เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๗๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา พระราชบัญญตั ิ ระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เปน็ ปที ี่ ๔ ในรัชกาลปจั จบุ นั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยทีเ่ ป็นการสมควรมกี ฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บบริหารราชการกระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานิติบัญญตั แิ ห่งชาติทาหน้าทีร่ ัฐสภา ดังต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวง การอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ (๑) พระราชบญั ญตั สิ ภาวจิ ัยแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ (๒) พระราชบญั ญัติสภาวิจยั แหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๗ (๓) ประกาศคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี ๓๑๕ ลงวันท่ี ๑๓ ธนั วาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัตินี้ “การอุดมศึกษา” หมายความว่า การศึกษาในระดับที่สูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย ว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้และนวตั กรรม ผลิตและ พัฒนากาลงั คนในด้านวชิ าการและวชิ าชพี ช้ันสูง “สถาบันอุดมศึกษา” หมายความว่า สถาบันท่ีจัดการอุดมศึกษาระดับปริญญาและระดับต่ากว่า ปรญิ ญาทงั้ ที่เปน็ ของรฐั และของเอกชน “สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ” หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถาบันอุดมศึกษาของรัฐท่ีไม่อยู่ในสังกัดของ กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม “สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง” หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ที่เป็นส่วนราชการที่อยู่ในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในกากับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวตั กรรม “ส่วนราชการในกระทรวง” หมายความว่า ส่วนราชการตามท่ีกาหนดไว้ในมาตรา ๘ “หน่วยงานในกากับ” หมายความว่า รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ และองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน ท่ีอยู่ในกากับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่ไม่หมายความรวมถึงสถาบันอุดมศึกษาของรัฐใน กากับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิ จัยและนวัตกรรม และสถาบัน อุดมศกึ ษาเอกชน “หน่วยงานในระบบวจิ ยั และนวัตกรรม” หมายความว่า หน่วยงานของรฐั และเอกชน รวมทัง้ สถาบนั อุดมศกึ ษาที่ดาเนินการเกีย่ วกบั การวจิ ยั และนวัตกรรม “การวิจัย” หมายความว่า การศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ หรือทดลองอย่างเป็นระบบ อันจะ ทาให้ได้มาซ่ึงข้อเท็จจริง ความรู้ใหม่ หรือหลักการไปใช้ในการตั้งกฎ ทฤษฎี แนวทางในการปฏิบัติ เพ่ือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศิลปวทิ ยาการแขนงตา่ ง ๆ รวมท้งั เพ่อื สร้างนวตั กรรม อนั จะสามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา “ระบบวิจัย” หมายความว่า การทางานร่วมกันอย่างเป็นระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือสร้างความเชื่อมโยงกันอย่างประสานสอดคล้องและเป็นไปในทิศทาง เดยี วกัน เพ่อื นาไปสู่การบรรลุเปา้ หมายตามทีก่ าหนด “มาตรฐานการอุดมศึกษา” หมายความว่า ข้อกาหนดขั้นต่าเก่ียวกับคุณลักษณะ คุณภาพ และเกณฑ์อื่นในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ข้อกาหนดข้ันต่าของหลักสูตรการศึกษา และ ข้อกาหนดข้ันต่าของเกณฑ์ในการขอตาแหนง่ ทางวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา และมาตรฐานอื่นตามที่ กาหนดในกฎกระทรวง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการส่งเสริม การกากับดูแล การตรวจสอบ ติดตามและ ประเมนิ ผล และการประกนั คณุ ภาพการศึกษาระดบั อดุ มศึกษา “นวัตกรรม” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ บริการ กรรมวิธีที่เก่ียวกับการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ การบริหารการเงิน ธุรกิจ การตลาดหรือในการอ่ืนใด ทั้งนี้ ซ่ึงเป็นสิ่งใหม่หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมีนัยสาคัญและนาไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้าง ทั้งในเชิงพาณชิ ย์และสาธารณะ “สภานโยบาย” หมายความว่า สภานโยบายการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม แห่งชาติตามกฎหมายวา่ ด้วยสภานโยบายการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ “คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” หมายความว่า คณะกรรมการ ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าดว้ ยสภานโยบายการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรมแหง่ ชาติ “กระทรวง” หมายความว่า กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผูร้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ินี้ มาตรา ๕ ให้นากฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วย การศึกษาแห่งชาติมาใช้บังคับแก่การบริหารราชการกระทรวงโดยอนุโลม เว้นแต่ในพระราชบัญญัติน้ี จะไดบ้ ญั ญัติไวเ้ ปน็ อย่างอื่น มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มีอานาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เพ่ือปฏิบัตกิ าร ตามพระราชบญั ญัตินี้ รวมทั้งให้มอี านาจตคี วามและวินิจฉยั ชีข้ าดปญั หาอนั เก่ียวกบั การปฏิบตั ิการตามท่ี กาหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนัน้ เมอ่ื ได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแล้วใหใ้ ช้บงั คบั ได้
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๒ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา หมวด ๑ บททวั่ ไป มาตรา ๗ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีหน้าที่และอานาจ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม รวมท้งั ให้มหี น้าทแี่ ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ส่งเสริม สนับสนุน และกากับดูแลการอุดมศึกษาให้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของโลก โดยมีความเป็นอิสระทางวิชาการและการบริหารจัดการ ให้มีการพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับ ความต้องการของประเทศ และให้ดาเนินการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศทง้ั ทางด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ และสหวทิ ยาการ (๒) ส่งเสริม สนับสนุน และกากับดูแลการวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมที่อยู่ในสังกัดกระทรวงหรือกากับดูแลของรัฐมนตรี รวมทั้ง ประสานงานกับหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมท่ีอยู่นอกกระทรวงเพื่อให้เกิดความร่วมมือ และ ดาเนินการไปในทิศทางที่มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมของประเทศ (๓) จัดให้มีระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานท่ีสาคัญเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสรมิ ความร่วมมือเพ่ือผลิตกาลังคนระดับสูงเฉพาะทาง และความรว่ มมอื ในด้านการวิจัยและการสร้างสรรคน์ วตั กรรมกับหนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ และบุคคลหรอื หน่วยงานในต่างประเทศ (๔) ปฏิบัตกิ ารอ่นื ทีม่ ีกฎหมายกาหนดใหเ้ ปน็ หน้าท่ีและอานาจของกระทรวง ในการดาเนินการตาม (๓) กระทรวงอาจมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดหรือในกากับเป็น ผู้ดาเนินการ หรอื อาจรว่ มดาเนนิ การกบั องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ หน่วยงานเอกชนหรอื ตา่ งประเทศกไ็ ด้ หมวด ๒ การแบ่งสว่ นราชการ มาตรา ๘ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีส่วนราชการ ดังต่อไปน้ี (๑) สานกั งานรัฐมนตรี (๒) สานักงานปลัดกระทรวง
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๓ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๓) กรมวทิ ยาศาสตร์บรกิ าร (๔) สานกั งานการวจิ ัยแห่งชาติ (๕) สานกั งานปรมาณเู พือ่ สันติ (๖) สถาบนั อดุ มศึกษาของรฐั ทเี่ ป็นส่วนราชการ สว่ นราชการตาม (๒) (๓) (๔) และ (๕) มฐี านะเปน็ นิตบิ ุคคลและเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนราชการตาม (๖) มฐี านะเป็นนิตบิ ุคคล และมรี ะเบียบบรหิ ารราชการตามกฎหมายว่าดว้ ย การจดั ตง้ั สถาบนั อุดมศกึ ษานัน้ มาตรา ๙ การแบ่งส่วนราชการภายในส่วนราชการตามมาตรา ๘ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) ให้ออกเป็นกฎกระทรวง และให้ระบุหน้าท่ีและอานาจของแต่ละส่วนราชการไว้ในกฎกระทรวง ว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการดงั กลา่ ว มาตรา ๑๐ สานกั งานรฐั มนตรมี ีหนา้ ทแ่ี ละอานาจเกยี่ วกบั ราชการทางการเมอื ง มเี ลขานุการ รัฐมนตรีซ่ึงเป็นข้าราชการการเมืองเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ ของสานักงานรัฐมนตรีขึ้นตรงต่อรัฐมนตรี และจะให้มีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีซ่ึงเป็นข้าราชการ การเมอื งคนหนง่ึ หรือหลายคนเป็นผชู้ ว่ ยสั่งหรอื ปฏบิ ตั ิราชการแทนเลขานกุ ารรฐั มนตรกี ไ็ ด้ มาตรา ๑๑ สานักงานปลัดกระทรวงมีหน้าที่และอานาจเก่ียวกับราชการประจาท่ัวไปของ กระทรวง รวมท้ังร่วมสนับสนุนการขับเคล่ือนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อย่างต่อเนื่อง กากับและเรง่ รัดการปฏิบตั ิราชการของสว่ นราชการในกระทรวงให้เปน็ ไปตามยุทธศาสตรช์ าติ แผนแม่บท แผนด้านการอุดมศึกษา แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และ แผนอืน่ สง่ เสริมการศกึ ษาระดับอดุ มศึกษา จดั ทาขอ้ เสนอนโยบายและแผนดา้ นการอุดมศึกษาเพอื่ ผลติ และพัฒนากาลังคนของประเทศ จัดการศึกษาตลอดชีวิต จัดทามาตรฐานการอุดมศึกษา การประกัน คุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา จัดทาฐานข้อมูลการอุดมศึกษา รวมท้ังวิเคราะห์และสังเคราะห์ ข้อมลู ดงั กล่าว เพื่อใหส้ ามารถนามาใช้เปน็ ข้อมูลในการพฒั นาการอดุ มศึกษา สนับสนนุ การกากับ ตรวจสอบ ตดิ ตามและประเมินผลตามมาตรฐานการอุดมศึกษา และทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ การอุดมศึกษาและคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศกึ ษา ตลอดจนรับผิดชอบราชการท่ีคณะรัฐมนตรี มิได้กาหนดให้เปน็ หน้าที่ของส่วนราชการใดส่วนราชการหน่ึงในสังกัดกระทรวงโดยเฉพาะ มีปลัดกระทรวง เปน็ ผู้บงั คบั บัญชาขา้ ราชการและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิราชการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แนวทาง และแผนการปฏบิ ตั ริ าชการของกระทรวง
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๘๔ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๑๒ กรมวิทยาศาสตร์บรกิ ารมหี น้าท่ีและอานาจเก่ียวกับการให้บรกิ ารทางวิทยาศาสตร์ โดยกากับดูแล ส่งเสริม วิจัยพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมท้ังเป็นสถานปฏิบัติการกลาง ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องประเทศ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งการเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลิต ความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างย่ังยืน มีอธิบดีคนหนึ่งเป็น ผบู้ ังคับบัญชาข้าราชการและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิราชการน้นั ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แนวทาง และแผนการปฏบิ ตั ริ าชการของกระทรวง มาตรา ๑๓ สานักงานการวจิ ัยแหง่ ชาตมิ ีหนา้ ท่แี ละอานาจเก่ียวกบั การให้ทนุ วจิ ยั และนวตั กรรม การจัดทาฐานข้อมูลและดัชนีด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ การริเริ่ม ขับเคลื่อนและ ประสานการดาเนินงานโครงการวิจัยและนวัตกรรมท่ีสาคัญของประเทศ การจัดทามาตรฐานและ จริยธรรมการวิจัย การส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพ่ือใช้ประโยชน์ การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา บุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมและการให้รางวัล ประกาศเกียรติคุณ หรือยกย่ องบุคคลหรือ หน่วยงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม มีผู้อานวยการคนหน่ึง ซ่ึงมีฐานะเทียบเท่าอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชา ข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แนวทาง และแผน การปฏิบัตริ าชการของกระทรวง มาตรา ๑๔ สานักงานปรมาณูเพ่ือสันติมีหน้าท่ีและอานาจเก่ียวกับการเสนอแนะนโยบาย แนวทาง และแผนยุทธศาสตร์ดา้ นพลงั งานนิวเคลียรใ์ นทางสันติ และกากับใหเ้ กดิ ความปลอดภัยแกผ่ ู้ใช้ ประชาชน และส่ิงแวดล้อม โดยการบริหารจัดการด้านพลังงานนิวเคลียร์และรังสี กากับดูแล ความปลอดภยั ทางนวิ เคลียรแ์ ละรงั สี เพ่ือให้มีนโยบายและแผนยทุ ธศาสตร์ดา้ นพลงั งานนวิ เคลียร์ในทางสันติ ให้เป็นไปตามพันธกรณีหรอื ความตกลงระหว่างประเทศและมาตรฐานสากล มีเลขาธิการคนหน่ึงซงึ่ มฐี านะ เทยี บเท่าอธบิ ดเี ป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบตั ริ าชการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัตริ าชการของกระทรวง มาตรา ๑๕ ระเบียบปฏบิ ัติราชการของสถาบนั อุดมศกึ ษาของรฐั ท่ีเป็นสว่ นราชการในสังกดั ของกระทรวงให้เป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ัน การแบ่งส่วนราชการภายในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นส่วนราชการในสังกัดของ กระทรวง ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ตง้ั สถาบนั อุดมศึกษานัน้ เพ่ือประโยชน์ในการให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของทางราชการและการสรรหาหรือเลือกบุคคล ใหด้ ารงตาแหนง่ ตามรฐั ธรรมนูญหรอื กฎหมาย ใหถ้ อื วา่ ผู้ดารงตาแหนง่ อธกิ ารบดขี องสถาบันอุดมศึกษาของรฐั ในสังกดั ของกระทรวงซ่ึงเปน็ สว่ นราชการเป็นผูด้ ารงตาแหน่งหวั หนา้ ส่วนราชการที่เทยี บเท่าอธิบดี
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๘๕ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา หมวด ๓ การจดั ระเบยี บราชการ ส่วนที่ ๑ รฐั มนตรี มาตรา ๑๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปน็ ผ้บู งั คับบัญชาขา้ ราชการ รบั ผิดชอบในการปฏิบตั ริ าชการของกระทรวง กาหนดนโยบาย เปา้ หมาย และผลสมั ฤทธขิ์ องงานในกระทรวงใหส้ อดคล้องกบั ยุทธศาสตรช์ าติ แผนแมบ่ ท แผนดา้ นการอดุ มศกึ ษา แผนดา้ นวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ และแผนอ่ืน และนโยบายท่คี ณะรฐั มนตรแี ถลงไว้ ต่อรัฐสภาหรอื ทคี่ ณะรัฐมนตรกี าหนดหรืออนมุ ัตโิ ดยจะใหม้ รี ฐั มนตรชี ว่ ยวาการกระทรวงเป็นผู้ช่วยสัง่ และ ปฏิบัติราชการกไ็ ด้ ในกรณที ี่มีรัฐมนตรชี ่วยว่าการกระทรวง การสงั่ หรือการปฏิบัติราชการของรัฐมนตรชี ่วยว่าการ กระทรวง ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรมี อบหมาย มาตรา ๑๗ นอกจากหนา้ ท่ีและอานาจตามมาตรา ๑๖ ให้รัฐมนตรีมหี นา้ ทแี่ ละอานาจเกย่ี วกบั การอดุ มศกึ ษา ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เสนอแนะตอ่ สภานโยบายในการจัดทานโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านการอุดมศึกษา เพื่อผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศท่สี อดคล้องกบั ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนอนื่ รวมท้ัง นโยบายของรัฐบาล (๒) เสนอแนะกรอบวงเงินงบประมาณประจาปีด้านการอุดมศึกษาต่อสภานโยบาย รวมท้ัง เสนอระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการท่ีมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามกรอบวงเงินดังกล่าว ให้สอดคลอ้ งกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนดา้ นการอุดมศึกษา (๓) ให้คาแนะนาแก่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณด้านการอุดมศึกษาตามกฎหมาย ว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติในการพิจารณาคาขอ งบประมาณรายจ่ายประเภทงบลงทุนและงบเงินอุดหนุนในการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษา และการผลิตกาลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกัดของกระทรวง
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๖ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๔) กาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทาคาของบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกดั ของกระทรวง (๕) เสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการพิจารณางบประมาณด้านการอุดมศึกษา ตามกฎหมายวา่ ด้วยสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (๖) กาหนดมาตรฐานการอุดมศึกษาและการประกันคุณภาพการศึกษา โดยคานงึ ถงึ การมสี ว่ นรว่ ม ของสถาบนั อุดมศกึ ษาด้วย (๗) รับรองและเพิกถอนการรับรองวิทยฐานะสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และรับรองมาตรฐาน การศกึ ษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสงั กัดของกระทรวงและสถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน (๘) พิจารณาเสนอการจัดต้ัง ยุบ รวม ปรับปรุง และเลิกสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัด ของกระทรวงต่อคณะรฐั มนตรี (๙) เสนอแนะและให้ความเห็นเชิงนโยบายเกี่ยวกับการจัดตัง้ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่อยู่ ในสงั กดั ของกระทรวงต่อคณะรฐั มนตรี (๑๐) เสนอแนะให้สภาสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง และสถาบันอุดมศึกษา เอกชนดาเนินการตามหน้าที่และอานาจ เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถบริหารจัดการได้อย่างมี ธรรมาภิบาล (๑๑) วินิจฉัยสั่งการเพ่ือยับย้ังหรือยุติการดาเนินการของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของ กระทรวงหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนท่ีขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน หรอื การไมป่ ฏบิ ตั ิตามหลักธรรมาภบิ าลอยา่ งรา้ ยแรง (๑๒) วินิจฉัยส่ังการเพ่ือยับย้ังหรือยุติการดาเนินการของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของ กระทรวงหรอื สถาบันอดุ มศกึ ษาเอกชนทไี่ มเ่ ป็นไปตามมาตรฐานการอดุ มศกึ ษาอย่างรา้ ยแรง (๑๓) วางระเบียบการปฏิบัติราชการเพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนกิจการต่าง ๆ ร่วมกันของ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงอันมิใช่กิจการของสถาบันอุ ดมศึกษาแห่งหน่ึงแห่งใด โดยเฉพาะ และกาหนดแนวทางการสนบั สนุน สง่ เสรมิ และพัฒนาให้สถาบนั อดุ มศกึ ษาของรฐั ในสังกัด ของกระทรวงสามารถบรหิ ารงานไดอ้ ย่างคล่องตัวและมปี ระสทิ ธิภาพ (๑๔) รายงานผลการปฏิบัตติ ามแผนด้านการอุดมศกึ ษาตอ่ คณะรัฐมนตรีและสภานโยบาย (๑๕) ปฏบิ ัตกิ ารอ่ืนตามทีบ่ ัญญตั ิไว้ในพระราชบัญญัตินห้ี รือกฎหมายอน่ื หรอื ตามทค่ี ณะรฐั มนตรี หรือสภานโยบายมอบหมาย
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๘๗ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา การดาเนินการตาม (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๘) (๙) และ (๑๑) รัฐมนตรีต้องดาเนินการ โดยข้อเสนอแนะและความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา สว่ นการดาเนินการตาม (๖) (๗) และ (๑๒) รัฐมนตรีต้องดาเนินการโดยข้อเสนอแนะและความเห็นชอบของคณะกรรมการมาตรฐาน การอุดมศึกษา สาหรับการดาเนินการตาม (๘) และ (๙) คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา อาจให้ความเห็นประกอบการพจิ ารณาของรฐั มนตรีได้ มาตรา ๑๘ นอกจากหน้าท่ีและอานาจตามมาตรา ๑๖ ให้รัฐมนตรีมีหน้าที่และอานาจ เก่ยี วกับการพฒั นาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ดงั ต่อไปนี้ (๑) ให้คาแนะนาแก่คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการพิจารณา คาของบประมาณและการจดั สรรงบประมาณใหแ้ กห่ น่วยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรม (๒) วางระบบการบูรณาการการดาเนินงานและงบประมาณของหน่วยงานในกากับท่ีมีหน้าที่ ดาเนินการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี และกากบั ใหเ้ ป็นไปตามระบบดงั กลา่ ว (๓) ขอให้กระทรวง ทบวง กรมอ่ืน หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน ภาคเอกชน ให้ข้อมูล สถิติ ผลการดาเนินการ และการอ่ืนท่ีเกี่ยวกับการวิจัยและนวัตกรรมท่ีอยู่ ในความรบั ผดิ ชอบของหนว่ ยงานนน้ั (๔) ปฏิบัติการอน่ื ตามทีบ่ ญั ญตั ิไวใ้ นพระราชบัญญตั นิ ห้ี รือกฎหมายอนื่ หรือตามที่คณะรัฐมนตรี หรอื สภานโยบายมอบหมาย ในการดาเนินการตาม (๒) สภานโยบายโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี อาจกาหนด ระเบียบข้ึนใชบ้ ังคบั เพื่อเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพและผลสัมฤทธ์กิ ็ได้ สว่ นที่ ๒ ปลัดกระทรวง มาตรา ๑๙ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมมีปลัดกระทรวง คนหน่งึ มีหนา้ ท่ีและอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) รบั ผิดชอบควบคุมราชการประจาในกระทรวง แปลงนโยบายเปน็ แนวทางและแผนการปฏิบัติ ราชการ กากับการทางานของส่วนราชการในกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และประสานการปฏิบัติงาน ของส่วนราชการในกระทรวงให้มีเอกภาพสอดคล้องกัน รวมทั้งเร่งรัด ติดตาม และประเมินผล การปฏิบัติราชการของสว่ นราชการในกระทรวงใหเ้ ปน็ ไปตามแผนงานของกระทรวง
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๘๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการของส่วนราชการในกระทรวงรองจากรัฐมนตรี และรับผิดชอบ ในการปฏิบตั ริ าชการของสานกั งานปลดั กระทรวง (๓) ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงและ สถาบนั อดุ มศึกษาเอกชนสามารถบริหารงานไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตัวและมปี ระสิทธิภาพ ในการปฏิบัติราชการของปลัดกระทรวงตามวรรคหนึ่ง ให้มีรองปลัดกระทรวงเป็นผู้ช่วยสั่ง และปฏิบัติราชการ และจะให้มีผู้ช่วยปลัดกระทรวงเป็นผู้ช่วยส่ังและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ในกรณี ที่มีรองปลัดกระทรวงหรือผู้ช่วยปลัดกระทรวงหรือมีท้ังรองปลัดกระทรวงและผู้ช่วยปลัดกระทรวง ใหร้ องปลัดกระทรวงหรอื ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเปน็ ผบู้ ังคบั บัญชาข้าราชการและรับผดิ ชอบในการปฏิบัติราชการ รองจากปลัดกระทรวง ใหร้ องปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง และผดู้ ารงตาแหนง่ ทเ่ี รียกชือ่ อยา่ งอืน่ ในสานักงาน ปลดั กระทรวงมหี น้าที่และอานาจตามทีป่ ลัดกระทรวงกาหนดหรือมอบหมาย หมวด ๔ คณะกรรมการ ส่วนท่ี ๑ คณะกรรมการการอดุ มศึกษา มาตรา ๒๐ ใหม้ ีคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรยี กโดยย่อวา่ “กกอ.” ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการคนหนึ่งซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังจากข้อเสนอของท่ีประชุมอธิการบดี แห่งประเทศไทย ท่ีประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ที่ประชุมอธิการบดี มหาวิทยาลยั ราชภฏั และสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย โดยใหเ้ สนอได้ฝา่ ยละหน่งึ คน (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อานวยการ สานักงบประมาณ ประธานกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา ผู้อานวยการสานักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการ สง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (๓) กรรมการซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังจากผู้ได้รับการสรรหาจากผู้เคยดารงตาแหน่งนายก สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษา จานวนไมเ่ กนิ สองคน
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๘๙ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๔) กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตง้ั จากผู้ได้รับการสรรหาจากผู้เคยดารงตาแหน่งอธิการบดี ของสถาบันอดุ มศกึ ษา จานวนไมเ่ กินสองคน (๕) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ได้รับการสรรหาซ่ึงเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ความเช่ียวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการศึกษา ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสังคม ด้านอุตสาหกรรม หรือด้านธุรกิจ จานวนไม่เกินเจด็ คน ให้รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมซึ่งปลัดกระทรวง การอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานกุ าร ประธานกรรมการ กรรมการตาม (๓) และ (๔) และกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒติ าม (๕) มวี าระ การดารงตาแหนง่ คราวละสี่ปี และอาจได้รบั แตง่ ตั้งใหมอ่ ีกได้แตไ่ มเ่ กินสองวาระติดต่อกนั การสรรหากรรมการตาม (๓) และ (๔) ผู้เข้ารับการสรรหาจะต้องไม่ดารงตาแหน่งนายก สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาหรืออธกิ ารบดีของสถาบันอดุ มศึกษาใดในขณะทีเ่ ขา้ รบั การสรรหา หลักเกณฑ์ วิธีการไดม้ า คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแต่งต้ัง และการพ้นจากตาแหน่ง ของประธานกรรมการ กรรมการตาม (๓) และ (๔) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๕) ให้เป็นไป ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง โดยประธานกรรมการและกรรมการตาม (๓) และ (๔) จะดารงตาแหนง่ นายกสภาสถาบันอุดมศกึ ษาหรอื อธิการบดขี องสถาบันอุดมศกึ ษาระหว่างการดารงตาแหนง่ ดงั กล่าวมไิ ด้ มาตรา ๒๑ นอกจากการให้ข้อเสนอแนะและความเห็นชอบแก่รัฐมนตรีตามมาตรา ๑๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๘) (๙) และ (๑๑) แล้ว กกอ. มีหนา้ ท่แี ละอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) กาหนดแผนปฏิบัติการการอุดมศึกษา แผนปฏิบัติการการพัฒนากาลังคนของประเทศ และการจัดการศึกษาตลอดชีวิต ให้สอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านการอุ ดมศึกษา เพ่ือผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ทสี่ ภานโยบายกาหนด (๒) เสนอแนะและให้ความเห็นเชิงนโยบายต่อรัฐมนตรีเร่ืองการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามขอ้ ตกลงการพฒั นาการอดุ มศึกษาซ่ึงกระทากบั สานักงานปลดั กระทรวง (๓) กากับ เร่งรดั ตดิ ตาม และจัดใหม้ กี ารประเมินผลการปฏิบัติตามแผนดา้ นการอุดมศึกษา และการใชง้ บประมาณของสถาบันอดุ มศึกษาของรฐั ในสังกดั ของกระทรวง (๔) เสนอแนะและใหค้ วามเห็นตอ่ รัฐมนตรีในการใหส้ ภาสถาบันอดุ มศึกษาของรัฐในสงั กดั ของ กระทรวงและสถาบนั อุดมศกึ ษาเอกชนดาเนินการตามหนา้ ทแ่ี ละอานาจตามหลักการอดุ มศกึ ษาไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๙๐ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๕) เสนอแนะรัฐมนตรีเพอื่ ให้ดาเนินการตามมาตรา ๗ (๖) เสนอแนะการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวจิ ยั และนวัตกรรม แก่คณะกรรมการ ส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (๗) กากับ เร่งรัด ติดตาม และให้คาแนะนาแก่สานักงานปลัดกระทรวงในการจัดทาฐานข้อมูล การอุดมศึกษา โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันอุดมศึกษาทุกประเภท ผู้เรียน คณาจารย์ ผ้ใู ช้บณั ฑิต และสถิติอนื่ ท่ีถกู ตอ้ งและทันสมยั รวมท้งั การวิเคราะห์และสังเคราะหข์ อ้ มลู ดงั กล่าว เพื่อใช้ เป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอุดมศึกษา และการพัฒนาประเทศบนฐานความรู้ได้ ตลอดจนเปิดเผยข้อมูลและผลการวิเคราะห์ สังเคราะหต์ ่อสาธารณชนตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบาย การอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรมแห่งชาติ (๘) รายงานผลการปฏบิ ัตติ ามแผนด้านการอุดมศึกษาตามหน้าทแ่ี ละอานาจต่อรัฐมนตรี (๙) ให้คาปรึกษา คาแนะนา และความเห็นต่อรัฐมนตรีหรือสภานโยบายตามท่ีรฐั มนตรีหรือ สภานโยบายมอบหมาย (๑๐) แตง่ ต้ังคณะอนุกรรมการเพื่อทาการแทนหรือเพ่อื ดาเนินการตามท่ี กกอ. มอบหมาย (๑๑) ปฏบิ ัตกิ ารอ่ืนตามท่พี ระราชบัญญตั ินหี้ รอื กฎหมายอนื่ กาหนดให้เป็นหน้าทห่ี รืออานาจของ กกอ. หรือตามท่คี ณะรัฐมนตรหี รือสภานโยบายมอบหมาย การใช้อานาจของ กกอ. ต้องคานึงถึงความเป็นอิสระ ความหลากหลาย ประเภทและ กลมุ่ ของสถาบันอุดมศกึ ษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการอดุ มศกึ ษา รวมท้งั สถานภาพของแตล่ ะสาขาวชิ าและ แต่ละสถาบนั อุดมศกึ ษาด้วย มาตรา ๒๒ การประชุม กกอ. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจานวน กรรมการทง้ั หมดเท่าที่มีอยจู่ ึงจะเป็นองค์ประชมุ ในการประชุม กกอ. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ ให้ท่ีประชุม เลอื กกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในท่ปี ระชมุ การวนิ จิ ฉยั ชีข้ าดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งใหม้ ีเสียงหน่งึ ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานในท่ีประชมุ ออกเสยี งเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึง่ เปน็ เสียงชข้ี าด ให้มีการประชมุ กกอ. อยา่ งน้อยเดือนละหน่งึ ครงั้ มาตรา ๒๓ กกอ. อาจขอให้สถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานของรฐั หรอื ของเอกชน หรอื บคุ คล ส่งข้อมูล เอกสาร หลักฐาน สถิติ รายงานการเงิน หรือเชญิ บุคคลมาใหข้ อ้ เท็จจริงและแสดงความคิดเห็นได้ ตามที่เหน็ สมควร ท้งั นี้ เพื่อประกอบการดาเนินการตามหน้าท่แี ละอานาจ
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙๑ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๒๔ ใหป้ ระธานกรรมการ กรรมการ อนกุ รรมการ เลขานุการ และผ้ชู ่วยเลขานกุ าร ได้รับค่าตอบแทน ค่าใช้จา่ ย เบีย้ ประชุม และประโยชนต์ อบแทนอื่นตามที่คณะรัฐมนตรกี าหนด ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศกึ ษา มาตรา ๒๕ ใหม้ คี ณะกรรมการมาตรฐานการอดุ มศึกษา เรยี กโดยย่อวา่ “กมอ.” ประกอบดว้ ย (๑) ประธานกรรมการซงึ่ รัฐมนตรีแตง่ ต้งั ตามขอ้ เสนอของ กกอ. (๒) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒซิ ่ึงรัฐมนตรแี ต่งต้ังตามข้อเสนอของ กกอ. จากผูม้ ีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นทปี่ ระจกั ษ์ด้านการอุดมศึกษา จานวนไม่เกินเจ็ดคน ให้รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมซ่ึงปลัดกระทรวง การอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ ให้ กกอ. เสนอชื่อผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจานวนสองเท่าของจานวนที่จะต้องแต่งตั้งต่อรัฐมนตรีและเมื่อรัฐมนตรีได้แต่งต้ังแล้ว ให้นารายชื่อผู้ซ่ึงไมไ่ ดร้ บั การแต่งตัง้ เปน็ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิมาจดั ทาเป็นบญั ชีสารองต่อไป ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะดารงตาแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือ กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา อธิการบดีหรือผู้ปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษา หรือตาแหน่งอื่น ตามท่กี าหนดในกฎกระทรวงมไิ ด้ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมวี าระการดารงตาแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับ แต่งตั้งใหม่อกี ไดแ้ ต่ไม่เกนิ สองวาระติดต่อกัน ประธานกรรมการและกรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิ ต้องทางานดว้ ยความเปน็ อิสระ คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแตง่ ตง้ั และการพ้นจากตาแหน่งของประธานกรรมการและ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิรวมท้ังการทาบญั ชีสารอง เพื่อเล่ือนข้ึนมาดารงตาแหน่งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ท้ังนี้ บัญชีสารองให้มีอายุเท่ากับ วาระการดารงตาแหนง่ ของกรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิ มาตรา ๒๖ นอกจากการให้ข้อเสนอแนะและความเห็นชอบแก่รัฐมนตรีตามมาตรา ๑๗ (๖) (๗) และ (๑๒) และให้ความเหน็ ประกอบการพิจารณาของรฐั มนตรี ตามมาตรา ๑๗ (๘) และ (๙) แล้ว กมอ. มีหน้าที่และอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๙๒ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๑) ส่งเสริม สนับสนุน ติดตาม ตรวจสอบการจัดการศึกษาและการประกนั คุณภาพการศกึ ษา รวมท้ังการประเมินผลการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน โดยคานึงถึงประเภทและกลุ่มของสถาบนั อุดมศึกษาตามกฎหมายว่าดว้ ย การอุดมศึกษา ตลอดจนความเป็นอิสระและความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย การจดั ต้ังสถาบนั อดุ มศึกษาแต่ละแห่งด้วย (๒) เสนอแนะต่อรฐั มนตรีเพอื่ นาเสนอตอ่ สภานโยบายใหก้ าหนดมาตรการทางการเงนิ การคลัง และสิทธิประโยชน์อน่ื เพ่อื ใหม้ กี ารพัฒนามาตรฐานการอดุ มศึกษา (๓) ให้คาแนะนาและสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานการอุดมศึกษาของสถาบันอุดมศกึ ษาของรัฐ ในสังกัดของกระทรวงอยา่ งต่อเนอ่ื ง เพือ่ ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาของประเทศ (๔) กากับ เร่งรัด ติดตาม และให้คาแนะนาแก่สานักงานปลัดกระทรวงในการจัดทาฐานข้อมูล มาตรฐานการอดุ มศึกษา (๕) รายงานผลการปฏบิ ตั ติ ามแผนดา้ นการอุดมศึกษาตามหน้าทีแ่ ละอานาจต่อรัฐมนตรี (๖) ให้คาปรึกษา คาแนะนา และความเห็นต่อรัฐมนตรีหรือสภานโยบายตามท่ีรัฐมนตรีหรือ สภานโยบายมอบหมาย (๗) แต่งตง้ั คณะอนกุ รรมการเพ่อื ทาการแทนหรอื เพ่ือดาเนนิ การตามที่ กมอ. มอบหมาย (๘) ปฏิบตั ิการอ่ืนตามทีพ่ ระราชบญั ญัตินห้ี รือกฎหมายอน่ื กาหนดใหเ้ ปน็ หน้าท่ีหรืออานาจของ กมอ. หรือตามทค่ี ณะรัฐมนตรหี รอื สภานโยบายมอบหมาย การใช้อานาจของ กมอ. ต้องคานึงถึงความเป็นอิสระ ความหลากหลาย ประเภทและ กล่มุ ของสถาบันอดุ มศึกษาตามกฎหมายวา่ ด้วยการอดุ มศกึ ษา รวมท้งั สถานภาพของแต่ละสาขาวชิ าและ แต่ละสถาบนั อดุ มศกึ ษาด้วย มาตรา ๒๗ ในการกาหนดมาตรฐานการอุดมศึกษา กมอ. ต้องยึดหลักการ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) มาตรฐานการอดุ มศกึ ษาตอ้ งกาหนดให้ทันสมยั ตามพัฒนาการของโลกและสงั คม (๒) มาตรฐานการอุดมศึกษาต้องกาหนดโดยคานึงถึงความหลากหลายของประเภทและ กลุ่มของสถาบันอดุ มศกึ ษาตามกฎหมายว่าด้วยการอดุ มศกึ ษา (๓) มาตรฐานการอุดมศกึ ษาตอ้ งใหค้ วามสาคัญกบั ความรู้ สมรรถนะ ทักษะ เจตคติ ซึ่งเป็น ผลลัพธ์และผลสัมฤทธิซ์ ่งึ เกดิ ขน้ึ แก่ผู้เรียนและสามารถวดั ได้ การกาหนดวธิ กี ารจัดการศึกษาต้องกระทา
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๙๓ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา เพียงเท่าท่ีจาเปน็ ตามมาตรฐานสากล เพ่ือเป็นการประกันคุณภาพข้นั ต่า โดยไม่กระทบต่อความเป็นอสิ ระ ของสถาบนั อดุ มศึกษาในการจัดการศึกษา (๔) ต้องรับฟังความคิดเห็นของสถาบันอุดมศึกษา ผู้เรียน คณาจารย์ และผู้ใช้บัณฑิต อย่างกว้างขวาง (๕) มีระบบให้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานการอุดมศึกษาของ สถาบนั อดุ มศกึ ษาเปน็ ระยะ และมีระบบการใหส้ ถาบนั อดุ มศกึ ษาอุทธรณค์ าวนิ ิจฉัยหรือคาส่ัง กมอ. ได้ (๖) หลกั การอื่นตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๒๘ ให้นาความในมาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม หมวด ๕ การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการสถาบนั อดุ มศกึ ษาของรฐั ในสงั กดั ของกระทรวงที่เปน็ นิตบิ คุ คล มาตรา ๒๙ ระเบียบปฏิบัติราชการหรือระเบียบปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกัดของกระทรวงท่ีเปน็ นิตบิ ุคคลให้เปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการนั้น การแบ่งส่วนราชการและการแบ่งส่วนงานภายในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง ตามวรรคหนึง่ ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ต้ังสถาบันอุดมศกึ ษาน้นั มาตรา ๓๐ ให้มีคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา เรียกโดยย่อว่า “ก.พ.อ.” ทาหน้าที่เป็นองค์กรบริหารงานบุคคลสาหรับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกัดของกระทรวงตามท่ีกาหนดในกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบขา้ ราชการพลเรือนในสถาบนั อดุ มศึกษา มาตรา ๓๑ กระทรวงอาจขอให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง ให้ข้อมูล เกี่ยวกับโครงการและแผนงานเกยี่ วกับการจัดการศกึ ษาของสถาบันอดุ มศกึ ษาน้ัน ตลอดจนรายละเอียด ทางวิชาการ การเงิน สถิติ และข้อมูลอ่ืนเพื่อประโยชน์ในการจัดทาฐานข้อมูลการอุดมศึกษาและ การปฏบิ ตั ริ าชการในหนา้ ทแี่ ละอานาจได้ ความในวรรคหน่ึงให้นามาใช้บังคับแก่สถาบันอุดมศึกษาท่ีไม่อยู่ในสังกัดของกระทรวงและ สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชนดว้ ยโดยอนุโลม
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙๔ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา หมวด ๖ การส่งเสรมิ สถาบนั อดุ มศกึ ษา มาตรา ๓๒ ในกรณีที่สานักงานปลัดกระทรวงมีข้อตกลงการพัฒนาการอุดมศึกษากับ สถาบันอุดมศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการผลิตกาลังคนในสาขาท่ีประเทศมีความต้องการหรือเพื่อพัฒนา ในด้านอ่ืนตามที่สภานโยบายกาหนดตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรมแหง่ ชาติ สถาบันอดุ มศกึ ษาอาจขอรับการส่งเสรมิ ดา้ นงบประมาณเพื่อการนัน้ ได้ บทเฉพาะกาล มาตรา ๓๓ ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการการอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษา แห่งชาติซ่ึงดารงตาแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าท่ีคณะกรรมการ การอุดมศึกษาและคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตามพระราชบญั ญัตนิ ้ไี ปพลางกอ่ นจนกวา่ จะมี การแต่งตง้ั คณะกรรมการการอดุ มศึกษาหรือคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญตั ินี้ ทั้งน้ี ตอ้ งไมเ่ กินสองร้อยส่สี ิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญตั นิ ใี้ ชบ้ งั คับ มาตรา ๓๔ ให้สานักงานรัฐมนตรี สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ และสานักงานปรมาณูเพ่ือสันติ ซ่ึงเป็นส่วนราชการใน กระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมตามกฎหมายวา่ ด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เป็นส่วนราชการที่มชี ่อื อย่างเดยี วกันในกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรากาลังของส่วนราชการในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม ตามวรรคหน่งึ ไปเป็นของส่วนราชการ ทมี่ ีชือ่ อย่างเดียวกนั ในกระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตนิ ี้ มาตรา ๓๕ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หน้าท่ี หนี้ ภาระผูกพัน เงินงบประมาณ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรากาลังของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งเป็นส่วนราชการในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วย การปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ไปเป็นของสานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรมตามพระราชบัญญัติน้ี และให้เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา รองเลขาธกิ าร คณะกรรมการการอุดมศึกษา และผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งดารงตาแหน่งอยู่
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙๕ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ใี ชบ้ งั คบั ยงั คงประเภทตาแหน่ง ชื่อตาแหนง่ ในสายงานและระดบั ตาแหนง่ ของผดู้ ารงตาแหน่งดงั กลา่ วไวเ้ ป็นการเฉพาะราย และใหไ้ ดร้ ับเงนิ เดอื น เงินประจาตาแหน่ง สวัสดิการ และประโยชน์ตอบแทนอืน่ ไมน่ ้อยกว่าทไ่ี ดร้ ับอย่เู ดิม จนกวา่ จะไดร้ ับแตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหนง่ อื่น บรรดาบทบญั ญัติแหง่ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คาส่ัง และมติคณะรฐั มนตรีใด ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ อ้างถึง “สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา” หรือ “เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา” ให้ถือว่าอา้ งถงึ “สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” หรือ “ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม” แล้วแต่กรณี เว้นแต่บทบัญญัตทิ ี่กาหนดให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐเป็นส่วนราชการอยใู่ น สังกัดสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้ถือว่าสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ดงั กล่าวอยใู่ นสังกดั กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาตรา ๓๖ ในวาระเร่มิ แรก ใหส้ านกั งานการวิจยั แหง่ ชาติปฏิบัติหนา้ ที่และมีอานาจตามท่ี สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติมีอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับไปพลางก่อนจนกว่า จะมกี ารออกกฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการสานกั งานการวิจยั แห่งชาติตามมาตรา ๙ ให้โอนบรรดาทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี หน้ี ภาระผูกพัน โครงการวิจัยและกิจกรรมส่งเสริม การวจิ ัย เงนิ งบประมาณ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลกู จา้ ง และอัตรากาลงั ของสานกั งานคณะกรรมการ วจิ ัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นสว่ นราชการในกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรมตามกฎหมาย ว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ไปเป็นของสานักงานการวิจัยแห่งชาติตามพระราชบัญญตั ิน้ี และให้เลขาธกิ ารคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติซ่ึงดารงตาแหนง่ อยใู่ นวนั ก่อนวนั ทพี่ ระราชบญั ญัตินใี้ ช้บงั คบั ทาหน้าที่ผู้อานวยการสานักงานการวิจัยแห่งชาติไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งต้ังผู้อานวยการสานักงาน การวจิ ยั แห่งชาตขิ นึ้ ใหมต่ ามพระราชบญั ญตั นิ ้ี บรรดาบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบงั คับ ประกาศ คาสัง่ และมติคณะรฐั มนตรีใด ท่ีใช้บังคับอยใู่ นวันก่อนวนั ที่พระราชบัญญัตนิ ี้ใช้บงั คับ อ้างถึง “สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ” หรือ “เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ” ให้ถือว่าอ้างถึง “สานักงานการวิจัยแห่งชาติ” หรือ “ผอู้ านวยการสานกั งานการวจิ ัยแห่งชาต”ิ แลว้ แต่กรณี มาตรา ๓๗ เม่ือครบกาหนดสามปีนบั แต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้คณะกรรมการ ขับเคลือ่ นการปฏริ ปู การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรมตามมาตรา ๔๑ ประเมนิ ประสิทธิภาพ และผลการปฏิบัติราชการตามหน้าที่และอานาจของสานักงานการวิจัยแห่งชาติซ่ึงเป็นส่วนราชการ ตามมาตรา ๘ (๔) และในกรณีท่ีเห็นว่า ผลการปฏิบัติราชการดังกล่าวจาเป็นต้องได้รับการปรับปรุง
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๗ ก หน้า ๙๖ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา โครงสร้างและกลไกในการบริหารเพ่ือให้สามารถขับเคล่ือนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ให้มีอานาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรใี ห้จัดต้งั สานักงานการวิจัย แห่งชาติเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าดว้ ยองคก์ ารมหาชน โดยเสนอพร้อมร่างพระราชกฤษฎีกาด้วย และเม่ือพระราชกฤษฎกี าดงั กล่าวมผี ลใชบ้ งั คับให้มาตรา ๘ (๔) และมาตรา ๑๓ เป็นอันยกเลกิ หลักเกณฑ์การประเมินประสิทธภิ าพและผลการปฏิบัตริ าชการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามท่ี คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกาหนด มาตรา ๓๘ ให้ดาเนินการตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวทิ ยาศาสตรบ์ ริการตามกฎหมาย ว่าด้วยองค์การมหาชนให้แล้วเสร็จภายในสามปีนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเม่ือ พระราชกฤษฎีกาดังกลา่ วมผี ลใชบ้ ังคบั ใหม้ าตรา ๘ (๓) และมาตรา ๑๒ เป็นอันยกเลิก มาตรา ๓๙ เพ่อื ประโยชน์ในการบริหารราชการของกระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีอาจมีคาส่ังให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานใน สถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดส่วนราชการในกระทรวงไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานใน กากบั ของกระทรวงได้เป็นการช่ัวคราวตามระยะเวลาทร่ี ัฐมนตรกี าหนดได้ ให้นับระยะเวลาที่ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา ซ่ึงได้รับคาส่ังให้มาปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานในกากับของกระทรวงตามวรรคหน่ึง เป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการใหแ้ ก่ต้นสังกดั เพื่อประโยชน์ในการคานวณบาเหน็จบานาญหรือประโยชน์ ตอบแทนอ่ืนให้แกผ่ ู้น้ัน ในระหวา่ งท่ีปฏิบตั หิ น้าที่ในสว่ นราชการอื่นหรือหน่วยงานในกากับของกระทรวงตามวรรคหนงึ่ ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหน่ึงมีสิทธิได้รับ ประโยชนต์ อบแทนตามทค่ี ณะรฐั มนตรกี าหนดโดยขอ้ เสนอแนะของสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแหง่ ชาติ มาตรา ๔๐ คดีทส่ี ่วนราชการซงึ่ โอนกจิ การตามมาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ ไปเป็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม บรรดาซ่ึงได้ฟ้องต่อศาลไว้ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตนิ ี้ใช้บังคับ ให้ส่วนราชการ ซ่ึงรับโอนตามมาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ เข้าสวมสิทธิเป็นคู่ความแทน และดาเนิน กระบวนพิจารณาไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และให้ถือว่าผู้รับมอบอานาจให้ดาเนินคดีแทนส่วนราชการ ท่ีถูกโอนในคดีนัน้ ๆ เป็นผ้รู ับมอบอานาจจากสว่ นราชการที่รับโอน แลว้ แตก่ รณี ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙๗ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ในกรณีทศ่ี าลไดม้ คี าพพิ ากษาคดีตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้สว่ นราชการซง่ึ จดั ต้ังขึน้ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เข้าสวมสทิ ธเิ ปน็ เจา้ หนตี้ ามคาพิพากษาหรือลกู หนี้ตามคาพิพากษานั้น มาตรา ๔๑ ในส่ีปีแรกนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูป การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามคาสั่งสานักนายกรัฐมนตรี ท่ี ๓๕/๒๕๖๒ เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคล่ือนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงวันท่ี ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งดารงตาแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ รวมถึง ท่ีจะมีการแก้ไขเพิ่มเตมิ เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรปู การอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวตั กรรมตามมาตรานี้ โดยมีหนา้ ทแี่ ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) จัดทาแนวทางการพัฒนาระบบ กลไก การบูรณาการการทางานและวิธีการปฏิบัติราชการ การจัดโครงสร้างและอัตรากาลังของหน่วยงานในบังคับบัญชาและในกากับดูแลของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้แล้วเสร็จภายในสามปี เพ่ือเสนอต่อรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม และคณะรัฐมนตรี (๒) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมเกี่ยวกบั การตีความและวนิ ิจฉัยปญั หาอันเก่ียวกบั การปฏิบัตกิ ารตามท่ีกาหนดไวใ้ นบทเฉพาะกาล ของพระราชบญั ญตั นิ ี้ (๓) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช้ีแจงขอ้ เท็จจรงิ แสดงความเห็น หรือส่งเอกสารหรือหลักฐาน ท่ีเกี่ยวข้องเพ่อื ประกอบการพิจารณา (๔) ดาเนินการอื่นตามท่คี ณะรฐั มนตรี นายกรฐั มนตรี หรือรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรมมอบหมาย ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๗ ก หน้า ๙๘ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีมีการจัดต้ังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงจาเป็นต้องกาหนดขอบเขตหน้าท่ีและอานาจ และการจดั ระเบยี บบริหารราชการ ของกระทรวงดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อให้การบริหารจัดการในระดับต่าง ๆ ของกระทรวงมีเอกภาพ สามารถ ดาเนินการได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ จึงจาเปน็ ต้องตราพระราชบญั ญัติน้ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: