027-สรุปองค์ความรู้สัมมนาวิทยาศาสตร์

สัมมนา(วิจัย)วทิ ยาสศรปุ าอสงคต์ควราม์ รู้ (SEMINAR IN SCIENCE : EGS 401) 80% off

องค์ 1. ความรู้ทัว่ ไปเก่ยี วกับการวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ ความ 2. เจาะทางเลือกใหม่ (เลอื ดตวั เงนิ ตัวทอง) รู้ที่ได้ 3. กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จาก 4. จริยธรรมการวิจัย การ 5. ส่วนประกอบของวิจยั เรยี น 6. การเรยี นรเู้ กี่ยวกบั วิจยั ตน้ แบบ

ความหมายของวิทยาศาสตร์ ความรูท้ ่วั ไป - กระบวนการหรอื วิธีการแสวงหาความรู้ ความจรงิ จากธรรมชาติ เก่ียวกบั การ ความสาคญั ของวิทยาศาสตร์ วิจยั ทาง - วิทยาศาสตรม์ บี ทบาทสาคัญอย่างยง่ิ ในการดารงชวี ติ ของมนษุ ย์ วทิ ยาศาสตร์ เป็นกระบวนการสาคญั ท่จี ะทาใหเ้ กดิ การพัฒนาวธิ คี ิด เหตผุ ล ความคิดสรา้ งสรรค์ คดิ วิเคราะหว์ ิจารณ์ มที กั ษะทส่ี าคัญในการ คน้ หาความรู้ ความหมายของวิจยั - กระบวนการแสวงหาความรู้ความจรงิ อย่างมีระบบและวธิ กี ารท่ี หนา้ เชอ่ื ถอื เพอื่ นาความรคู้ วามจรงิ ทไี่ ดน้ น้ั ไปใช้ในการตัดสินใจ แก้ไขปญั หาหรอื ก่อใหเ้ กิดองค์ความรู้ใหม่ ความสาคญั ของการวิจัย - เพอื่ เพิม่ พูนความรใู้ หม่ ๆ ทางวชิ าการ เป็นการแสวงหาความรู้ หรอื ความจริงเพื่อสรา้ งเป็นกฎ สูตร ทฤษฎี ในแต่ละศาสตร์วชิ า

เจาะทางเลอื กใหม่ (เลอื ดตัวเงินตวั ทอง) ศึกษาในประเดน็ ดังน้ี คุณลักษณะของนักวิจยั ทห่ี มอจิรกมลมีอยู่ในตวั ความรใู้ นหลักวิชาที่เกยี่ วขอ้ ง การดาเนินงานของคณุ หมอ ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์

1. การกาหนดปัญหา กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นการกาหนดหัวเร่อื งที่จะศึกษาหรือแกป้ ญั หา เป็นการดาเนินการโดยใชท้ กั ษะทาง เปน็ ปญั หาทีไ่ ดม้ าจากการสงั เกต จากข้อสงสยั ใน วิทยาศาสตร์ ซ่ึงมีทั้งหมด 5 ขนั้ ตอน ปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ท่พี บเห็น 2. การตง้ั สมมตฐิ าน เปน็ การต้งั สมมติฐานและกาหนดตัวแปร เปน็ การ คาดคะเนคาตอบของปญั หาใดปัญหาหนง่ึ อย่างมีเหตผุ ล โดย อาศยั ขอ้ มลู จากการสงั เกต การศกึ ษาจากเอกสารที่เกยี่ วข้อง การพบผูร้ ู้ในเรื่องนั้น ๆ กาหนดตวั แปรที่เกยี่ วข้องกบั การ ทดลอง ได้แก่ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ตัวแปรควบคมุ

3. การทดลองและรวบรวมขอ้ มลู กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เปน็ การปฏิบตั กิ ารทดลอง ค้นหาความจรงิ ให้ เปน็ การดาเนนิ การโดยใช้ทกั ษะทาง สอดคลอ้ งกบั สมมติฐานท่กี าหนดไวใ้ นข้ันตอนของการ วิทยาศาสตร์ ซง่ึ มที ั้งหมด 5 ข้นั ตอน ตัง้ สมมติฐาน และรวบรวมขอ้ มลู จากการทดลงหรอื ปฏบิ ตั ิการอย่างเป็นระบบ 4. การวเิ คราะห์ข้อมูลและทดสอบสมสมตฐิ าน เป็นการนาขอ้ มลู ที่รวบรวมได้จากข้นั ตอนของการทดลองและรวบรวมขอ้ มูล มาวิเคราะห์ หาความสัมพันธข์ องขอ้ เทจ็ จรงิ ตา่ ง ๆ เพ่ือนามาอธบิ ายและตรวจสอบกบั สมมติฐานทต่ี ั้งไว้ในขั้นตอนการตงั้ สมมตฐิ าน ถา้ ผลวเิ คราะหไ์ มส่ อดคล้องกบั สมมุตฐิ าน จะสรุปไดว้ ่าสมมตฐิ านนั้นไม่ถูกตอ้ ง แตถ่ ้าผลวเิ คราะห์สอดคล้องกับสมมติฐาน สรุปได้ว่า 5. การสรุปผล สมมตฐิ านและการทดลองน้นั ถูกต้อง เปน็ การสรุปผลการศึกษา การทดลอง หรอื การปฏิบตั กิ ารนน้ั ๆ โดยอาศัยขอ้ มูลและการวเิ คราะหข์ ้อมลู จากขั้นตอนของการวเิ คราะห์ข้อมูล

จริยธรรมการวจิ ัย ความซ่อื สัตว์สุจรติ ในการวิจัย จะต้อง ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ขอ้ บังคับ แนวทาง มาตรฐานวิชาชพี และหลักจริยธรรมการ วจิ ัย ซ่ึงในทางปฏิบตั ิ ซ่งึ มอี งคป์ ระกอบที่ 1. ซือ่ สตั วแ์ ละมีคณุ ธรรมในทางวิชาการและการจัดการ สาคญั ดงั น้ี 2. ตระหนกั ถงึ พนั ธกรณีในการทาวิจัย 3. มีพ้นื ฐานความร้ใู นสาขาวิชาท่ีทาวจิ ยั 4. มีความรับผิดชอบตอ่ ส่ิงท่ศี ึกษาวิจยั 5. เคารพศกั ดิศ์ รีและสทิ ธขิ องมนุษย์หรอื สตั ว์ทใี่ ช้เปน็ ตัวอยา่ งในการวิจยั 6. มอี ิสระทางความคิดปราศจากอคติในทุกขน้ั ตอนของการทาวจิ ยั 7. นาผลวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นทางที่ชอบ 8. เคารพความคดิ เหน็ ทางวิชาการของผ้รู ่วมวจิ ัย 9. มคี วามรบั ผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ

บทท่ี 1 บทนา สว่ นประกอบ บทท่ี 2 ตรวจเอกสาร ของวิจยั มี 5 บท บทท่ี 3 วิธกี ารดาเนนิ การศึกษา บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา บทท่ี 5 สรุปผลการศกึ ษาและขอ้ เสนอแนะ

การเรียนร้เู กยี่ วกับวิจยั ตน้ แบบ . . . เรือ่ ง การทาปยุ๋ หมักจากใบและตน้ มนั สาปะหลงั อทิ ธิพลของรปู แบบและความเขม้ ขน้ ของหวั เชื้อจลุ นิ ทรีย์ตอ่ การเปลย่ี นแปลงอนิ ทรียสาร บทท่ี 1 บทนา บทท่ี 2 ตรวจเอกสาร 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา 2.1 วสั ดเุ หลอื ท้ิงจากการทาป๋ยุ หมักจากมนั สาปะหลงั 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา 2.2 ลกิ โนเซลลูโลสและการยอ่ ยสลายลกิ โนเซลลโู ลส 1,3 ขอบเขตของการศกึ ษา 2.3 การย่อยสลายลกึ โนเซลลโู ลสโดยจุลินทรีย์ 1.4 ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รบั 2.4 การใชห้ ัวเชือ้ จลุ ินทรยี ใ์ นการทาปยุ๋ หมักจากวัสดหุ มกั ประเภทลิกโนเซลลูโลส 2.5 ปจั จยั ท่มี ีผลต่อการใชห้ วั เชอื้ จุลนิ ทรีย์ในการทาปุย๋ หมัก 2.6 การประเมนิ การครบกาหนด (Maturity) ของปุ๋ยหมัก

การเรียนร้เู กย่ี วกับวิจัยต้นแบบ . . . เร่อื ง การทาป๋ยุ หมักจากใบและตน้ มนั สาปะหลงั อทิ ธิพลของรูปแบบและความเขม้ ขน้ ของหวั เชื้อจุลนิ ทรยี ์ต่อการเปลีย่ นแปลงอนิ ทรียสาร บทที่ 3 วิธีการดาเนินการศึกษา 3.1 วัสดหุ มกั ทีใ่ ช้ในการศึกษา 3.2 การเตรยี มวสั ดุหมัก 3.3 การเตรียมหวั เชือ้ จลุ ินทรีย์ 3.4 การศกึ ษาสมบตั ิทางกายภาพ และเคมขี องวสั ดปุ ยุ๋ หมกั และหวั เชื้อจลุ ินทรีย์ 3.5 การศกึ ษาอทิ ธพิ ลของรูปแบบ และความเขม้ ข้นของหัวเชื้อจลุ นิ ทรีย์ 3.6 วิธีการวิเคราะห์ 3.7 การวเิ คราะหผ์ ลทางสถิติ

การเรยี นรเู้ กี่ยวกบั วจิ ัยตน้ แบบ . . . เร่อื ง การทาปยุ๋ หมกั จากใบและต้นมนั สาปะหลังอิทธพิ ลของรูปแบบและความเขม้ ขน้ ของหวั เชื้อจุลินทรยี ต์ ่อการเปล่ยี นแปลงอินทรียสาร บทท่ี 4 ผลการศึกษา 4.1 สมบตั ิทางกายภาพเคมี และจลุ นิ ทรียข์ องวสั ดหุ มักหวั เชือ้ จลุ นิ ทรยี ์ 4.2 อิทธิพลของรูปแบบ และความเขม้ ขน้ ของหวั เช้ือจลุ นิ ทรยี ์ 4.3 การเปล่ยี นแปลงของสารประกอบฮวิ มิคในระหวา่ งกระบวนการหมกั บทท่ี 5 สรปุ ผลการศึกษาและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศกึ ษา 5.2 ขอ้ เสนอแนะ

เรยี น อาจารยธ์ านินทร์ ปญั ญาวฒั นากุล หนูขอขอบคุณอาจารย์ ที่ได้อบรมสั่งสอนหนใู หค้ วามรไู้ ม่วา่ จะ เปน็ เรอื่ งการเรียน การใชค้ าพดู ให้เหมาะสม การมีระเบยี บวนิ ัย การตรง ตอ่ เวลา การทางานรว่ มกับผูอ้ ่นื การทางานกลุม่ สอนให้หนมู คี วาม รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ี ตอ่ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ฝึกความอดทน พฒั นา ทางด้านความคิดวเิ คราะห์ ไดเ้ รียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ เรียนรูก้ ารแรกเปลีย่ น ความคดิ การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผ้อู นื่ ขอขอบคณุ อาจารยเ์ ปน็ อยา่ งสงู ขอใหอ้ าจารยส์ ขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรงนะคะ มคี วามสขุ ในทุก ๆวัน ขอบคุณค่ะอาจารย์ ด้วยรกั และเคารพจากลกู ศิษยร์ หสั 61 นางสาวอมรรตั น์ อันทะนนท์

จดั ทาโดย นางสาวอมรรตั น์ อันทะนนท์ รหัส 027 สาขาการสอนวิทยาศาสตร์ท่วั ไป กลุ่ม 01