ก
ข คำนำ E-Book เล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า สุขภาวะกายและจติ รหสั วิชา 30000-1603 ระดบั ช้นั ประกาศนียบตั ิวชิ าช้นั สูง (ปวส.) โดยมจี ุดประสงค์ เพอ่ื ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรูใ้ นเน้ือหาเร่ือง กิจกรรม นนั ทนาการ และไดศ้ กึ ษาอย่างเขา้ ใจเพือ่ เป็นประโยชน์กบั การเรียน ผจู้ ดั ทาหวงั ว่า E-Book เลม่ น้ี จะเป็นประโยชน์แกผ่ เู้ ขา้ มาอา่ น หรือนกั เรียนที่กาลงั หาขอ้ มลู เก่ียวกบั เร่ืองน้ีอยู่ หากมีขอ้ เสนอแนะ หรือขอ้ ผิดพลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรบั ไว้ และขออภยั มา ณ ทีน่ ้ีดว้ ย ผ้จู ดั ทำ นำงสำวธมนวรรณ บริสุทธ์ิ นำงสำวจฑุ ำมำศ โสภำ
สำรบัญ ค เรื่อง หน้ำ - คำนำ ข - สำรบญั ค - ควำมหมำยกจิ กรรมนนั ทนำกำร 1 - จดุ มุ่งหมำยของกจิ กรรมนนั ทนำกำร 2-5 - ประเภทของกิจกรรมนนั ทนำกำร 6-11 - ควำมสำคัญของกิจกรรมนันทนำกำร 12-13 - หลกั กำรเลอื กกจิ กรรมนันทนำกำรทเ่ี หมำะสมกับตวั เอง 14-15 - ประโยชน์ของกิจกรรมนนั ทนำกำร 16-17 - ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมนนั ทนำกำรอย่ำงมีควำมสุข 18-19 -สรุป 20
1 กิจกรรมนนั ทนำกำร 1.1 กิจกรรมนันทนำกำร 1.1.1 ควำมหมำยนันทนำกำร นนั ทนาการ (Recreation) หมายถึง กิจกรรมทคี่ นเราใชเ้ วลาว่างจากภารกิจงานประจา โดยเขา้ ร่วมดว้ ยความสมคั รใจ ทาในยามว่าง และ ตอ้ งไมข่ ดั ต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรมและกฎหมายบา้ นเมอื ง เพ่ือให้เกิดความเพลดิ เพลิน และผ่อนคลายจากความตงึ เครียด ท้งั ร่างกายและจติ ใจ หรือกอ่ ให้เกดิ การพฒั นาหรือความเจริญงอกงามทางกาย อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา การเลน่ พบไดใ้ นสตั วเ์ กือบทกุ ชนิด ซ่ึงการการมเี ล่นช่วยพฒั นาและเป็นการฝึกทกั ษะตา่ ง ๆ เช่น ทกั ษะการเคล่อื นไหว สาหรบั มนุษย์ กจิ กรรมนนั ทนาการมกั เกิดข้ึนในชว่ งเวลาวา่ งหรือ วนั หยดุ สุดสปั ดาห์ ซ่ึงโดยทว่ั ไปของกิจกรรมนนั ทนาการสาหรบั มนุษย์ สามารถยกตวั อยา่ งไดด้ งั น้คี อื การเลน่ ดนตรี การอ่านหนงั สือ การดโู ทรทศั น์ การทอ่ งเทีย่ ว การเลน่ กีฬาเป็นตน้
2 1.1.2 จดุ ม่งุ หมำยของนนั ทนำกำร นนั ทนาการน้นั มีจดุ มุ่งหมายมากมายหลายประการและมคี วามเก่ียวขอ้ งต้งั แต่องคก์ รท่ีมี ขนาดเล็กทสี่ ุด แต่สาคญั ที่สุดน้นั ก็คือ “ครอบครัว” ไปจวบจนถงึ ระดบั ชาติและระดบั โลก ซ่ึง จดุ มุ่งหมายของกจิ กรรมนนั ทนาการมดี งั ตอ่ ไปน้ี 1. เพื่อพฒั นาอารมณ์ กิจกรรมนนั ทนาการเป็นกระบวนการเสริมสรา้ ง และพฒั นา อารมณข์ องบุคคลและชุมชน โดยอาศยั กิจกรรมตา่ งๆ เป็นส่ือกลางในช่วงเวลาวา่ ง หรือเวลา อิสระ การเขา้ ร่วมกิจกรรมตอ้ งเป็นไปดว้ ยความสมคั รใจ และกิจกรรมน้นั จะตอ้ งเป็นกิจกรรมที่ สังคมยอมรบั สามารถก่อใหเ้ กดิ ความสุข สนุกสนาน เพลิดเพลิน 2. เพื่อเสริมสรา้ งประสบการณ์ใหม่ กิจกรรมนนั ทนาการ ชว่ ยสรา้ งประสบการณ์ ใหมใ่ หแ้ กผ่ รู้ ่วมกิจกรรม ท้งั น้ีเพราะความหลากหลายกิจกรรม เช่น การท่องเท่ยี ว ทศั นศึกษา การเสริมสรา้ งประสบการณใ์ หม่ในสถานที่และทรัพยากรท่องเท่ยี ว ข้ึนอยกู่ บั ประสบการณ์ และพ้นื ฐานเดิมของบคุ คลหรือชุมชน
3 3. เพอื่ เพ่ิมพนู ประสบการณ์ กิจกรรมสรา้ งเสริมประสบการณ์ หรือกิจกรรม บางอยา่ งทเ่ี คยเขา้ ร่วมมาแลว้ แต่ผเู้ ขา้ ร่วมอยากสรา้ งความประทบั ใจ หรือความทรงจาเดิม กจ็ ะ เป็นการเพิม่ พูนประสบการณ์ท้งั สิ้น 4. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม กิจกรรม นนั ทนาการ จะส่งเสริมการมสี ่วนร่วม ของบุคคลและชุมชน ฝึกให้มโี อกาสเขา้ ร่วมกิจกรรมของชุมชนดว้ ยความสนใจและสมคั รใจ ส่งเสริมการทางานร่วมกนั เป็นทมี เป็นส่วนหน่ึงของกลมุ่ รู้จกั สิทธิและหนา้ ที่ ตลอดจนความ รับผิดชอบตอ่ ตนเองและผอู้ ืน่ ในฐานะองคก์ รของสังคม
4 5. เพ่อื ส่งเสริมการแสดงออก กิจกรรมนนั ทนาการหลายประเภท เป็นการ ส่งเสริมให้บุคคลไดแ้ สดงออกทางดา้ นความรู้สึกนึกคดิ สรา้ งสรรค์ การระบายอารมณ์ การ เลยี นแบบสถานการณ์ หรือพฤติกรรมต่างๆ ทาให้สามารถเรียนรู้และรูจ้ กั ตนเองมากข้นึ สร้าง ความมน่ั ใจ ความเขา้ ใจและการควบคมุ ตนเอง 6. เพ่อื ส่งเสริมคุณภาพชีวติ กิจกรรมนนั ทนาการเป็นกิจกรรมท่ีชว่ ยพฒั นา อารมณ์ ความสุข ความสามารถของบุคคล สุขภาพและสมรรถภาพทางกายและจิตใจ ความ สมดลุ ทางกาย และจติ ส่ิงเหลา่ น้ีจะชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของสงั คมทกุ เพศและวยั นอกจากน้ี ยงั ช่วยพฒั นาคุณภาพชีวิตของกลุ่มประชากรทกุ กล่มุ ดว้ ย
5 7. เพื่อส่งเสริมความเป็นมนุษยชาติ กิจกรรมนนั ทนาการจะช่วยส่งเสริม พฤติกรรม และพฒั นาความเจริญงอกงามของบุคคลท้งั ทางกาย อารมณ์ สงั คม สติปัญญา และ จติ ใจของคนทกุ คน ทกุ เพศ ทกุ วยั ตามความสนใจและความตอ้ งการของบุคคล เช่น การจดั กิจกรรมนนั ทนาการนานาชาติ คอื มหกรรมกีฬาโอลมิ ปิ ค ซ่ึงจะช่วยส่งเสริมความเขา้ ใจอนั ดี และมิตรภาพของมวลมนุษยชาติ 8. เพอ่ื ส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี กิจกรรมนนั ทนาการเป็นการให้การศกึ ษา แกเ่ ยาวชนในดา้ นการช่วยเหลอื ตนเอง รู้จกั สิทธิ หนา้ ท่ี ความรบั ผิดชอบ ระเบยี บวินยั และการ ปรบั ตวั ให้เขา้ กบั กลุม่ และสงั คมไดเ้ ป็นอยา่ งดี เป็นการพฒั นาบทบาทของการเป็นพลเมืองดี ไม่ เหน็ แก่ตวั ชว่ ยเหลอื สังคมส่วนรวมเป็นสาคญั ส่งผลให้สังคมอบอ่นุ และเพิ่มพูนคุณภาพชีวติ
6 1.1.4 ประเภทของกจิ กรรมนนั ทนำกำร ประเภทกิจกรรมนนั ทนาการ กิจกรรมนนั ทนาการน้นั สามารถแยกออกไดต้ ามลกั ษณะ ของกิจกรรมและเพ่อื ใหบ้ รรลตุ ามความมุง่ หมายของการจดั ของผเู้ ขา้ ร่วมและผรู้ บั ผดิ ชอบ จึง แยกประเภทของกจิ กรรมนนั ทนาการออกได้ ดงั ต่อไปน้ี 1. นนั ทนาการประเภทงานฝีมือและประเภทศิลปหตั ถกรรม นนั่ กค็ อื พวก งานฝีมอื หรือสิ่งประดิษฐต์ ่าง ๆ เช่น การวาดรูป งานแกะสลกั งานป้ัน การประดิษฐ์ดอกไม้ เยบ็ ปักถกั รอ้ ย ทา ตกุ๊ ตา 2. นนั ทนาการประเภทเกม กีฬา กรีฑา กีฬากลางแจง้ เชน่ ฟุตบอล บาสเก็ตบอลกีฬา ในร่ม (Indoor Games) หมากรุก หมากฮอต หมากเก็บ หรือ Rov
7 3. นนั ทนาการประเภทดนตรีและร้องเพลง เป็นกิจกรรมนนั ทนาการที่ให้ความ บนั เทงิ ดนตรเป็นภาษาสากลท่ีทุกชาติทกุ ภาษาสามารถเขา้ ใจเหมือนกนั แต่ละชาตแิ ตล่ ะทอ้ งถ่ิน จะมเี พลงพ้นื บา้ นของตนเองและเครื่องดนตรีพ้นื บา้ นเราสามารถเลอื กไดต้ ามความสนใจไมว่ า่ จะเป็นสากลหรือพ้ืนบา้ น 4. นนั ทนาการประเภทภาพยนตร์ เป็นกิจกรรมท่ีใหค้ วามบนั เทงิ ท้งั กบั ผูท้ า และ ผชู้ ม นอกจากน้กี ารละครยงั สะทอ้ นใหเ้ ห็น ถงึ สภาพความเป็นจริงของสงั คมในยุคน้นั ๆ ดว้ ย เช่น ชมภาพยนตร์ละครทวี ีเลน่ ละครใบ้ ละครเวทีโขน หุ่นกระบอก หนงั ตะลงุ
8 5. นนั ทนาการประเภทงานอดิเรก เป็นกิจกรรมที่มคี วามหลากหลาย สามารถเลอื ก ไดต้ ามความสนใจ ท้งั ประเภทสะสม การกระทา หรืองานสร้างสรรค์ เช่น สะสมแสตมป์ ทาอาหาร ถา่ ยภาพ จดั ดอกไม้ สะสมของเล่น การเล้ียงสัตว์ ปลกู ตน้ ไม้ งานประดิษฐ์การ ออกแบบตา่ ง ๆ 6. นนั ทนาการประเภทกิจกรรมทางสังคม เป็นกลุม่ กิจกรรมทกี่ ลุ่มคนในสังคมร่วมจดั ข้นึ เนน้ การรวมตวั กนั ของบคุ คล อนั จะกอ่ ให้เกิดสมั พนั ธภาพอนั ดีตอ่ กนั เช่น งานบวชงาน แตง่ งานงานเล้ียงวนั เกิด การฉลองในโอกาสพิเศษตา่ ง ๆ หรือกจิ กรรมสรา้ งสรรคท์ จ่ี ดั ข้ึนใน ชุมชน 7. นนั ทนาการประเภทนอกสถานท่ี (นอกเมอื ง) เป็นกจิ กรรมนอกสถานท่ที ที่ า ให้ผทู้ ากิจกรรมไดเ้ รียนรู้ ไดใ้ กลช้ ิดธรรมชาติ และไดพ้ กั ผอ่ น เชน่ การไปคา่ ยพกั แรม ทอ่ งเทีย่ ว
9 ตามแหลง่ ธรรมชาติ ทะเล ภเู ขา น้าตก ป่ันจกั รยาน ส่องนก ไปสวนสาธารณะ สวนสนุก สนาม เดก็ เล่น สวนสัตว์ 8. นนั ทนาการประเภทการอ่าน พดู เขียน และทางวรรณกรรม เป็นกิจกรรมทีส่ ่งเสริมให้ บุคคลพฒั นาทกั ษะ ความรู้อยา่ งสรา้ งสรรค์ เชน่ การอา่ น วรรณกรรม นวนิยาย หนงั สือพมิ พการ์ ตนู การเขียนเรื่องส้ัน บนั ทึกเร่ืองราวประจา วนั บทความ บทร้อยกรอง การพูดในชุมชน การ โตว้ าทีการเล่านิทาน การฟังอภิปราย
10 9. นนั ทนาการประเภทอาสาสมคั ร เป็นกิจกรรมทผี่ ทู้ าสมคั รใจท่ีจะให้บริการดา้ น ตา่ ง ๆ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ชุมชน สงั คม ประเทศชาตอิ ีกท้งั ยงั เป็นการส่งเสริมคณุ ธรรมจริยธรรมแก่ ผทู้ า เช่นการบริจาคโลหิต ให้บริการพฒั นาชุมชน การเป็นอาสาสมคั รช่วยเหลือผอู้ นื่ การบา เพญ็ ประโยชน์ดว้ ยความสมคั รใจ 10. นนั ทนาการประเภทกิจกรรมพเิ ศษ เป็นกิจกรรมท่จี ดั ข้นึ เป็นการเฉพาะหรือกรณี พเิ ศษโดยจะจดั ข้ึนตามวาระเป็นคร้งั คราว เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีวฒั นธรรม รวม ไปถงึ กิจกรรมทางศาสนาเช่น วนั สงกรานตว์ นั ลอยกระทงวนั ปี ใหม่ตรุษจนี คริสตม์ าสและ กิจกรรมในวนั สาคญั ทางศาสนา
11 11. นนั ทนาการประเภทเตน้ รา เป็นกิจกรรมที่ใชจ้ งั หวะต่างๆสรา้ งความสนุกสนาน บางกิจกรรมอาจจะมีท้งั การรอ้ งเพลงและเตน้ ไปพรอ้ มๆกนั เช่น เตน้ บลั เลต่ ์ Hip Hop B-Boy ราไทย ลีลาศ ระบา พ้ืนเมือง โมเดิร์นแดน๊ ซ์ และนาฏศลิ ป์ อนื่ ๆ
12 1.1.4 ควำมสำคญั ของกจิ กรรมนันทนำกำร ทุกวนั น้ีนนั ทนาการเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับมนุษยใ์ นยุคปัจจุบนั เพราะวิธีการดาเนินชีวติ ของมนุษยไ์ ดม้ กี ารเปล่ียนแปลงไปอยา่ งมาก โดยเฉพาะในสังคมของคนเมืองผคู้ นตอ้ งดิ้นรนหา เล้ยี งชีพตามความหนาแน่นของท่ีอยอู่ าศยั ความแออดั ของชุมชนและความลาบากในการสญั จร ดงั น้นั กิจกรรมนนั ทนาการจึงมคี วามจาเป็นต่อสังคมไทยเป็นอยา่ งยง่ิ เน่ืองจากกิจกรรม นนั ทนาการมีความสาคญั ดงั น้ี 1. บคุ คล กิจกรรมนนั ทนาการสามารถใชเ้ ป็นสื่อในการพฒั นาตวั บคุ คล ใหม้ ีความ สมบูรณ์ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสงั คม 2. ครอบครัว ครอบครวั นบั วา่ เป็นหน่วยสงั คมที่เล็กทส่ี ุด ปัจจบุ นั สมั พนั ธภาพของ สมาชิกในครอบครวั ขาดความอบอ่นุ ไม่แน่นแฟ้นเหมือนกบั สมยั กอ่ น ดงั น้นั นนั ทนาการจงึ เป็น ส่ือกลางท่ีจะช่วยสรา้ งบรรยากาศให้เกิดความอบอุ่นภายในครอบครัวเป็นอยา่ งดี
13 3. ชุมชน กิจกรรมนนั ทนาการสามารถพฒั นาชุมชนให้มีความเขม้ แข็งไดห้ ลาย ๆ ดา้ น ดงั น้ี 3.1 ชว่ ยสรา้ งคนให้เป็นสมาชกิ ที่มีเหตุผล เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ส่วน ตน มคี วามขยนั ขนั แข็ง 3.2 ช่วยลดปัญหาอาชญากรรม หากชุมใดสามารถดาเนินกิจกรรมนนั ทนาการให้กบั กลมุ่ วยั รุ่นเหลา่ น้ีได้ ยอ่ มชว่ ยลดปัญหาอาชญากรรมไดอ้ ีกชอ่ งทางหน่ึง 3.3 ช่วยทาให้สภาพแวดลอ้ มดีข้นึ กจิ กรรมนนั ทนาการนอกจากจะใหค้ วาม เพลิดเพลินแก่ผเู้ ขา้ ร่วมแลว้ ยงั สามารถชว่ ยรกั ษาความสมดลุ ทางธรรมชาตไิ ดเ้ ป็นอยา่ งดี 4. ประเทศชาติ กิจกรรมนนั ทนาการนบั วา่ มบี ทบาทต่อประเทศชาตอิ ยา่ งมาก เพราะ กิจกรรมนนั ทนาการจะชว่ ยลดปัญหาเร่ืองความประพฤตขิ องประชนลงได้
14 หลกั กำรเลอื กกจิ กรรมนนั ทนำกำรทีเ่ หมำะสมกบั ตัวเอง 1.1.5 หลกั กำรเลอื กกิจกรรมนนั ทนำกำรท่ีเหมำะกับตวั เอง การเขา้ ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการน้นั จาเป็นตอ้ งมกี ารเลือกเพ่อื ความเหมาะสม และเกิด ประโยชน์แกช่ ีวติ อยา่ งแทจ้ ริง ซ่ึงมหี ลกั การในการเลือกดงั น้ี 1. สภาพร่างกาย ตอ้ งดสู ภาพร่างกายของตนเองเป็นอยา่ งไร มีความพรอ้ มเหมาะสมกบั กิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งใด เชน่ ถา้ วา่ ยน้าไม่เป็นควรหลกี เล่ียงการเที่ยวทางน้า ขณะเจ็บป่ วยก็ ควรงดเลน่ กีฬา 2. เพศและวยั กิจกรรมนนั ทนาการบางอยา่ งเหมาะกบั เพศหญิง บางอยา่ งเหมาะกบั เพศ ชาย บางอยา่ งเหมาะกบั เด็ก บางอยา่ งเหมาะกบั ผใู้ หญ่ ก็ควรเลือกใหเ้ หมาะสม 3. ความสามารถและความถนดั ควรเลอื กทากิจกรรมนนั ทนาการท่ตี นเองถนดั จะเกิด ความพงึ พอใจ และเมือ่ ทาสาเร็จกจ็ ะเกิดความภาคภูมใิ จดว้ ย 4. เครื่องอานวนความสะดวกตา่ งๆ ควรตอ้ งดูความพร้อมของสถานท่แี ละอปุ กรณว์ า่ อานวยความสะดวกเพียงใด 5. ส่ิงแวดลอ้ ม ควรเลือกใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มต่างๆ และตอ้ งไม่ กระทบกระเทอื นผอู้ ่ืน ตลอดจนไมเ่ ป็นเหตรุ าคาญใหก้ บั ผอู้ ่ืน 6. ฐานะทางเศรษฐกจิ กิจกรรมนนั ทนาการบางอยา่ ง ตอ้ งใชเ้ งนิ ลงทนุ มาก เช่น
15 กอลฟ์ เรือใบ เป็นตน้ อยา่ จา่ ยเงนิ เพื่อกิจกรรมนนั ทนาการเกินฐานะทางเศรษฐกจิ ของตนเอง 7. ความชอบความสนใจ ถา้ เป็นกิจกรรมท่ีเราชอบและสนใจจะทาให้เพลดิ เพลนิ และมีความสุข 8. มีความปลอดภยั กิจกรรมนนั ทนาการบางอยา่ งมคี วามเส่ียงอยบู่ า้ ง จงึ จาเป็นตอ้ ง พจิ ารณาถงึ เร่ืองความปลอดภยั 9. เวลา ตอ้ งเป็นเวลาทเ่ี ราวา่ งจริงๆ เพราะกิจกรรมนนั ทนาการตอ้ งทาในเวลาว่าง 10. ความหลากหลาย ควรเลือกกิจกรรมนนั ทนาการหลายๆอยา่ ง สลบั กนั เล่นหรือ ประกอบกิจกรรมท่ไี ด้ เพ่ือทจ่ี ะไดไ้ มเ่ บื่อหรือจาเจ 11. ความสอดคลอ้ งกบั งานทที่ า ถา้ ทางานหนกั อยแู่ ลว้ ควรเลือกกิจกรรมนนั ทนาการ ทีเ่ บาๆ 12. ไม่ขดั ตอ่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมไทย กิจกรรมนนั ทนาการบาง ชนิดไม่เหมาะสมกะบขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมอนั ดีงามของคนไทยก็ไม่ควร เลอื กปฏิบตั ิ
16 1.1.6 ประโยชน์ของกิจกรรมนันทนำกำร ตราบใดท่ีมนุษยย์ งั ตอ้ งตอ่ สู้กบั ชีวติ จากการประกอบอาชีพทม่ี ีลกั ษณะแตกต่างกนั ไป บางคนตอ้ งทางานหนกั ตลอดวนั และบางคนตอ้ งทางานท้งั วนั ท้งั คืน ไมม่ ีเวลาว่างที่จะพกั ผ่อน หยอ่ นใจและไมม่ โี อกาสเขา้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการทาใหร้ ะบบสังคมสลบั ซบั ซ้อนมากข้นึ ดงั น้นั บคุ คลควรจะมองเหน็ ความสาคญั และประโยชน์ของนนั ทนาการ ซ่ึงจะชว่ ยขจดั ปัญหา ต่าง ๆ ได้ ดงั น้ี 1. ช่วยใหค้ นรูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ ตามปกติคนมเี วลาทางาน เวลานอน กิจวตั รประจาวนั แลว้ ยงั มเี วลาว่างเหลอื อกี ประมาณวนั ละ 5 – 7 ชวั่ โมง เวลาว่างน้ีสามารถ นามาใชใ้ ห้เกิดประโยชนด์ ว้ ยการร่วมกิจกรรมนนั ทนาการจะไดป้ ระโยชนต์ อ่ สังคมดีกว่าปลอ่ ย เวลาใหเ้ ปลา่ ประโยชน์หรือในทางอบายมขุ 2. ชว่ ยใหบ้ คุ คลในอาชีพต่าง ๆ ไดพ้ กั ผอ่ น การมโี อกาสผ่อนคลายความเหนด็ เหนื่อย มี เวลาร่วมสนุกสนานในกิจกรรมนนั ทนาการ ใชเ้ วลาอนื่ ๆ ใหเ้ ป็นประโยชน์และสรา้ งสรรค์ 3. ชว่ ยในทางสุขภาพจติ สังคมปัจจุบนั ซบั ซอ้ น มปี ัญหาตา่ ง ๆ ในชีวิตมากมายส่ิง เหล่าน้ีเป็นหนทางนาไปสู่สุขภาพจติ เส่ือม การประกอบกิจกรรมนนั ทนาการจะทาใหส้ ุขภาพดี แจ่มใสปราศจากความกงั วลปัญหาตา่ งๆกห็ มดไปและยงั ช่วยแกไ้ ขสุขภาพจติ เส่ือมไดด้ ว้ ย 4.ชว่ ยป้องกนั อาชญากรรมและความประพฤติเกเรของเดก็ ปัจจบุ นั น้ีปัญหาวยั รุ่นที่ เกิดข้ึนมมี ากมาย ซ่ึงเน่ืองมาจากวยั รุ่นเหลา่ น้ีใชเ้ วลาวา่ งเหล่าน้นั ไปในทางทผ่ี ิด เช่น ลกั ขโมย กอ่ อาชญากรรม ฯลฯ
17 5. ชว่ ยบารุงขวญั ความแข็งแรง และความอดทนของทหาร ตารวจ นนั ทนาการทาให้ ทหาร ตารวจมรี ่างกายแขง็ แรงและร่ืนเริง สนุกสนาน ไมว่ า่ ในยามสงบหรือในยามสงครามเชน่ มนี กั รอ้ งไปแสดงใหค้ วามบนั เทงิ แกท่ หาร ตารวจ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีชว่ ยบารุงขวญั บารุงน้าใจ ทาใหม้ ี กาลงั ใจ มคี วามแขง็ แรง อดทนเพื่อหนา้ ท่ี 6. ส่งเสริมให้เกิดความสุข ความพอใจ ผทู้ ีจ่ ะเขา้ ร่วมในกิจกรรมนนั ทนาการชนิดใด น้นั ยอ่ มพอใจในกิจกรรมน้นั ผลทไี่ ดร้ ับทาให้เขามคี วามสุขสดชื่น เพลิดเพลิน สนุกสนาน พอใจในชีวิตและสงั คม 7. ชว่ ยให้ความปลอดภยั แกส่ งั คม ประชาชนในกรุงเทพฯ อยกู่ นั อยา่ งหนาแน่น จะหา ท่ีวา่ งใชส้ าหรับเล่น สาหรบั พกั ผอ่ น สนามเดก็ เลน่ มีไมพ่ อ จะเหน็ ไดว้ ่าเดก็ จานวนมากว่ิงเลน่ บนถนนหรือบนทางเทา้ ซ่ึงอาจจะเกิดอนั ตรายได้ ฉะน้นั เพอื่ ความปลอดภยั แกเ่ ดก็ ควรจดั สนาม เดก็ เล่น สนามกีฬาใหเ้ พียงพอ 8. ชว่ ยเสริมความรกั ความอบอ่นุ และความเขา้ ใจอนั ดี สมาชิกภายในครอบครวั จะมี โอกาสพบกนั เสมอ และไดแ้ สดงความเห็นอกเหน็ ใจโดยการใชก้ จิ กรรมนนั ทนาการร่วมกนั เพอ่ื ส่งเสริมความเขา้ ใจอนั ดี 9. ส่งเสริมความเป็นพลเมอื งดี ประชาชนท่ีรูจ้ กั บารุงรกั ษาสุขภาพใชเ้ วลาวา่ งในทาง ทถ่ี กู ไม่สรา้ งความเดือดร้อนให้สงั คม รกั ความยุติธรรม ไม่เหน็ แกต่ วั รกั หมคู่ ณะ มนี ้าใจรกั การ ให้ บริการอาสาสมคั รชว่ ยเหลือสงั คม สิ่งเหลา่ น้ีก็นบั วา่ เป็นพลเมืองดี ซ่ึงสืบเน่ืองจากการเขา้ ร่วมนนั ทนาการ 10. ส่งเสริมใหม้ ีการสงวนทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติ นนั ทนาการมี นโยบายใหม้ กี ารสงวนป่ าไม้ เพ่ือเป็นวนอทุ ยานเป็นสวนพฤกษชาติ เพอื่ ใหป้ ระชาชนได้ แสวงหาความสุข ความพอใจ และความเพลดิ เพลินจากธรรมชาติทสี่ วยงาม ทาให้ ทรัพยากรธรรมชาตขิ องประเทศยงั่ ยืนนานไม่มีวนั หมดส้ิน
18 1.1.7 ปฏบิ ัติกจิ กรรมนนั ทนำกำรอย่ำงมคี วำมสุข การปฏบิ ตั ินนั ทนาการอยา่ งมีความสุขจะตอ้ งมกี ารพฒั นาทางดา้ นตา่ งๆดงั น้ี 1. อำรมณ์ (Emotion) คือ การรูจ้ กั อารมณ์ของตนเอง เป็นการรู้ว่าอารมณ์ของตนเองเป็น เชน่ ไร รวมถึงการแสดงอารมณ์ทไ่ี มป่ กติ (อารมณช์ ว่ั วูบ) รวมถึงผลยอ้ นกลบั ของอารมณ์ต่างๆ ของตน แนวทำงในกำรพฒั นำกำรรู้จักอำรมณ์ตนเอง ทำได้ดังนี้ - ใหเ้ วลาแกต่ นเองในการทบทวนอารมณข์ องตน พจิ ารณาว่าเราเป็นคนทีม่ ีลกั ษณะ อารมณ์เชน่ ไรมกั จะคลอ้ ยตามอารมณข์ องตนเอง คลอ้ ยตามอารมณข์ องผอู้ ื่น หรือคลอ้ ยตาม สิ่งแวดลอ้ มภายนอก - ฝึกการเรียนรู้ตวั เองบอ่ ยๆ มีสติกบั การรูต้ วั เอง เชน่ ขณะทเ่ี รากาลงั รูส้ ึกอยา่ งไรกบั ตวั เองหรือกบั ส่ิงท่ีเกิดข้ึนรอบๆตวั เรา 2. กำรสร้ำงแรงจงู ใจให้ตนเอง คือ เป็นการมองโลกในแง่ดีของสิ่งตา่ งๆ ท่ีเกิดข้นึ กบั ตนเองและสร้างความเช่ือมน่ั ว่า เราสามารถอยูก่ บั ส่ิงน้นั ได้ เราสามารถทาได้ เราสามารถผ่านมนั ไปไดด้ ว้ ยดี ท้งั น้ีเพอ่ื ใหเ้ กิดกาลงั ใจทจ่ี ะสรา้ งสรรคส์ ่ิงดี มุ่งไปสู่เป้าหมายที่ต้งั ไว้ ผทู้ ม่ี ี ความสามารถและทกั ษะในดา้ นน้ี มแี นวโนม้ วา่ จะเป็นผปู้ ฏบิ ตั ิงาน หรือส่ิงตา่ งๆท่ีตอ้ งทา ในชีวติ ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ค่า 2. กำรส่ือสำรระหว่ำงบุคคล เป็นกิจกรรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั คนต้งั แตส่ องคนข้ึนไป การที่ บุคคลสองคนหรือมากกวา่ น้นั ตดิ ตอ่ กนั น้นั จะทาใหส้ องฝ่ายมคี วามเขา้ ใจกนั รบั รู้ ขอ้ มูลตา่ งๆของโลก
19 3. นอกจากน้จี ะทาใหร้ ู้จกั ตนเองดว้ ย การส่ือสารระหว่างบุคคล จะก่อใหเ้ กิดผล 3 ประการคอื 1. ลดความกลวั ลง 2. มีความสอดคลอ้ งกนั 3. สรา้ งความไวว้ างใจให้ผมู้ าติดตอ่ ดว้ ย 4. กำรทำงำนเป็ นทมี เป็นสิ่งจาเป็นสาหรับการเพ่มิ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ การบริหารงานมบี ทบาทสาคญั ทจ่ี ะนาไปสู่ผลสาเร็จของงานท่ตี อ้ งอาศยั ความร่วมมอื ของกลุ่ม สมาชิกเป็นอยา่ งดี 5. เหน็ ชอบในเป้ำหมำย สิ่งเหลา่ น้จี ะกระตุน้ ใหส้ มาชิกทกุ คนจดั รูปงานของตนเขา้ งาน กบั คนอ่นื เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมายอยา่ งมปี ระสิทธิภาพทนั เวลา ตอ้ งให้สมาชิกทกุ คนเห็นดว้ ยกบั สิ่งท่ตี นกระทาอยวู่ ่ากาลงั ทาอะไร ทาเมือ่ ใด ทาอยา่ งไร เพราะจะทาใหเ้ กิดการประสานงานและ ทางานดว้ ยกนั อยา่ งสามคั คกี ลมเกลยี ว
20 สรุป นนั ทนาการมีประโยชน์ตอ่ บคุ คลชว่ ยใหบ้ คุ คล ครอบครัว ชุมชนไดร้ บั ความสนุกสนาน มคี วามสุขในชีวติ และใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ชว่ ยใหบ้ ุคคล พฒั นาสุขภาพจติ และ สมรรถภาพทางกายที่ดี เกิดความสมดุลของชีวติ ช่วยป้องกนั ปัญหาอาชญากรรม และพฤตกิ รรม ในทางเบ่ยี งเบนในทางไมพ่ งึ ประสงคข์ องเยาวชนและเดก็ ส่งเสริมความเป็นพลเมอื งดี การที่ ชุมชนไดม้ ีโอกาสใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ในกจิ กรรมนนั ทนาการ จะไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองหนา้ ที่ และความรบั ผดิ ชอบ คุณคา่ ทางสังคม เสรีประชาธิปไตย ลดความเห็นแก่ตวั สรา้ งคณุ คา่ จริยธรรม ความมีน้าใจ การใหบ้ ริการ รูจ้ กั อาสาสมคั รชว่ ยเหลอื สงั คม ซ่ึงถอื วา่ เป็นกิจกรรมของ ความเป็นพลเมอื งดีของประเทศชาติ ส่งเสริมการพฒั นาอารมณ์สุข กิจกรรมนนั ทนาการช่วย พฒั นาอารมณ์สุขรวมถงึ ความสนุกสนาน และความสงบสุข ลดความเครียด ความวติ กกงั วล ทา ให้บุคลิกภาพดีอกี ดว้ ย ส่งเสริมศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ ส่งเสริมการเรียนรูท้ ศั นคติ และความ ซาบซ้ึง อนั จะกอ่ ให้เกิดการอนุรักษศ์ ิลปะวฒั นธรรมและเอกลกั ษณข์ องชาติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: