Page 101 คูมือการใชสมนุ ไพรไทย-จีน 91 วิธีที่ 2 คนทีสอผัด เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับ ปานกลาง ผัดจนกระท่งั ผิวดานนอกสเี ขม ข้นึ นําออกจากเตา รอนเอากานผลและเยอื่ บาง ๆ สีขาวออก ตงั้ ทงิ้ ไวใหเยน็ ทุบใหแตกกอ นใช1 ,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทม่ี ีคณุ ภาพดี ผลตองมีขนาดใหญ มีเนอื้ มาก กลน่ิ หอม และปราศจากสงิ่ ปนปลอม4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: คนทสี อ รสเผด็ ขม เย็นเล็กนอย มีฤทธิ์ผอ นคลาย กระจายความรอ น ใชแ กหวัดจากการ กระทบลมรอน ปวดศีรษะ อาการผิดปกติตาง ๆ จากศีรษะ และมฤี ทธ์ริ ะบายความรอ นของศีรษะและตา ใชแกอ าการตาแดง บวม ปวดตา ตาลาย นา้ํ ตามาก1 คนทีสอผดั จะทาํ ใหร สเผ็ดของยาลดลง มฤี ทธิ์ระบายความรอ นในระดับช่ี ระงบั ปวด ใชร กั ษา อาการตาและหสู ูญเสียความสามารถ โรคไมเกรน3 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: 5 คนทสี อ รสเผ็ดรอน สรรพคุณ แกพ ยาธิ แกฟกบวม แกเสมหะ แกล ม แกรดิ สดี วงคอ ขนาดท่ีใชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแผนจนี ใช 5-9 กรมั ตม เอานํา้ ด่ืม1 ขอมลู วชิ าการทเ่ี กย่ี วขอ ง: 1. มีรายงานวาสารสกัดน้ํามีฤทธิ์ฆาเชื้อจุลินทรียหลายชนิด เชน Staphylococcus aureus, Typhoid bacillus 6 ในหลอดทดลอง 2. สารสกดั น้าํ และสาร γ-aminobutyric acid ซึง่ แยกไดจากผลคนทสี อ แสดงฤทธ์ิลดความดัน โลหติ ในกระตา ย6 3. เมือ่ ใหส ารสกดั 70% เมทานอลทางปากหนถู บี จักรในขนาด 300, 500 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรัม พบวา แสดงฤทธริ์ ะงบั ปวด และสารสกัดเมทานอลขนาด 300, 500, 1000 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรมั แสดงฤทธ์ิ ตา นการอักเสบในหนูถบี จักรเมื่อใหโดยวธิ รี ับประทาน6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินนั ทน ฉบับแกไขเพมิ่ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
Page 102 92 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. วฒุ ิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเภสัชรตั นโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากัด, 2547. 6. Li CZ, Ma JK. Fructus Viticis: man jing zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 103 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จีน 93 เฉากวย: Caoguo (草果) เฉากวย หรือ เฉาก่ัว คือ ผลสุกท่ีทําใหแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Amomum tsaoko Crevost et Lemaire วงศ Zingiberaceae1 เฉากวย (Fructus Tsaoko) 1 เซนติเมตร ชื่อไทย: เฉากวย ช่ือจีน: เฉาก่ัว (จีนกลาง), เฉากวย (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Caoguo1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Tsaoko1 การเก็บเกีย่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกีย่ วผลสกุ ในฤดูใบไมรวง คดั แยกสง่ิ ปะปนท้ิง ตากแดดหรอื ทําใหแ หง ทอ่ี ณุ หภูมติ ่ํา เก็บ รักษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดังน้ี วิธที ่ี 1 เฉากว ย เตรยี มโดยนําวัตถุดิบสมุนไพรมาผัดในภาชนะท่เี หมาะสมโดยใชไ ฟแรง ผดั จนกระทง่ั ผวิ นอกมีสีเหลอื งไหมแ ละพองตวั นาํ ออกจากเตา แลว ต้ังทิง้ ไวใ หเ ย็น กะเทาะเอาเปลือกออก ใช เฉพาะสวนเน้อื ใน ทบุ ใหแตกกอนใช2 ,3 วธิ ีที่ 2 เฉากวยผัดนาํ้ ขิง เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธีท่ี 1 ใสในภาชนะทเี่ หมาะสม เติมน้ํา คัน้ ขงิ สด ตัง้ ท้งิ ไวใ หน ้าํ ขงิ สดแทรกซึมเขาเน้อื ในตัวยา นําไปผัดโดยใชร ะดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระทงั่ มีสี
Page 104 94 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก เหลืองอมน้าํ ตาล นาํ ออกจากเตา แลว ตง้ั ทิ้งไวใ หเ ยน็ ทุบใหแตกกอ นใช (ใชขงิ สด 10 กิโลกรัม ตอ ตัวยา 100 กิโลกรัม)2,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตวั ยาทม่ี ีคณุ ภาพดี ผลตอ งมีขนาดใหญ เนอ้ื มาก สีนํา้ ตาลแดง กล่นิ หอมฉนุ สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: เฉากวย รสเผ็ด อุน มีฤทธิ์สลายความช้ืน ขบั ความเย็น แกความเย็นกระทบกระเพาะอาหารและ ลาํ ไส ทําใหป วด จกุ เสยี ด แนน ทอ ง อาเจยี น ทอ งเสีย มีฤทธ์ขิ บั เสมหะ (ขบั ความเยน็ สลายความชืน้ ) และแกไ ขมาลาเรีย1 เฉากวยผัดนาํ้ ขงิ จะเพิม่ ฤทธิ์ใหค วามอบอุนแกก ระเพาะอาหารและระงบั อาเจยี น เหมาะสาํ หรับ ผูป ว ยทีม่ ีอาการปวดทอง จุกเสยี ดแนน ทอ ง อาเจียน3 ขนาดท่ีใชและวธิ ีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 3-6 กรัม ตม เอานาํ้ ด่ืม1 ขอมูลวิชาการท่ีเกย่ี วของ: 1. มีรายงานวาผลเฉากว ยมฤี ทธิช์ วยใหล ําไสเ ลก็ ทอนตน แข็งแรง และชว ยลดกรดในกระเพาะ อาหาร รวมทงั้ มฤี ทธิบ์ รรเทาอาการไอดว ย สารสกดั นํ้าชวยบรรเทาอาการหดตัวอยา งแรงของกลามเนอ้ื ลาํ ไสเล็กทอนปลายท่ีเกิดจากสาร acetylcholine5 2. น้ํามันหอมระเหยจากผลเฉากวยมฤี ทธติ์ า นเชื้อรา โดยมคี า MIC และ MFC ใกลเคียงกนั นอกจากนี้นาํ้ มันดังกลา วยงั มฤี ทธต์ิ า นเช้อื แบคทเี รียดวย5 3. การทดลองทางคลนิ ิก พบวา ผลเฉากว ยเมอ่ื ใชเ ดย่ี วหรือใชผสมกับตัวยาอื่นในตํารับมีสรรพคณุ ตานเชอื้ มาลาเรีย บรรเทาอาการถายอจุ จาระเปน เลือด คลน่ื ไสอ าเจยี นในสตรมี คี รรภ แกทองเสีย ภาวะ ไตลม เหลวชนิดเรือ้ รงั และตับอกั เสบ5 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 2. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Deng JG, Wei SJ. Genuine and well-reputed medicinal materials in Guangxi. 1st ed. Beijing: Zhongguo Zhongyi Yao Publishing House, 2007.
Page 105 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 95 ชะเอมเทศ: Gancao (甘草) ชะเอมเทศ หรอื กนั เฉา คอื รากแหง ของพชื ที่มชี ่ือวิทยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae1 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร ชะเอมเทศ (Radix Glycyrrhizae) ชะเอมเทศผัดนํ้าผึ้ง (Radix Glycyrrhizae Preparata) ชื่อไทย: ชะเอมจีน, ชะเอมเทศ, ชะเอมขาไก (ภาคกลาง)2,3 ชื่อจีน: กนั เฉา (จีนกลาง), กําเชา (จนี แตจ๋ิว)1 ชอ่ื องั กฤษ: Liquorice Root1 ชอื่ เคร่อื งยา: Radix Glycyrrhizae1 การเก็บเก่ียวและการปฏบิ ัตหิ ลังการเก็บเก่ียว: เก็บเกย่ี วรากและเหงาในฤดูใบไมผ ลแิ ละฤดใู บไมร ว ง แยกเอารากแขนงออก ตากแดดใหแ หง เก็บรักษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดงั น้ี วิธีที่ 1 ชะเอมเทศ เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมุนไพรที่ได มาลางดว ยนาํ้ สะอาด ใสภาชนะปด ฝาไว เพือ่ ใหออ นนมุ ห่ันเปน แวนหนา ๆ และนําไปทาํ ใหแหง1,4,5 วธิ ที ี่ 2 ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผึง้ เตรยี มโดยนาํ นาํ้ ผงึ้ บรสิ ทุ ธิม์ าเจือจางดวยน้ําตมในปริมาณทเี่ หมาะสม ใสตวั ยาทไ่ี ดจ ากวธิ ที ่ี 1 แลว คลุกใหเ ขา กัน หมักไวส กั ครเู พือ่ ใหนํา้ ผึ้งซึมเขาในตวั ยา จากนน้ั นําไปผดั ใน กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระท่ังมสี เี หลืองเขม และไมเหนยี วตดิ มือ นาํ ออกจากเตา แลว ตงั้ ทิ้งไวใ หเยน็ (ใชน าํ้ ผงึ้ บรสิ ทุ ธิ์ 25 กโิ ลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรมั )1,4,5
Page 106 96 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคุณภาพดี ผวิ นอกตองมสี นี า้ํ ตาลแดง มีคณุ สมบตั ิแข็งและเหนยี ว ดานหนาตัดสขี าว อมเหลือง มแี ปงมาก และมรี สหวาน6 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: ชะเอมเทศ รสอมหวาน สุขมุ คอ นขา งเย็นเล็กนอ ย มสี รรพคุณระบายความรอ น ขบั พิษ ปองกัน และรกั ษาแผลในกระเพาะอาหาร ชว ยยอ ยอาหาร แกไอ ขับเสมหะ ทําใหช ุมคอ แกอาการใจส่นั แก ลมชกั โดยทั่วไปมักใชเ ขาในยาตาํ รบั รกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแ ผล คอบวมอกั เสบ หรอื พษิ 5,7 จากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอ นและขบั พิษได ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึ้ง รสอมหวาน อนุ มีสรรพคณุ บํารุงมา มและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทําใหการ เตนของชีพจรมีแรงและกลบั คืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารกั ษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออนเพลยี ไมมแี รง ชขี่ องหัวใจพรอ ง ปวดทอ ง เสน เอ็นและชพี จรตงึ แขง็ ชีพจรเตนไมส มํ่าเสมอ และชพี จรเตนหยุดอยา งมีจงั หวะ5 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ชะเอมเทศ รสหวาน ชุมคอ มสี รรพคณุ แกไอ ขบั เสมหะ ขับเลอื ดเนา บาํ รงุ หัวใจใหช ุม ชืน่ แก กําเดาใหเปน ปกติ ใชสําหรับปรุงแตงรสยาใหรับประทานงาย เปนยาระบายออ น ๆ3,5 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแ ผนจีน ใชขนาด 1.5-9 กรัม ตม เอานาํ้ ดมื่ 1 ขอ หามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคยี ง: หามใชชะเอมเทศในผปู ว ยโรคความดันโลหิตสูง ผปู วยโรคตับแขง็ ผปู ว ยท่ีโลหติ มโี ปแทสเซียม ตาํ่ มากหรอื นอ ยเกินไป หรือผปู วยโรคไตบกพรอ งเร้อื รงั และสตรีมคี รรภ8 ขอมลู วิชาการทเ่ี ก่ยี วของ: 1. การศึกษาเปรยี บเทียบฤทธิ์เสรมิ ภูมคิ ุมกันของชะเอมเทศท่ีผดั นาํ้ ผงึ้ และไมไดผ ัด พบวาฤทธ์ิ เสริมภูมิคมุ กนั ของชะเอมเทศผดั นาํ้ ผ้งึ จะแรงกวาชะเอมเทศไมไ ดผ ดั มาก ดังน้นั ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึง้ จงึ นับเปน ตวั ยาทีม่ ีสรรพคณุ บํารงุ ชที่ ดี่ ที ส่ี ดุ ในทางคลินกิ 5 2. ชะเอมเทศมีฤทธิค์ ลา ยฮอรโ มนคอรตโิ ซน ระงบั ไอ ขบั เสมหะในหนูถีบจักร ลดการเกดิ แผล ในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการบวมอักเสบในหนขู าว แกแ พและเสรมิ ภมู ิตานทานในหนูตะเภา7,9
Page 107 คูมอื การใชสมุนไพรไทย-จีน 97 3. สารสกัดชะเอมเทศดว ยนาํ้ มีฤทธ์ิแกพ ิษของสตรคิ นนี ได และสารสกัดเขมขน สามารถแกพิษ เฉียบพลนั ของแอมโมเนียมคลอไรดไ ด รวมทงั้ สามารถปอ งกนั พษิ เฉียบพลันที่ทาํ ใหถงึ ตายของซลั ไพรินได นอกจากนช้ี ะเอมเทศยงั สามารถลดความเปนพิษของฮสี ตามีน คลอรอลไฮเดรท โคเคน แอซโิ นเบนซอลและ ปรอทไบคลอไรดไ ดอยางเดนชดั และสามารถแกพษิ ปานกลางหรือเลก็ นอ ยตอ คาเฟอีน นโิ คตนิ เปนตน10,11 4. ชะเอมเทศมีสรรพคณุ ระบายความรอ น ขับพษิ แกไอ ขบั เสมหะ โดย ทั่วไปมักใชเ ขาในยา ตํารับรักษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอักเสบ หรือพิษจากยาและอาหาร เปนตน โดย สามารถชวยระบายความรอ นและขบั พษิ ได7,9 5. ชะเอมเทศมีสรรพคุณรกั ษาโรคแผลในกระเพาะอาหารหรอื ลําไสเล็กในระยะเรม่ิ แรก จากการ ศึกษาในผูปวยจาํ นวน 50-200 ราย พบวาไดผลรอ ยละ 90 โดยเฉพาะผูป ว ยรายทมี่ ีอาการปวดเมอ่ื อวยั วะ มีการเคลอ่ื นไหวจะไดผลดี ปกตหิ ลงั รับประทานยาแลว 1-2 สปั ดาห อาการปวดจะหายหรอื ลดลงอยาง เดนชัด อจุ จาระเปนเลือดจะลดลง ชะเอมเทศสามารถรกั ษาแผลที่กระเพาะอาหารไดผลดีกวา แผลท่ีลาํ ไส เลก็ ในระยะเริ่มเปน หลังการรกั ษาแลวตรวจดว ยเอ็กซเรย พบวาแผลหายเรว็ กวา แตร ายทม่ี ีอาการโรคอ่นื แทรกซอ นมักไมไดผล อยางไรก็ตามผลการรกั ษายังไมเปนที่นาพอใจ เพราะคนไขท ่หี ายแลวจาํ นวนกวา คร่ึงเมื่อหยุดยาแลว จะปรากฎอาการข้ึนอกี 9,11 6. ผงชะเอมเทศมีสรรพคุณแกอ าการปส สาวะออกมากผิดปกติ (เบาจืด) จากการรักษาผปู วย โรคเบาจืดทเี่ ปน มานาน 4-9 ป จํานวน 2 ราย โดยใชผงชะเอมเทศ 5 กรมั รบั ประทาน 4 ครั้ง พบวา ไดผ ลในการรกั ษาอยา งมนี ัยสาํ คัญ โดยผูปว ยเมอื่ แรกเขาโรงพยาบาล ระดบั นํ้าเขาออกวนั ละ 8,000 มิลลิลติ ร หลงั จากรบั ประทานยาแลวปสสาวะลดลงเหลือวนั ละ 3,000-4,000 มิลลิลิตร มผี ปู ว ย 1 ราย ปสสาวะลดลงเหลอื 2,000 มลิ ลลิ ิตร9,11 7. ผูปวยวณั โรคปอดที่ไดรับยารักษาวัณโรคแลว ไดผ ลไมนา พอใจหรือมีอาการเลวลง เมอ่ื ให ยาสารสกดั ชะเอมเทศรวมดว ย จะชว ยใหผลการรักษาดีข้นึ สําหรบั ผูปวยที่มนี า้ํ เหลอื งและเย่อื หมุ ปอด อกั เสบ อาการอกั เสบจะหายเร็วขนึ้ ตออาการจุดแผลทปี่ อดและหนองในชองอก ไดผ ลคอ นขา งดแี ละ ชวยยนระยะเวลาในการรักษาดวย ผลการรกั ษาผปู วยวัณโรคปอดจาํ นวนหลายสบิ ราย พบวา เม่ือใหยา ผปู ว ยสว นใหญจ ะมีอาการดีขึ้นหรอื หาย และอตั ราการตกตะกอนของเมด็ เลือดแดงจะลดลง เช้ือวัณโรค จะหายไป ผลจากการตรวจดูดว ยเอ็กซเรย แผลทีป่ อดดีขึ้น อาการปอดช้นื จะหายไป น้ําทข่ี ังในชอ งอก ลดลงจนหายไป รูแผลท่ีปอดทมี่ ีลักษณะเปน เย่ือจะหดเล็กลง เนอื่ งจากชะเอมเทศมสี ารที่มีฤทธ์ิคลา ยกับ สารประเภทอ็อกซีคอรต ิโซน ซงึ่ ลดอาการอกั เสบและทําใหอาการตา ง ๆ ดังกลา วหายเรว็ ข้นึ และมีอาการ
Page 108 98 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ขา งเคียงคลายกบั สารประเภทอ็อกซีคอรตโิ ซน เชน ทาํ ใหความดันโลหิตสงู ขึน้ ตวั บวมนํ้า บางรายมอี าการ หัวใจเตน ชาลงหรอื เรว็ กวา ปกติ ดังนั้น ผปู วยโรคความดนั โลหิตสงู หรอื การทาํ งานของหวั ใจไมป กติ ไม ควรใชช ะเอมเทศ10,11 8. ผลการรักษาผปู วยโรคหลอดลมอักเสบเร้อื รงั เปนหอบหืด โดยรับประทานผงชะเอมเทศ 5 กรัม หรือสารสกดั ชะเอมเทศ 10 มลิ ลิลิตร วันละ 3 ครัง้ พบวาไดผลดขี ึ้นอยางเดนชดั อาการหอบหืดจะ ดีขึ้นหรือหายไปเปนปกติในเวลา 1-3 วนั เสียงหอบหืดในหลอดลมจะหายไปในเวลา 11 วนั และการ ทํางานของปอดดขี ึ้น มผี ูปวย 1 รายที่มอี าการกลับมาเปนอีก และไดรักษาดว ยชะเอมเทศอีกกไ็ ดผ ล10,11 9. ผลการรักษาผปู วยจาํ นวน 13 รายท่มี อี าการตัวเหลือง โดยใหรบั ประทานสารสกดั ชะเอมเทศ ครงั้ ละ 15-20 มิลลลิ ิตร วนั ละ 3 ครั้ง พบวา อาการตวั เหลืองจะหายเปนปกตใิ นเวลาประมาณ 13 วนั ผูปวยที่มปี รมิ าณน้าํ ดีออกมาในปส สาวะในระดับ 3 จะหายเปนปกตใิ นเวลาประมาณ 10 วัน อาการตบั โตจะลดลงอยางเดน ชัดในเวลาประมาณ 10 วนั และอาการเจบ็ ท่ีตบั จะหายเปนปกติในเวลาประมาณ 8 วัน10,11 10. ชะเอมเทศมีสรรพคุณแกอาการของโรคพยาธิใบไมใ นเลอื ดไดผลดี เนอื่ งจากชะเอมเทศมี ฤทธ์คิ ลา ยสารประเภทออ็ กซคี อรติโซน จงึ สามารถใชแ ทนคอรต ิโซนได ทาํ ใหตอมหมวกไตขับสารออกมา ปกตเิ มอ่ื ใหผ ปู วยรับประทานยาประมาณ 1-2 วัน อาการไขเรมิ่ ลดลง และจะลดลงเปน ปกติในเวลา 5- 10 วัน ขณะเดยี วกนั สภาพท่ัวไปจะดขี ้ึนหรอื หายเปน ปกติ10,11 11. ผลการรกั ษาผปู วยลําไสเ ลก็ บบี ตัวผดิ ปกติจาํ นวน 254 ราย โดยใชส ารสกัดชะเอมเทศ รบั ประทานครั้งละ 10-15 มิลลิลิตร วนั ละ 3 ครัง้ พบวาไดผลอยางเดน ชัดจํานวน 241 ราย (รอ ยละ 94.8) โดยใชร ะยะเวลาในการรกั ษา 3-6 วัน10,11 12. ผลการรักษาผปู ว ยเสน เลอื ดขอดจาํ นวน 8 ราย โดยใหรบั ประทานสารสกัดชะเอมเทศวนั ละ 12-20 มลิ ลลิ ิตร หรอื รับประทานชะเอมเทศ 50 กรมั ตม นาํ้ แบงรบั ประทานกอ นอาหาร 3 ครัง้ พบวา ไดผ ลดี อาการปวดบวมเปนเสนหายไป เนือ่ งจากสารสําคัญในชะเอมเทศสามารถบรรเทาอาการอักเสบ ปวด และเพมิ่ ภูมติ า นทานใหแ กรา งกาย ระงบั การเกิดกลมุ กอนเน้ือ ผปู วยบางรายในระหวางรักษามีอาการ บวมนํา้ เลก็ นอย ความดันโลหิตสูงข้ึน เมือ่ ลดขนาดยาลงแลว อาการเหลา น้จี ะหายไป นอกจากนมี้ รี ายงาน วาหากรับประทานสารสกดั ชะเอมเทศวันละ 15 มิลลิลิตร โดยแบงรบั ประทานเปน 3 ครั้ง พบวาสามารถ รักษาอาการหลอดเลอื ดดําอุดตันและอกั เสบได หลงั รบั ประทานยาแลว 3 สปั ดาห พบวาอาการสวนใหญ จะหายไป ผวิ หนังสีแดงสดใสขนึ้ อนุ ข้นึ ขอ เทา และขอ ตา ง ๆ เคล่ือนไหวไดเปน ปกต1ิ 0,11
Page 109 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จนี 99 13. มีรายงานวา เมื่อใชสารละลายดางทบั ทิมในนํ้าในอัตราสว น 1:4,000 ลางชอ งคลอดของ ผปู ว ยกอนแลว ใชสาํ ลีเชด็ ใหแหง จากน้นั ใชส ารสกัดชะเอมเทศทาปากมดลกู พบวาไดผ ลดใี นผูปว ยที่ ปากมดลกู อักเสบระดับปานกลาง ปกตใิ ชเ วลาในการรักษา 2-3 รอบ (แตล ะรอบทา 5 คร้งั ) ผูปวยจะ หายเปน ปกติ ถา อกั เสบจากเชอื้ Trichomonas ก็ตอ งฆาเชื้อใหห มดเช้อื กอ น จงึ มารกั ษาปากมดลกู ท่อี กั เสบ เนา เปอยตอไป10,11 14. ผลการรักษาผปู ว ยผวิ หนังอักเสบจากการสัมผสั จํานวน 12 ราย โดยใชส ารสกัดชะเอมเทศ ดวยนา้ํ ความเขมขน 2% ทาบริเวณที่เปนใหช้ืน ทกุ 2 ชัว่ โมงตอ ครงั้ เวลาทายาแตละคร้งั ใหท านาน 15-20 นาที เปนเวลา 1-4 วัน อาการบวมแดงหายไป นํ้าเหลอื งหยดุ ไหล แผลทีเ่ นา เปอ ยจะหดเล็กลง และใชครมี ซิงคออกไซดหรือคาลาไมนทาตออกี หลายวัน กจ็ ะหายเปนปกติ หรอื ใชชะเอมเทศจํานวน 30 กรัม ตมเอา น้าํ ชะลา งแผลวนั ละคร้งั สามารถรักษาอาการผิวหนงั อักเสบเปนผ่ืนคันจากการแพไดผลดี นอกจากนี้มี รายงานผลการรกั ษาผูป ว ยผวิ หนังบรเิ วณแขนขาแตกเปน ขุยมากจาํ นวน 17 ราย โดยใชส ารสกดั ชะเอมเทศ ซ่ึงเตรยี มโดยใชช ะเอมเทศ 30 กรมั หนั่ เปนแผนบาง ๆ แชใน 75% เอทานอล จํานวน 100 มลิ ลลิ ิตร ทง้ิ ไว 24 ช่วั โมง กรอง สารสกดั ที่ไดน าํ มาผสมกับกลีเซอรีนและนา้ํ จนครบ 100 มลิ ลิลิตร ใชท าบรเิ วณ ที่เปนไดผลเปน ทนี่ า พอใจ10,11 15. มรี ายงานวา ผลการรกั ษาผูป วยทีม่ อี าการเย่อื ตาอกั เสบเปนผ่ืนแดงจํานวน 60 ราย โดยใช สารละลายสารสกัดชะเอมเทศดวยน้ําความเขมขน 10-30% ใชห ยอดตาทุก 1-2 ชั่วโมงตอ ครง้ั ตามอาการ ของโรค หยอดตาวันละ 3-4 ครง้ั พบวาผูปวยจํานวน 56 ราย ท่ีหายเปน ปกติหลงั การรักษา 2-7 วัน และ มีผปู วยจํานวน 2 รายท่ีหยุดยาเร็วเกนิ ไป ทาํ ใหอาการกลบั มาเปนใหมอ ีก นอกจากนย้ี งั มรี ายงานวา ผูปวยท่มี อี าการเย่ือตาเปน ผื่นแดงอักเสบใชยาน้ีเปนเวลา 2-14 วัน อาการปวด แดงจัด และผืน่ แดง ๆ คอย ๆ ลดลงและหายเปนปกติ10,11 16. ชะเอมเทศมพี ิษนอย แตการรับประทานตอเนือ่ งเปน เวลานาน จะทาํ ใหความดันโลหิตสูงขึ้น หรือมีอาการบวม7 การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทาผงยาเมื่อ ฉีดเขาใตผวิ หนังทที่ ําใหห นถู ีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 3.6 กรัม/กิโลกรมั 9 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมิตนิ ันทน ฉบบั แกไ ขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สํานักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จํากัด, 2544.
Page 110 100 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 3. เย็นจิตร เตชะดาํ รงสิน. การพฒั นาสมุนไพรแบบบรู ณาการ. กรุงเทพมหานคร : สํานกั งานกจิ การโรงพมิ พ องคการทหารผา นศกึ ใน พระบรมราชูปถัมภ, 2550. 4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 5. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 6. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 7. ชยันต วเิ ชียรสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วเิ ชียร จีรวงศ. คําอธิบายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พิมพคร้งั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : สํานักพิมพอมรนิ ทร, 2548. 8. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 9. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 10. Zhou QL, Wang BX. Radix Glycyrrhizae: gan cao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. เย็นจิตร เตชะดํารงสิน. ชะเอมเทศ. วารสารการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 2547; 2 (3): 75-89.
Page 111 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 101 ดอกคําฝอย : Honghua (红花) ดอกคําฝอย หรือ หงฮวา คือ ดอกที่ทําใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Carthamus tinctorius L. วงศ Compositae1 ดอกคาํ ฝอย (Flos Carthami) 0.5 เซนติเมตร ช่ือไทย: ดอกคาํ ฝอย, ดอกคํา (ภาคเหนือ); ดอกคํา (ทั่วไป); ดอกคํายอง (ลําปาง)2 ชื่อจีน: หงฮวา (จีนกลาง), อั่งฮวย (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Safflower1 ช่ือเครื่องยา: Flos Carthami1 การเก็บเกย่ี วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวดอกในชวงเชาตรูที่มีแดดจัดในฤดูรอนเม่ือวงกลีบดอกเร่ิมเปลี่ยนสีจากสีเหลือง 1 เปนสีแดง ตากแดดหรือตากในท่ีรม เกบ็ รกั ษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี การเตรียมตัวยาพรอมใช: นําวัตถุดิบสมุนไพรที่ได มาคัดแยกเอาสิ่งปนปลอมออก แลวรอนเอาเศษเล็ก ๆ ออก3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ดอกตองละเอียด สีเหลืองแดงสด ไมมีกิ่งกาน คุณสมบัติเหนียวนุม3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ดอกคําฝอย รสเผด็ อุน มฤี ทธิ์ทาํ ใหเลอื ดหมุนเวยี น ทะลวงจงิ ลว่ั แกประจาํ เดอื นไมม า ปวด
Page 112 102 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ประจาํ เดือน ทาํ ใหชี่และเลอื ดหมนุ เวียน ระงบั ปวด และมฤี ทธก์ิ ระจายเลอื ดค่ัง ระงบั ปวด ชวยใหเ ลอื ด หมุนเวียน กระจายเลือดคั่ง ลดบวม ระงบั ปวด แกฟกชา้ํ ชํา้ ใน ปวดบวมจากเลอื ดคง่ั เสน เลือดหวั ใจ ตบี เจ็บ ปวด แนน บริเวณหัวใจ แกผ ่นื แดง เลอื ดค่ังเนื่องจากภาวะรอ น1 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ดอกคําฝอย รสหวานรอ น สรรพคณุ ขับระดู บํารงุ ประสาท บาํ รุงหัวใจ แกด พี กิ าร ขับเหง่อื ระงบั ประสาท บาํ รงุ โลหติ แกต กเลือด แกไ ขใ นเดก็ แกด ีซาน แกไขขอ อักเสบ แกห วดั นา้ํ มกู ไหล แก ปวดในรอบเดือน4 ขนาดทใี่ ชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแผนจนี ใช 3-9 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม1 ขอหา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขางเคยี ง: การแพทยแผนจีน หา มใชในสตรมี ีครรภ ในกรณที ่ีเลอื ดออกงา ยควรใชด ว ยความระมัดระวงั 1 ขอมูลวิชาการที่เก่ียวขอ ง: 1. เมือ่ ใหสารสกัดแอลกอฮอลท างกระเพาะอาหารหนถู บี จกั รขนาด 500 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรมั พบวา สารสกดั ดังกลา วแสดงฤทธ์แิ กปวดและลดไข แตเมือ่ ใหสารสกดั นํา้ ทางหลอดเลือดดาํ หนูถีบจักรในขนาด 10 กรัม/กโิ ลกรมั พบวา ไมแ สดงฤทธแ์ิ กปวด5 2. เม่ือใหสารสกัด 50% เมทานอลทางกระเพาะอาหารหนูถีบจักรในขนาด 30 มิลลิกรัม/ กโิ ลกรัม พบวาสารสกดั ดงั กลาวแสดงฤทธติ์ านการอักเสบ5 3. สารสกัดแอลกอฮอลแ สดงฤทธ์ิขยายหลอดเลอื ดหวั ใจในหนตู ะเภาและกระตา ย และสารสกดั น้าํ เม่อื ใหทางชองทองหนถู ีบจักรในขนาด 30 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั พบวา สามารถลดการรวมตัวของเกล็ด เลอื ด และปอ งกนั การสรางลม่ิ เลอื ดขึน้ มาใหมไ ด5 4. สารสกดั แอลกอฮอลแสดงฤทธ์ยิ บั ย้ังการเจรญิ เติบโตของเชื้อ Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis, Candida albicans และ Salmonella typhosa ในหลอดทดลอง แตไ มม ผี ลตอเช้อื Escherichia coli และ Shigella dysenteriae5 5. จากการศึกษาพษิ เฉยี บพลันในหนูถีบจักรของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจากดอกคําฝอย พบวา คา LD50 มคี ามากกวา 10 กรัม/กิโลกรมั เม่อื ใหโดยการปอ นหรือฉีดเขาใตผวิ หนงั 6
Page 113 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จีน 103 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบบั แกไขเพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเ ภสัชรตั นโกสินทร. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากัด, 2547. 5. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 3. Geneva: World Health Organization, 2002. 6. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศกึ ษาพษิ ของสมุนไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล ชีวะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวชิ ญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวิจัยดา นพิษวิทยาของสถาบันวิจัยสมุนไพร เลม 1. พิมพค ร้ังท่ี 1. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2546.
Page 114 104 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ดบี วั : Lianzixin (莲子心) ดีบวั หรือ เหลยี นจือ่ ซิน คือ ครรภะ (ยอดออนแรกเกดิ ) ของเมล็ดท่ีแกจดั ทที่ ําใหแหงของพืชที่มี ช่อื วิทยาศาสตรวา Nelumbo nucifera Gaertn. วงศ Nymphaeaceae1 0.5 เซนติเมตร ดีบัว (Plumula Nelumbinis) ชื่อไทย: ดีบัว (ท่ัวไป)2 ชื่อจีน: เหลยี นจ่ือซนิ (จีนกลาง), ไหนจซี้ มิ (จนี แตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Lotus Plumule1 ช่ือเครื่องยา: Plumula Nelumbinis1 การเกบ็ เก่ยี วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บฝกแกนาํ มารวมบนลาน แลวใชไมทุบใหลูกบัวแกรวงหลุดจากฝก เอาดีบัวออกจากลูก บัว นําไปตากแดดใหแหง หรือผ่ึงใหแหงในที่รม เกบ็ รักษาไวในทม่ี อี ากาศเย็นและแหง มีการระบาย อากาศดี1,3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: นาํ วัตถุดิบสมุนไพรท่ีได มาคัดแยกเอาส่ิงปนปลอมออก แลวรอนเอาเศษเล็ก ๆ ออก3,4 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี ตองมีขนาดใหญ สีเขียว ตองไมผ า นการตม มากอน รสขมจัด3,4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ดีบัว รสขมเล็กนอย เย็น มีสรรพคุณแกอ าการหงดุ หงดิ นอนไมห ลบั การตดิ เชื้อในชอ งปาก ชว ยลดความดันโลหติ บาํ รุงสายตา บาํ รงุ หัวใจ ปอด ไต และแกน ้ํากามเคล่ือนขณะหลบั 3,5
Page 115 คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 105 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: ดบี ัว รสขม มีฤทธ์ิขยายหลอดเลอื ดทไ่ี ปเลี้ยงหวั ใจสาํ หรับผทู ่ีเปน โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ แก กระหายนาํ้ แกนา้ํ กามเคล่อื นขณะหลับ2,6 ขนาดท่ีใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 2-5 กรัม ตมเอานํ้าด่ืม1 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. สารสกดั นํ้าและสารสกัดแอลกอฮอลจากดีบวั ทําใหอัตราการเตนและแรงบีบตวั ของหวั ใจหนู ตะเภาเพิ่มขึน้ 7 สาร methylcorypalline ในดบี วั มฤี ทธิ์ขยายหลอดเลอื ดทไ่ี ปเลย้ี งหัวใจ ซึ่งนับวา เปน ประโยชนม ากตอ คนทเ่ี ปนโรคหัวใจขาดเลือดเนื่องจากหลอดเลอื ดตบี ตัน8 2. สารสกัดแอลคาลอยด (liensinine) จากดีบวั มีผลลด LVP และ SAP ในหนูขาวเหมือน verapamil และลดการบีบตวั ของหวั ใจของกระตาย นอกจากนี้ neferine ซึง่ เปนสารประเภทแอลคาลอยด ในดบี วั สามารถยับยั้งการเกิด transmembrane potential ยบั ยั้งการหดตวั ของกลามเนอ้ื และลด amplitude ของ action potential ของ capillary muscle ในหนตู ะเภา เนอื่ งจากยบั ยั้ง Na+, Ca++, K+ current ของ myocardium รวมทงั้ สามารถยับย้ังการเกาะกลมุ ของเกลด็ เลอื ด โดยมีผลยบั ย้งั การเกดิ TXA2 จาก arachidonic acid7 3. เม่อื ปอ นดบี วั ขนาด 20 มิลลกิ รมั /ตัว/วัน แกห นูถีบจักรเปนเวลา 3 สปั ดาห จากนั้นเหนย่ี วนาํ ใหหนเู กิดการอักเสบดว ยการฉดี lipopolysaccharide ขนาด 10 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัม เขา ทางชองทองหนู พบวา ดบี วั มผี ลลดการอกั เสบได โดยลดระดบั ของ tumor necrosis factor-α (TNF-α) และเพิ่ม ระดับของ interleukin-109 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ชยนั ต วเิ ชยี รสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วเิ ชียร จีรวงศ. คําอธบิ ายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั พมิ พอมรนิ ทร, 2548. 3. กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . สมุนไพรไทย-จีน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพการศาสนา, 2547. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. บรษิ ทั หลกั ทรัพยจัดการกองทุน กสิกรไทย จํากัด. มหศั จรรยสมุนไพรจนี . กรุงเทพมหานคร : บริษทั ซีเอด็ ยเู คชัน่ จาํ กัด มหาชน, 2550. 6. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภรี เ ภสัชรัตนโกสินทร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จํากัด, 2547. 7. บพิตร กลางกลั ยา, นงลักษณ สขุ วาณชิ ยศ ลิ ป. รายงานผลการศกึ ษาโครงการการประเมินประสิทธภิ าพและความปลอดภยั ของยา จากสมนุ ไพร. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท เอส อาร พร้นิ ตงิ้ แมสโปรดกั ส จาํ กัด, 2544. 8. ลดั ดาวัลย บุญรัตนกรกิจ. สมนุ ไพรนา ใช. พมิ พค ร้งั ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ แทนทองปร้นิ ต้ิงเซอรว สิ , 2535. 9. วิสดุ า สวุ ทิ ยาวัญน (บรรณาธิการ). จุลสารขอมูลสมุนไพร. 2551; 25(2): 2.
Page 116 106 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ดีปล:ี Bibo (荜茇) ดีปลี หรือ ปปอ คือ ผลใกลสุกหรือผลสุกที่ทาํ ใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Piper longum L. วงศ Piperaceae1 1 เซนติเมตร ดีปลี (Fructus Piperis Longi) ชื่อไทย: ดีปลี, พริกหาง (ภาคกลาง)2 ช่ือจีน: ปปอ (จีนกลาง), ปก หวก (จนี แตจ ว๋ิ )1 ชื่ออังกฤษ: Long Pepper1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Piperis Longi1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเกบ็ เก่ียว: เกบ็ เกี่ยวผลใกลส กุ หรือผลสกุ เมื่อกานผลเรมิ่ เปลี่ยนจากสีเขยี วเปนสีดํา แยกเอาสิง่ ที่ปะปนออก ตากแดดใหแ หง เก็บรักษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศด1ี การเตรียมตวั ยาพรอมใช: หลังเก็บเกี่ยวสมนุ ไพรแลว แยกเอากานผลและส่ิงอน่ื ทป่ี ะปนออก ทบุ ใหแตกกอนใช1 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทีม่ คี ณุ ภาพดี ผลตอ งอวบใหญ มเี น้ือมาก แข็งและเหนียว สนี ํา้ ตาลดํา กล่นิ หอมฉุน3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: ผลดีปลี รสเผด็ รอ น มีฤทธ์ิขับความเยน็ ออกจากมามและกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการเจบ็ หนา อก แกอ าเจียนและทอ งเสยี อันเนือ่ งจากความเยน็ และมฤี ทธิร์ ะงับปวด แกไ มเกรน ใชภายนอกแก
Page 117 คูมือการใชสมุนไพรไทย-จนี 107 ปวดฟน1 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนไทย: ผลดปี ลี รสเผ็ดรอน ขม มีสรรพคุณบํารงุ ธาตุ ขับลม แกท องอดื ทองเฟอ ธาตุพิการ ขบั เสมหะ แกห ืด แกหลอดลมอกั เสบ แกโ รคนอนไมหลบั แกโ รคลมบา หมู เปนยาขบั นา้ํ ดี เปน ยาขบั ระดแู ละทาํ ให แทงลูก เปนยาขับพยาธิในทอง ใชป รุงเปน ยาภายนอกสาํ หรับบรรเทาอาการปวดทกี่ ลามเนอ้ื ทาํ ใหรอ น แดง และมเี ลอื ดมาเล้ยี งท่ีบริเวณนั้นมากข้ึน แกอ กั เสบ4,5 ขนาดทใี่ ชแ ละวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 1.5-3 กรมั 1 ตม เอานา้ํ ดื่ม การแพทยแผนไทย ใชดปี ลี 1-2 ผลฝนกับนา้ํ มะนาวและแทรกเกลอื 1-2 เม็ด ใชร บั ประทาน หรือใชก วาดคอชว ยขับเสมหะ4 ขอหามใช ขอ ควรระวัง และอาการขา งเคยี ง: ผลดปี ลสี กัดดว ยปโตรเลียมอเี ทอรใ หสัตวก ิน ทําใหสตั วทดลองแทง จึงควรระวังการใชใ นสตรี 4 มคี รรภ ขอ มลู วชิ าการท่ีเกี่ยวขอ ง: 1. เมื่อฉีดสารสกัดแอลกอฮอลเขาทางชองทองของหนูถีบจักรในขนาดเทียบเทาผงยา 17.8 กรมั /กโิ ลกรมั ชว ยใหการไหลเวยี นของเลือดไปเลยี้ งหวั ใจเพ่ิมขน้ึ 6 2. นํ้ามันดปี ลีมีฤทธิต์ า นเช้ือ Escherichia coli, Shigella dysenteriae และ Staphylococcus aureus และสาร sesamine ในผลดีปลีมฤี ทธต์ิ า นเช้อื Mycobacterium tuberculosis 6 และเชอ้ื ไขห วดั 3. เม่อื ใหสารสกดั แอลกอฮอลท างปากหนูขาวในขนาด 0.25 กรมั /กโิ ลกรมั สามารถตานการ อกั เสบในหนทู ที่ าํ ใหกระเพาะอาหารเปน แผลดวยแอลกอฮอลบ รสิ ุทธ์ิ หรอื แอสไพรนิ หรือ นา้ํ สมสายชู ไดผลด6ี 4. จากการศึกษาพษิ เฉียบพลนั ของนํ้ามนั ดีปลีชนิด unsaponification ในหนูถบี จกั ร พบวาคา LD50 เทากบั 49.73 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั เม่ือใหโดยการปอน และเม่อื ใหต ดิ ตอ กนั นาน 9 เดือน ไมพบ ความผิดปกติใด ๆ นอกจากนี้เมือ่ ปอนสารสกดั แอลกอฮอลในหนูถีบจกั ร พบวาคา LD50 เทา กับ 4.97 กรมั /กโิ ลกรมั 6
Page 118 108 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. พเยาว เหมอื นวงษญ าต.ิ สมุนไพรกา วใหม. พิมพครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ท.ี พ.ี พร้ิน จาํ กดั , 2537. 5. ชยนั ต วิเชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นักพมิ พอมรินทร, 2548. 6. Qu SY. Fructus Piperis Longi: bi bo. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 119 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 109 ตนพมิ เสน : Huoxiang (藿香) ตนพมิ เสน หรือ ฮั่วเซยี ง คอื สว นเหนอื ดินทท่ี ําใหแ หง ของพชื ท่มี ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Pogostemon cablin (Blanco) Benth. วงศ Labiatae1 2 เซนตเิ มตร ตนพมิ เสน (Herba Pogostemonis) ชื่อไทย: ตนพิมเสน2 ช่ือจีน: ฮ่ัวเซียง (จีนกลาง), คักเฮีย (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Cablin Patchouli Herb1 ชื่อเครื่องยา: Herba Pogostemonis1 การเก็บเกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกี่ยวสวนเหนือดนิ ในระยะท่ีพชื เจริญเติบโตเต็มท่ี ตากแดดใหแหง เก็บรักษาไวในท่ีมีอากาศ เย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลังเกบ็ เก่ียวสมุนไพรแลว แยกเอารากและสงิ่ อ่นื ที่ปะปนออก เก็บเฉพาะสวนใบ แรงเอาฝุน ออก สว นลําตน นาํ มาลา งนาํ้ ใหสะอาด ใสภาชนะปดฝาไวเพอ่ื ใหอ อ นนุม หั่นเปนทอน ๆ ตากใหแหง แลว นาํ มาผสมกบั ใบ1 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ก่ิงและลาํ ตนมีสีเขียว ปริมาณใบมาก ไมมีสวนของรากปนปลอม กลิ่น หอมฉุน3
Page 120 110 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ตน พมิ เสน รสเผด็ อนุ มฤี ทธิส์ ลายความชื้น แกค วามชืน้ จงเจยี ว อาเจียน จกุ เสยี ด แนน อดึ อัดท่ลี น้ิ ป เบอื่ อาหาร มฤี ทธค์ิ ลายความรอน แกร อ นใน แกไขแ ละไขหวัดจากความรอ นชืน้ ทานอาหาร ผิดสาํ แดง เกดิ อาการไขหรอื จกุ เสยี ด อาเจียนหรอื ทอ งรวง และมีฤทธิร์ ะงบั อาเจียน แกอาเจียน1 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนไทย: ตนพมิ เสน มกี ล่นิ หอมเย็น ฉุน เปนเครื่องยาชนดิ หน่งึ ในยาหอมแกล ม ยาเย็นสาํ หรบั ดับรอ น ถอนพิษไขแ ละยาเขยี ว ใบสดใชต ม นํ้าดมื่ แกป วดประจําเดอื น เปนยาขบั ประจาํ เดือน ยาชงจากยอดแหง และรากแหง (1:10) 4 ดื่มเปน ยาขบั ปส สาวะและขับลม ขนาดทีใ่ ชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจีน ใช 3-9 กรมั ตมเอานํา้ ดืม่ 1 ขอ มลู วิชาการท่ีเก่ียวของ: 1. สารสกดั แอลกอฮอลค วามเขม ขน 1-5% และสารสกัดนาํ้ ความเขม ขน 3-12% มีฤทธ์ิตา น 5 เช้ือราท่ีเปน สาเหตุของโรคผวิ หนงั หลายชนิดในหลอดทดลอง สารสกัดนํา้ มีฤทธล์ิ ดอาการเกรง็ ของกลา มเน้อื เรียบของลําไสกระตาย ตานอาเจียนในนกพิราบ ระงับปวดและชวยใหการทํางานของระบบกระเพาะ อาหารและลาํ ไสข องหนูถีบจักรดขี ้นึ 6 2. ตนพมิ เสนมีสรรพคุณแกปวดทอ งและทอ งเสียอันเนอ่ื งจากการติดเช้ือ6 3. เม่อื ใหสารสกัดนา้ํ ทางปากของหนูถบี จกั รในขนาดเทียบเทาผงยา 14.58 กรมั /กโิ ลกรมั วันละ 2 ครัง้ พบวา ภายใน 7 วนั หนูถีบจักรทุกตัวมกี ารเคลือ่ นไหวเปนปกติ 6 และไมพบหนูถีบจักรตวั ใดตาย เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชื่อพรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 4. ชยันต วิเชยี รสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คําอธบิ ายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : สํานกั พมิ พอมรนิ ทร, 2548. 5. Institute of Medicinal Plant Development and Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. IV. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1988. 6. Wang Y, Wang BX. Herba Pogostemonis (agastaches): huo xiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 121 คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จนี 111 ตนสะระแหน : Bohe (薄荷) ตนสะระแหน หรือ ปอ เหอ คอื สว นเหนอื ดินท่ีทาํ ใหแ หงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Mentha haplocalyx Briq. วงศ Labiatae1 2 เซนติเมตร ตนสะระแหน (Herba Menthae) ช่ือไทย: ตนสะระแหน2 ชื่อจีน: ปอเหอ (จีนกลาง), เปาะหอ (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Peppermint1 ช่ือเครื่องยา: Herba Menthae1 การเกบ็ เกย่ี วและการปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกย่ี วสวนเหนอื ดินในฤดูรอนและฤดใู บไมผลิเม่อื ใบเจรญิ เติบโตเต็มที่ หรือในชว งทอี่ อก ดอกในรุนท่สี าม เกบ็ ในวันท่ีอากาศดี เกบ็ ไดหลายคร้งั ตากใหแ หงหรือทําใหแหง ในท่ีรม เก็บรกั ษาไวใ น ทีม่ ีอากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศด1ี การเตรยี มตวั ยาพรอมใช: หลงั เก็บเกีย่ วสมุนไพรแลว แยกลาํ ตน แกแ ละสง่ิ อนื่ ท่ปี ะปนออก พรมน้าํ ปรมิ าณพอเหมาะ ใส ภาชนะปด ฝาไวเ พ่ือใหออ นนุม หั่นเปนทอน ๆ และนาํ ไปทําใหแ หงที่อณุ หภูมิหอง1 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาที่มีคุณภาพดี ตอ งมีปริมาณใบมาก สเี ขยี วเขม มกี ลน่ิ รสเผ็ดและเยน็ มาก3
Page 122 112 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: ตนสะระแหน รสเผ็ด เยน็ มฤี ทธชิ์ ว ยใหผอ นคลาย กระจายลมรอ น แกห วดั จากการกระทบลม รอ น โรคท่มี ไี ขส ูงในระยะแรก มีฤทธริ์ ะบายความรอ นใหศ รี ษะและทาํ ใหตาสวา ง แกปวดศรี ษะ ตาแดง เจ็บคอ คอบวม มีฤทธิก์ ระทงุ และขับหัด อสี กุ อีใส สรรพคุณชวยกระทุงหัด อสี กุ อใี ส แกล มพษิ ผดผืน่ คัน และมีฤทธชิ์ ว ยผอ นคลายอาการตบั และอาการเครยี ด แกอ าการเครียดแลวทาํ ใหช่ีไมหมุนเวยี น อึดอัด บรเิ วณหนา อก เจ็บบริเวณชายโครง1 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ตน สะระแหน รสหอมรอน สรรพคุณ ขับเหง่อื แกห ดื แกปวดทอง ขับลมในกระเพาะลําไส แก จุกเสียดแนน เฟอ แกอาการเกรง็ ของกลามเน้ือ พอกหรือทา แกผ ่ืนคัน แกปวดบวม2 ขนาดที่ใชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจนี ใช 3-6 กรัม ตมเอาน้าํ ดืม่ 1 ขอ มลู วชิ าการที่เกี่ยวขอ ง: 1. สารสกัดน้ํามีฤทธิต์ า นเช้อื ไวรสั ในกระตายและมีฤทธติ์ านเชอื้ แบคทเี รยี ในหลอดทดลอง นาํ้ มนั หอมระเหยมีฤทธขิ์ บั เสมหะและตา นอักเสบในกระตาย โดยท่วั ไปใบสะระแหนม ักไมใชเ ด่ียว สว นใหญจะ ใชเปนสว นประกอบในตํารับยารกั ษาอาการไขหวดั คออกั เสบ และโรคผวิ หนัง4 2. สาร menthol จากใบสะระแหนม ฤี ทธ์ขิ ับเสมหะ และใชภ ายนอกเปน ยาระงบั ปวด แกค ัน5 3. มีรายงานการศึกษาพิษเฉยี บพลนั ในหนถู ีบจักรและหนูขาวโดยการฉดี เมนทอล (จากธรรมชาติ) เขาใตผิวหนงั พบวาขนาดของเมนทอลที่ทาํ ใหสัตวท ดลองตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 5 และ 0.1 กรมั /กโิ ลกรมั ตามลําดบั และเมื่อใหเมนทอลทางปากและฉดี เขา ชองทอ งแมว พบวา LD50 มีคาเฉล่ีย มากกวา 0.9 กรมั /กิโลกรมั 4 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. วฒุ ิ วุฒธิ รรมเวช. คัมภรี เภสัชรัตนโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ศิลปสยามบรรจุภัณฑและการพิมพ จํากดั , 2547. 3. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 4. Du XM. Herba Menthae: bo he. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 5. Institute of Medicinal Plant Development and Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. IV. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1988.
Page 123 คูมือการใชส มุนไพรไทย-จีน 113 บวยดาํ : Wumei (乌梅) บวยดาํ หรือ อูเหมย คือ ผลใกลสกุ ท่ที าํ ใหแหง ของพชื ท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Prunus mume (Sieb.) Sieb. et Zucc. วงศ Rosaceae1 บว ยดาํ (Fructus Mume) 2 เซนติเมตร ช่ือไทย: บวยดํา, บวย (ภาคกลาง)2 ช่ือจีน: อูเหมย (จีนกลาง), โอวบวย (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Smoked Plum1 ช่ือเครื่องยา: Fructus Mume1 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวผลใกลสุกในฤดูรอน ผิงไฟที่อุณหภูมิต่ํา ๆ จนกระทั่งเปล่ียนเปนสีดํา เกบ็ รักษาไว ในทมี่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชมี 4 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ที ี่ 1 บว ยดํา เตรียมโดยนําวตั ถดุ บิ สมุนไพรมาแยกสงิ่ อ่ืนที่ปะปนออก ลางน้าํ ใหสะอาด และ นาํ ไปตากแหง 1,3 วธิ ที ี่ 2 เนอื้ บวยดาํ เตรียมโดยนําตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีที่ 1 มาลา งนํ้าอยางรวดเรว็ ใหส ะอาด ใสภาชนะ ปดฝาไวห รอื นําไปนง่ึ สกั ครูเ พ่อื ใหออ นนมุ แยกเอาเฉพาะสว นเนอ้ื นาํ ไปตากแหง แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3
Page 124 114 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก วธิ ีที่ 3 บว ยดาํ เผา เตรียมโดยนําตัวยาท่ีไดจากวธิ ีท่ี 1 หรือ 2 ใสกระทะ นําไปผดั โดยใชไฟแรง ผดั จนกระท่งั ผวิ นอกโปง พองและมสี ีดําเกรียม นําออกจากเตา ตั้งท้งิ ไวใ หเย็น แลว รอนเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3 วธิ ีที่ 4 บวยดําหมักนํ้าสม เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจ ากวธิ ีที่ 1 หรอื 2 มาหมักกับนา้ํ สม (ที่ได จากการหมักกลนั่ ขา ว) ในภาชนะที่มีฝาปด จนกระทง่ั นา้ํ สมแทรกซมึ เขาไปในเนอ้ื ตัวยา จากน้นั นาํ ไปให ความรอนโดยใชน้าํ เปนตวั กลาง (คลายวธิ ตี ุน) ประมาณ 2-4 ชว่ั โมง แลว นําออกมาตากแหง (โดยทั่วไป ใชน าํ้ สม 10 กิโลกรมั ตอ บวยดาํ หรือเนื้อบวยดาํ 100 กโิ ลกรมั )1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตวั ยาทม่ี ีคณุ ภาพดี ผลตองมขี นาดใหญ เน้อื หนา สีดาํ เหนยี วนมุ สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: บว ยดํา รสเปรย้ี ว ฝาด สุขมุ มฤี ทธ์ิใหค วามชุมชืน้ ปอด ระงับไอ แกไ อแหง ไอเร้อื รงั มฤี ทธิ์ สมานลําไส ระงบั อาการทองรว ง แกทอ งรวงเรอ้ื รัง บิดเร้อื รัง มีฤทธ์ฆิ าพยาธิ แกพ ยาธิ และมฤี ทธเิ์ สรมิ ธาตนุ ้าํ แกรอนแบบพรอ ง รอ นใน กระหายนํา้ 1 3 เน้อื บว ยดาํ มีสรรพคณุ และวธิ ใี ชเ หมือนบว ยดาํ แตม ฤี ทธแ์ิ รงกวา เนอื่ งจากปราศจากเมล็ด บวยดําเผา มีฤทธสิ์ มานลาํ ไส ระงบั อาการทองรวง และหา มเลือดไดดี โดยทว่ั ไปใชรกั ษาอาการ ทองรวงเร้อื รงั และมเี ลอื ดปน3 บว ยดําหมกั นาํ้ สม มวี ิธีใชเหมือนบว ยดาํ แตมีฤทธิ์ฝาดสมานแรงขน้ึ โดยท่ัวไปใชร ักษาอาการ ไอเร้อื รังเนอื่ งจากชีข่ องปอดไมเ พยี งพอ และอาการปวดทอ งเนื่องจากพยาธิไสเดอื น3 ขนาดทใี่ ชและวธิ ใี ช: การแพทยแ ผนจนี ใช 6-12 กรัม ตม เอานํา้ ด่ืม1 ขอ หามใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคยี ง: การแพทยแผนจีน ควรระมัดระวังในการใชในผูปว ยมไี ข รอนแกรง 1 ขอมลู วิชาการที่เก่ยี วขอ ง: 1. ผลบว ยดํามฤี ทธิ์เสริมภมู ิตา นทานในหนูถีบจกั ร สารสกัดน้าํ มฤี ทธฆิ์ า และขบั พยาธิไสเ ดือน ในสุนขั เพ่ิมการหล่ังนํ้าดี และปองกันหรือลดการติดเชอ้ื ในทอนา้ํ ดี สารสกัดนํา้ มฤี ทธิ์แกแ พในหนถู ีบ จกั ร สารสกดั น้าํ สว นทีต่ กตะกอนดว ยเอทานอลมฤี ทธต์ิ านเช้ือจุลนิ ทรียใ นหลอดทดลอง5,6 2. ผลบว ยดาํ มสี รรพคณุ ฆา พยาธไิ สเดือนและพยาธปิ ากขอ แกป วดทอง บรรเทาอาการกระเพาะ อาหารอกั เสบ ถงุ นา้ํ ดอี ักเสบชนิดเรือ้ รัง และลาํ ไสเปน แผลอักเสบ5
Page 125 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จนี 115 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. Ran MX, Xie BZ. Fructus Mume: wu mei. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 126 116 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ใบมะขามแขก : Fanxieye (番泻叶) ใบมะขามแขก หรือ ฟานเซี่ยเยี่ย คือ ใบยอยท่ีทาํ ใหแหงของพืชทม่ี ีช่อื วิทยาศาสตรวา Cassia angustifolia Vahl หรือ C. acutifolia Delile วงศ Leguminosae-Caesalpinioideae1 2 เซนติเมตร ใบมะขามแขก (Folium Sennae) ช่ือไทย: ใบมะขามแขก (ทั่วไป)2 ชื่อจีน: ฟานเซ่ียเย่ีย (จีนกลาง), ฮวงเซี่ยเฮียะ (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Senna Leaf1 ชื่อเคร่ืองยา: Folium Sennae1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏิบัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวใบในชวงกอนออกดอก ลางนํ้าใหสะอาด ตากแดดสักครูเพื่อปองกันไมใหแผนใบ เปลยี่ นเปน สเี หลอื ง ตากใหแ หงในท่ีรมหรอื ท่อี ณุ หภูมิต่าํ เก็บรักษาไวใ นทมี่ อี ากาศเยน็ และแหง ทบึ แสง มี การระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลังเกบ็ เกีย่ วสมนุ ไพรแลว แยกสงิ่ อื่นทีป่ ะปนออก ลา งนาํ้ ใหส ะอาด และนาํ ไปทาํ ใหแหง 1 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทม่ี คี ุณภาพดี ตอ งเปนใบท่ีสมบูรณแ ละแหง รูปหอก แผน ใบใหญ กา นใบเล็ก ปราศจากสิ่ง ปนปลอม3
Page 127 คูมือการใชส มุนไพรไทย-จนี 117 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ใบ รสขมเล็กนอย มีฤทธิ์ขับความรอน ชวยใหถายและขับปสสาวะ สรรพคุณรักษาอาการ ทองผูกและปวดหลัง ลดอาการบวมนํ้า1 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: ใบ รสเปร้ียว หวานชุม ใชเปนยาถายที่ดี รักษาอาการทองผูก4 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแ ผนจนี ใช 2-6 กรัม1 ตม เอานํา้ ดื่ม (ถาตมกับยาอ่ืนควรใสท ีหลงั ) หรอื แชใ นน้าํ เดือด1 การแพทยแผนไทย ใช 3-10 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม 4 หรือใชวิธีบดเปนผงชงนาํ้ รอนด่ืม ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: การแพทยแผนจีน สตรีมีครรภควรระมัดระวังในการใช1 การแพทยแผนไทย สตรีมีครรภหรือมีประจําเดือนหามรับประทาน4 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. สารประกอบทางเคมที ีส่ าํ คัญในใบ คือแอนทราควิโนน ซ่ึงประกอบดว ยสาร sennoside A, B, C และ D, emodin, rhein เปนตน มะขามแขกเปน ยาถายทมี่ ีประวัตนิ านเกือบ 100 ป สารแอนทรา ควโิ นนมฤี ทธ์ิกระตนุ การบบี ตวั ของลาํ ไสใ หญท าํ ใหถา ยทอ งได และมรี ายงานวา การใชม ะขามแขกนาน ๆ จะทาํ ใหเ กิดอาการขาดโพแทสเซยี มได ถา จาํ เปน ตองใชต ิดตอ กนั เปนเวลานาน ควรรบั ประทานโพแทสเซียม ดว ย4 สาร sennoside A และ B ในใบมะขามแขก มีฤทธ์ชิ ว ยเพิม่ การเคล่ือนตัวของลําไส และถกู เปล่ยี นโดยแบคทเี รียบริเวณลาํ ไสใหญเ ปนสารสาํ คัญ rhein-anthrone กลไกการออกฤทธขิ์ องสารสําคัญ มี 2 ทาง คือ เพิ่มการเคล่อื นตัวของลาํ ไส และเพมิ่ ปรมิ าณของเหลวในลาํ ไส5 2. มรี ายงานวาการทดสอบฤทธ์ิกอ มะเร็งของมะขามแขกในหนขู าวเพศผู พบวา ในหนกู ลมุ ท่ี ไดรบั มะขามแขกผสมในอาหารหนูในขนาดสงู 0.2% ทาํ ใหหนูตาย 50% ใน 15 วนั แรกเนอื่ งจาก ทอ งเสยี และจากการศกึ ษาไมพ บ ACF (aberrant crypt foci) ในกลุมท่ีไดร บั มะขามแขกอยางเดียว แตพ บวาบริเวณ mucosal epithelium มลี ักษณะเปน darker staining เมอ่ื ให DMF เหนี่ยวนาํ รว มกับใหม ะขามแขกพบวา total ACF หรือจํานวนเฉลีย่ ของ ACF ขนาดใหญไ มเ พิ่มข้นึ แตพบวา มะขามแขกในขนาดสูง 0.2% และ 1,8 HA จะพบจาํ นวนของ cryp ตอ focus เพมิ่ ขึ้นอยางมีนัยสําคัญ6 3. จากการทดสอบฤทธิต์ อ เช้ือแบคทเี รยี ของสารสกัดนํ้า สารสกดั แอลกอฮอล และสารสกัด เฮกเซนท่ีเตรียมโดยวิธีหมักนาน 72 ช่ัวโมง พบวาสารสกัดนาํ้ และสารสกัดเฮกเซนไมมีฤทธ์ิยับย้ังเช้ือ
Page 128 118 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก แบคทีเรีย แตสารสกัดแอลกอฮอลใหผลปานกลางตอแบคทีเรีย Bacillus subtilis และ Salmonella typhimurium (ความกวา งของเสน ผาศูนยกลางท่ยี ับยง้ั การเจรญิ ของเชือ้ อยใู นชวง 10-19 มิลลเิ มตร)6 4. มะขามแขกใชเ ปน ยาระบายโดยกนิ กอ นนอน ชวงเวลาที่ยาออกฤทธิ์ประมาณ 8-10 ช่ัวโมง ยาจะทําใหอุจจาระมีมวลมากขึ้น และลักษณะอจุ จาระจะนม่ิ ข้ึน มีการใชมะขามแขกในคนไขหลงั ผา ตดั ควานตอมลกู หมาก พบวา มะขามแขกชว ยใหถา ยอจุ จาระในลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงคด ีกวา การใช Milk of Magnesia นอกจากนี้แคลเซยี มเซนโนไซด ซึ่งเปนสารสกัดจากใบมะขามแขกชวยใหผ ปู ว ยสูงอายุหลัง การผา ตดั ถายอจุ จาระไดค ลอ งขนึ้ 5 5. การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั ของ sennosides บริสทุ ธิ์ และสารสกัด sennosides (ในรปู ของ เกลือแคลเซียม) ในหนูถีบจักร พบวา LD50 ของ sennosides บรสิ ุทธ์ิ เมื่อใหทางปากมคี า มากกวา 5 กรมั /กโิ ลกรัม และเมอื่ ใหทางเสนเลอื ดดํา มีคาเทา กบั 4.1 กรัม/กิโลกรมั สาํ หรับสารสกัด sennosides (ในรูปของเกลือแคลเซยี ม) เมอ่ื ใหทางปากจะมีคา LD50 มากกวา 5 กรัม/กิโลกรมั 5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบับแกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. กันทิมา สทิ ธธิ ัญกิจ, พรทพิ ย เติมวิเศษ (คณะบรรณาธกิ าร). คูมอื ประชาชนในการดูแลสุขภาพดว ยการแพทยแผนไทย. พมิ พครง้ั ที่ 2 กรงุ เทพมหานคร : สาํ นกั งานกิจการโรงพมิ พองคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547. 5. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. เอกสารวชิ าการสมุนไพร. นนทบรุ ี : สถาบนั วจิ ัยสมนุ ไพร, 2543. 6. บพติ ร กลางกัลยา, นงลักษณ สขุ วาณิชยศลิ ป. รายงานผลการศึกษาโครงการการประเมนิ ประสิทธภิ าพและความปลอดภัยของยา จากสมนุ ไพร. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท เอส อาร พริน้ ตงิ้ แมสโปรดักส จํากัด, 2544.
Page 129 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 119 ใบหมอ น : Sangye (桑叶) ใบหมอน หรอื ซงั เยย่ี คอื ใบแหง ของพชื ทมี่ ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Morus alba L. วงศ Moraceae1 2 เซนตเิ มตร ใบหมอน (Folium Mori) ช่ือไทย: ใบหมอน (ทั่วไป)2 ช่ือจีน: ซงั เยยี่ (จีนกลาง), ซงึ เฮียะ (จนี แตจ ว๋ิ )1 ช่ืออังกฤษ: Mulberry Leaf1 ชื่อเคร่ืองยา: Folium Mori1 การเก็บเกยี่ วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เกี่ยวใบในฤดหู นาว แยกเอาแขนงและส่ิงทป่ี ะปนออก ตากแดดใหแ หง เก็บรกั ษาไวในทมี่ ี อากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศด1ี การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดังนี้ วิธีท่ี 1 ใบหมอ น เตรียมโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรที่ได แยกสงิ่ ปนปลอมออก ใชมือถูเบา ๆ แลว แยกเอากา นใบออก1,3 วิธีที่ 2 ใบหมอนผัดนํ้าผึ้ง เตรียมโดยนํานํ้าผึง้ บรสิ ุทธิ์มาเจอื จางดว ยนา้ํ ตมในปรมิ าณท่ีเหมาะสม ใสต วั ยาที่ไดจากวธิ ีที่ 1 แลว คลกุ ใหเขา กัน หมักไวส กั ครเู พ่อื ใหน ํา้ ผึ้งซมึ เขาในตวั ยา จากนั้นนาํ ไปผดั ใน
Page 130 120 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทั่งมสี ีเหลืองเขม และไมเหนียวติดมอื นําออกจากเตา แลว ต้งั ท้ิงไวใ หเย็น (ใชน ํา้ ผึ้งบริสุทธ์ิ 25 กิโลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาท่ีมีคุณภาพดี ตองเปน ใบท่ีสมบูรณ ใหญและหนา สเี ขยี วอมเหลือง เปราะและแตกงา ย และปราศจากส่ิงปนปลอม4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ใบหมอน รสขมอมหวาน เยน็ มีฤทธ์กิ ระจายลมรอน ชวยใหผ อ นคลาย แกห วดั จากการกระทบ ลมรอน ปวดศีรษะ มฤี ทธิใ์ หความชุมชื้น และระบายความรอ นที่ปอด ชวยขับความรอ นจากปอด แก อาการไอแหง และมฤี ทธ์ผิ อนคลายตับ ชว ยใหต าสวา ง แกอ าการเวยี นศีรษะ (เน่อื งจากหยางของตบั กําเริบ) ตาอกั เสบ ตาลาย1 ใบหมอ นผัดน้าํ ผ้ึง มคี ณุ สมบัติคอ นขา งชุมชื้น เหมาะสําหรับผูปวยทมี่ อี าการไอแหง3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: ใบหมอน รสจืด เย็น ใชแกไข ตัวรอน รอนในกระหายน้ํา แกไอ ระงับประสาท ขับเหง่ือ แก เจ็บคอ5 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 5-9 กรัม ตมเอานํ้าดื่ม1 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. นํา้ คน้ั และสารสกัดเมทานอลจากใบมีฤทธติ์ านอนมุ ลู อสิ ระ สารสกดั นา้ํ ของใบหมอนมฤี ทธิ์ ลดนาํ้ ตาลในเลือดของหนูถีบจกั รที่เปนเบาหวานเนอ่ื งจากไดรับสาร streptozotocin เมอ่ื ฉีดเขา ทางชอง ทองในขนาด 200 มิลลกิ รัม/กิโลกรมั นอกจากนสี้ ารสกัดแอลกอฮอลจ ากใบหมอนมฤี ทธลิ์ ดความดนั โลหติ ในหนู และสารสกัดนํ้าประกอบดวยสาร kuwanon L, mulberrofuran A และ sangenone C มี ฤทธิ์ตานเช้ือแบคทีเรีย5 2. จากการวิจยั ทโี่ รงพยาบาลสาํ โรง จงั หวดั อบุ ลราชธานี ในผปู ว ยเบาหวานชนิดท่ี 2 ทไี่ ดรับ ยา glibenclamide พบวา เมื่อใหแ คปซูลหมอ นรว มดว ยในขนาด 20 กรมั ตอ วัน นาน 8 สปั ดาห มีผล ชว ยลดระดับนํา้ ตาลในเลอื ดกอ นอาหารเชา และระดับฮีโมโกลบิน เอวันซี (HbA1C) อยางมีนยั สาํ คัญ เมอ่ื เทยี บกบั เมื่อกอ นรบั ประทานหมอน ขณะทกี่ ลมุ ทีไ่ ดร บั ยาหลอกไมมกี ารเปลยี่ นแปลง การนาํ ใบหมอน ในรปู แบบชาชงหรอื สารสกัดมาใชในการควบคุมระดบั นํา้ ตาลในเลือด ยงั ตองศกึ ษาวจิ ยั ทางคลินิกเพ่ิมเตมิ 5
Page 131 คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 121 3. การศึกษาพิษเฉียบพลนั ของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจากพชื ทงั้ ตน เม่ือฉดี เขา ชอ งทอ งหนู ถีบจกั ร มีคา LD50 มากกวา 1 กรมั /นาํ้ หนกั ตัว 1 กิโลกรัม5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่ือพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบับแกไ ขเพิม่ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธิการ). สมนุ ไพรไทยกาวไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ ร.ส.พ., 2548.
Page 132 122 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก เปลือกรากโบตัน๋ : Mudanpi (牡丹皮) เปลือกรากโบต๋ัน หรือ หมูตันผี คือ เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Paeonia suffruticosa Andr. วงศ Ranunculaceae1 2 เซนติเมตร เปลอื กรากโบตน๋ั (Cortex Moutan) ช่ือไทย: เปลือกรากโบตั๋น (กรุงเทพฯ)2 ช่ือจีน: หมูตันผี (จีนกลาง), โบวตัวพวย (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Tree Paeony Bark1 ช่ือเครื่องยา: Cortex Moutan1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวรากอายุประมาณ 3-5 ปในฤดูใบไมรวง แยกเอารากฝอยและแกนลําตนทิ้ง ลอก เอาเฉพาะเปลือกราก ตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวใ นทีม่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดงั นี้ วธิ ที ี่ 1 เปลือกรากโบตัน๋ เตรียมโดยนาํ วัตถดุ ิบสมุนไพรมาลา งนาํ้ อยา งรวดเร็วใหสะอาด ใส ภาชนะปดฝาไวเพ่ือใหออนนุม หั่นเปนแวน หนา ๆ และนําไปตากแหง 1,3 วิธีท่ี 2 เปลอื กรากโบตน๋ั เผา เตรียมโดยนําตวั ยาทไ่ี ดจ ากวธิ ีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผดั โดยใชไฟ ระดับปานกลาง ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกสนี ํา้ ตาลดํา พรมน้ําเลก็ นอ ย นาํ ออกจากเตา ตั้งทง้ิ ไวใ หเ ยน็ แลว รอ น เอาเศษเล็ก ๆ ออก (มีรายงานวา อณุ หภูมิที่เหมาะสมคือ 250 องศาเซลเซยี ส ผัดนาน 10 นาท)ี 3,4
Page 133 คมู ือการใชสมุนไพรไทย-จนี 123 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาทม่ี คี ุณภาพดี เปลือกรากตองหนา ตรงกลางกลวง ดานหนา ตดั สขี าว มีแปง และผลึกมาก มกี ลน่ิ หอมฉุน5 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: เปลือกรากโบตั๋น รสขม เผ็ด เย็นเล็กนอ ย มีฤทธิ์ระบายความรอน ทําใหเลอื ดเยน็ แกผ ื่นผด แดงบนผวิ หนัง อาเจยี นเปนเลอื ด เลอื ดกําเดาออก แกพ ิษไขก ระทบธาตุน้ํา ยินพรอง รอ นใน นอกจากนี้ ยังมีฤทธ์ทิ าํ ใหเ ลอื ดหมนุ เวียน กระจายเลอื ดค่งั แกห ลอดเลอื ดตบี ประจาํ เดือนไมม า ปวดประจําเดอื น เปน เถาดาน กอนในทอ ง ฟกชา้ํ หรอื ชํา้ ในจากการกระทบกระแทก แกพ ษิ ฝ บวม อกั เสบ ฝในลาํ ไส หรือ 1 ไสต ิง่ อกั เสบ ปวดทองนอ ย เปลอื กรากโบตั๋นเผา รสขมเลก็ นอ ย จะมีฤทธิ์ระบายความรอ นออ นลง แตเ พ่ิมฤทธิท์ ําใหเ ลอื ดเย็น 3,4 และฤทธิ์หามเลือดแรงข้ึน โดยท่วั ไปใชแกอ าเจยี นเปน เลอื ด และเลอื ดกําเดาออก ขนาดท่ใี ชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแผนจนี ใชขนาด 6-12 กรัม ตมเอานํ้าดื่ม1 ขอหามใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคียง: ผปู วยทม่ี ปี ระจําเดอื นมามากเกินไปและสตรมี คี รรภหามใช (การแพทยแ ผนจนี )1 ขอมูลวิชาการทเ่ี กย่ี วขอ ง: 1. สารพโี อนอล (paeonol) ซ่งึ เปนองคป ระกอบทางเคมีของเปลอื กรากโบตน๋ั มีฤทธต์ิ าน อกั เสบในหนถู ีบจักร หนขู าว และหนตู ะเภา ชว ยใหการไหลเวยี นของเลอื ดดขี ึน้ ในสุนัข ระงับปวด ระบาย ความรอน ลดไข และสงบประสาทในหนูถีบจกั ร ขับปสสาวะในหนูขาว สารสกดั น้ําชวยใหการทํางานของ หัวใจหนขู าวเปน ปกติ และลดความดนั โลหิตในสนุ ัข6 2. ยาเตรยี มจากสารพีโอนอลมสี รรพคุณรักษาโรคผิวหนัง เชน ผดผืน่ แดง ยาตม มีสรรพคุณ รักษาโรคความดนั โลหิตสงู และโพรงจมกู อกั เสบจากการแพ6 3. เมื่อใหสารพีโอนอลที่ละลาย (แขวนตะกอน) ในน้ํามันถัว่ ลสิ ง ความเขมขน 1:1 ทางปาก และฉีดเขาชอ งทอ งหนถู บี จกั ร พบวาขนาดของสารพโี อนอลทท่ี ําใหห นูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มี คา เทา กับ 4.9 และ 0.735 กรัม/กิโลกรัม ตามลาํ ดับ6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
Page 134 124 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบบั แกไ ขเพิม่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Lei GL, Du BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: Xi-an World Library Publishing House, 2002. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. Hou JY. Cortex Moutan: mudan pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 135 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จีน 125 เปลอื กรากหมอ น : Sangbaipi (桑白皮) เปลอื กรากหมอน หรือ ซงั ไปผี คอื เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Morus alba L.วงศ Moraceae1 2 เซนตเิ มตร เปลือกรากหมอน (Cortex Mori) ช่ือไทย: เปลือกรากหมอน (ทั่วไป)2 ช่ือจีน: ซังไปผี (จีนกลาง), ซึงแปะพว ย (จีนแตจ ิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: White Mulberry Root-bark1 ช่ือเคร่ืองยา: Cortex Mori1 การเก็บเกยี่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวรากในฤดูใบไมรวงเมื่อใบรวงหมด และในตนฤดูใบไมผลิกอนเร่ิมผสมพันธุ แยก รากฝอยและดินออก ขูดเปลือกหยาบสีนา้ํ ตาลอมเหลืองออก หั่นตามยาว ลอกเอาเฉพาะเปลือกแลว นําไปตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวใ นทีม่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดังน้ี วิธีที่ 1 เปลือกรากหมอน เตรยี มโดยนําวัตถุดบิ สมนุ ไพรทไี่ ด มาลางดวยน้ําสะอาด ใสภาชนะปด ฝาไวเ พ่ือใหอ อนนมุ หัน่ เปน เสนหรือแวน หนา ๆ และนาํ ไปทําใหแ หง 1,3
Page 136 126 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วิธที ่ี 2 เปลือกรากหมอ นผดั นํ้าผ้งึ เตรียมโดยนํานํ้าผ้ึงบริสุทธ์ิมาเจอื จางดว ยนํ้าตม ในปริมาณที่ เหมาะสม ใสตัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 แลวคลุกใหเ ขา กนั หมักไวส กั ครูเ พือ่ ใหนาํ้ ผึ้งซึมเขา ในตวั ยา จากน้นั นําไปผัดในกระทะโดยใชระดับไฟปานกลาง ผดั จนกระทั่งมสี เี หลืองเขม และไมเ หนียวติดมอื นาํ ออกจาก เตา แลว ตัง้ ทิ้งไวใหเ ย็น (ใชน ้ําผึง้ บริสทุ ธ์ิ 25 กิโลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กิโลกรมั )3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี เปลือกหนา สีขาว เวลาปอกหรือลอกเปลือกตองมีละอองเกิดขึ้น4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: เปลือกรากหมอน รสอมหวาน เย็น มีฤทธ์ิระบายความรอน บรรเทาอาการหอบ ใชแกไอ หอบหืด (เนอ่ื งจากปอดรอ น) และมีฤทธข์ิ ับปส สาวะ ลดบวม แกอาการบวมนา้ํ (ระบายและดงึ ชขี่ องปอด ลงตํา่ ปรับการหมุนเวียนของนํา้ ขับนํา้ ตัวบวม หนาบวม กลามเนื้อผิวหนังบวม น้ําทวมปอด ทําให หอบ ปสสาวะขัด)1 เปลอื กรากหมอ นผดั นา้ํ ผึง้ จะชว ยเพิม่ ความชมุ ชนื้ ใหปอด มีฤทธริ์ ะงับไอ เหมาะสําหรบั ผูปว ย ทีม่ อี าการไอและหอบเนอื่ งจากปอดพรอง3 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 6-12 กรัม ตมเอาน้ําดื่ม1 ขอมูลวิชาการที่เก่ียวของ: 1. สารสกัดน้ําจากเปลือกรากหมอนมีฤทธิ์ลดนาํ้ ตาลในเลือดของหนูถีบจักรที่เปนเบาหวาน เนือ่ งจากไดร ับสาร streptozotocin เมอ่ื ฉีดเขาทางชองทอ งในขนาด 200 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั 5 2. สารสกดั บวิ ทานอลจากเปลอื กรากหมอนมฤี ทธลิ์ ดความดันโลหติ ในหนู สารสกดั แอลกอฮอล มีฤทธิ์ยบั ย้งั การเจริญของเช้อื รา5 3. สารสกดั นํา้ และสารสกดั บวิ ทานอลจากเปลอื กรากหมอ นฤทธแิ์ กไ อ ขับปส สาวะ ลดอาการบวม 5 และเปนยาสงบประสาทในสตั วท ดลองดวย 4. เมอ่ื ฉีดสารสกัดนํา้ เขาชอ งทอ งหนูถบี จกั รในขนาด 50 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม จะทาํ ใหสัตวทดลอง สงบ ความรสู กึ สัมผัสและความเจบ็ ปวดลดลง สารสกัดน้าํ เม่อื ใหหนูถบี จกั รทางปากในขนาดเทยี บเทา ผง ยา 2 กรมั /กิโลกรัม มฤี ทธร์ิ ะงบั ปวดไดด ีเทียบเทา แอสไพรนิ 0.5 กรัม/กโิ ลกรมั สารสกัดนาํ้ ยังมีฤทธ์ิ ยับยง้ั เชอื้ โรคท่เี กิดอาการเจบ็ คอ เชอ้ื บิด และเชื้อรา6
Page 137 คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 127 5. เมอื่ ใหผปู ว ยเดก็ ทีม่ อี าการนํ้าลายไหลทีม่ ุมปากรบั ประทานสารสกัดนํา้ ในขนาดเทียบเทาผง ยา 20 กรัม โดยเดก็ ทีอ่ ายุตํ่ากวา 1 ขวบ ใหใ ชข นาดเทยี บเทา ผงยา 10 กรมั และใหแบง รบั ประทานวัน ละ 2-3 ครั้ง ติดตอกันนาน 3-7 วนั พบวา อาการดังกลาวหายเปนปกติ โดยท่ัวไปเปลอื กรากหมอนไมใช เด่ยี ว สวนใหญจ ะใชเปนสว นประกอบในตาํ รบั ยารักษาอาการบวมน้าํ หลอดลมอักเสบ และเยอ่ื หุม ปอด อกั เสบ6 6. การศกึ ษาพษิ เฉียบพลันของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจ ากพชื ท้ังตนเมอื่ ฉีดเขา ชองทอง หนถู บี จกั ร มีคา LD50 มากกวา 1 กรัม/น้ําหนกั ตัว 1 กิโลกรัม สารสกดั บวิ ทานอลจากเปลอื กราก เม่ือให กนิ ฉดี เขาชองทอ ง หรือฉดี เขาหลอดเลือดดาํ ในหนูถีบจักร ขนาด 20, 10 และ 5 กรัม/กิโลกรมั นํ้าหนกั ตวั ตามลาํ ดบั ไมพ บความเปนพษิ 3 สารสกัดนา้ํ เมอ่ื ใหท างปาก หรือฉีดเขา ชองทอ งหนถู ีบจกั รในขนาด เทยี บเทา ผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรมั และฉดี เขาทางหลอดเลอื ดดาํ ในขนาดเทยี บเทาผงยา 5 กรมั /กิโลกรมั ไมท าํ ใหหนูตวั ใดตาย นอกจากน้ยี งั พบวา การใหยาในขนาดสงู ครงั้ เดียว หรอื แบงรบั ประทานครง้ั ละนอย ๆ ใหผ ลไมแ ตกตางกัน ซ่งึ จากผลการทดลองขา งตน อาจกลาวไดว าเปลือกรากหมอ นมพี ิษนอ ย6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวีคณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอื่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบบั แกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธิการ). สมุนไพรไทยกา วไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ ร.ส.พ., 2548. 6. Deng YC. Cortex Mori: sang bai pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 138 128 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก โปงรากสน : Fuling (茯苓) โปง รากสน หรอื ฝหู ลงิ คอื เหด็ ท่ีมชี ือ่ วิทยาศาสตรว า Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae1 โปงรากสน (Poria) 3 เซนติเมตร ชื่อไทย: โปงรากสน2 ช่ือจีน: ฝหู ลงิ (จีนกลาง), หกเหล็ง (จีนแตจ ว๋ิ )1 ชื่ออังกฤษ: Indian Bread1 ช่ือเครื่องยา: Poria1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏิบัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เก่ยี วสมุนไพรในปลายฤดูรอ น แยกเอาดนิ ออก รวมเปน กอง ๆ เกลยี่ ใหแ ผกระจาย ทงิ้ ไว ทอ่ี ุณหภมู หิ องจนกระทงั่ ผิวนอกแหง ทําซา้ํ หลาย ๆ คร้งั จนกระทง่ั ผวิ นอกยน และน้าํ ขางในเนื้อคอย ๆ ระเหย และตากใหแ หง ในที่รม เก็บรักษาไวใ นทม่ี อี ากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศด1ี การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตัวยาพรอ มใชมี 2 วธิ ี ดงั นี้ วิธที ี่ 1 โปง รากสน เตรยี มโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรท่ีได มาลางนํา้ ใหส ะอาด ใสใ นหมอ นง่ึ ทีม่ ฝี า ปด มิดชิด น่ึงสักครูจนกระทงั่ สมนุ ไพรออนนุม ปอกเปลือกออก หนั่ เปนแวนหนา ๆ และนําไปทําใหแ หง1,3 วิธีท่ี 2 โปง รากสนชาด เตรียมโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสลงในชาด (แรธาตุท่ีมีสีแดง เปน สารประกอบของเมอรค วิ รกิ ซลั ไฟด) ทีบ่ ดเปน ผงละเอยี ด คลกุ เคลาใหเ ขากนั (ใชผ งชาด 2 กโิ ลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรัม)3
Page 139 คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 129 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทีม่ ีคุณภาพดี ตองมีน้าํ หนกั มคี ณุ สมบัตแิ ขง็ และเหนยี ว ไมม รี อยแตก หนาตดั สขี าว ละเอียดเปนมัน4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: โปงรากสน รสจืดอมหวาน สุขุม มีฤทธิ์ระบายนา้ํ สลายความช้ืน สรรพคุณแกอาการบวมนาํ้ ปสสาวะขัด และมฤี ทธบิ์ าํ รงุ มา ม กลอ มประสาท แกอาการมามพรอ ง ระบบการยอ ยอาหารออ นแอ เบ่ือ อาหาร ออ นเพลีย ใจส่นั นอนไมหลับ1 3 โปงรากสนชาด มีฤทธก์ิ ลอ มประสาทแรงขึ้น ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใชขนาด 9-15 กรัม ตมเอานํา้ ดื่ม1 ขอมูลวิชาการที่เกี่ยวของ: 5 1. ผง สารสกดั นํ้ามีฤทธิ์สงบประสาทในหนูถีบจกั ร คลายกลา มเนอื้ เรยี บของลาํ ไสก ระตาย ยาเม่ือใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มผี ลยับย้ังอาการผิวหนงั อกั เสบ สาร สกัดนํ้าตาลเชิงซอนเมื่อใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 250, 500, 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม วันละคร้ัง ติดตอกันนาน 7 วัน มีฤทธ์ิเสริมมามใหแข็งแรง และสารสกัด 70% แอลกอฮอล เมือ่ ฉีดเขา ชองทอง กระตา ยในขนาด 0.5 กรัม/กโิ ลกรัม วนั ละครงั้ ตดิ ตอกนั นาน 5 วัน มฤี ทธ์ิขับปสสาวะ นอกจากนยี้ ัง พบวา เมือ่ ฉีดยาเตรียมเขาใตผ วิ หนังหนขู าวในขนาดเทียบเทาผงยา 1.4 กรมั /กิโลกรมั วันละครงั้ ตดิ ตอกัน นาน 8 วัน มผี ลปกปอ งตบั ได6 2. สารสกดั นา้ํ สามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจติ ใจไมสงบชนิดเร้ือรัง และมีฤทธ์ิระบาย ความช้ืนและน้าํ 6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. วิชัย โชคววิ ัฒน, ชวลิต สนั ตกิ ิจรุงเรือง, เย็นจติ ร เตชะดํารงสิน. ตาํ รับยาจีนทีใ่ ชบอยในประเทศไทย เลม 1. พิมพครงั้ ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร : สํานกั งานกิจการโรงพิมพ องคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถมั ภ, 2549. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 6. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 140 130 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ผลพุดซอ น : Zhizi (栀子) ผลพุดซอน หรือ จือจ่ือ คือ ผลสุกที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Gardenia jasminoides J. Ellis วงศ Rubiaceae1 2 เซนตเิ มตร ผลพุดซอ น (Fructus Gardeniae) ช่ือไทย: ผลพุดซอน, ผลพุดจีน, ผลพุดใหญ (ภาคกลาง); ผลพุทธรักษา (ราชบุรี); ผลเคดถวา, ผลแคถวา (เชียงใหม)2 ช่ือจีน: จือจ่ือ (จีนกลาง), กีจ้ือ (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Cape Jasmine Fruit1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Gardeniae1 การเก็บเก่ียวและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว: เก็บเกี่ยวผลสุกในฤดูใบไมรวงเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเปนสีเหลืองแดง แยกเอากานผลและสิ่ง แปลกปลอมท้ิง น่ึงดวยไอน้าํ หรือลวกดวยนาํ้ เดือดสักครู ทําใหแหง เก็บรักษาไวในท่ีมีอากาศเย็นและ แหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตวั ยาพรอ มใชมี 4 วธิ ี ดงั นี้ วิธีท่ี 1 ผลพดุ ซอ น เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาแยกสงิ่ อน่ื ทปี่ ะปนออก ทบุ ใหแตกกอ นใช1 ,3 วิธีที่ 2 ผลพุดซอ นผดั เตรียมโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจ ากวธิ ที ่ี 1 มาทุบใหแ ตก ใสกระทะ นําไปผัดโดย ใชไ ฟออน ๆ ผดั จนกระทง่ั ผวิ นอกสเี หลอื งเขม นาํ ออกจากเตา ตง้ั ทง้ิ ไวใหเย็น3
Page 141 คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จนี 131 วิธีท่ี 3 ผลพดุ ซอนผัดเกรยี ม เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจ ากวิธีที่ 1 มาทบุ ใหแตก ใสก ระทะ นาํ ไป 3 ผดั โดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทง่ั ผวิ นอกสีเหลอื งไหม นําออกจากเตา ตงั้ ทิ้งไวใ หเ ยน็ วิธีที่ 4 ผลพดุ ซอ นถา น เตรยี มโดยนําตวั ยาท่ไี ดจ ากวธิ ที ี่ 1 มาทบุ ใหแตก ใสก ระทะ นาํ ไปผัด โดยใชร ะดบั ไฟแรง ผัดจนกระทั่งผวิ นอกของตวั ยามสี นี ํ้าตาลดํา พรมน้าํ เลก็ นอย นําออกจากเตา ต้งั ทง้ิ ไวใ หเ ยน็ 3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคุณภาพดี ผลมขี นาดเลก็ เปลอื กผลบาง เน้ือมาก ดา นนอกและดานในมีสแี ดง4 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ผลพดุ ซอน รสขม เยน็ มีฤทธิข์ บั ความรอ น แกห งุดหงิด แกไข (ความรอนจากหวั ใจทาํ ให หงดุ หงิดและกระวนกระวาย) มีฤทธ์ริ ะบายความรอ น เสริมความชืน้ แกด ซี าน (ตัวเหลอื งจากความรอน หรือรอนช้ืนของตับและถุงนา้ํ ดี) มีฤทธ์ิบรรเทาอาการพิษอักเสบ ทาํ ใหเลือดเย็น แกเลือดกําเดาไหล ปสสาวะและอาเจียนเปน เลือด (เนอื่ งจากโลหติ มีพิษรอน) และมฤี ทธลิ์ ดบวมจากการอักเสบ ระงบั ปวด แกอกั เสบบวมแดง พิษอกั เสบของแผล ฝอกั เสบบวมจากการกระทบกระแทก1 ผลพดุ ซอนผดั และผลพดุ ซอ นผัดเกรียม มสี รรพคณุ และวธิ ใี ชเหมอื นกัน แตผลพุดซอ นผดั จะมีรสขมและเยน็ มากกวา โดยทวั่ ไปหากความรอ นสงู จะใชผลพุดซอนผัด สาํ หรับผลพุดซอนผดั เกรยี ม จะใชใ นกรณที ี่ระบบกระเพาะอาหารและมา มพรอ ง ตวั ยาทง้ั สองชนิดนีม้ ีฤทธ์ริ ะบายความรอ น แกหงุดหงดิ ใชร ักษาอาการความรอ นจากหวั ใจทําใหหงุดหงดิ ตับรอนทําใหตาแดง3 ผลพดุ ซอ นถาน มีฤทธทิ์ ําใหเ ลือดเยน็ และหามเลอื ด ใชรักษาอาการปส สาวะและอาเจยี นเปน เลอื ด เลือดกําเดาออก ไอเปน เลอื ด3 ขนาดท่ใี ชและวธิ ีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 6-9 กรัม ตม เอานํ้าดม่ื 1 ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: การแพทยแ ผนจนี ผลพดุ ซอนไมเหมาะสาํ หรบั คนธาตุออ น อจุ จาระเหลว1 ขอมลู วชิ าการทเี่ กีย่ วของ: 1. สารสกดั นํ้ามีฤทธ์ิปกปอ งตับและขับน้ําดใี นหนูขาว ระงับปวด ลดไข และแกโรคผิวหนงั หลาย ชนดิ ในหนถู ีบจักร สารสกดั แอลกอฮอล สารสกัดเอทลิ อะซเี ตท และสารสกดั เมทานอลมฤี ทธิ์ตานอักเสบ ในหนถู บี จักรและกระตาย5,6
Page 142 132 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2. สารสกัดนา้ํ มีสรรพคุณแกโรคดซี า นชนดิ เฉียบพลัน กระเพาะปสสาวะอกั เสบชนิดเฉยี บพลนั ลดบวม และระงบั ปวด5,6 3. การศึกษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนถู บี จักร โดยฉดี สารสกัดเมทานอลเขาชองทอ งและใหท างปาก พบวาขนาดของสารสกดั เทียบเทาผงยาทท่ี าํ ใหห นถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 17.1 และ 107.4 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั 5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบบั แกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Hou JY. Fructus Gardeniae: zhi zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 143 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 133 ผลเลีย่ น : Chuanlianzi (川楝子) ผลเล่ียน หรือ ชวนเลี่ยนจื่อ คือ ผลสุกที่ทาํ ใหแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Melia toosendan Sieb. et Zucc. วงศ Meliaceae1 2 เซนติเมตร ผลเลย่ี น (Fructus Toosendan) ช่ือไทย: ผลเลี่ยน, ผลเคี่ยน, ผลเล่ียนใบใหญ (ภาคกลาง); ผลเกรียน, ผลเฮี่ยน (ภาคเหนือ)2 ชื่อจีน: ชวนเล่ียนจ่ือ (จีนกลาง), ชวนเหลี่ยนจี้ (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Szechwan Chinaberry Fruit1 ชื่อเครื่องยา: Fructus Toosendan1 การเกบ็ เกีย่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวผลสกุ ในฤดูหนาว แยกสง่ิ อน่ื ท่ีปะปนออก ตากแดดใหแ หง เกบ็ รกั ษาไวใ นทมี่ ีอากาศ เย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตัวยาพรอ มใช: การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชมี 3 วธิ ี ดงั น้ี วิธที ี่ 1 ผลเลยี่ น เตรยี มโดยนาํ วตั ถุดิบสมนุ ไพรทปี่ ราศจากสงิ่ ปนปลอมมาทบุ ใหแตกกอ นใช1 ,3 วธิ ที ี่ 2 ผลเลี่ยนผัด เตรียมโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจากวธิ ีท่ี 1 มาหั่นเปนแวน หรอื เปนช้ินเล็ก ๆ นาํ ไป ใสก ระทะ ผัดโดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระทง่ั ผวิ นอกมสี เี หลอื งไหมหรอื สีนา้ํ ตาลไหม นาํ ออกจาก เตา ต้งั ทง้ิ ไวใ หเยน็ แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3
Page 144 134 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก วิธีที่ 3 ผลเลี่ยนผัดนาํ้ เกลือ เตรียมโดยนําตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 มาหั่นเปนแวนหรือเปนช้ิน เล็ก ๆ ใสใ นภาชนะทเ่ี หมาะสม เติมนํา้ เกลอื คลกุ เคลาใหเขากนั ตัง้ ทิ้งไวจ นกระทัง่ นาํ้ เกลอื แทรกซมึ เขาไป ในเน้อื ตวั ยา จากนั้นนาํ ไปใสก ระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกมีสีเหลอื งเขม นํา ออกจากเตา ตง้ั ท้ิงไวใ หเ ยน็ แลวรอ นเอาเศษเล็ก ๆ ออก (ใชเ กลือบรสิ ุทธ์ิ 2 กิโลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรัม)1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทีม่ ีคุณภาพดี ตองเปนผลขนาดใหญ มเี น้ือมาก ผวิ นอกสเี หลืองทอง เนอื้ ในผลสขี าวเหลอื ง4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: ผลเลี่ยน รสขม เย็น มีฤทธ์ทิ าํ ใหชหี่ มนุ เวียน บรรเทาปวด สรรพคุณคลายเครียด แกร อ นใน 1 บรรเทาอาการปวดตาง ๆ และมีฤทธ์ิฆาพยาธิ หดิ กลาก เกลอ้ื น แกป วดทองเนอื่ งจากพยาธติ า ง ๆ ผลเลยี่ นผดั จะชว ยใหรสขมและเย็นลดลง ลดพิษ มฤี ทธ์ชิ ว ยใหช ่ีหมุนเวยี นและบรรเทาปวด ใชร ักษาอาการปวดบรเิ วณใตชายโครงและปวดทอง3 ผลเลย่ี นผัดนํา้ เกลือ จะชว ยนาํ ตวั ยาลงสสู ว นลา งของรางกาย (ตง้ั แตใ ตสะดอื ลงมาจนถงึ ทอง) ใชรกั ษาอาการไสเ ลอ่ื น อณั ฑะปวดบวม3 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนไทย: ผลเล่ยี น ใชเปนยาขับพยาธิตวั กลม แกโ รคเรอื้ น และฝคันทะมาลา5,6 ขนาดทใ่ี ชแ ละวิธีใช: การแพทยแ ผนจนี ใชขนาด 4.5-9 กรมั ตมเอานํ้าดม่ื 1 การแพทยแ ผนไทย ใชข นาด 15-20 กรมั 5 และใชภายนอกโดยนําผลเลย่ี น 5-7 ตมเอานํ้าดืม่ ผลมาตําใหล ะเอียด เตมิ น้ํามันพืช แลว ใชท าบริเวณท่เี ปน วันละ 2-3 คร้ัง ติดตอ กันจนกวาจะหาย นอกจากน้ียังสามารถใชผลทโี่ ตเต็มท่สี ด ๆ 10-15 ผล โขลกใหละเอียด เตมิ นํา้ มันมะพราว 3-4 ชอนแกง ชโลมผมที่เปน เหาท้งิ ไว 1 ชั่วโมง แลว สระใหสะอาด สระติดตอ กัน 2-3 วัน6 ขอหา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขา งเคียง: ผลเลย่ี นมีพิษเล็กนอ ย ไมควรใชปรมิ าณมากหรือใชต อเน่ืองนาน ๆ (การแพทยแ ผนจีน) อาการ พิษทีพ่ บ ไดแก หายใจขัด แขนขาไมม ีแรง ปวดศีรษะ คลน่ื ไสอาเจยี น1,7 ขอ มลู วชิ าการที่เกี่ยวของ: 1. สารสกัดแอลกอฮอลและสารทเู ซนดานิน (toosendanin) มีฤทธิถ์ ายพยาธิ สารทูเซนดานนิ มีฤทธก์ิ ระตุนการบบี ตัวของกลา มเนื้อเรียบในกระตา ย และสารสกดั แอลกอฮอลค วามเขม ขน 10 % มี
Page 145 คูมือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 135 ฤทธต์ิ านเชอ้ื รา8 2. สารพษิ ทีพ่ บในผลเลยี่ นคือ แอลคาลอยด azaridine ซึง่ มฤี ทธิ์ทําใหคลื่นไสอ าเจยี น และ ทองรว งอยา งแรง เปนอัมพาต หายใจไมสม่าํ เสมอ หายใจขัด เดก็ เลก็ ๆ ถา กนิ ผลเลีย่ นเขาไปเพียง 6-8 ผล จะเปน อนั ตรายถึงตายได การรกั ษาทาํ ไดโ ดย ทําใหอ าเจียน ใหด ื่มนมหรือไขข าวเพ่อื ลดการดดู ซมึ ของสารพษิ แลว รบี นําสงโรงพยาบาล อาจใหน ํา้ เกลอื เพือ่ รกั ษาสมดลุ ของนํา้ และเกลอื แร และรักษาตาม อาการ9 3. ยาเมด็ ทเู ซนดานินมีสรรพคุณถา ยพยาธทิ งั้ ในเดก็ และผูใหญ8 4. เม่ือฉดี สารทเู ซนดานินเขาชอ งทอ ง หลอดเลอื ดดาํ ใตผวิ หนงั และใหทางปากหนถู บี จักร พบวา ขนาดสารทเู ซนดานนิ ท่ีทําใหหนถู บี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กบั 13.8, 14.6, 14.3 และ 244.2 มลิ ลิกรมั /กิโลกรมั ตามลําดับ เมือ่ ฉดี สารดงั กลาวเขาใตผ วิ หนังและใหท างปากหนูขาว และฉีดเขาหลอด เลือดดํากระตาย พบวา ขนาดสารดงั กลา วทีท่ ําใหสัตวท ดลองตาย รอยละ 50 (LD50) มคี าเทา กบั 9.8, 120.7 และ 4.2 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตามลําดับ8 5. มีรายงานการทดลองทางคลนิ ิก พบวา ผลเลี่ยนมีสรรพคุณรักษาอาการตอมน้าํ นมแขง็ กระดา ง ชนิดเฉียบพลนั และแกก ลากเกล้อื นบนหนังศรี ษะไดผลด6ี 6. มรี ายงานการทดสอบความเปนพษิ พบวา สารสกดั ผลดว ยคลอโรฟอรม เมื่อฉีดเขา ชองทอ ง ของหนถู ีบจักร ขนาดที่ทําใหหนูตายรอยละ 50 เทากับ 1.5 กรัม/กโิ ลกรัม สว นสารสกัดผลดวยอีเทอร เม่อื ฉีดเขาชอ งทอ งของหนถู บี จักร ขนาดท่ที ําใหหนูตายรอยละ 50 เทา กับ 1.04 กรมั /กโิ ลกรมั 8 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธิการ). ชือ่ พรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบบั แกไ ขเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. พเยาว เหมอื นวงษญาติ. สมนุ ไพรกา วใหม. พิมพค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท เมดคิ ัล มีเดยี จํากัด, 2537. 6. สนุ ทรี สิงหบตุ รา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนดิ . พมิ พคร้งั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พร้นิ ติ้งเฮาส, 2536. 7. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984. 8. Qu SY. Fructus Toosendan: chuan lian zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. สถาบนั วจิ ัยสมนุ ไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . คูมือฐานขอมลู พืชพิษ. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พกรมการ ศาสนา, 2545.
Page 146 136 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ผกั คาวทอง : Yuxingcao (鱼腥草) ผักคาวทอง หรือ ยฺหวีซงิ เฉา คอื สวนเหนือดินแหง ของพืชท่ีมชี ่อื วิทยาศาสตรว า Houttuynia cordata Thunb.วงศ Saururaceae1 (Herba 3 เซนติเมตร ผักคาวทอง Houttuyniae) ชื่อไทย: ผักคาวทอง, พลูแก (กรุงเทพฯ); ผักคาวตอง, ผักขาวตอง (ภาคเหนือ); ผักกานตอง (แมฮองสอน)2 ชื่อจีน: ยฺหวีซิงเฉา (จีนกลาง), ห่ือชอเชา (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Heartleaf Houttuynia Herb1 ชื่อเครื่องยา: Herba Houttuyniae1 การเก็บเก่ียวและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเกี่ยว: เกบ็ เก่ียวสวนเหนอื ดินในฤดูรอ นเมือ่ พชื เจริญเติบโตเต็มที่ แยกเอาสิง่ ปะปนออก ตากแดดใหแ หง 1 เกบ็ รกั ษาไวใ นท่ีมอี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลังเก็บเก่ยี วสมนุ ไพรแลว แยกเอารากและสง่ิ อื่นท่ปี ะปนออก ลา งอยา งรวดเร็วใหส ะอาด หั่น เปน ทอ น ๆ และนาํ ไปตากใหแ หง 1,3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี ตองมีสีนํา้ ตาลแดงออน ๆ ใบและลําตนสมบูรณ และมีกลิ่นคาวมาก
Page 147 คูมือการใชส มนุ ไพรไทย-จนี 137 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ผักคาวทอง มีรสเผ็ด เย็นเล็กนอย มีฤทธ์ิระบายความรอน ขับพิษ ขับหนอง ขับปสสาวะ ใชรักษาฝในปอด ไอหรืออาเจียนออกมามีเลือดปนหนอง ขับปสสาวะ แกอาการบวมน้ํา ฝอักเสบ บิด โรคติดเช้ือระบบทางเดินปสสาวะ ตานเช้ือแบคทีเรียโดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ1,5,6 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: แพทยแผนโบราณใชตนแหงเปนยาขับปสสาวะ แกบวมนํ้า ฝบวมอักเสบ ไอ บิด โรคติดเชื้อ ทางเดินปส สาวะ หชู ั้นกลางอักเสบและรดิ สดี วง ตน สดใชภ ายนอกเปน ยาพอกฝ บวมอกั เสบ บาดแผล โรคผิวหนงั งพู ษิ กดั และชว ยใหก ระดกู เช่ือมติดกนั เรว็ ข้ึน ใบสดผงิ ไฟพอนิม่ ใชพ อกเนอื้ งอกชนดิ ตา ง ๆ รากเปนยาขับปสสาวะ7-9 ขนาดทใี่ ชแ ละวิธีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 15-25 กรมั 1 โดยตม เอาน้ําดื่ม กอนตมใหแ ชน้ําไว 1-3 นาที ตม ให เดอื ดนาน 5 นาที หากใชส ดใช 30-50 กรัมโดยตมหรือคั้นเอานํา้ ดื่ม หากใชภายนอกใหใ ชสมุนไพร 1,5 ปรมิ าณท่เี หมาะสม ตม เอานํา้ ชะลา งหรือใชตนสดตําพอก ขอมูลวชิ าการทเ่ี ก่ยี วขอ ง: 1. มีรายงานวา สารประเภทแอลคาลอยดทีแ่ ยกไดจ ากสว นเหนือดนิ ของผกั คาวทองแสดงฤทธิ์ ปานกลางในหลอดทดลองในการทําลายเซลลมะเรง็ เพาะเลีย้ ง 5 ชนดิ คือ เซลลมะเร็งปอด เซลลมะเร็ง รงั ไข เซลลเนือ้ งอกท่เี ปนเนื้อรา ย เซลลม ะเร็งสมอง และเซลลม ะเรง็ ลําไสใ หญ1 0 2. สารสกดั น้ําจากผกั คาวทองมีฤทธยิ์ บั ยงั้ การเจริญของเซลลม ะเร็งเมด็ เลือดขาวเพาะเลยี้ ง 5 ชนิด ไดแ ก L1210, U937, K526, Raja และ P3HR1 โดยมีคา IC50 อยูระหวา ง 478-662 ไมโครกรมั / มิลลลิ ิตร ในประเทศจีน มกี ารใชผักคาวทองเปนสว นประกอบในตํารบั ยารักษามะเรง็ ทางเดินอาหารและ มะเรง็ ทางเดนิ หายใจ รวมไปถงึ เน้ืองอกในรงั ไข มะเรง็ ปากมดลูก มะเรง็ เตา นม มะเร็งหลอดอาหาร และ มะเร็งปอด เพิ่มการไหลเวียนของเลอื ด เพ่ิมภมู ิตานทาน และรกั ษาอาการขา งเคียงทเี่ กดิ จากการใชร ังสี รกั ษาและเคมีบําบดั 10 3. นํา้ มันหอมระเหยจากผักคาวทองสามารถยับยง้ั การเจริญเติบโตของเชอ้ื ไวรัสไขหวดั ใหญใ น เซลลเ พาะเลยี้ ง และยังพบวา นา้ํ มนั ระเหยงายทไ่ี ดจ ากการกลั่นดวยไอน้ําของผกั คาวทองสดมฤี ทธ์ิฆา เชื้อ ไวรสั เริม ไขห วัดใหญ และเอดส ในประเทศจนี มีการใชผ กั คาวทองเปน สวนผสมในตาํ รับยารกั ษาโรค หลอดลมอกั เสบชนิดเฉยี บพลนั และชนดิ เร้อื รงั ตดิ เชือ้ เฉียบพลนั หวดั ไขหวัดใหญ และการติดเชื้อทางเดนิ
Page 148 138 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก หายใจยาลดไข เปน สว นผสมในตาํ รบั ยาใชใ นการปอ งกนั และรกั ษาอาการโรคทเ่ี กดิ จากไวรสั ในไก1 0 4. มีรายงานการศึกษาในหลอดทดลองวา สารสกัดน้ําจากผกั คาวทองมีฤทธ์ติ านเชื้อแบคทเี รีย ชอ งปาก นาํ้ มันทสี่ กัดจากผกั คาวทองมีฤทธยิ์ ับยั้งการเจริญเตบิ โตของจลุ ชพี หลายชนดิ โดยเฉพาะยสี ต ในประเทศจนี มีการใชผกั คาวทองเปนสวนประกอบในตํารับยาสาํ หรบั ใชปอ งกนั และรกั ษาโรคติดเช้อื ใน ชอ งปาก ยารักษาสิว ปอ งกันเชอ้ื รา รกั ษาโรคผวิ หนงั เชน กลาก ข้เี ร้ือนกวาง เปน ตน10 5. สวนสกัดนาํ้ จากผักคาวทองมฤี ทธิ์ตา นการอักเสบ ในประเทศจีนใชผ กั คาวทองเปนสว นประกอบ ในตาํ รับยารกั ษาอาการอกั เสบ แผลไฟไหมน ้าํ รอนลวก โรครมู าตอยด หนองใน และรกั ษาแผลหลงั ผาตดั 10 6. จากการทดลองในกบและคางคก พบวานํา้ คั้นจากตนสดมีผลขยายหลอดเลือดฝอย ทาํ ให อัตราการไหลเวยี นของเลือดและการขับปส สาวะเพมิ่ ขน้ึ 10 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชือ่ พรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน ฉบบั แกไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมนุ ไพรไทย-จีน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพก ารศาสนา, 2547. 6. Huang KC. The pharmacology of Chinese herbs. 2nd ed. Washington DC: CRC Press LLC, 1999. 7. เย็นจิตร เตชะดํารงสิน, ธิดารตั น บุญรอด, จารยี บันสิทธ,์ิ ประไพ วงศสนิ คงม่นั , ดวงเพญ็ ปท มดิลก, จริ านชุ มิ่งเมอื ง. คุณภาพ ทางเคมีของผักคาวตอง. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, จารยี บนั สิทธ,์ิ กลั ยา อนลุ ักขณาปกรณ, เยน็ จิตร เตชะดาํ รงสิน, ธดิ ารัตน บุญ รอด. บุษราวรรณ ศรีวรรธนะ (คณะบรรณาธิการ). ผักคาวตอง Houttuynia cordata Thunb. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพองคการ ทหารผานศกึ , 2546. 8. สุนทรี สงิ หบุตรา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนิด. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พรนิ ต้งิ เฮาส, 2536. 9. สาํ ลี ใจดี และคณะ. การใชสมนุ ไพร เลม 2. โครงการพฒั นาเทคนิคการทาํ ยาสมุนไพร. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท สารมวลชน จํากดั , 2524. 10. กัลยา อนุลักขณาปกรณ. ผักคาวตองกบั การศกึ ษาทางดานเภสัชวิทยา. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, จารยี บนั สทิ ธ์,ิ กัลยา อนุลกั ขณา ปกรณ, เยน็ จติ ร เตชะดํารงสิน, ธิดารตั น บุญรอด. บษุ ราวรรณ ศรวี รรธนะ (คณะบรรณาธิการ). ผกั คาวตอง Houttuynia cordata Thunb. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พองคการทหารผา นศึก, 2546.
Page 149 คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 139 ผวิ สมจนี : Chenpi (陈皮) ผิวสมจีน หรือ เฉินผี คือ เปลือกผลแกจัดที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Citrus reticulata Blanco วงศ Rutaceae1 2 เซนติเมตร ผิวสมจีน (Pericarpium Citri Reticulatae) ชื่อไทย: ผิวสมเขียวหวาน (ท่ัวไป); ผิวสมจุก (ภาคเหนือ, ปตตานี); ผิวสมแปนเกล้ียง, ผิวสม แปนหัวจุก (ปตตานี); ผิวสมเหม็น (ภาคกลาง); ผิวสมข้ีมา (นครราชสีมา); ผิวสมเชียงตุง (ภาคเหนือ); ผิวสมแกวเกลี้ยง, ผิวสมแกวโบราณ, ผิวสมจันทบูร, ผิวสมตรังกานู, ผิวสมแปน กระดาน, ผิวสมแปนข้ีมา, ผิวสมแสงทอง (กรุงเทพฯ)2 ชื่อจีน: เฉินผี (จีนกลาง), ถิ่งพวย (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Dried Tangerine Peel1 ช่ือเครื่องยา: Pericarpium Citri Reticulatae1 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเกี่ยวผลสุกปลายฤดูใบไมรวงถึงตนฤดูหนาว ปลอกเอาเฉพาะผิวผลมาตากใหแหงหรือ ทําใหแหงท่ีอุณหภูมิตา่ํ เกบ็ รักษาไวใ นทีม่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตัวยาพรอมใชมี 4 วธิ ี ดังน้ี วธิ ที ี่ 1 ผวิ สม จีน เตรียมโดยนําวตั ถุดบิ สมนุ ไพรทีป่ ราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลา งนํา้ ใหส ะอาด หมกั ไวสกั ครูใ หอ อนนุม หน่ั เปน เสนฝอย ทาํ ใหแหงที่อุณหภูมติ าํ่ 3
Page 150 140 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก วิธีท่ี 2 ผิวสมจีนผัด แบงเปน 1) ผิวสมจีนผัดดิน (เปน ดินที่อยใู นเตาเผาไฟเปน ระยะเวลานานมาก มักมีฤทธิ์เปนดางออน คน จนี เรียกดนิ ชนดิ นีว้ า ฝหู ลงกาน) เตรยี มโดยนําดินใสใ นภาชนะท่ีเหมาะสม ใสตัวยาทไี่ ดจ ากวิธที ี่ 1 ลงไป ผัด โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระท่ังตัวยามีสีเหลืองเขม นาํ ออกจากเตา รอ นเอาดนิ ออก นาํ ตัวยาท่ีได ไปวางแผอ อก ตง้ั ท้งิ ไวใ หเย็น (ใชดนิ ฝหู ลงกาน 30 กิโลกรมั ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )3 2) ผิวสมจีนผัดราํ ขาวสาลี เตรยี มโดยนาํ รําขา วสาลีใสลงในภาชนะที่เหมาะสม ใหค วามรอ น โดยใชร ะดบั ไฟปานกลางจนกระทงั่ มคี วนั ออกมา ใสต วั ยาทไ่ี ดจ ากวิธที ี่ 1 ลงไป คนอยางรวดเรว็ จนกระท่ัง ผิวของตัวยาเปน สีเหลืองเขม นําออกจากเตา แลวรอ นเอารําขา วสาลีออก ต้ังทง้ิ ไวใ หเ ย็น (ใชรําขา วสาลี 30 กิโลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กิโลกรมั )3 วธิ ที ี่ 3 ผิวสมจีนผัดนาํ้ ผึ้ง เตรยี มโดยนาํ น้าํ ผง้ึ บริสทุ ธิ์มาเจอื จางดวยน้ําตมในปรมิ าณทเี่ หมาะสม ใสตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีท่ี 1 แลวคลกุ ใหเ ขา กนั หมกั ไวสกั ครูเพ่อื ใหน ้าํ ผึ้งซึมเขา ในตัวยา จากน้นั นําไปผัดใน กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทง่ั มสี ีเหลืองเขมและไมเ หนียวตดิ มอื นําออกจากเตา แลวต้ัง ท้ิงไวใ หเย็น (ใชน ํา้ ผ้ึงบริสุทธ์ิ 18.75 กิโลกรัม ตอตวั ยา 100 กโิ ลกรัม)3 วิธีที่ 4 ผวิ สม จนี ถาน เตรียมโดยนําตวั ยาที่ไดจากวธิ ที ่ี 1 ใสก ระทะ นาํ ไปผดั โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผดั จนกระทง่ั ผิวนอกมีสนี ้ําตาลดาํ พรมน้ําเลก็ นอย นําออกจากเตา ต้ังทงิ้ ไวใหเ ย็น แลวนาํ ไป ตากแหง ในท่ีรม3 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาทม่ี คี ณุ ภาพดี ตองเปน เสนขนาดสมํ่าเสมอ ผวิ นอกสีแดงอมสม หรอื สีแดงอมเหลือง ผวิ 4 ดา นในสเี หลอื งอมขาว กลนิ่ หอม รสเผด็ สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: ผิวสม จนี รสขมเผด็ อนุ มีฤทธ์ทิ าํ ใหชห่ี มนุ เวยี น บาํ รงุ มาม สรรพคุณ แกอ าหารไมยอ ย แก ปวดทอง มีฤทธ์ิสลายความชน้ื ละลายเสมหะ สรรพคุณแกเ สมหะและความชื้นตกคาง บรรเทาอาการไอ1,3 ผิวสมจีนผัดดิน (ดินฝูหลงกาน) รสขมเล็กนอย มีกล่ินหอม สรรพคณุ บาํ รงุ มาม 3 แกทองเสีย ผิวสมจีนผัดราํ ขาวสาลี รสขมเล็กนอย รสเผ็ดจะลดลง แตคุณสมบัติแหงจะนุมนวลข้ึน มี 3 กลิ่นหอม เพ่ิมฤทธ์ิชวยใหการทํางานของมามและกระเพาะอาหารดีข้ึน ผิวสมจีนผัดน้ําผ้ึง รสหวาน สรรพคุณบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ3 ผิวสมจีนถาน รสจดื มีกลน่ิ ออน ๆ สรรพคุณเปนยาหามเลือด3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208