Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมะคือสิ่งจำเป็นแก่มนุษย์

ธรรมะคือสิ่งจำเป็นแก่มนุษย์

Description: ธรรมะคือสิ่งจำเป็นแก่มนุษย์

Search

Read the Text Version

ธรรมะเลมนอ ย เปนหนังสือธรรมะขนาดพกพา รายเดือน ๑๒ เลม ๑๒ เดอื น เพอ่ื เจรญิ สติ และแสวงหา ปญญาเบื้องตนสำหรับคนไมมีเวลาศึกษา เนือ้ หาโดยละเอยี ด สามารถมีสว นรว มไดโดย... ๑. ผูทอ่ี านแลว คิดวาดีมปี ระโยชน โปรดสงมอบ ใหแกผอู ื่นตอ เปรียบด่ังใหทาน. ๒. สนบั สนนุ การจดั พมิ พห นงั สอื ธรรมะเลม นอ ย ตามกำลงั . ๓. เลือกจัดพิมพหนังสือธรรมะเลมนอย เพื่อ เผยแผในวาระตางๆ เชน งานวันขึ้นปใหม งานวันเกิด งานสมรส งานเฉลิมฉลอง งาน บุญ งานศพ ฯลฯ โดยสามารถเลือกเอา เฉพาะสว นทีเ่ ปนธรรมบรรยายและพิมพบ าง สว นเพิ่มเตมิ ได ธรรมะดๆี มตี ิดตัวไว เพ่ือเจริญสติและปญญา

ร่วมเป็นเจ้าภาพ พมิ พ์ธรรมะเล่มนอ้ ยได้ท่ี หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปญั โญ โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๐๐

รายชื่อหนังสอื ธรรมะเลม่ นอ้ ย ๑๒ เลม่ สำ� หรบั ปี ๒๕๕๕ ประกอบด้วย ๑. การมีอายุครบรอบปี...เป็นเช่นน้ันเอง ๒. สิ่งท่ีเป็นคู่ชีวิต ๓. มาฆบูชา วันน้ีเป็นการกระท�ำเพ่ือบูชาพระอรหันต์ ๔. ความถกู ต้องของการศึกษา ๕. ความหมายและคุณค่าของ ค�ำว่า “ล้ออายุ” ๖. การท�ำงานน้ันคือการปฏิบัติธรรม ๗. เศรษฐศาสตร์ของชาวพุทธ ๘. พระธรรมในทุกแง่ทุกมุม ๙. มอื ขวาทำ� บญุ อยา่ ใหม้ อื ซา้ ยรู้ ๑๐. ปวารณา คอื เครอ่ื งหมาย แหง่ คนดี ๑๑. ประโยชนข์ องความกตญั ญู ๑๒. ภมู ติ า่ งๆ และ แนวครองชวี ิต ๑๒ เล่ม ส�ำหรับปี ๒๕๕๖ ประกอบดว้ ย ๑. ธรรมะเผดจ็ การ ๒. ความเป็นไปของจิต ๓. ความเขา้ ใจถกู เก่ียวกับศาสนา ๔. พุทธบริษัทไม่ต้องใช้ยาระงับประสาท ๕. ธรรมท่ีลูกของพระพุทธเจ้าควรปฏิบัติ ๖. การบวช คือการบังคับตัวเอง ๗. โทษท่ีเกิดเพราะไม่มีวินัย ๘. อย่าง นั้นเอง ๙. มะพร้าวนาฬิเกร์ ๑๐. ชีวิตโวหาร ๑๑. สติ ๑๒. สันทิฏฐโิ ก ๑๒ เลม่ สำ� หรบั ปี ๒๕๕๗ ประกอบด้วย ๑. ธรรมะทำ� ไมกนั ๒. แผน่ ดนิ รองรบั รา่ งกาย ธรรมะรองรบั จติ ใจ ๓. สง่ิ ทเี่ รยี กวา่ กเิ ลส ๔. ธรรมคอื สง่ิ จำ� เปน็ แกม่ นษุ ยส์ ำ� หรบั ปอ้ งกนั และแกไ้ ข ๕. สงิ่ ซง่ึ เปน็ อปุ กรณแ์ กก่ ารเลกิ อายุ ๖. ทกุ สง่ิ อยเู่ หนอื ปญั หา ๗. รจู้ กั ธรรมะใหถ้ งึ ทส่ี ดุ ๘. เขา้ ใจพทุ ธศาสนาใหถ้ กู ตอ้ ง ๙. หลักธรรมท่ีทุกคนควรทราบ ๑๐. ธรรมที่เป็นเคร่ืองมือ การเดินทาง ๑๑. ผลพลอยได้ที่เน่ืองถึงกันและกันในโลก ๑๒. ธรรมะคือหน้าท่ี

ธรรมคอื สง่ิ จำ�เปน็ แกม่ นษุ ย์ สำ�หรบั ปอ้ งกนั และแกไ้ ข โดย พทุ ธทาสภกิ ขุ ล�ำดับที่ ๔ ประจ�ำปี ๒๕๕๗ www.bia.or.th

อบรมพระนวกะในพรรษา ปีพ.ศ. ๒๕๑๖ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๑๖ ผ้ถู อดคำ�บรรยาย คุณวรฎิ ฐา มีวงศ์อุโฆษ ผูต้ รวจทาน คณุ ขนษิ ฐา โพธิยอด

ธรรมคอื สง่ิ จำ�เปน็ แกม่ นษุ ย์ สำ�หรบั ปอ้ งกนั และแกไ้ ข ของการบรรยายสำ�หรับภกิ ษุบวชใหม่ ผมก็เหน็ วา่ ควรจะเปน็ เร่ืองแรก หรอื เรือ่ งเบอื้ ง ต้นที่สุด ทเี่ ปน็ เรื่องท่ีควรจะเอามาพูดกนั มนั จะได้สะดวกแก่การท่ีจะเข้าใจและศึกษาต่อไป ตามลำ�ดับ เมื่อเป็นอยา่ งน้ี ก็นกึ วา่ ไมม่ อี ะไร จะเป็นเร่ืองแรกยิ่งไปกว่าเรื่องธรรมะท่ีจำ�เป็น สำ�หรบั มนุษย์ และวันนจ้ี ะพูดเรื่องธรรมะท่ี จำ�เป็นสำ�หรับมนษุ ย์ เป็นหัวข้อเร่อื ง ที่พวกคุณอยากจะบวชก็ย่อมแสดง อยู่แล้วว่ามันยังรู้สึกว่าตัวเองยังขาดอะไรอยู่ ๑

และควรจะไดอ้ ะไรมาเพมิ่ เติม แมว้ า่ ยังไม่รูว้ า่ สิ่งน้ันคืออะไร และแม้ว่าจะคดิ วา่ มนั เป็นขนบ- ธรรมเนียมประเพณีมาแต่กาลก่อนท่ีให้คน หนุ่มบวช ดว้ ยคงจะเช่อื ว่ามันคงมีดแี น่ มอี ะไร ดีแน่ แมเ้ รายงั ไมร่ ู้ว่าดีอย่างไร เราก็ควรจะลอง แล้วจึงมาบวชดูทงั้ ทย่ี งั ไม่รู้วา่ จะไดอ้ ะไร บางคนก็บวชเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ เป็นบุญเป็นกศุ ลแกบ่ ดิ ามารดา อย่างน้กี ็มี แต่ ในที่สุดถ้าบวชเข้ามาแล้วมันก็ต้องมาศึกษา เกี่ยวข้องกับธรรมะอยู่น่ันเองเพราะเรื่องอ่ืนมัน ไมม่ ี จึงเปน็ อันว่าการบวชนก้ี เ็ พอื่ จะมาหาสงิ่ สำ�คญั สง่ิ หน่ึงท่เี รียกกนั วา่ ธรรมะ โดยเหตุที่ได้เรียกว่าธรรมะไปเสียจน ชนิ จนชา มันก็เลยไม่ร้เู หมือนกันว่าธรรมะน้ีคอื อะไรกนั แน่ ยง่ิ มาเรียนบาลเี ข้ากย็ ิ่งรู้วา่ ธรรมะ นค้ี ือทกุ สง่ิ กเ็ ลย อ้อ เวียนหวั คืองงไปหมด ๒

วา่ ทกุ สงิ่ กไ็ ม่ไหวแหละ แลว้ เราก็รู้ว่าธรรมะมี ความหมายคือทกุ สิง่ กจ็ ริง แต่ธรรมะท่เี ราควร จะรู้จะมีนนั้ มันจำ�กัด มันจำ�กัดอยตู่ รงท่ีว่าต้อง เปน็ ธรรมะท่จี ะมีประโยชนแ์ ก่เรา บางคนอาจจะคิดว่าขึ้นช่ือว่าส่ิงแต่ละ ส่งิ ย่อมมีคุณค่า ย่อมมปี ระโยชนไ์ มย่ กเว้นสง่ิ ใดเลยอย่างนกี้ ็ได้ แต่ว่าถ้าสำ�หรบั เราแลว้ เรา ไม่ตอ้ งการทุกอยา่ ง ไมต่ ้องการทกุ ส่งิ เรา ต้องการแต่ทีเ่ ปน็ ประโยชน์แก่เรา ก็เหลือแต่ ธรรมะทจี่ ะเป็นประโยชนแ์ กเ่ รา กเ็ หลือนอ้ ย เข้า อยา่ งที่พระพุทธเจา้ ทา่ นตรสั วา่ ธรรมที่ ตถาคตรู้ปริมาณเท่ากบั ใบไม้ท้งั ป่า เอามาสอน พวกเธอกเ็ ทา่ กับใบไม้กำ�มอื เดียว นี้ย่อมแสดง อยวู่ า่ มนษุ ยไ์ ม่ต้องรู้อะไรหมด แลว้ ก็ไมต่ อ้ งรู้ อะไรมากเกินกว่าทีจ่ ำ�เปน็ กำ�มือเดียวคือเทา่ ท่จี ำ�เป็น ท่ีวา่ จำ�เปน็ นี้คืออะไร คอื ทจ่ี ะช่วย ๓

ดับทกุ ข์ของคนคนนนั้ ได้ ก็มีเท่าน้ันเอง แตว่ า่ คำ�วา่ ดับทกุ ข์น่มี ันมคี วามหมายกำ�กวม คือให้ หมายความว่าแม้ที่จะเป็นเคร่ืองป้องกันไม่ให้ ทุกข์ไม่ให้ความทุกข์เกิดข้ึนก็ต้องรวมอยู่ในคำ� ว่าดบั ทกุ ขด์ ว้ ยเหมือนกนั ถา้ จะสรปุ ใหเ้ ปน็ คำ�สน้ั ๆ กว็ า่ เพอ่ื อยาก จะทราบเร่ืองท่ีจะทำ�ให้การมีชีวิตอยู่น้ีไม่ ประกอบด้วยความทุกข์ ขอใหค้ ณุ มงุ่ หมาย เพยี งความมุ่งหมายขอ้ นี้ เราตอ้ งการจะไม่ให้ ความเป็นอยู่หรือมีชีวิตอยู่นี่เป็นความทุกข์ข้ึน มา ถ้ามคี วามทกุ ข์โดยทแ่ี กไ้ ขไมไ่ ด้ มันกเ็ ป็น เร่ืองที่จะต้องถือว่าการได้มีชีวิตน้ีเป็นบาป เป็นกรรม เปน็ ความเลวที่สุด ที่ได้มาเปน็ คนน่ี เพราะว่าความทุกข์มันแกไ้ ขไมไ่ ด้ ท่านให้ความ เกิดมาเป็นคนเป็นของดีมันก็ต้องได้ไอ้ส่ิงที่ดี คือไม่มีความทุกข์ ถา้ ปลอ่ ยไปตามประสาคน ๔

มันก็มีความทกุ ข์ เพราะมันไมร่ ู้ ฉะนั้นเดี๋ยวน้ี เกิดมาแล้วถ้าจะเป็นคนหรือเป็นมนุษย์ที่เรียก วา่ มีโชคดี ก็ต้องมีสงิ่ ที่ดีคอื ไม่มคี วามทกุ ข์ เพราะฉะนั้นความเป็นมนุษยจ์ ะถือว่า เป็นการได้ลาภอนั ประเสรฐิ น้ัน มันไมไ่ ด้อยทู่ ี่ การไดเ้ กิดมาเปน็ มนุษย์ มนั ต้องหมายเลยไปถงึ วา่ ไดเ้ ปน็ มนุษยท์ ่ีมธี รรมะอยา่ งมนุษย์ แลว้ ก็ไม่ มีความทุกข์ เด๋ียวนี้เราก็เกิดมาในโลกน้ีแล้ว โดยทีว่ ่าไมร่ วู้ ่าใครมันรับผิดชอบ กอ่ นแตเ่ รา เกิดมาหรือเราอยู่ในท้องแม่เราก็ไม่ได้อยาก เกดิ เกิดมาแล้วนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนกัน เรื่องทว่ี า่ ไมม่ ใี ครรบั ผดิ ชอบแต่ในท่สี ดุ ถา้ ความ ทกุ ขม์ นั เกิดขึน้ มนั เกดิ ขนึ้ แกเ่ รานี่ ท่ีสมมติ เรยี กวา่ เราน่ี คอื จิตใจของเรา ร่างกายของเรา อะไรคนหน่งึ ๆ รวมเรียกกนั ว่าเราโดยสมมตนิ ี่ ๕

มนั มคี วามทกุ ขม์ ันจึงมปี ญั หา แต่ว่าเดี๋ยวน้ียังไม่มีความทุกข์ท่ี ปรากฏชัดเจน โดยเฉพาะที่นง่ั อย่ทู ่ตี รงนี้เวลา นีม้ ันหาความทกุ ขไ์ ม่ได้ เพราะจติ มันกำ�ลงั ไม่ ได้ทำ�อะไรไปในทางทจี่ ะเปน็ ทกุ ข์ มนั กเ็ ลยเป็น ผทู้ ี่ไม่มปี ญั หา แต่แลว้ เราก็ไม่สามารถที่จะมี จติ ใจอยา่ งที่นงั่ อยู่ท่ีนี่เด๋ียวนีไ้ ด้ตลอดไป คือมัน ก็จะมคี วามคิดอย่างน้นั อย่างน้ีเกดิ ขึ้น หรอื มี การประสบกันเข้ากับอารมณ์อย่างน้ันอย่างนี้ เกดิ ขนึ้ แลว้ ก็มปี ญั หาขน้ึ มาคือความทุกข์ ทีนี้ เมื่อใดจิตไปโง่เข้าสำ�หรับที่จะยึดถือในส่ิงท่ีมัน เข้ามาเกย่ี วขอ้ งด้วยน่ี โดยความเป็นเรื่องเป็น ราวเปน็ ตวั เปน็ ตนขึน้ มาละก็ ต้องมีความทุกข์ แน่ นี่เราจะมคี วามรอู้ ะไรท่จี ะป้องกันได้ เมื่อเรายงั เดก็ ๆ อยู่ แทบจะไม่มเี รอื่ ง ทที่ ำ�ใหต้ ้องเป็นทุกขห์ รือหนกั อกหนกั ใจ แมแ้ ต่ ๖

เมอ่ื เราเป็นไข้ เมือ่ เราเลก็ ๆ เปน็ ไขเ้ รากไ็ ม่รสู้ กึ ทุกข์ รอ้ นเรากบ็ น่ วา่ ร้อน พ่อแม่กม็ าชว่ ยแกไ้ ข เยียวยาให้ ให้หายไขห้ ายเจบ็ ไอ้เราเลก็ ๆ นอน เจ็บอยู่เรากไ็ มร่ ้สู กึ เปน็ ทกุ ข์ เว้นไวแ้ ตม่ นั เปน็ เรื่องเจบ็ ปวดมนั ก็ปวดเท่านนั้ อยา่ งนี้ไมใ่ ชต่ วั ความทุกขแ์ ท้ ตวั ความทกุ ขแ์ ทม้ นั กไ็ ปอยู่ที่ จติ ใจของพ่อแม่ทเี่ หน็ ลูกเล็กๆ นอนป่วยอยู่ ก็ ลองคดิ ดูวา่ ไอ้ลูกเลก็ ๆ มนั เจ็บเป็นไข้ มนั กลบั ไม่เป็นทุกข์ ตวั รอ้ นนดิ หน่อยกน็ อนคลุมผ้าอยู่ แต่ความทุกข์มันไปอยู่ท่ีพ่อแม่ที่ไม่ได้เจ็บป่วย อะไรเลย นี่กเ็ พราะว่าจติ ใจของพ่อแมไ่ ดส้ มั ผัส กันเข้ากับอารมณ์ท่ีเป็นท่ีต้ังแห่งความยึดถือ คอื ลูก แลว้ กล็ ูกก็เจบ็ ไข้ แลว้ ลูกก็จะตาย เมื่อส่งิ นไ้ี ด้ปรากฏแกแ่ ม่ สมมตวิ ่าแก่ แม่ ความเป็นแมก่ ็เกดิ ข้นึ ในจติ ใจของแม่ น่ี เปน็ ตวั กูผ้เู ป็นแมข่ ึ้นมา ก่อนนีไ้ มเ่ คยร้เู รอ่ื งเป็น ๗

แม่ ไม่นึกเรอ่ื งเป็นแม่ ต่อเมอื่ มันมอี ะไรมาทำ� ใหก้ ระทบกระทง่ั จึงจะเกดิ ความร้สู กึ วา่ เปน็ แม่ ของลูก และมลี กู เป็นของเรา ความรสู้ ึกเป็น ตวั กเู ปน็ ของกูกเ็ กดิ ข้ึน ท้ังทใี่ จไม่ไดร้ ้สู ึกวา่ จะ เรยี กมนั ว่าแม่หรือลูกอะไร แต่ความหมายมนั เตม็ ที่ ความรสู้ ึกวา่ ตวั เป็นแม่ เกดิ ครอบงำ�จติ ใจ โดยทเี่ จ้าตัวก็ไม่รสู้ กึ ว่ากูเป็นแม่ แต่มนั เปน็ แม่ เสยี ย่งิ กว่าเป็นแม่ ลูกน้นั ก็เหมือนกันเกดิ เปน็ ลูกขึ้นมาทันที ว่าเป็นลูกของกูข้ึนมาทนั ที เม่ือลกู สบายดเี ที่ยววง่ิ เตน้ อยู่ มันก็ ไม่ร้สู กึ วา่ ลูกของกู ถึงจะรสู้ กึ บา้ งก็นดิ หน่อย ไมม่ ปี ญั หาอะไร พอลกู จะตายขึน้ มานีค่ วาม เปน็ ตวั กกู ็เขม้ ขน้ ขึน้ ความเป็นลกู ของกูก็เขม้ ข้นขนึ้ อยา่ งนี้ก็เรยี กวา่ ความยึดถอื ได้เกิดข้ึน แล้ว ความกลัวลูกจะตายได้เกิดขนึ้ แลว้ ความ อยากไมใ่ หล้ ูกตายได้เกดิ ข้นึ แลว้ มนั เกดิ ข้ึนแก่ ๘

จิตใจ ทีแรกกจ็ ะเปน็ เพียงความอยากไม่ให้ลกู ตาย แต่พอความอยากนั้นมนั เกิดข้นึ เต็มทีม่ ัน ก็เป็นความรูส้ ึกวา่ กู–แม่ นนั่ –ลูก แลว้ ก็เป็น ทุกขอ์ ยู่ จนกว่าลกู มนั จะหาย ไอค้ วามเป็นแม่ ความเปน็ ลกู ก็หายไปอีก หายไปดว้ ยกนั คอื ไมม่ ี ความทกุ ขเ์ พราะมนั ไมไ่ ดย้ ดึ ถือ เพราะฉะน้ันพระพุทธเจ้าท่านจึงตรัส ไวต้ ายตวั เปน็ หลกั วา่ ความทกุ ข์ ก็คือความ ยึดม่ันถือมั่นในส่ิงอันเป็นที่ต้ังแห่งความยึดม่ัน ถอื มน่ั อะไรก็ได้ ถา้ เป็นทีต่ ัง้ ความยดึ ม่ันถอื ม่ันด้วยความเป็นตัวกูและเป็นของกูแล้วก็ต้อง เปน็ ทุกข์ ทีพ่ ดู วา่ เปน็ เบญจขันธเ์ ปน็ ขนั ธ์ ๕ ก็ เปน็ เรือ่ งพดู ไปตามวิธีพูด เปน็ ความรูเ้ ป็นวชิ า เป็นอะไร สำ�หรับพูด แตโ่ ดยเน้ือแท้แล้วในตวั อย่างนีก้ ็เห็นว่า ตวั กแู ละลูกของกู ไม่ต้องรูเ้ รอื่ ง ขันธ์ ๕ กไ็ ด้ แมค้ นครั้งพทุ ธกาลก็ไม่ได้รูเ้ ร่ือง ๙

ขันธ์ ๕ สกั กีค่ น แตท่ ี่รจู้ ริงๆ คอื เรอ่ื งทกุ ข์ เม่ือ เกดิ ตัวกู เมือ่ เกิดของกขู ้นึ มาแล้วก็เป็นทกุ ข์ เมอ่ื เด็กๆ มนั กไ็ มค่ ่อยจะเกดิ หรอื เกิด ไดน้ อ้ ยมาก ทจ่ี ะเกดิ ความยึดมั่นเปน็ ตัวกขู องกู น่ี แล้วก็เกดิ แวบๆ วอมแวมเอง แตแ่ ล้วมนั กจ็ ะ มากขึน้ ๆตามความเจริญของอายุความยึดถือก็ จะมากขึน้ เม่ือเดก็ เขา้ โรงเรยี นกจ็ ะยึดถือเร่ือง ได้เร่อื งตกในการสอบไล่ มนั กเ็ รมิ่ มมี ากขนึ้ เมือ่ ไปทำ�อาชพี มนั ก็มายดึ ถือเรอ่ื งดีมากดนี อ้ ย ได้ มากไดน้ ้อย มนั ก็มีความทกุ ข์เพิม่ ขน้ึ ทพี อไป เป็นพอ่ บา้ นไปแต่งงานมภี รรยาเข้าก็มชี อ่ งทจี่ ะ ยึดถือมากข้นึ เปน็ พ่อบา้ นแม่เรือนมลี ูกมีหลาน กม็ ชี ่องทางท่ียดึ ถอื มากขนึ้ มนั จงึ มีความระทม ทกุ ข์อยา่ งท่ีเรยี กว่าทนทรมานน้ีเพิ่มมากข้นึ ๆ น้ีเราศึกษาได้จากบิดามารดาของเรา หรือวา่ คนทีเ่ ราเห็นๆ กันอยู่ว่าเขามคี วามทุกข์ ๑๐

อยา่ งไร ฉะนัน้ ส่งิ แรกทจ่ี ะตอ้ งร้จู กั ก็คือส่งิ ที่ เรยี กว่าความยดึ ถอื ความยดึ มน่ั ถือมนั่ ถา้ ไม่ เกิดความยึดมั่นถือมั่นแล้วความทุกข์มีไม่ได้ ความรกั ก็เร่อื งยึดม่นั ถอื มน่ั ความโกรธก็เร่ือง ยดึ มั่นถือมน่ั ความโงก่ เ็ ร่ืองยดึ มนั่ ถือมั่น อยู่ใน รูปของความกลวั ความเศร้าความอะไรต่างๆ ก็ เรื่องยดึ มน่ั ถือมน่ั ท้ังนนั้ ฉะนั้นท่ีมาบวชนี้โดยเนื้อแท้นั้นไม่มี อะไรนอกจากจะมาเรียนให้รู้เรือ่ งความ… เรื่อง วิธีการท่ีจะแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้เกิดความ ทุกข์ คำ�พดู นน้ั พูดไว้งา่ ยมาก นดิ เดยี ว สอง สามคำ� คอื พดู วา่ ยนิ ดี–ยนิ รา้ ย สองคำ�เท่านน้ั ละ่ แต่ความหมายมันมาก เพราะวา่ ถา้ ยินดี หรือยินร้ายแล้วก็หมายความว่าได้ยึดมั่นถือม่ัน เข้าแล้วเปน็ แน่นอน เม่อื เดก็ ๆ ก็ไมถ่ งึ ขนาดท่ี จะเรียกว่าเปน็ ความทุกขห์ นกั มนั ยนิ ดียนิ รา้ ย ๑๑

เด็กๆ นม่ี นั ก็เปน็ เดก็ ไปตามตัวเด็ก พอเป็น หนุ่มสาวข้ึนมาดูสิมันก็มีถึงขนาดที่จะฆ่าตัว ตายได้ ยงิ่ สมยั น้ีการศึกษาธรรมะไม่พอ คนวัย รุน่ ก็ฆา่ ตวั ตายไดท้ งั้ ทย่ี งั ไม่ควร คนเปน็ หนมุ่ เปน็ สาวเตม็ ท่ี นีเ่ รื่องทฆี่ า่ ตัวตายมนั กม็ ีมากขน้ึ กระทั่งเป็นบิดามารดาทุกข์หนักขนาดท่ีต้อง ควรฆ่าตวั ตายมันมากขึน้ แต่ถ้ามคี วามร้อู ะไร บางอยา่ งมาช่วยไวไ้ มต่ ้องฆา่ ตัวตาย ถ้าเป็นสมยั ก่อน เปน็ วัฒนธรรมอยใู่ น สายเลือดเพราะมันสอนกันอยู่ตำ�ตาอยู่เสมอ ว่าอนจิ จัง ทกุ ขงั อนตั ตา เขาพดู อย่างนั้น หมายความว่าเขาก็สอนกันไม่ให้ไปยึดถือกับ มนั ให้มากนกั ให้มนั เป็นอนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา ไปตามเรอื่ งของมนั อย่าไปน่ังรอ้ งไห้อยู่ หรือ อย่าไปนง่ั โกรธอยู่ หรืออย่าไปนงั่ เศร้าอยู่ อย่า ไปน่ังกลัวอยู่ เพราะฉะนัน้ คนโบราณเขาจึงมี ๑๒

การฆา่ ตวั ตายนอ้ ยกว่าคนสมัยนี้ โดยเฉพาะ วัยรนุ่ หนมุ่ สาวสมยั นม้ี นั หุนหนั มันไม่มีธรรมะ ในสายเลือดเหลืออยู่มากเหมือนคนโบราณ ส ติ สั ม ป ชั ญ ญ ะ ห รื อ ส ติ ปั ญ ญ า อ ะ ไ ร ท่ี จ ะ เอาชนะอารมณเ์ หล่าน้ีมันไม่พอ ย่ิงอ่านหนังสือพิมพ์ยุคน้ีเข้าด้วยก็ย่ิง นา่ เวทนาสงสาร คือสง่ิ น้นั ไมค่ วรถึงกับฆา่ ตัว ตาย มนั กฆ็ า่ ตวั ตายกันได้งา่ ยๆ ถ้าเปน็ คนหน่มุ สาวสมัยก่อนนะมันก็จะหัวเราะเยาะได้ด้วย ซ้�ำไป วา่ ท�ำไมคนสมยั นี้เรียนมากกลบั หัวเราะ เยาะไมไ่ ด้ กลบั มเี รอ่ื งฆา่ ตวั ตาย อาจารย์สาว ยิงอาจารย์หนมุ่ ตายหรอื อาจารย์แก่ตาย ซึ่งมัน มากข้ึนๆ ทำ� ไมจงึ มคี วามโง่มากถึงขนาดที่วา่ นี้ คอื เรื่องท้งั หมด นีค้ ือเร่ืองสูงสุดในชีวิต ไมไ่ ด้ แลว้ ก็ต้องตายเสยี ดีกว่า ท�ำไมโง่กันถงึ ขนาดนี้ ซ่ึงสมยั ก่อนเขาไมเ่ คยโง่กนั ถงึ ขนาดน้ี เขารจู้ กั ๑๓

เหน็ เปน็ เรอื่ งธรรมดาหรอื เปน็ เร่ืองเล่นๆ ไปเสีย ก็มี หัวเราะเยาะไดไ้ ปเสียกม็ ี ลองคดิ ดู การศึกษาเจริญไปแตใ่ นทางอื่น ไม่ เจริญมาในทางของธรรมะที่จะดับความทุกข์ ฉะนนั้ จงึ ยงิ่ มคี วามทกุ ขช์ นดิ ทแ่ี ปลกๆ แปลก ออกไปจากทเ่ี คยมีมาแตก่ ่อน เมอ่ื มอี ารมณ์ แปลกๆ ขึน้ มาในยคุ น้ี ความคดิ ความนึกก็ เปลี่ยนไป ความยดึ ม่นั ถอื มัน่ ก็เปล่ยี นไป แต่ ว่ามันก็ไม่เปลีย่ นไปไหนไดม้ ากมายนอกจากจะ ไปมีความทกุ ข์ แต่ก็แปลกตรงทีว่ ่าท่ีเขาไมเ่ คย เปน็ ทุกข์มันก็มาเป็นทุกข์ ทไ่ี ม่ควรจะเปน็ ทกุ ข์ มนั ก็ไปโงว่ ่าเป็นทุกข์ น่ีมันมากขึน้ นี่เราอย่าได้ไปรวมอยู่ในพวกนั้นเลย ควรจะรวมอยู่ในบุคคลประเภทที่เป็นสาวก ของพระสัมมาสัมพทุ ธเจ้า ใหจ้ รงิ หรือที่คณุ พูด เมอ่ื วันบวชนะ่ เอสาหัง ภนั เต, สุจริ ะปะรินพิ - ๑๔

พุตัมปิ, ตงั ภะคะวนั ตงั สะระณัง คจั ฉามิ น่ี ถ้าสง่ิ เหล่านเี้ ป็นความจรงิ การพูดนี้เป็นพูดจรงิ แลว้ ก็จะดมี าก ท่ีพวกเราสมคั รปลกี ตวั ออกมา เปน็ สาวกของพระพทุ ธเจ้านี่ เราจะไมไ่ ปรวม อย่ใู นพวกคนโง่ โง่มากถึงขนาดทีว่ ่าอะไรกอ็ ึด- อัดขัดใจไปหมด ยินดียนิ ร้าย ยนิ ดียินรา้ ย ยนิ ดี ยนิ รา้ ยอยู่แตอ่ ยา่ งนัน้ น้กี ็เรียกว่าดีหรือมีโชคดีท่ไี ด้เข้ามาศึก- ษาธรรมะของพระพทุ ธเจา้ เสยี แตเ่ นน่ิ ๆ อยา่ งนค้ี ง จะมีประโยชน์ถ้าการบวชการมีประเพณีให้คน หนุ่มบวชน้ีจะต้องมีประโยชน์ ถา้ เขารจู้ กั ทำ�ให้ มนั จริง ไม่ตอ้ งรอต่อเฒ่าตอ่ แก่ผา่ นโลกไป แล้วจงึ จะไปบวช น้ันมันประโยชน์อย่างอนื่ เป็น ประโยชน์ท่สี ูงข้นึ ไปอีก เดี๋ยวนี้มัน…เป็นคนหนุ่มยังจะต้อง เผชญิ โลกเผชญิ ชวี ิตแลว้ แต่จะเรยี ก แลว้ จะมี ๑๕

อะไรเป็นเคร่ืองรับประกันว่าจะมีความทุกข์ นอ้ ยหรอื ไมม่ คี วามทุกข์ ถา้ มคี วามทุกขก์ ็ สามารถ… มันกก็ ล่าวได้ว่าเป็นผู้พา่ ยแพ้ อย่า ไปเขา้ ใจให้มนั เขวไปทางอน่ื ถ้าเกดิ ความทกุ ข์ ขึ้นแล้วกต็ อ้ งถือวา่ เป็นผู้พา่ ยแพ้ พา่ ยแพอ้ ะไร ก็ได้ พา่ ยแพ้อารมณ์กไ็ ด้ พา่ ยแพก้ ิเลสก็ได้ หรือพ่ายแพ้คนดว้ ยกันก็ได้ ทเ่ี ปน็ คู่แขง่ ขนั เป็น คู่อะไรกต็ ามใจมนั เป็นการพา่ ยแพห้ มด ถา้ ความทุกขไ์ ดเ้ กิดขนึ้ เพราะฉะนนั้ เราจะตอ้ งมี โชคดี จะได้รู้อะไรสักอยา่ งหน่งึ ซ่งึ ทำ�ให้ไม่เปน็ ผูพ้ า่ ยแพ้ ถ้าได้อย่างนตี้ า่ งหากจงึ จะเรียกวา่ การไดม้ าเป็นมนษุ ย์น้ีเรียกวา่ เป็นโชคดี หรือ เปน็ ลาภอนั ประเสริฐ หรอื แล้วแตเ่ ขาจะพดู กัน ถ้าไม่ได้อย่างนี้การได้มาเป็นได้เกิดมาเป็น มนษุ ยน์ คี่ ือบาป บาปกรรม หรือโชครา้ ยอะไร มากกว่า ๑๖

เพราะฉะน้ันในระหว่างที่เราบวชเข้า มาก็ตอ้ งไดเ้ รยี นรู้ส่งิ ทจี่ ำ�เปน็ สำ�หรบั เรา พดู อยา่ งสมมตคิ อื สำ�หรบั เรานะ หรอื จะพดู กลางๆ วา่ สำ�หรับมนุษยจ์ ะตอ้ งรู้ ตอ้ งไดส้ ิ่งท่ีจำ�เปน็ ทม่ี นษุ ย์จะตอ้ งมี หรือมนุษยจ์ ะตอ้ งรู้ มนั เหมอื นกันไอร้ นู้ ่ันก็คือมี มีนนั่ ก็คอื รู้ สำ�หรบั ธรรมะนี่มนั มคี วามหมายอย่างน้ัน เพราะว่ารู้ นน่ั หมายถงึ รจู้ กั ธรรมะทม่ี อี ยใู่ นเราจะไปรธู้ รรมะ ทใ่ี นหนงั สอื นน่ั ไมไ่ ด้ ต้องรูธ้ รรมะทมี่ ีอยใู่ นเรา เดย๋ี วน้ีเรามีแตธ่ รรมะในหนังสอื ก็เลยไมม่ ี ธรรมะทแี่ ทจ้ รงิ ในตวั เรา อยา่ ใหธ้ รรมะอยแู่ ตใ่ น หนงั สอื หรืออยู่แตใ่ นสมดุ โนต้ ให้อยทู่ ่สี ติ ปญั ญาทเ่ี จรญิ งอกงามยง่ิ ขึน้ ทุกที ยง่ิ ข้ึนทุกที ทกุ วนั ๆ ทเี่ รามาบวช ครัง้ แรกก็คงจะสลัวๆ อยมู่ ากไมร่ ูว้ า่ อะไรคอื ธรรมะ อยกู่ นั ท่ีตรงไหนดี อยา่ งไรนี่ แต่ ๑๗

ถ้าว่าตั้งอกตัง้ ใจสงั เกตศึกษาแลว้ ก็คอ่ ยๆ รขู้ ้ึน เปน็ แนน่ อน จนกระท่ังรูช้ ดั ลงไปวา่ ไอ้ธรรมะน้ี จำ�เป็นแน่ จำ�เปน็ สำ�หรับคนท่ีมชี วี ิตอย่แู ล้วไม่ ต้องการความทุกข์ ฉะนั้นธรรมะมันจึงมีความ จำ�เป็นย่ิงกว่าสง่ิ ใด มันป้องกนั ความทุกข์หรอื กำ�จัดความทุกขไ์ ด้ ถ้าเรามีเงินแล้วมีความทุกข์ก็ไม่มี ความหมาย เรามที รพั ยส์ มบตั อิ ำ�นาจวาสนาอะไร กต็ ามถ้ามีความทกุ ขม์ ันกไ็ ม่มคี วามหมาย ให้ได้ คู่ครองที่ดีวิเศษอย่างไรถ้ามันมีความทุกข์มัน กไ็ มม่ ีความหมาย ก็ใหร้ ไู้ ว้เถดิ วา่ การท่เี ขา้ ไป เก่ียวข้องกับสิ่งเหล่านี้โดยผิดวิธีนั้นจะต้องมี ความทุกข์ จะไปเก่ียวข้องกบั เงิน กับทรพั ย์ สมบัติ อำ�นาจวาสนา กับบตุ รภรรยาอะไรก็ตาม ถ้าผิดวิธจี ะต้องมีความทกุ ข์ ขนาดเป็นบา้ ไป พักหนึง่ แหละ แมจ้ ะไม่บ้าตลอดกาลมนั ก็คือบ้า ๑๘

น่ันเอง แลว้ ก็มีความทกุ ข์ไปพกั หน่ึง นี้เรากม็ า ใครค่ รวญดูให้ดีๆ ว่าเดย๋ี วนีเ้ ปน็ ปญั หาเฉพาะ หน้า มีปัญหาเฉพาะหน้าอยู่อย่างนี้จะผ่าน ไปไดอ้ ยา่ งไร นข่ี อใหผ้ ทู้ ต่ี ง้ั ใจจะบวชพรรษาเดยี ว นน้ั ร้จู กั ส่งิ เหล่านี้ ธรรมะสำ�หรับคนแก่ คนที่จะไปนพิ - พานกันโดยเด็ดขาดนั้นมันอีกระดับหน่ึงยังไม่ ตอ้ งนกึ ถึงก็ได้ แม้ว่ามนั จะเปน็ เรื่องเดียวกนั มัน กอ็ ยู่คนละระดับ แต่มีหลักเกณฑ์อยา่ งเดียวกนั มันก็ยงั อยู่คนละระดบั นพ่ี ดู สำ�หรับระดับปจั จ-ุ บนั เฉพาะหนา้ เรากม็ ีความทกุ ข์ไปตามแบบ ของคนท่ีมีอายุน้อยหรือว่ายังหนุ่มหรือยังยึด ม่ันถือม่ัน ดว้ ยอำ�นาจอวชิ ชาอย่างรวดเรว็ รุน แรงผลนุ ผลัน บางคนอาจจะคิดหาทางออกแก้ตัวให้ ตัวเองว่าผิดเสียบ้างก็ดีจะได้รู้รสของความผิด ๑๙

ของความชว่ั ของความบาป นั่นมนั กถ็ ูก การ พูดอย่างนนั้ มันกถ็ กู แต่มันไม่ใช่ถูกแท้หรอื ถูก หมด เราควรจะมีความทกุ ข์บ้างก็แต่ในขนาด ทพ่ี อจะถอยหลังออกมาได้ ไม่ถึงกบั วินาศไป เลย หรอื ไมต่ ้องถึงกะวา่ ให้มันพิกลพิการเปน็ โรคประสาทเป็นโรคจิตไปเลย ฉะน้นั บงั คบั จิต ได้ สลัดความทุกข์ออกไปไดม้ นั ก็ดี มนั ก็มคี วาม รู้ มคี วามรูจ้ กั ความทุกข์น่นั เอง น่ีว่าความทุกข์มาในอัตราที่พอเหมาะ สมมาสอนใหฉ้ ลาดข้ึนอย่างน้ีถกู แตถ่ า้ ความ ทุกข์มาทำ�ใหป้ ่นปีว้ ินาศไปเลยมนั ก็ไมด่ ี หรอื ว่า มันจะมาทำ�ให้เสยี เวลามากมันก็ไมด่ ี ฉะนนั้ ทีน้ีเราจะถือหลักว่าเอาความทุกข์เป็นบทเรียน ส่วนความทกุ ขน์ นั้ มันเกิดได้เอง แลว้ เราจะเอา วิชาความรู้ที่ไหนมาสำ�หรับใช้ความทุกข์น้ัน เปน็ บทเรียน ถ้าลำ�พังความทกุ ข์ล้วนๆ มนั ก็ ๒๐

กัดเอาๆๆ เรากต็ ายไปวนิ าศเลย เราตอ้ งมี ความรู้มาอีกอันหน่ึงสำ�หรับมาใช้ความทุกข์น้ัน ใหเ้ ปน็ บทเรยี น สมมติว่าคุณบวชแลว้ ไม่เหลว ไหล ศกึ ษาธรรมะของพระพทุ ธเจา้ ใหถ้ กู ตรง ตามเรือ่ งราวกจ็ ะได้ความรนู้ ี้เพม่ิ ข้นึ สำ�หรับไป เผชิญหน้ากบั ความทุกข์ แล้วกจ็ ะชนะความ ทกุ ข์ แล้วก็จะได้ความทกุ ขน์ ั่นแหละเป็นบท เรียน ความทุกข์น้ีก็เปน็ ครไู ด้ คนโบราณเขา ก็พูดไว้ถูกแล้วว่าความผิดก็เป็นครูความถูกก็ เปน็ ครู แล้วความผดิ นี่สอนจริงกวา่ คือวา่ มันทำ� ใหเ้ จ็บปวด ความทุกขน์ ่สี อนดีกว่าความสุข ความสุขไม่ค่อยสอนอะไร ความทุกขจ์ ะสอน มาก แต่ถ้าเราไม่มีธรรมะอะไรอยู่บ้างเราก็ ไม่อาจจะเรียนจากความทุกข์มันจะกลายเป็น บ้าไปเลย มนั ก็เลยกลายเป็นไมไ่ ด้สอน ไมใ่ ช่ ๒๑

สอนไม่ใช่เรยี นละทนี ี้ กลายเปน็ เสวยความ ทุกข์เป็นบ้าไปเลยก็เรียกว่าตกนรกชนิดหนึ่งไป เลยจนตายจนตลอดชวี ิต อยา่ งนมี้ นั กไ็ มม่ ีอะไร ท่ีตรงไหนท่ีจะพูดได้ว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์ นีเ้ ป็นลาภอันประเสริฐ เพราะมันเกดิ มาเป็น คนบ้าจนตายหรือว่าไร้ค่าไปจนตายเพราะไม่มี ธรรมะเปน็ เครือ่ งปะทะเอาไว้ ฉะนั้นขอให้ย้อนดู มจี ิตใจระลึกถอย หลงั ยอ้ นไปดูตง้ั แตเ่ รายังเลก็ ๆ แลว้ เกิดมามันมี อะไรบ้าง มันก็มคี วามทกุ ข์แต่ไม่ร้ายกาจถงึ กับ ทำ�ใหเ้ ราเป็นบ้า หรอื เสยี คน หรือวา่ หมดกนั เทา่ น้ัน เรามีความผดิ เลก็ ๆ น้อยๆ มคี วามทกุ ข์ เล็กๆ น้อยๆ ในประสบการณ์ทผ่ี ่านมาน่ีทำ�ให้ เราฉลาดขน้ึ ๆ ที่เป็นหลักใหญ่ทส่ี ุดกค็ ือว่าเรา จะไมไ่ ปแหย่เขา้ ทนี่ ั่นอีก เพราะตรงน้นั มนั เป็น ไฟ ถูกไฟแล้วมันรอ้ น แล้วมนั ก็ไม่ไปแหยเ่ ข้า ๒๒

ที่ตรงน้นั อีก นีค่ ือเราฉลาดขน้ึ ๆ จึงเปน็ เนอ้ื เป็นตัวข้ึนมาได้จนบดั นีถ้ งึ บดั น้ี อยา่ งที่เรยี กว่า หวดุ หวดิ ๆมันหวดุ หวดิ จะตายทางวญิ ญาณคือ จะเสียคนนน่ั อยมู่ ากครั้งทเี ดียว แต่วา่ สัญชาตญาณแห่งการต่อสู้แห่งการหลบหลีก นมี่ นั ยังมีอยู่มันจึงเอาตวั รอดมาได้ สำ�หรับบท เรยี นเล็กๆ บทเรียนที่ไม่ยาก บทเรียนสำ�หรบั เดก็ ๆ มนั ไม่ยาก หรือบทเรยี นสำ�หรบั วยั รุ่นซง่ึ ก็ ยงั ไมค่ ่อยท่ีจะยาก แตว่ า่ ต่อไปนท้ี จ่ี ะเปน็ ผใู้ หญ่ เตม็ ตัวกำ�ลังเป็นผ้วู ่า เป็นพ่อบ้านแม่เรือน กระทั่งเป็นผู้บังคับบัญชาคนจำ�นวนมากบท เรยี นนไี้ ม่งา่ ยแล้ว จะไมง่ า่ ยอย่างเมอื่ เด็กๆหรอื วา่ เปน็ ขนาดวัยรนุ่ แล้ว น่ีความจำ�เป็นที่ต้องมีธรรมะมันก็มาก ขึน้ มิฉะนั้นจะดำ�เนินกิจการไปไมไ่ ด้ แมใ้ น ส่วนของตัว ไมต่ ้องพูดถึงการที่จะไปปกครอง ๒๓

ควบคมุ ผอู้ นื่ ซง่ึ มนั ยากยงิ่ ขน้ึ ไปอกี การปกครอง คนนั้นมันลำ�บากเหลอื ประมาณ มันยากกวา่ การปกครองสัตว์ ก็เรียกว่ามนั เปน็ ปัญหาอกี ส่วนหนึง่ ซ่ึงรออย่ขู า้ งหน้า เพราะว่าถ้าเราไปมี ครอบครัวมอี ะไรเข้ามันกม็ กี ารปกครองทข่ี ยาย ออกไป มีกจิ การงานกว้างขวางกม็ คี นอยใู่ น บงั คบั บัญชารับผดิ ชอบมากขน้ึ ปัญหายากข้นึ ทกุ ที ถา้ ไม่มีใจคอปกติมั่นคงแล้วมนั ก็จะมแี ต่ ผลเสียแหละ มันไมม่ ีอะไรท่ีจะทำ�ให้ปกตหิ รือ มัน่ คงหรือตอ่ สไู้ ด้ ไม่มอี ะไร นอกจากธรรมะ หรอื วา่ ไอ้ส่งิ น้ัน เขาเอามาเรียกมนั ว่าธรรมะ วิธี การที่จะเอาชนะอุปสรรคปญั หาได้ เอามาเรยี ก เสียใหม่ใหช้ ื่อเสยี วา่ ธรรมะ ฉะน้ันอย่าไปหลงใหลฟั่นเฟือนเก่ียว กับคำ�ว่าธรรมะจนไม่รวู้ ่าอยทู่ ไี่ หน จนอย่ใู น พระไตรปฎิ ก หรืออยู่บนฟา้ บนสวรรค์ ที่ไหน ๒๔

กไ็ มร่ ู้ ธรรมะตอ้ งอยู่ท่ีสงิ่ ทสี่ ามารถแก้ปญั หา ของมนษุ ยไ์ ดไ้ ม่วา่ ปัญหาชนดิ ไหน ทีน้เี มื่อเรา ไปมีปัญหาชนิดไหนเข้าระดับไหนก็ตามมาก นอ้ ยเท่าไรกต็ ามต้นื ลกึ เทา่ ไรก็ตาม สิง่ ใดทม่ี ัน แกป้ ญั หานีไ้ ด้สิ่งนน้ั คือธรรมะ ทเี่ ราจะต้องการ อย่างยิ่ง ถา้ มันเปน็ เร่อื งโลกๆ เราเรียนไดใ้ น โรงเรียน ในมหาวิทยาลัยเป็นความรู้พ้นื ฐาน ทว่ั ไป แตถ่ า้ เป็นความร้ชู ัน้ ลึก ชั้นจิตใจ ช้นั วญิ ญาณสว่ นลึกแล้วมนั ไม่มีสอน ในโรงเรยี น ในมหาวิทยาลยั ไหนก็ไมม่ ีสอน มนั ก็เลยต้องมา หาวิทยาลยั ท่มี ีสอนก็คือธรรมะนนั่ เอง ระบบ ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นมหาวิทยาลัย ท่ีจะสอนในสว่ นน้ี ที่ไมม่ ีสอนในมหาวทิ ยาลยั ธรรมดาสามญั เดี๋ยวน้ถี ้าเร่อื งธรรมดาสามัญก็ เปน็ เร่ืองโลกไปหมดไม่มเี รอื่ งธรรมะเลย จะไป ๒๕

เรียนเมืองนอกเมอื งนามา กไ็ ปไดแ้ ตเ่ ร่อื งทาง วัตถุมา เรือ่ งวชิ าชีพมา ได้ความเฉลียวฉลาด อยา่ งย่งิ ในการประกอบการงานมา แต่ว่าขาด อยู่อีกส่งิ หนงึ่ ซึง่ ขาดอย่างน่าใจหายนี้ คอื ความ รูท้ ่ีว่าทำ�อยา่ งไรความทุกขจ์ งึ จะไม่เกดิ ขนึ้ ใน เมื่อเราจะปฏิบตั หิ นา้ ที่การงานน้นั ๆ อยา่ งเราไปเรียนสำ�เร็จวชิ าชีพ วชิ า technician technic อะไรช้ันสูงสดุ มาท่มี ี ประโยชน์แล้วก็ทำ�ไดจ้ ริงนี้ แล้วพอมาประกอบ เขา้ มันกม็ ปี ญั หาอย่างอื่นทางจิต ทางวิญญาณ เกิดขน้ึ นบั ตั้งแต่วา่ มนั บงั คับตวั เองไม่ได้ บังคบั โทสะไม่ได้ บงั คบั อะไรก็ไม่ได้ กระทัง่ บงั คับคน ลูกนอ้ ง หรือผรู้ ว่ มมอื กไ็ ม่ได้ เมื่อบงั คับตัวเอง ไม่ไดก้ ห็ มายความวา่ บังคับกิเลสไม่ได้ บงั คับ จิตไม่ได้ มนั ก็ไปอาละวาดออกมา มนั กเ็ ลยย่งุ กนั หมดกแ็ ปลวา่ ปะทะกนั ไปหมดหรอื วา่ บงั คบั ๒๖

ตัวเองไม่ได้มันก็มีกิเลสอย่างอ่ืนเกิดขึ้นสำ�หรับ คดโกงมนั กค็ ดโกงไป นเี่ พราะวา่ เขาไมไ่ ด้อบรม กนั ในเรอื่ งน้ัน ฉะน้ันคนที่เฉลยี วฉลาดกย็ งั คด โกงก็เห็นแกต่ ัว น่กี ็เรียกวา่ มันขาดธรรมะ ในสว่ นสำ�คัญอย่างน้ี ย่ิงเด๋ียวน้ีเขาถือกันว่าได้แล้วก็เป็น ดี ได้เงนิ ไดอ้ ะไรมากแล้วกเ็ ป็นดี ก็ไอ้ธรรมะก็ เปล่ยี นไปสำ�หรับคนประเภทนนั้ ว่าไดน้ ่ันแหละ เป็นธรรมะ ไอ้โลกมนั กเ็ ลยเปลย่ี นเป็นโลกของ การเบียดเบยี น เป็นโลกของการโกหกพกลม อะไรตา่ งๆ เปน็ โลกท่ไี ม่มธี รรมะ ก็เป็นโลกท่ีมี ปัญหามากขึน้ ทีนี้ปัญหาก็มาเกิดแก่เราคนเดียวน่ี มากข้นึ ว่า เราจะอยู่ในโลกชนดิ นีไ้ ด้อยา่ งไร ถ้า คนในโลกเกือบจะท้งั หมดน่นั เป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแกไ่ ด้เป็นธรรมะ เห็นแกก่ เิ ลสเป็นธรรมะ ๒๗

แล้วเราจะอยูใ่ นโลกน้กี บั เขาได้อยา่ งไร เราจะ ผสมโรงกับเขาไปดว้ ยอย่างนีก้ ็ไดเ้ หมอื นกัน แต่ ถ้าเราไม่ต้องการจะทำ�อย่างน้ันเราก็มีทางออก คือธรรมะอีกนั่นแหละท่ีจะช่วยให้เรามีการ ปรับปรุงจิตใจเสียใหม่ไม่ต้องเป็นไปตามน้ัน หรอื ว่าความทุกขม์ นั จะประดังกนั เข้ามา จะให้ เราเปน็ ทุกขเ์ รากไ็ มเ่ ป็นทุกข์ เพราะเรามีการ ตอ่ สทู้ ถ่ี กู ตอ้ งการรบั หนา้ อารมณเ์ หลา่ นน้ั อยา่ ง ถูกตอ้ งเรากไ็ ม่ตอ้ งเปน็ ทุกข์ อะไรกไ็ มต่ อ้ งเปน็ ทกุ ข์กนั เลย แมว้ า่ จะไมป่ ระสบความสำ�เรจ็ จะตอ้ ง ยากจน จะตอ้ งตายกไ็ ม่มีความทุกข์เลย ถึงแม้ จะตายก็ตายไปอยา่ งท่ีไมม่ คี วามทุกข์เลย จะไม่ ต้องกลัวถ้ามีธรรมะแล้วไม่ต้องเป็นอย่างนั้น มันมีทางให้เป็นไปได้โดยท่ีไม่ต้องเป็นทุกข์หรือ วา่ ตอ้ งตาย นส้ี มมตเิ อาวา่ ถา้ มนั จะตอ้ งตายหรอื ๒๘

ว่ามันจะต้องตายด้วยอบุ ตั ิเหตอุ ะไรต่างๆกไ็ มม่ ี ความทกุ ข์ ถ้าเปน็ ว่าธรรมะน่ีแก้ปัญหาเร่อื ง ความทกุ ข์หมดส้ินไม่มสี ว่ นเหลอื ก็คิดดูเองสิ วา่ มนั มันมคี า่ สักกม่ี ากนอ้ ย ส่ิงทจี่ ะแก้ปญั หา ได้หมดจดสิ้นเชิงหรือดับความทุกข์ได้ทุกอย่าง โดยสิ้นเชงิ น่ีมนั มคี า่ สักกี่มากน้อย แต่ถา้ เรา ไม่มองเห็นแล้วเราก็จะไม่รู้สึกว่ามีค่าเราก็ไม่ ตอ้ งการธรรมะเหมอื นกัน เหมอื นคนโดยมาก เขาไมต่ อ้ งการธรรมะ เขาตอ้ งการแตเ่ งนิ เขา ตอ้ งการแตอ่ ารมณส์ ำ�หรบั บำ�รงุ บำ�เรอ เขากพ็ ดู ว่าเขาพอใจแล้วเขาสบายแล้วไม่มีความทุกข์ แล้ว ก็คอยดูไปก็แล้วกนั ถ้าดูเป็นก็จะเห็นว่ามันจมหรือแช่ อยูใ่ นนรกชนิดหน่งึ ทีเดียว คนทเี่ ขาพดู อย่าง นัน้ แล้วเผอิญว่าเขาไมม่ คี วามทุกขจ์ ริงกต็ ้อง หมายความว่าเขายังมีความรู้ทางธรรมะอย่าง ๒๙

ใดอย่างหนึง่ ช่วยประคบั ประคองอยู่ หรอื ถา้ คนพาล คนคดโกง คนคอรร์ ัปชั่น คนอะไร ก็ตามเขายงั ไมร่ สู้ กึ เป็นทกุ ข์ ก็เพราะว่ามันมี เหตหุ ลายอย่าง เพราะยังโง่เกนิ ไปกไ็ ด้ ไม่ เห็นความทุกข์เปน็ ความทุกขก์ ไ็ ด้ แต่ถา้ ดแู ล้ว เห็นๆ กันอยู่น่ีเขาซ่อนนรกเอาไวใ้ นจิตใจตลอด เวลา มีความทนทรมานอย่างยิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่กต็ ีหนา้ เปน็ อยา่ งอื่นอยา่ งนี้มากกว่า คนท่ี เห็นแก่ตัวจะไม่มีความยึดม่ันถือมั่นน้ันเป็นไป ไมไ่ ด้ เมือ่ มคี วามยึดมนั่ ถือมนั่ แล้วจะไม่มีความ ทกุ ข์น้ันกเ็ ปน็ ไปไมไ่ ด้ ฉะน้นั เขาก็ซ่อนนรกของ เขาเกบ็ ไวเ้ งยี บไหม้อย่ใู นจิตใจ แลว้ ไมเ่ ทา่ ไรมัน กอ็ อกมาใหเ้ ห็น น่คี ุณก็ลองคดิ หาข้อค้านข้อแย้ง ไปดู เองก็แล้วกันว่ายังมีส่วนไหนที่มันจะแย้งได้ใน หลักเกณฑ์ทว่ี ่า ไอค้ วามทุกข์เกดิ มาจากความ ๓๐

ยึดมัน่ ถือมัน่ ถ้ายงั มอี วิชชามีความโงอ่ ยู่ต้อง ยึดมั่นถือมั่นไม่อยา่ งใดก็อยา่ งหน่ึง เพราะมนั … มนั ละเอียดมาก แล้วมนั ทกุ ชั้นทุกระดบั ชัน้ ที่ ลึกซึ้งมันเกือบจะไม่มองออกว่าเป็นความทุกข์ มันกจ็ ะไม่มองออกวา่ เป็นกิเลส ความเคยชนิ นีก้ ็ทำ�ใหไ้ มร่ ู้สึกตามที่เป็นจริง เชน่ เรานอนจม แช่อยู่ในของสกปรกเปน็ นิสยั อยา่ งนี้ เราก็ไมร่ ู้ สึกวา่ น่ีเป็นของสกปรกอยา่ งน้เี ปน็ ตน้ จมแชใ่ น ความทุกข์ระดับน้ันมันก็เลยไม่รู้ว่าเป็นความ ทกุ ข์ ลองเหลอื บตาไปดูวา่ ครอบครวั หนึ่ง พ่อบ้านนั้นก็ขี้เมาโหดร้ายทารุณไม่มีธรรมะ เลย แมบ่ ้านน้นั ก็มีความบกพร่องทุกอย่างทุก ประการ แล้วลกู บ้านก็มกี ารเป็นไปตามเหต-ุ การณ์นัน้ ๆ เราไปบอกเขาว่าคณุ มคี วามทกุ ข์ นี่เขาไมเ่ ชอื่ ยิ่งพ่อบ้านข้เี มาแลว้ ยง่ิ ไม่ยอมเชื่อ ๓๑

วา่ ฉนั มีความทกุ ข์ ไม่กลัว แลว้ กไ็ มอ่ ยากจะละ ไอ้สภาพอย่างน้นั อย่างน้ีมีตัวอยา่ งถมไป ใน ประเทศไทยเราน่ีก็ย่ิงมากขน้ึ ๆ ทัง้ นั้น ตาม ความเจริญแผนใหม่ซึ่งรู้จักแต่เรื่องทางวัตถุ ไมเ่ คารพธรรมะ ไม่กลัวบาปกลวั กรรมมนั จะ มมี ากข้ึน เขากไ็ มร่ ู้สึกว่ามคี วามทกุ ข์ ความที่ เขาเมามายนั่นเขารู้สกึ ว่าเปน็ ความสุข หรือท่ี ต้องเป็นอย่างนั้นจิตใจของเขาก็เมามายอยู่นั่น แหละ ไม่ยอมใหเ้ กิด… ไม่ยอมรบั ว่ามันเป็น ความทกุ ข์ อยา่ งน้คี นอยา่ งเราๆ ก็มองเหน็ วา่ เป็นความทุกข์เรารับไม่ไหวท่ีจะรับเอาระบบ นีม้ าเป็นความถกู ตอ้ ง น้ีเรารับไมไ่ หวแน่ กไ็ ม่ ต้องพูดถึงก็ได้ เด๋ียวน้ที เ่ี รยี กว่าอย่ใู นระดบั ดี ระดับ ผมู้ ีการศกึ ษามีอะไรดนี ี่ มันยงั มคี วามทกุ ข์ซ่อน อย่ทู ตี่ รงไหน ควรจะดไู ปยังสงิ่ ทมี่ ันเหน็ ได้ ๓๒

งา่ ยๆ เชน่ เรามนั บงั คับตัวเองไมไ่ ด้ บงั คบั ความ โกรธไมไ่ ด้ อนั นีอ้ ันทจ่ี ะเหน็ งา่ ย เคยเอาชนะ ความโกรธได้อย่างไรเท่าไรเม่ือไรไปสอบไป ทดสอบดใู หด้ ี จะพบวา่ เรานี้ไม่ควรจะไดร้ ับ คะแนนหรือว่าได้รับการยกย่องอะไรเรามันยัง โกรธง่าย เรายังบังคบั จติ ใจไมไ่ ดเ้ พราะว่าเรา ตามใจตัวเอง ทีนี้มาถึงเรื่องของความรักมันก็ เหมอื นกันอกี นะ่ ความกำ�หนดั ความรกั กบ็ งั คบั ไมไ่ ด้ มนั ก็เลยอยู่แต่เรอื่ งยินดยี นิ ร้าย ยินดี ยนิ ร้าย ภาษาไทยเรยี กวา่ ยินดียนิ ร้าย คล้ายๆ กับว่าเปน็ เรอื่ งเลก็ น้อย ไปศึกษาเอาเองวา่ มนั มีความยินดี รักใคร่ กำ�หนดั หลงใหลเกดิ ข้นึ แล้วเมื่อมันยินร้ายโกรธเคืองเป็นไฟติดอยู่ใน อกในใจ ไปศกึ ษาจากไอต้ วั จรงิ น้นั ถึงจะร้วู า่ ไมใ่ ชเ่ ร่ืองเลก็ น้อย ๓๓

นน้ั เปน็ เรอื่ งของสิ่งทปี่ รากฏแล้ว ไอ้ ส่ิงทยี่ ังซ่อนอย่ขู า้ งใต้นั้น คอื ต้นเหตุอนั แทจ้ ริง ของมันยังมีอยู่ส่วนหนึ่งซ่ึงเข้าใจยากย่ิงข้ึนไป อีก การทว่ี ่าคนเราจะมีความสงบเย็น มจี ติ ใจ เยน็ สงบเย็น หรอื จะพูดใหเ้ ต็มท่ีกว็ ่ามคี วาม สะอาด สว่าง สงบน่ีมนั ยาก ถ้าเม่ือเหน็ ว่ามัน ยังไม่มีก็ควรจะติดตามปัญหาอันนี้ไปให้พบ เพราะว่ามนั จะต้อง… ตอ้ งได้ส่ิงน้ีเปน็ พ้นื ฐาน กอ่ น จะรวยหรอื จะจนหรือวา่ จะเป็นอะไรก็ ตามใจ ขอให้ได้ความทมี่ จี ติ ใจปกติ เยือกเย็น ไม่เปน็ ทกุ ข์ น้เี ป็นพน้ื ฐานกอ่ น ถ้ารวยมนั ก็ สะดวกเทา่ น้นั ไอ้ความสุขมันกไ็ ม่มากไปกวา่ ความสงบเยน็ ในจติ ใจ ฉะนนั้ คนทเี่ ขาไมม่ ที รพั ย์ สมบตั มิ ากนัก แตเ่ มอ่ื เขามคี วามสงบเยน็ ในจติ ใจ กเ็ รยี กวา่ เขาไม่ได้ขาดอะไรทค่ี วรจะได้นี่ ไอ้คน ที่เป็นเศรษฐีอยู่ตึกอยู่วิมานอะไรก็ตามใจเถอะ ๓๔

แต่ถ้าในจิตใจมันไม่สงบเย็นได้ก็เรียกว่าเขายัง ขาดไอส้ ิง่ ทมี่ นษุ ย์ควรจะได้ เราจะไม่หลงใหลในเรื่องข้างนอกที่มา หลอกๆ กันอย่างนี้ สนใจเรือ่ งขา้ งในแท้จริง คือจิตใจมันปกติมันสงบระงับมันเยือกเย็น หรือเปลา่ บางคนเขาไปถอื เสยี วา่ มันเยน็ ไมไ่ ด้ สมัครรอ้ นไปเลย ถา้ อยา่ งน้ีก็พูดกันไมร่ เู้ รือ่ ง แน่ เมื่อเขาสมัครรอ้ น แตแ่ ลว้ ในทีส่ ดุ เขาก็ทน กนั ไมไ่ ดส้ ักเท่าไร ก็ตอ้ งฉิบหายไปทางใดทาง หน่ึง คือฉบิ หายทางจิตใจ เป็นโรคทางจิตใจ หรือว่าฉิบหายออกมาเป็นเสียช่ือเสียงเป็น อะไรกไ็ ด้ มันเปน็ เรื่องวนิ าศแน่ ถา้ สมัครเอาไอ้ กเิ ลสหรือความรอ้ นเข้าไว้ จึงมีคำ�พดู แปลกๆ ทค่ี นโบราณเขาได้ พูดไว้ ว่ากลางวนั มนั ก็เป็นสัตว์นรกหรอื กลาง คนื เป็นเทวดา หรือกลางวันเป็นเทวดากลางคนื ๓๕

เป็นสัตวน์ รก กลับกนั อยู่ได้อยา่ งนี้ ถา้ ว่าในคน หน่ึงมีความรู้สึกไปตามสิ่งแวดล้อมเฉพาะเร่ือง เฉพาะขณะ ใหร้ ้อนก็รอ้ น ให้เยน็ กเ็ ยน็ มันก็ ขนึ้ ๆ ลงๆ อยอู่ ยา่ งนี้ แต่ว่าเม่ือส่วนใหญ่มัน เป็นอย่างไรเราก็ถือว่านั่นแหละเป็นมาตรฐาน ของคนนน้ั มันจึงจัดไดว้ า่ น้เี ปน็ มนษุ ยน์ ้ีเป็น เทวดานี้เปน็ พรหม มจี ิตใจเย็นมากไม่คอ่ ยจะ รู้จักร้อน นี้เปน็ สตั ว์นรก นี้เป็นเดรัจฉาน นีเ้ ปน็ เปรต นีเ้ ป็นอสูรกายนี่ ซึง่ มันร้อนคนละแบบ และหลายๆ แบบกนั ในชน้ั นกี้ เ็ อากนั แต่เพียง วา่ รอ้ นหรือทกุ ขน์ ี่ก็เปน็ นรก ถา้ สบายก็เรม่ิ เปน็ สวรรค์ แตม่ ไิ ด้หมายความวา่ ในสวรรค์นน้ั ไม่มี ความทุกข์อย่างละเอียดซ่อนอยู่หรือเหลืออยู่ แตน่ ย่ี งั ไม่เป็นไร เอาไว้แก้ คอ่ ยคิดกนั ขา้ งหนา้ กลัวแตว่ ่าชว่ั โมงนี้เปน็ เทวดา ชัว่ โมงนม้ี ันเปน็ สตั ว์นรก ๓๖

น่ีผมไม่ได้พูดอย่างที่เรียกว่าไม่มีหลัก ฐาน ใหท้ กุ คนไปดูตัวเองโดยเฉพาะเมอื่ ยังไมไ่ ด้ มาบวชนี้ บางชัว่ โมงเปน็ นรก บางชั่วโมงเปน็ สวรรค์ บางชัว่ โมงก็เป็นอะไรก็ไมร่ ู้ หรือจะเปน็ ครบหมดในๆ ในบรรดาส่งิ ทีม่ นษุ ย์รู้จัก รูปๆ รปู ภาพดีอยรู่ ูปหน่ึงทใี่ นตกึ นน้ั ๑ นะ่ รปู แรกของภาพปรศิ นาธรรมคอื นก ๘ ชนดิ ตา่ งๆ กนั ตดิ อยใู่ นขา่ ยของแมงมมุ ในใยแมงมมุ รปู แรก ไปดู นกนน้ั ไมเ่ หมือนกนั แปดนี่ผม สนั นิษฐานซ่ึงเช่อื วา่ ไมผ่ ิด แปด สี่ สแ่ี รกก็ คือนรก เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย น้ีอบาย มี ๔ เขยิบขน้ึ มาเป็นมนษุ ย์ เขยิบขึ้นไปอกี ๓ เปน็ สวรรค์ สวรรค์กามาวจร สวรรค์รปู าวจร สวรรค์อรูปาวจร เป็น ๘ พอดี ทงั้ หมดติดอยู่ ในข่ายแมงมมุ หมายความวา่ มันต้องมีความ ทุกขไ์ ปตามแบบของตนๆ ดว้ ยกนั ทัง้ นัน้ น่มี นั ๑ โรงมหรสพทางวญิ ญาณ ๓๗

ลึกไปแล้ว กค็ นเขาอยากไปสวรรค์ วิเศษทสี่ ดุ เปน็ สุขคติ แตภ่ าพนเ้ีขาถอื เปน็ จมอยใู่ นกองทกุ ข์ ในวฏั ฏสงสารเหมอื นกนั หมด บางเวลาเราก็มีความร้อนเหมือนถูก เผาน่เี ปน็ สัตวน์ รก บางเวลาเราก็โงจ่ นอยากจะ ทุบหัวตัวเอง นี่มันเป็นสัตว์เดรัจฉาน บางชั่ว โมงเราเป็นสตั ว์เดรัจฉาน บางช่วั โมงเราก็หิว กระหายทะเยอทะยานน่ีเรากเ็ ปน็ เปรต บาง ชว่ั โมงเรากข็ ข้ี ลาดเปน็ อสรู กาย กลวั ไมม่ เี หตผุ ล กลัวจนไมม่ เี หตุผลนี่ นเ่ี ราก็มีไดใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั หรือผ่านมาแล้วด้วยซำ้ �ไป บางเวลาก็เปน็ มนษุ ย์ธรรมดาสามญั มีสตสิ มั ปชญั ญะพอตัว อดทน เหน็ดเหน่อื ย อาบเหงื่อทนทำ�งานตาม ปกติ บางเวลาก็ไปย่งุ กบั กามารมณ์ เพศ ช่วั โมง นก้ี เ็ ปน็ สวรรคก์ ามาวจร ทำ�อย่างนนั้ ทงั้ วนั ทงั้ คืนมันทำ�ไม่ได้มันก็ไปหาความพักผ่อนอยู่นิ่งๆ ๓๘

คลา้ ยๆ กบั เป็นรูปาวจร บางทีกใ็ ห้นง่ิ ไปกวา่ นัน้ อีกมันกเ็ ป็นอรปู าวจร หรือว่าไปหลงใหล เสยี ในเกยี รตยิ ศ ช่อื เสียงซง่ึ ไมใ่ ชร่ ูปธรรมนปี่ ระ เด๋ียวพักหนึ่ง ชว่ั โมงนนั้ ก็เหมอื นกบั ว่าเปน็ พวก อรูปาวจร สวรรคช์ นั้ อรปู าวจร น่ีเราอย่าดูถูกไอ้ความคิดนึกของคน โบราณเขามองเหน็ อะไรมาก ครบถว้ น เขาจงึ วางหลกั เกณฑไ์ ว้อยา่ งน้ี แล้วเราดสู วิ ่าเราเป็น อย่างไร เราอาจจะเป็นนกครบทั้ง ๘ ชนิด แล้วติดอยู่ในข่ายคือวนอยู่นี่วนอยู่ในวันหน่ึง คืนหนึ่งวนอย่นู ่ีใน ๘ ชนดิ นั้น คงจะมองเห็นไดไ้ ม่ยาก อายกุ ห็ ลาย วนั แลว้ ชั่วโมงน้ีเปน็ อย่างนี้ ชวั่ โมงนเ้ี ปน็ อย่าง นี้ ชว่ั โมงนเี้ ป็นอย่างน้ี จับเอาแตห่ ลกั ใหญ่ๆ ๘ ชนดิ น้ันก็ครบพอดี แตถ่ า้ เราพอใจหลงใหล ในสว่ นที่ว่าเป็นสวรรคก์ ไ็ ด้ เขากไ็ ม่ตำ�หนิ แต่ ๓๙

ขอใหม้ นั เป็นเรื่องท่ถี ูกตอ้ งหรอื ยตุ ธิ รรม ไม่ คดโกง เป็นสทิ ธสิ ่วนบคุ คลทอ่ี ยากจะอยู่ใน สวรรค์ กระทง่ั วา่ เพลดิ เพลนิ หลงใหลไปอยา่ ง เทวดาในสวรรค์อยา่ งทเ่ี ขาพูดกันน้นั น่ะ เขาไม่ ได้ถือวา่ เปน็ ความผดิ นะ แตก่ ต็ อ้ งจดั ไวว้ า่ เป็น คนโง่อยูน่ น่ั แหละ อยู่ในขา่ ยของอวชิ ชาอยนู่ ่ัน เอง แตไ่ ม่ถอื ว่าเป็นความผิดท่ีจบั ตวั มาลงโทษ เ ท ว ด า ก็ มี โ อ ก า ส ท่ี จ ะ เ พ ลิ ด เ พ ลิ น รื่ น เ ริ ง บนั เทงิ อย่ใู นสวรรค์ ท้งั ทร่ี ู้วา่ ในมนุษยโลกน้ีมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันกไ็ ม่อยากลง มาเกดิ ในมนุษยโลกน้ี นีถ่ ้าเราจะพูดกนั ในภพนี้ กห็ มายความวา่ เราไปลมุ่ หลงในกามารมณ์ ท้งั ทรี่ วู้ ่าเปน็ เรือ่ งลมุ่ หลง เราก็ไม่อยากจะหยดุ มนั ให้มีใจคอปกติอย่างปกติอย่างธรรมดาสามัญ ก็เป็นปัญหาท่ีเกดิ อยจู่ รงิ หรือตอ่ สู้กันอยู่ ไม่ เอาชนะได้ กพ็ ่ายแพ้แกก่ ามารมณ์ ๔๐

นี่ทีผ่ มพูดน้ีมนั เป็นเพียงตวั อย่าง ให้ ร้วู ่าเราเป็นมนุษยม์ ันคอื เป็นอยา่ งไร มนั เปน็ อะไร มันมี… มีขอ้ เท็จจรงิ อย่างไรมปี ัญหา อย่างไร เราจึงจะค่อยมคี วามรู้แจ่มแจง้ ขึ้นมาวา่ ไอ้การมาบวชนี้มนั จะได้ประโยชนอ์ ะไร ถา้ ไม่ มองเห็นปญั หา คือไมม่ องเห็นตวั ความทกุ ขท์ ่ี เปน็ ตวั ปญั หา กเ็ รยี กวา่ มันจะไม่มองเห็นอะไร เลย แมก้ ารมาบวชนก้ี ็จะเป็นเร่ืองบ้าๆ บอๆ หลบั หหู ลบั ตาเข้ามาเทา่ นน้ั เอง เอาละ สมมตวิ ่าหลับหูหลับตาเข้ามา ก็จะขอให้สนใจสักหน่อยว่าท่ีเขาทำ�กันมาแต่ โบราณหรือว่าเดี๋ยวน้ีก็ตามมันมุ่งหมายอะไร กันแนท่ ี่จะมาบวชน้ี ที่ตอนแรกผมกบ็ อกแลว้ ว่าเพ่ือให้ได้สิ่งท่ีจำ�เป็นสำ�หรับมนุษย์คือธรรมะ ธรรมะคือสิง่ ท่ีจำ�เปน็ สำ�หรับมนษุ ย์ ไมม่ ีอะไร มากไปกว่านนั้ ถ้าใครไม่มีปญั หาไมต่ ้องการ ๔๑

อะไรคนนนั้ ก็ไม่ต้องการธรรมะ ไม่ต้องมธี รรมะ ธรรมะก็ไม่มีประโยชน์สำ�หรับคนที่ไม่มีปัญหา ทีนเ้ี รามปี ญั หาคือมีความทกุ ข์ งนั้ เราก็ตอ้ งการ ส่งิ ท่ีจะดบั ความทุกข์ เพราะฉะนั้นธรรมะจึงมี ประโยชนแ์ กเ่ รา เราจึงมาบวชเพ่ือให้เข้า… เข้า ถึงตัวธรรมะ คอื รธู้ รรมะนนั่ แหละใหม้ ากขึ้น เป็นฆราวาสไม่ ไม่สะดวกหรือบางทีกท็ ำ�ไมไ่ ด้ เลยกม็ ีทีจ่ ะเขา้ ถึงตัวธรรมะบางอย่าง เพราะ ฉะน้ันมาบวชกเ็ พ่อื หาโอกาส หาความสะดวก จะไดม้ ีการสมั ผสั กันกบั ธรรมะ เรยี กวา่ ธรรมะ สมั ผสั ก็ได้ กม็ ีชวี ิตอย่างนกั บวช ทีนี้มันก็เป็นการเล่ือนช้ันข้ึนไป ภายในจิตใจชนดิ ที่สว่างไสวแจ่มใส มคี วาม หมายของความเป็นมนษุ ยน์ ่ะมากข้นึ คำ�ว่า มนุษย์นั่นต้องเอาความหมายว่ามันมีจิต ใจสูงๆๆ จนไมม่ ีความทุกข์ จนไม่มีปญั หามนั ๔๒

จงึ จะเรยี กวา่ มนษุ ย์ เดย๋ี วน้เี รายังไมเ่ ป็นมนุษย์ โดยสมบรู ณห์ รอก เป็นมนุษย์อยา่ งปลอบๆ ตวั เองหรอื วา่ เขาให้ ใหเ้ กดิ เขาพูดว่าเราเป็น มนุษย์มีจิตใจสงู เรากเ็ กดิ เงือ่ น เงื่อนงำ�สำ�หรับ ทจี่ ะเดนิ ต่อไป นั่นไปถงึ ทีส่ ดุ ของความเป็น มนษุ ย์ คำ�นี้มนั พอแล้วคำ�ว่าใจสูงน่ี ถา้ สงู จรงิ มนั ก็เหนือความทุกขเ์ หนือกเิ ลส เปน็ มนุษยท์ ่ี เตม็ เปยี่ มเขาเรยี กว่าพระอรหนั ต์ เทา่ นัน้ ทจ่ี ะ เป็นมนุษย์ที่เต็มเปี่ยมของความเป็นมนุษย์ นอกนน้ั เป็นมนษุ ย์ทยี่ ังพรอ่ งอยู่ๆ มีความเปน็ มนุษย์บ้างแต่มันยงั ไมเ่ ต็ม ถา้ ลดจากนไี้ ปก็เป็น คนท่ไี มใ่ ชม่ นษุ ย์ ที่เป็นอันธพาลเกินไป มจี ิต ใจสูงข้นึ มาๆ ก็เรมิ่ มีความเปน็ มนุษยแ์ ล้วกเ็ ป็น มากขึน้ ๆ เต็มเปี่ยมเมอ่ื ไหร่ก็เรยี กวา่ เปน็ พระ อรหันต์ มีจติ ใจสูงสดุ ความทุกข์เกดิ ไม่ได้ ๔๓

ความทุกขค์ รอบงำ�ไมไ่ ด้ กเิ ลสครอบงำ�ไมไ่ ด้ น้นั นะ่ น่เี รยี กว่าได้รับผลสงู สุดของธรรมะแล้ว ธรรมะคอื เครอื่ งแกป้ ญั หาทง้ั หลาย ผทู้ เี่ ปน็ พระ อรหันต์เขาได้รับถึงระดับสูงสุดจึงไม่มีปัญหา เหลอื อยู่ เมื่อเขาพอใจในความสุขชนิดน้ีเขาก็ จดั ระบบการครองชีวิตไปอกี แบบหนึ่ง ไมต่ ้อง อยู่ตึกไม่ต้องอยู่วิมานอย่างท่ีพระอรหันต์ทั้ง หลายเทีย่ วเดินทอ่ มๆ อยู่ เพ่อื ประโยชนแ์ ก่คน อน่ื หรือว่าเพื่อความสะดวกสบายสำ�หรับร่าง กายนท้ี ม่ี นั ยงั ไมต่ ายไมแ่ ตกดบั นก่ี ไ็ ดเ้ หมอื นกนั กเ็ ปน็ ผไู้ ม่มีความทุกข์ ลดลงไปอยใู่ นระดับท่ี พ อ ดี สำ� ห รั บ ก า ร กิ น ก า ร อ ยู่ ก า ร น อ น ก า ร อะไรตา่ งๆ ไม่มคี วามทุกข์กแ็ ลว้ กนั ไม่ตอ้ ง เป็นอยู่อย่างท่ีคนสมัยน้ีทเี่ ขาเปน็ อยู่ ทเี่ รยี ก ว่ า วิ วั ฒ น า ก า ร อ ะ ไ ร กั น ม า ก ม า ย ใ น เ รื่ อ ง ๔๔