บทที่ 2 44 ความรู้ทั่วไปเกย่ี วกบั โรคไตวาย แนวทางการดูแลสายสวนระยะยาวภายหลังการทาผ่าตัด การดูแลภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือดถือเป็นส่ิงสาคัญ ควรแนะนา ผู้ป่วยให้สังเกตุ ติดตาม ประเมินบริเวณท่ีใส่สายสวน ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณที่ทาผ่าตัด รวมถึงการดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคล จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด อัตราการติดเชื้อ และ ค่าใชจ้ ่ายโดยรวมในการรักษาพยาบาล69 การใหค้ าแนะนาผูป้ ่วยภายหลังการใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด66,70,71,74-77 1. ดแู ลความสะอาดบริเวณที่ใส่สายสวนให้แหง้ และสะอาดอยเู่ สมอ เปล่ียนผ้าปิดแผลเมื่อเปียกชื้น หรือสกปรก72-74 ทีค่ ลนิ ิกหรือโรงพยาบาลใกลบ้ ้าน 2. ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ล้างมือด้วยสบู่ทุกคร้ังท่ีจะมีการสัมผัสกับสาย หรือ เปลีย่ นผ้าปดิ แผล เพื่อลดอตั ราเสย่ี งต่อการตดิ เชอ้ื 60,65,66,75 3. ระมัดระวังบริเวณท่ีใส่สายสวนไม่ให้เปียกช้ืนในขณะอาบน้า งดลงแช่น้า หรือเข้าเซาว์น่า เพราะความเปยี กซ้ืนบริเวณทีใ่ สส่ ายเปน็ สาเหตุของการตดิ เช้ือ 4. ใช้ 2% chlorhexidine in alcohol 70%, chorhexidine aqueous 71,75-77 หรือ 10% povido iodine ทาความสะอาดรอบๆบริเวณท่ีใส่สาย ก่อนปิดผ้าปิดแผลปิดแผลด้วย transparent dressing หรือ ผ้าก๊อซและเทป74 เพ่ือลดอตั ราเสีย่ งตอ่ การตดิ เชอ้ื 70 5. ดแู ลสายสวนไมใ่ ห้ ดงึ รง้ั หกั พบั งอเพราะอาจทาใหป้ ระสทิ ธิภาพของการทางานเสียไป 6. งดแกะเกาบรเิ วณรอบนอกแผล เพราะอาจเปน็ สาเหตขุ องการติดเช้อื ได้ 7. ผู้ปว่ ยทีใ่ สส่ ายสวนบรเิ วณคอ หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อชนิดสวมศีรษะ แนะนาสวมเส้ือผ่าเปิดด้านหน้า และติดกระดุมหน้า เพอื่ ป้องกนั การเก่ยี ว และดงึ รัง้ สาย 8. ในผู้ป่วยท่ีใสส่ ายสวนบริเวณขาหนีบ ระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษในช่วงท่ีมีการขับถ่ายปัสสาวะ และ อุจจาระ เพื่อปอ้ งกนั การติดเช้ือจากการสัมผสั ส่ิงสกปรก ควรสวมกางเกงขาหลวมใส่สบาย หลีกเล่ียงการน่ังงอขาหรือพับขา เพ่ือลดความเส่ียง จากภาวะสายสวนอุดตัน และภาวะหลอดเลอื ดดาอุดตนั ในชนั้ ลึก70 คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตัด
บทท่ี 2 45 ความรทู้ ัว่ ไปเกี่ยวกบั โรคไตวาย แนะนาผู้ป่วยกระดกข้อเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนเลือดจากส่วนปลาย เนื่องจากมีโอกาสเกิดล่ิมเลือดอุดตันในหลอดเลือดดาสูง ควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการ ขาด้านท่ีใส่สายสวน ถ้าพบอาการขาบวม ปวด คลาดูร้อน หรือคลาได้หลอดเลือดเป็น ลาแขง็ เนื่องจากมกี ารแข็งตัวของเลอื ดในหลอดเลือดดา ควรรบี มาพบแพทย์ทนั ที 9. หากพบการหลุดของสายสวนในตาแหน่งเย็บตรึง ให้ใช้พลาสเตอร์ยึดสาย และรีบไปพบแพทย์ ทันทีเพือ่ การเย็บตรึงสายใหม่ 10. มาตรวจติดตามผลตามแพทย์นัดทุกครั้ง โดยแพทย์จะนัดตัดไหมภายหลังผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ อาการผิดปกติทค่ี วรมาพบแพทย์กอ่ นนัด37,38 1. มีน้าเหลือง หนอง เลือดหรือสิ่งผิดปกติ ไหลซึมออกจากแผลผ่าตัด หรือ จุดที่เป็นทางออก ของสายสวน 2. สายสวนแตก หัก หรอื มเี ลือดไหลออกมาจากบรเิ วณสาย 3. เหน็ ปลอกหุม้ สายสวน (dacron cuff) เลื่อนออกมาจากจุดท่ีเป็นทางออกของสายสวน 4. แขนหรือใบหน้าขา้ งเดียวกบั คอทมี่ ีการผา่ ตดั ใส่สายสวนเกิดการบวม 5. ขาข้างเดียวกับที่มีการผ่าตัดใส่สายสวนฯเกิดอาการขาบวม ปวด คลาดูร้อน หรือคลาได้ หลอดเลอื ดเป็นลาแขง็ 6. มไี ข้ หนาวสั่น โดยไมท่ ราบสาเหตุ 7. มีอาการบวม แดง ทผ่ี วิ หนังบริเวณต้งั แตท่ างออกของสายสวนถงึ บรเิ วณคอ 8. สายสวนดา้ นใดด้านหนึ่ง หรอื ท้ังสองดา้ นใชฟ้ อกเลอื ดไม่ได้ โดยดดู เลอื ดไม่ออกหรือออกยาก การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด เป็นอีกทางเลอื กหน่งึ ทช่ี ่วยรกั ษาผู้ป่วยจากสภาวะ ไตวาย โดยศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดจะทาการประเมินและวางแผนการทาผ่าตัดให้กับผู้ป่วยตามพยาธิสภาพ และความเหมาะสม ปัจุจบันพบว่าร้อยละ 15-20 ของอัตราการนอนโรงพยาบาลในผู้ป่วยที่ได้รับ การฟอกเลือด เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของ vascular access65 ส่งผลให้เพ่ิมอัตราการเสียชีวิต และ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วย การส่งเสริมให้ผู้ป่วยดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคลจะช่วยลด ภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อได้74 บทบาทของพยาบาลท่ีให้การดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ ควรครอบคลุม คมู่ อื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตัด
บทที่ 2 46 ความรู้ท่วั ไปเกยี่ วกบั โรคไตวาย ตงั้ แตก่ ารให้คาแนะนาในการเตรียมตัวกอ่ นผา่ ตดั การใหก้ ารพยาบาล การประเมินภาวะเร่งด่วน หรือ ภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย รวมถึงการให้คาแนะนาในการดูแลตนเองภายหลังผ่าตัด โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือให้ สายสวนเพ่ือฟอกเลือดระยะยาวสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนานท่ีสุด การส่งเสริมผู้ป่วยในการดูแลตนเอง และรักษาสายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือดหลังผ่าตัด จะช่วยลด ภาวะแทรกซ้อนและอัตราการเสียชีวิต ลดโอกาสในการผ่าตัดซ้า ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระบบสุขภาพ ที่ ใชใ้ นการรกั ษาดแู ลผูป้ ว่ ย ซง่ึ การพยาบาลดงั กล่าว จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชวี ติ ท่ดี ียิ่งขึ้น คู่มือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด
บทที่ 3 47 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตัด บทที่ 3 การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารับการผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัด และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั ปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยไตวาย ที่ต้องการการบาบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่อง ไตเทียมเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย สามารถเตรียมช่องทางเพ่ือใช้ในการฟอกเลือด (vascular access) ได้หลายช่องทางตามความเร่งด่วน และความเหมาะสมของผู้ป่วย การใส่สายสวนระยะยาว เพื่อใช้ในการฟอกเลือดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง การวางแผนเพื่อทาผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาว เพื่อฟอกเลือดเป็นส่ิงจาเป็น จึงต้องมีการประเมินผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับเพ่ือเตรียมความพร้อมสาหรับ การทาผ่าตัด การพยาบาลผู้ป่วยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ประกอบด้วย แนวทางการพยาบาล 5 ขั้น คือ การประเมินผู้ป่วย การวินิจฉัยการพยาบาล วางแผนการพยาบาล ให้การพยาบาล และประเมินผล ซึ่งในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ คลินิกตรวจรักษาด้วยเครื่องมือพิเศษฯ โรคหลอดเลือด หน่วยตรวจรักษาด้วยเครื่องมือพิเศษและติดตามผล สยามินทร์ช้ัน 1 สามารถแบ่ง แผนการพยาบาล เป็น 2 ระยะ คือ 1. การพยาบาลผูป้ ่วยระยะเตรียมก่อนผ่าตดั 2. การพยาบาลผ้ปู ว่ ยระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตดั การพยาบาลผู้ป่วยระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั การประเมนิ ผ้ปู ่วยระยะเตรยี มกอ่ นผ่าตดั 13,19,32,35,45,78 การประเมินสภาพผู้ป่วยแรกรับจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และ การตรวจทางห้องปฎิบัติการ ตา่ งๆ เพ่อื ใชใ้ นการวนิ จิ ฉยั และวางแผนการพยาบาล โดยประเมนิ ผูป้ ว่ ยดงั น้ี 1. ซักประวตั ิผปู้ ่วย ดงั นี้ ประวัติโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดาของแขนขา เพ่ือวางแผนการรักษา และ การเลือกตาแหน่งผ่าตัด เพ่ือป้องกันความเส่ียงในการเกิดภาวะโรคล่ิมเลือดอุดตัน ภายหลงั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลือด คมู่ ือการพยาบาลผูป้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตัด
บทที่ 3 48 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด ประวัติการใส่สายสวนเพื่อฟอกเลือด หรือสายสวนชนิดอ่ืน รวมถึงตาแหน่ง ทเี่ คยผา่ ตัดใสส่ ายสวนเพอ่ื ฟอกเลอื ด ประวัติการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะใส่สายสวนเพ่ือฟอกเลือด เช่น หัวใจเต้น ผิดจังหวะ เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดาส่วนกลาง หรือการติดเช้ือขณะใส่สายสวน เพ่ือฟอกเลือด เพือ่ ใช้ในการวางแผนให้คาแนะนาผู้ปว่ ย ประวัติการผ่าตัดสอดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (pacemaker) ถ้าผู้ป่วยมี ประวัติการใช้เคร่ืองกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ต้องส่งปรึกษาแพทย์โรคหัวใจหรือ เจ้าหน้าที่เทคนิคเพื่อทาการปรับการทางานของเคร่ืองให้เหมาะสมก่อนเข้ารับการ ผ่าตัด ประวัติเลือดออกแล้วหยุดยาก หรือภาวะผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้ คาแนะนาในการเตรียมตัวก่อนผ่าตดั ประวัติอุบัติเหตุของแขน ไหล่ คอ เพื่อวางแผนการทาผ่าตัดโดยหลีกเลี่ยงบริเวณ ทเี่ คยได้รับอุบัตเิ หตุ ประวัติการใช้ยาโรคประจาตัว และยาท่ีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการผ่าตัด ยาต้าน เกล็ดเลือด (antiplatelet) เช่น aspirin, clopidogrel, (plavix®), ticlopidine (ticlid®), ibuprofen และยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) เช่น warfarin (orfarin®), dibigatan (Pradaxasa®), rivaroxaban (xareto®) ในผู้ป้วยที่ไม่มีข้อห้าม ในการหยดุ ยาแนะนาการงดยา antiplatelet 7 วันก่อนผ่าตัด และงดยา anticoagulant 3 วนั กอ่ นผา่ ตดั ประวัติการแพ้ยา อาหาร หรือสารเคมีต่างๆ รายงานให้แพทย์ทราบเพ่ือความ ปลอดภยั ในการวางแผนการรักษาหรอื การใชย้ าขณะผา่ ตัด ประวัติโรคประจาตัว อื่นๆ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เบาหวาน โรคหัวใจ เพ่ือวางแผน ในการรกั ษาและการดแู ลผปู้ ่วยขณะผ่าตดั 2. ตรวจร่างกายบริเวณท่ีวางแผนเตรียมทาผ่าตัด ได้แก่ แขน คอ ขา หรือหน้าอกว่ามีอาการ ผิดปกติหรอื ไม่ เชน่ อาการแขนบวม มีก้อนทีบ่ ริเวณคอหรือหนา้ อก ความผดิ ปกติของทรวงอก มีภาวะ นา้ ในชอ่ งเยือ่ หุม้ ปอด หรอื อาการติดเช้ือต่างๆ หรอื ไม่ คมู่ อื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด
บทท่ี 3 49 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด 3. การตรวจทางห้องปฎบิ ตั ิการ เพือ่ ตรวจความพร้อมของผปู้ ว่ ยก่อนผา่ ตัดและวางแผนในการดแู ลรักษา ตรวจสภาพความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count : CBC) สามารถคัดกรอง ความผิดปกติได้หลายอย่าง เช่น ค่าฮีโมโกลบิน หรือฮีมาโตคริตต่า แสดงถึงภาวะโลหิตจาง ตรวจนับ เม็ดเลือดขาว (white blood cell count) ถ้าเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophils สูง จะแสดงถึงการติดเช้ือ ตรวจนับเกลด็ เลอื ด (platelets count) ถ้าเกล็ดเลือดตา่ จะเส่ียงตอ่ ภาวะเลอื ดออกงา่ ยและหยดุ ยาก ตรวจการแข็งตัวของเลือด (bleeding time, PT และ PTT) เพื่อตรวจสอบภาวะเลือดหยุด ยาก และวางแผนปอ้ งกันภาวะเลอื ดหยดุ ยาก หรอื การเกดิ ลิม่ เลอื ดในระบบหลอดเลือดขณะผา่ ตัด ตรวจสมดุลเกลือแร่ และกรด ด่าง ในเลือด (common electrolytes) ดูสมดุลการทางาน ของร่างกาย เพื่อเตรยี มความพรอ้ มผปู้ ว่ ยก่อนการผ่าตัด ตรวจคา่ การทางานของไต (BUN, Cr) เพ่ือดูประสิทธิภาพการทางานของไตและวางแผนการ ดูแลรักษาและเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีค่าการทางานของไตผิดปกติ เช่น แนะนาการ ฟอกเลือดกอ่ นผ่าตัดในผู้ปว่ ยไตวาย ตรวจประเมินการติดเชื้อไวรัสก่อโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Anti-HIV) ไวรัสตับอักเสบบี (antigen HBs) และไวรัสตบั อักเสบซี (anti-HCV antibody) ตรวจภาพถ่ายรังสีทรวงอก (chest x-ray) คัดกรองความผิดปกติของทางเดินหายใจ เช่น วัณโรคปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) คัดกรองความผิดปกติในระบบหัวใจและทรวงอก เมื่อพบ อาการผดิ ปกติ ส่งปรึกษาแพทยเ์ ฉพาะทางโรคหัวใจเพื่อวางแผนการรักษาก่อนการผ่าตัด การเตรยี มผู้ป่วยกอ่ นผ่าตัด เน่ืองจากผู้ป่วยโรคไตมักจะมีการเปล่ียนแปลงทางพยาธิสภาพจากโรค แพทย์ผู้รักษาจะมีการ วางแผนการรักษา รวมถึงการส่งปรึกษาวิสัญญีแพทย์ และแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆเพื่อร่วม วางแผนดูแลผู้ป่วย เพ่ือความปลอดภัยของผู้ป่วยในการทาผ่าตัด พยาบาลมีบทบาทสาคัญในการ เตรียมผู้ป่วย เพอื่ ให้ผูป้ ่วยมคี วามพร้อมมากท่ีสุดก่อนผ่าตัด โดยมรี ายละเอียดดังน้ี ค่มู ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตัด
บทที่ 3 50 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด 1. เจาะเลือด เอ็กซเรย์ปอด และ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วย ก่อนผ่าตัด เนื่องจากผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมักมีความผิดปกติของร่างกายจากภาวะของโรค อาจมีภาวะ โลหิตจางเรื้อรัง การแข็งตัวของเลือด และการทางานของเกล็ดเลือดผิดปกติ79 อาจมีความไม่สมดุล เกลือแร่ และ กรด ด่างในเลือด (common electrolytes) โดยเฉพาะค่าโปตัสเซียมที่สูงมากกว่า 7 มิลลิอิควิวาเลนท์/ลิตร อาจทาให้เกิดภาวะสูบฉีดโลหิตของหัวใจห้องล่าง และบน ไม่ประสานกัน (heart block) หรอื เกิดภาวะหัวใจหยุดเตน้ (cardiac arrest) ไดข้ ณะผ่าตัด 2. วางแผนการฟอกเลือดก่อนเข้านอนโรงพยาบาล โดยแนะนาผู้ป่วยให้ฟอกเลือดก่อนผ่าตัด 1 วัน เพอ่ื ลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากภาวะไม่สมดุลของกรดดา่ ง รวมถงึ ภาวะนา้ เกิน ในร่างกาย 3. ซักประวัติ และให้คาแนะนาการงดยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาต้านเกล็ดเลือด ตามคาสัง่ การรักษาของแพทย์ เพ่ือป้องกันการเกิดภาวะเลือดออกมากภายหลังผ่าตัด รวมถึงแนะนา การงดรับประทานอาหารเสริมอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เน่ืองจากอาหารเสริมบางประเภทมี ฤทธ์ิต้านการแข็งตัวของเลือด อาจมีผลทาให้เกิดภาวะเลือดออกมากภายหลังผ่าตัดได้ เช่น กระเทียม โสม นา้ มันตับปลา ใบแปะก๊วย และ วติ ามนิ อี80 เปน็ ตน้ 4. ควบคมุ ภาวะโรคประจาตวั เชน่ เบาหวาน ความดันโลหิตสงู โรคหัวใจ โดยการรับประทานยา ให้สมา่ เสมอในระหว่างรอจนถึงวันผ่าตัด เพ่ือป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจาตัว ซึ่งอาจส่งผล ใหเ้ กิดการ งด เล่อื นผา่ ตดั 5. ผู้ป่วยท่ีนัดผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก แนะนา งดน้าและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันการสาลักอาหารหรือน้าย่อยลงปอดขณะผ่าตัด13,78,81 แต่ควรรับประทานยาควบคุม โรคประจาตัวเช้าวันผ่าตัด (ยกเว้นยาโรคเบาหวาน เนื่องจากผู้ป่วยงดน้า และอาหาร) รับประทานยา ร่วมกับน้าไม่เกิน 30 มล. โดยเฉพาะยาควบคุมความดันโลหิต เพื่อช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต ไมใ่ หส้ งู หรอื ตา่ เกินไป ขณะท่ีใหย้ าระงบั ความรูส้ ึก ความดันโลหิตที่สูงขึ้น หรือตกลงอย่างรุนแรงอาจ สง่ ผลให้เกิดภาวะแทรกซอ้ นต่อหัวใจ หรือ ตอ่ โรคหลอดเลอื ดสมอง (stroke) ตามมา13 6. การเตรียมภาวะด้านจิตใจเป็นส่ิงหนึ่งที่ควรคานึงถึง20,24 เนื่องจากผู้ป่วยมักมีความวิตกกังวล สูงจากหลายสาเหตุ เช่น จากความเจ็บป่วยเร้ือรังท่ีเป็นอยู่ ความกลัว และกังวลในการทาผ่าตัด ภาพลักษณ์ที่เปล่ียนไปภายหลังผ่าตัด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะกับภาวะสุขภาพ รวมถึง ปัญหาคา่ ใช้จ่ายในการรกั ษาพยาบาล พยาบาลผูด้ แู ลผูป้ ว่ ยควรประเมินสภาพจิตใจ สร้างสัมพันธภาพ เมอื่ พบผปู้ ว่ ยในคร้ังแรกเพอื่ ให้ผู้ป่วยคลายความวิตกกังวล ให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆได้แก่ เรื่องโรค และ คมู่ อื การพยาบาลผูป้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตดั
บทท่ี 3 51 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตดั การปฏิบัติตัว การวางแผนการรักษา การดูแลตนเองหลังผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อนภายหลังผ่าตัดท่ีควร รีบมาพบแพทย์ รวมถึงประเมินเศรษฐสถานะ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถามข้อสงสัย และให้กาลังใจ ผ้ปู ่วยในการปรับตวั อยู่กบั สภาวะโรค การวินิจฉัยและวางแผนการพยาบาลระยะเตรียมก่อนผ่าตัด รวบรวมข้อมูลท้ังหมดท่ีได้ จากการประเมินผู้ป่วย โดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ผลตรวจทางห้องปฎิบัติการ รวมถึงการ พูดคุยกับผู้ป่วย เพ่ือประเมินหาความต้องการทางการพยาบาล ในระยะก่อนผ่าตัด จากการประเมิน ความรู้ และ สงั เกตพฤติกรรมของผปู้ ่วยขณะให้การพยาบาล พบข้อวินิจฉยั 1 ขอ้ ดงั น้ี ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 1 ผูป้ ่วยมคี วามวิตกกงั วลเกย่ี วกบั การผา่ ตัด เน่อื งจาก ขาดความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั โรคและการปฎบิ ตั ิตน กอ่ น และหลงั ผา่ ตดั มีการเปลยี่ นแปลงทางด้านภาวะสุขภาพ บทบาทหนา้ ที่ ฐานะเศรษฐกจิ และ สังคม ขอ้ มลู สนับสนนุ 1. ผู้ป่วยมีสีหน้าแสดงความวิตกกังวล พร้อมบอกว่า “กลัวการผ่าตัด” สอบถามถึงอาการของ โรค การผา่ ตดั และค่าใช้จ่ายในการรักษา 2. ผปู้ ่วยสอบถามเกีย่ วกบั วธิ ีการผา่ ตดั และการดูแลตนเองหลังผา่ ตัด วา่ ต้องปฏิบัติตนอยา่ งไร เป้าหมายการพยาบาล 1. ผ้ปู ว่ ยคลายความวติ กกงั วลลง 2. ผู้ป่วยมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับโรคและการปฎิบตั ติ น ก่อนและหลังผา่ ตดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ผปู้ ว่ ยมสี หี น้าสดช่นื ข้นึ บอกกงั วลลดลง 2. ผู้ป่วยเขา้ ใจถึงแผนการรกั ษาของแพทย์ สามารถอธบิ ายถงึ โรคและการปฎิบัติตนก่อนและหลัง ผ่าตัดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ยอมรบั การผ่าตัดและให้ความร่วมมอื ในแผนการรักษา 3. ผู้ป่วยเข้าใจและสามารถอธิบายไดถ้ งึ สิทธพิ ืน้ ฐานของตนเองในการรกั ษา กิจกรรมการพยาบาล 1. สรา้ งสัมพนั ธภาพทด่ี ีกับผปู้ ่วย โดยการใชค้ าพดู สุภาพ อ่อนโยน เริ่มต้นจากการแนะนาตนเอง เพอ่ื ให้ผปู้ ว่ ยเกิดความไว้วางใจ รวมทัง้ เปิดโอกาสใหร้ ะบายความรสู้ ึกในสงิ่ ท่ีกลวั และวิตกกงั วล 2. ประเมินระดับความวิตกกังวลในผู้ป่วย และญาติโดยการสอบถามด้วยคาถามปลายเปิด และ สงั เกตพฤตกิ รรมผู้ปว่ ยขณะตอบคาถาม เช่น รูส้ ึกอย่างไรกบั การผา่ ตัด สังเกตอาการแสดงของ คูม่ อื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด
บทท่ี 3 52 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารับการผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตดั การปฏิเสธ อาการซึมเศร้าหรือรับฟังด้วยความเข้าใจ พร้อมท้ังพูดคุย ปลอบโยน ให้กาลังใจ เพื่อให้ ผู้ป่วยคลายความกังวลใจ และยอมรับ พร้อมให้ความร่วมมือในการวางแผนการรักษา ประเมิน ความสามารถในการตัดสินใจ เช่นการแนะนาให้ผู้ป่วยเลือกชนิดของสายสวนระยะยาวที่ใช้ในการ ทาผ่าตัด ประเมินการเปล่ียนแปลงแบบแผนชีวิตเช่น สอบถามถึงกิจวัตรประจาวันเปรียบเทียบกับ ก่อนป่วย การทางาน การปรับอารมณ์ กิจกรรมที่ต้องเปลี่ยนแปลง การรับรู้ของผู้ป่วยและครอบครัว ในเรอื่ งการเปล่ียนแปลง และความต้องการการช่วยเหลอื 3. ประเมินความรู้ ความเข้าใจของผู้ป่วย เกี่ยวกับโรคและสาเหตุการเจ็บป่วย รวมถึงความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั การผา่ ตัด การปฎบิ ัติตนก่อนและหลังผ่าตัด 4. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการรักษาของแพทย์ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติมีส่วนร่วมในการ วางแผนการรักษา โดยเป็นส่ือกลางระหว่างทีมแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และผู้ป่วย ในการประสานงาน เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการผ่าตัด 5. อธิบายให้ทราบถึงขั้นตอนต่างๆในการเตรียมผู้ป่วย รวมถึงการให้คาแนะนาในการเตรียมตัว กอ่ นผ่าตัด เพอื่ ผ้ปู ว่ ยเข้าใจ รับทราบและพร้อมใหค้ วามร่วมมือ ดังนี้ โรค แผนการผ่าตัด การให้คาแนะนา ในการเลือกสายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ภาวะแทรกซอ้ น และการมาตรวจตามนดั การตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ ในการประเมินร่างกายก่อนวางแผนผ่าตัด และในวัน เข้านอนโรงพยาบาล การสง่ ตรวจต่อกับแพทย์เฉพาะทาง หรือวิสัญญีแพทย์ก่อนผ่าตัด เตรียมความพร้อมเพ่ือ ปอ้ งกนั การเกดิ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคประจาตวั ของผู้ป่วย การติดต่อหน่วยจองเตียง อัตราค่าบริการผ่าตัด อัตราห้องพัก และ แนวทางการติดต่อ เพอ่ื เข้าพกั ในโรงพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาล ขั้นตอนการติดต่อสิทธิต้นสังกัดประเภทต่างๆ และแนวทาง ในการรับบรกิ ารตามสิทธิ การหยุดยาต้านเกล็ดเลือด และยาต้านการแข็งตัวของเลือด ตามคาส่ังแพทย์ งดอาหาร เสรมิ เพือ่ ปอ้ งกนั การเกิดภาวะเลอื ดออกมากภายหลงั ผ่าตดั ฟอกเลือดล่วงหน้า 1 วัน ก่อนผ่าตัด เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะไม่สมดุลของกรด ดา่ งในรา่ งกาย รวมถึงภาวะนา้ เกิน คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตดั
บทที่ 3 53 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด แนะนาการควบคมุ โรคประจาตัวขณะรอผา่ ตดั โดยรับประทานยาทีใ่ ช้รักษาโรคประจาตัว อย่างสม่าเสมอ เช่น ยาเบาหวาน ยาควบคุมความดันโลหิต เป็นต้น เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนท่ีเป็น ผลกระทบจากโรคประจาตัวของผู้ป่วย ในผู้ป่วยท่ีมารับการผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก ควรงดน้าและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เพ่ือป้องกันการสาลักอาหารหรือน้าย่อยลงปอดขณะผ่าตัด แต่ยังคงรับประทานยาโรค ประจาตวั เชา้ วันผ่าตัดร่วมกบั น้าไม่เกิน 30 มล. (ยกเวน้ ยาโรคเบาหวาน) พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยควบคุมปริมาณโปรตีนใน อาหารและไม่รบั ประทานเค็ม เพื่อหลกี เลีย่ งไมใ่ หไ้ ตทางานหนกั ยิง่ ขน้ึ 6. ประเมินความรู้ความเข้าใจ จากคาแนะนาที่กล่าวมา โดยการซักถามผู้ป่วย เปิดโอกาสให้ ผปู้ ว่ ยและญาติซักถามข้อสงสยั เพิ่มเติม เพอื่ ใหผ้ ู้ปว่ ยเกดิ ความเข้าใจและมัน่ ใจยง่ิ ข้นึ 7. ประเมินความสูญเสียบทบาทในสังคมของผู้ป่วยด้วยคาถามปลายเปิด ถึงการยอมรับ ความเจ็บป่วยและปรับตัวตามแผนการรักษา ผลกระทบต่อผู้ป่วย การพ่ึงพาบุคลอื่น และส่ิงที่ทาให้ ผปู้ ่วยรูส้ ึกวา่ ตนเองมคี ณุ คา่ เพอื่ ประเมนิ ความสญู เสียบทบาททางสงั คมของผปู้ ว่ ย 8. ส่งเสรมิ ความสัมพนั ธ์ระหว่างผู้ป่วยและญาติ ปรบั เปล่ยี นทศั นคติท่ีไม่ถูกต้องต่อความเจ็บป่วย และการรักษาพยาบาล ให้กาลังใจ และรับฟังผู้ป่วยเสมอ ส่งเสริมให้ครอบครัว มีส่วนร่วมในการดูแล ผปู้ ่วย กระตุ้นและให้กาลงั ใจผ้ปู ่วยในการดูแลตนเอง 9. ประเมินปัจจัยที่มีต่อการปฏิบัติตามแผนการรักษา เช่น ความรู้ความเข้าใจในแผนการรักษา ความสามารถในการปฏิบัติตามแผนการรักษา ปัญหาด้านเศรษฐสถานะ และอุปสรรคในการปฏิบัติ ตามแผนการรกั ษา เพอื่ หาแนวทางในการให้การชว่ ยเหลอื ผู้ปว่ ยตามความเหมาะสม 10. แนะนาแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถ ปฏิบัติตนตามแผนการรักษา เช่น ความรู้เกี่ยวกับโรค แนวทางการรักษา การเตรียมตัวก่อนและหลังผ่าตัด การป้องกันและสังเกต ภาวะแทรกซ้อนภายหลังผ่าตัด ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปหลังผ่าตัด การเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิพ้ืนฐาน ของผู้ป่วย รวมถงึ แนวทางในการส่งตอ่ ผ้ปู ่วยไปยงั เครอื ขา่ ยทส่ี นบั สนุนค่ารักษาพยาบาล 11. แนะนาผู้ป่วยให้รู้จักกับผู้ป่วยกลุ่มเดียวกัน ท่ีสามารถปรับตัวได้ดี มีพฤติกรรมสุขภาพดี เพื่อ ผปู้ ว่ ยจะได้เรยี นรูว้ ธิ ีการปฏบิ ตั ิตน การร่วมเผชิญปัญหา หาวธิ กี ารแก้ปัญหา การสนับสนุนทางอารมณ์ เพอ่ื ท่จี ะทาให้ผู้ป่วยมีกาลังใจในการปฏบิ ตั ติ ามแผนการรักษา คู่มือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตัด
บทที่ 3 54 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารับการผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลงั ผา่ ตดั 12. ช้ีให้ผู้ป่วยเห็นถึงผลดีของการปฏิบัติตนตามแผนการรักษา ได้แก่ ค่าผลการตรวจทาง ห้องปฏิบัติการที่ดีข้ึน ระดับของเสียลดลง ไม่มีอาการบวม อาการเหน่ือยล้าลดลง เพ่ือให้ผู้ป่วยมี กาลังใจในการปฏิบตั ติ ามแผนการรักษา การประเมนิ ผลการพยาบาล ประเมินความรู้ ความกลัว และความวิตกกังวลจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย โดยการ สอบถามผปู้ ว่ ยด้วยคาถามปลายเปิด และ ทบทวนแนวทางการปฎบิ ตั ิตวั เม่อื ผปู้ ่วยกลับบา้ น ในระยะเตรียมก่อนผ่าตัด การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฎิบัติการ จะสามารถ ประเมินความพร้อมของผู้ป่วย และวางแผนการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจเกิดขึ้น การให้คาปรึกษา การประเมินด้านจิตใจ เศรษฐสถานะ การให้คาแนะนาในการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ภาพลกั ษณ์ทเ่ี ปล่ยี นแปลงหลังผ่าตดั การดูแลตนเองรวมถึงการป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ นหลังผ่าตัดทาให้ ผู้ป่วยมคี วามรู้ความเข้าใจ ตระหนักต่อปัญหา และมีพฤติกรรมในการดูแลตนเองที่เหมาะสมยิ่งข้ึน2,5 การให้การพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยดังกล่าวขั้นต้น จะสามารถลดความเครียด ความวิตกกังวลชอง ผ้ปู ่วยเกีย่ วกับการผ่าตดั รวมถงึ ลดอัตราการงดเลือ่ นผา่ ตัดจากการเตรยี มตัวไมพ่ ร้อมได้ การพยาบาลผู้ปว่ ยระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด การประเมินผู้ปว่ ยระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั ประเมินสภาพผปู้ ่วยในวนั มาตรวจตดิ ตามผลภายหลังผ่าตัด จากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย โดยการสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย ประเมินการปฎิบัติตัวหลังผ่าตัด แผลผ่าตัด และการเกิด ภาวะแทรกซ้อนภายหลังผ่าตัด โดยสอบถามผู้ป่วยด้วยคาถามปลายเปิด เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถาม ข้อสงสัย และร่วมประเมินปัญหา แนะนาเพ่ิมเติมในส่ิงที่ผู้ป่วยพร่อง รวมท้ังสนับสนุนให้ญาติ มสี ว่ นรว่ มในการดูแลผูป้ ว่ ย ในกรณผี ู้ปว่ ยมาฉุกเฉิน เชน่ มภี าวะแทรกซ้อนหลงั ผ่าตดั เชน่ ไม่สามารถฟอกเลือดได้ มีหนอง หรอื ส่ิงผิดปกติบริเวณแผลผา่ ตัด มีการเลอื่ นหลุดของสายสวนระยะยาว เปน็ ตน้ พยาบาลควรประเมิน ผู้ป่วยอย่างทันท่วงที โดยการประเมินสัญญาณชีพและระดับความรุนแรงของอาการผิดปกติ ให้การ ดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นอย่างเหมาะสมตามอาการนั้นๆ (ดังกล่าวในบทที่ 2 หัวข้อ ภาวะแทรกซ้อนจาก การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด) และรายงานแพทย์เจ้าของไข้ หรือแพทย์ประจาวันที่ ออกตรวจรับทราบ คมู่ อื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด
บทท่ี 3 55 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด การประเมินบาดแผลหลงั ผ่าตัด ภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลือด การดูแลภายหลังผ่าตัดถือเป็นส่ิงสาคัญ ควรแนะนาผู้ป่วยให้สังเกต ติดตาม ประเมินบริเวณที่ผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดทุกคร้ัง ท่ีมีโอกาสเปิดผ้าปิดแผล เช่น ขณะฟอกเลือด การดูแลรักษาความสะอาดรอบๆบริเวณที่ทาผ่าตัด รวมถึงการดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคล จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และอัตราการติดเชื้อหลังผ่าตัดได้74 แพทยจ์ ะนดั ตรวจติดตามผล และตัดไหมภายหลงั ผา่ ตัด ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในการมาตรวจตามนัด มขี ัน้ ตอนในการประเมินบาดแผลหลงั ผา่ ตัดดังน้ี 1. เตรยี มอปุ กรณท์ ่ีใช้ในการตรวจประเมินบาดแผลหลังผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวฯ ดังนี้ 1.1. Set ทาแผล 1.2. 10% povido iodine solution 1.3. gauze ขนาด 4”X4” 1 หอ่ 1.4. Y gauze ขนาด 4”X4” 1 ห่อ 1.5. ถงุ มือ sterilize 1 คู่ 1.6. พลาสเตอร์ fixomull ภาพที่ 22 set ทาแผล คูม่ ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตดั
บทที่ 3 56 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัด และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตดั 2. สังเกตอาการผิดปกติ เช่น อาการ บวม แดง ร้อน สิ่งคัดหลั่งผิดปกติบริเวณแผลผ่าตัด รวมถึง ผ้าปิดแผล ก่อนเปิดผ้าปดิ แผลเพื่อทาการตรวจบาดแผล ภาพท่ี 23 บาดแผลภายหลงั ผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด 3. แกะวัสดุปิดแผลอย่างนุ่มนวล โดยใช้นิ้วโป้งกดบริเวณผิวหนังข้างพลาสเตอร์ปิดแผล พร้อม กับใช้มือข้างท่ีถนัดค่อยๆแกะพลาสเตอร์ออก โดยขยับมือข้างที่กดบริเวณผิวหนังไปตามแนวท่ีเปิด พลาสเตอร์เพื่อป้องกันการเล่ือนหลุดของสายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด และลดการดึงร้ังขณะ แกะพลาสเตอร์ ภาพที่ 24 เทคนคิ การแกะพลาสเตอร์ปดิ แผล คมู่ อื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตัด
บทที่ 3 57 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตัด 4. สังเกตบริเวณแผลผ่าตัด และรอบๆบริเวณสาย ตรวจสอบดูบริเวณไหมท่ีใช้เย็บตรึงสาย และ ตาแหน่งท่ีเย็บตรึงสายว่ายังมีการเย็บตรึงเหมาะสมหรือไม่ ใช้น้ิวมือกดรีดข้างสายบริเวณรูทางออก ของสาย เพ่ือตรวจความผิดปกติ เช่น ส่ิงคัดหลั่งผิดปกติ คลาได้ก้อนผิดปกติใต้ผิวหนัง หรืออาการ ผิดปกติอ่ืนๆเช่น มีอาการอักเสบ บวมแดง บริเวณผ่าตัด กรณีตรวจพบอาการผิดปกติแจ้งแพทย์ เจา้ ของไข้รับทราบ ภาพที่ 25 เทคนิคการกดรีดเพ่ือประเมินแผลผ่าตดั 5. เชด็ ทาความสะอาดโดยรอบ บริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณท่ีสายสวนระยะยาวโผล่พ้นผิวหนัง โดยใช้ 10% povido iodine solution ตดั ไหมทแ่ี ผลผ่าตดั บริเวณคอ 2-3 สัปดาห์หลงั ผ่าตดั ภาพท่ี 26 การเชด็ ทาความสะอาดแผลผ่าตดั คูม่ อื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลือด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด
บทที่ 3 58 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด 6. ปิดแผลโดยสอด Y gauze ลอดใต้สายจากด้านล่างขึ้นด้านบนเพ่ือรองบริเวณสายสวนระยะ ยาวไม่ให้กดทบั กบั ผวิ หนังผู้ป่วย และ ใช้ Y gauze อีกชิน้ ปิดจากด้านบนลงด้านลา่ ง ภาพท่ี 27 การรอง gauze ก่อนปิดแผล 7. หุ้มบริเวณสว่ นทจี่ ะใชต้ ่อเขา้ เครอ่ื งไตเทยี มเพื่อฟอกเลือด โดยใช้ gauze ขนาด 4”X 4” คลี่เป็นถุง สวมบริเวณส่วนทจี่ ะใชต้ ่อเขา้ เครื่อง และปิดพลาสเตอร์บริเวณรอบ gauze รอง gauze บริเวณใต้แนว ของสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด เพอ่ื ลดการกดทับระหว่างสายกับผิวหนงั และบริเวณหัวนมของผ้ปู ว่ ย ภาพที่ 28 การปิด gauze บรเิ วณแผลผ่าตัด คูม่ ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตัด
บทท่ี 3 59 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารับการผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลงั ผา่ ตัด 8. คลี่ gauze ขนาด 4”X4” และพับคร่ึงตามแนวยาวขนาดเท่าความยาวของสาย วางปิดทับไป ตามแนวสาย ให้ผู้ป่วยหันศีรษะไปด้านตรงข้ามกับบริเวณท่ีใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ก่อน ปิดทับด้วย พลาสเตอร์ปิดแผล (fixomull) หรือ พลาสเตอร์ใสกันน้า (transparent dressing) เพื่อ ป้องกันภาวะไม่สุขสบายของผู้ป่วยจากการดึงรั้งของพลาสเตอร์ ปิดพลาสเตอร์ยาวไปตามแนวสาย เพ่ือความสะดวกในการดูแลเมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน และลดความเส่ียงต่อการเล่ือนหลุดของสายจากการ เกี่ยวร้งั ภาพที่ 29 เทคนคิ การปดิ พลาสเตอรเ์ พ่ือเก็บสาย การวนิ จิ ฉยั และวางแผนการพยาบาลระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัดพบขอ้ วินิจฉัย 6 ข้อดังนี้ ข้อวินิจฉัยการพยาบาลท่ี 1 ผู้ป่วยมีโอกาสขาดความรู้ในการปฎิบัติตนภายหลังผ่าตัด เม่ือกลับไปอยู่ บา้ น ขอ้ มูลสนับสนุน 1. ผู้ป่วยซักถามขอ้ มูลเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิตนหลังผ่าตดั เมื่อกลบั ไปอยู่บ้าน 2. ผ้ปู ่วยถามซ้าบ่อยๆในเรื่องการดูแลตนเองเม่อื กลับไปอย่บู า้ น เป้าหมายการพยาบาล 1. ผปู้ ่วยมคี วามรู้ในการปฎบิ ตั ติ นภายหลงั ผา่ ตดั เมอื่ กลบั ไปอยู่บ้าน คมู่ ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตดั
บทท่ี 3 60 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ผู้ปว่ ยมคี วามร้คู วามเขา้ ใจในการปฎิบตั ติ นภายหลังผ่าตัด เมื่อกลับไปอยู่บ้าน สามารถอธิบาย ถึงการปฎิบัติตน และอาการผิดปกติท่ีต้องมาพบแพทย์ก่อนนัดภายหลังผ่าตัดเมื่อกลับไปอยู่บ้านได้ อยา่ งถูกต้อง กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ ความรู้ความเข้าใจ เร่ืองการปฎิบัติตน และอาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนนัด ภายหลงั ผ่าตดั เม่ือกลบั ไปอย่บู ้าน 2. แนะนาและเปิดโอกาสให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย และวางแผนการดูแลสุขภาพ รว่ มกัน 3. สอน และ ให้คาแนะนาผู้ป่วย และญาติ เกี่ยวกับการปฎิบัติตนภายหลังผ่าตัด เมื่อกลับไป อยบู่ ้านในเรื่องดงั ต่อไปน้ี 3.1. การดูแลแผลผ่าตัดและบริเวณใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด (ดังกล่าวในบทท่ี 2 หัวข้อการใหค้ าแนะนาผปู้ ว่ ยภายหลังการใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด) 1) ดูแลความสะอาดบริเวณท่ีใส่สายสวนให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ เปลี่ยนผ้าปิดแผล เมอื่ เปียกชน้ื หรือสกปรกทคี่ ลนิ ิกหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน 2) ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ล้างมือด้วยสบู่ทุกคร้ังท่ีจะมีการสัมผัสกับสาย หรือเปล่ียนผ้าปิดแผล เพ่ือลดอตั ราเสีย่ งตอ่ การติดเชื้อ 3) ระมัดระวังบริเวณท่ีใส่สายสวนไม่ให้เปียกชื้นในขณะอาบน้า งดลงแช่น้า หรือ เข้าเซาวน์ า่ เพราะความเปียกซ้นื บรเิ วณที่ใสส่ ายเป็นสาเหตุของการตดิ เชอื้ 4) ใช้ 2% chlorhexidine in alcohol 70%, chorhexidine aqueous หรือ 10% povido iodine ทาความสะอาดรอบๆบริเวณท่ีใส่สาย ก่อนปิดผ้าปิดแผลปิดแผลด้วย transparent dressing หรือ ผ้ากอ๊ ซและเทป เพ่ือลดอัตราเสี่ยงต่อการตดิ เชือ้ 5) ดูแลสายสวนไม่ให้ ดึงรั้ง หัก พับ งอเพราะอาจทาให้ประสิทธิภาพของการทางาน เสยี ไป 6) งดแกะเกาบริเวณรอบนอกแผลเพราะอาจเป็นสาเหตุของการตดิ เชอื้ ได้ คูม่ อื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด
บทที่ 3 61 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัด และ ระยะตรวจติดตามผลหลงั ผา่ ตัด 7) ผู้ป่วยท่ีใสส่ ายสวนบริเวณคอ หลกี เล่ยี งการใส่เสือ้ ชนดิ สวมศีรษะ แนะนาสวมเสื้อผ่าเปิดด้านหน้าและติดกระดุม หน้า เพือ่ ป้องกนั การเก่ยี วและดงึ รง้ั สาย 8) ในผู้ปว่ ยที่ใสส่ ายสวนบรเิ วณขาหนบี ระมดั ระวังเร่ืองความสะอาดเป็นพเิ ศษในชว่ งที่มกี ารขบั ถา่ ยปสั สาวะ และ อุจจาระ เพ่ือปอ้ งกนั การติดเช้อื จากการสมั ผัสสิ่งสกปรก ควรสวมกางเกงขาหลวมใส่สบาย หลีกเล่ียงการน่ังงอขาหรือพับขา เพื่อลดความ เสยี่ งจากภาวะสายสวนอุดตนั และภาวะหลอดเลอื ดดาอุดตันในชัน้ ลกึ แนะนาผู้ป่วยกระดกข้อเท้าเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการไหลเวียนเลือดจาก ส่วนปลาย เนอื่ งจากมีโอกาสเกดิ ลิ่มเลอื ดอุดตนั ในหลอดเลอื ดดาสงู ควรเ้้าระวังและสังเกตอาการของ ขาด้านท่ใี สส่ ายสวน ถ้าพบอาการขาบวม ปวด คลาดรู อ้ น หรือคลาไดห้ ลอดเลือดเป็นลาแข็ง เน่ืองจาก มกี ารแข็งตวั ของเลือดในหลอดเลอื ดดา ควรรีบมาพบแพทย์ทนั ที 9) หากพบการหลุดของสายสวนในตาแหน่งเย็บตรึง ให้ใชพ้ ลาสเตอร์ยึดสาย และรีบไป พบแพทยท์ ันทเี พ่อื ทาการเยบ็ ตรึงสายใหม่ 10) แพทยจ์ ะนัดตัดไหมบรเิ วณแผลผา่ ตัด ภายหลังผา่ ตดั ประมาณ 2 สัปดาห์ 3.2. แนะนาให้มาพบแพทย์ตามวันนัดเพื่อติดตามผลการรักษา และมาพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อ มีอาการผดิ ปกติ 4. ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจวัตรประจาวัน ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจาวันได้ ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมท่ีออกแรงมากในระยะหลังผ่าตัดใหม่ๆ เพ่ือป้องกันการเล่ือนหลุด ของสาย และการฉีกขาดของบาดแผลบรเิ วณท่ีทาผ่าตัด 5. ประเมินความรู้ความเข้าใจ จากคาแนะนาท่ีกล่าวมา โดยการซักถามผู้ป่วย เปิดโอกาส ให้ผปู้ ่วย และญาติซกั ถามข้อสงสยั เพิ่มเติมก่อนจาหน่ายผู้ป่วยกลบั บ้าน คู่มือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทที่ 3 62 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารับการผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 2 ผ้ปู ่วยเส่ยี งตอ่ การตดิ เช้ือบริเวณทใ่ี สส่ ายสวนระยะยาวหลังผ่าตดั เมอ่ื กลบั ไปอยู่บ้าน ข้อมูลสนับสนนุ 1. เป็นผ้ปู ว่ ยไตวายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยบกพร่องจากสภาวะของโรค 2. ผู้ป่วยซักถามข้อมลู เกยี่ วกบั การปฏบิ ัติตนเม่ืออยู่บ้านเนื่องจากขาดความรู้ในการดูแลสายสวน เป้าหมายการพยาบาล 1. ผปู้ ่วยไม่เกดิ การติดเชอ้ื บรเิ วณท่ีใสส่ ายสวนระยะยาว เกณฑก์ ารประเมนิ 1. บริเวณสายสวนระยะยาวไม่มีอาการแสดงของการตดิ เช้อื ได้แก่อาการปวด บวมแดง ร้อน มหี นองไหลจากบรเิ วณ รูเปดิ ของสายสวนระยะยาวฯ (exit site) 2. อณุ หภูมิร่างกายไมส่ ูงกว่า 37.5 องศาเซลเซยี ส กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ อณุ หภมู ิรา่ งกาย หากมอี ณุ หภมู สิ งู กวา่ 37.5 oC ควรซักประวัติ ประเมนิ รา่ งกาย และ รายงานแพทย์เจา้ ของไขท้ ราบ 2. ประเมินความผิดปกติทแี่ สดงถงึ อาการติดเช้อื บริเวณรเู ปิดของสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอก เลือด ได้แก่ อาการปวด บวมแดง ร้อน มีหนองไหลจากบริเวณรูเปดิ ของสายสวนระยะยาว เพือ่ ฟอกเลือด 3. ให้คาแนะนา ทบทวนการดแู ลแผลผ่าตัดและบรเิ วณใส่สายสวนเพือ่ ป้องกนั การติดเชอ้ื 1) ดูแลความสะอาดบรเิ วณทใี่ ส่สายสวนให้แหง้ และสะอาดอยู่เสมอ เปลีย่ นผ้าปดิ แผลเมื่อ เปยี กชืน้ หรอื สกปรก 2) ดแู ลรกั ษาความสะอาดของรา่ งกาย ลา้ งมือดว้ ยสบทู่ ุกครง้ั ที่จะมีการสัมผัสกับสายหรอื เปลย่ี นผ้าปดิ แผล เพือ่ ลดอตั ราเสีย่ งตอ่ การติดเช้ือ 3) ระมดั ระวงั บรเิ วณทใ่ี ส่สายสวนไมใ่ ห้เปยี กช้นื ในขณะอาบน้า งดลงแชน่ า้ หรอื เข้าเซาว์น่า เพราะความเปยี กซืน้ บรเิ วณที่ใส่สายเป็นสาเหตขุ องการตดิ เช้ือ ค่มู ือการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด
บทที่ 3 63 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารับการผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด 4) ใช้ 2% chlorhexidine in alcohol 70%, chorhexidine aqueous หรือ 10% povido iodine ทาความสะอาดรอบๆบริเวณที่ใส่สายก่อนปิดผ้าปิดแผลปิดแผลด้วย transparent dressing หรือ ผ้ากอ๊ ซและเทป เพอ่ื ลดอตั ราเสี่ยงตอ่ การติดเชอื้ 5) งดแกะเกาบริเวณรอบนอกแผลเพราะอาจเป็นสาเหตขุ องการติดเช้อื ได้ 6) ในผู้ป่วยท่ีใส่สายสวนบริเวณขาหนีบ ระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษในช่วงที่มี การขบั ถา่ ยปัสสาวะ และ อจุ จาระ เพือ่ ป้องกนั การติดเช้ือจากการสมั ผัสสงิ่ สกปรก 4. แนะนาให้ผู้ป่วยสังเกตอาการผิดปกติบริเวณที่ใส่สายสวนระยะยาวฯ และบริเวณแผลผ่าตัด อยา่ งสมา่ เสมอ ควรรบี มาพบแพทยท์ ันที เม่ือมอี าการแสดงของอาการติดเช้ือ ได้แก่ มีไข้สูง หนาวส่ัน หรอื มีอาการ บวม แดง ร้อน บริเวณผา่ ตดั 5. อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจและเห็นความสาคัญของการใช้หลักวิธีการปฏิบัติเพื่อลด ความเส่ียงตอ่ การติดเช้ือ (aseptic technique) ในการดแู ลสายสวนระยะยาวเพ่ือลดอัตราเส่ียงในการ ติดเชือ้ ภายหลังการใส่สายสวน 6. ให้คาแนะนาส่งเสริมความรู้ด้านโภชนาการ แนะนาผู้ป่วยในการรับประทานอาหารท่ี เหมาะสมตามสภาวะของโรค และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อส่งเสริมให้ภาวะสุขภาพ แขง็ แรง ปอ้ งกันการติดเช้ือ 7. ประเมินความรู้ความเข้าใจ ของผู้ป่วยและญาติจากคาแนะนาท่กี ล่าวมา โดยการซักถามผู้ป่วย เปดิ โอกาสให้ผปู้ ่วย และญาตซิ ักถามข้อสงสัยเพ่ิมเติม 8. แจกคู่มือในการปฏิบัติตัวแก่ผู้ป่วยและญาติก่อนจาหน่ายผู้ป่วยกลับบ้าน เนื่องจากผู้ป่วย บางส่วนท่ีเป็นผู้สูงอายุอาจลืมคาแนะนาต่างๆได้ การมีคู่มือจะช่วยให้ผู้ป่วยและญาติมีความเข้าใจ ตรงกันและสามารถชว่ ยเหลือผ้ปู ่วยไดถ้ กู ต้อง 9. แนะนาการมาตรวจฉุกเฉิน กรณีผู้ป่วยมีอาการผิดปกติสามารถติดต่อได้ที่ ห้องตรวจฉุกเฉิน ตกึ ผปู้ ่วยนอกชัน้ 1 คู่มือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทท่ี 3 64 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 3 ผปู้ ่วยอาจมีความรู้สกึ ไร้พลังอานาจ สูญเสียภาพลกั ษณ์ และคณุ ค่า ในตนเอง ข้อมูลสนบั สนุน 1. ผู้ปว่ ยวางแผนผ่าตดั เปลี่ยนจากการใสส่ ายสวนช่วั คราวเปน็ สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด 2. ผปู้ ว่ ยสหี นา้ ไมส่ ดชน่ื บน่ ว่ารูส้ กึ ทอ้ แท้เปน็ ภาระของคนอืน่ ไมอ่ ยากผา่ ตัดซา้ ๆ 3. ใชผ้ า้ พันคอปกปิดบริเวณที่ใส่สายสวนชวั่ คราว และขยับผา้ พนั คอบ่อยครัง้ เป้าหมายการพยาบาล 1. ผู้ป่วยสามารถตดั สินใจในการวางแผนการดแู ลตนเองได้ ป้องกนั การสูญเสียภาพลักษณ์ และ คณุ คา่ ในตนเอง เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผปู้ ่วยเข้าใจถึงพยาธิสภาพของโรค ยอมรบั การเปล่ยี นแปลงของร่างกายและให้ความร่วมมอื ในการรักษา 2. สามารถบอกถึงการดูแลตนเองภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาว มีส่วนร่วมในการ วางแผนการดูแลตนเอง กิจกรรมการพยาบาล 1. ให้คาปรึกษาเพ่ือให้มีความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรค พยาธิสภาพ การรักษา การผ่าตัด ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด และการดูแลตนเองภายหลังผ่าตัด รับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจ พร้อมกับกระตุน้ และสนับสนุนผ้ปู ว่ ยใหแ้ สดงออกถึงความรู้สึกเก่ียวกับตนเอง และความเจ็บป่วย โดย ใหผ้ ปู้ ่วยได้ระบายความรู้สกึ ความไมส่ บายใจ ข้อขอ้ งใจ 2. สังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงความรู้สึกไร้พลังอานาจ การสูญเสียภาพลักษณ์ ตนเองไร้ค่า เช่น การแยกตัว การไมร่ ว่ มมือในการรกั ษา และประเมนิ ว่าผูป้ ่วยเผชญิ ปญั หาเหมาะสมหรอื ไม่ 3. อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงการรักษาและขั้นตอนการปฏิบัติในการรักษา ให้ข้อมูลท่ีผู้ป่วย ต้องการ และเป็นประโยขนต์ อ่ ผ้ปู ่วย 4. กระตุ้นให้ผู้ป่วยบอกถึงการวางแผนในการดูแลตนเอง และวิธีการดูแล ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเหน็ เม่อื มีการเปลี่ยนแปลงการรักษา คมู่ ือการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตัด
บทที่ 3 65 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตดั 5. แนะนาให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแล ค้นหาบทบาท ความคาดหวังของผู้ป่วยต่อการรักษา และความเจ็บป่วย อธิบายให้ญาติและผู้ดูแลเข้าใจกระบวนการของการเปล่ียนแปลงทางจิตใจของ ผู้ป่วย เพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจและสามารถช่วยเหลอื ใหก้ าลังใจผ้ปู ว่ ย 6. แนะนาให้ผู้ป่วยได้รู้จักกับผู้ป่วยกลุ่มเดียวกัน ท่ีสามารถปรับตัวได้ดีมีพฤติกรรมสุขภาพดี มาเปน็ แบบอยา่ ง เพื่อให้ผปู้ ว่ ยยอมรับภาวะเจ็บปว่ ยเร้ือรังและการรกั ษา และมีกาลงั ใจ ยอมปฏิบัติตัว ตามแผนการรกั ษา 7. เปดิ โอกาสให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตั้งจุดมุ่งหมายในการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยมีความพึงพอใจ ท่ีจะปฏิบัติตามแผนการรักษา เม่ือปฏิบัติได้สาเร็จ บุคลากรและญาติควรให้กาลังใจ และสนับสนุน เพ่ือใหผ้ ู้ปว่ ยสามารถปรับตัวได้ต่อไป 8. ช้ีให้เห็นผลดีของการรักษาโดยการให้ทราบผลการวัดความดันโลหิต ผลการตรวจทาง หอ้ งปฏิบตั ิการ อาการตา่ งๆทด่ี ขี ึน้ เพอื่ เป็นกาลงั ใจใหผ้ ู้ป่วยเหน็ ถงึ ผลดีของการดูแลตนเอง ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 4 ผู้ป่วยมีโอกาสพลัดตกหกล้ม ขณะรอตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด เนือ่ งจากภาวะความดนั โลหติ ต่าภายหลังฟอกเลอื ด ข้อมูลสนบั สนุน 1. ผปู้ ว่ ยเปน็ โรคไตวายมีการเปล่ียนแปลงทางระบบประสาทตามพยาธิสภาพของโรค และ ไดร้ บั การฟอกเลือด 2. ผปู้ ่วยรสู้ ึกอ่อนเพลยี ภายหลงั ฟอกเลือด 3. ผปู้ ่วยสงู อายุ 4. ผปู้ ่วยความดนั โลหิตตา่ (systolic blood pressure) น้อยกว่า 100 มิลลิเมตรปรอท เปา้ หมายการพยาบาล 1. ผ้ปู ว่ ยปลอดภยั จากการพลัดตกหกล้ม เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ปว่ ยไม่เกิดอบุ ตั เิ หตุจากการพลัดตกหกลม้ คู่มอื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลือด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตดั
บทที่ 3 66 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตดั กจิ กรรมการพยาบาล 1. ตรวจประเมินสัญญาณชีพแรกรับ ร่วมกับประเมินลักษณะทางกายภาพภายนอก เช่น ลักษณะการทรงตัว ลักษณะการเดิน กรณีผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ควรเปลี่ยนเป็นรถ น่ังขณะผู้ป่วยรอตรวจ กรณีผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตต่า (systolic blood pressure) น้อยกว่า 100 มิลลเิ มตรปรอท ควรปฏิบัติดังนี้ 1) จดั ให้ผ้ปู ่วยนอนเปลนอน ยกปลายเทา้ สูงกวา่ ระดบั หัวใจ 2) ขณะรอตรวจ เ้้าตดิ ตามการเปลี่ยนแปลงของสญั ญาณชพี รว่ มกับประเมนิ อาการผู้ปว่ ย ทกุ 15-30 นาที ตามความเหมาะสม 3) รายงานแพทยเ์ จ้าของไข้รับทราบ 2. ซกั ประวัติการรบั ประทานยาลดความดนั โลหติ กอ่ นฟอกเลอื ด และรายงานแพทยท์ ราบ 3. ให้คาแนะนาผู้ป่วยและญาติให้สังเกตอาการผิดปกติขณะรอพบแพทย์ ถ้ามีอาการหน้ามืด ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจยี น ให้แจ้งพยาบาลผดู้ แู ลทนั ที 4. ดูแลใหค้ วามช่วยเหลือผูป้ ว่ ยในขณะตรวจอยา่ งใกล้ชดิ 5. ประเมินสัญญาณชีพและอาการผู้ป่วยอีกคร้ัง ก่อนจาหน่ายผู้ป่วยกลับบ้าน กรณีผู้ป่วยมีการ สง่ ตรวจตอ่ ทห่ี น่วยงานอื่น ประสานงาน เปล หรอื รถนง่ั เพือ่ สง่ ต่อผปู้ ่วย ตามความเหมาะสม ขอ้ วินจิ ฉยั การพยาบาลที่ 5 ผปู้ ่วยมีโอกาสเสีย่ งต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดดาอุดตันในชนั้ ลึก (deep vein thrombosis) จากการใสส่ ายสวนระยะยาวบริเวณขาหนบี ขอ้ มูลสนบั สนุน 1. ผปู้ ่วยใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดบริเวณขาหนีบ 2. ผู้ป่วยบอกว่าไม่ทราบถึง การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือดดาอุดตันชั้นลึก ภายหลัง ผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ดบริเวณขาหนีบ คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทที่ 3 67 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผา่ ตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตดั เปา้ หมายการพยาบาล 1. ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะหลอดเลือดดาอุดตันในช้ันลึก ในขาข้างที่ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือ ฟอกเลอื ด เกณฑ์การประเมิน 1. ผปู้ ว่ ยไมเ่ กิดภาวะหลอดเลอื ดดาอุดตนั ในชนั้ ลกึ ในขาขา้ งท่ีใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด 2. ผู้ป่วยสามารถอธิบายถึงการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดา ได้อย่างถูกตอ้ ง 3. ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของภาวะหลอดเลือดดาอุดตันในช้ันลึก ได้แก่ อาการขาบวม ปวด คลาได้หลอดเลือดเปน็ ลาแขง็ กิจกรรมการพยาบาล 1. แนะนาผู้ป่วยเก่ียวกับการปฏิบัติตัว เพอื่ ปอ้ งกันภาวะหลอดเลือดดาอุดตันในชน้ั ลึกดังนี้ 1) แนะนาผ้ปู ว่ ยกระดกขอ้ เทา้ เพื่อเพมิ่ ประสิทธภิ าพในการไหลเวียนเลือดจากสว่ นปลาย 2) เ้้าระวัง และ สังเกตขาด้านที่ใส่สายสวน ถ้าพบอาการขาบวมปวดคลาดูร้อน หรือคลา ได้หลอดเลือดเป็นลาแข็งเนื่องจากมีการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดา และ มีการเปลี่ยนสีที่ ผิวหนงั เร่ิมแรกจากสแี ดงเป็นสีคลา้ หากมอี าการดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทยท์ นั ที 2. แนะนาผ้ปู ว่ ยสวมกางเกงขาหลวมใส่สบาย หลกี เลีย่ งการนัง่ งอขาหรือพบั ขา เพ่อื ลดความ เสี่ยงจากภาวะสายสวนอดุ ตนั และภาวะหลอดเลือดดาอดุ ตันในชน้ั ลกึ 3. หลกี เลี่ยงการนอนตะแคงทบั ขาข้างทใ่ี สส่ ายสวนระยะยาว เพือ่ ป้องกันการกดเบียด ซง่ึ อาจ ทาให้สายอุดตันได้ 4. ทบทวนและให้ผู้ป่วยอธิบายให้ทราบถงึ ขัน้ ตอนการดูแลตนเอง เปดิ โอกาสให้ผปู้ ว่ ยสอบถาม ข้อข้องใจก่อนจาหน่ายผู้ป่วยกลบั บ้าน 5. แนะนาการมาตรวจฉกุ เฉนิ กรณีผปู้ ว่ ยมอี าการผดิ ปกติ (ดังทกี่ ล่าวในบทที่ 2 หวั ขอ้ อาการ ผดิ ปกตทิ คี่ วรมาพบแพทย์ก่อนนัด) สามารถติดต่อไดท้ ต่ี ่อไดท้ ห่ี อ้ งตรวจฉุกเฉิน ตึกผู้ปว่ ยนอกชัน้ 1 คมู่ อื การพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทท่ี 3 68 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั ข้อวินจิ ฉยั การพยาบาลท่ี 6 ผปู้ ่วยมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซอ้ นเนื่องจากขาดความรู้ในการดูแลตนเอง เมอ่ื เป็นโรคไตเร้อื รงั ข้อมูลสนับสนุน 1. ผู้ป่วยไม่สามารถบอกได้ถึง การดูแลตนเองที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน เมื่อเป็นโรคไตได้ เป้าหมายการพยาบาล 1. ผูป้ ว่ ยไมเ่ กิดภาวะแทรกซ้อน มคี วามรแู้ ละสามารถปฏบิ ตั ิไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ป่วยสามารถอธิบายถึงแนวทางการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมินความรู้ความเข้าใจ ของผู้ป่วยเก่ียวกับโรค แผนการรักษา การปฏิบัติตัว จากการ สอบถาม และสงั เกตพฤติกรรม เพื่อให้การช่วยเหลอื และให้คาแนะนาทเี่ หมาะสมกบั ผปู้ ่วย 2. อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเก่ียวกับโรคและการรักษาท่ีได้รับ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆท่ีอาจเกิดขึ้น วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อลดหรือป้องกันภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งอาการแสดงท่ีควรสังเกต และรายงาน ใหท้ ราบ 3. แนะนาการบรโิ ภคอาหารและนา้ โดยชีแ้ จงใหผ้ ู้ป่วยเข้าใจถงึ ความจาเปน็ ของการจากัดอาหาร และนา้ ตามแผนการรกั ษา ตามคาแนะนาดังนี้24 (ภาคผนวก-เอกสาร ข) 1) ในรายที่จากัดน้า สอนการตวงและบันทึกปริมาณน้าท่ีได้รับและขับออกอย่างละเอียด และถกู ต้องโดยใชภ้ า=นะที่มีปรมิ าตรกาหนดปริมาณน้า เช่นกระบอกน้าท่ีมีระดับในการแสดงปริมาณ นา้ เพอ่ื ให้ได้คา่ ที่แนน่ อนในการตวงวัด 2) ในรายท่ีจากัดโปรตีน แนะนาการรับประทานโปรตีนชนิดท่ีให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ เน้ือสัตว์ ไข่ ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจาเป็น โดยให้รับประทานเน้ือปลาเป็นหลัก งดรับประทานไข่แดง เนื่องจากมีฟอสฟอรัส และคอเรสเตอรอลมาก งดนม และ ผลิตภัณฑ์จากนม เน่อื งจากมีฟอสฟอรสั สงู งดโปรตนี จากพืช เชน่ ถวั่ เมล็ดแหง้ และผลิตภัณฑ์จากถั่ว เนื่องจากโปรตีนสูง แตค่ ุณภาพตา่ และมโี ปแตสเซียมสงู คูม่ อื การพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตดั
บทท่ี 3 69 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่มี ารับการผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตดั และ ระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั 3) จากัดเกลือ โดยจากัดเกลือโซเดียมในอาหาร 1-2 กรัมต่อวัน หรือเท่ากับน้าปลา 2.5-5 ช้อนชาต่อวัน หรือเกลือแกง 1-2 ช้อนชาต่อวัน การรับประทานเค็มจะเกิดภาวะแทรกซ้อนของความ ดนั โลหิตสูง นอกจากนัน้ ยงั ทาให้กระหายนา้ จึงต้องดื่มน้าบ่อย เส่ียงต่อการเกิดน้าท่วมปอดเฉียบพลัน งดเติมเกลอื หรอื น้าปลาเพิ่มในอาหาร และรับประทานอาหารสดแทนอาหารที่ผ่านกระบวนการถนอม อาหาร 4) งดผกั และผลไมท้ ม่ี ีโปแตสเซียมสงู ผักทีค่ วรหลีกเลี่ยง ได้แก่ มะเขือเทศ บร๊อคโคล่ี แครอท ฟักทอง มันเทศ มัน้รั่ง ถั่ว ตา่ งๆ ผลไมท้ ค่ี วรหลกี เลีย่ ง ไดแ้ ก่ กลว้ ย สม้ ้รงั่ ลกู พรุน ทเุ รยี น มะขาม 4. แนะนาให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยดูแลความสะอาดร่างกาย ออกกาลังกาย สม่าเสมอ พกั ผอ่ นให้เพียงพอ ทาใจใหส้ บาย หลกี เล่ียงความเครยี ด 5. แนะนาการรับประทานยาตามแผนการรักษาอย่างต่อเน่ือง รวมท้ังอธิบายถึงความสาคัญของ การ มาตรวจตามนดั เพ่อื ติดตามผลการรกั ษา 6. ประเมินผลความรู้และการปฏิบัติตัว กระตุ้นให้กาลังใจเพ่ือให้สามารถจัดการดูแลตนเอง เพ่ือให้ผ้ปู ่วยดแู ลตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม การประเมินผลการพยาบาล ประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้ป่วย ในการดูแลตนเองภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะ ยาวเพ่ือฟอกเลือด โดยการสอบถามผู้ป่วยด้วยคาถามปลายเปิด ให้ผู้ป่วยทบทวนแนวทางการปฎิบัติ ตัวเม่ือกลับไปบ้าน ประเมินความกลัว และความวิตกกังวลจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย สอบถามถึงอาการผิดปกตทิ ีค่ วรมาพบแพทย์ก่อนนดั ในระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด (follow up – post operative care) การประเมินความ เส่ียงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด รวมถึงการปฎิบัติพยาบาลในการดูแลสายสวนระยะยาวเพื่อ ฟอกเลอื ดมคี วามจาเป็นย่ิง เน่ืองจากปัจจุบันพบว่าอัตราการนอนโรงพยาบาลของผู้ป่วยท่ีฟอกเลือด ด้วยเครื่องไตเทียมมีปัญหาเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนของ vascular access ถึงร้อยละ 15-2065 พยาบาลต้องตระหนักถึงความสาคัญในการปฎิบัติพยาบาลในบริเวณที่ผู้ป่วยใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือ ฟอกเลือด ประเมินความผิดปกติจากการสังเกต ตรวจร่างกาย และประสานงานกับทีมแพทย์ คมู่ อื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 3 70 การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่ีมารับการผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัด และ ระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด อย่างเร่งด่วนเมื่อเริ่มพบปัญหา เช่น มีอาการบวมแดงหรือมีสิ่งคัดหลั่งผิดปกติออกจากบริเวณที่ ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ประเมินการเกิดภาวะตีบตันจากการสอบถามข้อมูล และประเมิน การใช้งานหลงั ผา่ ตดั ก่อนทีจ่ ะเกดิ การอุดตันของสายสวน โดยสรุปการใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย มีความสาคัญท่ีจะทาให้การดูแล ผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ และประสบความสาเร็จย่ิงขึ้น การสนับสนุนให้ผู้ป่วยและญาติดูแลสายสวน ระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล จากการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด และ สามารถลดค่าใชจ้ ่ายโดยรวมในระบบสุขภาพ คมู่ ือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตัด
บทที่ 4 71 กรณีศึกษา บทท่ี 4 กรณศี กึ ษา 1. ขอ้ มูลทั่วไป ผปู้ ่วยชายไทย อายุ 55 ปี สถานภาพ สมรส เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนา พุทธ ภูมิลาเนา กรุงเทพมหานคร การศึกษา จบระดบั ปริญญาตรี ปัจจบุ ันไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้ครอบครัว 20,000 - 30,000 บาท ต่อเดือน วันนี้ผู้ป่วยมีนัดทากายภาพบาบัด ลูกชายจึงมาปรึกษาพยาบาลท่ีให้คาแนะนาก่อนผ่าตัดเร่ือง การฟอกเลือด เนื่องจากผู้ป่วยมีนัดฟอกเลือด วันท่ี 9 สิงหาคม 2557 แต่ไม่สามารถฟอกเลือดผ่าน สายสวนระยะยาวได้ พยาบาลจงึ แนะนาให้ญาตพิ าผู้ปว่ ยมาพบแพทย์เพือ่ ตรวจรกั ษา 2. ประวัตกิ ารเจบ็ ป่วยปัจจุบนั 8 ปี+ ได้รับการวนิ ิจฉัยวา่ เป็น CKD รักษาทโี่ รงพยาบาลศริ ิราช ผู้ป่วยมารับการตรวจติดตามผล ไม่สมา่ เสมอ 3 ปกี ่อน ได้รับการวินิจฉัย เป็น CKD state IV 2 ปีก่อน มีไข้ จึงไปรักษาที่คลินิกใกล้บ้าน ได้รับการรักษาโดยการฉีดยา ภายหลังฉีดยาผู้ป่วย ไม่มีแรง ลกุ เดินไม่ได้ ภรรยาจึงนาส่งโรงพยาบาลบ้านแพ้ว แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน แพทย์พิจารณาผ่าตัดใส่สาย Tenckhoff catherter เพ่ือล้างไตทางช่องท้องเพ่ือทาการบาบัดทดแทนไต ภายหลังการรักษา ผู้ป่วยไปพบแพทย์สม่าเสมอ และยังคงต้องล้างไตทางช่องท้องเร่ือยมาเน่ืองจาก ผลเลอื ดในการตรวจรา่ งกายไม่ดีข้ึน 15 เดอื นก่อน เกิดการติดเชื้อบริเวณหน้าท้องท่ีใส่สายล้างไต แพทย์จึงพิจารณานาสาย Tenckhoff catherter ออก และผ่าตัดใส่สายสวนช่ัวคราวเพ่ือฟอกเลือด ที่ตาแหน่งขาหนีบด้านซ้ายเพือใช้ฟอกเลือด ดว้ ยเครื่องไตเทยี มแทน (โดยในการผา่ ตดั ครั้งนน้ั เริ่มตน้ ผา่ ตดั ใสส่ ายชวั่ คราวเพ่อื ฟอกเลอื ดจากตาแหน่งคอ ดา้ นขวา คอด้านซ้าย และขาหนีบด้านซ้าย ตามลาดับ) หลังการผ่าตัด 2 วันผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงซีกขวา แพทย์วินิจฉัยเป็น cardio embolic stroke จึงรักษาด้วยยามาตลอด ร่วมกับการทากายภาพบาบัด ผ้ปู ่วยไดร้ บั การฟอกเลอื ด 2 คร้ังต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร และ วนั เสารท์ ี่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว คู่มือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทที่ 4 72 กรณีศึกษา 20 กุมภาพันธ์ 2557 ผ่าตัดเปลี่ยนจากสายสวนช่ัวคราวเป็นสายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด และ วางแผนผ่าตัดทาเช่ือมหลอดเลือดแดง และหลอดเลือดดาใต้ผิวหนังเพื่อฟอกเลือดในวันที่ 20 สิงหาคม 2557 1 เดอื นก่อนขณะฟอกเลือด ตอ้ งมกี ารสลบั สายเน่อื งจากไม่สามารถฟอกเลือดได้คล่อง 4 วนั ก่อนผู้ปว่ ยมีนัดฟอกเลือดแต่ไมส่ ามารถฟอกได้ วันนี้ผ้ปู ว่ ยมาตรวจตามนัดเพื่อทากายภาพบาบัด ญาติมาปรึกษาพยาบาลเร่ืองไม่สามารถฟอกเลือดได้ จึงแนะนาใหน้ าผปู้ ่วยมาพบแพทยท์ ันที 3. ประวัติการเจบ็ ป่วยในอดตี และโรคประจาตวั 10 ป+ี มปี ระวัตโิ รคความดันโลหิตสงู รกั ษาทโ่ี รงพยาบาลบ้านแพ้ว และโรงพยาบาลศริ ริ าช มีประวตั ิ poor controlled HT ขาดยาบ่อยคร้งั มาตรวจติดตามผลไม่สม่าเสมอ 8 ปี+ มีประวัตโิ รคเกา๊ ท์ (gout) รกั ษาด้วยยา 8 ปี+ มีประวัติ severe OSA on CPAP ตง้ั แต่ ธันวาคม 2554 - 2556 3 ป+ี ตรวจพบ paraxysmal AF รกั ษาดว้ ยยา warfarin 15 เดือนก่อน ภายหลังการทาผ่าตัดใส่สายสวนชั่วคราวเพื่อฟอกเลือด 2 วันแล้วมีอาการอ่อน แรงซีกขวา ตวรจพบ cardio embolic stroke ปัจจุบันรักษาด้วยยา warfarin และทา กายภาพบาบัดท่ีโรงพยาบาลศิริราช สัปดาห์ละ 1 ครงั้ ปฎิเสธการสูบบุหร่ี และเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ มีประวัติแพ้เคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ หลัง ดม่ื เกดิ อาการผน่ื แดงคันทวั่ ตวั ปฏเิ สธการแพย้ าและอาหาร ปฏเิ สธการเกิดโรคล่มิ เลือดอุดตันในหลอดเลอื ดดาของแขนขา คมู่ ือการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลือด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 4 73 กรณศี กึ ษา 4. ผลการตรวจรา่ งกาย ความดันโลหิต 140/87 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 62 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที อุณหภูมิ 36.7 oc ส่วนสูง 173 เซนติเมตร น้าหนัก 60 กโิ ลกรัม ตรวจร่างกายท่ัวไป ผู้ป่วยมีอาการซึม พูดค่อนข้างช้า ตอบคาถามเป็นบางครั้ง ร่างกายซีกขวา ออ่ นแรง ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลือดที่ต้นขาด้านซ้าย บริเวณแผลผ่าตัดและรอบๆสายสวนเป็นปกติ ไม่พบอาการปวด บวม แดง ร้อน หรอื อาการแสดงของการตดิ เชอื้ 5. ผลตรวจทางห้องปฏบิ ัติการ 78.2 mg/dl H clinical chemistry 9.64 md/dl H BUN creatinine 5.45 ml/min/1.73m2 L **eGFR (CKD-EPI equation) sodium (Na+) 140 mmol/L potassium (K+) chloride (Cl-) 5.3 mmol/L H bicarbonate (HCO3-) **anion gap 102 mmol/L 19 mmol/L L 19.0 mmol/L H Hematology 12.5 g/dl L CBC 39.2 % hemoglobin 4.05 x 10*6/ul hematocrit 96.8 fl RBC count 30.9 pg MCV 31.9 g/ld MCH 14.0 % MCHC red cell distribution RDW คู่มือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผา่ ตัด
บทที่ 4 74 กรณศี กึ ษา WBC count 6.58 x 10*3/ul NRC/100 wbc 0.0 platelet count 251 x 10*3/ul absolute neutrophils 4.35 x 10*3/ul WBC differential count 66.1 % H % neutrophils 20.7 % % lymphocytes 10.0 % H % monocytes 2.1 % H % eosinophils 1.1 % % basophils coagulation 45.2 sec PT 3.66 INR > 180 sec APTT 6. ผลตรวจคลื่นไฟฟา้ หัวใจ A-V block I first degree cardiac hyperthrophy pay attention as myocardial ischemia 7. ผลเอ็กซเรย์ปอด significant no detectable abnormality คู่มอื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตดั
บทที่ 4 75 กรณีศึกษา 8. ประวัตยิ าทไ่ี ด้รบั ในปจั จบุ ัน a. folic acid 5 mg รบั ประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลงั อาหารเช้า b.furrous sulfate 200 mg รับประทานคร้ังละ 1 เม็ด วนั ละ 3 ครง้ั หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น c. amlopine 10 mg รบั ประทานครั้งละ 1 เมด็ วันละ 2 ครั้ง หลงั อาหารเช้า เยน็ d.caltab 1,000 mg รับประทานครั้งละ 1 เมด็ วันละ 1 ครั้ง หลงั อาหารเช้า e. orfarin 3 mg รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 คร้ัง ก่อนนอนวันจันทร์ - วันเสาร์ , รับประทานคร้ังละ 1 1/2 เม็ด (หน่งึ เมด็ ครึง่ ) วนั ละ 1 คร้ัง ก่อนนอนเฉพาะวันอาทติ ย์ f. paracap 500 mg รับประทานครงั้ ละ 2 เม็ด ทุก 6 ชัว่ โมง เวลาปวด หรือมีไข้ 9. ปัญหาที่พบในขณะน้ี ESRD on HD ไม่สามารถฟอกเลอื ดได้ทางสายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด มีภาวะของเสยี คัง่ Rt hemiparesis 10. แผนการพยาบาลผ้ปู ่วยณ.จุดตรวจหอ้ งอลุ ตรา้ เซานด์ ให้การพยาบาลเพื่อปอ้ งกันการพลัดตกหกลม้ ขณะรอตรวจ ประเมินภาวะแทรกซอ้ นอย่างรวดเร็ว และให้การพยาบาลตามแผนการรักษาของแพทย์ โดยส่ง ต่อผปู้ ว่ ยไป OR เลก็ เพอ่ื สวนล้างสายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ให้คาแนะนา และข้อมูลตามแนวทางการรักษาเพอื่ ลดความวติ กกังวลขณะรอตรวจ ให้คาแนะนาในการปฏิบัติตนเม่ือกลับไปอยู่บ้านเรื่องการดูแลตนเองภายหลังการผ่าตัด ใส่สายสวนระยะยาวบรเิ วณตน้ ขาเพ่ือฟอกเลอื ด เพ่อื ปอ้ งกันภาวะแทรกซ้อนภายหลงั ผา่ ตัด ให้การพยาบาลเพ่ือป้องกันการเกิดอันตรายจากภาวะเลือดออก และภาวะแทรกซ้อนจาก ความผิดปกติของสมดลุ ของกรดดา่ งในร่างกายขณะรอตรวจ ส่งเสริมและให้กาลังใจผู้ป่วยและญาติ ในการดูแลตนเอง ยอมรับความเปล่ียนแปลงและให้ ความร่วมมือในการรกั ษาพยาบาล รวมถงึ การมาตรวจตามนดั อยา่ งสม่าเสมอ ให้คาแนะนาในการเตรียมตัวก่อนและหลังผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดาเพ่ือ ฟอกเลอื ด การวางแผนการพยาบาลกรณีศกึ ษา คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 4 76 กรณีศึกษา วันที่ 13 สงิ หาคม 2557 ขอ้ วินิจฉยั การพยาบาลที่ 1 ผู้ป่วยขาดความรใู้ นการปฎบิ ัตติ ัวภายหลงั ผ่าตดั เมอื่ กลับไปอยูบ่ า้ น ข้อมลู สนบั สนนุ 1. ผู้ป่วยไม่รีบมาพบแพทย์เมื่อสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดอุดตัน และไม่สามารถ ฟอกเลอื ดได้ 2. ผู้ป่วยไม่สามารถตอบข้อซักถามของพยาบาล เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวภายหลังผ่าตัดเมื่ออยู่ บ้านได้ เป้าหมายการพยาบาล 1. ผปู้ ว่ ยมีความรู้ในการปฎิบัตติ นภายหลงั ผา่ ตัด เมือ่ กลับไปอยู่บา้ น เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจในการปฎิบัติตนภายหลังผ่าตัด สามารถอธิบายถึงการปฎิบัติตน และอาการผิดปกตภิ ายหลังผ่าตดั ท่ีตอ้ งมาพบแพทยก์ ่อนนดั เม่ือกลบั ไปอยู่บา้ นได้อยา่ งถูกต้อง กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมินความรู้ความเข้าใจ เรื่องการปฎิบัติตน และอาการผิดปกติท่ีต้องมาพบแพทย์ก่อนนัด ภายหลังผ่าตัดเมอ่ื กลับไปอยบู่ ้าน 2. แนะนาและเปิดโอกาสให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย และวางแผนการดูแลสุขภาพ รว่ มกัน 3. ให้คาแนะนาผปู้ ว่ ย และญาติ เก่ยี วกับการปฎบิ ตั ติ นภายหลังผ่าตัด เม่ือกลับไปอยู่บ้านในเร่ือง ดงั ต่อไปนี้ 3.1. การดูแลแผลผา่ ตัดและบริเวณใสส่ ายสวน 1) การดูแลแผลผ่าตัดและบริเวณใส่สายสวนระยะยาวฯ (ดังกล่าวในบทท่ี 2 หัวข้อการ ให้คาแนะนาผ้ปู ่วยภายหลังการใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ด) 2) ดูแลความสะอาดบริเวณท่ีใส่สายสวนให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ เปลี่ยนผ้าปิดแผล เมอื่ เปยี กช้นื หรอื สกปรกทค่ี ลินิกหรอื โรงพยาบาลใกลบ้ า้ น 3) ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ล้างมือด้วยสบู่ทุกคร้ังที่จะมีการสัมผัสกับสาย หรือเปล่ียนผา้ ปดิ แผล เพ่อื ลดอตั ราเส่ยี งตอ่ การตดิ เช้อื 4) ระมัดระวังบริเวณที่ใส่สายสวนไม่ให้เปียกชื้นในขณะอาบน้า งดลงแช่น้าหรือเข้า เซาวน์ า่ เพราะความเปยี กซนื้ บริเวณที่ใส่สายเป็นสาเหตุของการติดเช้ือ คมู่ ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทท่ี 4 77 กรณีศกึ ษา 5) ดูแลสายสวนไม่ให้ ดึงรั้ง หัก พับ งอเพราะอาจทาให้ประสิทธิภาพของการทางาน เสียไป 6) งดแกะเกาบรเิ วณรอบนอกแผลเพราะอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ 7) ระมัดระวังเร่ืองความสะอาดเป็นพิเศษ ในช่วงท่ีมีการขับถ่ายปัสสาวะ และ อุจจาระ เพื่อปอ้ งกันการตดิ เช้ือจากการสัมผสั สิ่งสกปรก 8) ควรสวมกางเกงขาหลวมใสส่ บาย หลกี เลย่ี งการนง่ั งอขาหรือพับขา เพือ่ ลดความเสี่ยง จากภาวะสายสวนอดุ ตัน และภาวะหลอดเลอื ดดาอุดตันในช้ันลึก 9) แนะนาผปู้ ว่ ยกระดกขอ้ เทา้ เพื่อเพ่มิ ประสิทธิภาพในการไหลเวียนเลือดจากส่วนปลาย เน่ืองจากมีโอกาสเกิดล่ิมเลือดอุดตันในหลอดเลือดดาสูง ควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการ ขาด้านที่ใส่ สายสวน ถ้าพบอาการขาบวม ปวด คลาดูร้อน หรือคลาได้หลอดเลือดเป็นลาแข็ง เนื่องจากมีการ แขง็ ตวั ของเลอื ดในหลอดเลอื ดดา ควรรีบมาพบแพทยท์ ันที 10) หากพบการหลุดของสายสวนในตาแหน่งเย็บตรึง ให้ใช้พลาสเตอร์ยึดสาย และรีบไป พบแพทย์ทนั ทีเพ่อื ทาการเยบ็ ตรึงสายใหม่ 3.2. สังเกตอาการผิดปกติภายหลังผ่าตัด ควรมาพบแพทย์ก่อนนัดเม่ือเกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บแน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย ปวด กดเจ็บบริเวณที่ใส่สายสวนระยะยาวฯ แผลอักเสบ มีส่ิงผิดปกติไหลออกจากแผล มีไข้ สายเล่ือนหลุด กรณีไม่สามารถฟอกเลือดได้ควรรีบมาโรงพยาบาล ทันที เน่ืองจากอาจเกิดการอุดตันภายในสายสวนและเป็นสาเหตุให้ต้องสูญเสียสายสวนระยะยาว เพ่ือฟอกเลือด หรอื เสี่ยงตอ่ การผ่าตดั ซา้ เพือ่ แก้ไขพยาธิสภาพ 3.3. แนะนาใหม้ าพบแพทยต์ ามวันนดั เพอ่ื ตดิ ตามผลการรักษา 3.4. แนะนาการมาตรวจฉุกเฉินเม่อื พบอาการผิดปกติ 3.5. สอนใหผ้ ้ปู ว่ ยรูจ้ กั วธิ ีในการดูแลเมอื่ มขี ้อตอ่ ตา่ งๆเล่ือนหลุด 4.ประเมนิ ความรู้ความเข้าใจ โดยการซักถาม ผ้ปู ่วยสามารถอธิบายถึงการปฏิบัติตัวเม่ือกลับบ้าน ได้อย่างถูกต้อง เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติซักถามข้อสงสัยเพ่ิมเติมก่อนจาหน่ายผู้ป่วยออกจาก หน่วยตรวจ การประเมนิ ผล ผู้ป่วยมีความรู้ในการปฏิบัติตัวภายหลังผ่าตัดเมื่อกลับไปอยู่บ้าน โดยสามารถอธิบายถึงการ ปฏบิ ัติตัวเมอื่ กลับไปอยบู่ ้าน รวมถงึ อธบิ ายอาการผดิ ปกตภิ ายหลังผา่ ตดั ทีต่ ้องมาพบแพทย์ก่อนนัด คู่มือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 4 78 กรณีศึกษา ข้อวินจิ ฉยั การพยาบาลท่ี 2 ผปู้ ่วยมโี อกาสพลดั ตกหกลม้ ขณะรอตรวจ ขอ้ มูลสนบั สนุน 1. ผู้ปว่ ยมีประวตั ิ ischemic stroke ร่างกายซกี ขวาอ่อนแรง และมีอาการอ่อนเพลีย 2. ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายมกี ารเปล่ียนแปลงทางระบบประสาทตามพยาธสิ ภาพของโรค และไม่ได้ รับการฟอกเลือดตามแผนการรกั ษา 3. ผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการพบคา่ potassium (K+) 5.3 mmol/L มีความเสยี่ งตอ่ อาการกลา้ มเนื้ออ่อนแรง เป้าหมายการพยาบาล 1. ผู้ป่วยปลอดภัยจากการพลดั ตกหกลม้ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ผปู้ ่วยไมเ่ กิดอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกลม้ กจิ กรรมการพยาบาล 1. ตรวจประเมินสญั ญาณชีพแรกรับ 2. ดูแลเปล่ยี นจากรถนง่ั เปน็ เปลนอนขณะผ้ปู ่วยรอตรวจ เนอ่ื งจากผู้ป่วยร่างกายซีกขวาอ่อนแรง และมีอาการออ่ นเพลีย 3. ประเมนิ อาการผู้ปว่ ยทุก 15 - 30 นาที เพ่อื ประเมินอาการผดิ ปกติ 4. ให้คาแนะนาผู้ป่วยและญาติในการสังเกตอาการผิดปกติขณะรอพบแพทย์ ได้แก่ อาการ หนา้ มดื ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อพบอาการผดิ ปกตใิ ห้แจง้ พยาบาลผดู้ แู ลทันที 5. รายงานผลการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยให้แพทย์ เจ้าของไข้รับทราบดังน้ี ผู้ป่วยมาก่อนนัด เนื่องจากสายสวนระยะยาวไม่สามารถใช้ฟอกเลือดได้ สัญญาณชพี ปกติ ผูป้ ่วยมีอาการซึมเล็กน้อย พูดคุยโตต้ อบรเู้ ร่อื ง บริเวณแผลผ่าตัด และรอบๆสายสวน ไมพ่ บอาการผิดปกติ 6. จัดลาดบั ให้ผูป้ ว่ ยไดร้ ับการตรวจอยา่ งรวดเรว็ และดูแลใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ่วยในขณะตรวจ อยา่ งใกลช้ ดิ 7. ตรวจประเมนิ สัญญาณชีพก่อนจาหน่ายผปู้ ่วยออกจากหน่วยตรวจ ประสานงานหน่วย เคลือ่ นย้าย ตามเจ้าหนา้ ทสี่ ่งตอ่ ผู้ป่วยไปห้องผา่ ตดั เลก็ คู่มือการพยาบาลผูป้ ว่ ยโรคไตวายทม่ี ารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 4 79 กรณศี กึ ษา การประเมินผล ผู้ป่วยไม่เกิดการพลัดตก หกล้ม ขณะรอตรวจ สัญญาณชีพแรกรับ ความดันโลหิต 140/87 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 62 ครั้ง/นาที หายใจ 20 คร้ัง/นาที จัดให้ผู้ป่วยเป็นเปลนอนขณะรอตรวจ เนื่องจากผู้ป่วยร่างกายซีกขวาอ่อนแรงและมีอาการอ่อนเพลีย ไม่พบอาการผิดปกติขณะรอตรวจ ประเมินสญั ญาณชพี ก่อนจาหนา่ ย พบความดันโลหิต 130/80 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 60 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครัง้ /นาที และโทรประสานงานหอ้ งผ่าตดั เล็กเพ่ือสง่ ต่อผูป้ ว่ ยเพ่ือ irrigate perm cath ขอ้ วินิจฉยั การพยาบาลที่ 3 ผปู้ ว่ ยเกิดความวติ กกงั วล เร่ืองคา่ ใช้จา่ ยจากการผ่าตัดซ้า เนื่องจากมีการ เปลี่ยนแปลงทางดา้ นฐานะเศรษฐกจิ สังคม ภาวะสขุ ภาพ บทบาท และหนา้ ที่ ข้อมูลสนบั สนนุ 1. ผปู้ ่วยแสดงสีหน้าวติ กกงั วล สอบถามถงึ อาการของโรค การผา่ ตัด คา่ ใช้จ่ายในการรักษา 2. ผู้ป่วยมีประวัติปรึกษานักสังคมสงเคราะห์เรื่องค่าใช้จ่ายในการทาผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาว เพอื่ ฟอกเลอื ดและปจั จุบนั ยงั ผอ่ นชาระคา่ ใชจ้ า่ ยคา้ งเดมิ 3. ผปู้ ่วยมีนัดทาผา่ ตดั AVF วนั ที่ 20 สงิ หาคม 2557 4. ผู้ป่วยมีความกังวลเร่ืองค่าใช้จ่ายในการวางแผนผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดดา และ หลอดเลือดแดงใต้ผิวหนังเพื่อฟอกเลือด เนื่องจากยังมีค่าใช่จ่ายค้างชาระ ปัจจุบันภรรยาเป็นผู้หา รายได้หลักในครอบครวั เพยี งผู้เดียว และมีบตุ รทกี่ าลงั ศึกษาอยู่ 2 คน เป้าหมายการพยาบาล 1. ผู้ปว่ ยคลายความวิตกกังวลลง เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ป่วยเข้าใจถึงพยาธิสภาพของโรค ยอมรับการเปล่ียนแปลงของร่างกายและให้ความร่วมมือ ในการรักษา เขา้ ใจและสามารถอธบิ ายได้ถึงสิทธิพื้นฐานของตนเองในการรักษา 2. ผปู้ ว่ ยมีสหี นา้ สดช่ืนข้ึน คมู่ อื การพยาบาลผูป้ ว่ ยโรคไตวายท่มี ารบั การผา่ ตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตัด
บทที่ 4 80 กรณีศกึ ษา กจิ กรรมการพยาบาล 1. สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย โดยการใช้คาพูดที่สุภาพ อ่อนโยน โดยแนะนาตนเอง และ บุคลากรในทีมดูแลผู้ป่วย เพ่ือให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกและ ซกั ถามขอ้ สงสัย รบั ฟงั ดว้ ยความเขา้ ใจ 2. ประเมินระดับความวิตกกังวลในผู้ป่วย และครอบครัวประเมินความรู้ความเข้าใจ ในแผน การรักษา ความสามารถในการปฏิบัติตามแผนการรักษา ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติ ตามแผนการรกั ษา โดยการสอบถามดว้ ยคาถามปลายเปดิ และสงั เกตพฤตกิ รรมผู้ปว่ ยขณะตอบ 3. ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ ถึงปัญหาด้านเศรษฐสถานะของผู้ป่วยเพื่อร่วมวางแผนแก้ไขปัญหา ด้านเศรษฐสถานะของผู้ป่วย โดยส่งพิจารณาเร่ืองการรับผู้ป่วยเข้าเป็นผู้ป่วยในโครงการ 80 พรรษา เพื่อการผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดดาและหลอดเลือดแดงถวายเป็นพระราชกุศล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในการผา่ ตดั ครัง้ หน้า แจง้ ใหผ้ ูป้ ่วยรบั ทราบเพอ่ื ลดความวิตกกงั วลเรือ่ งค่าใชจ้ ่ายในการทาผา่ ตัด 4. ประสานงานนักสังคมสงเคราะห์เพื่อพิจาราณาช่วยเหลอื ในเร่อื งคา่ รกั ษาพยาบาล 5. กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีการวางแผนในการดูแลตนเองร่วมกันกับครอบครัว มีการต้ังเป้าหมาย ร่วมกัน แนะนาแนวทางการดูแลสุขภาพ เรื่องการงดอาหารเค็มและไขมันสูง เนื่องจากผู้ป่วย ชอบรับประทานอาหารรสเค็ม การทากายภาพบาบัดอยา่ งสม่าเสมอ และการออกกาลังกายด้วยตนเอง ท่ีบ้าน การฏิบตั ิตวั ให้ถูกตอ้ ง และการสงั เกตอาการผิดปกติภายหลงั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือ ฟอกเลอื ด เพอ่ื ลดคา่ ใชจ้ า่ ยโดยรวมในการรกั ษาพยาบาล 6. ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วย และครอบครัว แนะนาและให้ข้อมูลกับญาติในเรื่องการ ปฏิบตั ติ นที่ถูกตอ้ ง ตอ่ ความเจ็บป่วย และแนวทางการรักษาพยาบาล ให้กาลังใจผ้ปู ว่ ย และญาติ 7. ส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย กระตุ้นและให้กาลังใจผู้ป่วยในการดูแล ตนเอง การประเมนิ ผล ผปู้ ว่ ยคลายความวติ กกังวลลง สีหน้า สดช่ืนข้ึน ผู้ป่วยมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรค แผนการรักษา และการดแู ลตนเองร่วมกบั ทมี สขุ ภาพ คู่มอื การพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผ่าตดั
บทท่ี 4 81 กรณีศึกษา ขอ้ วนิ จิ ฉยั การพยาบาลที่ 4 ผปู้ ว่ ยร้สู ึกไร้พลงั อานาจ การสญู เสียภาพลักษณ์ และคณุ คา่ ในตนเอง ขอ้ มูลสนับสนนุ 1. ผ้ปู ว่ ยสีหน้าไม่สดชนื่ บ่นวา่ รสู้ กึ ทอ้ แทเ้ ปน็ ภาระของคนอนื่ ไมอ่ ยากผ่าตัดซา้ ๆ 2. ผู้ป่วยเป็นโรคไตเรอ้ื รังต้องรับการฟอกเลือดสัปดาหล์ ะ 2 ครัง้ 3. ผู้ป่วยรู้สึกเป็นภาระของครอบครัว ภรรยาเป็นผู้หารายได้หลัก บุตรสองคนยังเรียนหนังสือ ตนเองเจ็บปว่ ยไม่มรี ายได้ ภาพลกั ษณเ์ ปลย่ี นไปหลงั เจบ็ ปว่ ย ร่างกายไม่ปกติเหมอื นเดิมบ่นรู้สึกท้อเป็น บางครัง้ เปา้ หมายการพยาบาล 1. ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจในการวางแผนการดูแลตนเองได้ ป้องกันการสูญเสียภาพลักษณ์ ร้สู ึกมีพลังอานาจ และคุณคา่ ในตนเอง เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ป่วยเข้าใจถึงพยาธิสภาพของโรค ยอมรับการเปล่ียนแปลงของร่างกายและให้ความร่วมมือ ในการรักษา 2. สามารถบอกถึงการดูแลตนเองภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด มีส่วน ร่วมในการวางแผนการดูแลตนเองได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 3. ผปู้ ว่ ยมีสหี น้าสดช่ืนขน้ึ บอกวา่ รสู้ ึกมีคุณค่าในตนเองเพ่ิมขนึ้ กจิ กรรมการพยาบาล 1. ให้คาปรึกษาเพื่อให้มีความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรค พยาธิสภาพ การรักษา การผ่าตัด ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด และการดูแลตนเอง ภายหลังผ่าตัดรับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจพร้อม กับกระตุ้นและสนับสนุนผู้ป่วยให้แสดงออกถึงความรู้สึกเกี่ยวกับตนเอง และความเจ็บป่วยให้ผู้ป่วย ได้ระบายความร้สู ึก ความไมส่ บายใจ ข้อขอ้ งใจ 2. ประเมินผู้ป่วยโดยสังเกตพฤติกรรมและซักถาม ส่งเสริมและให้กาลังใจผู้ป่วยในการพยายาม ปฏบิ ตั ิตามแผนการรักษาเพ่ือชลอภาวะของโรคอยา่ งเหมาะสม 3. อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงการรักษาและข้ันตอนการปฏิบัติในการรักษา ให้ข้อมูลท่ีผู้ป่วย ตอ้ งการและเป็นประโยชนต์ ่อผ้ปู ่วย 4. กระตุ้นให้ผู้ป่วยบอกถึงการวางแผนในการดูแลตนเองและวิธีการดูแล ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมใน การแสดงความคิดเกี่ยวกับการวางแผนเพ่ือทาผ่าตดั เช่ือมหลอดเลือดเพ่ือฟอกเลอื ด คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
บทท่ี 4 82 กรณีศกึ ษา 5. สร้างบรรยากาศในการส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่า เสริมสร้างพลังอานาจของผู้ป่วย พูดชื่นชม ในส่งิ ท่ผี ปู้ ว่ ยปฏิบตั ิตัวในการดแู ลตนเองได้อย่างถกู ต้อง ชืน่ ชมญาตทิ ี่ใสใ่ จและช่วยเหลอื ดูแลผปู้ ว่ ย 6. แนะนาให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแล อธิบายให้ญาติและผู้ดูแลเข้าใจกระบวนการของการ เปลีย่ นแปลงทางจติ ใจของผู้ป่วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถชว่ ยเหลือให้กาลังใจผปู้ ่วย 7. แนะนาผปู้ ว่ ยและญาติให้รู้จกั กบั ผู้ป่วยกลุม่ เดยี วกนั ท่ีสามารถปรับตัวได้ดี มีพฤติกรรมสุขภาพ ดี เพื่อสร้างแรงจูงใจ และเสริมอานาจให้ผู้ป่วยยอมรับภาวะเจ็บป่วยเร้ือรังและการรักษา และ มกี าลังใจยอมปฏิบัติตนตามแผนการรักษา 8. ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการต้ังจุดมุ่งหมายในการรักษา ชี้ให้เห็นผลดีของการปฏิบัติตัว ตามแผนการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติร่วมมือและปฏิบัติตามแผนการรักษา ให้กาลังใจผู้ป่วย และ ญาติ สนับสนนุ เพอื่ ใหผ้ ู้ปว่ ยสามารถปรบั ตวั ได้ตอ่ ไป การประเมนิ ผล ผู้ป่วยมีสีหน้าสดช่ืนขึ้น เข้าใจถึงพยาธิสภาพของโรค ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย สามารถบอกถึงการดูแลตัวเองภายหลังการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวได้อย่างถูกต้อง เข้าใจใน แผนการรักษาและการดูแลตนเองภายหลังการเจ็บป่วยเร้ือรัง สอบถามพยาบาลถึงการรับประทาน อาหารให้เหมาะกับโรค การปฏิบัติตัวภายหลังเป็นโรคไต และการดูแลตนเองเพื่อรักษาภาวะสุขภาพ ให้ดยี งิ่ ขึ้น ข้อวินิจฉัยการพยาบาลท่ี 5 ผู้ป่วยเส่ียงต่อการติดเช้ือบริเวณท่ีใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด หลังผา่ ตัดเมอื่ กลบั ไปอยู่บา้ น ข้อมูลสนบั สนนุ 1. ผ้ปู ่วยใส่สายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ดบรเิ วณขาหนบี ด้านซ้าย 2. เป็นผู้ปว่ ยไตวายระบบภมู ิคุ้มกันของร่างกายผูป้ ่วยบกพรอ่ งจากสภาวะของโรค 3. ผูป้ ่วยซักถามขอ้ มูลเก่ียวกบั การปฏิบัติตนเม่ืออยบู่ ้าน เปา้ หมายการพยาบาล 1. ผู้ปว่ ยไมเ่ กิดการตดิ เชอื้ บริเวณทใี่ ส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลอื ด คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทท่ี 4 83 กรณีศกึ ษา เกณฑก์ ารประเมิน 1. บรเิ วณสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ดไม่มอี าการแสดงของการติดเช้ือ ได้แก่ อาการปวด บวม แดง ร้อน มหี นองไหลจากบริเวณ exit site 2. อณุ หภูมิร่างกายไมส่ งู กว่า 37.5 0c กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมนิ สัญญาณชีพแรกรบั 2. เปิดแผลประเมินความผิดปกติท่ีแสดงถึงอาการติดเชื้อบริเวณ exit site ได้แก่ อาการปวด บวม แดง รอ้ น มีหนองไหลจากบริเวณ exit site 3. ให้คาแนะนา ทบทวนการดูแลแผลผ่าตดั และบรเิ วณใสส่ ายสวนเพอื่ ป้องกันการตดิ เชือ้ 1) ดูแลความสะอาดบริเวณท่ีใส่สายสวนให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ เปล่ียนผ้าปิดแผลเม่ือ เปียกชืน้ หรือสกปรก 2) ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ลา้ งมือด้วยสบู่ทกุ ครงั้ ท่ีจะมกี ารสัมผสั กับสายหรอื เปลีย่ นผ้าปดิ แผล เพือ่ ลดอัตราเส่ียงตอ่ การติดเชือ้ 3) ระมดั ระวังบรเิ วณทใ่ี ส่สายสวนไม่ให้เปียกชน้ื ในขณะอาบน้า งดลงแชน่ า้ หรอื เขา้ เซาว์นา่ เพราะความเปยี กชืน้ บริเวณที่ใสส่ ายเป็นสาเหตขุ องการติดเชอื้ 4) ใช้ 2%chlorhexidine in alcohol 70, chorhexidine aqueous หรือ 10%povido iodine ทาความสะอาดรอบๆบรเิ วณทใี่ ส่สาย กอ่ นปิดผ้าปิดแผลปดิ แผลด้วย transparent dressing หรือ ผา้ ก๊อซและเทป เพื่อลดอตั ราเสยี่ งต่อการตดิ เช้อื 5) งดแกะเกาบริเวณรอบนอกบริเวณท่ีใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด เพราะอาจเป็น สาเหตขุ องการติดเช้ือได้ 4. แนะนาใหผ้ ูป้ ่วยสงั เกตอาการผดิ ปกติบริเวณสายสวน และบรเิ วณแผลผา่ ตัดอยา่ งสม่าเสมอ 5. แนะนาใหผ้ ู้ป่วยรบี มาพบแพทยท์ ันที เม่อื มอี าการแสดงของอาการติดเชื้อไดแ้ ก่ มีไข้สงู หนาวสั่น หรือมอี าการ บวม แดง ร้อน บริเวณผ่าตดั 6. อธบิ ายให้ผู้ปว่ ยและญาตเิ ข้าใจและเห็นความสาคัญของการใช้หลกั aseptic technique เพื่อ ลดอตั ราเส่ียงในการติดเชื้อ ในการดแู ลสายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด 7. ผ้ปู ่วยสามารถปฏบิ ัติกิจวัตรประจาวันได้ตามปกติ แต่ควรหลกี เล่ยี งกจิ กรรมท่อี อกแรงมาก เพอ่ื ป้องกนั การเลื่อนหลดุ ของสาย และการฉีกขาดของบาดแผลบรเิ วณทท่ี าผา่ ตัด คู่มอื การพยาบาลผูป้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทท่ี 4 84 กรณีศกึ ษา 8. สง่ เสริมภาวะโภชนาการ แนะนาผ้ปู ว่ ยดแู ลใหไ้ ดร้ บั อาหารท่ีเหมาะสมตามสภาวะของโรค และเพยี งพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยงดอาหารรสเคม็ ไขมนั สงู เพื่อสง่ เสริมให้ภาวะสขุ ภาพ แขง็ แรง ป้องกนั การติดเช้ือ 9. ประเมินความร้คู วามเข้าใจ ของผ้ปู ่วยและญาตจิ ากคาแนะนาทกี่ ลา่ วมา โดยการซักถามผู้ป่วย เปิดโอกาสใหผ้ ปู้ ่วยและญาติซักถามข้อสงสยั เพ่ิมเติม 10. ให้คู่มือในการปฏิบัติตัวแก่ผู้ป่วย และญาติก่อนจาหน่ายผู้ป่วยกลับบ้าน เพ่ือนาความรู้ไป ทบทวนต่อเมือ่ อย่ทู ่ีบา้ น และญาตสิ ามารถช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 11. แนะนาการมาตรวจฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ สามารถติดต่อได้ท่ีห้องตรวจฉุกเฉิน ตึกผู้ปว่ ยนอกชน้ั 1 การประเมินผล ผู้ป่วยไม่เกิดการติดเช้ือบริเวณท่ีใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ไม่มีอาการผิดปกติบริเวณ exit site สัญญาณชพี แรกรับปกติ อณุ หภมู ิ 36.7 0c ข้อวนิ จิ ฉัยการพยาบาลท่ี 6 ผปู้ ว่ ยมโี อกาสเส่ียงต่อการเกิดภาวะลม่ิ เลอื ดอดุ ตันในหลอดเลอื ดดา (deep vein thrombosis) จากการใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดบริเวณขาหนีบ ขอ้ มูลสนับสนนุ 1. ผู้ปว่ ยใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดบริเวณขาหนบี ด้านซา้ ย 2. ผู้ปว่ ยบอกว่าไม่ทราบถงึ การปฏิบัตติ ัวภายหลังผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือดเพอื่ ปอ้ งกันภาวะลิ่มเลือดอุดตนั ในหลอดเลือดดา เป้าหมายการพยาบาล 1. ผูป้ ่วยไมเ่ กิดภาวะล่ิมเลือดอุดตนั ในหลอดเลือดดา ในขาข้างซา้ ย ทใี่ ส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลือด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ผู้ปว่ ยสามารถอธิบายไดถ้ ึงการปฏิบัตติ นเพื่อปอ้ งกันภาวะลมิ่ เลือดอดุ ตนั ในหลอดเลอื ดดา 2. ผู้ปว่ ยไม่เกิดอาการแสดงของภาวะลม่ิ เลือดอุดตันในหลอดเลือดดาของขา ได้แก่ ขาบวม ปวด คลาไดห้ ลอดเลอื ดเปน็ ลาแขง็ คู่มือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตัดใสส่ ายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผ่าตัด
บทที่ 4 85 กรณีศึกษา กิจกรรมการพยาบาล 1. ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะล่ิมเลือดอุดตันในหลอดเลือดดาได้แก่ อาการ ขา บวม ปวด คลาดูร้อน คลาไดห้ ลอดเลอื ดเปน็ เส้นแขง็ ภายหลังประเมิน ไมพ่ บอาการผดิ ปกติ 2. สอน และแนะนาผู้ปว่ ยเก่ียวกับการปฏบิ ัตติ ัว เพือ่ ป้องกันภาวะลิม่ เลอื ดอุดตนั ในหลอดเลือดดาดังนี้ 1) แนะนาผูป้ ว่ ยกระดกขอ้ เทา้ เพ่อื เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการไหลเวียนเลอื ดจากสว่ นปลาย 2) เฝา้ ระวังและสังเกตขาด้านทีใ่ ส่สายสวน ถ้าพบอาการขาบวม ปวด คลาดูร้อนหรือคลาได้ หลอดเลือดเปน็ เสน้ แขง็ เนื่องจากมีการแขง็ ตัวของเลือดในหลอดเลือดดา หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบ มาพบแพทย์ทันที 3) หลกี เลี่ยงการน่งั พับขา หรืองอขา ป้องกันไม่ให้สายหัก พับ งอ หลีกเล่ียงการนอนตะแคง ทับขาข้างที่ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด เพื่อป้องกันการกดทับสายซ่ึงอาจทาให้สายอุดตันและ มีโอกาสเกดิ ล่มิ เลือดลอยไปอุดในหลอดเลอื ดดาได้ 3. ทบทวนและใหผ้ ้ปู ว่ ยอธบิ ายให้ทราบถงึ ขัน้ ตอนการดูแลตนเอง เปดิ โอกาสใหผ้ ้ปู ่วย สอบถาม ข้อข้องใจกอ่ นจาหน่ายผปู้ ว่ ยกลบั บา้ น 4. แนะนาการมาตรวจฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ สามารถติดต่อได้ที่ห้องตรวจฉุกเฉิน ตึกผู้ปว่ ยนอกชัน้ 1 การประเมินผล ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดา ในขาข้างซ้ายที่ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือ ฟอกเลือด ไมพ่ บอาการผดิ ปกตทิ แ่ี สดงถงึ ภาวะลมิ่ เลือดอดุ ตนั ในหลอดเลือดดา คู่มอื การพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทที่ 4 86 กรณศี ึกษา ขอ้ วนิ ิจฉัยการพยาบาลที่ 7 ผู้ป่วยเสย่ี งตอ่ การเกิดภาวะเลือดออกง่าย และอนั ตรายจาก ความไมส่ มดลุ ของกรดด่างในรา่ งกาย ขอ้ มูลสนบั สนุน 1. ผ้ปู ่วยรับประทานยา orfarin 3 mg 78.2 mg/dl 2. ผลตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ าร 9.64 md/dl 5.45 ml/min/1.73m2 BUN 5.3 mmol/L creatinine 19 mmol/L **eGFR (CKD-EPI equation) 19.0 mmol/L potassium (K+) 4.05 x 10*6/ul bicarbonate (HCO3-) 10.0 % **anion gap RBC count % monocytes PT 45.2 sec INR 3.66 เปา้ หมายการพยาบาล 1. ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะเลือดออก และภาวะแทรกซ้อนจากความผิดปติของสมดุลของกรด ด่างในร่างกาย เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ผู้ป่วยไม่เกิดอันตรายและภาวะแทรกซ้อน จากภาวะเลือดออก ไม่พบจุดเลือดออกตาม รา่ งกาย 2. ผู้ป่วยไม่เกิดอันตรายและภาวะแทรกซ้อน จากความไม่สมดุลของกรดด่างในร่างกาย ไม่พบ อาการ กลา้ มเนือ้ ออ่ นแรง หน้ามืด ใจสน่ั แน่นหน้าอก หายใจไมอ่ อก คู่มือการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทที่ 4 87 กรณศี กึ ษา กจิ กรรมการพยาบาล 1. ตรวจประเมินสญั ญาณชีพแรกรับ 2. รายงานผลการประเมนิ ผปู้ ว่ ยใหแ้ พทย์เจา้ ของไขห้ รือแพทย์ท่ีออกตรวจประจาวันรบั ทราบ 3. เคลื่อนย้ายผู้ป่วยตามหลัก work instruction เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ป่วยขณะ เคลือ่ นย้าย 4. ประเมิน สังเกตอาการและอาการแสดงของผ้ปู ว่ ย อยา่ งใกล้ชดิ ดูแลความปลอดภัยและ สภาพแวดลอ้ ม ขณะรอตรวจ 5. แนะนาให้ผู้ป่วย และญาติสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หน้ามืด ใจสนั่ เจบ็ แนน่ หน้าอก หายใจไม่ออก หากพบอาการดังกลา่ วใหร้ ีบแจง้ พยาบาลทันที 6. แนะนาใหผ้ ูป้ ว่ ยและญาติระมดั ระวังการกระทบกระแทก หรอื การเกิดอบุ ตั ิเหตเุ นื่องจากผู้ป่วย มคี วามเส่ยี งต่อการเกิดเลอื ดออกไดง้ า่ ย 7. ประสานงานส่งตอ่ ข้อมูลไปยงั ห้องผา่ ตดั เลก็ ในการรบั ดูแลผู้ป่วย เพอ่ื ความต่อเน่ืองในการดูแล ผู้ป่วย และเฝา้ ระวังอาการผิดปกตทิ อ่ี าจเกิดข้นึ การประเมินผล ผู้ป่วยปลอดภัยจากอันตราย และภาวะแทรกซ้อน จากภาวะเลือดออกง่ายและความไม่สมดุล ของกรดด่างในร่างกาย ไม่มีอาการแสดงของอาการผิดปกติท้ังในขณะรอตรวจ และขณะส่งต่อไปยัง หอ้ งผ่าตัดเลก็ ค่มู ือการพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผา่ ตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลอื ด ในระยะเตรียมกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจติดตามผลหลงั ผ่าตดั
บทท่ี 4 88 กรณีศึกษา สรปุ กรณีศึกษา ชายไทยอายุ 55 ปี ตรวจพบประวัติ CKD, HT, gout , severe OSA ปี2549 มีประวัติ ชอบรับประทานอาหารรสเค็ม ขาดการตรวจและติดตามผลการรักษาโรคความดันโลหิตสูงบ่อยครั้ง ผูป้ ่วยมีอาการไตวายเฉียบพลัน เม่ือปี 2555 แพทย์รักษาโดยการใส่สายล้างไตทางหน้าท้อง ต่อมาเดือน พฤษภาคม 2556 มีการติดเช้ือบริเวณสายทางหน้าท้อง แพทย์จึงผ่าตัดนาสาย Tenckhoff catherter ออก และใส่เป็นสวนช่ัวคราวเพื่อฟอกเลือด ภายหลังผ่าตัดผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนจาก cardio embolic stroke ทาให้ร่างกายซีกขวาอ่อนแรง หลังผ่าตัดผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและติดตาม ผลการรักษาตามนัดอย่างสม่าเสมอที่โรงพยาบาลศิริราช โดยทากายภาพบาบัดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ฟอกเลือดดว้ ยเครือ่ งไตเทยี มสัปดาหล์ ะ 2 ครั้ง ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนจากสายสวนช่ัวคราวเป็นสายสวน ระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ตัง้ แต่วนั ที่ 20 กุมภาพนั ธ์ 2557 และ มีการวางแผนเพ่ือทาผ่าตัดเชื่อมหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันที่ 20 สิงหาคม 2557 ผู้ป่วยมาตรวจก่อนนัดเน่ืองจากเกิดปัญหาสายฟอกเลือด อุดตัน ไม่สามารถฟอกเลือดได้รวมระยะเวลา 8 วันจากครั้งสุดท้ายที่ฟอกเลือด ภายหลังแพทย์ตรวจ ประเมินร่างกายแล้ว จึงวางแผนรบั เปน็ ผปู้ ่วยในเพือ่ สวนลา้ งสายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลอื ด จากการประเมินผูป้ ่วย ณ หอ้ งตรวจอุลตรา้ เซานด์ หน่วยตรวจรักษาด้วยเคร่ืองมือพิเศษและ ตดิ ตามผล สยามินทร์ชัน้ 1 พบว่าผู้ป่วยมีปัญหาทางการพยาบาลดงั นี้ ขอ้ วนิ จิ ฉัยการพยาบาลที่ 1 ผู้ป่วยขาดความรใู้ นการปฎบิ ตั ติ นภายหลงั ผ่าตัด เมอื่ กลบั ไปอยบู่ ้าน ข้อวนิ จิ ฉัยการพยาบาลที่ 2 ผ้ปู ว่ ยมโี อกาสพลัดตกหกลม้ ขณะรอตรวจ ขอ้ วนิ ิจฉัยการพยาบาลท่ี 3 ผปู้ ่วยเกิดความวิตกกงั วล เรื่องค่าใช้จา่ ยจากการผา่ ตัดซ้า เนื่องจาก มกี ารเปลี่ยนแปลงทางดา้ นฐานะเศรษฐกิจ สงั คม ภาวะสุขภาพ บทบาทและหนา้ ที่ ข้อวนิ ิจฉัยการพยาบาลท่ี 4 ผู้ป่วยรสู้ กึ ไรพ้ ลังอานาจ การสูญเสยี ภาพลกั ษณ์ และคุณค่าในตนเอง ข้อวนิ จิ ฉัยการพยาบาลท่ี 5 ผู้ป่วยเสี่ยงตอ่ การตดิ เชื้อบริเวณท่ีใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด หลังผา่ ตัดเม่อื กลับไปอยู่บา้ น ขอ้ วินจิ ฉัยการพยาบาลท่ี 6 ผปู้ ่วยมโี อกาสเสีย่ งต่อการเกดิ ภาวะล่ิมเลือดอดุ ตันในหลอดเลือด (deep vein thrombosis) จากการใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือดบริเวณขาหนบี ขอ้ วนิ ิจฉัยการพยาบาลที่ 7 ผู้ปว่ ยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลอื ดออกง่าย และอันตรายจากความ ไม่สมดลุ ของกรดด่างในร่างกาย ค่มู ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทีม่ ารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่อื ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทที่ 4 89 กรณีศกึ ษา จากกรณีศึกษาพบว่าผู้ป่วยขาดการใส่ใจ ในการดูแลสุขภาพตนเอง ทาให้เกิดความก้าวหน้า ของโรคไตอย่างต่อเน่ืองจนเข้าสู่ระยะไตวาย ขาดความรู้ในการดูแลตนเองหลังผ่าตัด เกิด ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด นามาซึ่งการผ่าตัดซ้าๆ ในการเตรียมช่องทางสาหรับฟอกเลือด ภายหลัง ผา่ ตดั ใสส่ ายสวนช่ัวคราวเพื่อฟอกเลือด ผู้ป่วยเกิดภาวะ stroke มีอาการอ่อนแรงซีกขวาของร่างกาย มีโอกาสเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มเม่ือเคล่ือนไหว ปัจจุบันใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดท่ีขาหนีบ ด้านซ้ายมีความเสี่ยงต่อการติดเช้ือ และการเกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณท่ีใส่สายสวนเพื่อฟอกเลือด มีความ ทอ้ แท้และร้สู กึ สญู เสียคุณค่าในตนเอง วิตกกงั วลเก่ยี วกับการผ่าตดั และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ในอนาคต พยาบาล มีบทบาทในการคัดกรอง ประเมินผู้ป่วยต้ังแต่แรกรับ และป้องกันความเส่ียงต่างๆท่ี อาจเป็นอันตรายตอ่ ผูป้ ่วยในขณะรอตรวจ ให้คาแนะนาส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัว ให้มคี วามรู้ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ในกรณีศึกษาน้ีการวางแผนดูแลรักษาผู้ป่วย เม่ือกลับบ้าน การแนะนา ให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติในการดูแลตนเองและการดูแลสายสวนระยะยาว เพ่ือฟอกเลือดหลังผ่าตัด รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ป่วยและครอบครัวเห็นความสาคัญในการดูแลสุขภาพ หลังผา่ ตัดถอื เป็นส่งิ สาคัญย่ิง เน่ืองจากผู้ป่วยยังไม่มีช่องทางฟอกเลือดถาวร ประกอบกับเคยผ่าตัดใส่ สายสวนหลายตาแหน่ง และตาแหน่งท่ีมีการผ่าตัดใส่สายสวนช่ัวคราวเพื่อฟอกเลือดจะไม่สามารถ กลับมาใช้งานซ้าได้ ปัจจุบันผู้ป่วยใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือดบริเวณขาหนีบด้านซ้ายซึ่งเสี่ยง ต่อการติดเช้ือและการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดาสูง การดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคลเวลา ขับถ่ายจะช่วยลดความเส่ียงต่อการติดเชื้อ การปฏิบัติตัวท่ีถูกต้องหลังผ่าตัดจะช่วยลดความเส่ียงต่อ การเกิดภาวะหลอดเลือดดาอุดตันในช้ันลึก การสอนผู้ป่วยให้สังเกตอาการผิดปกติท่ีควรมาพบแพทย์ กอ่ นนดั เช่น สายสวนระยะยาวไมส่ ามารถใช้งานได้ตามปกติ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจทา ให้สูญเสียสายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลอื ดได้ การจดั สถานทสี่ ิ่งแวดล้อมบริเวณท่ีอยู่อาศัยให้ปลอดภัย ต่อผู้ป่วยจะช่วยป้องกันการพลัดตกหกล้ม ความเจ็บป่วยเร้ือรังมีผลต่อจิตใจของท้ังตัวผู้ป่วยและ ครอบครัว เกดิ ความเปลย่ี นแปลงบทบาทของผนู้ าครอบครวั กอ่ ให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐสถานะ ทาให้ ผู้ป่วยมีความรู้สึกท้อแท้ ในการรักษาพยาบาล และกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษาท่ีจะเกิดข้ึนใน อนาคต การประเมินเศรษฐสถานะ และใหก้ ารช่วยเหลือ ประสานงานในการส่งต่อผู้ป่วยตามสิทธิการ รักษา และวางแผนการช่วยเหลือดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลในอนาคต ร่วมกับการให้กาลังใจ ผู้ป่วยและครอบครัวในการปรับตัวกับการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึน จะช่วยลดความวิตกกังวลและลด อปุ สรรคในการดูแลภาวะสขุ ภาพของผู้ป่วยได้ดยี งิ่ ข้นึ คู่มอื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพอื่ ฟอกเลอื ด ในระยะเตรยี มก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตัด
บทท5่ี 90 ปญั หา อปุ สรรค และ แนวทางการแก้ไขปัญหา บทท่ี 5 ปญั หา อปุ สรรค และ แนวทางการแกไ้ ขปญั หา ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพ่ือฟอกเลือด ต้องเผชิญปัญหาการเปล่ียนแปลง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ กระบวนการการดูแลผู้ป่วยจึงควรเริ่มตั้งแต่การให้บริการตรวจรักษา ต้ังแต่คร้ังแรก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการบริการท่ีครอบคลุม ในหน่วยตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ และ ติดตามผลการรักษาให้การดูแลผู้ป่วยตั้งแต่การวางแผนผ่าตัดจนถึงการตรวจติดตามผลในระยะหลัง ผ่าตัด สามารถแบ่งการพยาบาลผู้ป่วยได้เป็น 2 ระยะคือ การพยาบาลในระยะเตรียมก่อนเข้ารับการ ผ่าตัดและการพยาบาลระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด พบปัญหาจากการประเมินผู้ป่วย และมี แนวทางในการปฏบิ ัติเพ่ือแกป้ ัญหาดังนี้ ระยะเตรียมก่อนเข้ารบั การผา่ ตดั ปัญหาและอปุ สรรค แนวทางการแก้ไขปญั หา 1. ผู้ป่วยมีความวติ กกังวลกบั ภาพลักษณ์ การเปิดโอกาสใหผ้ ู้ปว่ ยระบายความรู้สกึ และตอบข้อซักถาม ในสิ่งที่กังวล ให้ค้าแนะน้าประกอบรูปภาพ รวมถึง ท่ีเปลีย่ นแปลงภายหลงั ผา่ ตดั โดย ค้าแนะน้าในแต่งกายเพ่ือพรางสายสวนระยะยาวเพ่ือฟอก เฉพาะอย่างย่ิงในผู้ปว่ ยท่ีมารบั การ เลือด การใหข้ ้อมูลในการดูแลตนเอง และให้ก้าลังใจผู้ป่วย เตรยี มผ่าตัดเป็นครง้ั แรก รวมถงึ การใช้กลุม่ เพ่ือนชว่ ยเพอื่ น โดยเปดิ โอกาสให้ผู้ปว่ ยได้ รู้จัก กับผู้ป่วยในโรคเดียวกัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล และให้ค้าแนะน้า โดยมีพยาบาลเป็นผู้ให้ข้อมูลในกลุ่ม เพ่ิมเติมเมื่อเกิดข้อสงสัย จะช่วยเพ่ิมความม่ันใจ และคลาย ความวติ กกังวลได้ 2. ผู้ป่วยท่ีมารับการผ่าตัดแก้ไขซ้าๆ การให้ข้อมูลในการเข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกควรแจ้งให้ จะรู้สึกท้อแท้ หมดก้าลังใจไม่ให้ความ ผู้ป่วยรับทราบถึงโอกาสท่ีอาจเกิดการผ่าตัดซ้าเนื่องจาก ร่วมมือหรอื ปฏเิ สธการรกั ษา ผู้ป่วยแต่ละรายมีความแตกต่างกันด้านกายภาพ ภายหลัง ผ่าตัดจึงควรมาตรวจติดตามผลอย่างสม่้าเสมอ และปฏิบัติ ตนตามค้าแนะน้าในการดูแลตนเองอย่างเครง่ ครดั คู่มอื การพยาบาลผ้ปู ว่ ยโรคไตวายท่ีมารบั การผ่าตดั ใส่สายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลงั ผา่ ตดั
บทท่ี5 91 ปัญหา อปุ สรรค และ แนวทางการแกไ้ ขปัญหา ปญั หาและอุปสรรค แนวทางการแกไ้ ขปญั หา 2. ผู้ป่วยที่มาผ่าตัดแก้ไขซ้าๆ จะรู้สึก เพ่อื ลดภาวะแทรกซอ้ นซง่ึ อาจสง่ ผลให้เกิดการผา่ ตดั ซา้ ท้อแท้ หมดก้าลังใจไม่ให้ความร่วมมือ และในผู้ป่วยท่ีต้องมารับการผ่าตัดซ้าๆ ควรชี้แจงให้ทราบ หรอื ปฏิเสธการรกั ษา (ต่อ) ถึงวัตถุประสงค์ในแผนการรักษา เหตุผลในการผ่าตัดซ้า ข้อดีในการท้าผ่าตัด รวมถึงข้อเสียหรือผลกระทบที่ผู้ป่วย จะได้รับหากไม่ผ่าตัดตามแผนการรักษา ให้ก้าลังใจและให้ ความม่ันใจกับผู้ป่วย เน้นย้าถึงวิธีการปฏิบัติตัวท่ีถูกต้อง เพื่อป้องกันการกลับมาผ่าตัดแก้ไขซ้า นอกจากน้ีบุคลากร ในทีมสุขภาพ ควรให้ก้าลังใจและสนับสนุนญาติให้มีส่วน รว่ มในการดูแลผปู้ ่วยและรับทราบแผนการรักษาที่ผู้ป่วยจะ ได้รับ ส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่า และมีความเชื่อด้าน สุขภาพที่ดี จะท้าให้ผู้ป่วยยอมรับกับสภาวะของโรคและให้ ความร่วมมอื ในการรกั ษาและการดแู ลตนเองดีย่ิงขนึ้ ในการท้าผ่าตัดใส่สายสวนเพ่ือฟอกเลือดมักท้าในกรณี เร่งดว่ นเมื่อผปู้ ว่ ยมคี วามจ้าเป็นต้องฟอกเลือดฉุกเฉิน แต่ใน ระยะยาวผู้ปว่ ยกลุ่มน้ีส่วนใหญ่จะต้องมีการผ่าตัดซ้าเพ่ือท้า ช่องทางฟอกเลือดถาวร ในผู้ป่วยท่ีส่งปรึกษาเพ่ือวางแผน ผ่าตัดท้าช่องทางเพ่ือใช้ฟอกเลือดในอนาคต แพทย์จะ พิจารณาผ่าตัดช่องทางฟอกเลือดชนิดถาวรเป็นอันดับแรก ดังนั้นควรจัดช่องทาง fast tract ในการวางแผนการผ่าตัด โดยจัดลา้ ดบั ผู้ปว่ ยเป็นคิวรอผ่าตัดล้าดับต้นๆ เนื่องจากการ ท้าช่องทางฟอกเลือดถาวร จะใช้เวลา 2-4 เดือนเป็นอย่าง น้อยในการเตรยี มหลอดเลือดของผ้ปู ่วยให้พร้อมส้าหรับการ ใช้งาน การประสานงานแพทย์เจ้าของไข้ในการเตรียม ตรวจ และนัดผ่าตัดให้กับผู้ป่วยอย่างรวดเร็วสามารถลด จ้านวนครั้งของการท้าผ่าตัดในการใส่สายสวนส้าหรับฟอก เลือด เมื่อเกิดภาวะที่ต้องฟอกเลือดฉุกเฉิน ลดความเส่ียง จากการผ่าตัด และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และ คา่ สายสวนเพอื่ ฟอกเลอื ดซ่งึ มขี ้อจ้ากัดในการเบิกคา่ รกั ษา ค่มู ือการพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผ่าตดั ใสส่ ายสวนระยะยาวเพื่อฟอกเลือด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตัดและระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตดั
บทท่ี5 92 ปญั หา อปุ สรรค และ แนวทางการแก้ไขปญั หา ปัญหาและอปุ สรรค แนวทางการแก้ไขปัญหา 3. อาจเกิดอุบัติการณ์การงด-เลื่อนผ่าตัด การให้ค้าแนะน้าในการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ควรประเมิน จากการท่ผี ปู้ ่วยเตรยี มตวั ไมพ่ ร้อม จาก ความสามารถในการรับข้อมลู ของผปู้ ่วย อธิบายอย่างง่ายใน สาเหตุดังนี้ ส่ิงส้าคัญท่ีผู้ป่วยควรปฏิบัติ สนับสนุนให้ญาติมีส่วนร่วมใน การดูแลผู้ป่วย และประเมินการรับรู้ข้อมูลของผู้ป่วยก่อน จา้ หนา่ ย โดยใช้ค้าถามปลายเปิด ผู้ปว่ ยไมไ่ ด้งดยา antiplatelet ให้ข้อมูลการงดยา บอกถึงความจ้าเป็นและความส้าคัญของ และ anticoagulant ตามค้าสง่ั การงดยาเพ่ือป้องกันภาวะเลือดออกมากขณะผ่าตัด และ การรกั ษา หลังผ่าตดั รวมถึงผลเสยี คอื เกิดการงด เลื่อนผา่ ตดั เมอื่ ผปู้ ่วย ไม่ได้งดยาตามค้าส่ังการรักษา และเขียนวันที่ต้องงดยาลง บนหน้าซองยาเพื่อช่วยเตือนความจ้า กรณีไม่ได้น้ายามา ให้ผปู้ ่วยและญาตดิ ภู าพยาประกอบ ถ่ายรูปพร้อมมีเอกสาร ค้าแนะน้าเพื่อน้าไปเปรียบเทียบยาที่บ้าน และให้เบอร์ โทรศัพท์ติดต่อกลับกรณมี ขี อ้ สงสัย ผ้ปู ว่ ยไมไ่ ด้รับการฟอกเลือดกอ่ น แนะนา้ ผู้ปว่ ยวางแผนเพ่ือฟอกเลอื ดกอ่ นผา่ ตัด เพื่อลดความ ผา่ ตัด เส่ียงต่อการผ่าตัดจากความไม่สมดุลของกรด ด่าง น้า และ เกลือแร่ รวมท้ังวางแผนเพื่อฟอกเลือดหลังจ้าหน่ายจาก โรงพยาบาล โดยแนะน้าผู้ป่วยดังน้ี ควรฟอกเลือดก่อน ผา่ ตัด 1 วนั ถา้ วนั ฟอกเลอื ดตรงวันผ่าตัดต้องมีการวางแผน เพ่ือรกั ษาคิวฟอกเลือดก่อนผ่าตดั และหลงั จากจา้ หน่ายจาก โรงพยาบาล เช่นกรณีผู้ป่วย ฟอกเลือดทุกวันจันทร์และ พฤหสั บดี มีนดั ผา่ ตดั วนั จันทร์ ควรขยบั วนั ฟอกเลือดเป็นวัน อา ทิ ตย์ ช่ว งเช้า ก่อน เข้า น อนโ รงพ ย า บา ล และ เก็บคิ ว วั น พฤหสั บดีไวเ้ พื่อไปฟอกหลงั จ้าหนา่ ยออกจากโรงพยาบาล ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงจากการ แนะน้าให้ควบคุมความดันโลหิตโดยรับประทานยาให้ ลืมรับประทานยาลดความดัน สม้่าเสมอ ร่วมกับงดบริโภคอาหารที่มีรสเค็มและไขมันสูง โลหิตเช้าวันผ่าตัด ในผู้ป่วยที่นัด ในระหว่างรอก่อนถึงวันผ่าตัด และรับประทานยาลดความ ผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก โดยมีค้าส่ัง ดันโลหิตเช้าวันผ่าตัดร่วมกับน้าไม่เกิน 30 มล. ก่อนออก แพทย์ให้งดน้าและอาหารมาจาก จากบ้าน พรอ้ มบนั ทึกรายละเอียดการปฏบิ ตั ติ ัวลงในใบนัด บา้ น ผ้ปู ว่ ยเพอ่ื ชว่ ยเตือนความจ้า พร้อมทา้ เครื่องหมายเน้นย้าให้ เห็นชัดเจน กรณีผู้สูงอายุเน้นย้าให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมใน การดแู ลผู้ปว่ ย คมู่ อื การพยาบาลผปู้ ว่ ยโรคไตวายที่มารบั การผ่าตัดใส่สายสวนระยะยาวเพือ่ ฟอกเลือด ในระยะเตรยี มกอ่ นผา่ ตดั และระยะตรวจติดตามผลหลังผ่าตดั
บทท่ี5 93 ปญั หา อุปสรรค และ แนวทางการแก้ไขปัญหา ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางการแก้ไขปญั หา 4. ปัญหาเศรษฐสถานะของผู้ป่วย ในการ การฟอกเลอื ดแม้เป็นการรักษาทีน่ ยิ มมากท่ีสุดในกลุ่มผู้ป่วย ผ่าตัดและการดูแลตนเองระยะยาว ไตวาย แต่การเตรียมช่องทางส้าหรับฟอกเลือด อาจมีการ ภายหลงั การผ่าตัด วางแผนเพ่ือทา้ ผ่าตัดเปน็ ลา้ ดบั ขั้นตามความเหมาะสม และ ความเร่งดว่ นของผู้ปว่ ย นา้ มาซง่ึ การผา่ ตดั ซ้า และค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาล การให้ข้อมูลอัตราค่าใช้จ่ายในการ ผ่าตัดและการดูแลตนเองระยะยาวภายหลังการผ่าตัด เป็นสิ่งส้าคัญมาก เนื่องจากมีความแตกต่างกันในการ เบกิ จา่ ยของแตล่ ะสิทธิ ต้ังแตก่ ารทา้ ผ่าตัดจนถงึ คา่ บริการใน การดูแลรักษาสุขภาพในอนาคต เช่น ค่าใช้จ่ายในการรับ บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นต้น ควรแนะน้า ข้อมลู การเบกิ จ่ายตามสิทธิพื้นฐานของผูป้ ว่ ยรวมถึงราคาค่า ผ่าตัด และราคาอุปกรณ์ส่วนต่างที่ผู้ป่วยต้องช้าระเองตาม สิทธิ ดังนี้ สทิ ธขิ า้ ราชการ เบกิ ได้ตามขอ้ ก้าหนดของ กรมบัญชีกลาง สว่ นตา่ งชา้ ระเอง สิทธิประกันสังคม ผู้ป่วยต้องส้ารองจ่าย สามารถเบิก ส้านักงานประกันสังคมได้ตามข้อก้าหนด ภายหลัง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการ ฟอกเลอื ด สิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ ยังมีข้อจ้ากัดในการ รักษาโรคไต จะเบิกค่าใช้จ่ายได้บางส่วน ในกรณีที่ ผู้ ป่ ว ย เ ข้ า รั บ บ ริ ก า ร ใ น โ ร ง พ ย า บ า ล เ ค รื อ ข่ า ย ที่ สนับสนุนค่ารักษาพยาบาล โดยสามารถติดต่อ สอบถามผ่านสายด่วนส้านักงานหลักประกันสุขภาพ แหง่ ชาติ โทร 1330 การให้ข้อมูลในเร่ืองของการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตาม แผนการรักษา ท้ังในระยะส้ัน และระยะยาว จะช่วยให้ ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจ มีส่วนร่วมในการวางแผนการรักษา กบั ทีมสุขภาพ และเลือกวิธีการบ้าบัดทดแทนไตที่เหมาะสม กับตนเองในระยะยาว ค่มู ือการพยาบาลผู้ปว่ ยโรคไตวายทมี่ ารบั การผา่ ตัดใส่สายสวนระยะยาวเพอ่ื ฟอกเลือด ในระยะเตรียมก่อนผา่ ตดั และระยะตรวจตดิ ตามผลหลังผา่ ตัด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130