Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️©️

Description: ✍️©️

Search

Read the Text Version

งานศลิ ปหตั ถกรรมประเภท จกั สานหวาย และเถาวัลย์แดง จักสานหวาย และเถาวลั ย์แดง 1

จกั สานหวาย จกั สานเถาวลั ยแ์ ดง หตั ถกรรมจกั สานหวาย และเถาวลั ยแ์ ดง งานจกั สาน สะดดุ ตาของผู้พบเห็น ถกู สรา้ งสรรค์เปน็ ชนิ้ งานหลากหลาย อนั มเี อกลกั ษณง์ ดงามเฉพาะตวั หวาย และเถาวลั ยแ์ ดงถกู นำ� รปู แบบ เชน่ กระเช้าใสข่ องขวัญ ตะกรา้ ใสบ่ าตร โคมไฟ โตะ๊ มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักของการสร้างงานจักสาน ที่มีความ เกา้ อี้ โดยนำ� หวาย และเถาวลั ยแ์ ดงมาประยกุ ตเ์ ขา้ กบั วตั ถดุ บิ สวยงาม แตกต่างจากงานจักสานประเภทอื่น ๆ โดดเด่นท่ี ในท้องถิ่น สร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์จนสามารถส่งออกต่าง ลวดลาย สีสัน และการออกแบบที่ทันสมัย สวยงาม เป็นท่ี ประเทศ สร้างรายได้ใหก้ บั ประเทศอยา่ งมหาศาล จกั สานหวาย และเถาวลั ยแ์ ดง 2

หวาย - เถาวัลยแ์ ดง ตระกร้อ : เครอื่ งจกั สานหวาย วตั ถุดบิ ในการท�ำเครอื่ งจกั สาน จกั สานหวาย และเถาวลั ย์แดง 3 เครื่องจักสานจากหวาย เคร่ืองจักสานของไทยมีกรรมวิธีขั้นตอนการสานและ มรี ปู แบบตา่ งกนั บา้ งตามสภาพภมู ศิ าสตรป์ ระเทศ ตามความ นิยมในขนบประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น เอกลกั ษณเ์ ครอื่ งจกั สานของไทย คอื ทำ� จากวสั ดธุ รรมชาติ พชื ที่ นิยมน�ำมาท�ำเครือ่ งจกั สานมากท่ีสดุ ชนิดหนงึ่ คือ “หวาย” ในอดีตเคร่ืองจักสานมักใช้วัตถุดิบท�ำด้วยหวายเป็น สว่ นใหญ่ เพราะเป็นวัสดุทหี่ าง่ายและมีอยู่ตามท้องถิน่ ทว่ั ไป หวายจึงนับ เป็นไม้ที่มีความส�ำคัญในงานหัตถกรรมต่าง ๆ เนอื่ งจากหวาย เปน็ พชื ทมี่ ลี กั ษณะเดน่ เฉพาะตวั คอื มคี วามสวยงาม ตามธรรมชาติ มีเนื้ออ่อนกว่าเนื้อไม้แต่มีความเหนียว แขง็ แรง และยืดหยุ่นได้ดีกว่าไม้ไผ่หรือไม้ที่ใช้ในการจักสานชนิดอ่ืน ๆ สามารถจกั เป็นเส้นหรอื แผ่นบางได้งา่ ย โค้งงอได้ดี คงรปู อย่ไู ด้ ตลอดไปตามความตอ้ งการ หวายจงึ ถกู นำ� มาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจ�ำวนั ตง้ั แตส่ มยั โบราณ และมคี วามตอ้ งการใชห้ วายยง่ิ ทวี มากยิ่งขึ้น เน่ืองจากในปัจจุบันการใช้หวายมิใช่เฉพาะใช้ในชีวิต ประจำ� วนั เทา่ นน้ั แตย่ งั มกี ารพฒั นานำ� หวายมาใชป้ ระโยชนใ์ นงาน ดา้ นอตุ สาหกรรมอกี ดว้ ย อตุ สาหกรรมเครอ่ื งเรอื นและผลติ ภณั ฑ์ เครอ่ื งใชท้ ที่ ำ� จากหวาย จงึ มบี ทบาทตอ่ เศรษฐกจิ ไทยอยา่ งยง่ิ

ตน้ หวาย หวาย เป็นไม้เล้ือยจัดอยู่ในตระกูลปาล์ม เป็นไม้เขต คณุ สมบตั แิ ละความสวยงามแตกตา่ งกนั ไปตามชนดิ การใชง้ าน รอ้ น มีคุณสมบัติพเิ ศษอย่ทู ่ี ความเหนยี ว สามารถดดั งอตัว จึงต้องพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสม เช่น หวายข้อด�ำ และ ได้ ดว้ ยคุณสมบตั พิ ิเศษน้ที ำ� ให้หวาย กลายเป็นพชื เศรษฐกิจ หวายน้�ำผึ้งเป็นหวายเน้ือแน่นละเอียดมีความยืดหยุ่นมาก ที่นิยมน�ำมาใช้เป็นเครื่องจักสาน จะพบได้มากในภาคอีสาน เหมาะส�ำหรับใช้กับส่วนท่ีต้องการดัดโค้งให้เป็นรูปต่าง ๆ เมอื่ นำ� หวายมาสรา้ งเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ กจ็ ะมนี ำ� หนกั เบา สามารถ การดัดหวายท�ำได้โดยการน�ำหวายมาแช่น�้ำแล้วลนไฟหรือ เคลอ่ื นยา้ ยไดง้ า่ ย อกี ทงั้ ยงั มรี าคาถกู วา่ ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำ� จากไม้ อบไอน�้ำเพ่ือให้อ่อนตัวโค้งงอได้ง่าย ส่วนหวายที่มีเน้ือแน่น และแข็งแกร่งงอได้ยาก เช่น หวายโป่งเหมาะส�ำหรับใช้เป็น หวายทน่ี ำ� มาจกั สานนน้ั จะตอ้ งเปน็ หวายเสน้ เลก็ เชน่ สว่ นประกอบทเ่ี ปน็ เสน้ ตรง เปน็ ตน้ วา่ ทำ� ปพู น้ื รองนงั่ หรอื ทำ� หวายหอม หวายขนนุ หวายน้ำ� เปน็ ตน้ ส่วนหวายบางพนั ธ์ุ เป็นขาโตะ๊ เกา้ อี้ ท�ำเปน็ มา่ น หรือฉาก ส่วนหวายเสน้ เลก็ มี เปน็ หวายทมี่ ลี กั ษณะเสน้ ใหญ่ ใชส้ ำ� หรบั นำ� มาดดั ขนึ้ เปน็ โครง ขนาดเส้นผา่ ศูนย์กลางไม่เกิน 1.5 เซนตเิ มตร เชน่ หวายหอม ให้กับงานชน้ิ ใหญ่ ๆ เช่น โซฟา เกา้ อ้ี เป็นตน้ หวายกาหลง หวายลิง หวายขี้ไก่ ใช้วิธีการจักตอกผิวหวาย ส�ำหรับเพื่อการพันหรือผูก และส่วนไส้หวายใช้ส�ำหรับการ การใชป้ ระโยชนจ์ ากหวาย นำ� มาใชป้ ระโยชน์ ทำ� ผลติ ภณั ฑ์ สานลวดลาย ต่างๆ หลายประเภท ดังเช่น ผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งเรอื น เชน่ เกา้ อี้ ชดุ รบั แขก ชดุ อาหาร ชดุ สนาม โตะ๊ เตียง ชนั้ วางของ ทีแ่ ขวนหมวกหรอื เสอ้ื ฉาก หวั เตยี งนอน ทใี่ สห่ นงั สอื พมิ พ์ โตะ๊ เครอ่ื งแปง้ โคมไฟ ตะกรา้ ใส่เส้ือผ้า เคาน์เตอร์ ม่าน เปล เป็นต้น หวายที่นำ� มาใช้ท�ำ เครอ่ื งเรอื นมอี ยู่ 2 ขนาด คอื ขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ และหวาย ขนาดเลก็ หวายทมี่ ขี นาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ มเี สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ซ่งึ ได้แก่หวายกำ� พวน หวายน�้ำผง้ึ หวายโปง่ หวายขเ้ี สยี้ น และหวายขอ้ ดำ� หรอื หวายโอมกั หวาย พวกนมี้ ลี ำ� ตน้ ยาวมาก ขนาดลำ� เทา่ กนั โดยตลอด มสี ขี าวนวล สวยกวา่ ชนดิ อนื่ เหมาะสำ� หรบั ใชท้ ำ� โครงสรา้ งของเครอื่ งเรอื น วิธีนำ� มาใชต้ อ้ งปอกผวิ ออกก่อนเพ่อื ให้เรยี บเสมอกนั หวายมี จักสานหวาย และเถาวัลยแ์ ดง 4

ผลิตภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้ ได้แก่เช่น บุ้งก๋ี เข่ง ไปท�ำบุญที่วัด ใช้เป็นตะกร้าส�ำหรับใส่ของติดตัวเดินทางไป ด้ามไม้กวาด กระชหุ มู ลอบดกั ปลา กระบุง กระดง้ ตะแกรง ตามที่ต่าง ๆ จึงมักจะสานอย่างประณีตงดงามเป็นพิเศษ สาแหรก เสอื่ รถเขน็ เปน็ ตน้ หวายทใ่ี ชไ้ ดแ้ ก่ หวายขไี้ ก่ หวาย แต่ถ้าเป็นตะกร้าผลไม้ของชาวสวนแถบจังหวัดนนทบุรี แดง หวายงวย หวายขรงิ หวายนำ้� หวายกำ� หวายทราย หวาย ฉะเชงิ เทรา จะมลี กั ษณะแขง็ แรงและเสน้ ตอกใหญส่ านหยาบๆ ข้ีผ้งึ หวายข้ีเหร่ และหวายสามใบตอ่ แสดงให้เห็นว่ารูปแบบของเครื่องจักสานส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ ประโยชนใ์ ช้สอยเป็นสำ� คัญ ส่วนความประณตี งดงามจะเป็น ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน ได้แก่เช่น ตะกร้า กระเช้า สิ่งรองลงไป ตะกรอ้ กระเป๋า หมวก ภาชนะใส่ผลไม้ เปน็ ต้น หวายท่ีใช้ ไดแ้ ก่ หวายตะคา้ ทอง หวายหอม หวายชมุ พร หวายขผี้ งึ้ หวาย ขเี้ หร่ หวายขม หวายหิน หวายเล็ก หวายข้ีไก่ และหวายกงุ้ ผลติ ภณั ฑอ์ น่ื เชน่ หวายสานประดบั ประดษิ ฐเ์ ปน็ รปู แบบตา่ ง ๆ ใชใ้ นการงานตกแต่งบ้านอาคารสถานท่ี เครอื่ งจกั สานจากหวายทพ่ี บเหน็ มากทสี่ ดุ คอื ตะกรา้ หว้ิ ซงึ่ เปน็ ทน่ี ยิ มของภาคกลาง ตะกรา้ หว้ิ ภาคกลาง มรี ปู รา่ งและ ขนาดตลอดจนลวดลายในการสานแตกต่างกันไปบ้างตาม ความนิยมของท้องถนิ่ และประโยชนใ์ ชส้ อย เชน่ ตะกร้าหวิ้ ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั อา่ งทอง พระนครศรอี ยธุ ยา สงิ หบ์ รุ ี สพุ รรณบรุ ี นน้ั นยิ มใชต้ ะกรา้ หวิ้ รปู ไข่ มหี หู ว้ิ ขา้ งบน ใชป้ ระโยชนห์ ลายอยา่ ง เชน่ ใชเ้ ปน็ ตะกรา้ หมากหรอื เชย่ี นหมากของคนชรา ใชใ้ สอ่ าหาร จกั สานหวาย และเถาวลั ย์แดง 5

สว่ นทางภาคเหนอื กใ็ ชห้ วายมาทำ� เครอ่ื งใชห้ ลายชนดิ เชน่ หีบเสอื้ ผ้า แปม (ภาชนะประเภทกระบุงของชาวไทใหญ่ และชาวเขา) เครอ่ื งเรอื น เชน่ โตะ๊ เกา้ อเ้ี อน โซฟา และเครอ่ื ง ใช้อืน่ ๆ เช่น ขันโตก ตะกรา้ เปลเด็ก กระบงุ ฯลฯ หากแต่ภาชนะที่จักสานจากหวายท่ีชาวเหนือใช้ใน ชีวิตประจ�ำวันมากที่สุดคือ ขันโตกหวาย ซ่ึงได้ช่ือว่าเป็น ภาชนะท่ีใส่อาหารคาวหวานไว้รับประทานของคนล้านนา เป็นเคร่ืองแสดงออกถึงหน้าตาวัฒนธรรมด้านอาหารอย่าง หนึง่ ขันโตกที่ใช้ในวถิ ีชวี ิตของคนเหนือมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกนั คือ ขนั โตกหลวง ส่วนใหญจ่ ะนยิ มใชอ้ ยใู่ นเฉพาะค้มุ เจ้านาย ขนั โตกฮาม จะใชต้ ามบา้ นของเจา้ นายและคหบดี และ ขนั โตก นอ้ ย ใช้ตามวัดหรือบ้านเรอื นทั่วไป จักสานหวาย และเถาวัลยแ์ ดง 6

เคร่อื งจักสานจากเถาวลั ย์แดง มาลอกเปลอื กออก และเอาไปตากแดดท้งิ ไว้ เถาวลั ย์กย็ ังหัก เถาวัลย์แดง เป็นพืชท่ีพบได้ทั่วไป มักจะขยายพันธุ์ งา่ ยอย่เู หมือนเดมิ จนสุดทา้ ยจึงลองนำ� เถาวลั ยล์ งไปต้ม เอาไป ผงึ่ แดดใหแ้ ห้ง ผลปรากฏเป็นทีน่ ่าพอใจ สามารถน�ำเถาวัลย์ มากในปา่ สว่ นมากจะพบในภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มาดดั งอได้ โดยไมแ่ ตกหัก และเกบ็ ไวไ้ ด้นานโดยไมผ่ ุ ท�ำให้ และภาคกลาง ลกั ษณะเปน็ พชื ไมเ้ ลอื้ ย ฝกั เปน็ แทง่ กลม ๆ รปู ทรง งานจักสานเถาวัลย์แดงกลายเป็นท่ีรู้จักเป็นผลิตภัณฑ์ คดเค้ยี ว หัตถกรรมเคร่ืองจักสานเถาวัลย์แดงท่ีมีเอกลักษณ์โดดเด่น ของจังหวดั ราชบุรีมาจนถึงปจั จบุ ันนี้ ในจงั หวดั ราชบรุ นี น้ั พบเถาวลั ยแ์ ดง ขนึ้ อยเู่ ปน็ จำ� นวน มาก เนอื่ งจากพน้ื ทใี่ นบา้ นปากช่อง อ�ำเภอจอมบงึ ส่วนใหญ่ ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนำ� เถาวลั ยแ์ ดงซงึ่ เปน็ วชั พชื มาสานเปน็ เปน็ ปา่ ไม้ จะมเี ถาวลั ยแ์ ดงขน้ึ อยมู่ าก และเลอ้ื ยพนั เกาะเกย่ี วกบั ภาชนะชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ กระเชา้ ผลไม้ ชงิ ชา้ เฟอรน์ เิ จอร์ โคมไฟ ฯลฯ พรรณไมอ้ น่ื ๆ สรา้ งความเสยี หายตอ่ การขยายพนั ธข์ุ องตน้ ไม้ ซึ่งมีแหล่งผลิตใหญ่อยแู่ ถวอำ� เภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี อำ� เภอ ดอกไม้ในบริเวณนั้น จึงได้มีการคิดค้นน�ำเถาวัลย์แดงมาใช้ ฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธ์ุ อ�ำเภอด่านชา้ ง จงั หวดั สุพรรณบรุ ี ประโยชน์ โดยคณุ สลัด สขุ ขี ซง่ึ มคี วามคดิ ที่อยากจะนำ� วัสดุ และกล่มุ แมบ่ า้ นหตั ถกรรมเครือ่ งจักสานกระเชา้ เถาวัลย์แดง เหลือใช้ตามธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อน�ำไป ตำ� บลธรรมามูล อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดชัยนาท เปน็ ต้น ฝึกอาชีพให้แก่ผู้ต้องขงั กระท่ังคณุ สลดั ไดเ้ หน็ นกทค่ี าบเถาวัลย์ ชิ้นเลก็ ๆ มาสรา้ งรังอยบู่ นต้นไม่ เปน็ รงั ทสี่ วยงาม การสร้างรังของนกในคร้ังนั้นเองเป็นการจุดประกาย ให้คณุ สลดั น�ำเถาวลั ยม์ าท�ำเปน็ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ตา่ ง ๆ และ ไดน้ ำ� งานจกั สานเถาวลั ยไ์ ปเผยแพรใ่ หแ้ กช่ าวบา้ น จงั หวดั ราชบรุ ี ดว้ ยการข้นึ รูปจากโครงเหลก็ และน�ำเถาวัลยม์ าพนั ตามโครง ไปเร่ือย ๆ ท�ำเปน็ เฟอรน์ ิเจอร์ โต๊ะ เกา้ อ้ี ผลงานเถาวลั ยแ์ ดง ที่ได้ในช่วงแรก ๆ มีความสวยงามแต่ยังไม่คงทน เนื่องจาก เถาวัลย์นั้นมีความแขง็ จงึ ทำ� ใหห้ กั เปราะ แตกง่าย ชาวบ้าน จงึ ไดค้ ดิ หาวธิ ใี หเ้ ถาวลั ยม์ คี วามคงทน โดยการลองเอาเถาวลั ย์ จกั สานหวาย และเถาวัลย์แดง 7

จภักูมสิปาญั นเญถาาวแลัลยะ์แทดักงษเะอเกชลงิ ชกั ษา่ งณท์ ส่ี ะท้อน เทคนิคส�ำคัญส�ำหรับการสร้างสรรค์งานหัตถกรรม จักสานเถาวัลย์แดง คือการน�ำเส้นเถาวัลย์ไปแช่น�้ำประมาน เถาวลั ยแ์ ดง จดั เปน็ ไมเ้ ลอ้ื ยมคี ณุ สมบตั พิ เิ ศษมคี วามเหนยี ว 2 ชว่ั โมง แลว้ นำ� ไปผงึ่ แดดใหแ้ หง้ สนทิ เสน้ เถาวลั ยท์ ไี่ ดจ้ ะนม่ิ และความคงทน คนในสมยั โบราณจะใชเ้ ถาวลั ยแ์ ทนเชอื ก ตอ่ มา สามารถนำ� มาดัด สานไดง้ ่าย โดยทเ่ี สน้ เถาวลั ยไ์ ม่แตกหัก จะ เมอ่ื มกี ารเปลยี่ นแปลงทางดา้ นอตุ สาหกรรมมกี ารผลติ เชอื กขนึ้ มา ไมน่ ิยมน�ำเถาวลั ยแ์ ดงสด ๆ มาสาน เพราะเมอ่ื ท้ิงไว้จนแหง้ ทดแทนการใชเ้ ถาวลั ยท์ ำ� ใหก้ ารใชเ้ ถาวลั ยเ์ ปน็ เชอื กเลอื นหายไป เถาวัลยจ์ ะแตกหรือมรี อยรา้ ว ไมส่ วยงาม เมื่อสานเสรจ็ แล้ว ทาเคลือบดว้ ยนำ้� มนั แก้ว ใหง้ านคงทนมากขึน้ และสามารถ เกบ็ รักษาไวไ้ ด้นาน ลวดลายบนงานจักสานเถาวัลย์แดง เกิดข้ึนจากเส้น เถาวัลย์ที่มีความโค้งงอ มีรูปทรงแตกต่างกันไป เนื้อหยาบ กระดา้ งบ้าง ละเอยี ดบ้าง สเี ข้ม สอี ่อนตามธรรมชาติ รวมถึง การใชเ้ ถาวลั ยเ์ ส้นเล็ก เส้นใหญ่ น�ำมาสานเข้าดว้ ยกัน สร้าง เอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นดูโดดเด่น สวยงาม สีที่ นิยมของงานจักสานเถาวลั ยแ์ ดง กค็ อื สีแดงอมเหลืองซึ่งเป็น สีธรรมชาติของเถาวัลย์ และยงั มีการดดั แปลงโดยนำ� เถาวลั ย์ แดงไปแช่ในน�้ำเหล็ก หรือสังกะสี ได้เป็นเส้นเถาวัลย์สีด�ำ สวยงามไปอีกแบบหน่งึ ลายที่นยิ มสาน เช่น ลายตาหมาก ฮอท ลายโอ ลายทบึ ลายไทย ลายรงั นก เป็นตน้ จกั สานหวาย และเถาวลั ยแ์ ดง 8

เถาวลั ยแ์ ดง สามารถนำ� มาสานเปน็ เครอ่ื งใชร้ ปู แบบตา่ งๆ กระเช้าจากเถาวัลยแ์ ดง ได้หลากหลายรูปแบบทัง้ เครอื่ งใช้ เครื่องประดับตกแตง่ เชน่ ถาดผลไมจ้ ากเถาวัลยแ์ ดง กระดาษเดคูพาจ กระเช้าผลไม้ ตะกร้าส�ำหรับใส่ของ ห่วง แขวนผ้า เกา้ อี้น่ังรปู สัตวต์ า่ ง ๆ แตร่ ปู แบบผลติ ภัณฑท์ ไี่ ดร้ บั จักสานหวาย และเถาวัลยแ์ ดง 9 ความนยิ มโดยทวั่ ไปมกั เปน็ ผลติ ภณั ฑป์ ระเภทตะกรา้ สาน เชน่ ตะกร้าส�ำหรับใส่ของขวัญ ของช�ำร่วยเพื่อน�ำไปแจกผู้ใหญ่ ตะกร้าใสบ่ าตรสำ� หรบั ใสข่ องสำ� หรบั ไปทำ� บญุ เป็นตน้ การสานเถาวลั ยแ์ ดง ลายทนี่ ยิ มสานไดแ้ ก่ ลายตาหมากฮอท ลายโอ ลายทบึ ลายไทย และลายรงั นก กลา่ วคอื ทงั้ ลาย รปู ทรง และขนาด อาจออกแบบใหต้ า่ งออกไปตามความตอ้ งการของ ลูกคา้ หลงั จากน้ันจงึ น�ำกลับไปตากแดดอีกคร้ังหน่ึง งานจกั สานเถาวลั ยแ์ ดงมกี ารพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง จาก การใชว้ สั ดเุ ถาวลั ยแ์ บบดง้ั เดมิ กเ็ รมิ่ มพี ฒั นาการตอ่ ยอด และ เพมิ่ มลู คา่ ใหก้ บั สนิ คา้ โดยเอาวสั ดอุ น่ื มาเสรมิ แตง่ โดยนำ� วสั ดุ อน่ื ๆ ทม่ี อี ยใู่ นทอ้ งถน่ิ มาผสมผสานเขา้ กบั งานจกั สานรปู แบบ เดิม ๆ เช่น กะลามะพร้าว เหล็ก แก้ว วัชพืชต่าง ๆ และ เครือ่ งปั้นดนิ เผา สร้างงานรปู แบบใหม่ ๆ เชน่ โคมไฟ ของ ตกแต่งบ้าน ของตกแต่งสวน เป็นต้น ส่งออกสู่ตลาดญี่ปุ่น สามารถขายได้ในราคาทีส่ ูงข้ึนหลายเท่า

ตระกรา้ สานจากเถาวัลย์แดง กงารนรมจวกั ิธสกีาานรเถสารว้างลั สยร์แรดคง์ คอ้ นหงอนขนาดเลก็ ใชต้ อกตะปถู อนตะปหู รอื ตอกไม้ เมื่อประกอบชนิ้ งาน วสั ดุ / อุปกรณ์ในการจักสานกระเชา้ เถาวัลยแ์ ดง มดี โต้ เปน็ มดี ทใ่ี ชส้ ำ� หรบั ตดั ไม้ มี 2 ชนดิ คอื ชนดิ สนั โคง้ สผี สมอาหาร นำ�้ มนั เคลอื บเงา และสันตรง กรรไกร ใช้ตกแต่งเก็บรายละเอียดส่วนเกนิ ออก มีดตอกเป็นมีดทรงเรียวแหลม คมมีดโค้งมน เพื่อให้ เหมาะกับการใช้งาน เลอื่ ยลนั ดา เปน็ เลอ่ื ยใชง้ านทวั่ ไปใชส้ ำ� หรบั ตดั หรอื ฝา่ ไม้ตามความตอ้ งการ เลียด คือ เครื่องมือชักหวายให้ได้เส้นตามขนาดท่ี ตอ้ งการ หรอื อาจท�ำขนึ้ เองจากวัสดุทท่ี ำ� จาก สังกะสหี รืออลู มเิ นยี ม เรียกว่า รูร้อยหวาย กระดาษทราย ใช้ขัดเก็บรายละเอยี ดชน้ิ งาน ตะปูเข็ม ใช้ตอกเถาวัลย์ให้ติดแน่นไม่หลุดและเพิ่ม ความแขง็ แรง เหล็กหมาด มีลักษณะเป็นเหล็กแหลมยาวประมาณ 4 นิ้ว มีด้ามขนาดเหมาะมือที่ใช้เจาะรูในการประกอบงาน จักสาน ท�ำจากเหล็กเส้น หรือลวดที่มีความแข็ง ซ่ีล้อลวด จักรยานโครงก้านร่ม น�ำมาฝน ปลายให้แหลมใช้เจาะรูเพื่อ รอ้ ยเสน้ หวาย สว่ นชนดิ แหลมปลายแบนใชเ้ จาะเพอ่ื รอ้ ยเสน้ ตอก จกั สานหวาย และเถาวัลยแ์ ดง 10

ขน้ั ตอนการท�ำกระเชา้ เถาวลั ยแ์ ดง การขึ้นรูปกระเช้าเถาวัลย์แดง ก่อนท่ีจะน�ำเถาวัลย์ แดงมาดดั ขนึ้ รปู นน้ั จะตอ้ งนำ� เถาวลั ยแ์ ดงกลบั ไปแชน่ ำ�้ อกี ครงั้ คัดเลือกเถาวัลย์แดง เถาวัลย์แดงท่ีเหมาะส�ำหรับ หน่ึงประมาณ 2-3 ช่ัวโมง หรือหากเป็นเถาวัลย์เส้นใหญ่จะ การนำ� มาจกั สานคอื เถาวลั ยแ์ ดงทม่ี อี ายุ 1 – 2 ปขี น้ึ ไป เพราะ ต้องแชท่ ง้ิ ไว้ข้ามคนื หรือจนกว่าเถาวัลย์จะน่มิ เพราะหากใช้ ถือเปน็ เถาวัลย์ทม่ี ีคุณภาพ สสี วย เหนยี ว ไมเ่ ปราะง่าย เม่อื เถาวัลย์สด เม่ือน�ำมาสานขนึ้ รปู เถาวลั ยจ์ ะแตก และมรี อย ได้มาแล้วต้องน�ำมาตัดใบกิ่งก้านออกให้หมด แล้วขดเป็น รา้ วไมส่ วยงาม วงกลมให้มขี นาดเล็กกว่าภาชนะที่จะใชล้ งไปตม้ จากนนน้ั นำ� เถาวลั ยแ์ ดงทแ่ี ชน่ ำ้� จนนมิ่ แลว้ มาดดั ขน้ึ รปู ตม้ เถาวลั ย์แดง ต้งั ไฟ และน�ำเถาวลั ยแ์ ดงลงไปตม้ ใน โดยเริ่มดัดจากส่วนฐานก่อน จากน้ันจึงสานขึ้นเป็นรูปตาม น้�ำสะอาดราว 4-5 ชั่วโมง จนกระทั่งเปลือกเถาวัลย์เปื่อย ตอ้ งการ ซงึ่ ในข้นั ตอนการข้ึนรูปน้ี สามารถขน้ึ รูปได้ 2 แบบ สามารถลอกออกได้ง่าย ต่อจากน้ันน�ำเถาวัลย์ท่ีลอกเปลือก ด้วยกัน คอื การข้ึนรูปตามโครงเหลก็ ตน้ แบบ และการขน้ึ รูป ออกแลว้ ไปผงึ่ แดดใหแ้ หง้ สนทิ 3-5 วนั แขวนเกบ็ ไวใ้ นรม่ เพอื่ ตามรปู ทรงอิสระ เชน่ รปู ทรงกลม รูปสี่เหลย่ี ม เป็นตน้ หลงั ปอ้ งกนั เช้ือรา จากนั้นจงึ น�ำกลับไปตากแดดอกี ครงั้ หน่ึง การตกแต่ง น�ำเถาวัลย์ท่ีตากแดดแห้งดีแล้วมาตัด ปลายเถาวัลย์ส่วนเกินออก น�ำไปทาด้วยสีผสมอาหารเป็นสี ตา่ ง ๆ เชน่ สเี ขยี ว หรอื สแี ดง ตอ่ จากนนั้ จงึ นำ� ไปทานำ้� มนั แกว้ เพ่ือเคลือบเงา บางแห่งใช้น้�ำมันวานิชผสมกับน้�ำมันสนใน อัตรา 1:1 ตากท้ิงไว้จนแห้ง การเคลือบเงาจะท�ำให้กระเช้า เถาวลั ยแ์ ดงมคี วามเหนยี ว คงทน เงางาม และปอ้ งกนั การเกดิ มอด เกบ็ ไว้ได้นาน จกั สานหวาย และเถาวลั ย์แดง 11

เคร่ืองจักสานไทยในภาคต่าง ๆ นั้นมีมากมายหลาย ชนดิ มเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะถน่ิ ทแี่ ตกตา่ งกนั ไป ลกั ษณะเฉพาะถน่ิ ของเครื่องจักสานเหล่าน้ัน สะท้อนให้เห็นสภาพภูมิประเทศ ของแตล่ ะท้องถ่นิ สภาพ การดำ� รงชวี ติ ขนบประเพณี ความเช่ือ ตลอดจนถงึ การนบั ถอื ศาสนาของกลมุ่ ชนทผ่ี ลติ เครอ่ื งจกั สาน เครอื่ งจกั สานจงึ เปน็ งานศลิ ปหตั ถกรรมทม่ี คี ณุ คา่ เปน็ หลกั ฐาน ทางประวัตศิ าสตร์ของทอ้ งถิน่ ตา่ ง ๆ ได้ดอี ย่างหนึง่ นอกจากน้ี เครื่องจกั สานยงั เปน็ งานศลิ ปหัตถกรรมที่ สะทอ้ นให้เหน็ ภมู ิปัญญาของชาวบา้ นได้ เช่น สะท้อนให้เหน็ ความชาญฉลาดในการเลอื กสรรวตั ถดุ บิ ทจี่ ะนำ� มาใชท้ ำ� เครอื่ ง จกั สานซง่ึ ชาวบา้ นจะมคี วามรู้ เกย่ี วกบั คณุ สมบตั ขิ องวตั ถดุ บิ แตล่ ะชนดิ เปน็ อยา่ งดี น�ำมาดัดแปลงแปรรูปเป็นวสั ดุท่ใี ช้ท�ำ เครอื่ งจกั สานดว้ ยวธิ งี า่ ย ๆ ดว้ ยภูมิปัญญาพ้ืนบ้านท่ีชาวบ้าน เรียนรจู้ ากการสงั เกตการทดลองสบื ตอ่ กันมาแตบ่ รรพบุรษุ จน ท�ำให้เคร่ืองจักสานแต่ละชนิดมีรปู แบบและประโยชนใ์ ชส้ อยที่ สมบรู ณล์ งตวั คณุ คา่ อกี ประการหนงึ่ ของเครอ่ื งจกั สานคอื คณุ คา่ ทางศิลปะและความงามเครื่องจักสานหลายชนิดมีรูปทรง โครงสร้าง และลวดลายที่ลงตัวงดงามยากที่จะหาเคร่ืองมือ เครื่องใชป้ ระเภทอืน่ เทียบได้ จกั สานหวาย และเถาวลั ย์แดง 12

ปัจจบุ ันเครือ่ งจกั สานทที่ ำ� จากหวายมีนอ้ ยลง เพราะ วิธีการผลิต รูปแบบและการตลาด จนสามารถกระจายแพร่ การออกกฎหมายใหห้ วายเปน็ ไมส้ งวน หวายจงึ กลายเปน็ วสั ดุ หลายอยา่ งทว่ั ถงึ ทง้ั ในประเทศ และตา่ งประเทศ สามารถเปน็ หายากข้ึน กลุ่มผู้ผลิตงานจักสานจึงต้องน�ำเข้าหวายจาก สนิ ค้าสง่ ออกทเ่ี ชิดหนา้ ชตู าไดด้ ี มาจนถึงในปจั จบุ นั ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กมั พชู า เมียนมา อนิ โดนีเซยี ประกอบกับมีการเก็บภาษีน�ำเข้าหวายในอัตราสูง ส่งผลให้ เครอื่ งจกั สานจากหวายมรี าคาสูงข้ึนดว้ ย เครอื่ งใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั ของคนจำ� นวนมาก โดยเฉพาะ ชว่ งเทศกาลตา่ ง ๆ เครอ่ื งจกั สานกลายเปน็ ภาชนะทชี่ ว่ ยสรา้ ง มลู คา่ เพม่ิ ใหส้ นิ คา้ อน่ื ๆ ประกอบกบั ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค กลมุ่ ที่ยงั นยิ มเครอ่ื งจักสานมอี ยูเ่ ปน็ จ�ำนวนมาก จึงไดม้ ีการหา วสั ดุอืน่ มาทดแทน เชน่ ผักตบชวา แต่ก็ประสบปญั หาเรื่องเชือ้ รา ต่างกบั หวาย หรอื เถาวัลย์แดงซง่ึ เป็นวัสดชุ นดิ หนง่ึ ทแ่ี ขง็ แรง ทนทาน มคี วามงามอยใู่ นตวั เมอ่ื นำ� มาสานเปน็ ผลติ ภณั ฑช์ นดิ ต่าง ๆ จึงมีความแขง็ แรงทนทาน และไมม่ ีปญั หาเรอ่ื งเช้ือรา เครอื่ งจกั สานจงึ เปน็ งานหตั ถกรรมแขนงหนง่ึ ทพี่ ฒั นา จกั สานหวาย และเถาวัลยแ์ ดง 13

แหลง่ ท่มี าขอ้ มลู และเอกสารทใี่ ช้ในการอ้างอิงการจัดทำ� ขอ้ มูล การสมั ภาษณ์นางสมบูรณ์ กระต่ายทอง ช่างจักสานเถาวลั ยแ์ ดง อ.จอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี พฒุ วีระประเสรฐิ .ของรักของชอบ.โมเดอร์น เพรส ,กรุงเทพฯ : 2535. วิบูลย์ ลส้ี ุวรรณ.เครื่องจักสานในประเทศไทย.โอ .เอส.พรน้ิ ติ้ง เฮ้าส.์ , กรงุ เทพฯ : 2532. วนิ ัย วิรยิ ะปานนท์.เครื่องจกั สาน.แพร่พิทยา ,กรงุ เทพฯ : 2527. สมปอง เพ็งจันทร.์ เครื่องจกั สานภาคเหนือ.ซิลค์เวอรม์ บุคส,์ กรุงเทพฯ : 254 สารนพิ นธ์ เรอื่ ง การศกึ ษาความเปน็ ไปไดข้ องกลมุ่ แมบ่ า้ นหตั ถกรรมเครอื่ งจกั สานกระเชา้ เถาวลั ยแ์ ดง จงั หวดั ชยั นาท มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครรนิ ทรวโิ รฒ www.museum.socanth.tu.ac.th จกั สานหวาย และเถาวลั ย์แดง 14


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook