หมวดสังคม/สงิ่ แวดล้อม ห่วงโซ่อินทรยี ์ ฉลาดรเู้ รือ่ งอาหาร ช่อื หนังสอื ลิขสทิ ธิ์ ส�ำนกั พิมพ์สวนเงินมมี า 2560 และโครงการเสริมพลงั ความสามารถใหภ้ าคเี ครอื ขา่ ยอาหารรุน่ ใหม่ ตามประกาศโจทยแ์ หล่งให้บรกิ ารอาหารและการเชือ่ มโยงผลผลิตอินทรยี ์ บรรณาธกิ าร วัลลภา แวนวลิ เลยี นส์วาร์ด กองบรรณาธกิ าร ปณุ ณดา สายยศ จักรภพ เอีย่ มดะนชุ เพชรนิ ทร์ เหลืองจิตวัฒนา วราภรณ์ ปานเจรญิ ออกแบบปกและรูปเลม่ Open the Dolls studio พสิ ูจนอ์ ักษร ดิเรก นนทชิต ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสำ� นกั หอสมุดแหง่ ชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ปณุ ณดา สายยศ. หว่ งโซอ่ ินทรีย์ ฉลาดรู้เรื่องอาหาร.-- กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท สวนเงินมมี า จ�ำกัด, 2017 144. 1.โซอ่ าหาร (นเิ วศวิทยา). I.จกั รภพ เอี่ยมดะนุช, ผ้แู ตง่ รว่ ม. II. ชื่อเรอ่ื ง 304.2 ISBN : 978-616-7368-91-7 พมิ พค์ รัง้ ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2560 จดั พมิ พโ์ ดย บริษทั สวนเงนิ มีมา จ�ำกดั (โครงการเสริมพลังความสามารถให้ภาคเี ครือข่ายอาหารรุ่นใหม่ ตามประกาศโจทยแ์ หล่งใหบ้ รกิ ารอาหารและการเช่อื มโยงผลผลติ อนิ ทรีย์) 77, 79 ถนนเฟอื่ งนคร แขวงวัดราชบพธิ เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0 2622 2495-6, 0 2622 0955, 0 2622 0966 โทรสาร 0 2622 3228 พมิ พท์ ี่ บริษทั ภาพพมิ พ์ จำ� กดั โทรศพั ท์ 0 2879 9154-6 สนบั สนนุ โดย สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.) 2
3
ค�ำนำ� หนังสือเล่มนี้ได้น�ำประสบการณ์ของผู้คน กลุ่ม และองค์กรต่างๆ ท่ีได้ รว่ มในกระบวนการเกษตรอนิ ทรยี ท์ ง้ั ในฐานะผสู้ ง่ เสรมิ การผลติ ผสู้ ง่ เสรมิ ชอ่ งทาง ตลาดใหมๆ่ ทเี่ ออ้ื กบั การผลผลติ อนิ ทรยี ์ หรอื ในฐานะผบู้ รโิ ภคทใี่ สใ่ จทง้ั ตอ่ สขุ ภาพ และความเป็นไปรอบตัวทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ประสบการณ์ท่ีกล่าวถึงมี ทง้ั จากในและนอกประเทศโดยการฉายภาพแบบกวา้ งพอเปน็ สงั เขป มไิ ดล้ งลกึ ใน รายละเอยี ดมากนกั ทงั้ นีเ้ พ่ือให้ง่ายตอ่ การอ่านของผคู้ นทัว่ ไป แวดวงเกษตรอินทรีย์ก�ำลังเป็นท่ีสนใจมากข้ึนไม่ เพียงแต่ภาคสังคมอีก ต่อไปเท่าน้ัน แต่ขณะน้ีท้ังภาครัฐและภาคธุรกิจต่างก็เริ่มให้ความสนใจมากข้ึน และขยายความสนใจใหเ้ กดิ เปน็ รปู ธรรมในรปู แบบตา่ งๆ ในสว่ นภาคสงั คมทเี่ ปน็ ผบู้ กุ เบกิ เรอ่ื งเกษตรอนิ ทรยี ม์ าตง้ั แตต่ น้ เปน็ ระยะเวลายาวนานเกอื บสามทศวรรษ น้ัน ด้วยตระหนักถึงปัญหาการผลิตอาหารที่ไม่ยั่งยืนจากการพึ่งพาสารเคมี ทางการเกษตร การเกษตรที่พ่ึงพาสารเคมีน้ีลดทอนความสามารถท่ีมนุษย์และ ธรรมชาติจะสร้างปฏิสัมพันธ์ต่อกัน การลดทอนแยกส่วนน้ีเกิดจากการต้องการ ความสะดวก รวดเร็วและส�ำเร็จรูปด้วยการอาศัยปัจจัยการผลิตทางเคมีเป็นตัว จกั รสำ� คญั ในการทำ� หนา้ ทแี่ ทนธรรมชาติ วงจรนเิ วศและธรรมชาตถิ กู ควบคมุ ดว้ ย สารสงั เคราะห ์ พอเกบ็ เก่ียวไดผ้ ลผลิตกต็ ดั ขาดความสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยแ์ ละ มนุษย์ด้วยกัน ปล่อยให้กลไกตลาดท่ีมุ่งเน้นประโยชน์ทางการค้าเป็นตัวก�ำหนด ชะตากรรมของอาหารทเ่ี ราบรโิ ภคอยทู่ กุ วนั วนั ละสามมอ้ื ความสามาถทเี่ กษตรกร ผผู้ ลติ จะเชอื่ มตอ่ กบั คนกนิ คนบรโิ ภคไดข้ าดหายไป คนกนิ โดยเฉพาะทอี่ ยใู่ นเมอื ง ไมร่ ทู้ มี่ าของอาหาร วา่ ผลติ โดยใคร ผลติ อยา่ งไรอกี ตอ่ ไป และนคี่ อื ทมี่ าของวกิ ฤต อาหารในทุกๆ เรอ่ื ง ตง้ั แตเ่ รอื่ งความปลอดภัยของอาหาร ความม่ันคงทางอาหาร การขนสง่ อาหารไปยังท่ไี กลๆ สนิ้ เปลืองพลงั งานน�ำไปสวู่ ิกฤตพลังงานอกี ตอ่ หนึง่ อาหารและการเกษตรจงึ เป็นปฐมบทของทุกส่ิง การสร้างช่องทางและการบริโภคท่ีมีการรวมศูนย์และขาดความ หลากหลายมาพรอ้ มกบั รปู แบบการผลติ เกษตรเคมเี ชงิ เดยี่ วทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ การ จดั การชอ่ งทางการตลาดทร่ี วมศนู ยเ์ บด็ เสรจ็ ในแงห่ นง่ึ กอ็ าจจะมปี ระสทิ ธภิ าพ แต่ ในอกี ดา้ นหนึ่งกก็ ่อปญั หาตา่ งๆ ตามมากบั ความมีประสิทธิภาพ ยงิ่ ห่วงโซอ่ าหาร 4
ขาดการมีส่วนร่วมและความโปร่งใส การเข้าไม่ถึงอาหารที่ดีมีคุณภาพก็ยิ่งเพิ่ม มากขน้ึ จงึ ไมแ่ ปลกใจทท่ี กุ วนั นอี้ าหารและผลผลติ ทางการเกษตรถกู ผลติ อยา่ งไม่ ค�ำนึงถึงสุขภาพทั้งของคนผลิตและคนกิน ไม่ใส่ใจต่อสุขภาพของระบบนิเวศทั้ง ปัญหาดินเส่ือม น้�ำเสีย อากาศเป็นพิษ ไม่ใส่ใจต่อปัญหาค่าแรงและมิติสังคมใน ด้านตา่ งๆ จากวัตถุดิบอาหารที่มีแนวโน้มจะมีความไม่ปลอดภัยสูงข้ึนเร่ือยๆ ก็มา ถงึ การกนิ แบบวฒั นธรรมเชงิ เดย่ี ว เราพงึ่ พาอาหารการกนิ นอกบา้ นมากขนึ้ เรอ่ื ยๆ เพราะต้องการความสะดวกจากรูปแบบชีวิตท่ีไม่มีเวลาให้กับการใส่ใจกับวัตถุดิบ อาหารและการปรงุ เอง การเกดิ ขนึ้ ของอาหารสำ� เรจ็ รปู อาหารพรอ้ มทาน อาหาร แชแ่ ขง็ ทข่ี ายตามรา้ นสะดวกซอ้ื จงึ มมี ากขนึ้ เรอ่ื ยๆ สว่ นรสชาตขิ องอาหารสำ� เรจ็ รปู ก็ถูกก�ำหนดมาเบ็ดเสร็จ การรับรู้รสชาติอาหารของเราจึงถูกก�ำหนดด้วยผู้ผลิต แบบอุตสาหกรรมอาหาร ท่ีมีทั้งเร่ืองรสเค็ม รสหวานและมันอันเกินขนาด ทไี่ มเ่ หมาะสมในวนั หนง่ึ ๆ นจี่ งึ เปน็ สาเหตขุ องพษิ ภยั ทมี่ าจากรสชาตอิ าหารซำ้� เตมิ เรอ่ื งวตั ถดุ บิ อาหารทไี่ มป่ ลอดภัยทีก่ ล่าวมาขา้ งต้น หวังใจว่าความสนใจและกิจกรรมหรือแผนงานที่ขับเคลื่อนเร่ืองเกษตร อนิ ทรีย์ของภาคส่วนต่างๆ ทีก่ ล่าวมา จะชว่ ยผลักดนั ให้ขบวนการเกษตรอนิ ทรีย์ ไดเ้ ติบโตมากย่ิงขึ้น จนถงึ จดุ ท่ี “อาหารอินทรยี เ์ พ่ือทุกคน” เปน็ จริงในทส่ี ดุ และ ความตระหนักของผู้บริโภคถึงพิษภัยที่มาจากอาหารการกินของเราจะเป็นความ ฉลาดรู้เรือ่ งอาหารของสงั คมโดยรวม วัลลภา แวนวิลเลยี นสว์ ารด์ 5
6
สารบญั 9 11 หว่ งโซ่อนิ ทรีย์ 13 กล่าวน�ำ 29 ในความเคล่ือนไหว 33 รู้จกั ...เกษตรอินทรยี ์ รวมกลุ่ม สรา้ งพลัง เพิ่มคุณภาพผลผลติ 39 ระบบการรบั รองมาตรฐานอนิ ทรียอ์ ย่างมีสว่ นรว่ ม 47 (Partcipatory Guarantee System - PGS) 55 สรา้ งการตลาดทีม่ ีจิตสำ� นึก (Mindful Markets) 75 เกบ็ เก่ยี ว...เชอ่ื มโยง 81 การผลิตเพอื่ เชอ่ื มโยงผ้บู รโิ ภค 83 (Participatory production farm plan) 85 พัฒนาทกั ษะการสอ่ื สาร...เชอ่ื มสะพานสู่ผ้บู รโิ ภค 103 ฉลาดรู้เรอื่ งอาหาร 123 กล่าวนำ� 132 ผกั ผลไมเ้ พ่อื สขุ ภาพ พิษภัยในรสชาติ 135 สุขอนามยั ในแหล่งบริการอาหาร บรรณานกุ รม ภาคผนวก แนะน�ำภาคเี ครอื ขา่ ยอาหารรนุ่ ใหม่ 7
8
ห่วงโซ่อนิ ทรยี ์ 9
10
กล่าวนำ� ทา่ มกลางกระแสบรโิ ภคนยิ มในปจั จบุ นั เรากำ� ลงั มชี วี ติ อยกู่ บั ระบบตลาด เสรี การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหาร และการสื่อสารท่ีทันสมัยเป็นปัจจัย ส�ำคัญท่ีท�ำให้รูปแบบวิถีชีวิตคนเมืองขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว การโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ท่ที รงประสิทธภิ าพ กระต้นุ ให้เกดิ การบริโภคอย่างไรข้ ดี จ�ำกัด เรา จบั จา่ ยใชส้ อยขา้ วของเครอ่ื งใชใ้ นรา้ นสะดวกซอื้ ซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ งา่ ยตอ่ การเขา้ ถงึ การซ้ือ สร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตคนเมือง สอดคล้องสภาวะท่ีเร่งรีบใน ชวี ติ ประจำ� วนั แตก่ ลไกทางการตลาดแบบนเี้ กดิ ขนึ้ มาเพอื่ เออื้ ประโยชนใ์ หเ้ ราจรงิ หรอื ? สินค้าเหล่าน้ีมาจากไหน? ใครผลิต? ใครได้ผลประโยชน์? มีกระบวนการผลิต อยา่ งไร? ปลอดภยั แคไ่ หน? สรา้ งความเปน็ ธรรมใหก้ บั ระบบจรงิ ไหม? หรอื กำ� ลงั สรา้ งผลกระทบตามมาอกี มากมายแบบทีเ่ ราไม่รูต้ ัว? วฒั นธรรมอตุ สาหกรรมแพรก่ ระจายไปทวั่ โลก เนน้ การผลติ จำ� นวนมาก จ�ำตอ้ งใชท้ รพั ยากรทุน พลงั งาน แรงงาน เพื่อผลกำ� ไรสูงสดุ และการพยายามลด ต้นทุนการผลิต ลดคุณภาพสินค้า การกดข่ีแรงงาน การน�ำสารเคมีมาใช้ในการ ผลติ ไดส้ รา้ งผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มตามมา เกดิ ขยะ เกดิ มลพษิ เชน่ การใชป้ ยุ๋ เคมใี นภาคการเกษตร การใชส้ ารเคมเี พอื่ ปอ้ งกนั โรคในฟารม์ สตั ว์ อาจมกี ารตกคา้ ง ของสารพษิ ปนเปอ้ื น เมอ่ื เขา้ สตู่ ลาดกส็ ง่ ผลดา้ นสขุ ภาพกบั การกนิ อยขู่ องผคู้ น โรค ภัยไขเ้ จบ็ ท่ตี ามมากับอาหารที่กนิ เข้าไป ผู้ท่ีไดผ้ ลประโยชน์และเกบ็ เกี่ยวผลก�ำไร คือกลุ่มบรรษัทข้ามชาติจ�ำนวนหน่ึง ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ 11
เกษตรกรเปน็ เพยี งแรงงานราคาถกู ในระบบ ทงั้ ผบู้ รโิ ภคและผผู้ ลติ ทถ่ี กู เอารดั เอา เปรยี บไปพร้อมๆ กัน วฒั นธรรมการบริโภคไดเ้ ปลีย่ นแปลงสภาพสงั คม ความเรง่ รบี จากชีวิต ประจำ� วนั ของวถิ คี นเมอื ง ชวี ติ ความเปน็ อยู่ การกนิ อาหารนอกบา้ น การจบั จา่ ย ซ้อื อาหารโดยไมท่ ราบทม่ี าแหล่งผลิต ตามร้านสะดวกซื้อ หา้ งสรรพสินคา้ ดีพาท์ เมนตส์ โตร ์ เปลยี่ นวถิ คี วามเปน็ อยจู่ ากวถิ ชี วี ติ แบบดง้ั เดมิ การเพาะปลกู พน้ื บา้ น การบริโภคทพี่ ึ่งพาตนเอง เลยี้ งไก่ เลย้ี งปลา ท�ำสวนไร่นา กลายมาเปน็ ผบู้ รโิ ภค ทีพ่ ่ึงพาระบบการผลิตการตลาดเสรีเตม็ ข้ัน และยงั คงใช้ชวี ิตอยบู่ นความสมุ่ เสย่ี ง ไปทุกด้าน ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม เราเลือกทีจ่ ะเปน็ แบบนี้หรือไม่? เราสามารถเปลี่ยนแปลงระบบตลาดที่ ขาดความใส่ใจ ท้ังส้ินเปลืองพลังงานและทรัพยากร วิถีการผลิตท่ีท�ำลาย สิง่ แวดล้อมที่สง่ ผลกระทบกบั วถิ ีชีวติ และวัฒนธรรม ความเปน็ อยู่ของเราไดห้ รือ ไม?่ ถ้าเลือกได?้ เราจะเลอื กทำ� อย่างไร? 12
ในความเคลื่อนไหว การใชว้ ถิ ชี วี ติ แบบคนเมอื งสมยั ใหม่ ทำ� ใหเ้ รามพี ฤตกิ รรมการกนิ อาหาร ท่ไี ม่ถูกตอ้ งตามหลักโภชนาการ เรากนิ อาหารที่มีพลงั งาน ไขมนั เกลอื นำ้� ตาลสงู เกนิ ความตอ้ งการของรา่ งกาย กนิ พชื ผกั ผลไมน้ อ้ ย ไมค่ อ่ ยออกกำ� ลงั กาย โรคอว้ น หรือกลมุ่ โรคไมต่ ิดต่อเรอ้ื รัง (NCDs : Non-Communicable diseases) ท่ีเกิด จากการใชช้ ีวิตประจำ� วนั แบบสุ่มเสี่ยง ท้ังเรอื่ งการกนิ อาหาร หรอื การดม่ื เหลา้ สูบบหุ ร ี่ ท�ำให้ปว่ ยเป็นโรค อาทิ โรคเบาหวาน ความดนั โลหติ สูง โรคหัวใจและ หลอดเลือด โรคมะเร็งและภาวะไตวาย เดือดร้อนทั้งตัวคนป่วย และครอบครัว ผู้ใกลช้ ดิ ทง้ั ภาระค่าใช้จา่ ย จากภาครฐั ในการรักษาพยาบาล กม็ แี นวโนม้ สงู ขึน้ เรอื่ ยๆ สาเหตุส�ำคญั มาจากวถิ ีการกนิ อยู่น่ันเอง การมีความรู้ด้านโภชนาการท่ีถูกต้อง การเลือกกินอาหารที่ถูกหลัก โภชนาการเป็นเหมือนป้อมปราการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บของเราได้ ผักและผลไม้ ถอื วา่ เปน็ อาหารทม่ี คี ณุ คา่ ทางโภชนาการสงู จะชว่ ยรกั ษาสมดลุ ของรา่ งกาย และ สามารถป้องกันโรคไม่ติดต่อเร้ือรังต่างๆ จากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) ไดป้ ระกาศออกมาวา่ การบรโิ ภค ผกั ผลไมใ้ ห้ได้วนั ละ 400 – 600 กรัม จะสามารถลดภาวะการเกดิ โรคภยั ไขเ้ จบ็ ตา่ งๆ รา่ งกายจงึ มคี วามจำ� เปน็ จะตอ้ งได้ รับสารอาหารท่ีมีประโยชน์จากผักและผลไม้ให้เพียงพอต่อร่างกาย ผักผลไม้ ประกอบด้วยแร่ธาตุและวิตามนิ ทจ่ี ำ� เปน็ ต่อร่างกายหลายชนดิ มีไฟเบอร์สูงช่วย ใหร้ ะบบขบั ถา่ ยในรา่ งกายมคี วามสมดลุ และชว่ ยปอ้ งกนั โรคในกลมุ่ NCDs ได้ ทง้ั โรคมะเรง็ โรคเบาหวาน โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด และโรคอว้ นทก่ี ำ� ลงั เปน็ ปญั หา ในปจั จบุ นั 13
สาเหตหุ นงึ่ ทมี่ กี ารบรโิ ภคผกั ผลไมน้ อ้ ย อาจจะเพราะขาดความมน่ั ใจใน ความปลอดภัย สารเคมที างการเกษตรท่ปี นเป้อื นมาจากกระบวนการผลติ หรือ การน�ำเข้าจากประเทศใกล้เคียง ท่ีเราไม่อาจรู้ท่ีมาที่ไปของผลผลิตได้ อีกทั้ง การใชช้ วี ติ ประจำ� วนั ทตี่ อ้ งพง่ึ พาแหลง่ อาหารนอกบา้ น ขา่ วการตรวจพบสารเคมี ในภาคการเกษตรตกค้างในผกั ผลไม้ยงิ่ สร้างความวติ กกังวล แสดงใหเ้ หน็ วา่ เรา ไม่อาจเข้าถึงผักผลไม้อินทรีย์ได้ง่ายๆ หรือไม่ก็ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีการ ผลติ จำ� นวนนอ้ ยและหาคอ่ นขา้ งยาก กลายเปน็ สนิ คา้ คณุ ภาพสำ� หรบั ผมู้ รี ายไดส้ งู เทา่ นนั้ โอกาสในการประกอบอาหารในครวั เรอื น การเลอื กวตั ถดุ บิ ทป่ี ลอดภยั ยงิ่ นอ้ ยลงไป โรคภัยไขเ้ จบ็ ท่ีมาจากอาหารการกนิ จึงยงั คงรุมลอ้ มไมล่ ดนอ้ ยลง จะเข้าถึงอาหารอินทรยี ถ์ ว้ นหน้าได้อย่างไร ? ในปัจจุบันมีกลุ่มคนเล็กๆ ท่ัวโลกได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของการมี อธิปไตยทางอาหาร รู้เท่าทันสถานการณ์วิกฤตท่ีมาพร้อมกับระบบการตลาด แบบผูกขาด พวกเขาก�ำลังพยายามเปล่ียนแปลงสังคม ด้วยอาหารท่ีค�ำนึงถึง สุขภาพเป็นที่ตั้ง เพื่อสร้างชีวิตท่ีมีสุขภาวะ “การผลิตอาหารอินทรีย์เพ่ือคนทุก คน” จงึ เปน็ หวั ใจสำ� คญั ของการมงุ่ สกู่ ารพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื อยา่ งแทจ้ รงิ เพอ่ื เปา้ หมาย นี้ได้สร้างผู้ผลิตและผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจและห่วงใยสุขภาพ พวกเขาหันเหจาก ทศิ ทางการผลิตตามการตลาดกระแสหลกั สู่การผลิตด้วยกระบวนการธรรมชาติ ทีไ่ ม่ทำ� ลายสงิ่ แวดลอ้ ม 14
การเคลือ่ นไหวของกลมุ่ พลงั สีเขียวเริ่มต้นอยา่ งช้าๆ แตเ่ ต็มไปด้วยความมุ่งม่นั จรงิ จัง และค่อยๆ ขยายเครอื ขา่ ยออกไปเรื่อยๆ เหน็ ได้จากการเกิดขององคก์ รต่างๆ ท่วั โลก ปี พ.ศ. 2503 สปมี พาพ.ศัน.ธ2์เก5ษ1ต5รอนิ ทรียน์ านาชาต ิ (IFOAM ) ทีญ่ ีป่ ่นุ เกิดกระบวนการเตเก้ (Teikei) จากการตระหนกั ถึงพษิ ภัย เกิดข้นึ ในเพอื่ ต่อตา้ นผลกระทบทต่ี ามมาจากการปฏวิ ัตเิ ขียว ของสารเคมีในภาคการเกษตร การพบ ท่ีน�ำการเปล่ียนแปลงโครงสร้างทางการเกษตรกรรมของโลก โรคมนิ ามาตะกับทารกในครรภ ์ เข้าสยู่ ุคของการใชส้ ารเคมีผลติ อาหาร ป๋ยุ เคมี ยาฆ่าแมลง ท�ำใหม้ ีกระบวนการเชื่อมโยงผ้ผู ลิต การตัดแต่งพันธกุ รรมพชื และผบู้ รโิ ภคทีท่ �ำการเกษตร แบบไมใ่ ชส้ ารเคมขี นึ้ มาคร้ังแรก ปี พ.ศ.2536 เกดิ ขบวนการเคล่ือนไหวของชาวนา โลก ลาเวียคมั เปซินา (La via Campesina) เป็นการ ปี พ.ศ. 2508 รวมตวั ของชาวนาชาวไรร่ ายยอ่ ยจากทวั่ โลก เพอื่ ปฏเิ สธ เกิดพลงั ผบู้ ริโภค เรมิ่ ตน้ จาก ตัวแบบการพัฒนาชนบทแบบเสรีนิยมใหม่ เพื่อสร้าง การรวมกลมุ่ ซอ้ื นม เป็นสหกรณ์ ความเขม้ แข็งและสรา้ งอสิ รภาพให้กบั ระบบอาหาร ปี พ.ศ. 2529 ผ้ผู ลิต-ผู้บริโภคเซคทั สึ มกี ารขยายตวั ของอาหารทอ้ งถนิ่ (Family farm/ (Seikatsu Club) ซึง่ ปจั จุบนั City farm) ในสหรฐั อเมริกาและยุโรป จงึ เกิดขบวนการ ซเี อสเอ (Community-supported agriculture : CSA) มีสมาชกิ กวา่ สามแสนคน โดยผบู้ รโิ ภคไดเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในฐานะหนุ้ สว่ น การผลติ ปี พ.ศ. 2552 อาหารอินทรยี ์ ของเกษตรกรผู้ผลติ ด้วยความไว้วางใจ ชว่ ยเหลอื เกือ้ กูลกันและในราคาทเี่ ปน็ ธรรม การเลอื กตง้ั ภายใต้ระบอบ ปี พ.ศ.2547 ระบบการรบั รองอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม PGS ประชาธปิ ไตยเปน็ คร้งั แรก (Participatory Guarantee System) ไดร้ บั การ ประเทศภูฏานได้ก�ำหนดทิศทางใน ส่งเสริม เพ่อื การพัฒนาคุณภาพผลผลติ อนิ ทรยี ์ การพฒั นาประเทศให้เปน็ จากความรว่ มมอื ระหวา่ งผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภค ประเทศเกษตรอนิ ทรยี ์ 100 % สร้างเครอื ข่ายดว้ ย ความไวว้ างใจกัน โดยไม่จ�ำเป็น ต้องใหอ้ งคก์ รทส่ี ามท�ำหนา้ ทร่ี ับรองคุณภาพ เนื่องมาจากผลกระทบจากโครงสร้างเกษตรกรรมใหม่ ของโลกในศตวรรษท่ี 20 ยังเป็นรากฐานของความ ไม่เทา่ เทียมในศตวรรษท่ี 21 ทต่ี ามมา ความเหล่อื มลำ�้ ระหวา่ งวถิ ชี นบททขี่ าดแคลนและชวี ติ เมอื งทบ่ี รโิ ภคจนเกนิ ลน้ เทก่ีมษาต:รอฮนิันทสร์ แยี ว์ 3น.0วจลิ ะเลกี่ยา้ นวเสด์วนิ าไรปด์ อ,ยา่สงรไุปร?ค”วากมาจรอากบกรามรเชบงิ รปรฏยาบิ ยตั กิ “าปรรภะาเคทเีศคไรทอื ยขกา่ ับย อาหารรุ่นใหม่ คร้งั ท่ี 1 “เขา้ ใจ สบั สน เร่ืองผกั ผลไม”้ 17 มิถนุ ายน 2560. 15
s เกษตรกรและผลผลิตเกษตรธรรมชาติ ราชธานอี โศก จังหวัดอุบลราชธานี หลายทศวรรษที่ผ่านมาในประเทศไทย การเคลื่อนไหวของพลังสีเขียว กระจายตัวอยู่ในที่ต่างๆ โดยมีอุดมการณ์เดียวกันที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง เพ่ือหลีกหนีระบบการตลาดเสรีท่ีสร้างความเหล่ือมล�้ำ และผลกระทบตามมา อย่างมากมาย เข้าสู่เส้นทางการตลาดท่ีเป็นธรรมตลาดท่ีมีจิตส�ำนึก ตลาดที่ทุก ภาคส่วน มีส่วนร่วมมีความเข้าใจ และมีความพยายามที่จะขับเคลื่อนแนวคิด “อาหารอนิ ทรยี เ์ พอื่ ทกุ คน” ใหส้ ามารถพง่ึ พาตนเองดา้ นอาหาร รวมทง้ั ดแู ลและ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ต้ังอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนรวม สร้างความม่ันคงทาง อาหารของชุมชน โดยเชอ่ื มโยงสายสัมพันธร์ ะหว่างเกษตรกรผู้ผลิตและผบู้ รโิ ภค คำ� นึงถึงคุณภาพชวี ติ มคี วามเป็นนำ้� หนงึ่ ใจเดียวกนั ใสใ่ จซง่ึ กันและกัน เพอื่ วถิ ี ชวี ติ ทมี่ ีความสขุ ที่ยั่งยนื อยา่ งแท้จริง ช่วงเร่ิมต้นของเกษตรอินทรีย์ เกษตรวิถีธรรมชาติ เกษตรกรรายย่อย หันมาท�ำเกษตรกรรมทพี่ ึ่งพาธรรมชาตโิ ดยไมใ่ ช้สารเคมี แต่ดอกผลค่าตอบแทน จากการเกบ็ เกยี่ วผลผลติ กย็ งั ไมค่ มุ้ คา่ กบั ความทมุ่ เททใ่ี สใ่ จลงไป ทง้ั ตอ้ งฝา่ ฟนั กบั มายาคตผิ กั ดตี อ้ งสวยแบบไมม่ ที ตี่ ขิ องผบู้ รโิ ภคทคี่ นุ้ เคยกบั ผลผลติ เคมมี าคอ่ นชวี ติ การผลติ เกษตรอนิ ทรยี ท์ ไี่ ดจ้ ำ� นวนนอ้ ย เนอื่ งมาจากการสญู เสยี ในระบบการผลติ อาทิ การรบกวนจากโรคและแมลง หรือสภาพดินฟ้าอากาศไม่เอ้ืออ�ำนวย จึง ไมไ่ ดส้ รา้ งรายไดท้ เ่ี ปน็ กอบเปน็ กำ� เพยี งพอในการดำ� รงชวี ติ อกี ทงั้ ความปลอดภยั จากสารเคมี ก็ยังไม่ใช่เร่ืองคอขาดบาดตายที่ท�ำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ค�ำนึงถึง จนกว่าจะถึงคราวเจบ็ ปว่ ย 16
ปจั จบุ นั การตนื่ ตวั เรอ่ื งกระแสการบรโิ ภคอาหารปลอดภยั มมี ากขนึ้ รวม ไปถึงการตระหนักในพิษภัยของสารเคมีการเกษตรตกค้างในผักผลไม้ที่ส่งผล รา้ ยแรงต่อสุขภาพ กระแสตนื่ ตัวในการหาทางเลอื กใหม่ทางการเกษตร เพอื่ หลีก วฏั จกั รเกษตรเคม ี และการตน่ื ตวั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสภาพแวดลอ้ มขยายตวั เขา้ สคู่ วามสนใจเรอื่ งผลกระทบของเกษตรเคมที ม่ี ตี อ่ ดนิ และความหลากหลายทางชวี ภาพ มลพษิ เคมที ำ� ใหเ้ กดิ กา๊ ซเรอื นกระจกสาเหตุ ของการเกดิ โลกรอ้ น กระแสดังกล่าวทำ� ให้เกิดเครือขา่ ยเกษตรกรรมทางเลือก มี การรวมกลมุ่ ผผู้ ลติ -ผบู้ รโิ ภคสเี ขยี วในเมอื งไทย ทงั้ องคก์ รพฒั นาเอกชน นกั วชิ าการ และผูน้ �ำเกษตรกรเพือ่ นำ� เสนอแนวทางการเกษตรใหม่ เกษตรธรรมชาติ เกษตร อนิ ทรยี ์ กระจายไปตามภมู ภิ าคตา่ งๆ ทวั่ ประเทศ เกดิ ชมุ ชนสเี ขยี ว สรา้ งเครอื ขา่ ย มกี ารเคลอื่ นไหว มกี ิจกรรมขบั เคลอื่ นแนวคดิ มีการติดตอ่ สอ่ื สาร ประชาสมั พันธ์ และเกดิ กระแสในสังคมไม่นอ้ ย มีกระบวนการท�ำงานขององค์กรตา่ งๆ ท้งั ในดา้ น การขบั เคลอื่ นโครงการและใหท้ นุ ทไี่ ดก้ ารสนบั สนนุ กจิ กรรมหรอื การรวมกลมุ่ กนั เพื่อเคลื่อนไหวในลักษณะขององค์กร มูลนิธิ สถาบันอย่างในโรงพยาบาลหรือ โรงเรียน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบล หมู่บ้าน หรอื กล่มุ แมบ่ า้ น กลมุ่ เกษตรกรใน พนื้ ที ่ จากกระแสต่ืนตวั ส่งผลตามมา โดยเฉพาะการเกิดกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ เกิดเครือข่ายเกษตรกรผ้ผู ลิตและผู้บรโิ ภคสีเขยี วท่ีเขม้ แขง็ ในรปู แบบตา่ งๆ นำ� มา ซง่ึ การรวมกลมุ่ รว่ มกนั ทำ� งาน แบง่ ปนั องคค์ วามร ู้ มกี ารพบปะพดู คยุ แลกเปลยี่ น ในงานเวทีสัมมนาวชิ าการ เกดิ ชอ่ งทางในการส่ือสาร ภาคเี ครอื ขา่ ยได้มาพบเจอ เพอ่ื บอกเลา่ ประสบการณก์ ารท�ำงานและสร้างแรงบนั ดาลใจตอ่ กนั ในด้านธุรกิจ กระแสรักสุขภาพกลายเป็นเทรนด์ท่ีน่าจับตา ท�ำให้เกิด ผู้ประกอบการนักธุรกิจรุ่นใหม่ท่ีน�ำเอาประเด็นสุขภาพมาเป็นจุดขายและ สร้างสรรค์แบรนด์โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่มีไลต์สไตล์รักสุขภาพ นอกจากนย้ี งั ใสใ่ จโลกและสง่ิ แวดลอ้ ม เมอ่ื เทรนดส์ ขุ ภาพกลายเปน็ ชอ่ งทางธรุ กจิ ในระบบตลาด การโหมสอ่ื โฆษณาในแนวทางรกั ษโ์ ลก ผลติ สนิ คา้ และโฆษณาสรา้ ง 17
ภาพลกั ษณไ์ ลฟส์ ไตลค์ นรนุ่ ใหม่ ใสใ่ จสขุ ภาพ ดแู ลสง่ิ แวดลอ้ ม ทำ� ใหเ้ กดิ วาทกรรม ทางการตลาดทสี่ รา้ งความสบั สนงนุ งงแกผ่ บู้ รโิ ภค โดยเฉพาะในกลมุ่ ของผลติ ภณั ฑ์ อาหาร แมว้ า่ ระบบอตุ สาหกรรมการผลติ อาหารไมอ่ ยใู่ นขอบขา่ ยของการผลติ แบบ เกษตรอนิ ทรยี ์ แตด่ ว้ ยชอ่ งทางการตลาดของกลมุ่ ทนุ อาหาร ทำ� ใหก้ ารเขา้ ถงึ เปน็ เรอื่ งงา่ ยดายกวา่ การพบเจอผลผลิตอินทรยี ์ของเกษตกรรายยอ่ ยทีม่ สี ่วนแบง่ การ ตลาดเพยี งนอ้ ยนิด ดังนั้นการส่ือสารเพื่อส่งถึงผู้บริโภคจึงมีความส�ำคัญในการสร้าง ความตระหนกั และการเพมิ่ ชอ่ งทางการตลาดเชอ่ื มโยงผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคเปน็ สงิ่ ส�ำคญั ที่ตอ้ งสอ่ื สารทำ� ความเขา้ ใจให้แพรห่ ลาย ในปัจจุบันเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากระยะเรม่ิ ตน้ เขา้ สรู่ ะยะขยายตวั จากผลพวงดา้ นสงั คมเศรษฐกจิ และการเมอื ง ซงึ่ เกดิ จากปจั จยั ของผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคอนั เนอื่ ง มาจากกระแสตน่ื ตวั ดา้ นสขุ ภาพ และสงิ่ แวดลอ้ ม ในขณะเดยี วกนั ไดเ้ กดิ ผปู้ ระกอบการทเ่ี หน็ โอกาสทางธรุ กจิ อาหาร อินทรีย์ ท�ำให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ท้ังในด้านการผลิต แปรรูป และ การตลาด ประกอบกับนโยบายของภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้เข้ามา สนบั สนนุ เกษตรอนิ ทรยี ์ ในการแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ การแกป้ ญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม และ การขยายโอกาสในการส่งออก เป็นเทรนด์สุขภาพที่ทวั่ โลกให้ความสนใจ แมว้ า่ จะมกี ารสนบั สนนุ กระตนุ้ ใหเ้ กษตรอนิ ทรยี เ์ ตบิ โตอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง แต่ สังคมไทยก็รับรู้และเข้าใจเกษตรอินทรีย์ได้ไม่ถูกต้องเท่าท่ีควร ขาดความเข้าใจ หลกั การสำ� คญั ของเกษตรอนิ ทรยี ์ ทงั้ 4 ดา้ น คอื สขุ ภาพ (Health) ระบบนเิ วศ (Ecology) ความเป็นธรรม (Fairness) และการดูแลเอาใจใส่ (Care) อย่าง ลึกซ้ึงเพียงพอ การท�ำเกษตรอินทรีย์ยังไม่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งการเปลี่ยนผ่าน ตอ้ งใช้ทง้ั ระยะเวลา องค์ความรู้ ความอดทนในการทดลอง การจัดการพ้นื ที่การ ผลติ หลังจากไดผ้ ลผลิตออกมายงั ตอ้ งผ่านการตรวจสอบมาตรฐานก่อนน�ำออกสู่ ตลาด ดว้ ยขนั้ ตอนทค่ี อ่ นขา้ งมกี ฎเกณฑร์ ายละเอยี ดทตี่ อ้ งทำ� ความเขา้ ใจใหช้ ดั เจน เกษตรกรและผู้ประกอบการจำ� ตอ้ งอาศยั พลังใจและกายทุม่ เทไม่น้อย 18
ในสภาวะเช่นนี้ท�ำให้เกิดการน�ำมาใช้ท่ีสับสน และสร้างความเข้าใจผิด ทงั้ ของผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภค ผลทตี่ ามมาคอื ทำ� ใหผ้ บู้ รโิ ภค ไมเ่ ขา้ ใจตน้ ทนุ ทแี่ ทจ้ รงิ ในกระบวนการการผลิต ไม่เข้าใจความแตกต่างของผลผลิตอินทรีย์และผลผลิต เคมี อกี ทง้ั การเกดิ คำ� นยิ ามทางการตลาดมากมาย ไดส้ รา้ งความสบั สน อาทิ เขา้ ใจ ว่า มาตราฐานเกษตรอินทรีย์เหมือนกันกับมาตรฐานปลอดภัยจากสารพิษ ผัก อนามยั ผกั ปลอดสารพษิ หรอื ผกั โฮโดรโปรนกิ สเ์ ปน็ เกษตรอนิ ทรยี ์ โลโก้ Q เปน็ โลโกร้ บั รองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และเกษตรอนิ ทรีย์อนญุ าตใหใ้ ช้จีเอม็ โอ ผัก ปลอดภยั ผกั ปลอดสารเคม ี ผกั อนิ ทรยี ์ คอื ผกั อนิ ทรยี ท์ งั้ หมด เปน็ ตน้ ซงึ่ แทจ้ รงิ มีความแตกต่างกันในกระบวนการผลติ ผกั ปลอดภัยไม่ใช่ผักอนิ ทรีย์ ยงั คงใช้ปุ๋ย เคมีและสารเคมีทางการเกษตรในการปลูก เพียงแต่เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่ ปลอดภยั หลงั ใชส้ ารเคมี หรอื การคดิ วา่ ผกั โฮโดรโปรนกิ สค์ อื ผกั สะอาด ปลอดสาร พษิ ซึง่ การปลกู ด้วยน�ำ้ จ�ำตอ้ งอาศัยป๋ยุ เคมีละลายในน�ำ้ เพือ่ ช่วยให้ผักเติบโต แต่ อาจจะมกี ารตกค้างของปยุ๋ เคมี และผกั ไม่มธี าตุอาหารเพยี งพอ เปน็ ต้น รวมทง้ั ปัญหาด้านองค์ความรู้ด้านการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ตามหลักการท่ีถูกต้อง อาจยังไม่แพร่หลายไปยังเกษตรกรผู้ผลิต หรืออาจจะยังท�ำความเข้าใจไม่ดีพอ เกษตรกรยงั ขาดความเชีย่ วชาญที่ไมค่ รอบคลมุ ทัง้ ระบบ ขาดช่องทางการส่อื สาร ขาดความรู้เรื่องระบบโลจิสติกส์ ขาดการรวมกลุ่ม ขาดภาคีเครือข่าย ร่วม 19
อดุ มการณ ์ เหลา่ นก้ี อ็ าจจะสง่ ผลใหก้ ารขยายตวั ของเกษตรอนิ ทรยี ใ์ นประเทศไทย เป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ ยังคงต้องมีการสนับสนุนสร้างองค์ความรู้ท่ีถูกต้องไปยัง เกษตรกร และมีการสอ่ื สารใหก้ บั ผู้บริโภคใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจเกษตรอินทรีย์ ให้มากข้ึนกวา่ เดิม ปจั จบุ นั สงั คมโลกกา้ วเขา้ สยู่ คุ เกษตรอนิ ทรยี ์ 3.0 สหพนั ธเ์ กษตรอนิ ทรยี ์ นานาชาติ (IFOAM) เชอื่ ว่าปัญหาดา้ นส่งิ แวดล้อม เศรษฐกิจ และสงั คม ทีข่ ยาย ตวั มากขน้ึ จะตอ้ งแก้ไขดว้ ยกระบวนการพฒั นาเกษตรอินทรีย ์ เปน็ ยคุ ท่ีตอ้ งให้ ความส�ำคัญกับความยั่งยืนทางนิเวศ (ecologically sound) ความอยู่รอดทาง เศรษฐกจิ (economically viable) ความเป็นธรรมทางสังคม (socially just) ความหลากหลายทางวฒั นธรรม (culturally diverse) และความโปรง่ ใสในการ ผลติ (transparently accountable) ซึ่งเป็นทมี่ าของการจัดกระบวนการระดม สมองภายใตเ้ ครือข่าย Sustainable Organic Agriculture Action Network (SOAAN) เป็นเปา้ หมายในการดำ� เนินงานในอนาคต ส่วนแวดวงเกษตรอนิ ทรีย์ไทย แมม้ ูลคา่ ทางการตลาดในภาพรวมของ เกษตรอนิ ทรยี จ์ ะขยายตวั มากขนึ้ จากกจิ กรรมสนบั สนนุ ทงั้ ในการผลติ การบรโิ ภค และการผลักดันนโยบายดา้ นเกษตรอินทรยี ์ และปัจจัยอื่นๆ ท่สี ำ� คญั อาทิ การ ใช้ตรารับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะความ แตกตา่ งไดม้ ากขนึ้ มผี ปู้ ระกอบการคา้ ปลกี เฉพาะทม่ี นี โยบายในการทำ� การตลาด เกษตรอินทรีย์ เช่น ร้านเลมอนฟาร์ม ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่หรือ โมเดริ น์ เทรดได้เหน็ แนวโน้มทศิ ทางของตลาดเกษตรอินทรีย์ จึงไดม้ กี ารจำ� หน่าย สินค้าเกษตรอินทรีย์เพ่ิมขึ้น เช่น วิลล่า มาร์เก็ต ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน อย่างไรก็ดีในข้ันต้นหากสังคมยังมีการ ส่ือสารถึงคุณสมบัติผักผลไม้อย่างสับสนอย่างที่เป็นอยู่ การจะก้าวสู่วิถีการผลิต และการบริโภคทถ่ี ูกตอ้ งคงเป็นเรอ่ื งยาก ดงั นั้นการทำ� ความเข้าใจ ตรามาตรฐาน ผลผลิตการเกษตรจะช่วยให้ผู้บริโภคมีความรู้ ความเข้าใจ และเข้าถึงผักผลไม้ อินทรีย์อย่างแท้จรงิ จะมสี ่วนช่วยใหเ้ กษตรกรอินทรยี พ์ ัฒนาไปได้อย่างถกู ต้อง 20
การแบ่งระดบั ความปลอดภยั ของผลผลติ การเกษตร GMOs เคมี อนามยั ปลอดภัย ไรด้ นิ ไรส้ าร อินทรยี ์ ปยุ๋ เคมี (ทว่ั ไป) (คมุ ระดับ (คุมระดบั (ไฮโดร (ไม่ใชส้ าร Organic ยาฯ เคมี สารเคม)ี สารเคม)ี โฟนิก) เคม)ี Farming ฮอร์โมน 3 33 สงั เคราะห์ 3 3 3 37 7 ปบลรอโิ ดภภคยั 3 3 3 7 สปิ่งแลวอดดลภอ้ ยั ม 3 37 7 หทเลพางาม่ิ ชกคีวหวภลาาามพย 3 3 7 มราบัตรรฐอางน 7 37 3 3 3 หรนับ่วรยองางน 7 ? ? ?? 3 7 7 7 7? 7 7 7? 3 ไมม่ ี หรGือAไPม่มี ตกสคาไา้ มรงพม่ หิษี รือ GหไมAร่มอืPี หรPอื GไSมม่ ี อเกินษทตรรีย์ ไมม่ ี กรมเกวษชิ ตารการ วกทิ ายรกาแศรพมาทสตยร์ ์ วเิชกกาษรกมตารร หรPอื GไSม่มี IมFมPOกกGอAทSชM.. ตรมาราสบัตัญรรลฐอกัางนษณ์ ไม่มี เฉกพลาุ่มะ ทม่ี า : http://www.nawachione.org 21
s โครงการสถานีเกษตรแบ่งปนั .... เพือ่ นผลิตใหเ้ พือ่ นบริโภค... เกษตรอนิ ทรยี ์ จ.ราชบุรี ส�ำหรับแนวทางการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบเกษตรกรรมย่ังยืน (Sustainable Agriculture) หรือระบบเกษตรกรรม ทางเลอื ก (Alternative Agriculture) ชอ่ื เรยี กแตกตา่ งแตม่ หี ลกั การทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั และมผี ใู้ หค้ ำ� จำ� กดั ความโดยเปน็ การทำ� การเกษตรเนน้ ใหค้ วามสำ� คญั กบั สมดลุ ของระบบนิเวศ ผลผลิต และคุณภาพท่ีดีเพียงพอต่อเกษตรกรและผู้บริโภค การพ่ึงพาตนเอง ให้ความส�ำคัญกับชุมชนท้องถิ่น มีจุดมุ่งหมายเพ่ือผลิตอาหาร และปัจจัยท่ีจ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิตมากกว่าการผลิตเพื่อขาย ใช้ทรัพยากรให้ เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถด�ำรงชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ไม่เกิดปัญหาต่อสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ เพ่อื ความย่ังยนื ด้านเศรษฐกจิ สงิ่ แวดลอ้ มและสังคม โดยรูปแบบของการทำ� การ เกษตรกรรมย่ังยืนท่ีรู้จักท่ัวไป อาทิ ระบบไร่หมุนเวียน ระบบเกษตรผสมผสาน (Integrated Farming) ระบบไรน่ าสวนผสม (Mixed/Diversefied/Polyculture) ระบบไร่นาป่าผสมหรอื วนเกษตร (AgroForestry) เกษตรธรรมชาติ (Natural Farming) เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรกรรมประณีต เกษตรอินทรีย์ (Organic farming) เปน็ ตน้ ลองมาดูความแตกตา่ งของระบบเกษตรแตล่ ะประเภท 22
เปรียบเทยี บความแตกต่างของระบบเกษตรแตล่ ะประเภท ชื่อ ชือ่ อนื่ เปา้ หมายทีเ่ นน้ การตรวจรบั รองมาตรฐาน เกษตรอนิ ทรยี ์ fffอaaaอrrrmmmร์แiiiกnnnนggg,,คิ eb, ciooorlglooaggniciiccaall อสง่ินแุรวักดษล์นอ้ ิเมวศการเกษตร/ มหหีนล่วายยตมราวตจรรฐบั ารนองและหลาย เกษตรธรรมชาติ natural farming สอ่งินแุรวักดษล์น้อิเมวศการเกษตร/ ไโดมย่มตีกรางรตรวจรบั รอง วนเกษตร agroforestry อนุรักษ์นิเวศการเกษตร/ ไมม่ ีการตรวจรบั รอง สง่ิ แวดล้อม โดยตรง เพอร์มาคลั เชอร์ เกษตรถาวรภาพ, อนุรักษ์นิเวศการเกษตร/ ไมม่ กี ารตรวจรบั รอง เกษตรกรรมถาวร, สงิ่ แวดล้อม โดยตรง permaculture ไบโอไดนามิค เกษตรชวี พลวัตร, อนุรักษ์นิเวศการเกษตร/ มมี าตรฐานและตรวจ Biodynamic ส่งิ แวดล้อม รบั รองได้ เกษตรผสมผสาน Integrated farming สรา้ งความมน่ั คงใหก้ บั การ ไม่มีการตรวจรับรอง ผลติ /เกษตรกร เกษตรทฤษฎีใหม่ New Theory สรา้ งความมนั่ คงใหก้ บั การ ไม่มีการตรวจรบั รอง Agricutlrue ผลิต/เกษตรกร เกษตรยั่งยนื Sustainable สรา้ งความมนั่ คงใหก้ บั การ ไม่มีการตรวจรบั รอง agriculture ผลิต/เกษตรกร เกษตรดที ่ีเหมาะสม GAP (Good ความปลอดภยั ของผลผลติ มกี ารตรวจรบั รอง Agricultural Practice) การเกษตร เกษตรปลอดภัยจาก เกษตรปลอดสารพษิ ความปลอดภยั ของผลผลติ มกี ารตรวจรับรอง สารพษิ การเกษตร กสิกรรมไรส้ ารพิษ เกษตรปลอดสารเคมี ความปลอดภยั ของผลผลติ ไมม่ กี ารตรวจรับรอง การเกษตร ทม่ี า : http://greennet.or.th/ 23
ระบบการเกษตรท่ีควรรูจ้ ัก เกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีแนวทาง สำ� คญั ในการจดั การพน้ื ท่ี การจดั สรรทด่ี นิ เกษตรและทอ่ี ยอู่ าศยั โดยแบง่ ออกเปน็ พื้นที่ 4 ส่วน 30:30:30:10 พื้นท่ี 30% แรก ขุดสระเกบ็ กักน�ำ้ ฝนและปลกู พืชใน ฤดูแลง้ การเล้ยี งสตั วน์ �ำ้ และพชื นำ�้ พ้นื ที่ 30% ในส่วนท่ี 2 ปลกู ขา้ วในฤดูฝน ให้ เพียงพอกับการบริโภคในครอบครัว พื้นท่ีในส่วนที่ 3 ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผกั พชื ไร่ พืชสมนุ ไพรเพื่อใชเ้ ปน็ อาหารประจำ� วนั เหลือจากการบริโภคเอาไป จำ� หน่าย และพืน้ ที่ 10% ท่ีเหลอื ให้เป็นท่อี ยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ หรอื โรงเรอื นอ่นื ๆ ซ่ึงจะมีข้ันตอนของการพัฒนา 3 ระดับ ข้ันต้นคือการจัดสรร ขั้นกลางคือม ี ความม่ันคงในระดับหน่ึง สู่การรวมกลุ่ม เพ่ือร่วมมือกันในระดับชุมชน และขั้น ก้าวหนา้ คือการประสานความร่วมมือกบั องค์กรอื่นๆ ในระดับประเทศ เพื่อยก ระดับเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร หน่วยงานท่ีส่งเสริมเกษตร ทฤษฎีใหม่คอื มลู นธิ ิชัยพฒั นา 30% ขุดสระเก็บกักน้�ำฝนและ ปลกู พชื ในฤดแู ลง้ การเลยี้ ง สัตวน์ ำ้� และพชื น้�ำ 30% ไม้ผล ไม้ยืนตน้ พชื ผัก พืชไร่ พชื สมุนไพร 30% ปลกู ข้าวในฤดูฝน ใหเ้ พยี งพอกับ 10% ทอี่ ยอู่ าศัย เลย้ี งสตั ว์ หรอื การบริโภคในครอบครัว โรงเรอื นอน่ื ๆ 24
น�้ำฝน ดนิ และเมลด็ พชื แสงแดด พลังจากธรรมชาติ สร้างความสมดุล คน ดิน เมล็ดพชื เกษตรธรรมชาติ การทำ� การเกษตรธรรมชาติ คือไมใ่ ช้อะไรเปน็ ตวั ช่วย เลย โดยยดึ แนวทางเกษตรธรรมชาตขิ องฟูกูโอกะ นกั ปรัชญาชาวญี่ปนุ่ คือไม่ พรวนดนิ ไมใ่ สป่ ยุ๋ ไมก่ ำ� จดั วชั พชื ไมก่ ำ� จดั แมลงและศตั รพู ชื ไมต่ กแตง่ กงิ่ ไม ้ ซงึ่ มลู นธิ เิ อม็ โอเอไทยนำ� แนวคิดนีม้ าปรับใช้ในการทำ� เกษตรทางเลือก บางแนวทาง อาจยังต้องใช้ปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยคอก ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมีการตกค้างของสารเคมีหรือ ยาปฏิชีวนะในปศุสัตว์ท่ีมากับปุ๋ยคอก แต่การท�ำเกษตรธรรมชาติ จะไม่มีการใช้ ปยุ๋ มลู สตั วเ์ ลย ดนิ จงึ ตอ้ งมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ มธี าตอุ าหารทเ่ี พยี งพอตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช ท�ำให้พืชแข็งแรงพอที่จะต่อต้านโรคได้ เพราะไม่ต้องการให้มี การแทรกแซงกระบวนการทางธรรมชาติ พ้ืนท่ีเพาะปลูกจะมีพืชและวัชพืชคลุม ดินตลอดเวลาเพ่ือเปน็ การอนุรกั ษห์ น้าดนิ หนว่ ยงานทีท่ ำ� เกษตรธรรมชาติ อาท ิ เครอื ข่ายกสกิ รรมไร้สารพษิ และมูลนธิ ิเอม็ โอเอไทย 25
ไร่นาสวนผสม เป็นการท�ำกิจกรรมการเกษตรหลายๆ อย่าง เพื่อ ตอบสนองตอ่ การบรโิ ภค และลดความเสยี่ งจากราคาผลผลติ และภยั ธรรมชาติ ซง่ึ กจิ กรรมการเกษตรอาจจะไม่จำ� เป็นตอ้ งเก้ือกลู กนั เชน่ การเลยี้ งไก่ สุกร รวมกบั การปลูกพืชอ่ืนๆ ผสมกันในสวนมะพร้าว การเล้ียงปลาในร่องสวนไม้ผลหรือ สวนผกั หรอื อาจจะมกี ารเกอื้ กลู กนั ระหวา่ งกจิ กรรมการผลติ โดยนำ� เศษเหลอื ของ กิจกรรมหน่ึงไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับอีกกิจกรรมหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งจะท�ำให้ เกษตรกรมีรายได้จากผลผลิตที่หลากหลาย มีการกระจายการใช้แรงงานอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ และลดค่าใชจ้ ่ายส�ำหรบั การซอื้ หาอาหารด้วย 26
ไร่นาป่าสวนผสม หรือวนเกษตร เป็นระบบเกษตรกรรมที่เอาหลัก ความยง่ั ยนื ของระบบปา่ ธรรมชาตมิ าเปน็ แนวทางการทำ� การเกษตร คอื การทำ� ให้ เกดิ ความหลากหลายทางชวี ภาพทใ่ี กลเ้ คยี งธรรมชาตมิ ากทสี่ ดุ มที งั้ ทรพั ยากรปา่ ท่ีมชี วี ิตและไม่มชี วี ิต หรือเปน็ การทำ� การเกษตรไปพร้อมกับการอนุรักษ์ป่าไม้ ให้ ความส�ำคัญกบั การรักษานำ�้ ใต้ดิน การปลูกพชื ยนื ต้น ไมผ้ ล ไมใ้ ช้สอย ผสมผสาน กบั พืชทไ่ี ม่ตอ้ งการแสงแดดมากในช้นั ถัดลงมา ระบบจะสามารถให้ผลตอบแทน กับเกษตรกรในหลายๆ ด้าน เช่นผลิตในรูปของอาหาร ยารักษาโรค ไม้ฟืน ไม้ สร้างบ้าน สามารถอนุรักษ์ดินและน้�ำ จะมี 3 ระบบใหญ่คือ ระบบป่าไม้-ไร่นา ระบบปา่ ไม-้ เล้ียงสัตว์ และระบบเลีย้ งสัตว์-ไร่นา-ป่าไม้ เชน่ วนเกษตรของผูใ้ หญ่ วิบูลย์ เขม็ เฉลิม 27
28
รจู้ กั ...เกษตรอินทรยี ์ เปน็ ทรี่ บั รทู้ วั่ กนั วา่ เกษตรอนิ ทรยี เ์ ปน็ การทำ� การเกษตรทใี่ หค้ วามสำ� คญั กับระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ การหมุนเวียนของวงจรชีวิต โดย เช่ือมโยงทุกส่ิงเข้าด้วยกัน สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movement – IFOAM) เครือขา่ ยของ องคก์ รดา้ นเกษตรอนิ ทรยี ร์ ะหวา่ งประเทศไดส้ รปุ ความหมายคำ� นยิ ามทไ่ี ดร้ บั การ ยอมรับอย่างกว้างขวางในการจ�ำกัดความ “เกษตรอินทรีย์” ไว้ว่า “ระบบการ ผลติ ทใ่ี หค้ วามสำ� คญั กบั ความยงั่ ยนื ของสขุ ภาพดนิ ระบบนเิ วศ และผคู้ น เกษตร อนิ ทรยี พ์ ง่ึ พาอาศยั กระบวนการทางนเิ วศวทิ ยา ความหลากหลายทางชวี ภาพและ วงจรธรรมชาติ ท่ีมลี กั ษณะเฉพาะของแตล่ ะพืน้ ที่ แทนทจี่ ะใช้ปจั จยั การผลติ ที่มี ผลกระทบทางลบ เกษตรอินทรีย์ผสมผสานองค์ความรู้พื้นบ้าน นวัตกรรมและ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรใ์ นการอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม และสง่ เสรมิ ความสมั พนั ธท์ เ่ี ปน็ ธรรม และคณุ ภาพชีวิตท่ีดีของทกุ คนและสงิ่ มีชวี ิตต่างๆ ทเี่ ก่ียวข้อง” เปน็ มตใิ น การประชุมใหญ่ เดือนมิถุนายน 2551 ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง หลักการส�ำคญั 4 ดา้ น คือ การเอาใจใส่ (Care) สุขภาพ (Health) นิเวศวทิ ยา (Ecology) และความเปน็ ธรรม (Fairness) 29
สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ IFORM FAO และ UNCTAD ได้ร่วมกันก�ำหนด วัตถุประสงค์ของเกษตรอนิ ทรีย์ที่เทยี บเคียงในแต่ละประเทศ ทีเ่หปลน็ กี อเนัลี่ยตงรกายารกใบัชผส้ ู้คารนเแคลมะสี สงั ่งิเคแรวาดะลหอ้ ์ม ควารมกั หษลาาคกวหาลมาสยมทดาุลงแชลีวะภาพ จากปส้อง่ิ งแกวันดผลล้อกมรระอทบบขา้ ง ECOLOGY อฟขดุ อน้ืมงฟสผมูคนื วบดาูรินมณ์ เกษตร CARE ไวม่าใ่ มช้เโี ททคษกโหนารรโือลฉไยามยีท่ รี่ย เังงัชสสน่ ี รปุGไMมOไ่ ด้ FAIRNES อนิ ทรีย์ ปฏบิอแยตั ล่าติ ะงอ่เเทปท่าน็ุกเภธทราียรคมมสว่ น HEALTH อยา่ เงลม้ยี ีจงรสยิ ตั ธวร์ รม คเวปาิดมเเผปย็นสอถนิ าทนระีย์ ควตาตลมอ้อเปงดรน็หักอว่ ษินงาโทซร่ ยี ์ มสกี ขุ าภราสพง่ เสสตั รวิม์ 30
ส�ำหรับประเทศไทย ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร แหง่ ชาติ (มกอช.) ไดใ้ หค้ วามหมายเกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture) ว่าคอื ระบบการจดั การดา้ นการเกษตรแบบองคร์ วมทเี่ กอ้ื หนนุ ระบบนเิ วศ วงจรชวี ภาพ และความหลากหลายทางชวี ภาพ โดยเนน้ การใชว้ สั ดธุ รรมชาติ หลกี เลยี่ งวตั ถดุ บิ ทไ่ี ดจ้ ากการสงั เคราะห์ ไมใ่ ชพ้ ชื สตั ว์ หรอื จลุ นิ ทรยี ท์ ไ่ี ดจ้ ากการดดั แปลงพนั ธกุ รรม (Genetic Modification) มีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้น การแปรรูปด้วย ความระมดั ระวงั เพอ่ื รกั ษาสภาพการเปน็ เกษตรอนิ ทรยี ์ และคณุ ภาพทสี่ ำ� คญั ของ ผลิตภณั ฑใ์ นทกุ ขั้นตอน เมอ่ื เรมิ่ ตน้ ทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์ นเี่ ปน็ หลกั การแนวคดิ ทเี่ กษตรกรนา่ จะตอ้ ง มีความเข้าใจในระดับพื้นฐาน การท�ำการเกษตรอินทรีย์แต่เดิมต้องได้รับการ รบั รองมาตรฐานจากองคก์ รภายนอกทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั เปน็ ผมู้ าประเมนิ คณุ ภาพ กระบวนการผลิตและมาตรฐานผลผลิต แต่ต่อมาปัญหาการเข้าถึงมาตรฐาน เกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรรายย่อยท่ีเกิดจากขยายตัวเพิ่มมากข้ึน เป็นเรื่อง สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายทั้งยุ่งยากในการเข้าถึงการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ท�ำให้ได้มีการพัฒนาเร่ืองการจัดท�ำมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ “ระบบการรับรอง อย่างมีส่วนร่วม (PGS)” มาปรับใช้ ก็คือการรับรองอย่างมีส่วนร่วมในกลุ่ม เกษตรกร ผู้ผลิตผู้บริโภค และนักวิชาการ ฯลฯ และส่งผลให้เกิดการรับรอง มาตรฐานต่างๆ มากมาย เช่น มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ (มอน.) ของ สถาบันส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ย่ังยืนภาคเหนือ เครือข่ายตลาดสีเขียว มาตรฐาน กสกิ รรมไรส้ ารอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ (กรอ.) ของสหกรณก์ สกิ รรมไรส้ ารพษิ พน้ื ที่ สปก.วงั นำ้� เขยี ว หรอื มาตรฐานตรวจสอบตนเอง (ตอ.) ของเครอื ขา่ ยกสกิ รรม ไรส้ ารพิษแห่งประเทศไทย กลมุ่ ญาติธรรมอโศก เป็นตน้ ซ่งึ กจ็ ะมีความแตกต่าง กนั ในมาตรฐาน กฏระเบยี บ กตกิ าขอ้ ตกลง และการจดั การระบบตามความเหมาะ สมตามบรบิ ทของแต่ละกลมุ่ แต่ละพืน้ ที ่ การจดั การระบบการรบั รองมาตรฐาน เกษตรอินทรีย์อย่างมสี ่วนรว่ ม (PGS) จึงเป็นอีกแนวทางสำ� คญั ที่สามารถพัฒนา ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรยี ์ของกลุม่ และหมูค่ ณะ 31
32
รวมกลมุ่ สรา้ งพลงั เพ่มิ คณุ ภาพผลผลติ ระบบการรบั รองมาตรฐานอนิ ทรียอ์ ยา่ งมีส่วนรว่ ม (Partcipatory Guarantee System - PGS) การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์มีความส�ำคัญอย่างมากใน กระบวนการผลติ เกษตรกรรมทางเลอื ก นอกจากจะเปน็ ระบบการตรวจสอบและ ควบคุมคุณภาพในกลุ่มเกษตรกรสมาชิกแล้ว การรกั ษามาตรฐานผลผลติ อนิ ทรีย์ ที่ได้รับการยอมรับ จะสัมพันธ์กับการท�ำการตลาด เพ่ือจัดจ�ำหน่ายไปยังกลุ่ม ผู้บริโภคสร้างการเช่ือมโยงและเพ่ิมช่องทางการตลาดด้วยความไว้วางใจต่อกัน และยังสร้างความม่ันใจให้กับเกษตรกรอินทรีย์ ว่าได้เดินตามแนวทางเกษตร อนิ ทรยี ท์ เ่ี ครง่ ครดั จงึ ไดร้ บั ผลตอบแทนทค่ี มุ้ คา่ กบั แรงกายแรงใจ อกี ทง้ั การสอื่ สาร กบั ผู้บรโิ ภคเพ่อื สรา้ งความเชอ่ื ม่นั ตระหนกั ในความตัง้ ใจของเกษตรกร และยนิ ดี จะบรโิ ภคผลผลติ อนิ ทรีย์ ด้วยการเสนอราคาทเ่ี ปน็ ธรรม การรวมกลมุ่ ยังเป็นการ สร้างเครือข่ายเกษตรกรในพ้ืนที่ให้เข้มแข็ง สามารถร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหา ดา้ นตา่ งๆ ทเ่ี กดิ จากกระบวนการผลติ แลกเปลยี่ นองคค์ วามรู้ หรอื การจดั จำ� หนา่ ย ด้านตลาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เกิดเป็นการเช่ือมโยงกลุ่มผู้ผลิตผู้บริโภค สเี ขียวภายใตร้ ะบบการตลาดท่ีเกอ้ื หนุนซงึ่ กนั และกัน 33
ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อย่างมีส่วนร่วม (PGS) มีการพัฒนาระบบการ รับรองทค่ี �ำนึงถงึ บริบทและทิศทางการพัฒนาเกษตรอินทรยี ์ของไทยเปน็ หลกั โดยเรม่ิ ตน้ จาก ขั้นท่ี 1 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์กลุ่ม ขน้ั ท่ี 2 PGS ข้ันท่ี 6 เรยี นร้มู าตรฐานเกษตรอินทรยี ์ กลมุ่ ตกลงบทลงโทษร่วม วางมาตรการ เพอ่ื ปรบั ความเขา้ ใจให้ตรงกัน ป้องกันการทำ� ผิด เพื่อการพฒั นามากกว่า ในเร่ืองของความหมาย แนวคดิ จับผิด รวมไปถึงการตรวจสอบให้เปน็ ไป ตามมาตรฐานร่วม และวัตถุประสงค์หลัก ขนั้ ที่ 7 ขน้ั ท่ี 3 กลุ่มจัดท�ำเอกสาร เพ่ือเป็นหลกั ฐาน เรยี นร้กู ระบวนการรับรองมาตรฐานเกษตร ในการตรวจสอบ เช่น ใบสมคั ร ประวตั ิ อนิ ทรยี ์อยา่ งมสี ่วนร่วม การบนั ทกึ ชนิด ประเภท จำ� นวนของพืช ทปี่ ลูก ขนาดพื้นที่ แผนผังแปลง ฯลฯ ตามหลักการส�ำคัญ อาทิ มวี ิสยั ทัศน์ เพอื่ สามารถสืบค้น และประสานงาน รว่ มกัน รว่ มคดิ รว่ มตดั สินใจ มคี วามโปร่งใส ในการขนึ้ ทะเบยี นกับเครือข่าย มคี วามไวว้ างใจ มคี วามสัมพนั ธ์ในแนวราบ พร้อมเอกสารการตรวจสอบรับรอง จากกระบวนการร่วมกนั ตัดสิน ว่าผ่าน และสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน มาตรฐานร่วมหรือไม่ มีแนวทางพิจารณา 3 แนวทาง ผา่ น คอื มกี ารปฏบิ ัติตาม ขน้ั ท่ี 4 มาตรฐานรว่ มอยา่ งครบถว้ น ผ่าน อยา่ งมีเง่อื นไข คอื การปฏบิ ัติตาม กลมุ่ ตกลงมาตรฐานรว่ มกัน แต่ยงั ไม่สมบรู ณ์ ตอ้ งมกี ารแกไ้ ข ในระยะเวลาก�ำหนดและ ไม่ผา่ น ข้ันที่ 5 คือ การไม่ปฏบิ ัติตามมาตรฐานร่วม กลุม่ ตกลง กฎ กตกิ า ข้อตกลงร่วม ขั้นท่ี 8 วางแนวทางการท�ำงานรว่ มกนั ประกาศรับตรารับรองมาตรฐานอยา่ งมี อาทิ การมขี ้อตกลงพ้ืนฐาน มสี มาชกิ ไมน่ ้อย ส่วนรว่ ม หลังจากการดำ� เนนิ การทง้ั หมด กวา่ 5 คน มีการตรวจเยีย่ มแปลง มคี า่ สมคั ร เปน็ ทเ่ี รียบรอ้ ย แรกเขา้ การจัดประชมุ ทุกเดอื น ฯลฯ 34 ตัง้ กติกาพ้ืนฐาน อาทิ ถา้ ตรวจพบสารเคมี หรือละเมดิ มาตรฐานอน่ื ๆ ต้องมกี ารพจิ ารณา ร่วมกนั มีความรับผดิ ชอบตอ่ กจิ กรรมกลุ่ม มีการบันทกึ ข้อมลู สมาชิก หรือการตง้ั บท ลงโทษ ตกั เตอื น หยดุ จำ� หน่าย ตัดสทิ ธิ ชว่ั คราว หรอื ตัดออกจากกล่มุ ในกรณีผดิ ร้ายแรง
โครงสรา้ งการทำ� งานระหวา่ งเกษตรกรกบั เครอื ขา่ ยการรบั รองมาตรฐาน เกษตรอนิ ทรยี อ์ ย่างมีส่วนรว่ ม (PGS) เกษตรกร 5 คน รวมตัวกัน ฝกึ อบรม PGS กำ� หนดข้อตกลงต่างๆ รว่ มกนั มาตรฐาน กติกา บทลงโทษ กลมุ่ เกษตรกรตรวจประเมินแปลง 3 คน ท่ีผ่านการฝึกอบรม โดยไม่เป็นเจา้ ของแปลง ไมม่ ีประโยชน์ทบั ซอ้ น กลมุ่ เกษตรกรแต่ละกลุ่ม รวบรวมข้อมูลสมาชิก ขึน้ ทะเบียนกลุม่ กับเครือขา่ ย คณะกรรมการประสานงานเครือขา่ ย ตรวจสอบเอกสาร ออกใบรับรอง ก�ำกับ ดแู ล ส่งเสรมิ สนับสนุน ท่ีมา : สรปุ ความจากคมู่ ือฝกึ อบรมหลักสตู รการรบั รอง3ม5าตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมสี ว่ นร่วม “We Organic PGS”
การจัดท�ำระบบมาตรฐานท่ีมีโครงสร้างการท�ำงานท่ีมีความสัมพันธ์กับ ทกุ ฝ่ายท่ีเกี่ยวขอ้ งเกษตรกร ผูผ้ ลิตผู้บรโิ ภค ผ้ปู ระกอบการ ตา่ งมีบทบาทในการ ทำ� งานร่วมกนั ในลักษณะของการประสานความร่วมมอื เปน็ เครือข่าย ซ่ึงแสดงให้ เหน็ ถงึ ความยดื หยนุ่ ยอมรบั ในความแตกตา่ งหลากหลายในการจดั การ สรา้ งสงั คม แห่งการแลกเปล่ียนเรียนรู้ รับฟังซ่ึงกันและกัน ท�ำให้เกิดการเช่ือมโยงและ การพัฒนาใหเ้ กิดความเขม้ แข็งในหว่ งโซ่เกษตรอินทรีย์ เครอื ข่ายความสัมพนั ธร์ ะบบการรบั รองอย่างมีสว่ นร่วม เกษตรกร เกษตรกร ผบู้ รโิ ภค ผูบ้ รโิ ภค ผู้บริโภค PGS เกษตรกร PGS เกษตรกร เกษตรกร ผูบ้ ริโภค ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการ เกษตรกร PGS โรงเรยี น เกษตรกร เกษตรกร PGS เกษตรกร PGS โรงพยาบาล เกษตรกร เกษตรกร โรงพยาบาล ผบู้ รโิ ภค ผู้ประกอบการ PGS โรงเรียน ผปู้ ระกอบการ ผ้บู รโิ ภค 36
37
38 s โครงการพฒั นา “แหล่งใหบ้ รกิ ารอาหารปลอดภัยเพอื่ สุขภาพ เส้นทางทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติ หบุ เขาภูแลนคา จังหวดั ชัยภมู ิ
สรา้ งการตลาดท่มี ีจติ ส�ำนึก (Mindful Markets) แนวทางที่จะช่วยให้เกษตรกรอินทรีย์สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ได้อย่าง เตม็ ภาคภูมิ กระบวนการสรา้ งแนวคิด “การตลาดทีม่ ีจิตสำ� นึก” เพือ่ ขบั เคล่อื น แนวคิด อาหารอนิ ทรยี ์เพือ่ ทุกคน (Organic food for all) นับเป็นอกี แนวทาง การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้ย่ังยืน เพ่ือความม่ันคงทางอาหาร ประกอบไปด้วย ปัจจัยรอบด้าน ที่จะท�ำให้การด�ำเนินงานด้านเกษตรอินทรีย์เป็นไปอย่างประสบ ผลส�ำเร็จ และสามารถตอบสนองความต้องการ ของผู้บริโภค-ผผู้ ลติ ได้น้นั การ ทำ� ความเขา้ ใจดา้ นเกษตรอนิ ทรยี ใ์ นมติ ติ า่ งๆ จงึ เปน็ สงิ่ ทจี่ ำ� เปน็ ทจี่ ะเออื้ หนนุ การ เกิดการตลาดท่ีมีจิตส�ำนึก โดยเริ่มต้นมาจากพลังของทุกภาคส่วน เข้ามาม ี สว่ นรว่ ม มคี วามเขา้ ใจ ความตระหนกั ทจ่ี ะขบั เคลอื่ นใหเ้ กดิ ความมนั่ คงทางอาหาร และเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ระหว่างเกษตรกรผผู้ ลติ และผ้บู รโิ ภคที่คำ� นงึ ถงึ คุณภาพ ชีวิต มีความใส่ใจซ่ึงกันและกัน ท้ังเรื่องของอาหารการกิน เร่ืองสุขภาพ ความ ปลอดภัยในการบริโภค โดยต้องใส่ใจตั้งแต่กระบวนการผลิต ด้วยหลักการของ เกษตรอินทรยี ์ ตามที่กลา่ วมาแล้ว 39
ช่องทางการตลาดที่มีจิตส�ำนึก ได้สร้างระบบการรับรองคุณภาพ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์อย่างมีส่วนร่วม (PGS) ผู้เก่ียวข้องกับห่วงโซ่ สามารถ เข้ามามสี ว่ นร่วมในการกำ� หนดกฎเกณฑ์ และมาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพ ผลผลติ โดยไมไ่ ด้อาศยั การรบั รองจากองค์กรภายนอก เกิดชอ่ งทางการเชือ่ มโยง ผผู้ ลติ เกษตรอนิ ทรยี ์ ไปสผู่ บู้ รโิ ภคสเี ขยี ว ในความสมั พนั ธแ์ บบเกอื้ กลู สกู่ ารบรโิ ภค ทมี่ คี วามรับผดิ ชอบร่วมกัน เมอื่ ไดผ้ ลผลติ อนิ ทรยี แ์ ลว้ การเชอ่ื มโยงและสรา้ งชอ่ งทางการตลาดเปน็ เร่ืองส�ำคัญท่ีต้องด�ำเนินการตามมา ผู้บริโภคพบผู้ผลิต เพ่ือได้สินค้าท่ีมีคุณภาพ และราคาเป็นธรรม โดยมีการใช้ช่องทางการเช่ือมโยง อาทิ การส่งตามบ้าน การรบั จดั เลี้ยงสเี ขยี ว (Green catering) การร่วมกนั ซือ้ (Collective Buying) การสั่งซ้ือออนไลน์ ตลาดนัดสีเขียว ตลาดสีเขียวเชิงสถาบัน คือตลาดท่ีเกิดใน โรงเรียนหรือโรงพยาบาล ระบบสมาชิก CSA (Community supported agriculture) เป็นตลาดแบ่งปันท่ีสานสัมพันธ์คนปลูกคนกินด้วยระบบสมาชิก ธุรกจิ สีเขยี ว ร้านกรนี ศนู ยก์ ระจายสนิ คา้ ผลผลติ อนิ ทรีย์ (Organic distribution center) โมเดริ น์ เทรด เปน็ ตน้ ช่องทางการเชื่อมโยงเหลา่ นี้ เปน็ ชอ่ งการตลาด ทางเลือกสำ� หรบั ผู้ผลติ ในการกระจายสนิ ค้าเขา้ ถึงผบู้ ริโภค และผบู้ ริโภคสามารถ พบแหลง่ ผลผลติ อนิ ทรียท์ ่ีสามารถไวว้ างใจได้ ระบบสมาชกิ CSA (Community supported agriculture) เป็นช่องทางที่เช่ือมโยงเกษตรกรผู้ผลิต กับผู้บริโภคโดยตรง โดยมี การจัดการรวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าให้กับสมาชิก เช่น ระบบเตเก้ (Teikei) ในญ่ีปุ่น และระบบ CSA ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยมีหลักการ พ้ืนฐานวา่ ผบู้ ริโภคกับผผู้ ลิตต่างร่วมดูแลซง่ึ กันและกัน ผ้ผู ลิตดูแลอาหารอินทรีย์ ทม่ี ีคณุ ภาพให้แกผ่ บู้ ริโภค ผบู้ รโิ ภคดูแลเกษตรกรด้วยจำ� นวนทแ่ี น่นอนและราคา ทเี่ ปน็ ธรรมโดยการจา่ ยเงนิ ลว่ งหนา้ ใหก้ บั เกษตรกร และหลงั การเกบ็ เกยี่ วผลผลติ จะถูกส่งไปท่ีจุดกระจายสินค้า สมาชิกจะอยู่ในละแวกใกล้เคียง อาทิ โครงการ 40
ผกั ประสานใจ กลมุ่ เกษตรกรดา่ นชา้ ง สพุ รรณบรุ ี ตะกรา้ ปนั ผกั รว่ มกบั เกษตรกร มลู นิธิเอ็มโอเอไทย (ดำ� เนนิ งานโดยเฮลท์มดี ลิ ิเวอรี) เดอะบาสเกต็ The Basket เกษตรกรเพชรบุรี รว่ มกบั มูลนิธอิ สี ฟอร์รมั การส่งตามบา้ น (Green delivery) จะมกี ารจัดส่งผักใหถ้ ึงผู้บรโิ ภค ทงั้ ทบี่ า้ นและทีท่ �ำงาน หลักการสำ� คญั คือ ไม่จำ� เปน็ ต้องสั่งซ้อื ลว่ งหนา้ หรือชำ� ระเงินรายปแี กผ่ ผู้ ลติ แต่สามารถสงั่ ซือ้ สนิ คา้ เมอื่ ตอ้ งการ ซง่ึ มกั จะดำ� เนนิ การโดยผปู้ ระกอบการ มากกวา่ เกษตรกรผผู้ ลติ อาทิ แดร่โี ฮม (ส่งนมตามบ้าน) เฮลท์มดี ิลเิ วอรี Organic Express ของร้านปฐม การสง่ ซื้อออนไลน์ การซอื้ ขายออนไลน์ เปน็ อีกรปู แบบของการขายตรง ไม่มรี า้ นขายปลกี ของตนเอง ลกู คา้ สามารถเลอื กสนิ คา้ จากเวบ็ ไซด์ หรอื สอื่ อนิ เทอรเ์ นต็ อนื่ ๆ มกี าร ซ้ือขายสินค้าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค จากกลุ่มผู้ผลิตอินทรีย์ต่างๆ เป็นอีกการ เชื่อมโยงผลผลิตอินทรีย์จากเกษตรกรผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เฟซบุก๊ ยทู ูป และเว็บไซต์ s แดร่โี ฮม (ส่งนมตามบา้ น) และ Organic Express ของรา้ นปฐม 41
s ภาพจากเฟซบกุ๊ ธรุ กจิ จดั เล้ยี งสเี ขยี ว “เคยี้ วเขยี ว” การจัดเล้ยี งสีเขียว (Green catering) การจัดเล้ียงอาหารออร์แกนิคนอกสถานท่ี ส่วนมากมักจะเป็นอาหาร ส�ำหรับการจัดประชุมท่ีสนใจเรื่องสุขภาพและส่ิงแวดล้อม โดยเร่ิมต้นมาจาก โครงการพัฒนาต้นแบบ ตลาดทางเลือก เครือขา่ ยตลาดสีเขียว (ด�ำเนินงานโดย บรษิ ทั สวนเงนิ มมี า) ธรุ กจิ จดั เลย้ี ง อาทิ เคย้ี ว...เขยี ว ตง้ั -ใจ-ทำ� ปลกู ปรงุ เปลยี่ น ยังรวมถึง ธุรกิจบริการอาหารเครื่องด่ืม โดยต้องน�ำเสนอเมนูอาหารออร์แกนิค ไมต่ ำ�่ กวา่ 5 เมนู และใชว้ ตั ถดุ บิ หลกั มากกวา่ 50% เปน็ ผลผลติ อนิ ทรยี ์ จงึ ถอื เปน็ ธรุ กิจออรแ์ กนคิ การรว่ มกันซ้อื (Collective Buying) ส่วนใหญ่เป็นการเริ่มต้นจากการรวมตัวของผู้บริโภคที่เห็นความส�ำคัญ ของสขุ ภาพ ต้องการอาหารท่ีปลอดภัย และคำ� นึงถึงส่งิ แวดล้อม รวมทัง้ ตอ้ งการ รว่ มมอื กับเกษตรกร การร่วมกันซอื้ จึงอยู่ในรปู ของการรวมกลมุ่ และมีการสงั่ ซื้อ ผลผลติ อนิ ทรยี จ์ ากกลมุ่ เกษตรกรทเี่ ชอื่ ถอื ได้ จากนน้ั กจ็ ดั สรร แบง่ ปนั กนั ในราคา ทเี่ ปน็ ธรรม อาทิ กลมุ่ ผปู้ กครองโรงเรยี นทอสี ซงึ่ รวมกนั ซอ้ื ผลผลติ อนิ ทรยี โ์ ดยตรง จากเกษตรกร และสหกรโรงเรยี นปญั โญทยั บรหิ ารงานโดยผปู้ กครองอาสาสมคั ร เข้ามาจดั การบริหารกันเอง ซ้อื ผลผลติ ทปี่ ลอดภยั มาจดั จำ� หน่ายในโรงเรียน 42
s กจิ กรรมตลาดนดั สเี ขียวจากภาคเี ครือขา่ ยอาหารรุน่ ใหม่ ตลาดนัดสเี ขียว (Green Market) เป็นช่องทางการเชื่อมโยงผลผลิตอินทรีย์ท่ีแพร่หลาย เกิดขึ้นจากการ รเิ ร่มิ ขององคก์ รพัฒนาเอกชน และได้รบั การสนบั สนุนงบประมาณในการด�ำเนิน โครงการสนับสนุนส่งเสริม การรวมตัวของผู้ประกอบการสีเขียว ท่ีสนใจเร่ือง สขุ ภาพและสงิ่ แวดลอ้ ม มกี ารพฒั นาเปน็ ลำ� ดบั ทำ� ใหเ้ กดิ ลกั ษณะของตลาดสเี ขยี ว ไปตามกลุ่มผู้ผลิต และเกษตรกรทางเลือกตามภูมิภาคต่างๆ และได้มีการขยาย การจัดตลาดเข้าไปตามสถาบันการศกึ ษา และโรงพยาบาล อาทิ ตลาดนัดสีเขียว ศนู ยส์ ขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ศนู ยร์ งั สติ ตลาดนดั สเี ขยี วโรงพยาบาล ปทุมธานี ตลาดนัดสีเขียวชุมชนตามภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ สุรินทร์ ยโสธร สงขลา พทั ลงุ ฯลฯ 43
ร้านกรนี (Green Shop) s ร้านกรีนสวนเงนิ มมี า ถนนเฟอ่ื งนคร รา้ นกรีนเป็นร้านเฉพาะกล่มุ ผูบ้ รโิ ภคทใ่ี ส่ใจดา้ นสุขภาพ ต้องการสินคา้ คุณภาพท่ีดีต่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ มีนโยบายในการจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ ออร์แกนคิ โดยตรง อาทิ ร้านเลมอนฟาร์ม ร้านกรีนสวนเงนิ มมี า แต่ละร้านจะมี ความเข้มงวดในการเลือกสินค้าแตกต่างกัน ผู้ประกอบการร้านกรีนส่วนใหญ่จะ เร่ิมต้นจากความสนใจเร่ืองสุขภาพและส่ิงแวดล้อม ดังนั้นจึงมีประสบการณ์ใน การท�ำธุรกิจค้าปลีกในระดับหน่ึง การประสบผลสำ� เรจ็ ทางธุรกิจจึงไม่ไชเ่ รื่องง่าย เพราะยังขาดระบบการสนบั สนุนทีม่ ปี ระสิทธภิ าพอกี หลายอย่าง ศนู ยก์ ระจายสินคา้ ผลผลิตอนิ ทรีย์ (Organic distribution center) จัดต้ังเพื่อเป็นตัวกลางในการรับผลผลิตอินทรีย์จากเครือข่ายเกษตรกร และกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคทั้งบุคคล และสถาบัน ด�ำเนินงานในรูปแบบของ การประกอบการเชงิ สงั คม โดยผปู้ ระกอบการจะเปน็ ตวั เชอ่ื มโยง กลมุ่ ผผู้ ลติ และ ผู้บริโภค ซ่ึงทุกฝ่ายจะต้องท�ำความเข้าใจในเรื่องปริมาณ คุณภาพ การจัดการ การวางแผนผลิตและเกบ็ เกย่ี ว การตรวจสอบมาตรฐานรว่ มกนั ซงึ่ อาจจะเกดิ ใน รูปแบบของวิสาหกิจชุมชน ในพื้นท่ีเพ่ือขยายฐานการผลิตและสามารถส่งออก ผลผลิตไปยังร้านกรีน รา้ นอาหารเพ่อื สุขภาพ โรงเรียน สถาบันหรือองคก์ รตา่ งๆ อาทิ การด�ำเนินโครงการสถานีเกษตรแบ่งปัน จ.ราชบุรี และลักษณะสถานท ่ี คดั แยกและบรรจุผลผลิต อาทิ รงั สิตฟารม์ ไร่ยมิ้ เขยี ว และไร่ปลกู รัก 44
โมเดริ ์นเทรด เปน็ ชอ่ งทางตลาดในสว่ นของซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ หา้ งสรรพสนิ คา้ ทเี่ ปน็ แหลง่ รวมของสินค้าหลากหลาย ท่ีมีสาขาหน่ึงๆ การเติบโตของโมเดิร์นเทรดท�ำให้ โครงสร้างการค้าปลีกเปลี่ยนแปลง ส่วนหน่ึงเป็นผลมาจากการพัฒนาความเป็น เมืองด้วย ในภาวะการแข่งขันท่ีสูงขึ้น ท�ำให้ต้องหากลยุทธ์ ในการสร้างความ แตกตา่ ง เม่ือโมเดิรน์ เทรดมองเหน็ ชอ่ งทางธุรกจิ ของสินค้าออรแ์ กนคิ จึงไดเ้ ปิด พ้ืนที่เพ่ือน�ำเสนอสินค้าคุณภาพ เพื่อสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดและสร้าง เอกลักษณด์ ้านธุรกจิ และความรับผิดชอบตอ่ สังคม อาจจะสรุปได้ว่าช่องทางตลาดท่ีมีจิตส�ำนึก ได้สร้างระบบการรับรอง คุณภาพมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และผู้เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่ สามารถเข้ามามี สว่ นร่วมในการตรวจสอบคณุ ภาพผลผลิต เกิดชอ่ งทางการเชอื่ มโยงผผู้ ลิตเกษตร อนิ ทรีย์ ไปสู่ผบู้ ริโภค ในความสัมพันธแ์ บบเกอื้ กูล มีความรบั ผิดชอบร่วมกัน โดย มุ่งเนน้ ทค่ี ุณภาพสนิ ค้าและการให้ข้อมูลต่างๆ การจัดการโลจสิ ติกส์ ตลอดโซ่อปุ ทานของสนิ คา้ เกษตรอินทรีย์ เกษตรกร ผปู้ ระกอบการ ผ้บู รโิ ภค คุณภาพสนิ ค้า + ขอ้ มลู สารสนเทศ 45
s ผลผลติ เกษตรธรรมชาติ จากราชธานอี โศก จงั หวัดอุบลราชธา4นี 6
เกบ็ เก่ยี ว...เชือ่ มโยง นอกเหนือจากการผลิตและการเก็บเก่ียวซ่ึงเป็นหัวใจส�ำคัญของ เกษตรกรรม กระบวนการหลังการเก็บเก่ียวก็เป็นส่ิงส�ำคัญไม่แพ้กัน การม ี ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การจดั การหลงั การเกบ็ เกย่ี วจะชว่ ยรกั ษาคณุ ภาพ และ เพิม่ มลู ค่าผลผลิต ซงึ่ รวมทงั้ กระบวนการล้าง ท�ำความสะอาด การคดั เลือก การ ตัดแต่ง การตรวจผลผลติ การบรรจุหบี หอ่ และการขนส่งถงึ มือผู้บรโิ ภค รวมไป ถึงการตงั้ ราคา การศึกษาการตลาด วิเคราะห์ผู้บริโภคเป้าหมาย จะสามารถช่วย พฒั นาการผลิตและเช่อื มโยงเกษตรอินทรีย์สู่ผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ 47
ระบบการจัดการ เกษตรกร ผรู้ วบรวม/ ศูนย์กระจายสนิ คา้ / โรงคดั บรรจุ สาขา/จดุ จำ� หน่าย เกษตรกร/กลุม่ เกษตรกร ผู้บรโิ ภค l การไดร้ บั รองมาตรฐาน ผ้รู วบรวม / โรงคดั บรรจุ l การจดั การผลผลิตตามมาตรฐาน l มาตรฐานโรงคัดบรรจุ เกษตรอินทรยี ์ (พ้นื ทก่ี ารผลิต/ l แหลง่ ทม่ี าของวตั ถดุ บิ การวางแผนการผลติ /เมลด็ พนั ธ์ ุ l การจัดการสินคา้ ผกั อินทรยี ์ และทอ่ นพันธุ/์ การปรบั ปรุง (การวางแผนก�ำหนดปริมาณสินคา้ , บ�ำรุงดิน/การก�ำจดั ศตั รพู ชื / การคัดเลอื กสนิ คา้ จากเกษตรกร, การเก็บเกย่ี ว/การบันทึกข้อมลู การควบคมุ คุณภาพผกั อินทรีย)์ การผลิต) l กระบวนการผลติ (การรบั วตั ถุดิบ, l การจัดการหลงั การเก็บเกี่ยว การท�ำความสะอาด, การคดั บรรจ)ุ (การบรรจหุ ีบหอ่ /การเกบ็ รกั ษา/ l การแสดงฉลาก การขนสง่ ) l การขนส่งสินคา้ สูศ่ นู ยก์ ระจายสนิ ค้า ฯลฯ สาขาจดุ จ�ำหนา่ ย ฯลฯ 48
1 2 การจัดการเก็บรักษาและขนสง่ การจัดการหลังการเก็บเก่ยี ว ต้องคงสภาพคุณภาพท่ดี ี ในระหวา่ งเวลา l สารทีใ่ ชใ้ นการดำ� เนนิ การหลังการเกบ็ การเตรียมการและขนส่ง เก่ียวตอ้ งเปน็ สารจากธรรมชาติ ยกเว้น l มีการคดั แยกผลผลิตเกษตรอินทรยี ์ สารเคมีสงั เคราะหท์ ีอ่ นุญาตใหใ้ ชต้ าม ออกจากผลผลติ ทไี่ มใ่ ชเ่ กษตรอนิ ทรยี ์ มาตรฐาน ตลอดกระบวนการการจัดการ และขนสง่ l มีแผนงานการบริหารจัดการ บันทกึ โดยตดิ เครื่องหมายชดั เจน ข้อมูลโรงเก็บ ระบุการปฏิบตั ิการ l ผลผลิตเกษตรอนิ ทรีย์ จะตอ้ งได้รับการ ควบคมุ ใหถ้ กู สุขลกั ษณะ อาทิ ปอ้ งกนั การสมั ผัส และปนเปือ้ นจากวสั ดุ ลกั ษณะของโรงเกบ็ สะอาด มอี ากาศ และสารสังเคราะหต์ ้องหา้ ม ถา่ ยเทสะดวก มกี ารปอ้ งกนั นก หนู l พืน้ ที่ของการเก็บรกั ษา และขนส่งจะต้อง แมลง สารปนเป้อื น ไดร้ ับการท�ำความสะอาดตามระบบและ l มีการจดั ระเบยี บภายในท่ีเหมาะสมต่อ ใชว้ สั ดตุ ามมาตรฐาน การปฏิบัติงาน l มีการจัดระเบียบและบ่งชผี้ ลผลติ แต่ละ กระบวนการเกบ็ เกยี่ ว ชนิด l มอี ปุ กรณท์ จี่ �ำเป็น เหมาะสมในการ เก็บรกั ษาผลผลิต l เลอื กใชเ้ คร่อื งมอื / วัสดุ อุปกรณ์ การ บรรจุหบี ห่อทีไ่ มท่ ำ� ลายสงิ่ แวดลอ้ ม 4 3 กระบวนการรบั รอง เพ่อื แสดงว่าสนิ ค้านนั้ ได้ผา่ นการตรวจ การแปรรูปผลผลิตอินทรยี ์ รับรองตามมาตรฐานอนิ ทรียแ์ ล้ว เปน็ การจดั การตามหลกั การและวธิ กี ารผลติ ให้ l ผผู้ ลติ /ผู้ประกอบการ ยืน่ คำ� ร้องขอหนังสือ เปน็ ไปตามขอ้ ก�ำหนด รบั รอง โดยมีรายละเอียดใบใบคำ� รอ้ ง ช่ือ l วตั ถดุ บิ : ตอ้ งมาจากขบวนการผลติ และทอี่ ยผู่ ้ผู ลติ /ผูป้ ระกอบการ สถานท่ีตงั้ แบบเกษตรอนิ ทรีย์ ท่ีผ่านการรบั รองแลว้ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิต l มีการวางแผนการจัดการวัตถุดบิ ศกึ ษา l หน่วยงานตรวจสอบ สง่ เจา้ หนา้ ท่ีไปตรวจสอบ ข้อมลู ขอ้ ก�ำหนดมาตรฐาน สารทใี่ ห้ใช/้ ผลผลติ บันทึกขอ้ มูลการผลติ สุ่มตวั อย่าง สารทห่ี ้ามใช้ ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน วเิ คราะหต์ ามมาตรฐาน กำ� หนด l หน่วยงานรบั ผิดชอบจะออกใบรับรองผลการ l ในขบวนการผลิต การใช้สารที่ยอมให้ใช้ / วิเคราะห์ วา่ ผลิตภณั ฑน์ ้นั ไดม้ าตรฐานเกษตร ห้ามใช้ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานกำ� หนด อนิ ทรยี ์ l การบรรจหุ ีบห่อ ควรใช้วสั ดทุ ีป่ ลอดภัย * การรบั รองมาตรฐานอย่างมีส่วนร่วม (PGS) ดู และเป็นไปตามมาตรฐานและไม่ทำ� ลาย รายละเอยี ดเพิ่มเตมิ ไดใ้ นหน้าที่ 33 สิ่งแวดลอ้ ม ท่ีมา : สรุปความจาก เอกสารค�ำแนะน�ำท่ี 5 /2559 ระบบมาตรฐานเกษตรอินทรยี ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 49
s ผลผลติ เกษตรธรรมชาติ จากราชธานอี โศก จงั หวัดอบุ ลราชธานี อาจกลา่ วไดว้ า่ “ตลาด” เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นาการของ ระบบเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย โดยการตลาดเกษตรอินทรีย์เร่ิมต้นเป็น การส่งออกทีผ่ ูป้ ระกอบธุรกจิ เห็นโอกาสในการเจรญิ เติบโตในตา่ งประเทศ ทำ� ให้ มีการสนับสนุนให้เกษตรกรภายในประเทศปรับเปล่ียนการผลิตเข้าสู่ระบบ เกษตรอนิ ทรยี ์ และมกี ารตรวจรบั รองมาตรฐานเกษตรอินทรียต์ ่างประเทศ เพ่ือ สามารถสง่ ออกสนิ คา้ ได้ โดยจะมผี ปู้ ระกอบการ 2 กลมุ่ คอื กลมุ่ ผปู้ ระกอบการ รายใหญ่ และผู้ประกอบการธรุ กจิ เพ่อื สังคม ท่เี ตบิ โตจากองคก์ รพัฒนาเอกชน นอกจากน้ียังมีการขยายตลาดภายในประเทศ มีการบุกเบิกช่องทาง การตลาด เชน่ ตลาดสเี ขยี วในชมุ ชน รา้ นกรนี ทำ� การตลาดแบบเชอื่ มตรง รวมทงั้ รณรงค์ให้ความรูก้ บั ผู้บริโภค รว่ มกับกระแสการตื่นตัวเร่อื งสขุ ภาพ ท�ำใหร้ ้านค้า ขนาดเล็กเกิดข้ึนมากมาย ส่วนผู้ประกอบการค้าปลีกท่ีเป็นโมเดิร์นเทรด เห็น แนวโนม้ ทศิ ทางการตลาดกไ็ ดข้ ยายชอ่ งทางเขา้ สรู่ า้ นคา้ ปลกี ทำ� ใหซ้ เู ปอรม์ ารเ์ กต็ มีนโยบายในการจ�ำหน่ายสินค้าอินทรีย์ เพราะต้องการสร้างมูลค่าเพ่ิมในการ แข่งขนั และสรา้ งความแตกตา่ งให้กับสินคา้ 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144