25 จากแนวคิดและทฤษฎเี กียวกับพฤติกรรมของวัยรุ่น จะเห็นได้ว่าพฤตกิ รรมจะเกดิ ขึ นได้ทั ง จากการเรียนรู้ตามสันชาตญาณ จติ ใต้สาํ นึก และเกิดจากความต้องการทางร่างกายของมนุษย์ ความต้องการทางจิตใจ ซึงมนุษย์จะมกี ารเรียนรู้และพัฒนาตนเองการพัฒนาด้านความรู้ความ เข้าใจนั นจะเริมต้นทีประสาทรบั รู้และการเคลอื นไหว การคิดและใช้เหตุผล ซงึ เป็นขั นทีวัยรุ่นจะ พัฒนาพฤติกรรมของตนเองในขั นนี 2.4 งานวิจัยทีเกี ยวข้อง เมอื พิจารณาการศึกษาเกียวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มีผู้ทําการศึกษาไว้ดังนี ไพรถ เลศิ พิริยกมล (2544) ได้ทําการศึกษาการน้อมนําแนวพระราชดาํ ริทฤษฎใี หม่และ เศรษฐกิจพอเพียงลงสู่การปฏิบัติในสถาบันราชภัฏสาํ นักงานสภาสถาบันราชภัฏ พบว่า แนว พระราชดําริ พัฒนาการจาก “ความพอเพียง” ในความหมายพออยูพ่ อกิน พอควร มีความสุข ไปสู่ “พอมพี อกินเป็นขั นทีหนึง ขั นต่อไป ให้มีเกียรยตืนิ ขึ นด้วยขาตนเอง ขั นทีสาม ให้นึกถึงผู้อ”ืน ปรากฏเป็นรูปธรรมในทฤษฎีใหม่ขั นท1ี ขั นท2ี และขั นท3ี ตามลาํ ดับ จนบรรลุสัมฤทธิผลเป็น เศรษฐกิจพอเพียงแบบพื นฐาน และเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้าโดยใช้หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียงในการปฏบิ ัติเกยี วกับเรืองทฤษฎใี หม่ บนความสามัคคี ความร่วมมอื ความขยัน อดทน และความปรารถนาดตี ่อกัน การปฏบิ ัตติ ามแนวพระราชดําริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียงจะ ชว่ ยให้ประเทศเจริญได้ นักวชิ าการสาขาต่าง ๆ ได้เสนอการประยุกตแ์ นวพระราชดําริทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียงไว้ 9 ด้าน ได้แก่ ด้านความคิด ด้านการเมือง การบริหารและการปกครอง ด้านการพัฒนาสังคม ด้านการวางผังภาคและผังเมือง ด้านการบริหารจัดการทรพั ยากรป่ าไม้และ นํ าทีเสียสมดุล ด้านการเกษตรและการอารักขาพืช ด้านการดําเนินชีวิตด้านจริยธรรม และด้านการ เรียนรู้และการศึกษา หน่วยงานต่าง ๆ ได้น้อมนําแนวพระราชดําริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกจิ พอเพียงสู่การปฏบิ ัตไิ ด้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ทบวงมหาวทิ ยาลัย ก่อน พ.ศ. 2535 สถาบันราชภัฏได้ดาํ เนินภารกิจในการพัฒนาชนบท สอดคล้องกบั แนวพระราชดาํ ริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกจิ พอเพียงโดยธรรมชาติ ผ่านการฝึกหัดครู โครงการฝึกหัดครูชนบท และศูนย์ปฏิบัติการอุดมศึกษาเพอื พัฒนาท้องถินในวทิ ยาลัยครูทั ง ส่วนกลางและส่วนภูมภิ าค หลังได้รบั พระราชทานนามว่า“สถาบันราชภัฏ” สถาบันราชภัฏทุกแห่ง ได้น้อมนําแนวพระราชดาํ ริทฤษฎใี หม่และเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักในการดําเนนิ ภารกิจ ทั งใน ส่วนทีเป็นพันธกิจของสถาบันอุดมศึกษา การบริหารจัดการ และในส่วนสนองแนวพระราชดําริ http://www.ssru.ac.th
26 โดยตรง ได้แก่ การนําปรัชญาการพัฒนาท้องถนิ มาเป็นปรัชญาหลักประจําสถาบัน การพัฒนา หลักสูตรและรายวิชาทีเกียวเนืองกับแนวพระราชดาํ ริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง การกอ่ ตั ง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิน ตามแนวพระราชดาํ ริเพือทํา หน้าทีถ่ายทอดเทคโนโลยี และการอนุรกั ษ์พัฒนาภูมปิ ัญญาท้องถิน แนวทางการน้อมนําแนว พระราชดําริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ให้เกิดประประโยชน์ต่อตนเอง สถาบัน และ ชุมชน ควรใช้กลยุทธ์ในการสร้างอุดมการณ์ร่วมในการทํางาน และใช้ชุมชนทีแต่ละสถาบัน รบั ผดิ ชอบ เป็นเป้ าหมายหลักของการปฏิบัติงาน โดยเชือมโยงเป็นเครือข่ายทัวประเทศเป็นการ พัฒนาทีทุกฝ่ ายเข้ามามสี ่วนร่วมทั งระบบอันจะนําไปสู่การพัฒนอายา่ งยังยนื ต่อไป สมศรี จินะวงษ์ (2544) ได้ทําการศึกษาการวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้กิจกรรมทาง เศรษฐกิจและการกระจายรายได้ในชุมชนทีใช้แนวทางการพัฒนาแบบเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า 1. แนวคดิ การพัฒนาแบบเศรษฐกจิ พอเพียงในอดีตและในปัจจุบันมที ั งสงิ ทีเป็นจุดร่วม และจุดตา่ ง สําหรบั จุดร่วมคือ การเน้นในเรืองพออยู่ พอกิน การพึงตนเอง การพึงพาซึงกันและกัน การมีความสุขตามอัตภาพโดยไม่เบียดเบยี นตนเอง ผู้อนื และสงิ แวดล้อม จุดต่างคอื ในสภาพ ปัจจุบันการผลิตเป็นเพือสนองความต้องการในการบริโภคของครัวเรือนและเพือการค้า การบริโภค เป็นไปทั งเพือสนองความต้องการในการดํารงชีวติ และเพือพัฒนาคุณภาพชีวติ การแลกเปลียน เป็นไปทั งในระดับชุมชน ระดับประเทศ และระดับโลก การจัดสรรหรือการแบง่ ปันเป็นไปทั งใน ระดับชุมชนและระดับรฐั 2. กระบวนการเรียนรู้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทเี กิดขึ นอาศัยปัจจัยการเรียนรจู้ปจั ัยภายใน ปัจจัยภายนอก และปัจจัยสภาพแวดล้อม โดยมีลักษณะการเรียนรู้ทั งในระดับปัจเจกคบคุ ลและ การรวมกลุ่ม จากแหล่งเรียนรู้ทั งจากภายในชุมชนและภายนอกชุมชน โดยชุมชนบ้านสุขใจ จังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้ศรทั ธาทีมตี ่อบุคคล และชุมชนพอเพียง จังหวัดมหาสารคาม ใช้ความศรัทธา ในตนและกระบวนการมสี ่วนร่วม เป็นเครืองหนุนนําการเรียนรู้ 3. เมือพิจารณาจากแหล่งทีมาของรายได้ทั งรายได้หลักและรายได้เสริม พบวา่ หลังจากที ชุมชนใช้แนวทางการพัฒนาแบบเศรษฐกิจพอเพียง การกระจายรายได้ของคนในชุมชนดีขึ น พัฒนาภรณ์ ฉัตรวโิ รจน์ (2545) ได้ทําการศึกษาบทบาทของครูในการส่งเสริมความรู้ เศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน พบว่า ครูมีบทบาทในการส่งเสริมความรู้เศรษฐกิจพอเพียง อยู่ใน ระดับตาํ คิดเป็น ร้อยละ 44.3 อยูใ่ นระดับปานกลาง คดิ เป็นร้อยละ34.5 และอยู่ในระดับสูง คิด เป็นร้อยละ 21.3 ปัจจัยทีมีอิทธิพลต่อการปฏบิ ัติบทบาทของครู ได้แก่ (1) เจตคติทดี ตี ่อการจดั การ เรียนการสอนเศรษฐกจิ พอเพียง (2) การสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชน(3) การสนับสนุนจาก http://www.ssru.ac.th
27 โรงเรียน และ (4) รายวิชาทีสอน เมอื วิเคราะหด์ ้วยสถิติถดถอยพหุคูณ พบว่า ตัวแปรอิสระทั งหมด สามารถทํานายการปฏบิ ัตบิ ทบาทของครูในการส่งเสริมความรเู้ศรษฐกิจพอเพียงได้ร้อยละ 18.80 ในการปฏิบัติหน้าทีของครูในการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพยี ง มปี ัญหาในด้านผู้เรียนมากทีสุด รองลงมาคือ ด้านผู้บริหาร และด้านเพือนร่วมงาน เธียรธิดา เหมพิพัฒน์ (2546) ได้ทําการศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาสถาบัน- บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ต่อปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นนักศึกษากลุ่มวทิ ยาศาสตร์ ได้แก่ คณะสถิตปิ ระยุกต์ โครงการบัณฑิตศกึ ษาการพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ โครงการบัณฑิตศึกษาเทคโนโลยีการบริหาร และสาํ นักพัฒนาบัณฑิตศึกษาหลักสูตรการจัดการสงิ แวดล้อม ส่วนใหญ่เป็นนกั ศึกษาชั นปี ที2 มี ผลการศึกษาเฉลียตั งแต3่ .21 ถงึ 3.49 จบปริญญาตรีสาขาวทิ ยาศาสตร์เกษตร ยังไม่ได้ประกอบ อาชีพ และได้รบั ข่าวสารเกียวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากสอื โทรทัศน์ 2. ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามเห็นด้วยต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง เมอื พิจารณาทั ง6 ด้าน พบว่า ในระดับความคิดเห็นค่อนข้างสูง คือ ด้านการ นําไปประยุกต์ ในระดับความคิดเหน็ ปานกลาง คือ ด้านการนํามาใช้ประโยชน์ ด้านอธิบาย ปรากฏการณ์ ด้านการขยายขององคค์ วามรู้ ด้านความเข้าใจเนื อหาสาระ และด้านการรบั รู้ใน เนื อหาสาระ 3. ปัจจัยทีมผี ลต่อความคิดเห็นของนักศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ต่อ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ได้แก่ คณะทีศึกษา และสาขาทีจบปริญญาตรี ส่วนปัจจัยทีไม่มีผลกับ ความคิดเห็นของนักศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ต่อปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงได้แก่ ชั นปีทีศึกษา, ผลการศึกษา, อาชีพ และการได้รับข่าวสารเกียวกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง อรสุดา เจริญรัต (2546) ได้ทําการศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงภายใต้การเปลยี นแปลงของ สังคมไทย พบว่า เงือนไขสําคัญทีสุดของการเกิดขึ น การดํารงอยูแ่ ละการปรบั ตัวของเศรษฐกจิ พอเพียงก็คือ การทีชุมชนหรือหมู่บ้านยังคงมอี าํ นาจในการควบคุมดูแลจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ของตนเอง อํานาจดังกล่าวนับเป็นรากฐานสําคัญทนี ําไปสู่การสร้างและพัฒนาระบบการจัดการที มีประสทิ ธิภาพสาํ หรบั การดาํ รงชีวิตด้านต่าง ๆ ในรูประบบบรรทัดฐานของหมู่บ้านทีปรากฏอยู่ใน จารีตประเพณี วัฒนธรรม ความเชือ หรือพิธีกรรม ซงึ เป็นผลเชือมโยงจากอิทธิพลของโลกทัศน์และ ระบบคุณค่าของชุมชน ปัจจัยดังกล่าวนี เป็นสาเหตุสําคัญทีทําให้เศรษฐกจิ พอเพียงสามารถ ปรบั ตัวไปตามบริบทสังคมทีเปลียนผ่านจากสังคมประเพณีเข้าสู่สังคมทันสมัยได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ http://www.ssru.ac.th
28 ข้อมูลจากการศึกษาพบว่า เมือหมู่บ้านต้องประสบกับการเปลียนแปลงจากความทันสมัย ต่าง ๆ เชน่ การทีมีถนนตัดผ่านเข้ามา การมสี าธารณูปโภคทีสะดวกสบาย หรือการเข้ามา แทรกแซงของอํานาจรัฐ รวมทั งระบบทุนนิยมการค้า ทีมผี ลทําให้เกิดการเปลียนแปลงโครงสร้าง สังคมหลายด้าน ทําให้อาํ นาจในการจัดการทรัพยากรของชุมชนต้องถูกกระทบกระเทือน ผลที เกิดขึ นกค็ ือ บรรทัดฐานทีเคยมีบทบาทในการกําหนดและควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี ไว้ จําเป็นต้องปรบั ตัวไปภายใต้การจัดระเบยี บสังคมใหม่ทีมีลักษณะแตกต่างไปจากเดมิ เป็นต้นว่า การสร้างบรรทัดฐานแบบพงึ พาอาศัยกัน(Norms of Reciprocal) และการสร้างเครือข่ายทีทําให้ บุคคลมาสัมพันธก์ ันในเรืองเกียวกับชุมชน(Networks of Civic Engement) ขึ นมา เพือสนับสนุน และทดแทนความสัมพันธ์แบบพงึ พาในระบบเครือญาติทีมีบทบาทน้อยลงเมือเทยี บกับในอดตี ดังนั นจึงพบว่าภายในหมู่บ้านได้เกิดการรวมกลุ่มกันในรูปแบบต่าง ๆ ทั งคะณกรรมการป่ าชุมชน กลุ่มเกษตรนเิ วศ กลุ่มทอผ้า กลุ่มธนาคารข้าว รวมทั งกลุ่มออมทรัพย์ ภายใต้ระบบการจัดการ รูปแบบใหม่ทเี กิดจากความร่วมมือทั งกับหนว่ ยงานของรฐั สถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน หรือแม้กระทั งองคก์ รระหว่างประเทศเพือสร้างศักยภาพในการปรับตัวโดยระดมหลากหลาย ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทุน เทคโนโลยี ฯลฯ จากแหล่งต่าง ๆ นํามาสร้างกระบวนการเรียนรู้ ใหม่ร่วมกันของชุมชนทีมิได้ตัดตอนจาก ภูมปิ ัญญาเดิม แต่กลับได้นําความรู้สมัยใหม่มาบูรณา การกันได้อย่างเหมาะสม ปัจจัยเหล่านี เป็นเงือนไขสําคัญทีทําให้เศรษฐกิจพอเพียงยังคงสามารถ ดาํ รงอยู่ในชุมชนท่ามกลางการเปลียนแปลงของบริบทแวดล้อมได้อยา่ งยังยืนตลอดมา อยา่ งไรกต็ าม แม้ว่ากระบวนการปรบั ตัวเพือดํารงอยูข่ องเศรษฐกิจพอเพียง จะมไิ ด้อยู่บน เส้นทางทีราบรืนปราศจากอุปสรรคและปัญหาใด ๆ ตรงกันข้ามกลับพบว่ายังมอี ุปสรรคและปัญหา นานัปการทีชาวบ้านจะต้องร่วมกันเรียนรู้เพือพัฒนาวธิ ีการต่อสู้และเอาชนะปัญหาเหล่านี ต่อไป รัฐในฐานะเป็นผู้มบี ทบาทสาํ คัญในการชว่ ยเหลือและสนับสนุนชุมชนเหล่านี สามารถส่งเสริมและ พัฒนาศักยภาพดังกล่าวได้โดยการกําหนดนโยบายทีเอื อต่อการกระจายอาํ นาจจากส่วนกลางให้ มากขึ นพรอ้ ม ๆ ไปกับการช่วยเหลอื และสนับสนุนให้ชุมชนสามารถพัฒนาความเข้มแข็งของ ตนเองด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้ทหี ลากหลายร่วมกัน ตามแต่สภาพปัญหาของแต่ละพื นที ซงึ กจิ กรรมต่าง ๆ ดังกล่าวนี มคี วามจําเป็นทีจะต้องพัฒนาให้เกิดขึ นบนความสัมพันธ์ทีอยูบ่ น พื นฐานของทุนทางสังคม(Social Capital) ของชุมชนนั นเอง http://www.ssru.ac.th
29 ศศพิ รรณ บัวทรัพย์ (2547) ได้ทําการศึกษาความคดิ เห็นของนักศึกษามหาวิทยาลัย รามคาํ แหงต่อปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง พบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ศึกษาคณะนิตศิ าสตร์ จบการศึกษาชั น .ม6 ก่อนเข้ารับการศึกษาทีมหาวทิ ยาลัยรามคําแหง ส่วนใหญม่ ีภูมิลาํ เนาอยู่ต่างจังหวัด ได้รับรู้ข้อมูล เกียวกับเศรษฐกิจพอเพียงจากสอื โทรทัศน์ ครอบครัว และเพือนหรือผู้นํากลุ่ม ตามลาํ ดับ 2. ผู้ตอบแบบสอบถามมีความเห็นด้วยต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก เมอื พจิ ารณาเป็นรายด้าน พบว่า ดา้ นการรับรู้ในเนื อหาสาระ ด้านความเข้าใจในเนื อหา สาระ ด้านการปฏิบัติหรือการประยุกต์และด้านการเผยแพร่ อยูใ่ นระดับมากทั ง4 ด้าน 3. ปัจจัยทีมผี ลต่อความคิดเห็นของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยรามคาํ แหงต่อปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ เพศ คณะทีศึกษา และการรบั รู้จากครอบครวั ส่วนปัจจัยทีไม่มีผลต่อ ความคิดเห็นของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหง ต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ชั นปีที ศึกษา สาขาทีจบ ก่อนเข้าศึกษา ภูมลิ าํ เนา การรับรู้จากสือมวลชนและการรับรู้จากเพือน หรือผู้นํา กลุ่ม สหัทยา พลปัถนี (2548) ได้ทําการศึกษาการนําเสนอแนวทางการพัฒนาคนให้มี คุณลักษณะตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง พบว่า 1. คุณลักษณะทีพึงประสงคข์ องคนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แบง่ เป็น 3 ประการคือ 1) พอประมาณ ได้แก่ พอประมาณกับศักยภาพองตน พอประมาณกับสภาพแวดล้อม และไม่โลภเกินไปจนเบียดเบียนผู้อนื 2) มีเหตุผล ได้แก่ไม่ประมาท รู้ถงึ สาเหตุ พจิ ารณาค้นหา ปัจจัยทีเกียวข้องและคํานึงถึงผลกระทบทีเกดิ ขึ นจากการกระทํา3) มีภูมคิ ุ้มกันในตัวทีดี ได้แก่ พงึ ตนเองได้ทางเศรษฐกจิ พึงตนเองได้ทางสังคม คํานึงถึงผลระยะยาวมากกว่าระยะสั น รู้เท่าทัน และพร้อมรับการเปลียนแปลง ซึงคุณลักษณะทั ง3 ประการจะเกิดขึ นได้จากการพัฒนาความรู้ และคุณธรรม ซึงเป็นเงือนไขหลักของการพัฒนาคน 2. กิจกรรมทางเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนทีดําเนินการตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถแบ่งได้ 4 ด้าน คอื กิจกรรมเพือสร้างความพอเพียงด้านเศรษฐกิจ กิจกรรมเพือสร้างความ พอเพียงด้านสังคม กจิ กรรมเพือสร้างความพอเพียงด้านสิงแวดล้อม และกิจกรรมเพือสร้างความ พอเพียงด้านจิตใจ ซงึ กิจกรรมเหล่านี จําเป็นต้องมกี ารดําเนินไปพร้อมกันอย่างสมดุล จึงจะสร้าง ความพอเพียงให้เกิดขึ นในชุมชนได้ http://www.ssru.ac.th
30 3. การเรียนรู้ของชุมชนเพือพัฒนาคนไปสู่คุณลักษณะตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย 2 รูปแบบ คือ การเรียนรู้เพือพัฒนาคนโดยตรง และการเรียนรู้เพือพัฒนาระบบที ชว่ ยสนับสนุนการเปลียนแปลง 4. แนวทางการพัฒนาคนในชุมชนให้มีคุณลักษณะตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แบง่ ได้เป็น 2 ระดับคอื การพัฒนาความรู้และคุณธรรมในตวับุคคลผ่านการศึกษาทั งในระบบและ นอกระบบ และการพัฒนาชุมชนให้มีการดาํ เนนิ กิจกรรมทางเศรษฐกิจพอเพียงทั ง4 ด้าน อย่าง สมดุล เพือนําไปสู่ความยังยืนและพร้อมรับต่อการเปลยี นแปลง ปวัน มีนรักษ์เรืองเดช (2549) ได้ทําการศึกษาการประยุกตแ์ นวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงไป ปฏบิ ัติ ของประชาชนทีเข้าร่วมโครงการชีวติ พอเพียงตามแนวพระราชดําริ ผลการศึกษาในส่วน ของปัจจัยแวดล้อม พบว่า ประชาชนทเี ข้าร่วมโครงการชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดําริ ไม่มี ตําแหนง่ ทางสังคม รับสือทางโทรทัศน์เป็นประจํา มีการรับสอื ประเภทละครเป็นประจํา ไม่เคยมี ประสบการณ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมเกียวกับเศรษฐกิจพอเพียง มกี ารรบั รู้เกยี วกับโครงการชีวิต พอเพียงตามแนวพระราชดําริอยู่ในระดับค่อนข้างมาก และการปฏิบัติตามโครงการชีวติ พอเพยี ง ตามแนวพระราชดาํ ริอยูใ่ นระดับค่อนข้างน้อย ผลการศึกษา พบว่า การประยุกตแ์ นวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏบิ ัตขิ องประชาชนทีเข้า ร่วมโครงการชีวติ พอเพยี งตามแนวพระราชดาํ ริ อยู่ในระดับค่อนข้างมาก และพบว่า ปัจจัยทีมีผล ต่อการประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติของประชาชนทีเข้าร่วมโครงการชีวิตพอเพียง ตามแนวพระราชดาํ ริ ได้แก่ ระดับการศึกษา สาขาวชิ าทีจบการศึกษา อาชีพ ตําแหน่งทางสงั คม ประเภทของชอ่ งทางการรบั สอื ลักษณะของสือทีรับประจํา การรบั รู้เกียวกับโครงการชีวติ พอเพยี ง ตามแนวพระราชดาํ ริ การปฏบิ ัติตามโครงการชีวติ พอเพียงตามาแนวพระราชดาํ ริ กุลวดี ล้อมทอง วีระภัทรานนท์ (2550) การนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิต ศกึ ษากรณี บคุ ลากรสํานกั งานทรัพย์สินสว่ นพระมหากษัตริย์ ผล การศึกษาพอสรุปได้ดังนี 1. การรบั รู้และความเข้าใจเกียวกับองคป์ ระกอบหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า 1.1 ผู้ให้ข้อมูลทีสาํ คัญ มีการรับรู้เกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยวิธีการได้ ยิน ได้เห็น และได้อ่าน ผ่านการรับรู้จากสือทีเป็ นบุคคลและสือมวลชน โดยเฉพาะการรับรู้จาก ผู้บริหารระดับสูง และจากวารสารของสาํ นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นส่วนใหญ่ http://www.ssru.ac.th
31 1.2 ผู้ให้ข้อมูลทีสําคัญมีความเข้าใจในองค์ประกอบหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็น อย่างดี สามารถแยกความแตกต่างขององคป์ ระกอบหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยสามารถ อธิบายพร้ อมยกตัวอย่างประกอบได้ อย่างชัดเจน 2. การนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิตของตนเอง ครอบครวั และการทํางาน พบว่า 2.1 การประยุกต์ใช้กับตนเอง และการประยุกตใ์ ช้กบั ครอบครัว คือ สามารถจัดสรร รายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และยังมเี หลอื เก็บออม มกี ารใช้เหตุผลเพือแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ เน้นเรืองความประหยัดและคุ้มค่า มีการเตรียมพร้อมรับการเปลียนแปลง เสริมสร้างความรู้ควบคู่ เทคโนโลยที ีทันสมัย และเน้นเรืองความซือสัตย์ 2.2 การประยกุ ต์ใช้กับการทํางานคือ สามารถทํางานได้ทันต่อเวลา มีการใช้เหตุผล เพือแก้ ไขสถานการณ์ต่าง ๆ เน้ นเรืองความจําเป็ นและคุ้มค่า มีการเตรียมพร้ อมรับการ เปลยี นแปลง เสริมสร้างความรู้ควบคู่เทคโนโลยีทีทันสมัย และเน้นเรืองความโปร่งใสตรวจสอบได้ ตวงพร ศรีวิชัย (2550) ได้ทําการศึกษาการนําปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการ ดําเนินชีวิตประจําวันของนักเรียนเตรียมทหาร ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนเตรียมทหารนําปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมไปปฏบิ ัตมิ าก โดยเรียงลาํ ดับ การปฏิบัติ ดังนี ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคม ด้านสิงแวดล้อม แะลด้านเศรษฐกิจ 2. นักเรียนเตรียมทหารมีการนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ในการดําเนิน ชีวติ ประจําวัน ระหว่างด้านต่าง ๆ แตกต่างกันอยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถิตทิ ีระดับ.05 3. นักเรียนเตรียมทหารในแต่ละชั นปี มกี ารนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ไม่แตกต่าง กันในการดาํ เนินชีวติ ประจําวัน อย่างมีนัยสาํ คัญทางสถิตทิ ีระดับ.05 ศักดิ ชัย คํ าช(2ู 550) ได้ทําการศึกษาการประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งในองคก์ ร: ศึกษากรณีศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านบึง พบว่า เจ้าหน้าทีและเยาวชนในศูนย์ฝึกและ อบรมเด็กและเยาวชนบ้านบึง ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจทีถูกต้องเกียวกับแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงว่า เป็นแนวทางการดําเนินชีวติ โดยคํานึงถึงความพอประมาณ พอมี พอกิน พอใช้ เป็น แนวคิดพึงตนเอง ไม่ประมาท รู้จักเก็บออม ไม่ฟุ ่ มเฟื อย ใช้ทรัพยากรทีมอี ยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการวางแผน ใช้ความรู้คู่คุณธรรม ซือสตั ย์ต่อตนเองและผู้อนื ซึงตรงกันกับลักษณะการดาํ เนิน ชีวิตแบบเศรษฐกจิ พอเพียง นอกจากนี ผู้วิจัยได้ประเมนิ ผลสาํ เร็จตามกรอบแนวคิดทีวางไว้ และได้ ข้อค้นพบว่าในการดําเนินโครงการต่าง ๆ ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านบึงทีเป็นการ นําแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใชน้ ั น ทําให้เจ้าหน้าทีและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ http://www.ssru.ac.th
32 เกียวกับแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งมากขึ น นอกหเ นือจากการรบั รู้ข้อมูลข่าวสารจากสอื ต่าง ๆ ทั ง สอื สิงพิมพ์ สือวิทยุโทรทัศน์ ทั งนี ในการดาํ เนนิ โครงการดังกล่าวได้รบั การตอบรับจากทุกฝ่ ายที เกียวข้องในศูนย์ฝึก ดว้ ยต่างก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านบึง ในแง่การบริหาร การประหยัดงบประมาณ ภาพลักษณ์ขององค์กร และเป็นประโยชน์กับตัว เจ้าหน้าทใี ห้เรียนรู้ถึงความพอเพียงในการดําเนินชีวิต รู้จักประหยัดอดออม เหน็ คุณค่าและรู้จักใช้ ทรัพยากรธรรมชาติให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักพอประมาณมี จิตสํานึกของความรับผิดชอบร่วมกัน และสามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาเยาวชนได้ ทรงศักดิ ศรบี ุญจิตต์ และคณะ (2551) ได้ทําโครงการประเมินผลเปรียบเทยี บในมติ ิต่าง ๆ ของประชาชนในการนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ จากการวัดระดับความรู้และ ความเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า ประชาชนในทุกอาชีพยังไม่ค่อยมคี วามเข้าใจในหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ประชาชนทัวไปส่วนใหญ่มคี วามเข้าใจปรชั ญาเศรษฐกจิ ในระดับมาก ในด้านหลักการมภี ูมคิ ุ้มกัน ประชาชนในภาคเกษตรมีความเข้าใจในระดับปานกลาง โดยเฉพาะ ด้านหลักการมีภูมคิ ุ้มกันและเงือนไขการมคี วามรู้และคุณธรรม ประชาชนในภาคบริการมีความ เข้าใจในระดับมาก โดยเฉพาะด้านหลักการมภี ูมคิ ุ้มกัน เจ้าของหรือผู้บริหารภาคอุตสาหกรรมมี ความเข้าใจในระดับมาก โดยเฉพาะด้านหลักการมีภูมคิ ุ้มกัน และลูกจ้างภาคตอสุ าหกรรมมีความ เข้าใจในระดับมาก โดยเฉพาะหลักการมภี ูมคิ ุ้มกัน ส่วนประชาชนในภาคราชการมคี วามเข้าใจใน ระดับมาก โดยเฉพาะด้านหลักการมภี ูมิคุ้มกัน เมือศึกษาการนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมา ประยุกต์ใช้ในทุกมติ ิ พบว่าประชาชนทัวไปนํามาประยุกต์ใช้ในระดับมาก ประชาชนในภาคเกษตร นํามาประยุกต์ใช้ในระดับปานกลาง และประชาชนในภาคบริการ นํามาประยุกตใ์ ช้ในระดับปาน กลาง โดยนํามาใช้มากในมิติด้านสังคมเช่นเดียวกัน สาํ หรับเจ้าของหรือผู้บริหารภาคอุตสาหกรรม นํามาประยุกต์ใช้ในระดับปานกลาง และประชาชนภาคราชการ นํามาประยุกต์ใช้ในระดับมาก โดยนํามาใช้มากในมติ สิ ังคมเช่นเดียวกัน นอกจากนั นยังพบว่าการนําปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้นั นมคี วามสัมพันธ์กับระดับความรู้ความเข้าใจในหลักการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยผู้ทีมคี วามเข้าใจมากจะนํามาประยุกต์ใช้มาก ส่วนผู้ทีเข้าใจน้อยก็จะนํามาใช้น้อย นันทน์ ภัส บุญแย้ม(2551) ได้ทําการศึกษาทัศนะของประชาชนต่อการนําแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ในชีวติ ประจําวัน: กรณีศึกษาประชาชนในตําบลคลองประเวศ อาํ เภอ บ้านโพธิ จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ในส่วนของปัจจัยแวดล้อม ประชาชนในตําบลติดตามข่าวสาร และรบั ข่าวสารเกียวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงผ่านสือโทรทัศนเ์ ป็นประจําทุกวัน เคยรับรู้และ ได้รับความเข้าใจเรืองแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งจากสือโทรทัศน์อยู่ในระดับมาก แต่ไม่เคยเข้าร่วม http://www.ssru.ac.th
33 โครงการหรือกิจกรรมเกียวกับเศรษฐกจิ พอเพียง ในเรืองทัศนะของประชาชนต่อการนําแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงประยุกตใ์ นชีวิตประจําวันอยู่ในระดับมาก และพบว่าปัจจัยทีมีผลต่อทัศนะใน การนําแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงประยุกตไ์ ช้ในชีวติ ประจําวันของประชาชนในตาํ บลคลองประเวศ อาํ เภอบ้านโพธิ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ อายุ อาชีพ ความถีในการรับสือ และระดับประสิทธิผล ของสือในการให้ความรู้ ประเสริฐ ยังปากนํ า(2551) ได้ทําการศึกษาแนวคดิ ทางสังคมว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ในสังคมไทย พบว่า(1) แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในสังคมไทย แท้จริงแล้วก็คือแนวคิดทมี ีรากฐาน ซึงมวี วิ ัฒนาการสบื เนืองมาจากระบบเศรษฐกจิ และวัฒนธรรมของสังคมไทยแท้ ๆ ตั งแต่อดีต สบื เนืองมาจนถงึ ปัจจุบัน ซึงชัดเจนมากเมอื พิจารณาโดยตลอดจากพัฒนาการในช่วงรัตนโกสินทร์ ยุคต้นจนถึงปัจจุบัน(2) แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นแนวทางการดําเนนิ ชีวติ และวิถีปฏิบัติที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดาํ รัสชี แนะแก่พสกนิกชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี และเป็นแนวทางทีมคี วามสอดคล้องกับวิถชี ีวิตทีชุมชนในชนบทจํานวนมากปฏบิ ัติ ต่อเนืองกันมาตั งแต่อดตี ดังปรากฏในกระแสพระราชดํารัสและพระบรมราโชวาททีเด่นชัดใน ระหว่างปี พ.ศ. 2510-2550 และในชว่ งหลายปีทีผ่านมาได้มีกระบวนการขับเคลอื นให้แนวคิดนี ยก สถานะเป็นปรัชญานําทางของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซงึ ไดป้ รากฏชัดนับตั งแต่แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตฉิ บับที9 เป็นต้นมา ดังทีรู้จักกันในนาม“ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง” ทั งนี เพือปรบั ทิศทางและแนวทางการพัฒนาประเทศให้ลดความเสยี งและมคี วามสมดุลมากยิงขึ น กว่าทีเป็นอยู่ (3) แนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง มีนัยของความหมายในหลาย ๆ มติ ิแบบองคร์ วม คอื มคี วามครอบคลุมทั งมิติทางด้านความคิด ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ทางด้านการพัฒนา ทางด้าน เศรษฐกิจ วัฒนธรรมชุมชน ทางด้านการเมอื ง และทางด้านวัฒนธรรม เป็นต้น และมีองค์ประกอบ ด้านแนวคดิ ทีสาํ คัญ 7 ประการ คือ เป็นแนวคดิ ทีเป็นหลักการสากล มหี ลกั การของฐานคดิ แบบ องคร์ วม มีรากฐานมาจากหลักพุทธธรรม เป็นแนวคิดทีมีพื นฐานมาจากวิถีดั งเดิมของสังคมไทย เป็นแนวคิดทีมีลักษณะเปิด เป็นแนวคดิ ทีมีอุดมการณพ์ ึงตนเอง และเป็นแนวคดิ ทีสามารถนําไป ปฏบิ ัตไิ ด้จริง (4) การพัฒนาตามแนวทางทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดาํ ริ กค็ ือรปู ธรรมของ ตัวอยา่ งในภาคปฏบิ ัติตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการพัฒนาภาคการเกษตรของ สังคมไทย เป็นการพัฒนาทีมุ่งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ครอบครวั ชุมชน และสังคมประเทศ ให้มีความเข้มแข็งพึงตนเองได้ โดยให้ความสาํ คัญกับการนําทุนของประเทศทีมศี ักยภาพและ ความได้เปรียบด้านอัตลักษณ์และคุณค่าของชาติ ทั งทุนทางสังคมด้านวัฒนธรรม ทุนทางด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ แวดล้อม ทุนทางด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น มาใช้ประโยชน์ใน http://www.ssru.ac.th
34 กระบวนการพัฒนาอยา่ งบูรณาการและเกื อกูลกันและกัน โดยมุ่งให้เกดิ ความสมดุลในประโยชน์ ของทุกภาคส่วนในสังคมอย่างเป็นธรรม และเพือพร้อมรับการเปลียนแปลงจากภายนอกในโลกยุค โกลาภวิ ัตนได้ อย่างมันคง สุมาลี จันทร์ชลอ และคณะ(2551) ได้ทําการศึกษาความเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของประชาชนในกรุงเทพมหานคร พบว่าในภาพรวม ประชาชนกรุงเทพมหานครมีความเข้าใจ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในระดับพอใช้ คะแนนเฉลียโดยรวม 19.08 (ประมาณร้อยละ 76) ผล การเปรียบเทียบระหว่างประชาชนเพศชายและเพศหญิง และระหว่างประชาชนผู้ประกอบอาชีพ พบว่าแตกต่างกันของความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่มีนัยสาํ คัญทางสถิติ ผล การศึกษาพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวติ ของประชาชนทีพักอาศัยอยใู่ นเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล ในภาพรวมพบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมด้านการใช้จ่ายพอประมาณมพี ฤติกรรมอยู่ใน ระดับบอ่ ยครั งถึงเป็นประจํา ด้านความรอบคอบมีพฤติกรรมอยู่ในระดับบ่อยครั ง ด้านความมี เหตุผลมพี ฤตกิ รรมอยู่ในระดับบอ่ ยครั ง ด้านการช่วยเหลือครอบครวั มพี ฤติกรรมอยในู่ ระดับ บอ่ ยครั ง ยกเว้นด้านการมสี ่วนแก้ปัญหาในครอบครัว นักเรียนมพี ฤติกรรมระดับนานครั ง ประชาชนมีพฤติกรรมอยู่ในระดับบอ่ ยครั ง ถงึ นาน ๆ ครั ง ด้านการชว่ ยเหลือสังคม ด้านการใส่ใจ สงิ แวดล้อม ส่วนด้านการพัฒนางานให้ก้าวหน้ามีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับนาน ๆ ครั ง ผลการศกึษา พฤติกรรมของประชาชน 5 กลุ่มยอ่ ย คือ นักเรียนโรงเรียนเอกชน นักเรียนโรงเรียนรัฐบาล พนักงาน ในภาคอุตสาหกรรม ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการค้ารายย่อย พบว่ามคี วามแตกต่างอยา่ งมี นัยสําคัญทางสถิติ ด้านความมเี หตุผล การดูแลสงิ แวดล้อม การช่วยเหลือครอบครัว การชว่ ยเหลือ สังคมและด้านความรอบคอบ ความแตกต่างอยา่ งไม่มนี ัยสําคัญทางสถติ ิ ด้านการใช้จ่ายอย่าง พอประมาณและการพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า ผลการวเิ คราะห์ความคดิ เหน็ ของประชาชน เกียวกับเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยค่าร้อยละ พบว่าประชาชนส่วนมาก มคี วามเหน็ สอดคล้องกันว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะชว่ ยพัฒนาสังคมได้ และเห็นด้วยทีทุกครอบครวั ต้องทํา งบประมาณค่าใช้จา่ ย และเหน็ ด้วยว่าการดําเนนิ ชีวิตเศรษฐกจิ พอเพียงจะทําให้สบายภายหลัง อภชิ าติ ชเู กียรติสกุล (2551) ได้ทําการศึกษาความรู้ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ของข้าราชการทหารสังกัดกองพันพัฒนาที3 พบว่า (1) ผลการศึกษาระดับความรู้ความ เข้าใจ พบว่าโดยภาพรวมข้าราชการทหารสังกัดกองพันพัฒนาท3ี มีความรู้ความเข้าใจเกยี วกับ เศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในเกณฑ์ระดับดมี าก เมอื พิจารณาแต่ละด้านจากทั งหมด9 ด้าน พบว่า ด้าน ประโยชน์ ผู้ให้ข้อมูลส่วนมากมีความรู้ความเข้าจใอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก ส่วนในด้านเงือนไข คุณธรรม ผู้ให้ข้อมูลเกือบครึง พบว่ามีความรู้ความเข้าใจ อยู่ในเกณฑ์ตํากว่าระดับดี แสดงให้เห็น http://www.ssru.ac.th
35 ว่าขาดความละเอียดในการวิเคราะห์แยกแยะ และพิจารณาอย่างชัดเจนระหว่างความถูกต้องทาง สังคมกับความดงี ามตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงหรือหลักทางศาสนา (2) ผลการศึกษา ปัจจัยทีส่งผลต่อระดับความรู้ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า โดยภาพรวม รายจ่ายและแนวทางการส่งเสริมของหนว่ ยงานของข้าราชการทหารสังกัดกองพันพัฒนาที3 มี ความสัมพันธ์กับระดับความรู้ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อยา่งมีนัยสําคัญทางสถิติ ทีระดับ .05 จากด้านรายจ่ายแสดงให้เหน็ ว่าแนวโน้มผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญท่ ีมีการใช้จา่ ยน้อย อาจจะมคี วามเข้าใจในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงดีมาก โดยน่าจะดําเนินชีวิตอยา่ งมเี หตุผล รู้จักคิด วเิ คราะห์ และเข้าใจในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งแท้จริง สาํ หรับแนวทางในการ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกียวกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง หากเปิ ดโอกาสให้ร่วมคดิ ร่วมทํา ร่วม รับผดิ ชอบ ร่วมรับผลประโยชน์ จะได้มีประสบการณ์ทีมาก แนวโน้มนา่ จะทําให้เกิดความรู้ความ เข้าใจในเรืองของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งแท้จริงมากขึ น และสามารถนําไปประยุกตใ์ ช้กับ การดาํ เนินชีวติ ประจําวัน ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสมมากขึ นต่อไป จากการศึกษาแนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวิจัยทีเกียวข้องกับพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิตตาม หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา จะเห็นได้ว่ามีตัวแปรทีเกียวข้องกับพฤตกิ รรมตาม หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ได้แก่ มหาวทิ ยาลัย เพศ ชั นปี ทีศึกษารายได้ต่อเดอื น รายจ่ายต่อ เดือน และภูมิลําเนา นอกจากนี ยังมีตัวแปรเกียวกับความรู้ความเข้าใจปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในด้านหลักการ ประกอบด้วย (1) พอประมาณ (2) มเี หตุผล(3) มีภูมิคุ้มกันและด้านเงือนไข ประกอบด้วย (1) ความรู้ (2) คุณธรรม ซึงตัวแปรเหล่านี จะทําให้ทราบ(1) ระดับความรู้ความ เข้าใจปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษา (2) ระดับพฤตกิ รรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา(3) ความคิดเห็นของนักศึกษาในการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้เป็ นแนวทางในการดําเนินชีวิต http://www.ssru.ac.th
36 กรอบแนวคิดของการวิจยั ข้อมูลทัวไปของนักศึกษาประกอบด้วย 1. ระดับความรู้ความเข้าใจปรัชญา 1. มหาวิทยาลัย เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา 2. เพศ 3. ชั นปีทีศึกษา 2. พฤติกรรมการดําเนินชีวิตตาม 4. รายได้ต่อเดอื น หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของ 5. รายจ่ายต่อเดือน นักศึกษา 6. ภูมิลําเนา 3. ความคดิ เห็นของนักศึกษาใน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ การนําหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1. หลักการ ประกอบด้วย มาใช้ เป็ นแนวทางในการดําเนินชีวิต นักศึกษา 1.1 พอประมาณ 1.2 มีเหตุผล 1.3 มภี ูมคิ ุ้มกัน 2. เงือนไข ประกอบด้วย 2.1 ความรู้ 2.2 คุณธรรม http://www.ssru.ac.th
บทที 3 วิธดี ําเนินการวิจัย การศึกษาพฤตกิ รรมการดําเนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานครผู้วจิ ัยได้ดาํ เนินการวิจัยโดยมรี ายละเอยี ดดังนี 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง 3.2 เครืองมือทีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.3 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4 ขั นตอนและสถิติทีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร ประชากรทีใช้ในการวิจัยครั งนเี ป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีทีกําลังศึกษาใน มหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร6 แห่ง ได้แก่ 1) มหาวทิ ยาลัยราชภฏั จันทรเกษม 2) มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี3) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา4) มหาวิทยาลัย- ราชภัฏพระนคร 5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต6) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจํานวน 115,542 คน (สาํ นักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, 2553) กลุ่มตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่างในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอยา่ งทีใช้ในการวจิ ัยประมาณขนาดกลุ่มตัวอยา่ งจากตารางYamane ที ระดับความเชือมัน95% (Yamane อ้างถงึ ใน สุวมิ ล ติรกานันท,์ 2548: 177) ซงึ ต้องใช้กลุ่ม ตัวอย่าง จํานวน 420 คน จากนั นจะทําการเลือกตัวอยา่ งโดยวธิ ีการสมุ่ แบบหลายขั นตอน(Multi- stage Sampling) ซงึ จะทําการสุ่มนักศึกษาเพือให้ได้ตัวแทนของประชากรทีทําการศึกษา http://www.ssru.ac.th
38 กลุ่มตัวอย่างในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการสนทนากลุ่ม ผู้วิจัยจะคัดเลือกนักศึกษาแบบเฉพาะเจาะจง โดยทําการ สนทนาเกียวกับประเด็นพฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และความคดิ เห็นต่อหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง รวมนักศึกษาทีทําการสนทนากลุ่ม6 กลุ่ม จากมหาวทิ ยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร ทั ง6 แห่ง จํานวน 36 คน ตารางที 3.1 จํานวน และร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจําแนกตามมหาวิทยาลยั ลาํ ดับที มหาวิทยาลัย จํานวน (คน) ร้ อยละ 70 16.67 1 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 70 16.67 70 16.67 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 70 16.67 70 16.67 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 70 16.67 420 100.00 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 5 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต 6 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รวม 3.2 เครื องมือทีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.2.1 เครืองมอื ทีใช้ในการวิจัยครั งนีมีดังนี 3.2.1.1 แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแบบ 2 ตัวเลือก ถูก-ผิด จํานวน 20 ข้อ 3.2.1.2 แบบสอบถามวัดพฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวิตของนักศึกษาตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง แบบสอบถามแบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี ตอนที 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลทัวไปของนักศึกษา ตอนที 2 เป็นแบบสอบถามวัดพฤติกรรมการดําเนินชีวิตของนักศึกษาตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยข้อความทีสร้างขนึ เป็นแบบมาตรประเมินค่า (Rating scale) แบบ 3 ระดับ ให้ผู้ตอบเลือกตอบโดยกาเครืองหมาย ลงในชอ่ งทีต้องการจะตอบเพียงข้อเดียวใน หนึงข้อความ http://www.ssru.ac.th
39 ในการสร้างแบบทดสอบและแบบสอบถาม ผู้วิจัยดําเนินการสร้างตามขั นตอน ดังนี (1) แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. กําหนดจุดมุ่งหมายในการสร้างแบบทดสอบความรู้ความเข้าใจ เกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2. ศึกษานิยาม ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยทเี กียวข้อง เพอื นํามาเป็น แนวทางในการสร้างแบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงซงึ จะ ครอบคลุมเนื อหาเกียวกับ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกัน และการมีความ รอบคอบและคุณธรรมจริยธรรม 3. เขยี นนิยามศัพท์เชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัตกิ ารเกยี วกับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 4. สร้างแบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นแบบ 2 ตัวเลอื ก ถูก-ผิด จํานวน 20 ข้อ 5. นําแบบทดสอบทีสร้างขึ นไปให้ผู้เชยี วชาญ จํานวน3 ท่าน ตรวจสอบ ความเทียงตรงเชิงเนื อหา(Content validity) เพือคัดเลือกและปรับปรุงข้อความให้สอดคล้องกับ นิยามทีกําหนดไว้ โดยข้อความทั งหมดต้องมคี ่าดัชนีความสอดคล้อง(IOC) ตั งแต0่ .5 ขึ นไป 6. นําแบบทดสอบทีผ่านการคัดเลือกแล้วในข้อ5 ไปทดลองใช้ (try out) กับนักศึกษา ทีไม่ใชก่ ลุ่มตัวอยา่ ง จํานวน30 คน แล้วนําผลจากการทําแบบทดสอบมาตรวจหาให้ คะแนนตามเกณฑ์ ถ้าตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี ค่าคะแนน สูงกว่า14 คะแนน หมายถงึ ระดับความรู้สูง ค่าคะแนนระหว่าง 7 – 14 คะแนน หมายถึง ระดับความรู้ปานกลาง ค่าคะแนน ตาํ กว่า 7 คะแนน หมายถึง ระดับความรู้ตํา จากนั นนําผลทีได้มาหาค่าความเชือมัน(reliability) ของแบบทดสอบโดยใช้สูตรคูเดอร-์ ริชาร์ดสัน (KR-20) ได้ค่าความเชือมันเทา่ กับ0.750 7. จัดพิมพ์แบบทดสอบ เพือนําไปใช้ในการเกบ็ ข้อมูลการวิจัย (2) แบบสอบถามวัดพฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวิตของนักศึกษาตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง มขี ั นตอนการสร้าง ดังนี 1. กําหนดจุดมุ่งหมายในการสร้างแบบวัดพฤติกรรมการดําเนินชีวติ ของ นักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง http://www.ssru.ac.th
40 2. ศึกษานิยาม ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยทีเกยี วข้อง เพือนํามาเป็น แนวทางในการสร้างแบบวัดพฤตกิ รรมการดําเนินชีวิตของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3. เขยี นนิยามศัพท์เชิงทฤษฎแี ละเชิงปฏิบัตกิ ารพฤติกรรมการดาํ เนิน ชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. สร้างแบบสอบถามวัดพฤติกรรมการดาํ เนินชีวิตของนักศึกษาตาม หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 5. นําแบบสอบถามทีสร้างขึ นไปให้ผู้เชียวชาญ จํานวน3 ท่าน ตรวจสอบความเทียงตรงเชิงเนื อหา(Content validity) เพือคัดเลอื กและปรับปรุงข้อความให้ สอดคล้องกับนิยามทีกําหนดไว้ โดยข้อความทั งหมดต้องมีค่าดัชนคี วามสอดคล้อง(IOC) ตั งแต่ 0.5 ขึ นไป 6. นําแบบสอบถามทีผ่านการคัดเลอื กแล้วในข้อ5 ไปทดลองใช้ (try out) กับนักศึกษา ทีไม่ใชก่ ลุ่มตัวอย่าง จํานวน30 คน แล้วนําผลจากการตอบแบบสอบถามมาตรวจ ให้คะแนนตามเกณฑ์ ดังนี ระดับการปฏบิ ัติ เกณฑ์การให้คะแนน บ่อยครั ง ให้ 2 คะแนน นาน ๆ ทําครั ง ให้ 1 คะแนน ไม่เคย ให้ 0 คะแนน จากนั นนําผลทีได้มาหาคา่ความถี ร้อยละ ค่าเฉลีย และส่วนเบียงเบนมาตรฐาน แล้วนํามาเปรียบเทยี บระดับพฤตกิ รรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยถือ เกณฑ์ ดังนี ค่าคะแนนเฉลียระหว่าง 1.34-2.00 หมายถงึ ระดับพฤติกรรมสูง ค่าคะแนนเฉลยี ระหว่าง 0.67-1.33 หมายถงึ ระดับพฤติกรรมปานกลาง ค่าคะแนนเฉลยี ระหว่าง 0.00-0.66 หมายถงึ ระดับพฤติกรรมตํา นําผลทีได้มาหาค่าความเชือมัน(reliability) ของแบบสอบถามโดยใช้สูตร สัมประสทิ ธิ แอลฟ่ า(Alpha coefficient) ของ Cronbach ได้ค่าความเชือมันเทา่ กับ0.830 7. จัดพิมพ์แบบสอบถาม เพอื นําไปใช้ในการเก็บข้อมูลการวจิ ัย http://www.ssru.ac.th
41 3.3 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.3.1 ข้อมูลเชิงปริมาณ ดําเนินการดังนี 3.3.1.1 ผู้วิจัยได้ทําการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยมีขั นตอน ดังนี 1) ผู้วจิ ัยเก็บรวบรวมข้อมูลกับนักศึกษาในช่วงเดือนมิถุนายน-สงิ หาคม 2553 โดยทําการแจกแบบสอบถาม ให้กับนักศึกษาทั ง6 มหาวิทยาลัยจงึ ได้กลุ่มตัวอย่างจํานวน 420 คน 2) ก่อนลงมือตอบแบบสอบถามผู้วิจัยได้ชี แจงงถวึ ัตถุประสงค์การวิจัย และขั นตอนการตอบแบบสอบถามให้นักศึกษาเข้าใจ จากนั นให้นักศึกษาลงมือตอบแบบสอบถาม ตามความเป็ นจริง 3.3.1.2 นําผลทีได้จากการตอบแบบสอบถามมาตรวจให้คะแนน และวเิ คราะห์ ข้อมูลต่อไป 3.3.2 ข้อมูลเชิงคุณภาพ ดําเนินการดังนี ผู้วจิ ัยเกบ็ ข้อมูลด้วยตนเอง โดยทําการสนทนากลุ่มมีทั งหมด6 กลุ่ม แบ่งเป็น 6 ครั ง ผู้วจิ ัยทําหน้าทเี ป็นผดูาํ้ เนนิ การสนทนาและบันทึกเทป หลังจากการสนทนากลมุ่ เสร็จจะมีการ สรุปข้อมูลและวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงเนื อหาต่อไป 3.4 ขั นตอนและสถติ ิทีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4.1 ข้อมูลเชิงปริมาณ ดาํ เนินการดังนี ในการวจิ ัยครั งนี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสาํ เรจ็ รูป ตามลาํ ดับดังนี ตอนที 1 การวเิ คราะห์ข้อมูลทัวไปของกลุ่มตัวอยา่ ง เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามใช้การหาค่าความถี และ ร้อยละ จําแนกตามมหาวิทยาลัย เพศ ชั นปีทีศึกษารายได้ต่อเดือน รายจ่ายต่อเดอื น และ ภูมลิ าํ เนา http://www.ssru.ac.th
42 ตอนที 2 การวเิ คราะห์ระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้วยแบบทดสอบถูก-ผดิ โดยใช้การหาค่าเฉลีย ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test One-Way ANOVA ตอนที 3 การวิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวติ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็ นการวิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตของนักศึกษาด้วยการหาค่าเฉลีย ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test One-Way ANOVA ตอนที 4 การวิเคราะห์ความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการนาํ หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ เป็ นแนวทางในการดําเนินชีวิต 3.4.2 ข้อมูลเชิงคุณภาพ ดาํ เนินการดังนี การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วจิ ัยได้ทําการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื อหาใน ระหว่างการสนทนากลุ่ม หลังจากนั นได้นําผลการจดบันทึกข้อมูลและเทปบันทึกมวาเิ คราะห์ ประกอบ และทําการจัดประเภทข้อมูลเพือสรุปผลการศึกษา โดยผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยได้ใช้ประกอบกับข้อมูลเชิงปริมาณเพือให้เห็นพฤติกรรมการดําเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษาชัดเจนยิงขึ น http://www.ssru.ac.th
บทที 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาพฤตกิ รรมการดําเนินชีวติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัย ราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร มวี ัตถุประสงค์1) เพือศึกษาระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา2) เพือศึกษาระดับพฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวิตตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา3) เพือศึกษาความคดิ เห็นของนักศึกษาในการนําหลักเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดาํ เนินชีวติ ซึงได้แยกการวิเคราะห์ข้อมูลเป็น 3 ตอน ดังนี 4.1 ตอนที 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทัวไปของกลุ่มตัวอยา่ ง เป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถามใช้การหาค่าความถี และ ร้อยละ จําแนกตามมหาวิทยาลัย เพศ ชั นปีทีศึกษารายได้ต่อเดอื น รายจ่ายต่อเดือน และ ภูมลิ ําเนา 4.2 ตอนที 2 การวิเคราะห์ระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลความรูค้ วามเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้วยแบบทดสอบถูก-ผดิ โดยใช้การหาค่าเฉลีย ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test One-Way ANOVA 4.3 ตอนที 3 การวเิ คราะห์ระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นการวเิ คราะห์ระดับพฤติกรรมการดาํ เนินชีวิตของนักศึกษาด้วยการหาค่าเฉลยี ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และสถิตทิ ดสอบ t-test One-Way ANOVA 4.4 ตอนที 4 การวเิ คราะห์ความคิดเหน็ ของนักศึกษาต่อการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้เป็ นแนวทางในการดําเนินชีวติ http://www.ssru.ac.th
44 4.1 ตอนที 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั วไปของกลุ่มตัวอย่าง ตารางที 4.1 จํานวนและร้อยละของนักศึกษาจําแนกตามมหาวิทยาลัย เพศ ชั นปี ทศี ึกษารายได้ต่อ เดอื น รายจา่ ยต่อเดอื น และภูมลิ ําเนา มหาวิทยาลัย ข้อมูล จํานวน ร้ อยละ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 70 16.67 เพศ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 70 16.67 ชั นปีทีศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 70 16.67 รายได้ต่อเดือน มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 70 16.67 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสติ 70 16.67 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 70 16.67 420 100.00 รวม 161 38.30 ชาย 259 61.70 หญิง 420 100.00 121 28.80 รวม 103 24.50 ชั นปีท1ี 104 24.80 ชั นปีท2ี 92 21.90 ชั นปีท3ี 420 100.00 ชั นปีท4ี 52 12.40 193 46.00 รวม 123 29.20 ตาํ กว่า 3,000 บาท 34 8.10 3,000-5,000 บาท 18 4.30 5,001-8,000 บาท 420 100.00 8,001-10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท รวม http://www.ssru.ac.th
45 ตารางที 4.1 (ต่อ) จํานวน ร้ อยละ 55 13.10 ข้อมูล 210 50.00 ค่าใช้จา่ ยต่อเดอื น ตาํ กว่า 3,000 บาท 114 27.10 28 6.70 3,000-5,000 บาท 13 3.10 5,001-8,000 บาท 420 100.00 8,001-10,000 บาท 177 42.10 มากกว่า 10,000 บาท 243 57.90 420 100.00 รวม ภูมลิ าํ เนาเดิม กรุงเทพและปริมณฑล ต่างจังหวัด รวม จากตารางที 4.1 กลุ่มตัวอยา่ งของนักศึกษาจําแนกตามข้อมูลทัวไปของนักศึกษาตาม มหาวิทยาลัยพบว่าทุกมหาวทิ ยาลัยราชภัฏมจี ํานวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67 จําแนกตามเพศ พบว่าส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิง จํานวน 259 คน คดิ เป็นร้อยละ 61.70 ส่วนเพศชายมี จํานวน 161 คน คิดเป็นร้อยละ 38.30 จําแนกตามชั นปี พบว่ากลุ่มตัวอยา่ งเป็นนักศึกษาชั นปี1ทีจํานวน 121 คน คดิ เป็น ร้อยละ 28.80 เป็นนักศึกษาชั นปีท2ี จํานวน 103 คน คิดเป็นร้อยละ 24.50 เป็นนักศึกษาชั นปี ท3ี จํานวน 104 คน คดิ เป็นร้อยละ 24.80 และเป็นนักศึกษาชั นปี ท4ี จํานวน 92 คดิ เป็นร้อยละ 21.90 จําแนกตามรายได้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมรี ายได้ต่อเดือนส่วนใหญอ่ ยูท่ ี 3,000 – 5,000 บาท จํานวน 193 คน คดิ เป็นร้อยละ 46.00 รองลงมามรี ายได้ 5,001 – 8,000 บาท จํานวน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 29.30 นักศึกษามีรายได้ตาํ กว่า 3,000 บาท จํานวน 52 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.40 นักศึกษามรี ายได้ 8,001 – 10,000 บาท จํานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 8.10 และมรี ายได้ มากกว่า 10,000 บาท จํานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 4.30 จําแนกตามรายจา่ ย พบว่ากลุ่มตัวอยา่ งมีรายจา่ ยต่อเดือนสว่ นใหญ่อยู่ที 3,000 – 5,000 บาท จํานวน 210 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.00 รองลงมามีรายจา่ ย 5,001 – 8,000 บาท จํานวน 114 คน คดิ เป็น ร้อยละ 27.10 มรี ายจ่ายตาํ กว่า 3,000 บาท จํานวน 55 คน คดิ เป็นร้อยละ 13.10 มี รายจ่าย 8,001 – 10,000 บาท จํานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 6.70 และมีรายจา่ ยมากกว่า 10,000 บาท จํานวน 13 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.10 http://www.ssru.ac.th
46 จําแนกตามภูมลิ าํ เนา พบว่ากลุ่มตัวอย่างของนักศึกษาส่วนใหญ่มภี ูมลิ ําเนาอยู่ใน ต่างจังหวัด จํานวน243 คน คิดเป็นร้อยละ 57.90 และมภี ูมิลาํ เนาในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล จํานวน 177 คน คดิ เป็นร้อยละ 42.10 4.2 ตอนที 2 การวิเคราะห์ระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ตารางที 4.2 ค่าเฉลยี ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน ระดับความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง จําแนกตามเพศ เพศ n X ระดับความรู้ ชาย 161 15.06 สูง หญิง 259 15.82 สูง รวม 420 15.53 สูง จากตารางที 4.2 พบว่านักศึกษาหญิงมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงอยู่ในระดับสูง( X = 15.82) และนักศึกษาชายมีความรู้ในระดับสูง( X = 15.06) ตามลําดบั ตารางที 4.3 เปรียบเทียบคะแนนความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง จําแนกตามเพศ เพศ n X SD. t ชาย 161 15.06 2.34 3.535* หญิง 259 15.82 1.99 รวม 420 15.53 2.16 *p<.05 จากตารางที 4.3 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภฏั ทีมเี พศต่างกัน มคี วามรู้ความเข้าใจ เกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงแตกต่างกันอยา่ งมีนัยสําคัญทางสถิติทีระดับ.05 โดย นักศึกษาหญิงมคี วามรู้ความเข้าใจสูงกว่านักศึกษาชาย http://www.ssru.ac.th
47 ตารางที 4.4 ค่าเฉลยี ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน ระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง จําแนกตามมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวทิ ยาลัย X SD. ระดับความรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 2.11 สูง มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 14.79 2.03 สูง มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 14.93 2.07 สูง มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 16.19 2.04 สูง มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสติ 16.23 1.78 สูง มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 16.14 2.35 สูง 14.90 2.16 สูง รวม 15.53 จากตารางที 4.4 พบว่านักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏมรีะดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมอยูใ่ นระดับสูง ( X = 15.53) เมอื พิจารณาเป็นราย มหาวิทยาลัยราชภัฏ พบว่าทุกมหาวทิ ยาลัยมรี ะดับความรู้อยู่ในระดสับูง ตารางที 4.5 เปรียบเทียบระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจําแนก ตามมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ รายการ แหล่ง SS df MS F ความรู ้ ความเข้ าใจหลักปรัชญา ความแปรปรวน เศรษฐกิจพอเพียง ระหว่างกลุ่ม 182.43 5 36.49 8.514* ภายในกลุ่ม 1774.23 414 4.29 *p<.05 1956.66 419 รวม จากตารางที 4.5 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละมหาวทิ ยาลัยมคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที ระดับ .05 ดังนั นต้องจึงทดสอบเป็นรายคู่ตามวธิ ีของตูกี (Tukey Method) ดังในตารางที 4.6 http://www.ssru.ac.th
48 ตารางที 4.6 ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเป็ นรายคู่ จันทร ธนบุรี บ้าน พระนคร สวนดุสิต สวน ความรู ้ ความเข้ าใจ เกษม สมเด็จ สุนันทา เศรษฐกิจพอเพียง เจ้าพระยา จันทรเกษม ธนบุรี X 14.76 14.93 16.19 16.23 16.14 14.90 บ้านสมเด็จเจ้าพระยา พระนคร 14.76 - -0.14 -1.40* -1.44* -1.36* -0.11 สวนดุสิต สวนสุนันทา 14.93 - -1.26* -1.30* -1.21* 0.03 *p<.05 16.19 - -0.04 0.04 1.29* 16.23 - 0.09 1.33* 16.14 - 1.24* 14.90 - จากตารางที 4.6 พบว่านักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏมคี วามรู้ความเข้าใจเกียวกับหลัก ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง แตกต่างกันอย่างมนี ัยสําคัญทางสถิติทีระดับ.05 จํานวน 9 คู่ คือ คู่ที 1 ค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา( X = 16.19) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจ เกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ( X = 14.76) คู่ที 2 ค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร( X = 16.23) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม( X = 14.76) คู่ที 3 ค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสติ ( X = 16.14) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันทรเกษม( X = 14.76) คู่ที 4 ค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา( X = 16.19) สูงกว่าค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจ เกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบุร(ี X = 14.93) http://www.ssru.ac.th
49 คู่ที 5 ค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร( X = 16.23) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุร(ี X = 14.93) คู่ที 6 ค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกียวกบั หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต( X = 16.14) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลัก ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุร(ี X = 14.93) คู่ที 7 ค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา( X = 16.19) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจ เกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ( X = 14.90) คู่ที 8 ค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร( X = 16.23) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา( X = 14.90) คู่ที 9 ค่าเฉลยี ความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต( X = 16.14) สูงกว่าค่าเฉลียความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา( X = 14.90) ตารางที 4.7 ค่าเฉลยี ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน ความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง จําแนกตามภูมลิ าํ เนา ภูมิลาํ เนา n X ระดับความรู้ กรุงเทพและปริมณฑล 177 15.22 สูง ต่างจังหวัด 243 15.75 สูง รวม 420 15.53 สูง จากตารางที 4.7 พบว่านักศึกษาทีมีภูมลิ าํ เนาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมี ความรูค้ วามเข้าใจเกยี วกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับสูง( X = 15.22) และ นักศึกษาทีมภี มู ิลําเนาในจังหวัดมีความรูค้ วามเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งอยู่ใน ระดับสูง( X = 15.75) เช่นกัน http://www.ssru.ac.th
50 ตารางที 4.8 เปรียบเทียบคะแนนความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง จําแนกตามภูมลิ าํ เนา ภูมลิ าํ เนา n X SD. t กรุงเทพและปริมณฑล 177 15.22 2.36 -2.441* ต่างจังหวัด 243 15.75 1.97 รวม 420 15.53 2.16 *p<.05 จากตารางที 4.8 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภฏั ทีมีภูมลิ าํ เนาต่างกัน มคี วามรู้ความ เข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาํ คัญทางสถิติทีระดับ.05 โดยนักศึกษาทีมีภูมลิ าํ เนาในต่างจังหวัดจะมคี วามรู้ความเข้าใจสูงกว่านักศึกษาทมี ภี ูมลิ ําเนาใน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล http://www.ssru.ac.th
51 4.3 ตอนที 3 การวิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการดําเนินชวี ติ ตามหลกั ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ตารางที 4.9 ค่าเฉลยี ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวติ ตามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏโดยภาพรวม พฤติกรรม X SD. ระดับพฤติกรรม 1. ด้านความพอประมาณ 1.11 0.26 ปานกลาง 2. ด้านความมเี หตุผล 3. ด้านการมภี ูมิคุ้มกัน 1.38 0.24 สูง รวม 1.46 0.27 สูง 1.32 0.21 สูง จากตารางที 4.9 พบว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมรี ะดับพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง เมือพิจารณารายด้าน พบว่าระดับ พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของนักศึกษามหาวิทยาลยั ราชภัฏ ด้านความมีเหตุผลและด้านภูมคิ ุ้มกันอยู่ในระดับสูงและด้านความพอประมาณนักศึกษามรี ะดับ พฤติกรรมการดําเนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษาอยูใ่ นระดับปานกลาง http://www.ssru.ac.th
52 ตารางที 4.10 เปรียบเทยี บระดับพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏจําแนกตามเพศ คุณลักษณะทางจริยธรรม นักศึกษาชาย นักศึกษาหญิง t n = 161 n = 259 1. ด้านความพอประมาณ X S.D X S.D -1.770 2. ด้านความมีเหตุผล -1.617 3. ด้านการมีภูมคิ ุ้มกัน 1.08 0.25 1.13 0.27 -1.848 1.35 0.26 1.39 0.23 -2.171* รวม 1.43 0.26 1.48 0.27 *p<.05 1.29 0.21 1.33 0.20 จากตารางที 4.10 พบว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏทีมเี พศต่างกัน มพี ฤตกิ รรมการ ดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมแตกต่างกันอยา่ งมีนัยสําคัญทางสถิตทิ ี ระดับ .05 โดยนักศึกษาหญิงมพี ฤตกิ รรมสูงกว่านักศึกษาชาย เมอื พจิ ารณาเป็นรายด้าน พบว่าทั ง นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงมพี ฤติกรรมด้านความพอประมาณ ด้านความมีเหตุผล ด้านการมี ภูมิคมุ้ กัน ไม่แตกต่างกัน http://www.ssru.ac.th
53 ตารางที 4.11 ค่าเฉลยี ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และระดับพฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวิตตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจําแนกตาม มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย พอประมาณ เหตุผล ภูมคิ ุ้มกัน รวม ระดับ X SD. X SD. X SD. X SD. พฤติกรรม จันทรเกษม 1.09 0.28 1.32 0.28 1.46 0.29 1.29 0.24 ปานกลาง ธนบุรี 1.05 0.21 1.36 0.25 1.48 0.28 1.29 0.20 ปานกลาง บ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1.20 0.23 1.43 0.23 1.50 0.26 1.38 0.19 พระนคร 1.19 0.22 1.42 0.24 1.50 0.24 1.37 0.18 สูง สวนดุสติ 1.12 0.26 1.40 0.21 1.48 0.25 1.33 0.19 สูง สวนสุนันทา 1.01 0.31 1.32 0.23 1.38 0.27 1.24 0.22 ปานกลาง ปานกลาง จากตารางที 4.11 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมรีะดับพฤติกรรมการดาํ เนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจําแนกตามมหาวทิ ยาลัย พบว่ามหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันท-ร เกษมมรี ะดับพฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอยูใ่ นระดับปานกลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีมรี ะดับพฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยีงอยู่ ในระดับปานกลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยามีระดับพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยูใ่ นระดับสูง มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครมีระดับพฤติกรรม การดําเนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงอยูใ่ นระดับสูง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสติ มี ระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับปานกลาง และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทามรี ะดับพฤติกรรมการดําเนินชีวติ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงอยู่ในระดับปานกลาง http://www.ssru.ac.th
54 ตารางที 4.12 เปรียบเทยี บระดับพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของ นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏจําแนกตามมหาวิทยาลัย พฤตกิ รรม แหล่ง SS df MS F 1. ด้านความพอประมาณ ความแปรปรวน 2. ด้านความมีเหตุผล ระหว่างกลุ่ม 2.00 5 0.40 6.125* ภายในกลุ่ม 27.16 414 0.67 3. ด้านการมีภูมคิ ุ้มกัน 29.16 419 รวม 0.85 5 0.17 2.942 รวม ระหว่างกลุ่ม 23.95 414 0.06 *p<.05 ภายในกลุ่ม 24.80 419 0.74 5 0.15 2.127 รวม 28.77 414 0.07 ระหว่างกลุ่ม 29.51 419 ภายในกลุ่ม 1.02 5 0.20 4.947* 17.07 414 0.04 รวม 18.09 419 ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม จากตารางที 4.12 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏทั ง6 แห่ง มพี ฤติกรรมการดําเนิน ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงโดยรวมแตกต่างกันอย่างมนี ัยสําคัญทางสถิตทิ ีระดับ.05 เมอื พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามคี วามแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติทีระดับ.05 จํานวน 1 ด้าน คือ ด้านความพอประมาณ ดังนั นต้องจึงทดสอบเป็นรายคู่ตามวิธีของตูกี (Tukey Method) ดังในตารางที 4.13 http://www.ssru.ac.th
55 ตารางที 4.13 ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลียพฤติกรรมการดําเนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏจําแนกตามมหาวิทยาลัย จันทร ธนบุรี บ้าน พระนคร สวนดุสติ สวน พฤติกรรมด้านความ เกษม สมเด็จ สุนันทา พอประมาณ เจ้าพระยา จันทรเกษม X 1.09 1.05 1.20 1.19 1.12 1.01 ธนบุรี บ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1.09 - 0.05 -0.11 -0.09 -0.02 0.09 พระนคร สวนดุสติ 1.05 - -0.15* -0.14* -0.07 0.04 สวนสุนันทา 1.20 - 0.02 0.09 0.19* *p<.05 1.19 - 0.07 0.18* 1.12 - 0.11 1.01 - จากตารางที 4.13 พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมพี ฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวติ ตาม หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณ แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิตทิ ี ระดับ .05 จํานวน 4 คู่ คอื คู่ที 1 พฤติกรรมการดําเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา( X = 1.20) สูงกว่าพฤติกรรมการ ดาํ เนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณของนักศึกษามหาวทิ ยาลัย ราชภัฏธนบุรี ( X = 1.05) คู่ที 2 พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร( X = 1.19) สูงกว่าพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิตตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ( X = 1.05) คู่ที 3 พฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา( X = 1.20) สูงกว่าพฤติกรรมการ ดาํ เนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัย ราชภัฏสวนสุนันทา( X = 1.01) http://www.ssru.ac.th
56 คู่ที 4 พฤตกิ รรมการดําเนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร ( X = 1.19) สูงกว่าพฤติกรรมการดําเนินชีวติ หลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านความพอประมาณ ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ( X = 1.01) ตารางที 4.14 เปรียบเทยี บระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจําแนกตามภูมลิ ําเนา พฤตกิ รรม กรุงเทพและ ต่างจังหวัด t ปริมณฑล n = 243 1. ด้านความพอประมาณ n = 177 -4.490* 2. ด้านความมีเหตุผล X S.D X S.D -3.294 3. ด้านการมีภูมิคุ้มกัน 1.04 0.27 1.16 0.25 -2.414 1.33 0.24 1.41 0.24 -4.234 รวม 1.43 1.49 1.49 0.26 *p<.05 1.27 0.21 1.35 0.20 จากตารางที 4.14 พบว่า นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏทีมีภูมลิ าํ เนาต่างกัน มีพฤตกิ รรม การดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงโดยรวมแตกต่างกันอยา่ งมนี ัยสาํ คัญทางสถิติที ระดับ .05 โดยนักศึกษาทีมีภูมลิ าํ เนาในต่างจังหวัดจะมีพฤติกรรมสูงกว่านักศึกษาทีมีภูมลิ าํ เนาใน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าทั งนักศึกษาทีมีภูมิลําเนาใน ต่างจังหวัดจะมีพฤติกรรมด้านความพอประมาณสูงกว่านักศึกษาทมี ภี ูมลิ าํ เนาในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑล http://www.ssru.ac.th
57 4.4 ตอนที 4 การวเิ คราะห์ความคิดเห็นของนักศึกษาในการนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี งไปใช้เป็ นแนวทางในการดําเนนิ ชวี ิต การศึกษาความคดิ เห็นของนักศึกษาต่อการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็น แนวทางในการดําเนินชีวติ ซงึ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลทีได้จากการทําการสนทนากลุ่มกับ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏทั ง6 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม 2) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบุรี3) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 4) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสติ 6) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ- สวนสุนันทาพบว่ามีประเด็นความคดิ เห็นเกียวกับเรืองนี อย3ู่ ประเด็น คอื (1) ด้านการดาํ รงชีวติ ประจําวัน พบว่า เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนํามาปรบั ใช้ กับการดาํ รงชีวิตประจําวันไดอ้ ยา่ งชัดเจนจะเกียวกับการเกบ็ ออมเงิน เพราะการประหยัดอดออม เป็นการฝึกให้ตนเองรู้จักการใช้จา่ ยเงินเท่าทีจําเป็นเทา่ นนั และเงินออมยังสามารถนํามาใช้จา่ ยใน เวลาทีฉุกเฉินทั งในการดาํ รงชีวิตและใช้ในการเรียนของตนเองและยังเป็นเงินทีเกบ็ ไว้ใช้ในอนาคต นอกจากนี เศรษฐกิจพอเพียงยังสามารถนํามาใช้ในลักษณะการจดัทําบัญชีรายรบั -รายจ่ายได้อีก ด้วย ซึงนักศึกษามีความเห็นว่าการทําบัญชเี ป็นการควบคุมการใช้จ่ายเงินของตนเองเป็นอยา่ งดี ทําให้มีการใช้เงินอย่างเป็นระบบ รู้ทีมาทีไปของเงนิ และทาํ ให้เป็นคนรู้จักประมาณตน รู้จักใช้จ่าย ไม่เกินตัว ดังคํากล่าวทีมีผู้ให้ข้อมูลไว้ว่า “การออมเงิ นจะช่วยให้เป็ นคนรู้จักใช้เงิน” “เมือทางบ้านเกิดขัดสนเราจะได้นําเงินสว่ นนันมาใช้ เพือแบง่ เบาภาระพอ่ แม่ได้บ้าง” “อนาคตเป็นสิงไม่แนน่ อนควรจะมีเงินออมไว้ใช้ในยาม จําเป็น” “การออมเงินเป็นสิงทีเราควรฝึกทํา ถ้าเราออมวันละ นิดละหน่อย ก็จะทําใหเ้ รามีเงินออม สามารถนําเงินออมไปใช้ ในยามจําเป็นได”้ http://www.ssru.ac.th
58 “การทําบัญชีรายรบั -รายจ่าย ทําให้รู้จักใช้จ่ายเงินให้ เป็นระบบไมเ่ กินงบประมาณ” “รู้ว่าแต่ละเดือนใชจ้ ่ายไปเท่าไร จะได้รู้จักใชใ้ ห้ พอเหมาะในแตล่ ะเดือน” “การทําบัญชีทําให้รู้ถึงรายรับ-รายจ่ายของตนเอง วา่ อันไหนควรตัด อันไหนจําเป็น และสามารถนํามาวิเคราะห์ ความสําคัญและความจําเป็ นในการดํารงชี วิ ต” นอกจากนี ในการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดาํ รงชีวติ ยังสามารถ นํามาปรบั ใช้เกียวกับการใช้ทรัพยากรทุกอยา่ งอย่างประหยัดและรู้คุณค่าเช่น การใช้วัสดุอุปกรณ์ การเรียน การใช้กระดาษรียูสแทนกระดาษใหม่ การใช้ไฟใช้นํ าอยา่ งประหยัด การใช้สิงของ ส่วนรวมอยา่ งทะนุถนอมและประหยัด และการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ใน รูปแบบของวัยรุ่นคอื การประยุกต์ของเก่าให้กลับมาใช้ได้อกี ครั ง เช่น การนําเสื อผ้าเกา่ มา ประดษิ ฐ์ทําใหมใ่ ห้ใช้ได้ตามสมยั นยิ ม (2) ด้านการเรียนการสอน พบว่าสามารถนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งเข้า มาทั งในลักษณะการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร เพือให้นักศึกษาทุกระดับได้มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถนําหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจําวันได้จริงและใน การจัดการเรียนการสอนทกุ คณะทุกรายวิชาควรมีการสอดแทรกหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เข้าไปในขณะทีอาจารยท์ ําการสอน เพือให้นักศึกษาได้คุ้นเคยและซมึ ซับคาํ นี ตลอดเวลา ดังทีมี ผู ้ ให้ ข้ อมูลกล่าวไว้ ว่า “ควรมีการจัดทําหลักสูตรรายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ให้นักศึกษาได้เรียน” “ควรมีการสอนให้นกั ศกึ ษาได้มีความรู้เกียวกับ เศรษฐกิจพอเพียง จะได้สอนให้รู้จักพอประมาณมีการใช้จ่าย อยา่ งประหยัด” http://www.ssru.ac.th
59 “ขณะทีอาจารย์สอนควรมีการสอนสอดแทรกเศรษฐกิจ พอเพียงให้นักศึกษาฟัง พร้อมมีการยกตัวอย่างประกอบเพือให้ นักศึกษามีแนวทางการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง” “อาจารย์ควรมีการสง่ เสริมและปลูกฝังเรืองเศรษฐกิจ พอเพียง โดยให้ความรู้ความเข้าใจกับนักศกึ ษา” นอกจากนี ในการเรียนการสอนภายในมหาวิทยาลัยควรจะมีการจัดตั งชมรมเศรษฐกิจ พอเพียงขึ น เพือจะได้เป็นแหล่งให้ความรู้ทั งในทางทฤษฎแี ละทางปฏิบัติ อีกทั งเยปัง็นการขยาย เครือข่ายให้นักศึกษาหันมาสนใจเรืองเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งจริงจัง และการเรียนการสอนควรมี การพานักศึกษาเรียนรู้การฝึกปฏิบัตติ นให้เป็นคนพอเพียง ดังทีมีผู้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ในการเรียนวิชาทีเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงควรมีการเน้นการฝึ กปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎ”ี “ควรมีการจดั ตังชมรมเศรษฐกิจพอเพียงในมหาวิทยาลัย” (3) ด้านการณรงค์ พบว่า นักศึกษามีความเห็นว่าการรณรงคเ์ศรษฐกจิ พอเพียงทีจะทํา ให้มีประสิทธิภาพมากทีสุดคือสือโฆษณาต่าง ๆ เชน่ สอื สิงพิมพ์ เว็ปไซด์การจัดบอร์ด การทําข่าว ภายในมหาวทิ ยาลัย เพราะสอื โฆษณาเป็นสงิ ทีจะทําให้นักศกึ ษาได้เข้าถงึ หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงได้อย่างรวดเร็ว อกี ทั งยังเป็นการสร้างสรรค์ชิ นงานให้กับนักศึกษดาังทีมีผู้ให้ข้อมูลกล่าว ไว้ว่า “การรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกียวกับเศรษฐกิจ พอเพียงควรทําในลักษณะสือโฆษณา” “ตอ้ งมีการรณรงค์ให้นักศึกษารูจ้ ักเศรษฐกิจ พอเพียงให้มากขนึ ด้วยการทําโฆษณาให้ดึงดูดใจ” http://www.ssru.ac.th
60 ทั งนี มหาวิทยาลัยควรเหน็ ความสําคัญของการรณรงคเ์ กียวกับเรืองนี ด้วย และควรมีการ ประชาสัมพันธ์ หรือจัดงานทีเกียวข้องกับเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นระยะ ๆเช่น การจัดอบรมให้ ความรู้ทั งในทางทฤษฎแี ละทาปง ฏบิ ัติ การจัดนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง เพือทีนักศึกษาจะได้ สนใจทีอยากจะศึกษาและปฏบิ ัติเกียวกับเรืองนี อย่างจริงจัง ซงึ การดาํ เนนิ ชีวติ ตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นเรืองดีทีสังคมควรปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมทีชัดเจน ดังทีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดํารเิ กยี วกับเรืองนี มาโดยตลอด http://www.ssru.ac.th
บทที 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การวจิ ัยเรือง การศึกษาพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานครครั งนผี ู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัย อภปิ รายผล และได้ให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือศึกษาระดับความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ นักศึกษา 2. เพือศึกษาระดับพฤติกรรมการดําเนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ นักศึกษา 3. เพือศึกษาความคิดเหน็ ของนักศึกษาในการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็น แนวทางในการดําเนินชีวติ สมมตฐิ านการวิจยั 1. นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกยี วกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอยูใ่ นระดับสูง 2. นักศึกษามีพฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งอยู่ในระดับสูง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร ประชากรทีใช้ในการวจิ ัยครั งนเี ป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีทีกําลังศึกษาใน มหาวทิ ยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร6 แห่ง ได้แก่ 1) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 2) มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี3) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 4) มหาวิทยาลัยราช- ภัฏพระนคร 5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต 6) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจํานวน 115,542 คน (สาํ นักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, 2552) http://www.ssru.ac.th
62 กลุ่มตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่างในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างทีใช้ในการวิจัยประมาณขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางYamane ที ระดับความเชือมัน95% (Yamane อ้างถงึ ใน สุวิมล ติรกานันท,์ 2548: 177) ซึงต้องใช้กลุ่ม ตัวอย่าง จํานวน 420 คน จากนั นจะทําการเลอื กตัวอยา่ งโดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั นตอน(Multi- stage Sampling) ซึงจะทําการสุ่มนักศึกษาเพือให้ได้ตัวแทนของประชากรทีทําการศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการสนทนากลุ่ม ผู้วิจัยจะคัดเลือกนักศึกษาแบบเฉพาะเจาะจง โดย ทําการสนทนาเกียวกับประเด็นพฤตกิ รรมการดาํ เนินชีวิตของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง และความคดิ เห็นต่อหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมนักศึกษาทีทําการสนทนากลุ่ม 6 กลุ่ม จากมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร ทั ง6 แหง่ จํานวน 36 คน เครื องมือทีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครืองมอื ทีใช้ในการวิจัยครั งนีมีดังนี เครืองมือทีใช้ในการวิจัยครั งนีมีดังนี แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแบบ 2 ตัวเลือก ถูก-ผิด จํานวน 20 ข้อ โดยจะทําการทดสอบกับกลุ่มตัวอยา่ ง จํานวน420 คน โดยหา ความเชือมันของแบบทดสอบด้วยสูตรคูเดอร์ ริชาร์ดสันKR-20 มคี ่าความเชือมันเทา่ กับ0.750 แบบสอบถามวัดพฤตกิ รรมการดําเนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง แบบสอบถามแบง่ เป็น 2 ตอน ดังนี ตอนที 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลทัวไปของนักศึกษา ตอนที 2 เป็นแบบสอบถามวัดพฤติกรรมการดําเนนิ ชีวติ ของนักศึกษาตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยข้อความทีสร้างขึ นเป็นแบบมาตรประเมินค่า(Rating scale) แบบ 3 ระดับ ให้ผู้ตอบเลือกตอบโดยกาเครืองหมาย ลงในชอ่ งทีต้องการจะตอบเพียงข้อเดยี วใน หนึงข้อความ ซึงวัดความเชือมันได้ทีระดับ0.830 http://www.ssru.ac.th
63 การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั งนี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสาํ เร็จรูป ตามลาํ ดับดังนี ตอนที 1 การวเิ คราะห์ข้อมูลทัวไปของกลุ่มตัวอยา่ ง เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามใช้การหาค่าความถี และ ร้อยละ จําแนกตามมหาวิทยาลัย เพศ ชั นปีทีศึกษารายได้ต่อเดอื น รายจ่ายต่อเดือน และ ภูมลิ ําเนา ตอนที 2 การวเิ คราะห์ระดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ด้วยแบบทดสอบถูก-ผิด โดยใช้การหาค่าเฉลีย ส่วนเบยี งเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test One-Way ANOVA ตอนที 3 การวเิ คราะห์ระดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการระดับพฤตกิ รรมการดําเนินชีวิตของนกั ศึกษาด้วยการหาค่าเฉลีย ส่วน เบยี งเบนมาตรฐาน และสถิตทิ ดสอบ t-test One-Way ANOVA ตอนที 4 การวิเคราะห์ความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการนาํ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้เป็นแนวทางในการดาํ เนินชีวิต 5.1 สรุปผลการวิจัย ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลสามารถสรุปเป็น 4 ตอน ได้ดังนี 5.1.1 ตอนที 1 วิเคราะห์ข้อมูลทัวไป 5.1.1.1 นักศึกษาในมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ6 แหง่ จําแนกเป็น 1) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จํานวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67 2) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จํานวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67 3) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบุรี จํานวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67 4) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จํานวน 70 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.67 5) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสติ จํานวน 70 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.67 6) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจํานวน 70 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.67 http://www.ssru.ac.th
64 5.1.1.2 เพศของกลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิงร้อยละ61.70 และเพศชายร้อยละ 38.30 5.1.1.3 ชั นปี ทีศึกษา แบง่ เป็น4 ชั นปีแบง่ เป็น 1) ชั นปที ี 1 จํานวน 121 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.80 2) ชั นปที ี 2 จํานวน 103 คน คดิ เป็นร้อยละ 24.50 3) ชั นปที ี 3 จํานวน 104 คน คดิ เป็นร้อยละ 24.80 4) ชั นปที ี 4 จํานวน 92 คน คดิ เป็นร้อยละ 21.90 5.1.1.4 รายได้ต่อเดือน แบง่ เป็น 1) ตํากว่า 3,000 บาท จํานวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 12.40 2) 3,000 - 5,000 บาท จํานวน 193 คน คิดเป็นร้อยละ 46.00 3) 5,001 - 8,000 บาท จํานวน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 29.20 4) 8,001 - 10,000 บาท จํานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 8.10 5) มากกว่า 10,000 บาท จํานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 4.30 5.1.1.5 รายจ่ายต่อเดอื น แบง่ เป็น 1) ตาํ กว่า 3,000 บาท จํานวน 55 คน คดิ เป็นร้อยละ 13.10 2) 3,000 - 5,000 บาท จํานวน 210 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.00 3) 5,001 - 8,000 บาท จํานวน 114 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.10 4) 8,001 - 10,000 บาท จํานวน 28 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.70 5) มากกว่า 10,000 บาท จํานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 3.10 5.1.1.6 ภูมลิ ําเนา แบ่งเป็น 1) กรุงเทพและปริมณฑล จํานวน 177 คน คดิ เป็นร้อยละ 42.10 2) ต่างจังหวัด จํานวน 243 คน คดิ เป็นร้อยละ 57.90 5.1.2 ตอนที 2 ความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสรุปผลได้ดังนี นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏมรี ะดับความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมอยู่ในระดับสูง( X = 15.53) เมอื พิจารณาเป็นรายมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ พบว่าทุกมหาวิทยาลัยราชภัฏมีระดับความรู ้ อยู่ในระดั บสู ง http://www.ssru.ac.th
65 5.1.3 ตอนที 3 พฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลได้ดังนี นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏมรี ะดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมอยู่ในระดับสูง( X = 1.35) เมือพิจารณาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง พบว่า (1) ด้านความพอประมาณ นักศึกษามีระดับพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.11) (2) ด้านความมีเหตุผล นักศึกษามีระดับพฤตกิ รรมอยู่ในระดับสูง( X = 1.38) และ (3) ด้านการมภี ูมคิ ุ้มกัน นักศึกษามีระดับพฤติกรรมอยู่ในระดับงส(ู X = 1.49) 5.1.4 ตอนที 4 ความคดิ เห็นของนักศึกษาต่อการนําหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ เป็นแนวทางในการดําเนินชีวติ สรุปไดดังนี นักศึกษามคี วามคิดเห็นต่อการนําหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้เป็น แนวทางในการดําเนินชีวติ ดังนี (1) ด้านการดาํ รงชีวติ ประจําวัน ได้แก่ การเกบ็ ออมเงนิ การจัดทําบัญชีรายรบั - รายจา่ ย การใช้ทรัพยากรทุกอย่างอย่างประหยัดและรู้คุณค่า การประยุกตข์ องเกา่ ให้กลับมาใช้ได้ อกี ครั ง (2) ด้านการเรียนการสอน ได้แก่ มหาวิทยาลัยควรมกี ารจัดทําหลักสูตรการเรียน รายวิชา “เศรษฐกิจพอเพียง” การสอดแทรกเศรษฐกิจพอเพียงในทุกรายวิชา การจัดตั งชมรม เศรษฐกิจพอเพียง การฝึกปฏบิ ัตติ ามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (3) ด้านการณรงค์ ได้แก่ การทําสอื การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในมหาวทิ ยาลยั การจัดอบรมให้ความรู้ทั งในภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ัติ การจัดนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง 5.2 อภิปรายผล จากการวเิ คราะห์ความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและ พฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งผู้วจิ ัยขออภปิ รายผล ตามวัตถุประสงค์การวจิ ัย ดังนี 5.2.1 ผลการวิเคราะห์ ความรู้ความเข้าใจเกียวกับหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มดี ังนี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมรี ะดับความรู ้ ความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมอยูใ่ นระดับสูง( X = 15.53) ซงึ เป็นไปตามสมมตฐิ านการวิจัยทีตั งไว้ http://www.ssru.ac.th
66 เมอื พิจารณาเป็นรายมหาวิทยาลัยราชภัฏ พบว่าทุกมหาวทิ ยาลัยราชภัฏมีระดับความรู้อยู่ใน ระดับสูงซึงจากผลการศึกษานี สอดคล้องกับงานวิจัยของ ทรงศักดิ ศรีบุญจิตต์ และคณ(ะ2551) พบว่าประชาชนในภาคบริการมีความเข้าใจเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับมาก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ อภิชาติชูเกียรติสกุล (2551) พบว่า ข้าราชการทหารสังกัดกองพัน พัฒนาที 3 มีความรู้ความเข้าใจเกียวกับเศรษฐกิจพอเพยี งอยูใ่ นเกณฑ์ระดับดมี ากและยัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ศศิพรรณ บัวทรพั ย์(2547) พบว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหงมี การรบั รู้เนื อหาสาระ และเข้าใจในเนื อหาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับมาแกละสอดคล้องกับ งานวิจัยของ ศักดิ ชัย คํ าช(2ู 550) พบว่า เจ้าหน้าทีและเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและ เยาวชนบ้านบึง ส่วนใหญ่มคี วามรู้ความเข้าใจทีถูกต้องเกยี วกับแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพยี งว่า เป็น แนวทางการดําเนินชีวิตโดยคาํ นงึ ถงึ ความพอประมาณ พอมี พอกิน พอใช้ เป็นแนวคิดพงึ ตนเอง ไม่ประมาณ รู้จักเก็บออม ไม่ฟุ ่ มเฟื อย ใช้ทรพั ยากรทีมอี ยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มกี ารวางแผน ใช้ ความรู ้ คู่คุ ณธรรม จากผลการศึกษาเกียวกับความรู้ความเข้าใจของนักศึกษาเกียวกับหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงนี นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏทั6ง แหง่ มคี วามรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับสูง ทั งนี อาจเนืองมาจากในปัจจุบันทั งภาครฐั และภาคเอกชนมกี ารรณรงคก์ ารใช้ชตีวอิย่างพอเพยี ง มี การประชาสัมพันธ์ในสือต่าง ๆ อกี ทั งนักศึกษาได้มีการเรียนเกียวกับเนื อหาเศรษฐกิจพอเพียงใน ชั นเรียนมาบ้างแล้ว จงึ ทําให้นักศึกษามีความรู้เกยี วกับหลักปชรญั าเศรษฐกจิ พอเพยี งทั งใน ประเด็นความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมภี ูมคิ ุ้มกันทีดอี ยู่ในระดับสูง 5.2.2 ผลการวิเคราะห์ พฤติกรรมการดําเนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง มดี ังนี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมรี ะดับพฤติกรรมการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงโดยรวมอยูใ่ นระดับสูง( X = 1.35) ซงึ เป็นไปตามสมมตฐิ านการวิจัยทีตั งไว้ เมอื พิจารณาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า(1) ด้านความพอประมาณ นักศึกษามี ระดับพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลาง( X = 1.11) (2) ด้านความมีเหตุผล นักศึกษามีระดับ พฤตกิ รรมอยู่ในระดับสูง( X = 1.38) และ (3) ด้านการมภี ูมิคุ้มกัน นักศึกษามรี ะดับพฤตกิ รรมอยู่ ในระดับสูง( X = 1.49) ซึงผลการศึกษาสอดคล้องกับงานวจิ ัยของ ปวนั มีนรักษ์เรืองเดช (2549) พบว่า ประชาชนทเี ข้าร่วมโครงการชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดํารมิ ีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับ ค่อนข้างมาก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ กุลวดี ล้อมทอง วีระภัทรานนท์ (2550) พบว่า http://www.ssru.ac.th
67 บุคลากรสํานักงานทรพั ย์สินส่วนพระมหากษตั ริย์ มกี ารนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้กับครอบครวั คอื สามารถจัดสรรรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และยังมีเงินเหลือเกบ็ ออม มกี ารใช้เหตุผลเพือแก้ไขสถานการณต์ ่าง ๆ เน้นเรืองความประหยัดและคุ้มค่า และสอดคล้อง กับงานวิจัย ตวงพร ศรีวชิ ัย(2550) พบว่านักเรียนเตรียมทหารนําปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยรวมไปปฏิบัติมาก โดยเรียงลําดับการปฏิบัติ ดังนี ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคม ด้านสิงแวดล้อม และด้านเศรษฐกจิ และสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุมาลี จันทร์ชลอ และคณะ(2551) พบว่า พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวิตของประชาชนทีพักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใน ภาพรวมพบว่าประชาชนมีพฤตกิ รรมด้านการใช้จา่ ยพอประมาณมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับบ่อยครั ง ถงึ เป็นประจํา ด้านความรอบคอบมีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับบอ่ ยครั ง ด้านความมีเหตุผลมพี ฤตกิ รรม อยู่ในระดับบอ่ ยครั ง ด้านการช่วยเหลือครอบครวั มีพฤติกรรมอยูใ่ นระดับบ่อยครั นงอกจากนี ยัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ ทรงศักดิ ศรีบุญจิตต์ และคณะ(2551) พบว่าการนําหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ช้นั นมีความสัมพันธ์กับระดับความรู้ความเข้าใจหลักการปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง โดยผู้ทีมคี วามเข้าใจมากจะนํามาประยุกตใ์ ช้มาก ส่วนผู้ทีเข้าใจน้อยกน็ ํามาใช้ น้อย จากผลการศึกษาเกียวกับพฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ ของนักศึกษาตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานครได้มีการนําหลัก ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ ซงึ ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการเก็บออมเงิน การดําเนนิ ชีวิตด้วย ความประหยัด การใช้ทรัพยากรอยา่ งรู้คุณค่า การทนี ักศึกษามีพฤติกรรมเช่นีอาจเนืองมาจาก นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏส่วนใหญ่จะเป็นเด็กต่างจังหวัด ต้องเช่าหอพักอยู่ รายรบั จะมีอย่าง จํากัด ดังนั นเขาจึงต้องใช้จ่ายเงินทุกบาทอย่างประหยัดและรู้คุณคจ่าึงนําไปสู่การมพี ฤติกรรม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5.2.3 ผลการวเิ คราะห์ ความคดิ เห็นของนักศึกษาต่อการนําหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้เป็นแนวทางในการดาํ เนินชีวติ มีดังนี นักศึกษามีความคดิ เห็นต่อการนําหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็น แนวทางในการดาํ เนินชีวติ สามารถสรุปได้ 3 ประเด็น คือ (1) ด้านการดํารงชีวติ ประจําวัน ได้แก่ การเก็บออมเงนิ การจัดทําบัญชีรายรบั - รายจา่ ย การใช้ทรพั ยากรทุกอย่างอยา่ งประหยัดและรู้คุณค่า การประยุกต์ของเก่าให้กลับมาใช้ได้ อีกครั ง ซงึ ผลการศึกษานี สอดคล้องกับงานวิจัยของ กุลวดี ล้อมทอง วรี ะทภรั านนท์ (2550) พบว่า http://www.ssru.ac.th
68 การนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกต์ใช้ในการดาํ เนินชีวิต สามารถทําได้โดยการ จัดสรรรายได้ให้เพยี งพอกับค่าใช้จ่าย และยังเหลอื เกบ็ ออมการทีนักศึกษามคี วามคดิ เห็นส่วน ใหญ่เกียวกับเป็นการเก็บออมเงินนั น อาจจะเป็นเพราะว่าการออมเงินเป็นสิงทีนักศึกษาทําได้และ ทําเป็นประจําอยู่แล้ว นอกจากนี นักศึกษายังมีความคดิ เห็นต่อการใช้ทรพั ยากรอยา่ งประหยัดและ รู้คุณค่านั น เป็นสงิ ทนี ักศึกษาหรือคนไทยทุกคนสามารทถาํ ได้ โดยฝึกการใช้สิงของทุกอย่างใน ชีวิตประจําวันและอุปกรณก์ ารเรียนต่าง ๆ ด้วยความประหยัด เช่น การใช้กระดาษ การใช้ไฟฟ้ า การใช้นํ า ส่วนการประยุกต์ของเก่าให้สามารถกลับมาใช้ใหม่นั น นักศึกษาจะให้ความสาํ คัญต่อ เสื อผ้าการแต่งกาย ซงึ การแต่งกายตามสมัยนิยมสามารถทําดไ้โดยไม่จําเป็นต้องซื อเสื อผ้าใหม่ เพียงแต่มีการประยุกตเ์ สื อ หรือกางเกงหรือกระโปรง ให้สามารถสลับใส่ได้หลาย ๆ ชุด หรือไม่ก็ นําเสื อเก่ามาตกแต่งด้วยวัสดุต่าง ๆ กจ็ ะทําให้ได้เสื อผ้าตัวใหม่ โดยไม่ต้องซื อให้เปลืองเงิน (2) ด้านการเรียนการสอน ได้แก่ มหาวทิ ยาลยั ควรมกี ารจัดทําหลักสูตรการเรียน รายวิชา “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” การสอดแทรกเศรษฐกิจพอเพียงในทุกรายวิชา การจัดตั งชมรม เศรษฐกิจพอเพียง การฝึกปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากความคิดเหน็ ของ นักศึกษาจะเหน็ ได้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่อยากให้ทางมหาวิทยาลัยเปิ ดการสอนในรายวชิ า “เศรษฐกิจพอเพียง” เพือทีจะทําให้นักศึกษาได้มคี วามรู้ทีถูกต้องเกียวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง นอกจากนี ในการจัดการเรียนการสอน อาจารย์ควรมกี ารสาธิตและฝึกปฏบิ ัติ เพือให้ นักศึกษามแี นวทางทีจะนําไปใช้ในชีวิตประจําวันของตนเองไดจ้ ริง และในการจัดการเรียนการ สอนนักศึกษาอยากให้มกี ารสอดแทรกหลักเศรษฐกจิ พอเพียงในทุกรายวิชา เพือจะได้เป็นการ เตอื นสติให้เป็นคนรู้จักพอประมาณ มีเหตุผล ในการดาํ เนินชีวิตทงั ในเรืองการใช้จ่ายเงนิ และการ ใช้ชีวิตในด้านอนื ๆ ส่วนความคิดเห็นเกียวกับการจัดตั งชมรมเศรษฐกิจพอเพียงนั น นักศึกษา อยากให้ทุกมหาวิทยาลัยมีชมรมนี เพือจะได้เป็นหน่วยกลางในการเผยแพร่ให้ความรู้เกียวกับ เศรษฐกิจพอเพียง และการร่วมกันทํากิจกรรมทีเป็นการส่งเสริมการจัดงานต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ซึงถ้ามีชมรมดังกล่าวจะทําให้นักศึกษาได้สัมผัสกับหลักปรัชญานี อย่างแท้จริง (3) ด้านการณรงค์ ได้แก่ การทําสือโฆษณาประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัย การ จัดอบรมให้ความรู้ทั งในทางทฤษฎแี ละแนวปฏบิ ัติ การจัดนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียงจากความ คิดเห็นของนักศึกษาเกียวกับการรณรงคเ์ ศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มนักศึกษา ควรมีการจัดทําสือ โฆษณาต่าง ๆ เพือเป็นการเผยแพรค่ วามรู้ให้กับนักศึกษาและผู้สนใจในมหาวทิ ยาลัย สอื โฆษณา ดังกล่าวอาจทําในรูปแบบของสอื สิงพิมพ์ สือทางอินเตอร์เนต็ หรือแม้กระทั งการจัดนิทรรศการ เกียวกับเศรษฐกิจพอเพียง ทั งนี ในรอบปี การศึกษามหาวิทยาลัยอาจจะให้นักศึกษาได้มีเวที http://www.ssru.ac.th
69 การจัดงานในลักษณะนี ซถึงือได้ว่าเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาได้ใช้เวลาว่างในการ ทํากิจกรรมสร้างสรรค์ทางสังคม และยังเป็นการเผยแพร่ความรู้ให้กับนักศึกษาได้รบั ทราบข้อมูล เกียวกับแนวการปฏบิ ัติของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี การรณรงค์ยังสามารถทําได้ด้วย การจัดอบรมให้ความรู้ทงั ทางทฤษฎีและทางปฏิบัติให้กับนักศึกษาเป็นระยะ ๆ ตลอดปี การศึกษา จากการให้ความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการนําหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้เป็น แนวทางในการดาํ เนินชีวติ จะพบว่านักศึกษาในปัจจุบันมีการแสดงความคดิ เห็นต่อประเด็นนี อย่างจริงจัง และให้แนวทางในการจะส่งเสรมิ การปฏิบัตติ นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เพือให้ปรชั ญานี สามารถปฏบิ ัตไิ ด้จริงและเห็นผลในรูปธรรม 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ควรมกี ารการรณรงคก์ ารปฏบิ ัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการจัด กิจกรรมทีหลากหลาย เชน่ การประชุมสัมมนา การอบรมให้ความรู้ การฝึกปฏบิ ัติ 5.3.2 มหาวทิ ยาลัยควรมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ พอเพียงให้กับนักศึกษา 5.3.3 มหาวิทยาลัยควรจัดให้มกี ารเรียนการสอนเกียวกับเศรษฐกจิ พอเพียงทั งทางทฤษฎี และทางปฏิบัติ 5.3.4 ควรมีการศึกษารูปแบบการปรับใช้เศรษฐกิจพอเพียงให้เหมาะสมกับกลุ่มบุคคล ต่าง ๆ เพือจะได้มีแนวทางทีเหมาะสม ชัดเจน และเป็นรูปธรรมทีสามารถนําไปใช้เป็นแบบอย่างใน การปฏิบัตไิ ด้จริง http://www.ssru.ac.th
บรรณานุกรม กุลวดี ล้อมทอง วีระภัทรานนท.์ 2550. การนําหลักเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกต์ใช้ในการดําเนิน ชีวิต ศึกษากรณี บุคลากรสาํ นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรยิ ์. ภาคนิพนธ์ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร.์ กลุ่มพัฒนากรอบแนวคดิ ทางเศรษฐศาสตรข์ องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. 2546. ประมวลคาํ ใน พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวภูมิพลอดุลยเดช ตั งแต่พุทธศักรา2ช493- 2542 ทีเกียวข้องกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: สาํ นักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกษม วัฒนชัย. 2550. เศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดาํ ริ. วารสารผู้ตรวจการแผ่นดินของ รัฐสภา,ปี ที 5 ฉบับที 2 ตุลาคม2549 – มนี าคม 2550: 155-156. ณัฐพงศ์ ทองภักด.ี 2550. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง: ความเป็นมาและความหมาย. วารสาร- พัฒนบริหารศาสตร์. ปีที 47 ฉบับที /2550: 3-23. ตวงพร ศรีชัย. 2550. การศึกษาการนําปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดาํ เนินชีวติ ประจําวัน ของนักเรียนเตรียมทหาร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ทรงศักดิ ศรีบุญจิตต์ และคณะ. 2251. โครงการประเมนิ ผลเปรียบเทียบในมิติต่าง ๆ ของ ประชาชนในการนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้. ทุนอุดหนุนการวิจัยจาก สาํ นักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาต.ิ ศูนย์วจิ ัยและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน คณะ เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม.่ เธียรดา เหมพิพัฒน.์ 2546. ความคดิ เหน็ ของนักศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ต่อ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง. ภาคนิพนธ์ปริญญาศิลปศาตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑติ - พัฒนบริหารศาสตร์. นันทน์ ภัส บุญแย้ม. 2551. ทัศนะของประชาชนต่อการนําแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใน ชีวติ ประจําวัน: กรณีศึกษาประชาชนในตําบลคลองประเวศ อาํ เภอบ้านโพธิ จังหวัด ฉะเชิงเทรา. ภาคนิพนธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. ปวัน มีนรักษ์เรืองเดช. 2549. การประยุกตแ์ นวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ ของประชาชนทเี ข้า ร่วมโครงการชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดําริ. ภาคนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร- มหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร.์ http://www.ssru.ac.th
71 ประเสริฐ ยังปากนํ า. 2551. แนวคดิ ทางสังคมว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียงในสังคมไทย. รายงาน การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชยี งใหม.่ พัฒนาภรณ์ ฉัตรวโิ รจน.์ 2545. บทบาทของครูในการส่งเสริมความรู้เศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน มัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดขอนแกน่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปะศาสตร- มหาบัณฑติ มหาวิยาลัยขอนแกน่ . ไพรถ เลศิ พิริยกมล. 2544. การน้อมนําพระราชดาํ ริทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่ การปฏิบัตใิ นสถาบันราชภัฏ. สาํ นักงานสภาสถาบันราชภัฏ. ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). การวัดด้านจิตพิสัย. กรุงเทพฯ: สุวรี ิยาสาสน์ . ศศิพรรณ บัวทรพั ย.์ 2547. ความคดิ เห็นของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยรามคําแหงต่อปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง. ภาคนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์. ศักดิ ชัย คํ า.ช2ู 550. การประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงในองค์กร: ศึกษากรณีศูนย์ฝึกและ อบรมเด็กและเยาวชนบ้านบึง. ภาคนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สหัทยา พลปัถพ.ี 2548. การนําเสนอแนวทางการพัฒนาคนไทยให้มีคุณลักษณะตามปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎบี ัณฑติ , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สมพร เทพสิทธา. 2550. การดําเนินชีวิตแบบเศรษฐกจิ พอเพียง ชุมชนและแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในบริบทของศาสนาและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : สมชายการพิมพ์. สมศรี จินะวงษ์. 2544. การวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้กิจกรรมทางเศรษฐกจิ และการกระจาย รายได้ในชุมชนทีใช้แนวทางการพัฒนาแบบเศรษฐกจิ พอเพียง. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎี บัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. สุภัทรา บุญปัญญโรจน.์ 2550. ภาวะบริโภคนิยมของวัยรุ่นไทย : ปัจจัยผลักดันสู่สังคมไทย. วารสารรามคาํ แหง. ฉบับมนุษยศาสตร์ ปี ที 27 ฉบับที 1: 1-2. สุเมธ ตันติเวชกุล. (2549). ใต้เบื องพระยุคลบาล. พิมพ์ครั งท8ี . กรุงเทพฯ: มตชิ น. สุมาลี จันทร์ชลอ และคณะ. 2551. การศึกษาความเข้าใจปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงของประชาชน ในกรุงเทพมหานคร. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุร.ี ได้รบั ทุนอุดหนุนการวิจัย จากสาํ นักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาต.ิ http://www.ssru.ac.th
72 สุวิมล ตริ กานันท.์ (2546). การใช้สถิติในงานวิจัยทางสังคมศาสตร:์ แนวทางสู่การปฏิบัต.ิ กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาต.ิ (2549). แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับทีสิบ พ.ศ. 2550 - 2554. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ คุรุสภาลาดพร้าว. อรสุดา เจริญรัถ. 2546. เศรษฐกิจพอเพียงภายใต้การเปลียนแปลงสังคมไทย. ชุดโครงการ เศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้าน. อภิชาต ชูเกียรตสิ กุล. 2551. ความรู้ความเข้าใจในปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันพัฒนาที3. วิทยานิพนธ์วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลยั แม่โจ้. อารีย์ เชื อเมืองพาน. 2551. วิถีชีวติ แบบเศรษฐกิจพอเพียง: ทางรอดพ้นกับดักทางเศรษฐกิจและ สังคม. วารสารแม่โจ้ปริทัศน.์ ปีที 9 ฉบับที 6 พฤศจิกายน – ธันวาคม 2551: 9 - 11. http://www.ssru.ac.th
ประวัติผูท้ ํารายงานการวจิ ัย ชือ – สกุล : นางกรรณิการ์ ภิรมย์รตั น์ ประวัตกิ ารศึกษา 1. ระดับปริญญาตรี : วทิ ยาศาสตรบัณฑิต (สาขาภูมศิ าสตร)์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง พ.ศ. 2539 2. ระดับปริญญาโท : ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต(สาขาการวจิ ัยการศึกษา) มหาวทิ ยาลัย- รามคาํ แหง พ.ศ. 2548 ตําแหน่งและสถานทีทํางานปัจจุบัน ตําแหน่ง : อาจารย์ ระดับ 7 สังกัด : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผลงานวิจัย 1. การศึกษาพฤติกรรมทางจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ- สวนสุนันทา 2. จริยธรรมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในศตวรรษที 21 3. คุณลักษณะทีพงึ ประสงคท์ างจริยธรรมของนักศึกษาครู (หลักสูตร5 ปี ) คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 4. การมสี ่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษาเขตดุสติ กรุงเทพมหานคร 5. การพัฒนาทักษะการทําวจิ ัยในชั นเรียนของอาจารย์โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยราชภัฏ- สวนสุนันทา ด้วยกระบวนการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ http://www.ssru.ac.th
ภาคผนวก http://www.ssru.ac.th
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106