตกิลมถานุโยค เพ่ือละเว้นหา่ งจากการปฏบิ ัติทางสดุ เหลา่ น้ี ตอ้ งใช้ทางสาย กลาง ซึ่งเป็นการดําเนินชีวิตด้วยปญั ญา โดยมีหลกั ปฏิบัติเปน็ องคป์ ระกอบ 8 ประการ เรียกว่า อริยอฏั ฐังคกิ มัคค์ หรือมรรค มีองค์ 8

วันอาสาฬหบูชา หลกั ธรรมสําคญั วันอาสาฬหบูชา อริยอฏั ฐังคกิ มัคค์ หรือมรรค มีองค์ 8 1)สัมมาทิฏฐิ (ปญั ญาอนั เหน็ ชอบ) คอื รู้เข้าใจถูกตอ้ ง เหน็ ตามท่ีเปน็ จริง 2) สัมมาสังกปั ปะ (ความดําริชอบ) คอื คดิ สจุ ริตต้งั ใจ ทําส่ิงท่ีดงี าม 3) สัมมาวาจา (เจรจาชอบ) คอื กลา่ วคาํ สจุ ริต 4) สัมมากัมมันตะ (กระทําชอบ) คอื ทําการท่ีสจุ ริต 5) สัมมาอาชีวะ (อาชีพชอบ) คอื ประกอบสัมมาชีพหรือ อาชีพท่ีสจุ ริต 6) สัมมาวายามะ (พยายามชอบ) คอื เพียรละช่ัวบําเพ็ญดี 7) สัมมาสติ (ระลกึ ชอบ) คอื ทําการด้วยจิตสํานึกเสมอ ไม่เผลอพลาด 8) สัมมาสมาธิ (ต้ังจิตม่ันชอบ) คอื คมุ จิตใหแ้ น่วแน่ม่ันคง ไม่ฟุ้งซ่าน

วันอาสาฬหบูชา หลกั ธรรมสําคญั วันอาสาฬหบูชา 3. อริยสัจ 4 แปลว่า ความจริงอนั ประเสริฐของอริยะ ซึ่งคอื บุคคลท่ีหา่ ง ไกลจากกเิ ลส ได้แก่ 1. ทุกข์ ได้แก่ ปญั หาท้ังหลายท่ีเกดิ ขึน้ กับมนุษย์ บุคคลตอ้ ง กาํ หนดรู้ใหเ้ ท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคอื อะไร ตอ้ งยอมรับรู้ กลา้ ส้หู น้าปญั หา กลา้ เผชิญความจริง ตอ้ งเข้าใจในสภาวะโลก ว่าทุกสิ่งไม่เท่ียง มีการเปลย่ี นแปลงไปเปน็ อย่างอ่นื ไม่ยึดตดิ 2. สมุทัย ได้แก่ เหตเุ กดิ แหง่ ทุกข์ หรือสาเหตุของปญั หา ตัวการสําคญั ของทุกข์ คอื ตัณหาหรือเส้นเชือกแหง่ ความอยาก ซึ่งสัมพันธ์กับปจั จัยอ่นื ๆ 3. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เร่ิมด้วยชีวิตท่ีอสิ ระ อยู่อย่าง รู้เท่าทันโลกและชีวิต ดําเนินชีวิตด้วยการใช้ปญั ญา 4. มรรค คอื กระบวนการแกป้ ญั หา มี 8 ข้อด้วยกนั ดังท่ี กลา่ วมาแลว้ ข้างตน้

วันอาสาฬหบูชา สารนาถ สถานท่ีสําคญั เน่ืองด้วยวันอาสาฬหบูชา สารนาถ เปน็ พุทธ สังเวชนียสถานแหง่ ท่ี 3 (1 ใน 4 แหง่ ของชาวพุทธ) อยู่หา่ งจากเมืองพาราณสี เมืองศูนย์กลางทางศาสนา ของศาสนาฮินดูไปทาง เหนือราว 9 กิโลเมตร อยู่ในรัฐอตุ ตรประเทศ ประเทศอนิ เดยี ในปจั จุบัน (หรือแคว้นมคธ ชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาล) เหตุท่ีได้ช่ือว่า \"สารนาถ\" น้ี เน่ืองมา จากสถานท่ีแหง่ น้ีเปน็ สถานท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา เร่ิมต้นประกาศพระพุทธศาสนา เพ่ือเปน็ ท่ีพึง่ แกม่ หาชนท้ังหลาย และมาจากคาํ ศัพท์ว่า สารงคฺ + นารถ = ท่ีอยู่ของสัตว์จําพวก กวาง สารนาถยังรู้จักกนั ดใี นช่ือ \"อสิ ิปตนมฤคทายวัน\" หรือ \"ฤๅ ษีปตั นมฤคทายวัน\" (บาล:ี อสิ ิปตนมิคทายวน) หมายถึง ป่าอนั ยก ใหแ้ กห่ มู่กวาง และเปน็ ท่ีชมุ นุมของฤๅษี

วันอาสาฬหบูชา ภายในอาณาบริเวณสารนาถมี ธรรมเมกขสถูป เปน็ พุทธสถาน ขนาดใหญ่ท่ีสดุ และสําคญั ท่ีสดุ โดยสันนิษฐานว่า บริเวณท่ีต้งั ของ ธรรมเมกขสถปู เป็นสถานท่ีท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาเปน็ คร้ังแรก

วันอาสาฬหบูชา สารนาถในสมัยพุทธกาล สารนาถในสมัยพุทธกาล เรียกกันว่า ป่าอสิ ิปตนมฤคทายวัน เป็นสถานท่ีสงบ และเป็นท่ีชุมนุมของเหลา่ ฤๅษี นักพรตต่าง ๆ ท่ีมาบําเพ็ญตบะและโยคะ เพ่ือเข้าถงึ พรหมัน (ตามความเช่ือใน คมั ภรี ์ อปุ นิษัทของพรามหณ์) และเป็นสถานท่ีท่ีเหลา่ ปญั จวัคคยี ์ ท้ัง 5 มาบําเพ็ญตบะท่ีน่ี (หลงั จากท่ีพระพุทธเจ้าทรงเลกิ บําเพ็ญ ทุกกรกริ ิยา หนั มาเสวยอาหารตามปกติ) หลงั จากท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และเทศน์โปรด ปญั วัคคยี ์จนสําเร็จเป็นพระอรหนั ต์ท้ังหมดแลว้ ได้ทรงพัก จําพรรษาแรก ณ ปา่ อสิ ิปตนมฤคทายวัน พร้อมกบั เหลา่ ปญั จวัคคยี ์ ซึ่งในระหว่างจําพรรษาแรก พระพุทธเจ้าได้พระ อคั รสาวกเพ่ิมกว่า 45 องค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระยสะ และ เหลา่ บริวารของท่านจํานวน 44 องค์ ซึ่งรวมถึงบิดา มารดา และภรรยาของพระยสะ ท่ีได้มาฟังพระธรรมเทศนาของ พระพุทธองค์ และได้ยอมรับนับถือเป็นอบุ าสกอบุ าสิกาท่ีถงึ พระ รัตนตรัยเปน็ สรณะ คแู่ รกในโลกด้วย ทําใหใ้ นพรรษาแรกมีพระอรหนั ตร์ วมท้ังส้ิน 60 องค์

วันอาสาฬหบูชา นอกจากน้ี สารนาถ ยังเปน็ สถานท่ีสําคญั ท่ีพระพุทธเจ้า ทรงประกาศเริ่มต้นส่งพระสาวกกลมุ่ แรกออกไปเผยแพร่พระ พุทธศาสนา หลงั จากทรงจําพรรษาแรกแลว้ (เช่ือกนั ว่า เปน็ จุดท่ีเดยี วกบั ท่ีพระพุทธองคท์ รงแสดงปฐมเทศนา คอื ธรรม เมกขสถูป) ดังปรากฏความตอนน้ีใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ว่า \"...ดูกรภกิ ษุท้ังหลาย เธอท้ังหลายจงเท่ียวจาริกไป เพ่ือประโยชน์เก้ือกูลแก่ชนหมู่มาก เพ่ือความสขุ แก่ชนหมู่ มาก เพ่ืออนุเคราะหโ์ ลก เพ่ือประโยชน์ เพ่ือเก้ือกูล เพ่ือ ความสขุ แก่เทวดาและมนุษย์ท้ังหลาย เธอท้ังหลายอย่า ได้ไปด้วยกนั 2 รูป โดยทางเดยี วกนั ดูกรภิกษุท้ังหลาย เธอท้ังหลายจงแสดงธรรม งามในเบ้ืองต้น งามใน ท่ามกลาง งามในท่ีสดุ จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมท้ัง อรรถ พร้อมท้ังพยัญชนะ บริสทุ ธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง... \" — สังยุตตนิกาย สคาถวรรคต ทุตยิ ปาสสตู รท่ี 5 และด้วยเหตุท้ังหลายดังกลา่ วมาน้ี สารนาถจึงได้กลายเป็น สัญลกั ษณ์แหง่ ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแหง่ แรกมาต้งั แต่น้ัน เปน็ ตน้ มา

วันอาสาฬหบูชา สารนาถหลงั การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ประมาณ 300 กว่าปี ต่อมาหลงั พุทธกาล ในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช กลมุ่ สถานท่ีท่ีพระพุทธเจ้าทรง แสดงปฐมธรรมเทศนา และ พระธรรมเทศนาอ่นื ๆ แกเ่ บญจวัคคยี ์ และหมู่คนั ธกุฎขี องพระพุทธเจ้า ในบริเวณป่าอสิ ิป ตนมฤคทายวัน ได้รับการบูรณะ และก่อสร้างศาสนสถานเพ่ิมเตมิ คร้ังใหญ่ เพ่ือถวายเปน็ อนุสรณียสถานแกพ่ ระพุทธเจ้า และกลมุ่ พุทธสถานเหลา่ น้ีได้เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสดุ ในสมัยราชวงศ์คปุ ตะ (บันทึกของพระถังซําจ๋ัง ซึ่งได้จาริกมาราวปี พ.ศ. 1300 ได้บันทึก ไว้ว่า \"มีพระอยู่ประจํา 1,500 รูป มีพระสถปู สงู ประมาณ 100 เมตร มีเสาศิลาจารึกรูปหวั สิงห์ และสิ่งอศั จรรย์มากมาย ฯลฯ \") และได้ถูกทิ้งร้างไปเม่ือกษัตริย์โมกลุ เข้าปกครองประเทศอนิ เดยี จนท่านอนาคาริก ธรรมปาละ ชาวศรีลงั กา ได้มาบูรณะขึน้ ใหม่ อกี คร้ัง และได้รับการบูรณะจากรัฐบาลอนิ เดยี เร่ือยมา จึงทําให้ สารนาถกลายเป็นจุดหมายปลายทางในการแสวงบุญท่ีสําคญั แหง่ หนึง่ ของชาวพุทธท่ัวโลก มาจนถึงปจั จุบัน

วันอาสาฬหบูชา จุดแสวงบุญและสภาพของสารนาถในปจั จุบัน ปจั จุบัน สถานท่ีแสวงบุญในบริเวณสารนาถได้รับการขุดคน้ บ้างเป็นบางส่วน บางส่วนก็ยังคงจมอยู่ใต้ดิน แต่ซากพุทธสถาน สําคญั ๆ ส่วนใหญ่ก็ได้รับการขุดคน้ ขึน้ มาท้ังหมดแลว้ ได้แก่ 1. ธรรมเขกสถปู เป็นสถานท่ีท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และทรงประกาศ ส่งพระสาวกออกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา

วันอาสาฬหบูชา 2. ยสสถปู เป็นสถานท่ีท่ีพระพุทธเจ้าทรงพบท่านยสะ ซึ่งต่อมาได้บรรลเุ ปน็ พระอรหนั ต์องคท์ ่ี 6 ในโลก

วันอาสาฬหบูชา 3. รากฐานธรรมราชิกสถูป เป็นสถานท่ีท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอนัตตลกั ขณะสตู ร และ เปน็ สถานท่ีท่ีเคยประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

วันอาสาฬหบูชา 4. พระมูลคนั ธะกุฏิ พระคนั ธกฏุ ที ่ีประทับจําพรรษาของพระพุทธองคใ์ นพรรษาแรก

วันอาสาฬหบูชา 5. ซากเสาพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งหกั เปน็ 5 ท่อน ในอดตี เสาน้ีเคยมีความสงู ถึง 70 ฟุต และบน ยอดเสามีรูปสิงห์ 4 หวั อกี ด้วย ปจั จุบันสิงห์ 4 หวั ได้เหลอื รอดจาก การถูกทําลาย และรัฐบาลอนิ เดยี ได้เก็บรักษาไว้ท่ีพิพิธภณั ฑ์สารนาถ โดยสิงหท์ ้ัง 4 หวั น้ี ได้ถูกนํามาเปน็ สัญลกั ษณ์ของประเทศอนิ เดยี และข้อความจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชท่ีจารึกไว้ใต้รูปสิงหด์ ัง กลา่ วคอื \"สตยฺ เมว ชยเต\" หมายถงึ \"ความจริงชนะทุกส่ิง\" และได้ ถูกนํามาเปน็ คาํ ขวัญประจําชาตขิ องประเทศอนิ เดยี อกี ด้วย

วันอาสาฬหบูชา 6. วัดมูลคนั ธกฏุ ิวิหารใหม่ วัดแหง่ น้ีถกู สร้างขึน้ โดยท่านอนาคาริก ธรรมปาละ พระสงฆ์ชาว ศรีลงั กา เปน็ สถานท่ีประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ท่ีได้รับมอบจาก รัฐบาลอนิ เดยี และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังท่ีสวยงามมาก ภายใน พุทธวิหารอกี ด้วย

วันอาสาฬหบูชา 7. พิพิธภัณฑ์สารนาถ เปน็ สถานท่ีเก็บรวบรวมโบราณวัตถทุ ่ีขุดคน้ ได้ภายในบริเวณ สารนาถ ซึ่งโบราณวัตถทุ ่ีสําคญั คอื ยอดหวั สิงหพ์ ระเจ้าอโศก และพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนา

วันอาสาฬหบูชา กิจกรรมท่ีพึงปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชา ในวันอาสาฬหบูชา พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทําบุญตักบาตร ในตอนเช้า และตลอดท้ังวันจะมีการบําเพ็ญบุญกศุ ลความดอี ่นื ๆ เช่น ไปวัดรับศีล งดเว้นการทําบาปท้ังปวง ถวายสังฆทาน ใหอ้ สิ ระทาน (ปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา) ฟงั พระธรรมเทศนา และไปเวียนเทียนรอบ โบสถใ์ นเวลาเย็น โดยกอ่ นทําการเวียนเทียน พุทธศาสนิกชนควรร่วมกนั กลา่ ว คาํ สวดมนต์และคาํ บูชาในวันอาสาฬหบูชา โดยปกติตามวัดต่างๆ จะจัดใหม้ ีการทําวัตรสวดมนตก์ อ่ นทําการเวียนเทียน ซึ่งส่วนใหญ่ นิยมทําการเวียนเทียนอย่างเปน็ ทางการ (โดยมีพระภกิ ษุสงฆ์นํา เวียนเทียน) ในเวลาประมาณ 20.00 น.

วันอาสาฬหบูชา กิจกรรมท่ีพึงปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชา โดยบทสวดมนต์ท่ีพระภกิ ษุสงฆ์นิยมสวดในวันอาสาฬหบูชา กอ่ นทําการเวียนเทียน นิยมสวด (ท้ังบาลแี ละคาํ แปล) ตามลาํ ดับ ดังต่อไปน้ี 1) บทบูชาพระรัตนตรัย 2) บทนมัสการพระพุทธเจ้า 3) บทสรรเสริญพระพุทธคณุ 4) บทสรรเสริญพระพุทธคณุ สวดทํานองสรภญั ญะ 5) บทสรรเสริญพระธรรมคณุ 6) บทสรรเสริญพระธรรมคณุ สวดทํานองสรภญั ญะ 7) บทสรรเสริญพระสังฆคณุ 8) บทสรรเสริญพระสังฆคณุ สวดทํานองสรภญั ญะ 9) บทสวดบูชาเน่ืองในวันอาสาฬหบูชา

วันอาสาฬหบูชา กจิ กรรมท่ีพึงปฏบิ ัตใิ นวันอาสาฬหบูชา จากน้ันจุดธูปเทียนและถอื ดอกไม้ เป็นเคร่ืองสักการบูชาในมือ แลว้ เดินเวียนรอบปูชนียสถาน 3 รอบ โดยขณะท่ีเดินน้ันพึงต้ังจิต ใหส้ งบ พร้อมสวดระลกึ ถงึ พระพุทธคณุ ด้วยการสวดบทสรรเสริญ พระพุทธคณุ (รอบท่ีหนึง่ ) ระลกึ ถึงพระธรรมคณุ ด้วยการสวดบท สรรเสริญพระธรรมคณุ (รอบท่ีสอง) และระลกึ ถงึ พระสังฆคณุ ด้วยการสวดบทสรรเสริญพระสังฆคณุ (รอบท่ีสาม) จนกว่าจะ เวียนจบ 3 รอบ จากน้ันนําธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาตามปูชนียสถาน จึงเปน็ อนั เสร็จพิธี

คณะผู้จัดทํา ท่ีปรึกษา นายปุณณรัตน์ ศรีทาพุฒ ผู้อาํ นวยการ สํานักงาน กศน. จังหวัดหนองคาย นางสาวปาริชาติ ไชยสถิตย์ รองผู้อาํ นวยการ สํานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย นางจามรี ภูเมฆ ผู้อาํ นวยการ กศน.อาํ เภอท่าบ่อ ผู้จัดทํา/รวบรวมข้อมูล/ออกแบบ นางสาววรุณยุภา นาเกลอื บรรณารักษ์ชํานาญการ กศน.อาํ เภอท่าบ่อ หนังสือเลม่ น้ีเปน็ ลขิ สิทธิ์ของ หอ้ งสมุดประชาชนอาํ เภอท่าบ่อ กศน.อาํ เภอท่าบ่อ สํานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย พุทธศักราช ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook