น้าํ ทีพ่ อเพียงเพื่อชีวติ เพยี งพอ โครงการอา่ งเกบ็ นํา้ หว้ ยใหญ่วังแขม จังหวัดลพบุรี ขอพระราชทานอ่างเก็บนํ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับฎีกาขอ พระราชทานโครงการกอ่ สรา้ งอา่ งเกบ็ นา้ํ หว้ ยใหญ่ (วงั แขม) ตำ� บลมหาโพธ์ิ อำ� เภอสระโบสถ์ จงั หวดั ลพบรุ ี เปน็ โครงการ อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ และให้มีการส่งเสริมระบบ ทฤษฎใี หม่ในพ้นื ท่ีโครงการ ซง่ึ กรมชลประทานได้ไปด�ำเนนิ การก่อสร้างร่วมกับระบบฝาย ท�ำให้ราษฎรในเขตพ้ืนที่ ตำ� บลสระโบสถ์ ตำ� บลมหาโพธ์ิ และตำ� บลนยิ มชัย ประมาณ ๗,๐๐๐ ไร่ ได้มีแหล่งน้ําไว้ใช้ส�ำหรับการอุปโภค-บริโภค และท�ำเกษตรกรรม โดยได้มีการวางแผนขยายพ้ืนที่รับ ประโยชน์ด้วยการก่อสร้างระบบส่งน้�ำเป็นคลองดาด คอนกรีตฝั่งซ้ายขวา รวมความยาว ๒๗.๑ กิโลเมตร ซึ่ง จะสามารถขยายพื้นท่ีรับประโยชน์ได้มากข้ึนประมาณ ๒๓,๗๐๐ ไร่ พ้ืนท่ีรบั ประโยชนข์ องโครงการ อ่างเก็บนำ้าหว้ ยใหญว่ ังแขม สระน้าำ เกษตรกร พ้ืนท่รี ับประโยชน์โครงการ ๗,๐๐๐ ไร่ ตาำ บลสระโบสถ์ ตาำ บลมหาโพธิ และตำาบลนิยมชัย สว่ นขยายพืน้ ทรี่ ับประโยชน์ ๒๓,๗๐๐ ไร่ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 47 เพือ่ ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
เกษตรทฤษฎีใหม.่ ..ทีห่ ้วยใหญ่วังแขม ๓๐-๓๐-๓๐-๑๐ เกษตรกรท่ีได้รับการส่งเสริมแนวทาง การเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชด�ำริ ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อประชาชนในระดับครัวเรือนอย่างชัดเจน จากการส�ำรวจกลุ่มเกษตรกรผู้รับประโยชน์จาก โครงการ คือ กลมุ่ ๑ เกษตรกรไดร้ บั ประโยชนโ์ ดยตรงจาก การใช้นํ้าโครงการห้วยใหญ่วังแขมร่วมกับสระเก็บนํ้า ทไ่ี ดร้ บั การสนบั สนนุ ขดุ ให้ พรอ้ มทง้ั ปจั จยั การผลติ เพอ่ื สง่ เสรมิ อาชพี ตามแนวทฤษฎใี หม่ จำ� นวน ๒๕ ครวั เรอื น ได้ประโยชน์ ร้อยละ ๑๐๐ กลุ่ม ๒ เกษตรกรได้ใช้นํ้าจากโครงการ รว่ มกับน้าํ จากสระ จ�ำนวน ๒๖ ครวั เรอื น ไดป้ ระโยชน์ ร้อยละ ๑๐๐ กลุ่ม ๓ เกษตรกรไดใ้ ชน้ ํา้ จากโครงการผ่าน ระบบฝายหรือการส่งนํ้าตามคลองธรรมชาติ จ�ำนวน ๖๕ ครัวเรอื น ได้ประโยชน์ รอ้ ยละ ๙๒.๓ ผลทางเศรษฐกจิ จากการส�ำรวจรายได้ของคนในครัวเรือนในเขตพ้ืนที่ โครงการปี พ.ศ. ๒๕๕๑ พบวา่ มรี ายได้เฉลยี่ คนละ ๔๘,๘๘๕ บาท สูงกว่าเกณฑ์ความจ�ำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ํากว่า คนละ ๒๓,๐๐๐ บาท/ปี ผลทางสงั คม เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชด�ำริในโครงการ ห้วยใหญ่วังแขม ประชาชนมีการรวมกลุ่มเพ่ือท�ำกิจกรรมร่วมกัน เกดิ การรวมกลมุ่ สรา้ งรายได้ ประชาหนา้ ใสภายหลงั เขา้ รว่ มโครงการ ทางสงั คมถงึ รอ้ ยละ ๔๘.๓ โดยเปน็ กลมุ่ ออมทรพั ยม์ ากทสี่ ดุ นอกนน้ั เปน็ กลมุ่ สตรี กรรมการหมู่บ้าน ส่วนการรวมกลุ่มทางอาชพี มีการ เกษตรทฤษฎใี หม่ ๘๔ พรรษา ประโยชนส์ ุขสู่ปวงประชา ๗๕ รวมกลมุ่ รอ้ ยละ ๓๑ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ทำ� นา กลมุ่ แมบ่ า้ น และกลมุ่ สหกรณ์ ๔,๓๕๐ การทรงงาน การเกษตร 48 เพอื่ ประโยชน์สขุ แหง่ มหาชน
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกตน้ จนั บริเวณวดั ถา้ํ วังหินในพืน้ ที่ โครงการห้วยองคตฯ เม่ือวนั อาทติ ย์ที่ ๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๔ บวร : ความกลมเกลยี วแหง่ การพฒั นา โครงการพฒั นาพืน้ ที่หว้ ยองคตอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวัดกาญจนบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำริเม่ือวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ สรุปความว่า “ให้พิจารณาด�ำเนิน การพัฒนา ฟื้นฟูพ้ืนที่บริเวณต�ำบลหนองปรือ อ�ำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขตต�ำบลสมเด็จเจริญ อ�ำเภอ หนองปรือ) เนื่องจากเป็นพ้ืนท่ีป่าสงวนแห่งชาติท่ีมีสภาพเส่ือมโทรมและถูกราษฎรบุกรุกตัดไม้ท�ำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง และให้จัดหาที่ดินโดยบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และให้ราษฎรได้อยู่อาศัยท�ำกินร่วมกับ การคงอยู่ของธรรมชาติอย่างเก้ือหนุนกันและกัน และได้พระราชทานชื่อโครงการว่า “โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจาก พระราชดำ� ร”ิ มพี ื้นท่ีประมาณ ๒๐,๖๒๕ ไร”่ สภาพพ้นื ที่โครงการเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๕ สภาพพนื้ ทโี่ ครงการเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 49 เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
ผลสำ� เร็จของโครงการ ๑. งานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จัดระเบียบ ชุมชนและชมุ ชนสมั พนั ธ์ ๑.๑ ด้านแหล่งน้ํา อา่ งเกบ็ น้าํ สำ� หรับอปุ โภค- บรโิ ภค การเกษตรกรรม และเปน็ แหลง่ ขยายพนั ธส์ุ ตั วน์ าํ้ จำ� นวน ๕ แห่ง คือ เขาพุชา้ งหมอบ ห้วยหวาย ห้วยแมร่ ะวงั หว้ ยพุ ชา้ งหมอบ หว้ ยพตุ ะเคยี น รวมความจุ ๗.๐ ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร พรอ้ มระบบสง่ น�ำ้ ถนนทางเข้าโครงการหว้ ยองคตฯ ระยะทาง ๒ กโิ ลเมตร ปลกู ต้นสะเดา พืชส�ำคัญท่ีปลูกในพื้นที่การเกษตรที่ สองขา้ งทาง ขณะนต้ี น้ สะเดาอายุ ๑๗ ปี รับน้ําจากอา่ งเกบ็ น้ํา คอื ข้าว ขา้ วโพด อ้อย และพืชผักตา่ งๆ นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างบ่อพักนํ้า ๓ แห่ง ฝายทดน้ํา ในล�ำห้วยแม่ระวงั ๗ แหง่ และฝายทดนำ้� ในลำ� ห้วยหวาย ๑ แหง่ ขุดสระน้ําประจำ� ไร่นา ๕๕๔ แห่ง และขุดลอกลำ� ห้วย ระยะทาง ๘,๘๐๐ เมตร เพอ่ื สนบั สนนุ แหล่งนาํ้ ให้มเี พยี งพอ สามารถชว่ ยเหลอื พ้นื ทกี่ ารเกษตร ๘,๕๖๐ ไร่ อา่ งเกบ็ นํ้าหว้ ยพุตะเคยี น ก่อสรา้ งระบบสาธารณปู โภค แหล่งน้าํ ถนน ไฟฟา้ และโทรศพั ท์ ๑.๒ ด้านสาธารณูปโภค กอ่ สร้างถนนลาดยาง ระบบประปาหมู่บา้ น ระบบไฟฟ้า และโทรศพั ทส์ าธารณะ ๑.๓ ดา้ นท่ีดินท�ำกินและทอ่ี ย่อู าศัย เมื่อเริ่มโครงการไดจ้ ดั แบง่ แปลงทดี่ นิ ทำ� กิน ครอบครวั ละ ๘ ไร่ ครอบครัวใหญ่ ๑๖ ไร่ รวม ๙๐๗ แปลง และแปลงที่อย่อู าศยั ครอบครวั ละ ๑ ไร่ รวม ๗๘๐ แปลง มหี ลกั เกณฑ์ห้ามซอ้ื -ขาย โดยใหเ้ ปน็ มรดก ตกทอดแกล่ กู หลานเทา่ นน้ั 50 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่ือประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
๒. งานพฒั นาสงั คม ๒.๑ ด้านการศึกษา มีโรงเรียน มัธยมศึกษาระดับ ม.๑ - ๖ และระดับ ปวช. พรอ้ มหอพกั สำ� หรบั นกั เรยี นโรงเรยี นขยายโอกาส ระดับอนบุ าล - ม.๓ จำ� นวน ๒ แหง่ ศนู ยก์ าร ศึกษานอกโรงเรียนมีการจัดโครงการเข้าวัด วนั พระ การบวชสามเณรภาคฤดูร้อน โครงการ ห้องเรยี นกลางแจง้ ใหเ้ รยี นร้ดู า้ นธรรมชาติศึกษา ๒.๒ ด้านสุขภาพ ก่อสร้างโรง พยาบาล ขนาด ๓๐ เตยี ง ๑ แหง่ สง่ เสรมิ การพน่ หมอกควนั กำ� จดั ลกู นา้ํ ยงุ ลาย การฝกึ อบรมอาสา สมคั รสาธารณสขุ ประจำ� หมบู่ า้ น และการบรกิ าร โรงเรียนประชามงคล มีนกั เรยี นประมาณ ๑,๐๐๐ คน อาจารย์ ๕๐ คน ทางด้านสาธารณสุขอย่างท่ัวถึงและสะดวกมาก ย่ิงขนึ้ ๒.๓ ด้านการรักษาความปลอดภัย มีหน่วยงานต�ำรวจตระเวนชายแดนและต�ำรวจภูธรอยู่ในพื้นที่ออกลาดตระเวน รกั ษาความปลอดภัยทรพั ยส์ นิ และความเปน็ อยูข่ องราษฎร ๒.๔ ด้านวัฒนธรรม จัดงานประเพณีท้องถ่ินเป็นประจ�ำทุกปี ท�ำบุญตักบาตร การละเล่น/แข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การประกวดพืชผลการเกษตรให้หน่วยงานแสดงผลงาน/นิทรรศการต่างๆ จัดงานวันผู้สูงอายุ และกิจกรรมวันส�ำคัญทางศาสนา ใหร้ าษฎรมีศนู ย์รวมจติ ใจและร่วมกันรักษาสบื ทอดวัฒนธรรมประจำ� ทอ้ งถ่ิน โรงพยาบาลพยาบาลสถานพระบารมี ขนาด ๓๐ เตยี ง ทำ� บญุ ตกั บาตร ๔,๓๕๐ การทรงงาน 51 เพือ่ ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
๓. งานพฒั นาเศรษฐกิจ ๓.๑ ฟืน้ ฟดู ินเสอ่ื มโทรมและระบบนิเวศ สง่ เสรมิ ให้ เกษตรกรปรับปรุงบ�ำรุงดิน โดยใช้สารเร่งซูเปอร์ พด.๑ พื้นท่ี ๘๐๐ ไร่ การใช้นํ้าหมักชีวภาพ ใช้ปุ๋ยพืชสดไถกลบ เช่น ปลูก ปอเทืองถั่วพร้า พ้ืนที่ ๕๐๐ ไร่ การจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ๗ กลุ่ม ๓๕๐ ราย ส่งเสริมให้ปลูกหญ้าแฝกอนุรักษ์ดินและ นํ้า สนับสนุนขุดสระน้�ำนอกเขตชลประทาน ๗๙ ราย ท�ำให้ลด การใช้ปยุ๋ เคมี และลดคา่ ใชจ้ า่ ยในการลงทนุ โรงผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์คณุ ภาพสงู (ชนิดเมด็ ) ของชมุ ชน ๓.๒ ด้านกลุ่มอาชีพ ส่งเสริมให้จัดต้ังกลุ่มอาชีพ เช่น การเล้ียงไก่ การเล้ียงแพะ การเล้ียงปลา การเล้ียงสุกร ปลูกผักสวนครัว มีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดท�ำแปลงสาธิตการปลูกพืชเศรษฐกิจ เลี้ยงสัตว์ การอบรมความรู้เพ่ือให้ ราษฎรนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชป้ ระกอบอาชพี ซ่งึ ในปีหนงึ่ มเี กษตรกรและผูส้ นใจเขา้ มาดงู านประมาณ ๑๒,๐๐๐ คน กลุ่มเกษตรกรเลีย้ งไกไ่ ข่ ๒๐ ครอบครัว ครอบครวั ละ ๑ โรงเรอื นมีรายได้ปลี ะ ๒๕๗,๐๐๐ บาท/ครัวเรือน ๔. งานฟ้ืนฟูอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ปจั จบุ นั ไดร้ บั การฟน้ื ฟปู ระมาณรอ้ ยละ ๒๐ ของพน้ื ท่ี เนอ้ื ที่ ๔,๐๓๐ ไร่ โดยปลกู ไม้ ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อยา่ ง ไดแ้ ก่ มะค่าโมง ประดู่ป่า สะเดา ขีเ้ หล็กบา้ น ฯลฯ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ พบว่าชนิดพรรณไม้ใหญ่เสน้ ผ่านศนู ย์กลาง ๔.๕ เซนติเมตรขน้ึ ไป มี ๒๙ ชนดิ ประมาณ ๘๐๐,๐๐๐ ตน้ ความหนาแนน่ ๒๐๘ ต้น/ไร่ แปลงปลกู ป่าสามารถดดู ซบั กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ปรมิ าณ ๓๐,๕๘๘.๘๕ ตนั และปลอ่ ยก๊าซออกซิเจนสู่บรรยากาศเปน็ ปริมาณทง้ั ส้ินเทา่ กบั ๒๔,๔๗๑.๐๘ ตนั 52 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่อื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
ดัชนคี ุณภาพชีวิตของคนจ�าแนกตามด้านตา่ งๆ ในภาพรวม ดัชนี HDI ดชั นี HDI ๑.๐ ๑.๐ ๐.๕ ๐.๕ คณุ ภาพชีวติ ระดบั สงู ด้านรายได้ ดา้ นความมัน่ คงของทอ่ี ยู่อาศัย/ที่ท�ากิน คุณภาพชวี ิตระดบั กลาง คณุ ภาพชีวติ ระดบั ต�า่ ดัชนี HDI ดชั นี HDI ๑.๐ ๑.๐ ดัชนี HDI ๑.๐ ๐.๕ ๐.๕ ๐.๕ ด้านการคมนาคม ดา้ นการศกึ ษา ดชั นี HDI ดชั นี HDI ๑.๐ ๑.๐ ๐.๕ ๐.๕ ด้านสาธารณสขุ ด้านไฟฟ้า ด้านน้�าดมื่ น้า� ใช้ นอกจากนร้ี าษฎรรว่ มจดั ตงั้ ชดุ อาสาสมคั รพทิ กั ษป์ า่ ลาดตระเวนเฝา้ ระวงั การลกั ลอบตดั ไม้ นำ� กลา้ ไมป้ ลกู ในพนื้ ทต่ี นเอง และกอ่ สรา้ งฝายชะลอนา้ํ ถงึ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๑ จำ� นวน ๓๗๐ ฝาย ซง่ึ สามารถชะลอการไหลของนาํ้ ในพน้ื ทป่ี า่ ไมไ้ ดป้ ระมาณ ๒ เดือนในรอบปี สรา้ งความชุม่ ชนื้ แกพ่ ้นื ที ่ ประโยชนข์ องโครงการ ปัจจุบันราษฎรในพ้ืนท่ีโครงการจ�ำนวน ๖๕๘ ราย ๙๒๗ แปลง พ้ืนท่ี ๔,๙๑๗ ไร่ ได้รับมอบเอกสารสิทธิ์ สทก. แล้ว ซึ่งคาดว่าในปี ๒๕๕๖ นี้ จะครอบคลุมท้ังหมด จากการศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตมีสภาพความเป็น อยู่ที่ดีขึ้นท้ังด้านที่ดินท�ำกิน ที่อยู่อาศัย การศึกษา สุขภาพอนามัย อาชีพ คมนาคม การติดต่อส่ือสาร มีวัฒนธรรมใน ท้องถิ่น และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งยังส่งผลให้ราษฎรพื้นท่ีใกล้เคียงได้รับการบริการจากรัฐการอ�ำนวยความ สะดวกทกุ ด้าน ๔,๓๕๐ การทรงงาน 53 เพ่ือประโยชน์สุขแห่งมหาชน
54 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
โครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดำ� รเิ ขตพ้ืนที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ทรง ศึกษาปัญหาและพระราชทานพระราชด�ำริเพ่ือ แก้ปัญหาอย่างต่อเน่ือง โดยการด�ำเนินโครงการ อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริได้เร่ิมต้นข้ึนในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ จนถึงปจั จบุ ัน ณ ส้ินเดือนกนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ มีจ�ำนวนท้ังส้ิน ๑,๐๘๘ โครงการ ครอบคลมุ ๘ ประเภท โดยในเขตพืน้ ที่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื มี ๒๐ จังหวดั ปญั หาท่ี ราษฎรต้องเผชิญมาโดยตลอดคอื ความแห้งแล้ง กนั ดาร ขาดแคลนนาํ้ กนิ นาํ้ ใช้ ประชาชนสว่ นใหญ่ จงึ มีความยากจนอยมู่ าก ๔,๓๕๐ การทรงงาน 55 เพอ่ื ประโยชน์สุขแห่งมหาชน
ประเภทและจำ� นวนของโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริในเขตพน้ื ที่ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื แยกรายจงั หวัด ประเภทและจำ� นวนของโครงการ จังหวดั แหล่งนาํ้ การ สิ่ง การ สาธารณสขุ คมนาคม/ สวัสดิการ บรู ณาการ/ รวม เกษตร แวดลอ้ ม สง่ เสริม ส่อื สาร สังคม/ อื่นๆ อาชีพ การศกึ ษา ขอนแก่น ๕๒ ๔ ๒ ๘ ๐๐๐ ๓ ๖๙ ชัยภมู ิ ๒๔ ๑ ๒ ๑ ๐๐๐ ๒ ๓๐ นครพนม ๗๕ ๗ ๐ ๑๔ ๗๑๑ ๗ ๑๑๒ นครราชสีมา ๔๕ ๖ ๒ ๑ ๐๐๐ ๓ ๕๗ บึงกาฬ ๑๑ ๑ ๒ ๐ ๑ ๓ ๐ ๐ ๑๘ บรุ ีรัมย์ ๖๕ ๘ ๑ ๑๒ ๐ ๐ ๑๐ ๗ ๑๐๓ มหาสารคาม ๑๐ ๐ ๐ ๕ ๐๐๐ ๐ ๑๕ มุกดาหาร ๔๓ ๑ ๒ ๗ ๐๐๑ ๑ ๕๕ ยโสธร ๘๑ ๐ ๒ ๐๐๑ ๑ ๑๓ รอ้ ยเอ็ด ๑๑ ๑ ๐ ๓ ๐๐๑ ๐ ๑๖ เลย ๑๓ ๑ ๐ ๗ ๐๑๗ ๒ ๓๑ ศรีสะเกษ ๒๙ ๓ ๔ ๘ ๐๐๒ ๕ ๕๑ สกลนคร ๒๓๑ ๓ ๖ ๒๕ ๐ ๑๑ ๓ ๗ ๒๘๖ สุรนิ ทร์ ๒๕ ๒ ๑ ๓ ๐ ๑ ๖ ๕ ๔๓ หนองคาย ๖๐ ๒ ๑ ๑๐๐ ๒ ๑๒ หนองบัวลำ� ภู ๒๐ ๐ ๐ ๑ ๐๐๐ ๐ ๒๑ อำ� นาจเจรญิ ๕ ๐ ๐ ๒ ๐๐๑ ๐๘ อดุ รธานี ๓๕ ๔ ๒ ๕ ๐๐๘ ๑ ๕๕ อบุ ลราชธานี ๒๙ ๐ ๐ ๘ ๐ ๒ ๑๒ ๔ ๕๕ รวม ๗๖๗ ๔๓ ๒๘ ๑๑๘ ๙ ๑๙ ๕๓ ๕๑ ๑,๐๘๘ 56 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
โครงการพัฒนาลุม่ นำ้� กำ่� อนั เนื่องมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวดั สกลนคร - จงั หวัดนครพนม เม่ือวันท่ี ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชด�ำริให้พิจารณาวางโครงการ พัฒนาลุ่มน�้ำก่�ำอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดสกลนคร - นครพนม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรบริเวณ สองฝ่ังของลำ� นำ้� กำ�่ ที่ประสบปญั หาน�ำ้ ท่วมในช่วงฤดฝู น และขาดแคลนนำ�้ ท�ำการเกษตรในช่วงฤดแู ล้ง ต่อมาวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๔๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชด�ำริเพ่ิมเติม ให้พิจารณา ด�ำเนินการก่อสร้างประตูระบายน�้ำเล็กๆ โดยลดขนาดความสูงของประตูระบายน้�ำลงมา แล้วเจรจากับราษฎรที่ครอบครองพ้ืนที่ ทถี่ ูกนำ้� ท่วม และใหเ้ กบ็ กักนำ้� ในร่องนำ้� แลว้ ใหร้ าษฎรสูบนำ�้ ไปใชเ้ อง l ส่วนหวั หมายถงึ หนองหาน ตน้ กำ� เนดิ ลำ� นำ้� ก�ำ่ l ส่วนกระดูกสันหลงั หมายถงึ ล�ำน้ำ� ก�ำ่ l ข้อทีเ่ ป็นปลอ้ งๆ หมายถึง อาคารบังคับน้ำ� l ขอบล�ำตัว หมายถึง คลองระบายนำ้� ที่คูข่ นานไปกับล�ำน้�ำก่�ำ l สว่ นหาง หมายถงึ แม่นำ้� โขง ร่างเค้าโครงพระราชทานโครงการพัฒนาลุ่มน้�ำก�่ำฯ ทรงวาดบนเครื่องบินพระท่ีน่ัง ต่อมาได้พระราชทานชื่อประตูระบายน้�ำก�่ำตอนล่างว่า “ธรณศิ นฤมติ ” หมายถึง ประตรู ะบายน้�ำ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวทรงพระราชด�ำริสร้างข้ึน ลกั ษณะโครงการ ในการด�ำเนินการสนองพระราชด�ำริ ได้ก่อสร้าง ประตรู ะบายนำ�้ เพอ่ื เกบ็ กกั นำ้� และยกระดบั นำ้� ใหส้ งู ขนึ้ จำ� นวน ๗ แห่ง พร้อมทั้งก่อสร้างระบบส่งน้�ำ และสถานีสูบน�้ำด้วยไฟฟ้า จำ� นวน ๒๘ แหง่ รวมทง้ั พฒั นาหนองบงึ ขนาดใหญจ่ ำ� นวน ๑๕ แหง่ สามารถเกบ็ กกั นำ�้ ในลำ� นำ้� กำ�่ และลำ� นำ้� สาขาไดร้ วมทง้ั สนิ้ ๖๘.๓๓ ล้านลูกบาศก์เมตร พ้ืนท่ีได้รับประโยชน์ประมาณ ๑๖๕,๐๐๐ ไร่ ส่งน�้ำให้กับพื้นท่ีการเกษตรในฤดูแล้งได้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 57 เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
ประมาณ ๔๗,๐๐๐ ไร)่ ทำ� ใหพ้ ืน้ ท่บี รเิ วณลำ� น�ำ้ กำ�่ ใน ฤดฝู นสามารถปลกู ขา้ วไดผ้ ลผลติ ประมาณ ๔๐ - ๕๐ ถังต่อไร่ และในฤดูแล้งสามารถปลูกข้าวโพดเล้ียง สัตว์ มะเขือเทศ และพืชไร่ ท�ำให้เกษตรกรมีรายได้ ตลอดปี และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน นอกจากนั้นยัง บรรเทาอทุ กภัยในพ้ืนทบี่ รเิ วณล่มุ น้�ำก่ำ� ในเขตจงั หวัด สกลนคร และจังหวดั นครพนม อกี ด้วย สถานีสูบน้�ำด้วยไฟฟ้าในเขตพื้นที่โครงการฯ ทงั้ ส้ินจ�ำนวน ๒๘ แห่ง จะมคี ณะกรรมการกลุม่ ผใู้ ชน้ ้�ำฯ ทำ� หน้าทบ่ี รหิ ารจัดการนำ้� รว่ มกบั เกษตรกรผใู้ ช้นำ้� ฯ และ เจ้าหน้าที่ชลประทาน เพ่ือให้สามารถส่งน�้ำได้เพียงพอต่อความต้องการใช้น�้ำ และลดปัญหาความขัดแย้งในการใช้น้�ำ นอกจากน้ี ท�ำให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการบริหารจัดการ และบ�ำรุงรักษาระบบส่งน�้ำ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ในระยะยาว 58 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
โครงการศูนย์พฒั นาปศสุ ัตวต์ ามพระราชดำ� ริ อำ� เภอดา่ นซ้าย จังหวัดเลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชด�ำริให้จัดซื้อท่ีดิน ณ บา้ นเดน่ิ หมูท่ ี่ ๓ ตำ� บลดา่ นซ้าย อ�ำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพ่ือจดั ตัง้ “ศูนยศ์ กึ ษาพัฒนาการเกษตรตามพระราชดำ� ร”ิ ทดลองปลูกพชื เมืองหนาว และจัดต้ังธนาคารข้าวตามหมู่บ้าน ต่อมามีพระราชกระแสรับส่ังให้กรม ปศุสัตว์ใช้ประโยชน์ท่ีดินที่ได้จัดซ้ือไว้เพ่ือด�ำเนินการ “ศูนย์ศึกษาพัฒนาการ เกษตร” เน้นการเลี้ยงสัตว์ขยายพันธุ์สัตว์ และให้ขอใช้ที่ดินแปลงอื่นเพ่ิมเติม กรมปศุสตั วจ์ ึงขอใชป้ ระโยชน์ท่ีดินสาธารณะขา้ งเคียง ทำ� ใหม้ ีพืน้ ทเ่ี พิม่ ข้ึนอกี รวมเปน็ พ้ืนที่ประมาณ ๑๕๑ ไร่ และใชช้ ื่อวา่ “โครงการศูนยพ์ ฒั นาปศุสัตวต์ ามพระราชด�ำริ อำ� เภอดา่ นซา้ ย จงั หวัดเลย” เมอ่ื วนั ท่ี ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดพ้ ระราชทานพระราชด�ำริ ใหศ้ นู ยพ์ ฒั นาปศสุ ตั วฯ์ เปน็ แหลง่ ผลติ และกระจายพนั ธส์ุ ตั วท์ จี่ ำ� เปน็ และเหมาะสมกบั สภาพพนื้ ทไี่ ปยงั โครงการอนั เนอ่ื งมาจาก พระราชดำ� ริท่ีขาดแคลน รวมทัง้ ให้กับราษฎรท่ยี ากจนในเขตพนื้ ทต่ี ่างๆ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 59 เพ่ือประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน
การด�ำเนินงานมีลักษณะบูรณาการ เป็นการพัฒนา ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ผลิต กระจายพันธุ์สตั ว์ และขยายผล การเกษตรควบคู่กับงานขยายผล เน้นการพัฒนา คัดเลือก ไปสู่โรงเรยี น ตชด. สพฐ. จาำ นวน ๓๔ โรง และเกษตรกรยากจน และผลิตพันธุ์สัตว์ท่ีสามารถกระจายพันธุ์และส่งเสริมให้เลี้ยง ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ผลติ และกระจายพนั ธสุ์ ัตว์ใหแ้ ก่ ไดใ้ นภาคตะวันออกเฉียงเหนอื เนน้ การผลติ สตู รอาหารสตั วท์ ่ี ศนู ยพ์ ัฒนาปศสุ ตั ว์ตามพระราชดำาริ เป็นลักษณะเฉพาะในท้องถน่ิ อำาเภอดา่ นซ้าย จังหวดั เลย ในรอบ ๓ ปีที่ผ่านมา สามารถผลิตพ่อแม่พันธุ์ • แหล่งผลติ พฒั นา และกระจายพันธุ์สัตว์ ไกไ่ ขไ่ ทย ส่งเสรมิ ไก่ไขส่ าว ๑๕,๒๒๕ ตวั และไก่ไขเ่ พศผู้ อาทิ ไก่ เปด็ สุกร แพะ และแกะ เป็นตน้ ๑๐,๗๔๖ ตัว ให้แก่โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดนและ โรงเรยี นในสงั กดั สำ� นกั งานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ๖๙ โรง และ • ให้ความรูแ้ ก่ครู นักเรียน และราษฎร ผปู้ กครองนกั เรยี นและเกษตรกร ๑,๔๔๐ ราย พน้ื ทดี่ ำ� เนนิ การ ๑๖ จังหวัด ท�ำให้เกษตรกรและนักเรียนมีอาหารโปรตีน โรงเรียน ตชด. จาำ นวน ๗ โรง และ บริโภคเพียงพอ โรงเรียนสร้างเงินกองทุนด�ำเนินการเลี้ยงไก่ ผู้ปกครองของเด็กนักเรยี น รวมถึง เกษตรกรยากจนในพืน้ ทีจ่ ังหวดั เลย ไข่ต่อเน่ือง สามารถพ่ึงตนเองได้ ครัวเรือนมีรายได้เสริมและ เกษตรกรที่ยากจนในพน้ื ทีโ่ ดยรอบโครงการ รศั มี ๒๐๐ กิโลเมตร มีคุณภาพชีวติ ทีด่ ขี น้ึ ครอบคลุมพ้นื ที่ ๗ จังหวดั ประกอบด้วย จังหวัดเลย อดุ รธานี หนองคาย หนองบัวลาำ ภู พิษณุโลก อุตรดติ ถ์ และเพชรบรู ณ์ เฉพาะในพ้ืนที่จังหวัดเลย ได้สนับสนุนพันธุ์ไก่ไข่ให้ แกเ่ กษตรกรในพ้ืนท่ี ๑๐ อ�ำเภอ จำ� นวน ๑๖๔ ราย และได้ กำ� หนดบ้านหว้ ยลาด ต�ำบลนาดี อำ� เภอด่านซ้าย เปน็ หมู่บ้าน สง่ เสรมิ การเลยี้ งไกไ่ ข่ โดยเลง็ เหน็ ความเดอื ดรอ้ นของราษฎรในหมบู่ า้ นตามแนวชายแดน เพราะพน้ื ทดี่ งั กลา่ วเกษตรกรขาดโอกาส ทจี่ ะไดร้ บั อาหารโปรตนี ราคาถกู มเี กษตรกรทส่ี ง่ เสรมิ จำ� นวน ๕๑ ราย รายละ ๕ ตวั มผี ลผลติ ไขค่ ดิ เปน็ มลู คา่ ๒๑๑,๗๖๐ บาท เฉลี่ย ๔,๑๕๒ บาท/ราย นอกจากนี้ ในศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตาม พระราชด�ำริ ยังได้รวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพร เช่น ชุมเห็ดเทศ ทองพันช่ัง ฯลฯ พร้อมท้ังจัดท�ำข้อมูล เกี่ยวกบั พืชสมนุ ไพร จดั ต้งั ศนู ยเ์ รียนรู้ดา้ นการเพาะเห็ด เพ่ือเปน็ แหล่งเรยี นรู้ ศึกษาดูงาน และฝึกอบรมใหก้ ับเกษตรกร ผลิตและขยายพันธุ์พืช ได้แก่ อโวคาโด ผักชีลาว และผักหวานบ้าน รวมท้ังไม้ผลเมืองหนาวและไม้ผล พน้ื เมอื ง ได้แก่ พลับ สาลี่ ม่อนไข่ มะปรางหวาน และสตารแ์ อปเปลิ ผลติ และขยายพนั ธไ์ุ มผ้ ลเศรษฐกจิ ได้แก่ มะคาเดเมยี นัท กระท้อน พลับ ท้อ และบว๊ ย ปลกู กาแฟพันธอุ์ าราบกิ า จ�ำนวน ๑๓ ไร่ พร้อมทั้งจัดฝกึ อบรมหลกั สูตรการปลูกกาแฟในสภาพรม่ เงา 60 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
โครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดศรสี ะเกษ จดั ตง้ั ขนึ้ ตามพระราชดำ� รสิ มเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ เมอ่ื วนั ที่ ๑๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๗ โดยมีลักษณะเป็นศูนย์ให้บริการทางการเกษตรแบบ เบ็ดเสร็จเพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งประกอบอาชีพท�ำนา ไม่ได้ผลและขาดแคลนน�้ำในการประกอบอาชีพ ในเขต อำ� เภอภสู งิ หแ์ ละพนื้ ทใ่ี กลเ้ คยี งตามบรเิ วณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ต่อมาได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรใน บริเวณพ้ืนที่โครงการฯ อีกในปี ๒๕๔๓ และ ๒๕๔๘ และมีพระราชด�ำริเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการพัฒนาดิน การ จัดหาแหลง่ น�้ำ และการสง่ เสริมอาชพี เพอ่ื ใหค้ นอยรู่ ว่ ม กับปา่ โดยไมท่ ำ� ลายปา่ การด�ำเนินงานของศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ มีความ คล้ายคลึงกับโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระ ราชด�ำริซ่ึงตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ๖ แห่ง แต่จะเน้นการน�ำเอาองค์ ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมกับพ้ืนท่ีไปส่งเสริมขยาย ผลสู่เกษตรกรโดยตรง มากกว่าจะเน้นการศึกษาวิจัย อย่างเช่น โครงการศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาฯ ภายในพนื้ ทศ่ี นู ย์ ๕๔๐ ไร่ ในเขตตำ� บล หว้ ยตกึ๊ ชู อำ� เภอภสู งิ ห์ ซงึ่ แตเ่ ดมิ เปน็ ทตี่ ง้ั ของโครงการฝกึ อาชพี พฒั นา เพอ่ื ความมน่ั คงของกองทพั ภาคท่ี ๒ มกี ารจดั ทำ� แปลงสาธติ ฝกึ อบรม และสง่ เสรมิ อาชพี ดา้ นการเกษตรสาขาตา่ งๆ ของหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑๒ หน่วยงานท่ีท�ำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เช่น ด้านการปลูก ไมผ้ ล การเกษตรแบบผสมผสานและวนเกษตร การทำ� เกษตรทฤษฎใี หม่ การเล้ียงไก่พ้ืนเมืองและสุกร การเลี้ยงปลาในกระชัง การปลูกมะนาว นอกฤดู การผลิตเมล็ดพันธ์ุข้าว และงานศิลปาชีพ เป็นตน้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 61 เพ่อื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
จากการด�ำเนินงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ท�ำให้ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ เป็นท่ีรู้จักอย่าง กว้างขวางข้ึน โดยมีเกษตรกรและประชาชนที่สนใจเดินทางไปศึกษาดูงานภายในศูนย์เฉลี่ยปีละ ๖,๐๐๐ คน และมีเกษตรกรสมัครเข้ารับการฝึกอบรมด้านอาชีพต่างๆ ๑๗ หลักสูตร ปีละประมาณ ๑,๕๐๐ รายต่อปี นอกจากน้ี ทางโครงการยังได้ด�ำเนินการขยายผลด้านอาชีพอย่างเข้มข้นไปสู่เกษตรในเขตอ�ำเภอภูสิงห์และ อำ� เภอใกลเ้ คียงจำ� นวน ๗ ต�ำบล ๘๖ หมูบ่ ้าน ในลกั ษณะ “เกษตรกรต้นแบบ” โดยในช่วงปี ๒๕๕๓ - ๒๕๕๕ ได้ จัดฝกึ อบรมและคดั สรรเกษตรกรตน้ แบบแลว้ ประมาณ ๕๐ ราย ซงึ่ จะเปน็ เครือข่ายการขยายผลของโครงการและ เปน็ แบบอย่างความส�ำเรจ็ ท่ีชว่ ยสรา้ งแรงบันดาลใจใหก้ ับเกษตรกรรายอ่ืนๆ ในพ้ืนท่ตี ่อไป 62 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
โครงการพัฒนาลุ่มน�้ำล�ำพะยังตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จ พระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่อ�ำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ทอด พระเนตรความทกุ ขย์ ากของราษฎรทที่ ำ� นาไมไ่ ดผ้ ล เมลด็ ขา้ วลบี เลก็ เพราะไมม่ ี แหลง่ นำ้� ตน้ ขา้ วต้องอาศัยนำ้� คา้ งในการเติบโต จึงมีพระราชด�ำรใิ หก้ อ่ สรา้ ง อ่างเก็บน�้ำล�ำพะยังตอนบน (ห้วยวังค�ำ) เพ่ือช่วยเหลือราษฎรในเขตพ้ืนที่ ดังกล่าว ให้มีน้�ำใช้ท�ำการเกษตร และอุปโภคบริโภคตลอดปี นอกจากน้ี ยงั จะสามารถบรรเทาอุทกภยั ได้อีกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ และ ๒๕๔๒ ได้พระราชทานแนวทางให้ ขยายพ้ืนที่ส่งน�้ำ พร้อมทั้งขุดสระเก็บน�้ำประจ�ำไร่นาของเกษตรกร และให้ พจิ ารณาผนั นำ้� ผา่ นอโุ มงคแ์ ละระบบทอ่ จากอา่ งเกบ็ นำ้� หว้ ยไผ่ ซง่ึ อยทู่ างฟาก จงั หวดั มุกดาหาร มาเตมิ ให้พืน้ ทล่ี ่มุ น้ำ� ล�ำพะยงั ตอนบน เพ่อื ขยายพ้ืนทรี่ บั น�ำ้ ชลประทานให้มากข้ึน ในชว่ งปี พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๔๙ กรมชลประทานไดด้ ำ� เนนิ การยกระดบั เกบ็ กกั นำ�้ อา่ งลำ� พะยงั ตอนบนขน้ึ อกี ๐.๘ เมตร ทำ� ใหส้ ามารถเกบ็ กกั นำ้� ไดเ้ พมิ่ ขน้ึ รวมทงั้ ผนั นำ�้ จากอา่ งเกบ็ นำ�้ หว้ ยไผ่ อำ� เภอดงหลวง จงั หวดั มกุ ดาหาร ผา่ น อุโมงค์ลอดผ่านภูเขามายังพื้นที่รับประโยชน์โครงการอ่างเก็บน้�ำล�ำตอนบนฯ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 63 เพอื่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
โคงการพัฒนาลมุ่ น�า้ ลา� พะยงั จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ อ่างใหญเ่ ติมอ่างเลก็ ...อา่ งเล็กเติมสระน�้าของราษฎร จอ่�งั หงเวกัดบ็ มนุก�้ำ ดห�ว้ หย�ไรผ่ อ่�งเก็บน�้ำ ล�ำ พะยงั ซึ่งนอกจากจะท�ำให้พื้นที่รับน้�ำชลประทานเพิ่มมากข้ึน สระเก็บน้�ำ ประจ�ำ ไรน่ � แลว้ ผลผลติ ตอ่ ไรย่ งั เพมิ่ ขน้ึ อกี ดว้ ย กลา่ วคอื กอ่ นปี ๒๕๔๑ ผลิตข้าวได้ ๒๕๐ กิโลกรัมตอ่ ไร่ แตใ่ นปี ๒๕๕๔ ผลผลติ ในการประกอบอาชีพให้แก่ราษฎร และเป็นการน�ำแนวทาง เพม่ิ ขน้ึ เปน็ ๖๙๐ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ จากผลสมั ฤทธด์ิ งั กลา่ ว ตอ่ มา เกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคนี้ และเม่ือวันที่ ได้พระราชทานชอื่ อโุ มง์ผันน้ำ� ดงั กล่าววา่ “ลำ� พะยงั ภูมพิ ฒั น์” ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีความหมายว่า อุโมงค์ผันน้�ำท่ีน�ำความเจริญมาสู่แผ่นดิน สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานพระราชดำ� ริให้ขยายผลการ ล่มุ น�ำ้ ล�ำพะยัง ด�ำเนินงานโครงการไปสู่ราษฎรในบริเวณใกล้เคียง จนท�ำให้ ผลผลิตข้าวของเกษตรกรในโครงการฯ ได้รับการรับรอง นอกจากนี้ ได้มีการด�ำเนินการเกษตรทฤษฎีใหม่ ท่ี มาตรฐานหลักประกันที่ดีของสินค้าเกษตรท่ีมีการบ่งชี้ ทางภมู ศิ าสตร์ (Geographical Indications : GI) และไดใ้ บรบั บา้ นแดนสามคั คี ตำ� บลค้มุ เกา่ ทไ่ี ดร้ บั ประโยชน์จากการขยาย รองมาตรฐานการปฏบิ ตั ทิ างการเกษตรทดี่ ี (Good Agricultural Practice : GAP) ผลการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้�ำในเขตพ้ืนที่โครงการพัฒนา ลุ่มน�้ำล�ำพะยังตอนบนฯ ที่ได้มีพระราชด�ำริไว้ในปี ๒๕๓๕ โดยจัดท�ำแปลงสาธิตเกษตรทฤษฏีใหม่ขึ้น เพ่ือเป็นแนวทาง 64 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
ระบบบรหิ ารจดั การน�้าลา� พะยัง หอ้ งควบคมุ อา่ งเก็บน้�าห้วยไผ่ ป�กอโุ มงคผ์ นั น้ำ� พน้ื ทีช่ ลประท�นอ�่ งเกบ็ น�้ำ หว้ ยไผ่ จังหวดั มุกด�ห�ร อุโมงคผ์ ันนำ้� คว�มสงู ของก�รส่งน�้ำ อา่ งเก็บน้�าลา� พะยังตอนบน จงั หวดั ก�ฬสนิ ธ์ุ อา่ งเกบ็ น�้าลา� พะยัง ๗๗ เมตร บอ่ พกั น้�ำ ขน�ด ๒,๓๕๐ ลกู บ�ศก์เมตร สระเกบ็ นำ้�ประจำ�ไรน่ � ระบบกระจ�ยน�ำ้ ๑๒,๐๐๐ ไร่ พื้นทน่ี �และแปลงเกษตรทฤษฎใี หม่ ๔๖,๐๐๐ ไร่ พื้นท่เี กษตรกรรม ๑๒,๐๐๐ ไร่ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 65 เพ่อื ประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีบริเวณหนองอ่ึงอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ จงั หวดั ยโสธร ในอดีตทุกปี ราษฎรในเขตต�ำบลค้อเหนือ อ�ำเภอเมือง ยโสธร จำ� นวน ๗ หมบู่ า้ น กวา่ ๗๔๐ ครวั เรอื น ตอ้ งประสบกบั ปญั หา น้�ำท่วมเป็นประจ�ำ เน่ืองจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ลุ่มต�่ำใกล้ แม่น�้ำชี และเป็นจุดท่ีล�ำน้�ำยังไหลมาสมทบกับแม่น้�ำชี เม่ือถึงฤดูฝน น�้ำจึงไหลหลากเข้าท่วมเส้นทางสัญจรและไร่นานับหมื่นไร่ ส่งผล ให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและพืชผลเสียหาย แต่เมื่อถึงฤดูแล้ง ราษฎรส่วนใหญ่กลับขาดแคลนน้�ำส�ำหรับท�ำการเกษตร เพราะมี แหลง่ เกบ็ กกั นำ�้ ไมเ่ พยี งพอสำ� หรบั เพาะปลกู ชดเชยผลผลติ ทถ่ี กู นำ�้ ทว่ ม นอกจากปัญหาเร่ืองน�้ำท่วมและน�้ำแล้งแล้ว ความ เสื่อมโทรมของ “ป่าดงมัน” ป่าชุมชนบนเนินทรายขนาดใหญ่ราว ๓,๐๐๐ ไร่ กเ็ ปน็ ปญั หาหลกั อกี อยา่ งหนง่ึ ในพนื้ ท่ี เนอ่ื งจากถกู ราษฎร บกุ รกุ แผว้ ถาง รวมทง้ั เกบ็ หาของปา่ และใชเ้ ปน็ พนื้ ทเ่ี ลยี้ งปศสุ ตั วอ์ ยา่ ง ไมม่ กี ารควบคมุ จนกระทง่ั เหลอื ปา่ ทม่ี สี ภาพอดุ มสมบรู ณเ์ พยี ง ๘๐๐ ไร่ หรือประมาณ ๓๐% ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยรอบซ่งึ อาศยั ปา่ แห่งน้เี ปน็ แหล่งอาหารประจ�ำครวั เรือน 66 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
จนกระทงั่ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๓ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ และสมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎรตำ� บลคอ้ เหนอื ทไี่ ดร้ บั ความเดอื ด ร้อนจากปัญหาน้�ำท่วม และได้มีพระราชด�ำริให้หน่วยราชการพิจารณา แนวทางช่วยเหลือด้านชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร รวมทั้งให้ปรับปรุง แหล่งน�้ำธรรมชาติในพื้นที่ คือ หนองอ่ึง ให้เป็นแหล่งน้�ำส�ำหรับท�ำการ เกษตรและเพาะพนั ธป์ุ ลา และฟน้ื ฟปู า่ ชมุ ชนดงมนั ใหก้ ลบั มาสมบรู ณอ์ กี ครง้ั และส่งเสริมใหค้ นอยู่ร่วมกบั ป่าอยา่ งย่งั ยนื โครงการพัฒนาพื้นท่ีบริเวณหนองอ่ึงฯ มีการด�ำเนินงานใน ลักษณะบูรณาการ โดยส่วนราชการต่างๆ และราษฎรในชุมชนโดยรอบ มบี ทบาทในการขับเคล่อื นกิจกรรมการพัฒนาร่วมกนั ดงั น้ี l ดำ� เนนิ การขดุ ลอกหนององึ่ พนื้ ทป่ี ระมาณ ๔๕๐ ไร่ พรอ้ มกอ่ สรา้ งอาคารบงั คบั นำ�้ และระบบคลองสง่ นำ�้ กอ่ สรา้ งคนั ดนิ ปลกู ตน้ ไมแ้ ละหญา้ แฝกเพอ่ื ปอ้ งกนั การชะลา้ งพงั ทลายของ ดนิ โดยรอบหนองอ่ึง ท�ำให้มแี หลง่ นำ้� ทำ� การเกษตรช่วงฤดแู ล้งเพ่ิมขนึ้ จากเดมิ ๔๐๐,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ มตร เปน็ ประมาณ ๖๔๐,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ มตร รวมทง้ั เปน็ แหลง่ เพาะขยายพนั ธป์ุ ลา ซึ่งเปน็ ทงั้ แหล่งอาหารและรายได้ของชุมชนอีกทางหนงึ่ ด้วย l ดำ� เนนิ การฟน้ื ฟปู า่ ชมุ ชนดงมนั พนื้ ทป่ี ระมาณ ๓,๐๐๐ ไร่ โดยกำ� หนดระเบยี บกตกิ า การใช้ประโยชน์จากป่าร่วมกันอย่างชัดเจน ท�ำให้ป่าผืนดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์ และ ราษฎรได้ใช้ประโยชนจ์ ากปา่ ในรูปแบบต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไม้ฟืนและไมใ้ ชส้ อย รวมถึงของป่า และสมนุ ไพรชนดิ ตา่ งๆ รวมทงั้ มกี ารรวมกลมุ่ เพอื่ นำ� เอาผลผลติ จากปา่ ซงึ่ มปี รมิ าณมากนบั สบิ ตนั ๔,๓๕๐ การทรงงาน 67 เพอ่ื ประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
ในแต่ละปี ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพ่ือจ�ำหน่ายเป็นรายได้ เชน่ เหด็ ปา่ ชนดิ ตา่ งๆ และไขม่ ดแดง เปน็ ตน้ ปจั จบุ นั กลมุ่ ดงั กลา่ ว ไดเ้ ตบิ โตเปน็ องคก์ รธรุ กจิ ชมุ ชนในรูปแบบสหกรณก์ ารเกษตร จ�ำกัด มีตราสินค้าของกลุ่มชื่อ “วนาทิพย์” เป็นที่รู้จักอย่าง แพรห่ ลายไดร้ บั การคดั เลอื กใหเ้ ปน็ สนิ คา้ OTOP ระดบั หา้ ดาว ของจงั หวัดยโสธร ในปี ๒๕๕๒ โดยมียอดจำ� หนา่ ยในแต่ละ ปีไมต่ ำ่� กว่า ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท l ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ โดยเน้นในด้าน เกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของราษฎรในพ้ืนที่ ท้ังใน รูปแบบการฝึกอบรมอาชีพและการจัดแปลงสาธิต รวมท้ังสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร เช่น พันธุ์ไก่ สุกร สัตว์น้�ำ น้�ำเชื้อส�ำหรับผสมเทียมและเวชภัณฑ์สัตว์ ตลอดจนส่งเสริมงานศิลปาชีพ และ การปลกู หม่อนเลย้ี งไหม โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอ่ึงฯ ท�ำให้ ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นท่ีต�ำบลค้อเหนือได้ฟื้นคืนสู่ความ อุดมสมบูรณ์และเป็นรากฐานส�ำคัญท่ีช่วยสนับสนุนการ พัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตของราษฎรในพ้ืนท่ี ๗ หมู่บ้าน โดยรอบหนององ่ึ ในระยะยาว รวมทัง้ ทำ� ใหร้ าษฎรตระหนักถงึ คุณค่าและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลรักษาทรัพยากรในท้องถิ่น ซ่ึงเปรียบเสมือนเส้นเลือดท่ีหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในบริเวณน้ัน มาหลายช่ัวคนอีกด้วย 68 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่ือประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
โครงการพฒั นาพนื้ ทล่ี ุ่มนำ�้ ห้วยบางทรายตอนบนอนั เนื่องมาจากพระราชดำ� ริ จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวนั ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๓๗ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชด�ำริให้ หน่วยราชการท่ีเก่ียวข้องพิจารณาจัดตั้งโครงการ พัฒนาพื้นท่ีลุ่มน้�ำห้วยบางทรายตอนบนฯ ในลักษณะ การพัฒนาพ้ืนท่ีแบบเบ็ดเสร็จ โดยจัดหาแหล่งน�้ำ ส�ำหรับอุปโภค บริโภค และท�ำการเกษตร รวมท้ัง การพัฒนาฟื้นฟูสภาพป่าและต้นน�้ำล�ำธาร ส่งเสริม อาชีพทางการเกษตรและศิลปาชีพโดยให้มีการจัดการ ในลักษณะสหกรณก์ ารเกษตรหบุ กะพง จงั หวดั เพชรบรุ ี เพ่ือเป็นการสนองพระราชด�ำริ ได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำและระบบส่งน้�ำในพ้ืนท่ีโครงการจ�ำนวน ๗ แห่ง มีความจุ รวม ๒๔,๕๒๐,๐๐๐ ลกู บาศกเ์ มตร มพี น้ื ทร่ี บั ประโยชนร์ วม ๘,๙๐๐ ไร่ เพอื่ เปน็ แหลง่ นำ�้ สำ� หรบั ทำ� การเกษตร และอปุ โภค-บรโิ ภค โดยมีการฝึกอบรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้นำ�้ ในเขตชลประทานทั้ง ๗ อ่าง รวมท้ังจัดท�ำเวทีประชาคม เพ่ือระดมความคดิ เห็น สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของผ้ใู ช้นำ�้ ประชมุ พบปะเกษตรกรและจัดท�ำเวทีประชาคม พชื ผลทางการเกษตรในพน้ื ทีช่ ลประทาน ๗ อา่ ง ๔,๓๕๐ การทรงงาน 69 เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
ด�ำเนินการปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง โดยเพาะช�ำกล้าไม้ใช้สอย ไม้ผล และไม้เศรษฐกิจ ตามแนวพระราชด�ำริ เช่น ผักหวาน ไม้ไผ่ หวาย ไม้ พะยูง ฯลฯ เพ่ือสร้างความชุ่มช้ืนให้พื้นดิน เพ่ิมเน้ือท่ี ป่าประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ และสร้างรายได้เสริมให้กับ ราษฎรในพื้นท่ี เฉล่ียไม่ตำ่� กวา่ ๑๑,๐๐๐ บาท ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ท�ำให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึน นอกจากน้ียัง ก่อสร้างฝายต้นน้�ำแบบผสมผสานในพื้นท่ีปลูกป่าหวาย และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อช่วยชะลอน�้ำ ดักตะกอนท�ำให้ พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์ลดการเกิดไฟป่าได้ถึง ร้อยละ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของพ้ืนท่ี อีกท้ังยังฝึกอบรมเยาวชน สภาพพน้ื ทีป่ ่าในอดีต เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๗ รักษ์ป่าพิทักษ์แผ่นดินแม่ เพื่อปลูกจิต ส�ำนึกรักษาทรัพยากรป่าไม้ นอกเหนือ จากการป้องกันและปราบปรามการ กระทำ� ความผดิ เกย่ี วกับป่าไม้ มีการส่งเสริมและสาธิตการ ปรับปรุงบ�ำรุงดิน โดยใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ย พืชสด และการไถกลบตอซังข้าว เพ่ือ สภาพพืน้ ทปี่ ่าอันอดุ มสมบรู ณ์ในปี ๒๕๔๕ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรรวมทั้งปลูก หญ้าแฝกป้องกันการพังทลายของ ดินและสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ โดยรอบ ท�ำให้พื้นที่จากเคยปลูกมัน ส�ำปะหลัง ปัจจุบันสามารถปลูกข้าว ได้ผลผลิตประมาณ ๓๐๐ กิโลกรัม ตอ่ ไร่ มีการส่งเสริมการอบรมด้านอาชีพ ตามหลักสูตรท่ีเกษตรกรสนใจ เช่น การเลี้ยงหมูภูพาน การเล้ียงไก่ด�ำ การเพาะเห็ด การปลูกข้าว โดยมีการมอบ ปัจจัยการผลิตเบ้ืองต้นให้แก่เกษตรกรเม่ือสิ้นสุดการฝึกอบรม เพิ่มพูนทักษะด้าน งานหตั กรรม เชน่ งานจกั สานไม้ไผ่ งานทอผา้ จนได้การสง่ เสรมิ เปน็ สินคา้ OTOP และส่งเสริมโครงการยกป่ามาไว้ที่บ้าน มีการปลูกพืชแบบเกษตรผสมผสาน โดย 70 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
ปลูกยางพาราสลับกับผักหวาน นอกจากนี้ยังน�ำต้นคอนแคนและไม้ฮาว ซึ่ง เป็นไม้พ้ืนถ่ินที่ใกล้สูญพันธุ์ น�ำมาปลูกสลับกันเพ่ือเป็นการอนุรักษ์ไม้พ้ืนถิ่นและ สามารถสรา้ งรายไดใ้ หร้ าษฎรมรี ายไดป้ ระมาณ ๓๐,๐๐๐ - ๔๐,๐๐๐ บาท/ คน/ปี ชว่ ยลดการอพยพแรงงานไปทำ� งานต่างถิน่ ลง ท�ำใหร้ าษฏรมีคุณภาพชวี ิตที่ ดีข้นึ มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชพี มีการจัดฝึกอบรมสมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยบางทราย ให้ความรู้ แก่สมาชิกเกี่ยวกับการปรับสภาพดิน นอกจากน้ีได้อบรมให้ความรู้แก่เยาวชนให้มี ความรู้ความเข้าใจในโทษภยั ของยาเสพตดิ ท�ำใหช้ มุ ชนปลอดจากยาเสพตดิ ราษฎรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้�ำจากอ่างเก็บน้�ำท้ัง ๗ แห่ง อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์เกื้อกูลต่อระบบนิเวศและ การประกอบอาชีพ ท�ำให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ราษฎร ยังได้รับการส่งเสริมด้านสหกรณ์ และได้รับความรู้ตลอดจนมีโอกาสฝึกฝนทักษะ ในการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะท�ำให้ราษฎรมีโอกาสและ ทางเลือกในการประกอบอาชีพได้หลากหลายมากข้ึนแล้ว การด�ำเนินงานดังกล่าว ยังช่วยลดปัญหาการว่างงาน การอพยพแรงงาน และการบุกรุกป่าไม้ในพื้นที่ ไดอ้ กี ดว้ ย ๔,๓๕๐ การทรงงาน 71 เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
72 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริเขตพ้นื ท่ีภาคเหนอื จากโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ ในพน้ื ทีภ่ าคเหนอื กว่า ๑,๖๐๐ โครงการ ที่กระจาย อยทู่ วั่ ทกุ ๑๗ จงั หวดั ในภาคเหนอื ยอ่ มเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนตลอด ระยะการครองสริ ริ าชสมบตั กิ วา่ ๖๐ ปี ทที่ รงมคี วาม ห่วงใยทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ ซ่ึงสามารถ ยกตวั อยา่ งโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รแิ ละ ความส�ำเรจ็ ทีเ่ กดิ ขึน้ กับประชาชนได้ดังนี้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 73 เพื่อประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
ประเภทและจ�ำนวนของโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดำ� รใิ นเขตพื้นท่ีภาคตะวันออกเฉียงเหนอื แยกรายจังหวัด ประเภทและจำ� นวนของโครงการ จงั หวัด แหลง่ นํา้ การ สง่ิ การ สาธารณสุข คมนาคม/ สวัสดิการ บรู ณาการ/ รวม เกษตร แวดลอ้ ม ส่งเสริม ส่ือสาร สงั คม/ อืน่ ๆ ๓๖ ๑๖๘ อาชีพ การศกึ ษา ๕๘๓ ๗๖ ก�ำแพงเพชร ๓๐ ๑ ๐ ๐ ๐๐๓ ๒ ๑๕๓ ๑๓ เชยี งราย ๑๐๒ ๖ ๕ ๔ ๑ ๐ ๔๒ ๘ ๕๗ ๔๗ เชยี งใหม่ ๔๒๗ ๑๓ ๑๗ ๓๓ ๑ ๑๐ ๕๙ ๓๓ ๓๒ ตาก ๓๔ ๐ ๕ ๒ ๐ ๐ ๒๙ ๖ น่าน ๙๔ ๔ ๕ ๑๑ ๘ ๑ ๑๙ ๑๑ นครสวรรค์ ๗๑๑ ๐ ๐๐๒ ๒ พะเยา ๔๔ ๓ ๓ ๑ ๐๐๑ ๕ แพร่ ๔๓ ๑ ๒ ๐ ๐๑๐ ๐ เพชรบรู ณ์ ๒๒ ๒ ๒ ๐ ๐๑๔ ๑ พิจติ ร ๐๑๐ ๐ ๐๐๐ ๐๑ ๐๐๗ ๒ ๓๗ พษิ ณุโลก ๒๐ ๔ ๒ ๒ ๐ ๒ ๒๔ ๙ ๑๗๑ ๐๐๐ ๒ ๑๐๔ แมฮ่ อ่ งสอน ๑๐๔ ๓ ๕ ๒๔ ๒๐๐ ๕ ๗๗ ลำ� ปาง ๙๙ ๐ ๑ ๒ ล�ำพูน ๖๓ ๕ ๒ ๐ สุโขทยั ๒๘ ๐ ๐ ๐ ๐๐๑ ๐ ๒๙ อตุ รดิตถ์ ๒๔ ๐ ๒ ๙ ๒ ๐ ๑๐ ๙ ๕๖ อุทยั ธานี ๗๒๐ ๐ ๐๐๐ ๑ ๑๐ รวม ๑,๑๔๘ ๔๖ ๕๒ ๘๘ ๑๔ ๑๕ ๒๐๑ ๙๖ ๑,๖๖๐ 74 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
โครงการอา่ งเก็บนำ้� หว้ ยไฟอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอภซู าง จงั หวดั พะเยา ปัญหาที่ส�ำคัญของประชาชนส่วนใหญ่ สามารถส่งน�้ำช่วยเหลือพื้นท่ีเพาะปลูกในฤดูฝน ประมาณ ๓,๐๐๐ ไร่ และฤดูแล้ง ๕๐๐ ไร่ ประชาชนไดร้ ับ ของประเทศท่ีอยู่ในภาคเกษตรกรรมคือ การ ประโยชน์ถึง ๓,๒๐๐ คน ๑,๒๐๐ ครัวเรอื น และสามารถ บรรเทาปญั หาอทุ กภยั ภยั แลง้ ในพน้ื ทต่ี ำ� บลภซู าง และตำ� บล ขาดแคลนปัจจัยการผลิต และปัจจัยการผลิตหน่ึง ป่าสกั ไดเ้ ปน็ อย่างดี ที่จ�ำเป็นต่อการผลิตคือ น�้ำ ดังเช่นในปี ๒๕๒๓ ต่อมาในปี ๒๕๓๒ ได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น�้ำ ข้ึน โดยใช้ช่ือว่า กลุ่มผู้ใช้น้�ำอ่างเก็บน�้ำห้วยไฟ เพื่อร่วมกัน นายสนิท ค�ำงาม ผู้ใหญ่บ้านทุ่งต้ิว ได้ทูลเกล้าฯ บริหารจัดการการใช้น�้ำจากโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากการร่วมคิด ร่วมท�ำ และร่วมกนั รบั ประโยชน์ โดยไดร้ บั ถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการก่อสร้าง การสนับสนุนจากกรมชลประทานในการเข้ามาให้ค�ำแนะน�ำ ในการจดั ตง้ั กลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ�้ ใหก้ ารบรหิ ารจดั การภายในกลมุ่ เกดิ อา่ งเกบ็ น�้ำ เมื่อคร้งั เสด็จฯ ทอดพระเนตรโครงการ ประสทิ ธิภาพ จึงท�ำใหก้ ลุ่มผู้ใชน้ ำ้� อ่างเก็บน้�ำหว้ ยไฟอนั เน่ือง มาจากพระราชดำ� ริ ไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ ในโครงการประกวด อ่างเก็บน้�ำร่องส้าน ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. คัดเลือกผลงานการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำ� ริ ดา้ นการบรหิ ารจดั การโครงการพฒั นาแหลง่ นำ้� ๒๕๒๓ ซงึ่ ทรงมีพระราชดำ� ริ อันเนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ “ ค ว ร พิ จ า ร ณ า ว า ง โ ค ร ง ก า ร แ ล ะ ก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำขนาดเล็กและฝายทดน้�ำตาม ล�ำห้วยสาขาของล�ำน้�ำแม่ลาง เพื่อจัดหาน�้ำ ให้ราษฎรในหมู่บ้านต่างๆ ในเขตอ�ำเภอเชียงค�ำ จังหวัดพะเยา สามารถท�ำการเพาะปลูกได้ทั้ง ในฤดูฝนและฤดูแล้ง อีกท้ังให้มีน�้ำไว้เพ่ือการ อุปโภค-บรโิ ภคตลอดไปดว้ ย” ๔,๓๕๐ การทรงงาน 75 เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
ผลส�ำเร็จท่ปี ระชาชนไดร้ ับ ๑. ดา้ นการเกษตร ช่วงแรกจะเป็นการปลูกข้าวนาปี และช่วงที่ ๒ ปลูกพืชฤดแู ลง้ เช่น กระเทยี ม หรือ ถ่ัวลิสง เกษตรกรจะทำ� การเพาะปลูกข้าวโพดก่อนฤดฝู นอีกรอบหนึ่ง มีพื้นทก่ี ารเกษตร จ�ำนวน ๓,๐๐๐ ไร่ ๒. ด้านการประมง กลุ่มเกษตรกรมีการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังภายในอ่างเก็บน�้ำ เพ่ือเป็นอาหาร กลางวันให้กับเดก็ นักเรยี น ๓. ด้านการอุปโภค-บริโภค ราษฎร ๒ ต�ำบล ๘ หมู่บ้าน ๔๐๑ ครัวเรือน ได้มีน�้ำเพ่ือการเกษตร และการอปุ โภค-บรโิ ภค มกี ารนำ� นำ้� มากกั เกบ็ ไวใ้ นอา่ งเกบ็ นำ้� ขนาดเลก็ และจากอา่ งเกบ็ นำ�้ ขนาดเลก็ มาเกบ็ ไวท้ สี่ ระ ๔. การเลย้ี งสตั ว์ มีการนำ� น้�ำมาใชป้ ระโยชน์ในการทำ� ปศสุ ัตว์ เชน่ การเล้ยี งโค กระบอื เป็นตน้ 76 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบถึงสภาพปัญหาในพ้ืนท่ี และเม่ือวันท่ี ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดเขื่อนนเรศวร อ�ำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พระราชทานพระราชด�ำริให้พิจารณาความเหมาะสมในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันล�ำน้ําแควน้อย เพ่ือบรรเทา อทุ กภัยในเขตลุ่มนา้ํ แควน้อยตอนล่าง เข่อื นแควน้อยบำ� รุงแดน จังหวดั พษิ ณโุ ลก ในปี ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานแนวพระราชด�ำริให้ด�ำเนินโครงการเพื่อบรรเทา อุทกภัย และจัดหาน้�ำสนับสนุนพ้ืนที่ชลประทานพิษณุโลก ซึ่ง กรมชลประทานได้ท�ำการศึกษามาอย่างต่อเน่ืองและเร่ิมก่อสร้าง ในปี ๒๕๔๖ ลักษณะเป็นอ่างเก็บน้�ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใน พ้ืนที่ลุ่มน�้ำแควน้อยซึ่งเป็นลุ่มน�้ำสาขาท่ีส�ำคัญอีกแห่งหน่ึงของ ลุ่มน้�ำน่าน ประกอบด้วย เข่ือนและอ่างเก็บน้�ำก้ันล�ำน้�ำแควน้อย ในช่วงพื้นท่ีหุบเขาเขต อ�ำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นแหล่งน�้ำต้นทุน ตลอดจนเก็บกักน�้ำ ในช่วงที่มีปริมาณมากเกินความจ�ำเป็น และจากน้ันจึงระบายน�้ำ ลงล�ำน�้ำเดิม เพ่ือเพิ่มปริมาณน�้ำให้กับโครงการชลประทาน ที่เกิดขึ้นใหม่ของเข่ือนแควน้อยฯ และโครงการสูบน�้ำด้วยไฟฟ้า ดา้ นท้ายเขือ่ น ตลอดจนชว่ ยบรรเทาอทุ กภยั ในพืน้ ทตี่ อนลา่ งบรเิ วณ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 77 เพื่อประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
ทรี่ าบระหวา่ งแมน่ ำ้� แควนอ้ ยและแมน่ ำ�้ วงั ทอง รวม ทงั้ เปน็ เขอ่ื นทมี่ ศี กั ยภาพในการตดิ ตงั้ เครอื่ ง กงั หนั น้ำ� เพือ่ ผลติ กระแสไฟฟ้า อกี ทงั้ ยงั สามารถบริหาร จดั การนำ�้ รว่ มกบั ลมุ่ นำ�้ อน่ื ๆ ในลกั ษณะการบรู ณา การระหวา่ งลมุ่ นำ้� ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ผลส�ำเรจ็ ทปี่ ระชาชนไดร้ บั ๑. บรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เคยเกิด ข้ึนบริเวณพ้ืนที่ลุ่มน้�ำแควน้อยตอนล่าง ในเขต อำ� เภอวัดโบสถ์ และอ�ำเภอเมือง จังหวัดพษิ ณโุ ลก ประมาณ ๗๕,๐๐๐ ไร่ ๒. เม่ือด�ำเนินการโครงการแล้วเสร็จมีพ้ืนที่ชลประทานเพ่ิมข้ึนจ�ำนวน ๑๕๕,๑๖๖ ไร่ และสามารถท�ำการเกษตรได้ ๒ ฤดูกาล/ปี ๓. เป็นแหลง่ น�้ำเพ่อื การอุปโภค-บริโภค การอุตสาหกรรม ในเขตอำ� เภอวดั โบสถ์ อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๔. เปน็ แหลง่ ท่องเท่ยี ว แหลง่ เรยี นรู้ และเปน็ แหล่งประมงแหง่ ใหมข่ องจังหวัดพษิ ณุโลก ๕. เป็นแหล่งพลงั งานสะอาด (โรงไฟฟ้าพลงั น�้ำท้ายเข่ือนฯ) ๑๔๔ ลา้ นกิโลวัตต-์ ชั่วโมง/ปี 78 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
โครงการพฒั นาพน้ื ทล่ี มุ่ นำ้� แมอ่ าว อนั เน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอบา้ นโฮ่ง จังหวดั ล�ำพูน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตรสภาพพ้ืนที่บริเวณ ที่สรา้ งอ่างเกบ็ น้�ำแม่อาวนอ้ ย ต�ำบลนครเจดยี ์ อำ� เภอป่าซาง จงั หวัดล�ำพูน เมอ่ื วนั ที่ ๑๑ มนี าคม ๒๕๓๕ ในการน้ีได้พระราชทานพระราชด�ำริให้พิจารณาด�ำเนินการเกี่ยวกับการจ�ำแนกประเภทป่า เสอื่ มโทรมบรเิ วณทรี่ าบดนิ ยงั มคี ณุ ภาพดี เพอื่ จดั สรรใหร้ าษฎรทไี่ มม่ ที ที่ ำ� กนิ ไดเ้ ขา้ อยเู่ ปน็ การถาวร จะเปน็ การช่วยแกไ้ ขปัญหาการบกุ รกุ ท�ำลายป่า ส่วนพ้นื ทด่ี อย พ้นื ท่ีเนินสูงหรอื ภเู ขาต่างๆ รวมทั้ง พ้ืนท่ีดนิ คุณภาพไม่ดแี ละเสียสภาพปา่ ให้ด�ำเนนิ การปลูกป่าทดแทน สภาพพ้นื ทบ่ี ริเวณอ่างเก็บนํ้าแมอ่ าวน้อยในอดีต สภาพพนื้ ที่บรเิ วณอ่างเก็บนาํ้ แม่อาวน้อยปัจจุบนั ๔,๓๕๐ การทรงงาน 79 เพ่ือประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
ผลส�ำเร็จที่ประชาชนได้รับ ท�ำให้มีพื้นท่ีป่าในโครงการฯ ๖๑,๑๖๐ ไร่ (คิดเป็น ๔๘.๑% ของพื้นท่ีโครงการ) ด�ำเนินการจัดท่ีดินท�ำกิน โดยมอบ ส.ป.ก. ๔-๐๑ จำ� นวน ๒,๕๙๘ ฉบบั แก่เกษตรกรจ�ำนวน ๑,๙๘๘ ราย ๒๒,๔๓๐ ไร่ (คดิ เปน็ ๘๒% ของพื้นท่ี ส.ป.ก.) สามารถ ส่งนำ�้ สำ� หรับพนื้ ทกี่ ารเกษตร จำ� นวน ๒๙,๕๐๖ ไร่ (คดิ เปน็ ๔๖% ของพนื้ ทก่ี ารเกษตร) และสามารถสง่ นำ้� สำ� หรบั อปุ โภคบรโิ ภค ได้ ๑๐๐% แกค่ รวั เรอื น การพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้มาอย่างต่อเนื่อง สง่ ผลใหส้ ามารถฟน้ื ฟพู น้ื ทล่ี มุ่ นำ�้ แมอ่ าวใหม้ สี ภาพปา่ ทสี่ มบรู ณ์ เป็นแหล่งต้นน้�ำล�ำธาร ปลูกจิตส�ำนึกให้แก่ราษฎรด้านการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการและพัฒนาพ้ืนที่ลุ่ม น้ำ� เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม เกดิ เครือขา่ ยและแนวรว่ ม อาชพี ด้านป่าไมแ้ ละระบบวนเกษตร เป็นตัวอยา่ งในการอยรู่ ว่ ม กนั ระหวา่ งคนกบั ปา่ อกี ทงั้ สามารถยกระดบั ของราษฎรในพน้ื ที่ โครงการ โดยการพัฒนาอาชีพทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม รวมถงึ การพฒั นาด้านสังคมด้วย พนื้ ท่กี ารเกษตรในโครงการฯ โครงการพัฒนาพน้ื ที่ลมุ่ น�้าแม่อาว จงั หวดั ลา� พนู การฟน้ื ฟูพ้ืนทปี่ า่ การจัดสรรทดี่ ินทา� กนิ พ้ืนทป่ี า่ ไร่ ๔๘.๑ % มอบ ส.ป.ภ. ๒,๕๙๘ ฉบับ ๖๑,๑๖๐ ใรหวม้เกษ๒ต๒ร,๔ก๓ร๐๑,ไ๙ร๘่ ๘๘๒คน% พื้นที่การเกษตรรับนา�้ การส่งน�้าส�าหรบั อุปโภค-บริโภค พ๒๙้นื ท,๕่กี ๐า๖รเกไรษ่ ต๔ร๖รบั %นำ้า ครัวเรือน ๑๐๐ % 80 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
โครงการหมู่บ้านยามชายแดนอันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริ หมู่บ้านแมส่ ว่ ยอู ตำ� บลผาบ่อง อำ� เภอเมือง เมื่อคร้ังสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ จังหวดั แม่ฮ่องสอน แปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระต�ำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัด เชียงใหม่ ระหว่างประทับได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรใน ทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ พนื้ ทภ่ี าคเหนอื ทรงมกี ระแสพระราชดำ� รสั ความตอนหนง่ึ วา่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงความม่ันคง ตามแนวชายแดน ทรงเป็นห่วงว่าราษฎรชาวเขาที่อยู่ในพ้ืนที่ห่างไกล ฝ่ายตรงข้ามที่เขาไม่หวังดีต่อประเทศเขาจะใกล้ชิดคนเหล่าน้ีมากกว่า เรา ถ้าเราไม่ใกล้ชิด เขาก็จะมายุยงส่งเสริมให้เป็นอื่น เราก็จะล�ำบาก จะต้องรักษาคนเหล่านี้ไว้ จะต้องรักษาประเทศชาติไว้ รักษาคน รักษา ประเทศ ทหารก็ดี ต�ำรวจชายแดนก็ดี หรือกรมป่าไม้ก็ดี ไม่ได้อยู่ใน พ้ืนท่ีตลอดเวลา ถ้าราษฎรท่ีเขาอยู่ตลอด เขามีความส�ำนึกเป็นไทย เขารกั ประเทศไทย เขาหวงแหนแผน่ ดนิ เขากจ็ ะเปน็ ยามทีด่ ี” ๔,๓๕๐ การทรงงาน 81 เพอื่ ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
ต่อมาเมื่อวันท่ี ๑๑ มีนาคม ๒๕๔๒ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมราษฎรท่ีบ้าน รวมไทยพัฒนาที่ ๑ ต�ำบลรวมไทยพัฒนา อ�ำเภอพบพระ จังหวัด ตาก ในการน้ีได้พระราชทานพระราชด�ำริ ให้พิจารณาน�ำราษฎร ชาวไทยภูเขาท่ีสมัครใจไปเป็นยามตามชายแดนตามแนวพระราชด�ำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง เพื่อประโยชน์ด้านความม่ันคง ของประเทศ โครงการหมู่บ้านยามชายแดนอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ ดำ� เนนิ การใน ๕ หมบู่ ้าน ไดแ้ ก่ บา้ นมะโอโค๊ะ จงั หวดั ตาก บา้ นปางคอง บา้ นแมส่ ว่ ยอู บา้ นดอยผกั กดู และบา้ นอาโจ้ จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน โดยการพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐาน ทงั้ เสน้ ทางคมนาคม ระบบไฟฟา้ พลงั งานแสงอาทติ ย์ ระบบประปาภเู ขา การพฒั นาสงั คมและยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ทงั้ ทางดา้ นการศกึ ษาและสาธารณสขุ การส่งเสรมิ อาชีพและการเสรมิ รายไดใ้ ห้แก่ราษฎร ไดแ้ ก่ สง่ เสรมิ การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไกพ่ ันธุ์พื้นเมือง การทอผ้า ท�ำเครอ่ื งเงนิ เป็นต้น รวมทง้ั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม อนั ได้แก่ การปลกู ป่าทดแทน และการสรา้ งฝายชะลอความชุ่มช้ืน หมบู่ า้ นดอยผักกดู ตำ� บลเวียงเหนอื อำ� เภอปาย จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน ผลสำ� เรจ็ ทป่ี ระชาชนได้รับ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรชาวไทยภูเขาทั้งส้ิน ๕ ชนเผ่า ได้แก่ ชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง ไทยใหญ่ มูเซอ มูเซอแดง และคะยา ทีอ่ าศยั อย่ใู นพ้ืนที่ ๕ หมูบ่ า้ น จ�ำนวน ๑๖๔ ครวั เรอื น ๗๒๘ คน ให้ได้รบั ประโยชนใ์ นด้านโครงสร้างพื้นฐาน และบริการจากภาครัฐ ส่งผลให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึน ด�ำรงชีวิตอย่างพอเพียง มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปลอดจาก ขบวนการยาเสพตดิ มีจิตสำ� นกึ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ปลกู จิตส�ำนกึ ในความเป็นคนไทย มคี วามจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และให้ความรว่ มมอื ต่อทางราชการในด้านความมัน่ คง 82 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
สถานพี ฒั นาการเกษตรที่สงู ตามพระราชดำ� ริ ด้วยเหตุที่ผืนป่าภาคเหนือเป็นผืนป่าต้นน้�ำล�ำธารท่ีส�ำคัญถูกแผ้วถาง บกุ รกุ เพอื่ เปดิ พนื้ ทส่ี ำ� หรบั การเกษตรดว้ ยความรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณข์ องประชาชนในพน้ื ที่ ยังผลให้พื้นท่ีต้นน้�ำถูกท�ำลาย และส่งผลต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เบื้องล่างท่ีมักจะ ประสบปญั หาการขาดแคลนน้�ำในฤดแู ลง้ ซึง่ ปญั หาดังกล่าวนบั วนั จะทวีความรนุ แรง อยา่ งตอ่ เน่อื ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชด�ำริ ให้จัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในพื้นท่ีภาคเหนือ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันรวม ๑๘ สถานี โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และ ตัวอย่างการท�ำการเกษตรท่ีถูกต้องตามหลักวิชาการ และช่วยเหลือให้ราษฎร ในพ้ืนที่สูงด�ำรงชีพอยู่ในพ้ืนท่ีท�ำกินเดิมอย่างมีความสุขไม่อพยพโยกย้ายถ่ินฐาน มีอาหารเพียงพอต่อการบริโภค มีความม่ันคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึง มีจิตส�ำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้ราษฎรเข้ามามีส่วนในกิจกรรม ตา่ งๆ ของสถานฯี เพอื่ ซมึ ซบั ความรแู้ ละเกดิ ทกั ษะในการนำ� ไปใชท้ ำ� การเกษตรในพนื้ ที่ ของตนเอง โดยสามารถยกตวั อย่างของความส�ำเร็จได้ดังนี้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 83 เพื่อประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
สถานีพัฒนาการเกษตรทสี่ งู ตามพระราชด�ำริภพู ยัคฆ์ สถานพี ัฒนาการเกษตรท่สี ูงตามพระราชด�ำริ อ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จงั หวัดน่าน ลา� ดับโครงการ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ ๐๑. สถานีการพัฒนาการเกษตรปา่ ไม้และส่งิ แวดลอ้ มบา้ นแปกแซม ทอดพระเนตรพ้ืนท่ีป่าบ้านน้�ำรีพัฒนา หมู่ที่ ๑๒ ต�ำบลขุนน่าน อ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดนา่ น เมอื่ วันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๔๖ อำาเภอเวียงแหง จังหวดั เชียงใหม่ และได้พระราชทานพระราชด�ำริให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจัดตั้ง ๐๒. สถานพี ัฒนาการเกษตรที่สงู ฯ ดอยแบแล อำาเภออมกอ๋ ย จังหวัดเชยี งใหม่ สถานีพัฒนาการเกษตรท่ีสูงตามพระราชด�ำริเพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ ๐๓. สถานพี ัฒนาการเกษตรทส่ี งู ฯ หว้ ยแมเ่ ก๋ียง อำาเภอเชยี งดาว จังหวดั เชยี งใหม่ และฟน้ื ฟูสภาพป่าไมท้ ่ีถกู ท�ำลายใหค้ นื ความสมบรู ณอ์ กี ครง้ั ๐๔. สถานีพัฒนาการเกษตรที่สงู ฯ ดอยอมพาย อำาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชียงใหม่ ๐๕. สถานพี ัฒนาการเกษตรทส่ี งู ฯ บา้ นเสาแดง อำาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ ผลสำ� เร็จทปี่ ระชาชนไดร้ บั ๐๖. สถานีพัฒนาการเกษตรที่สงู ฯ ดอยม่อนลา้ น อำาเภอพรา้ ว จังหวัดเชยี งใหม่ ๐๗. สถานีพฒั นาการเกษตรทส่ี ูงฯ ห้วยเมืองงาม อำาเภอแมอ่ าย จงั หวัดเชียงใหม่ ๑. การสง่ เสรมิ ปลกู หมอ่ นกนิ ผลสด ราษฎรจำ� นวน ๑๒๓ ๐๘. สถานพี ฒั นาการเกษตรที่สงู ฯ บ้านนาเกยี น อำาเภออมกอ๋ ย จงั หวดั เชยี งใหม่ ราย ไดผ้ ลผลติ ๘๐ ตนั /ปี หรอื คดิ เปน็ เงนิ /รายไดข้ องราษฎรประมาณ ๐๙. สถานีพัฒนาการเกษตรท่สี งู ฯ ปางขอน อาำ เภอเมอื ง จงั หวัดเชียงราย ๑๐. สถานพี ฒั นาการเกษตรทีส่ งู ฯ ธารทอง อาำ เภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ๑๑. สถานีพฒั นาการเกษตรท่สี งู ฯ ดอยบ่อ อาำ เภอเมือง จงั หวัดเชยี งราย ๑๒. สถานพี ฒั นาการเกษตรทส่ี งู ฯ หว้ ยหยวกปา่ โซ อาำ เภอแมฟ่ า้ หลวง จงั หวดั เชยี งราย ๑๓. สถานีพฒั นาการเกษตรที่สูงฯ ภพู ยัคฆ์ อาำ เภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวัดน่าน ๑๔. สถานพี ฒั นาการเกษตรทส่ี งู ฯ สะจกุ -สะเกย้ี ง อาำ เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั นา่ น ๑๕. สถานพี ัฒนาการเกษตรท่ีสงู ฯ บา้ นสบขนุ่ อาำ เภอท่าวงั ผา จังหวัดนา่ น ๑๖. สถานีพัฒนาการเกษตรที่สงู ฯ บ้านสันตสิ ุข อาำ เภอปง จังหวัดพะเยา ๑๗. สถานีพัฒนาการเกษตรทีส่ งู ฯ ภูขัด ภูเม่ยี ง ภูสอยดาว อาำ เภอชาตติ ระการ จงั หวดั พิษณุโลก ๑๘. สถานีพัฒนาการเกษตรทส่ี ูงฯ บ้านป่าคา อาำ เภอคลองลาน จังหวัดกำาแพงเพชร ๒,๔๐๐,๐๐๐บาท/ปี ๒. การส่งเสริมการปลูกกาแฟ มีราษฎรกลุ่มผู้ปลูกกาแฟจ�ำนวน ๔๘ ราย ซึ่งได้ผลผลิตประมาณ ๓ ตัน/ปี หรือ คิดเปน็ เงิน/รายได้ของราษฎรประมาณ ๔๕,๐๐๐ บาท/ปี การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ด�ำเนินการบริหารจัดการพื้นที่โดยใช้พ้ืนท่ีลุ่มน้�ำรี มีขนาดพื้นท่ี ๑๐๙,๓๑๐ ไร่ ด้วยการแบ่งเขตการจัดการพ้ืนที่ออกเป็นป่าต้นน�้ำล�ำธาร (เขตอนุรักษ์เข้มข้น) ป่าเพื่อการใช้สอยของชุมชน ป่าชุมชน พ้ืนที่ท�ำกิน ท่ีอยู่ อาศัย ที่สาธารณประโยชน์ และแหล่งน�้ำ โดยยึดแนวทางการป้องกันรักษา สภาพป่าสมบูรณ์ให้คงอยู่ และฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและถูกบุกรุกท�ำลาย ให้กลับคืนความอุดมดังเดิม ซ่ึงได้มีการปลูกฟื้นฟูไปแล้วจ�ำนวน ๗,๕๐๐ ไร่ คดิ เปน็ ๗๕ เปอรเ์ ซน็ ตข์ องพนื้ ทด่ี ำ� เนนิ การของโครงการฯ ซงึ่ มพี น้ื ทดี่ ำ� เนนิ การ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่า เพ่ิมความหลากหลายทางชีวภาพ จ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ ไร่ และการด�ำเนินการกิจกรรมอื่นๆ เช่น การป้องกันไฟป่า ก็ได้มีการเฝ้าระวังและขอความร่วมมือราษฎรเฝ้าระวังไฟป่า และ ในช่วงฤดแู ลง้ ปี ๒๕๕๖ ไมพ่ บไฟป่าเกิดขึ้นในพนื้ ทีแ่ ต่อย่างใด ส�ำหรับการป้องกันบุกรุกทำ� ลายป่า ฝายตน้ น�ำ้ การดูแลปรบั ปรงุ ระบบน�้ำเพ่ือการอุปโภค บริโภคของราษฎรเพาะช�ำกล้าไม้ ฯลฯ ก็ได้บูรณาการกับราษฎรในพื้นท่ีด�ำเนินกิจกรรมร่วมกัน ตลอดท้ังปี 84 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่อื ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
สถานีพฒั นาการเกษตรทส่ี ูงตามพระราชดำ� รบิ า้ นปางขอน อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งราย สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทอดพระเนตรสภาพพนื้ ที่ บรเิ วณดอยเกี๊ยะ บ้านปางขอน หมู่ที่ ๗ ต�ำบลห้วย ชมภู อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดเชยี งราย เมื่อวนั ท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๔๕ ในการน้ี ได้พระราชทานพระ ราชด�ำริให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง พิจารณาจัดต้ัง สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง โดยให้ปลูกพืชไม้ผล เมอื งหนาว พชื ผกั ตลอดจนไมด้ อกเมอื งหนาว โดย ให้ราษฎรในพ้ืนท่ีมีส่วนร่วมในการด�ำเนินงานของ สถานี เพอ่ื ใหร้ าษฎรเกดิ ความรู้ ความชำ� นาญ และ นำ� ความรูก้ ลับไปดำ� เนินการในพืน้ ทีต่ นเอง สภาพปา่ ในพนื้ ทโี่ ครงการปี พ.ศ. ๒๕๔๘ สภาพปา่ ในพื้นทโ่ี ครงการปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ลกั ษณะโดยทัว่ ไปของพ้ืนที่เกษตรทส่ี ูง จะต้องเปน็ พื้นท่ที ีส่ ูงจากระดบั นำ้� ทะเล ๗๐๐ เมตรขึน้ ไป พื้นทีป่ ระกอบดว้ ยภเู ขา สงู สลบั ซบั ซอ้ น มคี วามลาดชนั และเปน็ พน้ื ทท่ี มี่ กี ารพงั ทลายของดนิ สงู สำ� หรบั สภาพปญั หาของบนพน้ื ทส่ี งู เกดิ จากการกระทำ� ของ มนษุ ยท์ ัง้ ส้นิ เชน่ การบุกรกุ ท�ำลายปา่ แหล่งตน้ น�ำ้ ลำ� ธาร ปญั หายาเสพติด ปัญหาความม่นั คง ซึง่ ไมส่ ามารถดำ� เนนิ ตามกฎหมาย ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนั้นยังประสบปัญหาการท�ำลายสมดุลทางธรรมชาติ ท�ำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง ซึ่งปัญหา เหล่าน้ีจ�ำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไขอย่างต่อเน่ืองต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของการสร้างจิตส�ำนึกในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของ ประชาชนในพน้ื ท่ี รวมทัง้ ส่งเสรมิ และให้ความรู้ในการประกอบอาชีพ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 85 เพ่ือประโยชน์สุขแห่งมหาชน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันด�ำเนินงานแบบบูรณาการโดยพัฒนา พน้ื ทบ่ี รเิ วณโครงการฯ จำ� นวน ๑๗,๒๔๐ ไร่ ดว้ ยการปรบั ปรงุ ระบบนเิ วศตน้ นำ้� สรา้ ง ฝายตน้ นำ�้ ล�ำธาร เพ่ือการฟน้ื ฟทู รพั ยากรธรรมชาติ และเปน็ แหลง่ ใหค้ วามรแู้ ละฝึก อาชีพแก่ราษฎรในพ้ืนท่โี ดยสร้างทศั นคติดา้ นการอนุรกั ษ์ควบคูก่ นั ท้ังน้เี พือ่ ลดการ ใช้พ้ืนท่ี ลดการท�ำลายป่า จัดรูปแบบการเกษตรเพ่ือให้ชาวบ้านอยู่ได้ เกิดการจ้าง แรงงาน และเปน็ ศนู ย์สาธิต ฝกึ อบรม ปัจจุบันการพัฒนาอาชีพของราษฎรมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากและมี ผลผลผลติ ทสี่ �ำคัญคอื กาแฟ และพชื ผักเมืองหนาว เชน่ สาล่ี มะคาเดเมีย โดยน�ำ ไปจำ� หนา่ ยทีต่ ลาดและร้านคา้ ในเมอื งเชยี งราย นอกจากนจี้ ากการจดั ชุดปฏิบตั กิ าร จิตวิทยาและประชาสัมพันธ์โครงการ พร้อมท้ังจัดชุดก�ำลังพลจากกองทัพบกเข้า ลาดตระเวนในพน้ื ทอี่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทำ� ใหป้ ญั หายาเสพตดิ ลดระดบั ความรนุ แรงลงมาก ผลส�ำเรจ็ ทีป่ ระชาชนได้รบั ผลส�ำเร็จของโครงการฯ สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้ จากในอดีตจ�ำนวน ๑๐,๕๐๐ ไร่ เพ่ิมเป็นจ�ำนวน ๑๔,๕๐๐ ไร่ นอกจากน้ี รายได้ของราษฎรกไ็ ดพ้ ัฒนามาในทางท่ดี ขี นึ้ จากเดิมประมาณ ๒๗,๐๐๐ บาท/ครวั เรอื น/ปี ปจั จุบนั มรี ายไดเ้ พิ่มเปน็ ๑๗๔,๐๐๐ บาท/ครัวเรือน/ปี ซึ่งรายได้ส�ำคัญมาจากการส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิกาในพ้ืนที่โดยได้มีการส่งเสริมด้านการ ตลาดมาอย่างต่อเนือ่ ง ทำ� ให้ปัจจุบนั ราษฎรสามารถขายเมลด็ กาแฟแหง้ ได้กิโลกรมั ละ ๑๕๐ บาท 86 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
โครงการอนรุ กั ษแ์ หลง่ พนั ธกุ รรมไมส้ กั และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ราษฎรบรเิ วณปา่ ลมุ่ นำ้� ของ-ลมุ่ นำ้� ปาย อนั เน่อื งมาจากพระราชด�ำริ จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงรบั โครงการ อนรุ กั ษแ์ หลง่ พนั ธกุ รรมไมส้ กั และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ราษฎรบรเิ วณ ป่าลุ่มน้�ำของ-ลุ่มน้�ำปาย ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชด�ำริ เมอื่ วนั ที่ ๑๘ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๓ เพอ่ื อนุรักษแ์ หล่งป่าสกั พ้นื ที่ ๔๙๗.๒ ตารางกโิ ลเมตร ในเขตพ้นื ทรี่ ักษาพนั ธ์ุสตั วป์ ่าลมุ่ น�้ำ ปาย ๓๔๔ ตารางกิโลเมตร และในเขตป่าสงวนแหง่ ชาติป่าแม่ปาย ฝั่งขวาตอนล่าง ๒.๒ ตารางกิโลเมตร และป่าสงวนแห่งชาติป่า แม่ปายฝั่งซ้ายตอนล่าง ๑๕๑ ตารางกิโลเมตร ไม่ให้ถูกบุกรุก ทำ� ลาย ผลส�ำเร็จที่ประชาชนไดร้ ับ สามารถรักษาพ้ืนที่ป่าสักธรรมชาติเป็นเขตอนุรักษ์ที่ ต้องดูแลเป็นพิเศษ เน้ือที่ ๙๑,๐๐๐ ไร่ และอนุรักษ์ฟื้นฟูพ้ืนท่ีป่า เสอื่ มโทรม โดยอาศยั การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน เสรมิ สรา้ งจติ สำ� นกึ ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และเปน็ แหล่งศึกษาวิจัยด้านพันธุกรรมไม้สัก อีกทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิต ของราษฎรบริเวณป่าลุ่มน้�ำของ-ลุ่มน�้ำปาย จ�ำนวน ๔ หมู่บ้าน ประกอบด้วย บา้ นห้วยซลอบ บ้านนาอ่อน บ้านมะโนรา และบา้ น ห้วยปมฝาก ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ท่ีดีขึ้น เสริมสร้าง จิตส�ำนึกแก่ชุมชนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เกดิ ความรกั ความหวงแหนทรพั ยากรปา่ ไม้และเรยี นรกู้ ารจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มอย่างยงั่ ยนื ๔,๓๕๐ การทรงงาน 87 เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชน
88 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริเขตพ้ืนท่ภี าคใต้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ พระราชด�ำเนินไปเยี่ยมราษฎรในพื้นท่ีภาคใต้ ตั้งแต่ปี ๒๕๐๒ ทรงศึกษาปัญหาและ พระราชทานพระราชด�ำริเพ่ือแก้ปัญหาอย่าง ต่อเนื่อง ภายใต้แนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เร่ิมมีโครงการอันเน่ืองมาจากพระ ราชด�ำริในเขตพื้นที่ภาคใต้แห่งแรก เม่ือปี ๒๕๑๗ จนถึงปัจจุบันมีจ�ำนวนทั้งสิ้น ๘๒๒ โครงการ ครอบคลมุ ๘ ประเภท พ้ืนที่ภาคใต้มี ๑๔ จังหวัด ปัญหา ทีเ่ กิดขึน้ ส่วนใหญ่ คือ นำ�้ ทว่ มเมือ่ ยามนำ�้ หลาก จะระบายออกไมท่ นั ทง้ั ยงั มปี ญั หาดนิ เสอื่ มโทรม อนั เนอื่ งมาจากนำ�้ ทะเลทะลกั เขา้ ทว่ มไรน่ า ทำ� ให้ ในระยะยาวไมส่ ามารถเพาะปลกู หรอื ใชป้ ระโยชน์ จากดนิ ได้ ๔,๓๕๐ การทรงงาน 89 เพื่อประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
ตารางแสดงประเภทและจำ� นวนของโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� รขิ องแตล่ ะจงั หวดั ในเขตพนื้ ทภ่ี าคใต้ ประเภทและจ�ำนวนของโครงการ จังหวดั แหล่งน้ํา การ สิ่ง การ สาธารณสขุ คมนาคม/ สวสั ดกิ าร บูรณาการ/ รวม เกษตร แวดล้อม ส่งเสริม สอื่ สาร สงั คม/ อนื่ ๆ ๑๔ ๔๕ อาชีพ การศกึ ษา ๒๘ ๖๒ กระบ่ี ๖๐ ๓ ๐ ๐๐๐ ๕ ๓๖๒ ๖๗ ชมุ พร ๓๒ ๐ ๒ ๐ ๐๑๗ ๓ ๑๗ ๓๓ ตรัง ๑๙ ๑ ๐ ๑ ๐๑๖ ๐ ๓ ๖๖ นครศรฯี ๕๐ ๐ ๔ ๑ ๐๐๔ ๓ ๑๔ ๖๕ นราธิวาส ๒๖๕ ๑๔ ๖ ๔๗ ๒ ๗ ๑๓ ๘ ๑๖ ๓๐ ปัตตานี ๓๓ ๒ ๑ ๑๙ ๑ ๒ ๔ ๕ ๘๒๒ พังงา ๙๓ ๕ ๐ ๐๐๐ ๐ พัทลงุ ๒๕ ๑ ๐ ๔ ๐๐๑ ๒ ภูเก็ต ๑๐ ๑ ๐ ๐๑๐ ๐ ยะลา ๔๖ ๒ ๒ ๕ ๑๔๖ ๐ ระนอง ๘๒ ๐ ๐ ๓๐๑ ๐ สงขลา ๔๑ ๒ ๓ ๔ ๐ ๑ ๑๒ ๒ สตลู ๘๐ ๒ ๑ ๐๐๕ ๐ สุราษฎร์ธานี ๑๘ ๐ ๑ ๓ ๐๓๔ ๑ รวม ๕๖๑ ๒๗ ๓๐ ๘๕ ๗ ๒๐ ๖๓ ๒๙ 90 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
โตคารมงแกนาวรพปร้อะรงากชันดแ�ำรลิ ะจบงั รหรวเดัทชามุอพุทรกภัยเมืองชุมพร “…ให้เขารีบขุดตามแผน และให้ท�ำโครงการเสร็จ ภายในเดือนหนึ่ง แทนที่จะเป็นปีหนึ่ง...จึงเร่ิมท�ำการขุด และให้ ทำ� ทอ่ และมปี ระตนู ำ�้ ทจี่ ะทะลอุ อกไปในหนองใหญ่ เพอื่ ระบายนำ้� ลงคลอง...” “...สบิ แปดลา้ นกวา่ กน็ า่ จะคมุ้ คา่ เปน็ การประหยดั ของ ประชาชน ท้ังเป็นการประหยัดเงินของราชการด้วย... ...น�้ำจึง ไมท่ ่วมแม้จะมพี ายุมาอยา่ งหนัก จงึ เป็นชัยชนะที่ใหญห่ ลวงของ มลู นิธชิ ยั พัฒนา มลู นิธชิ ยั พัฒนาจงึ มผี ลงานสมชอ่ื ... ” พระราชดำ� รสั เมอ่ื วันท่ี ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ตวั เมอื งชมุ พรมคี ลองทา่ ตะเภาไหลผา่ นกลางเมอื ง ซงึ่ เปน็ แมน่ ำ�้ สายหลกั ของเมอื ง มคี วามลาดชนั มาก เมอ่ื เกดิ ฝนตกหนกั ตดิ ตอ่ กนั หลายวันทำ� ใหเ้ กดิ ภาวะน้�ำล้นตลิ่ง เนื่องจากคลองทา่ ตะเภาช่วงบริเวณเมืองชุมพร จุนำ้� ไดเ้ พยี ง ๓๕๐ ลกู บาศกเ์ มตร/ วินาที ท�ำให้ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมา ชุมพรต้องเจอกับสภาวะน�้ำท่วมตัวเมืองทุกปี สร้างความเดือดร้อนต่อราษฎรมาโดยตลอด จนกระทัง่ เม่ือคราวเกิดอุทกภยั หนัก เนอื่ งจากพายุโซนร้อนซีตา้ เม่อื เดือนสงิ หาคม ๒๕๔๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานทนุ ทรพั ยจ์ ากมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา จำ� นวน ๑๘ ลา้ นบาท และทรงมพี ระราชดำ� ริ ใหเ้ รง่ รัดขุดคลองหัววัง-พนงั ตัก พรอ้ มทัง้ ก่อสร้างประตรู ะบายน�้ำ ๓ แห่ง ผลสัมฤทธ์ิจากการบริหารจัดการ น้�ำ สามารถระบายน�้ำออกสู่ทะเลอย่างมี ประสิทธิภาพพร้อมกับมีระบบการเตือนภัยน�้ำ ท่วมแบบบูรณาการ ดังเห็นได้จากสถิติเม่ือวันท่ี ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๔ เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน วัดปรมิ าณน้�ำ ณ จดุ ตน้ คลองท่าตะเภาได้ ๙๙๐ ลูกบาศกเ์ มตร/วินาที ไดผ้ ันน้�ำจากคลองท่าตะเภาเข้าสคู่ ลองหวั วงั - พนงั ตัก ทำ� ให้ตวั เมอื งชุมพรรอดพน้ จากการเกิดน�้ำท่วมได้อีก ครงั้ หนึง่ ภายหลังจากพายุโซนร้อนซีต้าในคร้ังนั้น วันน้ีชาวชุมพรไม่ต้องเป็นกังวลกับสภาวะการณ์เช่นน้ันอีกแล้ว จากสถิติท่ี เกิดข้ึน สามารถระบายน�ำ้ ป้องกนั นำ้� ท่วมไดป้ ระมาณ ๗๐% โดยคดิ จากสถิตนิ �้ำสงู สดุ ในรอบ ๑๐ ปี การเกิดซ�ำ้ โดยในช่วงการเกิด พายุซีต้า มีการสูญเสียประมาณ ๑,๒๑๖ ล้านบาท ท�ำให้สามารถลดความเสียหายจากอุทกภัยตลอดระยะเวลา ๑๕ ปี คือ ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๑ - ๒๕๕๕ คดิ เปน็ มูลคา่ ไดถ้ ึง ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท ๔,๓๕๐ การทรงงาน 91 เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
อจโคังันรหเงนวกอ่ืดั างนรมคพารฒั จศานรกีธาพพรรรน้ื มะทรรล่ีาาช่มุชดน�ำำ้� รปิ ากพนงั ในอดตี ลุ่มนำ้� ปากพนงั มีความอดุ สมบูรณ์ เป็น อู่ข้าวอู่น้�ำท่ีส�ำคัญของภาคใต้ จากสภาพดินท่ีมีปัญหา จากการใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ ทห่ี ลากหลายแบบรดี เคน้ ทำ� ลาย เปน็ ผลใหน้ เิ วศแหลง่ น้ำ� ขาดสมดลุ เกดิ ปญั หาขาดแคลน น้�ำจืด น�้ำเค็มรุก น้�ำเปรี้ยวจากป่าพรุแพร่กระจาย น้�ำเสียจากพ้ืนท่ีท�ำนากุ้ง แปลงเกษตรกรรม และแหล่งชมุ ชน และเกิดน�้ำทว่ มในระดับสูงและยาวนาน พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงทราบถงึ ความเดอื ดรอ้ นของราษฎร ในพ้ืนที่ ได้มีพระราชด�ำริให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือราษฎรในพื้นท่ี อยา่ งตอ่ เนอื่ งมาโดยล�ำดับถึง ๑๓ ครั้ง โดยครง้ั สำ� คญั ท่สี ุดเมอ่ื วนั ที่ ๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� ริความวา่ ประตูระบายน�ำ้ อทุ กวภิ าชประสิทธ์ิ ระบบสง่ น�ำ้ ฝายไมเ้ สยี บ 92 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่ือประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชน
“ ...ทำ� ประตนู ้�ำท่ีปากพนงั ห่างจากตัวอ�ำเภอปากพนังประมาณ ๓ กิโลเมตร ก็พิจารณาว่าจะแกป้ ัญหาทั้งหมด ซึ่ง หมายความวา่ เปน็ กุญแจส�ำคญั ของโครงการฯ จะแก้ไขปัญหาต้งั แตน่ ำ้� แล้ง น้�ำท่วม น�้ำเค็ม และสามารถท่จี ะใหป้ ระชาชนมี น้�ำบรโิ ภคและนำ้� ท�ำการเกษตร... แมว้ า่ ประตูน�ำ้ อนั เดียวน้จี ะไมแ่ กไ้ ขปัญหาทั้งหมด ซง่ึ จะตอ้ งสร้างหรอื ทำ� โครงการต่อเนื่อง หากแตว่ ่าเป็นจดุ เร่ิมตน้ ของการแกไ้ ขปัญหาทง้ั หมด จากอันนจี้ ะทำ� อะไรๆ ไดท้ กุ อย่าง และแยกออกมาเปน็ โครงการ...” โครงการพัฒนาพนื้ ทีล่ ่มุ น�้าปากพนงั ฯก่อสร้างระบบส่งน้�ำฝายไม้เสียบและอ่างเก็บน�้ำห้วยน้�ำใส ในปี ๒๕๒๑ ต่อมาได้มีการก่อสร้างประตูระบายน�้ำ อทุ กวิภาชประสิทธ์ิ เพอ่ื ป้องกนั นำ�้ เค็มลุกลำ้� พืน้ ที่เกษตรกรรมและเกบ็ น�้ำจืดไว้ในแม่น�้ำปากพนังและคลองสาขา ส�ำหรับการเกษตร จังหวดั นครศรธี รรมราชช่วยเหลอื ราษฎรในพ้นื ท่ีกวา่ ๕ แสนคน ครอบคลมุ พ้ืนท่ี ๑.๙ ล้านไร่ เน้นการทำางานร่วมกันของหลายภราะคบาสยน่วำ้� นเฉนลอี่ยกทไจดาำา้ ก๑ใน๐ห้ี ๐ใ้เนกลยา้าิดนมลรวกูิกูปบฤาแตศินบก้�ำ์เทบม่วตกมร/าวสนัรามทาำ� รใหถ้ พัฒนาในหลายด้าน เชน่ เกษตรผสมผสานรจะาดกับเดปนิม้�ำรนทะำ้� ่วทมม่วมงแขลงั ะนปลาดนศรปะสุ รยะตัะมเวาวณล์ าก๓แาลรเดเะกือิดนออสน่ืุทากๆมภาัยรกถลลัดบ โดยเฉพาะการเพม่ิ พน้ื ทน่ี าปรงั ซง่ึ ทาำ ใหร้ าษเสฎศู่สรรภษมาฐพกรีิจปาไกดยต้เปิภไน็ าดอยยเ้ใพ่านงมม่ิ ๒าข๑กนึ้ วอันยลา่ดงควชาดัมสเจูญนเสียทาง การเพ่มิ ข้ึนของพน้ื ท่ที �านาปรัง ไร่ ๒๐๐,๐๐๐ (๒๐๐,๐๐๐ ไร่) ๑๕๐,๐๐๐ ๑๐๐,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐ (๕๒,๐๐๐ไร่) ๒๕๔๗ ๒๕๕๓ ปี พ.ศ. รายได้เฉลยี่ ของราษฎร ในพ้นื ทีล่ ุ่มน้า� ปากพนัง ๔,๓๕๐ การทรงงาน 93 เพื่อประโยชน์สุขแหง่ มหาชน
โครงการฟ้นื ฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริ จังหวดั ปัตตานี และจังหวัดนราธวิ าส เม่อื วนั ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ ราษฎร “สมควรทจ่ี ะจดั ใหม้ สี ถานวี จิ ยั และการเพาะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ ขน้ึ บ้านละเวง อ�ำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ได้ เพอ่ื เพาะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ ปลอ่ ยลงสทู่ ะเล เพอ่ื เปน็ การฟน้ื ฟธู รรมชาติ และ กราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ เพ่อื ท�ำหน้าทฝ่ี ึกอบรมราษฎรซงึ่ อยู่ในบริเวณข้างเคยี ง ใหม้ ีความรู้ใน จากสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ให้ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้�ำและการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้�ำ พร้อมท้ังจัด ทรงพิจารณาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของ ทำ� ปะการังเทียม” สัตว์น�้ำ ทั้งน้ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ พระราชทานค�ำแนะน�ำให้จัดประชุมหารือผู้ สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ พระราชทานค�ำแนะน�ำ เชย่ี วชาญทเี่ กย่ี วขอ้ งทางดา้ นตา่ งๆ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ในการประชุมหารอื เพอ่ื รา่ งโครงการฟ้ืนฟูทรพั ยากรชายฝั่งทะเล ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ราษฎรท่ีได้รบั ความเดอื ดรอ้ น จัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) ซึ่งใช้วัสดุจ�ำพวกคอนกรีต ท่อระบายน�้ำ ซากเรือ หรือวัสดุขนาดใหญ่ ทไี่ มใ่ ชง้ านแลว้ เพอ่ื เปน็ แหลง่ ทำ� การประมงสำ� หรบั ชาวประมงขนาดเลก็ รวมทงั้ ยงั ชว่ ยปอ้ งกนั แหลง่ ทำ� การประมงใกลฝ้ ง่ั จากเครอ่ื งมอื ท�ำการประมงทมี่ ีอัตราการท�ำลายสัตว์น�ำ้ วยั อ่อนสงู เช่น อวนลาก อวนรนุ เปน็ การสนับสนนุ การอนุรักษ์ทรพั ยากรสัตวน์ ้�ำชายฝง่ั และให้มกี ารใช้ประโยชนอ์ ย่างยงั่ ยนื ผลการจัดสร้างปะการังเทียม พบว่า ให้ผลดีในการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้�ำให้อุดมสมบูรณ์ข้ึน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ชาว ประมง และชว่ ยป้องกันเรอื อวนลาก อวนรุน ไมใ่ หเ้ ข้ามาท�ำการประมงใกล้ฝงั่ รวมทงั้ เปน็ แหล่งประมงใกล้ฝัง่ ซง่ึ ชว่ ยใหช้ าวประมง พืน้ บา้ นประหยัดคา่ นำ�้ มันลงได้ถึง ๑๐ - ๒๐% และมรี ายไดเ้ พิ่มข้นึ ๒๐ - ๓๐% จากเดมิ กอ่ นมกี ารจดั สร้างปะการงั เทียมมีรายได้ ทยี่ ังไมห่ กั ค่าใชจ้ ่ายเฉลี่ย ๑๐,๖๘๐ บาท/เดือน/ราย และในปที ี่ ๑ และ ๒ ภายหลังการจัดสร้างประการงั เทียมชาวประมงมีรายได้ เฉลย่ี เพมิ่ ขน้ึ เปน็ ๑๒,๒๗๒ บาท และ ๑๕,๔๔๐ บาท/เดอื น/ราย ตามลำ� ดบั รวมทงั้ เปน็ การเพม่ิ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางทะเล นอกจากนี้ ยงั พบสตั วน์ ำ้� บางชนดิ ทห่ี ายไปในชว่ งเวลาหนง่ึ กลบั มาใหเ้ หน็ ในพนื้ ท่ี เชน่ ปลาหมอทะเลขนาดใหญ่ ปลาชอ่ นทะเล ปลาผเี สอื้ เทวรปู และปลาจะละเมด็ เทา เปน็ ตน้ 94 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพ่อื ประโยชนส์ ุขแหง่ มหาชน
โครงการบรรเทาอุทกภัยอ�ำเภอหาดใหญ่อนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ จังหวดั สงขลา ช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เกิดภาวะฝนตกหนัก ท�ำให้ ปริมาณน�้ำท่าล้นคลองอู่ตะเภาเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายแก่พ้ืนท่ีเพาะปลูก บ้านเรือน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สิน คิดเปน็ มูลค่าความเสยี หาย ประมาณ ๔,๐๐๐ ล้านบาท “...การสร้างอ่างเก็บน�้ำขนาดใหญ่ท่ีคลองอู่ตะเภา... ภาพนำ�้ ท่วมเมืองหาดใหญ่ ปี ๒๕๓๑ คงไม่สามารถด�ำเนินการได้ เพราะไม่มีท�ำเลที่เหมาะสม... การแก้ไขและบรรเทาน้�ำท่วมท่ีควรพิจารณาด�ำเนินการ น่า จะได้แก่ การขุดคลองระบายน�้ำขนาดใหญ่ ให้ท�ำหน้าที่แบ่ง น้�ำจากคลองอู่ตะเภาหรือช่วยรับน้�ำท่ีไหลลงมาท่วมตัวอ�ำเภอ หาดใหญ่ ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว นอกจากน้ัน หาก ต้องการที่จะป้องกันน�้ำท่วมพื้นท่ีชุมชนและพื้นที่ธุรกิจให้ได้ผล โดยสมบูรณ์แล้ว ...ควรพิจารณาสร้างคันกั้นน้�ำรอบบริเวณพื้นท่ี ดังกล่าวพร้อมกับติดตั้งระบบสูบน้�ำออกจากพื้นท่ีไม่ให้ท่วมขังตาม ความจ�ำเป็น ท้ังน้ีให้พิจารณาร่วมกับระบบของผังเมืองให้มี ความสอดคลอ้ งและได้รบั ประโยชน์ร่วมกันด้วย…” พระราชด�ำรัสพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว เมอื่ วันท่ี ๒๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ในปี ๒๕๓๒ ได้ขุดลอกคลองธรรมชาติ จ�ำนวน ๔ สาย ความยาวรวม ๔๖.๙๐๐ กโิ ลเมตร เพื่อใหส้ ามารถระบายน�ำ้ เร็วขึน้ ประกอบดว้ ย คลองอตู่ ะเภา, คลองอตู่ ะเภาแยก ๑, คลองอู่ตะเภาแยก ๒ และคลองท่าช้าง-บางกล�่ำ แต่การด�ำเนินการยังไม่คลอบคลุมตาม แนวพระราชด�ำริที่ไดพ้ ระราชทานไว้ หลังจากน้ันอีก ๑๒ ปีต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๓ เกิดภาวะน้�ำท่วม อีกครั้ง ปริมาณน�้ำสูงถึง ๙๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองอู่ตะเภารับน�้ำได้เพียง ๔๕๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองระบายน้�ำธรรมชาติท่ีขุดลอกไว้ไม่สามารถรองรับปริมาณน�้ำได้ จึงท�ำให้เกิดอุทกภัยบริเวณเทศบาลนครหาดใหญ่ และบริเวณใกล้เคียง สร้างความเสียหาย ภาพนำ้� ทว่ มเมอื งหาดใหญ่ ปี ๒๕๔๓ ในวงกวา้ งประมาณ ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท ประชาชนเสยี ชวี ติ ๓๐ คน ๔,๓๕๐ การทรงงาน 95 เพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชน
หลังจากน้�ำท่วมใหญ่ในปี ๒๕๔๓ โครงการบรรเทาอุทกภัยอ�ำเภอหาดใหญ่ฯ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานพระราชด�ำริไว้เม่ือปี ๒๕๓๑ จึงได้รับการอนุมัติด�ำเนินงานโดยขุดคลองระบายน้�ำเพ่ิมจ�ำนวน ๕ สายพร้อมอาคาร ประกอบ เพ่ือเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพการระบายน้�ำ ให้สามารถระบายน้�ำได้รวม ๑,๐๗๕ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซ่ึงมากกว่า เมื่อยังไม่กอ่ สร้างโครงการฯ ถึง ๒.๕ เท่า ประกอบดว้ ย คลองระบายน�ำ้ ร.๑ พร้อมอาคารประกอบ คลองระบายนำ้� ร.๓ พรอ้ มอาคารประกอบ - ขดุ คลองระบายนำ้� สายใหม่พร้อมอาคารประกอบ จ�ำนวน ๕ สาย ความยาวรวม ๔๒.๒๘ กโิ ลเมตร ประกอบด้วย คลองระบายนำ้� ร.๑, ร.๓, ร.๔, ร.๕ และ ร.๖ - งานตดิ ตัง้ ระบบโทรมาตร เพื่อคาดการณแ์ ละเตอื นภัย 96 ๔,๓๕๐ การทรงงาน เพือ่ ประโยชนส์ ุขแห่งมหาชน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188