Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บันทึกคุณแม่นักอ่าน

บันทึกคุณแม่นักอ่าน

Description: บันทึกคุณแม่นักอ่าน

Search

Read the Text Version

กลับมาที่คุณแม่คนเดิม โบบอกให้เขาอุ้มลูกให้บ่อยข้ึนเท่าที่จะ มีโอกาส แรกๆ ลูกอาจงอแง ไม่ยอมให้อุ้ม จนแม่งอนน้อยอกน้อยใจ แต่ไม่นานเม่ือคุ้นกัน ลูกย่อมสัมผัสได้ถึงสายใยรักท่ีพันผูกแม่ลูกไว้ ความมน่ั ใจในบทบาท “แม”่ ก็จะกลับคนื มาอีกครัง้ ทนี ีเ้ ช่อื เถอะค่ะวา่ อุ้มลกู จนตดิ มือ แล้วแม่จะตดิ ใจแน่ๆ ท่ีมา : หนงั สอื รอใหถ้ งึ อนบุ าลกส็ ายเสยี แลว้ /เขยี น:มาซารุอบิ กุ ะ/แปลและเรยี บเรยี ง: ธีระ สุมติ ร และพรอนงค์ นยิ มค้า / สำนกั พิมพ์ : หมอชาวบ้าน หนังสือ EQ ลกู เริ่มทรี่ กั จากพ่อแม่ / เขยี น : นพ.อมั พล สอู ำพัน / สำนักพมิ พ์ : รักลกู บ๊กุ ส์ ธิดา พานชิ 33

เขม้ งวดกับลกู ช่วงวัยไหนดีทีส่ ุด เวลาโบเจอพ่อแม่ลูกบ้านอื่นๆ แล้วมองย้อนกลับมา ดูบ้านตัวเอง ทำให้เผลอคิดไม่ได้ว่าเราเป็นแม่ท่ีเป๊ะ เนี้ยบ โหดไปไหม 34 บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน

โบจะเข้มงวดกับลูกมากในหลายๆ เรื่อง เช่น ให้ล้างมือทุกครั้ง ก่อนและหลังอาหาร ต้องแปรงฟันก่อนนอนทุกคืนแล้วห้ามกินอะไร อกี กนิ ขา้ วหา้ มลกุ ออกจากเกา้ อี้ ดทู วี ไี ดเ้ ทา่ ทต่ี กลงกนั ไว้ พดู คำไหนคำนนั้ ไม่มีหยวน ถ้าทำผิดก็ต้องได้รับบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง เช่น การตดั สทิ ธิ์ (แต่จะไมใ่ ช้ความรุนแรง) ตอนแรกๆทฝี่ กึ กย็ อมรบั วา่ เหนอื่ ยคะ่ ตอ้ งอดทนและใชเ้ วลาไมน่ อ้ ย แตห่ ลายเรอ่ื งพอฝกึ ไดก้ ส็ บายเราเลย เพราะเขาจะทำเองโดยทเ่ี ราไมต่ อ้ ง พร่ำบอก กลับมาท่ีเรื่องเข้มงวดแบบน้ีในเด็กวัยก่อนเข้าเรียนดีไหม โบ อ่านเจอในหนังสือเรื่อง รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว ผู้เขียนบอกว่า พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นหลายคนตามใจลูกในตอนเด็กๆ ช่วงแรกเกิดถึง ๒ ปี เพราะคดิ วา่ ลกู ยงั เลก็ มากไมค่ วรเขม้ งวดอะไร แตก่ ลบั มาเขม้ งวดเครง่ ครดั กับลูกในวัยหลังจากน้ัน ท่ีเร่ิมโตขึ้น และเร่ิมเป็นตัวของตัวเอง ผลก็คือ เดก็ ไมย่ อมฟัง ไมท่ ำตาม และตอ่ ตา้ นพ่อแม่ ทง้ั ทคี่ วามจรงิ แล้วในวัยทเ่ี ล็กมากๆ ท่ีเซลลส์ มองยงั เชื่อมต่อกันไม่ เรียบร้อยนั้น การอบรมส่ังสอนทางกายเป็นเร่ืองที่สำคัญมาก คุณแม่จึง ควรเปน็ คณุ แมท่ เ่ี ขม้ งวด และคนรอบขา้ งกค็ วรใหค้ วามรว่ มมอื อยา่ งอบอนุ่ แต่หลังจากน้ัน เม่ือเด็กพัฒนาความรู้สึกนึกคิดและความเป็นตัวของ ตัวเอง การไปเคร่งครัดกับลูกย่อมจะไม่มีประโยชน์ เพราะเขาจะไม่ ทำตามและต่อต้าน สง่ิ ทค่ี ณุ แม่ควรทำคือ กลายเป็นคณุ แม่ใจดี ที่รับฟัง เหตุผลของลูก เปดิ โอกาสใหเ้ ขาได้คิดไดเ้ ลือกเอง ธดิ า พานชิ 35

หลายคร้ังโบเห็นข่าวท่ีพ่อแม่เข้มงวดกับลูกวัยรุ่นมากจนลูกเครียด ต่อต้านพ่อแม่ และบางคนถึงกบั ทำร้ายตนเอง ทำรา้ ยคนอน่ื ดว้ ย นั่นเปน็ เพราะพ่อแม่เคร่งครัดไมถ่ กู เวลา เร่อื งนีต้ รงกับสุภาษติ ไทยทีว่ ่า “ไมอ้ อ่ นดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” และยิ่งไมอ้ อ่ นมากๆ ยง่ิ ดดั งา่ ยเขา้ ไปใหญ่ รอู้ ย่างนี้แลว้ จะมวั รออะไรล่ะคะ 36 บนั ทึกคณุ แม่นกั อ่านนิทาน

กลยทุ ธส์ ู้ศึกสงครามกอ่ นนอน ๒ ทมุ่ เตรยี มทัพพรอ้ มสูศ้ ึก ๒ ทุ่มครง่ึ สมรภูมิเริ่มเดือด ๓ ท่มุ ราตรีนอี้ ีกยาวไกล ราว ๔ ทุ่ม ศึกจงึ สงบ ข้าศึกยกธงขาวหลบั คาเตียง ธดิ า พานชิ 37

บ้านไหนเป็นแบบนี้บ้างคะ ลูกหลับยากมากและไม่ยอมเข้านอน ดีๆ กว่าลูกจะยอมหลับต้องกล่อมแล้วกล่อมอีก การเอาลูกเข้านอนจึง เป็นสงครามระหว่างแม่กับลูก ท่ีแก้อย่างไรก็ไม่ตก เป็นเรื่องน่าเบื่อ ท่ีต้องเผชิญทุกคืนวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โบจึงไปเสาะหา “กลยทุ ธป์ ราบศึกบนเตยี ง” มาฝากกนั คะ่ วิธที ีจ่ ะช่วยสงบสงครามกอ่ นนอนได้ คอื ให้ลูกนอนทเ่ี ดมิ เวลาเดิม กับคนเดมิ และดว้ ยขั้นตอนเดิมๆ เปน็ กจิ วัตร ขยายความเพม่ิ เตมิ ดงั น้ี -นอนที่เดิม คือ เข้านอนในห้องเดิม ที่มีสภาพแวดล้อมเดิม เช่น ถ้านอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ ก็ให้นอนเตียงน้ันทุกคืน ไม่ย้ายไปนอนห้อง คณุ ตาคุณยายหรอื เตียงอน่ื ในห้องอื่น -เวลาเดมิ เปน็ การสรา้ งวนิ ยั ในการนอนใหล้ กู ไมว่ า่ เขาจะงว่ งหรอื ไม่ ถ้าถึงเวลาที่กำหนดตอ้ งปิดไฟนอน ไม่ขอต่อเวลา ไม่เลน่ อะไรอีก เมือ่ ทำ แบบนี้บอ่ ยครั้ง พอถงึ เวลาทกี่ ำหนดเขาก็จะง่วงเองโดยอัตโนมัติ แนะนำว่า หากเป็นเด็กที่เริ่มเข้าอนุบาล ให้ตั้งนาฬิกาหน่ึงเรือน ไว้ในห้อง และช้ีให้ดูตัวเลข ว่าถึงเลขน้ีแล้วลูกต้องนอน ตกลงกันให้ เรยี บร้อยกอ่ นนอน และไม่ควรขใู่ ห้ลกู กลัว เชน่ ถ้าไม่นอนจะตี ถ้าไม่นอน ผีจะมา ถ้าไม่นอนตุ๊กแกจะกินตับ เพราะจะทำให้เขาหลับไปพร้อมกับ ความกลวั ซึ่งไมเ่ ปน็ ผลดี กลายเป็นสร้างประสบการณ์การนอนท่ีเลวรา้ ย ให้ลูก -นอนกับคนคนเดิม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรเปล่ียนคนพาลูก เข้านอนทุกคืน เด็กจะสับสน เด็กเมื่อเร่ิมติดใครในการทำอะไรแล้ว เขาก็อยากได้คนเดิมทำสิ่งเดิมๆ กับเขาซ้ำๆ ทุกวัน เขาก็จะยอมนอน 38 บันทกึ คุณแมน่ กั อ่านนิทาน

และนอนหลบั ไดง้ ่าย -เขา้ นอนด้วยขั้นตอนเดิมๆ ก่อนนอนทกุ คนื แนะนำให้คุณพอ่ คุณแม่หากิจกรรมเบาๆ ผ่อนคลาย เป็นการค่อยๆ เปล่ียนผ่านจาก ช่วงกลางวันท่ีแสนวุ่นวาย ให้ลูกรู้ว่าถึงเวลากลางคืนท่ีสงบเงียบ และ ได้เวลาเขา้ นอนแล้ว แนะนำให้ทำกิจกรรม เช่น อาบน้ำ กินนม อ่านนิทาน สวดมนต์ แล้วจึงเข้านอน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้พ่อแม่ควรทำทุกคืน และเรียงลำดับ ตามความสะดวกให้เหมือนกันทุกคืน น่ีก็เป็นการฝึกวินัยในการนอน เช่นกนั สิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจปราบหนูน้อยไม่ยอมนอน ก็คือ “ความ สม่ำเสมอ” ค่ะ ทุกอย่างที่กล่าวมาจะไม่ได้ผลเลย ถ้าไม่ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ถา้ จำเป็นตอ้ งขอความรว่ มมอื กับคนอ่นื ในบา้ นบา้ งก็ตอ้ งทำนะคะ เพราะการนอนพักผ่อนให้เพียงพอสำคัญกับการเจริญเติบโตของ รา่ งกายและสมองของเด็กมากๆ ค่ะ วา่ แต่คนื น้ี ขอใหโ้ ชคดีนะคะ ท่ีมา : Top Baby Sleep Mistakes - and How to Avoid Them https://www.babycenter.com/0_top-baby-sleep-mistakes-and-how-to-avoid- them_10303189.bc ธดิ า พานชิ 39

คณุ แม่จอมเปะ๊ vs คณุ แม่ผอ่ นคลาย หลังจากได้เป็นแม่ลูกสองมาพักใหญ่ โบคิดว่าตัวเอง เพม่ิ เลเวลจากคณุ แมม่ อื ใหมจ่ อมเปะ๊ มาเปน็ คณุ แมเ่ ทริ น์ โปรฯ ผ้ผู ่อนคลาย เปน็ ยงั ไงนัน้ จะเล่าใหฟ้ ังค่ะ 40 บนั ทกึ คณุ แม่นกั อา่ นนิทาน

ตอนมีลูกคนแรก ด้วยความท่ีไม่เคยมีประสบการณ์เล้ียงเด็กอ่อน ความไม่รทู้ ำให้กลัวทำได้ไมด่ ี ฉะนั้น ยดึ หลกั ตามตำรา หรอื ทฤษฎีท่รี ู้มา ไม่วา่ จะจากหมอ จากผ้ใู หญ่ จากเวบ็ ไซต์ที่น่าเชือ่ ถือ ทำตามเปะ๊ ห้ามผดิ จากน้ีแมแ้ ตน่ ดิ เดียว ผลก็คอื คิดมาก เครยี ด กดดันตวั เอง เพราะยดื หยุ่น ไม่เป็น หากที่วางแผนไว้มันผิดแผนขึ้นมาละก็ แผนสำรองคืออะไร ไม่มใี นหวั เลยค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น การกิน การนอน เขาว่าเด็กแรกเกิดต้อง นอนแล้วต่ืนมากินนมทุก ๒-๓ ช่ัวโมง แต่มีบางวันที่ลูกเราไม่เป็นแบบ นี้ เล่นท้ังวัน กล่อมเท่าไรก็ไม่หลับ ดูดนมมากเกินจนอาเจียนออกมา แม่เหน่ือยแสนเหน่ือย ทำทุกวิถีทางลูกก็ไม่นอน จนแม่เครียด หงุดหงิด และไม่เชื่อก็ต้องเช่ือว่าอารมณ์ไม่ดีถ่ายทอดไปยังลูกได้นะคะ ทำให้ลูกย่ิงไม่ยอมนอน ร้องงอแงเข้าไปใหญ่ แล้ววันนั้นเลยกลายเป็น ฝันรา้ ยที่คนเป็นแม่ไม่อยากพบเจออกี เรื่องการกินก็เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ เมื่อลูกกินน้อยหรือ ไม่ยอมกิน ส่ิงท่ีแม่อุตส่าห์(หัด)ทำสุดฝีมือ จนทำให้แม่เสียเซลฟ์ น้อยใจไปใหญ่ น้ำหนักลูกก็เกือบตกเกณฑ์มาตรฐาน เวลากินข้าว ปากก็ไม่ยอมอา้ ถึงยอมอ้าก็บ้วนทงิ้ อกี ใครจะอดหงุดหงดิ ไมไ่ ด้ เช่นเคย ยงิ่ แมป่ อ้ นขา้ วอยา่ งอารมณเ์ สยี ลกู กร็ บั รไู้ ด้ และยง่ิ ไมย่ อมกนิ สถานการณ์ ยง่ิ แยม่ ากกว่าเดมิ อกี คะ่ แต่พอมีลูกคนที่สอง คุณแม่จอมเป๊ะกลายร่างไปเป็นคุณแม่แสน ผ่อนคลายโดยปริยาย ด้วยประสบการณ์จากการเลี้ยงลูกคนแรก (แถม ธิดา พานิช 41

ยังต้องวุ่นวายกับลูกคนแรกท่ีตัวติดกันเป็นเงา) ถ้าอะไรไม่เป็นไปตามท่ี เราคดิ วางแผนไว้ กย็ ดื หยุ่นปรบั แผนบ้าง ดงึ แผนสำรองมาใช้ ตั้งสติให้ดี ทกุ ปัญหามีทางแกค้ ่ะ ถ้าลูกไม่นอนตามเวลาที่เราวางไว้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวยังไงก็ต้อง ง่วง ก็ให้เล่นไปก่อน พาไปเดินเล่น ให้คนอื่นช่วยอุ้ม เล่ือนเวลานอน ออกไปบ้างก็ได้ ถ้ายังนอนหลับดี ได้จำนวนช่ัวโมงเฉล่ียตามท่ีหมอว่าไว้ กไ็ ม่ต้องกงั วลค่ะ ถ้าลูกไม่ยอมกินข้าว ก็ลองหาสาเหตุดูสิว่ามันไม่ถูกปากเขา รึเปล่า เขายังไม่หิวรึเปล่า หรือเขาเค้ียวไม่ได้ ลองเปลี่ยนเมนูไหม ซง่ึ บางครัง้ กไ็ ดผ้ ล แตถ่ า้ ไมก่ นิ จรงิ ๆ กไ็ ม่เป็นไร คอ่ ยให้มื้อถดั ไป ยังไงลกู กไ็ มป่ ล่อยให้ตวั เองอดตายแนน่ อน หลังจากกลายร่างเป็นคุณแม่แสนผ่อนคลาย พบความจริง ข้อหน่ึงค่ะว่า ถ้าเราเล้ียงลูกด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย ลูกก็จะเล้ียงง่าย และอารมณ์ดีมาก ไม่ค่อยร้องไห้งอแง เล่นคนเดียวอยู่คนเดียวได้ นานกว่าคนพี่ (ท่ีตวั ติดพอ่ แม่ตลอดเวลา เพราะเล้ยี งมาแบบปล่อยไมไ่ ด้ วางไมเ่ ป็น) ชีวิตคนเป็นแม่ลกู สองย่ิงงา่ ยขึน้ แฮปปขี้ ้นึ มหาศาลจรงิ ๆ การเปน็ คณุ แมท่ ผ่ี อ่ นคลายอาจไมง่ า่ ย ตอ้ งอาศยั ประสบการณ์ และการฝึกฝน แต่เชอ่ื ว่าไม่ยากเกนิ ความสามารถแน่นอนค่ะ 42 บนั ทึกคุณแมน่ กั อา่ นนิทาน

ยอมรับความแตกตา่ งอยา่ งเข้าใจ คงแทบไม่มีแม่คนไหนที่ไม่เคยเปรียบเทียบลูกตัวเอง กับลูกคนอื่น โบเองก็มักลืมตัวเปรียบเทียบลูกตัวเองว่าด้อย กว่าคนอนื่ อยูห่ ลายคร้ัง ธดิ า พานชิ 43

คร้ังหน่ึงตอนกลับบ้านที่กรุงเทพฯ เจอลูกของพ่ีชายแท้ๆ ท่ีอายุ น้อยกว่าลูกคนเล็กของโบ ๓ เดือน แต่น้ำหนักแซงหน้าไปหลายกิโล แถมยังยิ้มเก่งมาก หัวเราะเอ๊ิกอ๊ากท้ังวัน ผิวขาวกว่า หน้าตาหล่อเหลา ก็อดท่จี ะพูดไม่ไดว้ า่ “น้องดนิ เจอนอ้ งไทม์ ดนิ หมองไปเลย ผอมกว่า ดำกวา่ ด้วย” แถมช่วงที่ไปกรุงเทพฯ น้องดินป่วยซมอีก ยิ่งไม่ย้ิมไม่เล่น โบเห็น นอ้ งไทม์ก็ย่งิ เปรยี บเทยี บ และพดู ซำ้ ไปซ้ำมาอกี ว่า “นอ้ งไทมห์ ลอ่ กวา่ ดนิ จงั ลกู รา่ เรงิ กวา่ อกี ดนิ ยมิ้ หนอ่ ยสลิ กู ” (แหม... ชา่ งไมส่ งสารวา่ ลูกปว่ ยเลยนะโบเอย๋ ) พอกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดเจอเพ่ือนสามี คำแรกที่เพ่ือนสามี ทักคือ “นอ้ งดนิ ขาวจังลูก ลูกเราดำไปเลย” แม้คนพูดไม่ได้คิดอะไร พูดตามที่เห็น แต่โบฟังแล้วคิดว่าเหมือน คำพูดที่เราเปรยี บเทียบลกู เรากบั ลกู พ่ีชายเปยี๊ บ ทำให้นึกย้อนไปว่าความจริงลูกเราก็ไม่ได้ด้อยกว่าลูกพ่ีชาย สักหน่อยเลย ยามไม่ป่วยลูกเราก็ย้ิมเก่งร่าเริงเหมือนกัน ลูกเราน้ำหนัก ไม่มาก แตก่ ็อยู่ในเกณฑ์ ดีซะอีกอุม้ สบายด้วย เหตกุ ารณ์นี้ทำใหโ้ บเขา้ ใจดีเลยคะ่ วา่ 44 บันทกึ คุณแมน่ กั อ่านนทิ าน

เดก็ แต่ละคนกแ็ ตกตา่ งกันไป ไม่มีใครเหมอื นกนั ถ้าพอ่ แมย่ อมรับ และเข้าใจเร่อื งนไี้ ด้ พ่อแมเ่ องกจ็ ะมีความสุข ไม่ต้องกลัวลูกจะด้อยกว่าคนอ่ืน ไม่กดดันลูก ไม่กดดันตัวเอง เพราะเด็กแต่ละคนเกิดมาจากพอ่ แม่ทแ่ี ตกต่างกนั อยูใ่ นสภาพแวดล้อม ทแี่ ตกต่างกนั จะให้เหมือนกันคงเป็นไปไม่ได้ หากยอมรับความแตกต่างได้อย่างเข้าใจแล้วละก็ ย่ิงจะเป็น การสร้างคุณค่าและความร้สู ึกดใี นตวั เองใหล้ ูกด้วยค่ะ ธิดา พานิช 45

ข้าวผัดของแมอ่ ร่อยท่ีสดุ ในโลก คงมีแม่ไม่น้อยที่หลงใหลการเข้าครัว สร้างสรรค์เมนู หน้าตาดีรสชาติอร่อยให้ลูก แต่ก็คงมีแม่อีกจำนวนหน่ึงท่ี ทำกับขา้ วไมเ่ ปน็ เอาเสียเลย 46 บันทกึ คุณแม่นักอ่านนทิ าน

โบเขา้ ขา่ ยแมใ่ นกลมุ่ หลงั ทแี่ รกเรมิ่ เดมิ ทแี มแ้ ตเ่ ตาแกส๊ กย็ งั เปดิ ไม่ เป็น วตั ถดุ บิ เลือกอะไรแบบไหนไม่ตอ้ งพดู ถึง นบั ประสาอะไรกบั ไข่เจียว ไขด่ าว หรือแคค่ ำว่าหุงข้าวยังนึกไม่ออกเลยค่ะวา่ ทำยงั ไง แตเ่ มอื่ ตอ้ งเปน็ “แม”่ ทด่ี แู ลทกุ อยา่ งของลกู ทงั้ สองคน ความจำเปน็ ตอ้ งจบั ตะหลวิ เปน็ แมค่ รวั ฝกึ หดั จงึ บงั เกดิ เพราะรสู้ กึ ผดิ ทส่ี ดุ ทที่ ำใหล้ กู ไม่ ชอบกนิ ขา้ ว กนิ ยาก (กเ็ มอื่ ถงึ วยั กนิ อาหารเสรมิ ดนั เรม่ิ ตน้ ดว้ ยอาหารฝมี อื แมท่ ท่ี ำไม่อรอ่ ย) ลูกคนแรกจึงโตมากับการลองผิดลองถูก ไข่เจียวที่เค็มไปบ้าง จืดไปบ้าง ไมส่ กุ บา้ ง อมนำ้ มันบา้ ง ไหม้บ้าง พอลกู คนทีส่ องเริม่ พัฒนา ฝีมือขึน้ แต่กย็ ังถอื วา่ อ่อนด้อย วันไหนที่ลูกไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะลูกคนเล็ก คายทุกอย่างท่ี ตั้งใจทำ มันนอยดไ์ ปหมด รสู้ กึ แย่ คดิ ไปวา่ ฉนั ทำอะไรผดิ ลูกจะอม่ิ ไหม ไดส้ ารอาหารครบรเึ ปลา่ บางทกี ม็ งี อนบา้ ง นอ้ ยใจลกู บา้ ง รไู้ หมวา่ แมต่ งั้ ใจ ทำมากๆ แล้วมื้อหนา้ ล่ะ คดิ ไม่ออกเลยจริงๆ ว่าจะทำอะไรใหล้ กู ยอมกนิ เมื่อรู้ทันตัวเอง ก็ต้องพยายามดึงตัวเองกลับมา ผ่อนคลาย ความรู้สึกบ้าง วนั น้ไี มก่ นิ ก็อย่ายอมแพ้ พรุ่งน้เี อาใหม่ สูก้ ันใหม่ เลี้ยงลกู ไม่เหมือนกันสักวนั หรอก เหนื่อยมากๆ บางทีก็อยากยอมแพ้ มันยากมากที่จะเอาชนะ ความกลวั เอาชนะตวั เอง แต่...เห็นหน้าลูกทีไร เขาคือความหวัง โบไม่อยากให้เขาโตมา แบบผอมโซ และจำได้ว่ารสมือแม่คืออาหารรสแย่ๆ ท่ีแม้แต่จะกลืนยัง ไม่ลงคอ ธิดา พานชิ 47

เอาไงกเ็ อากัน ลองหาสูตรในเนต็ ในเฟซบุก๊ ดูคลปิ ในยูทูบ ลงมือ! และฝกึ ฝนไปเร่อื ยๆ และน่ีคือเมนูของแม่ผู้ไม่เคยทำกับข้าวมาก่อนในชีวิต ที่หัด ทำจนลูกยอมกิน ได้แก่ ไข่เจียว ไข่ตุ๋นชีส แกงจืดแตงกวายัดไส้หมูสับ แกงจืดตำลงึ หมูสบั และขา้ วผัดกนุ เชียง แลว้ วันหนึ่งวาวาก็บอกโบว่า “ขา้ วผัดของแมอ่ รอ่ ยท่สี ดุ ในโลก” ถงึ รวู้ า่ ไมจ่ รงิ แตป่ ระโยคนกี้ ท็ ำเอาโบหวั ใจพองโต และเสพตดิ การ ทำกับข้าว จนเลกิ ไมไ่ ดซ้ ะแลว้ ปัจจุบันวาวาเร่ิมชอบใจอาหารจานแม่ ส่วนดินดินยังคงกินน้อย บา้ งมากบา้ ง แตบ่ อกแลว้ วา่ ไมย่ อมแพค้ ะ่ มอ้ื นไี้ มก่ นิ เดย๋ี วมอื้ หนา้ เอาใหม่ สรรหากันจนกวา่ จะยอมกิน ขอเป็นกำลังใจให้แม่ทุกคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน อย่ายอมแพค้ ะ่ ! 48 บนั ทกึ คุณแม่นักอ่านนิทาน

ในวนั ท่ีอยากขอบคณุ สามี พอแต่งงานมีลกู แลว้ บรรดาคณุ แมแ่ บบโบคงตอ้ งเคย เกดิ อาการหงุดหงดิ สามีกันบา้ ง ธดิ า พานิช 49

เวลาเราเลี้ยงลูกเหนื่อยๆ ถ้าเพียงแต่เราเห็นสามีทำอะไรนิดทำ อะไรหน่อยก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด ทำไมมัวแต่เล่นเกมแทนท่ีจะมาช่วย ดลู ูก ทำไมกลบั บา้ นดกึ ไหนวา่ จะรีบกลับมากลอ่ มลูกนอน... ทำไมเธอมันน่าหงุดหงิดแบบนี้นะ คิดแบบน้ีก็เลยย่ิงอารมณ์เสีย เหมน็ หน้าสามี ตาขวางหน้าบูดบ้งึ พดู กันคำสองคำกพ็ านทะเลาะ แต่กอ่ นทจ่ี ะไปกันใหญ่... จ่ๆู ลกู สองคนของโบดันปว่ ยคะ่ ป่วยทัง้ พีท่ ัง้ น้อง โบก็รับหน้าทเ่ี ป็น พยาบาลประจำตวั จนสดุ ทา้ ยปว่ ยเอง แตใ่ นความโชครา้ ยกย็ งั มโี ชคดอี ยู่ บ้าง ชว่ งทล่ี กู ปว่ ย สามคี อยทำกบั ขา้ วอรอ่ ยๆ ใหก้ นิ (ปกตสิ ามกี ท็ ำอรอ่ ย อยู่แล้ว แต่ช่วงป่วยโบรู้สึกอร่อยเป็นพิเศษ) และท่ีสำคัญที่โบซึ้งใจสามี เปน็ ทส่ี ดุ คอื เวลาลกู สาวคนโตปว่ ยเจบ็ คอ เธอมกั จะอาเจยี นบอ่ ยครง้ั เชา้ กลางวัน เย็น ทงั้ บนเตยี งนอน บนรถ หรือแมก้ ระทั่งนอกสถานที่อยา่ งบน รถไฟคณุ สามกี เ็ คยตอ้ งเชด็ อาเจยี นของเธอมาแลว้ สามกี ก็ ม้ หนา้ กม้ ตาเชด็ ทำความสะอาดไมบ่ ่นสักคำ แถมเชด็ สะอาดเอย่ี มอ่อง และรวดเรว็ มาก คืนนั้นหลังจากเอาลกู หลบั ได้ โบไปสะกิดขอบคุณสามแี ละแซวว่า “ขอบคุณมากนะคะ พนักงานเช็ดอ้วก วนั น้ีเหนอ่ื ยแย่ เชด็ ตง้ั หลายรอบ” สามยี ม้ิ และตอบว่า “เชด็ จนชิน เชด็ มาตั้งแต่เขาเกดิ แล้ว” อาการหงุดหงิดสามี แก้ได้ด้วยการคิดถึงความดีของเขานะคะ เคล็ดลับอีกอย่างที่โบใช้บ่อยเวลาอยากให้เขาช่วยเลี้ยงลูกคือ ให้เขาทำ 50 บนั ทึกคณุ แม่นักอ่านนทิ าน

ส่ิงที่เขาชอบและถนัด เขาจะได้แบ่งเบาภาระเราได้ และเราท้ังคู่จะได้ เลยี้ งลกู อย่างอารมณด์ กี นั อกี ดว้ ย อยา่ งสามโี บนอกจากทำอาหารเกง่ แลว้ ยงั เปน็ พนกั งานเชด็ อาเจยี น ชน้ั ยอดอกี ด้วยคะ่ ^^ นอกจากนอี้ ยา่ ลมื วา่ บางทคี ณุ แมอ่ ยา่ งเราๆ กม็ ขี อ้ เสยี เชน่ กนั กต็ อ้ ง ขอบคุณสามีเชน่ กนั ที่ยอมรับข้อเสียนน้ั ได้ อย่าลืมว่าสามีก็เป็นคนข้างกายของเราที่สำคัญไม่แพ้ลูกเลย ละค่ะ นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ แนะนำเสมอให้คุณแม่ออกกำลังกาย เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้แข็งแรง หุ่นดี และทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองแล้ว ชีวิตรักคู่สมรสก็จะดีข้ึนเองในหลายด้าน เพราะการออกกำลังกายต่อเนื่องอย่างน้อย ๑ ปีข้ึนไป จะช่วยให้สมดุลของสาร สอ่ื นำประสาททสี่ ำคญั คอื Dopamine, Norepinephrine และ Serotonin ดกี วา่ เดมิ เมือ่ ถกู ความเครียดโจมตกี ็จะสามารถรบั มือได้ ธดิ า พานชิ 51

มรดกท่พี ่อแม่ควรท้งิ ไว้ให้ลกู โลกน้ีไมม่ อี ะไรแนน่ อนพอ่ แมห่ ลายคนจงึ มองการณไ์ กล เก็บหอมรอมรบิ เปน็ ทรพั ยส์ มบัติไว้ใหล้ ูก บา้ งก็ใหว้ ิชาความรู้ สง่ เสยี ใหเ้ รยี นสงู ๆเพอื่ ใหม้ อี นาคตทดี่ ีจรงิ อยวู่ า่ ทง้ั เงนิ ทองและ ความรเู้ ปน็ สง่ิ ทสี่ ำคญั แตส่ งิ่ จำเปน็ อกี อยา่ งทพี่ อ่ แมท่ กุ คนควร มอบเปน็ มรดกใหแ้ กล่ ูก นน่ั คือ ทกั ษะการช่วยเหลือตัวเอง 52 บนั ทกึ คณุ แมน่ ักอา่ นนทิ าน

พ่อแม่ท่ีเคยทำงานหนักมาทั้งชีวิต พอมีลูกก็อยากให้ลูกสบาย เลยบอกลูกให้เรียนอย่างเดียว เด็กเมืองกรุงส่วนใหญ่เป็นแบบน้ี เลยโตมาแบบ “ไร้ทกั ษะการเอาตัวรอด” ชว่ ยเหลือตัวเองไม่เปน็ ยอมรับค่ะ ว่าโบเป็นหน่ึงในเด็กท่ีโตมาแบบนั้น พอแต่งงานแล้ว ยา้ ยตามสามีมาอยู่ต่างจังหวัด และยงั มลี ูกอีก ทกุ อยา่ งมันไมง่ ่ายเลย... ทักษะเอาตัวรอดของโบต่ำมาก ทักษะการเป็นแม่บ้านนี่ต้องเรียก วา่ ระดับอนุบาลเลย บางทกี ค็ ิดในใจเลน่ ๆ วา่ แหม...เรียนมาซะสูงนะเรา แตก่ ลายเปน็ ความรทู้ ว่ มหวั เอาตวั ไมร่ อด โบทำกับข้าวไม่เป็นเลย รีดผ้าก็ไม่เอาไหน ซักผ้า ถูบ้าน ล้างจาน พอไหว แต่ช้าไมท่ ันใจ และมีอกี นบั ไม่ถ้วนท่ที ำไมไ่ ด้ ตรงกนั ขา้ มกบั สามโี บโตมาแบบทำทกุ อยา่ งไดห้ มดทำกบั ขา้ วอรอ่ ย เรอื่ งทำความสะอาดกใ็ ชไ้ ด้ ซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ เบอ้ื งตน้ กไ็ ด้ ซอ่ มอปุ กรณข์ อง ใช้ในบ้านได้เกือบหมด ทำทุกอยา่ งเบือ้ งต้นไดอ้ ยา่ งนา่ ท่ึง สามีโบเล่าว่า พ่อแม่ไม่ได้สอนจริงจัง แต่พวกท่านจะทำงานบ้าน ทุกอยา่ งเอง และเมอ่ื เขาเรยี นชั้นประถมกไ็ ดร้ บั มอบหมายงานบ้านใหท้ ำ ต้องกวาดบ้านทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน และยังต้องสลับทำงานบ้านกับพี่ๆ ตามแต่จะได้รับมอบหมาย ยิ่งพอโตไปเรียนกรุงเทพฯ ต้องอยู่หอ ย่งิ ต้องชว่ ยเหลือตัวเองทกุ อย่าง เรื่องทำกับข้าวอร่อย เขาหัดทำเอง อาศัยดูพ่อแม่เวลาเข้าครัว ธิดา พานชิ 53

พอ่ แม่ไม่ไดส้ อนจริงจัง แตท่ ำใหเ้ หน็ เปน็ ตวั อย่างทุกวัน และบางคร้ังเมื่อ เขาอยากกินเมนอู ะไร แตพ่ อแม่ไมม่ ีเวลาทำให้ เขาจงึ ลงมือหดั เอาเอง ผิดกับโบท่ีอยากกินอะไร ตามประสาเด็กกรุงเทพฯ ก็วิ่งไปซื้อเอา หรือบอกแม่ครัวให้ทำให้ ไม่มีความจำเป็นต้องทำเอง อยากได้อะไร ก็แค่เอย่ ปาก ทกุ อย่างง่ายดายมาก ถ้าเอาโบไปปลอ่ ยเกาะคงไมร่ อดแน่ๆ... แล้วโบก็เหมือนได้มาอยู่เกาะจริงๆ เพราะพอแต่งงานก็ย้ายมาอยู่ ต่างจังหวัด จะใช้ชีวิตสำเร็จรูปแบบอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้อีกแล้ว มาอยู่ แรกๆ จึงต้องปรับตัวอย่างมาก แล้วยิ่งมีลูกด้วย ทำให้โบต้องเรียนรู้ ทกั ษะหลายอยา่ งเพือ่ เอาตัวรอดให้ได้ ตอนนี้โบทำกับข้าวได้นิดหน่อย (ทำให้ลูกกินกันตายได้ ๕๕) รีดผ้าได้ ข่ีมอเตอร์ไซค์ได้ ทำงานบ้านได้ สามารถเลี้ยงลูกเองสองคนได้ ไมย่ ากเยน็ และท่ีสำคัญได้บทเรียนจากชีวิตของตัวเองด้วยว่า “ทักษะการ เอาตัวรอด” เป็นมรดกท่ีพ่อแม่ทุกคนควรจะมอบให้ลูกติดตัวไว้ โบใช้วิธีแบบครอบครัวของสามี คือ ทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง ถ้าเขาสนใจ กช็ วนมาทำดว้ ย นอกจากนก้ี ม็ อบหมายงานบา้ นเลก็ ๆนอ้ ยๆใหล้ กู ทำตามวยั ของเขา เพ่ือให้เขาเอาตัวรอดได้ ไมว่ ่าจะอยู่ทไี่ หนกต็ าม เหมอื นสำนวนท่ีวา่ 54 บันทึกคุณแมน่ กั อา่ นนทิ าน

“Give a man a fish, and you feed him for a day. Teach a man to fish, and you feed him for a lifetime.” “อย่าประเคนทุกอยา่ งให้ลูกเพอ่ื ผา่ นไปวันๆ แตจ่ งสอนวิธใี ห้ ลูกทำสงิ่ นั้นด้วยตวั เอง เพอื่ เขาจะทำได้ตลอดชวี ติ ” ความสำคัญของงานบ้าน นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ อธิบายว่า งานบ้านเปน็ ข้ันตอนหนึง่ ของพัฒนาการเด็ก ซ่งึ อยู่ภายใต้หลกั การพัฒนาทีละขน้ั เช่นเดียวกับหลายๆ เร่ือง กล่าวคือหากทำขั้นนี้ได้ดี ขั้นถัดไปก็จะง่ายและดีเอง งานบ้านเป็นโอกาสทองท่ีพ่อแม่จะได้ฝึกลูก “ทำงานที่ไม่ชอบและไม่สนุกให้ เสร็จให้จงได้” งานบ้านท่ีดีท่ีสุดมิใช่เพื่อให้บ้านสะอาด แต่เป็นขั้นตอนสำคัญท่ี เขาจะไดฝ้ ึกกำหนดเป้าหมายและวางแผน ธดิ า พานชิ 55

เม่อื แมภ่ มู ิใจในตวั เอง ตง้ั แต่ไดเ้ ปน็ พอ่ แม่มเี รอื่ งอะไรทค่ี ณุ พอ่ คณุ แมเ่ คยภมู ใิ จ ในตัวเองบ้างไหมคะ ก่อนแต่งงานมีลูก โบมีหลายส่ิงที่ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ เพราะความกลัว หน่ึงในน้ันก็คือการขับรถ ซ่ึงแต่ก่อนตอน 56 บนั ทึกคณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน

เป็นสาวโสดใช้ชีวิตในเมืองกรุง การขับรถไม่เป็นไม่ใช่ปัญหากวนใจใน ชีวติ เพราะเมืองใหญเ่ ต็มไปดว้ ยรถรับจา้ งหรอื รถสาธารณะมากมาย แตพ่ อกลายเปน็ คณุ แมภ่ ธู รแลว้ การขบั รถไมเ่ ปน็ นนั้ เปน็ ปญั หาใหญ่ ที่ทำให้ชีวิตต้องติดอยู่แต่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้ ต้องรอคนอื่นขับรถ พาออกไปสถานเดยี ว เมื่อลูกเข้าโรงเรียน เราให้ลูกไป-กลับด้วยรถโรงเรียน ด้วยความ จำเป็น เพราะไม่ว่างรับ-ส่งทุกวัน ลูกไม่มีปัญหากับการน่ังรถโรงเรียน แต่ก็มเี ปรยวา่ “อยากใหแ้ ม่ไปรบั ไปสง่ เหมอื นพ่อแมค่ นอนื่ ๆ บา้ ง” ประโยคส้นั ๆ นคี้ กุ รุ่นอยใู่ นใจโบ ไม่ใช่แม่ไม่อยากไปรับไปส่งหนูนะ แตแ่ ม่กลวั แค่ข่รี ถมอเตอร์ไซค์ เข้าเมืองแม่ยังไม่กล้าเลย แม่เองยังเอาตัวไม่รอด แม่กลัวว่าจะพาหนูไป แล้วเกิดอนั ตราย แม้กระน้ันประโยคเว้าวอนของวาวากับสายตาออดอ้อนก็ยังคง กวนใจโบเรื่อยมา แล้วไม่กี่สัปดาห์ก่อน จู่ๆ โบก็ฮึดหาเวลาว่างฝึกข่ี มอเตอร์ไซค์เข้าเมือง เพื่อทำธุระบางอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพา สามี พอเร่มิ เข้าเมอื งได้ ครั้งถัดมาก็ลองซ้อมขไี่ ปโรงเรียนลกู จนในท่ีสุด เชื้อไฟแห่งความอยากไปรับลูกที่โรงเรียนก็ปะทุข้ึน วนั นนั้ โบกลา้ ๆ กลวั ๆ เกอื บจะเปลย่ี นใจ แตแ่ ลว้ ประโยคนน้ั ของลกู กท็ ำให้ โบตง้ั ใจแนว่ แน่ ประเมนิ ความพรอ้ มในสมรรถภาพของตวั เองวา่ ผา่ นแลว้ ก็ลยุ !! ธิดา พานชิ 57

จนสามารถทลายกำแพงแหง่ ความกลวั สำเร็จ!! วนั นน้ั ลกู ยมิ้ อยา่ งแปลกใจทเี่ หน็ วา่ “แม”่ เปน็ คนมารบั แตก่ เ็ ปน็ ยม้ิ ท่ีโบจดจำได้ดี เป็นยิ้มกว้างท่ีสุดคร้ังหนึ่งท่ีโบเคยเห็น และเป็นยิ้มท่ีโบ ภูมใิ จทีส่ ดุ ในโลก พลังแห่งความภูมิใจในตัวเองน้ี มันยอดเย่ียมเกินบรรยายค่ะ มันเหมอื นไดต้ ะโกนดงั ๆ ให้โลกรู้ว่า “ฉนั ทำได้แล้วโวย้ !” มนั เหมอื นสอนลกู ดว้ ยการทำใหเ้ ขาเหน็ วา่ ความพยายามอยทู่ ไ่ี หน ความสำเรจ็ อยู่ไม่เกินเอือ้ ม มันผลักดันให้โบกล้าท่ีจะทลายกำแพงแห่งความกลัวในเร่ืองอื่นๆ อกี ในอนาคต เพราะเราทำได้เรื่องหนง่ึ แล้ว เรอื่ งอืน่ ๆ ก็ต้องทำได้สิน่า ขอบคุณลูก ผเู้ ป็นแรงบันดาลใจใหแ้ ม่กลา้ ท่ีจะเอาชนะความ กลวั 58 บันทึกคุณแม่นกั อ่านนทิ าน

ธดิ า พานชิ 59


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook