Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ ตำนานขูลูกับนางอั้ว

✍️ ตำนานขูลูกับนางอั้ว

Description: ✍️ ตำนานขูลูกับนางอั้ว

Search

Read the Text Version

วรร³กรรมเยาวªนพ×éนบ้าน ภาคตะวันออกเ©ียงเหน×อ µÓ¹า¹¢ÙÅ١Ѻ¹างอÑéÇ เรอ่ื ง อรสิ า สมุ ามาลย์ ภาพประกอบ ชาตรี แสงพุฒ

ผเู้ ชีย่ วชาญทีป่ รกึ ษาคณะบรรณาธิการ ศ.ดร.ฉวีลักษณ์ บณุ ยะกาญจน ผศ.วณี า วีสะเพ็ญ คณะบรรณาธกิ ารอำนวยการ นางทศั นยั วงศ์พเิ ศษกลุ นางสาวเฉียดฉตั รโฉม ปริพนธพ์ จนพิสทุ ธิ์ นายวฒั นชยั วนิ จิ จะกลู นางสาวนนั ธนา เจริญภกั ด ี คณะบรรณาธกิ ารตน้ ฉบับ รศ.สุกญั ญา สจุ ฉายา ผศ.ดร.ชลภสั ส์ วงษป์ ระเสริฐ นายเรืองศักด์ิ ปิ่นประทปี นายณัฐพร ศรีมกุ ด ์ พิสจู นอ์ ักษร นันทธ์ นตั ถ์ จิตประภสั สร อารณี ะ วีระวฒั น ์ ตำนานขูลกู ับนางอวั้ เร่ือง อรสิ า สมุ ามาลย์ ภาพประกอบ ชาตรี แสงพุฒ เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 9 ปี ขนึ้ ไป พมิ พค์ ร้งั ที่ 1 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2551 จำนวนพมิ พ์ 3,000 เลม่ ราคา 115 บาท เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสอื 978-974-287-784-2 เจ้าของโครงการและดำเนินการจดั พิมพ ์ สำนักงานอทุ ยานการเรยี นร ู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองคค์ วามรู้ (องค์การมหาชน) สงั กดั สำนักนายกรฐั มนตรี ส่วนบรกิ าร อาคารเซน็ ทรัลเวิลด์ ช้นั 8 Dazzle Zone โทรศพั ท์ 0-2257-4300 โทรสาร ต่อ 125 สว่ นสำนักงาน 999/9 อาคารสำนกั งานเซน็ ทรัลเวิลด์ ช้ัน 17 ถนนพระราม 1 โทรศพั ท์ 0-2264-5963-65 โทรสาร 0-2264-5966 www.tkpark.or.th ดำเนินการจัดทำตน้ ฉบบั มลู นธิ หิ นังสอื เพ่ือเด็ก โทรศัพท์ 0-2805-0202 โทรสาร 0-2805-1308 www.thaibby.in.th ออกแบบรปู เล่ม จัดพมิ พ์ และจัดจำหนา่ ย บริษทั แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกดั 1/999 ถนนกำแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) แขวงสกี นั เขตดอนเมือง กรงุ เทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ 0-2575-2828 โทรสาร 0-2575-2558 www.planforkids.com

คำนำ ในการจดั ตงั้ อทุ ยานการเรยี นรภู้ มู ภิ าคตน้ แบบแตล่ ะภาคนนั้ สำนกั งาน อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ไดม้ ีการเตรยี มการคขู่ นานกนั ไปทง้ั ดา้ นกายภาพ และเนอื้ หาสาระ กลา่ วคอื ในระหวา่ งทอี่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กำลงั ปรบั ปรงุ หรือก่อสร้างอาคารสถานที่สำหรับห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ก็ประชุมหารือกับบุคลากรในท้องถิ่นและร่วมกัน คัดเลือกหนังสือ ดนตรี และกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน เพื่อเตรียมการด้าน หนงั สอื และสือ่ ต่างๆซึ่งถือเสมอื นเปน็ จิตวญิ ญาณของห้องสมดุ โครงการนิทานพ้ืนบ้าน เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการทางด้าน เน้ือหาสาระ ด้วยเล็งเห็นว่าเรื่องเล่าในแต่ละชุมชน มีทั้งสาระ ความสนุกสนาน และจนิ ตนาการ สบื ทอดกนั มาจากภูมปิ ัญญาท้องถิน่ อนั ลำ้ ลกึ มคี วามหมายต่อ การเช่ือมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ มนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ แม้จะเป็นเร่ืองเล่าเฉพาะกลุ่มชนในพื้นที่ แต่ สาระท่แี ฝงอย่ใู นเนือ้ หาเรอ่ื งราวของนทิ านนัน้ คอื คตสิ อนใจ ซงึ่ เปน็ ความรสู้ ากล ทีส่ ามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ทุกหนแห่ง สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ จึงมอบให้มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก เป็นผู้ ดำเนนิ การประสานงานกบั ปราชญช์ าวบา้ น นกั วชิ าการ และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ รว่ มกนั คัดเลือกนิทานเรื่องเล่าพ้ืนบ้านที่มีคุณค่า มีอิทธิพลต่อความคิดและจินตนาการ ของเยาวชนในทางสร้างสรรค์ นำมาเรียบเรียงและจัดทำภาพวาดประกอบ ขึ้นใหม่ เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่มุ่งเสริมสร้างจินตนาการให้อ่านง่ายและ เพลิดเพลิน โดยหวังว่าจะเป็นส่ือจูงใจให้เด็กและเยาวชนท่ัวไปสนใจและรัก การอ่านมากยิ่งข้ึน ท้ังยังสามารถนำไปประกอบการเล่านิทานในครอบครัว โรงเรียน และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ สบื ไป

หวังเป็นอย่างย่ิงว่า นอกเหนือจากบทบาทในฐานะผู้จุดประกาย แนวคดิ หอ้ งสมดุ มชี วี ติ ในประเทศไทย ใหเ้ ปน็ พน้ื ทแี่ สวงหาความรใู้ นบรรยากาศ การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และทันสมัยแล้ว สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ยังจะ ได้ทำหน้าที่ปลูกฝังและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านแก่เด็กและเยาวชน บนพื้นฐาน ของความเคารพและภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น เสริมสร้างการ ยอมรับความแตกต่างหลากหลายและใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา อันจะนำไปสู่ สังคมสันติสมานฉนั ท์ในที่สุด สำนกั งานอุทยานการเรยี นร้ ู

สารบัญ ≤ ตอนท่ี 1 7 ≤ ตอนท่ี 2 13 ≤ ตอนท่ี 3 25 ≤ ตอนที่ 4 33 ≤ ตอนท่ี 5 43 ≤ ตอนท่ี 6 51 ≤ ตอนที่ 7 59



หนึ่ง ตอนที่ 1 บา่ ยแก่ๆ ในวันอาทติ ยว์ นั หนึ่ง แสงแดดแรงจ้าเริม่ จางหาย รถสองแถว คันหนง่ึ จอดอยู่หนา้ วดั สักครู่แล้วจากไป ชายหนมุ่ ผ้หู นงึ่ ถือกระเปา๋ เส้ือผ้าพร้อม ถุงใส่ต้นไม้สามสตี่ ้นเดินจากถนนเข้าสู่วดั หลวงตาได้ยินเสียงรถสองแถวมาจอดเม่ือครู่ จึงลุกเดินไปดูท่ีทางเข้า วัด เห็นชายผู้นั้นเดินมาหาด้วยสีหน้าชื่นบาน แม้รูปร่างหน้าตาของเขาจะ เปล่ียนไป จากเด็กหนุ่มข้ีเล่นกลายเป็นหนุ่มสูงใหญ่ ท่าทางสุขุม แต่หลวงตา ยังคงจำเขาได้ดีเสมอจงึ รอ้ งทัก “ไอ้ต้น เป็นไงมาไงล่ะเอ็ง มาฮอดนี่ได้ บ่พ่อกันต้ังสามส่ีปี โตใหญ ่ ข้นึ หลาย” หลวงตาทักต้นเสียยาว ส่วนต้นวางกระเป๋าสัมภาระลงบนพ้ืน แล้ว ยกมอื ไหว้ “โธ่! เป็นผู้ใหญ่หยัง ผมก็ยังเป็นไอ้ต้นเด็กวัดที่หลวงตาเคยเรียกใช้ คอื เกา่ น่ันหละ” ต้นพูดพลางหัวเราะ เขานึกถึงวันที่จากวัดน้ีไป ถึงเพ่ิงรู้ตัวว่าไม่ได้ กลับมาเย่ียมหลวงตานานหลายปีแล้วจริงๆ ตั้งแต่ต้นเรียนจบมัธยมฯ และสอบ เข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ได้ เขาก็ย้ายไปจนเรียนจบส่ีปีและยังทำงานต่อ อยูท่ นี่ ่ัน ไมไ่ ด้มโี อกาสมาที่วดั อกี เลยจนวนั น้ี

ตำนานขูลกู ับนางอ้ัว “หลวงตาครับ โดนๆ ผมสิได้กลับมาหาหลวงตาสักที ผมขอพักท่ีวัดนี้ สักสามส่ีวันไดบ้ ่ครบั ” “ได.้ ..อา้ ว! แล้วเอง็ บ่เฮ็ดงานทกี่ รุงเทพฯ แล้วบ่” หลวงตาถามด้วยความแปลกใจ ต้นกลับส่ายหัวและยิ้มให้ ทว่าแววตา เขาหม่นลง หลวงตาเองสังเกตเห็นจึงถาม “ต้น เอ็งหนีหยงั มาบ่” เสียงของหลวงตาจริงจังแต่แฝงความห่วงใย ต้นสีหน้าสดใสขึ้นทันที แล้วตอบแกมหวั เราะ “จั่งผมก็มเี ร่อื งเดียว ถกู ผูห้ ญงิ หักอกเลยหลบมาพกั ใจนะ่ ครบั ฮ่ะๆๆ” หลวงตาถอนหายใจพลางคิดวา่ อะไรของมนั ...เจา้ ศษิ ยค์ นนี้ “เอา้ ! เอง็ มานอนกฏุ เิ ฮาก็ได้ มานำเฮา” หลวงตาเดินนำต้นเข้าไปในเขตวัด ผ่านโบสถ์ ลานหญ้า และศาลา การเปรยี ญ ฯลฯ ซ่ึงล้วนแตซ่ ่อมแซมใหม่ ต้นจงึ ไม่คุน้ เคย ภาพวดั เก่าในความ ทรงจำยงั เหลืออย่เู พียงรางเลอื น แต่อย่างไรเขากร็ ูส้ ึกอ่นุ ใจเมอ่ื เดินทางมาถึงวัด แห่งนี ้ ระหวา่ งทต่ี น้ พกั ผอ่ นและพูดคยุ กับหลวงตาตลอดเย็นวันนนั้ กำพร้าซ่งึ เป็นเด็กวัดและอาศัยอยู่กับหลวงตาออกไปเล่นกับก้อยและบักอ้วนเพ่ือนสนิทท่ี ริมธารจนค่ำจึงกลับวัด กำพร้าเดินเข้ามาในบริเวณวัดด้วยความรู้สึกแปลกๆ บรรยากาศเยียบเยน็ เหมอื นมบี างสิง่ บางอยา่ งเปล่ยี นแปลงไป กำพรา้ เดนิ วบู ๆ หนาวๆผา่ นลานหญ้าไปสักพกั หนง่ึ กท็ นไมไ่ หว รีบวิ่งขึ้นกฏุ วิ ดั ไปหาหลวงตา “มาแล้วต”ิ หลวงตาทกั เหน็ กำพร้าหอบเหนอื่ ย “ครบั ” กำพร้าตอบ แลว้ เขากแ็ ปลกใจทั้งดใี จทไี่ ด้พบตน้ อกี คร้ัง กำพร้านับถอื ตน้ เปน็ พ่ีชาย และไม่ไดพ้ บกนั มานาน เมื่อพบกนั แล้วจึงรีบเข้าไปนั่งพูดคยุ ด้วย

ตอนที่ 1  กำพร้ารู้สึกโล่งใจขึ้นเมื่อได้คุยกับต้น เพราะคิดเอาเองว่าความรู้สึก แปลกๆ เม่ือครู่อาจเป็นแค่ลางสังหรณ์ใจที่จะได้พบต้นก็ได้ แต่ถึงจะคิดปลอบใจ ตนเองอย่างนั้น กำพร้ายงั คงรสู้ กึ วบู ๆ หนาวๆ อยู่ อกี ท้ังได้ยนิ เสยี งสายลมหวีด หวิวจากนอกกฏุ ิ ความกังวลใจตา่ งๆนานาเหลา่ น้ที ำใหก้ ำพรา้ ฝนั ร้ายกลางดกึ “ซอยแหน่! ไผกไ็ ด้ซอยขอ้ ยแหน”่ กำพร้าร้องตะโกนดังลั่นระหว่าง ว่งิ หนีจากภาพทเี่ ห็น ทั้งเลือด คนตาย และดอกไม้ ประหลาดเหล่าน้ัน... เขาว่ิงหนีสุดชีวิตจนกระทั่งหยุด ชะงักเมื่อรู้สึกเหมือนมีคนมาจับแขนเขา ไว้ แต่พอเขาหันไปก็ต้องร้องลั่นเพราะ เห็นดอกไม้แลบล้ินสีเหลืองยาวเฟ้ือย ออกมาพนั แขนเขาไวแ้ ลว้ ดงึ เขาเขา้ ไปใกล ้ กำพร้าตะโกนร้องช่วยด้วยๆ แต่ไม่มีใครช่วยเขาได้ จนกระท่ังเขาเห็น แสงสีทองเปล่งประกายมาจากปลายทาง...หลวงตาน่ันเองที่ค่อยๆ ปรากฏตัว และเดนิ มาหาเขา แล้วกำพรา้ ก็สะด้งุ ต่นื กำพรา้ ลืมตาขึน้ จงึ เห็นว่าใกล้เชา้ แล้ว แม้ทอ้ งฟา้ จะยังมืดอยู่บ้าง แตไ่ ม่ นานแสงแดดอ่อนๆ ก็จะมาเยือน กำพร้ารู้สึกโล่งใจขึ้นจึงลุกไปเปิดประตูกุฏิและ กวาดสายตามองไปท่วั บรเิ วณ จนไปเห็นบางสิ่งบางอยา่ งทีศ่ าลาริมคลอง... เขาเหน็ หญิงสาวในชดุ ไทยยนื อยเู่ ดียวดายในสายหมอกท่ที ่าน้ำ! กำพรา้ กล้าๆกลวั ๆเดนิ ลงกฏุ ิไปหาเธอ

10 ตำนานขลู กู ับนางอ้ัว เม่อื เดนิ ไปถึงท่าน้ำ กำพร้ากลับไมเ่ ห็นใครอกี เลย หมอกขาวยามเช้าที่ เห็นเมื่อครู่น้ันจางหายไปหมดแล้ว ทันใดน้ันเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาหาเขา จากดา้ นหลงั ตกึ ...ตึก...ตึก กำพรา้ หนั ขวบั ไปมองดว้ ยใจระทกึ “โอย๋ ! อา้ ยต้น ตกใจเหมดิ เลย” กำพร้าถอนหายใจ “ตน่ื มาเฮด็ หยงั แต่เซา้ ละ่ ” พีต่ ้นถามกลับพรอ้ มลูบหัวกำพรา้ กำพรา้ หายตกใจแลว้ จึงตอบ “เมอ่ื คนื นอนบค่ อ่ ยหลับครับ เลยตน่ื เซา้ ” “เซ้าๆ จั่งซี้ไปเที่ยวเล่นกับอ้ายดีกั่ว” พ่ีต้นโอบไหล่กำพร้าพาหันหลังกลับมาท่ีลานวัด ส่วนกำพร้ายังคงฝืน หนา้ หนั ไปมองท่านำ้ อยู่ เพราะยังไม่หายสงสยั คงไม่มีอะไรหรอกม้ัง...กำพร้าคิดระหว่างเดินมากับพ่ีต้นจนถึงตีน บันไดศาลา กำพร้าเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามีต้นไม้เล็กๆ สามส่ีต้นปลูกใหม่บนดิน ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างศาลาน้ัน ต้นไม้เหล่าน้ีมีดอกสีเหลืองเป็นพวงคล้ายกล้วยไม้ แต่รูปร่างแปลกตา เพราะกาบหุ้มดอกช้ันนอกเป็นเดือยห้อยลงมาคล้ายกำลัง แลบลน้ิ ตน้ เหน็ กำพรา้ หยดุ มองดอกไม้นนั้ อยู่นานจึงเล่าวา่ “น่ีเด ดอกนางอ้ัว โตเคยได้ยินบ่” “เคยอยู่ติอ้าย” กำพร้าแค่รู้สึกคุ้นๆ แต่เห็นแล้วอดคิดถึงฝันร้ายเมื่อคืน ไมไ่ ด ้ “นั่นหละ มันข้ึนอยู่แถวที่ทำงานอ้าย เห็นมันงามดีเลยเก็บมาปลูกให้ หลวงตา” “อ้ายเฮ็ดงานอยู่ไส ค่อยมีดอกนางอวั้ ” กำพร้าถามต่อ “ม้ือน่ีอ้ายเพิ่งได้เป็นเจ้าหน้าท่ีป่าไม้ในอุทยานภูหลวงในจังหวัดน้ีหละ ดอกไม้น้ีมันชอบขึ้นตามป่าโคกบนเขา หน้าท่ีพักและสำนักงานเจ้าหน้าท่ีป่าไม้ เลยมดี อกนางอั้วเตม็ ไปเหมิด ไว้มอ้ื หลังอา้ ยจะพาโตไปเบ่งิ ”

ตอนที่ 1 11 จากน้นั พ่ตี ้นกเ็ ล่าเรื่องงานของเขาให้กำพร้าฟงั อย่างเพลดิ เพลนิ ท้ังคู่ จงึ เดนิ จากศาลาริมน้ำไป โดยไม่รู้เลยวา่ บนต้นไมข้ ้างศาลาน้ัน... มีใครบางคนแอบมองพวกเขาอย่!ู



สอง ตอนที่ 2 วันตอ่ มา กำพร้าไปห้องสมุดทันทีที่เลิกเรยี น เพราะตง้ั ใจตั้งแตเ่ ม่ือวาน วา่ จะหาหนงั สอื เกย่ี วกบั ดอกนางอวั้ เขาคน้ หาคำวา่ “ดอกนางอวั้ ” ทตี่ ดู้ ชั นรี ายชอื่ หนังสือ แต่กลับพบตำนานเล่มหน่ึงช่ือคล้ายๆ กัน เขาจึงจดช่ือน้ันมาตามหาที่ ชัน้ หนงั สอื “เอา๋ อยูน่ ีต่ ๊วั ” กำพร้าหยิบหนังสือเล่มหนาฝุ่นเกาะเล่มหนึ่งท่ีวางอยู่มุมชั้น จับมันหัน หนา้ ปกมาอ่าน “ตำนานขลู กู บั นางอว้ั ” บางที...หนังสือเล่มน้ีอาจจะช่วยให้กำพร้ารู้จักเจ้าดอกไม้ของพ่ีต้นมาก ขนึ้ และอาจจะเขา้ ใจสงิ่ ทยี่ ังเป็นปริศนาอยู่ก็ได้ “กำพรา้ !” บกั อว้ นกบั กอ้ ยเดินตามหาเขาจนมาเจอในห้องสมุด “จอบมาหาหนงั สอื หยัง บ่บอกหมู่บอกพวก” ก้อยกระเซ้ากำพร้าเล่น ในขณะท่ีบักอ้วนเหลือบมองปกหนังสือในมือ กำพรา้ แลว้ ทัก

14 ตำนานขลู กู ับนางอวั้ “เรอื่ งอีหยัง กำพรา้ โตคือหมน่ั แท้” “เออ เดย๋ี วสบิ อก” “จง่ั ได๋กพ็ อ่ กันแลว้ เดี๋ยวสิพาไปเบ่งิ หยังจกั หน่อย” ก้อยกับบักอ้วนต่างพากันงง หันมามองหน้ากันเองแล้วมองหน้า กำพร้าอกี คร้ัง สว่ นกำพรา้ ยักควิ้ ให้ท้งั สอง เป็นนยั ว่าส่ิงที่จะพาไปดูน้ันน่าสนใจ แน่นอน กำพร้าพาเพ่ือนๆมาถึงวดั แลว้ ก้าวนำไปทางศาลารมิ น้ำ จนไปหยุดยืน อย่ใู กลก้ อดอกไมส้ ีเหลอื งจึงเริม่ เลา่ เร่อื งท้ังหมดใหฟ้ ัง บกั อว้ นดูท่าจะแปลกใจกวา่ ก้อย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเปน็ เดก็ วดั ในวัด เดียวกันน้ี แต่นอนพักอยู่คนละกุฏิกับกำพร้า เมื่อวานเขาจึงยังไม่ได้พบพ่ีต้น และไมท่ นั สังเกตเห็นดอกไมท้ ีป่ ลูกใหม่กอ่ นไปโรงเรียน “เจ้าฝนั เห็นดอกนางอ้วั ต”ิ บักอ้วนยังไม่เช่ือกำพร้าว่าดอกไม้ ความฝัน และโดยเฉพาะอย่างย่ิง หญิงสาวรมิ น้ำคนนน้ั ...ท้ังหมดนีจ้ ะเกีย่ วข้องกัน กำพร้าตอบยืนยัน แม้ว่าในฝันน้ันดอกนางอั้วจะดูน่ากลัวกว่าของจริง มากมายก็ตาม ส่วนก้อยท่ีปกติจะรู้เร่ืองต่างๆ ดีกว่าเพ่ือนก็เร่ิมแสดงความ คดิ เห็น “ขอ้ ยเคยได้ยินเรื่องขูลูนางอัว้ มาแหน่คอื กนั ” กำพรา้ กับบกั อว้ นสนใจ ทำตาโต “ปกติแล้ว ตัวแมงปีกแข็งสีดำที่เอิ้นว่า ตัวขูลู สิมาคอยเกาะกินเกสร น้ำหวานของดอกนางอั้วอยู่เสมอ จะบอกว่าแมงขูลูกับดอกนางอั้วเป็นของที่อยู่ คูก่ ันก็วา่ ได้” “แลว้ จงั่ ได๋ตอ่ ” กำพรา้ ถามตอ่ “ตำนานเล่าว่าในอดีตมีหนุ่มสาวคู่หน่ึง ฝ่ายชายช่ือขูลู ฝ่ายหญิงช่ือ นางอั้วเคี่ยม ท้ังคู่รักกันมากและสาบานว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ในที่สุด

ตอนที่ 2 15 กลับต้องผิดหวังในความฮัก เลยฆ่าตัวตายแล้วมาเกิดใหม่เป็นดอกนางอ้ัวกับ แมงขลู ู” “หา!” ทัง้ กำพร้ากับบกั อว้ นร้องตกใจพรอ้ มกัน “จรงิ เหรอ กอ้ ย!...ผิดหวังจัง่ ไดล๋ ะ่ ” กำพรา้ กำลงั ตืน่ เตน้ คำวา่ “ฆ่าตวั ตาย” ทำให้เขาขนลุก “เฮากฮ็ แู้ ค่น้”ี ก้อยพูดเพียงเท่านั้น ในขณะท่ีบักอ้วนยังทำหน้ามึนงง และกำพร้า ครนุ่ คิดอะไรอยู่ในใจ จากนั้น กำพร้ากับบักอ้วนเดินไปส่งก้อยกลับบ้านที่ป้ายรถสองแถว เมอื่ กอ้ ยข้ึนรถไปแลว้ สองสหายกก็ อดคอกนั เดินกลับวดั บกั อ้วนชวนกำพรา้ ไปกินข้าวเยน็ ในโรงครัว ท้ังคู่จงึ ว่งิ แขง่ กนั ว่าใครจะ ถึงโรงครัวก่อน พอกินข้าวเย็นเสร็จ พวกเขาถึงเพ่ิงสังเกตว่าท้องฟ้ามืดลงนาน แล้ว กำพรา้ รีบล้างจานใหเ้ สรจ็ เพอ่ื จะไดไ้ ปทำการบ้านตอ่ แต่ระหว่างท่ีคว่ำจานชามบนตะแกรงอยู่นั้น เขาบังเอิญเห็นกำไลเงิน ตกอยกู่ บั พ้ืนจึงหยบิ ขนึ้ มาด ู “ของใครน่ะเฮ้ย” บกั อ้วนท่เี ดินไปถงึ หนา้ ประตโู รงครัว หันมาตะโกนถาม กำพร้ามองกำไลเงินวงใหญ่ในมือ พลางคิดว่าของสวยๆ เก่าๆ อย่างน้ี เขาไม่เคยเหน็ มาก่อน อกี ท้ังลายสลกั บนกำไลนน้ั ช่างสวยงามแปลกตา กำพร้า จึงเกบ็ กำไลไวใ้ นกระเปา๋ เส้ือเพื่อตามหาเจ้าของแล้วเดนิ ตามหลงั บกั อว้ นไป เม่ือทั้งคู่เดินมาถึงบริเวณกุฏิพระแล้วก็แยกย้ายกันเดินข้ึนคนละกุฏิ กำพร้าพบหลวงตากับพี่ต้นจึงกล่าวทักทายแล้วขอตัวไปอาบน้ำ ทำการบ้าน ก่อนนอน เขาเก็บกำไลท่ีพบนั้นไว้ที่หัวเตียง แล้วเริ่มต้นอ่านหนังสือที่ยืมมา จากห้องสมดุ “ตำนานขูลกู ับนางอว้ั ” เขานึกถึงเร่ืองที่ก้อยเล่าให้ฟังเมื่อตอนเย็น แล้วเปิดหนังสือหน้าแรก ด้วยความตืน่ เตน้

16 ตำนานขลู กู บั นางอัว้ กกึ กัก กกึ กกั กึกกกั … เสยี งมา้ ควบอยา่ งรวดเรว็ ดงั กอ้ งอยใู่ นปา่ โปรง่ นอกกำแพงเมอื งกายนคร ชายหนุ่มคนหน่ึงบนหลังม้าสีดำสง่ากำลังมุ่งหน้าสู่ประตูเมืองทิศตะวันตกด้วย ความร่ืนเริงใจ รูปหน้าเรียวย่ิงดูงามเม่ือแต่งแต้มด้วยรอยย้ิม และดวงตาคมโต ยงิ่ เปลง่ ประกายสดใสกวา่ ท่ีเคย บัดน้ีเขาใกล้จะเดินทางถึงเมืองเล็กๆ อันสุขสงบ ซ่ึงได้ชื่อว่าเป็นท่ี หมายตาของเหล่ากษัตริย์แห่งนานาแคว้นท่ัวทุกสารทิศ มิใช่เพราะกายนคร เป็น เมืองที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ หรือเพราะมีที่ต้ังบนเนินเขา เหมาะกบั เปน็ จุดยุทธศาสตรท์ างการรบเทา่ น้นั แต่เป็นเพราะพระธิดาแห่งเจ้าเมืองกายนครมีรูปโฉมงดงามจนเป็นท่ี เล่ืองลือไปทั่วแดนดิน! ไม่ว่าเจ้าชายแห่งเมืองใด ย่อมต้องเคยได้ยินกิตติศัพท์ ความงามของนางอั้วเค่ียมกันมาแล้วทั้งน้ัน จึงต่างพากันมาเย่ียมเยียนท่าน เจา้ เมอื งพรอ้ มนำเครอื่ งบรรณาการมาถวายใหไ้ มข่ าด หากแตอ่ งคห์ ญงิ ยงั ไมเ่ คย คดิ สมัครรักใคร่ชายใด เพราะทรงมีเพียงพระทัยมุ่งม่นั ท่ีจะชว่ ยพระบิดาปกป้อง แผ่นดินกายนครเท่านั้น ในยามนี้ แมเ้ หตุการณบ์ ้านเมืองจะดูสขุ สงบเปน็ ปกติ แต่กายนครตอ้ ง คอยระวงั ภยั สงครามจากทกุ ดา้ น แมว้ า่ กายนครเองจะเปน็ เมอื งเลก็ ๆ ธรรมดาๆ เมืองหนึ่ง ทว่ามีอาณาเขตติดกับเมืองกาสี ซึ่งเป็นเมืองเจริญมีทรัพยากร ธรรมชาติหลากหลาย และบึงน้ำใหญ่อันไม่มีวันเหือดแห้ง เจ้าเมืองต่างๆ จึง ต้องการยึดเมืองกาสี แต่ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา กองทัพอันเกรียงไกรแห่ง กาสีสามารถปกป้องแผ่นดินมาตุภูมิได้ทุกคร้ัง บรรดาเจ้าเมืองเหล่าน้ันจึงเบน เข็มมามุ่งยึดเมืองกายนครซ่ึงอ่อนแอก่อน เพื่ออาศัยเป็นท่ีต้ังฐานรบในการตี เมืองกาสตี อ่ ไป แต่ไม่ว่าบัดนี้เหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ชายหนุ่มรูปงามบน หลงั มา้ ดจู ะไมอ่ นาทรรอ้ นใจแตอ่ ยา่ งใด กลบั มใี จนกึ ถงึ ความงามของนางอว้ั เคยี่ ม และเดนิ ทางเข้าสเู่ มอื งกายนครดว้ ยความปรารถนาวา่ จะได้พบนาง

ตอนท่ี 2 17 อีกด้านหน่ึงของเมืองกายนคร ขบวนอันใหญ่โตของชนภูเขากำลัง เคลือ่ นตวั ผา่ นประตูเมอื งทศิ ตะวันออก เมอื่ ชาวเมอื งกายนครเห็นแลว้ ตา่ งตกใจ พากันเรียกลูกหลานให้หลบเข้าบ้าน เพราะชนภูเขานี้มีกองทัพอันน่ากลัว สามารถปราบเมืองต่างๆ ได้ราบเป็นหน้ากองไปแล้วหลายเมือง จนสามารถ ขยายดนิ แดนของตนได้อย่างรวดเร็วนัก ชาวกายนครปิดประตูมิดชิด มิเพียงเพ่ือหลบหนีบรรดาไพร่พลทหาร ในขบวน หากแต่เป็นเพราะทุกคนหวาดกลัวชายร่างใหญ่กำยำ ผู้น่ังอยู่บน เฉลียงซ่ึงมีหน้าตาเหี้ยมเกรียม ผิวคล้ำกรำแดด และมีรอยแผลเป็นบากใหญ่ เหนือคว้ิ จากการทำศกึ สงคราม เขาคือขุนลางหัวหน้าเผ่าชนภูเขา ผู้น่าเกรงขามจนไม่มีใครกล้าแหงน หน้าสบตาแมส้ กั คน มือของขุนลางซึ่งคุ้นเคยกับการถือดาบจับอาวุธ บัดนี้ค่อยๆ คล่ีแผ่น ผ้าผืนใหญ่แผ่นหน่ึงออก ท่าทางของเขาคล้ายกำลังกางแผนท่ียุทธศาสตร ์ เช่นทุกที หากแต่ครั้งนี้เขากลับมีรอยยิ้ม ประหลาดอย่างท่ีใครยากจะคาดเดา แผ่น ผ้าผืนน้ันเป็นภาพวาดของช่างฝีมือช้ัน เย่ียมที่สุดในชนเผ่า ซ่ึงครั้งหนึ่งได้รับการ ว่าจ้างให้เดินทางมายังเมืองกายนคร…เพื่อ แอบวาดรูปนางอั้วเคี่ยมผู้เลอโฉม ความงดงามขององค์หญิงต้องตา ต้องใจขุนลางมากดั่งเหมือนมีมนต์สะกด เป็นครั้งแรกท่ีหัวหน้าชนเผ่าดุร้ายอย่าง

18 ตำนานขลู ูกับนางอัว้ ขุนลางจิตใจอ่อนไหวยวบเอนเหมือนไผ่ต้องลม และอดรนทนไม่ได้จึงต้อง เดินทางมากายนครเพอื่ พบตัวจริงของนาง หากชาวเมืองกายนครไม่รีบร้อนหลบเข้าบ้านไปเสียก่อน คงจะได้เห็น ว่าขบวนของขุนลางในคราวน้ีมิได้ขนบรรทุกอาวุธแต่อย่างใด ทว่าเคล่ือนตัวไป อยา่ งสงบและเต็มไปดว้ ยเครอื่ งบรรณาการชั้นดี ขบวนของขนุ ลางเดินทางมาถงึ พระราชวงั ของกษัตรยิ ์กายนคร และได้ รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ทีแรกพระราชินีตกพระทัยหวาดหว่ัน แต่เม่ือเห็นว่า ขุนลางไม่มีท่าทีข่มขู่ หย่ิงยโส ท้ังยังนำเคร่ืองบรรณาการมาถวายมากมายก ็ พอพระทยั ย่งิ ทัง้ ของป่าหายากอนั ไดแ้ ก่ งาช้าง ไม้จันทน์ ไมก้ ฤษณา ฯลฯ และ ของสำคัญท่ีทำให้พระราชินีแย้มพระสรวลได้ไม่หยุดคือ ผ้าทอฝีมือละเอียด ประณีตหลายผืน หลากลวดลายไม่ซ้ำกันตามศิลปะด้ังเดิมของแต่ละเมืองขึ้น ของขนุ ลาง อีกท้งั ยงั มแี กว้ แหวนเงนิ ทองและอัญมณหี ลากสีสนั เหนือสิ่งอ่ืนใด เพชรงามน้ำหนึ่งขนาดเท่าไข่ท่ีประดับไว้บนทับทรวง ทำใหพ้ ระราชินถี ึงกบั ตกตะลงึ “เครื่องบรรณาการทัง้ หลายที่ขา้ นำมาน้ี ขอใหพ้ วกทา่ นรบั ไว้ พรอ้ มทั้ง ไมตรขี องเราด้วย” ขุนลางพยายามแสดงท่าทอี ่อนนอ้ ม แม้ยงั ดูแขง็ กระดา้ งอย่ใู นที เพราะ ชนเผา่ ภูเขาขาดไร้ซึง่ อารยธรรมด้วยมัวแตใ่ ชเ้ วลาทำศึกสงคราม อย่างไรกต็ าม ยามอยู่ต่อหน้าพระราชาและพระราชินี ขุนลางก็สลัดคราบนักรบอำมหิตท้ิงไป เหลอื เพยี งท่าทีเอาใจ ฝ่ายพระราชินี บัดน้ีถูกพระทัยขุนลางย่ิงนักเพราะทรงเห็นว่าเมือง ของขุนลางมีอาณาจักรกว้างใหญ่และร่ำรวยมหาศาล สามารถนำข้าวของดีๆ มาถวายให้นางได้ หากเม่ือเทียบกับองค์ชายจากเมืองอื่นๆ ท่ีผ่านมา นับได้ว่า ขุนลางเหนือกว่าหลายก้าวนกั

ตอนท่ี 2 19 พระราชินีทรงทราบดีถึงจุดประสงค์ของขุนลาง ที่จริงไม่ว่าองค์ชายใด หากต้องการผูกสัมพันธ์กับเมืองกายนครโดยไม่มีเหตุผลทางการเมืองเช่นน้ี ย่อมไม่พ้นเพราะสนใจใคร่รู้จักนางอ้ัวเค่ียม ดังน้ัน ไม่ทันที่ขุนลางจะกล่าวว่า อย่างไร เพียงแต่เก็บอาการร้อนรนกระสับกระส่ายไม่ได้ คอยกวาดสายตา มองหานางอว้ั เคยี่ มอยูต่ ลอดเวลา องค์ราชนิ ีก็พดู เปดิ ทางใหเ้ ปน็ นัยวา่ “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งท่ีท่านขุนลางมาเยี่ยมเยือนเราในวันน้ี หากท่านไม่ติดภารกิจจนรีบร้อนกลับนัก ขอเชิญท่านชมศาสนสถานในอุทยาน สวนทิพย์กอ่ นเถดิ ทน่ี ั่น ทา่ นจะได้พบม่ิงขวญั แหง่ กายนคร” ณ เบื้องหน้าองค์พระปฏิมาทองคำในปราสาทหินกู่สวนทิพย์ นาง อว้ั เคยี่ มทรงยอบพระวรกายลงกราบองคพ์ ระอยา่ งสงบสำรวม ทรงตง้ั จติ อธษิ ฐาน ขอให้พระปฏิมาซ่ึงเป็นที่นับถือศรัทธาของชาวกายนครมาแต่โบราณกาล โปรด ดลบันดาลให้ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์อยู่เย็นเป็นสุข ปลอดภัยจากอันตรายท้ังปวง แล้วจึงประทับน่ังพับเพียบ ทอดพระเนตรอันเปี่ยมด้วยความเช่ือมั่นไปยัง พระพกั ตรแ์ นน่ งิ่ ขององค์พระปฏมิ า เช่นเดียวกัน ทรงรู้สึกว่าพระปฏิมาได้ทอดพระเนตรอย่างอ่อนโยน มายังนาง จากซุ้มประตูโคปุระอันประดับด้วยทับหลังสลักภาพนารายณ์บรรทม สนิ ธ์ุ นางอวั้ เคย่ี มพรอ้ มทง้ั พระพเี่ ลยี้ งสรุ ดี ำเนนิ ตามทางประดบั ดว้ ยเสานางเรยี ง ไปสู่อุทยานสวนทิพย์ ที่ซึ่งดอกไม้นานาพรรณส่งกลิ่นหอมขจรขจายในสายลม อ่อน ต่างอวดประชันความงามแห่งสีสันรปู ร่างอันหลากหลาย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีความงามใดจะงามเด่นเท่าดวงพักตร์กระจ่าง พระเนตรคมโต และรูปคว้ิ เขม้ โคง้ ราววาดขององคห์ ญิง โดยเฉพาะในยามท่ที รง แยม้ พระสรวลเบิกบานพระทัยเชน่ น้ี นางอ้วั เคยี่ มทรงเก็บดอกไมส้ ีขาวดอกสวย

20 ตำนานขูลูกบั นางอั้ว ท่ีร่วงจากต้นมาเสียบแซมไว้ท่ีพระป่ินปักผม สีขาวของดอกไม้ ยิ่งขับเน้นสีของ พระเกศาให้ดำขลับเงางาม อีกทั้งเข้ากันดีกับผ้าไหมคาดอกสีนวลและผ้าซ่ิน กรอมเท้าสชี มพอู ่อน ชายหนุ่มจากต่างแดนเดินทางมาถึงกายนครแล้วมองหาท่ีแวะพัก เหน่ือยจากทางเดินใหญ่ท่ีขนาบด้วยป่าโปร่งตามธรรมชาติ เขาข่ีม้าเลี้ยวเลาะ ตามทางแคบๆ ไปเรื่อยๆ จนสังเกตว่ามวลหมู่ไม้ล้วนถูกจัดไว้เป็นระเบียบ สวยงาม ถึงเพิ่งรู้ตัวว่าได้พลัดหลงเข้ามาในเขตอุทยานเสียแล้ว เขาจูงม้าสีดำ คู่ใจไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ศาลาริมน้ำ แล้วเดินหลบไปหลังศาลาเพื่อดื่มน้ำดับ กระหายและลา้ งหน้าลา้ งตาใหส้ ะอาดสดช่ืน ระหว่างทีน่ างอวั้ เคี่ยมดำเนนิ ชมสวนอย่างเพลนิ พระทยั ทรงแลเห็นม้า สีดำตัวหนึ่งผูกไว้กับต้นไม้ใกล้สระน้ำ จึงก้าวมาชมใกล้ๆ พลางคิดว่าหากเป็น อาชาสงา่ งามท่ีฝึกมาอย่างดี นางอาจจะนำกลบั เขา้ พระราชวัง ฝ่ายขุนลาง เมื่อลาองค์กษัตริย์และราชินีแล้ว ออกจากพระราชวังมาท่ี อุทยานพร้อมทหารติดตามมาอีกสี่ห้านาย ขุนลางเดินผ่านปราสาทหินไปอย่าง เมินเฉยเพราะมุ่งหน้าแต่จะมองหานางอั้วเคี่ยม สายตาของเขามาหยุดชะงัก เมอื่ เหน็ หญงิ สาวร่างอรชรนางหนึ่งในชดุ ผา้ ซิ่นสชี มพูแต่ไกลๆ “อยูน่ ง่ิ ๆนะไม่ต้องตกใจ” นางอ้วั เคีย่ มตรัสพลางลบู หวั ม้าตัวนั้นอย่างอ่อนโยน “ระวงั นะเพคะ องคห์ ญงิ ” นางสุรีเห็นม้าทำท่าพยศจึงเป็นห่วง แต่นางอั้วเคี่ยมไม่กลัว ทีแรกม้า ตัวนั้นตกใจร้องแต่แล้วค่อยสงบลง ชายเจ้าของม้าได้ยินเสียงก็ไหวตัวทัน ก้ม หลบอยู่ที่ขอบตล่ิงด้านหลังศาลาและเฝ้ามององค์หญิงอยู่เงียบๆ กระนั้นหัวใจ ของเขากเ็ ต้นเร็วระรวั ไม่คดิ ว่าจะไดพ้ บนางอว้ั เคีย่ มเร็วเพียงน ้ี

ตอนที่ 2 21 “หากทา่ นโปรดอาชานัก ข้าจักสรรหามาให้ทา่ นพอพระทยั ” ขุนลางกล่าวแทรกขึ้นจนองค์หญิงและนางสุรีตกใจหันไปมอง เขาก้าว อาดๆ นำหน้าทหารมาจนใกล้ สายตาวนเวียนจ้องมองพระพักตร์ขององค์หญิง อยา่ งสนใจ “ทา่ นเขา้ มาท่ีนี่ได้อยา่ งไร” นางอ้ัวเค่ียมตรัสเสียงแข็ง อันท่ีจริงองค์หญิงไม่ต้องการพบหัวหน้า ชนเผา่ ภูเขาท่ีเท่ยี วเข่นฆา่ ชาวเมอื งอ่ืนมานักต่อนัก จึงหลบมาที่วนอุทยานสวน ทิพย์ แตไ่ มว่ ายขนุ ลางยงั ตามมาพบจนได้ “ไยท่านกล่าวเช่นน้ัน เราเป็นแขกบ้านแขกเมือง จะแวะมากราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธ์ิแห่งกายนครบ้างไม่ได้เชียวหรือ เผ่ือบางทีท่านจะช่วยบันดาลให ้ สงิ่ ที่ขา้ หมายปองเป็นจริงขน้ึ มา” ขนุ ลางส่งสายตาโลมเลียองค์หญิงจนนางไม่พอพระทยั “มือท่ีอาบเลือดสงครามของท่าน แม้จักกราบไหว้ส่ิงศักด์ิสิทธ์ิเพียงใด คงไม่เปน็ ผล” องค์หญิงตรัสแล้วหันหลังเดินหนี แต่ขุนลางคว้าข้อพระหัตถ์ของนาง ไว้ นางจึงย้ือยึดดึงกลับและจ้องหน้าอย่างไม่กลัวเกรง ทว่านางสู้แรงขุนลาง ไมไ่ ด้ “ปลอ่ ยองคห์ ญิงนะ เจ้าพวกปา่ เถอ่ื น” นางสรุ ตี ะโกน หากแต่นางเองก็ถกู พวกทหารจับตวั ไว้เช่นกนั “องค์หญิง เราน่าจะสนทนากันด้วยดีกว่านี้ได้ หากท่านไม่หมิ่นเกียรติ ขา้ ” ขุนลางจ้องพระเนตรองค์หญิง ท่ีจริงเขาไม่ต้องการใช้กำลังกับนางเลย แต่เป็นเพราะโมโหที่นางไม่ยอมใหโ้ อกาสเขาเทา่ นน้ั ส่วนองคห์ ญงิ ทรงไมม่ ที ีทา่ ลดราวาศอก ขนุ ลางยง่ิ โกรธจดั กม้ หนา้ ลงไปใกลพ้ ระพกั ตรข์ ององคห์ ญงิ มากขน้ึ ชายหนุ่มท่ีแอบซุ่มมองเหตุการณ์อยู่จึงปรากฏตัวข้ึน ขุนลางปล่อย พระหตั ถ์องคห์ ญิง แล้วจบั ดาบท่คี าดเอวไว้แทน

22 ตำนานขูลกู บั นางอว้ั “มิใชธ่ ุระอะไรของทา่ น จงไปเสยี กอ่ นทีข่ า้ จะลงมอื ” แม้ขุนลางจะเป็นขุนศึกฝีมือร้ายกาจ แต่ไม่อยากใช้กำลังทำร้ายใครต่อ หนา้ องคห์ ญิง ทว่าชายหนมุ่ คนนั้นไม่ฟงั กลบั ชกั ดาบออกมา “เจ้าน่ันแหละ ปล่อยองค์หญิงแล้วไปซะ” เมื่อเป็นเช่นน้ัน ขุนลางจึงสั่งให้ทหารติดตามจัดการเขา ฝีมือประดาบ ของชายหนุ่มไม่เลว ทำให้ทหารล้มลงกับพ้ืนเจ็บไปหลายคน จนขุนลางทนน่ิง ไมไ่ ด้ “พอกนั ที หมดเวลาของท่านแล้ว” ขุนลางใช้ความเรว็ แบบไม่ทันท่ีใครรู้ตวั จป้ี ลายดาบทค่ี อหอยชายผนู้ นั้ “แต่ข้าเกรงวา่ ไมใ่ ช”่ นางอั้วเคี่ยมแย่งดาบจากทหารท่ีนอนบาดเจ็บข้ึนมาจี้คอทหารคนหน่ึง เช่นกัน ทุกคนในท่ีน่ันต่างตะลึงงัน ทั้งทหาร นางสุรี ชายนิรนาม โดยเฉพาะ อยา่ งยิง่ ขุนลาง เขาไม่เพียงแต่ตกใจในความกล้าหาญขององค์หญิง แต่ยังปวดใจลึกๆ ทน่ี างวางพระองคเ์ ป็นศตั รชู ัดเจนเพียงน้ัน ชายนิรนามอาศัยช่วงท่ีขุนลางมององค์หญิงอย่างผิดหวัง ตัดเชือกผูก คอม้า กระโดดขน้ึ ครอ่ มแลว้ ฉดุ นางอ้ัวเค่ยี มให้ข้นึ หลังม้าด้วย ทีแรกนางอ้ัวเคี่ยมตกพระทัย แต่เม่ือได้นั่งบนหลังม้าท่ีควบเร็วดั่งลม สักพักหน่ึง นางก็พอพระทัยเพราะโปรดเรื่องตื่นเต้นผจญภัยท่ีสุด เพียงแต ่ ชายหนุ่มเบื้องหน้าที่นางมองเห็นแต่แผ่นหลังแข็งแรงน้ีเป็นใครกัน องค์หญิง ยงั ทรงสงสยั ขุนลางมองชายหนุ่มนิรนาม และองค์หญิงขี่ม้าจากไปจนลับตาด้วย ความเจบ็ แคน้ ฝา่ ยนางสรุ ีกต็ กใจไม่แพก้ นั ทหารติดตามทีเ่ หลอื พยายามจับตัว เธอไว้อีกครั้ง แต่ขุนลางส่ังให้ปล่อยแล้วก้มหน้าเดินจากไป เหล่าทหารจึงว่ิง

ตอนท่ี 2 23 หอบเพ่ือนที่เจ็บตามไปด้วย เหลือนางสุรีคนเดียวในที่น้ัน นางตั้งใจจะกลับ พระราชวแังตไป่ทกันรใาดบนบ้ันงั คน มาทงบูลใังหเออ้ ิญงคเ์กหษ็นัตกรำยิไลแ์ ขละ้อรมาือชชินิ้นีทหรงนทึ่งรตากบอ ยู่กับพื้นจึงหยิบ ขึน้ มาดใู กล้ๆแลว้ กต็ อ้ งตกใจยิ่งกวา่ เร่ืองใดในวันน…ี้ เธอมองไปตามทางท่อี งคห์ ญิงจากไปดว้ ยความกังวล



สาม ตอนที่ 3 เยน็ วันหนึง่ กำพรา้ เดนิ จากโรงเรียนกลบั บา้ นพร้อมกับบักอว้ น จนเดนิ เข้ามาถึงในวัดผ่านเมรุเผาศพ เขารู้สึกแปลกๆ เหมือนเห็นอะไรแวบๆ จึงหันไป หาบกั อ้วน บักอว้ นเองกห็ น้าซดี หันมามองกำพร้าเหมอื นกัน “เฮ้ย! โตเหน็ เงามดื ๆขา้ งๆเมรบุ ่” บักอ้วนถาม พอกำพร้าได้ยินอย่างนั้นก็วิ่งนำหน้าไปก่อนแทนคำตอบ บักอ้วนว่ิง ตามไป แตย่ ิ่งทั้งค่วู งิ่ ไปเร็วเท่าไหร่ ย่ิงได้ยินเสียงใครสักคนวง่ิ ตามมาใกลท้ ุกที ทั้งคู่วิ่งไปจนกระท่ังถึงศาลาหน้าโบสถ์ ต่างน่ังพักหอบหายใจเหน่ือย แลว้ บกั อว้ นกเ็ รม่ิ เสียงสนั่ อีกคร้ัง

26 ตำนานขูลกู บั นางอ้ัว “ตะ โต บะ บะ เบงิ่ บนน้ันสิ” กำพร้าหันมองตามปลายน้ิวบักอ้วนแล้วอ้าปากค้างเม่ือเห็นหญิงสาว ชุดไทยท่ีเคยเห็นเมอื่ วนั ก่อนตรงท่าน้ำอีกครงั้ แต่ตา่ งกนั คราวนี้... ตัวเธอลอยคว้างอยู่ในอากาศ เชือกเส้นหนึ่งผูกคอเธอห้อยลงมาจาก ขือ่ ! คอพับ ลน้ิ ห้อยออกมา ตาถลน! “เฮ้ย!” กำพรา้ สะดงุ้ ตน่ื ขึ้น นไ่ี มใ่ ช่ครงั้ แรกทเ่ี ขาฝันรา้ ยเชน่ น ้ี เขาจำได้เพียงรางๆ ว่าอ่านหนังสือไปสักพักแล้วเผลอหลับไป ไม่รู้มา สะดุ้งตื่นอีกทีตอนก่ีโมง เขานกึ ถงึ ฝนั เมอื่ ครแู่ ลว้ กลวั ไมอ่ ยากเหน็ ขอ่ื บนเพดาน จึงนอนคลุมโปง แต่สักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง แม้เสียงน้ันจะแผ่วเบา เหมอื นลมพดั กำพร้านอนคลุมโปงนิ่งและมองผ่านผ้าห่มไปภายนอก เห็นเงาตะคุ่ม บางอย่างคอ่ ยๆ เดินมาหาทีเ่ ตยี งแล้วน่ังลงข้างกาย กำพร้ากลัวจนตัวส่นั ไม่กลา้ เปดิ ผ้าห่มออกดู ได้แตน่ อนขดอยู่ พลางไมแ่ นใ่ จว่าเขาตื่นจากฝนั รา้ ยหรอื ยัง ทันใดนั้น รา่ งน้นั ก็กดทบั น้ำหนักลงบนตวั เขา! กำพร้าเร่ิมสวดมนต์ในใจได้ครู่เดียว ร่างนั้นก็จากไป กำพร้ายังนอน สวดมนต์ต่อไปทั้งคืน เมื่อตื่นเช้ามา เขาลุกข้ึนมองที่หัวเตียงก็เห็นว่ากำไล โบราณท่เี ขาเกบ็ ได้ ตอนนี…้ หายไปแล้ว กำพร้าพยายามค้นหาให้ท่ัวอีกคร้ัง ความคิดเขานึกแวบไปถึงเร่ือง เมือ่ คนื กำไลโบราณ...ผ.ี .. กำพร้าคว้าหนังสือตำนานขูลูกับนางอ้ัว มาอ่านต่อจากตอนที่นางสุรี เก็บกำไลปริศนาได้ทนั ที

ตอนท่ี 3 27 ในที่สุด ชายนิรนามก็ขี่ม้าพานาง อวั้ เคยี่ มหนขี นุ ลางมาจนถงึ กำแพงพระราชวงั เขาหยุดม้าแล้วช่วยองค์หญิงลงจากหลังม้า อย่างน่ิมนวล จากน้ันโค้งคำนับและกระโดด ขน้ึ ม้าพรอ้ มจะจากไป “ชา้ กอ่ น ทา่ นเปน็ ใครกนั ” องคห์ ญงิ ทรงเรยี กเขาไว้ “อีกไม่นานหรอก องค์หญิงจะทรง ทราบเอง” ชายหนุ่มคนน้ันย้ิมอย่างมีเลศนัย แลว้ ควบม้าตะบึงจากไป ทิง้ ไว้ไมเ่ พยี งความสงสัย แต่ยังเป็นความประทับใจขององค์หญิง เมื่อนางอ้ัวเค่ียมเสด็จกลับถึงห้องบรรทม พบนางสุรีซ่ึงรอคอยอยู่ด้วย ความกังวล ต่างคนต่างดีใจที่อีกฝ่ายไม่เป็นอันตราย แล้วนางอั้วเคี่ยมจึงตรัส ถาม “พีจ่ า๋ พี่เคยเหน็ ชายผนู้ ัน้ มาก่อนหรอื ไม่ เขาเปน็ ใครกัน” อกี ฝ่ายเงียบไป องค์หญิงจึงอ้อนนางสุรีด้วยความคุ้นเคยเพราะนางดูแลองค์หญิงมา ตั้งแต่เล็ก องค์หญิงทรงกอดเอวนางสุรีแล้วบังเอิญคลำไปพบบางสิ่งเหน็บไว้ใต้ ผ้าซิ่น จงึ แยง่ หยิบมันมาอย่างเรว็ นางสุรีร้องว้าย องคห์ ญงิ สรวลพอพระทยั แต่ กต็ ้องหยุดเพราะนางสุรมี สี หี นา้ เครียดขงึ พูดเสียงจรงิ จงั “องค์หญิงคนื หม่อมฉันมาเพคะ” องค์หญิงทรงเห็นนางสุรีท่าทีแปลกไป จึงก้มลงทอดพระเนตรลวดลาย บนกำไลนั้น เห็นตราประจำเมืองกาสีอยู่ริมด้านหนึ่ง เมื่อหมุนดูโดยรอบ ลวดลายนน้ั ประดบั ลายเถาวลั ยแ์ ล้วเกย่ี วกระหวัดกบั ตราประจำเมืองกายนคร! “น่หี มายความว่าอยา่ งไร” องค์หญิงทรงแปลกพระทยั “ชายผู้นัน้ เปน็ ชาวเมอื งกาสหี รอื พส่ี ุรี”

28 ตำนานขลู ูกับนางอัว้ นางสรุ นี ิ่งเงียบไม่ตอบคำถามแล้วผลุนผลนั ถวายบงั คมลา เช้าวันรุ่งขึ้น ขบวนถวายเครื่องบรรณาการเคลื่อนเข้ามาในพระราชวัง กายนครอีกคร้ัง นางอ้ัวเค่ียมทรงเห็นเสด็จแม่เตรียมต้อนรับขบวนด้วยความ ยินดเี ชน่ เคย จึงหาทางหลบเพราะคิดว่าเปน็ ขนุ ลาง แตเ่ สดจ็ แมท่ รงเรียกนางไว้ ทัน องคห์ ญิงจึงต้องตอ้ นรับขบวนเสด็จอย่างไมเ่ ต็มพระทัย ขณะที่องค์หญิงกำลังเบือนพระพักตร์ไปทางหน้าต่างอย่างเบ่ือหน่าย เจา้ ชายหน่มุ ร่างสูงกก็ า้ วเข้ามาในห้องรบั รองอาคนั ตกุ ะ พระราชินีกล่าวทักทาย และแนะนำพระธิดาให้รจู้ ัก “ลกู หญิงอวั้ เคยี่ ม นี่คอื ท้าวขูลูจากเมอื งกาสี” นางอั้วเค่ียมหันพระพักตร์มาสบพระเนตรกับเจ้าชายหนุ่ม ถึงกับตก พระทยั ใบหน้าสงบที่มององค์หญิงอยู่น้ันไม่ต่างจากชายท่ีช่วยองค์หญิงไว้เม่ือ วันกอ่ น! จะตา่ งกนั ก็เพียงเคร่อื งแต่งกายที่วนั นดี้ สู ง่าสูงศกั ดสิ์ มเปน็ เจ้าชายแหง่ กาสี “เมืองกายนครกับเมืองกาสีมีสัมพันธไมตรีต่อกันมานานแล้ว เจ้า ทั้งสองได้พบกันในวันน้ีถือว่าเป็นโอกาสดี ต่อไปพวกเจ้าคงจะได้สานต่อความ สัมพันธข์ องเมืองท้งั สอง” พระราชินีตรัสพลางแย้มพระสรวลยินดี หากแต่ภายในพระทัยลึกๆ แล้วยากจะคาดเดาว่าทรงคิดอย่างไร ส่วนองค์หญิงทรงตั้งสติแล้วสนทนากับ องค์ชายตอ่ หน้าเสด็จแมอ่ ยา่ งเปน็ ปกต ิ ทา่ ทางทีส่ งบเรียบรอ้ ยน้ัน ทัง้ สองต่างพดู จากันดว้ ยสายตา เพยี งแตแ่ ววตาขององค์หญิงเตม็ ไปดว้ ยคำถามมากมาย และแววตาของทา้ วขูลนู น้ั แวววาวท้าทาย

ตอนที่ 3 29 ทา้ วขลู ถู วายเครอ่ื งบรรณาการแดพ่ ระราชนิ แี ลว้ ถวายบงั คมลา องคห์ ญงิ ทรงนิ่งมององค์ชายย่างก้าวพ้นประตูไป แต่หวังจะได้พบองค์ชายอีกคร้ังใน เร็ววนั เมอ่ื นางอวั้ เคย่ี มพรอ้ มทงั้ นางสรุ กี ลบั มาทห่ี อ้ งบรรทมแลว้ ปดิ ประตหู อ้ ง องคห์ ญงิ ก็ตรัสกบั นางสรุ อี ยา่ งตื่นเต้น “ชายคนนั้นท่ีแท้คือเจ้าชายขูลูแห่งเมืองกาสี พบกันคร้ังหน้าหญิงจะ เอากำไลไปคนื เขา” เม่ือพูดถึงกำไล องค์หญิงทรงนึกถึงลายตราเมืองกายนครเกี่ยวพันกับ ตราเมอื งกาสี จึงตรสั ถามนางสุรีวา่ “กำไลนนั้ มคี วามหมายอยา่ งไรแน่ พส่ี รุ ีทราบใชไ่ หม” นางสุรีสีหน้าหนักใจเหมือนมีความลับที่ไม่อาจบอกใคร องค์หญิงจึง ทรงสัญญาว่าจะไม่ตรัสเรื่องน้ีกับใครให้นางสุรีต้องเดือดร้อนแน่นอน นางจึง ใจอ่อนยอมเล่า “ในอดีต เจ้าเมืองกาสีและเจ้าเมืองกายนครเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน มาก จนต่างให้คำม่ันว่าหากฝ่ายใดมีพระโอรสหรือพระธิดาจะให้อภิเษกสมรส กับอีกฝ่ายหน่ึง กำไลนี้จึงเป็นของหมั้นระหว่างองค์หญิงกับท้าวขูลูต้ังแต ่ องค์หญิงยงั ไม่ประสตู เิ พคะ” องค์หญิงทรงฟังแล้วแย้มพระสรวลกับตน แต่แกล้งตรัสถามนางสุรี กลบเกลือ่ น “พี่สุรี อย่าล้อเล่นกับหญิงสิคะ ของหมั้นอะไรกัน ทำไมเสด็จพ่อกับ เสด็จแม่ไม่ทรงเคยเล่าให้หญิงฟังเลย และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หญิงก็ต้องมีกำไล เช่นเดียวกนั นั้นดว้ ยสคิ ะ” อกี ฝา่ ยจงึ ตอบเสยี งเรยี บจรงิ จงั “นน่ั เปน็ พระประสงคข์ ององคร์ าชนิ ที จ่ี ะเกบ็ ความลบั นไี้ ว้ ทรงไมป่ ระสงค์ ใหอ้ งคห์ ญงิ ทราบวา่ หมนั้ กบั ทา้ วขลู แู ลว้ จงึ เกบ็ กำไลขององคห์ ญงิ ไวก้ บั พระองค์ เองเพคะ”

30 ตำนานขูลกู ับนางอัว้ นางสุรีไม่แน่ใจว่าการเปิดเผยความลับที่ตนเก็บไว้มาสิบกว่าปีน้ีจะเป็น ผลรา้ ยกบั องคห์ ญิงเองหรือไม่ สว่ นองคห์ ญิงย่ิงทรงทราบเร่อื งราวมากขน้ึ กลับ ยิง่ สบั สน “เสดจ็ แม่จะทรงทำอย่างนนั้ ทำไมคะ พส่ี รุ ”ี “เหตุผลขององคร์ าชินเี พคะ หม่อมฉนั ไมท่ ราบได้” สีหน้าองค์หญิงเปลี่ยนจากร่ืนเริงเป็นกังวลท่ีเสด็จแม่ทรงมีเร่ืองปกปิด นางสุรจี ึงกลา่ วว่า “หม่อมฉันขอประทานอภัยโทษท่ีทำให้องค์หญิงไม่สบายพระทัย แต่ที่ หมอ่ มฉันเลา่ ให้ฟัง เพราะต้องการให้องค์หญิงทรงระวังไว้ อยา่ ไดไ้ ปชดิ ใกล้ชาย ผู้นนั้ อีกเพคะ หมอ่ มฉนั ไมอ่ ยากให้องค์หญงิ ต้องเสยี พระทัยในภายหลงั ” องคห์ ญงิ ทรงคดิ ถงึ แววตาขององค์ชายแลว้ รู้สกึ หวนั่ ไหว หากแต่นกึ ถงึ ยามที่น่ังบนหลังม้ากับเขาก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด...หรือชายผู้นี้จะเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจนัก พระพี่เล้ียงจึงเป็นห่วง แล้วเหตุใดเสด็จแม่ถึงให้การต้อนรับเขา อย่างดีเช่นวนั น ้ี ท่สี ำคญั ทำไมองค์ชายจะตอ้ งลอบเข้ามาในสวนทิพย์ดว้ ย องค์หญิงครุ่นคิดถึงองค์ชาย จึงเสด็จยังสวนทิพย์อีกคร้ัง นางประทับ นั่งทบทวนเร่ืองราวต่างๆ ในศาลา พลางทอดพระเนตรดอกบัวหลากสีสันใน บึงใหญ่แล้วถอนพระทัย แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงท้าวขูลูเรียกองค์หญิงจาก ขอบบงึ ดา้ นล่างศาลา “ทำไมทา่ นไปหลบอยตู่ รงนัน้ ” องค์หญิงตะโกนถาม แล้วมองซ้ายมองขวาว่ามีใครอื่นอยู่แถวนั้นอีก ไหม “ข้ามารอพบองค์หญงิ ” องค์ชายตอบเสียงเบา “ไมม่ ีใครอยู่แถวนห้ี รอก ท่านขนึ้ มาเถอะ” องค์หญิงแย้มพระสรวลให้ ท้าวขูลูจึงเดินมาหาแล้วประทับนั่งสนทนา กันหลายเรื่อง ท้ังแลกเปลี่ยนเร่ืองศิลปวัฒนธรรมของทั้งสองเมือง ไปจนถึง

ตอนท่ี 3 31 วรรณคดี ปริศนาธรรมและศาสตร์ต่างๆ ทั้งคู่ต่างมีความรอบรู้และสติปัญญา ไมแ่ พ้กัน จงึ สนทนากนั ไดส้ นิทสนมอยา่ งรวดเรว็ ทั้งสองรู้สึกเหมือนเพ่ิงจะสนทนากันได้ไม่ทันไร พระอาทิตย์ก็กำลังจะ ลบั ขอบฟา้ ไป ต่างฝา่ ยสบพระเนตรกร็ ูซ้ ึง้ ว่ามใี จตอ่ กัน ทา้ วขลู ูชวนองคห์ ญิงไป กราบไหว้องค์พระปฏิมาในปราสาทหินร่วมกัน ต่างขอวอนให้องค์พระปฏิมา ช่วยเปน็ พยานในความรัก จากน้ัน องค์ชายทรงพาองค์หญิงไปประทับนั่งนับดาวด้วยกันท่ีใต้ต้น จวงหน้าปราสาทหิน ดวงจันทร์ส่องแสงนวลอาบฉาย องค์ชายประทับชิดใกล้ องค์หญิงแล้วโน้มพระพักตร์ลงจุมพิตนาง แต่องค์หญิงเบือนพระพักตร์หลบ เพราะเขินอาย นาทนี นั้ องคห์ ญงิ ได้ยินเสียงพระพเ่ี ลย้ี งรอ้ งตามหา องคช์ ายจึงต้องรบี หลบไป แตก่ อ่ นจะปล่อยพระหัตถ์จากกนั องคช์ ายตรสั น้ำเสยี งเขม้ แข็ง “พี่จะกลับมาสขู่ อองคห์ ญงิ แน่นอน”



สี่ ตอนที่ 4 เม่ือท้าวขูลูเสด็จกลับมาถึงเมืองกาสีก็เข้าถวายบังคมเสด็จพ่อเสด็จแม่ ดว้ ยความชืน่ บาน “กลับมาแล้วหรือพ่อคุณ นี่แม่ส่ังให้เจ้าไปถวายเคร่ืองบรรณาการมา ทำไมถึงยม้ิ ร่าเรงิ กลบั มาขนาดนี”้ ราชินีกาสตี รสั ถาม คร้ันพอเห็นพระโอรสสีพระพักตร์กรุ้มกริม่ ก็เข้าใจ “ไหนบอกแม่ว่า ไม่อยากอภิเษกสมรส ทำเป็นโมโหท่ีแม่จับหม้ันกับ นางอัว้ เคี่ยม ไปพบตัวจรงิ นางแลว้ หลงรกั ใชไ่ หม” องคช์ ายตรสั ตอบพลางแยม้ พระสรวล “โธ!่ เสดจ็ แม่ ทรงรูท้ นั ลูกทกุ ท”ี

34 ตำนานขลู กู บั นางอว้ั ย้อนไปเมื่อหน่ึงสัปดาห์ก่อน ราชินีกาสีทรงสั่งให้ท้าวขูลูนำเคร่ือง บรรณาการไปถวายแด่เจ้าเมืองกายนคร เพ่ือส่งสัญญาณว่า บัดน้ี ท้าวขูลูทรง เจริญวัยเป็นเจ้าชายหนุ่มพร้อมจะอภิเษกสมรสกับนางอั้วเค่ียมตามสัญญาท่ีให้ กนั ไว้ ทีแรกองค์ชายไม่ยอมไปท่าเดียว เพราะยังสนพระทัยแต่เพียงฝึกวิชา ตอ่ สู้และยุทธศาสตร์การรบกบั มหาอำมาตย์ ในเวลาวา่ งกป็ ระพาสปา่ ลา่ สตั ว์กับ พระสหาย แต่เม่ือองค์ราชินีเล่าว่าองค์หญิงทรงมีรูปโฉมงดงาม ทั้งยังมีความ สามารถเหมาะสมกับท้าวขลู ู องค์ชายจึงยอมเสดจ็ ไปกายนคร แต่ก่อนท่ีจะเข้าเมือง องค์ชายทรงขอแยกย้ายกับขบวนถวายเครื่อง บรรณาการเพราะตอ้ งการเท่ียวชมเมืองกายนครเช่นบุคคลทวั่ ไปก่อน แล้วคอ่ ย นัดพบกับขบวนในวนั ถดั มาหนา้ ประตเู ขา้ เมอื ง นึกไม่ถึงว่าระหว่างที่ท้าวขูลูแยกจากขบวนมาน้ันเอง องค์ชายจะได้ พบนางอัว้ เคี่ยมและตกหลุมรักนางตงั้ แตน่ น้ั จนบดั นี้ “เสด็จแม่ ได้โปรดจัดขบวนนำสินสอดไปสู่ขอนางอ้ัวเคี่ยมด้วยเถิด พ่ะย่ะค่ะ” ราชินกี าสพี อพระทยั และรับปากโอรส ท่ีเมืองกายนคร เม่ือท้าวขูลูเสด็จกลับไปแล้ว พระราชินีก็ทรงเปลี่ยน ท่าทีเป็นคนละคน จากเดิมท่ีนางต้อนรับท้าวขูลูอย่างดีตามมารยาท ก็เร่ิม นึกถึงเรื่องบาดหมางที่เคยเกิดข้ึนกับราชินีแห่งกาสีเม่ือนานมาแล้วและยังรู้สึก ไม่พอพระทยั อย ู่ ท่ีสุด ราชินีกายนครก็ทรงมีรับสั่งให้ทหารส่งข่าวให้ขุนลางมาพบทันที ขุนลางเข้าใจความหมายจึงเชิญผู้ใหญ่นำขบวนสู่ขอนางอ้ัวเคี่ยมออกเดินทาง ไปพร้อมกัน กำพร้าอ่านหนังสือจบไปหลายหน้า วันต่อมาเขาก็เล่าเร่ืองให้ก้อยกับ บักอว้ นฟงั ท่โี รงเรยี น ทง้ั กอ้ ยและบักอ้วนไม่เช่อื ว่ากำไลโบราณท่กี ำพร้าพบเป็น

ตอนที่ 4 35 กำไลของหม้ันของท้าวขูลูกับนางอ้ัวเค่ียมเพราะเร่ืองราวผ่านมาตั้งไม่รู้กี่ร้อยปี แล้ว กำพร้าคงจะกลัวมากจนคิดไปเองต่างหาก กำพร้ายอมรับว่ากลัวจริงๆ เพราะสองสามวันมานี้เจอแต่เรื่องน่ากลัวตลอด แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังไม่ตัดใจ จากข้อสนั นษิ ฐานของตวั เอง กำพร้าพูดคุยกับเพ่ือนๆ อยู่นานจนกระทั่งมืดจึงกลับวัดมากับบักอ้วน กำพร้ารู้สึกเหมือนเขาเคยเห็นภาพขณะเขาเดินและคุยกับบักอ้วนอย่างนี้มา ก่อน แล้วก็นึกได้ว่าเคยเห็นในฝันน่ันเอง ขณะนี้ ทุกจังหวะก้าวเดิน ภาพทุก ภาพที่เห็น ความรู้สึกแปลกๆ ท่ีเคยเกิดข้ึนในฝันกำลังเกิดขึ้นซ้ำจนกำพร้ากลัว แต่คราวนี้บักอ้วนเดินแยกจากไปแล้ว เหลือเพียงกำพร้าเดินกลับกุฏิอยู่คน เดยี ว ยง่ิ กำพร้าเดินไปเร็วเท่าไหร่ ยงิ่ ขนลกุ มากขึ้น แตก่ ำพรา้ ไม่อยากวง่ิ หนี ไปหลบในศาลาหน้าโบสถ์อีกแล้ว เขาไม่อยากเห็นภาพผู้หญิงคนน้ันบนขื่ออีก จึงหยดุ ยืนนิ่ง ตงั้ สติ แต่แล้วเขากลบั เหน็ หญิงคนหนง่ึ นัง่ อยู่ใต้ศาลาใกลก้ บั ดอก นางอว้ั ที่พ่ีต้นปลูกไว้ กำพร้าตั้งใจแล้ววา่ จะไมห่ นี จงึ คอ่ ยๆ เดนิ เขา้ ไปหา กำพรา้ ตกใจมากที่ เธอเป็นหญิงคนเดียวกับท่ีเห็นมาตลอด แต่เขาเพิ่งจะสังเกตว่าเธอสวมชุดไทย นุง่ ผา้ ซิ่นสีชมพูอ่อนอยา่ งเดยี วกับนางอ้ัวเคย่ี ม กำพร้าสูดหายใจลึก และน่ังลงข้างๆ เธอ เขาเอื้อมไปแตะบ่าหญิงคน นนั้ แตก่ ลบั สมั ผสั ไดเ้ พยี งอากาศ กำพรา้ ถอนมอื สน่ั ๆ กลบั มา เธอคนนน้ั คอ่ ยๆ หันหน้ามาหาเขา ทีแรกกำพร้ากลัวว่าเธอจะแลบล้ินปล้ินตาน่ากลัวอย่างในฝัน แต่เขากลบั เหน็ วา่ เธอเป็นสาวสวยทีห่ มองเศรา้ และนา่ สงสาร “คะ คณุ เป็นใคร ถะ ถึงยงั ไม่ไดไ้ ปเกดิ ” กำพร้าถามเสยี งสัน่ “ฉันยังไปเกดิ ไมไ่ ด้ เพราะยังมีจิตผูกพันกบั ความรักในอดตี ” กำพร้าฟงั แล้วนิ่งตะลึง “คะ คณุ ตายยังไงล่ะ ผะ เผื่อผมจะช่วยอะไรได”้

36 ตำนานขลู กู ับนางอัว้ “ฉันฆ่าตัวตายเพราะถูกกีดกันความรัก ฉันต้องพลัดพรากจากคนรัก และแต่งงานกับชายที่ไมไ่ ด้รกั ” กำพร้ากลนื นำ้ ลายดงั เอื๊อก คิดวา่ ได้พบผีนางอ้วั เข้าจริงๆแลว้ “ละ แล้ว ผมจะชว่ ยคณุ ยังไงไดบ้ า้ ง” “ไม่มีใครช่วยฉันไดห้ รอก นอกจากเขาเพียงคนเดียว” เธอพูด แลว้ รา่ งเธอก็ค่อยๆจางหายไปตอ่ หน้ากำพรา้ ต้นนอนเอนกายอยู่บนระเบียงกุฏิ เห็นกำพร้าวิ่งขึ้นมาแล้วรีบร้อนเข้า ห้องนอน ก็นึกสงสัย ทำไมพักนี้กำพร้าดูแปลกๆ ไป ห้องหับก็ปล่อยให้รกจน เม่อื คืนเขาตอ้ งช่วยจดั เกบ็ ให้ สว่ นกำพรา้ นกึ ถงึ คำของหญงิ คนน้นั ...ใครกนั ท่ีจะช่วยเธอได้ เขาอยากช่วยให้เธอได้ไปสู่สุคติ แต่นึกจะบอกหลวงตากับพ่ีต้นก็กลัว จะถกู ดวุ า่ เหลวไหลงมงาย จงึ รบี เปดิ หนงั สอื มาอา่ นตอ่ เผอ่ื จะคน้ หาคำตอบเองได ้ เมื่อขุนลางเดินทางมาถึงกายนครแล้ว องค์ราชินีทรงยินดีต้อนรับและ รับปากว่าจะยกนางอ้ัวเคยี่ มให้ นางอ้ัวเคย่ี มเมอ่ื ทรงทราบเร่อื งก็เสยี พระทยั และ ไมย่ อมรับ ตรัสวา่ ขนุ ลางเป็นพวกป่าเถ่อื นโหดร้าย ไม่นับถอื พระธรรม เราน้ ี แนวนามเชื้อ กุลวงศพ์ ระยาใหญ่ ฤๅจกั เทยี มแทบข่า ขอมร้ายอยู่ดง นน่ั เด เขาน้ัน ศีลธรรมเจ้า บม่ ีสังจักสิ่ง มีแต่ สมเสพเหลา้ บม่ เี ออ้ื อ่าวทาน ฯลฯ แต่ถึงองค์หญิงจะให้เหตุผลอย่างไร องค์ราชินีก็ทรงไม่รับฟังทั้งน้ัน องค์หญิงจึงทรงหันมาอ้อนวอนเสด็จพ่อ แม้แต่เสด็จพ่อเองก็ทรงเห็นดีเห็นงาม ด้วย เพราะพระองค์จะได้มีเมืองขุนลางท่ีเข้มแข็งมาช่วยรบกับศึกรอบด้านที่ กายนครเผชิญอย ู่

ตอนท่ี 4 37 องค์หญิงจึงไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร ได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง รอคอยขบวน สูข่ อของท้าวขลู ู หลงั จากนนั้ ไมน่ าน ขบวนสขู่ อนางอวั้ เคยี่ มจากเมอื งกาสกี เ็ ดนิ ทางมาถงึ องค์หญิงรีบเสด็จออกจากห้องบรรทมไปต้อนรับ แต่ขบวนสู่ขอกลับถูกกันอยู่ ด้านนอกปราสาท องค์หญิงจึงเสด็จออกจากพระราชวังไปที่ขบวน องค์ราชินี เสดจ็ ตามออกมาและรบั ส่ังใหท้ หารไลข่ บวนสขู่ อกลับไป “เสดจ็ แม่ทรงทำอยา่ งน้ี ไมย่ ุตธิ รรมเลยนะเพคะ ท้ังที่ทรงให้สัญญา...” องค์หญิงจะตรัสเรื่องการหม้ันของนางกับท้าวขูลู แต่ก็กลัวนางสุรีจะ เดือดร้อน เม่ือองค์ราชินีได้ยินแค่น้ัน ก็ทรงเปลี่ยนท่าทีจากเรียบเฉยเป็นโมโห ดุดนั “ไหนเจ้าวา่ อยา่ งไร สัญญาอะไรกัน” องค์หญิงทรงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งท่ีต้องการตรัสตอบแต่ต้อง นง่ิ เงยี บไว ้ “สญั ญาทที่ า่ นให้ไวก้ บั ข้าอย่างไรล่ะ” พระมารดาของทา้ วขูลเู สด็จลงจากขบวน ก้าวเข้ามาหาพระมารดานาง อ้ัวเค่ียม แตน่ างกลบั เมนิ เฉยทำเปน็ ทองไม่รรู้ อ้ น “สัญญาน้ันหมดความหมายไปนานแล้ว ต้ังแต่ท่านไร้น้ำพระทัยกับข้า ท่านลมื ไปแลว้ หรอื ” พระมารดาท้าวขูลูทรงนึกไม่ถึงว่าพระมารดานางอั้วเค่ียมจะยึดถือเอา เร่ืองในอดีตมาใส่ใจจริงจัง คร้ังนั้น พระราชินีกายนครทรงต้ังครรภ์นางอั้วเคี่ยม และเสด็จเย่ียมวนอุทยานของเมืองกาสี เม่ือทอดพระเนตรเห็นส้มเกลี้ยงในสวน กต็ อ้ งการเสวยตามประสาคนแพท้ อ้ ง แตพ่ ระมารดาทา้ วขลู ไู มใ่ หอ้ า้ งวา่ สม้ เกลย้ี ง ยงั ไม่สกุ ดี พระมารดานางอั้วเคี่ยมจงึ น้อยใจและโกรธมาก เวลาผา่ นไปเน่ินนาน พระมารดาทา้ วขลู คู ดิ วา่ พระมารดานางอัว้ เคีย่ มคงลมื เรื่องนไ้ี ปแลว้ จึงบอกท้าว ขูลูว่าได้หม้ันหมายให้กับนางอ้ัวเคี่ยม แต่พระมารดานางอ้ัวเค่ียมกลับไม่เคย บอกเร่อื งนีก้ ับองคห์ ญงิ เลย

38 ตำนานขูลกู ับนางอัว้ “เรื่องเล็กน้อยอย่างน้ัน ท่านจะเก็บมาใส่ใจทำไม ในเมื่อโอรสและธิดา ของพวกเราตา่ งมีใจปฏิพทั ธต์ ่อกนั ” “หากท่านยังโกรธเคืองข้าอยู่ ขอจงให้อภัยเพื่อความสุขของโอรสและ ธดิ าของพวกเราเถิด” แม้พระมารดาท้าวขูลูจะทรงยอมลดเกียรติขออภัยพระมารดานาง อ้ัวเค่ียมแล้ว แต่พระมารดานางอ้ัวเค่ียมยังทรงยืนยันปฏิเสธอยู่เช่นเคย เพราะ ท่ีจริงเหตุผลของนางมิใช่อยู่ที่เรื่องส้มเกลี้ยงเท่าน้ัน แต่นางคิดจะใช้เร่ือง บาดหมางน้ีเป็นข้ออ้างให้องค์หญิงพ้นจากข้อผูกมัด เพ่ือมาอภิเษกสมรสกับ ขุนลางซึ่งเปน็ เจา้ เมอื งที่รำ่ รวยทส่ี ดุ ท้าวขูลูซึ่งเสด็จมากับขบวนสู่ขอด้วย ก้าวลงจากเฉลียงมาหานาง อ้ัวเค่ียมด้วยความคิดถึง แต่ทหารของอีกฝ่ายกั้นทางไว้ พระมารดาท้าวขูล ู จงึ ตรัสกับพระมารดานางอวั้ เคี่ยมว่า “หากท่านยังยืนยันปฏิเสธคำม่ันสัญญา เห็นทีจะต้องจัดทำพิธีเสี่ยง สายแนน เพ่อื แสดงวา่ ทา้ วขลู แู ละนางอวั้ เคี่ยมเป็นเน้อื คแู่ ท้กัน” พระมารดาท้าวขูลูทรงทราบแน่ว่าหากตนอ้างประเพณีดั้งเดิมเช่นนี้ พระมารดานางอวั้ เคยี่ มจะไมม่ ที างหลกี เลย่ี งได้ เพราะไมม่ ใี ครกลา้ ทา้ ทายอำนาจ พระยาแถนซ่ึงเป็นผีคุ้มบ้านคุ้มเมือง ฝ่ายพระมารดานางอ้ัวเคี่ยมไม่ยอมเสีย ศกั ด์ศิ รี จึงประกาศจดั พธิ เี สี่ยงสายแนนให้ทา้ วขลู ูและนางอวั้ เค่ียม ตามความเชื่อเร่ืองพิธีเส่ียงสายแนน มนุษย์ทุกคนมีสายแนนหรือสาย รกพัวพันกันอยู่บนเมืองแถนก่อนมาเกิด และต้องดำเนินชีวิตไปตามสายแนน น้ัน การทำพิธีเส่ียงสายแนนนี้ต้องเซ่นไหว้พระยาแถน จากนั้นพระยาแถนจะ พานางทรงไปดูสายแนนของคู่หญิงชายว่าผูกพันกันมาต้ังแต่บนสวนสายแนน หรอื ไม่

ตอนที่ 4 39 พิธีกรรมน้ีกระทำใหญ่โต นางอ้ัวเค่ียมกับท้าวขูลูประทับนั่งอยู่กลาง ลานพิธีและคอยสบพระเนตรกันตลอด ขณะเดียวกันนางสนมและข้ารับใช้จัด เคร่ืองบวงสรวงมาเซน่ ไหว้พระยาแถน อันได้แก่ หัวหมู หัวควาย เหลา้ เปน็ ไห นำ้ เปน็ โอ่ง พรอ้ มด้วยแก้ว แหวน เงนิ ซิ่น เสอื้ แหวน ฯลฯ และเมอ่ื พิณพาทย์ ราชตะโพน ฆ้อง กลอง ขลุ่ย แคน ประโคมขนึ้ นางทรงก็ออกมารา่ ยรำ ข้ารับใช้หาบหามเครื่องสังเวยไปถวายแถนที่สิงนางทรง เมื่อแถนรับ แลว้ นางทรงก็ล้มฟบุ ไปกลางพธิ ีท่ามกลางผู้คนท่ีลุน้ ผลเส่ียงทาย แต่น้ัน แถนหลวงได ้ ยินคำถวายมอบ จัดแจกช้ิน ปันใหซ้ แู ถน แล้วจึง พาเขาเข้า สวนแนนหลิงล่ำ เห็นถี่ถ้วน กระบวนเบอ้ื งบ่เผย กกแนนเกีย้ ว พันน่งิ จอ่ งจำ ปลายหากเนิง้ หนเี ว้นจากกนั มียอดดว้ น ก้นุ ขาดตายใบ หนองวงั บก ขาดเขนิ ทา้ ง ฯลฯ

40 ตำนานขูลูกบั นางอว้ั นางทรงเล่าว่าสายแนนของท้ังสองพันกันอยู่ แต่ตอนปลายแยกออก จากกนั และยอดด้วน “แปลวา่ เป็นเนอื้ คู่กนั แตต่ ้องตายจากกนั ” ทุกคนในที่นน้ั ต่างตกใจ โดยเฉพาะทา้ วขลู แู ละนางอ้วั เค่ยี มต่างกลวั คำ ทำนายว่าต้องตายจากกัน แต่อย่างน้อยท่ีสุด พวกเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็น เนื้อคู่กันจริง พระมารดานางอ้ัวเคี่ยมไม่ทราบว่าจะโต้เถียงอย่างไรได้ จึงยอม เจรจาด้วยส่วนหน่ึง คือให้ฝ่ายเมืองกาสีกลับเมืองไปแล้วค่อยส่งขันหมากมา สขู่ อใหม ่ นางอ้ัวเค่ียมจึงทรงนับวนั รอท่จี ะไดพ้ บท้าวขูลอู กี ครั้ง ในขณะท่ีพระมารดานางอั้วเคี่ยมต้องทุกข์ร้อนพระทัยเพราะได้รับปาก หมั้นขุนลางไวแ้ ล้ว

41



ห้า ตอนที่ 5 เช้าวันต่อมา ต้นปลุกกำพร้าให้ลุกไปโรงเรียน ส่วนตนเองเดินตาม หลวงตาไปช่วยถือของใส่บาตรจากชาวบ้าน ต้นก้าวตามหลวงตาช้าๆ อย่าง ใจเย็น รู้สึกว่าอากาศยามเช้าช่างสดช่ืนแจ่มใส และบ้านเกิดของเขาสงบน่าอยู่ ต่างจากกรุงเทพฯ ที่ซ่ึงเขาท้ิงงานจากมาเมื่อหน่ึงเดือนก่อน เพราะผู้หญิง คนหนึ่ง สองสามวันที่ผ่านมานี้ ต้นได้เล่าเรื่องราวชีวิตให้หลวงตาฟังหลายเรื่อง รวมท้ังเร่ืองผู้หญิงท่ีเขาเคยหลงรัก ซึ่งแม้จนวันนี้ เขายังเผลอหยิบรูปเธอใน กระเปา๋ ขน้ึ มาดูและคิดถงึ อดตี อยู่บอ่ ยคร้ัง เมื่อครึ่งปีก่อน หลังจากเพิ่งเรียนจบคณะเกษตรศาสตร์ จากมหา- วิทยาลัยในกรุงเทพฯ ต้นได้ทำงานเป็นนักร้องในบาร์แห่งหน่ึง เสน่ห์ของต้น ไม่ใช่แค่หน้าตาหล่อเหลาขาวสะอาด แต่เป็นเสียงกีตาร์ท่ีพลิ้วไหว เสียงร้อง ที่มาจากใจ และอธั ยาศยั ไมตรตี ่างหากท่ดี ึงดูดลกู คา้ มาเข้ารา้ นมากมาย ไม่ว่าใครที่มาฟังต้นร้องเพลง ต่างบอกว่าต่อไปเขาต้องได้เป็นนักร้อง ดังแน่นอน เพียงแต่ต้นเองไม่เคยคิดจะเป็นนักร้องตลอดไป และยังมองหา โอกาสทำงานเก่ียวกบั พันธพ์ุ ชื ไม้ตามทเี่ รียนจบเสมอ

44 ตำนานขลู ูกับนางอั้ว จนกระทั่งวันหน่ึง เขาได้พบกบั น้ำ หญิงสาวทเ่ี ขาเคยแอบมองในมหา- วิทยาลัยมาก่อน เธอมาทบ่ี าร์แหง่ นน้ั กบั เพอ่ื น เขาจงึ เข้าไปทักทาย นำ้ แปลกใจ ท่ีได้พบต้นและเล่าว่าตนกำลังเตรียมตัวสอบเข้าเป็นอาจารย์ต่อท่ีมหาวิทยาลัย แห่งเดิม ต้นชื่นชมในความตั้งใจของน้ำและพูดให้กำลังใจเธอ จากน้ันจึงขอตัว ขนึ้ ไปร้องเพลงบนเวท ี ใต้แสงไฟสลัวในบาร์แห่งนั้น ต้นดีดกีตาร์เล่นเพลงรักและส่งสายตามา ใหเ้ ธอ หลังจากคืนนน้ั พวกเขานดั พบกันอกี หลายครั้ง ทกุ ครั้งต้นจะแตง่ เพลง รักไปให้น้ำฟังและรับฟังเรื่องราวของเธอเสมอ พวกเขามีความสุขทุกคร้ังท่ีพบ หนา้ กัน จนนานวนั ความผูกพนั ก็เปล่ยี นเป็นความรกั แต่แล้ววันหนึ่ง เม่ือผู้ชายอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตของน้ำ ทุกอย่างก็ เปล่ยี นแปลงไป ไมเ่ หมอื นเดิมอกี เลย ตน้ เรียกสติกลับมาเมือ่ หลวงตาเดินนำเขากลับมาถงึ วัด “คือยา่ งเหม่อๆจังซั่น” หลวงตาถามตน้ “ยงั คดิ ฮอดเรือ่ งน้ันอย่ตู ”ิ ต้นพยกั หนา้ ตอบ “เร่อื งมนั แล้วให้แล้วไป ใช้ชวี ิตให้ม่วนเต๊อะ… “…ถ้าคิดฮอดเพ่ินหลาย ก็ไปกรงุ เทพฯ บา้ ง…” เสยี งหลวงตาออ่ นโยน ต้นรับคำแล้วถอนหายใจ ที่จริงต้นยังเก็บต๋ัวรถไฟกลับกรุงเทพฯ ใบ หนึ่งไว้ เขาเคยซ้ือมันคร้ังที่กลับมาบ้านเกิดเม่ือเดือนก่อน แต่เพราะเร่ือง ระหวา่ งตน้ กบั นำ้ เขาจึงไมไ่ ด้กลับไปกรุงเทพฯ อีกเลย จนได้งานเป็นเจา้ หน้าที่ ป่าไม้ในอทุ ยานภหู ลวง

ตอนท่ี 5 45 ต้นฟังคำหลวงตาแล้วคิดตาม เขาเองมาอยู่กับหลวงตาก็หลายวันแล้ว พรงุ่ นีค้ งถึงเวลากลับเสยี ที ต้นจึงไปจดั เก็บกระเป๋าเส้ือผา้ ทำความสะอาดวัดให้ หลวงตาอีกครั้ง พอตกเย็นเขาก็เดินไปรดน้ำดอกนางอั้ว แล้วนั่งพักมองมัน อยา่ งใจลอย ที่โรงเรียนของกำพร้า เด็กๆ สามสี่คนนั่งมุงล้อมกันฟังตำนานขูลูกับ นางอวั้ และเรือ่ งผที ก่ี ำพร้าเลา่ “โตโม้บ่ ผีมีอยไู่ ส” บักอว้ นตบหัวกำพร้าเบาๆ “บักอ้วน โตอย่าขัดจังหวะ ผีนางอ้ัวมาหากำพร้าแล้วเป็นจ่ังได๋ต่อ” ก้อยกำลังตืน่ เตน้ เธอเชือ่ กำพรา้ แลว้ ว่ากำไลโบราณท่ีกำพร้าเคยพบเปน็ ของนางอว้ั นาง มาทวงคนื แลว้ ยังมาหากำพร้าอีก “เพ่นิ บอกวา่ บ่มไี ผซอยเพิน่ ได้ นอกจากคนคนเดียว… “เฮากำลงั อา่ นอยวู่ า่ เป็นไผ อ่านๆ ไปถงึ ตอนทำพธิ ีเสี่ยงสายแนน ทา้ ว ขูลกู ลบั เมอื งไปแล้วสิกลับมาส่ขู อใหม่ เฮากเ็ ผลอหลับ ยงั บท่ ันฮูว้ ่าเป็นไผ” กำพร้าตอบพลางยักไหล่ ส่วนเพ่ือนๆ พากันโห่เพราะอยากรู้เร่ืองราว อีก “ข้อยวา่ ตอ้ งเปน็ ท้าวขูลแู น่ สิเปน็ ผใู้ ดอ่ืนได้อกี ” กอ้ ยว่า ทุกคนเหน็ ดว้ ย และขอใหก้ ำพร้าหยบิ หนงั สือข้ึนมาอา่ นให้ฟงั ตอ่ เมื่อฝ่ายเมืองกาสีกลับไปแล้ว ขุนลางได้ส่งคนมาหาพระมารดานาง อ้ัวเคี่ยมอีกคร้ังหนึ่ง เพื่อกำหนดวันอภิเษกสมรสกับนางอั้วเคี่ยม พระมารดา นางอั้วเค่ียมจึงทรงตอบตกลงว่ากำหนดเป็นเดือนหน้า เม่ือข่าวกำหนดการ อภิเษกสมรสกับหัวหน้าชนเผ่าภูเขามาถึงหูนางอ้ัวเคี่ยม นางก็เศร้าโศกเสีย พระทัยที่พระมารดาทรงไม่รักษาคำพูด และไม่ว่าขุนลางจะหมั่นมาหานาง เทา่ ไหร่ นางก็ไมเ่ คยออกมาพบ

46 ตำนานขูลกู ับนางอวั้ ยิ่งนับวันนางอั้วเค่ียมยิ่งเศร้าซึมลงทุกที ไม่มีพระทัยจะทำส่ิงใดแม้แต่ เสวยอาหาร นางสรุ ีเลย้ี งองคห์ ญิงมาตง้ั แตเ่ ล็กจงึ เขา้ ใจและเปน็ ห่วงนางมาก ยิง่ เห็นองคห์ ญิงเศรา้ สร้อย นางสุรเี องกแ็ ทบจะร้องไหไ้ ปด้วย “องคห์ ญงิ เพคะ องคห์ ญงิ ไมท่ รงรกั ขนุ ลาง หมอ่ มฉนั เขา้ ใจ แตอ่ งคห์ ญงิ ตอ้ งรกั พระองคเ์ องนะเพคะ” ความห่วงใยของนางสุรีทำให้นางอ้ัวเค่ียมซึ่งกำลังเหม่อมองไปนอก พระราชวังหันกลับมาหา แลว้ แย้มพระสรวลใหอ้ ยา่ งเศร้าๆ “รักตวั หญงิ เองหรือพีส่ ุร”ี “เสด็จแม่ก็บอกว่าทำอย่างนี้เพราะเสด็จแม่รักหญิง ขุนลางก็รักหญิง หญิงได้ความรักมากเกินจะแบกรับแล้ว หญิงต้องการแค่มีสิทธ์ิจะเลือกคนท่ี หญิงรกั ตา่ งหาก” “โถ องค์หญิง” นางสุรกี อดนางอ้ัวเคีย่ มเพ่อื ปลอบโยน “พสี่ ุรจี า๋ พส่ี รุ ีเคยมีความรกั ไหม” “เคยสเิ พคะ” นางสรุ ตี อบ “ถ้าอย่างนั้นพ่ีสุรีคงเข้าใจหัวใจของคนที่มีรัก หญิงอยากขอร้องพี่สุร ี สักอยา่ งจะไดไ้ หม” นางอ้ัวเค่ียมทรงถอนพระวรกายจากอ้อมกอดนางสุรีแล้ววางพระหัตถ์ บนมอื นางสองขา้ ง “อะไรหรือเพคะ หมอ่ มฉนั ยนิ ดีทำทุกอยา่ ง” “หญิงอยากพบทา้ วขูลู พี่สรุ ชี ่วยไปเชิญเขามาพบหญงิ ได้ไหม” นางสุรีเห็นใจองค์หญิงจึงยอมรับปาก แม้ว่าตนจะเส่ียงถูกพระราชินี ลงอาญาขน้ั รนุ แรงก็ตาม เย็นวันถดั มา ในอทุ ยานสวนทพิ ย์ องคห์ ญงิ เสดจ็ มากราบไหว้องค์พระ ปฏิมาแต่เพียงลำพัง องค์หญิงทอดพระเนตรยังพระพักตร์แน่นิ่งขององค์พระ เช่นเคย แต่คร้ังน้ีพระเนตรของนางคลอด้วยพระชลนัยน์ท่ีไม่อาจกลั้นเก็บไว้

ตอนท่ี 5 47 พระวรกายของนางสั่นไหวขณะที่เร่ิมกรรแสง แต่แล้วนางก็รู้สึกได้ยินเสียงอัน อบอุ่น “พม่ี าแล้วองคห์ ญงิ ” ท้าวขูลูตรัสอยา่ งออ่ นโยนและนั่งลงขา้ งนาง นางอว้ั เค่ียมทรงหนั มากรรแสงในอ้อมกอดขององคช์ าย แล้วตดั พอ้ “ทำไมท่านพี่ถึงได้จัดขบวนสู่ขอมาล่าช้านัก ทราบไหมว่าเสด็จแม่ทรง กำหนดวันอภิเษกสมรสของหญิงกับขุนลางไวเ้ ดอื นหนา้ แลว้ ” องค์ชายไดฟ้ งั แล้วแค้นขุนลางนกั “ขบวนสู่ขอของพ่เี ดนิ ทางมาถงึ ดา้ นนอกเขตกายนครหลายวนั แล้ว แต่ ไม่อาจเคล่ือนเข้าสู่พระราชวังได้ เพราะทหารซุ่มของขุนลางมันคอยดักทำร้าย อยู่ ทแ่ี ทม้ นั บงั อาจอาศยั จงั หวะนมี้ ากำหนดวนั อภเิ ษกสมรสได้ นอ้ งหญงิ ไมต่ อ้ ง กลัวนะ พี่จะกลับไปตั้งกองทัพจากกาสีมาสู้กับมัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราทั้ง สองคนจะไดอ้ ย่ดู ้วยกนั อยา่ งมีความสุข พข่ี อสญั ญาต่อหน้าพระปฏมิ า” องค์ชายโอบกอดนางกระชับและจมุ พิตนางให้คลายเศรา้ ฝ่ายขุนลางตามทหารซุ่มของตนมาที่ขบวนสู่ขอของท้าวขูลูเพ่ือเจรจา ให้องค์ชายยกขบวนกลับเมืองไป จะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บตัว แต่เม่ือมาถึงขบวน แล้วเขากลับไม่พบท้าวขูลู ทหารของขุนลางใช้มีดจ้ีข่มขู่แม่ส่ือให้บอกว่าท้าวขูลู อยทู่ ไ่ี หน ขุนลางจึงได้ตามมาพบภาพบาดใจในปราสาทหิน! ขนุ ลางน่ิงเงียบ หลบอยูภ่ ายนอก รอใหท้ ้าวขูลูจากไปและนางอว้ั เค่ียม เสด็จออกจากปราสาทหินกำลังจะกลับพระราชวัง ขุนลางจึงว่ิงเข้าไปประชิดตัว แล้วกอดนาง “องคห์ ญงิ ทำไมถงึ กลา้ ทำกบั ขา้ ขนาดนี้ ทงั้ ทข่ี า้ พยายามทำดที กุ อยา่ ง ทำไมท่านถึงไมร่ กั ข้า!”

48 ตำนานขูลูกบั นางอั้ว องค์หญิงสะบัดด้ินจนหลุดจากอ้อมแขนของขุนลาง และตรัสเสียงดัง ดว้ ยความกรว้ิ “จริงท่ีท่านได้ทำทุกอย่างเพื่ออภิเษกสมรสกับข้า แต่ความรักของท่าน เป็นเพียงการยึดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เหมือนที่ท่านชอบใช้กำลังยึดเมืองอื่นเป็น เมืองข้ึน แตใ่ จขา้ ไม่ใชอ่ าณาจักรใดทีย่ ึดครองไดด้ ้วยอำนาจ!” ขนุ ลางหมดความอดทนท่มี มี าโดยตลอด “ได้! ในเมอ่ื ข้าพยายามอยา่ งไรกเ็ ป็นคนดใี นสายตาองค์หญงิ ไมไ่ ด้ กถ็ งึ เวลาเผยธาตแุ ท้ของข้า ขา้ จะใช้วิธเี ลวๆของข้า” เขากล่าวแล้วก้าวเข้ามาใกล้องค์หญิงอีกครั้ง มือหน่ึงคว้าเอวนางแล้ว ดึงตัวเข้ามาใกล้ อีกมือหนึ่งช้อนพระพักตร์นางขึ้นมา ลมหายใจอุ่นของเขารด ลงบนพระปรางใส “ปลอ่ ยข้า!” นางอ้วั เคย่ี มตวาด จ้องตาขุนลางเขมง็ “ทขี า้ ละ่ ทำเปน็ ขัดขืน โธ!่ ” ขุนลางยม้ิ เหยยี ดๆ “ท่านจำเอาไว้เลย ถ้าหากท่านหลบหนีการอภิเษกสมรสกับข้า ข้าจะ ยกทัพมาตีเมืองกาสีให้วอดวาย แล้วตัดหัวไอ้ขูลูมาเสียบประจานหน้าวังของ ทา่ น จากนนั้ จงึ ตเี มืองกายนครให้ยอ่ ยยบั ไปตามกัน ให้มนั พินาศไปทง้ั กาสีและ กายนคร! แล้วทา่ นจะไดร้ ู้วา่ กองกำลงั ของข้าจะยึดอาณาจักรใจทา่ นไดห้ รือไม่” องคห์ ญิงตบหนา้ ขุนลางอย่างแรง แลว้ ว่ิงหนกี ลบั เขา้ พระราชวงั ไป ท้ิง ขุนลางจมอยู่กับความเจ็บแค้น…ทั้งแค้นท้าวขูลู แค้นนางอั้วเค่ียม และแค้น ตวั เอง

ตอนท่ี 5 49 เขาคดิ เสมอวา่ ไมต่ อ้ งการใชก้ ำลงั กบั นางอว้ั เคยี่ ม แตน่ าทนี ป้ี ากพลอ่ ยๆ กับความโมโหที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ความหวังท่ีนางจะหันมารักเขาดับสูญสลาย ไปหมดแล้ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook