Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ชนเผ่าปกาเกอะญอ

ประวัติศาสตร์ชนเผ่าปกาเกอะญอ

Description: ประวัติศาสตร์ชนเผ่าปกาเกอะญอ

Search

Read the Text Version

ประวตั ิความเป็ นมาของแต่ละชาติพนั ธ์ล้วนแต่เป็ นเรื่องทนี่ ่าสนใจ น่าค้นคว่า แต่หลายคร้ังข้อมูทเ่ี รามอี าจะไม่เพยี งพอ ดงั น้ันสาหรับ ข้อมูลทเ่ี รามนี ี้ หวงั ว่าคงจะเป็ นประโยชย์สาหรบผู้ทสี่ นใจค้นคว่าได้ เป็ นอย่างดี จัดทาโดย Gunสุดหล่อ ผู้ก่อต้งั เพจ ขายเสื้อกะเหรี่ยงแห่งประเทศ ไทย

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 1 ประวัตศิ าสตร์ชนเผ่าปกา เกอะญอ 1. ประวัตศิ าสตร์ท่อี ้างจาก เอกสาร ก. ลาดบั เหตกุ ารณ์ก่อนคริสตศตวรรษ B.C. 2617 ชนชาตกิ ะเหร่ียงอพยพ ถอยร่นลงมาจากมองโกเลยี B.C. 2013 ชนชาติกะเหรี่ยงอพยพมาถงึ ปากีสถานตะวนั ออก B.C. 1866 อพยพออกจากปากีสถานตะวนั ออก B.C. 1864 ชนชาตกิ ะเหร่ียงอพยพจากธิเบต B.C. 1385 ชนชาติกะเหรี่ยงอพยพมาถงึ ยนู าน ประเทศจีน B.C. 1128 กะเหรี่ยงรุ่นแรกอพยพจากยนู านมาเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ B.C. 1125 กะเหร่ียงรุ่นแรกมาถึงเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ B.C. 741 กะเหร่ียงรุ่นสองอพยพจากยนู านมาเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ B.C. 739 ชนชาตกิ ระเหร่ียงรุ่นท่ีสองได้มาถงึ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (ประเทศพมา่ ปัจจบุ นั ) ข. ประวตั ิศาสตร์เกี่ยวกบั การอพยพจาก ประเทศจีน ใ น ด้ า น ป ร ะ วัติ ศ า ส ต ร์ ช า ว กะเหร่ียงสืบเชือ้ สายมาจากเผ่ามองโกล ชนกะเหร่ียงเป็นเผา่ แรกสดุ ที่ตงั้ รกรากอยู่ ในพืน้ ที่ติดกบั ต้นแมน่ า้ แยงซเี กียงในทะเลทรายโกบซี ง่ึ รู้จกั กนั ว่า Land or the Flowing sand (ดินแดนแห่ง ทรายไหล) Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 2 จากสถานท่ีดงั กลา่ วนีเ้อง ชนชาวกะเหร่ียงได้อพยพสทู่ างใต้ เข้ามาตงั้ แหลง่ พานกั อาศยั อยใู่ นพืน้ ที่ ในชยั ภมู ซิ ง่ึ เป็ นสหภาพพมา่ ขณะนี ้ประมาณปี พ.ศ. 739 หรือประมาณ 1788 ปี มาแล้ว นกั ประวตั ศิ าสตร์สว่ นใหญ่ มีความเหน็ สอดคล้องกนั วา่ ชนชาตกิ ะเหรี่ยงคือชนเผา่ แรกสดุ ท่ีอพยพ โยกย้ายถิ่นทามาหากินร่นลงสตู่ อนใต้ มาตงั้ รกรากใหม่ กะเหรี่ยง ได้ขนานนามผืนแผน่ ดนิ ใหมน่ ีว้ า่ KOW – LAH (กอลาห์) หมายถึงดินแดนที่ เขียวขจี มีความช่มุ ชืน้ ชนชาตกิ ะเหรี่ยงจึงได้เร่ิมต้นหกั ร้างถางพง ไถพรวนพืน้ ดนิ ลงมือเพาะปลกู โดยไมม่ ี อปุ สรรคใด ๆ ขดั ขวางทงั้ สนิ ้ ผลิตผลจากหยาดเหง่ือแรงงาน ได้ให้ผลตอบแทนต่อพวกเขาอย่างน่าช่ืนชม ด้วยสาเหตอุ นั นีช้ น ชาตกิ ะเหร่ียงจงึ ได้เปลีย่ นแปลงชื่อของแผน่ ดนิ ที่ให้ความอดุ มสมบรู ณ์ตอ่ เขาวา่ “ก่อทเู ล” รัฐท่ีสลดั ทิง้ สนิ ้ ซง่ึ ความชัว่ ช้าเลวทราม-ความอดอยากยากแค้น-สลดสงั เวชและการโกลาหลอลหม่าน ซ่ึงความชว่ั ช้า เลว ทรามทงั้ หลายทงั้ ปวงจะไมม่ ี ณ ดนิ แดนแห่งนี ้เป็นดนิ แดนใหมท่ ่ีแสนสะดวกสบาย พรั่งพร้อมอดุ มสมบรู ณ์ โดยไม่รู้จักความยุ่งยาก ชนชาติกะเหร่ียง ได้ดารงชีพอยู่กันมาช้านานหลายศตวรรษ ตราบจนการเข้า แทรกแซงก่อกวนของชาวพม่าเกิดขึน้ จึงมีการเข่นฆ่าทาลายวิถีชีวิตท่ีใฝ่ แสวงหาแต่สันติของชนชาติ กะเหร่ียงจนพนิ าศพงั ทะลายลง คีรีมาตชื่อจริงว่า พ่งุ เลียงเฮ่และมิชชน่ั นารีชาวตะวนั ตกเชื่อว่า บ้านเมืองเดิมของชาวกะเหร่ียงอยู่ ทางตะวนั ตกของจีน ในกวางสีก่อนท่ีพวกเขาจะอพยพสดู่ นิ นแดนท่ีพวกเขาอาศยั อยใู่ นปัจจบุ นั ชาวจีนเชื่อ วา่ แมน่ า้ แยงซีเกียงนนั้ เป็ น “แม่นา้ ของพวกกะเหร่ียง” ชนชาวกะเหร่ียงเข้าสู่ดินแดนอินโดจีนตามสายนา้ สาคญั 3 สายคือ พวกแรกเม่ือ 1128 ปี ก่อน คริสตกาล กล่มุ ท่ี 2 เข้ามาเมื่อ 799ปี ก่อนคริสตกาล กล่มุ สดุ ท้ายเข้ามาเมื่อ 741 ปี ก่อนคริสตกาล การ อพยพเข้ามาในเส้นทางที่ 1 ชาวกะเหร่ียงกลมุ่ นีอ้ พยพเข้าไปในดินแดนที่เป็ นประเทศพม่าในปัจจบุ นั ตาม สายนา้ อิรวดี ลงไปตามที่ราบลุ่มปากแม่นา้ อิรวดี หรือเดลต้า ในพืน้ ท่ี เมืองแปร เฮนซาดะ พะสิม หรือบะเสง่ เมือง ละเกิง หรือ ยา่ งก้งุ ชาวกะเหร่ียงฟื น้ ที่แห่งนีเ้ป็ นกลมุ่ ท่ีได้รับการศกึ ษาสงู ในสมยั ที่องั กฤษ ปกครองพม่า ซอ บา อู ยี ผ้นู าชาวกะเหร่ียงเป็ นคนที่พะสิม การอพยพเข้ามาในเส้นทางท่ี 2 ชาวกะเหร่ียง Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 3 กลุ่มนีอ้ พยพเข้ามาตามสายนา้ สาละวิน แม่นา้ สะโตง สายนา้ เมย และแม่นา้ ตะนาวศรี โดยมีชุมชนที่ หนาแน่นอยทู่ ี่เมือง ตองอู ผาปนู ผาอา่ ง ทา่ ตอน เมาะละแหม่ง พะโค (หงสาวดี) กะเหรี่ยงกล่มุ นีอ้ ยู่ปะปนกับชาวมอญ จึงถูกเรียกว่า “บาม่ากะ ยิน” เมืองท่ีสาคญั ท่ีเป็ นท่ีกลา่ วถึงของชาวกะเหรี่ยง คอื เมืองตองอู ซง่ึ เป็นเมอื งเกา่ ดงั้ เดมิ ของ ชาวกะเหร่ียงสกอ ส่วนกะเหร่ียงโพลง่ นนั้ มีเมืองดงั้ เดิมที่บรรพบรุ ุษของพวกเขาได้ตงั้ หลกั ฐานมน่ั คงเรียก เมืองนนั้ ว่า “ กวยเกอบ่อง” เมืองดยู อ ณ ท่ีเมืองนีเ้ ป็ นพืน้ ท่ีราบ มีภเู ขาหินตงั้ อย่เู ด่น เป็ นสง่าท่ามกลางท่ี ราบเป็ นที่นาเวงิ ้ ว้าง พวกเขาถกู พมา่ มอญ และคนไทย กวาดต้อนกระจดั กระจายไปตามท่ีตา่ ง ๆ พวกเขามี ความเช่ือวา่ สกั วนั หนง่ึ พวกเขาจะได้กลบั มารวมตวั กนั อกี ครัง้ ท่ีเมืองกวยเกอบอ่ นี ้ การอพยพเข้ามาในเส้นทางที่ 3 ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มนีอ้ พยพเข้ามาตามสายนา้ แม่โขง แม่นา้ เจ้าพระยา เข้ามาอยู่ในอินโดจีน คือในดินแดนกัมพูชา และถอยร่นกลับขึน้ มาทางเหนืออีกครัง้ ใน พงศาวดารพมา่ โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพนั ธ์พงศ์ กลา่ ววา่ “พวกตองซ”ู่ (กะเหรี่ยงเผ่า ปะโอ)นี ้เป็ นคนที่มนษุ ย์ตา่ งแดนข้างเคียงรู้จกั กนั มาก รู้จกั กนั ทวั่ กรุงสยามและเมืองเขมรจนกระทง่ั แถบแม่ โขงตอนลา่ ง ราวเมืองนครจาปาศกั ดแ์ิ ละแกง่ พนั เกาะ ในหวั เมอื งไทยใหญ่ ค. ประวตั ศิ าสตร์ท่เี กี่ยวกบั ประเทศไทย ชนชาติกะเหรี่ยง ซงึ่ ชนชาตไิ ตยในรัฐฉานและชาวมณฑลพายพั รวมกนั เรียกพวกเขาวา่ “ยาแดง” อีกชนเผ่าหน่ึงเราเรียกพวกเขาว่า “ยางขาว” และพวกเขาเองซง่ึ เป็ นยางแดง เรียกชนชาติของเขา เองว่า กะยา พวกยางขาวเรียกชนชาติของเขาว่า “ก่อทเู ล” กะเกร่ียงยางแดง และกะเหร่ียงยางขาว แบ่ง ออกเป็ นสองพวกด้วยกนั ความสมั พนั ธ์ระหว่างชนชาติกะเหรี่ยงขาวกบั กะเหรี่ยงแดงนนั้ ได้มีปรากฏขนึ ้ ในประวตั ศิ าสตร์ และพงสาวดารของเมืองเชียงใหม่ ในต้ นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก มหาราช (รัชกาลท่ี 1) แหง่ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ ในรัชสมยั ดงั กลา่ วนี ้ตรงกบั ปี เถาะ พ.ศ. 2326 ขณะนนั้ เมืองเชียงใหมไ่ ด้ตกอยใู่ นความ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 4 ปกครองของพระมหากษัตริย์ไทย แห่งกรุงสยาม ในสมยั ดงั กล่าวนี ้พระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละยงั ทรงมี บรรดาศกั ดิ์เป็ นพระยาวชิรปราการ เจ้าผ้คู รองนครเชียงใหม่อย่ใู นขณะนนั้ พระอนชุ าของพระองค์ มีสอง พระองค์คือ พระเจ้าเชียงใหมช่ ้างเผือกธรรมาลงั กา (พระเจ้าผ้คู รองนครเชียงใหม่องค์ที่ 2 ) ยงั มีบรรดาศกั ด์ิ เป็ นพระยาอปุ ราชเมืองเชียงใหม่และเจ้าเศรษฐีคาฝัน้ ซ่ึงยงั มีบรรดาศกั ด์ิเป็ น พระยารัตนหวั เมือง เมือง เชียงใหม่ พระเจ้ากาวิละ ได้ออกจากเมืองนครลาปาง เพื่อมารับตาแหน่งเจ้าเมืองเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนนั้ เมืองเชียงใหมย่ งั เป็ นป่ ารก มีป่ าไม้เคลอื บคลมุ หนาแน่น อีกทงั้ กาลงั ผ้คู นก็มีน้อย ไมม่ ากพอท่ีจะรักษาพืน้ ที่ อนั กว้างใหญ่ของตงั้ เมืองได้ จึงได้หยดุ กาลงั ทพั จดั ตงั้ เมืองอย่ทู ่ีบ้านป่ าซางเมืองลาพนู ซง่ึ มีสภาพเป็ นป่ า เช่นเดยี วกบั เมืองเชียงใหมใ่ นขณะนนั้ เชน่ กนั ในกาลครัง้ นนั้ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลกท่ีมหาราช ทรงโปรดเกล้าแตง่ ตงั้ ให้พระ อนชุ าทงั้ สองพระองค์ของพระเจ้ากาวิละ มารับตาแหน่งเป็ นพระยาอปุ ราชและพระยารัตนหวั เมืองในเมือง เชียงใหมร่ ่วมกบั พระเชษฐาด้วย ในปี เถาะ พ.ศ. 2326 พระเจ้ากาวิละกบั พระอนชุ าทงั้ สองพระองค์ได้ทรงสืบทราบว่าทางด้าน เหนือขนึ ้ ไปนนั้ เป็ นดนิ แดนที่อดุ มไปด้วยป่ าไม้สกั ซงึ่ ขนึ ้ อยอู่ ยา่ งหนาแน่นตลอดสองแนวฝั่งแม่นา้ คง (สาละ วิน) โดยมีชนชาติเผ่ากะเหร่ียงยางแดง อย่ทู างด้านฝ่ังตะวนั ออกของแม่นา้ ทางด้านทิศตะวนั ตกมีชนชาติ เผ่ากะเหรี่ยงขาวอาศยั อย่อู ย่างหนาแน่น แต่กะเหรี่ยงยางแดงและกะเหรี่ยงยางขาวทงั้ สองชนชาตินีม้ ิได้ ขนึ ้ กบั ชนชาตพิ มา่ แตอ่ ยา่ งใด ได้ตงั้ เมอื งเป็ นอิสระปกครองตนเองเร่ือยมา ภมู ปิ ระเทศของเมืองยางแดงนี ้เคลือบคลมุ ไปด้วยป่ าไม้สกั ซง่ึ เป็นการยากตอ่ การรุกรานของชน ชาติพม่า ประกอบกับดินแดนของชนสองเผ่านีเ้ ป็ นชยั ภมู ิด้านหน้าของเชียงใหม่ ซ่ึงถ้าพม่าจะยกทพั เข้า มาตีเมืองเชียงใหม่ จะข้ามนา้ สาละวนิ มาได้อยา่ งรวดเร็ว จากแผนการป้ องกนั ชาติบ้านเมืองดงั กล่าวพี่น้องทงั้ สามองค์ได้นาปัญหานีม้ าปรึกษาหารือกนั และ ได้ตกลงกนั วา่ จะต้องเจริญสมั พนั ธ์ไมตรี ผกู มติ รตอ่ กนั ไว้ดกี วา่ ทงั้ นีจ้ ะได้พง่ึ พาชนชาติ กะเหร่ียงแดง ทางด้านฝ่ังตะวนั ออกของแม่นา้ สาละวิน ซึ่งเป็ นดินแดนผืนเดียวกนั กบั อาณาจกั ร ล้านนาไทย ให้เป็ นเมอื งหน้าดา่ นของเมืองเชียงใหมด่ ้วย จงึ ได้ตกลงมอบให้พญาสามล้าน ผ้เู ป็ นทงั้ นกั การ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 5 ฑตู และนกั การทหาร โดยนาถ้วยชาม 60 ชิน้ ผ้าแพรและหนงั สือ เป็ นฑตู สนั ถวไมตรี เดินทางออกจากเมือง เชียงใหมพ่ ร้อมคณะ ถงึ บ้านหวั ตาดเป็ นอนั ดบั แรก ซง่ึ ตอ่ มาภายหลงั บริเวณบ้านเหลา่ นี ้ได้กลายเป็ นแหลง่ ชมุ ชนท่ีหนาแน่น และได้กลายเป็ นเมือง กนั ตะระวดี บรรดาเมืองเล็กเมืองน้อยในบริ เวณใหล้เคียงต่างมี ความเจริญขนึ ้ ตามลาดบั เจ้าแสนตาดดา ประมุขกะเหรี่ยงแดงในขณะนัน้ ได้ต้อนรับคณะฑูตจากเมืองเชียงใหม่ด้วย อธั ยาศยั ไมตรีอนั ดีย่ิง พร้อมกบั รับของท่ีระลกึ จากพระเจ้ากาวิละแห่งเมืองเชียงใหม่ ที่มอบฝากคณะฑูต สนั ถวไมตรีมาให้ ได้แก่ ถ้วยชาม ผ้าแพร และของใช้ท่ีจาเป็ นอีกจานวนหน่ึง จากนัน้ ได้กรุณาแนะนา หัวหน้าชาวเมืองเชียงใหม่, ลาพูน ซ่ึงอพยพลีภ้ ัยมาตัง้ รกรากในถ่ินกะเหรี่ยงแดงจานวนหลายร้ อย ครอบครัว ตามบริเวณฝั่งแม่นา้ สาละวินหลายแห่งด้วยกนั พร้อมกนั นนั้ ได้จดั กาลงั ทหารกะเหรี่ยงแดงให้ เข้าร่วมในการเดินทางไปเกลยี ้ งกลอ่ มนายบ้าน นายแขวงบ้านตองโผะ( ตองป)ุ ซง่ึ เดิมทีมีรกรากอย่ใู นเมือง เชียงใหม่ ขอให้อพยพกลบั ไปยงั ถ่ินเดิม พร้ อมกับรับรองให้ความปลอดภัยและความอบอุ่นแก่พวกเขา เหลา่ นนั้ เป็ นอยา่ งดี หวั หน้าชาวบ้านตองโผะก็ได้รวบรวมพรรคพวกเดินทางอพยพมาแตโ่ ดยดี โดยกลบั มา ตงั้ ถ่ินฐานที่บ้านป่ าซาง จึงเป็ นการเพ่ิมพลเมืองเป็ นอันดับแรก ตามแบบฉบับของพระเจ้ากาวิละท่ีมี นโยบาย เก็บผกั ใสซ่ ้า เก็บข้าใสเ่ มือง เจ้าแสนหลวงได้ถือโอกาสชกั ชวน เจ้าอปุ ราชธรรมลงั กา และคณะให้เดนิ ทางไปพบ เจ้าฟ้ าน้อย ระภาผอ่ พอ่ เมืองทลาง (ผาปนู ) เพ่อื สนบั สนนุ ในการปลกู สมั พนั ธ์ไมตรีตอ่ กนั ด้วย เมื่อเดินทางมาถึงทลางแล้ว เจ้าฟ้ าน้อยระภาผ่อได้ทราบเจตจานงทางเมืองเชียงใหม่ ขึน้ มา เชื่อมสมั พนั ธ์ไมตรีด้วย มีความปรีดาปราโมทย์เป็ นอย่างมาก ได้จดั อาหารเลีย้ งต้อนรับเจ้าอปุ ราชธรรม ลงั กาและคณะอย่างเตม็ ท่ีตลอดจนที่พกั ในค้มุ หลวงด้วย เมื่อได้กลา่ วถึงเมอื งจนเป็ นท่ีเข้าใจกนั ดีแล้ว เจ้าอปุ ราชธรรมลงั กาและเจ้ารัตนเมอื ง แก้วคาฝัน้ ได้จดั พิธีมอบส่ิงของกานัลอนั เป็ นที่ระลึกจากเจ้าเมืองเชียงใหม่เป็ นถ้วยชาม 30 ชิน้ ผ้าแพร หลายพบั ให้กบั เจ้าฟ้ าน้อยระผอ่ พอ่ เมืองทลาง(ผาปนู ) Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 6 เมืองทลาง (ผาปูน) นีเ้ ป็ นเมือง ๆ หนึ่งที่มีผู้คนจากเชียงใหม่ ลาพูน อพยพหลบหนีภยั พม่า ข้าศกึ เป็ นจานวนมากและได้รับความอยเู่ ย็นเป็ นสขุ โดยถ้วนหน้า ซงึ่ เจ้าฟ้ าน้อยระภาผ่อได้ให้ความเมตตา ปราณีเชน่ คนชาตกิ ะเหรี่ยงเหมือนกนั วนั ต่อมา เจ้าฟ้ าน้อยระภาผ่อ พ่อเมืองทลาง ได้จดั พิธีร่วมนา้ สาบานเป็ นมิตรไมตรีต่อกนั ตาม ธรรมเนียมของเขาระหว่างเมืองกะเหร่ียงและเมืองเชียงใหม่ขึน้ โดยได้ปลกู ประราพิธีขึน้ หลงั หน่ึงท่ีท่านา้ เมืองทลางเรียกว่า ท่าสะยา พิธีได้เร่ิมขึน้ โดยเจ้าฟ้ าน้อยระภาผ่อได้สง่ั ให้ล้มกระบือตวั ใหญ่ท่ีสดุ อ้วนพี สมบูรณ์ท่ีสดุ ท่ีมีในเมือง 1 ตวั เพ่ือเข้าพิธี ได้ชาแหละตดั เขากระบือผ่าออกเป็ น 2 ซีกด้วยกัน แล้วย่ืนซีก หนึ่งให้เจ้าอุปราชธรรมลงั กาถือเอาไว้ซีกหนึ่ง เพ่ือแทนชาวเชียงใหม่ทงั้ มวล เจ้าฟ้ าระภาผ่อได้ขอให้เจ้า อปุ ราชธรรมลงั กา และที่ประชมุ ได้กลา่ วสจั จะปฏญิ าณตอ่ กนั ไว้วา่ “ตราบใดแม่น้าคงไม่หาย เขาควายไม่ซื่อ ถ้าชา้ งเผือกไม่ยบุ เมืองยางแดงกบั เมืองเชียงใหม่ ยงั เป็นไมตรีกนั ตราบนนั้ …” ทงั้ สองฝ่ ายได้กลา่ วเป็ นภาษาของตนและตา่ งเก็บเขากระบือรักษาไว้ ถือเป็ นวาจาสตั ย์ที่มีต่อกนั สืบตอ่ ไป ในภายภาคหน้า ตอ่ มาเจ้ารัตนเมืองแก้วคาผนั้ อนชุ าของเจ้าอปุ ราชธรรมลงั กา ซง่ึ ได้เดินทางไปในครัง้ นีไ้ ด้เกิดมี ใจสมคั รผกู พนั ธ์รักใคร่เป็ นนา้ หนง่ึ ใจเดียวกบั เจ้านางตาเวยบตุ รีของเจ้าฟ้ าน้อยระภาผ่อและตา่ งตกลงปลง ใจเป็ นคชู่ ีวตติ อ่ กนั หลงั จากเสร็จพธิ ีการแล้วได้เดินทางกลีบเมอื งเชียงใหม่ นบั เป็ นครัง้ แรกที่เจ้านายฝ่ ายเหนือของเมืองเชียงใหม่ ได้ทาการสมรสกบั เจ้าหญิงกะเหรี่ยง บตุ รี เจ้าฟ้ าเมืองยางแดง ซง่ึ มีศกั ดแิ์ ละมีฐานนั ดรเป็ นเช่นเดยี วกนั และเจ้านางตาเวยองค์นี ้ตอ่ มาภายหลงั ได้รับ พระราชทานนามจากพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลกมหาราช (รัชกาลท่ี 1) วา่ “เนตรนารีไวย” ภายหลงั ต่อมาได้มีราชบุตรและธิดากับเจ้ารัตนเมืองแก้วคาฝัน้ นหรือเจ้าหลวงเศรษฐีคาฝัน้ ถึง 5 องค์ด้วยกนั ราชบตุ รองค์ใหญ่ช่ือ เจ้ามหาพรมคาคง ได้เข้ารับราชการในแผ่นดนิ พระบาทสมเดจ็ พระ น่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็ นรัชกาลท่ี 3 ต่อมาได้เป็ นเจ้าราชวงศ์ของเมืองเชียงใหม่ ในแผ่นดินพระจอมเกล้า Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

7 เจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ 4 เจ้าราชวงศ์ทรงเป็ นพระบิดา พระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ (อิทนนท์ ณ เชียงใหม่) เจ้าผู้ ครองนครเชียงใหมอ่ งค์ท่ี 7 แม่เจ้าเนตรนารีไวยเป็ นทายาทเจ้าของป่ าไม้สกั ซง่ึ ทาความมง่ั คง่ั ให้กบั เจ้าหลวงเศรษฐี คาฝัน้ และบตุ รหลานในสกลุ ณ เชียงใหม่ ผ้สู ืบสายตรงจากแมเ่ จ้าเนตรนารีไวยและสบื สายจาก เจ้าฟ้ าน้อยระภาผอ่ ครัน้ ต่อมา พระเจ้ากาวิละได้ถึงแก่พิราลยั แล้ว เจ้ามหาอปุ ราชธรรมลงั กาได้ขึน้ เสวยเมืองแทน เป็ นพระเจ้าเชียงใหม่สืบต่อมา ทรงมีพระนามว่า พระเจ้าช้างเผือกธรรมลงั กา ท่ีขนานนามนีเ้ พราะว่าใน สมัยของท่านได้ทรงนาช้างเผือก ซ่ึงได้พบในเมืองเชียงใหม่ไปถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลยั (รัชกาลที่ 2) ณ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ จนถือได้วา่ สยาม – กะเหร่ียง เป็ นทงั้ ญาติสนิท เป็ นทงั้ มิตรสหาย กนั มาช้านาน และมีเชือ้ สายสบื ทอดกนั มาแตโ่ บราณกาล ดงั ที่กลา่ วมาแล้ว 2. ประวตั ศิ าสตร์จากคาบอกเล่า ก. ตานานจากการสร้างเมืองเชียงใหม่ ตานานเรื่องเมอื งเชียงใหมเ่ ป็ นท่ีเลา่ ขานของชนเผา่ ปกาเกอะญอมาแตโ่ บราณ เลา่ ขานกนั มาตงั้ แต่ อดีตจนถึงปัจจบุ นั ตานานกลา่ วถึงเจ้าฟ้ าเมืองเชียงใหมก่ บั เมืองสนุ ขั เก่งของท่าน ตานานได้ถกู จดจาเอาไว้ ในบทลานาสองบทท่ีมีใจความวา่ เลอ เปลอ ฉวี่ ลู ตา พะ มี ครง้ั กระโนน้ สนุ ขั ไล่ตามเลียงผา หย่อ ถ่อ เลอะ หล่อ โอะ ดี ยงั มีรอยเทา้ ติดอยู่ทีผ่ าตราบจนทกุ วนั นี้ ประ ัวติของปกาเกอะญอ ชนปกาเกอะญอเล่าขานกันว่าเจ้าฟ้ าเชียงใหม่และสุนขั ของท่านได้ไล่เลียงผาตวั หนึ่งจากฝั่ง ตะวนั ตกของแม่นา้ สาละวินเข้ามายงั ฝั่งตะวนั ออก จนกระทง่ั ไล่มาถึงที่ราบแห่งหนึ่ง เจ้าฟ้ าเชียงใหม่ทรง ทอดพระเนตรสนุ ขั ของพระองค์กินอาหารที่นน่ั เน่ืองจากหิวโซ พอเจ้าฟ้ าทรงตามมาทนั จึงทาเสียงดแุ ละด่า ตะเพดิ ด้วยความไมส่ ภุ าพวา่ “เจ้าไลเ่ ลียงผามใิ ชห่ รือ ทาไมมวั กินและกลืนอะไรอยู่” ด้วยเหตดุ งั กลา่ วที่ราบ แห่งนีจ้ งึ มีช่ือวา่ “หมือ่ อยู่ ป”ู ซงึ่ แปลวา่ “เมืองกลนื ” (ปัจจบุ นั คือแม่สะเรียง) มาจนถึงทกุ วนั นี ้หลงั จากกิน Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 8 อาหารแล้วเจ้าฟ้ าเชียงใหม่ก็ทรงไล่สนุ ขั ของพระองค์ให้ล่าเลียงผาตอ่ ไป ระหว่างทางสนุ ขั ได้ปัสสาวะลงที่ ลาธารหนงึ่ จงึ ถกู เรียกช่ือภายหลงั วา่ “ห้วยสนุ ขั เย่ียว” (อยรู่ ะหวา่ งอาเภอแมส่ ะเรียงและอาเภอฮอด) จนถึง ทกุ วนั นี ้จากนนั้ สนุ ขั ก็ลา่ เลียงผาตอ่ ไป จนกระทงั่ ถึงท่ีราบอีกแห่งหนงึ่ ณ ท่ีราบแห่งนีส้ นุ ขั ก็หายไปอย่างไร้ ร่องรอย เจ้าฟ้ าเชียงใหมท่ รงตามหาอย่างไรก็ไมท่ รงพบ ถึงกบั ทรงกรรแสง ดงั นนั้ ท่ีราบแห่งนีจ้ งึ ถกู เรียกช่ือ ภายหลงั ว่า “มือ ฮอ ปู” แปลว่า “เมืองร้ องให้” ซึ่งต่อมาได้เพีย้ นไปเป็ น “เมืองฮอด” (ปัจจุบนั คืออาเภอ ฮอด) จนถึงทกุ วนั นี ้ เจ้าฟ้ าเชียงใหม่ทรงพกั ผ่อนที่นน่ั จนกระทงั่ สนุ ขั ของพระองค์กลบั มาหาเอง จากนนั้ ทงั้ สองก็พา กนั ออกเดินทางลา่ เลียงผาตอ่ ไป การเดินทางมงุ่ ส่ทู ิศตะวนั ออก แล้วก็ไปถึงถา้ แห่งหนง่ึ และทรงนง่ั พกั ผอ่ น ในถา้ แห่งนนั้ ถา้ แห่งนีแ้ ละบริเวณท่ีราบรอบ ๆ ถกู เรียกว่า “เมืองเหล่อป”ู แปลว่า “เมืองถา้ ” และตอ่ มาได้ เพีย้ นไปเป็ น “เมืองลาพนู ” (ปัจจบุ นั คอื จงั หวดั ลาพนู ) มาจนถึงทกุ วนั นี ้ หลงั จากหายเหน่ือยแล้วก็เริ่มล่าเลียงผาต่อไป จนกระทงั่ มาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง สุนขั ตามล่า เลียงผาตามซอกผาซอกหินแต่ก็ไม่พบ ณ สถานที่แห่งนีไ้ ด้ กลายเป็ นเมืองท่ีมีช่ือ ว่า “เมืองเล ปา” แปลว่า “เมืองหน้าผา” ซงึ่ ทีหลงั เพีย้ นไปเป็น“เมืองลาปาง” (ปัจจบุ นั คือจงั หวดั ลาปาง) จนถึงทกุ วนั นี ้ การล่าเลียงผาไม่ได้ผลสาเร็จเพราะร่องรอยหายไป ณ ผาแห่งนี ้ ดงั นนั้ เจ้าฟ้ าเชียงใหม่จึงหัน กลบั มงุ่ หน้าขนึ ้ ส่ทู ่ีราบลมุ่ แม่นา้ ปิ งและได้ตงั้ รกรากอย่ทู ี่นน่ั สนุ ขั ตวั เก่งของเจ้าฟ้ าเชียงใหม่ก็สนิ ้ ลมหายใจ ณ ที่แห่งนี ้เล่าขานกนั ว่าก่อนสนุ ขั ตวั นนั้ จะสิน้ ใจตาย เท้าส่ีข้างเหยียบลงบนหลงั เต่าข้างละหนึ่งตวั หาง สอดเจ้ารูลิ่ม ปากคาบตะกวด ตาเหลือบไปยังรังผึง้ เจ้าฟ้ าเชียงใหม่ได้ฝังศพของสุนขั ของท่านตวั นี ้ ณ บริเวณที่ตงั้ วดั เจดีย์หลวงในปัจจบุ นั จากนนั้ เจ้าฟ้ าเชียงใหม่ก็ทรงสร้างบ้านเรือนที่นนั่ ภายหลงั มีผ้คู นเข้ามาตงั้ รกรากสมทบมากขนึ ้ จนกลายเป็ นเมืองใหญ่ เจ้าฟ้ าเชียงใหมท่ รงตงั้ ชื่อเมืองวา่ “เหว่กี่แม” แปลวา่ “เมืองหม่าย” ตอ่ มามีคนตา่ ง แดนซงึ่ เป็ นพวกคนจีน (เจ๊ก) เข้ามาค้าขายและสามารถยดึ ครองท่ีดนิ อย่างกว้างขวางและกลายเป็ นกลมุ่ ที่ มีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจอย่างสงู ถึงกบั เปล่ียนชื่อเมืองจาก “เหว่ก่ีแม” ไปเป็ น “เมืองเจ๊กใหม่” ซงึ่ ตอ่ มา เพีย้ นไปเป็ น “เมืองเชียงใหม่” มาจนถงึ ปัจจบุ นั Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

9 ตานานเมืองเชียงใหม่ (เหว่ก่ีแม) ถกู บนั ทึกไว้ในบทลานาของชนเผ่าปกาเกอะญอมากมายดงั ตวั อยา่ งที่ยกมาดงั นี ้ - พอ เจ โบะ พะ เลอ กี่ แม ดอกไมบ้ านทีเ่ มืองเชียงใหม่ พะ ลอ หล่า แก เลอ ปกา แว บานสะพรง่ั ทีส่ ดุ ก็เป็นของคนอืน่ - เหว่ เล กี่ แม อะ หน่า บอ เมืองหน้าผาแลดูเหลืองอร่าม (กาแพงเมืองสี ทอง) เลอ เปลอ เหม่ ยวา หล่อ เฉ่ นอ เป็นทีป่ ระทบั ของพระเจ้าในอดีต ประ ัวติของปกาเกอะญอ ถ่นิ ท่อี ยู่อาศัยของชนเผ่ากปาเกอะญอ 1. หมู่บ้าน ชนปกาเกอะญอสว่ นใหญ่ในเมืองไทยตงั้ ถิ่นฐานบ้านเรือนอย่ตู ามชายเขาท่ีต่าลมุ่ กว่าเผ่าอ่ืน ๆ และมีชื่อเสียงในการทาเกษตรกรรมแบบแผ้วแล้วเผาโดยมีแบบแผนที่ทากนั มาดงั นี ้ - ทานา ทาไร่ เพียงฤดเู ดยี ว แล้วพกั ดนิ ห้าถงึ สบิ สองปี - แผ้วถางดนิ แล้วเผาต้นไม้ใบหญ้าโดยกนั มิให้ลกุ ลามไหม้ป่ าโดยรอบอยา่ งพิถีพิถนั - รักษาป่ าบนดอยเหนือบริเวณท่ีเพาะปลกู อยา่ งดี ไม่ตดั ไม้หรือทาลายกล้าใหมเ่ ลย - ถอนวชั พืชและไมไ่ ถนา (ไมพ่ ลกิ หน้าดนิ ) ก่อนเพาะปลกู ด้วยวิธีการนีจ้ งึ สามารถรักษาคณุ ภาพของดนิ ให้อดุ มอยไู่ ด้นานและเมื่อพกั ดินก็มกั ไมม่ ีปัญหาเร่ืองหญ้าคา ขึน้ ในนา น่าเสียดายที่ปัจจบุ นั ปัญหาเรื่องจานวนประชากรที่เพิ่มขึน้ และท่ีดินทากินน้อยลงทาให้ชนปกา เกอะญอหมดโอกาสเปลีย่ นบริเวณเพาะปลกู และพกั ดนิ นาน ๆ จงึ ไมไ่ ด้ดินท่ีอดุ มเชน่ แตก่ อ่ น หม่บู ้านปกาเกอะญอบนดอยเติบโตขยายบริเวณออกไปทกุ ทีเริ่มจากหนึ่งไปสอง เพราะจานวนพลเมืองใน แต่ละหม่บู ้านเพ่ิมเป็ นสองเท่าทุกระยะ 24 ปี ขณะที่พลเมืองเพิ่มผ้คู นก็ต้องออกไปหาที่ทากินไกลออกไป จากหมู่บ้านทุกขณะจนเดินไปกลับไม่ไหวต้องย้ายบ้านช่องไปอยู่ใกล้ที่ทากินจึงเกิดเป็ นหมู่บ้านย่อย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 10 ล้อมรอบหมบู่ ้านใหญ่และโยงใยขา่ ยการปกครองกบั หมบู่ ้านใหญ่ นอกจากพวกที่ทานาดาอยใู่ นที่ลมุ่ ซง่ึ จะ ตงั้ ระบบบการปกครองของเองไมข่ นึ ้ กบั ใคร บางครัง้ ก็มีเหตทุ ่ีหม่บู ้านต้องย้าย เช่น พระประจาหม่บู ้านสิน้ ชีวิตแตก่ ็ไม่ย้ายไปไกลจากที่เดิมนกั บางทีกระเถิบไปสองสามเมตร เอาเป็ นพิธีเท่านัน้ เม่ือไม่ต้องย้ายไปไกล ก็ไม่ต้องสละละทิง้ สมบตั ิพัส สถานท่ีสะสมไว้ จึงสามารถทาเกษตรถาวรเช่น ทาสวนขนนุ มะม่วงหรือผลไม้ตระกลู ส้ม สามารถทาสวน ครัวใหญ่พอเก็บของขาย ทาไร่ยาสบู ซง่ึ ผิดกนั ไกลกบั สภาพของชาวเขาเผา่ อื่น ๆ การเข้าไปเป็ นสมาชิกใหมข่ องหมบู่ ้านนนั้ ต้องได้รับอนญุ าตจากพระและผ้เู ฒา่ ผ้แู ก่ประจาหมบู่ ้าน ท่ีเรียกวา่ “ฮี โข”่ เสียกอ่ นแล้วจงึ ทาพธิ ีเซน่ ไหว้เจ้าท่ี แตก่ ่อนจะช่ืนชมต้อนรับสมาชิกใหมข่ องหม่บู ้านเพราะ ยิ่งมีคนมากก็ย่ิงอ่นุ หนาฝาคง่ั แตห่ ลายปี ลว่ งมานีท้ ่ีดินทากินชกั ไมพ่ อ ทงั้ พระและผ้เู ฒ่าจึงไมค่ อ่ ยปลืม้ กบั การรับสมาชกิ ใหมเ่ หมือนเมื่อก่อน 2. บ้านและครัวเรือน ชนปกาเกอะญอสร้างบ้านใต้ถนุ สงู แบบตา่ ง ๆ พืน้ และฝาฟากหลงั คามงุ จากหรือตองตงึ ใต้ถนุ นนั้ เป็ นท่ีนง่ั เล่นและทากิจวตั รเช่น ตาข้าว ผ่าฟื น เลื่อยไม้ ในเวลากลางวนั กลางคืนก็จะต้อน หมู ไก่ และววั ควายเข้าล้อมไว้ที่ใต้ถนุ นี ้พอ่ บ้านท่ีดีก็มกั จะผกู ชิงช้าไว้ใต้ถนุ ให้ลกู เลน่ บ้านชนปกาเกอะญอแท้มีห้องเดียว สมาชิกของครอบครัวปเู ส่ือนอนกนั รอบเตาผิง ซง่ึ อย่กู ลาง ห้อง อาจมีการกนั้ บงั ตาเป็ นสดั สว่ นให้ลกู สาววยั กาดดั อยรู่ วมกนั มมุ หนง่ึ ของห้อง ย้งุ ฉางเก็บข้าวเปลอื กและพืชผลสร้างตา่ งหากจากตวั บ้านแตจ่ ะต้องอยตู่ ่ากวา่ ตวั บ้านแตจ่ ะต้อง ไม่อย่หู น้าหรือหลงั บ้าน หากอย่เู ยือ้ งกนั และหากบ้านอย่บู นไหล่เขา ย้งุ ฉางก็จะต้องอย่ตู ่ากว่าตวั บ้าน ถ้า สร้างผิดไปจากธรรมเนียมท่ีวา่ นีเ้ช่ือวา่ จะทาให้เกิดการเจบ็ ป่ วยขนึ ้ ในครอบครัวได้ การสร้างบ้านเรือนมีธรรมเนียมอย่วู ่าญาติข้างมารดาจะอย่รู วมกล่มุ กัน ไม่ควรมีคนอื่นมาสร้าง บ้านแทรกกลางบ้านให้ผีบ้านผีเรือนขดั ใจ จะต้องไม่สร้างบ้านสามหลงั ในลกั ษณะสามเส้า หากฝ่ าฝื นข้อ ห้ามนีก้ ็จะมเี หตเุ พทภยั อปั มงคลต่าง ๆ เกิดขนึ ้ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 11 แต่ละบ้านไม่จาเป็ นต้องมีครกตาข้าวของตนเองอาจใช้รวมกันหลาย ๆ ครอบครัวได้ และเป็ น ชมุ ชนอีกแหง่ หนง่ึ แตล่ ะครัวเรือนก็พยายามรักษาเอกสทิ ธิ์ในท่ีดนิ ทรัพย์สนิ ของตนไมเ่ บยี ดเบียนและไมพ่ ง่ึ พาผ้อู ่ืน ครอบครัวประกอบด้วยสามี ภรรยาและบตุ รธิดาซงึ่ ยงั โสดเท่านนั้ ผิดกบั เผ่าอ่ืน ๆ ซง่ึ ครอบครัว มกั มีสมาชิกสามชว่ั คน สาหรับชนปกาเกอะญอสตรีท่ีมิได้เป็ นญาติกบั ภรรยาเจ้าของบ้านจะเข้ามาอย่รู ่วม ชายคาในครอบครัวมิได้ ถือว่าผิดผี มีตวั อย่างหญิงหม่ายซงึ่ อาศยั อย่กู บั ครอบครัวของลูกชายแม้จะสร้าง บ้านอยตู่ า่ งหากเพียงไปร่วมกินอาหารกบั บ้านลกู ชายเทา่ นนั้ เมื่อลกู สะใภ้เสยี ชีวติ ในการคลอดบตุ รในเวลา ตอ่ มา ชาวบ้านก็ลงความเห็นวา่ เป็ นเพราะ “แพ้ผี”แมผ่ วั นนั่ เอง เพราะความกลวั ผีนนั่ เองชนปกาเกอะญอจงึ ไม่กล้ามีภรรยาน้อยหรือแม้แตแ่ ตง่ งานใหม่ จนกวา่ ลกู จะโตออกเหย้าออกเรือนไปแล้ว ซ่ึงลาบากมากสาหรับพ่อหม้ายลกู อ่อนท่ีจะต้องออกไร่และเลีย้ งดลู กู เลก็ ๆ ในเวลาเดยี วกนั ชนปกาเกอะญอถือธรรมเนียมเคร่งครัดเรื่องจะให้ใครนอนในบ้าน หากครอบครัวมที งั้ ลกู ชายและลกู สาววยั รุ่น ลกู ชายก็จะต้องย้ายสามะโนครัวไปนอนชานบ้านเพื่อนท่ีไม่มีพนี่ ้องวยั เดียวกนั ผ้ทู ่ี มิใช่สมาชกิ ของครอบครัวท่ีมาพกั อยดู่ ้วยจะต้องนอนนอกชานเสมอ พธิ ีกรรมท่สี าคญั ของชนปกาเกอะญอ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 12 พิธีกรรมมีความสาคญั ต่อวิถีชีวิตของชนปกาเกอะญอ เป็ นการสืบทอดทางวัฒนธรรม เพื่อ กาหนดบรรทดั ฐานและควบคมุ พฤติกรรมทางสงั คม ตลอดจนแสดงถึงความสมั พนั ธ์ของชนปกาเกอะญอ กบั ส่งิ แวดล้อม ธรรมชาติท่ีมีผลต่อการดารงชีพในกระบวนการผลิตและความสมั พนั ธ์กับระบบความเช่ือของสิ่งท่ีเหนือ ธรรมชาติ 1. พธิ ีกรรมหลักในรอบชีวิต ก. การเกิด(ดึ ตา่ เบล) เมื่อทารกเกิดสายรกที่ตดั ออกแล้วก็จะไปแล้วผ้เู ป็นบดิ าของทารกก็จะบรรจลุ งกระบอกไม้ไผ่ปิดฝา ด้วยเศษผ้าแล้วนาไปผกู ไว้ตามต้นไม้ในป่ ารอบหม่บู ้านพร้อมกบั อธิษฐานให้เด็กน้อยโต แข็งแรงดงั ต้นไม้ ยืนต้นนี ้ต้นไม้ต้นนนั้ เรียกช่ือวา่ “เด ปอ ท่”ู แปลว่าต้นสายรก และต้นไม้ต้นนีจ้ ะห้ามตดั โดยเดด็ ขาด เพราะ เช่ือว่าขวญั ของทารกจะอาศยั อย่ทู ่ีนนั่ หากตดั ทิง้ จะทาให้ขวญั ของทารกหนีไปและทาให้ทารกล้มป่ วยลง หากวา่ ผ้ใู ดตดั ไม้ต้นนีโ้ ดยเจตนาหรือไม่เจตนาจะต้องถกู ปรับด้วยไก่หนง่ึ ตวั พ่อแม่ก็จะนาไก่ตวั นีไ้ ปทาพิธี เรียกขวญั ทารกกลบั คืนมา วนั ที่ไปผกู สายรกของทารกติดกบั ต้นไม้นนั้ เพ่ือนบ้านทกุ คนจะไมอ่ อกไปทางาน ซง่ึ ถือเป็ นข้อห้าม เรียกข้อห้ามนีว้ า่ “ดึ ตา่ เบล”เป็ นประเพณีที่สบื ทอดกนั มาตงั้ แตอ่ ดีต เม่ือถึงเวลาขวั้ สายทารกหลดุ ออกไปผู้ เป็ นพ่อก็จะไปทาพิธีผูกมือเรียกขวัญทารก โดยไปทาพิธีที่ใต้ต้นไม้ที่ผูกติดสายรกต้นนัน้ เพื่อให้ขวัญ กลบั มาอยทู่ ่ีบ้าน เรียกวา่ “ก่ีเบลจือ” คือพิธีผกู ขวญั ครัง้ แรกของบคุ คลผ้นู ีท้ ี่เกิดมาลืมตาอยบู่ นโลก ชนปกา เกอะญอเชื่อวา่ ขวญั ของคนมอี ยู่ 37 ขวญั ข. การแตง่ งาน (ดึ เทาะ โค่ เบล) เร่ืองราวของการสู่ขอจะเป็ นดงั นี ้ เมื่อเป็ นท่ีรับรู้แล้วว่าชายหญิงชอบพอกัน พ่อแม่และญาติพ่ี น้อง (ญาติผ้ใู หญ่) ของฝ่ ายหญิงก็จะสง่ คนไปหาฝ่ ายชายเพ่ือสอบถามให้แน่ใจว่าฝ่ ายชายรักและยินดที ี่จะ แตง่ งานกบั ฝ่ ายหญิงจริง ๆ หรือไม่ หากฝ่ ายชายรักชอบพอและยนิ ยอมท่ีจะแตง่ งานกบั ฝ่ ายหญิงก็จะมีการ นดั หมายวนั เวลาทาพธิ ีแตง่ งานกนั ในเวลานนั้ (ประเพณีปกาเกอะญอฝ่ ายหญิงจะไปสขู่ อฝ่ ายชาย) Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 13 การหมัน้ (เตอะ โหล่) เม่ือฝ่ ายชายตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานกับหญิงและนัดหมายวันเวลา แตง่ งานท่ีแน่นอนแล้วฝ่ ายชายก็สง่ เถ้าแก่ไปทาพิธีหมนั้ หมายฝ่ ายหญิงก่อนวนั แตง่ งาน ในพิธีฝ่ ายหญิงจะ ฆ่าไก่หน่งึ คทู่ าอาหารเพ่ือเลีย้ งรับเถ้าแก่ฝ่ ายชาย วนั รุ่งขนึ ้ ก็จะนดั หมายวนั เวลาที่ฝ่ ายชายและเพ่ือน ๆ จะ มาหาฝ่ ายหญิงเพ่ือทาพธิ ีแตง่ งานตอ่ ไป หมูแรกทาพิธี (เทาะเตาะ) เทาะเตาะคือหมตู วั แรกท่ีฆ่าในพิธีแต่งงาน เนือ้ หมตู วั นีจ้ ะเอาไว้เป็ น เคร่ืองบชู าเพื่อขอเทพยดามาอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาวและผ้มู าร่วมงานทกุ คน เม่ือถึงเวลาออกเดินทางไปสู่ หม่บู ้านเจ้าสาว เถ้าแก่ฝ่ ายเจ้าบ่าวและเพ่ือนเจ้าบ่าวจะลงไปอยู่พร้อมกันท่ีพิงพกั หน้าบ้านที่สร้ างไว้ ชว่ั คราว เถ้าแก่จะทาพิธีรินหวั เหล้าและอธิษฐานขอพร เสร็จพิธีก็จะออกเดินทางโดยมีเจ้าบ่าวและเพ่ือน ๆ ร่วมเดนิ ทางอยา่ งพร้อมเพรียงกนั เมื่อเดินทางมาถึงบ้านเจ้าสาว เถ้าแก่ฝ่ ายเจ้าสาวและเพ่ือนบ้านก็จะคอยต้อนรับโดยจะไปพกั ที่ เพิงพกั ชว่ั คราวหน้าบ้านเพื่อทาพิธีด่ืมหวั เหล้า (เดะ ซิ โข่) เสร็จพิธีด่มื หวั เหล้าก็จะขนึ ้ ไปสบู่ ้านเจ้าสาว เพ่ือ พกั ผอ่ นและมีการเลยี ้ งสงั สรรค์กนั ด่ืมเหล้าพร้อมกบั ขบั ลานาโต้ตอบกนั ระหวา่ งกลมุ่ เถ้าแก่ เพ่ือนเจ้าบา่ วท่ี เป็ นคนต่างถ่ินและกล่มุ เถ้าแก่ เพื่อนเจ้าสาวท่ีเป็ นคนในถิ่น เวลาเดียวกนั นีญ้ าติพ่ีน้องเจ้าสาวก็จะฆ่าหมู ทาอาหารสาหรับเลีย้ งแขกที่มางาน เม่ือทาอาหารเสร็จแล้วเขาก็จะให้เถ้าแก่ทงั้ ฝ่ ายเจ้าบา่ วและะเจ้าสาว ทาพิธีถวายข้าวแด่เทพยดาเพ่ือขอพร จากนนั้ ก็เรียกแขกทกุ คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพ่ือนเจ้าบ่าวท่ีมาจาก แดนไกลมารับประทานอาหาร เสร็จแล้วก็จะเป็ นเวลาสว่ นตวั ของแต่ละคนท่ีจะพกั ผ่อนนอนหลบั หรือเย่ียม เยียนเพอ่ื นบ้านอื่น ๆ และขบั ลานาโต้ตอบกนั ซง่ึ บางคนบางหมบู่ ้านก็จะเที่ยวขบั ลานาตลอดทงั้ คนื ไก่เริ่มต้นพิธีบก๊ะ (ชอเก๊าะเก) ช่วงหน่ึงของพิธีแต่งงานจะมีการฆ่าไก่ 2 ตวั ต้มให้สุกโดยไม่ปรุง อะไรลงไปทงั้ สิน้ ผ้เู ฒ่าผ้แู ก่จะเลือกเด็กหญิงและเด็กชายฝ่ ายละคน โดยท่ีเด็กทงั้ สองคนต้องเป็ นเด็กที่มี ครอบครัวครบสมบรู ณ์คือทงั้ พ่อและแม่ยงั มีชีวิตอยู่ เด็กทงั้ สองคนนีจ้ ะมีหน้าท่ีจดั คาข้าวและเนือ้ ไก่ 2 ตวั นนั้ แล้วมอบให้เจ้าบา่ วและเจ้าสาวรับประทาน โดยเด็กหญิงจะจดั ให้เจ้าสาวและเด็กชายจะจดั ให้เจ้าบา่ ว ฝ่ ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็จะให้สร้อยลกู ปัดหนึ่งสายและเงินหนง่ึ บาทแก่เด็กหญิงและชายตามลาดบั เป็ น การตอบแทนนา้ ใจที่มาชว่ ยเหลอื Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 14 ขนั หมาก (เกอะเนอ) ชนปกาเกอะญอมีวฒั นธรรมขนั หมากเป็ นของผ้หู ญิงหรือผ้หู ญิงมีขนั หมาก ฝ่ ายชายจะเป็ นฝ่ ายนาขนั หมากมาให้ ขนั หมากของชนปกาเกอะญอประกอบด้วยผ้าซิ่นทอ 1 ผืน เสือ้ ทอ ผ้ชู าย 1 ตวั ผ้าโพกศีรษะ 1 ผืน เสียม 1 ด้าม เสือ้ แม่บ้าน (เช โหม่ ซู) 1 ตวั และเกลือ 1 ห่อ แต่ผ้หู ญิงบาง คนอาจจะมีขนั หมากมากกวา่ นีก้ ็ได้ ในวนั ที่เจ้าบา่ วและเพื่อน ๆ เดินทางมาที่บ้านเจ้าสาวนนั้ จะมีแม่บ้าน คนหนึ่งถือขันหมากมาด้วย แม่บ้านคนนีต้ ้องเป็ นแม่บ้านท่ีมีครอบครัวที่สมบูรณ์คือสามียังมีชีวิตอยู่ วนั รุ่งขนึ ้ ก็จะมีการทาพิธีขอขนั หมาก การทาพิธีจะทาโดยเถ้าแก่ฝ่ ายหญิงและฝ่ ายชาย ฝ่ ายหญิงจะเป็ นผู้ ขอ ส่วนฝ่ ายชายจะเป็ นผู้ให้ โดยท่ีการขอจะต้องขอด้วยการขับลานาโต้ตอบกันทัง้ สิน้ การทาพิธีขอ ขนั หมากใช้เวลามาก เพราะต้องขบั ลานาผา่ นขนั้ ตอนและมีลีลาของการอ้อยอ่ิง เบ่ยี งบา่ ยเป็นพธิ ี ไก่ขอพรระระหว่างเดินทางกลบั (ชอโจ่ลอ) การเดินทางกลบั ของเถ้าแก่และเพ่ือนเจ้าบ่าว ฝ่ าย หญิงจะฆ่าไก่ 2 ตวั ต้มให้สกุ แล้วห่อให้เพ่ือนเจ้าบ่าวนากลบั ไปด้วยเพ่ือเป็ นอาหารระหว่างเดินทาง เมื่อถึง เวลาอาหารก่อนรับประทานเถ้าแก่จะทาพิธีถวายหวั อาหารแด่เทพยดาเพื่ออวยพระผ้รู ่วมเดินทางให้ได้รับ ความปลอดภยั จากภยนั ตรายทงั้ หลายและกลับถึงบ้านด้วยความสวสั ดิภาพ พอกลบั ถึงบ้านแล้วทกุ คนก็ จะมารวมกนั ที่เพิงพกั หน้าบ้านเจ้าบา่ วก่อนที่จะแยกย้ายกนั กลบั บ้านของตน และท่ีเพิงพกั นีเ้ถ้าแก่ก็จะทา พิธีดื่มหวั เหล้าอีกครัง้ หนึ่งเป็ นครัง้ สดุ ท้าย วนั รุ่งขนึ ้ วนั หน่ึงเพ่ือนบ้านทุกคนจะหยดุ งาน ซงึ่ ถือเป็ นข้อห้าม เรียกข้อห้ามนีว้ า่ “ดึ เทาะ โค่ เบล” แปลว่า “ข้อห้ามหวั หม”ู ค. การตาย การเตรียมศพ ในหม่บู ้านหากผ้หู น่ึงเสียชีวิตลง เพื่อนบ้านทกุ คนจะหยดุ งานเพราะถือเป็ นข้อห้าม ซึ่งเรียกว่า “ดึ ปกา ซะ ลอ หม่า” หมายความว่า ข้อห้ามสาหรับวิญญาณท่ีหลดุ หายไป แม้แต่ตาข้าวซ่ึง ปกติจะทากนั ทกุ วนั เช้าและเย็นก็จะงดทาทงั้ สนิ ้ ขนั้ แรกญาตพิ ่ีน้องก็จะอาบนา้ ศพ นาเสอื ้ ผ้าใหม่ ๆ มาสวม ใสใ่ ห้ เสร็จแล้วก็จะห่อศพด้วยเสอ่ื ตขี ้าว การเตรียมสัมภาระให้ศพ หลังจากห่อศพแล้วจะหาไม้ไผ่ท่อนหน่ึงยาวประมาณ 5 ศอก ผ่า ออกเป็ น 4 ซีกเท่า ๆ กันครึ่งท่อนแล้วง่ามลงบนศพเพ่ือยึดศพให้ม่ัน เรียกไม้ไผ่ท่อนนีว้ ่า “ไม้ง่าม ศพ” จากนนั้ จะนาเสือ้ ผ้าของศพท่ีญาติพื่น้องมอบให้แขวนไว้ที่ปลายท่อนไม้ไผ่ เสือ้ ผ้าและข้าวของศพนี ้ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 15 เรียกวา่ “ตา่ ซี อะ จก่ือ” มีความหมายว่า “สมั ภาระศพ” เป้ าหมายการเตรียมสมั ภาระของศพเพ่ือทาความ ร่มร่ืน อยเู่ ยน็ เป็ นสขุ ให้ผ้ตู ายได้ใช้ขณะเดนิ ทางกลบั ไปยงั โลกหน้า การขบั ลานา ตกเย็นจะเป็ นเวลาแห่งการขบั ลานาส่งวิญญาณศพ โดยชายหนุ่มและพ่อบ้านจะ ขนึ ้ มาขบั ลานา ลานาท่ีขบั ในช่วงแรกนีจ้ ะมีเนือ้ หาเกี่ยวกบั คนตาย ลานาสาหรับศพนีผ้ ้ขู บั จะจากดั เฉพาะ แตผ่ ้ชู ายเทา่ นนั้ ผ้หู ญิงจะขบั ลานานีไ้ ม่ได้ ถือเป็นสงิ่ ต้องห้าม ผ้หู ญิงที่กาลงั ตงั้ ท้องและเสียชีวิตลงจะมีการ ขบั ลานาสง่ วิญญาณเชน่ เดียวกนั แตผ่ ้มู าขบั ลานาจะเป็นเฉพาะผ้ชู ายเทา่ นนั้ ลานาท่ีขบั มีช่ือวา่ “ทา โหร่ ควา” มีความหมายวา่ “บทลานารวบรวมชาย” หรือ “บทลานา ชุมชุมชาย” ผู้เสียชีวิตที่เป็ นหนุ่มสาวจะมีการไปสร้างกระต๊อบหลงั เล็กท่ีก่ิวดอยแห่งใดแห่งหน่ึง ใกล้หม่บู ้านและเป็ นทางเดินที่ผู้เสียชีวิตเคยเดินไปมา และนาเสือ้ ผ้าและข้าวของต่าง ๆ ไปวางไว้ให้ใน กระต๊อบหลังนัน้ สิ่งนีเ้ รียกว่า “เสอะ เล” ผู้เสียชีวิตกลุ่มนีม้ ีลานาส่งวิญญาณโดยเฉพาะเช่นกันซ่ึง เรียกวา่ “ทา เยอ ลอ” แปลว่า ลานาคนงึ หา หรือลานาอาลยั อาวรณ์ ข้อห้ามหลงั ปลงศพ คือจะไม่ให้คนในหม่บู ้านออกไปทามาหากินนอกบ้าน ส่วนจะห้ามกี่วนั นนั้ ขึน้ อยู่กับว่าศพนัน้ มีการเก็บไว้ก่ีวัน หากเก็บไว้ 1 วันก็จะห้ามออกไปทางาน 1 วัน เป็ นต้น ข้อห้ามนี ้ เรียกว่า “ดึ นา เกอะ เกราะ” หมายความว่า ข้อห้ามผีผ้ตู าย เพราะปกาเกอะญอเชื่อว่าหลงั จากปลงศพผี ของผ้ตู ายยงั เดินไปมาภายในบริเวณรอบ ๆ หม่บู ้านอย่จู นกว่าจะพ้นจานวนวนั ที่เก็บศพไว้ เพราะฉะนนั้ หากผ้ใู ดออกนอกหมบู่ ้านในชว่ งนีผ้ ีผ้ตู ายอาจจะเห็นเข้าและจบั ขวญั ของผ้นู นั้ แล้วจะทาให้ล้มป่ วยลงได้ พืชผกั ของผ้ตู าย หากมผี ้เู สยี ชีวติ ลงในกลางปี และผ้เู สียชีวิตไมม่ ีโอกาสได้รับประทานพืชผกั ที่ตนปลกู ไว้ ใน กรณีหลงั จากการเก็บเก่ียวแล้วญาตพิ น่ี ้องก็จะนาผลผลติ ของพืชผกั ตา่ ง ๆ ในรอบปี นนั้ ไปฝากไว้ท่ีไร่หรือใต้ ต้นไม้บริเวณของผ้ตู าย ทงั้ นีเ้พื่อให้วิญญาณผ้ตู ายจะได้กลับมารับประทานผลผลติ ของพืชผกั เหลา่ นนั้ แล้ว จะได้กลบั ไปสู่ สขุ คตดิ ้วยความสงบสขุ จะได้ไม่กลบั มารบกวนขอญาตพิ นี่ ้องอีกตอ่ ไป 2. พธิ ีกรรมระดับครอบครัว ก. เลยี ้ งหมแู รกไก่แรก (เทาะ โข่ ทิ ชิ โข่ ทิ) Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 16 ชนปกาเกอะญอจะมีสตั ว์เลีย้ ง 2 ชนิดที่จาเป็ นและเก่ียวข้องกบั พิธีกรรมในระดบั ครอบครัวเสมอ คือไก่และหมู ไก่และหมคู แู่ รกที่เลีย้ งเรียกว่า “ เทาะ โข่ ทิ ชอ โข่ ทิ” มีความหมายว่า หมแู รกไก่แรก หมคู ู่ แรกและไก่ค่แู รกนีก้ ็จะทาลงไปหลงั จากการออกเหย้าออกเรือนแล้วไม่นาน การทาพิธีกรรมเลีย้ งหมแู ละไก่ คแู่ รกนีเ้รียกวา่ “บึ โถ่ ตา่ ” หมายความการเลยี ้ งให้สงบราบร่ืน หรือเลยี ้ งให้ยง่ั ยนื ข. การขนึ ้ บ้านใหม่ (ถ่อ เดอะ ซอ) หลงั จากปลกู บ้านเสร็จแล้วก็จะถึงเวลาทาพิธีขึน้ บ้านใหม่เจ้าของบ้านต้องเตรียมเหล้า 1 คู่ และ ไก่ 1 คู่ (หรือหมู 1 ตวั ) และเชิญผ้อู าวโุ สคนใดคนหน่ึงในหม่บู ้านมาทาพิธีเรียกขวญั เจ้าของบ้าน เสร็จพิธี เรียกขวญั ก็จะฆ่าไก่หรือหมทู าอาหาร จากนนั้ ก็จะเรียกญาติพี่น้องทกุ คนมาท่ีบ้านมาผกู ข้อมือเรียกขวญั เจ้าของบ้าน การผกู ข้อมือเรียกขวญั นีจ้ ะมีการอวยพรให้ครอบครัวเจ้าของบ้านมีความสขุ ในชีวิตท่ีจะอยู่ อาศยั บ้านใหมห่ ลงั นี ้จากนนั้ ก็จะร่วมรับประทานอาหารอย่างพร้อมเพรียงกนั ค. พธิ ีกินเชื่อมความสมั พนั ธ์ ( เอาะ บก๊ะ) พิธีจะเริ่มต้นด้วยสามีภรรยาจะฆ่าไก่ค่แู รกท่ีเลีย้ งไว้ เรียกพ่อแม่ของตน (ฝ่ ายหญิง) มาขอพรให้ เนือ้ ไก่นนั้ สามภี รรยาจะรับประทานเลก็ น้อยพอเป็นพิธีก่อน จากนนั้ พ่อแมจ่ ะนาสารับเนือ้ ไก่และข้าววางลง บนพืน้ บ้านและเริ่มอธิษฐานขอพร โดยเรียกขานช่ือบรรพบรุ ุษที่ลว่ งลบั ไปแล้วให้มาร่วมรับประทานอาหาร ที่ลกู หลานได้เตรียมให้นี ้เสร็จการอธิษฐานก็จะร่วมรับประทานอาหารร่วมกนั วนั รุ่งขนึ ้ อีกหน่ึงวนั ก็จะเป็ น การทาพิธีกรรมของฝ่ ายชายซงึ่ มีขนั้ ตอนเหมือนกบั ฝ่ ายหญิงทกุ ประการ ง. พิธีผกู ขวญั (ก่ี จือ) ผกู ขวญั นีใ้ นพธิ ีจะใช้หมหู รือไก่ก็ได้ พอ่ แมจ่ ะเรียกบตุ รหลานทกุ คนทงั้ ยงั โสดและแตง่ งานแล้ว หาก แตง่ งานแล้วที่เป็ นผ้หู ญิงก็จะเรียกมาพร้อมกบั ลกู ทกุ คน แต่หากเป็ นผ้ชู ายก็จะมาตวั คนเดียวเท่านนั้ ห้าม พาลกู มาด้วย จากนนั้ ก็จะผกู ขวญั ให้และอวยพรให้อยดู่ ีมีสขุ พ้นจากโรคภยั ไข้เจ็บทงั้ ปวงและขนั้ สดุ ท้ายก็ จะควั่ ข้าวเปลอื กแล้วไปโปรยลงใต้ต้นไม้ต้นใดต้นหนงึ่ 3. พธิ ีกรรมระดบั หมู่บ้าน Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 17 ก. พิธีผกู ข้อมือเรียกขวญั ขนึ ้ ปี ใหม่ (ก่ี จือ นี่ ซอ โค)่ เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลติ จากไร่เสร็จราวต้นเดือนมกราคม ผ้นู าหม้บู ้านหรือฮี่โขจ่ ะแจ้งให้ลกู บ้านทราบ ว่าถึงเวลาที่จะต้องทาพิธีขึน้ ปี ใหม่แล้ว ลกู บ้านทุกครอบครัวจะต้มเหล้าสาหรับทาพิธี ก่อนทาพิธีหน่ึงวนั ชาวบ้านจะทาขนมและของคบเคยี ้ วซงึ่ ประกอบด้วย ข้าวป๊ กุ (ข้าวเหนียวตาคลกุ ) ข้าวต้มและข้าวหลามเพื่อ เป็ นของถวายแตเ่ ทพเจ้าและเป็ นอาหาร ขนมกินเลน่ ในวนั ทาพิธีขนึ ้ ปี ใหม่นี ้วนั รุ่งขนึ ้ ทกุ ครอบครัวจะทาพิธี ผูกมือเรียกขวัญ และวันนัน้ จะไม่มีผู้ใดออกนอกบ้าน ทุกคนต้องอยู่ร่วมงานปี ใหม่ ถือเป็ นวันพักผ่อน ประจาปี หลงั จากพิธีผูกขวญั ของแต่ละครอบครัวและรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ผ้นู าหม่บู ้านก็จะออก ตระเวนไปตามบ้านของลกู บ้านแตล่ ะครอบครัวเพื่อทาพิธีรินหวั เหล้าเพื่ออธิษฐานและอวยพรให้ครอบครัว ทกุ คนมีความสขุ ความเจริญ พิธีกรรมวนั ขึน้ ปี ใหม่นีเ้ รียกว่า “ก่ี จือ น่ี ซอ โค่” แปลว่า ผกู ข้อมือเรียกขวญั วนั ขนึ ้ ปี ใหมน่ น่ั เอง ข. พธิ ีผูกข้อมือเรียกขวัญเดอื นสิงหาคมกลางปี (ก่ี จือ ลา คุ) ราวต้นเดือนสิงหาคม ผ้นู าหม่บู ้านจะแจ้งให้ลกู บ้านทราบอีกครัง้ ว่าถึงเวลาท่ีจะต้องทาพิธีกลางปี อีกแล้ว พิธีกรรมกลางปี นีเ้ รียกว่า “ก่ี จือ ลา ค”ู หมายความว่า พิธีผกู ข้อมือเรียกขวญั เดือนสิงหาคม หรือ พิธีกลางปี รูปแบบและขนั้ ตอนจะเหมือนกบั พิธีปี ใหม่ทกุ ขนั้ ตอน จะตา่ งกนั ตรงท่ีความหมาย กลา่ วคือ พิธี ปี ใหม่จะเป็ นพิธีขอพรจากเทพยดาให้ลงมาอวยพรพืชผลให้เจริญงอกงามดี ส่วนพิธีกลางปี จะเป็ นพิธี ขอบคณุ เทพยดาที่ประทานความอดุ มสมบรู ณ์ทกุ อยา่ งท่ีขอจากพธิ ีปี ใหมใ่ นต้นปี นนั้ ค. ต่า หล่ือ ห่ี (การสืบชะตาหมู่บ้าน) พิธีเลยี ้ งหมบู่ ้านเป็ นหน้าท่ีของผ้นู าหมบู่ ้านที่เรียกวา่ “อี่ โข”่ แตต่ ้องอาศยั ความร่วมมือจากลกู บ้าน ด้วยกล่าวคือ หากจาเป็ นต้องทาพิธีเลีย้ งหม่บู ้านผ้นู าหม่บู ้านต้องแจ้งให้ลกู บ้านทราบ ลกู บ้านครอบครัว หน่ึงต้องนาข้าวสารหน่อยหนึ่งและไก่ 1 ตวั นาไปให้ผู้นาหมู่บ้านเพื่อเป็ นเครื่องเซ่นไหว้ในพิธีผู้ท่ีร่วม พิธีกรรมนีไ้ ด้คอื ผ้ชู ายเทา่ นนั้ เมื่อถงึ สถานท่ีประกอบพิธีก็จะสร้างหอเซน่ ไหว้แล้วผ้นู าหมบู่ ้านจะอธิษฐานภาวนาขอพรจากเทพย ดา จากนนั้ ก็จะบอกให้ลกู บ้านฆา่ ไก่ท่ีเป็ นเครื่องเซน่ ไหว้เพ่ือทาอาหาร เม่ือทาอาหารเสร็จแล้วจะนาอวยั วะ สว่ นตา่ ง ๆ ทกุ สว่ น ส่วนละหน่อยหนึ่งมาทาเป็ นเครื่องเซน่ ไหว้ผ้นู าหม่บู ้านจะนาเคร่ืองเซน่ ไหว้ไปไว้บนหอ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 18 เซ่นไหว้แล้วยกมือไหว้อธิษฐานภาวนาอีกครัง้ หนึ่ง ส่วนลกู บ้ านทุกคนที่มาร่วมงานจะยกมือไหว้ตามด้วย หลงั จากอธิษฐานภาวนาก็จะทาพิธีเสี่ยงทายดวู ่า ณ เวลานีเ้ป็ นฤกษ์งามยามดีที่จะรับประทานแล้วหรือยงั หากฤกษ์งามยามดีแล้วก็จะร่วมรับประทานอาหาร แตก่ ่อนรับประทานอาหารแล้วผ้นู าหมบู่ ้านจะทาพิธีริน หวั เหล้า(เหล้าขวดแรก) จากนนั้ แล้วก็จะร่วมรับประทานอาหารด้วยกนั เม่ือรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ผ้นู าหม่บู ้านจะทาพิธีรินก้นเหล้า(เหล้าขวดสดุ ท้าย) ทกุ คนจะต้องช่วยกนั ด่ืมก้นเหล้าจนหมด ก็เป็ นอนั ว่า เสร็จพิธี และทกุ คนจะแยกย้ายกนั กลบั บ้านได้ การท่ีจะต้องทาพิธีนีเ้ ป็ นประจาทุกปี (หรือทุก 2 ปี หรือทุก 3 ปี แล้วแต่แต่ละหมู่บ้านจะ กาหนด) ก็เพราะชนปกาเกอะญอมีประสบการณ์ว่าไม่สามารถมองเห็นล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขนึ ้ กบั ชีวิต และสงั คมหมู่บ้าน แต่เช่ือว่าเทพเจ้าสิ่งศกั ดิ์สิทธ์ิจะรู้และสามารถปกป้ องค้มุ ครองได้ จึงต้องทาพิธีเลีย้ ง หม่บู ้านเพ่ือขอเทพยดามาปกป้ องค้มุ ครองและฝากชีวิตความเป็ นอยู่ทงั้ หมดไว้กับเทพยดาสิ่งศกั ดิ์สิทธิ์ สงู สดุ ง. การขอขมา (ตา่ มา เง) ต่า เก ต่า หรือพิธีขอขมาเป็ นบทบาทที่ของผ้นู าหม่บู ้านเช่น หากเกิดกรณีหน่มุ สาวผิดประเวณีก็ จะต้องให้ผ้นู าหมบู่ ้านทาพธิ ีขอขมาตามกฎหมายประเพณีของหมบู่ ้าน คหู่ นมุ่ สาวจะต้องไปที่เชิงบนั ไดของ ผ้นู าหม่บู ้านและขอผ้นู าหม้บู ้านทาพิธีขอขมาให้ท่ีนน่ั ฝ่ ายหญิงจะต้องต้มเหล้าและส้มป่ อย ฝ่ ายชายต้อง หาซือ้ หมหู รือววั หรือควาย 1 ตวั (แล้วแต่ข้อกาหนดของหม่บู ้าน) แล้วนาไปรวมกนั ที่เชิงบนั ไดผ้นู าหม่บู ้าน ที่เชิงบนั ไดนีจ้ ะต้องขุดหลมุ ไว้หน่ึงหลมุ ข้างในหลมุ จะปดู ้วยใบตอง ผู้นาหม่บู ้านจะนาข้าวสกุ วางลงใน หลุมพร้ อมกับรินเหล้าลงไป จากนนั้ ผู้หญิงจะจบั ขาหมูส่วนผู้ชายจะเชือดคอและเทเลือดลงในหลุม ใน ขณะเดยี วกนั นนั้ ผ้นู าหมบู่ ้านจะอธิษฐานภาวนาขอขมาตอ่ สง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ให้กบั ทงั้ สองด้วย จ. พิธีการคืนดี หรือพธิ ีกินสนั ติ (เอาะ ขอื่ ตา่ ) เอาะ ขอื่ ตา่ หรือพิธีคืนดจี ะเป็ นพิธีท่ีกระทาตอ่ เน่ืองจากพิธีขอขมา กลา่ วคอื เมื่อทาพิธีขอขมาซง่ึ มี ความหมายถึงผู้กระทาความผิดขอโทษต่อส่ิงศกั ดิ์สิทธ์ิ ผู้นาหม่บู ้านและเพื่อนบ้านแล้วก็จะทาพิธีเอาะ ข่ือต่าหรือพิธีคืนดี ซึ่งมีความหมายถึงการคืนดีต่อกันระหว่างผู้กระทาผิดกับเพ่ือนบ้าน และระหว่างส่ิง สูงสุด พิธีคืนดีนีก้ ็เพ่ือให้ทุกส่ิงทุกอย่างในหมู่บ้านกลับเข้าสู่ภาวะปกติสุขเหมือนปกติ ไม่ต้องมีการ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 19 บาดหมางผิดใจกนั และมีความทกุ ข์ร้อนต่อกนั อีกต่อไป ขอให้ความชวั่ ผ่านพ้นไปสิน้ สดุ ลงเพียงเท่านีแ้ ละ เร่ิมต้นชีวติ ใหมก่ นั อีกครัง้ หนงึ่ ผ้ทู าพธิ ีก็คือผ้นู าหมบู่ ้านเช่นกนั คกู่ ระทาผดิ ประเวณีต้องชว่ ยกนั หาซอื ้ ววั หรือควายหนง่ึ ตวั เพ่ือเป็ น สญั ญลกั ษณ์แห่งการคืนดกี นั ก่อนฆ่าทาอาหารจะต้องให้ผ้ทู าความผิดฝ่ ายชายเป็ นผ้จู งู และฝ่ ายหญิงเป็ น ผ้ตู ้อนโดยจูงไปรอบหมู่บ้าน พร้อมกบั ให้ทงั้ สองตะโกนด้วยเสียงดงั ทานองว่าเพื่อน ๆ ทงั้ หลายจงอย่าเอา เยี่ยงอยา่ งเพราะเป็ นสงิ่ ไมด่ ี หลงั จากนนั้ เพื่อนบ้านก็จะช่วยกนั ฆ่าววั ตวั นนั้ และแบง่ เนือ้ ให้กบั ทกุ ครอบครัว ยกเว้นผ้กู ระทาความผิดและครอบครัวญาตพิ ี่น้องทงั้ ฝ่ ายหญิงและฝ่ ายชาย จะไมก่ ินเนือ้ นี[้ 9] ระบบคุณค่าทางคุณธรรมและจริยธรรม สุภาษิต คาพังเพย และคาสอน เป็ นข้อคิดและส่ิงเตือนใจเป็ นสิ่งที่หล่อหลอมจิตใจให้ คน ประพฤติปฎิบตั ิตามแบบแผนวิถีชีวิตอนั ดีงามของชนปกาเกอะญอตลอดจนการปฎิบตั ิตนในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมได้อยา่ งสมดลุ ยงั่ ยนื 1. สุภาษติ ก. สภุ าษิตสอนความมใี จอดทน อดเปรี้ยวไดก้ ินหวาน, น้าข่นุ ย่อมไม่ชนะน้าใส, ตกไฟไม่ไหม้ ตกน้าไม่ไหล ข. สภุ าษิตสอนความมใี จกว้าง เห็นคนรวยอย่างยิ้ม เห็นคนจนอย่างทาหนา้ บึ้ง, ท้ายทอยของตนเองจะมองไม่เห็น, ทีจะรวยชา้ ดงั่ น้าหยด ทีจะ จนเร็วดง่ั น้าหก, แม่หมา้ ยอย่ารงั แก กาพร้าอย่าเข่นฆ่า ค. สภุ าษิตความมใี จเอือ้ เฟื อ้ เผื่อแผ่ ลูกก็จิตภรรยาก็ใจ เวลานอนทง้ั สองก็ขนาบข้าง, มารดาคือเจดีย์ บิดาคือวดั ป้ าคือมารดา ลงุ คือบิดา ง. สภุ าษิตสอนการมีใจสารวม อย่าปลน้ บ้านเขา อย่าลงหลงั ยงุ้ ผูอ้ ืน่ , อย่าล่าดืม่ หวั เหลา้ เขา, อย่าล่ากินหวั ข้าวผูอ้ ืน่ , เปิ ดฝายงุ้ เขา อย่าตกั ก้น ยงุ้ ผูอ้ ืน่ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

20 จ. สภุ าษิตสอนความมีใจถอ่ มตน มีดคมจะอยู่ในฝัก หอกคมจะอยู่ในฝัก, เชือ่ แม่ไดเ้ ป็นใหญ่ เชือ่ พอ่ ไดเ้ ป็นเจ้า, เชือ่ ผูเ้ ฒ่าไดแ้ หวน เชือ่ ผแู้ ก่ไดเ้ พชร, คนฉลาดจะลม้ ทีร่ าบ คนโง่จะลม้ ทีช่ นั ช. สภุ าษิตสอนความมีใจไกลเ่ กลี่ย หลงทางใหห้ นั กลบั ผิดพลาดใหย้ อมรบั , ฟ้ าไม่พน้ เมฆ คนไม่พน้ ผิด, อยู่ในกระบงุ ไม่สามารถยกตวั เองออกได้ 2. บทสอน ทากบั ดกั หนไู ด้กินหนกู ิน ทาไร่ทานาได้ข้าวกิน, คอ่ ย ๆ ทา คอ่ ย ๆ กิน, ทางานอยา่ งทาส กินอยา่ งราชา, ห้วยกลายเป็นบงึ บงึ กลายเป็นห้วย, งานให้ทาเอาไว้ อยา่ เอางานไว้ทา, โงไ่ มห่ มด ฉลาดไมส่ นิ ้ , ช้างดีเพราะควาญ สตรีดีเพราะสามี, ไก่ดที ่ีกระดกู คนดีที่ตระกลู , คนใจโหดยอ่ มพบกบั คนใจเหีย้ ม, แมต่ ายเฉือนหไู ว้ พอ่ ตายเฉือนลนิ ้ ไว้, ผ้หู ญิงขึน้ ต่อผู้ชาย ผู้ชายขึน้ ต่อราชา, ม้ามีพลงั ท่ีกีบเท้า คนมีพลงั ท่ีบุตรหลาน, ป้ องกันไว้ ดีกวา่ คาถา, อยใู่ นบ้านต้องเข้าข้างหมบู่ ้าน, ของฟรีราคาแพง, หากรวยก็รวยอยา่ ง สตั ย์ซ่ือ(อิสระ) หากจนก็จนอย่างสตั ย์สตั ย์ซ่ือ(อิสระ), สอนลกู หลานให้เข้มงวดเพราะความชว่ั หมนุ ดงั่ วงล้อ, แมเ่ สอื ลาย ลกู เสอื ก็ลายตาม, ของใหญ่แบง่ กนั กิน ของเลก็ จิม้ กิน (ให้กินอยา่ งประหยดั ) แขง็ เกินไปจะหกั ออ่ นเกินไปจะง่อยเปลยี ้ ปวกเปี ยก(งอ่ นเปลีย้ ), ตวั แมลงก่หู นีไม่พ้นตอไม้ ประ ัวติของปกาเกอะญอ กินหนแู ตไ่ มเ่ หน็ กบั ดกั กินข้าวแตไ่ มเ่ ห็นไร่, ไผ่อยทู่ ่ีลาปล้อง คนอยทู่ ี่ตระกลู 3. คาพงั เพย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 21 ไม่มีใครกล้าตดั นิว้ ตนเอง, จะดกี ็พน่ี ้อง จะเลวก็พ่ีน้อง, สิ่งอร่อยคอื ข้าว สิ่งดงี ามคือคน, แมบ่ ญุ ธรรม พ่อบญุ ธรรมไม่เหมือนพ่อแม่แท้, ห้ามขายเหล้าที่ทาพิธี, แม่สอนไม่ฉลาด ให้สอนตนเองเถิด, ผ้ทู ่ี ไม่เชื่อฟังคาแม่ ก็จะพบแตท่ างตนั เรื่อยไป, ลกู เอย๋ อยา่ ขดั คาแมเ่ ลย แม่เคยขดั และถกู ไม้เรียวมาแล้ว อยา่ สาปแช่งเวลาเดนิ ในป่ าใหญ่ทบึ , ห้ามไปนอนค้างคืนวนั ที่มีพิธีบก๊ะ, ห้ามออกไปค้างคนื เม่ือมีงาน ศพในหมบู่ ้าน, หมแู รกไกแ่ รกห้ามขาย, ลกู ของลกู ชายห้ามมาร่วมพิธีบก๊ะของป่ ยู า่ ข้อห้ามและข้อปฏบิ ตั ติ ามจารีตประเพณี การอย่รู ่วมกันในสงั คมจะต้องยึดถือระเบียบข้อบงั คบั กฎจารีตประเพณี และเห็นคุณค่าของ ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ชมุ ชนดาเนินชีวติ อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสขุ 1. ข้อห้ามระหว่างคนกับธรรมชาติ ป่ าช้า ป่ าช้าจะเป็ นป่ าหวงห้ามสาหรับหม่บู ้าน ห้ามการเข้าไปตดั ไม้และทาประโยชน์ใดทกุ คนต้อง เคารพข้อห้ามนี ้เพราะถือเป็ นแหล่งพกั พิงของเหล่าวิญญาณบรรพบรุ ุษ ซงึ่ พวกท่านก็ต้องการความสงบ ร่มเย็นเช่นเดยี วกนั ไร่เหลา่ ก่อนถางไร่เหล่า ห้ามผ้ใู ดเข้าไปตดั ไม้บริเวณนี ้เพราะเช่ือว่าดินจะเส่ือมคณุ ภาพและเสีย ความสม่าเสมอด้านความอดุ มสมบรู ณ์ ห้ามเผาป่ าบริเวณไร่เหลา่ ด้วยเหตผุ ลเช่นเดียวกนั สตั ว์ป่ า ชะนี นก กก และสตั ว์ป่ าขนาดใหญ่หลายชนิดจะห้ามลา่ และเมื่อถึงฤดวู างไข่ ผสมพนั ธ์ุและเลีย้ งลกู อ่อนจะห้ามล่า สตั ว์ป่ าทกุ ชนิด เพราะเป็ นชว่ งที่สตั ว์ป่ าขยายพนั ธ์ุ หากมี การลา่ ในช่วงนีก้ ็จะทาให้สตั ว์ป่ าสญู พนั ธ์ุไป ได้งา่ ย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 22 แม่นา้ ลาธาร บริเวณต้นนา้ ลาธาร โดยเฉพาะตานา้ ผดุ จะห้ามการตดั ไม้ทาลายป่ า ปลา ที่อยู่ ในตานา้ ผดุ หรือถา้ ลอดจะห้ามจบั เพราะเช่ือกนั วา่ ปลาเหลา่ นีม้ ีเจ้าของเลีย้ งไว้ หากผ้ใู ดฝ่ าฝื นข้อห้ามผ้นู นั้ เจ้าของธรรมชาตเิ หลา่ นีจ้ ะลงโทษ โดยการทาให้เจ็บป่ วยตา่ ง ๆ นานาได้ง่าย พืชผักต้นไม้ ผลไม้จะต้องรอให้ มันสุกถึงจะเก็บมากินได้ เวลาเก็บผลไม้ไม่ใช้วิธีโค่นต้นลง ทัง้ หมด ห้ามเก็บกินขณะขณะยงั ลกู อ่อน พืชผกั และต้นไม้ทุกชนิดห้ามตดั ทิง้ โดยเปล่าประโยชน์ ห้ามกาต้นไม้ เพราะเช่ือว่า ต้นไม้ก็มีชีวิต รู้จักเจ็บ รู้จักร้ องไห้ เช่นเดียวกับมนุษย์ ต้นไม้ที่ให้ผลเป็ น อาหารแก่มนษุ ย์ห้ามนามาสร้างบ้าน ดนิ ที่ดินบริเวณใดหรือต้นนา้ ลาธารท่ีมีสนิมเหล็กขนึ ้ บริเวณนนั้ จะห้ามการทาลายไม่วา่ ด้วยวิธีใด ๆ ทงั้ สนิ ้ เช่น ขดุ บอ่ นา้ เบกิ นา เป็ นต้น ดนิ บริเวณรอบ ๆ โป่ งจะห้ามการขดุ และห้ามถมโป่ ง 2. ข้อห้ามระหว่างคนกบั ชุมชน ในสงั คมชนปกาเกอะญอ จะมีกฎของชมุ ชนเพ่ือให้คนในหม่บู ้านยึดถือปฏิบตั ิในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สงั คมอยไู ด้อยา่ งปาติสขุ ดงั นนั้ จงึ มีกฎข้อห้ามหลายประการดงั นี ้ - ข้อห้ามเก่ียวกบั กาลเวลา - ข้อห้ามเกี่ยวกบั การย้ายเข้า ย้ายออกของคนในชมุ ชน กระบวนการผลิตและการพธิ ีกรรมท่เี ก่ยี วข้อง การเกษตรกรรมและหตั ถกรรมของชุมชน มีกระบวนการผลิตเป็ นขนั้ ตอนและมีพิธีกรรมความ เช่ือ เพอื่ ให้ได้ผลผลิตที่สมบรู ณ์ สอดคล้องกบั วิถีชีวติ ของชมุ ชนในการอนรุ ักษ์สง่ิ แวดล้อม 1. การทาไร่หมุนเวียน Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 23 ก.แนวคดิ ระบบความเชื่อที่เก่ียวกบั การทาไร่หมนุ เวียน ระบบการทาไร่ของชนปกาเกอะญอ เป็ นระบบการทาไร่ในลกั ษณะหมนุ เวียน โดยมีการหมนุ เวียน ใช้เวลาประมาณ 7 –10 ปี ทาให้ระบบนิเวศที่ถกู ทาลายไปเหลา่ นนั้ มีการฟื น้ ตวั กลบั สสู่ ภาพเดมิ มีการปลกู พืชผกั หลายชนิดในไร่ เช่น พนั ธ์ุข้าวประมาณ 2 – 3ชนิด ถว่ั แตงกวา ฟักทอง ฟักเขียว และเคร่ืองเทศอีก หลายชนดิ ข. ขนั้ ตอนและวฏั จกั รการทาไร่หมนุ เวียน กระบวนการเลือกท่ีทาไร่มีดงั นี ้ ต้องไม่เป็ นพืน้ ที่ป่ าต้องห้ามตามประเพณี ต้องไม่เป็ นข้ อห้าม ประเพณีในการเลือกพืน้ ท่ีทาไร่ และต้องไมม่ ีลางร้ายบอกเหตุ ในระหวา่ งรอการฟันไร่ การปลกู ข้าว มีวธิ ีปลกู และการดแู ลรักษาดงั นี ้คอื การเตรียมพืน้ ที่ปลกู ข้าว การถางไร่ รางกิ่ง การทาแนวกนั ไฟ การเผา การสะสมพนั ธ์ุพืช การปัดกวาดเศษไม้ การปลกู ข้าว พิธีแม่ข้าว 7 หลมุ (9 หลมุ ) พิธีเซน่ บชู าเทพตา่ ง ๆ พิธีมดั มือ ค.พธิ ีกรรมที่เก่ียวข้อง พธิ ีกินเชือ้ พนั ธ์ุข้าว พธิ ีเลยี ้ งผไี ร่ พิธีเลยี ้ งผีไร่ขอพร พิธีเลยี ้ งไร่ปัดรังคราญ พิธีเลยี ้ งเทพอคั คี พิธีเลยี ้ งเทพขวญั ข้าว พธิ ีไลค่ วามชว่ั ในไร่ พิธีกินหวั ข้าว พธิ ีนวดข้าว พธิ ีขอข้าว พธิ ีเรียกขวญั ข้าว พิธีเลยี ้ งนกขวญั ข้าว(โถ่ บอื ฆา่ ) พิธีกินข้าวก้นเพงิ นวด พธิ ีกินข้าวก้นย้งุ พธิ ีกรรมชว่ งการเก็บเกี่ยวผลผลติ 2. การทาสวน ระบบการทาสวนของสงั คมปกาเกอะญอ มีด้วยกนั หลยประเภทซงึ่ แตล่ ะประเภทนนั้ จะมีการใช้ ประโยชน์ที่แตกตา่ งกนั สวนในสงั คมปกาเกอะญอ ประกอบด้วย ก.สวนครัว Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 24 เป็ นสวนที่อยใู่ นหม่บู ้านโดยปกตแิ ล้วชนปกาเกอะญอ ทกุ ครอบครัวจะมีไว้สาหรับปลกู พืชผกั สวน ครัว เชน่ พริก มะเขือ อ้อย เผอื ก ฟัก บวบ มะระ และอน่ื ๆ ข.สวนในไร่ ปลายนา เป็ นสวนท่ีอยหู่ า่ งไกลจากหมบู่ ้าน แตจ่ ะอย่ใู กล้กบั พืน้ ที่ทากิน เช่น นา ไร่เหลา่ สวนประเภทนีช้ นป กาเกอะญอ ไมส่ ามารถมีได้ทกุ ครอบครัว พืชท่ีปลกู ในสวนเช่น กล้วย มะละกอ มะมว่ ง ขนนุ เป็นต้น ค.สวนในหมบู่ ้านร้าง เป็ นสวนท่ีเกิดจากการตงั้ ถิ่นฐานในพืน้ ท่ีนนั้ มาก่อนโดยคนยคุ นนั้ ได้ปลกู พืชผกั ผลไม้ยืนต้นเอาไว้ ดงั นนั้ หลงั จากการละทิง้ หม่บู ้านหรือการอพยพไปตงั้ หม่บู ้านท่ีอ่ืนไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พนั ธ์ุพืช เหลา่ นีจ้ ะยงั คงอยแู่ ละมนษุ ย์จะใช้เป็ นอาหารได้ตลอดไป โดยทว่ั ไปแล้วสวนบ้านร้างนีถ้ ือเป็ นสวนสว่ นรวม หรือสวนสาธารณะ ซง่ึ ทกุ คนมสี ทิ ธิในการเก็บผลผลิตได้โดยไมม่ ีใครแสดงความเป็นเจ้าของ 3. การทานา ระบบการผลิตของชนปกาเกอะญอ นาถือเป็นสง่ิ พงึ ปรารถนาของทกุ คนเพราะนาเป็ นพืน้ ที่ทากินท่ี มีความแน่นอนด้านการให้ผลผลิต และถ้าใครมีนาถือได้ว่าบคุ คลนนั้ มีฐานะท่ีมนั่ คงพอกินพอใช้ และเป็ น คนมีหน้ามีตาในชมุ ชน สาหรับลกั ษณะการทานาในสงั คมปกาเกอะญอ เป็ นนาแบบขนั้ บนั ได จะอย่ตู ามท่ี ราบลมุ่ หบุ เขา ริมแมน่ า้ ลาธาร ที่สามารถผนั นา้ เข้าไปในพืน้ ที่นาได้ ก. พิธีกรรมที่เก่ียวข้องกบั การทานา พิธีเลยี ้ งผเี หมือง-ฝาย การผกู ขวญั ควาย พิธีผกู ขวญั ช้าง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ความเช่ือแนวคดิ ของชมุ ชนทาให้เกิดการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยปฏบิ ตั ิตาม กฎระเบียบข้อควรปฏิบตั ิและข้อห้ามของชมุ ชนทาให้เกิดการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตติ อ่ ชมุ ชนตลอดไป Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 25 1. การอนรุ ักษ์ทรัพยากรป่ าไม้ ก.ป่ าหวงห้ามที่มีวญิ ญาณชวั่ สงิ สถิต ป่ าหวงห้ามประเภทนีเ้ชื่อวา่ มีจิตชวั่ สิงสถิตหรือเป็ นทางเดินผ่านของภตู ผี ลกั ษณะป่ าจะมีต้นไม้ท่ี ขนาดเท่า ๆ กนั จานวนมากและเป็ นต้นไม้ท่ีโตเต็มที่แล้วไมใ่ หญ่ขนึ ้ และเลก็ ลง คงขนาดไว้เท่านนั้ มกั เป็นป่ า ต้นนา้ ลาธาร สตั ว์เลีย้ งเช่นววั และควายมกั ไม่เดนิ เข้าไป บริเวณป่ านีจ้ ะไม่มีใครกล้าเข้าไปทาไร่หรือแม้แต่ ตดั ต้นไม้สร้างบ้านประโยชน์อื่น หากหม่บู ้านใดเคารพยาเกรงป่ าประเภทนีอ้ ย่างเคร่งครัดเชื่อกนั ว่าจะทา ให้มู่บ้านนัน้ มีความร่มเย็นเป็ นสุข แต่หากหมู่บ้านใดที่ฝ่ าฝื นข้อห้าม เข้าไปทาไร่หรือตัดต้นไม้เพ่ือใช้ ประโยชน์อย่างอ่ืนก็จะทาให้หม่บู ้านนนั้ ได้รับความทกุ ข์ร้อน หรือครอบครัวใดที่มีสมาชิกฝ่ าฝื นก็จะทาให้ สมาชิกคนใดคนหนงึ่ ของครอบครัวนนั้ เจบ็ ป่ วยหรือเสยี ชีวติ ลง ข.ป่ าเขานา้ ล้อม (เดะ หมื่อ เบอ) ป่ าเขานา้ ล้อมเป็ นป่ าท่ีอย่บู นเนินเขาท่ีมีลาห้วยสองสายไหลล้อมรอบและบรรจบกนั เช่ือกนั ว่าบน เนินเขาท่ีเป็ นป่ าประเภทนีจ้ ะเป็ นที่อยอู่ าศยั ของภตู ผี ไมม่ ีผ้ใู ดกล้าเข้าใกล้และเข้าไปทาประโยชน์ในบริเวณ นี ้บางหมบู่ ้านจะมปี ่ าประเภทนีห้ ลายแห่ง แตบ่ างหมบู่ ้านไมม่ ีเลย มีข้อห้ามวา่ ห้ามเข้าไปทาประโยชน์และ ใช้สอยใด ๆ ทงั้ สนิ ้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การตงั้ หมบู่ ้านจะไมส่ ามารถ ทาได้เลยถือเป็นข้อห้ามอยา่ งเด็ดขาด ค.ป่ าที่ราบเขาล้อม (เดะ หม่ือ วอ) ป่ าต้นนา้ ลาธารก็ดี ป่ าที่ราบลมุ่ ลาห้วยท่ีมีเขาล้อมรอบก็ดีชนปกาเกอะญอถือเป็ นเขตป่ าหวงห้าม ด้วยเช่นกัน เป็ นป่ าท่ีมีภูตผีเป็ นเจ้าของ ไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้อง จึงมีการห้ามเข้าไปทากิจกรรมใด ๆ ทงั้ สนิ ้ เช่น ห้ามทาไร่ ห้ามสร้างหมบู่ ้าน ห้ามเบกิ นาและห้ามนอนค้างคนื เป็นต้น ง.ต้นโพธ์ิ ต้นไทร ชนปกาเกอะญอ เชื่อว่าต้นโพธ์ิต้นไทรเป็ นต้นไม้ของภตู ผี โดยเฉพาะต้นโพธิ์ต้นไทรที่มีขนาดใหญ่ และมีโพรง เพราะมกั จะมีการนาศพทารกไปเก็บไว้ในโพรงโดยเช่ือว่าวิญญาณบรรพบุรุษคอยอย่ทู ี่น่ี ต้น โพธิ์ต้นไทรเป็ นต้นไม้ที่ไมเ่ คยตายเลย เพราะก่อนต้นแมจ่ ะตายก็จะลงรากบนดินและแตกหน่อใหมเ่ สียก่อน ตอ่ เมื่อหน่อเจริญเติบโตได้เองแล้ว ต้นแมจ่ ะเห่ียวเฉาและตายไป เช่ือกนั วา่ หากต้นโพธ์ิต้นไทรโคน่ ลงจะยงั Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 26 ความวิเวกวังเวงแก่ลูกหลานย่ิงนัก ลูกหลานทงั้ ท่ีเป็ นภูตผีและสตั ว์ป่ านานาพันธ์ุ เพราะสตั ว์ป่ าเหล่านี ้ อาศยั ต้นโพธิ์ต้นไทรเป็ นแหลง่ อาหารและความร่มเย็นเป็ นสขุ ด้วยเหตนุ ีช้ นปกาเกอะญอจะห้ามตดั ต้นโพธ์ิ ต้นไทรอยา่ งเดด็ ขาดเพราะหากตดั จะถือวา่ ได้ทาบาปตอ่ ลกู หลานผ้อู าศยั เชื่อกนั ว่าผ้ใู ดฝ่ าฝื นข้อห้ามจะไม่ มีลกู หลานสืบตระกลู ตอ่ ไป ต้นโพธ์ิต้นไทรจะอย่ทู กุ หม่บู ้านและทกุ แผน่ ดิน หม่บู ้านใดแผน่ ดินใดมีต้นโพธ์ิต้นไทรมากและผ้คู น เคารพนบั ถืออยา่ งดีจะทาให้หมบู่ ้านหรือแผ่นดินนนั้ มคี วามสงบและร่มเย็นอยา่ งแท้จริง 2. การอนุรักษ์ทรัพยากรนา้ ก. แม่นา้ ลาธาร แม่นา้ ลาธารทุกสายจะมีเจ้าของ ชนปกาเกอะญอเรียกว่า “นา ที” หมายความว่า“วิญญาณ นา้ ” หรือ “ผีนา้ ” มนษุ ย์ต้องเคารพยาเกรงหากผ้ใู ดไมเ่ คารพยาเกรงแมน่ า้ อจุ จาระปัสวะลงไปหรือตดั ต้นไม้ บริเวณต้นนา้ ลาธาร “นาที” จะลงโทษผ้นู นั้ โดยให้ล้มป่ วยลง และผ้นู นั้ ต้องทาพิธีขอขมาลาโทษตอ่ นาทีด้วย การฆ่าหมหู รือไก่มาเลีย้ ง แตต่ รงกนั ข้ามหากเราเคารพยาเกรงท่าน ท่านก็จะคอยปกปักษ์ค้มุ ครองชีวิตเรา ให้มีความร่มเยน็ เป็ นสขุ เชน่ เดยี วกนั ข.นา้ ลอด (ที หนึ) ลกั ษณะนา้ ลอดคือลาห้วยหรือแม่นา้ ท่ีลอดเข้าถา้ หรือภเู ขาเข้าไป เชื่อกนั ว่านา้ ลอดนีม้ ีเจ้าของที่ เป็ นงหู รือภตู ผีก็ได้ เจ้าของที่เป็ นงไู ด้แก่งเู หลือมและพญานาคเป็ นต้น หากเข้าไปในนา้ ลอดแม้จะกลา่ วคา หยาบหรือสาปแช่งอะไรเลก็ ๆ น้อย ๆ ก็ไมส่ ามรารถทาได้เพราะถือเป็นข้อห้ามโดยเดด็ ขาด ค.ตานา้ ผดุ (นา อุ๊ หรู่) ตานา้ ผดุ เป็ นแหลง่ กาเนิดของนา้ ตามธรรมชาติอย่างหนง่ึ ที่มีขนาดใหญ่ บางแห่งใหญ่จนสามารถ ไหลลงมาเป็ นลาห้วยได้เลย เป็ นแหล่งกาเนิดของนา้ ท่ีชนปกาเกอะญอให้ความเคารพยาเกรงเป็ นอย่างย่ิง Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 27 บริเวณรอบ ๆ จะมีต้นไม้ขนึ ้ มากมาย ซงึ่ ทาให้มีความร่มเย็นและช่มุ ชืน้ ตลอดทงั้ ปี ห้ามผ้ใู ดมารบกวนและ ทาลายต้นไม้ในบริเวณนี ้หากผ้ใู ดฝ่ าฝื นจะได้รับความเจ็บไข้ได้ป่ วยหรือล้มตายอยา่ งแน่นอน ง.โป่ ง (มอ) โป่ งเป็ นแหล่งธาตุอาหารประเภทเกลือของสตั ว์ป่ าหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างย่ิงสัตว์ป่ าขนาด ใหญ่ เช่น กระทิง ควายป่ า กวาง เก้ง และแรด เป็ นต้น ชนปกาเกอะญอจะเคารพยาเกรงและอนรุ ักษ์โป่ งไว้ อยา่ งดี ห้ามการตดั ไม้บริเวณรอบ ๆ โป่ ง ผ้ใู ดฝ่ าฝื นก็ถือวา่ ผ้นู นั้ จะทาบาปตอ่ สตั ว์ป่ าท่ีมากินโป่ งเหลา่ นนั้ 3. การอนุรักษ์สัตว์ป่ า สตั ว์ป่ าทกุ ชนิดเช่ือวา่ มีเจ้าของคอยตดิ ตามตวั และคอยค้มุ ครองดแู ล เจ้าของสตั ว์ป่ าเหลา่ นีจ้ ะมีทงั้ ดรุ ้ ายและไม่ดรุ ้ ายทงั้ ท่ีตระหนี่และใจดี โดยเฉพาะสตั ว์ป่ าขนาดใหญ่เจ้าของจะดูแลค้มุ ครองเป็ นพิเศษ ไม่ให้มนษุ ย์ลา่ เนือ้ เช่นยิงไมอ่ อกแม้ยิงออกแตไ่ ม่ถกู เชื่อกนั ว่าเจ้าของคือภตู ผีท่ีขี่หลงั ติดตามตวั ตลอดทกุ เมื่อเช่ือวนั สตั ว์ป่ าเหลา่ นี ้ตวั อย่างเช่น หม่ปู ่ าตวั ผู้ หมี เสือ แรด ช้างป่ า เก้ง กวาง เลียงผาและหมี เป็ นต้น เจ้าของสตั ว์ป่ าเหลา่ นีช้ นปกาเกอะญอเช่ือวา่ มนษุ ย์เคารพทา่ นและท่านก็จะเคารพมนษุ ย์ด้วยเชน่ เดียวกนั การดแู ลรักษาสุขภาพ การใช้สมนุ ไพร การเสีย่ งทาย การทานายและการใช้คาถา เป็นภมู ิปัญญาพืน้ บ้านท่ีใช้ในการตรวจ วินิจฉยั โรค ป้ องกนั และการรักษาโรควิธีหนง่ึ ของชนปกาเกอะญอ 1. ระบบความเช่ือท่เี ก่ียวกับการดแู ลสุขภาพ ชนปกาเกอะญอ เช่ือวา่ คนเราจะมีสขุ ภาพท่ีแขง็ แรงสมบรู ณ์ได้นนั้ ขนึ ้ อยกู่ บั สภาพของขวญั ซง่ึ มอี ยู่ ทงั้ หมด 37 ขวญั คือถ้าคนใดมีขวญั อย่กู บั เนือ้ กบั ตวั หรือขวญั แข็ง จะทาให้มีสภุ าพท่ีแข็งแรงสมบรู ณ์สว่ น Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 28 คนที่มีขวญั อ่อนหรือขวญั หนีไปไมอ่ ย่กู ับตวั หรือทาผิดกฎทาให้เจ้าที่เจ้าทาง หรือสง่ิ ศกั ด์ิสิทธิ์ลงโทษทาให้ เกิดการเจ็บป่ วยลงไป 2. ระบบความเช่อื ท่เี ก่ยี วกับการเจบ็ ป่ วย สาเหตขุ องการเจ็บป่ วยทกุ ชนิดเชื่อว่าเกิดจากสาเหตุ 2 ประการ ประการแรกเกิดจากการทาของผี ซงึ่ เป็ นผีร้าย ผีตายโหง ผีหิวโหย จบั เอาขวญั ไปเป็ นตวั ประกนั เพื่อแลกเปลี่ยนกบั อาหารของเคร่ืองเซ่นไหว้ ของตน ประการที่สองเกิดจากการพฤติกรรมของมนษุ ย์เอง เช่น การบริโภคอาหารท่ีมีพิษทาให้เกิดโรคได้ การผิดกฎจารีตของสังคม ครอบครัว ทาให้ ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองหมู่บ้านลงโทษ ดังนัน้ ชนปกา เกอะญอื ปกาเกอะญะ ได้แบง่ สาเหตกุ ารเจบ็ ป่ วยออกเป็น 2 ประเภท 2.1 การเจบ็ ป่ วยสาเหตุมาจากการกระทาของผี ก. การเจบ็ ป่ วยแบบฉบั พลนั การเจ็บป่ วยประเภทนีเ้ ช่ือว่าเป็ นการทาของผีร้ายประเภทต่าง ๆ ซง่ึ มีวิธีการรักษาโดยการไปหาผู้ เส่ียงทาย(คนทรง) เรียกว่า“เซอะ หระ ก่า ต่า” เพื่อดูเมื่อว่าถูกผีตนไหนกระทาจับขวญั ไปเม่ือไร ท่ีไหน ต้องการอะไร หลงั จากนนั้ จะเลอื กวิธีการรักษา ซง่ึ มีวิธีการรักษาดงั นี ้ หวี่ ตา่ เช่ือว่าผีก๊ะป่ าออกไปหากินและจบั ขวญั ของผ้ปู ่ วยไว้ ดงั นนั้ จะต้องนาอาหารไปแลกเพื่อให้ ขวญั กลบั มาอยกู่ บั ตวั ดงั เดิม เซอ ตา่ (การสง่ สะตวง) เช่ือวา่ ผีตายโหงชนปกาเกอะญอเช่ือวา่ เป็ นวิญญาณ หิวโซ ต้องการอาหารและจบั ขวญั คนป่ วยไป ดงั นนั้ ก็ต้องเอาของต่าง ๆ ไปไหว้ผีเคลาะ แกว๊ะ ต่า เชื่อว่าผี ช้างผีม้า จบั ขวญั คนป่ วยต้องไปแลกด้วยข้าวเปลือก ข้าวสารขมิน้ ส้มป่ อย เศษหม้อดิน ขนไก่ เปลือกไข่ตา่ ตอ่ เส่ เช่ือวา่ ผีก๊ะป่ าจบั ขวญั ของคนป่ วยไปดงั นนั้ ต้องนาอาหารสง่ิ ของไปแลกหรือไถ่คนื มา ข. การเจบ็ ป่ วยแบบคอ่ ยเป็ นคอ่ ยไป การเจ็บป่ วยในลกั ษณะนีเ้ช่ือวา่ เป็ นการกระทาของผีเช่นกนั แตอ่ าการนนั้ จะไม่ปรากฏทนั ทีทนั ใด แต่อาการจะเกิดขึน้ ทีละน้อย เช่นเจ็บตา เจ็บข้อมือข้อเท้า รวมทงั้ อาการไม่เป็ นปกติของสภาพจิตใจ เช่น ไม่อยากกลบั ไปอย่บู ้าน พดู เพ้อเจ้อ นอนละเมอ เลอะเลือน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไม่มีแรงทางานเป็ นต้น Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 29 การรักษานนั้ เร่ิมจากการไปหาเซอะ หระ ก่า ต่า (คนทรง) ในหม่บู ้านเพ่ือค้นหาสาเหตแุ ละมีวิธีการรักษา ดงั นี ้ แบล ถ่อ ที (การโรยข้าวสารทิง้ ไข่ลงในนา้ ) เป็ นวิธีการรักษาตามความเชื่อว่าท่ีเชื่อว่าเป็ นการ กระทาของผีนา้ ท่ีเรียกวา่ นา ที ซงึ่ สาเหตนุ นั้ มาจากผ้ปู ่ วยไปรบกวนนาทีทาให้นาทีไม่สบายดงั นนั้ นาทีก็ทา ให้ผ้ปู ่ วยไมส่ บายด้วย ก่ี ฉู่ จือ (การมดั มือ) เชื่อว่าผีป่ าจับขวญั ไปโดยผ้ปู ่ วยจะมีอาการในสภาพขวญั หนีจิตใจไม่ปกติ ฟ้ งุ ซา่ น ละเมอ อาการออ่ นเพลีย จึงทาการมดั มือเพ่ือให้ขวญั กลบั มาอย่กู บั ผ้ปู ่ วยหรือทาให้ขวญั แข็งขึน้ (มี ความมนั่ ใจมากขนึ ้ ) ตา่ แกว๊ะ พือ เชื่อวา่ วญิ ญาณของพอ่ แม่ที่ตายแล้วจบั เอาขวญั ไปอยใู่ นปลอื ก่อ (โลกแห่งวญิ ญาณ) ดงั นนั้ จะต้องเตรียมเหล้า ข้าวต้ม เหลก็ งอ ลกู ปัด ไก่ 1 คู่ (ตวั ผู้ – ตวั เมีย) ไปทาพิธีท่ีเส่ ฆะ ทิ (ต้นไม้ท่ีตายแล้ว) หลงั จากนนั้ กลบั ไปมดั มือผู้ป่ วยท่ีบ้านวิธีการรักษาแบบนีจ้ ะทาให้สาหรับคนอายุ ตงั้ แต่ 50 ปี ขนึ ้ ไป 2.2 การเจบ็ ป่ วยจากเชือ้ โรค ของมีพษิ และอุบตั เิ หตุ การเจ็บป่ วยประเภทนีเ้ช่ือวา่ สาเหตจุ ากพฤตกิ รรมของมนษุ ย์โดยแยกออกได้ดงั นี ้ เกิดจากการรับประทานอาหารโดยรู้เทา่ ไม่ถงึ การณ์หรืออาหารที่มีพิษทาให้เกิดการเจ็บป่ วยขนึ ้ เจ็บท้อง แนน่ ท้อง เกิดจากการรับประทานอาหารท่ีผดิ เวลา ท้องร่วง ( ลู ) เชื่อวา่ เกิดจากการรับประทานอาหารท่ีมีเชือ้ โรค เช่น อาหารบดู อาหารที่เสียแล้ว (แจวะ) เช่ือว่าเกิดจากการรับประทานอาหารท่ีมีพิษร้ ายแรง เช่น เห็ด อาการของคนป่ วย อาเจียนและท้องร่วงอยา่ งรุนแรง ก. เกิดจากการทาผิดกฎของหมบู่ ้าน สงั คม Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 30 เช่น การผิดลกู เมียผ้อู ื่น ทาให้ผ้ปู ่ วยหรือญาติพี่น้องผ้ปู ่ วยเองไม่สบายหรือแม้คนในชุมชนเองเจ็บป่ วยก็ เป็ นได้ ข. เกิดจากการกระทาผิดกฎของระบบทามาหากินที่เรียกวา่ “ ถิ” “ถิ” แปลว่า หนีบหรือทบั ทาให้เจ้าของไร่ นา ไมส่ บายซงึ่ ในบางรายถึงกบั ชีวิต ค. เกิดจากการกระทาผิดกฎบรรพบรุ ุษ เชื่อว่า ซิ โข่ หมื่อ ฆา หรือผีบรรพบุรุษถูกกระตุ้นจากผีร้ ายญาติ (นาจ๊ิ นา จิ๊ เทาะ)ให้ไปรบกวนทาให้ ลกู หลานเจบ็ ป่ วยลง จงึ ต้องทาพิธีเอาะ บก๊ะ 3. วิธีการรักษาอาการเจบ็ ป่ วย ประเภทของหมอพนื ้ บ้าน คาว่าหมอในภาษาชนปกาเกอะญอ นนั้ จะไม่มีคาแปลโดยตรง แตจ่ ะมีความหมายที่ตรงกบั ผ้รู ู้ ผู้ ชานาญหรือผ้มู ีญาณพิเศษ ในแตล่ ะด้านเรียกวา่ “เซอะ หระ” ซง่ึ แปลว่า ครูหรืออาจารย์ ในท่ีนีห้ มายถึงผ้มู ี ความรู้ความสามารถท่ีจะรักษาผ้ปู ่ วยได้ ดงั นนั้ จาการศกึ ษาสามารถจาแนกออกได้ดงั นี ้ ก. กลมุ่ เซอะ หระ กา่ ตา่ เป็ นกลมุ่ คนท่ีมีความรู้ความสามารถในการเส่ียงทาย ทานายทายทกั หาสาเหตขุ องการเจ็บป่ วยท่ี เชื่อว่ามาจากภตู ผี เช่น อาการปวดหวั เจ็บข้อมือข้อเท้าอาการหน้ามืดตาลาย ดงั นนั้ คนไข้หรือญาติจะไป หา เซอะ หระ ก่า ต่า ในหม่บู ้านเพ่ือทานายหาสาเหตุ โดยใช้เทคนิควิธีการหลายอย่าง เช่น ข้าวสารหรือ ข้าวหรือผ้า ข. เซอะ หระ แก เลาะ ตา่ เป็ นกลมุ่ คนท่ีมีความรู้ความสามารถในด้าน การรักษาอาการของคนไข้ ประกอบด้วย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 31 กลุ่มหมอยาสมุนไพร กลุ่มนีจ้ ะมีความรู้ ความสามารถในการใช้ยาสมุนไพร บางคนก็มีความรู้ด้าน คาถาอาคมด้วย เพราะในการรักษาคนไข้นนั้ จะให้ยาสมนุ ไพร และคาถาอาคมควบค่ไู ปด้วยกนั กล่มุ หมอ ประเภทบีบ นวด จบั ชีพจร (จือ เซ) กลมุ่ นีแ้ บง่ ออกเป็น 3 กลมุ่ ยอ่ ย คือ หมอตาแย จะมีความสามารถในการทาคลอดทารก หมอจับเส้นบีบนวด เป็ นผู้รู้ด้านการบีบนวดเส้นเอ็น อาการเคล็ดขัดยอก และหมอจับชีพจร เป็ นกลุ่มที่มีความสามารถในการจับชีพจรแต่ใช้ควบคู่ไปกับ คาถาอาคมในการวินิจฉยั โรคหรืออาการเจ็บป่ วย ค.หมอผี (คนเข้าทรง) เป็ นผ้มู ีที่มีความรู้ความสามารถด้านการใช้คาถาอาคมโดยเฉพาะ ประกอบด้วย เซอะ หระ ป๊ ะ ตา่ จะรักษาคนไข้ที่ผีจบั เอาขวญั ไป เซอะ หระ หว่ี โดะ ตา่ จะรักษาคนไข้ท่ีมีสขุ ภาพออ่ นแอที่เชื่อวา่ ผีป่ าจบั ขวญั คนป่ วยไป 4. การวินิจฉัยโรค การวินิจฉยั อาการโรคของกลมุ่ หมอต่าง ๆ นนั้ ขนึ ้ อย่กู บั ประสบการณ์ความรู้ความสามารถที่ได้ร่า เรียนมา จะเห็นได้ว่ากลมุ่ หมอพืน้ บ้านท่ีมีความรู้ด้านการจบั เส้นเอ็น บีบนวด จะวินิจฉยั โรคโดยอาศยั การ สงั เกตอาการของโรค หมอผีจะวนิ ิจฉยั โรค โดยอาศยั คาถาอาคม การจบั ชีพจรผ้ปู ่ วยและเครื่องมือ อปุ กรณ์ พืน้ บ้านช่วย หมอสมุนไพรจะวินิจฉัยโรคโดยการสังเกตอาการของผู้ป่ วยว่าเป็ นอะไรท่ีผ่านมาได้ทา อะไรบ้าง และอาศยั ประสบการณ์ของหมอพืน้ บ้าน 5. วธิ ีดแู ลรักษาสุขภาพ การรักษาอาการเจ็บป่ วยของหมอพืน้ บ้านแต่ละคน แต่ละประเภทจะใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และระบบความเชื่อที่มีฝี มือการปรุงยาซงึ่ ชนปกาเกอะญอเอามารักษากบั อาการการเจ็บ ป่ วย ซึ่งว่าคนเราแต่ละคนจะมีโชคชะตาราศีที่ไม่ตรงกันไม่เหมือนกัน ดงั นนั้ หมอพืน้ บ้านแต่ละคนไม่สามารถ รักษาคนไข้ให้หายได้ทกุ คน คือหมอพืน้ บ้านคนหนง่ึ อาจรักษาคนป่ วยคนหนงึ่ ให้หายได้ก็ได้ แตก่ บั คนป่ วย อีกคนหนง่ึ อาจรักษาไมห่ าย ดงั นนั้ วธิ ีการรักษาอาจจะมีหลายรูปแบบหลายวธิ ีการดงั นี ้ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 32 ก. การรักษาด้านร่างกาย การรักษาด้านร่างกาย หมายถึง การรักษาอาการของโรคของคนป่ วยท่ีเกิดจากทัง้ ภายนอกภายใน ซง่ึ สาเหตขุ องโรคมาจากหลายสาเหตุ เชน่ เชือ้ โรค อบุ ตั เิ หตุ และอื่น ๆ วิธีการรักษานนั้ หมอพืน้ บ้านใช้หลายรูปแบบ ทัง้ นีข้ ึน้ อยู่กับความรู้ความสามารถและระบบความเช่ือของหมอ พืน้ บ้านซงึ่ สามารถแยกวธิ ีออกเป็ นดงั นี ้ การรักษาด้วยยาสมนุ ไพร ตวั ยาสมนุ ไพรท่ีใช้ได้มาจากพืช สตั ว์ แร่ธาตุ และพลงั งาน การรักษาจะ มีความหลากหลาย ขนึ ้ อยกู่ บั ลกั ษณะและรูปแบบของการเจบ็ ป่ วยดงั ตวั อยา่ ง ก. อาการชา้ ใน รักษาโดยการต้มยาให้ดื่ม ข. อาการฟกชา้ เคล็ดขดั ยอก รักษาโดยการนวด การพอกยา ค. อาการท้องเสยี กินอาหารพิษ รักษาโดยให้รับประทานยาสมนุ ไพร ง. อาการฟื น้ ไข้ ผ้หู ญิงหลงั คลอดลกู รักษาโดยการอบไอนา้ สมนุ ไพร เป็นต้น สมนุ ไพรที่รักษาการเจ็บไข้ได้ป่ วยได้มาจาก ทงั้ สตั ว์ แร่ธาตุ และพลงั งานการักษา ตวั อยา่ งเชน่ จ. สมนุ ไพรท่ีได้จากพืช เช่น วา่ นชนิดตา่ ง ๆ ขิง ขมิน้ ฉ. สมนุ ไพรท่ีได้จากสตั ว์ เชน่ เขากวาง ก้างปลา กระเพาะตวั นิ่ม ช. สมนุ ไพรที่ได้จากแร่ธาตุ เชน่ ดิน จอมปลวก ซ. สมนุ ไพรที่ได้จากพลงั งาน เชน่ การเผาก้อนหนิ ให้ร้อน การรักษาโดยการใช้คาถาอาคม หมอพืน้ บ้านบางคนมีความสามารถด้านคาถาอาคมโดยเฉพาะ ดงั นัน้ กลุ่มนีจ้ ะใช้คาถาอาคมในการรักษาโรค ซ่ึงสามารถรักษาโรคท่ีเกิดจากทัง้ ภายนอกและภายใน ร่างกายดงั ตวั อยางดงั นี ้ ก. คาถาใช้รักษาอาการปวดหวั Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 33 ข. คาถาใช้รักษาอาการโรคงสู ะหวดั ค. คาถาใช้รักษาแผลสด จากอบุ ตั เิ หตุ ง. คาถาใช้รักษาอาการชา้ ใน เลอื ดตกในจากอบุ ตั เิ หตุ เป็นต้น การรักษาโดยใช้คาถาอาคมและยาสมนุ ไพร โดยปกติแล้วคนที่เป็ นหมอพืน้ บ้านที่เป็ นผ้ชู ายทกุ คน จะมีความรู้ความสามารถทงั้ ตวั ยาสมนุ ไพร และคาถาอาคม ดงั นนั้ หลายครัง้ จะมีการรักษาโดยใช้ทงั้ สอง แบบควบคกู่ นั ไป เช่นกระดกู หกั จะมีการใช้ยาสมนุ ไพรและคาถาอาคมพร้อม ๆ กนั ไปกบั การรักษาโดยการ จบั เส้น บบี นวดซง่ึ เป็ นการรักษา อาการเคลด็ ขดั ยอก ปวดเม่อื ยตามร่างกาย ข. การรักษาด้านจิตใจ การรักษาด้านจิตเป็ นการรักษาอาการของคนไข้ที่ใช้ภมู ิปัญญาองค์ความรู้และความเช่ือเพ่ือเป็ นกาลงั ใจ ให้แก่คนไข้ เพ่ือให้สามารถตอ่ ส้กู บั โรคภยั ได้ ในระบบหมอพืน้ บ้านของชน ปกาเกอะญอ พอสรุปได้ดงั นี ้ ก. ตา่ ก่ี จือ (การมดั มือ) เป็ นการรักษาคนไข้ที่มีอาการออ่ นเพลีย การฟื น้ ไข้หรือสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ ข. ตา่ เก๊าะ เก่อ ลา (การเรียกขวญั ) เป็ นการักษาคนไข้ตามความเช่ือว่าขวญั ไม่อยู่ กบั เนือ้ กบั ตวั หนีไป เนื่องจากสาเหตุ การตกใจ การสะด้งุ อยา่ งรุนแรง ค. ตา่ แกวะ พือ เป็ นการรักษาคนไข้ที่มีอายมุ ากแล้วที่อาการออ่ นเพลีย เบื่ออาหารและสภาพจิตใจไม่ ปกติ ซงึ่ เช่ือวา่ พอ่ แมท่ ี่ตายแล้วนา เกอ่ ลา ไปท่ียมโลก หมายถงึ “ปลอื ก่อ” ง. ตา่ เดาะ หลอ่ื เป็ นการรักษาคนไข้ที่มีอาการหนกั มาก โดยเช่ือวา่ วิญญาณของคนไข้ไปอยทู่ ี่ ปลือ ก่อ แล้ว จ. การลงผเี จ้านายและการเซน่ ไหว้ด้วยวธิ ีตา่ ง ๆ ฉ. ข้อห้ามและข้อปฏบิ ตั ิ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 34 ขณะรักษาด้วยหมอสมนุ ไพรหรือหมอพืน้ บ้านบางคนจะมีการห้ามและข้อปฏิบตั ิสาหรับผ้ปู ่ วยที่ ต้องอดอาหารบางประเภท เช่น เนือ้ สตั ว์บางชนิดท่ีมีกล่ินแรง (ต่า เนอ ปก่า) เช่น เนือ้ ววั เนือ้ ควาย เนือ้ แพะ เป็ นต้น พืชบางชนิด เช่น ฟักทอง ส่วนข้อปฏิบตั ิหลงั รักษาเสร็จแล้วนนั้ ผ้ปู ่ วยทกุ คนต้องมาดาหวั ให้ หมอพืน้ บ้าน อนั เป็ นความกตญั ํู ความเคารพ ค. ภมู ิหลงั ของการดแู ลรักษาสขุ ภาพ จากความเชื่อที่ว่าการเจ็บป่ วยเกิดจากการกระทาของผี คือผีจบั เอาขวญั มนษุ ย์ไปหรือมาจากการละเมิด กฎจารีตของสงั คม ถกู เจ้าท่ีเจ้าทางลงโทษทาให้มีการเจ็บป่ วยเกิดขึน้ ดงั นนั้ การรักษาคนไข้หมอพืน้ บ้าน อาจมีวิธีการรักษาหลายวิธี และคนไข้บางคนอาจใช้หมอรักษาหลายคนการเจ็บป่ วยจึงหาย ทงั้ นีช้ นปกา เกอะญอ เช่ืออีกวา่ คนเราแตล่ ะคนจะมจี ติ ผกู พนั ธ์ในระดบั ที่แตกตา่ งกนั ง. การดแู ลรักษาสขุ ภาพของผ้หู ญิงตงั้ ครรภ์ ในด้านการดแู ลรักษาสขุ ภาพให้มีความแข็งแรงนนั้ ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากบรรพบุรุษ เดมิ เช่นเดียวกบั ชนเผา่ อื่น ๆ คือเริ่มตงั้ แตเ่ ด็กที่อย่ใู นท้องมารดาจนถึงวยั ชราภาพ ซง่ึ จะเห็นได้จากจะมีข้อ ห้ามและข้อพงึ ปฏบิ ตั ิทงั้ บดิ า มารดาจะมีข้อห้ามและข้อปฏบิ ตั ดิ งั นี ้ ก. ข้อห้ามของมารดาช่วงขณะตงั้ ครรถ์ ห้ามกินตวั ออ่ นของตวั ตอ่ ห้ามกินอาหารที่มียาง เชน่ เผือก ขนนุ ห้ามกินเนือ้ หมปู ่ าและสตั ว์ท่ีถกู เสอื กดั ตาย ห้ามนอนหลบั มากเกินไปและทางานหนกั เกินไป ข. ข้อห้ามสาหรับบดิ า ห้ามทะเลาะกบั ผ้อู ่ืน ห้ามมีคดคี วามฟ้ องร้อง Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

35 ห้ามดดุ า่ ลกู เมยี ห้ามลา่ สตั ว์บางชนิดและกินเนือ้ สตั ว์ป่ าที่คนลา่ ได้ ห้ามเข้าใกล้เตาตเี หลก็ ประ ัวติของปกาเกอะญอ ค. ข้อสาหรับบดิ ามารดา มารดาให้กินผกั บารุงร่างกาย รักษาความสะอาด ทางานให้มีความพอเหมาะ และรักษาอารมณ์ให้ดีอยู่ เสมอ สาหรับบดิ าให้รักษาอารมณ์ จิตใจให้แจม่ ใสอยเู่ สมอ และจดั อาหารให้เหมาะสมแก่ภรรยา 6. ความหมายและประโยชน์ของการเส่ียงทาย การดดู วงชะตาหมายความว่าหลายครัง้ ชีวิตการทามาหากินและความเป็ นอย่ไู ม่เป็ นไปตามที่ เราคาดหวงั เอาไว้ และซา้ ร้ายไปกวา่ นนั้ ชีวติ ต้องพบกบั อปุ สรรคเกินกวา่ ท่ีเราแก้ปัญหาและ ทาใจยอมรับได้ เมื่อเป็ นเช่นนีเ้ราจะต้องหาทางออกด้วยการไปหาผ้ทู ่ีเคยมีประสบการณ์มากอ่ น และผ้นู นั้ ก็ ให้คาแนะนาหรือเตือนเราให้ระวงั ส่ิงนนั้ ส่ิงนีท้ ่ีจะเกิดขนึ ้ การปฏิบตั ิเช่นนีห้ ลายครัง้ และหลายคนมีชีวิตที่ดี ขนึ ้ ได้ การเสี่ยงทายแยกได้หลายประเภทตามวตั ถปุ ระสงค์ เช่น การเสย่ี งทายสาหรับคนป่ วย การเส่ียง ทายสาหรับการทามาหากิน การเส่ียงทายสาหรับสตั ว์เลีย้ งหาย การเส่ียงทายสาหรับล่าสตั ว์ป่ า การส่ียง ทายสาหรับการเดินทาง และการเสี่ยงทายเพื่อดขู วญั ว่าอ่อนหรือแข็ง เป็ นต้น เรื่องราวจะเป็ นเป็ นอย่างไร หรือจะเกิดอะไรขนึ ้ ในอนาคตก็จะปรากฏออกมาในการเส่ยี งทายทงั้ สนิ ้ นอกจากการเสี่ยงทายจะแยกตามวตั ถปุ ระสงค์แล้วยงั สามารถแยกได้ตามวสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีใช้ใน การเสี่ยงทายได้ด้วย 7.ประเภทของการเสี่ยงทาย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 36 การเสี่ยงทายด้วยกระดูกไก่ การเส่ียงทายด้วยกระดูกไก่สามารถเส่ียงทายได้ทัง้ สาหรับการ เจ็บป่ วย ทรัพย์สมบตั ิหรือส่ิงของใด ๆ หาย การทามาหากินและอ่ืน ๆ อีกหลายอย่างหรืออาจจะเรียกได้ว่า ใช้ในพิธีเส่ียงทายได้เกือบทุกประเภทชนปกาเกอะญอเช่ือว่าไก่เป็ นสตั ว์ท่ีมีญาณมองเห็นการณ์ไกลกว่า สตั ว์อ่ืน ๆ การเสี่ยงทายด้วยกระดกู ไก่นนั้ จะนากระดกู โคนขาไก่สองข้างมาขดู พอเป็ นรู จากนนั้ ก็จะนาซี่ไม้ ไผ่เลก็ ๆ สองอนั เสียบลงไปท่ีรูกระดกู ไก่นนั้ วางลงบนพืน้ ให้อย่ใู นระดบั เดียวกนั และสงั เกตความลาดเอียง ของซี่ไม้ไผ่จะมีความแตกตา่ งกนั ไป ผ้ทู าพิธีก็จะใช้ความลาดเอียงนีเ้ป็ นเกณฑ์ในการทานายการเสี่ยงทาย ด้วยไข่ไก่ การเสีย่ งทายด้วยไข่ไก่สว่ นใหญ่จะใช้กบั คนเจ็บป่ วย โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ คนป่ วยที่มีอาการหนกั ๆ การทาพิธีเพื่อดวู า่ สาเหตขุ องอาการป่ วยนีม้ าจากไหน ขนั้ ตอน การทาพิธีไมย่ งุ่ ยากมากนกั ผ้ทู าพิธีจะนาไข่มาหน่งึ ฟอง เป่ าโดยใช้คาถา จากนนั้ ก็จะทบุ แตกและ หยอดลงในถ้วย และจะสงั เกตวา่ ลกั ษณะของไข่เป็นเชน่ ไร ผิดปกติหรือไม่ เช่น มีเลือดปนอยู่ มีก้อนเนือ้ ปน อยู่ ไข่ขาวและไขแ่ ดงคลกุ เคล้ากนั ทงั้ ฟอง เป็ นต้น ซงึ่ ผ้ทู าพิธีก็จะรู้ว่าลกั ษณะไขท่ ่ีผิดปกติเหลา่ นีไ้ ด้บง่ บอก ถงึ อะไร การเส่ยี งทายด้วยข้าวสาร การเสยี่ งทายด้วยข้าวสารเป็ นการเสี่ยงทายเพื่อหาหมอที่ถกู ชะตากรรม กับคนป่ วยและสามารถรักษาคนป่ วยให้หายจากโรคได้ เพราะเชื่อว่าคนแต่ละคนจะมีหมอประจาของ ตนเอง หมอคนอนื่ จะไมส่ ามารถรักษาให้หายจากโรคได้ ด้วยเหตนุ ีค้ นทาพิธีเส่ียงทายมกั จะรู้จกั หมอหลาย ๆ คน หลกั การก็คือหมอคนใดท่ีผ้ทู าพิธีเรียกช่ือขณะหยิบเม็ดข้าวสารขนึ ้ มาและได้เป็ นคทู่ งั้ สามครัง้ แสดง ว่าหมอผ้นู นั้ จะรักษาคนป่ วยให้หายจากโรคได้ หากไม่เป็ นไปตามนีก้ ็จะหยิบข้าวสารและเรียกช่ือหมออื่น จนกวา่ จะได้หมอท่ีเข้าหลกั การดงั กลา่ วมาแล้วข้างต้น การเสี่ยงทายด้วยด้วยใบไม้ การเส่ียงทายด้วยใบไม้สว่ นใหญ่จะเส่ียงทายสาหรับการเลือกสถานท่ี ที่จะไปหาของป่ า เช่น จบั ปลา ลา่ สตั ว์ เป็ นต้น หากการเส่ียงทายบง่ ชีว้ ่าสถานท่ีใดเมื่อไปแล้วจะได้อาหาร กลบั มาก็จะเลือกไปที่นนั่ ขนั้ ตอนการทาพิธีคือผ้ทู าพิธีจะเด็ดใบไม้มาแล้วยื่นออกไปทางทิศใดทิศหนง่ึ และ สงั เกตว่าใบไม้มีลกั ษณะอาการเช่นไรและได้บ่งชีอ้ ะไร หากบ่งชีว้ ่าไปแล้วดีก็จะไปท่ีนน่ั แต่หากบ่งชีว้ ่าไป แล้วไมด่ กี ็จะเดด็ ใบไม้ใหมแ่ ละย่ืนไปในทศิ ใหม่ จะกระทาเช่นนีจ้ นกวา่ จะได้สถานที่ที่น่าพอใจ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 37 การเส่ียงทายด้วยการจบั ชีพจร คอื จบั ชีพจรเพอ่ื ตรวจลกั ษณะการเต้นของหวั ใจของผ้ปู ่ วย ผ้ปู ่ วย บางคนจะมีอาการอ่อนเพลีย เหน่ือยออ่ น เม่ือยล้าหรือเบื่อหน่ายอาหาร โดยไมท่ ราบสาเหตุ ผ้ทู าพิธีจะจบั ชีพจรของผ้ปู ่ วยและสามารถบอกได้ว่าอาการเหลา่ นีม้ ีสาเหตมุ าจากอะไร และจะต้องรักษาด้วยวิธีใด เช่น ผกู เรียกขวญั สะเดาะเคราะห์ เป็ นต้น ศิลป - วฒั นธรรม - วรรณกรรม ศิลปะวฒั นธรรมและวรรณกรรมเป็ นภมู ิปัญญาของบรรพบรุ ุษ ท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์ของชนเผ่าซงึ่ มี คณุ คา่ และมีความสาคญั ตอ่ วถิ ีชีวติ ควรมีการอนรุ ักษ์ไว้สืบไป ในท่ีนีจ้ ะกลา่ วถึง ภาษา การแตง่ กายและดนตรี 1. ภาษา ชนปกาเกอะญอ เป็ นกลมุ่ ชนเผา่ ท่ีมีภาษาพดู และภาษาเขียนเป็ นของตนเองนอกจากนีแ้ ล้วยงั มี ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมเป็ นของตนเองซึ่งได้รับการถ่ายถอดจากบรรพบุรุษในอดีตใน รูปแบบของการเล่าขานกันมา และจากประสบการณ์ในการใช้ชีวิตประจาวัน สาหรับการจดบันทึก ประวตั ิศาสตร์หรือสิ่งท่ีเกิดขึน้ ในอดีตนนั้ ชนปกาเกอะญอใช้ตวั อกั ษรตระกลู เดียวกบั ตวั หนงั สือพม่า โดย เรียกตวั หนงั สือประเภทนีว้ ่า “ลิ วา” ส่วนในประเทศไทยมีมิสชนั นารีชาวผรั่งเศสได้พฒั นารูปแบบภาษา เขียนจากตวั อกั ษรโรมนั ประเภทนีเ้รียกวา่ “ลิ โร เหม”่ 2. การแต่งกาย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 38 ชนปกาเกอะญอ ในแต่ละกลุ่มจะมีเครื่องแต่งกายท่ีเป็ นลักษณะเฉพาะตัวในด้านสีสัน แต่ รูปแบบลกั ษณะการแต่งกายจะเหมือนกนั คือผ้ชู ายจะนิยมใส่เสือ้ ทอสีแดงเรียกว่า “เช กอ” ใส่กางเกงขา ทรงกระบอก สว่ นผ้หู ญิงท่ีเป็ นโสดจะใสเ่ สอื ้ ทอทรงกระบอกสีขาวเรียกวา่ “เช วา่ ” ชนปกาเกอะญอทางฝั่งพม่าจะมีหลากสีมากกว่า จะมีทงั้ สีขาวและสีแดง ส่วนผ้หู ญิงท่ีแต่งงานแล้วจะใส่ ผ้าซน่ิ ทอใสเ่ สอื ้ ทอสีดาหรือสีแดง ซง่ึ จะใสส่ ีที่กลมกลมกนั บนเสือ้ จะมีการประดบั ด้วย ลกู เดือยหรือปักด้วยด้ายหลากสีในลวดลายชนิดต่าง ๆ ซง่ึ แต่ละชนิดจะเลียนแบบจากธรรมชาติ ซง่ึ มีการ เรียกช่ือเฉพาะโดยจะให้ความรู้สกึ และอารมณ์ที่แตกตา่ งกนั ไป 3. ดนตรี ก.ซอ ระนาด (เสอะ เลาะ ปอก๊)ุ ซอ ระนาดเป็ นเคร่ืองดนตรีตงั้ เดิมของชนปกาเกอะญอชนิดหน่ึง ทาขึน้ มาเองด้วยกระบอกไม้ไผ่ หรือกะลานา้ เต้า คนั ซอทาด้วยไม้ไผ่ สายซอทาด้วยใยกาบกล้วย และสีทาด้วยเส้นผมของผ้หู ญิงหรือหาง ม้า ชนปกาเกอะญอจะมีซอและขบั ลานาไปด้วย ผ้ทู ี่เช่ียวชาญการสซี อนนั้ เสยี งซอของเขาจะคล้อยตามบท ลานาที่ขบั เม่ือได้ยนิ แล้วจะมคี วามไพเราะยงิ่ นกั ข.กลองมโหระทกึ (โกละ) โกละ เป็ นเครื่องดนตรีชนดิ หนงึ่ ท่ีมีราคาคอ่ นข้างแพง จะใช้ในงานประเพณีตา่ ง ๆ เช่น ประเพณีขนึ ้ ปี ใหม่ ประเพณีงานศพ เป็ นต้น เมื่อตีเสียงจะก้องดงั ทว่ั หม่บู ้าน ไม่นิยมตีอย่างพร่าเพร่ือ แต่จะตีในโอกาส สาคญั และจาเป็ นเท่านนั้ สามารถตีได้ทงั้ เดก็ และผ้ใู หญ่ หากหม่บู ้านใดมีกลองมโหระทกึ ประจาอยู่ เช่ือกนั วา่ หมบู่ ้านนนั้ จะมคี วามร่มเย็นเป็ นสขุ ค.พณิ เตหนา่ (เตหนา่ ) เตหน่า เป็ นเครื่องดนตรีชนิดหนงึ่ ของชนปกาเกอะญอที่มีมาแตโ่ บราณเช่นกนั มีลกั ษณะคล้ายพิณ ฐานทาด้วยขอนไม้ท่ีแกะเป็ นรูกลวง คนั จะมีลกั ษณะโค้งงอเข้าหาตวั เอง ระหวา่ งฐานและคันก็จะขงึ สายซง่ึ มีทงั้ หมด 6 เส้น แต่บางคนทา 7 เส้น หรือ 9 เส้นหรือ12 เส้นก็มี การดีดจะดีดร่วมกับการขบั ลานา ผ้ทู ่ีมี Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ติดตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 39 ความเชี่ยวชาญการดีดพณิ เสยี งของเขาจะมหี ลากหลาย ซงึ่ มีความไพเราะเป็นอยา่ งยงิ่ เตหนา่ สามารถเลน่ ได้ในทกุ โอกาส ไม่จากดั เฉพาะโอกาสงานประเพณีสาคญั ๆ เท่านนั้ ง. ฆ้อง ฉิ่ง กลอง (โม จว๊ะ เดอ) ฆ้อง (โม) เป็ นเคร่ืองดนตรีท่ีไม่ใชช่ นปกาเกอะญอทาขนึ ้ เอง แตร่ ับเอามาจากพวกมอญ เพราะพวก มอญและชนปกาเกอะญอเป็ นชนชาติท่ีสายเลือดใกล้เคียงกันและอาศยั อย่ใู นถ่ินแดนเดียวกัน และเคย ช่วยเหลือเกือ้ กลู กนั มาก่อน ฉ่ิง ฉาบ (จว๊ะ) เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทตีกระทบกัน ฉาบหน่ึงชุดจะมีอยู่สองข้าง ทามาจาก ทองแดงผสมเหลก็ เป็ นเครื่องดนตรีท่ีมาจากพวกมอญเชน่ กนั กลอง (เดอ) เป็ นเครื่องดนตรีที่ทามาจากไม้แกะเป็ นรูปกลวง และขึงหนงั กลองด้วยหนงั ววั หรือ แพะ เป็ นต้น เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทตี ชนปกาเกอะญอสามารถผลิตขึน้ มาด้วยตนเอง มีลกั ษณะกลม กลวง เรียงลงไปในส่วนหางและบานออกท่ีสดุ ปลายหาง ส่วนหวั จะขึงด้วยหนงั สตั ว์ ซง่ึ เป็ นสว่ นที่ใช้ตีให้มี เสยี งดงั โม จว๊ะ เดอ ปกติจะใช้เล่นในวงเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็ นเครื่องดนตรีที่ต้องผสมโรงเล่นด้วยกัน ตลอดไป จะขาดประเภทใดประเภทหนึง่ ไม่ได้ ใช้เล่นบางโอกาสในงานประเพณีสาคญั ๆ เช่น ประเพณีขนึ ้ ปี ใหม่ พิธีเลยี ้ งเจดีย์ เป็ นต้น แตท่ ่ีนิยมเลน่ กนั มากที่สดุ คือประเพณีมงคลสมรส จ.แตร ปี่ ไม้ทาเสียง (แกว ปี๊ สอ่ เฆ) แกว ป๊ี เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทเป่ า แกว อาจทามาจากเขาหรืองาหรือสตั ว์ ไม้ เช่น งาช้าง เขา ควาย เขาววั เขาเลียงผาก็ได้ เชื่อกันว่าแกวท่ีทาด้วยเขาควายแม่ท่ีตายขณะตงั้ ครรภ์อย่นู นั้ เมื่อเดินเป่ า วนรอบไร่สามรอบควายจะไม่ลอดรัว้ เข้าไปกินข้าวในไร่เลย โดยปกติแล้วจะใช้เป่ าขณะเดินทางไปทางาน ตามท้องไร่ท้องนา ในฤดเู ก็บเกี่ยวข้าวระหว่างเดือนพฤศจิกายน หากได้ยินเสียงทกุ คนก็จะรับรู้ว่าถึงเวลา เก็บเก่ียวข้าวแล้ว ชายหนมุ่ บางคนไปทางานโดยไมม่ ีเพ่อื นร่วมเดนิ ทางก็จะเอาแกวน่ีแหละเป็เพื่อนทดแทน ปี๊ เป็ นเครื่องดนตรีท่ีทามาจากไม้ไผ่ ใช้เป่ าในโอกาสทว่ั ๆ ไปและทกุ เพศทกุ วยั สามารถเป่ าได้ ผ้เู ชี่ยวชาญ จะสามารถเป่ าได้หลายหลากเสียง เม่ือเป่ าปี่ จะไมน่ ยิ มขบั ลานาตามไปด้วย สาหรับ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 40 ส่อ เฆ ทามาจากไม้ไผ่เช่นกัน เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทเป่ า และดีด ในเวลาเดียวกัน เล่นได้ใน โอกาสทว่ั ๆ ไป และทกุ เพศทกุ วยั สามารถเลน่ ได้ ฉ. การราดาบและหอก (ศิลปกการป้ องกนั ตวั ) ศิลปะการร่ายราดาบและหอกจะมีลายหลายแบบทงั้ ง่ายและยาก บางคนร่ายราได้สองสามลาย แต่บางคนท่ีเก่งสามารถร่ายราได้หลายลายและใช้ดาบถึงสามสี่เล่ม ลายการร่ายราดาบและหอกเรียกชื่อ หลายอย่าง เช่น ลายหมี ลายป้ องกนั ตน และลายฟันคตู่ อ่ สู้ เป็ นต้น การฝึ กร่ายราดาบและหอกต้องไปฝึ ก กบั อาจารย์ใหญ่ท่ีมากด้วยวิชาความรู้ในด้านนี ้ผ้ฝู ึกจะต้องอยใู่ นระเบยี บกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด และต้อง เสียคา่ ฝึกตามขนั้ ท่ีผ้ฝู ึกตงั้ ไว้ ซงึ่ ปกตจิ ะตงั้ ไว้ไมแ่ พงมากนกั เพราะจะไม่ถือว่าเป็ นเร่ืองธุรกิจการค้า แตเ่ ป็ น วิชาความรู้ที่จะต้องถ่ายทอดให้คนรุ่นหลงั ตอ่ ๆ ไป ระบบความเช่ือและศาสนา ระบบความเชื่อและศาสนาของชนเผ่าปกาเกอะญอ มีความสมั พนั ธ์กบั วิถีชีวิตและความเป็ นอยู่ ของชนเผ่า ชนปกาเกอญอมีความเชื่อว่าพระเจ้ าเป็ นผู้สร้ างโลกและสรรพส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยู่บนโลก จะมี เจ้าของปกปัก ดแู ลรักษา เช่น ภเู ขาแต่ละลกู สายนา้ แต่ละสาย ผืนป่ าแต่ละผืน จะมีเจ้าของอยู่ ชนปกา เกอะญอจะเรียกวา่ “ที เก่อ จา่ ” (เจ้าของนา้ ) “กอ่ เกอ จ่า” (เจ้าของแผ่นดนิ /ประกาศอาณาเขต)[36] 1. ความเช่อื เก่ียวกับการเกิดมาของมนุษย์ ชนปกาเกอะญอเช่ือว่าคนแตล่ ะคนจะมีวิญญาณ ก่อนจะเกิดมาบนโลกวิญญาณจะมีอย่กู ่อนแล้ว โดยอาศยั อยใู่ นโลกวิญญาณ เม่อื ถงึ เวลาจะเกิดมาในโลกมนษุ ย์คน ๆ นนั้ ต้องไปนดั หมาย Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 41 วนั เวลากบั (นางพญาประจาต้นโพธ์ิต้นไทร) “หมอื่ ฆะ เขลอะ” วา่ จะมาบงั เกิดแล้วนะ และบอกว่า จะมาอาศยั อยบู่ นโลกนานเทา่ ใด นางพญาต้นโพธิ์ต้นไทรบนั ทกึ เมื่อนดั หมายกนั แล้ววญิ ญาณจะมาอยกู่ บั ฝ่ ายชายกอ่ นเป็ นเวลา 3 เดอื น จากนนั้ ก็ไปอยกู่ บั ฝ่ ายหญิง (ผ้ใู ห้กาเนิดหรือพอ่ แม่) อีกสามเดอื น ระหวา่ งเวลานีจ้ ะแสดงออกมาโดยวิญญาณเข้าฝันผ้ใู ห้กาเนิดฝ่ ายหญิงหรือฝ่ ายชาย หรือทงั้ สองฝ่ ายฝันวา่ ได้มาซงึ่ สง่ิ ของเหลา่ นีเ้ช่น แหวน มีด เงิน เป็นต้น จากนนั้ ฝ่ ายหญิงก็จะเร่ิมตงั้ ครรภ์ ช่วงเวลาท่ีแมต่ งั้ ครรภ์จะต้องงดอาหารหลายประเภทท่ีจะเป็ นอนั ตรายตอ่ ทารกในครรภ์ เช่น สตั ว์ ถกู ยิงด้วยปื นหรือลกู ดอกเคลือบยาพิษ พืชผกั มียาง สตั ว์ป่ าบางชนิดได้แก่ ลิง หมี ด้วยเกรงว่าหากกินแล้ว ทารกที่เกิดจะมีบคุ คลิกและรูปร่างหน้าตาคล้ายกบั สตั ว์เหลา่ นี ้สาหรับพ่อก็มีข้อห้ามด้วยเช่นกนั เช่น ห้าม หามศพ ห้ามไกล่เกล่ียคดีความ ห้ามขึน้ ต้นไม้ ห้ามทะเลาะวิวาทกบั คนอ่ืน ห้ามดดุ ่าภรรยา เม่ือถึงเวลา คลอดก็จะไปเรียกหมอตาแยมาชว่ ยทาคลอด เมื่อทารกเกิดแล้วจะนาด้ายสีดาผกู สายรกสองช่วง ช่วงแรกผกู ห่างจากท้องเด็กราวหนึ่งนิว้ ช่วงที่ สองห่างจากท้องเด็กราวสามนิว้ จากนนั้ ก็จะตดั สายรกทิง้ ด้วยเปลือกไม้ไผ่ดิบ จะไม่ตดั สายรกด้วยโลหะ เพื่อป้ องกนั บาดทะยกั จะนาทารกล้างคราบเลือดและนา้ คร่าออก แล้วนากลบั ไปให้แมซ่ งึ่ นอนพกั อย่ทู ่ีเตา ไฟเพื่อให้ทารกดดู นา้ นม แม่จะพกั อย่ไู ฟนานประมาณหน่ึงเดือน ช่วงเวลาที่ทารกดดู นมอย่แู ม่จะต้องงด อาหารหลายอยา่ งที่จะแสลงท้องของทาร 2. โลกมนุษย์ (ปกา ซู โค่ โพ) คาวา่ โลกมนษุ ย์หรือปกา ซู โค่ โพ หมายถงึ มนษุ ย์ท่ีอยบู่ นโลกที่ประกอบด้วยวญิ ญาณและร่างกาย ซง่ึ สามารถพบเหน็ กนั เหมือนทกุ วนั นี ้ 3. โลกวิญญาณ ( ปลือ ปู) ปลือ ปู หรือโลกวิญญาณ (ยมโลก) ก็คือสถานท่ีอนั เป็ นที่อยู่อาศยั ของเหล่าวิญญาณท่ีหลดุ ออก จากร่างกายของผ้ตู ายแล้ว เป็ นสถานท่ีวิญญาณรอคอยวา่ ตนเองจะขนึ ้ สสู่ วรรค์หรือลงนรกตอ่ ไป 4. วญิ ญาณบรรพบุรุษ (ซิโค่ หม่อื ฆา) Facebook:ขายเสอื ้ กะเหรี่ยงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 42 ชนปกาเกอะญอเช่ือว่าบรรพบรุ ุษที่ล่วงลบั ไปแล้ว วิญญาณของพวกท่านเหล่านีท้ ี่ยงั มีความเป็ น หว่ งเป็ นใยและคอยค้มุ ครองป้ องกนั ภยั แก่ลกู หลานอยู่ ดงั นนั้ เม่ือเจ็บไข้ได้ป่ วยลกู หลานท่ีอย่บู นโลกมนษุ ย์ จะทาพิธีบก๊ะและเรียกวิญญาณบรรพบรุ ษมาร่วมพิธีและรับประทานอาหาร ทงั้ นีเ้ พ่ือขอพวกท่านมาช่วย เยียวยารักษาให้พวกเขาหายจากโรค 5. เปรต (นาจิ๊ นา จิ๊ เทาะ) คือดวงวิญญาณของหนุ่มสาวท่ีเสียชีวิตก่อนโดยที่ยงั ไม่แต่งงาน หรือคนเฒ่าคนแก่ท่ีพลาดหวงั จากการแตง่ งาน เน่ืองจากพวกเขาไมม่ ีลกู หลานอยบู่ นโลก ทาให้พวกเขาไมไ่ ด้กินข้าวปลาอาหารและไม่ได้ กินดีอยู่ดี ซึ่งมีสภาวะท่ีตรงกันข้ามกับวิญญาณบรรพบุรุษที่ลูกหลานจะทาพิธีบก๊ะและเรียกท่านมา รับประทานอาหารอยเู่ สมอ ด้วยเหตนุ ีน้ าจิ๊ซินาจ๊ิเทาะจึงใช้อานาจชว่ั ของตนไปรบเร้ารบกวนและบีบบงั คบั เหลา่ วิญญาณบรรพรุรุษให้กลบั ไปหาลกู หลานของตน ด้วยความจาใจยอมวญิ ญาณบรรพบรุ ุษก็กลบั ไปหา และหยอกล้อลกู หลานของตน การกระทาเช่นนีท้ าให้ลกู หลานล้มป่ วยลง โดยลกู หลานเช่ือวา่ การล้มป่ วยลง การล้มป่ วยมีสาเหตมุ าจากวิญญาณบรรพบุรุษกลบั มาหาเพ่ือขออาหาร ลกู หลานจึงทาพิธี “บก๊ะ” เรียก วิญญาณบรรพบรุ ุษมาร่วมรับประทานอาหาร เม่ือรับประทานเสร็จแล้วก็นาอาหารสว่ นหน่ึงกลบั ไปให้นาจ๊ิ ซนิ าจ๊ิเทาะด้วย ฝ่ ายลกู หลานเมอื่ เสร็จพิธีอาการป่ วยก็หายจากไป 6. สวรรค์ (ดู เตอะ วอ) ดเู ตอะวอหรือสวรรค์เป็ นสถานท่ีเป่ี ยมด้วยความสงบสขุ อย่างสมบรู ณ์ในโลกวิญญาณ ผ้ทู ี่อย่บู นโลกและ ประกอบแตค่ ณุ งามความดีเม่ือเสยี ชีวติ แล้ววิญญาณของพวกเขาก็จะกลบั ไปอยู่ ณ สวรรค์แห่งนี[้ 42] 7. นรก (ดู ลอ หร่า) ดลู อหร่าหรือนรกหมายถงึ สถานแห่งการทนทกุ ข์ทรมาน บคุ คลใด ๆ ที่ประกอบความชวั่ ช้าขณะที่มี ชีวิตอย่บู นโลก เม่ือเสียชีวิตลงดวงวิญญาณก็ออกจากร่างกายแล้วก็จะกลบั ไปอย่ใู นนรกนีต้ ลอดชวั่ นิรันดร์ ชนปกาเกอะญอเป็ นชนกล่มุ น้อยท่ีอยู่ตามป่ าเขาเป็ นส่วนใหญ่ วิถีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมจึงมีความ เก่ียวข้องกบั ธรรมชาติอย่างแยกจากกนั ไม่ออก ด้วยเหตนุ ีก้ ารแสดงออกทางพิธีกรรมต่าง ๆ ของชนปกา เกอะญอจะแสดงความเคารพ ให้เกียรติ อนรุ ักษ์ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมเป็ นหลกั วิถีชีวิตจึงต้องพ่ึงพาอาศยั ธรรมชาติในการดารงชีวิต จึงต้องเข้าใจธรรมชาติ และท่ีสาคัญต้องดารงชีวิตอย่างรู้คุณค่าและให้ Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline

ประ ัวติของปกาเกอะญอ 43 ความสาคญั กบั ธรรมชาติ หากขาดธรรมชาติแล้วชีวิตของชนปกาเกอะญอก็ไม่อาจดารงอยตู่ อ่ ไปได้อย่างท่ี เคยเป็ นอยู่ การแสดงออกซงึ่ ความเช่ือ ความศรัทธา ความรัก ความเป็ นหน่ึงเดียวกบั ธรรมชาติ จึงอยใู่ นวิถี ชีวิตทกุ กระบวนการการดารงชีวิตของชนปกาเกอะญอด้วยเหตตุ ามข้างต้น Facebook:ขายเสอื ้ กะเหร่ียงแหง่ ประเทศไทย ตดิ ตามเพจ: https://www.facebook.com/karenstoreonline